Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

แบกเป้เที่ยวเมืองมิวนิค (Munich) เดินชิคๆหากินขาหมูเยอรมัน เริงสุขสันต์ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปดูสิ

กลับมาท่องโลกกว้างกันต่อค่ะ วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอขอเป็นบ้า มารีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวเมืองมิวนิค เดินชิคๆเยือนเยอรมันตอนใต้ มีสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดใจอะไรบ้าง ตามไปเที่ยวชมกันเลยจ้า (Munich city tourist attractions places travel recommend)
ขอสวัสดีทักทาย ซำบายดีกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจกันทุกๆคนค่ะ ก็กลับมาอีกครั้งนะคะ สำหรับบทความบล็อกรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือนนี้ โดยทริปนี้ดิฉันขอมาบอกเล่า เก้าสิบ พาคุณผู้อ่านไปท่องโลกกว้างกันต่อค่ะ หลังจากที่ทริปรีวิวเที่ยวยุโรปตอนที่แล้ว เดี๊ยนได้พาคุณผู้อ่านไปเดินกินลม ชมเมืองอูมล์กันไปแล้ว ตามเว็ปไซต์ลิงค์ : เริ่มต้นการเดินทางทริปนี้ ต่อจากรีวิวตอนที่แล้วค่ะ : https://08/backpack-to-travel-stuttgart-city-germany-tourist-attractions-places.html

และเพื่อไม่ให้เสียเวลา วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอขอเป็นคนบ้า มารีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยว พาคุณผู้อ่านไปเที่ยวเมืองมิวนิคกันค่ะ อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม ที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งของประเทศเยอรมัน เรียกว่าหากใครมาเที่ยวเยอรมัน หรือจะข้ามพรมแดน เริ่ดสะแมนแตนไปยังประเทศออสเตรีย ยังไงก็ต้องแวะมาเมืองมิวนิคก่อนทุกครั้ง

และที่ปังดังสุดๆ คงเป็นอาหารการกินท้องถิ่น มีขาหมูเยอรมันอันเลืองชื่อ ที่ใครๆมาถึงเมืองนี้แล้ว จำเป็นต้องลิ้มลองกินกันสักครั้ง นอกจากนี้ยังมี เบียร์บ่มในโรงเพาะไม้โอ๊ครสชาติดี และยังมีอาหารการกินทั้งคาวและหวาน อีกหลากหลายเมนูให้ทานกันอย่างสำราญใจ นอกจากนี้ยังเป็นสวรรค์ของนักเดินทางของนักแบกเป้ ทั่วสารทิศต้องแวะมาเดินชิคๆ ชิลๆกัน เนื่องจากเป็นเมืองทางใต้ มีพรมแดนติดกับประเทศออสเตรีย ซึ่งมีเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อไปยังอีกหลายประเทศในทวีปยุโรปอีกด้วย

หากจะเทียบเมืองมิวนิคว่าคล้ายภูมิภาคใหนของเมืองไทย เดี๊ยนคิดว่าน่าจะเป็นเมืองหาดใหญ่ค่ะ เพราะว่าตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ และเป็นฮับหรือเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย ใหนๆก็มาแวะมาเที่ยวถึงเมืองมิวนิคแล้ว ก็มารู้จักเมืองนี้กันสักเล็กน้อย พอสังเขปนะคะ


สาระเล็กๆน้อยเกี่ยวกับเมืองมิวนิค อ่านเป็นความรู้พอสังเขปค่ะ


สาระเล็กๆน้อยเกี่ยวกับเมืองมิวนิค (Munich) อ่านเป็นความรู้พอสังเขปค่ะ

เมืองมิวนิค(Munich) หรือภาษาเยอรมันอ่านว่าเมืองมึนเชิน (เยอรมัน: München) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และยังเป็นเมืองหลวงขนาดใหญ่เป็นอันดับของประเทศ รองจากเมืองเบอร์ลินและอัมเบิรก โดยเมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ในแคว้นรัฐบาวาเรีย บนที่ราบสูงบาวาเรียน ห่างจากตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์ไปทางทิศเหนือ ประมาณ 50 กิโลเมตร โดยในเมืองมิวนิวนิคมีประชากรราว 2.7 ล้านคนในเขตเมือง และนอกเมืองอีกประมาณ 1.3 ล้านนา โดยภูมิศาสตร์ของตัวเมืองมีแม่น้ำอีซาร์ และยังมีแม่น้ำเวึอร์มไหลผ่าน 

โดยเมืองมิวนิคยังเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจเข้มแข้งที่สุดในประเทศเยอรมนี มีท่าอากาศยายนานาชาติ ฟรันซ์ โยเซฟ ซเตราส์ เป็นสนามบินขนาดใหญ่เป็นอันดับสอง รองจากสามบินแฟรงค์เฟิร์ต เป็นเมืองอุตสาหกรรม และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ เป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีความเจริญและเศรษฐกิจติดหนึ่งในเมืองที่มั่งคั่งในทวีปยุโรป

สำหรับประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองมิวนิคนั้น สร้างขี้นเมื่อปี ค.ศ. 1158 เมื่อแคว้นบาวาเรียนรวมตัวกันสำเร็จใน ค.ศ. 1506 เมืองมิวนิคซึ่งเป็นเมืองขนาดเล็กในขณะนั้น จึงกลายเป็นเมืองหลวงขนาดใหญ่ของแคว้นบาวาเรีย โดยในปี ค.ศ.1806 เมืองแห่งนี้จัดได้จัดให้เป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรบาวาเรียที่สถาปนาใหม่ ในช่วงนั้นมิวนิคถือเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป และในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 หลังจากที่เมืองถูกโจมตี ทำให้ราชวงศ์ที่ปกครองมิวนิคได้หลบหนีไปอยู่เมืองอื่น จึงเปิดให้ลัทธิคอมมิวนิสต์ปกครองเมืองแทนในปี ค.ศ.1919 แต่ก็ปกครองได้ไม่นานนัก เนื่องจากถูกโค่นลมโดยกลุ่มนักการทหารไฟรคอร์ ได้เข้ามายึดเสียครองก่อน


ประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองมิวนิคนั้น สร้างขี้นเมื่อปี ค.ศ. 1158 เมื่อแคว้นบาวาเรียนรวมตัวกันสำเร็จใน ค.ศ. 1506 เมืองมิวนิคซึ่งเป็นเมืองขนาดเล็กในขณะนั้น
และเมื่อปี ค.ศง 1923 อดอล์ฟ ฮิตเลอร์และพรรคนาซีพยายามเข้ายึกอำนาจการปกครองเมืองมิวนิคที่เรียกว่า กบฎโรงเบียร์ โดยการปฎิวัติได้เกิดการล้มเหลวขึ้น ส่งผลให้ฮิตเลอร์ ผู้นำในขณะนั้นถูกจับุม กิจกรรมของพรรคนาซีต้องหยุดลง ก่อนที่ฮิตเลอร์จะกลับมามีอำนาจอีกครั้งในปี ค.ศ. 1933 โดยที่ทำการใหญ่ของพรรคนาซีเยอรมันก็ตั้งอยู่ในเมืองมิวนิค


ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองมิวนิคได้รับความเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากถูกระเบิดทิ้งถึง 71 ครั้งในช่วง 5 ปี หลังจากสหรัฐอเมริกายึกครองมิวนิคสำเร็จใน ค.ศ.1945 เมืองก็ถูกฟื้นฟูขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็วโดยมีประชากรเกิน 1 ล้านคนในปี ค.ศ.1957 และเมืองมิวนิคก็เคยจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิตขึ้นใน ปี ค.ศ.1972 ซึ่งการจัดงานแข่งขันกีฬาครั้งนั้นเกิดเหตุการณ์ ผู้ก่อการร้อยชาวปาเลสไตน์ ได้บุกเข้าไปสังหารนักกีฬาชาวอิสราเอล โดยปฎิบัติการช่วยเหลือตัวประกันในครั้งนั้น ส่งผลให้ตัวประกันชาวอิสราเอลเสียชีวิตทั้งหมด จึงถือเป็นโศกนาฏกรรมที่ร้ายรายที่สุดอีกแห่งของการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกด้วย
(เครดิตข้อมูลจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/มิวนิก)


เที่ยวมิวนิคช่วงใหนดีที่สุด แต่ละช่วงมีสภาพอากาศที่แตกต่างกันออกไป

ช่วงเดือนที่หนาวที่สุดคือมกราคม ที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ -1 องศาเซลเซียส (30 องศาฟาเรนไฮต์) หิมะจะปกคลุมอย่างน้อย 2 อาทิตย์ในฤดูหนาว ส่วนในฤดูร้อนจะมีอากาศเย็นสบาย โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 23 องศาเซลเซียส (73 องศาฟาเรนไฮต์) โดยเดือนที่ร้อนที่สุดคือกรกฎาคม ช่วงเวลาฤดูร้อนอยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน
- ช่วงเวลาท่องเที่ยวเมืองมิวนิคที่เหมาะสม ซึ่งเป็นนิยมของนักเดินทาง โดยนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป เนื่องจากเป็นฤดูดอกไม้ผลิบาน ต้นไม้ ใบหญ้า มีสีสันสวยงาม อากาศเย็นสบายๆ ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป แต่ถ้าเริ่มเข้ากลางเดือนมิถุนายน อากาศจะเริ่มร้อนมากๆ จะสิ้นสุดฤดูร้อนประมาณเดือนพฤศจิกายน และเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว High Season ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเมืองนี้กันมาก

- หากมาเที่ยวช่วงเดือนธันวาคม ถึงเดือนมีนาคมเป็นช่วงอากาศหนาวถึงหนาวจัด บางช่วงอาจมีฝนตกและเกิดหิมะได้ โดยเดือนที่อากาศหนาวเย็นที่สุด คือเดือนมกราคม แต่การมาเที่ยวเมืองมิวนิคฤดูหนาว ก็สวยงามเช่นกัน เนื่องจากไม่วุ่นวาย ไม่มีกรุ๊ปทัวร์นักท่องเที่ยวมากนัก แต่สถานทีท่องเที่ยวบางแห่งอาจจะปิดเร็วกว่ากำหนด ดังนั้นหากใครที่มาเที่ยวช่วงฤดู


แผนที่เส้นทางรถสาธารณะในเมืองมิวนิค แบ่งตามโซน 1-4 ตั้งรถไฟสาย S สาย U, รถราง Tram รถบัส


การเดินทางเที่ยวในตัวเมืองมิวนิค เดินทางอย่างไร

- รถรางในเมือง หรือ Tram มีเส้นทางไปยังสถานที่ต่างๆในเมือง
- รถไฟใต้ดินที่ให้บริการเชื่อมต่อไปยังสถานีต่างๆในตัวเมือง และออกไปยังชานเมือง รถไฟสาย S สาย U แบ่งตามโซนตั้งแต่โซน 1-4
- รถบัสโดยสาร
- รถแท๊กซี
แต่ที่นิยมที่สุด ก็จะเป็นการเดินทางด้วยรถราง และรถไฟโดยสารในเมือง แต่ถ้าอยู่ในย่านใจกลางเมืองท่องเที่ยว นักเดินทางก็นิยมเดินเท้าเอาเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายค่ะ

 หากมาเที่ยวเมืองมิวนิค จะพักแถวใหนดี ที่ใหนสะดวก
- แนะนำว่าในเมืองมิวนิค มีโรงแรมอยู่หลายแห่ง ตั้งแต่ที่พักราคาถูกหลักร้อย ไปจนถึงหลักพัน หลักหมื่น แต่โซนที่พักยอดนิยมสุดๆ ก็คงหนีไม่พ้น โรงแรมใกล้สถานีรถไฟมิวมิค เนื่องจากมีโรงแรมราคาไม่แพง ห้องราคาประหยัด และเดินทางได้สะดวกสบายอีกด้วย  มีทั้งประเภทที่พักแบบโฮสเทล ห้องนอนรวม และห้องพักส่วนตัว และห้องพักแบบครอบครัวนอนกันได้หลายๆคนด้วย

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดที่พักเมืองมิวนิคและเช็คราคาที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2lTeI0z


- ส่วนใครที่จะพักโรงแรมแนวบูติค เรียบหรู สวยงาม แนะนำพักในย่านท่องเที่ยวใจกลางเมือง แถวจัตุรัสมาเรียนพลัน แต่ราคาก็ค่อนข้างแพงพอสมควร
 

หลังจากที่รู้จักเมืองมิวนิคแบบพอสังเขปกันไปแล้ว ก็มาดูรีวิวการเดินทางกันเลยค่ะ



เริ่มต้นการเดินทางทริปนี้ ต่อจากรีวิวตอนที่แล้วค่ะ :https://khunnaiver.blogspot.com/2019/08/backpack-to-travel-stuttgart-city-germany-tourist-attractions-places.html
เริ่มต้นการเดินทางทริปนี้ ต่อจากรีวิวตอนที่แล้วค่ะ :https://khunnaiver.blogspot.com/2019/08/backpack-to-travel-stuttgart-city-germany-tourist-attractions-places.html
แบกเป้ลุยเดี่ยว นั่งรถไฟออกจากเมืองสตุทการ์ตมาที่สถานีรถไฟเมืองมิวนิค



ยืนขบวนรถไฟ ICE มาจอดเทียบท่ารับผู้โดยสารที่สถานีเมืองสตุทการ์ท
หากใครที่เดินทางช่วงเย็นๆ คนจะเยอะมากค่ะ

ทริปนี้ดิฉันเดินทางออกช่วง 4 โมงเย็น
รถไฟมาไม่ตรงเวลา ล่าช้าไปเล็กน้อย
หากใครที่จะเดินทาง เช็คเวลาตารางรถไฟได้ที่เว็ปไซต์ : https://www.bahn.com/i/view/index.shtml
ซึ่งรถไฟความเร็วสูงขบวนนี้ จะมารับผู้โดยสารที่เมืองมิวนิค และเมืองถัดไปคือเมืองอูมล์ ซึ่งเป็นเมืองที่ได้เขียนรีวิวไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และเมืองออสบูรก ก่อยจะสิ้นสุดที่เมืองมิงนิคเป็นเมืองสุดท้าย

แต่โชคนี้ที่ยังมีที่นั่งเหลือว่างให้นั่งบ้าง ระหว่างนั่งก็ชมวิวทิวทัศน์ไร่องุ่นไปพลางๆ
แดดออกช่วงบ่าย 4 โมงเย็น ฟ้าใสแจ๋วแหว๋ว กว่าตอนเมื่อเช้ามากๆ

ท้องฟ้าแจ่มใสแบบนี้ มองไปยังท้องไร่นาที่รถไฟวิ่งผ่าน เห็นทุ่งดอกไม้สีเหลือง คล้ายดอกปอเทือง อร่ามเรืองรองผุดผ่องเป็นยองใยงามยิ่งนัก
ใช้เวลา 2 ชั่วโมงนิดๆก็มาถึงสถานีรถไฟเมืองมิวนิค (Munich Centra Station)
รถเทียบท่าจอดชานชลา หมายเลขเท่าไหร่ ก็ไม่ทราบ แต่เดินขาลากเหมือนกันนะคะ เพราะเดี๊ยนไปนั่งรถไฟอยู่เกือบท้ายๆของขบวนเลย 
บรรยากาศภายในสถานีรถไฟใหญ่โฟ ดูทันสมัย จนตึกว่าเป็นสนามบินซ่ะอีก
มีร้านขายอาหารการกิน ฟาสฟู้ด และร้านซุปเปอร์มาร์เกตอีกด้วย
โดยทางออกจากสถานีรถไฟก็เชื่อมต่อไปยัง รถไฟใต้ดิน ไปสนามบิน
นั่งรถราง Tram และรถเมลล์โดยสารตามสายต่างๆ
สถานีรถไฟเมืองมิวนิค Munich Central Railway Station (München Hauptbahnhof)
บรรยากาศช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็นกว่าๆ ดูคึกคักและวุ่นวายอยู่ไม่น้อย ดิฉันเดินออกจากสถานีรถไฟมาเพื่อตั้งหลักเปิด GPS เพื่อนำทางไปยังโรงแรมคืนนี้



 จากสถานีรถไฟเมืองมิวนิค เดินมายังโรงแรมที่พักไม่ไกลนัก
 โดยที่พักคืนนี้ เลือกพักที่โรงแรมเดอะ ฟอร์ยู โฮสเทล แอนด์ โฮเต็ล มิวนิค (The 4You Hostel & Hotel Munich)
เป็นที่พักแนวโฮสเทล ราคาถูก ประหยัด ไม่แพง อยู่ใกล้สถานีรถไฟ เดินเท้าไปได้ สะดวกดี

 
 เข้ามาเช็คอินน์เข้าห้องพัก แขกที่เข้าพักก็เห็นจะมีแต่นักแบกเป้เป็นส่วนใหญ่ค่ะ เพราะมาพักกันแค่คืนเดียวก็ไป
พักที่โรงแรมนี้ 3 คืนค่ะที่ โรงแรมเดอะ ฟอร์ยู โฮสเทล แอนด์ โฮเต็ล มิวนิค (The 4You Hostel & Hotel Munich)
ส่วนทริปเที่ยวเมืองมิวนิคครั้งแรกของทริปยุโรปนี้ ดิฉันพักที่โรงแรมนี้ 3 คืนค่ะ
ที่ โรงแรมเดอะ ฟอร์ยู โฮสเทล แอนด์ โฮเต็ล มิวนิค (The 4You Hostel & Hotel Munich) ประตูห้องเป็นแบบคีย์การ์ดให้ นอกจากทางที่พักใจดี แจกบัตรคูปองแลกเครื่องดื่มฟรีมาให้ด้วยนะคะ สำหรับคนทีเข้าพัก 3 คืนขึ้นไป



อย่าลืมหยิบ Free map of Muninch หรือแผนที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองมิวนิคมาด้วยนะคะ
เพราะจะต้องเอาไปกางเปิดดูที่เที่ยวต่างๆในเมืองแห่งนี้ ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง


จากคำแนะนำของเจ้าหน้าที่โรงแรมบอกว่า จากแผนที่ในภาพ สามารถเดินเท้าจากโรงแรมไปยังที่เที่ยวต่างๆในตัวเมืองได้ โดยไม่ต้องนั่งรถโดยสารสาธารณะให้เปลืองเงินค่ะ
จากคำแนะนำของเจ้าหน้าที่โรงแรมบอกว่า จากแผนที่ในภาพ สามารถเดินเท้าจากโรงแรมไปยังที่เที่ยวต่างๆในตัวเมืองได้ โดยไม่ต้องนั่งรถโดยสารสาธารณะให้เปลืองเงินค่ะ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวย่านใจกลางเมืองแต่ละแห่งอยู่ติดๆกันเลย ยกเว้นหากสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆอยู่ออกจากย่านตัวเมืองไป ค่อยเลือกนั่งรถรางหรือรถสาธาณะแบบอื่นได้


โดยสามารถเริ่มต้นเที่ยวย่านใจกลางเมืองแถวมาเรียนพลาซ์ ก็สามารถเดินชมที่เที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจเป็นโบสถ์ พิพิธภัณฑ์ และไปหยุดพัก สิ้นสุดที่สวนอิงลิชการ์เดนได้ค่ะ เพราะแค่เดินเที่ยวย่านตัวเมืองก็ทั้งวันแล้วค่ะ

สำหรับห้องนอนที่โรงแรม เดี๊ยนได้พักอยู่ชั้น 6 ชั้นบนสุดเลยค่ะ แต่ดีที่มีลิฟท์ให้ ถ้าเป็นโรงแรมแบบบันใด มีหวังเดินขึ้นขาลาก เหมือนทริปแบกเป้ไปเที่ยวที่ปารีสแน่ๆเลยค่ะ
ห้องนอนรวมแนวโฮลเทล ราคาถูกในเมืองมิวนิค ใกล้สถานีรถไฟ เดินเท้าไปได้ใกล้ๆ ไม่ต้องแบกเป้ไปไกล
ห้องพักแบบโฮสเทล เป็นห้องนอนรวมชายและหญิง
ในห้องมี  8 เตียง นอนในห้องเดียวกัน 

 
ห้องนอนรวมแนวโฮลเทล ราคาถูกในเมืองมิวนิค ใกล้สถานีรถไฟ เดินเท้าไปได้ใกล้ๆ ไม่ต้องแบกเป้ไปไกล
 ส่วนเตียงของดิฉัน โชคดีทางที่พักจัดให้เตียงล่าง ตามที่ Request ขอไว้เลยค่ะ
ที่หัวเตียงมีไฟ และที่เสียบ USB และปลั๊กไฟให้ด้วย

 
ใต้เตียงนอน มีตู้ล็อกเกอร์ให้ด้วย แต่ไม่มีกุญแจให้นะคะ ต้องพกมาจากเมืองไทยเอง จะได้ไม่ต้องเสียสตังซื้อที่นี่
 ส่วนใต้เตียงมีตู้ล็อกเกอร์ให้ค่ะ แต่ไม่มีแม่กุญแจให้นะคะ แนะนำว่าถ้าใครมาเที่ยวแถบยุโรป จะนอนโรงแรมราคาถูก ห้องนอนรวม พกแม่กุญแจมาด้วยจ้า


 ในห้องพักต้องเปิดหน้าต่างตลอดค่ะ เพื่อระบายอากาศ เพราะถ้าไม่เปิด มีหวังเป็นลมแน่นอน เนื่องจากทั้งกลิ่นน้ำหอม ทั้งกลิ่นผ้าขนหนูอับชื่น ก็รัญจวนจิตมิน้อยเชียว

ส่วนห้องน้ำก็ไม่ได้มีห้องน้ำส่วนตัวในห้องพักเหมือนกับโรงแรมที่พักในเมืองสตุทการ์ทนะคะ ห้องน้ำจะแยกออกจากห้องพักมาด้านนอก เป็นห้องน้ำแบบ Share bath room หรือห้องน้ำใช่ส่วนรวม ถ้าคิวเยอะ ก็ต้องรอคิวๆค่ะ ถ้าใครปวดหนัก ก็ต้องอดทนไว้นะคะ หรือไม่ก็ต้องไปปลดทุกข์ด้านล่าง

หลังจากทำการเช็คอิน เอากระเป๋าไปไว้ที่ห้องพักเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาออกไปหาอะไรกินแล้วค่ะ

เดินเท้าจากโรงแรม The 4You Hostel & Hotel Munich มาไม่ไกลนักประมาณ 300 เมตรมาย่านท่องเที่ยว


 
แหล่งท่องเที่ยวในเมืองมิวนิค 



เดินข้ามถนนเรื่อยๆ ก็มาที่ประตูสู่ย่านช็อปปิ้งท่องเที่ยวชื่อดังในเมืองมิวนิค เรียกว่าจตุรัส Karlsplatz มาที่แห่งนี้ เพื่อไปหาอาหารอร่อยๆรับประทานค่ะ



เดินจากจัตุรัสตรงประตู Karlsplatz ผ่าน จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ ก็มาถึงร้านอาหารชื่อดังของเมืองนี้แล้วค่ะ
แวะมาทานขาหมูเยอรมันสูตรต้นตำรับ ที่ร้าน Haxnbauer Restaurant ในเมืองมิวนิค 

แน่นอนว่ามาถึงเมืองมิวนิค เมืองหลวงของแคว้นบาวาเรียทั้งที ก็คงไม่พลาดมาลิ้มลองทานขาหมูเยอรมัน ฉบับต้นตำรับสักครั้งในชีวิต เพราะเคยได้ยินแต่ชื่อเสียง เรียงนามมาเสียนาน ทริปเที่ยวยุโรปครั้งนี้ บินข้ามน้ำทะเลมาจากเมืองไทยมาไกล ขอมาทานดูสักครั้ง ที่ร้านอาหาร Haxnbauer

 
บรรยากาศในร้านอาหาร Haxnbauer
บรรยากาศในร้านอาหาร Haxnbauer ดูมีความยูนิค และแอนทีค เก่าแก่สมชื่อค่ะ
โต๊ะทีว่างอยู่ที่เห็นคือ มีคนจองไว้แล้ว 
เพิ่มคำอธิบายภาพ
มีภาพเจ้าของร้านผู้ก่อตั้งในเมนูอาหารด้วย
มื้อเย็นนี้มาลิ้มลองทานขาหมูเยอรมันต้นตำรับ ที่ร้าน Haxnbauer
เมนูอาหารค่ำนี้ พิเศษกว่ามื้อก่อนๆมากนัก เพราะมากินถึงร้านอาหารเลย ปกติจะไปซื้อของสดตามร้านซุปเปอร์มาเกตไปทำกินที่ครัวของโรงแรมเอง  มื้อนี้มาขาหมูเยอรมันราดซอส ทานกับ potato dumplings มันบดปั้นเป็นก้อนกลม
ทานขาหมูเยอรมันสูตรต้นตำรับ ที่ร้าน Haxnbauer Restaurant ในเมืองมิวนิค 
สำหรับรสชาติขาหมูที่ร้าน Haxnbauer Restaurant ไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่นัก เนื่องจากรสชาติค่อนข้างเค็มทีเดียว ส่วนหนังกรอบมากๆ แต่ยังดีที่ potato dumplings ไม่ค่อยเค็มมากนัก เลยกินแก้เลี่ยนได้ ต้องกินเนื้อๆด้านในติดกระดูก เนื้อจะไม่ค่อยเค็ม ส่วนเนื้อที่ติดกับหนังเค็มไปหน่อย ถ้าลดความเค็มลงได้ รสชาติคงจะดีต้องดีขึ้นแน่นๆ อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ สรุปค่าเสียหายอาหารมื้อนี้ หมดไป 22 ยูโร หากเพื่อนคนใหนอยากทานขาหมูเยอรมันร้านต้นตำรับ ก็มาทานกันได้ แนะนำสั่งอย่างอื่นทานแก้เลี่ยนด้วยก็ดีนะคะ

 กินขาหมูจนอิ่มแล้ว ก็ออกมาเดินย่อยอาหาร ก่อนเข้านอนค่ะ ที่ย่านจตุรัสมาเรียนพลาสต์ Marienplatz ย่านช็อปปิ้งชื่อดัง เป็นถนนคนเดิน มีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นมากมายให้เลือกสรรกันตามใจชอบ
เครื่องแต่งกายเสื้อผ้าย้อนยุคโบราณของชาวเมืองมิวนิค ก็ดูน่ารักน่าซื้อเช่นกัน

เครื่องแต่งกายเสื้อผ้าย้อนยุคโบราณของชาวเมืองมิวนิค ก็ดูน่ารักน่าซื้อเช่นกัน
เนื่องจากเป็นเครื่องแต่งกายประจำท้องถิ่นของแคว้นบาวาเรีย เวลามีงานเทศกาลสำคัญ ชาวเมืองมิวนิคก็จะพร้อมใจแต่งกายด้วยเสื้อผ้าประจำถิ่น ออกมาอวดเดินโฉมกัน

ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองมิวนิค มีที่เที่ยวใหนน่าสนใจบ้าง วันนี้คุณนายเว่อร์ ขอมาสรุปพอสังเขป ให้เพื่อนๆที่กำลังวางแผนปักหมุดไปเที่ยวเมืองนี้อยู่ ได้ดูกันดังนี้ค่ะ


Munich Tourist Attraction palace map แผนที่ท่องเที่ยวในเมืองมิวนิค
สำหรับที่เที่ยวน่าสนใจในตัวเมืองมิวนิคนั้น ทางพนักงานที่โรงแรมแนะนำดิฉันว่า สามารถเดินเท้าเที่ยวได้ด้วยตัวเองได้ง่ายๆ เนื่องจากที่เที่ยวแต่ละแห่งอยู่ติดๆกัน ทั้งนี้เพื่อจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายค่าเดินทางลง

ตามแผนที่ในภาพคือโซนย่านท่องเที่ยว โดยเริ่มต้นเดินจากสถานีรถไฟไป 300 เมตร ถ่ายรูปที่ประตูน้ำพุ Karlpatz จากนั้นก็เดินไปย่านจตุรัสมาเรียพลาสต์ Marienplatz ถ่ายรูปตึก New Town Hall ชมโบสถ์พระแม่มิวนิค


1.สวนฮอฟการ์เดน (Hofgarten) ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง ใกล้พระราชวังมิวนิค และสวนอิงลิชการ์เดน
1.สวนฮอฟการ์เดน (Hofgarten) บรรยากาศในสวนสวยงาม ตามทางเดินมีดอกม้ง ดอกไม้กำลผลิบานรับแรกแย้มของฤดูกาล Spring Season
1.สวนฮอฟการ์เดน (Hofgarten) ตามทางเดินมีดอกม้ง ดอกไม้กำลผลิบานรับแรกแย้มของฤดูกาล Spring Season
1.สวนฮอฟการ์เดน (Hofgarten) บรรยากาศภายในศาลาไม่เงียบเหงา เพราะกำลังมีคนเล่นดนตรี ช่วยปลุกเขย่า เร้าฤดีชื่นอุรา ช่ะช่ะช่าหัวใจยิ่งนักเชียว
1.สวนฮอฟการ์เดน (Hofgarten) บรรยากาศภายในศาลาไม่เงียบเหงา เพราะกำลังมีคนเล่นดนตรี ช่วยปลุกเขย่า เร้าฤดีชื่นอุรา ช่ะช่ะช่าหัวใจยิ่งนักเชียว
1.สวนฮอฟการ์เดน (Hofgarten)
1.สวนฮอฟการ์เดน (Hofgarten) เป็นหนึ่งในสวนสวยงามอีกแห่ง ตั้งอยู่ในใจกลางมิวนิกประเทศเยอรมนี โดยอยู่ใกล้กับ Residenz Munich คือพระราชวังมิวนิค และสวนอิงลิชการ์เดน Englischer Garten เป็นสวนขนาดเล็กจัดตกแต่งความสวยงาม ประดับประดาด้วยดอกไม้เมืองหนาว ทั้งไม้ดอก และไม้ประดับ มีบ่อน้ำพุ ศาลา และที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ 

 2.Karlsplatz เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ย่านใจกลางเมืองมิวนิค
2.Karlsplatz เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ย่านใจกลางเมืองมิวนิค
 2.Karlsplatz เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ย่านใจกลางเมืองมิวนิค
2.Karlsplatz เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ย่านใจกลางเมืองมิวนิคห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 300 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินมาได้ไม่ไกล บริเวณด้านหน้าเป็นลานน้ำพุ สวยงาม จึงเป็นจุดเช็คอิน ถ่ายภาพยอดนิยมอีกด้วย จัตุรัสนี้ได้รับการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า Karlsplatz ในปี 1797 หลังจากที่ Charles Theodore ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวบาวาเรีย ชาวมิวนิกชาวพื้นเมืองไม่ค่อยใช้ชื่อนี้เรียก Stachus แทน Stachus

3.จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (Marienplatz) เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงมิวนิค
3.จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (Marienplatz) เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงมิวนิค
3.จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (Marienplatz) เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงมิวนิค
3.จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (Marienplatz) เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงมิวนิค
3.จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (Marienplatz) มารีเอินพลัทซ์ หรือ จัตุรัสพระแม่มารี เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงมิวนิค เป็นจัตุรัสอยู่ใจกลางเมืองของนครมิวนิกสร้างขึ้น ค.ศ. 1158 และยังเป็นที่ตั้งของ มารีเอินซ็อยเลอ หรือเสาอนุสรณ์พระแม่มารีซึ่งตั้งตระหง่านที่จัตุรัสแห่งนี้มาตั้งแต่ ค.ศ. 1638 บริเวณโดยรอบมีอาคาร New Town Hall ซึ่งเป็นอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่สวยงามที่สุดอีกแห่งของเยอรมัน และเป็นจุดนัดพบ จุดเช็คอินถ่ายภาพของนักท่องเที่ยวทั่วสารทิศ ทั้งในและต่างประเทศ

4.อาคาร New Town Hall ถือเป็นศาลาว่าการเมืองหลังใหม่เมืองมิวนิค ตั้งอยู่จัตุรัสมาเรียนพลาสซ์
4.อาคาร New Town Hall ถือเป็นศาลาว่าการเมืองหลังใหม่เมืองมิวนิค ตั้งอยู่จัตุรัสมาเรียนพลาสซ์
4.อาคาร New Town Hall ถือเป็นศาลาว่าการเมืองหลังใหม่เมืองมิวนิค ตั้งอยู่จัตุรัสมาเรียนพลาสซ์
4.อาคาร New Town Hall ถือเป็นศาลาว่าการเมืองหลังใหม่เมืองมิวนิค ตั้งอยู่จัตุรัสมาเรียนพลาสซ์
4.อาคาร New Town Hall ถือเป็นศาลาว่าการเมืองหลังใหม่เมืองมิวนิค ตั้งอยู่จัตุรัสมาเรียนพลาสซ์
4.อาคาร New Town Hall ถือเป็นศาลาว่าการเมืองหลังใหม่เมืองมิวนิค ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (Marienplatz) ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรม ซึ่งมีต้นแบบมาจากบรัสเซลส์ซิตี้ฮอลล์ที่สร้างแบบนีโอโกธิค ตัวอาคารจึงสวยงาม หรูหรากลายเป็นเอกลักษณ์คู่กับจัตุรัสประวัติความเป็นมาก่อนจะเป็นศาลากลางหลังนี้

โดยสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1867 และมีการพัฒนาปรับปรุงพัฒนามาเรื่อย จนที่สุดมีการสร้างศาลากลางหลังใหม่ และในค.ศ.1944 ช่วงมีสงครามโลกอาคารแห่งนี้ก็ได้ถูกทำลายลง  จนหลังสงครามโลนจึงต้องมีการซ่อมแซมและสร้างเพิ่มเติม จนกลายมาเป็นศาลากลางเช่นปัจจุบันอาคารหลังนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ๋ มีห้องทั้งหมดถึง 400 ห้อง โดยเป็นห้องประชุม อาคารแห่งนี้เลยจึงเป็นอาคารประชุมที่สำคัญประจำเมืองมิวนิค จุดเด่นที่สำคัญของอาคารแห่งนี้ คือมีนาฬิกาที่สวยงามประดับอยู่ตรงหน้ามุข ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำอีกด้วย
 5.โบสถ์แม่พระมิวนิก หรืออาสนวิหารมิวนิค (Munich Cathedral of Our Dear Lady)
 5.โบสถ์แม่พระมิวนิก หรืออาสนวิหารมิวนิค (Cathedral of Our Dear Lady)
 5.โบสถ์แม่พระมิวนิก หรืออาสนวิหารมิวนิค (Cathedral of Our Dear Lady)
 5.โบสถ์แม่พระมิวนิก หรืออาสนวิหารมิวนิค (Cathedral of Our Dear Lady) ส่วนภาษาเยอรมัน เยอรมัน: Frauenkirche München; บ้างก็เรียกว่า อาสนวิหารมิวนิก เป็นโบสถ์คริสต์ระดับอาสนวิหารของนิกายโรมันคาทอลิกในเมืองมิวนิค โดยโบสถ์แห่งนี้มีประวัติย้อนไปถึงก่อนศตวรรษที่ 12 โดยอาคารหลักแรกเป็นอาคารสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ ก่อนที่จะถูกรื้อสร้างใหม่ในปลายศตวรรษที่ 15 ซึ่งอาคารหลังปัจจุบันสร้างขึ้นระหว่างปีค.ศ. 1468—1488 ตามสถาปัตยกรรมกอทิกผสมเรอแนซ็องส์ ตัวอาคารมีความกว้าง 40 และยาว 109 เมตร หอคอยมีความสูง 99 เมตร ภายในสามารถจุคนยืนได้นับหมื่นคน โบสถ์แห่งนี้ถือเป็นจุดหมายตาและสัญลักษณ์ของนครมิวนิกในฐานะเมืองหลวงของรัฐบาวาเรียอีกด้วย จึงเป็นโบราณสถานที่สำคัญและเป็นหนึ่งในสถานที่ของคริสต์ศาสนิกชนเข้ามาชมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่มาเมืองนี้ด้วย
เครดิต : https://th.wikipedia.org/wiki/โบสถ์แม่พระมิวนิก
6.โรงละครแห่งชาติมิวนิก
6.โรงละครแห่งชาติมิวนิก
6.โรงละครแห่งชาติมิวนิก เป็นอาคารโรงละครโอเปร่าเก่าแก่ของเมืองมิวนิค จัดแสดงโอเปร่าบาวาเรียสเตทสเตท และบัลเล่ต์รัฐบัลเล่ต์ รวมทั้งงานการแสดงสำคัญต่างๆของเมือง
7.โบสถ์เธียไทน์ Theatine Church of St. Cajetan
7.โบสถ์เธียไทน์ Theatine Church of St. Cajetan
7.โบสถ์เธียไทน์ Theatine Church of St. Cajetan เป็นโบสถ์คาทอลิกในมิวนิกทางตอนใต้ของเยอรมนี สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1663 อาคารเก่าแก่สถาปัตยกรรมสวยงาม สีเหลืองอ่อน อยู่ใกล้ๆกับลาน Felherrnhalle
8.Feldherrnhalle เป็นลานขนาดใหญ่บน Odeonsplatz ณ นครหลวงมิวนิค
8.Feldherrnhalle เป็นลานขนาดใหญ่บน Odeonsplatz ณ นครหลวงมิวนิค
8.Feldherrnhalle เป็นลานขนาดใหญ่บน Odeonsplatz ณ นครหลวงมิวนิค สร้างขึ้นภายหลังจาก Loggia dei Lanzi ในฟลอเรนซ์โดยกษัตริย์ลุดวิกที่ 1 แห่งบาวาเรียได้รับมอบอำนาจให้เป็นเกียรติแก่ประเพณีของกองทัพบาวาเรีย ปัจจุบันเป็นโบราณสถานที่สำคัญของเมืองมิวนิค มีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอย่างไม่ขาดสาย โดยอยู่ในเขตย่านท่องเที่ยวเมืองเก่า ใกล้ๆกับพระราชวังมิวนิค
9.พระราชวังเรสซิเดนซ์ มิวนิก (Münchner Residenz Museum)
9.พระราชวังเรสซิเดนซ์ มิวนิก (Münchner Residenz Museum)
9.พระราชวังเรสซิเดนซ์ มิวนิก (Münchner Residenz Museum)
9.พระราชวังเรสซิเดนซ์ มิวนิก (Münchner Residenz Museum)
9.พระราชวังเรสซิเดนซ์ มิวนิก (Münchner Residenz Museum)
9.พระราชวังเรสซิเดนซ์ มิวนิก (Münchner Residenz Museum) เป็นอดีตพระราชวังหลวงของอดีตราชอาณาจักรบาวาเรีย ตั้งอยู่ใจกลางนครมิวนิก พระราชวังแห่งนี้ถือเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี ปัจจุบันได้เปิดให้สาธารณชนเข้าเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมในพระราชวัง ซึ่งมีการจัดแสดงของตกแต่งและของสะสมของอดีตกษัตริย์บาวาเรียอาคารเริ่มก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1385

หลังจากนั้นพระราชวังก็ได้รับการต่อเติมจากกษัตริย์บาวาเรียหลายพระองค์เรื่อยมา มีห้องจัดแสดงถึง 130 ห้อง โดยมีอาคารหลักอยู่สามแห่งคือ "เคอนิกส์เบา" (Königsbau) "อัลเทอเรซิเดนซ์" (Alte Residenz) และ "เฟสท์ซาลเบา" (Festsaalbau) จึงเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจอีกแห่งของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมิวนิค
10.สวนอิงลิชการ์เดน (Munich English Garden) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ในเมืองมิวนิค ที่นักท่องเที่ยวต้องมาเดินพักผ่อนชิคแอนด์ชิลกัน หลังจากเมื่อยล้าจากการเดินเที่ยวที่ต่างๆ ก็จะมาจบที่สวนแห่งนี้
10.สวนอิงลิชการ์เดน (Munich English Garden)
10.สวนอิงลิชการ์เดน (English Garden)
10.สวนอิงลิชการ์เดน (English Garden) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ในเมืองมิวนิค ที่นักท่องเที่ยวต้องมาเดินพักผ่อนชิคแอนด์ชิลกัน หลังจากเมื่อยล้าจากการเดินเที่ยวที่ต่างๆ ก็จะมาจบที่สวนแห่งนี้
10.สวนอิงลิชการ์เดน (Munich English Garden)
10.สวนอิงลิชการ์เดน (English Garden) (เยอรมัน: Englischer Garten) หรือสวนอังกฤษ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในนครมิวนิก มีพื้นที่กว่า 2,331 ไร่ เป็นหนึ่งในแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของชาวเมืองและนักท่องเที่ยวก็นิยมมาที่นี้ด้วย เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากย่านท่องเที่ยว สามารถเดินเท้าจากพระราชวังมิวนิคมาได้

ภายในสวนมีถนนและทางเดินความยาวรวมกันกว่า 75 กิโลเมตร ถือเป็นหนึ่งในบรรดาสวนสาธารณะกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1789 โดยเซอร์เบนจามิน ทอมป์สัน เพื่อถวายแด่คาร์ล เทโอดอร์ เจ้าผู้คัดเลือกแห่งบาวาเรีย ส่วนสาเหตุที่เรียกว่าสวนอังกฤษ เนื่องจากสวนแห่งนี้มีการจัดภูมิทัศน์ธรรมชาติแบบเดียวกับที่กำลังนิยมในประเทศอังกฤษ ใชช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 สวนแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของนก 50–60 สายพันธุ์ จัดเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ มีธรรมชาติที่ยังอนุรักษ์ไว้อย่างดี มีความสวยงาม
11.พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace) สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในเมืองมิวนิค ที่ใครๆก็ต้องมาชิคแอนด์ชิล ถ่ายรูปวิวสวยๆ พร้อมกับความรุ่มระรวยอลังการของพระราชวังใหญ่โตแห่งนี้สักครั้ง
11.พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace)
11.พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace) บรรยากาศภายในสวนช่วงเริ่มต้นฤดูกาลดอกไม้ผลิบาน Spring Season
11.พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace)
11.พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace) (ภาษาเยอรมัน: Schloss Nymphenburg)หนึ่งในพระราชวังขนาดใหญ่ โอ่อ่า หรูหรา ไม่แพ้พระราชวังอื่นๆในทวีปยุโรป ตั้งอยู่ในเมืองมิวนิค ห่างจากย่านใจกลางเมืองประมาณ 6 กิโลเมตร โดยผู้ริเริ่มสร้างปราสาทพระราชวังแห่งนี้ขึ้นคือ เฟอร์ดินานด์ มาเรีย เจ้านครรัฐผู้คัดเลือกแห่งบาวาเรียในขณะนั้น (Ferdinand Maria) และ เฮนเรียตตา อเดลเลดแห่งซาร์วอย ( Henriette Adelaide) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1662 ตามแบบสถาปัตยกรรมอากอสติโน บาเรลลี และหลังจากมีพระโอรสองค์แรก พระนามว่าซิมิเลียนที่ 2 เอ็มมานูเอล(Max Emanuel) จนสร้างส่วนกลางของวังสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1675 ก็ทรงขยายพระราชวังเเห่งนี้ออกไปเรื่อยอีกกว้างขวาง เนื่องจากมีพื้นที่ขนาดใหญ่ ภายในมีการตกเเต่งในรูปเเบบของสถาปัตยกรรมเเบบฝรั่งเศส
โดยพระราชวัง Nymphenburg Palace เป็นพระราชวังขนาดใหญ่ที่ออกแบบในสไตล์บาร็อกที่มีความสวยงามอย่างมาก
โดยพระราชวัง Nymphenburg Palace เป็นพระราชวังขนาดใหญ่ที่ออกแบบในสไตล์บาร็อกที่มีความสวยงามอย่างมาก โดยภายในสวนมีความโดดเด่นไปด้วยน้ำพุขนาดใหญ่ มีลำคลอง และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าทางเข้าพระราชวัง ทางเดินสวนประดับประดาด้วยไม้ดอก และไม้ประดับสวยงาม

และจุดเด่นของพระราชวังนั้นอยู่บริเวณแกรนด์ฮอล์ มีภาพวาดที่สวยงาม และภายในอาคารของพระราชวัง จัดแสดงนิทรรศการประวัติความมาเป็นของพระราชวัง จัดแสดงห้องบรรทม (ห้องนอน) ห้องแต่งตัว สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆไว้ นับได้ว่าเป็นที่สนใจจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้าชมเป็นอย่างมาก
11.พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace) บุคคลสำคัญในพระราชวังแห่งนี้ Ludwig II
11.พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace) ห้องจัดแสดงนิทรรศการความรู้ในพระราชวัง
11.พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace) บรรยากาศโดยรอบหน้าพระราชวังเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยฝูงหงส์สีขาว ออกมาสกาวว่ายน้ำรอต้อนรับนักท่องเที่ยว
และภายในพระราชวังมีพิพิธภัณฑ์รถม้า มีการจัดแสดงรถม้าแบบต่างๆ ทั้งรถม้าเลื่อน รถลาก และวิวัฒนการต่างๆมากมายที่น่าสนใจในยุคนั้น โดยรถม้าดังกล่าวเป็นของกษัตริย์ลูดวิกที่ 2 (Ludwig II) ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์รถม้าแห่งเดียวของประเทศเยอรมันอีกด้วย จึงเป็นพระราชวังที่รวบรวมจัดแสดงประวัติศาสตร์และความสำคัญไว้เป็นอย่างดี  โดยพิพิธภัณฑ์เปิดให้เช้าชมทุกวัน ค่าเข้าชมช่วงเดือนเมษายน - ตุลาคมราคาอยู่ที่คนละ 11.5 ยูโร

11.โบสถ์คาทอลิก Heiliggeiskirche
11.โบสถ์คาทอลิก Heiliggeiskirche
11.โบสถ์คาทอลิก Heiliggeiskirche โบสถ์เก่าแก่ในย่านท่องเที่ยวใกล้ๆกับจตุรัสมาเรียนพลัสซ์
ซึ่งมีนักท่องเที่ยวออกมาช๊อปิ้ง ใกล้ๆกันก็เป็นตลาดอีกด้วย
 ส่วนอาคารที่เห็นอยู่นี้คือ อาคารสำนักงานบริหารของรัฐบาวาเรียน ในเมืองมิวนิค อยู่ใกล้กับพระราชวังมิวนิค อย่านท่องเที่ยวชื่อดัง
 หากใครที่เดินผ่าน ก็คิดว่าน่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์อย่างแน่นอน เพราะใหญ่โตกว่าพระราชวังซ่ะอีก
บรรยากาศโดยรอบอาคารสำนักงานบริหารของรัฐบาวาเรียนก็ตกแต่งสวนสไตล์ฝรั่งเศส มีต้นไม้ ใบหญ้า สวยงามตามแบบฉบับของยุโรป
 ช่วงกลางวัน แดดร้อนๆ ไอศครีมขายดีมากๆ ราคาถ้วยละ 2.9 ยูโร คนต่อคิวเข้าแถวรอซื้อกันเยอะเลย
คนขายยิ้มตลอดทั้งวัน เพราะเงินเต็มกระเป๋า
 
บรรยากาศในสวนอิงลิชการ์เดนช่วงวันหยุด คนเยอะมากๆ
ชาวเยอรมันในเมืองมิวนิคและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ออกมาสุขสันต์เริงภิรมย์ด้วยการมาพักผ่อน หาอะไรอร่อยทานกันในสวนแห่งนี้

 
ปลาย่างในเตาก็ดูน่าทาน แต่ราคาก็อลังการพอสมควร
ถ้าหากทานคนเดียวคงจะไม่หมดแน่นอน

 
อาหารกลางวันมื้อนี้ มาหยุดพักผ่อน ออนซอน กินนอนที่สวนอิงลิชการ์เดน ปิคนิคพกอาหารใส่กล่องมาทาน
 ส่วนอาหารมื้อกลางวันนี้ หากใครที่ไม่อยากเสียเวลา ไม่นั่งกินตามร้านอาหารให้เปลืองสตัง แนะนำพกอาหารปิคนิคใส่กล่องมาทานด้วยก็ดีค่ะ
อาหารมื้อนี้ มีกล้วย ขนมปังเพรทเซท ทานกับสลัดผัด อร่อยได้อีกในราคาไม่เกิน 7 ยูโร ซื้อมาจากซุปเปอร์เกตใกล้ๆที่พัก หรือในสถานีรถไฟก็ได้


เดินช๊อปปิ้งแถวจัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (Marienplatz)หาซื้อของฝากของที่ระลึกกันในย่านนี้
 หรือจะไปเดินช็อปปิ้งที่จัตุรัสมาเรียนพลาสซ์ก็ได้
ย่านนั้นมีร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า ของแบรนด์เนม และงานแฮนเมดน่าสนใจหลายอย่าง
หรือจะซื้อของฝาก จำพวก ที่ติดตู้เย็น Magnet Postcart หรืออื่่นๆ ก็ได้รับความนิยมกันอย่างมากเลย 


ร้านอาหารและคาเฟก็เปิดให้นักเดินทางมานั่งดื่มกันแบบชิลๆ
เมืองมิวนิคถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยงาม สมเป็นศูนย์กลางแห่งเยอรมันตอนใต้อย่างแท้จริง
เพราะใครๆก็ต้องมาหยุดแวะ เที่ยวฟรุ้งฟริ้งเมืองนี้อย่างไม่เสือมคลาย

จบทริปสรุปแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองมิวนิคค่ะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆท่านที่แวะเวียนเข้ามาสไลด์เลื่อนชมกัน หวังว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับท่านที่กำลังวางแผนแบกเป้ไปเที่ยวเยอรมันอยู่ไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาดประการใดด้วยค่ะ จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
-------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ 
แบ่งปันรีวิวนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองบราติสลาวา 1 วัน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองบราติสลาวา เมืองหลวงประเทศสโลวาเกีย มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปเที่ยวชมดูสักครั้งสิ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>

แบ่งปันรีวิวเที่ยวฮัลล์สตัทด้วยตัวเอง มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกัน>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวฮัลล์สตัทด้วยตัวเองแบบชิลๆ เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยววิวสวยๆอะไรให้ชมบ้าง ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>> 

รีวิวพาไปเที่ยวเมืองอูล์ม เมืองน่ารักที่ไม่เป็นแค่ทางผ่าน คลิ๊กดูสถานที่ท่องเที่ยวจ้า>>
แบ่งปันรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวพาไปเที่ยวเมืองอูล์ม(Ulm) เมืองน่ารัก ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน แต่ก็มีสถานที่ให้ยลตระการอยู่ไม่น้อย คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวจ้า>>
แบ่งปันรีวิวพาไปชมเมืองสตุทการ์ท มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปกันเลย>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวพาไปเที่ยวเมืองสตุทการ์ท มีประวัติศาสตร์น่าสนใจ มีที่เที่ยวอะไรให้ชมอีกบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวจ้า>>>
แบกเป้ท่องโลกกว้าง เดินทางไปเที่ยวกรุงเฮก มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันจ้า>>
ท่องโลกกว้าง เดินทางไกลไปเที่ยวในกรุงเฮก(Den haag) ไปดูสิว่ามีที่เที่ยวอะไรให้ชื่นชมบ้าง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>
รีวิวแบกเป้พาไปเที่ยวเมืองฮาร์เลม เมืองเล็กๆน่ารัก ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน คลิ๊กดูรีวิว>>
แบ่งปันรีวิวลุยเดี่ยวพาไปเที่ยวเมืองฮาร์เลม เมืองเล็กๆน่ารัก แวะไปพักเที่ยวชมดูสิ มีอะไรให้เช็คอินบ้าง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวเลยจ้า>>>
แบกเป้รีวิวพาเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัม เมืองนี้มีอะไรให้ดื่มด่ำฤทัยบ้าง ตามไปดูกันสิ>>
รีวิวแบกเป้พาไปเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัม ชื่นฉ่ำฤทัยใน 1 วัน เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปชมกันสิ คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวเลยจ้า>>>
แบ่งปันรีวิวแบกเป้เที่ยวเมืองโคโลญใน 1 วัน มีที่เที่ยวอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลยจ้า>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองโคโลญด้วยตัวเอง ใน 1 วัน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไร ให้ชมชื่นรื่นฤทัยบ้างนั้น ตามไปดูกันสิ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวเลยจ้า>>>
รีวิวพาชมเทศกาลดอกทิวลิปที่สวนเคอเคนฮอฟ มีอะไรให้ชมบ้าง คลิ๊กดูที่เที่ยว>>
เก็บตกกับรีวิวพาเที่ยวชมเทศกาลดอกทิวลิป งามระยิบที่สวนเคอเคนฮอฟ(Keukenhof Garden) เดินทางไปอย่างไร มีอะไรให้ชมบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า>>>
แบ่งปันรีวิวการเดินทางไปเที่ยวเมืองเก่าไฮเดลเบิร์กด้วยตัวเอง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองเก่าไฮเดลเบิร์กด้วยตัวเอง เดินทางไปอย่างไร มีที่เที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>
แบกเป้เที่ยวเยอรมนี แวะเที่ยวที่เมืองแฟรงก์เฟิรต์ ไปดูสิมีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวเยอรมนี แวะไปฉิมพลีเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ไปดูสิเมืองใหญ่แห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น