รีวิวแบกเป้คนเดียวพาเที่ยวกรุงอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) ชื่นฉ่ำฤทัยไปกับเมืองจักรยาน เมืองนี้มีที่เที่ยวอะไรให้ยลตระการบ้าง ตามไปชมดูสิ

พารีวิวเที่ยวต่อจากตอนที่แล้วจ้า สำหรับทริปนี้ขอแบกเป้ลุยเดี่ยวแวะเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ไปดูสิว่าในเมืองนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้แวะไปถ่ายภาพเช็คอินให้เริ่ดสะแมนแตนบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า

สวัสดีค่ะเพื่อนๆพี่ๆน้องๆผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจ กันทุกๆคน หลังจากที่รีวิวตอนที่แล้ว ดิฉันได้มาแบ่งปันบอกเล่า เก้าสิบกับการแบกเป้ลุยเดี่ยว เที่ยวเมืองโคโลญ ที่ประเทศเยอรมันไปแล้วนะคะ ตามเว็ปไซต์ลิงค์: https://khunnaiver.blogspot.com/2019/07/backpack-to-travel-cologne-city-germany-alone-europe-trip.html

มาสู่รีวิวบล็อกนี้ ก็ขอมาบอกเล่าการเดินทางและที่เที่ยวต่างๆต่อค่ะ โดยทริปวันนี้ คุณนายเว่อร์ ขอเป็นคนบ้า พาเพื่อนๆที่กำลังปักหมุด จะหยุดกาลเวลา ไปช่ะช่ะช่าเที่ยวให้สุขสันต์เริงร่ายังกรุงอัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ใครๆต่างก็ต้องเดินทางมาเริ่ดสะแมนแตนเที่ยวกันสักครั้งครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน และเปิดโลกทัศน์ เปิดมุมมอง เที่ยวชมเมืองนอก เมืองนา ไปดูสิว่ามีสถานที่ท่องเที่ยว จุดภ่ายรูป ถ่ายภาพสวยๆ ที่พักราคาถูกๆ และร้านอาหารอร่อยๆที่ใหนบ้าง

โดยการทางเที่ยวเนเธอร์แลนด์ทริปนี้ ก็เป็นครั้งแรกในชีวิตด้วยนะคะที่มีโอกาสได้มาเยือนกรุงอัมสเตอร์ดัมสักที หลังจากที่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนาม เมืองนี้มาตั้งแต่เด็ก ก็เลยเก็บหอมรอบริม เก็บสะตุ้งสะตัง จะต้องแบกเป้ลุยเดี่ยวมาเที่ยวเมืองนี้ให้จงได้ และเมื่อวันและเวลาประจวบที่เหมาะสมมาถึง เดี๊ยนก็ขอมาเที่ยวตะลึงตึงๆในเมืองนี้สักครั้ง มาดูสิว่าจะสวยปัง อลังแค่ใหน และก่อนจะเข้าสู่รีวิวบอกเล่าตามภาพและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เรามารู้จักกรุงอัมสเตอร์ดัมก่อนนะคะ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรุงอัมสเตอร์ดัม อ่านกันดูเป็นความรู้พอสังเขปจ้า

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรุงอัมสเตอร์ดัม อ่านกันดูเป็นความรู้พอสังเขปจ้า

อัมสเตอร์ดัม (ดัตช์: Amsterdam,) จัดเป็นเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอัมสเติล (Amstel River) เป็นเมืองที่เริ่มก่อตั้งประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 12 และยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของทวีปยุโรปอีกด้วย โดยเฉพาะช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นช่วงยุคทองของเนเธอร์แลนด์ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุด และถึงแม้อัมสเตอร์ดัมจะเป็นเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ก็ตาม แต่ศูนย์กลางของหน่วยงานรัฐบาลนั้นอยู่ที่กรุงเฮก ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศอยู่ติดชายทะเล โดยอัมสเตอร์ดัม เป็นเมืองท่องท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ แต่ละปี มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเมืองหลวงแห่งนี้ นับหลายล้านคน และในเมืองแห่งนี้ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ สถาปัตยกรรม สายน้ำและลำคลองที่ลัดเลาะในตัวเมือง รวมทั้งยังเป็นเมืองจักรยานอีกด้วย

หลังจากที่ได้ความรู้เกี่ยวกับเมืองอัมสเตอร์ไปพอสังเขปแล้ว ก็ขอมารีวิวพาคุณผู้อ่านไปเที่ยวเมืองนี้กันเลยค่ะ

ต่อจากรีวิวตอนที่แล้ว : หลังจากที่ได้เดินชิคแอนด์ชิลเที่ยวชมเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมันไปแล้ว ตามเว็ปไซต์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2019/07/backpack-to-travel-cologne-city-germany-alone-europe-trip.htm

ช่วงบ่ายๆ ดิฉันก็นั่งรถไฟจากเมืองโคโลญมุ่งหน้าสู่กรุงอัมสเตอร์ดัม เพื่อไปนอนพักค้างที่เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยวางแผนพักค้างที่เมืองหลวงแห่งนี้ 3 คืนค่ะ

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงนิดๆก็ถึงสถานีรถไฟในกรุงอัมสเตอร์ดัม

บรรยากาศเมืองอัมสเตอร์ดัมในช่วงเดือนพฤษภาคม

บรรยากาศที่เมืองอัมสเตอร์ดัมวันนี้ ลมพัดแรงมากๆ อากาศก็หนาวมากๆอีกด้วยค่ะ
ต่างกับบรรยากาศในเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมัน ที่สภาพอากาศค่อนข้างอบอุ่น

อาจจะเป็นเพราะว่า อัมสเตอร์ดัมอยู่ใกล้ทะเลก็เป็นได้นะคะ หากใครที่วางแผนมาเที่ยวเดือนพฤษภาคม ยังไงก็พกเสื้อกันหนาวตัวหนามาด้วยนะคะ เพราะหนาวจริงๆค่ะ

จากนั้นก็แบกเป้เดินเท้าจากสถานีรถไฟมายังท่าเรือข้ามฟากไปยังโรงแรมที่พักคืนนี้ค่ะ ซึ่งก่อนมาพักทางโรงแรมก็ได้ส่งรายละเอียดการเดินทางมาแล้วว่า ให้นั่งเรือข้ามฝากสาย Bulksloterweg ซึ่งจะมีเรือข้ามฝากให้บริการฟรี ไม่ต้องเสียสตังค่ะ

เรือข้ามฟากที่นี่ใช้เวลารอไม่นานนัก เมื่อมีเรืออีกลำมาจอดเทียบท่า ก็สามารถขึ้นได้เลย ขึ้นได้ทั้งคนและจักรยาน รวมทั้งรถยนต์ขนาดเล็กๆมุ้งมิ้งก็สามารถขับมาขึ้นได้เช่นเดียวกันค่ะ

จากภาพเมื่อนั่งเรือข้ามฝากมา จะเห็นสถานีรถไฟกลางกรุงอัมสเตอร์ดัมและเรือข้ามฟากจอดให้บริการผู้ที่รอใช้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก

เมื่อถึงท่าเรือก็จะเห็นอาคารตึกสูง A'dam Lookout เดินเท้าไปอีกหน่อยก็ถึงโรงแรมแล้วค่ะ

โรงแรมที่พักคืนนี้ ดิฉันเลือกมาใช้บริการนอนพักค้างแรมที่ โรงแรม คลิงค์นอร์ด โฮสเทล (ClinkNOORD Hostel)

ส่วนโรงแรมที่พักคืนนี้ ดิฉันเลือกมาใช้บริการพักที่ โรงแรม คลิงค์นอร์ด โฮสเทล (ClinkNOORD Hostel) ซึ่งเป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟ แต่ต้องนั่งเรือข้ามฟากมานะคะ

ดิฉันเลือกมาใช้บริการนอนพักค้างแรมที่ โรงแรม คลิงค์นอร์ด โฮสเทล (ClinkNOORD Hostel)

อย่างที่ทราบกันดีว่า อัมสเตอร์ดัมเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีค่าครองชีพสูงติดอันดับโลก ดังนั้นดิฉันก็เลยขอเลือกพักโรงแรมแนวโฮสเทล ห้องนอนรวมคล้าย Dormitory และห้องน้ำรวมดีกว่าค่ะ โดยที่พักคืนนี้ ราคาตกคืนละ 1,087 บาทต่อคน ราคานี้คืออยู่ในราคาที่ถูกสุดๆแล้วนะคะ

มาถึงก็ต้องยืนเข้าคิวรอเช็คอินน์นะคะ เนืองจากเป็นโรงแรมสไตล์โฮสเทลขนาดใหญ่ ราคาถูก มีลูกค้าเข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก

บริเวณล็อบบี้กว้างขวาง ค่อนข้างโอ่โถ่งไม่แออัด ตอนแรกที่ดิฉันเดินทางเข้ามาก็นึกว่าเป็นเกสต์เฮ้าส์เล็กๆซ่ะอีก แต่พอเดินเข้ามา ค่อนข้างกว้างขวางพอสมควร รู้สึกไม่แออัด

โดยที่พักก็ตกแต่งออกแนวๆวัยรุ่น กิ๊บเก๋ๆ มีมุมให้ถ่ายรูปอีกด้วย

ตามผนังในโรงแรมก็วาดเป็นการ์ตูนน่ารักดีค่ะ

ส่วนกุญแจของห้องพักก็เป็นคีย์การ์ดมาให้เลยนะคะ

มีค่ามัดจำกุญแจด้วย 2 ยูโร

มีคูปอง Voucher ส่วนลดต่างๆให้ด้วย

ทางเดินเข้าห้องพักก็ค่อนข้างเรียบง่าย ดูสะอาดสะอ้านดีมาก ต่างจากบริเวณล็อบบี้ ที่ตกแต่งแนวอาร์ตติดๆ สีสันฉูดฉาดโดยสิ้นเชิง

เตียงห้องนอนรวม ราคาคืนละ 1,087 บาทต่อคนต่อคืน ทริปเที่ยวอัมสเตอร์ดัมทั้ง 3 คืนที่ โรงแรม คลิงค์นอร์ด โฮสเทล (ClinkNOORD Hostel)

ส่วนห้องพักสำหรับทริปเที่ยวอัมสเตอร์ดัมทั้ง 3 คืนที่ โรงแรม คลิงค์นอร์ด โฮสเทล (ClinkNOORD Hostel) ก็เป็นเตียงห้องนอนรวม ราคาคืนละ 1,087 บาทต่อคืนต่อคน ภายในห้องมี 4 เตียง ส่วนเตียงที่ดิฉันได้นอนคืนนี้ โชคดีที่ได้เตียงชั้นล่างค่ะ ตอนแรกคิดว่าโชคร้ายได้เตียงชั้นบน เหมือนทริปตอนที่นอนในเมืองแฟรงเฟิรต์ซ่ะอีก แต่ที่นี้จัดให้ตามคำขอตอนจองออนไลน์ไปจริงๆค่ะ

ในห้องมีห้องน้ำในตัวให้ด้วยนะคะ แต่ก็ต้องใช้ร่วมกับเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆที่เข้ามาพักด้วย

โดยการพักค้างแรมในโรงแรมก็โชคดีอีกนะค่ะ เพราะได้ห้องนอนรวม กับเพื่อนใหม่ร่วมห้องเป็นผู้หญิงทั้ง 3 คนเลย ถือว่าได้เพื่อนใหม่ทักทายกันตามประสาคนรักการเดินทางค่ะ ตอนแรกคิดในใจว่า ทางที่พักจะต้องจัดให้ชายไม่จริง หญิงไม้แท้แบบดิฉัน ต้องไปนอนร่วมกับผู้ชายซ่ะอีก แต่ได้ที่พักนอนกับเพื่อนหญิงก็ดี เพราะไม่ค่อยมีเสียงกรนค่ะ นอนหลับสบายกว่ามากๆ

นอกจากนี้ที่พักยังมีห้องครัวขนาดใหญ่ให้ทำกับข้าวทานอย่างสำราญใจอีกด้วย

ห้องครัวทำกับข้าว ที่ล้างจาน เตาไฟฟ้า เตาอบ ตู้เย็น เหมือนครัวในโรงแรม 5 ดาวเป๊ะเลยนะคะ

มีโต๊ะนั่งทานข้าวขนาดใหญ่ กว้างขวาง ให้เลือกนั่งกันอย่างภิรมย์ใจ ดูไม่คับแคบ หรืออีดอัด ค่อนข้างกว้างดีทีเดียว ที่บริเวณแต่ละโต๊ะก็มีปลั๊กไฟให้เสียบใช้ และทางโรงแรมยังมีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการอีกด้วย

ส่วนอาหารเย็นมื้อนี้ ดิฉันซื้ออาหารมาทานที่โรงแรมเองค่ะ โดยใกล้ๆโรงแรมก็มีร้านสะดวกซื้ออยู่ใกล้ๆเลยเดินไปซื้อมาทานที่โรงแรมค่ะ เพราะที่โรงแรมมีครัวให้ทำกับข้าวได้ เดี๊ยนชอบตรงนี้แหละคะ สะดวกดี

ทานสลัดกับขนมปังกับกล้วย 1 ลูก อิ่มเลยค่ะ

และที่พลาดไม่ได้ คงเป็นขนมวาลเฟิลคาราเมล รสหอมหวานอร่อยมากๆ ขนมของฝากขึ้นชื่อแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ใครมาเยือนเมืองนี้ เป็นต้องซื้อติดไม้ติดมือไปเป็นของฝากกันแทบทุกราย โดยมีขายตามร้านสะดวกซื้อ มีหลายยี่ห้อให้เลือก หากใครมาเที่ยวก็ลองซื้อทานได้นะคะ

ส่วนความเร็วอินเตอร์เน็ต WiFi ก็เร็วแรงดีมากๆ ถือว่าดีเยี่ยมทีเดียว สามารถทำงานตอบอีเมลล์ได้อย่างรวดเร็ว สรุปโดยรวมที่พักของโรงแรม คลิงค์นอร์ด โฮสเทล (ClinkNOORD Hostel) แม้โรงแรมจะต้องนั่งเรือข้ามฟากมา แต่ก็ไม่ได้ไกลจากสถานีรถไฟมากนัก แถมบรรยากาศดี ไม่แออัดด้วย ห้องพักโอเค บริเวณมุม Space Area ให้ค่อนข้างกว้างขวาง มีโต๊ะนั่งทำงาน ทานข้าวให้อย่างสะดวกสบาย ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยมค่ะ

หลังจากที่ได้ดูรีวิวห้องพักแบบพอสังเขปไปแล้วนะคะ ต่อมาเดี๊ยนก็ขอมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัมให้เพื่อนได้ดูกันต่อนะคะ ไปดูสิว่าในเมืองแห่งนี้ จุดชมวิวถ่ายภาพสวยๆ และพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญ ที่เที่ยวตามจุดต่างๆในเมืองหลวงแห่งนี้ มีอะไรบ้าง มาให้ชมกันค่ะ

แผนที่แนะนำสถานทีท่องเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัม Amsterdam City Map+Guide

และทั้งนี้ ทางโรงแรมก็มีแผนที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัมให้ด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งในตัวเมืองอยู่ในระแวกเดียวกัน ใกล้ๆกัน และจุดสามารถเดินเท้าไปด้วย

โดยในแผนที่ดังกล่าว มีไกด์ไลน์แนะนำที่เที่ยวในจุดต่างๆในกรุงอัมสเตอร์ดัมให้เที่ยวชม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่โรงแรมบอกว่า สามารถเดินเท้าไปยังจุดที่เทียวต่างๆได้ด้วย โดยที่ไม่ต้องใช้รถโดยสารสาธารณะค่ะ เพราะที่เที่ยวแต่ละแห่งก็อยู่ในบริเวณที่ใกล้ๆกัน

วันนี้ดิฉันเลยขอมาแนะนำ สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัมที่สามารถเดินเท้าเที่ยวด้วยตัวเองได้ ส่วนใครที่ไม่อยากเดิน ก็สามารถเช่ารถจักรยานปั่นเที่ยวรอบเมือง หรือใช้บริการโดยสาธารณะได้นะคะ

สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัมที่น่าสนใจ ขอมาสรุปให้เพื่อนๆผู้รักการเดินทางได้ดูกันมีดังนี้ค่ะ

1.ป้ายI amsterdam Sign Viewpoint จุดภ่ายภาพยอดนิยมในเมืองอัมสเตอร์ดัม

1.ป้ายI amsterdam Sign Viewpoint จุดถ่ายภาพป้ายอัมสเตอร์ริมแม่น้ำ ใกล้ตึก A'dam Lookout เปิดให้มาชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถนั่งเรือข้ามฟากฟรีจากสถานีรถไฟมาได้แป๊บเดียว เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมที่มีนักเดินนักท่องเที่ยแวะมาเช็คอินฟินถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันอย่างไม่อย่างสาย

และหากใครอยากถ่ายรูปแบบชิลๆ ไม่อยากได้ภาพคนอื่นร่วมเฟรมด้วยล่ะ เดี๊ยนขอแนะนำห้มาถ่ายตอนเช้าตรู่เลยนะคะ เพราะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก แต่อากาศช่วงเช้าๆก็หนาวราวระบม ทุกข์ตรมหมองไหม้เหมือนกันค่ะ หากมาเที่ยวช่วงฤดูหนาว

2.พิพิธภัณฑ์อายฟิล์ม (Eye Film Museum) ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำอยู่ใกล้กับตึก A'dam Lookout

2.พิพิธภัณฑ์อายฟิล์ม (Eye Film Museum) ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำอยู่ใกล้กับตึก A'dam Lookout และจุดใกล้ๆกับจุดถ่ายภาพ I amsterdam Sign Viewpoint เป็นพิพิธภัณฑ์ดัตช์ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ที่จัดแสดงห้องนิทรรศการและนำเสนอภาพยนตร์ดัตช์และภาพยนตร์ต่างประเทศที่ฉายในเนเธอร์แลนด์ ให้ผู้ที่สนใจได้เข้าชม

2.ย่านโคมแดง Red Light Road เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์โสเภณี Red Light Secrets, The World 's first museum of Prostituti

2.ย่านโคมแดง Red Light Road แหล่งท่องเที่ยวยามราตรีที่เต็มไปด้วย ผับ บาร์ นั่งดื่ง เต็มไปด้วยแสงสีเสียงยามค่ำคืนที่มีชื่อเสียงในเมืองอัมสเตอร์ดัมของผู้รักสนุกเที่ยวดื่มยามตรี

2.พิพิธภัณฑ์โสเภณี Red Light Secrets, The World 's first museum of Prostitution

2.พิพิธภัณฑ์โสเภณี Red Light Secrets, The World 's first museum of Prostitution โดยบริเวณดังกล่าวมีพิพิธภัณฑ์โสเภณีย่านโคมแดง หรือ Red Light Secrets, The World 's first museum of Prostitution เผยว่าพิพิธภัณฑ์โสเภณี แห่งแรกที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม และสามารถถ่ายรูปได้ด้วย ปกติแล้วตามผับ บาร์ต่างที่เปิดให้บริการหญิงโสเภณีที่แสดงในตู้กระจกให้ลูกค้าได้เลือก จะไม่อนุญาตถ่ายรูปเด็ดขาด แต่พิพิธภัณฑ์เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความลับที่ จัดแสดงในโซนต่างๆของพิพิธภัณฑ์และสามารถถ่ายรูปได้ด้วย

ในเรื่องการค้าประเวณีที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 จึงทำให้ย่าน Red light หรือย่านโคมแดงแห่งนี้ ได้รับความสนใจจากนักเดินทางทั่วสารทิศที่ได้มาเยือนกรุงอัมสเตอร์ดัม

โดยพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวตั้งอยู่ริมคลองในเมืองอัมสเตอร์ดัม นักท่องเที่ยวให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ 10-24.00 น.

2.พิพิธภัณฑ์โสเภณี Red Light Secrets, The World 's first museum of Prostitution

หากเห็นป้ายดังกล่าวติดไว้ว่า Photos allowed แปลว่า สามารถถ่ายรูปได้

2.พิพิธภัณฑ์โสเภณี Red Light Secrets, The World 's first museum of Prostitution

ในเรื่องการค้าประเวณีที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 จึงทำให้ย่าน Red light หรือย่านโคมแดงแห่งนี้ ได้รับความสนใจจากนักเดินทางทั่วสารทิศที่ได้มาเยือนกรุงอัมสเตอร์ดัม

3.ย่านแดมสแควร์ (Dam Square) ใจกลางเมือง

3.ย่านแดมสแควร์ (Dam Square) เป็นสี่แยกจัตุรัสกลางกรุงอัมสเตอร์ดัมที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกับนักท่องเที่ยว โดยรายล้อมไปด้วยสิ่งปลูกสร้างอาคาร สถาปัตยกรรม พระราชวัง และลานกิจกรรม โดยมี Royal Palace of Amsterdam และมีอนุสาวรีย์ National Monument อยู่ฝั่งตรงข้ามกันทำให้เป็นย่านที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว แวะเวียนมาถ่ายภาพอย่างไม่ขาดสาย

4.พระราชวังอัมสเตอร์ดัม (Royal Palace of Amsterdam)

4.พระราชวังอัมสเตอร์ดัม (Royal Palace of Amsterdam) เป็นหนึ่งในสามของพระราชวังในประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของจัตุรัส Dam ในใจกลางกรุงอัมสเตอร์ดัมตรงข้าม War Memorial โดยจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักเดินทางจากทั่วสารทิศมาถ่ายภาพและชมความงามของพระราชวังแห่งนี้ เนื่องจากอยู่ในย่านใจกลางเมือง ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ สามารถเดินเท้ามาได้

3.พิพิธภัณฑ์บ้านอันเนอ ฟรังค์ เฮ้าส์ (Anne Frank House)

3.พิพิธภัณฑ์บ้านอันเนอ ฟรังค์ เฮ้าส์ (Anne Frank House)

3.อันเนอ ฟรังค์ เฮ้าส์ (Anne Frank House)

อันเนอ ฟรังค์ เฮ้าส์ หรือ แอนแฟรงก์เฮ้าส์ หากแปลตรงก็คือ บ้านของอันเนอฟรังค์ โดยเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงชีวประวัติที่อุทิศให้กับนักเขียนนิยายชาวแอฟริกันในยุคสงครามยิว ซึ่งพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากนักเดินทางทั่วสารทิศ

อาคารพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่บนคลองที่เรียกว่า Prinsengracht ใกล้ Westerkerk ในใจกลางอัมสเตอร์ดัมในเนเธอร์แลนด์

4.บลูเมนมาร์ค (Bloemenmarkt) ตลาดดอกไม้ลอยดอยน้ำแห่งเดียวในโลก

4.บลูเมนมาร์ค (Bloemenmarkt) ตลาดดอกไม้ลอยดอยน้ำแห่งเดียวในโลก

4.บลูเมนมาร์ค (Bloemenmarkt)

ตลาดดอกไม้ลอยดอยน้ำแห่งเดียวในโลก ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองกรุงอัมสเตอร์ดัม โดยตลาดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.1962 อยู่ริมคลองซิงเกลระหว่างมุนต์แปลนกับโคนิงสแปลนในเมืองทางตอนใต้ของแถบคลองในอัมสเตอร์ดัม ที่แห่งนี้ประกอบด้วยร้านค้าสวนและดอกไม้ 15 ร้าน ตลอดจนแผงของขวัญของที่ระลึก และยังเป็นตลาด

5.ริกส์มิวเซียม (Rijksmuseum)หรือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอัมสเตอร์ดัม

5.ริกส์มิวเซียม (Rijksmuseum)หรือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอัมสเตอร์ดัม

5.ริกส์มิวเซียม (Rijksmuseum)หรือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอัมสเตอร์ดัม

จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1800 พิพิธภัณฑ์แห่งชาติแห่งอัมสเตอร์ดัมเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงงานศิลปะ งานหัตถกรรม และประวัติศาสตร์ต่างที่น่าสนใจ นอกจากนี้แล้วก็ยังมีงานสะสมจำนวนมากจากยุคทองของเนเธอร์แลนด์และศิลปะเอเชีย ให้นักท่องเที่ยวได้ชมและได้ความรู้กันอีกด้วย

5.ริกส์มิวเซียม (Rijksmuseum)หรือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอัมสเตอร์ดัม

6.พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ (Van gogh museum)

หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงอัมสเตอร์ดัมและระดับโลกก็ว่าได้ โดยจัดแสดงภาคศิลปะหลายร้อยชิ้นของแวนโก๊ะ ทั้งภาพวาดที่สวยงาม และจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของเขาเองกว่า 700 ฉบับ และภาพวาดศิลปะที่ลงสีมีมากถึง 200 รูป และนอกจากผลงานศิลปะของแวนโก๊ะแล้ว ยังมีผลงานของจิตกรคนอื่นๆด้วย ไม่ว่าจะเป็น ปอล โกแก็ง เอ็ดเวิรด์ และนอกจากจัดแสดงรูปภาพแล้ว ยังเป็นสถานที่เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตของแวน โก๊ะให้ได้ชมกันอีกด้วย

แนะนำว่าหากใครที่จะเข้าไปชมผลงานของแว๊นโก๊ะในพิพิธภัณฑ์แวน แนะนำให้ทำการจองทางออนไลน์และซื้อตั๋วเข้าชมล่วงหน้าเลยนะคะ เนื่องจากเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

7.พิพิธภัณฑ์ Stedelijk Museum Amsterdam

7.พิพิธภัณฑ์ Stedelijk Museum Amsterdam
ตั้งอยู่ใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ศิลปะร่วมสมัย และการออกแบบที่ตั้งอยู่ในอัมสเตอร์ดัมประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดง การออกแบบ ห้องห้องนิทรรศการต่างๆที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม

8.พิพิธภัณฑ์โมโค (Moco Museum)

8.พิพิธภัณฑ์โมโค (Moco Museum) ตั้งอยู่ใกล้พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะและพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ จัดเป็นหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว โดยจัดแสดงอยู่ในอาคารเก่าแก่ที่มีอายุร่วม 100 ปี โดยด้านในแสดงผลงานศิลปะที่มีลักษณะเฉพาะตัว มีเอกลักษณ์โดดเด่น ซึงเป็นผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียง และผลงานส่วนใหญ่จะเน้นเป็นในเชิงหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สร้างสรรค์หรือการเสียดสี ทำให้ผลงานศิลปะที่นำมาจัดแสดงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชม

โดยเฉพาะผลงานศิลปินชื่อดังก้องโลกอย่าง Banksy ศิลปินแนว Street Art ก็ถูกนำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ด้วย หากใครที่เป็นคนชื่นชอบศิลปะ ก็อย่าได้พลาดแวะเข้าไปชมเชียวล่ะค่ะ

อีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมคือ การเดินชมเมืองอัมสเตอร์ดัม ถ่ายรูปเช็คอินตามมุมต่างๆตามใจชอบ

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการล่องเรือ หรือจะเดินชมเมือง ชมอาคารบ้านเรือ สถาปัตยกรรมก็ได้รับความนิยมชมชอบอยู่ไม่น้อย

และไม่พลาดถ่ายรูปภาพสวยๆริมคลองในเมืองอัมสเตอร์ดัม

ซึ่งการล่องเรือท่องเที่ยวตามคลองต่างๆก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากอีกด้วย โดยเฉพาะการเที่ยวแบบหมู่คณะ หรือกรุ๊ปทัวร์

แต่ถ้าหากใครที่ไม่อยากนั่งเรือ หรือกลัวจะเมาเรือ ก็สามารถเดินออกกำลังแข้ง กำลังขาก็สุขอุราได้เชี่นกัน

เดินชิคแอนด์ชิลๆ ชมวิวไปเรื่อยเปื่อยๆ

เดินชมเมืองอัมสเตอร์ดัม บรรยากาศเที่ยวในเดือนพฤษภาคม

หรือถ้าใครไม่อยากเดิน ก็เช่ารถจักรยานปั่นเที่ยวรอบเมืองเลยก็ได้ค่ะ
เพราะเมืองอัมสเตอร์ดัมก็จัดเป็นเมืองจักรยานอยู่แล้ว

เมืองอัมสเตอร์ดัม เมืองแห่งจักรยาน

ดังนั้นการปั่นจักรยานที่นี่ จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะคู่รัก หนุ่มบ่าว สาวสมัยใหม่ๆ ที่รักสุขภาพ ก็นิยมมากระชากถีบ 2 ล้อ เป็นพาหนะไปชมตามสถานที่ท่องเทียวต่างๆในกรุงอัมสเตอร์ดัมอีกด้วย

และหากมาเที่ยวเมืองแห่งนี้ อย่าลืมพกถุงผ้ามาด้วยนะคะ เพราะตามร้านซุปเปอร์มาเก็ตต่างๆ จะไม่มีถุงพลาสติกให้นะคะ แต่หากใครลืม คงต้องออกเงินซื้อเก็บไว้เลย จะได้ใช้ตามเมืองต่างๆด้วย

ร้านขายผักสดในอัมสเตอร์ดัม

ร้านขายผักและผลไม้ ก็เลือกหยิบกันได้ตามใจชอบ จากนั้นก็เอาไปชั่ง

นอกจากผักสดแล้ว ยังมีผลหมากรากไม้ กล้วย สับปะรด ขายด้วย

ผลหมากรากไม้สดๆ ก็มีขายให้เลือกทานกันอย่างสำราญใจ
มีสัปปะรดให้ด้วย แต่เสียดายไม่มีมังคุด เงาะ ทุเรียน หากมีคงจะขายดีกว่านี้มาก กระชากใจเว่อร์อย่างแน่นอน

ของฝากอัมสเตอร์ดัม ที่ระลึกที่ติดตู้เย็น หรือ magnet ของฝากราคาถูกที่ซื้อใส่ไปฝากคนที่เมืองไทยได้

และไม่พลาดหากมาเที่ยวคงจะต้องซื้อของที่ระลึกไปฝากคนทางบ้าน และที่ทำงานด้วย
ของที่ระลึกราคาถูกสุดๆ คงจะเป็นพวก magnet ติดตู้เย็น พวงกุญแจ และของกิ๊ฟช็อปมุ้งมิ้งอื่นๆ

เดินไปก็ให้อาหารนก

หรือหากใครหิว ท้องร้องกิ๊วๆ ก็ทานฮอดดอทไปพลางก่อนก็ได้
แต่เดี๊ยนว่า ทานอันเดียวคงอิ่มไปถึงมื้อเย็นแน่นอนนะคะ

บรรยากาศตึกรางบ้านช่อง สถาปัตยกรรมในกรุงอัมสเตอร์ดัม

และหากมาเที่ยวเมืองอัมสเตอร์ดัม คงเป็นตึกอาคารบ้านเรือน สถาปัตยกรรมสวยงาม รูปทรงน่ารัก จนกลายเป็นกิมมิคเก๋ๆ ที่เหล่าผู้รักการทัศนาจรทุกคน แวะมาถ่ายรูปตามมุมสะพานและตามทางเดินต่างๆ

บรรยากาศเที่ยวอัมสเตอร์ ชมสถาปัตยกรรมตึกรางบ้านช่อง อาคารสวยงามริมคลอง

อาคาร ตึกรางบ้านช่องบางแห่ง ก็เป็นร้านค้า ร้านคาเฟ่ และทำเป็นโรงแรมเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปใช้บริการนอนค้างแรมอีกด้วย

8. หมู่บ้านซานส์ สคันส์ (zaan schan) อีกหนึ่งที่เที่ยวยอดนิยมอยู่ไม่ไกลจากกรุงอัมสเตอร์ดัมม สามารถนั่งรถไฟไปได้ โดยลงที่สถานี Zaandijk Zaanse Schans

และหากมีเวลาอีกสักหน่อย ก็ต้องไม่พลาดที่จะไปเที่ยวชมหมู่บ้านซานส์ สคันส์ (zaan schan) หมู่บ้านเล็กๆที่มีจุดเด่นเป็นกังหันลม อยู่ห่างจากกรุงอัมสเตอร์ดัมเพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น โดยเป็นหนึ่งในทีเที่ยวแบบ One day trip หรือไปเที่ยวได้ภายใน 1 วัน การเดินทางไปยังหมู่บ้านซานส์ สคันหรือหมู่บ้านทุ่งกังหันลมแห่งนี้ ได้แสนสะดวกสบายค่ะ

8.หมู่บ้านซานส์ สคันส์ (zaan schan) อีกหนึ่งที่เที่ยวยอดนิยมอยู่ไม่ไกลจากกรุงอัมสเตอร์ดัมม สามารถนั่งรถไฟไปได้ โดยลงที่สถานี Zaandijk Zaanse Schans

สามารถเดินทางไปได้โดยนั่งรถไฟจากสถานีรถไฟกลาง Amsterdam Central ไปลงที่ Zaandijk Zaanse Schans จากนั้นก็เดินเท้าไปยังหมู่บ้านอีกประมาณ 300 เมตรก็ถึงจุดถ่ายภาพทุ่งกังหันลมแล้วค่ะ โดยหมู่บ้านดังกล่าวก็มี ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกสไตล์น่ารัก กุ๊กกิ๊ก ฟรุ้งฟริ้ง ให้เลือกซื้อกันอีกด้วย แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่มา ก็มักจะมาถ่ายรูปคู่กับกังหันลมยักษ์ ที่เป็นสัญญลักษณ์ ของประเทศเนเธอร์แลนด์ เนี่ยแหละจ้า

ช่วงเวลาเย็น ก็เดินทางกลับที่พัก และรับประทานอาหารมื้อค่ำ ถือเป็นอันจบทริปเที่ยวในเมืองอัมสเตอร์ดัมโดยสวัสดิภาพค่ะ

หลังจากได้แวะไปเที่ยวชมตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเมืองอัมสเตอร์ดัมแล้ว ช่วงเวลาเย็น ก็เดินทางกลับที่พัก และรับประทานอาหารมื้อค่ำ ถือเป็นอันจบทริปเที่ยวในเมืองอัมสเตอร์ดัมโดยสวัสดิภาพค่ะ

ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆท่านที่เข้ามาสไลด์เลื่อนดูกันนะคะ จริงๆแล้วในเมืองอัมสเตอร์ดัม ยังมีสถานที่ท่องเที่ยว จุดถ่ายภาพ ถ่ายรูปสวยๆ และมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจให้แวะไปชมอีกหลายแห่งเลยค่ะ สำหรับใครที่มีเวลา ลองปักหมุดมาเที่ยวกันสักครั้งนะคะ ลองมาเปิดโลกกว้าง ดูบ้านเมืองในต่างแดนดูสิว่า จะเริ่ดสะแมนแตนแค่ใหน เดี๊ยนรับรองว่าได้เปิดมุมมองและได้ความรู้กลับไปอย่างแน่นอนจ้า หวังว่าะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะคะ.....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน

---------------------------------------------------------------
บทความรีวิวเมืองอื่นๆ ที่ผ่านมา มีดังนี้

รีวิวแบกเป้พาไปเที่ยวเมืองฮาร์เลม เมืองเล็กๆน่ารัก ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน คลิ๊กดูรีวิว>>

แบ่งปันรีวิวลุยเดี่ยวพาไปเที่ยวเมืองฮาร์อาเลม(haarlem) เมืองเล็กๆน่ารัก แวะไปพักเที่ยวชมดูสิ มีอะไรให้เช็คอินบ้าง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวเลยจ้า>>>

แบกเป้รีวิวพาเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัม เมืองนี้มีอะไรให้ดื่มด่ำฤทัยบ้าง ตามไปดูกันสิ>>

รีวิวแบกเป้พาไปเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัม ชื่นฉ่ำฤทัยใน 1 วัน เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปชมกันสิ คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวเลยจ้า>>>