|
กลับมาท่องโลกกว้างกันต่อค่ะ วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอขอเป็นบ้า มารีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวเมืองมิวนิค เดินชิคๆเยือนเยอรมันตอนใต้ มีสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดใจอะไรบ้าง ตามไปเที่ยวชมกันเลยจ้า (Munich city tourist attractions places travel recommend) |
ขอสวัสดีทักทาย ซำบายดีกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจกันทุกๆคนค่ะ ก็กลับมาอีกครั้งนะคะ สำหรับบทความบล็อกรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือนนี้ โดยทริปนี้ดิฉันขอมาบอกเล่า เก้าสิบ พาคุณผู้อ่านไปท่องโลกกว้างกันต่อค่ะ หลังจากที่ทริปรีวิวเที่ยวยุโรปตอนที่แล้ว เดี๊ยนได้พาคุณผู้อ่านไปเดินกินลม ชมเมืองอูมล์กันไปแล้ว ตามเว็ปไซต์ลิงค์ : เริ่มต้นการเดินทางทริปนี้ ต่อจากรีวิวตอนที่แล้วค่ะ :
https://08/backpack-to-travel-stuttgart-city-germany-tourist-attractions-places.html
และเพื่อไม่ให้เสียเวลา วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอขอเป็นคนบ้า มารีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยว พาคุณผู้อ่านไปเที่ยวเมืองมิวนิคกันค่ะ อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม ที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งของประเทศเยอรมัน เรียกว่าหากใครมาเที่ยวเยอรมัน หรือจะข้ามพรมแดน เริ่ดสะแมนแตนไปยังประเทศออสเตรีย ยังไงก็ต้องแวะมาเมืองมิวนิคก่อนทุกครั้ง
และที่ปังดังสุดๆ คงเป็นอาหารการกินท้องถิ่น มีขาหมูเยอรมันอันเลืองชื่อ ที่ใครๆมาถึงเมืองนี้แล้ว จำเป็นต้องลิ้มลองกินกันสักครั้ง นอกจากนี้ยังมี เบียร์บ่มในโรงเพาะไม้โอ๊ครสชาติดี และยังมีอาหารการกินทั้งคาวและหวาน อีกหลากหลายเมนูให้ทานกันอย่างสำราญใจ นอกจากนี้ยังเป็นสวรรค์ของนักเดินทางของนักแบกเป้ ทั่วสารทิศต้องแวะมาเดินชิคๆ ชิลๆกัน เนื่องจากเป็นเมืองทางใต้ มีพรมแดนติดกับประเทศออสเตรีย ซึ่งมีเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อไปยังอีกหลายประเทศในทวีปยุโรปอีกด้วย
หากจะเทียบเมืองมิวนิคว่าคล้ายภูมิภาคใหนของเมืองไทย เดี๊ยนคิดว่าน่าจะเป็นเมืองหาดใหญ่ค่ะ เพราะว่าตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ และเป็นฮับหรือเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย ใหนๆก็มาแวะมาเที่ยวถึงเมืองมิวนิคแล้ว ก็มารู้จักเมืองนี้กันสักเล็กน้อย พอสังเขปนะคะ
|
สาระเล็กๆน้อยเกี่ยวกับเมืองมิวนิค อ่านเป็นความรู้พอสังเขปค่ะ |
สาระเล็กๆน้อยเกี่ยวกับเมืองมิวนิค (Munich) อ่านเป็นความรู้พอสังเขปค่ะ
เมืองมิวนิค(Munich) หรือภาษาเยอรมันอ่านว่าเมืองมึนเชิน (เยอรมัน: München) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และยังเป็นเมืองหลวงขนาดใหญ่เป็นอันดับของประเทศ รองจากเมืองเบอร์ลินและอัมเบิรก โดยเมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ในแคว้นรัฐบาวาเรีย บนที่ราบสูงบาวาเรียน ห่างจากตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์ไปทางทิศเหนือ ประมาณ 50 กิโลเมตร โดยในเมืองมิวนิวนิคมีประชากรราว 2.7 ล้านคนในเขตเมือง และนอกเมืองอีกประมาณ 1.3 ล้านนา โดยภูมิศาสตร์ของตัวเมืองมีแม่น้ำอีซาร์ และยังมีแม่น้ำเวึอร์มไหลผ่าน
โดยเมืองมิวนิคยังเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจเข้มแข้งที่สุดในประเทศเยอรมนี มีท่าอากาศยายนานาชาติ ฟรันซ์ โยเซฟ ซเตราส์ เป็นสนามบินขนาดใหญ่เป็นอันดับสอง รองจากสามบินแฟรงค์เฟิร์ต เป็นเมืองอุตสาหกรรม และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ เป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีความเจริญและเศรษฐกิจติดหนึ่งในเมืองที่มั่งคั่งในทวีปยุโรป
สำหรับประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองมิวนิคนั้น สร้างขี้นเมื่อปี ค.ศ. 1158 เมื่อแคว้นบาวาเรียนรวมตัวกันสำเร็จใน ค.ศ. 1506 เมืองมิวนิคซึ่งเป็นเมืองขนาดเล็กในขณะนั้น จึงกลายเป็นเมืองหลวงขนาดใหญ่ของแคว้นบาวาเรีย โดยในปี ค.ศ.1806 เมืองแห่งนี้จัดได้จัดให้เป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรบาวาเรียที่สถาปนาใหม่ ในช่วงนั้นมิวนิคถือเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป และในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 หลังจากที่เมืองถูกโจมตี ทำให้ราชวงศ์ที่ปกครองมิวนิคได้หลบหนีไปอยู่เมืองอื่น จึงเปิดให้ลัทธิคอมมิวนิสต์ปกครองเมืองแทนในปี ค.ศ.1919 แต่ก็ปกครองได้ไม่นานนัก เนื่องจากถูกโค่นลมโดยกลุ่มนักการทหารไฟรคอร์ ได้เข้ามายึดเสียครองก่อน
|
ประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองมิวนิคนั้น สร้างขี้นเมื่อปี ค.ศ. 1158
เมื่อแคว้นบาวาเรียนรวมตัวกันสำเร็จใน ค.ศ. 1506
เมืองมิวนิคซึ่งเป็นเมืองขนาดเล็กในขณะนั้น |
และเมื่อปี ค.ศง 1923 อดอล์ฟ ฮิตเลอร์และพรรคนาซีพยายามเข้ายึกอำนาจการปกครองเมืองมิวนิคที่เรียกว่า กบฎโรงเบียร์ โดยการปฎิวัติได้เกิดการล้มเหลวขึ้น ส่งผลให้ฮิตเลอร์ ผู้นำในขณะนั้นถูกจับุม กิจกรรมของพรรคนาซีต้องหยุดลง ก่อนที่ฮิตเลอร์จะกลับมามีอำนาจอีกครั้งในปี ค.ศ. 1933 โดยที่ทำการใหญ่ของพรรคนาซีเยอรมันก็ตั้งอยู่ในเมืองมิวนิค
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองมิวนิคได้รับความเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากถูกระเบิดทิ้งถึง 71 ครั้งในช่วง 5 ปี หลังจากสหรัฐอเมริกายึกครองมิวนิคสำเร็จใน ค.ศ.1945 เมืองก็ถูกฟื้นฟูขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็วโดยมีประชากรเกิน 1 ล้านคนในปี ค.ศ.1957 และเมืองมิวนิคก็เคยจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิตขึ้นใน ปี ค.ศ.1972 ซึ่งการจัดงานแข่งขันกีฬาครั้งนั้นเกิดเหตุการณ์ ผู้ก่อการร้อยชาวปาเลสไตน์ ได้บุกเข้าไปสังหารนักกีฬาชาวอิสราเอล โดยปฎิบัติการช่วยเหลือตัวประกันในครั้งนั้น ส่งผลให้ตัวประกันชาวอิสราเอลเสียชีวิตทั้งหมด จึงถือเป็นโศกนาฏกรรมที่ร้ายรายที่สุดอีกแห่งของการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกด้วย
(เครดิตข้อมูลจาก :
https://th.wikipedia.org/wiki/มิวนิก)
เที่ยวมิวนิคช่วงใหนดีที่สุด แต่ละช่วงมีสภาพอากาศที่แตกต่างกันออกไป
ช่วงเดือนที่หนาวที่สุดคือมกราคม ที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ -1
องศาเซลเซียส (30 องศาฟาเรนไฮต์) หิมะจะปกคลุมอย่างน้อย 2 อาทิตย์ในฤดูหนาว
ส่วนในฤดูร้อนจะมีอากาศเย็นสบาย โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 23
องศาเซลเซียส (73 องศาฟาเรนไฮต์) โดยเดือนที่ร้อนที่สุดคือกรกฎาคม
ช่วงเวลาฤดูร้อนอยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน
- ช่วงเวลาท่องเที่ยวเมืองมิวนิคที่เหมาะสม ซึ่งเป็นนิยมของนักเดินทาง โดยนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป เนื่องจากเป็นฤดูดอกไม้ผลิบาน ต้นไม้ ใบหญ้า มีสีสันสวยงาม อากาศเย็นสบายๆ ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป แต่ถ้าเริ่มเข้ากลางเดือนมิถุนายน อากาศจะเริ่มร้อนมากๆ จะสิ้นสุดฤดูร้อนประมาณเดือนพฤศจิกายน และเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว High Season ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเมืองนี้กันมาก
- หากมาเที่ยวช่วงเดือนธันวาคม ถึงเดือนมีนาคมเป็นช่วงอากาศหนาวถึงหนาวจัด บางช่วงอาจมีฝนตกและเกิดหิมะได้ โดยเดือนที่อากาศหนาวเย็นที่สุด คือเดือนมกราคม แต่การมาเที่ยวเมืองมิวนิคฤดูหนาว ก็สวยงามเช่นกัน เนื่องจากไม่วุ่นวาย ไม่มีกรุ๊ปทัวร์นักท่องเที่ยวมากนัก แต่สถานทีท่องเที่ยวบางแห่งอาจจะปิดเร็วกว่ากำหนด ดังนั้นหากใครที่มาเที่ยวช่วงฤดู
|
แผนที่เส้นทางรถสาธารณะในเมืองมิวนิค แบ่งตามโซน 1-4 ตั้งรถไฟสาย S สาย U, รถราง Tram รถบัส |
การเดินทางเที่ยวในตัวเมืองมิวนิค เดินทางอย่างไร
- รถรางในเมือง หรือ Tram มีเส้นทางไปยังสถานที่ต่างๆในเมือง
- รถไฟใต้ดินที่ให้บริการเชื่อมต่อไปยังสถานีต่างๆในตัวเมือง และออกไปยังชานเมือง รถไฟสาย S สาย U แบ่งตามโซนตั้งแต่โซน 1-4
- รถบัสโดยสาร
- รถแท๊กซี
แต่ที่นิยมที่สุด ก็จะเป็นการเดินทางด้วยรถราง และรถไฟโดยสารในเมือง แต่ถ้าอยู่ในย่านใจกลางเมืองท่องเที่ยว นักเดินทางก็นิยมเดินเท้าเอาเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายค่ะ
หากมาเที่ยวเมืองมิวนิค จะพักแถวใหนดี ที่ใหนสะดวก
- แนะนำว่าในเมืองมิวนิค มีโรงแรมอยู่หลายแห่ง ตั้งแต่ที่พักราคาถูกหลักร้อย ไปจนถึงหลักพัน หลักหมื่น แต่โซนที่พักยอดนิยมสุดๆ ก็คงหนีไม่พ้น โรงแรมใกล้สถานีรถไฟมิวมิค เนื่องจากมีโรงแรมราคาไม่แพง ห้องราคาประหยัด และเดินทางได้สะดวกสบายอีกด้วย มีทั้งประเภทที่พักแบบโฮสเทล ห้องนอนรวม และห้องพักส่วนตัว และห้องพักแบบครอบครัวนอนกันได้หลายๆคนด้วย
- ส่วนใครที่จะพักโรงแรมแนวบูติค เรียบหรู สวยงาม แนะนำพักในย่านท่องเที่ยวใจกลางเมือง แถวจัตุรัสมาเรียนพลัน แต่ราคาก็ค่อนข้างแพงพอสมควร
หลังจากที่รู้จักเมืองมิวนิคแบบพอสังเขปกันไปแล้ว ก็มาดูรีวิวการเดินทางกันเลยค่ะ
ยืนขบวนรถไฟ ICE มาจอดเทียบท่ารับผู้โดยสารที่สถานีเมืองสตุทการ์ท
หากใครที่เดินทางช่วงเย็นๆ คนจะเยอะมากค่ะ
ทริปนี้ดิฉันเดินทางออกช่วง 4 โมงเย็น
รถไฟมาไม่ตรงเวลา ล่าช้าไปเล็กน้อย
หากใครที่จะเดินทาง เช็คเวลาตารางรถไฟได้ที่เว็ปไซต์ :
https://www.bahn.com/i/view/index.shtml
ซึ่งรถไฟความเร็วสูงขบวนนี้ จะมารับผู้โดยสารที่เมืองมิวนิค และเมืองถัดไปคือเมืองอูมล์ ซึ่งเป็นเมืองที่ได้เขียนรีวิวไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และเมืองออสบูรก ก่อยจะสิ้นสุดที่เมืองมิงนิคเป็นเมืองสุดท้าย
แต่โชคนี้ที่ยังมีที่นั่งเหลือว่างให้นั่งบ้าง ระหว่างนั่งก็ชมวิวทิวทัศน์ไร่องุ่นไปพลางๆ
แดดออกช่วงบ่าย 4 โมงเย็น ฟ้าใสแจ๋วแหว๋ว กว่าตอนเมื่อเช้ามากๆ
ท้องฟ้าแจ่มใสแบบนี้ มองไปยังท้องไร่นาที่รถไฟวิ่งผ่าน เห็นทุ่งดอกไม้สีเหลือง คล้ายดอกปอเทือง อร่ามเรืองรองผุดผ่องเป็นยองใยงามยิ่งนัก
ใช้เวลา 2 ชั่วโมงนิดๆก็มาถึงสถานีรถไฟเมืองมิวนิค (Munich Centra Station)
รถเทียบท่าจอดชานชลา หมายเลขเท่าไหร่ ก็ไม่ทราบ แต่เดินขาลากเหมือนกันนะคะ เพราะเดี๊ยนไปนั่งรถไฟอยู่เกือบท้ายๆของขบวนเลย
บรรยากาศภายในสถานีรถไฟใหญ่โฟ ดูทันสมัย จนตึกว่าเป็นสนามบินซ่ะอีก
มีร้านขายอาหารการกิน ฟาสฟู้ด และร้านซุปเปอร์มาร์เกตอีกด้วย
โดยทางออกจากสถานีรถไฟก็เชื่อมต่อไปยัง รถไฟใต้ดิน ไปสนามบิน
นั่งรถราง Tram และรถเมลล์โดยสารตามสายต่างๆ
|
สถานีรถไฟเมืองมิวนิค Munich Central Railway Station (München Hauptbahnhof) |
บรรยากาศช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็นกว่าๆ ดูคึกคักและวุ่นวายอยู่ไม่น้อย ดิฉันเดินออกจากสถานีรถไฟมาเพื่อตั้งหลักเปิด GPS เพื่อนำทางไปยังโรงแรมคืนนี้
เข้ามาเช็คอินน์เข้าห้องพัก แขกที่เข้าพักก็เห็นจะมีแต่นักแบกเป้เป็นส่วนใหญ่ค่ะ เพราะมาพักกันแค่คืนเดียวก็ไป
ส่วนทริปเที่ยวเมืองมิวนิคครั้งแรกของทริปยุโรปนี้ ดิฉันพักที่โรงแรมนี้ 3 คืนค่ะ
ที่
โรงแรมเดอะ ฟอร์ยู โฮสเทล แอนด์ โฮเต็ล มิวนิค (The 4You Hostel & Hotel Munich) ประตูห้องเป็นแบบคีย์การ์ดให้ นอกจากทางที่พักใจดี แจกบัตรคูปองแลกเครื่องดื่มฟรีมาให้ด้วยนะคะ สำหรับคนทีเข้าพัก 3 คืนขึ้นไป
อย่าลืมหยิบ Free map of Muninch หรือแผนที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองมิวนิคมาด้วยนะคะ
เพราะจะต้องเอาไปกางเปิดดูที่เที่ยวต่างๆในเมืองแห่งนี้ ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง
|
จากคำแนะนำของเจ้าหน้าที่โรงแรมบอกว่า จากแผนที่ในภาพ
สามารถเดินเท้าจากโรงแรมไปยังที่เที่ยวต่างๆในตัวเมืองได้
โดยไม่ต้องนั่งรถโดยสารสาธารณะให้เปลืองเงินค่ะ |
จากคำแนะนำของเจ้าหน้าที่โรงแรมบอกว่า จากแผนที่ในภาพ สามารถเดินเท้าจากโรงแรมไปยังที่เที่ยวต่างๆในตัวเมืองได้ โดยไม่ต้องนั่งรถโดยสารสาธารณะให้เปลืองเงินค่ะ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวย่านใจกลางเมืองแต่ละแห่งอยู่ติดๆกันเลย ยกเว้นหากสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆอยู่ออกจากย่านตัวเมืองไป ค่อยเลือกนั่งรถรางหรือรถสาธาณะแบบอื่นได้
โดยสามารถเริ่มต้นเที่ยวย่านใจกลางเมืองแถวมาเรียนพลาซ์ ก็สามารถเดินชมที่เที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจเป็นโบสถ์ พิพิธภัณฑ์ และไปหยุดพัก สิ้นสุดที่สวนอิงลิชการ์เดนได้ค่ะ เพราะแค่เดินเที่ยวย่านตัวเมืองก็ทั้งวันแล้วค่ะ
สำหรับห้องนอนที่โรงแรม เดี๊ยนได้พักอยู่ชั้น 6 ชั้นบนสุดเลยค่ะ แต่ดีที่มีลิฟท์ให้ ถ้าเป็นโรงแรมแบบบันใด มีหวังเดินขึ้นขาลาก เหมือนทริปแบกเป้ไปเที่ยวที่ปารีสแน่ๆเลยค่ะ
|
ห้องนอนรวมแนวโฮลเทล ราคาถูกในเมืองมิวนิค ใกล้สถานีรถไฟ เดินเท้าไปได้ใกล้ๆ ไม่ต้องแบกเป้ไปไกล |
ห้องพักแบบโฮสเทล เป็นห้องนอนรวมชายและหญิง
ในห้องมี 8 เตียง นอนในห้องเดียวกัน
|
ห้องนอนรวมแนวโฮลเทล ราคาถูกในเมืองมิวนิค ใกล้สถานีรถไฟ เดินเท้าไปได้ใกล้ๆ ไม่ต้องแบกเป้ไปไกล |
ส่วนเตียงของดิฉัน โชคดีทางที่พักจัดให้เตียงล่าง ตามที่ Request ขอไว้เลยค่ะ
ที่หัวเตียงมีไฟ และที่เสียบ USB และปลั๊กไฟให้ด้วย
|
ใต้เตียงนอน มีตู้ล็อกเกอร์ให้ด้วย แต่ไม่มีกุญแจให้นะคะ ต้องพกมาจากเมืองไทยเอง จะได้ไม่ต้องเสียสตังซื้อที่นี่ |
ส่วนใต้เตียงมีตู้ล็อกเกอร์ให้ค่ะ แต่ไม่มีแม่กุญแจให้นะคะ แนะนำว่าถ้าใครมาเที่ยวแถบยุโรป จะนอนโรงแรมราคาถูก ห้องนอนรวม พกแม่กุญแจมาด้วยจ้า
ในห้องพักต้องเปิดหน้าต่างตลอดค่ะ เพื่อระบายอากาศ เพราะถ้าไม่เปิด มีหวังเป็นลมแน่นอน เนื่องจากทั้งกลิ่นน้ำหอม ทั้งกลิ่นผ้าขนหนูอับชื่น ก็รัญจวนจิตมิน้อยเชียว
ส่วนห้องน้ำก็ไม่ได้มีห้องน้ำส่วนตัวในห้องพักเหมือนกับโรงแรมที่พักในเมืองสตุทการ์ทนะคะ ห้องน้ำจะแยกออกจากห้องพักมาด้านนอก เป็นห้องน้ำแบบ Share bath room หรือห้องน้ำใช่ส่วนรวม ถ้าคิวเยอะ ก็ต้องรอคิวๆค่ะ ถ้าใครปวดหนัก ก็ต้องอดทนไว้นะคะ หรือไม่ก็ต้องไปปลดทุกข์ด้านล่าง
หลังจากทำการเช็คอิน เอากระเป๋าไปไว้ที่ห้องพักเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาออกไปหาอะไรกินแล้วค่ะ
เดินเท้าจากโรงแรม
The 4You Hostel & Hotel Munich มาไม่ไกลนักประมาณ 300 เมตรมาย่านท่องเที่ยว
|
แหล่งท่องเที่ยวในเมืองมิวนิค |
เดินข้ามถนนเรื่อยๆ ก็มาที่ประตูสู่ย่านช็อปปิ้งท่องเที่ยวชื่อดังในเมืองมิวนิค เรียกว่าจตุรัส Karlsplatz มาที่แห่งนี้ เพื่อไปหาอาหารอร่อยๆรับประทานค่ะ
เดินจากจัตุรัสตรงประตู Karlsplatz ผ่าน จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ ก็มาถึงร้านอาหารชื่อดังของเมืองนี้แล้วค่ะ
|
แวะมาทานขาหมูเยอรมันสูตรต้นตำรับ ที่ร้าน Haxnbauer Restaurant ในเมืองมิวนิค |
แน่นอนว่ามาถึงเมืองมิวนิค เมืองหลวงของแคว้นบาวาเรียทั้งที ก็คงไม่พลาดมาลิ้มลองทานขาหมูเยอรมัน ฉบับต้นตำรับสักครั้งในชีวิต เพราะเคยได้ยินแต่ชื่อเสียง เรียงนามมาเสียนาน ทริปเที่ยวยุโรปครั้งนี้ บินข้ามน้ำทะเลมาจากเมืองไทยมาไกล ขอมาทานดูสักครั้ง ที่ร้านอาหาร Haxnbauer
|
บรรยากาศในร้านอาหาร Haxnbauer |
บรรยากาศในร้านอาหาร Haxnbauer ดูมีความยูนิค และแอนทีค เก่าแก่สมชื่อค่ะ
โต๊ะทีว่างอยู่ที่เห็นคือ มีคนจองไว้แล้ว
|
เพิ่มคำอธิบายภาพ |
มีภาพเจ้าของร้านผู้ก่อตั้งในเมนูอาหารด้วย
|
มื้อเย็นนี้มาลิ้มลองทานขาหมูเยอรมันต้นตำรับ ที่ร้าน Haxnbauer |
เมนูอาหารค่ำนี้ พิเศษกว่ามื้อก่อนๆมากนัก เพราะมากินถึงร้านอาหารเลย ปกติจะไปซื้อของสดตามร้านซุปเปอร์มาเกตไปทำกินที่ครัวของโรงแรมเอง มื้อนี้มาขาหมูเยอรมันราดซอส ทานกับ potato dumplings มันบดปั้นเป็นก้อนกลม
|
ทานขาหมูเยอรมันสูตรต้นตำรับ ที่ร้าน Haxnbauer Restaurant ในเมืองมิวนิค |
สำหรับรสชาติขาหมูที่ร้าน Haxnbauer Restaurant ไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่นัก เนื่องจากรสชาติค่อนข้างเค็มทีเดียว ส่วนหนังกรอบมากๆ แต่ยังดีที่ potato dumplings ไม่ค่อยเค็มมากนัก เลยกินแก้เลี่ยนได้ ต้องกินเนื้อๆด้านในติดกระดูก เนื้อจะไม่ค่อยเค็ม ส่วนเนื้อที่ติดกับหนังเค็มไปหน่อย ถ้าลดความเค็มลงได้ รสชาติคงจะดีต้องดีขึ้นแน่นๆ อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ สรุปค่าเสียหายอาหารมื้อนี้ หมดไป 22 ยูโร หากเพื่อนคนใหนอยากทานขาหมูเยอรมันร้านต้นตำรับ ก็มาทานกันได้ แนะนำสั่งอย่างอื่นทานแก้เลี่ยนด้วยก็ดีนะคะ
กินขาหมูจนอิ่มแล้ว ก็ออกมาเดินย่อยอาหาร ก่อนเข้านอนค่ะ ที่ย่านจตุรัสมาเรียนพลาสต์ Marienplatz ย่านช็อปปิ้งชื่อดัง เป็นถนนคนเดิน มีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นมากมายให้เลือกสรรกันตามใจชอบ
|
เครื่องแต่งกายเสื้อผ้าย้อนยุคโบราณของชาวเมืองมิวนิค ก็ดูน่ารักน่าซื้อเช่นกัน |
เครื่องแต่งกายเสื้อผ้าย้อนยุคโบราณของชาวเมืองมิวนิค ก็ดูน่ารักน่าซื้อเช่นกัน
เนื่องจากเป็นเครื่องแต่งกายประจำท้องถิ่นของแคว้นบาวาเรีย เวลามีงานเทศกาลสำคัญ ชาวเมืองมิวนิคก็จะพร้อมใจแต่งกายด้วยเสื้อผ้าประจำถิ่น ออกมาอวดเดินโฉมกัน
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองมิวนิค มีที่เที่ยวใหนน่าสนใจบ้าง วันนี้คุณนายเว่อร์ ขอมาสรุปพอสังเขป ให้เพื่อนๆที่กำลังวางแผนปักหมุดไปเที่ยวเมืองนี้อยู่ ได้ดูกันดังนี้ค่ะ
บรรยากาศในสวนอิงลิชการ์เดนช่วงวันหยุด คนเยอะมากๆ
ชาวเยอรมันในเมืองมิวนิคและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ออกมาสุขสันต์เริงภิรมย์ด้วยการมาพักผ่อน หาอะไรอร่อยทานกันในสวนแห่งนี้
ปลาย่างในเตาก็ดูน่าทาน แต่ราคาก็อลังการพอสมควร
ถ้าหากทานคนเดียวคงจะไม่หมดแน่นอน
|
อาหารกลางวันมื้อนี้ มาหยุดพักผ่อน ออนซอน กินนอนที่สวนอิงลิชการ์เดน ปิคนิคพกอาหารใส่กล่องมาทาน |
ส่วนอาหารมื้อกลางวันนี้ หากใครที่ไม่อยากเสียเวลา ไม่นั่งกินตามร้านอาหารให้เปลืองสตัง แนะนำพกอาหารปิคนิคใส่กล่องมาทานด้วยก็ดีค่ะ
อาหารมื้อนี้ มีกล้วย ขนมปังเพรทเซท ทานกับสลัดผัด อร่อยได้อีกในราคาไม่เกิน 7 ยูโร ซื้อมาจากซุปเปอร์เกตใกล้ๆที่พัก หรือในสถานีรถไฟก็ได้
|
เดินช๊อปปิ้งแถวจัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (Marienplatz)หาซื้อของฝากของที่ระลึกกันในย่านนี้ |
หรือจะไปเดินช็อปปิ้งที่จัตุรัสมาเรียนพลาสซ์ก็ได้
ย่านนั้นมีร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า ของแบรนด์เนม และงานแฮนเมดน่าสนใจหลายอย่าง
หรือจะซื้อของฝาก จำพวก ที่ติดตู้เย็น Magnet Postcart หรืออื่่นๆ ก็ได้รับความนิยมกันอย่างมากเลย
ร้านอาหารและคาเฟก็เปิดให้นักเดินทางมานั่งดื่มกันแบบชิลๆ
เมืองมิวนิคถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยงาม สมเป็นศูนย์กลางแห่งเยอรมันตอนใต้อย่างแท้จริง
เพราะใครๆก็ต้องมาหยุดแวะ เที่ยวฟรุ้งฟริ้งเมืองนี้อย่างไม่เสือมคลาย
จบทริปสรุปแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองมิวนิคค่ะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆท่านที่แวะเวียนเข้ามาสไลด์เลื่อนชมกัน หวังว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับท่านที่กำลังวางแผนแบกเป้ไปเที่ยวเยอรมันอยู่ไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาดประการใดด้วยค่ะ จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
-------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองบราติสลาวา เมืองหลวงประเทศสโลวาเกีย มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปเที่ยวชมดูสักครั้งสิ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวฮัลล์สตัทด้วยตัวเองแบบชิลๆ เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยววิวสวยๆอะไรให้ชมบ้าง ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>
แบ่งปันรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวพาไปเที่ยวเมืองอูล์ม(Ulm) เมืองน่ารัก ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน แต่ก็มีสถานที่ให้ยลตระการอยู่ไม่น้อย คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวจ้า>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวพาไปเที่ยวเมืองสตุทการ์ท มีประวัติศาสตร์น่าสนใจ มีที่เที่ยวอะไรให้ชมอีกบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวจ้า>>>
ท่องโลกกว้าง เดินทางไกลไปเที่ยวในกรุงเฮก(Den haag) ไปดูสิว่ามีที่เที่ยวอะไรให้ชื่นชมบ้าง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>
แบ่งปันรีวิวลุยเดี่ยวพาไปเที่ยวเมืองฮาร์เลม เมืองเล็กๆน่ารัก แวะไปพักเที่ยวชมดูสิ มีอะไรให้เช็คอินบ้าง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวเลยจ้า>>>
รีวิวแบกเป้พาไปเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัม ชื่นฉ่ำฤทัยใน 1 วัน เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปชมกันสิ คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวเลยจ้า>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองโคโลญด้วยตัวเอง ใน 1 วัน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไร ให้ชมชื่นรื่นฤทัยบ้างนั้น ตามไปดูกันสิ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวเลยจ้า>>>
เก็บตกกับรีวิวพาเที่ยวชมเทศกาลดอกทิวลิป งามระยิบที่สวนเคอเคนฮอฟ(Keukenhof Garden) เดินทางไปอย่างไร มีอะไรให้ชมบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองเก่าไฮเดลเบิร์กด้วยตัวเอง เดินทางไปอย่างไร มีที่เที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวเยอรมนี แวะไปฉิมพลีเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ไปดูสิเมืองใหญ่แห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>
0 ความคิดเห็น