ก็ขอสวัสดีทักทายเหล่าคุณผู้อ่านและเพื่อนๆผู้รักการทัศนาจร อรชรอ้อนแอ้นทุกคนอีกครั้งนะคะ หลังจากที่รีวิวตอนที่แล้ว ดิฉันได้พาคุณอ่านไปเที่ยวชมเทศกาลดอกทิวลิปอันมีชื่อเสียงระดับโลก ที่สวนเคอเคนฮอฟกันไปแล้ว ซึ่งสามารถเข้าไปดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2019/07/keukenhof-garden-how-to-get-there-by-yourself-backpack-review.html
มาบทความบล็อกวันนี้ คุณนายเว่อร์ ก็ขอเป็นคนบ้า มาท่องโลกกว้างต่อค่ะ กับการแบกเป้เดินทางนั่งรถไฟออกกรุงอัมสเตอร์ดัม มาเที่ยวยังเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่ดิฉันได้ปักหมุดต้องแวะมาเที่ยวชมสักครั้ง เนื่องจากรีวิวตอนที่แล้ว ได้พาไปชมสวนกับดอกไม้เว่อร์วังอลังการสะท้านโลกากันไปแล้ว มารีวิวบล็อกนี้ ก็ขอพาไปเที่ยวแบบชิลๆ ชมเมืองโคโลญสักครั้ง
หากเอ่ยชื่อถึงเมืองโคโลญจน์ หลายคนๆมักจะคุ้นหูชื่อเมืองนี้อย่างแน่นอน เพราะเป็นชื่อผลิตภัณฑ์น้ำหอมยี่ห้อหนึ่ง ที่ขายอยู่ในเมืองไทย ซึ่งชื่อแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ก็มาจากเมืองโคโลญเนี่ยแหละค่ะ
เกี่ยวกับเมืองโคโลญจน์ มาอ่านเป็นความรู้กันสักเล็กน้อย
เมืองโคโลญ (อังกฤษ: Cologne) หรือภาษาเยอรมัน เมืองเคิลน์ (เยอรมัน: Köln) ถือว่าเป็นเมืองใหญ่จัดอยู่ในอันดันสี่ของประเทศเยอรมนี รองจากกรุงเบอร์ลิน ฮัมเบิก และมิวนิก อีกทั้งยังเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐนอร์ทไรน์-เว็สท์ฟาเลินอีกด้วย โดยโคโลญเป็นหนี่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของเยอรมนี สร้างโดยชาวโรมัน มีประวัติศาสตร์ย้อนไปถึง ค.ศ. 50 เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ มีอาสนวิหารโคโลญซึ่งเป็นโบสถ์ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่มีชื่อเสียง และยังติดอันดับ 4 วิหารที่สูงที่สุดในโลกนอจากนี้ยัง มหาวิทยาลัยโคโลญเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปยุโรปอีกด้วย เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/โคโลญ
เริ่มต้นการเดินทางในทริปนี้ ก็ขอเท้าความต่อจากการเดินทางด้วยรถไฟจากกรุงอัมสเตอร์ดัมเลยนะคะ
ต่อจากรีวิวตอนที่ผ่านมา ตามเว็ปไซต์ลิงค์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2019/07/keukenhof-garden-how-to-get-there-by-yourself-backpack-review.html
หลังจากได้เพลิดเพลินจำเริญใจกับการเดินทอดน่อง ท่องเที่ยวชมดอกไม้ในสวน Keukenhof Garden แล้ว ก็เดินทางกลับด้วยรถบัสโดยสารไปยังกรุงอัมสเตอร์ดัม
ตอนขากลับนั่งรถบัสจากสวน Keukenhof
ใช้เวลาเดินทางเกือบ 1 ชั่วโมง มายังสถานีรถไฟ Metro Europaplein
จากนั้นก็นั่งรถไฟใต้ดิน มายังสถานีรถไฟกลาง Central Amsterdam
ต่อจากต่อที่แล้ว หลังจากตอนที่แล้ว
ได้มารีวิวพาคุณผู้อ่านไปเที่ยวชมเทศกาลดอกทิวลิปบานสะพรั่งอลังการเริ่ดสะแมนแตนกันไปแล้ว
ตามเว็ปไซต์ลิงค์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2019/07/keukenhof-garden-how-to-get-there-by-yourself-backpack-review.html
จากนั้นดิฉันก็เดินทางนั่งรถไฟออกจากกรุงอัมสเตอร์ดัม มุ่งหน้ามายังเมืองโคโลญจน์ประเทศเยอรมัน เพื่อพักค้างที่เมืองนี้ 1 คืน
อาหารมื้อเย็นนี้ ซื้อสลัดจากซุปเปอร์เก็ตที่สถานีรถไฟกรุงอัมสเตอร์ดัมมาทาน มีขนมปัง สลัด และกล้วย ขอบอกว่ากล้วยที่นี่ราคาแพงมาก กล้วย 1 ลูก ราคา 80 เซ็นเลยนะจ๊ะ โอ้มายกอด เดี๊ยนคิดถึงเมืองไทยเลยจ้า
ใช้เวลานั่งรถไฟเกือบ 3 ชั่วโมงก็ถึงเมืองโคโลญจน์โดยสวัสดิภาพ
มาถึงเมืองโคโลญจน์ก็ 4 ทุ่มกว่าเลย ค่อนข้างดึกเหมือนกันนะคะ
เดินออกมาด้านหน้าสถานีรถไฟเมืองโคโลญจน์
ก็เห็นวิหารโบสถ์ใหญ่โตอยู่ติดสถานีรถไฟ พร้อมผู้คนมากมาย
ตอนแรกดิฉันก็นึกว่าจะเงียบซ่ะอีก แต่ยิ่งดึก คนยิ่งเยอะคึกคักมากเลยล่ะค่ะ
เพราะคนออกมาถ่ายรูปกัน
ส่วนดิฉันขอตั้งหลักเปิด GPS ในมือถือ หาเส้นทางเพื่อไปยังโรงแรมในคืนนี้ค่ะ โดยพักค้างที่โรงแรมคลาสสิก ฮาร์โมนี่ โคโลญจน์ (Classic Hotel Harmonie) โดยเลือกพักที่เมืองนี้เพียง 1 คืนค่ะ จากนั้นพรุ่งนี้ก็เช็คเอาท์ เดินทางไปเที่ยวที่เนเธอแลนด์ต่อ
เดินเท้าแบกเป้
จากสถานีรถไฟเมืองโคโลญจน์มายังโรงแรมคลาสสิก ฮาร์โมนี่ (Classic Hotel
Harmonie)ไม่ค่อยไกลนัก แต่ก็ไม่ถึงกับติดกับสถานีรถไฟเลยทีเดียว
น่าจะประมาณ 800 เมตรได้ ก็เกือบ 1 กิโลเมตรได้ค่ะ แต่ระหว่างทาง
ช่วงดึกๆก็ค่อนข้างเงียบและเปล่าเปลียว หว้าเหว่เหมือนกัน
แต่ก็มาถึงโรงแรมโดยปลอดภัยจ้า
มีป้ายโรงแรมติดไว้ชัดเจน เลยมองเห็นที่ตั้งโรงแรมได้ง่าย
ทำการเช็คอินน์ กุญแจห้องพักเป็นแบบคีย์การ์ดได้มาแล้ว
ห้องพักคืนนี้ นอนพักแบบ Standard Single Room เตียงสำหรับนอนคนเดียว สภาพห้องถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียวค่ะ เหมาะสมกับราคาห้องพักคืนละ 2,800 บาท
ภาพรวมของห้องพักถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียวค่ะ ห้องพักไม่แคบหรือเล็กเกินไป เหมาะสำหรับนอนคนเดียวจริงๆ แต่ถ้านอน 2 คน ห้องขนาดเท่านี้ เดี๊ยนว่าค่อนข้างอึดอัดแน่นอน
-------------------------------------------------------------------
ส่วนอาหารเช้าที่โรงแรมคลาสสิก ฮาร์โมนี่ โคโลญจน์ (Classic Hotel Harmonie) ก็เป็นอาหารแบบ Continental Breakfast Buffet บุฟเฟ่ต์อาหารแบบตะวันตก
ไลน์บุฟเฟ่ต์อาหารจำพวก นม ขนมปัง แฮม ชีส โยเกิรต์ ธัญพืช ให้ด้วย เลือกทานได้ตามใจชอบ
แต่ก็ตักทานไปแค่พออิ่มนะคะ หากไม่อิ่มก็มาตักใหม่
มีสลัดให้ทาน
ธัญพืชต่างๆทานกับโยเกิรต์หรือนมก็ได้
บรรยากาศภายในห้องอาหารของโรงแรมในช่วงเช้า ก็ไม่ค่อยวุ่นวายนัก
มีโต๊ะให้เลือกนั่งตามใจชอบแลย
อาหารเช้ามื้อนี้ก็เลือกทานแบบง่ายๆ
ทานอาหารเช้าแล้ว ก็ได้เวลาออกไปเที่ยวในเมืองโคโลญจน์แล้วค่ะ พกแผนที่ท่องเที่ยวไปด้วย ไปดูสิ มีอะไรให้ชมบ้าง
แผนที่ท่องเที่ยวในเมืองโคโลญจน์ อยู่รอบๆใกล้ๆกับสถานีรถไฟ
สามารถเดินไปได้ไม่ไกล
จากโรงแรมเดินไปยังย่านท่องเที่ยวใกล้สถานีรถไฟเมืองโคโลญจน์
เดินมาแป๊บเดียวก็ถึงสถานีรถไฟเมืองโคโลญแล้วล่ะค่ะ หากมีป้ายเขียนว่า Haupt Bahnhof แสดงว่ามาถึงสถานีรถไฟแล้วค่ะ
มีรถยนตร์สวยๆสมัยก่อนให้บริการพาเที่ยวรอบเมือง สำหรับคนที่ไม่อยากเดิน ก็สามารถนั่งรถเพลินๆชมเมืองได้อีกด้วย
เป็นหอคอยแฝดสูง 157.38 เมตร กว้าง 86 เมตร ยาว 144 เมตร สร้างเพื่ออุทิศให้นักบุญซีโมนเปโตรและพระนางมารีย์พรหมจารี
2. สะพาน Hohenzollern
สะพานเก่าแก่คู่เมืองโคโลญ สร้างตั้งแต่ปี 1911 เพื่อข้ามแม่น้ำไรน์ จัดเป็นสะพานโรแมนติกของคู่รักได้มาคล้องกุญแจกัน เรียกว่า Love Lock ที่จะต้องมีข้อความสลักอยู่กับราวของสะพาน จึงทำให้คู่รักนักเดินทางนิยมมาเที่ยวถ่ายรูปและนำกุญแจมาคล้องล็อกที่ราวสะพานแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย และอีกอย่างชื่อสะพาน ก็ได้ตั้งตามชื่อราชวงศ์ Hohenzollern โดยราชวงศ์ดังกล่าว ได้ทำการปกครองเยอรมนีมาจนถึงการปฏิวัติในปี 1918 นอกจากนี้แล้ว สะพานนี้แห่งยังมีบทบาทสำคัญต่อการคมนาคมขนส่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย และเป็นหนึ่งในสะพานถูกระเบิดจากกองทัพของเยอรมนีเองในปี 1945
นักท่องเที่ยวสามารถมาถ่ายรูป คู่กับสะพานและอาสนาวิหารโคโลญได้ด้วย
ซึ่งทั้งสะพานและวิหาญโคโลญได้กลายเป็นสัญลักษณ์คู่เมืองนี้ไปแล้ว
โดยความสูงของโบสถ์มีความสูง 246 ฟุต และกว้าง 160 ฟุต จัดเป็นหนึ่งสถานที่สำคัญอีกแห่ง ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาชมกัน เนื่องจากอยู่ในย่านชุมชนเก่า และใกล้ถนนคนเดินริมแม่น้ำไรน์อีกด้วย
4.พิพิธภัณฑ์โรมันเยอมันนิค(Roman-Germanic Museum) ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟและอยู่ติดกับอาศนาวิหารโคโลญจน์ โดยเป็นพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ที่เก็บรักษาโบราณวัตถุและสิ่งประดิษฐ์ของชาวโรมันโบราณ รวมถึงเครื่องประดับหรูหรา และภาพโมเสคต่างให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจ ได้เข้าไปศึกษาและชมกัน
เป็นหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาประวัติศาสตร์ได้เข้ามาเรียนรู้ และชมกันอย่างไม่ขาดสาย
5.พิพิภัณฑ์ลูดวิก (Museum Ludwig)
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์ Roman-Germanic Museum และอาสนวิหารโคโลญ เป็นอาคารหอศิลปะสมัยใหม่ ที่ประกอบด้วยผลงานศิลปะที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น Pop Art, Abstract และ Surrealism และมี Picasso คอลเลกชันที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป
6.พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต (Schokoladen Museum)
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกแห่งในเมืองโคโลญ เปิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 1993 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีการจัดแสดงประวัติทั้งหมดของช็อกโกแลตทั้งหมดให้ผู้ที่สนใจได้เข้าชม และแสดงวิธี กระบวนการทำช็อกโกแลตให้ได้ชมตั้งแต่จุดเริ่มต้นของ Olmecs มายาและแอซเท็กไปจนถึงผลิตภัณฑ์ร่วมสมัยและวิธีการผลิตอีกด้วย
โดยพิพิธภัณฑ์ช็อตโกแลตแห่งนี้ก็ยังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเข้ามาชมอย่างไม่ขาดสาย
นอกจากนี้แล้ว บริเวณใกล้เคียงกับอาคารพิพิธภัณฑ์ช็อตโกแลต ยังมีภูมิทัศนที่สวยงาม
โดยที่อาคารพิพิธภัณฑ์ก็มีจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวได้แวะไปถ่ายรูปคู่กับสะพาน สะพาน Hohenzollernอีกด้วย
7.Heinzelmännchen บ่อน้ำพุเก่าแก่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกแห่งของเมืองโคโลญ อยู่ใกล้กับร้านอาหาร Fruh ซึ่งเป็นร้านอาหารเก่าแก่อีกแห่งในเมืองนี้
8.Basilica of St. Ursula, Cologne โบสถ์คาทอลิกในเมืองโคโลญ หรือเรียกสั้นๆว่า St Ursula โบสถ์เก่าแก่ใกล้สถานีรถไฟ
8.Basilica of St. Ursula, Cologne โบสถ์คาทอลิกในเมืองโคโลญ อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ สามารถเดินเท้ามาได้
8.Basilica of St. Ursula, Cologne โบสถ์คาทอลิกเก่า คนส่วนใหญ่เรียกโบสถ์สั้นๆนี้ว่า St.Ursula
9.ย่านชุมชนเก่า บริเวณถนน Lintgasses (Old town) ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของการท่องเที่ยวเดินชมเมืองเก่า อาคารบ้านเรือนต่างๆในเมืองโคโลญ ที่ประกอบไปด้วย ตึกรางบ้านช่อง โรงแรม ที่พักและร้านอาหาร ตามซอก ตรอกซอยเข้าไป เดินทะลุหากันได้ รวมทั้งอยู่ใกล้แม่น้ไรน์อีกด้วย
โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินลัดเลาะ ถ่ายรูปชิลในย่านเมืองเก่าแห่งนี้ได้
10.ตลาดถนนคนเดินขายของเก่าริมแม่น้ำไรน์ ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเดินชิลๆ เลือกซื้อหาของเก่าสไตล์วินเทจ และของสะสมกุ๊กกิ๊ก รวมทั้งมีขนม นมเนย ให้เลือกทานในราคาไม่แพงอีกด้วย
สินค้าของเก่าและของสะสมถูกตั้งเรียงไว้ ให้ลูกค้าที่ผ่านไปมา ได้เลือกกันมากมาย และหากใครซื้อเยอะก็คงต้องตอรองกับคนขายด้วย
หรือจะเลือกทานไส้กรอกเยอรมันก็เป็นของอร่อยๆประจำเมืองนี้เช่นกัน
เดินชิลๆชมวิวไปเรื่อยๆ หากเมื่อยก็นั่งพักสักแป๊บนะคะ
ส่วนใครอยากลองทานขนมปัง Berliner Pfannkuchen เป็นขนมแบบดั้งเดิมของเยอรมัน ลักษณะคล้ายกับโดนัทไม่มีหลุมกลางทำจากแป้งยีสต์หวาน นำไปทอดในไขมันหรือน้ำมันมีแยมหรือแยมแยมหรือมักจะมีไอซิ่งน้ำตาลผงหรือน้ำตาลทั่วไปอยู่ด้านบน กลิ่นหอมหวน รสชาติหวานอร่อย
หากใครเห็นก็ต้องแวะมาลิ้มลองทานดูสักชิ้น ร
ราคาไม่แพงด้วยนะ ชิ้นละ 1.3 ยูโรเท่านั้น
ตามต่อด้วยเพรทเซลหวาน รสชาติหอมอร่อยมากๆ ราคา 1.9 ยูโร
ทานเติมพลังในการเที่ยวครั้งนี้
ส่วนมื้อเที่ยงนี้ ดิฉันจัดแซนวิชไปค่ะ อาหารที่ทานได้ง่ายๆ และหาทานได้ไม่ยากด้วย เพราะมีอยู่ทั่วไป ตามร้านตู้ขายอาหารและเครื่องดื่ม
และหากใครที่อยากจะนั่งพักแบบชิลๆ ก็มานั่งชมวิวแม่น้ำไรน์ได้ เพราะมีสวนสาธารณะริมน้ำให้นั่งพักผ่อนกันอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจด้วย
พื้นที่บริเวณริมแม่น้ำก็กว้างขวาง เป็นหนึ่งจุดชมวิวสะพาน Hohenzollern ที่สวยงาม ริมแม่น้ำไรน์
ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ของนักเดินทางทั้่งขาแบกเป้ และขาชิล มานั่งชมวิวกันที่แห่งนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นนักท่องเที่ยวแถบตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ จะมองหาคนเอเชีย มาเดินพร่างพราย ก็ไม่ค่อยจะเยอะนัก
นอกจากนี้แล้วยังมีกิจกรรมล่องเรือชมความงาม 2 ฝั่งแม่น้ำไรน์ด้วย ซึ่งกิจกรรมการล่องเรือชมเมืองโคโลญ ก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วสารทิศเช่นกัน
บริเวณขายตั๋วเรือนำเที่ยว ก็อยู่ใกล้ๆกับแม่น้ำไรน์
ทั้งนี้คุณผู้อ่านที่วางแผนมาเที่ยวเมืองโคโลญ อยากทราบเวลาเรือนำเที่ยว ก็สามารถนำไปประกอบการวางแผนได้ค่ะ ว่าอยากจะไปเวลาใหน แต่ช่วงเวลาที่คนล่องเรือกันมากที่สุด เป็นช่วงเย็น
แต่ถ้าหากใครที่ไม่อยากล่องเรือ ก็สามารถนั่งรถจักรยานสามล้อถีบแบบเยอรมันได้เช่นกันนะคะ กิจกรรมดังกล่าวก็ได้รับความนิยมเช่นกัน เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากเดิน ก็สามารถให้คนปั่นจักรยานเป็นไกด์นำทางไปยังที่เที่ยวต่างๆได้อีกด้วย
และที่ถูกใจคู่รัก คงไม่พลาดเป็นกุญแจ Love Lock เอาไปคล้องที่สะพาน Hohenzollern จะได้คล้องใจกันไว้นานๆ
กุญแจ Love Lock
หรือจะซื้อของฝากแบบอื่นๆก็ได้ เช่นแก้วเซรามิก แต่หากจะนำกลับเมืองไทย คงต้องระวังหน่อยนะคะ เกรงจะแตกเอาได้
เดินชิลๆไปตามถนนหนทาง ก็มีการแสดงดนตรีเล่นเปียโนเปิดหมวกให้ฟังอย่างไพเราะเสนาะหู ใครๆเห็นแวะผ่านก็ต้องตามมาดู ให้จุ๊กกรูกันแทบทุกราย
แบกเป้มารอขึ้นขบวนรถไฟจากเมืองโคโลญ ไปยังกรุงอัมสเตอร์ดัม เพื่อไปค้างที่กรุงอัมสเตอร์ดัม 3 คืนค่ะ
ส่วนอาหารเย็นบนรถไฟมื้อนี้ ขอทานผลไม้ไปแทนล่ะกัน เพราะมื้อเที่ยงจัดหนักเป็นขนมหวานเจี๊ยบไปล่ะ
ใช้เวลาเดินทางจากเมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมัน มาถึงกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงที่หมายค่ะ เป็นอันจบทริปเที่ยวเมืองโคโลญแบบชิลๆ เดินชมวิวไปเรื่อยเปื่อยค่ะ ส่วนรีวิวเมืองถัดไป จะขอพาเพื่อนๆไปเที่ยวกรุงอัมสเตอร์ดัม และเมืองเดนเฮก เมืองสวยอีกแห่งที่คนชอบมองข้ามผ่าน แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ยลตระการหลายแห่งเชียวล่ะค่ะ
สรุปค่าใช้จ่ายทริปเที่ยวโคโลญวันนี้
ค่าเดินทางในตัวเมือง = ไม่มีค่ะ เพราะเดินเที่ยวรอบเมืองเอา ประหยัดไปอีก
ค่าเดินทางระหว่างเมืองจากโคโลญ - มาอัมสเตอร์ดัม = ไม่มีค่ะ เหมาะจ่ายไปแล้ว ใช้บัตรยูโรพาส
ค่ากินอาหารมื้อเที่ยง 4.5 ยูโร
ของฝากจุ๊กจิ๊ก 7 ยูโร
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 11.5 ยูโร
สำหรับทริปรีวิวเที่ยวเมืองโคโลญจน์ในบทความบล็อกนี้ ขอจบเพียงเท่านี้ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านที่เสียสละเวลา คลิ๊กเข้ามาสไลด์เลื่อนดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะคะ....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
----------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ เที่ยวไปเรื่อยเปื่อย มีดังนี้
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองบราติสลาวา เมืองหลวงประเทศสโลวาเกีย มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปเที่ยวชมดูสักครั้งสิ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
เก็บตก รีวิวเที่ยวฮังการี เดินฉิมพลีชมกรุงบูดาเปส์แห่งนี้ มีที่เที่ยวอะไรให้ชื่นชมกันอีกบ้าง ตามไปเที่ยวชมกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
รู้จัก 7 วัดสวยงามในกรุงเทพ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเสพสุข ไหว้พระกันสักครั้ง มีวัดใหนบ้าง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยวค่ะ>>
รวมไหว้พระ 9-12 วัดในกรุงเทพใกล้รถไฟฟ้า เดินลั๊ลลาไปไม่ไกล งามวิไลรับสิ่งดีๆต้นปีนี้ คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>>>
แบ่งปันทริปเที่ยวกรุงเวียนนาด้วยตัวเองง่ายๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้เริงสุขสันต์กันบ้าง ตามไปชมกันเลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
เก็บตกวันหยุด พารีวิวเที่ยวชมพระราชวังเดิม เติมความรู้ไทยๆ มีอะไรให้ชมบ้างในโบราณสถานแห่งนี้ คลิ๊กดูรายละเอียดและการเดินทางค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวฮัลล์สตัทด้วยตัวเองแบบชิลๆ เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยววิวสวยๆอะไรให้ชมกันบ้าง ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>
เปิดโลกกว้าง เดินทางไปเที่ยวเมืองซาลซ์บูร์ก(Salzburg) เมืองเก่าแก่แห่งนี้ มีที่เที่ยวจุดชมวิวสวยๆอะไรบ้าง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
รีวิววิธีการเดินทางไปเที่ยวชมปราสาทน็อยชวานสไตน์ด้วยตัวเองมาฝากใน 1 วัน มีที่เที่ยวอะไรให้ชมอีกบ้าง ตามไปชมกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>
มาเด้อมาเที่ยวเมืองขอนแก่น สุดสะแนนแสนชิล ขับรถไปถ่ายรูปชมวิวต่างๆ มีที่ใหนเช็คอินบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
พารีวิวเที่ยวชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพ เสพความรู้แบบไทยๆ เดินชมในนิทรรศการจิ๋นซีฮ่องเต้ คลิ๊กดูรายละเอียดภาพรีวิวค่ะ>>>
หรือดูรายละเอียดที่ : http://bit.ly/2l05FdT
รีวิวแบกเป้เที่ยวเมืองมิวนิค เดินชิคๆไปชมสถานที่สวยงามต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปชมกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>
รีวิวแบกเป้เที่ยวนครนายก ไม่มีรถส่วนตัว ก็เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับเที่ยวไปทั่วได้ใน 1 วันแบบชิลๆ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวจ้า>>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวพาไปเที่ยวเมืองสตุทการ์ท มีประวัติศาสตร์น่าสนใจ มีที่เที่ยวอะไรให้ชมอีกบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย คลิ๊กดูรีวิวจ้า>>>
ท่องโลกกว้าง เดินทางไกลไปเที่ยวในกรุงเดอะเฮก(Den haag) ไปดูสิว่ามีที่เที่ยวอะไรให้ชื่นชมบ้าง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>
แบ่งปันรีวิวลุยเดี่ยวพาไปเที่ยวเมืองฮาร์เลม เมืองเล็กๆน่ารัก แวะไปพักเที่ยวชมดูสิ มีอะไรให้เช็คอินบ้าง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวเลยจ้า>>>
รีวิวแบกเป้พาไปเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัม ชื่นฉ่ำฤทัยใน 1 วัน เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปชมกันสิ คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวเลยจ้า>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองเก่าไฮเดลเบิร์กด้วยตัวเอง เดินทางไปอย่างไร มีที่เที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวเยอรมนี แวะไปฉิมพลีเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ไปดูสิเมืองใหญ่แห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>
แบกเป้ไม่ลุยเดี่ยว เที่ยวเกาะสมุย ตะลุยเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับรอบเกาะ เดินเลาะหาของกินเลิศๆ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>
มาม๊ะ..มาเที่ยวในเมืองสุราษฎร์ธานี เช่ารถมอเตอร์ไซต์หนีไปตามที่เที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>
มาบทความบล็อกวันนี้ คุณนายเว่อร์ ก็ขอเป็นคนบ้า มาท่องโลกกว้างต่อค่ะ กับการแบกเป้เดินทางนั่งรถไฟออกกรุงอัมสเตอร์ดัม มาเที่ยวยังเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่ดิฉันได้ปักหมุดต้องแวะมาเที่ยวชมสักครั้ง เนื่องจากรีวิวตอนที่แล้ว ได้พาไปชมสวนกับดอกไม้เว่อร์วังอลังการสะท้านโลกากันไปแล้ว มารีวิวบล็อกนี้ ก็ขอพาไปเที่ยวแบบชิลๆ ชมเมืองโคโลญสักครั้ง
หากเอ่ยชื่อถึงเมืองโคโลญจน์ หลายคนๆมักจะคุ้นหูชื่อเมืองนี้อย่างแน่นอน เพราะเป็นชื่อผลิตภัณฑ์น้ำหอมยี่ห้อหนึ่ง ที่ขายอยู่ในเมืองไทย ซึ่งชื่อแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ก็มาจากเมืองโคโลญเนี่ยแหละค่ะ
เมืองโคโลญ (Cologne City) Köln |
เมืองโคโลญ (อังกฤษ: Cologne) หรือภาษาเยอรมัน เมืองเคิลน์ (เยอรมัน: Köln) ถือว่าเป็นเมืองใหญ่จัดอยู่ในอันดันสี่ของประเทศเยอรมนี รองจากกรุงเบอร์ลิน ฮัมเบิก และมิวนิก อีกทั้งยังเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐนอร์ทไรน์-เว็สท์ฟาเลินอีกด้วย โดยโคโลญเป็นหนี่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของเยอรมนี สร้างโดยชาวโรมัน มีประวัติศาสตร์ย้อนไปถึง ค.ศ. 50 เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ มีอาสนวิหารโคโลญซึ่งเป็นโบสถ์ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่มีชื่อเสียง และยังติดอันดับ 4 วิหารที่สูงที่สุดในโลกนอจากนี้ยัง มหาวิทยาลัยโคโลญเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปยุโรปอีกด้วย เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/โคโลญ
เริ่มต้นการเดินทางในทริปนี้ ก็ขอเท้าความต่อจากการเดินทางด้วยรถไฟจากกรุงอัมสเตอร์ดัมเลยนะคะ
เดินทางกลับด้วยรถบัสโดยสารไปยังกรุงอัมสเตอร์ดัมโดยสวัสดิภาพ ต่อจากรีวิวตอนที่ผ่านมา ตามเว็ปไซต์ลิงค์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2019/07/keukenhof-garden-how-to-get-there-by-yourself-backpack-review.html |
หลังจากได้เพลิดเพลินจำเริญใจกับการเดินทอดน่อง ท่องเที่ยวชมดอกไม้ในสวน Keukenhof Garden แล้ว ก็เดินทางกลับด้วยรถบัสโดยสารไปยังกรุงอัมสเตอร์ดัม
นั่งรถบัสจากสวนเคอเคนฮอฟมาลงที่สถานี Metro Europaplein จากนั้นก็เดินทางลงที่สถานีรถไฟกลางกรุงอัมสเตอร์ดัม |
ต่อจากรีวิวตอนที่แล้ว นั่งไฟจากกรุงอัมสเตอร์ดัม มุ่งหน้าไปยังเมืองโคโลญ ดูตอนที่แล้วเว็ปไซต์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2019/07/keukenhof-garden-how-to-get-there-by-yourself-backpack-review.html |
จากนั้นดิฉันก็เดินทางนั่งรถไฟออกจากกรุงอัมสเตอร์ดัม มุ่งหน้ามายังเมืองโคโลญจน์ประเทศเยอรมัน เพื่อพักค้างที่เมืองนี้ 1 คืน
อาหารมื้อเย็นนี้ ซื้อสลัดจากซุปเปอร์เก็ตที่สถานีรถไฟกรุงอัมสเตอร์ดัมมาทาน มีขนมปัง สลัด และกล้วย ขอบอกว่ากล้วยที่นี่ราคาแพงมาก กล้วย 1 ลูก ราคา 80 เซ็นเลยนะจ๊ะ โอ้มายกอด เดี๊ยนคิดถึงเมืองไทยเลยจ้า
นั่งรถไฟจากเมืองอัมสเตอร์ดัมมาถึงเมืองโคโลญจน์โดยสวัสดิภาพ (köln hbf bahnhof) |
มาถึงเมืองโคโลญจน์ก็ 4 ทุ่มกว่าเลย ค่อนข้างดึกเหมือนกันนะคะ
ช่วงยามย่ำกลางคืน ที่หน้าสถานีรถไฟเมืองโคโลญจน์ (Cologne Railway Station) köln hbf bahnhof |
ส่วนดิฉันขอตั้งหลักเปิด GPS ในมือถือ หาเส้นทางเพื่อไปยังโรงแรมในคืนนี้ค่ะ โดยพักค้างที่โรงแรมคลาสสิก ฮาร์โมนี่ โคโลญจน์ (Classic Hotel Harmonie) โดยเลือกพักที่เมืองนี้เพียง 1 คืนค่ะ จากนั้นพรุ่งนี้ก็เช็คเอาท์ เดินทางไปเที่ยวที่เนเธอแลนด์ต่อ
จากสถานีรถไฟเมืองโคโลญจน์มายังโรงแรมคลาสสิก ฮาร์โมนี่ (Classic Hotel Harmonie) ไม่ไกลนัก แต่ก็ไม่ถึงกับติดสถานีรถไฟ |
มีป้ายโรงแรมติดไว้ชัดเจน เลยมองเห็นที่ตั้งโรงแรมได้ง่าย
ภาพรวมของห้องพักถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียวค่ะ ห้องพักไม่แคบหรือเล็กเกินไป เหมาะสำหรับนอนคนเดียวจริงๆ แต่ถ้านอน 2 คน ห้องขนาดเท่านี้ เดี๊ยนว่าค่อนข้างอึดอัดแน่นอน
-------------------------------------------------------------------
อรุณเบิกฟ้าเช้าวันใหม่ เปิดผ้าม่านห้องพักออกไป ก็เป็นส่วนหย่อมขนาดเล็กๆในโรงแรม มีคุณลุงกำลังนั่งชิลๆจิบกาแฟอยู่
เช้านี้
เดี๊ยนตื่นมาก็ต้องรีบสะส่างงาน ส่งอีมง อีเมลล์ให้เสร็จก่อนเลยค่ะ
เพื่อจะได้ไปทานอาหารเช้า หากมัวนั่งทำงานจนเพลิน
มีหวังหมดเวลาทานไปซ่ะก่อน
ส่วนอาหารเช้าที่โรงแรมคลาสสิก ฮาร์โมนี่ โคโลญจน์ (Classic Hotel Harmonie) ก็เป็นอาหารแบบ Continental Breakfast Buffet บุฟเฟ่ต์อาหารแบบตะวันตก
ไลน์บุฟเฟ่ต์อาหารจำพวก นม ขนมปัง แฮม ชีส โยเกิรต์ ธัญพืช ให้ด้วย เลือกทานได้ตามใจชอบ
แต่ก็ตักทานไปแค่พออิ่มนะคะ หากไม่อิ่มก็มาตักใหม่
ธัญพืชต่างๆทานกับโยเกิรต์หรือนมก็ได้
บรรยากาศภายในห้องอาหารของโรงแรมในช่วงเช้า ก็ไม่ค่อยวุ่นวายนัก
มีโต๊ะให้เลือกนั่งตามใจชอบแลย
อาหารเช้ามื้อนี้ก็เลือกทานแบบง่ายๆ
ทานอาหารเช้าแล้ว ก็ได้เวลาออกไปเที่ยวในเมืองโคโลญจน์แล้วค่ะ พกแผนที่ท่องเที่ยวไปด้วย ไปดูสิ มีอะไรให้ชมบ้าง |
แผนที่ท่องเที่ยวในเมืองโคโลญจน์ อยู่รอบๆใกล้ๆกับสถานีรถไฟ
สามารถเดินไปได้ไม่ไกล
จากโรงแรมเดินไปยังย่านท่องเที่ยวใกล้สถานีรถไฟเมืองโคโลญจน์
Cologne Hauptbahnhof สถานีรถไฟเมืองโคโลญ |
มีรถยนตร์สวยๆสมัยก่อนให้บริการพาเที่ยวรอบเมือง สำหรับคนที่ไม่อยากเดิน ก็สามารถนั่งรถเพลินๆชมเมืองได้อีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวแรกที่พาไปชมก็คือ อาสนวิหารโคโลญซึ่งเป็นโบสถ์ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งในยุโรป โดยสถานที่แห่งสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสถาน ที่ประพิธีกรรมของสามมหากษัตริย์แห่งจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นสถานที่เก็บหีบสามกษัตริย์ไว้ ณ ที่แห่งนี้ด้วย ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองแห่งนี้ มีผู้เยี่ยมชมราวๆ 20,000 คนต่อวัน
อาสนวิหารโคโลญได้ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 1248 แต่มีปัญหาให้ต้องหยุดพักการก่อสร้างไปบ้าง จึงต้องใช้เวลากว่าหกร้อยปีจึงสร้างเสร็จสมบูรณ์ และ สร้างเสร็จในปี 1880 พร้อมกับมีพีธีวางหลักหินบันทึกข้อมูลการก่อสร้าง อาสนวิหารโคโลญเป็นศาสนสถานของคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก นับเป็นวิหารที่ใหญ่และเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลกในเป็นเวลา 4 ปี ( ปี ค.ศ 1880-1884)
ภาพเมืองโคโลญถูกระเบิดทางอากาศทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ ค.ศ.1945 ทำให้เมืองและวิหารได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด (ภาพถ่ายโดย Erich Lambertin) |
ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เมืองโคโลญ ถูกทิ้งระเบิดทางอากาศทั้งหมด 14 ลูก แม้วิหารจะได้รับความเสียหายบางส่วน แต่ก็ไม่พังทลายลงมา ซึ่งเชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์ บ้างก็เชื่อว่า เพราะวิหารเป็นจุดสังเกตที่สำคัญของนักบิน จึงไม่ต้องการจะระเบิดทำลายทิ้งไปเสียทีเดียว จากความเสียหายดังกล่าว จึงมีการซ่อมแซมภายในต่อมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.1945 - 1948
และถึงแม้วิหารแห่งนี้จะได้รับความเสียหายจากการทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ตาม แต่ก็มีการซ่อมแซมปรับปรุงกลับมาให้ดีเหมือนเดิม ปัจจุบันก็ยังคงติดอันดับสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกอยู่ด้วย และปัจจุบันก็ได้ถูกจัดอันดับให้อยู่อันดับ 4 วิหารที่สูงที่สุดในโลกลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโกธิก
ภาพประชาชนชาวเมืองโคโลญริมแม่น้ำไรน์ ฝั่งตรงข้ามเป็นมหาวิหารโคโลญที่ได้รับความเสียหายจากระเบิด ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ ค.ศ.1945(ภาพถ่ายโดย Erich Lambertin) |
สถานที่ท่องเที่ยวแรก 1.อาสนวิหารโคโลญจน์ (Cologne Cathedral) |
สถานที่ท่องเที่ยวแรก 1.อาสนวิหารโคโลญจน์ (Cologne Cathedral)วิหารขนาดใหญ่มาก ติดอันดับ 4 ขอโลกอีกด้วย |
สถานที่ท่องเที่ยวแรก 1.อาสนวิหารโคโลญจน์ (Cologne Cathedral) |
ปัจจุบันอาสนวิหารโคโลญนับจุดหมายสำคัญของเมืองโคโลญและประเทศเยอรมนี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 2536 จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดอีกแห่งในเมืองโคโลญจน์
สถานที่ท่องเที่ยวแรก 1.อาสนวิหารโคโลญจน์ (Cologne Cathedral) |
โดยอาสนวิหารแห่งนี้ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมภายในได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และสามารถเข้าชมในส่วนพิพิธภัณฑ์ของมีค่าที่ขุดค้นพบเกี่ยวกับศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกสมัยโรมันได้ ในราคา 5 ยูโรเท่าน้น และหากต้องการเดินจุดชมวิวบนหอคอยสูง ก็เสียค่าธรรมเนียมเข้าชมเพียงในราคา 3 ยูโร
2. สะพาน Hohenzollern ข้ามแม่น้ำไรน์ สะพานโรแมมติกที่เหล่าคู่รักได้มาคล้องกุญกัน เรียกว่า Love Lock |
2. สะพาน Hohenzollern ข้ามแม่น้ำไรน์ ทั้งสะพานและวิหาญโคโลญได้กลายเป็นสัญลักษณ์คู่เมืองนี้ไปแล้ว |
สะพานเก่าแก่คู่เมืองโคโลญ สร้างตั้งแต่ปี 1911 เพื่อข้ามแม่น้ำไรน์ จัดเป็นสะพานโรแมนติกของคู่รักได้มาคล้องกุญแจกัน เรียกว่า Love Lock ที่จะต้องมีข้อความสลักอยู่กับราวของสะพาน จึงทำให้คู่รักนักเดินทางนิยมมาเที่ยวถ่ายรูปและนำกุญแจมาคล้องล็อกที่ราวสะพานแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย และอีกอย่างชื่อสะพาน ก็ได้ตั้งตามชื่อราชวงศ์ Hohenzollern โดยราชวงศ์ดังกล่าว ได้ทำการปกครองเยอรมนีมาจนถึงการปฏิวัติในปี 1918 นอกจากนี้แล้ว สะพานนี้แห่งยังมีบทบาทสำคัญต่อการคมนาคมขนส่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย และเป็นหนึ่งในสะพานถูกระเบิดจากกองทัพของเยอรมนีเองในปี 1945
2. สะพาน Hohenzollern ข้ามแม่น้ำไรน์ สะพานโรแมมติกที่เหล่าคู่รักได้มาคล้องกุญกัน เรียกว่า Love Lock |
2. สะพาน Hohenzollern ทั้งสะพานและวิหาญโคโลญได้กลายเป็นสัญลักษณ์คู่เมืองนี้ไปแล้ว |
และหลังจากสะพานได้รับความเสียหายจากการทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็การปรับปรุงซ่อมแซ่มและสร้างสะพานขึ้นมาใหม่ใช้งานได้อีกครั้งในปี 1948 ทำให้สะพานแห่งนี้ถือเป็นสะพานสวยงามประจำเมือง เพราะนักท่องเที่ยวสามารถมาถ่ายรูป คู่กับสะพานและอาสนาวิหารโคโลญได้ด้วย ซึ่งทั้งสะพานและวิหาญโคโลญได้กลายเป็นสัญลักษณ์คู่เมืองนี้ไปแล้ว
2. สะพาน Hohenzollern ทั้งสะพานและวิหาญโคโลญได้กลายเป็นสัญลักษณ์คู่เมืองนี้ไปแล้ว |
2. สะพาน Hohenzollern ทั้งสะพานและวิหาญโคโลญได้กลายเป็นสัญลักษณ์คู่เมืองนี้ไปแล้ว |
3.โบสถ์คาทอลิก Great St. Martin Church, Cologne |
3.โบสถ์คาทอลิก Great St. Martin Church, Cologne โบสถ์เก่าแก่อีกแห่งในเมืองโคโลญ ตั้งอยู่ในยานชุมชนเก่า ใกล้แม่น้ำไรน์และไม่ไกลจากสถานีรถไฟ
3.โบสถ์คาทอลิก Great St. Martin Church, Cologne |
บริเวณสวนสาธารณะริมแม่น้ำไรน์ ก็เป็นลานหญ้ากว้างๆ ให้นั่งพักหรือผ่อนคลายอริยาบถกันอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจ |
4.พิพิธภัณฑ์ Roman-Germanic Museum |
4.พิพิธภัณฑ์ Roman-Germanic Museum |
5.พิพิภัณฑ์ลูดวิก (Museum Ludwig) |
5.พิพิภัณฑ์ลูดวิก (Museum Ludwig) |
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์ Roman-Germanic Museum และอาสนวิหารโคโลญ เป็นอาคารหอศิลปะสมัยใหม่ ที่ประกอบด้วยผลงานศิลปะที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น Pop Art, Abstract และ Surrealism และมี Picasso คอลเลกชันที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป
6.พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต (Schokoladen Museum) |
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกแห่งในเมืองโคโลญ เปิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 1993 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีการจัดแสดงประวัติทั้งหมดของช็อกโกแลตทั้งหมดให้ผู้ที่สนใจได้เข้าชม และแสดงวิธี กระบวนการทำช็อกโกแลตให้ได้ชมตั้งแต่จุดเริ่มต้นของ Olmecs มายาและแอซเท็กไปจนถึงผลิตภัณฑ์ร่วมสมัยและวิธีการผลิตอีกด้วย
6.พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต (Schokoladen Museum) |
6.พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต (Schokoladen Museum) |
6.พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต (Schokoladen Museum) |
7.Heinzelmännchen |
7.Heinzelmännchen |
8.Basilica of St. Ursula, Cologne โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่อีกแห่งในเมืองโคโลญ |
8.Basilica of St. Ursula, Cologne โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่อีกแห่งในเมืองโคโลญ |
8.โบสถ์คาทอลิกเก่า Basilica of St. Ursula, Cologne |
9.ย่านชุมชนเก่า บริเวณถนน Lintgassesใกล้กับ Old Market และแม่น้ำไรน์ |
9.ย่านชุมชนเก่า บริเวณถนน Lintgassesใกล้กับ Old Market และแม่น้ำไรน์ |
9.ย่านชุมชนเก่า บริเวณถนน Lintgassesใกล้กับ Old Market และแม่น้ำไรน์ |
10.ตลาดถนนคนเดินขายของเก่าริมแม่น้ำไรน์ |
ขนมเพรทเซล Pretzel ขนมปังอร่อยๆในราคาสุดประหยัด พบเห็นได้แทบทุกเมืองในเยอรมัน มีทั้งรสเค็ม รสหวาน และรสธรรมดา
สินค้าของเก่าและของสะสมถูกตั้งเรียงไว้ ให้ลูกค้าที่ผ่านไปมา ได้เลือกกันมากมาย และหากใครซื้อเยอะก็คงต้องตอรองกับคนขายด้วย
หรือจะเลือกทานไส้กรอกเยอรมันก็เป็นของอร่อยๆประจำเมืองนี้เช่นกัน
เดินชิลๆชมวิวไปเรื่อยๆ หากเมื่อยก็นั่งพักสักแป๊บนะคะ
ขนมปัง Berliner Pfannkuchen เป็นขนมแบบดั้งเดิมของเยอรมัน |
หากใครเห็นก็ต้องแวะมาลิ้มลองทานดูสักชิ้น ร
ราคาไม่แพงด้วยนะ ชิ้นละ 1.3 ยูโรเท่านั้น
ตามต่อด้วยเพรทเซลหวาน รสชาติหอมอร่อยมากๆ ราคา 1.9 ยูโร
ทานเติมพลังในการเที่ยวครั้งนี้
ส่วนมื้อเที่ยงนี้ ดิฉันจัดแซนวิชไปค่ะ อาหารที่ทานได้ง่ายๆ และหาทานได้ไม่ยากด้วย เพราะมีอยู่ทั่วไป ตามร้านตู้ขายอาหารและเครื่องดื่ม
และหากใครที่อยากจะนั่งพักแบบชิลๆ ก็มานั่งชมวิวแม่น้ำไรน์ได้ เพราะมีสวนสาธารณะริมน้ำให้นั่งพักผ่อนกันอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจด้วย
พื้นที่บริเวณริมแม่น้ำก็กว้างขวาง เป็นหนึ่งจุดชมวิวสะพาน Hohenzollern ที่สวยงาม ริมแม่น้ำไรน์
ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ของนักเดินทางทั้่งขาแบกเป้ และขาชิล มานั่งชมวิวกันที่แห่งนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นนักท่องเที่ยวแถบตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ จะมองหาคนเอเชีย มาเดินพร่างพราย ก็ไม่ค่อยจะเยอะนัก
กิจกรรมล่องเรือชมความงาม 2 ฝั่งแม่น้ำไรน์ในเมืองโคโลญให้ชมด้วย |
บริเวณขายตั๋วเรือนำเที่ยว ก็อยู่ใกล้ๆกับแม่น้ำไรน์
ภาพแสดงเวลาของ Panorama Cruises ของเรือนำเที่ยวแต่ละแห่งในเมืองโคโลญจน์ |
และเรือนำเที่ยวเองก็มีหลายเจ้าที่ให้บริการ โดยเวลาของเรือนำเที่ยวเริ่มตั้งแต่เวลา 10.15 น. ตามตารางเวลาของแต่ละบริษัทเรือนำเที่ยว ส่วนราคาก็แตกแต่งกันออกไป เริ่มต้นที่ 10.25 ยูโร ซึ่งตามภาพแสดงเวลาของ Panorama Cruises ของแต่ละเจ้า
ทั้งนี้คุณผู้อ่านที่วางแผนมาเที่ยวเมืองโคโลญ อยากทราบเวลาเรือนำเที่ยว ก็สามารถนำไปประกอบการวางแผนได้ค่ะ ว่าอยากจะไปเวลาใหน แต่ช่วงเวลาที่คนล่องเรือกันมากที่สุด เป็นช่วงเย็น
แต่ถ้าหากใครที่ไม่อยากล่องเรือ ก็สามารถนั่งรถจักรยานสามล้อถีบแบบเยอรมันได้เช่นกันนะคะ กิจกรรมดังกล่าวก็ได้รับความนิยมเช่นกัน เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากเดิน ก็สามารถให้คนปั่นจักรยานเป็นไกด์นำทางไปยังที่เที่ยวต่างๆได้อีกด้วย
ส่วนของฝากของที่ระลึกก็มีให้เลือกมากมาย ทั้งพวงกุญแจ
และที่ถูกใจคู่รัก คงไม่พลาดเป็นกุญแจ Love Lock เอาไปคล้องที่สะพาน Hohenzollern จะได้คล้องใจกันไว้นานๆ
กุญแจ Love Lock
ของฝากของที่ระลึกในเมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมัน |
เดินชิลๆไปตามถนนหนทาง ก็มีการแสดงดนตรีเล่นเปียโนเปิดหมวกให้ฟังอย่างไพเราะเสนาะหู ใครๆเห็นแวะผ่านก็ต้องตามมาดู ให้จุ๊กกรูกันแทบทุกราย
หลังจากที่ได้เดินลัดเลาะชื่นชมเมืองโคโลญพอสมควรแล้ว เดี๊ยนเองก็เดินทางกลับไปยังโรงแรมที่พัก เพื่อไปเอากระเป๋าและเดินเท้ามายังสถานีรถไฟ
ส่วนอาหารเย็นบนรถไฟมื้อนี้ ขอทานผลไม้ไปแทนล่ะกัน เพราะมื้อเที่ยงจัดหนักเป็นขนมหวานเจี๊ยบไปล่ะ
เดินทางจากเมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมัน มาถึงกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงที่หมายค่ะ |
สรุปค่าใช้จ่ายทริปเที่ยวโคโลญวันนี้
ค่าเดินทางในตัวเมือง = ไม่มีค่ะ เพราะเดินเที่ยวรอบเมืองเอา ประหยัดไปอีก
ค่าเดินทางระหว่างเมืองจากโคโลญ - มาอัมสเตอร์ดัม = ไม่มีค่ะ เหมาะจ่ายไปแล้ว ใช้บัตรยูโรพาส
ค่ากินอาหารมื้อเที่ยง 4.5 ยูโร
ของฝากจุ๊กจิ๊ก 7 ยูโร
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 11.5 ยูโร
สำหรับทริปรีวิวเที่ยวเมืองโคโลญจน์ในบทความบล็อกนี้ ขอจบเพียงเท่านี้ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านที่เสียสละเวลา คลิ๊กเข้ามาสไลด์เลื่อนดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะคะ....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
----------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ เที่ยวไปเรื่อยเปื่อย มีดังนี้
แบ่งปันรีวิวนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองบราติสลาวา 1 วัน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง>>> |
รีวิวเที่ยวกรุงบูดาเปสต์ 1 วัน ไป-กลับ ขยับเท้าเดินชมสถานที่เที่ยวต่างๆ มีอะไรบ้าง>>> |
7 วัดสวยงามในกรุงเทพ ที่ใครๆก็ต้องมาเสพสุขไหว้กันสักครั้ง มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลยค่ะ>> |
ไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพ ใกล้รถไฟฟ้า เดินไปได้มีวัดใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียด>> |
แบกเป้เที่ยวกรุงเวียนนาด้วยตัวเอง มีที่เที่ยวจุดถ่ายรูปอะไรบ้าง ตามไปกันเลย>> |
รีวิวพาเที่ยวชมพระราชวังเดิม เติมความรู้แบบไทยๆ ไปชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูที่เที่ยว>> |
แบ่งปันรีวิวเที่ยวฮัลล์สตัทด้วยตัวเอง มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกัน>> |
แบ่งปันทริปรีวิวเที่ยวเมืองเก่าซาลซ์บูร์ก 1 วัน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
แบ่งปันรีวิวเดินทางไปชมปราสาทน็อยชวานสไตน์ด้วยตัวเองมาฝาก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
แบ่งปันรีวิวเที่ยวขอนแก่น สุดสะแนนแสนชิล ไปถ่ายรูปวิวสวยงาม คลิ๊กดูที่เที่ยว>> |
รีวิวพาชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพ เสพความรู้แบบไทยๆ ไปชมกันเลย>> |
หรือดูรายละเอียดที่ : http://bit.ly/2l05FdT
รีวิวเที่ยวเมืองมิวนิค เดินชิคๆไปชมสถานที่สวยงามต่างๆ คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>> |
เที่ยวนครนายกไม่มีรถส่วนตัว ก็เช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวไปทั่วได้ด้วยตัวเอง คลิ๊กดูรีวิว>> |
แบ่งปันรีวิวพาไปชมเมืองสตุทการ์ท มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปกันเลย>> |
แบกเป้ท่องโลกกว้าง เดินทางไปเที่ยวกรุงเฮก มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันจ้า>> |
รีวิวแบกเป้พาไปเที่ยวเมืองฮาร์เลม เมืองเล็กๆน่ารัก ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน คลิ๊กดูรีวิว>> |
แบกเป้รีวิวพาเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัม เมืองนี้มีอะไรให้ดื่มด่ำฤทัยบ้าง ตามไปดูกันสิ>> |
แบ่งปันรีวิวการเดินทางไปเที่ยวเมืองเก่าไฮเดลเบิร์กด้วยตัวเอง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>> |
แบกเป้เที่ยวเยอรมนี แวะเที่ยวที่เมืองแฟรงก์เฟิรต์ ไปดูสิมีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง>> |
มาม๊ะ..เที่ยวเกาะสมุยชิลๆ ชมวิวทะเลสวยๆ รุ่มระรวยด้วยของกินเลิศๆ คลิ๊กดูรีวิวจ้า>> |
มาม๊ะ มาเที่ยวในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี แวะไปฉิมพลีที่เที่ยวต่างๆ ตามไปกันเลย>> |
0 ความคิดเห็น