บล็อกรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือนพฤศจิกายน ขับมอเตอร์ไซต์เวียนวนขึ้นไปยลโฉมปางอุ๋งและบ้านรักไทย สตอเบอรี่อร่อยถูกใจเริ่ดเว่อร์ |
หลังจากตอนที่แล้ว ดิฉันได้แว๊นมอเตอร์ไซต์ แบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวชมทุ่งดอกบัวตอง และแวะนอนค้างในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนแล้วนะค่ะ วันนี้จะขอพาทุกท่านไปเยือนอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม สุดแสนจะป๊อปปูล่า ที่ใครมาเที่ยวแม่ฮ่องสอน ก็ต้องแวะมาเยือนนั้นก็คือ ปางอุ๋งและบ้านรักไทย...เป็นหนึ่งในทริปที่เดี๊ยนต้องแวะมาเยือนให้ได้สักครั้งค่ะ
สำหรับปางอุ๋งกับบ้านรักไทย เดี๊ยนเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามและภาพอันสวยหวานจากเว็ปท่องเที่ยวดังๆหลายครั้ง ก็เลยขอแบกเป้ใส่หลังเช่ามอเตอร์ไซต์ขับแว๊นจากเมืองแม่ฮ่องสอนมานอนค้างที่นี้สักคืนค่ะ ท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปรายและเส้นทางขึ้นเขาขึ้นดอยแสนจะลาดชัน แต่เดี๊ยนก็ไม่หวั่นนะค่ะ ขับมอเตอร์ไซต์ไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัยค่ะ
ต่อจากตอนที่แล้วค่ะ หลังจากได้ทานอาหารเที่ยงที่เมืองแม่ฮ่องสอนอิ่มแล้วนะค่ะ ดิฉันขอกลับไปเอากระเป๋าเป้ที่โรงแรม เพื่อเตรียมเดินทางไปยังจุดมุ่งหมายถัดไปของวันนี้คือ ปางอุ๋งและบ้านรักไทยค่ะ
แต่เส้นทางที่จะไปปางอุ๋งและบ้านรักไทยนั้น ผ่านสะพานซูตองเป้ด้วย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวถ่ายภาพสวยอีกแห่งที่ต้องไปเช็คอินน์ให้ได้ เดี๊ยนเลยจัดไปค่ะ
ระหว่างทางขับรถมาก็ต้องชะงัก เพราะทำงานอยู่แต่ในกรุงเทพไม่ค่อยพบเห็นหรือทัศนาจรมาก่อน
ไม่รู้ว่าเป็นดอกไม้หรือผลไม้กันแน่ เป็นผลสีแดงมีหนามเป็นขนๆ ดูสวยงาม ดูคล้ายๆผลไม้ของภาคอีสานเหมือนกับ หมากผีผ่วนอะไรประมาณนั้นะค่ะ มิทราบว่ามีพิษหรือโทษกันแน่ เดี๊ยนก็ไม่กล้าแตะต้องกลัวโดนพิษร้ายจะสลบอยู่กลางริมทางค่ะ เอาเป็นว่าสวยงาม สีแดงฤทธิ์ร้อนแรงน่าอัศจรรย์ใจเหลือเกิน
ดิฉันเปิด GPS ในมือถือเช็คระยะทางจากเมืองแม่ฮ่องสอน ขับรถมอเตอร์ไซต์มาตามเส้นทางเรื่อยๆก็ถึง บ้านกุงไม้สักค่ะ ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชุมชนชาวไทใหญ่ ที่มีสะพานซูตองเป้ ระหว่างขับรถมาในหมู่บ้านก็จะมีป้ายบอกทางไปสะพานซูตองเป้ค่ะ แต่ต้องสังเกตุป้ายหน่อย ขับเข้ามาในหมู่บ้านก็ถึงค่ะ
su tong pae bridge สะพานซูตองเป้ |
สะพานซูตองเป้ เป็นสะพานไม้ปูพื้นด้วยไม้ไผ่ความกว้างประมาณ 2 เมตร ความยาว 500 เมตร โดยประมาณ เชื่อมระหว่างสวนธรรมภูสมะ ข้ามแม่น้ำสะงาและข้ามทุ่งนาถึงหมู่บ้านถุงไม้สัก โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้พระภิกษุสามเณรเดินบิณฑบาตรและเพื่อให้ประชาชนที่มีพื้นที่การเกษตรริมฝั่งแม่น้ำสะงาได้สะดวกในการสัญจรไปมา
สะพานแห่งนี้สร้างโดยของพระปลัดจิตตพัฒน์ อัคคปัญโญ ประธานสงฆ์สวนธรมภูสมะ ซึ่งได้วางเสาเอในวันศุกร์ที่ 20 เมษายน 2554 โดยมีพระปลัดจิตตพัฒน์ นายประหยัด ธรรมยอดเยี่ยม พร้อมด้วยคณะศรัทธาสวนธรรมภูสมะและคณะศรัทธาของชาวบ้านกุงไม้สัก กับทั้งคณะครัทธาทั่วไปได้ร่วมเป็นเจ้าภาพเสาสะพานไม้ไผ่ และบริจาคปัจจัยในการก่อสร้าง และร่วมถวายหัววัดในการฉลองการก่อสร้างทั้งสิ้น รวมระยะเวลาในการก่อสร้าง 2 เดือน กับอีก 12 วัน สิ้นงบประมาณทั้งสิน 806,40 บาทเปิดใช้เป็นทางการเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2554
เดินบนสะพานไม้ไผ่ข้ามไปยังสวนธรรมภูสวะ ด้วยสภาพของสะพานที่ใช้งานมานานหลายปี บางครั้งตอนเดินก็รู้สึกเกร็งๆหน่อย เพราะกลัวจะทำสะพานนี้พังค่ะ
เดินผ่านข้ามสะพานแม่น้ำสงาค่ะ เพื่อไปยังสวนธรรมภูสวะ
มาถึงแล้วค่ะ ซูตองเป้ สะพานไม้ไผ่แสนวิไลและโรแมนติค ที่ใครๆก็ต้องมาชิคแอนด์ชิลถ่ายรูปวิวที่นี้สักครั้ง
ภายในสวนธรรมภูสวะแห่งนี้ก็มีการจัดแสดงบ้านไทใหญ่ และมีพระพุทธรูปหลวงพ่อซูตองเป้ ประดิษฐานอยู่บนเนินเขาค่ะ ต้องเดินขึ้นไปใช้กำลังขาหน่อยค่ะ ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนจัดจ้าน อากาศร้อนดีเหลือเกิน ใครอยากเที่ยวเพลินๆ ออกกำลังกายด้วย เชิญมาเที่ยวได้ค่ะ
เดินขึ้นมาถึงที่ประดิษฐานหลวงพ่อซูตองเป้ ก็จะเห็นวิวทุ่งนาและภูเขาเหลาดอย สวยงามอร่ามจับตาคณานับยิ่งนักค่ะ
ขึ้นมาทั้งทีก็มากราบหลวงพ่อซูตองเป้ เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเอง ขอให้เดินทางขับมอเตอร์ไซต์โดยรอดปลอดภัยนะเจ้าค่ะหลวงพ่อ
ใกล้ๆก็มีจุดนั่งพักเหนื่อย หรือนั่งชมวิว เดินชิลล์ ถ่ายรูปสวยๆหลายมุมค่ะ
เดี๊ยนเดินมานั่งบนนี้ได้ไม่นานนัก ก็ได้เวลาเดินลงเพื่อกลับไปยังฝั่งบ้านกุงไม้สักแล้วค่ะ เพราะเกรงถ้าอยู่ต่อ กลัวติดลมเย็นๆบนเนินดอยแห่งนี้ เดี่ยวจะขับมอเตอร์ไซต์ไปไม่ถึงที่หมายค่ะ
ระหว่างเดินกลับก็เห็นชาวบ้านในพื้นที่กำลังเก็บเกี่ยวข้าวที่สุกงอม
พร้อมจะนำไปเป็นสีเป็นข้าวเปลือกแล้วค่ะ ดูขมักขะเม้นกันยกใหญ่เชียวค่ะ
แต่เดี๊ยนเห็นแดดแรงๆแบบนี้ก็แล้วก็เพลียแทนชาวไร่ ชาวนา ที่หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน อดทนกันหลายเดือนๆกว่าจะได้ข้าวมากิน รู้ซึ้งถึงคุณค่าของข้าวกว่าจะได้มาแต่ละเม็ด มันช่างยากเย็นแสนเข็ญเสียจริงๆค่ะและหลังจากที่ได้ชมความงาม ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนเร้า แผดเผาผิวกายให้เป็นสีแทนที่สะพานซูตองเป้แล้วนะค่ะ ดิฉันก็สตาร์ทรถมอเตอร์ไซต์ แว๊นขับขึ้นดอยอันสูงชันเพื่อมุ่งหน้าไปที่บ้านรักไทยค่ะ ระหว่างทางก็แวะพัก เที่ยวชมน้ำตกผาเสื่อให้เป็นบุญตาสักหน่อยค่ะ
บรรยากาศและภูมิทัศน์โดยรอบของน้ำตกสวยงาม ชุ่มชื่นไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจีฉวีผ่อง อากาศเย็นสบายดีมากๆค่ะ
ข้อมูลน่ารู้เกียวกับน้ำตกผาเสื่อ มาอ่านให้เป็นความรู้กันสักหน่อยค่ะ???
น้ำตกผาเสื่อ เกิดจากลำห้วยแม่สะงาที่มีต้นกำเนิดในประเทศพม่า ไหลตกลงมาจากหน้าผาขนาดใหญ่ ในช่วงฤดูฝนปริมาณน้ำเยอะ กระแสน้ำจะไหลแผ่ลงมาจนเต็มหน้าผาหิน มองดูแล้วก็ฟินฟินๆ มีลักษณะคล้ายเสื่อจึงเรียกชื่อน้ำตกแห่งนี้ว่า น้ำตกผาเสื่อ บริเวณแอ่งน้ำด้านล่างของน้ำตก ยังเป็นที่อาศัยของปลาพลวงจำนวนมาก นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชมความสวยงามของน้ำตกแล้ว ยังได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมการให้อาหารปลาอีกด้วย น้ำตกอยู่ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพรอันแสนอุดมสมบูรณ์ บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่
ช่วงเวลาที่เหมาะสมของการเที่ยวน้ำตกผาเสื่อ คือ ประมาณเดือนมิถุนายน ถึง ประมาณกลางเดือนมกราคม หลังจากนั้นน้ำจะน้อยและไม่มีน้ำในช่วงหน้าแล้ว การเดินทางมายังน้ำตกแห่งนี้ ให้ใช้เส้นทางเดียวกันกับเส้นทางที่จะไปปางอุ๋งและบ้านรักไทย น้ำตกผาเสื่อจะอยู่ข้างทาง ก่อนถึงพระตำหนักปางตอง มีป้ายบอกชื่อชัดเจนตลอดเส้นทาง
และหลังจากที่ได้แวะชมน้ำตกผาเสื่อ น้ำตกริมทางชื่นใจจนหายเมื่อยแล้วนะค่ะ ดิฉันก็แว๊นๆขับรถมอเตอร์ไซต์มุ่งหน้าต่อไปยังหมู่บ้านรักไทย ระยะทางอีก 12 กิโลเมตรค่ะ ผ่านหน้าพระตำหนักปางตอง
ขับรถมอเตอร์ไซต์ไต่เขาขึ้นลงเนินดอยมาได้สักพักก็ถึงป้ายหน้าหมู่บ้านรักไทยแล้วค่ะ โอ้ยดีจังเลย
ข้อมูลน่ารู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับบ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน
หมู่บ้านรักไทย หมู่บ้านอยู่ใกล้ชายแดนไทยพม่า แต่เอกลักษณ์เด่นของหมู่บ้านนี้ก็ไม่ได้มีวัฒนธรรมพม่าเลยแม้แต่น้อยค่ะ แตกลับเป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยสีสันของวัฒนธรรมจีนยูนนาน โดยหมู่บ้านแห่งนี้อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,776 เมตร ทำให้ที่นี้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี และเป็นหมู่บ้านที่ปลูกชาชั้นรสชาติดี มีนักท่องเที่ยวมาเยือนตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาว จะมีนักท่องเที่ยวมากันเยอะเป็นพิเศษ เพื่อมาสัมผัสไอหมอกที่ลอยคละคลุ้งมาจากอ่างเก็บน้ำ งามสะพร่างดุจสายน้ำทิพย์
วันที่เดี๊ยนมาถึงที่นี้ก็ถึงช่วงเย็นแล้วค่ะ
อากาศก็ค่อนข้างจะครึมๆหน่อย เหมือนฝนฟ้าจะตกเลย
แต่อากาศที่นี้ก็เย็นสบายดีทีเดียว แม้ว่าเมฆกำลังก่อตัวมืดมาแล้วก็ตาม
เนื่องจากเป็นวันธรรมดา ที่หมู่บ้านแห่งนี้เลยค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะสำหรับพักผ่อนมากๆค่ะ เนื่องจากไม่มีรถราวิ่งให้วุ่นวายนัก
บ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน คลิ๊กดูรายชื่อที่พักในหมู่บ้านรักไทยได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/BA9KXQ |
สำหรับท่านใดที่ฤดูหนาวปลายปีนี้ วางแผนจะแวะมาเที่ยวบ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน และมองหาที่พักค้างอยู่ อยากได้ที่พักแบบบ้านพัก บังกะโลเป็นหลังๆ อยู่ริมอ่างเก็บน้ำ
ทางดิฉันขอแนะนำรายชื่อที่พักบ้านรักไทยให้ท่านได้นำไปเลือกพักดูค่ะ คลิ๊กดูรายชื่อที่พักได้ที่เว็ปไซต์: https://goo.gl/BA9KXQ
ดอกไม้ในบ้านรักไทย ส่งกลิ่มหอมหวน คลิ๊กดูรายชื่อที่พักในหมู่บ้านรักไทยได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/BA9KXQ |
คลิ๊กดูรายชื่อที่พักในหมู่บ้านรักไทยได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/BA9KXQ |
ตลอดสองข้างทางก็เป็นร้านอาหาร และร้านขายของฝาก ลักษณะอาคารบ้านเรือนก็เป็นศิลปะแบบจีน มาที่นี้เหมือนได้มาเยือนหมู่บ้านจีนเลยนะค่ะ
มีต้นชาสีเขียวๆให้ได้ชื่นชมกันอยู่หลายแห่งค่ะ
โรงแรมลีไวน์ บ้านรักไทย คลิ๊กดูรายชื่อที่พักในหมู่บ้านรักไทยได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/BA9KXQ |
บรรยากาศวิวทิวทัศน์ ยามเย็นในหมู่บ้านรักไทย อากาศเย็นสบายดีมากค่ะ คลิ๊กดูรายชื่อที่พักในหมู่บ้านรักไทยได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/BA9KXQ |
ชมวิวทิวทัศน์ยามเย็น คลิ๊กดูรายชื่อที่พักในหมู่บ้านรักไทยได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/BA9KXQ |
ไม่รู้ว่าเจ้าผึ้งตัวน้องดูดน้ำหวานเอาไปเก็บไว้ตรงใหน เพราะไม่ยอมบินจรลีออกจากแม่บุปผานี้เลยค่ะ
เจ้าผึ้งตัวเดิมมาเกาะอยู่ที่ยอดใบชา สงสัยจะเหนื่อยและเมื่อยล้าจากการหาน้ำหวานกระมังค่ะ เกาะยังกะหนอนชาเชียวเลยค่ะ
เจ้ามดตะนอยตัวน้อยๆ ก็เกาะอยู่ในเกสรดอกชา ไม่ยอมจรลีเดินหนีไปใหนเลยค่ะ เกาะกุ่มอยู่ในดงเกสรน่าจะได้น้ำหวาน รสออนซอนเยอะอยู่นะ
นั่งจิบชาร้อนๆ กับอากาศเย็นกำลังดี ริมหนองน้ำ ที่ร้าน Coffee Bandin |
นั่งชมวิวเงียบสงบ สยบความครืนเครง ที่ร้าน Coffee Ban Din |
ข้อดีของการมาเที่ยววันธรรมดาก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะ เงียบสงบ สยบความครืนเครงไม่มีอะไรมาบรรเลงให้กวนใจจริงๆ
นั่งดื่มช้า มองไปยังท้องฟ้าก็มืดครึม เหมือนฝนฟ้าจะตกลงมาสู่พื้นพสุธาค่ะ
นั่งดื่มชาร้อน ชมวิวสวยๆ ที่ร้าน Coffee Ban Din |
นั่งดื่มชาหอมกรุ่น กับอากาศเย็นสบายดีเหลือเกินค่ะ แต่ก็ไม่หนาวและไม่ร้อน อากาศกำลังดีค่ะ แต่วิวอาจจะไม่สวยหน่อยนะค่ะ เพราะตอนที่มาถึงก็ตกเย็นแล้วค่ะ
นั่งดื่มชาไปสักพักทางเจ้าของร้านก็นำชาผสมโสมมาให้ลองชิมดู รสชาติดีไม่ใช่น้อยค่ะ ก็เลยสอยมา 1 กล่อง เอาไปฝากให้ที่ทำงานได้ลองชิมกันดูด้วยค่ะ
ไม่นานนักฝนก็ตกโปรยปรายลงมาค่ะ ก็เลยต้องรีบไปหอบกระเป๋าเป้มาจากรถมอเตอร์ไซต์ เอามาไว้ในร้านขายน้ำชาค่ะ
และหลังจากที่ดิฉันได้นั่งดื่มชาและดูวิวในหมู่บ้านรักไทยจนเต็มอิ่มแล้วนะค่ะ ดูเวลาใกล้จะมืดค่ำแล้ว ก็เลยสตาร์ทรถมอเตอร์ไซต์ออกจากบ้านรักไทยมุ่งหน้าสู่ ปางอุ๋ง หนึ่งในสถานพักตากอากาศยอดนิยมในช่วงฤดูหนาวที่ต้องมาสกาวนอนกันสักครั้งค่ะ
ระหว่างทางขับรถขึ้นดอยมาใกล้จะถึงปางอุ๋ง ฝนตกหนักมากๆค่ะ ตอนกะว่าจะขับมอเตอร์ไซต์ในเขตอุทยาน เพื่อไปนอนเต็นที่นั้น แต่ว่าฝนตกหนัก เดี๊ยนเลยพักโฮมสเตย์ในหมู่บ้านรวมไทยดีกว่าค่ะ ซึ่งอยู่ใกล้ๆติดกับอ่างเก็บน้ำปางอุ๋งค่ะคืนนี้มานอนพักที่ สมศักดิ์โฮมสเตย์ อยู่ใกล้กับทางลงอ่างเก็บน้ำเลยค่ะ
โฮมสเตย์ ราคาถูก หลักร้อย คลิ๊กดูรายชื่อที่พักแต่ละแห่งได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/BA9KXQ |
เนื่องจากฝนตกลงมาอย่างหนักมา ทำให้ไฟฟ้าที่หมู่บ้านนี้ดับทั้งหมดค่ะ ก็เลยต้องจุดเทียนให้ความสว่างค่ะ
ฝนไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยค่ะ ออกไปหาอะไรทานใกล้ๆก็จะมีร้านอาหารในบ้านรวมไทยให้เลือกทาน มื้อเย็นนี้เลยจัดไป 2 อย่างค่ะ คือผัดไก่อุ๊บ กับผัดยอดถั่วลันเตาค่ะ
นั่งทานอาหารเกือบจะหมด ไฟฟ้าก็มาแล้วค่ะ
ทานอาหารอิ่มแล้ว ก็กลับไปนอนพักที่โฮมสเตย์ จบทริปไป 1 วันค่ะวันนี้
แวะไปไหว้พระที่พระธาตุดอยกองมู วัดจองคำ วัดจองกลาง วัดพระนอน
แวะไปเที่ยวชม สะพานซูตองเป้
แวะชมน้ำตกผาเสื่อ ระหว่างทาง
แวะไปชมหมู่บ้านรักไทย
-------------------------------------------------------------------------------
เช้าวันถัดมาของวันที่ 3 กับการเดินทางเที่ยวแม่ฮ่องสอน
อากาศตอนเช้าเย็นสบายมากๆค่ะ ไม่หนาวเลย
แต่ท้องฟ้าดูมืดครึ้มอยู่เลย ดูทรงๆแล้ว เหมือนฝนจะตกอีกล่ะ แย่..จังเลยค่ะ
ออกไปแวะเดินในหมู่บ้านรวมไทยกันค่ะ เป็นหมู่บ้านเล็กๆมุ้งมิ้งแทรกตัวอยู่ในป่าท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี
ในหมู่บ้านแห่งนี้ก็มีโฮมสเตย์ให้เลือกกันมากมายหลายแห่งเลยค่ะ
เดินตอนเช้าๆกับอากาศที่เย็นสบาย
โดยมื้อเช้านี้ แวะนั่งทานข้าวต้มร้านอาหารร้านเดิมค่ะ
ข้าวต้มเห็ดหอมราคาไม่แพง ชามละ 30 บาท
รสชาติอร่อยใช้ได้เลยค่ะ
แต่ในบ้านนี้ก็มีร้านอาหารให้เลือกทานหลายร้าน และมีหลายอย่างเลยนะค่ะ
นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึกให้เลือกซื้อกลับไปเป็นของฝากด้วยค่ะ
ยังไงแวะมาปางอุ๋งก็แวะอุดหนุนช่วยชาวบ้านในท้องถิ่นกันนะค่ะ
ชาวบ้านจะได้มีรายได้ค่ะ
กระเป๋าใบเล็กๆกิ๊บเก๋ๆ ก็น่าซื้อเอาไปใส่ของกระจุ๊กกระจิ๊ก
นอกจากนี้ยังมีของฝากและของที่ระลึกให้ได้ซื้อไว้ลุ้นกระทึกกันหลากหลายแบบค่ะ
แต่ละผลิตภัณฑ์ก็น่ารักมุ้งมิ้งเชียวค่ะ
ทานอาหารเช้าเสร็จแล้วก็มาเดินย่อยเข้าชมโครงการหลวงตามพระราชดำริ
เรามารู้จักประวัติความเป็นมาโครงการจัดหมู่บ้านรวมไทยตามพระราชดำริกันค่ะ???
โครงการจัดหมู่บ้านรวมไทย (ปางอุ๋ง) จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2527 ตั้งอยู่ตำบลหมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีพระราชดำริ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2523 เนื่องจากในสมัยนั้น พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่อันตราย อยู่ติดแนวชายแดน มีกองกำลังต่างๆ มีการขนส่ง ปลูกพืชเสพติดและบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงมีความห่วงใย จึงมีพระราชดำริ ให้รวบรวมราษฎรกลุ่มน้อยบริเวณนั้นและพัฒนาความเป็นอยู่ ส่งเสริมอาชีพปลูกป่า สร้างอ่างเก็บน้ำ โดยในการนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จฯ ด้วยพระองค์เอง จึงเกิดโครงการจัดหมู่บ้านรวมไทยขึ้นตั้งแต่นั้นมา
โดยมีพระราชประสงคื สร้างความมั่นคงตามแนวชายแดน
พัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎร ให้ดีขึ้น
และฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์อย่างยั่งยืนตลอดไป
จากวันนั้นถึงวันนี้เวลากว่า 20 ปี ทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็นในวันนี้
จึงเกิดขึ้นเห็นผลตามพระราชประสงค์ ของพระองค์ท่าน
ทุกอย่างที่นี้เน้นความเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิม ไม่มีไฟฟ้า
ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกและจะไม่พยายามเติมสิ่งที่แตกต่างเข้าไป
ขอความกรุณาทุกคนช่วยกันดูแลและรักษาสถานที่นี้เมื่อมีโอกาสแวะเยี่ยมชมหรือพักค้างแรมกัน
ถึงแล้วค่ะ อ่างเก็บน้ำปางตอง หรือปางอุ๋งในวันธรรมดา นักท่องเที่ยวไม่ค่อยจะหนาตาเท่าใดนักค่ะ
การนั่งเรือไม้ไผ่ชมบรรยากาศและทิวทัศน์โดยรอบในอ่างเก็บน้ำค่ะ
ค่านั่งเรือไม้ไผ่อยู่ที่ลำละ 150 บาท นั่งได้ 2-3 คนค่ะ ไม่เกินนี้
เป็นอีกหนึ่งการท่องเที่ยวที่ส่งเสริมให้ชาวบ้านในระแวกมีรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนค่ะ
จะเห็นได้ว่าถึงแม้จะเป็นวันธรรมดาก็มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการนั่งแพไม้ไผ่นี้ตลอดค่ะ
ส่วนตัวดิฉันขอเดินชมบรรยากาศโดยรอบแทนค่ะ
เดินไปสักพักฝนก็ตกปรอยๆลงมาอีกแล้วค่ะ
ดอกบัวตองก็ผลิบานรับอรุณวันใหม่
ปางอุ๋งเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนตากอากาศยอดนิยมสุดแสนโรแมนติกของใครหลายๆคนที่ต้องมาเยือนที่นี้กันสักครั้งหนึ่งในชีวิตค่ะ โดยเฉพาะถ้าให้ดีแนะนำมาช่วงฤดูหนาวแบบหนาวจัดๆ ถ้าใครชอบนะค่ะ เพราะที่นี้จะมีไอหมอกลอยจากผิวน้ำ เคยเห็นตามภาพในอินเตอร์เน็ต
แต่เดี๊ยนมาเที่ยววันนี้ ก็ผิดหวังกันไป เพราะฝนตก สภาพอากาศไม่ค่อยหนาวเย็นเท่าไหร่ค่ะ ต้องรออีกสักหลายอาทิตย์อยู่กระมังคงหนาวแน่ๆค่ะ
เดินมายังป้อมปากทางเข้าที่ทำการของอุทยานแห่งชาติค่ะ จะเป็นที่พักกางเต็นท์
เดินเข้ามาเสียธรรมเนียมค่าเข้า 20 บาทค่ะ
แต่ถ้าไปนอนพักค้างคืนก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มค่ะ
ระหว่างที่เดินเข้ามานะค่ะ ดิฉันก็ถ่ายรูปชมวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยเปือยตามความชิลค่ะเห็นตรงใหนที่คิดว่าสวยก็ถ่ายรูปไปค่ะ ถ่ายรูปเอียงอยู่แล้วก็ยิ่งเอียงไปใหญ่ค่ะ
มีพืชไม้หลากพันธ์ให้ได้เดินแวะชื่นชมกันอย่างเบิกบานใจค่ะ
ดูคลาสสิค เต็มไปด้วยต้นสนสูงใหญ่เรียงรายอยู่ริมอ่างเก็บน้ำ
บรรยากาศ เงียบสงบ สยบความครืนเครง ไม่มีอะไรมาบรรเลงให้กวนใจค่ะ
ข้อดีของการเที่ยววันธรรมดาค่ะ คือแบบเงียบดีเว่อร์ ใครชอบเที่ยวแบบนี้ ขอเชิญนะค่ะ ออกมาเที่ยวกันได้ค่ะ
เดินเข้ามาในเขตสวนปางอุ๋งค่ะ
ก็จะมีมุมถ่ายรง ถ่ายรูปดอกมง ดอกไม้ แต่ก็ไม่เยอะมากมาย สวนใหญ่เป็นไม้ประดับ
มารู้ที่มาของคำว่า ปางอุ๋งค่ะว่ามีที่มาจากใหนน๊า????
คำว่า "ปาง" คือที่พักของคนทำงานในป่า
คำว่า "อุ๋ง" เป็นภาษาเหนือ ที่ลุ่มต่ำคล้ายกระทะใบใหญ่มีน้ำขังเฉอะแฉะ
ดอกไม้ในสวนปางอุ๋งกำลังผลิดอกเบ่งบาน แต่ก็มีดอกไม้ไม่กี่ชนิดนะค่ะ ถ้ามีดอกไม้เมืองหนาวมาปลูกในสวนนี้หลายสายพันธ์ก็น่าจะสวยงาม ดึงดูดตาและตราตรึงใจผู้ที่มาเยือนได้เยอะทีเดียวค่ะ
ที่พักแรมในกางเต็นท์ในสวนสน ริมน้ำปางอุ๋ง มนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วสารทิศ ให้มาสิ่งสถิตย์นอนค้างอยู่ ณ ที่แห่งนี้สักคืน สองคืนค่ะ
ที่พักแรมในกางเต็นท์ในสวนสน ริมน้ำปางอุ๋ง
มนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วสารทิศ ให้มาสิ่งสถิตย์นอนค้างอยู่ ณ
ที่แห่งนี้สักคืน สองคืนค่ะถึงแม้ฝนจะตกโปรยปราย แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อนักเดินทาง ที่ดั้นด้นมาแสวงหาความสุข ณ ดินแดนแห่งนี้ค่ะ
เพราะบรรยากาศสวยงาม ชะอุ่มชุ่มชื่นเบิกบานไปด้วยไม้สนสูงใหญ่ เรียงใบสวยเก๋ เทห์ระเบิดระเบ้อเชียวคะ
และอีกหนึ่งกิมมิคไฮไลท์ที่ไฉไลอยู่คู่ปางอุ๋งแห่งนี้ เป็นดาราป๊อปปูล่าที่คนต้องแวะมาถ่ายภาพด้วย คงเป็นหงส์สีขาว นอกจากนี้ยังมีหงส์สีดำด้วยค่ะ
ดูหงส์ตัวนี้กำลังจะกระพรือปีกบินค่ะ แต่มันก็บินไม่ได้ค่ะ
โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงเสด็จมาปล่อยหงส์ไว้ที่นี้
จึงเป็นสัตว์มงคลที่อยู่คู่แห่งอ่างเก็บน้ำแห่งนี้มานานตราบจนถึงปัจจุบัน
และนอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังเป็นแหล่งเรียนรู้อีกด้วยค่ะ
มารู้จักประวัติศาลาประทับทรงงานกันค่ะ????
ศาลาประทับทรงงานหลังนี้ กรมป่าไม้ได้จัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2539 เพื่อใช้เป็นสถานที่ประทับทรงงานของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชนินีนาถ เป็นอาคารปูนผสมไม้ชั้นเดียว ประกอบด้วยห้องโถง ห้องทรงงาน และห้องสรง รูปทรงหลังคามุงด้วยกระเบื้อง เชิงชายประดับด้วยปานซอย ซึ่งถือเป็นจุดเด่นหรือเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมของชาวไทยใหญ่ ทำจากแผ่นโลหะหรือแผ่นสังกะสี ฉลุลวดลายต่างๆอย่างวิจิตรงดงาม
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมมราชินีนาถ ได้เสด็จประทับทรงงานด้านศิลปาชีพ ณ อาคารแห่งนี้ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2540 โดยทรงปลูกต้นนางพระยาเสือโคร่งไว้ด้านหลังอาคารแห่งนี้ และได้เสด็จประทับ ณ อาคารแห่งนี้อีกครั้งเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2545 ทรงปล่อยหงส์ดำจำนวน 2 คู่และ หงส์ขาวจำนวน 1 คู่ บริเวณอ่างเก็บน้ำปางตองแห่งนี้ด้วย
จากนั้นเดินชิลๆมาเดินออกกำลังกายที่ทางเดินริมอ่างเก็บน้ำซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายภาพยอดฮิต ที่คนชอบมากระโดดโลดเต้นให้ค้างคาอยู่ในภาพถ่าย คงสวยงามเก๋ไก๋บันทึกไว้ในไดอารี่ ว่าได้มาเดินฉิมพลี ณ ที่แห่งนี้แล้ว
มุมกว้างๆของป่าไม้ในอ่างเก็บน้ำปางอุ๋ง
ดูสดชื่นสวยงาม แต่ท้องฟ้าเปิดเป็นสีฟ้าครามก็คงจะดีงามไม่น้อยนะค่ะ
ดิฉันใช้เวลาเดินออกกำลังกายอยู่ในบริเวณปางอุ๋งนี้อยู่นาน แหงนมองเข็มนาฬิกาในข้อมือ คงได้เวลาต้องจรลีจากที่นี้แล้วค่ะ ถือว่าได้มาเยือนสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้แล้ว หลังจากที่เคยได้แต่เห็นในภาพ
หวังว่าโอกาสหน้าคงได้พบปะกันใหม่เน้อเจ้า หากชาติต้องการค่ะ
เดี๊ยนเลยไม่รีรอขอมาอุดหนุน มาเดินเก็บถ่ายรูปและลิ้มลองรสชาติสตอเบอรี่ที่นี้สักหน่อยค่ะ
อากาศบนดอยเย็นๆ สตอเบอรี่ริมทางแห่งนี้กำลังออกผลดกเชียวค่ะ
แต่ชาวสวนสตอเบอรี่ก็บ่นว่า ฝนตกหลายวัน ทำให้สตอเบอรี่เสียหายไม่น้อยค่ะ เนื่องจากมีจะมีรอยด่างขายไม่ได้ราคาค่ะ
ชาวสวนกำลังเก็บเร่งเก็บสตอเบอรี่ที่ผลใกล้จะสุกงอก
เพราะดูท่าฝนฟ้าน่าจะตกมาอีก ถ้าฝนลงเม็ดมาหนักอีก ผลสตอเบอรี่ก็จะเสียหายหนักกว่าเดิมค่ะ
สตอเบอรี่ลูกเล็กๆและดอกกำลังออกผล ดูน่ารักมุ้งมิ้ง น่าทานมากๆค่ะ
คุณที่ทำสวนนี้บอกว่า สามารถเด็ดมาชิมลิ้มลองดูได้
เดี๊ยนเลยไม่รีรอ ขอชิมสักลูกค่ะ
บอกลูกก็กำลังออกผลดกเต็มต้นเลยค่ะ
สีแดงแรงฤทธิ์ ถ้าแดงมากๆ ผลก็จะหวานฉ่ำค่ะ
แต่ถ้าไม่แดงก็จะเปรี้ยวหน่อย ผลที่เดี๊ยนทานคงไม่สุกมาก เปรี้ยวจี๊ดเชียว
แต่ผลสีแดงหวานกำลังดีค่ะ
นอกจากสตอเบอรี่แล้ว ในสวนริมทางแห่งนี้ยังมี ผักสลัดสดปลูกด้วยค่ะ
ดูต้นสดจริงๆ น่าทานมากๆค่ะ
พี่คนทำสวนบอกว่า ผักที่นี้ปลูกโดยธรรมชาติ เพราะอากาศเย็นตลอดทั้งปี
ผักที่นี้เลยอุดมสมบูรณ์ และอีกอย่างคนทำสวนก็พยายามดูแลอย่างดีด้วยนะค่ะ
ผักและสตอเบอรี่น่าทานมากๆค่ะ
บรรยากาศโดยรอบก็ห้อมล้อมไปด้วยป่าเขาเขียวขจีค่ะ
จัดไปค่ะ ช่วยอุดหนุนชาวสวนสตอเบอรี่ที่นี้ไป 1 ถุง ราคาก็สูงพอสมควร แต่ก็่ช่วยกันค่ะ คงไม่ได้ซื้อกลับบ้านค่ะ เดี๊ยนกะซื้อไปทานระหว่างนั่งรถตู้ไปปายค่ะ
ราคาถุงละ 180 บาท
โดยทางพี่คนขายบอกว่า ห้ามเอาสตอเบอรี่วางไว้ในตะกร้ารถค่ะ เพราะมันจะช้ำและเสียดาย
ถือเป็นผลไม้ที่ต้องถนุถนอมมากๆค่ะ นอกจากจะน่ารักแล้วยังเป็นผลไม้ที่ต้องประคบประหงมให้ดีด้วยค่ะ
หลังจากได้แวะซื้อสตอเบอรี่สดๆบนดอยที่ปางอุ๋งแล้วนะค่ะ ดิฉันก็ขับมอเตอร์ไซต์แว๊นลงจากดอยมาที่เมืองแม่ฮ่องสอนค่ะ ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงเลยค่ะ เพราะมัวแต่แวะโน้นแวะนี้ ก็เลยเสียเวลาหน่อยค่ะพอมาถึงนี้ก็หาอะไรทานก่อนเลยค่ะ เพราะท้องร้องหาอาหารมากๆ เลยจัดไปอาหารตามสั่งง่ายๆ ไม่ต้องอะไรมากมาย ข้าวผัดปลากะป๋อง
เต็มคาร์โบไฮเดรตไปแล้ว ก็มาเติมคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลเพิ่มอีกค่ะ กับขนมไทยใหญ่ของป้ามณี ซึ่งอยู่ใกล้ๆร้านอาหารตามสั่งๆ เดี๊ยนเลยเดินไปซื้อมาทานชิ้นนึง เป็นขนมอาละหว่า ก็คือขนมกวนดีๆนี้เอง แต่กลิ่นหอมมะพร้าวค่ะ
และเมื่อทานอาหารเที่ยงอิ่มแล้วนะค่ะ ดิฉันก็นำรถมอเตอร์ไซต์ไปคืนที่ร้านเช่า
จากนั้นก็โทรเรียกวินมอเตอร์ไซต์ให้มารับค่ะเพื่อไปส่งที่สถานีขนส่ง
โดยที่ร้านเช่ามอเตอร์ไซต์มีเบอร์โทรศัพท์คนขับวินให้ด้วยค่ะ
และสถานที่ท่องเที่ยวหรือจุดมุ่งหมายถัดไปของดิฉันก็คือ เมืองปายค่ะ เป็นที่เที่ยวสุดท้ายของทริปนี้แล้วค่ะ
การเดินทางไปเมืองปาย ดิฉันเลือกนั่งรถตู้โดยสารไปค่ะ ของเปรมประชาขนส่งค่ะ
โดยรถตู้จะมีรถเที่ยวออกทุกๆชั่วโมงค่ะ
แนะนำหากใครมาเที่ยวในช่วงเทศกาลหากจะเดินทางด้วยรถตู้ไปยังเมืองปาย เชียงใหม่ แม่เสรียง ยังไงจองตั๋วไว้เนิ่นๆนะค่ะ เพราะมีคนเดินทางตลอดค่ะ
ค่าโดยสารรถตู้นั่งจากแม่ฮ่องสอนไปอำเภอปาย ราคา 150 บาท
ระยะทาง 100 กว่ากิโล แต่ใช้เวลาเดินประมาณ 3 ชั่วโมงเลยนะค่ะ...โอ้มายกอด มีอ้วกแน่ๆค่ะ
เพราะเส้นทางไปปายทางค่อนข้างชัน และโค้งเยอะมากๆ หากใครที่มีอาการเมารถ เดี๊ยนแนะนำพกยาแก้เมารถมาด้วยนะค่ะ
ไม่นานนักเวลา 14.00 น. รถตู้โดยสารก็สตารท์รถออกจากเมืองแม่ฮ่องสอน มุ่งสู่อำเภอปายค่ะ
จบทริปเที่ยวปางอุ๋ง บ้านรักไทยแล้วค่ะ
และรีวิวในบล็อกถัดไป จะเป็นรีวิวเที่ยวปาย เป็นตอนที่ 3 ตอนสุดท้ายแล้วค่ะ ยังไงคลิ๊กเข้ามาอ่านหรือสไลด์ดูภาพกันได้นะค่ะ สำหรับรีวิวบทความท่องเที่ยวในเว็ปบล็อกนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันเองต้องขออภัยคุณผู้อ่านทุกๆท่านมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
------------------------------------------------------------------
รวมบทความบล๊อกเที่ยวเดือนละ
1 ครั้ง มีดังนี้ค่ะ(จะทยอยอัพเดทเรื่อยๆ เว็ปบล็อกจะได้ไม่ร้างไปค่ะ)รวมที่พักบ้านรักไทย ติดริมน้ำ คลิ๊กดูรายะเอียดที่พักค่ะ>> |
ดูรายละเอียดรายชื่อที่พักบ้านรักไทย+เบอร์โทรติดต่อ+เฟสบุ๊คได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/6apDWb
บล็อกรีวิวเที่ยวประจำเดือนธันวาคม 2017 เยือนตราด-เกาะกูด ตอนที่ 1 คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวประจำเดือนพฤศจิกายน แบกเป้ไปล่องท่องเมืองปาย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
บล็อกรีวิวเที่ยวประจำเดือนพฤศจิกายน แบกเป้ไปแม่ฮ่องสอน คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
แนะนำที่เที่ยวชมทุ่งดอกไม้เมืองหนาว ต้องไปกันให้ได้สักครั้ง คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
9 ข้อกับการเตรียมเที่ยวหน้าหนาว ต้องเตรียมอะไรไปบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
บล็อกรีวิวเที่ยวแม่กำปอง ต้องลองมาสักครั้ง อากาศดีปังเว่อร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
บล็อกรีวิวเที่ยวเดือนตุลาคม นอนที่บ้านป่าปงเปียง กินโอเลี้ยงอร่อยเว่อร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
บล็อกรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือนตุลาคม ไปตามรอยโครงการหลวง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
แนะนำโรงแรมในซัปโปโร ห้องนอนคู่ดูโอ้ ใกล้สถานีรถไฟ คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
จัดมา 9 เพลงเทิดพระเกียรติ ฟังทีไร ก็นึกถึงในหลวง คลิ๊กดูบทความค่ะ>> |
มาร่วมตามรอย ธรรมราชาในดินแดนภาคอีสาน คลิ๊กดูบทความค่ะ>> |
10 ข้อแนะนำไปพิชิตภูกระดึง ต้องเตรียมตัวอะไรไปบ้าง คลิ๊กดูบทความค่ะ>> |
รีวิวท่องเที่ยวเดือนกันยายน ลุยเดี่ยวเช่ามอเตอร์ไซต์ขับไปเขาใหญ่ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
วางแผนแบกเป้ไปเที่ยวต่างประเทศ ต้องคำนึงถึงอะไรบ้างนะ คลิ๊กดูบทความค่ะ>> |
รีวิวท่องเที่ยวเดือน สิงหาคม 2560 รีวิวเที่ยวเมืองเก่าอยุธยา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ที่พักเมืองโตเกียว เอาใจขาเที่ยวงบน้อยๆ ห้องพักหลักร้อย คลิ๊กดูที่พักค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวประจำเดือน ก.ค.2560 เที่ยวญี่ปุ่นตอนจบ สรุปค่าใช้จ่าย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 14 ไปชมภูเขาไฟฟูจิซัง นั่งดูวิวทะเลสาบคาวากูชิโก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 13 นอนค้างโตเกียว นั่งรถไฟไปเที่ยวคามากุระ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 12 เดินชิลเมืองท่าเรือสุดแสนโรแมนติก ริมทะเล คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
แนะนำจ้า ที่พักเกียวโต ใกล้สถานีรถไฟ คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 11 ขี่จักรยานชมไร่นาเมืองบิเอะ สวยเป๊ะเว่อร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 10 ปั่นจักยานไปชมดอกลาเวนเดอร์บานๆ อลังการเว่อร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
แบกเป้เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 9 เดินชิลชมเมืองซับโปโรครึ่งวัน คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
รีวิวแบกเป้เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 8 ชมศิลปะทุ่งนาข้าวผลิหลากสีสวยงาม คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 7 รีวิวการเดินทางไปหลังคาญี่ปุ่นด้วยตัวเองมาฝาก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>> |
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 6 เดินตลาดเช้าทาคายาม่า แวะดูทุ่งนาชิราคาวาโก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 5 เดินดูเมืองเก่าคุราชิกิ ชมใบไม้ผลิสวยเริ่ด คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 4 ตามรอยระเบิดเมืองฮิโรชิม่า ไปลั๊นลาเกาะมิยาจิมะ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 3 ท่องเมืองฟูกุโอกะ ชมเทศกาลยามากาสะ งามเริ่ด คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ตอนที่ 2 นั่งไฟออนซอนไปอบทรายร้อนที่อิบูชูกิ คลิ๊กดูค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ตอนที่ 1 นั่งรถไฟแมวทามะ แวะพักชมปราสาทสวย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
10 ที่พักโอซาก้า ราคาถูกสุดๆ ใกล้สถานีรถไฟ JR คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
วิธีการวางแผนเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตนเองมาฝาก คลิ๊กดูค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวนครพนม เม.ย.60 ขับมอเตอร์ไซต์ไปมูลนิธิคนชราที่ท่าอุเทน คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
บล็อกสุขสันต์วันสงกรานต์ประจำปี 2560 มาให้ทุกท่านได้อ่านกันค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวระยอง มี.ค. 60 ท่องเกาะเสม็ด นั่งกินเห็ดอร่อยเริ่ดเว่อร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวเพชรบุรี ก.พ.60 ไปฉิมพลีที่เขาวัง รำลึกความหลังหาดเจ้าสำราญ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวแอบเที่ยวเมืองโฮจิมินห์ครึ่งวัน นั่งสุขสันต์ริมแม่น้ำไซ่ง่อน คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
รวมภาพงานเที่ยวเมืองไทยปี 2560 ณ สวนลุมพีนี เริ่ดสะแมนแตนอีหลีเด้อจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวสุพรรณบุรี ปั่นจักรยานแสนสุขขีไปบึงฉวาก คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวสงขลา-หาดใหญ่ ขับสองล้อท่องไป ไฉไลเริ่ดเว่อร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวสงขลา หาดใหญ่ เดือน พ.ย.2559 ขับมอเตอร์ไซต์ไปทำทานที่มูลนิธิคนชรา แวะไปลั๊นลาไหว้พระที่เขาคอหงส์ ชมอาทิตย์อัสดงลงงามชนะเลิศ คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวเมืองเลย แวะไปเดินชมเชยที่เชียงคาน ยลตระการยอดภูกระดึง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวภูกระดึง 4-6
ต.ค.2559 รำลึกความหลังครั้งวันวาน
แวะผ่านไปค้างที่เมืองเลย ก่อนไปนั่งรำเพยที่เชียงคาน คลิ๊กดูภาพรีวิวเดินทางค่ะ>>
รีวิวเที่ยวปัว-น่าน ขับมอเตอร์ไซต์แว๊นไปดอยภูคา คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวปัว-น่าน วันที่ 21-23 ก.ย.59 นอนพักชมทุ่งนาเขียวสดสีงามวิไล ขับมอเตอร์ไซต์แว๊นไปที่ดอยภูคา จิบน้ำชาชมวิวเบิกฟ้า สวยเลอค่ายิ่งนักเอย คลิ๊กดูรีวิวการเดินทางค่ะ>>
รีวิวเที่ยวอุทัยธานี เลาะริมน้ำสะแกกรัง นั่งดูวิถีชีวิตสุดชิวเว่อร์ คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
รีวิวทริปเที่ยวอุบล ยลตระการงานแห่เทียนพรรษา ไปลั๊นลาที่ผาแต้ม คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
รีวิวทริปเที่ยวตรัง 3 วัน 2 คืน ขับมอเตอร์ไซต์ตะล่อนทัวร์ คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวจันทบุรี 2 วัน 1 คืน เดินลัดเลาะชุมชนเก่าริมฝั่งน้ำ คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวอัมพวา เดินย้ำตลาดน้ำ ชมตลาดร่มหุบแม่คลอง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวเกาะเกร็ดครึ่งวัน เพราะเดี๊ยนนั้นอยากกินข้าวแช่ คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
บล๊อกสุขสันต์วันสงกรานต์ประจำปี 2559 มาให้ทุกท่านได้อ่านกันค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวหัวหิน วันที่ 19-20 มี.ค.2559 คลิ๊กดูรีวิวตามภาพเดินทางค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวเกาะสีชัง แวะรำลึกความหลังหาดบางแสน เดือน ก.พ.59 คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ |
รีวิวเที่ยวเกาะสีชัง
เดือน ก.พ.59 แวะรำลึกความหลังที่หาดบางแสน
ทำบุญไหว้พระแสนอิ่มอุรา คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวเชียงใหม่ ม.ค.59 ไหว้พระ 9 วัด คลิ๊กดูภาพรีวิวการเดินทางค่ะ>> |
ประมวลภาพงานเที่ยวเมืองไทยปี 2559 คลิ๊กดูภาพค่ะ >> |
รีวิวเที่ยวเชียงราย ธ.ค.2558 ขับมอเตอร์ไซต์ไปดอยตุงคลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวลุยเดี่ยวเที่ยวสุโขทัย ตอนที่ 2 (ตอนจบ) ปั่นจักรยานเที่ยวรอบอุทยานเมืองเก่า ได้ความรู้ดีเว่อร์ เหมือนย้อนวัยมาเรียนสังคมศึกษาอีกครั้ง คลิ๊กอ่านรีวิวค่ะ>>
เดินลัดเลาะเที่ยวสุโขทัย ตอนที่ 1 งานลอยกระทงในคืนเดือนเพ็ญ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวหัวหิน เดือน พ.ย. 58 เยือนอุทยานราภักดิ์ คลิ๊กดูรีวิวตามภาพเดินทาง>> |
รีวิวเที่ยวศรีสะเกษ ไปงานแห่ต้นดอกไม้ของเผ่าสวย คลิ๊กดูประเพณี>> |
รีวิวเที่ยวแบกเป้ ปีกเขาช้างเผือกด้วยตัวเอง ที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ คลิ๊กอ่านรีวิวค่ะ>
เที่ยวเวียงจันทร์ แวะนอนพักสุขสันต์ริมแม่น้ำโขง คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
พักที่หลวงพระบาง สไตล์บูติคแสนเรียบง่าย คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
เที่ยววังเวียง มานอนริมระเบียงติดแม่น้ำซองกันค่ะ คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
0 ความคิดเห็น