|
เพื่อให้เว็ปบล็อกร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมาแนะนำ 7 วัดสวยงามในกรุงเทพ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเสพสุขสม ชื่นชมไหว้พระสักครั้ง เดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินไปได้ไม่ไกล ถ่ายรูปเช็กอิน งามวิไลเริ่ดสะแมนแตน (Popular beautifl temples in Bangkoks) |
กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวติดอันดับโลก ที่มีนักเดินทางจากทั่วสารทิศ มาเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย เพราะนอกจากจะเป็นศูนย์กลางด้านการปกครองของประเทศไทยแล้ว ยังงามวิไลเริ่ดสะแมนแตนไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดตา และตราตรึงใจมากมายหลายแห่ง โดยเฉพาะเอกลักษณ์โดดเด่นของศิลปะไทยอันวิจิตรตระการ ที่สวยเลอค่า งามระย้าจับใจ และบ่งบอกถึงอัตลักษณะความไทยอย่างแท้จริง ซึ่งพบเห็นได้ตามวัดวาอารามต่างๆหลายแห่ง และแน่นอนว่าหากมาเที่ยวกรุงเทพ แล้ว นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกส่วนใหญ่ ก็ไม่พลาดที่จะมาเช็กอินไหว้พระ ตามวัดวาอารามต่างๆกันสักครั้ง
สมกับคำขวัญประจำจังหวัดที่ว่า "กรุงเทพ ดุจเทพสร้าง เมืองศูนย์กลางการปกครอง วัดวังงามเรืองรอง เมืองหลวงของประเทศไทย"
ซึ่งในเมืองฟ้าอมรแห่งนี้ ก็มีวัดวาอารามสวยงามมากมายหลายแห่ง และวัดที่สวยปัง ดังสุดๆเป็นวัดที่นักที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวต่างๆเป็นอย่างดีนั้น มีอยู่ไม่กี่แห่ง โดยอยู่ย่านเมืองเก่า รอบเกาะรัตนโกสินทร์ และริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งแต่ละวัดก็เป็นมีประวัติศาสตร์น่าสนใจ อยู่คู่กับการสร้างกรุงเทพ เมืองฟ้ามหานครแห่งนี้มาอย่างช้านานอีกด้วย วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเลยขอเป็นขอเป็นคนบ้า มาแนะนำ 7 วัดสวยในกรุงเทพ ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทย ต่างต้องไปเสพสุข ไหว้พระและถ่ายรูปภาพเช็กอินกัน ส่วนจะมีวัดใหนบ้างนั้น ตามไปกันเลยค่ะ
|
1.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วมรกต (Temple of the Emerald Buddha) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีสนามไชย |
|
1.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วมรกต (Temple of the Emerald Buddha) |
|
1.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วมรกต (Temple of the Emerald Buddha) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีสนามไชย |
|
1.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วมรกต (Temple of the Emerald Buddha) |
|
1.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วมรกต (Temple of the Emerald Buddha) |
|
1.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วมรกต (Temple of the Emerald Buddha) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีสนามไชย |
1.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วมรกต (Temple of the Emerald Buddha)
เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญที่สุดอีกแห่งของเมืองไทย
ว่ากันว่าหากใครมาเที่ยวกรุงเทพ แล้วไม่ได้มากราบสักการะบูชาพระแก้วมรกต
ถือว่ามาไม่ถึงกรุงเทพเลยล่ะค่ะ เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต
พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองมาอย่างยาวนาน
โดยเป็นวัดที่สร้างขึ้นตั้งในสมัยรัชกาลที่ 1
ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างขึ้นในพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ พ.ศ. 2325 จึงเป็นวัดแรก
และตั้งอยู่ในเขตพระบรมมหาราชวังเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์
ซึ่งเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา
และมีพระราชประสงค์ให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นที่ประดิษฐาน
พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต พระคู่บ้านคู่เมืองของแผ่นดินไทย
ที่พบในวัดป่าเยี้ยะ (ป่าไผ่) จังหวัดเชียงราย
นอกจากนี้แล้วยังเป็นสถานที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลต่างๆ
โดยวัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่
เพราะมีแต่ส่วนพุทธาวาสไม่มีส่วนสังฆาวาส และภายในวัดมีลุ่มพระอุโบสถ
เป็นกลุ่มที่มีความสำคัญสูงสุด
มีพระอุโบสถเป็นอาคารประธานซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร
ล้อมรอบด้วยศาลาราย พระโพธิ์ธาตุพิมาน หอราชพงศานุสรณ์ หอราชกรมานุสรณ์
หอระฆัง และ หอพระคันธารราษฎร์ มีศิลปะที่สวยงาม วิจิตรการตา
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสนามไชย เดินเท้ามาประมาณ 800 เมตร
เวลาทำการเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
|
2.วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (Wat Arun As a result, this structure is also known as the Temple of Dawn) |
|
2.วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (Wat Arun As a result, this structure is also known as the Temple of Dawn) |
|
2.วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (Wat Arun As a result, this structure is also known as the Temple of Dawn) |
|
2.วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในช่วงเวลาพลบค่ำ ยามย่ำสู่สนธยา (Wat Arun As a result, this structure is also known as the Temple of Dawn) |
|
2.วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในช่วงเวลาพลบค่ำ ยามย่ำสู่สนธยา (Wat Arun As a result, this structure is also known as the Temple of Dawn) |
|
2.วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในช่วงเวลาพลบค่ำ ยามย่ำสู่สนธยา (Wat Arun As a result, this structure is also known as the Temple of Dawn) |
|
2.วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (Wat Arun As a result, this structure is also known as the Temple of Dawn) |
|
นั่งเรือข้ามฟากจากท่าเตียน 4 บาท ไปยังท่าเรือวัดอรุณ (Take Ferry fare 4 Baht From Tatien To Wat Aran) |
2.วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (Wat Arun As a result, this structure is also known as the Temple of Dawn)
สำหรับวัดอรุณ หรือวัดแจ้ง วัดได้ว่าเป็นวัดที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เนื่องจากเป็นวัดติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามที่สุดอีกแห่งของเมืองไทย ติดหนึ่งในแลนมาร์คเช็กอินสำคัญ เพราะนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยววัดอรุณ จะได้นั่งเรือข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้สามารถเห็นทัศนียภาพอันงดงาม ของสองฟากฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย
วัดอรุณราชวราราม หรือที่นิยมเรียกกันในภาษาพูดว่า วัดแจ้ง หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า วัดอรุณ เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา ที่ชื่อวัดแจ้ง เพราะ พระเจ้าตากฯ ทำศึกเสร็จ แล้วยกทัพกลับมาเป็นเวลาเช้าพอดี ว่ากันว่าเดิมเรียกว่า วัดมะกอก และกลายเป็นวัดมะกอกนอกในเวลาต่อมา เพราะได้มีการสร้างวัดขึ้นอีกวัดหนึ่งในตำบลเดียวกัน แต่อยู่ในคลองบางกอกใหญ่ ชาวบ้านเรียกวัดที่สร้างใหม่ว่า วัดมะกอกใน (วัดนวลนรดิศ) ส่วนเหตุที่มีการเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้งนั้น เชื่อกันว่า เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงตั้งราชธานีที่กรุงธนบุรีใน พ.ศ. 2310 ได้เสด็จมาถึงหน้าวัดนี้ตอนรุ่งแจ้ง จึงพระราชทานชื่อใหม่ว่าวัดแจ้ง
ในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ได้เสด็จมาประทับที่พระราชวังเดิม และได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดแจ้งใหม่ทั้งวัด แต่ยังไม่ทันสำเร็จก็สิ้นรัชกาลที่ 1 จนในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดอรุณราชธารามหลายรายการ และ ให้อัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มาบรรจุไว้ที่พระพุทธอาสน์ของพระประธานในพระอุโบสถด้วย เมื่อการปฏิสังขรณ์เสร็จสิ้นลง พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดอรุณราชวราราม”
การเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้า MRT ลงทีสถานีสนามไชย เดินเท้าไปท่าเตียนประมาณ 500 เมตร จากนั้นก็ นั่งเรือข้ามฟากไป วัดอรุณเพียง 4 บาท ต่อคนเท่านั้น
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น.-18.00 น.
|
3.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ (Wat pho temple reclining buddha) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสนามไชย |
|
3.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ (Wat pho temple reclining Buddha) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสนามไชย |
|
3.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ (Wat pho temple of reclining Buddha) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสนามไชย |
|
3.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ (Wat pho temple reclining buddha) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสนามไชย |
|
3.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ (Wat pho temple reclining buddha) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสนามไชย |
3.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ (Wat pho temple reclining buddha)
สำหรับวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
หรือ วัดโพธิ์ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
เนื่องจากภายในวิหารของวัด เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาส พระพุทธรูปที่ก่ออิฐ ถือปูน
ปิดทองทั่วทั้งองค์ และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ
มีพระพักตร์ที่งดงาม พระบาทใหญ่ โดดเด่น เป็นที่สะดุดตาแก่ผู้ที่มาสักการะ
อีกทั้งยังเปรียบเสมือนเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศด้วย
เนื่องจากเป็นที่รวมจารึกสรรพวิชาหลายแขนง
และทางยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำโลกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
เมื่อ มีนาคม พ.ศ. 2551[4] และวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2554 ทางยูเนสโก
ได้ขึ้นทะเบียนจารึกวัดโพธิ์จำนวน 1,440 ชิ้น
เป็นมรดกความทรงจำโลกในทะเบียนนานาชาติอีกดว้ย
โดยเป็นวัดเก่าแก่
ตามประวัติสร้างมาตั้งแต่ครั้งสมัยอยุธยา
แต่ไม่ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับการสร้าง เดิมเรียกว่า "วัดโพธาราม" หรือ
"วัดโพธิ์" ได้ถูกยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงในสมัยกรุงธนบุรี
ครั้งถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ
ให้สถาปนาวัดนี้ใหม่ในปี พ.ศ. 2331 โดยทรงสร้างพระอุโบสถ พระระเบียง
พระวิหาร ตลอดจนบูรณะของเดิม เมื่อแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2344
ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาวาส"
เป็นวัดประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสนามไชย เดินเท้ามาประมาณ 300 เมตร
เวลาทำการเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
|
4.วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร (Wat Ratchabophit temple) ใกล้รถไฟฟ้าmrt สถานีสามยอด |
|
4.วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร (Wat Ratchabophit temple) |
|
4.วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร (Wat Ratchabophit temple) |
|
4.วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร (Wat Ratchabophit temple) |
|
4.วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร (Wat Ratchabophit temple) ใกล้รถไฟฟ้าmrt สถานีสามยอด |
|
4.วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร (Wat Ratchabophit temple) |
4.วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร (Wat Ratchabophit temple)
หากเอ่ยถึงวัดที่มีสถาปัตยกรรมไทยผสมตะวันตกที่สวยงามที่สุดอีกแห่งของประเทศ
และยังเป็นวัดหลวงที่สำคัญของพระมหาษัตริย์ แน่นอนว่าต้องไม่พลาดมาไหว้พระ
กราบกรานสักการะพระพุทธรูปสำคัญในวัดราชบพิธฯแห่งนี้สักครั้ง เนื่องจากเป็นวัดหลวงชั้นเอก ภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระอังคีรส
ซึ่งประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีหินอ่อนจากประเทศอิตาลี
หล่อขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ต่อต้นรัชกาลที่ 5 กะไหล่ทองคำเนื้อแปดหนัก 180
บาท
เป็นทองที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใช้เมื่อยังทรงพระเยาว์
สำหรับ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร
ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างขึ้นเป็นวัดประจำรัชกาลเมื่อ พ.ศ. 2412 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานนามว่าวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม หมายถึง
วัดที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้าง
นอกจากนี้แล้ว
เป็นวัดสำคัญที่สมเด็จพระสันตะปาปาสองพระองค์
ในฐานะประมุขแห่งศาสนจักรโรมันคาทอลิกและประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน คือ
สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2527
และสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562
เสด็จเยือนเพื่อเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก อีกด้วย
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามยอด หรือ รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสนามไชย เดินเท้าไปประมาณ 700 เมตร
เวลาทำการเปิด-ปิด : ทุกวันตั้งแต่ 8.00-18.00 น.
|
8.วัดราชนัดดารามวรวิหาร
โลหะปราสาท (Wat Ratchanatdaram Temple Loha Prasat, which means iron
castle or iron monastery) ใกลรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามยอด |
|
8.วัดราชนัดดารามวรวิหาร
โลหะปราสาท (Wat Ratchanatdaram Temple Loha Prasat, which means iron
castle or iron monastery) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามยอด |
|
8.วัดราชนัดดารามวรวิหาร โลหะปราสาท (Wat Ratchanatdaram Temple Loha Prasat, which means iron castle or iron monastery) |
|
8.วัดราชนัดดารามวรวิหาร โลหะปราสาท (Wat Ratchanatdaram Temple Loha Prasat, which means iron castle or iron monastery) |
|
8.วัดราชนัดดารามวรวิหาร โลหะปราสาท (Wat Ratchanatdaram Temple Loha Prasat, which means iron castle or iron monastery) |
|
8.วัดราชนัดดารามวรวิหาร โลหะปราสาท ชมทัศนียภาพ 360 องศา และบูชาพระบรมสารีริกธาตุ |
|
8.วัดราชนัดดารามวรวิหาร โลหะปราสาท (Wat Ratchanatdaram Temple Loha Prasat, which means iron castle or iron monastery) |
|
8.วัดราชนัดดารามวรวิหาร โลหะปราสาท (Wat Ratchanatdaram Temple Loha Prasat, which means iron castle or iron monastery) |
|
8.วัดราชนัดดารามวรวิหาร
โลหะปราสาท (Wat Ratchanatdaram Temple Loha Prasat, which means iron
castle or iron monastery) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามยอด |
8.วัดราชนัดดารามวรวิหาร โลหะปราสาท (Wat Ratchanatdaram Temple Loha Prasat, which means iron castle or iron monastery)
หนึ่งในวัดเด่น
วัดดังที่เหล่านักท่องเที่ยว และพุทธศาสนิกชนชาวไทย ต่างต้องมนต์ตรา
จัดทริปมาไหว้พระ 9 วัด เพื่อกราบสักการะกันสักครั้ง ภายในวัดมี โลหะปราสาท
ซึ่งเป็นโลหะปราสาทแห่งเดียวในประเทศไทยและแห่งเดียวในโลกอีกด้วย
โดยยอดปราสาทประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
โดยวัดราชนัดดารามวรวิหาร
พระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดวรวิหารสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2389
ตรงกับปลายรัชกาลที่ 3 โดยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
สร้างบนสวนผลไม้เก่าเนื้อที่ประมาณ 25 ไร่
พระราชทานเป็นเกียรติแก่พระราชนัดดา คือ พระเจ้าหลานเธอ
พระองค์เจ้าหญิงโสมนัสวัฒนาวดี และพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีพระดำริให้สร้างโลหะปราสาท แทนการสร้างเจดีย์
นับเป็นโลหะปราสาทแห่งแรกของไทย โดยสร้างเป็นอาคาร 7 ชั้น มียอดปราสาท 37
ยอด หมายถึงโพธิปักขิยธรรมในพระพุทธศาสนา 37 ประการ ยอดปราสาทชั้น 7
เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ กลางปราสาทเป็นช่องกลวง มีบันไดเวียน 67
ขั้น ให้เดินขึ้นไปดูทิวทัศน์ข้างบนได้
ส่วนพระอุโบสถมีช่อฟ้า
ใบระกา หน้าบันลงรักปิดทอง ประดับด้วยกระจกงดงามและวิจิตรตระการตา
ภายในประดิษฐานพระประธานพระนามว่า "พระเสฏฐตมมุนี"
ส่วนพระวิหารก็เป็นศิลปะแบบไทยเช่นกัน
ภายในมีพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรเป็นประธาน พระนามว่า "พระพุทธชุติธรรมนราสพ"
สำหรับโลหะปราสาทวัดราชนัดดารามวรวิหาร
มีลักษณะศิลปสถาปัตยกรรมไทยเป็นปราสาท 3 ชั้น มียอด 37 ยอด
หมายถึงโพธิปักขิยธรรม 37 ประการ กลางปราสาทเป็นช่องกลวงจากฐานตลอดยอด
มีซุงต้นใหญ่สูงถึงยอดปราสาทเป็นแกนกลาง เจาะลำต้นตอกเป็นบันไดเวียนขึ้น 67
ขั้น เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2394
นับจากปีที่เริ่มก่อสร้างวัดราชนัดดารามได้ 5 ปี
แต่ก่อสร้างสำเร็จเป็นเพียงปราสาทโกลน ก็สิ้นรัชกาล
การบูรณะโลหะปราสาทครั้งใหญ่
ดำเนินการในสมัยพระราชปัญญาโสภณ (สุข ปุญญรํสี) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส
ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในปี พ.ศ. 2506
ทั้งนี้ได้พยายามรักษาแบบแผนดั้งเดิมของโลหะปราสาทในสมัยรัชกาลที่ 3
ไว้ให้มากที่สุด
นับว่าโลหะปราสาทได้บูรณปฏิสังขรณ์จนเสร็จสมบูรณ์ในครั้งนี้
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงที่สถานีสามยอด เดินเท้ามาตามถนนมหาไชย ประมาณ 1.3 กิโลเมตร
เวลาทำการเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
|
6.วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ภูเขาทอง (Wat saket (golden mount temple)) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามยอด |
|
6.วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ภูเขาทอง (Wat saket (golden mount temple)) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามยอด |
|
6.วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (Wat saket (golden mount temple)) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามยอด |
|
6.วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (Wat saket (golden mount temple)) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามยอด |
|
6.วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร บรบรรพต ภูเขาทอง (Wat saket (golden mount temple)) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามยอด |
|
6.วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ภูเขาทอง (Wat saket (golden mount temple)) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามยอด |
|
6.วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ภูเขาทอง (Wat saket (golden mount temple)) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามยอด |
|
6.ไหว้พระยืน วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (Wat saket (golden mount temple)) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามยอด |
6.วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร-บรมบรรพต (วัดภูเขาทอง) (Wat saket (golden mount temple))
สำหรับวัดสระเกศ
มีจุดเด่นคือพระบรมบรรพต หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกว่า วัดภูเขาทอง
ถือเป็นวัดเก่าแก่สำคัญ โบราณสร้างตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา
เดิมชื่อวัดสะแก พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ
ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ
ซึ่งแปลว่า ชำระพระเกศา
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ
ให้บูรณะและสร้างพระบรมบรรพตหรือภูเขาทอง
ทรงกำหนดให้เป็นพระปรางค์มีฐานย่อมุมไม้สิบสอง แต่สร้างไม่สำเร็จในรัชกาล
เมื่อถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
จึงทรงให้เปลี่ยนแบบเป็นภูเขาก่อพระเจดีย์ไว้บนยอด
เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
การก่อสร้างแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้รับพระราชทานนามว่า “สุวรรณบรรพต” มีความสูง 77 เมตร
บนยอดสุวรรณบรรพตเป็นที่ตั้งของพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ขุดค้นพบที่เมืองกบิลพัสดุ์
และพิสูจน์ได้ว่าเป็นของพระสมณโคดมซึ่งเป็นส่วนแบ่งของพระราชวงศ์ศากยราชเพราะมีคำจารึกอยู่
ปัจจุบันบรมบรรพต
หรือเจดีย์ภูเขาทอง
ถือเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นในบริเวณเขตนั้นเนื่องจากความสูงกว่า
59 เมตร หรือเท่าตึกสูง 19 ชั้น เคียงคู่กันกับ โลหะปราสาท
วัดราชนัดดารามวรวิหาร ซึ่งอยู่ไม่ห่างกันมาก และในช่วงวันลอยกระทง
ของทุกปี จะมีงานสำคัญของบรมบรรพตคืองาน พิธีห่มผ้าแดงบรมบรรพตภูเขาทอง
ซึ่งมักจัดต่อเนื่องกันยาว 10 วัน
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงที่สถานีสามยอด เดินเท้ามาตามถนนมหาไชย ประมาณ 1.3 กิโลเมตร
เวลาทำการเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
|
7.วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร (Wat traimit temple (Golden Buddha statue with a weight of authentic Gold 5,500 kilograms) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีหัวลำโพง |
|
7.วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร (Wat traimit temple (Golden Buddha statue with a weight of authentic Gold 5,500 kilograms) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีหัวลำโพง |
|
7.วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร (Wat traimit temple (Golden Buddha statue with a weight of authentic Gold 5,500 kilograms) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีหัวลำโพง |
|
7.วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร (Wat traimit temple (Golden Buddha statue with a weight of authentic Gold 5,500 kilograms) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีหัวลำโพง |
|
7.วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร (Wat traimit temple (Golden Buddha statue with a weight of authentic Gold 5,500 kilograms) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีหัวลำโพง |
|
7.วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร (Wat traimit temple (Golden Buddha statue with a weight of authentic Gold 5,500 kilograms) ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีหัวลำโพง |
|
7.วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร วัดสวยงาม ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำแท้ ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีหัวลำโพง |
7.วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร (Wat traimit temple (Golden Buddha statue with a weight of authentic Gold 5,500 kilograms))
จัดเป็นหนึ่งเด่น
วัดดัง
มีชื่อเสียงไปทั่วโลกอีกแห่งเนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุด
มีนามว่า พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ทั้งองค์ หนักถึง
5.5 ตัน เฉพาะมูลค่าทองคำตามที่บันทึกในกินเนสบุ๊คนั้น อยู่ที่ประมาณ 28.5
ล้านปอนด์ จึงไม่แปลกใจที่เหล่านักเดินทางจากทั่วโลก ต้องต้องมนต์ตรา
มหาเสน่ห์
มาไหว้พระกราบกรานสักการะพระพุทธรูปทองคำที่วัดไตรมิตรแห่งนี้สักครั้ง
และยังเป็นวัดสำคัญ มีประวัตศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน
วัดไตรมิตรวิทยาราม
ตั้งอยู่ที่ถนนมิตรภาพไทย-จีน แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์
เป็นวัดโบราณอยู่ในที่ลุ่มพระอารามเป็นเรือนไม้ มีชื่อเดิมว่า "วัดสามจีน"
เข้าใจกันว่า ชาวจีน 3 คนร่วมกันสร้างพระอารามเพื่อเป็นวิหารทานการบุญในปี
พ.ศ. 2477 พระมหากิ๊ม สุวรรณชาต
ผู้รักษาการในหน้าที่เจ้าอาวาสเป็นผู้ริเริ่มปรับปรุงวัด ต่อมาในปี พ.ศ.
2480 ได้รับอนุมัติจากมหาเถรสมาคมให้ปรับปรุงสภาพวัดให้ดีขึ้น ปี พ.ศ. 2482
พ่อค้าประชาชน คณะครูและนักเรียน ได้ร่วมกันปฏิสังขรณ์และเปลี่ยนนามใหม่
เป็นชื่อ "วัดไตรมิตรวิทยาราม" ซึ่งมีความหมายว่า เพื่อน 3
คนร่วมกันสร้างวัดนี้
ประกอบกับวัดเป็นที่ตั้งโรงเรียนปริยัติธรรมและโรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัยของรัฐบาลอยู่ภายในบริเวณวัด
สิ่งสำคัญของวัด
คือ พระสุโขทัยไตรมิตร
เป็นพระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดและได้รับการบันทึกในหนังสือบันทึกสถิติโลกกินเนสส์
พระพุทธรูปทองคำองค์นี้มีหน้าตั้งกว้าง 3.01 เมตร สูง 3.91 เมตร
องค์พระสามารถถอดได้ 9 องค์ จากฐานองค์พระขึ้นไปเนื้อทองบริสุทธิ์ 40%
พระพักตร์มีเนื้อทอง 80% ส่วนพระเกศมีน้ำหนัก 45 กิโลกรัม
เป็นเนื้อทองบริสุทธิ์ 99.99%
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงสถานีรถไฟหัวลำโพง หรือ รถไฟฟ้าใต้ดินMRT สถานี วัดมังกร
เวลาทำการเปิด-ปิด : ทุกวัน 08:00 – 17:00 เว้นวันจันทร์ปิด 21:00
ค่าเข้าชม : คนไทยเข้าชมฟรี
|
หากท่านใดที่อยากนั่งชิว ดูวิวสวยๆ แวะมาได้ที่ eagle nest bar อรุณเรสซิเดนซ์ ดูรีวิวและรายเอียดที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/ieMavK |
และนอกจาก 7 วัดสวยที่สุดในกรุงเทพ ที่ได้กล่าวมาตามข้างต้นแล้ว ในบางกอก เมืองฟ้ามหานครแห่งนี้ ยังมีวัดวาอารามสวยงาม อีกมากมายหลายแห่ง รอให้นักท่องเที่ยวไปสักการะ แวะเยี่ยมชมกันอย่างไม่ขาดสาย สำหรับเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจรคนใหน ที่วันหยุดสัปดาห์นี้ ไม่รู้ไปเที่ยวใหนดี ก็สามารถนั่งรถไฟฟ้า มาเที่ยวไหว้พระทำบุญ ตามวัดในกรุงเทพได้นะคะ รับรองว่าอิ่มบุญ สุขใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนอย่างแน่นอนจ้า
------------------------------------------------------------------
0 ความคิดเห็น