สำหรับเมืองท่องเที่ยวถัดจากเมืองเซลอัมซี ก็คือเมืองซาลซ์บูร์กค่ะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งในประเทศออสเตรีย ที่ใครจัดทริปมาเที่ยวประเทศนี้ ยังไงก็ต้องแวะมาเที่ยวชมสักครั้ง และอีกอย่างยังเป็นเมืองที่อยู่ติดกับพรมแดนของประเทศเยอรมันด้วย ทำให้เมืองแห่งนี้ยิ่งกลายเป็นศูนย์กลาง หรือ Hub แห่งการเดินทางเชื่อมต่อไปยังเมืองต่างๆอีกด้วย
ก่อนจะเข้าสู่รีวิวการเดินทางและแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซาลซ์บูร์ก เราก็มารู้จักเมืองแห่งนี้กันสักเล็กน้อย พอสังเขปนะคะ
|
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเมืองซาลซ์บูร์กพอสังเขป(About Salzburg City, Austria) |
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเมืองซาลซ์บูร์กพอสังเขป(About Salzburg City, Austria)
เมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg city) บ้างก็เรียกว่า ซาลร์เบิร์ก หรือเรียก ซาลซ์บรูก จัดเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดอีกแห่งในประเทศออสเตรีย โดยจัดอยู่ในลำดับที่ 4 และยังเป็นเมืองหลวงของรัฐซาลซ์บรูกอีกด้วย ตัวเมืองอยู่ห่างจากกรุงเวียนเวียน เมืองหลวงของออสเตรีย มาทางทิศตะวันตก ระยะทางประมาณ 295 กิโลเมตร มีเส้นทางการคมนาคมที่สะดวกสบาย
ถือว่าเป็นเมืองเก่าแก่ของรัฐซาล์บูรก มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมบาโรกที่สวยงามในย่านเมืองเก่า และสมบูรณ์ที่สุดอีกแห่งในทวีปยุโรป (Baroque architecture) จนได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลกทางศิลปกรรมที่งดงามควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ให้ผู้ที่สนใจได้ชมและเรียนรู้ และนอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีทัศนียภาพสวยงาม เป็นที่ตั้งของเทือกเขาแอลป์ หรือเทือกเขาที่หิมะปก อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี และยังเป็นเมืองบ้านเกิดของศิลปินชื่อดังอย่าง ว็อล์ฟกัง อมาเดอุส โมทซาร์ท เป็นนักประพันธ์ดนตรีคลาสสิกชาวออสเตรียที่มีชื่อเสียงก้องโลก และในเมืองยังมีปราสาทตั้งบนยอดเขา พระราชวังที่สวยจนถูก นำไปเป็นฉากละคร และภาพยนตร์เพลงที่มีชื่อเสียงอย่าง The sound of music ซึ่งทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเที่ยวชมเมืองนี้สักครั้ง
|
มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมบาโรกที่สวยงามในย่านเมืองเก่า และสมบูรณ์ที่สุดอีกแห่งในทวีปยุโรป (Baroque architecture) จนได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก |
และหลังจากที่ได้รู้จักเมืองซาล์บูร์กกันไปบ้างเล็กน้อยแล้ว ก็มาชมรีวิวการเดินทางและที่เที่ยวต่างๆในเมืองนี้กันได้เลยค่ะ เริ่มต้นทริปนี้ก็เป็นรีวิวต่อจากบทความตอนที่แล้วนะคะ
กระเป๋าเป้ใบใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆค่ะ เพราะซื้อของฝากโน้นนี้นั้น จากเมืองต่างๆมาตลอด กระเป๋าเลยใหญ่มาก บางครั้งแบกไม่ไหว ก็ลากเอาเลย
|
นั่งรถไฟออกจากเมืองเซลอัมซี ไปยังเมืองซาลซ์บูร์ก |
นั่งรถไฟออกจากเมืองเซลอัมซี ไปยังเมืองซาลซ์บูร์ก ระยะทางประมาณ 100 กว่ากิโลเมตรนิดๆ
ใช้เวลานั่งรถไฟประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงค่ะ
|
บรรยากาศริมทางระหว่างนั่งรถไฟออกจากเมือง Zell Am See ไปเมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg) |
นั่งรถไฟชมวิวทุ่งหญ้าไปเพลินๆ ถือเป็นการพักผ่อนไปในตัว เพราะตลอดเกือบทั้งวัน ก็เดินออกกำลังแข้งขาไปพิชิตยอดเขามาเกือบทั้งวัน
ยังดีนะคะ ที่มาทันขบวนรถไฟก่อนเวลาพลบค่ำ ไม่งั้นไม่มีที่นั่งแน่นอนค่ะ เพราะชาวออสเตรียนจะเลิกงาน ที่นั่งจะไม่ว่างเลย
ระหว่างทางนั่งรถไฟผ่านปราสาทเก่าแก่ในเมือง Werfen ด้วยนะคะ ในแพลนโปรแกรมเที่ยว กะว่าจะมาเก็บภาพที่เที่ยวในเมืองนี้ด้วย แต่เวลาไม่พอค่ะ เลยขอผ่าน แค่นั่งรถไฟผ่านก็ได้เห็นล่ะ
ผ่านหมู่บ้านแถบชนบท ดูเรียบง่ายๆ สวยงามแบบคันทรี มีภูเขา ทุ่งหญ้า และวัวน้อยกลอยใจ กำลังแทะเล็มกินหญ้าอยู่ริมทาง บรรยากาศดูสวยงามคล้ายๆเหมือนทริปที่ไปเที่ยวในสวิสเซอร์แลนด์เลยค่ะ
|
ถึงสถานีรถไฟเมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg)
|
นั่งรถไฟออกจากเมือง Zell am See ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 40 กว่านาทีก็ถึงเมือง Salzburg Hbf แล้วค่ะ
|
เดินอออกมาตั้งหลักด้านนอกสถานีรถไฟ เพื่อเปิดหมุดพิกัดแผนที่ เดินไปยังโรงแรมซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ |
เดินออกจากด้านในสถานีรถไฟ มาด้านนอกสถานี มาตั้งหลักเปิดเน็ต นำทางไปยังโรงแรมที่พักคืนนี้ค่ะ โดยวางแผนนอนพักที่เมืองซาร์บูรก์ 1 คืน และเที่ยวในเมืองพรุ่งนี้อีก 1 วัน
|
ส่วนที่พักคืนนี้ ก็นอนพักโรงแรมในเครือ A & O อีกแล้วค่ะ
นอนที่โรงแรมเอแอนด์โอ ซาลซ์บูร์ก เฮาพ์ทบานโฮฟ (a&o Salzburg
Hauptbahnhof) เพราะราคาถูกดี ใกล้สถานีรถไฟด้วย เน้นสะดวก เดินแบกเป้สะพายหลังไปได้ไม่ไกล |
โดยโรงแรมที่พักคืนนี้ ก็นอนพักโรงแรมในเครือ A & O อีกแล้วค่ะ นอนที่โรงแรมเอแอนด์โอ ซาลซ์บูร์ก เฮาพ์ทบานโฮฟ (a&o Salzburg Hauptbahnhof) เนื่องจากเป็นโรงแรมราคาถูก ห้องนอนรวมแบบง่ายๆ ฟังเสียงกรนของคนอื่นอดทนนอนต่อไป หลังจากที่ทริปก่อนหน้านี้ นอนพักห้องส่วนตัวอย่างหรู กลับมาพักห้องนอนรวม แนวโฮสเทลเหมือนเดิมค่ะ เหมาะกับตัวเดี๊ยนทีสุดแล้ว เน้นแค่นอนอย่างเดียว นอนไม่หลับก็ต้องอดทนค่ะ
|
นอนพักที่พักโรงแรมในเครือ เอ แอนด์ โอ อีกแล้วค่ะ |
เดินเข้ามายังโรงแรมเอแอนด์โอ ซาลซ์บูร์ก เฮาพ์ทบานโฮฟ (a&o Salzburg Hauptbahnhof) มีป้ายตอนรับเข้าสู่ประเทศออสเตรีย (Welcome to Austria) เป็นประเทศที่เวลาพูด ทำให้คนสับสน คิดว่าไปประเทศออสเตรเลีย เนื่องจากมีสระเอีย เลยทำให้เดี๊ยนงัวเงีย เพลียอย่างแรง
บรรยากาศภายในบริเวณล็อบบี้ที่โรงแรม A & O Salzburg ที่นี่ก็ถือว่ากว้างขวาง กว่าเมืองสตุทการ์ดในประเทศเยอรมันที่เคยพักก่อนหน้านี้อีกนะคะ
รอเช็คอินน์เข้าห้องพัก พนักงานกำลังหาข้อมูลอยู่ค่ะ
ค่าห้องพักจ่ายผ่านบัตรเครดิตก่อนมาแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม หากใครมาเที่ยวประเทศแถบยุโรป จะต้องมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของภาษาเมือง หรือ City Tax ที่ต้องเสียเพิ่มด้วย
|
ทริปเที่ยวเมืองซาลซ์บูร์ก นอนพักที่พักโรงแรมเอแอนด์โอ ซาลซ์บูร์ก เฮาพ์ทบานโฮฟ (a&o Salzburg Hauptbahnhof) ห้องพักนอนรวม ห้องน้ำรวม ราคาคืนละ 750 บาทต่อคนต่อคืน |
ได้กุญแจห้องพักมาแล้ว ก็เอากระเป๋ามาไว้ในห้องพัก ราคาห้องพักคืนละ 750 บาทต่อคืนต่อคน ไม่รวมอาหารเช้านะคะ โชคดีที่ได้เตียงชั้นล่างค่ะ จะได้ไม่ต้องปีนขึ้นไป ส่วนผ้าปูที่นอน กับปลอกผ้านวมเช่าเพิ่มจ่ายไป 3.5 ยูโร แต่หากใครมาพักที่โรงแรมในเครือแห่งนี้ ไม่อยากจ่ายเงินเพิ่ม แนะนำ พกผ้าปูที่นอนมาด้วยก็ดีค่ะ ประหยัดไปได้อีก
มีห้องครัวให้ทำกับข้าวทานด้วย แต่ห้องเล็กมากๆ เล็กกว่าโรงแรมในเครือเอแอนด์โอ ที่พักในเยอรมันซ่ะอีก
อาหารมื้อนี้จัดไปแบบง่ายๆ ทำกินเอง ทานเองแบบง่ายๆ ไม่อร่อย แต่ได้ประโยชน์ พอประทังชีวิตต่อไปได้อีก 1 วัน
ส่วนอาหารการกินก็ไม่ต้องห่วงว่าจะหาซื้อประทานยาก เพราะใกล้ๆโรงแรมที่พัก เป็นสถานีรถไฟ มีร้านซุปเปอร์มาเก็ตเปิดให้บริการถึง 4 ทุ่มเลยค่ะ แต่ไม่มีร้านสะดวกซื้อเปิด 24 ชั่วโมงเหมือนในเมืองไทยเรานะคะ แนะนำว่าหากใครมา รีบไปซื้อของมาตุนยัดในตู้เย็นไว้เลย
|
มานั่งทำงานต่อ ถ้าไม่ทำงาน มีหวังโดนกินหัวแน่นอน |
หลังจากทานอาหารอิ่ม ก็มานั่งหัวหมุนทำงานต่อ ถ้าไม่ทำงาน มีหวังโดนกินหัวจากบริษัทแน่นอน ส่วนรีวิวท่องเที่ยวค่อยมาเขียน ตอนกลับจากเมืองไทยเอาค่ะ
|
จากการที่ได้สอบถามเจ้าหน้าที่โรงแรม แนะนำว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวกัน ก็มักจะนิยมเดินด้วยสองเท้าเรานี้แหล่ะค่ะ |
ส่วนการเดินทางในเมือง Salzburg จะเดินทางโดยสารไปสถานที่ท่องเที่ยวอย่างไร
จากการที่ได้สอบถามเจ้าหน้าที่โรงแรม แนะนำว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวกัน ก็มักจะนิยมเดินด้วยสองเท้าเรานี้แหล่ะค่ะ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟซาร์บูกมากนัก
|
หากใครไม่อยากเดิน หรือพาคนแก่คนชราแบกเป้มาเที่ยวด้วย เดี๊ยนแนะนำให้มาปักหลักเริ่มต้นเดินทางท่องเที่ยวที่ด้านหน้าสถานีรถไฟ |
แต่ถ้าหากใครไม่อยากเดิน หรือพาคนแก่คนชราแบกเป้มาเที่ยวด้วย เดี๊ยนแนะนำให้มาปักหลักเริ่มต้นเดินทางท่องเที่ยวที่ด้านหน้าสถานีรถไฟ
|
บริเวณสถานีเป็นจุดศูนย์รวมขนส่งมวลชล มีทั้งรถไฟใต้ดิน และรถราง |
ตรงสถานีรถไฟจะมีรถไฟใต้ดิน รถราง และรถบัสโดยสารให้บริการไปยังสถานที่ต่างๆ
|
แผนที่การเดินทางด้วยรถโดยสารสารณะแบบต่างๆในเมืองซาลซ์บูร์ก(Salzburg Transportation city map) |
มีแผนที่เส้นทางการคมนาคมเดินทางในตัวเมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg Transportation city map) ให้ดูอีกด้วย อยู่บริเวณตรงจุดรถขึ้นรถบัส
|
ป้ายบอกหมายเลขแสดงเส้นทางคมนาคมขนส่งในเมือง |
มีเส้นทางรถไฟให้บริการในเมือง สาย S สาย U เหมือนที่ประเทศเยอรมันเลย ถ้ามาแรกๆก็จะงง สับสนเป็นไก่ตาแตก แต่ถ้าใครไม่อยากเดินทางด้วยรถโดยสารในเมืองหรือไม่ได้เดินทางไกลเกินระยะทางกว่า 2-3 กิโลเมตร แนะนำว่าเดินเอาดีกว่าค่ะ เปิดมือถือนำทางเที่ยวเลย เดี่ยวนี้จะไปเที่ยวใหนก็สะดวกสบาย เพราะมีมือถือ GPS นำทาง อินเตอร์เน็ตก็มีให้บริการใช้ได้เกือบทั่วโลก
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวในเมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg) มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไร น่าในใจบ้าง
|
แผนที่ท่องเที่ยวในเมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg Tourist attractions places Map)ที่ทางเจ้าหน้าที่โรงแรมแนะนำว่า สามารถเดินเท้าจากโรงแรมไปย่านท่องเที่ยวเมืองเก่าได้ไม่ไกลค่ะ |
ตอนเข้าเช็คอินน์ที่โรงแรม ทางน้องพนักงานที่โรงแรมก็มีแผนที่ แนะนำแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในเมืองซาล์รบูร์กให้ด้วย นอกจากนี้ยังแนะนำว่า จากโรงแรมที่พักสามารถเดินเท้าไปยังแหล่งท่องเที่ยวได้ไม่ไกลค่ะ ระยะทางจากโรงแรม เอแอนด์โอ ซาลซ์บูร์ก เฮาพ์ทบานโฮฟ (a&o Salzburg Hauptbahnhof) ประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้น ดูในแผนที่ เหมือนจะไกลนะคะ แต่จริงๆไม่ไกลเลยค่ะ
ตามรูปเดินเลียบตามถนนฟุตบาทมาเรื่อยๆ ถนนหนทางก็ดีอยู่นะคะ ต้องระมัดระวังรถรางให้ดี จะเชียวชนเอา
|
แผนที่บริการรถทัวร์รอบเมืองของ Hop on Hop Off สามารถใช้บริการนั่งชมเมือง มีไกด์นำเที่ยวแนะนำสถานที่ต่างๆ |
หรือใครที่ไม่อยากเดินเที่ยวเอง ก็ซื้อบริการนั่งรถทัวร์รอบเมืองของ Hop on Hop off ก็มีให้บริการตามเส้นทางต่างๆด้วยเหมือนกันนะคะ ตามรูปเป็นแผนที่ท่องเที่ยวไปยังจุดต่างๆ ซึ่งบางแห่งก็เดินไปไม่ได้ เหมาะสำหรับคนที่อยากเที่ยวแบบ 1 Day trip มีไกด์ทัวร์ให้บริการ ราคาเริ่มต้น 19 ยูโร อาจเปลี่ยนได้ในอนาคต
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg Tourist Attraction) มีที่เที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง หากมาเที่ยวเองคนเดียวแบบดิฉัน โดยขอมาสรุปเป็นข้อๆดังนี้ค่ะ
|
1.ปราสาทโฮเอินซาลซ์บูร์ก (Fortress Hohensalzburg) |
|
1.ปราสาทโฮเอินซาลซ์บูร์ก (Fortress Hohensalzburg) |
|
1.ภาพด้านในบริเวณปราสาทโฮเอินซาลซ์บูร์ก (Fortress Hohensalzburg) |
|
1.ภาพด้านในอาคารปราสาทโฮเอินซาลซ์บูร์ก (Fortress Hohensalzburg) |
|
1.ภาพจากมุมระเบียงของปราสาทโฮเอินซาลซ์บูร์ก (Fortress Hohensalzburg) มองเห็นวิวเมืองเทือกเขาแอลป์ได้อย่างสวยงาม |
|
1.ภาพวิวเมืองจากระเบียงปราสาทโฮเอินซาลซ์บูร์ก (Fortress Hohensalzburg) มองเห็นวิวทิวทัศน์เมืองเก่าซาลซ์บูร์กได้อย่างสวยงาม |
1.ปราสาทโฮเอินซาลซ์บูร์ก (Fortress Hohensalzburg)
จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและโดดเด่นที่สุดในเมืองซาร์ลบูร์ก
ปราสาทโฮเอินซาลซ์บูร์ก (เยอรมัน: Festung Hohensalzburg) เป็นป้อมปราการบนยอดเขาเฟสตุงซ์แบร์ก (Festungsberg) ที่ระดับความสูง 506 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล[1] เป็นภูเขาขนาดเล็กในเมืองซาลซ์บูร์กของประเทศออสเตรีย ปราสาทหลังนี้เคยถูกใช้เป็นที่พำนักของเจ้าชายอัครมุขนายกแห่งซาลซ์บูร์ก มีความยาว 250 เมตรและกว้าง 150 เมตร ปราสาทแห่งนี้เริ่มก่อสร้างในปีค.ศ. 1077 ในสมัยอัครมุขนายกเกิบฮาร์ด ฟอน เฮลเฟินชไตน์
และมีการต่อเติมขยายขนาดเรื่อยๆ จนถึงปี ค.ศ. 1519 จัดเป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดที่สร้างขึ้นในสมัยกลาง เมื่อมีการสร้างรถรางเคเบิลขึ้นภูเขาแห่งนี้ในปีค.ศ. 1892 ปราสาทโฮเอินซาลซ์บูร์กได้รับการบูรณะและตกแต่งใหม่เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวของเมือง
|
2.สวนมิราเบล พาเลซ ( Mirabell Palace Garden) สวนสวยชื่อดังประจำเมือง ที่ใครๆก็ต้องแวะมาชำเลือกถ่ายรูปภาพเช็คอินกัน เดินเท้าจากสถานีรถไฟมาเรื่อยๆไม่ไกลมาก |
|
2.สวนมิราเบล พาเลซ ( Mirabell Palace Garden) |
|
2.สวนมิราเบล พาเลซ ( Mirabell Palace Garden) |
|
2.สวนมิราเบล พาเลซ ( Mirabell Palace Garden) |
|
2.สวนมิราเบล พาเลซ ( Mirabell Palace Garden) |
|
2.สวนมิราเบล พาเลซ ( Mirabell Palace Garden) |
2.สวนมิราเบล พาเลซ ( Mirabell Palace Garden)
หนึ่งในสวนสไตล์ยุโปรที่จัดตกแต่งอย่างสวยงาม และมีชื่อเสียง โดยถูกจัดให้อยู่ในฉากภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง The Sound of Music Mirabell Palace (เยอรมัน: Schloss Mirabell) เป็นอาคารเก่าแก่ในเมืองซาลซ์บูร์ก โดยพระราชวังมีสวนงดงาม และมีอนุสาวรีย์ที่จัดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ขึ้นทะเบียนไว้เป็นมรดกโลก และเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ประวัติศาสตร์แห่งเมืองซาลซ์บูร์กอีกด้วย
นอกจากจะมีการจัดตกแต่งสวนที่สวยงามแล้ว ภายในอาคารพระราชวังมิราเบล(Mirabell Palace Museum) ยังจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงนิทรรศการ ศิลปะ วัตถุโบราณ และสิ่งของเครื่องใช้ในพระราชวัง ให้กับนักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมอีกด้วย
|
3.มหาวิหารซาลซ์บูร์ก (Salzburg Cathedral) |
|
3.มหาวิหารซาลซ์บูร์ก (Salzburg Cathedral) |
|
3.มหาวิหารซาลซ์บูร์ก (Salzburg Cathedral) |
|
3.มหาวิหารซาลซ์บูร์ก (Salzburg Cathedral) |
3.มหาวิหารซาลซ์บูร์ก (Salzburg Cathedral)
วิหารซาลซ์บูร์ก (เยอรมัน: Salzburger Dom) เป็นมหาวิหารศิลปะสไตล์บาโรกที่งดงามอยู่ในเขตย่านเมืองเก่า ย่านวัฒนธรรมมรดกโลก วิหารแห่งนี้ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 17 ของนิกายโรมันคาทอลิกโดยนักบุญรูเพิร์ต ก่อตั้งโบสถ์แห่งนี้ขึ้นในปี ค.ศ. 774 จัดเป็นโบสถ์วิหารเก่าแก่ที่สำคัญของเมืองนี้และเป็นศูนย์รวมใจของคริสต์ศาสนิกชนชาวเมืองซาลซ์บูร์กด้วย และจัดถูกจัดให้เป็นวิหารที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามแบบบาโรกอีกแห่งของยุโรปด้วย
|
4.ถนนคนเดินเกททรัยเดอกาสเซอ (Getreidegasse walking road) |
|
4.ถนนคนเดินเกททรัยเดอกาสเซอ (Getreidegasse walking road) |
|
4.ถนนคนเดินเกททรัยเดอกาสเซอ (Getreidegasse walking road) |
|
4.ย่านถนนคนเดินเกททรัยเดอกาสเซอ (Getreidegasse walking road) |
|
4.ถนนคนเดินเกททรัยเดอกาสเซอ (Getreidegasse walking road) |
4.ถนนคนเดินเกททรัยเดอกาสเซอ (Getreidegasse walking road)
เป็นย่านถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงอยู่ในย่านเมืองเก่า ใกล้ปราสาทโฮเอินซาลซ์บูร์ก มีร้านค้า ร้านของที่ระลึก และร้านอาหารนั่งดื่มชิลๆ ให้เลือกเดินชมกันอย่างเพลิดเพลินใจ โดยอาคารบ้านเรือนบนตรอกถนนแคบๆ Getreidegasse เป็นสิ่งที่แสดงให้ถึงสถาปัตยกรรมสมัยกลางของซาลซ์บูร์ก รวมทั้งนักประวัติศาสตร์ที่สมบูรณ์ ผู้ที่ชื่นชอบในงานสถาปัตยกรรม จะได้ชื่นชมป้ายร้านค้าต่างๆ ที่ประดับตกแต่งอย่างสยงาม และช่องหน้าต่างเหล็กดัดอันสวยงามยุคสมัยก่อนได้ได้ชมกันอีกด้วย ส่วนใครที่ชื่อชอบแฟชั่นก็มีร้านค้าแบรนด์เนมต่างๆให้ได้เข้าไปเลือกซื้อกันตามใจชอบ นอกจากนี้แล้วบ้านเกิดและพิพิธภัณฑ์โมสาร์ท ก็ตั้งอยู่ย่านเมืองเก่าบริเวณถนนเกททรับเดอกาซเซออีกด้วย (Getreidsgasse 9)
|
5.จุดชมวิวแม่น้ำซาลซ์อัค Salzach River ที่สะพานมาการ์สเตจ (Makartsteg bridge salzburg) |
|
5.จุดชมวิวแม่น้ำซาลซ์อัค Salzach ที่สะพานมาการ์สเตจ (Makartsteg bridge salzburg) |
|
5.จุดชมวิวแม่น้ำซาลซ์อัค Salzach ที่สะพานมาการ์สเตจ (Makartsteg bridge salzburg) |
|
5.จุดชมวิวแม่น้ำซาลซ์อัค Salzach ที่สะพานมาการ์สเตจ (Makartsteg bridge salzburg) |
5.จุดชมวิวแม่น้ำซาลซ์อัค Salzach ที่สะพานมาการ์สเตจ (Makartsteg bridge salzburg)
หนึ่งในจุดชมวิวถ่ายภาพเช็คอินและชมบรรยากาศแม่น้ำซาลซ์อัคในเมืองซาร์บูร์ก ที่นักท่องเที่ยวคู่รักนิยนำแม่กุญแจมาล็อกที่ราวสะพานแห่งนี้ เพื่อให้ความรักมั่นคงยืนยาว สะพานปัจจุบันเป็นสะพานที่ทันสมัยที่สุดของ Salzburg ในย่านเมืองเก่า
ตั้งอยู่ใกล้ๆกัยย่านถนนคนเดิน ถนนคนเดินเกททรัยเดอกาสเซอ (Getreidegasse walking road) เป็นอาคารเก่าแก่ในยุคกลางย่านเมืองเก่าของซาลซ์บูร์ก แต่เดิมเคยเป็นที่ตั้งของศาลยุติธรรมและเป็นหอสังเกตุการณ์ของสภาประจำเมือง ซึ่งอาคารหลังมีความโดดเด่นคือ เป็นหอระฆังสูงและมีหน้าปัดนาฬิกาเก่าโดยระฆังที่อยู่บนอาคารสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ส่วนกลไกของนาฬิกาก็เป็นแบบดั้งเดิม และปรับปรุงใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน ด้านหน้าอาคารเป็นศิลปะแบบโรโกโกในสมัยศตวรรษที่ 18 ซึ่งยังคงความสวยงาม เป็นอาคารโดดเด่น บ่งบอกถึงความเก่าแก่ของเมืองนี้
|
9.จัตุรัสโมสาร์ท (Mozartplatz) |
9.จัตุรัสโมสาร์ท (Mozartplatz)
จัตุรัสโมสาร์ท (Mozartplatz) เป็นจัตุรัสที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่า ลาดปูด้วยหินแข็งแกร่ง โดยจุดเด่นของจัตุรัสแห่งนี้คือ รูปปั้นบุคคลสำคัญของเมืองซาลซ์บูร์กมีชื่อนามว่า โวล์ฟกัง อะมาเดอุส โมสาร์ท ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงชาวออสเตรียที่มีชื่อเสียง ตั้งเด่นตระหง่านอยู่ในบริเวณแห่งนี้ เป็นจุดท่องเที่ยวถ่ายภาพ และเป็นจุดรวมพลของนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ
นอกจากนี้แล้วที่จัตุรัสโมสาร์ท ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของแม่น้ำซาลซ์อัค สามารถเดินชมตึกรางบ้านช่อง และอาคารเก่าแก่โดยรอบได้ง่ายๆ สถานที่น่าสนใจที่สำคัญอย่าง Getreidesgasse กับ Residenz ทั้งสองที่อยู่ในระยะเดินเพียง 5 นาที อยู่ไม่ไกลกัน
|
10.จุดชมวิวเนินเขาคาปูซีเนอเบิร์ก (Kapuzinerberg Viewpoint) |
|
10.จุดชมวิวเนินเขาคาปูซีเนอเบิร์ก (Kapuzinerberg Viewpoint)
|
|
10.จุดชมวิวเนินเขาคาปูซีเนอเบิร์ก (Kapuzinerberg Viewpoint) |
|
10.จุดชมวิวเนินเขาคาปูซีเนอเบิร์ก (Kapuzinerberg Viewpoint) |
|
10.จุดชมวิวเนินเขาคาปูซีเนอเบิร์ก (Kapuzinerberg Viewpoint) |
10.จุดชมวิวเนินเขาคาปูซีเนอเบิร์ก (Kapuzinerberg Viewpoint)
เป็นหนึ่งในจุดชมวิวเมืองที่สวยงามอีกแห่ง ที่สามารถมองเห็นปราสาทโฮเอินซาลซ์บูร์ก (Fortress Hohensalzburg) ได้อย่างชัดเจน โดยเนินเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าใกล้ๆแม่น้ำซาลซ์อัค ยอดเขามีความสูงที่ 636 เมตร เป็นจุดสูงสุด ซึ่งมีบันใดเดินขึ้นจากด้านล่างมาที่ยอดเขาได้อย่างสะดวก ทางไม่ลาดชัน ที่บนเขาแห่งนี้ มีจุดสังเกตุที่สำคัญคือมีโบสถ์วิหาร Kapuzinerberg โดยเป็นอารามโบสถ์ที่สร้างขึ้นทับบริเวณปราสาทเก่าที่มีชื่อว่า Trompeterschlössl ใกล้กันก็เป็นจุดนั่งพักชมวิวทิวทัศน์เมืองซาร์บูรก์ที่งดงาม บรรยากาศดี ไม่วุ่นวาย บริเวณดังกล่าวจึงเป็นหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพ เพื่อชมทิวทัศน์อันตระการตาเมืองซาลซ์บูร์กกันอย่างไม่เสื่อมคลาย
|
เดินไปเรื่อยๆ เมื่อยก็นั่งพักค่ะ ตามจุดทางเดิน จะมีที่ให้นั่งพักอยู่บ้าง |
เดินเที่ยวไปเรื่อยๆ เมื่อยก็นั่งพัก มาเที่ยวให้สนุก แนะนำว่าเดิน และก็เดิน เป็นการออกกำลังกายที่ง่ายและดีที่สุด
|
ใครที่ไม่อยากเสียเวลาไปนั่งรอทานตามร้านอาหารต่างๆ แนะนำว่าพกอาหารปิคนิคใส่กล่องมานั่งทาน ก็สำราญเริงร่าช่ะช่ะช่าหัวใจเหมือนกันนะคะ |
ส่วนใครที่ไม่อยากเสียเวลาไปนั่งรอทานตามร้านอาหารต่างๆ ซึ่งในช่วง High season คนจะเยอะมากๆ กว่าจะได้ทานรอนาน แนะนำว่าพกอาหารปิคนิคใส่กล่องมานั่งทานริมแม่น้ำซาลซ์อัค Salzach River ก็ได้นะคะ
|
ทานอาหารว่างที่หอใส่กระปุกมา ต้องทานให้หมด |
หิวเมื่อไหร่ ก็แกะกระปุกเปิดทานได้เลย จัดไปมื้อเที่ยงแล้วค่ะ
หากใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศการเดินเที่ยว ก็เลี้ยวไปนั่งเรือทานอาหารชมเมืองได้เช่นกันนะคะ
|
ถ้ามาเที่ยวซาลซ์บรูกแล้วไม่ได้ถ่ายรูปกับเจ้าลูกโลกสีทองนี้ ถือว่ามาไม่ถึงเลยล่ะค่ะ |
บริเวณโซนท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าย่ายจัตุรัสเรสซิเดนพลาซ์ใกล้ๆปราสาทโฮเอินซาลซ์บูร์ก เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปและรอขึ้นไปชมปราสาทกันเยอะมากๆ โดยเฉพาะกรุ๊ปทัวร์จากประเทศจีนและอินเดีย รวมทั้งกรุ๊ปทัวร์อื่นๆจากยุโรปและแถบลาตินก็มีมากโข
|
หากใครที่ไม่อยากเสียเงินนั่งรถราง แนะนำว่าเดินขึ้นไปเลยจ้า |
โดยมายืนออเข้าแถวรอขึ้นรถรางไปชมปราสาทโฮเอินซาลซ์บูร์กด้านบน แต่หากใครไม่อยากเสียเงินนั่งรถราง แนะนำว่าเดินขึ้นไปเลยค่ะ วันที่เดี๊ยนไปเที่ยว ก็เดินขึ้นไปค่ะ เพราะทางขึ้นปราสาทก็ไม่ได้ลาดชันมากนัก ส่วนใหญ๋มีนักท่องเที่ยวแนวๆ FIT คือกลุ่มเที่ยวด้วยตัวเอง เดินขึ้นไปกันแบบชิลๆ ชมวิวริมทางสวย
|
รถม้าในเมืองนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวค่ะ |
นอกจากนี้แล้วในตัวเมืองยังมีบริการรถม้านำเที่ยวรอบเหมือนเมืองท่องเที่ยวอื่นๆในออสเตรียอีกด้วย
ถือว่าเป็นการเที่ยวอีกรูปแบบ ที่ได้รับความสนใจจากนักเดินทางที่มาเยือนเมืองนี้ไม่น้อย
|
เริ่มหิวอีกแล้ว ทานไอติมต่อค่ะ |
สำหรับเดี๊ยนเอง เดินไปเดินมา เริ่มอ่อนเพลีย แวะซื้อไอศครีมเติมความหวานลงในเส้นเลือดสักหน่อยค่ะ
|
ตามต่อด้วยช็อกโกแลต ก็น่าทานไม่น้อยทีเดียว เพราะมีให้เลือกเยอะมาก |
ทานไอติมยังไม่อิ่ม ก็มาช๊อปปิ้งหาของกินเพลินๆต่อที่ร้านขายช็อคโกแลตเก่าแก่ประจำเมืองซาลซ์บูร์ก
มีขนมช็อกโกแลตหลากหลายแบบให้เลือกทาน
|
จัดไป 1 ลูก 2 ลูก กับร้านช็อกโกแลตเจ้าดังในเมืองนี้ |
จัดไปสักลูก สองลูกเอาไปทานระหว่างเดินทางค่ะ ราคาก็เหมาะสมกับคุณภาพสินค้าอยู่นะคะ เพราะบรรจุภัณฑ์ให้อย่างสวยงาม เหมาะกับการเป็นของฝาก รสชาติหอมหวานอร่อยมากๆ นึกแล้วอยากทานอีก แต่คงต้องเก็บสตังอีกนาน ถึงจะได้ไปกินที่โน้นอีกครั้ง
|
จุดชมวิวบริเวณสวนกุหลาบ ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก |
เดินออจากย่านเมืองเก่า กลับมานั่งพักชมดอกไม้ที่สวนดอกไม้ในพระราชวังเบลล่าพาเลซก็สวยงามอยู่ไม่น้อย
|
ดอกกุหลาบที่สวน ส่งกลิ่นหอมหวญรัญใจมากๆเจ้าค่ะ |
เนื่องจากบริเวณพระราชวังมีดงดอกกุหลาบหลากสายพันธุ์ ส่งกลิ่นหอมหวนรัญจวนใจยิ่งนัก
แถมบริเวณรอบสวน ก็จัดตกแต่งอย่างงดงาม ที่จุดให้นั่งพักผ่อนอริยาบถอีกด้วย
ถือเป็นอีกหนึ่งโซนท่องเที่ยวยอดนิยมที่คู่รักโรแมนติกนิยมมาถ่ายรูปชิคๆเก๋ๆกัน
ส่วนนักเดินทางแบกเป้ลุยเดี่ยวแบบดิฉัน ก็เที่ยวแบบเหงาๆต่อไปค่ะ
|
หลังจากที่ได้เริงสำราญ ยลตระการเที่ยวเมืองซาลซ์บูรก์แล้ว ก็เช็คเอาท์ออกจากที่พัก แบกเป้เดินเท้าออกโรงแรมมารอขึ้นรถไฟเดินทางเที่ยวเมืองถัดไป |
หลังจากที่ได้เริงสำราญ ยลตระการเที่ยวเมืองซาลซ์บูรก์แล้ว ก็เช็คเอาท์ออกจากที่พัก แบกเป้เดินเท้าออกโรงแรม A&O มาที่รอขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางไปเที่ยวยังเมืองต่อไป
|
จบทริปเที่ยวเมืองซาล์ซ์บูร์กกับทริปสั้นๆ ในประเทศออสเตรีย เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามมากๆ |
ถือเป็นอันจบทริปเที่ยวเมืองซาล์ซ์บูร์กกับทริปสั้นๆ ในประเทศออสเตรีย เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมสวยงาม มีแม่น้ำ มีถนนคนเดิน เรียกว่าเพลิดเพลินจำเริญใจยิ่งนัก และอีกอย่างการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองก็ไม่ยุ่งยากด้วย เพราะสามารถเดินออกจากโรงแรมที่พักมาในย่านท่องเที่ยวเมืองเก่าด้วย
หากเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้นคนใหน ที่จะแบกเป้จูงมือคู่รัก ครอบครัว หรือจะมาเที่ยวยุโรปคนเดียวแบบดิฉัน และปักหมุดมาเที่ยวประเทศออสเตรีย ยังไงลองแวะมาเที่ยวเมืองนี้ดูสักครั้งนะคะ รับรองว่าสวยจริงอะไรจริง มาเดินชมเมืองแบบชิลๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เมื่อยก็นั่งพัก แค่นี้ก็เพลิดเพลินจำเริญใจงามวิไลเริ่ดสะแมนแตนแล้วจ้า
สำหรับบล็อกบทความรีวิวเที่ยวเมืองซาลซ์บูร์กก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้นะคะ ส่วนเมืองท่องเที่ยวถัดไป จะแบกเป้ไปเที่ยวเมืองใหน รอติดตามกันนะคะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่าน ที่เสียสละเวลา คลิ๊กเข้ามาสไลด์เลื่อนเปิดดูกันค่ะ......จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
----------------------------------------------------------------
บทความบล็อกเที่ยวไปเรื่อยเปื่อยตามเมืองอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ
0 ความคิดเห็น