Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

เก็บตก รีวิวพาเดินทางไปเที่ยวชมปราสาทน็อยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle) ด้วยตัวเองมาฝากใน 1 วัน มีอะไรให้ชมบ้าง

มารีวิวแบกเป้ท่องเที่ยวโลกกว้างกันต่อจากตอนที่แล้วค่ะ วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอขอเป็นคนบ้า มารีวิววิธีการเดินทางไปเที่ยวชมปราสาทน็อยชวานสไตน์ด้วยตัวเองมาฝากใน 1 วัน เดินทางไปอย่างไร มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้ชมบ้าง ตามไปชมกันเลยจ้า
มาท่องโลกกว้าง เดินทางแบกเป้เที่ยวยุโรปกันต่อค่ะ หลังจากที่ทริปบทความรีวิวก่อนหน้า ได้พาคุณผู้อ่านไปท่องเมืองมิวนิคกันแบบฉาบฉาย รุ่มระรวยกับความสวยงามของบ้านเมืองสุดคลาสสิคกันไปแล้วนะคะ จากบทความรีวิวก่อนหน้าตามเว็ปไซต์ลิงค์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2019/09/munich-city-tourist-attractions-places-backpack-europe.html

สำหรับทริปวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทริปที่ตั้งใจ วาดฝัน ปั้นหมายไว้ตั้งแต่เด็กๆ เลยว่าจะต้องแบกเป้เดินทางมาเที่ยวด้วยตัวเองให้ได้ กับการมายลโฉม ชมปราสาทน็อนชวานสไตล์ ปราสาทสวยงามอลังการที่เป็นต้นตำรับของปราสาทในการ์ตูนดิสนี่ และนิทานฝรั่งหลายๆเรื่องที่จะต้องเอาปราสาทหลังนี้เป็นแบบให้ได้

เมื่อปักหมุดมาเยือนที่ถึงเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี ใหนๆก็เสียสะตุ้งสตางค์ บินไกลมาถึงแดนฝหรั่งทั้งที ไฉนจะไม่ลองไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง จากทริปรีวิวก่อนๆ เดี๊ยนก็ซัดโซเซ ร่อนเร่ พเนจรไปเรื่อยเปื่อยแล้ว วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเลยขอเป็นบ้า เลิกจากงานประจำ มารีวิววิธีการเดินทางไปเที่ยวชมปราสาทน็อยชวานสไตล์ด้วยตัวเองมากฝาก ให้กับเพื่อนคุณผู้อ่านได้สไลด์เลื่อนดูกันค่ะ

เผื่อใครหรือเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนนแสนโสภาคนใหนที่กำลังวางแผน แบกเป้ลุยเดี่ยวจะไปเที่ยวเยอรมันคนเดียวแบบเดี๊ยน ก็ยัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋า แล้วไปเดินเนินเนาคลอเคล้าเที่ยวกันได้เลยจ้า ก่อนจะเข้าสู่รีวิวการเดินทาง เราก็มารู้จักปราสาทหลังนี้กันสักเล็กน้อย พอสังเขปนะคะ
สาระน่ารู้เกี่ยวกับปราสาทน็อยชวานชไตน์ (neuschwanstein castle)
ปราสาทน็อยชวานชไตน์ (neuschwanstein castle) (ภาษาเยอรมัน: Schloss Neuschwanstein)
สำหรับปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์แถบรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี สร้างในสมัยพระเจ้าลูทวิชที่ 2 แห่งบาวาเรีย ในช่วงประมาณปี ค.ศ.1845–1886 โดยจัดเป็นปราสาทที่งดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก และเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา ที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ และโตเกียวดิสนีย์แลนด์ รวมไปถึงที่แดนเนรมิตพระเจ้าลูทวิชที่ 2 แห่งบาวาเรียอีกด้วย

ทัศนียภาพบนเส้นทางเดินเขาสู่ปราสาทน็อยชวานสไตน์ ในช่วงฤดูดอกไม้ผลิบาน ชื่นบานจับใจ Spring Season  (Neuschwanstein castle)
ปราสาทน็อยชวานสไตล์สร้างอยู่โดดเด่น ท่ามกลางธรรมชาติ มีพระประสงค์ให้จัดสร้างเพื่อเป็นที่ประทับอย่างสันโดษ ห่างจากผู้คน และเพื่ออุทิศให้แก่กวีชื่อ ริชชาร์ท วากเนอร์ ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างให้เป็นไปตามบทประพันธ์เรื่องอัศวินหงษ์ (Swan Knight Lohengrin) ดังนั้นปราสาทแห่งนี้จึงได้รับการตกแต่งตามเรื่องร่าวในบทประพันธ์ดังกล่าว ปราสาทแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยคริสทีอัน ยังค์ (Christian Jank) ซึ่งเป็นนักออกแบบทางการละคร มากกว่าที่จะเป็นสถาปนิก

ในช่วงฤดูดอกไม้ผลิ และช่วงฤดูร้อน จะนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยี่ยมชมปราสาทแห่งนี้ถึงปีละ 1.3 ล้านคน ซึ่งมากถึงวันละ 6,000 คน
โดยปัจจุบันนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยี่ยมชมปราสาทแห่งนี้ถึงปีละ 1.3 ล้านคน ซึ่งมากถึงวันละ 6,000 คนในช่วงฤดูดอกไม้ผลิ และช่วงฤดูร้อน จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ดึงดูดนักเดินทางทั้งในยุโรปและทั่วโลก มาชมต้นตำรับของปราสาทเทพนิยายแห่งนี้สักครั้ง
(เครดิตข้อมูลดีๆจาก https://th.wikipedia.org/wiki/ปราสาทน็อยชวานชไตน์)

หากใครที่จะเดินทางมาเที่ยวปราสาทน็อยชวานสไตล์ และนอนพักค้างในเมืองมิวนิค แนะนำเลยว่าต้องออกเดินทางแต่เช้าเลยนะคะ เพื่อจะได้ใช้เวลาเที่ยวชมปราสาทได้ตลอดทั้งวัน เนื่องจากใกล้ปราสาทน็อยชวานสไตล์ก็ยังมีปราสาทโฮเฮ็นชวานเกา และที่เที่ยวอื่นๆใกล้เคียงให้ชมด้วย ถ้าออกสาย จะมีเวลาเที่ยวชมน้อยค่ะ ยังไงใครจะแวะมาเที่ยวชมปราสาทแห่งนี้ วางแผนและปักหมุดไว้แต่เนิ่นๆเลยนะคะ
รีวิวเดินทางทริปนี้ ต่อจากรีวิวตอนที่ผ่านมา นั่งรถไฟจากเมืองมิวนิค ไปเดินชิคๆเที่ยวชมปราสาทน็อยชวานสไตน์ด้วยตัวเอง
รีวิวเดินทางทริปนี้ ต่อจากรีวิวตอนที่ผ่านมา นั่งรถไฟจากเมืองมิวนิค ไปเดินชิคๆเที่ยวชมปราสาทน็อยชวานสไตน์ด้วยตัวเอง

เริ่มต้นเช้าวันใหม่ในเมืองมิวนิค ทริปนี้ยังคงนอนพักโรงแรมราคาถูกๆ ใกล้สถานีรถไฟต่ออีกคืน
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ในเมืองมิวนิค ทริปนี้ยังคงนอนพักโรงแรมราคาถูกๆ ใกล้สถานีรถไฟอยู่ต่อีกคืนค่ะ โดยพักค้างที่ โรงแรมเดอะ ฟอร์ยู โฮสเทล แอนด์ โฮเต็ล มิวนิค (The 4You Hostel & Hotel Munich)

ตรียมปิคนิคอาหารและน้ำดื่มเพื่อไปทานระหว่างทางให้พร้อม จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาหาอะไรทานที่โน้นค่ะ ประหยัดได้อีก
ทานอาหารเช้าและเตรียมปิคนิคอาหารและน้ำดื่มเพื่อไปทานระหว่างทางให้พร้อม จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาหาอะไรทานที่โน้นค่ะ  และอีกอย่างจะได้ไม่เสียเวลาไปนั่งรอทานตามร้านอาหารด้วย เนื่องจากอ่านรีวิวกูรูท่องเที่ยวคนอื่นๆมา บอกว่าคนไปเที่ยวเยอะมากๆ
หลังจากทานอาหารมื้อเช้าอิ่มแล้ว ก็เดินออกจากโรงแรมไปยังสถานีรถไฟเลยค่ะ
แนะนำว่าหาที่พักใกล้ๆสถานีรถไฟนะคะ จะได้เดินไปได้เลยใกล้ๆ

ดูตารางชานชลาในมอนิเตอร์ที่สถานีรถไฟอีกครั้ง เผื่อมีการเปลี่ยนแปลง โดยขบวนรถไฟที่จะไปยังปราสาทน็อยชวาสไตล์อยู่ที่เมืองฟูเซ็น Fussen 
สามารถตรวจสอบตารางเวลาและชานชลาได้ที่เว็ปไซต์ : https://www.bahn.com/i/view/index.shtml

โดยพิมพ์คำว่า Fussen ในเว็ปไซต์ได้เลย ก็จะมีการแสดงเวลาเดินทางมาให้ดู ว่าออกเดินทางเมื่อไหร่ และเที่ยวกลับล่าสุดตอนใหน

หากใครที่ยังไม่ทานอาหารเช้า หรือกลัวไม่ทันรถไฟรอบเช้า แนะนำว่าที่สถานีรถไฟมีอาหารให้เลือกทานเยอะมากๆ ยิ่งช่วงตอนเช้า ที่สถานีรถไฟผู้คนจะคึกคักมากๆ

แนะนำว่าเลือกทานอาหารที่พกไปได้ง่ายๆ หรือใครที่พกกล่องใส่อาหารมาก็ปิคนิคใส่ไปได้เลยค่ะ
ราคาอาหารเช้าที่นี่ก็ไม่ได้แพงด้วยนะคะ ยกตัวอย่างเช่น แซนวิสสไตล์ฝรั่งเศสราคาก็ตกอยู่ชิ้นละ 2.7 ยูโร
ไปรอขึ้นรถไฟที่หมายเลข 27 ค่ะ รถไฟสุดปลายทางที่เมือง Füssen
ชานชลารถไฟที่จะเดินทางไปยังปราสาทน็อยชวานสไตล์ ไปรอขึ้นรถไฟที่หมายเลข 27 ค่ะ รถไฟสุดปลายทางที่เมือง Füssenส่วนราคาตั๋วโดยสารทริปนี้ ดิฉันใช้บัตร Eurail Pass ที่ซื้อมาจากเมืองไทย แสดงกับเจ้าหน้าที่เอาค่ะ ส่วนใครที่ไม่ได้ซื้อบัตรยูโรพาส ก็สามารถจองตั๋วล่วงหน้าก่อนเดินทางมาได้ทางเว็ปไซต์ หรือตู้ขายบัตรอัตโนมัติได้เลยค่ะ
นั่งรถไฟรอบเวลา 9.41 น. รถไฟมีทุกๆชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางไปเมืองฟุสเซ้น 2 ชั่วโมง
 รอบที่เดินทางทริปนี้ ไปรอบเวลา 9.41 น.
ระยะเวลาที่ใช้เดินทางไปยังเมือง Fussen ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 
เนื่องจากมัวแต่เอ้อระเหยลอยลมอยู่กับการเลือกอาหารของกินอยู่ค่ะ
เข้ามาในขบวนรถไฟก็ตกใจไม่น้อย เพราะไม่มีที่นั่งว่างเลยค่ะ เต็มทุกที่ แม้ที่ทางเดินยังเดินลำบาก เนื่องจากเป็นช่วง High season ของเยอรมันด้วย คนมาเที่ยวเยอะมากๆ
ดิฉันเลยต้องยืนตลอดการเดินทางบนขบวนรถไฟเที่ยวนี้ แนะนำว่า หากจะเดินทางให้มารอขึ้นรถไฟ ไว้เนิ่นๆเลยนะคะ ไม่งั้นอาจจะได้ยืนแบบเดี๊ยนค่ะ
คือในขบวนแน่นมากๆ บางคนก็ยืนไม่ไหว ต้องนั่งราบไปกับพื้นเลยก็มี
เห็นแล้วก็เมื่อยขาแทนจริงๆ เพราะกว่าจะถึงอีกตั้ง 2 ชั่วโมงเลยนะคะ
แม้จะต้องอดทนยืน 2 ชั่วโมง แต่บรรยากาศและทัศนียภาพ 2 ข้างทางที่รถไฟวิ่งแล่น มุ่งหน้าไปยังเมือง Fussen ก็สวยงามเริ่ดสะแมนแตน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจอยู่ไม่น้อย

 ถ้าใครมีรถส่วนตัว คงจะสุขระรัวขับไปเที่ยวได้ทั่วทีปทั่วแดนแน่นอน
เพราะบรรยากาศสองข้างทาง ก็งามอร่ามไปด้วยทุ่งหญ้า และบ้านม่านชานเรือนสไตล์ชนบทอยู่กลางทุ่ง มีภูเขาและท้องฟ้าดูน่ารักดีนัก
เนื่องจากรถไฟจะผ่านหมู่บ้านในเขตชนบท ที่งามงดงามไปด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวขจี ดอกไม้หลากสีสันเริ่มผลิดอกรับ Spring Season ช่วงฤดูกาลเบิกบานและเป็นฤดูท่องเที่ยวที่นักเดินทางจากทั่วสารทิศ มาสิงสถิตเที่ยวทวีปยุโรปกัน

 เห็นวิว ออกมาแทะเลม กินหญ้า ดูช่างสุขอุรา ยิ่งนัก
 หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ก็จะเห็นวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาเรียงรายมีหิมะปกคลุม และกระท่อมหลังเล็กๆมุ้งมิ้งอยู่กลางทุ่งหญ้าสีเขียวขจี รื่นฤดีความหวาน ร้าวรานจับใจอยู่ไม่น้อย
แต่หากใครไม่อยากเสียเวลานั่งรถไฟ ก็เช่ารถส่วนตัวขับ ตะลอนเลาะไปตามเส้นทาง ก็จะงามสะพร่างกว่านี้มากๆ แต่น่าจะเหมาะกับครอบครัว หรือหมู่คณะกรุ๊ปเล็กเสียมากกว่าค่ะ 
 ยังดีนะคะที่ออกเดิททางมา ฟ้ายังเปิดอยู่บ้าง เพราะเมื่อเช้าสภาพท้องฟ้าในเมืองมิวนิคค่อนข้างมืดครึ้ม แต่พอออกเดินทางนั่งรถไฟมาเรื่อยๆ ก็ได้เห็นแสงแดด และท้องฟ้าสีสดใสอยู่บ้าง
หลังจากยืนอยู่บนรถไฟจนเมื่อยขาสุขอุราดูวิวเพลินๆมาตลอด 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงเมือง fussen สักทีค่ะ หากใครไม่อยากยืน แนะนำว่า ให้มารถขึ้นขบวนไว้แต่เนิ่นๆเลยนะคะ เพราะคนเดินทางมาจากเมืองมิวนิคเยอะมากๆ
 บรรยากาศในสถานีรถไฟ
 จากนั้นก็เดินออกจากสถานีรถไฟมา เพื่อขึ้นรถบัสโดยสารต่อค่ะ
เนื่องปราสาทอยู่ห่างจากเมือง fussen ไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร
โดยมายืนรถขึ้นรถบัสโดยสารสาย 78 ไปยังปราสาทค่ะ
นักท่องเที่ยวเยอะมากๆ ต้องมายืนรอรถขบวนถัดไปกันเลยทีเดียวค่ะ เนื่องจากเป็นช่วง High Season ฤดูกาลแห่งดอกไม้ผลิ
 ส่วนใครที่ได้จองตั๋วหรือซื้อบัตรเข้าชมปราสาทแล้วเรียบร้อย ก็ไม่ต้องไปขึ้นรถเมลล์สาย 78 นะคะ
เพราะมีรถบัสเฉพาะคนที่ Reserved สามารถขึ้นรถคันดังกล่าวได้เลย
ราคารถบัสโดยสารสาย 78 นั่งไปลงที่จุดทางขึ้นปราสาทน็อยชวานสไตน์ราคา 2.4 ยูโรค่ะ
 ส่วนใครที่ไม่ได้จองมา ก็มาขึ้นรถเมลล์สาย 78 ไปค่ะ โดยค่าตั๋วรถจ่ายกับคนขับตอนขึ้นรถเลยค่ะ
ราคาตั๋วรถ เที่ยว 2.4 ยูโร เตรียมเกินให้พร้อมเลยนะคะ
ขึ้นบนรถก็ไม่มีที่นั่งนะคะ เพราะว่าขึ้นเป็นคนท้ายๆ เลยต้องอดทนยืนเอา ระหว่างทางไปยังปราสาทก็
 รถจอดลงที่ป้ายทางขึ้นไปยังปราสาท บรรยากาศนักท่องเที่ยวเยอะมาๆ 
มาเห็นของจริงสักที หลังจากที่เคยเห็นแต่ในนิตยสารท่องเที่ยวสมัยเด็กๆ ปราสาทหลังใหญ่สวยงาม
แหงนหน้ามองไปไม่ไกลจากจุดจอดรถเมลล์ ก็เห็นปราสาทน็อยชวานสไตล์ เด่นตระหง่านอยู่ไม่ไกลนัก
ในที่สุดก็ได้เห็นของจริงสักที หลังจากที่เคยเห็นแต่ในเว็ปท่องเที่ยว และนิตยสารท่องเที่ยว ที่เคยอ่านเมื่อสมัยเด็กๆ
ป้ายบอกเส้นทางไปยังที่เที่ยวต่างๆ
จากนั้นก็สังเกตุป้ายบอกทาง จะมีบอกว่าใกล้ๆปราสาทน็อยชวานสไตล์ก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ใกล้เคียงอีกด้วย

จากป้ายรถเมลล์โดยสาร เดินมาไม่ไกลนัก ก็จะเป็นจุดขายตั๋วเข้าชมด้านในปราสาท
สำหรับตั๋วโดยสาร ต้องซื้อตั้งแต่อยู่ด้านล่างนะคะ เพราะด้านบนปราสาท ไม่มีจำหน่าย
จุดขายตั๋วเข้าชมปราสาทและที่เที่ยวใกล้เคียงอื่นๆ มีให้เลือกหลายราคา
 วันที่มาเที่ยวคนเยอะมากๆ แนะนำว่าหากใครที่จะเข้าชมด้านในปราสาท แนะนำซื้อทางออนไลน์ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆเลยก็ได้ จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาเข้าคิวยาว ต่อแถวซื้อบัตรเข้าชมอีกครั้ง
ราคาบัตรเข้าชมปราสาทน็อยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle) รายละเอียดการเดินทางด้วยรถบัส และการเดินทางด้วยรถไฟ
 สำหรับราคาบัตรค่าเข้าชมปราสาทน็อยชวานสไตล์ ดิฉันหยิบโบชัวร์แสดงข้อมูลราคา และวิธีการเดินทางต่างๆมาให้ดังนี้ (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต)
Ticket and Price ราคาบัตรเข้าชมปราสาท
1.ปราสาทน็อยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle) ราคา 19.90 ยูโร  เด็ก 5 ยูโร (อายุ 3-18 ปี)
2.ปราสาทโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau Castle) ราคา 19.90 ยูโร  เด็ก 5 ยูโร
3.พิพิธภัณฑ์บาวาเรียนคิง (Museum of Bavarian Kings) ราคา 11 ยูโร  เด็ก Free
- King ticket คือบัตรที่เข้าชมได้ทั้ง 2 ปราสาท รวมราคา 35.90 ยูโร
- Swan ticket คือบัตรที่เข้าชมได้ทั้ง 2 ปราสาท และเข้าชมพิพิธภัณฑ์บาวาเรียนคิงได้ด้วย รวม 43.90 ยูโร
- Prince ticket คือบัตรที่เข้าชมปราสาท Neuschwanstein castle + Museum ได้รวมราคา 29.90 ยูโร

ส่วนจะเดินทางจากเมือง Füssen ไปยังปราสาท Neuschwanstein castle
- นั่งรถบัสโดยสารหมายเลข 73 และรถบัสสาย 78 โดยใช้เวลาเดินทางจากสถานีรถไฟไปประมาณ 10 นาที
- ราคารถเที่ยวเดียวตกคนละ 2.4 ยูโร ข้อมูลใบโบว์ชัวร์เป็น 2.3 Euro น่าจะเป็นข้อมูลเก่าแล้ว
- ราคาเด็กคนละ 1.15 ยูโร สามารถซื้อตั๋วได้ที่คนขับรถเท่านั้น

มีระบุด้วยว่า หากใครที่มีบัตร Bayern Ticket สามารถขึ้นรถบัสได้ฟรี  และยังมีการแจ้งระบุเวลาที่รถบัสโดยสารแต่ละสายออกจากสถานีรถไฟไว้ให้ทราบด้วย ว่ารถเมลล์แต่ละสายออกจากสถานีรถไฟไปยังปราสาทกี่โมง และเที่ยวสุดท้ายกี่โมง

โดยรถบัสโดยสารออกจาก Fussen Train stations ไปยัง Neuschwanstein castle รอบแรก 9.05 น.
และรถบัสเที่ยวสุดจาก Neuschwanstein castle ไปยังสถานีรถไฟ Fussen Train stations เวลาประมาณ 19.00 น.เท่านั้น

 ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟ (Train) ไปชมปราสาทน็อยชวานสไตล์ (Neuschwanstein castle)
- มีรถไฟให้บริการ Munich to Füssen เริ่มออกจากเมืองมิวนิคเวลา 06.05 น.ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง
-ขากลับจากเมือง Füssen to Munich เที่ยวสุดท้ายสิ้นสุดเวลา 20.33 น. แต่ส่วนใหญ่แนะนำให้กลับเวลา 18.00 น. เนื่องจากเป็นรถไฟ Direct วิ่งตรง ไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถ ยังไงแล้วสามารถตรวจสอบตารางรถไฟได้ที่เว็ปไซต์ : https://www.bahn.com/i/view/index.shtml

แผนที่เส้นทางท่องเที่ยวใกล้ๆปราสาทน็อยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle) ,ปราสาทโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangua) ทะเลสาบ Alpsee และ Museum Bavarian king
แผนที่สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงรอบปราสาทน็อยชวานสไตล์
จากจุดประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวด้านล่าง สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่บอกว่า สามารถเดินเท้าตามทางขึ้นไปยังปราสาทได้ไม่ไกลนักค่ะ

- สามารถเดินเท้าใต่ตามเส้นทางเดินไปชมตัวปราสาทน็อยชวานสไตล์ ระยะทางประมาณ  1.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาทีเท่านั้น  

 การมาเที่ยวครั้งแรก ก็จะแบบงงๆหน่อยค่ะ เห็นคนส่วนใหญ่เดินขึ้นไปยังตัวปราสาท เดี๊ยนเลยตัดสินใจเดินไปดีกว่าค่ะ เนื่องจากไม่ไกลมากนัก
 หากใครที่พาผู้สูงอายุมา ก็สามารถใช้บริการรถม้าขึ้นไปได้นะคะ
 หากใครที่พาผู้สูงอายุมา ก็สามารถใช้บริการรถม้าขึ้นไปได้นะคะ
มีรถม้าให้บริการจากด้านล่างขึ้นไปยังด้านบนด้วย ราคาน่าจะตกประมาณคนละ 3.5 ยูโร
การขึ้นไปชมปราสาทบนยอดเขา สามารถเดินเท้าจากจุดจอดรถบัสโดยสาร หรือที่ขายตั๋ว เดินมาได้ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 30-40 นาที
 ตามเส้นทางเดินขึ้นไปยังปราสาท ร่มรื่นมากๆ
ข้างทางก็เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่เขียงขจี แต่ก็เหม็นขี้ม้าอยู่ไม่น้อย เนื่องจากม้าหยุดขี้ตลอดทางเลยค่ะ ต้องอดทนดมกลิ่นหอมหวนรัญจวนใจเอา
สองข้างทางก็เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่เขียงขจี แต่ก็เหม็นขี้ม้าอยู่ไม่น้อย เนื่องจากม้าหยุดขี้ตลอดทางเลยค่ะ ต้องอดทนดมกลิ่นหอมหวนรัญจวนใจเอา
ส่วนใครที่ไม่อยากเดินขึ้นเขาให้เมื่อยขา ก็นั่งรถเมลล์จากด้านล่างขึ้นมาได้
 ส่วนใครที่ไม่อยากเดินขึ้น ก็นั่งรถเมลล์โดยสารจากจุดขายตั๋วขึ้นมาได้นะคะ
โดยรถเมลล์จะให้บริการมาหยุด Stop บนเขาตรงเส้นทางจุดชมวิวบนสะพาน
ราคาตั๋วรถบัสโดยสารให้บริการจากด้านล่างขึ้นมายังบนยอดเขา มี 3 ราคาให้เลือก เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากเดิน
ราคาตั๋วรถบัสโดยสารให้บริการจากด้านล่างขึ้นมายังบนยอดเขา ตั้งอยู่เลยถัดจากจุดขายตั๋วโดยสารมาหน่อย มีรถเมลล์โดยสารขึ้นมาบนยอดเขาใกล้ๆกับปราสาท
ราคา uphill  ขาขึ้นรอบเดียว 2.5 ยูโร
ราคา Roundtrip ทั้งขึ้นและลง  3 ยูโร
ราคา Downhill ขาลงรอบเดียว 1.5 ยูโร

 เนื่องจากวันที่ไปเที่ยว คนนั่งรถเมลล์ก็เยอะมากๆ แนะนำว่าเดินขึ้นเขาดีกว่าค่ะ ประหยัดสตางค์กว่าด้วย แถมได้ออกกำลังกายด้วย แม้จะใช้เวลาไปสักหน่อยก็เถอะ

เดินตามทางมาเรื่อยๆไม่ไกลนัก แม้จะต้องอดทน ดมขี้ม้าสักหน่อย แต่ก็มาถึงจุดหมายปลายทางของตัวปราสาทแล้วค่ะ
 เดินเข้ามาด้านในปราสาท ใหญ่โตอลังการสมคำล่ำลือ
 จุดที่นักท่องเที่ยวพากันยืนอยู่นี้ กำลังยืนรอเข้าคิวชมพิพิธภัณฑ์ด้านในตัวปราสาทค่ะ
 จะมีการแสดงเข้าชมปราสาทแต่ละช่วงเวลาระบุไว้ที่หน้าจอ มีลดความแออัดด้านในตัวปราสาทค่ะ
หากใครที่อยากชมด้านในปราสาท ก็ต้องอดทน นั่งรอคิวกันไปยาวๆหน่อยนะคะ 
 ปราสาทด้านนอกมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม
ดึงดูดนักเดินทางให้แวะเข้ามาชมอย่างไม่ขาดสาย
 นักท่องเที่ยวมายืนรอเข้าคิวไปชมด้านในเพิ่มากขึ้นเรื่อยๆ
ใกล้ๆทางเดินเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในตัวปราสาท ก็มีจุดถ่ายรูปสวยๆหลายมุม
 ปราสาทหลังใหญ่โตสวยงาม
 มองออกจากด้านนอกปราสาทค่อนข้างใหญ่โต อลังการมากๆ
ซูมกล้องไปไกลๆ จากตัวปราสาทเป็นสะพานมาเรียนบรุ๊ค (marienbrucke bridge)
ซูมกล้องไปไกลๆ จากตัวปราสาทเป็นสะพานมาเรียนบรุ๊ค (marienbrucke bridge) เป็นสะพานที่สามารถถ่ายภาพตัวปราสาทและเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดอีกแห่ง
น้ำตกไหลลงจากหน้าผา งามระย้า จับจ้วง สู่ดั่งดวงหฤทัย ให้ได้ชมความงามวิไลกันอีกด้วย
มีน้ำตกไหลลงจากหน้าผา งามระย้า จับจ้วง สู่ดั่งดวงหฤทัย ให้ได้ชมความงามวิไลอีกด้วย

หากใครที่อยากไปถ่ายรูปตรงจุดชมวิวสะพานมาเรียนบรุ๊ค (marienbrucke bridge) ก็ต้องมาต่อคิวเข้าแถวเข้าชมกันตามภาพเลยนะคะ เดี๊ยนเห็นจะยืนรอไม่ใหวค่ะ ขอเป็นลมดีกว่า
แต่หากใครที่อยากไปถ่ายรูปตรงจุดชมวิวสะพานมาเรียนบรุ๊ค (marienbrucke bridge) ก็ต้องมาต่อคิวเข้าแถวเข้าชมกันตามภาพเลยนะคะ หากมาช่วง High season คนก็จะเยอะมากๆ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็มาจากเอเชีย มีกรุ๊ปทัวร์จากอินเดียว และจากประเทศจีน มาเยอะสุดๆ ต่อแถวยาว เดี๊ยนเห็นจะยืนรอไม่ใหวค่ะ ขอเป็นลมดีกว่า
 เดินออกจากปราสาทไปตามทางเดินชมวิว คู่รักนักเดินทางส่วนใหญ่ ก็จูงมือถือแขนก็เริ่ดสะแมนแตน เดินออกกำลังแข้ง กำลังขา ไปลั๊ลลาเที่ยวชมกัน
ทัศนียภาพจุดที่เที่ยวถ่ายรูปยอดนิยม บนเส้นทางเดินเขาปราสาทน็อยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle)
 บรรยากาศบนภูเขาอากาศค่อนข้างเย็นสบายมากๆ ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป และทัศนียภาพก็สวยอลังการสะท้านโลกา ดูงามแปลกตายิ่งนัก
ทัศนียภาพจุดที่เที่ยวถ่ายรูปยอดนิยม บนเส้นทางเดินเขาปราสาทน็อยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle)
 ไม่เสียแรงที่อุตสาห์ดั้นด้น ตีตั๋วเครื่องบินมาไกลจากเมืองไทย และนั่งรถไฟมาเที่ยวถึงที่นี่ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีทั้งยุโรปและเอเชีย แต่ดูแล้วคนเอเชียน่าจะเยอะกว่ามากๆ
นอกจากจะได้เดินออกกำลังกายแล้ว ยังชมวิวทัศนียภาพที่สวยงาม ดุจภาพวาดในเทพนิยายอีกด้วย
ระหว่างเดินเท้าไต่ไปตามทางเดินบนเขา นอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้ว ยังชมวิวทัศนียภาพที่สวยงาม ดุจภาพวาดในเทพนิยายอีกด้วย
จากจุดชมวิวบนทางเดินเนินเขาลงไป ปราสาทที่เห็นเป็นสีส้มๆคือ ปราสาทโฮเฮนชวางเกา อีกหนึ่งปราสาทสวยงามอีกแห่งที่อยู่คู่เคียงกับปราสาทน็อยชวานสไตน์
มองจากจุดชมวิวบนทางเดินเนินเขาลงไป ปราสาทที่เห็นเป็นสีส้มๆคือ ปราสาทโฮเฮนชวางเกา อีกหนึ่งปราสาทสวยงามอีกแห่งที่อยู่คู่เคียงกับปราสาทน็อยชวานสไตน์

และตรงทางเดินขึ้นไปปราสาท ก็ยังมีที่ให้นั่งพักผ่อน
โดยตั้งอยู่ตลอดแนวทางเดิน เหมาะสำหรับการออกกำลังกายเดินขึ้นมาอย่างแท้จริง 
 มีระเบียงแนวริมหน้าผาให้ถ่ายรูปคู่กับตัวปราสาทค่ะ
 แต่ที่สวยงามกว่า คงเป็นทิวทัศน์ของหมู่บ้านเล็กๆริมทะเลสาบในเมืองฟูซเซน ที่นักทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ต่างช่ะช่ะช่ามาลั๊ลลาถ่ายรูปกันอย่างไม่หยุดหย่อน
มองจากจุดชมวิวตรงจุดนั่งพักปราสาทน็อยชวานสไตล์ เห็นหมู่บ้านสไตล์ฝาหรั่งมังข้า หลังคาสีส้มน่ารัก
 มองไปไกลๆ ก็เห็นหมู่บ้านสไตล์ฝรั่งหลังเล็กน่ารักอยู่ริมทะเลสาบ หลังคาสีส้มน่ารัก
มีกระท่อมหลังน้อยๆอยู่กลางทุ่งหญ้า ทางเดิน ดูแล้วก็รู้สึกเพลิดเพลินจำเริญใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแสนโสภายิ่งนัก
 น่าจะเป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายภาพสวยๆ สำหรับคนชอบถ่ายรูปนะคะ
ปราสาทน็อยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle)
 ตรงจุดชมวิวยังมีที่ให้นั่งพักผ่อนอริยาบถ และนั่งทานอาหารว่างเล็กน้อยๆได้ด้วย
เพราะส่วนใหญ่ที่ดิฉันเดินมา ก็พกอาหารปิคนิคมาทานระหว่างทางกันด้วย
แวะเติมพลัง ทานอาหารมื้อเที่ยง ที่ปิคนิคห่อมาจากเมืองมิวนิค เปิดมาทานให้หมด
เต็มพลังงานมื้อเที่ยงก่อนค่ะ ด้วยอาหารปิคนิคที่ทำแบบง่ายๆมาจากโรงแรม และซื้อมาจากสถานีรถไฟ แซนวิชแบบง่ายๆ ทานคู่กับผักสลัด ทานกับชีส โยเกิรต์ที่เหลือจากทริปเที่ยวเมื่อวานนี้ 

ตามต่อด้วยช็อกโกแลต เติมความหวามลงในเส้นเลือด
หากใครที่มาเที่ยว เผื่อหิว พกขนม นม เนย และน้ำดื่มมาด้วยทุกครั้งนะคะ เพราะเผื่อเกิดหิวก็หยิบทานได้เลย จะได้ไม่เสียเวลาไปต่อคิวรอทานอาหาร เพราะสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งคนเยอะมากๆ
เดินลงจากปราสาทน็อยชวานสไตล์ ก็ไปเที่ยวปราสาทโฮเฮนชวังเกาต่อ อีกหนึ่งปราสาทสวยงามน่ารัก
นอกจากปราสาทน็อยชวานสไตน์แล้ว ใกล้ๆกันยังมีปราสาทสวยงามอีกแห่ง นั้นก็คือปราสาทโฮเฮนชวังเกา สามารถเดินเท้าขึ้นไปชมได้ไม่ไกลจากจุดขายตั๋วและจุดจอดรถบัสโดยสาร
 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับปราสาทโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangua)
 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับปราสาทโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangua)

สำหรับปราสาทโฮเฮนชวานเกา (เยอรมัน: Schloss Hohenschwangau) ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านชวานเกาใกล้เมืองฟึสเซินอยู่ทางตอนใต้ของแคว้นบาวาเรียใ นประเทศเยอรมนี ถือเป็นปราสาทที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งรัฐบาวาเรีย ประทับเมื่อยังทรงพระเยาว์

โดยตัวปราสาทสร้างบนซากปราสาทชวานชไตน์เดิมซึ่งกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ปราสาทเดิมสร้างโดยครอบครัวของอัศวิน หลังจากการยุบเลิกระบบอัศวินในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ปราสาทก็เปลี่ยนมือหลายครั้ง และตัวปราสาทก็เสื่อมโทรมลงจนเหลือแต่ซากเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19
ต่อมาเป็นพระเจ้าแม็กซิมิลเลียนที่ 2 แห่งบาวาเรีย ทรงเห็นว่าปราสาทนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่สวยงาม จึงได้ซึ้อปราสาทหลังนี้เมื่อปี ค.ศ. 1832
ในปี ค.ศ. 1829 มงกุฏราชกุมารแม็กซิมิลเลียน ซึ่งต่อมาเป็นพระเจ้าแม็กซิมิลเลียนที่ 2 แห่งบาวาเรีย ทรงเห็นว่าปราสาทนี้ตั้งอยู่ในทำเลสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้าง และทรงถูกพระทัยจึงได้ซึ้อปราสาทหลังนี้เมื่อปี ค.ศ. 1832

และในปีถัดมาการก่อสร้างปราสาทใหม่ก็เริ่มขึ้นและสร้างต่อมาจนถึง ค.ศ. 1837 โดยมีสถาปนิกที่มีชื่อว่า โดเมนีโค ควัลโย เป็นผู้รับผิดชอบในการสร้างปราสาทให้เป็นแบบศิลปะฟื้นฟูกอทิก
ปราสาทโฮเฮนชวังเกานี้ สร้างเป็นพระราชวังฤดูร้อนและล่าสัตว์ของพระเจ้าแม็กซิมิลเลียน โดยเจ้าหญิงมารีแห่งปรัสเซียพระชายา และพระโอรสสององค์ รวมทั้งเจ้าชายลุดวิกและ เจ้าชายออทโท พระเจ้าแม็กซิมิลเลียน และพระชายาประทับอยู่ในตัวปราสาทใหญ่ และพระโอรสในส่วนที่ต่อเติม
พระราชโอรสเจ้าชายลุดวิกก็ขึ้นครองต่อเป็นพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย
เมื่อพระเจ้าแม็กซิมิลเลียนที่ 2 สิ้นพระชนม์เมื่อปี ค.ศ. 1864 พระราชโอรสเจ้าชายลุดวิกก็ขึ้นครองต่อเป็นพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย ทรงย้ายจากส่วนที่ต่อเติมไปอยู่ในห้องบรรทมของพระบิดาและมารดา ในเมื่อลุดวิกไม่ทรงมีครอบครัว เจ้าหญิงมารีแห่งปรัสเซียพระมารดา จึงทรงประทับอยู่ที่ปราสาทได้ พระเจ้าลุดวิกโปรดการพำนักอยู่ที่โฮเอินชวังเกา โดยเฉพาะเมื่อทรงเริ่มสร้างปราสาทนอยชวานชไตน์บนเนินเหนือโฮเฮนชวานเกาไม่ไกลเท่าใดนัก
จนกระทั้งเมื่อปี ค.ศ.1886 เมื่อพระเจ้าลุดวิกที่ 2 สิ้นพระชนม์ลง พระราชินีมารีแห่งปรัสเซีย พระองค์ทรงเป็นผู้เดียวที่ได้อาศัยอยู่ในโฮเฮนชวังเกาจนกระทั่งสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1889 ต่อมาพระปิตุลาของลุดวิกเจ้าชายลุทโพลด์แห่งบาวาเรียนมาประทับอยู่บนชั้นสาม และทรงเป็นผู้รับผิดชอบในการติดตั้งไฟฟ้าและลิฟต์ในปราสาทในปี ค.ศ. 1905 เมื่อเจ้าชายลุทโพลด์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1912 และแล้วปราสาทหลังนี้ก็กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ในปีต่อมา
ซึ่งระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1และสงครามโลกครั้งที่ 2 ปราสาทหลังนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ในปี ค.ศ. 1923 รัฐบาลบาวาเรียยอมรับสิทธิในการพำนักอาศัยในปราสาทของอดีตราชวงศ์ ระหว่างปี ค.ศ. 1933 ถึงปี ค.ศ. 1939 มกุฎราชกุมารรูพเพร็คแห่งบาวาเรีย (Crown Prince Rupprecht of Bavaria) และครอบครัวได้ใช้ปราสาทเป็นวังฤดูร้อนและเป็นที่โปรดปรานของผู้สืบต่อมา
 เดินลงจากปราสาทโฮเฮนชวานเกา มีที่ให้นั่งผ่อนคลายอริยาบถและชมวิวอันสวยงามระหว่างทางอยู่เป็นระยะ มิได้ขาด
พิพิธภัณฑ์กษัตริย์บาวาเรียน (Museum Bavarian king)
 และต้องไม่พลาดหากมีเวลาเหลือ แนะนำเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์กษัตริย์บาวาเรียน (Museum Bavarian king)
พิพิธภัณฑ์กษัตริย์บาวาเรียน (Museum Bavarian king)
เป็นิพิพิธภัณฑ์ สถานที่จัดแสดงนิทรรศการของรัฐบาวาเรียน ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมด้านใน ซึ่งจัดแสดงได้ไว้ให้ศึกษาเรียนรู้อย่างน่าสนใจ
และจุดถ่ายรูปยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องแวะมานั่งพักผ่อนและถ่ายรูปก่อนเดินทางกลับก็คือ มาชมความงามริมทะเลสาบ Alpsee

ทะเลสาบ Alpsee หนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชมวิวชื่อดังอยู่ใกล้กับปราสาทน็อยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle)
Alpsee เป็นทะเลสาบในย่าน Ostallgäu ในแคว้นรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ห่างจาเมืองฟุสเซ็น (Füssen) ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 4 กิโลเมตร อยู่ใกล้กับปราสาท Neuschwanstein และ Hohenschwangau สถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงของเมืองนี้ 
 โดยทัศนียภาพเป็นอ่างน้ำใสราวกับกระจก สะท้อนเงาเป็นสีเขียวฟ้าคราม
 มองจากริมทะเลสาบไป จะเห็นเทือกเขามีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี alpsee lake füssen
 มองจากริมทะเลสาบไป จะเห็นเทือกเขามีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี
บริเวณโดยรอบมีที่นั่งพัก มีลานหญ้าให้นอนเล่น
นักเดินทางส่วนใหญ่ นิยมมานั่งพักผ่อนคลายความเมื่อยล้า จากการเดินไปชมปราสาทน็อยชวานสไตล์และปราสาทโฮเฮนชวานเกา ซึ่งใช้พลังขาค่อนข้างมาก เพราะเดินตลอด แต่ก่อนกลับทุกคนก็จะมาสลบ จบด้วยการนั่งพักชมวิวริมทะเลสาบแห่งนี้
ทะเลสาบ alpsee lake füssen
 หรือหากใครที่มีเวลาก็ไปเดินชมวิวตามมุมต่างๆก็ได้เช่นกัน
เนื่องจากมองจากทางเดินลงไป จะเห็นน้ำใสเป็นสีฟ้าคราม งดงามอร่ามจับใจเชียวล่ะ
หรือว่ามานั่งตามม้านั่งริมทะเลสาบ ก็งามวิลาสละไมอำพันเช่นกัน
 ริมทะเลสาบจะมีนกเป็นน้ำ นอนอาบแดดอบอุ่นอยู่บนลานหญ้าอันเขียวขจี
เป็ดน้ำแต่ละตัวก็ดูเป็นมิตรกับคนที่นี่นัก เพราะดูไม่ค่อยจะกลับคนเลย
 ส่วนนักท่องเที่ยวเอเชียส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นการถ่ายภาพเซลฟี่ ที่ต้องเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก ให้ระทึกระทวยหัวใจ เพราะไม่รู้จะมีโอกาสได้มาอีกเมื่อไหร่
 ดอกไม้ใบหญ้าเริ่มผลิดอกออกบาน รับฤดูกาล Spring Season อย่างเต็มที่ เพราะฤดูนี้อากาศไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป แต่มองไปทางใหนก็มีนักท่องเที่ยวมากมาย เป็นช่วง high Season ที่ยุโรปอย่างแท้จริง
ได้เวลาเดินทางกลับแล้วล่ะค่ะ  มารอขึ้นรถบัสที่ป้ายรถเมลล์จุดเดิมเหมือนตอนขามา
หลังจากที่ได้เที่ยวชมปราสาทน็อยชวานสไตล์ และดื่มด่ำบรรยากาศทะเลสาบ Alpsee แล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกลับแล้วล่ะค่ะ

ขากลับไปยังเมือง fussen ก็ไปขึ้นรถบัสโดยสารที่ป้ายขึ้นรถกลับที่เดิม เหมือนตอนขามาค่ะ จะมีคนไปรอกลับกันเยอะมากๆ ยิ่งช่วงเย็นๆยิ่งเยอะ
นั่งรถไฟออกจากเมือง Fussen มุ่งหน้ากลับเมือง Munich
ขากลับก็ไม่ต้องกังวล ว่าจะไม่มีที่นั่งอีกแล้ว เพราะที่นั่งว่างบานเลยล่ะค่ะ สามารถนั่งชมวิวเพลินๆยามเย็นๆ มองรถวิ่งเล๋นไปเรื่อยเปื่อย
 ตอนขากลับก็ไม่ต้องกังวล ว่าจะไม่มีที่นั่งอีกแล้ว เพราะที่นั่งว่างบานเลยล่ะค่ะ สามารถนั่งชมวิวเพลินๆยามเย็นๆ มองรถวิ่งเล๋นไปเรื่อยเปื่อย หรือจะหลับตา นอนตลอดทางก็ยังได้
เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงสถานีรถไฟเมืองมิวนิคโดยสวัสดิภาพ จบทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวรีวิวเที่ยวชมปราสาทน็อยชวานสไตล์
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงสถานีรถไฟเมืองมิวนิคโดยสวัสดิภาพ จบทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวรีวิวเที่ยวชมปราสาทน็อยชวานสไตล์และที่เที่ยวใกล้เคียง ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ค่ะ

หากเพื่อนๆคนใหนที่กำลังวางแผนไปเที่ยวเยอรมันตอนใต้ และมาเที่ยวมิวนิค ก็ลองปักหมุดแวะมาเที่ยวดูนะคะ หวังว่ารีวิวดังกล่าวน่าจะแนวและ Guideline นำทางอยู่ไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาดสิ่งใด ต้องขออภัยไว้ด้วยค่ะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆคนที่เสียสละเวลา คลิ๊กเข้ามาเปิดสไลด์เลื่อนดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะคะ....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
-------------------------------------------------------------
บทความบล็อกเที่ยวไปเรื่อยเปื่อยตามเมืองอื่นๆ มีดังนี้ 
แบ่งปันรีวิวเที่ยวฮัลล์สตัทด้วยตัวเอง มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกัน>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวฮัลล์สตัทด้วยตัวเองแบบชิลๆ เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยววิวสวยๆอะไรให้ชมบ้าง ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>> 

รีวิวพาชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพ เสพความรู้แบบไทยๆ ไปชมกันเลย>>
พารีวิวเที่ยวชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพ เสพความรู้แบบไทยๆ เดินชมในนิทรรศการจิ๋นซีฮ่องเต้ คลิ๊กดูรายละเอียดภาพรีวิวค่ะ>>>
หรือดูรายละเอียดที่ : http://bit.ly/2l05FdT
รีวิวแบกเป้เที่ยวเมืองอินสบรูค 2 วัน 1 คืน มีที่เที่ยวอะไรให้ชมบ้าง ตามไปดูกันค่ะ>>
แบ่งปันรีวิวแบกเป้เที่ยวอินส์บรูค 2 วัน 1 คืน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้ชื่นชมกันบ้าง ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>

รีวิวเที่ยวเมืองมิวนิค เดินชิคๆไปชมสถานที่สวยงามต่างๆ คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>
รีวิวแบกเป้เที่ยวเมืองมิวนิค เดินชิคๆไปชมสถานที่สวยงามต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปชมกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>
รีวิวเช่ารถมอเตอร์ไซต์ไปเที่ยวเมืองปราจีนบุรี ต้องไปฉิมพลีกันสักครั้งครา คลิ๊กดูรีวิว>>
เก็บตก แวะเที่ยวเมืองปราจีนบุรี เมืองที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน แต่ก็มีอะไรให้ยลตระการ ชื่นบานอุราอยู่ไม่น้อย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>>
เที่ยวนครนายกไม่มีรถส่วนตัว ก็เช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวไปทั่วได้ด้วยตัวเอง คลิ๊กดูรีวิว>>
รีวิวแบกเป้เที่ยวนครนายก ไม่มีรถส่วนตัว ก็เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับเที่ยวไปทั่วได้ใน 1 วันแบบชิลๆ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวจ้า>>>
รีวิวพาไปเที่ยวเมืองอูล์ม เมืองน่ารักที่ไม่เป็นแค่ทางผ่าน คลิ๊กดูสถานที่ท่องเที่ยวจ้า>>
แบ่งปันรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวพาไปเที่ยวเมืองอูล์ม(Ulm) เมืองน่ารัก ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน แต่ก็มีสถานที่ให้ยลตระการอยู่ไม่น้อย คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวจ้า>>
แบ่งปันรีวิวพาไปชมเมืองสตุทการ์ท มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปกันเลย>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวพาไปเที่ยวเมืองสตุทการ์ท มีประวัติศาสตร์น่าสนใจ มีที่เที่ยวอะไรให้ชมอีกบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวจ้า>>>
แบกเป้ท่องโลกกว้าง เดินทางไปเที่ยวกรุงเฮก มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันจ้า>>
ท่องโลกกว้าง เดินทางไกลไปเที่ยวในกรุงเฮก(Den haag) ไปดูสิว่ามีที่เที่ยวอะไรให้ชื่นชมบ้าง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น