Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

ร่วมตามรอยธรรมราชาในภาคอีสาน น้อมนมัสการวัดวาอาราม สานต่อพระพุทธศาสนา ให้อยู่ยงล้ำค่า คู่ฟ้าแผ่นดินไทย

มาร่วมตามรอย ธรรมราชา ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อสืบสานพระพุทธศาสนา และรณรงค์กันออกมาเที่ยวภาคอีสานกันค่ะ
ขอสวัสดีเพื่อนพี่ๆน้องๆผองชาวไทยและคุณผู้อ่านทางโลกออนไลน์ที่น่ารักทุกๆคนนะค่ะ ดิฉันคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน ในนามบล็อกเกอร์มือสมัครเล่นขอมาทักทายคุณผู้อ่านทุกเข้าสู่เว็ปบล็อกท่องเที่ยวนี้อีกครั้งนะค่ะ..สำหรับเนื้อหาบล็อกในวันนี้ ดิฉันขอมาเขียนสาระดีๆให้ทุกๆท่านอ่านกันค่ะ พอดีว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ดิฉันได้มีโอกาสแวะไปเดินงานเที่ยวเมืองไทย และได้ไปหยิบโบว์ชัวร์อยู่เล่มนึงมาค่ะ โดยได้เขียนถึงเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับในหลวงรัชกาล 9 ซึ่งพระองค์ทรงเสด็จดำเนินไปเยือนภาคอีสาน และได้แวะไปนมัสการตามวัดวาอารามต่างๆในภาคอีสานอยู่เกือบทุกจังหวัดเลยค่ะ....วันนี้ดิฉันเลยขอนำเนื้อหาสาระจากโบชัวร์ดังกล่าวมาเผยแพร่ให้ทุกๆท่านได้อ่านกันค่ะ เผื่อใครยังไม่ได้อ่านน่าจะมีประโยชน์ไม่น้อย และอีกนัยหนึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อเชิงการท่องเที่ยวให้ท่านได้ออกไปท่องเที่ยวยังภาคอีสาน เพื่อตามรอยวัดที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยเสด็จมาด้วย จะได้กระตุ้นการการท่องเที่ยวให้ท่านได้ออกเดินทางไปภาคอีสานกันด้วยค่ะ

"ธรรมราชาในแผ่นดินไทย"
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่แสดงว่าผุ้คนบนผืนแผ่นดินไทยนี้ได้เริ่มรับพระพุทธศาสนาตามลำดับมานานนับพันปี จนยึดถือเป็นหลักคิดสำคัญของถิ่น กระทั่งพัฒนายกระดับเป็นนครและรัฐที่มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาหลักอย่างชัดเจนมาครั้งแรกเริ่มประวัติศาสตร์ในสมัยทวารวดีและศรีวิชัย จนกระทั่งเข้าสู่ประวัติศาสตร์สุโขทัยและพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งล้านนาและศรีโคตรบูรณ์ โดยมีการน้อมนำหลักธรรมต่างๆ มาปรับประยุกต์ใช้มิติและระดับต่างๆ รวมถึงหลักในการปกครองที่นิยมยกย่องว่า "ธรรมราชา" หรือ "ธรรมิกราช" ผู้ทรงไว้ซึ่งทศพิธราชธรรม รวมทั้งจักรวรรดิวัตร 12 ราชสังคหวัตถุ 4 ถึงแม้จะได้รับอิทธิพลความเชื่อที่ว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นสมมติเทพ เป็นเทวราชา อันเป็นสมมติในคติของพราหมณ์ก็ตาม และพระมหากษัตริย์ทั้งหลายต่างได้ทรงรับพระราชภาระในการอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนาเป็นหนึ่งในพระราชภาระสำคัญมาไม่ขาดสาย ทรงเป็นแบบอย่างของพุทธศาสนิกชนที่ดีแก่พสกนิกรชาวไทยตลอดมา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพุทธศาสนกิจตามโบราณราชประเพณี โดยเสด็จออกผนวช เมื่อพุทธศักราช 2499
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพุทธศาสนกิจตามโบราณราชประเพณี โดยเสด็จออกผนวช เมื่อพุทธศักราช 2499 ก่อนนั้นพระองค์ทรงมีกระแสพระราชดำรัสแก่ประชาชนความตอนหนึ่งว่า
"อันพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติของเรา ตามความอบรมที่ได้รับมาก็ดี ข้าพเจ้าเคยคิดอยู่ว่า ถ้ามีโอกาสอำนวยก็น่าจะได้อุปสมบทในพระพุทธศาสนา ตามประเพณีสักเวลาหนึ่ง ซึ่งจักเป็นทางสนองพระเดชพระคุณราชบุพการี ตามคตินิยมอีกโสดหนึ่งด้วย"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ยังได้ทรงกล่าวถึงพระจริยวัตรของพระเจ้าอยู่หัวฯอีกว่า

"ในด้านหน้าที่ราชการนั้น ก็ทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจทางพระพุทธศาสนา ตามราชประเพณีโดยมิได้ขาดตกบกพร่อง เช่น พระราชกรณียกิจเนื่องในเทศกาลสำคัญทางพระพุทธศาสนา พระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ในการบูรณปฎิสังขรณ์พระอารามต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและในหัวเมืองต่าง พระราชทานแต่งตั้งสมศักดิ์แด่พระสงฆ์ในการเอื้ออำนวยแก่การปกครอง คณะสงฆ์ และเชิดชูผู้ทรงศีลธรรมให้เป็นที่ปรากฎตลอดถึงพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ การสั่งสอน และการเผยแผ่พระพุทธศาสนาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในด้านที่เป็นการส่วนพระองค์นั้นก็ทรงปฎิบัติพระองค์ยึดมั่นอยู่ในคุณธรรมของพระพุทธศาสนา มีราชธรรม เป็นต้น ทั้งทรงศึกษาพระพุทธศาสนาและทรงนำไปปฎิบัติอย่างจริงจัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นการส่วนพระองค์ในโอกาสต่างๆและบำรุงพระสงฆ์ผู้ปฎิบัติปฎิบัติชอบเป็นจำนวนมากมิได้ขาด"

โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าทรงมีพระราชภารกิจมากมาย แต่ในหลวงท่านก็ยังทรงสละเวลาพักผ่อนส่วนพระองค์ที่มีอยู่น้อยนิดนั้น มาศึกษาและปฎิบัติธรรม อีกประการหนึ่งที่แสดงถึงความเป็น "ธรรมราชา" ของท่านได้ดีก็คือ พระบรมราโชวามที่พระราชทานให้แก่คณะบุคคลในโอกาสต่างๆกับ เนื้อหาในพระบรมราโชวาทที่พระราชทานนั้นบ่งบอกได้ว่า พระองค์ทรงมีความเข้าใจในธรรมอย่างลึกซึ้งเพียงใด พระองค์ท่านไม่เพียงแต่ทรงศึกษาธรรมเท่านั้น แต่ยังทรงปฎิบัติธรรมอย่างแท้จริงจังด้วย

และเช่นเดียวกับในภมูิภาคอื่นๆ นานาสถูปเจดีย์และมหาอารามในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวนไม่น้อย ล้วนได้รับการสถาปนาหรือบำรุงรักษาโดย "ธรรมราชา" ณ ขณะนั้นดังเช่นองค์พระธาตุพนมที่ถือเป็นจอมเจดีย์แห่งภาคอีสาน ปรากฎในตำนานอุรังคนิทานว่า สถาปนาตั้งแต่พุทธศักราชที่ 8 โดย 5 ท้าวพญาที่อยู่แวดล้อมดินแดนสองฝั่งโขงในขณะนั้น กล่าวคือ พญาสุวรรณภิงคารแห้งแคว้นหนองหานหลวง พญาคำแดงแห้งแคว้นหนองหานกุมภวาปี พญานันทเสนแห้งแคว้นศรีโคตรบูรณ์ ท้าวพรหมทัตแห่งแคว้นจุฬณี และพญาอินปัตถ์จากเมืองอินทปัตถนคร  โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้รับการบำรุงรักษาปฎิสังขรณ์จากประชาชนและผู้ปกครองของทุกนครและรัฐทั้งสองฝั่งโขง รวมทั้งเจ้าอนุวงศ์แห่งนครเวียงจันทร์ ตลอดจนพระมหากษัตริย์ในบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ กระทั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่เสด็จพระราชดำเนินเนืองๆ โดยเฉพาะการเสด็จพระราชดำเนินในการบูรณะปฎิสังขรณ์ครั้งสำคัญเมื่อพุทธศักราช 2519

และในถิ่นอีสานนั้น ถึงแม้จะเป็นสถานที่เคยแห้งแล้งอดอยากและกันดารมาก่อน นั้นจึงทำให้คนอีสานต้องดิ้นรนต่อสู้และอดทนกันมากๆ แต่ด้วยการอาศัยพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า พระอริยสงฆ์ธุดงค์ธรรมยาตราโปรดเทศนาสั่งสอน รวมทั้งพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในภาคอีสานอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้แผ่นดินอีสานที่เคยแห้งแล้งกลับมาชุ่มเย็นขึ้น และน่าอยู่อาศัยมากขึ้น ซึ่งมีคำกว่าวว่า "แม้อีสานจะแห้งแล้ง แต่คนอีสานไม่เคยแล้งน้ำใจ"

จะเห็นได้ว่า ความว่า ความสนพระราชหฤทัยในพระพุทธศาสนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีมานานแล้ว และไม่เคยจางหายไปจากพระราชหฤทัยของพระองค์ ความศรัทธาที่แน่วแน่ในพระพระพุทธศาสนานี้เอง ที่ทำให้พระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการครูบาอาจารย์ต่างๆ แม้ท่านเหล่านั้นจะอยู่ห่างไกลในถิ่นทุรกันดาลแล้ว พระองค์ยังทรงมีพระราชปฎิสันถาวรในการสนทนาธรรมกับท่านเหล่านั้นอยู่เสมอ ซึ่งเนื้อในการสนทนาธรรมเป็นธรรมะที่ลึกซึ้ง แสดงให้เห็นว่าพระองค์ท่านทรงเป็น "พระธรรมราชา" อย่างแท้จริง"
แผนที่แสดงวัดและสถานที่ในหลวงเสด็จมายังภาคอีสาน
ครั้งเมื่อในหลวงยังทรงพระชมชีพ พระองค์ได้เสด็จดำเนินไปนมัสการครูบาอาจารย์ ตามวัดวาอารามต่างในภาคอีสานอยู่หลายแห่งค่ะ วันนี้ดิฉันเลยขอมำนำเสนอวัดที่ในหลวงเคยเสด็จไปนมัสการ มาให้ทุกไท่านได้ตามรอยกันค่ะว่ามีที่ใดบ้าง  (รายชื่อผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยค่ะ)

รายชื่อวัดและสถานที่ในหลวงเสด็จในภาคอีสาน

1.วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
2.วัดป่าสาละวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา
3.วัดสุทธิจินดาวรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา
4.วัดอินทรบูพา อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์
5.วัดพนมศิลาราม อําเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์
6.วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์
7.วัดโพธิ์ศรีธาตุ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์
8.วัดปราสาทเยอเหนือ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ
9.วัดหนองป่าพง อ.วารินชําราบ จ.อุบลราชธานี
10.วัดสุปัฏนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
11.วัดศรีอุบลรัตนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
12.วัดศรีวีรวงศาราม อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร
13.วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
14.วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
15.วัดพระธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม
16.วัดดอยธรรมเจดีย์ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร
17.วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร อ.เมือง จ.สกลนคร
18.วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม (วัดถ้ำพวง) อ.ส่องดาว จ.สกลนคร
19.วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
20.วัดอิสาน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
21.วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
22.วัดป่าบ้านตาด อำเภอเมือง จ.อุดรธานี
23.วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี
24.วัดมัชฌิมาวาส อ.เมือง จ.อุดรธานี
25.วัดถ้ำผาบิ้ง อ.วังสะพุง จ.เลย
26.วัดป่าสัมมานุสรณ์ อ.วังสะพุง จ.เลย
27.วัดหินหมากเป้ง อําเภอศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
28.วัดเทพสิงหาร อ.นายูง จ.อุดรธานี
29.วัดอรัญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
30.วัดเจติยาคีรีวิหาร(วัดภูทอก) อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ
31.วัดโพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย

วัดป่าบ้านไร่ ตั้งอยู่ที่อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ในปี พ.ศ.2495 ซึ่งหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ได้มาเป็นเจ้าอาวาศวัดบ้านไร่ ท่านจึงพัฒนาและปรับปรุงจนเสร็จสมบูรณ์ เมื่อ พ.ศ.2510
ในวันที่ 11 มกราคม 2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี้นาถ ทรงเสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีอันเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นสู่บุษบกเหนือพระอุโบสถ โดยหลวงพ่อคูณท่านได้เผยความรู้สึกในวันนั้นว่า

"กูรู้สึกดีใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ บุญทานอื่นทำมามาก แต่ทำบุญกับพระเจ้าอยู่หัวยังไม่เคยทำ ทำบุญกับท่านยิ่งใหญ่ ทูลเกล้าฯถวาย 72 ล้านบาท ภูมิใจมหาศาล เงินที่ลูกหลานบริจาคทีละเล็กทีละน้อยสะสมไว้เพื่อทูลเกล้าฯ ถวาย พี่น้องจะร่วมกันได้รับอานิสงส์ด้วย พี่น้องรู้ว่าทูลเกล้าฯ ถวายพระเจ้าอยู่หัวก็ดีใจมาก ชาวต่างประเทศมากันมาก ร่วมทูลเกล้าฯ ถวายด้วย มากันทุกชาติเลย จีนก็มา เกาหลีก็มา อินเดียก็มา มากัน"
สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนั้นหลวงพ่อคูณได้ให้นักข่าวสัมภาษณ์ดังนี้
นักข่าว : "ในหลวงกับพระราชินีทรงรับสั่งถึงสารทุกข์สุกดิบของหลวงพ่อว่าอย่างไรบ้าง"
หลวงพ่อคูณ : "ท่านถามเรื่องน้ำ น้ำที่จะไหลเข้าบึง ก็บึงที่เห็นอยู่นี้ หลวงพ่อบอกพร้อมกับชี้ไปทางบึงใหญ่หน้าวัด"

วัดป่าประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นวัดที่ชาวตำบลศรีสมเด็จนับถือและให้ความเคารพบูชาเป็นอย่างมาก จึงถือได้ว่าเป็นวัดประจำอำเภอ โดยมีหลวงปู่ศรี มหาวีโรเป็นเจ้าอาวาส ท่านเป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ท่านได้ก่อตั้งเป็นวัดประชาคมวนาราม เมื่อปี พ.ศ.2495 จนมีผู้ศรัทธาจำนวนมาก การเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีทอดพระกฐิน เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2518 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงทอดพระกฐินต้นที่วัดประชาคมวนาราม พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 200,000 บาท ทางวัดได้ตั้งเป็นมูลนิธิอนุสรณ์พระกฐินตั้น ปัจจุบันศิษยานุศิษย์และวัดสาขาร่วมบริจาคสมทบเป็นกองทุนมูลนิธิกว่าสิบล้านบาท

วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี เริ่มสร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ เมื่อปี พ.ศ.2449 ปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร (โพธิ์ เนติโพธิ์) ได้ชักชวนและนำพาราษฎรในหมู่บ้านหมากแข้งมาร่วมกันสร้างวัด การเสด็จพระราชดำเนินส่วนพระองค์ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2498 เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จเยี่ยมวัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชปฎิสันถาวรกับพระธรรมเจดีย์ฯ อยู่ในพระอุโบสถ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานกับปิยภัณฑ์ จำนวน 1,000 บาท เพื่อบำรุงวัด  จากนั้นได้เสด็จเยี่ยมราษฎรที่มารอเฝ้าอยู่บริเวณหน้าพระอุโบสถประมาณ 40 นาที พอสมควรแก่เวลาจึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ

ต่อมาวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2552 เวลา 17.00 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุ แด่พระอุดมญาณโมลี (หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป) เจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ ณ ท้องพระโรงศาลาเริง วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐาน ณ พระบรมธาตุเจดีย์ วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี
ห้าภาพบน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จบำเพ็ญพระราชกุลล ณ วัดพระธาตุพนม และเยี่ยมราษฎรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2498  และภาพด้านล่างซ้าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 พร้อมด้วยพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ขณะดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามบรมราชกุมาร  เส็ดจสมโภชพระบรมสารีริกธาตุในองค์พระธาตุพนม เมื่อันที่26 ธันวาคม 2518
และถึงแม้ในหลวงท่านจะจากชาวไทยเราไปแล้วนะค่ะ แต่สิ่งหนึ่งคือยังคงอยู่ก็คือคุณงามความดีที่พระองค์สร้าง เป็นกษัตริย์นักพัฒนาประเทศไทยของเราให้มีความอยู่ดีกินดีมาถึงทุกวัน และพระองค์จะเป็นพระมหาษกษัตริย์ที่จะอยู่ในใจของพสกนิกรชาวไทยเราตลอดกาลค่ะ

สำหรับในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันลาพักร้อนปีนี้ ท่านใดที่มีแผนจะไปเที่ยวอีสาน แวะไปตามรอยวัดวาอารามที่ในหลวงเคยเสด็จสักครั้งนะค่ะ ดิฉันเองรับรองว่าท่านจะต้องอิ่มบุญอิ่มใจ และประทับใจกลับไปอย่างแน่นอนค่ะ
ภาพบนและภาพขวากลางขวา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินประกอบ พระราชพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นบรรจุในองค์พระธาตุพนม เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2522

ภาพขณะเสด็จทอดพระเนตรฝายชาวบ้านในลำห้วยเรือ ณ บ้านดงน้อย ต.มะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2527
สำหรับข้อมูลที่ดิฉันได้นำมาเสนอในวันนี้ ถือเป็นบทความเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น และน่าจะเป็นประโยชน์ต่อคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากข้อมูลดังกล่าวมีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันเองต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆที่เข้ามาอ่านกันค่ะ

ต้องขอขอบพระคุณข้อมูลดีๆและภาพจากโบชัวร์ ตามรอยธรรมราชาในดินแดนอีสาน
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- เรียบเรียงโดย นายเจตน์ ตันติวณิชชานนท์ และนายแพทย์บัญชา พงษ์พานิช
- ภาพโดยเว็ปไซต์ที่เผยแพร่โดยสาธารณะ
- ขอบคุณภาพจาก สารานุกรมเสรี Wikipedia
------------------------------------------------------------------------------------------------
แนะนำบทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ
แหล่งท่องเที่ยวภาคอีสานใต้ ที่พลาดไม่ได้เลย ต้องไปเช็กอินกัน คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>>
แนะนำ 15 สถานที่ท่องเที่ยวแดนดินถิ่นอีสานใต้ ที่ใครๆก็ต้องแวะมาถ่ายรูปเช็กอินกันสักครา ตามไปลั๊ลลากันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>

จัดมา 9 เพลงเทิดพระเกียรติ ฟังทีไร ก็นึกถึงในหลวง คลิ๊กดูบทความค่ะ>>
ร่วมกันฟัง 9 เพลง ฟังทีไรก็นึกถึงพ่อหลวงของไทยค่ะ คลิ๊กดูบทความค่ะ>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวขอนแก่น สุดสะแนนแสนชิล ไปถ่ายรูปวิวสวยงาม คลิ๊กดูที่เที่ยว>>
มาเด้อมาเที่ยวเมืองขอนแก่น สุดสะแนนแสนชิล ขับรถไปถ่ายรูปชมวิวต่างๆ มีที่ใหนเช็คอินบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
รีวิวเที่ยวเมืองอุดร เช่ารถขับตะลอนไปชมสถานที่ต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งกันเด้อ>>
มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองอุดร เช่ารถออนซอน ตะลอนไปชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งกันเด้อจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเวียงจันทร์ 1 วัน ไป-กลับ ขยับเดินชมตามที่เที่ยวต่างๆ มีอะไรบ้าง>>>
เก็บตก รีวิวเที่ยวเวียงจันทร์ 1 วัน ไปเช้า-เย็นกลับ มีที่เที่ยวอะไรให้ชื่นชมกันอีกบ้าง ตามไปเบิ่งกันเด้อ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวแบกเป้เที่ยวหนองคาย เมืองนี้มีอะไรมากมายให้ชมจริงๆ คลิ๊กดูที่เที่ยวจ้า>>
มาเด้อมารีวิวเที่ยวหนองคาย 3 วัน 2 คืน ไปชื่นชม ภิรมย์ใจตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>

รีวิวแบกเป้เที่ยวเมืองอินสบรูค 2 วัน 1 คืน มีที่เที่ยวอะไรให้ชมบ้าง ตามไปดูกันค่ะ>>
แบ่งปันรีวิวแบกเป้เที่ยวอินส์บรูค 2 วัน 1 คืน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้ชื่นชมกันบ้าง ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>
แบ่งปันรีวิวเดินทางไปชมปราสาทน็อยชวานสไตน์ด้วยตัวเองมาฝาก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิววิธีการเดินทางไปเที่ยวชมปราสาทน็อยชวานสไตน์ด้วยตัวเองมาฝากใน 1 วัน มีที่เที่ยวอะไรให้ชมอีกบ้าง ตามไปชมกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>
รีวิวพาชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพ เสพความรู้แบบไทยๆ ไปชมกันเลย>>
พารีวิวเที่ยวชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพ เสพความรู้แบบไทยๆ เดินชมในนิทรรศการจิ๋นซีฮ่องเต้ คลิ๊กดูรายละเอียดภาพรีวิวค่ะ>>>
หรือดูรายละเอียดที่ : http://bit.ly/2l05FdT

รีวิวเที่ยวยุโรปตอนที่ 10 ตามรอยเมืองวัยเยาว์ในหลวง ร.9 คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ตอนที่ 10 แวะเมืองเจนีวา-โลซาน ยลตระการศาลาไทย ตามรอยในหลวง ร.9 คลิ๊กดูภาพรีวิวการเดินทางคะ>>>
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://bit.ly/2N0X57i

มาม๊ะ..แวะมาเที่ยวเมืองสุรินทร์ ชมถิ่นช้างใหญ่ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวท่องอีสานใต้ตอนที่ 3 มาม๊ะ..มาเที่ยวสุรินทร์ ไม่ต้องกินสุรา แวะไปดูช้าง ดูชาวบ้านทอผ้า สวยระย้านาข้าวหอมมะลิ กำลังผลิบาน ร้าวรานจับใจ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวเลยจ้า>>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ตอนที่ 1 นั่งรถไฟแมวทามะ แวะพักชมปราสาทสวย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ตอนที่ 1 นั่งรถไฟแมวเหมียวทามะสุดน่ารัก แวะเดินพักชมปราสาทวาคายามะ คลิ๊กดูบทความรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>>
 10 ที่พักโอซาก้า ราคาถูกสุดๆ ใกล้สถานีรถไฟ JR คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>>
รวมที่พักโอซาก้าราคาถูกหลักร้อย ใกล้สถานีรถไฟ JR เดินไปได้ใกล้ๆ สะดวกสุดๆ คลิ๊กดูรายละเอียดที่พักค่ะ>>
รีวิวเที่ยวนครพนม เม.ย.60 ขับมอเตอร์ไซต์ไปมูลนิธิคนชราที่ท่าอุเทน คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวนครพนม นั่งเรือรับลมชมสองฝั่งโขง เชื่อมโยงไทยลาว สวยสกาวองค์พระธาตุ เด่นผงาดสูงเสียดฟ้า นั่งกินปลาร้าอร่อยเริ่ดเว่อร์ คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น