 |
| สำหรับทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวประจำเดือนนี้ คุณนายเว่อร์ เธอขอเป็นบ้าพาคุณผู้อ่านไปทัศนาจร ออนซอน รีวิวเช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวที่หนองคายกันค่ะ ไปดูสิว่ามีแหล่งท่องเที่ยว จุดถ่ายภาพสวยๆ และที่เที่ยวใหม่ๆอะไรให้ยลตระการ ร้าวรานจับใจบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลยเด้อจ้า |
ก็ขอสวัสดีเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจกันทุกๆคนกันอีกครั้งนะคะ....พอย่างกราย งามพร่างพรายเข้าสู่เดือนสิบ วันออกพรรษาคราใด หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมในภาคอีสาน ที่ใครๆก็ต้องแวะมายลตระการกันสักครั้ง คงจะหนีไม่พ้น จังหวัดหนองคายอย่าง แน่นอนค่ะ และทริปท่องเที่ยวประจำเดือน เดี๊ยนคุณนายเว่อร์ เธอเลยเป็นบ้า จัดทริปมาเที่ยวเมืองหนองคาย เมืองเก่าแก่ มีอะไรให้แลชมอย่างน่าภิรมย์ใจ และที่โดดเด่นคือมีงานประเพณี บุญบั้งไฟพญานาค สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ที่เที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ร้าวรานจับใจอีกมากมายหลายแห่ง แถมของกินของฝาก ก็มีมากโขให้เลือกสรร เลือกทานกันอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจกันอีกด้วยล่ะค่ะ
ว่าแล้วเพื่อไม่ให้เสียเวลา ขอพาเพื่อนๆคุณผู้อ่านเหล่าผู้รักการทัศนาจร ไปออนซอน เที่ยวกันเลยจ้า ก่อนจะเข้าสู่รีวิวเที่ยวหนองคาย เรามารู้จักจังหนองคายกันสักเล็กน้อย แบบพอสังเขปนะคะ
 |
| จังหวัดหนองคาย ชื่อนี้มีที่มาอย่างไร |
จังหวัดหนองคาย ชื่อนี้มีที่มาอย่างไร
สำหรับคำว่า "หนองคาย" ถูกเรียกเพี้ยนมาจากคำว่า "หนองค่าย"
ซึ่งมีความหมายโดยตรงว่า "หนองน้ำบริเวณที่ตั้งของค่ายทหาร"
ซึ่งคำว่าหนองค่ายถูกเรียกเพี้ยนเป็นหนองคายในช่วงรัชกาลที่ ๕
และได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นหนองคายตั้งแต่นั้นมา
 |
| คำขวัญประจำจังหวัดหนองคาย |
ส่วนคำขวัญประจำจังหวัดหนองคาย : มหาประตูสู่อินโดจีน ถิ่นวีรกรรมปราบฮ่อ หลวงพ่อพระใส บั้งไฟพระยานาคราช สะพาน 2 ชาติ ไทยลาว ฝั่งโขงยาวที่สุดในสยาม
 |
| เรื่องน่ารู้เกี่ยวเมืองหนองคาย อ่านกันดูเป็นความรู้สักเล็กน้อย |
เรื่องน่ารู้เกี่ยวเมืองหนองคาย
จัดเป็นเมืองเก่าแก่ ตั้งอยู่ติดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน หรือคนทั่วไป เรียกว่าอีสานเหนือ เป็นจังหวัดชายแดน ที่มีพื้นที่ส่วนใหญ๋ติดริมฝั่งแม่น้ำโขง เชื่อมโยงติดกับประเทศลาว ทำให้สองฝั่งชายแดนทั้งสองแผ่นดิน มีสัมพันธไมตรีต่อกันมาอย่างยาวนาน โดยมีสะพานมิตรภาพไทยลาว เป็นสะพานข้ามพรมแดนคนสองแผ่นได้ไปมาหาสู่กัน เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม ทั้งโบราณสถาน วัดวาอาราม และธรรมชาติที่สมบูรณ์ โดยประวัติศาสตร์เมืองหนองคาย มีชื่อปรากฏอยู่ในพงศาวดารล้านช้างตลอดยุคสมัย
ดังเช่นปรากฏเป็นชื่อเมืองเวียงคุก เมืองปะโค เมืองปากห้วยหลวง
(อำเภอโพนพิสัยในปัจจุบัน)
และนอกจากนี้ยังปรากฏในศิลาจารึกจำนวนมากที่กษัตริย์แห่งเวียงจันทน์ได้สร้างไว้ในบริเวณจังหวัดหนองคาย
 |
| ภาพอาคารที่ว่าการหลังเก่าในอดีตของเมืองหนองคาย |
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ
ให้ตราพระราชบัญญัติปกครองพื้นที่ขึ้นโดยให้ยกเลิกระบอบเจ้าปกครองทั่วประเทศ
ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ 2458
กระทรวงมหาดไทยจึงได้มีคำสั่งสถาปนาเมืองข้าหลวงปกครอง
ซึ่งต่อมาเรียกว่าผู้ว่าราชการจังหวัด และในปี พ.ศ. 2476
ได้มีการจัดระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาคเป็นจังหวัดและอำเภอ
หนองคายจึงได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นจังหวัด
 |
| หลังจากที่รู้จักเมืองหนองคายแบบพอสังเขปกันไปแล้ว ขอมารีวิวพาเพื่อนๆผู้รักการทัศนาจร ไปออนซอน เที่ยวเมืองหนองคายกันเลยค่ะ |
หลังจากที่รู้จักเมืองหนองคายแบบพอสังเขปกันไปแล้ว ดิฉันขอมารีวิวพาเหล่าผู้รักการทัศนาจร ไปออนซอน เที่ยวเมืองหนองคายกันเลยค่ะ
 |
| นั่งเครื่องบินประมาณ 1 ชั่วโมงนิดก็ถึงสนามบินอุดรธานีโดยปลอดภัย งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนทุกๆคน |
ใช้เวลานั่งเครื่องบินประมาณ 1 ชั่วโมงนิดก็ถึงสนามบินอุดรธานีโดยปลอดภัย งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนทุกๆคน
จากก็ติดต่อซื้อตั๋วรถตู้โดยสารจากสนามบินไปยังเมืองหนองคาย
ซึ่งเป็นของ บริษัทอุดรแก้วทัวร์ มีรถตู้จากสนามบินอุดรธานี ไปส่งถึงเมืองหนองคายเลยค่ะ
บัตรค่าโดยสารรถตู้จากจากสนามบินอุดรธานี ไปยังเมืองหนองคาย 200 บาท
มีตารางเวลารถตู้รับส่งด้วย ส่วนราคาที่ติดไว้ 150 บาท ไม่แน่ใจว่า เป็นราคาเก่าหรือเปล่า ส่วนเวลารับส่งก็มีระบุไว้ มีรถรับที่สะพานไทยลาว และ เวลารับที่บริษัทอุดรแก้วทัวร์
โดยเวลารถรับส่งที่สะพานไทยลาวมายังสนามบินอุดรธานี เริ่มที่เวลา 9.15 น.
ส่วนจากอุดรธานีไปยังหนองคาย เริ่มที่เวลา 9.30 น.
ตอนนั่งรถตู้มา มีผู้โดยสารแค่ 4 คน ทางคนขับเลยเปลี่ยนมาให้นั่งรถเก๋งลิมูซีนแทนค่ะ โดยแจ้งคนขับรถให้มาส่งที่สถานีขนส่ง บขส.หนองคายค่ะ เนื่องจากได้ติดต่อกับร้านเช่ารถไว้แล้ว ว่าให้มารับที่ บขส.
จากนั้นก็ติดต่อร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ ชื่อร้านเช่ารถลุงหนุ่ยให้มารับที่สถานีขนส่งค่ะ ค้นหาใน Google เห็นอยู่หน้าแรกเลยค่ะ สายเที่ยวคนใหนที่จะมาเที่ยวหนองคาย และไม่อยากเช่ารถยนต์ส่วนตัว แนะนำว่ามาเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับเที่ยวในเมืองหนองคาย ก็สะดวกศบายดีนะคะ
ส่วนค่าเช่ารถมอเตอร์ไซต์ ตกวันละ 200 บาท
มีมอเตอร์ไซต์ให้เลือกหลายคัน
ค่ามัดจำรถ 1000 บาท
หากเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจรคนใหน ที่จะแบกเป้มาเที่ยวเมืองหนองคาย ก็ติดต่อร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ลุงหนุ่ยได้ที่เบอร์โทร 081-9754863
 |
| เหล่าผู้รักการทัศนาจรคนใหน ที่ชอบแนวๆลุย ฝ่าแดด ฝ่าฝน ทนต่อความร้อนของถนนลาดยาง แนะนำว่าขับมอเตอร์ไซต์ก็ง่ายดีค่ะ |
ได้มอเตอร์ไซต์เป็นพาหนะแล้ว ก็ขับไปเที่ยวตามใจชอบเลยจ้า ขับไปช้าๆ ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเร่งรีบ ก็ถึงที่หมายเองค่ะ เหล่าผู้รักการทัศนาจรคนใหน ที่ชอบแนวๆลุย ฝ่าแดด ฝ่าฝน ทนต่อความร้อนระอุของถนนลาดยาง แนะนำว่าขับมอเตอร์ไซต์ก็ง่ายดีค่ะ
 |
| นอนพักค้างแรมรอน ออนซอนที่โรงแรมศิลป์ โสภา |
ส่วนโรงแรมที่พักทริปนี้ ดิฉันเลือกมาใช้บริการนอนค้างแรมที่โรงแรมศิลป์ โสภา
เป็นที่พักสไตล์โฮสเทลเล็กๆ เปิดใหม่ประมาณปีกว่า ราคาถูก ไม่แพง
เข้ามาด้านในบริเวณล็อบบี้ ตกแต่งสวยงาม ดูกิ๊บเก๋ดีค่ะ
ออกแนวๆ อาร์ตๆ สไตล์แกลลอรี่ จัดแสดงรูปภาพวาดให้ดูด้วย
 |
| ห้องพักที่จองไว้ก็เป็นห้องส่วนตัวค่ะ เป็นห้องแอร์ ราคาคืนละ 469 บาท จองผ่านทางออนไลน์ |
ส่วนห้องพักที่จองไว้ก็เป็นห้องส่วนตัวค่ะ ห้องแอร์ ราคาคืนละ 469 บาท ไม่รวมอาหารเช้า นอนได้ 2 ท่าน หากมาคนเดียวแบบดิฉัน จะนอนห้องส่วนตัว ก็ราคาเดียวกันค่ะ หรือใครที่แบกเป้มาอยากได้ราคาถูกกว่านี้ ก็นอนห้องเตียงรวมแบบ Dorm ไปเลยก็มีให้บริการเช่นกันค่ะ แนะนำว่าหากมาช่วงเทศกาล จองไว้แต่เนิ่นๆนะคะ
บรรยากาศหน้าห้องพัก
มีระเบียงและที่นั่งให้ด้วย
ภายในห้องพักก็มีตกแต่งสวยงาม มีมุ้งให้ด้วย มีราวตากผ้า มีไม้แขวนเสื้อ เก้าอี้ให้นั่ง และ Wifi ก็เร็วแรงดีมากๆ แต่เสียอยู่อย่าง ประตูไม่เก็บเสียง และมีเสียงดังจากห้องข้างบน ดังลงมาถึงชั้นล่าง
นอกจากนี้ยังมีไมโครเวฟสำหรับอุ่นกับข้าว มีจานชาม มีน้ำดื่มฟรี และตู้เย็นให้แช่ของกินได้ด้วย ถือว่าดีทีเดียวค่ะ
 |
| วันที่เข้าพัก ที่พักไม่วุ่นวาย ไม่เสียงดัง จะมีก็แต่ความน่ารัก น่าชังของเจ้าแมวเหมียวสีเทานี้แหละ |
วันที่เข้าพัก ที่พักไม่วุ่นวาย ไม่เสียงดัง จะมีก็แต่ความน่ารัก น่าชังของเจ้าแมวเหมียวสีเทานี้แหละ ที่มาคลอเคล้าแขกที่เข้าพักตลอดเลย
มีโซนคาเฟ่ สำหรับนั่งดื่มชิลๆ หรือนั่งทำงานได้ด้วย
หากต้องการอาหารเช้า ก็มีบริการให้เลือกทานด้วย เป็นชุดไข่กระทะชุดละ 99 บาท ทานกับขนมปังฝรั่งเศส มีผลไม้และเครื่องดื่มร้อนให้ ทางร้านก็จัดตกแต่งมาซ่ะน่ารัก น่าทานเชียว
ไข่กระทะทานคู่กับขนมปัง รสชาติอร่อยอยู่นะ
 |
| มีจักรยานให้ปั่นเที่ยวรอบเมืองอีกด้วย |
มีจักรยานให้ปั่นเที่ยวชมเมืองหนองคายอีกด้วย
และสำหรับใครที่มาเที่ยว ไม่ถนัดขับรถมอเตอร์ไซต์ หรือไม่อยากวุ่นวายเช่ารถยนต์ขับ ก็ใช้บริการรถสามล้อเครื่องได้ สะดวกดีเหมือนกันค่ะ
โดยราคาบริการรถสามล้อเครื่อง หากเดินทางไปเที่ยวใหนใกล้ไกล ก็ลองต่อรองราคากับคนขับดูนะคะ
 |
| ส่วนอาหารการกินที่นีก็มีหลากหลาย แต่ก็ไม่วายต้องแวะทานแหนมเนือง คู่กับผักสด รสชาติแซ่บคักอีกหลี ใครเป็นคนชอบทานผัก ต้องชอบแน่ๆ |
ส่วนอาหารการกินมื้อเที่ยงและมื้อเย็น หากใครที่ชอบทานผัก ต้องไม่พลาด ทานแหนมเนืองคู่กับผักสด กับน้ำอาจาด ที่ร้านแดงแหนมเนือง ร้านดังอยู่ในตัวเมืองหนองคาย ใกล้ตลาดท่าเสด็จ หากทานไม่หมด ก็ห่อกลับบ้านได้ด้วย
หรือถ้าใครที่ไม่อยากทานแหนมเนือง ก็ลิ้มลองพันหอม รสชาติก็แซ่บคักอีหลีเด้อ
มาทานแหนมเนืองที่ร้าน เดี๊ยนสั่งแหนมชุดเล็กมา กะว่าจะคงหมด เอาเข้าจริงๆ ทานคนเดียวไม่หมดเลยค่ะ เลยให้ทานร้าน ห่อเอาไปแช่ตู้เย็นไว้ทานมื้ออื่นต่อได้ด้วย
ส่วนของฝากของกินขึ้นชื่อของเมืองหนองคายก็มีหลายอย่าง
 |
| ของฝากเมืองหนองคายขึ้นชื่อเป็นมะพร้าวแก้วอ่อน รสออนซอนคั๊กแท้ |
แต่ที่เห็นต้องมีขายดีที่สุด ไม่แพ้แหนมเนือง คงเป็นมะพร้าวแก้วอ่อน ที่รสชาติหอมหวานอร่อยยิ่งนัก และที่มะพร้าวขายดี เพราะคนที่นี่ก็ชอบทานมะพร้าวกันมากๆด้วย
 |
| ของฝากเมืองหนองคายขึ้นชื่อเป็นมะพร้าวแก้วอ่อน รสออนซอนคั๊กแท้ |
มาเที่ยวหนองคายคราใด ก็ต้องซื้อติดไม้ติดมือไปฝากคนที่บ้านทุกครั้ง
หากใครซื้อปริมาณมากๆ ก็ต่อรองราคากับแม่ค้าได้ด้วย เห็นว่ามีการแบ่งเกรดมะพร้าวด้วยนะคะ เดี๊ยนลองชิ้มลอง ก็ต้องซื้อติดใส่กระเป๋าไว้ทานระหว่างทาง
 |
| แผนที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดตาและตราตรึงในจังหวัดหนองคาย มีมากมายหลายแหล่ง ตามลายแทงไปได้ตามใจชอบ |
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดหนองคายนั้นก็มีมากมายหลายแห่ง จะว่าไปแล้ว ที่เที่ยวแต่ละแห่งก็เริ่ดๆทั้งนั้นนะคะ สถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดตาและตราตรึงใจส่วนใหญ่ออกสไตล์แนว วัดวาอาราม โบราณสถาน จุดชมวิวแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีทัศนียภาพสวยงาม ต้องตามไปเช็คอิน ถ่ายภาพกันสักครั้ง
ถ้าหากเพื่อนๆผู้รักการทัศนาจรคนใหนที่มีเวลาน้อย และไม่อยากออกเดินทางไปไกล แนะนำว่าในตัวเมืองหนองคาย ก็มีที่เที่ยว มีจุดเช็คอิน ให้ไปถ่ายรูปสวยๆ อยู่หลายแห่งเลยนะคะ เดี๊ยนเลยขอสรุปมาให้เป็นข้อๆดังนี้
 |
| 1.1.วัดโพธิ์ชัย หากใครที่มาเยือนหนองคายครั้งแรก
ต้องไม่พลาดเลยที่จะแวะมาสักการะนมัสการ หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปคู่บ้าน
คู่เมืองที่วัดแห่งนี้ |
 |
| 1.1.วัดโพธิ์ชัย หากใครที่มาเยือนหนองคายครั้งแรก
ต้องไม่พลาดเลยที่จะแวะมาสักการะนมัสการ หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปคู่บ้าน
คู่เมืองที่วัดแห่งนี้ |
 |
| 1.1.วัดโพธิ์ชัย หากใครที่มาเยือนหนองคายครั้งแรก ต้องไม่พลาดเลยที่จะแวะมาสักการะนมัสการ หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปคู่บ้าน คู่เมืองที่วัดแห่งนี้ |
1.1.วัดโพธิ์ชัย หากใครที่มาเยือนหนองคายครั้งแรก ต้องไม่พลาดเลยที่จะแวะมาสักการะนมัสการพระพุทธรูปคู่บ้าน คู่เมืองที่วัดแห่งนี้ วัดตั้งอยู่ในอำเภอเมือง เป็นวัดเก่าแก่และสำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดหนองคาย สิ่งสำคัญในวัดนี้คือ หลวงพ่อพระพระใส พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ลักษณะปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก มีพุทธลักษณะงดงามมาก มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของไทยหลายตอน แต่สร้างขึ้นในสมัยใหน ไม่มีปรากฎหลักฐานแน่ชัด
จุดเด่น : องค์พระพุทธรูปหลวงพ่อพระใส ที่ประดิษฐานในพระอุโบสถ
ที่ตั้ง : ในตัวเมืองหนองคาย
 |
| 1.2.ตลาดท่าเสด็จ แหล่งช๊อปปิ้งละลายทรัพย์ชื่อดังในตัวเมืองหนองคาย ติดริมแม่น้ำโขง ในอดีตก่อนที่จะมีการสร้างสะพานมิตรภาพไทยลาวขึั้นมานั้น เรียกว่าตลาดท่าเรือ ต่อมาในปี พ.ศ. 2498 เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จเยือนหนองคายที่ตลาดแห่งนี้ จึงเปลี่ยนจากตลาดท่าเรือ เป็นตลาดท่าเสด็จ |
 |
| 1.2.ตลาดท่าเสด็จ หรือชื่อเดิมคือตลาดท่าเรือ แหล่งช๊อปปิ้งละลายทรัพย์ชื่อดังในตัวเมืองหนองคาย ติดริมแม่น้ำโขง |
 |
| 1.2.ตลาดท่าเสด็จ หรือชื่อเดิมคือตลาดท่าเรือ แหล่งช๊อปปิ้งละลายทรัพย์ชื่อดังในตัวเมืองหนองคาย ติดริมแม่น้ำโขง |
 |
| 1.2.ตลาดท่าเสด็จ แหล่งช๊อปปิ้งละลายทรัพย์ชื่อดังในตัวเมืองหนองคาย ติดริมแม่น้ำโขง ในอดีตก่อนที่จะมีการสร้างสะพานมิตรภาพไทยลาวขึั้นมานั้น เรียกว่าตลาดท่าเรือ ต่อมาในปี พ.ศ. 2498 เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จเยือนหนองคายที่ตลาดแห่งนี้ จึงเปลี่ยนจากตลาดท่าเรือ เป็นตลาดท่าเสด็จ |
 |
| 1.2.ตลาดท่าเสด็จ หรือชื่อเดิมคือตลาดท่าเรือ แหล่งช๊อปปิ้งละลายทรัพย์ชื่อดังในตัวเมืองหนองคาย ติดริมแม่น้ำโขง |
1.2.ตลาดท่าเสด็จ แหล่งช๊อปปิ้งละลายทรัพย์ชื่อดังในตัวเมืองหนองคาย ติดริมแม่น้ำโขง มีสินค้ามากมายให้เลือกสรรกัน ทั้งเสื้อผ้า แฟชั่น
งานฝีมือ แฮนเมด และของกินของฝากขึ้นชื่อประจำจังหวัด ในอดีตก่อนที่จะมีการสร้างสะพานมิตรภาพไทยลาวขึั้นมานั้น
ท่าเรือของตลาดสินค้าอินโดจีนริมแม่น้ำโขง ในตัวอำเภอเมืองจังหวัดหนองคาย
เคยถูกใช้เป็นจุดผ่านแดนถาวรสำหรับผู้ซึ่งต้องการจะเดินทางไปมาระหว่างราชอาณาจักรไทย
กับ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)
มีเรือข้ามฟากสัญจรไปมาระหว่างสองฝั่งแม่น้ำโขงอย่างคึกคัก
คนท้องถิ่นจึงนิยมเรียกชื่อตลาดแห่งนี้อีกอย่างหนึ่งว่า “ตลาดท่าเรือ”
ต่อมาในปี พ.ศ. 2498 เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 พร้อมด้วย
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมเยียนราษฎรผู้ประสบอุทกภัย ณ จังหวัดหนองคาย
และได้เสด็จฯขึ้นจากเรือพระที่นั่ง ณ
ท่าเรือของตลาดสินค้าอินโดจีนริมแม่น้ำโขงแห่งนี้ สุดท้าย “ตลาดท่าเรือ”
แห่งนี้จึงได้ถูกเปลี่ยนชื่อไปเป็น ตลาดท่าเสด็จ มาจนถึงปัจจุบันนั้นเอง
 |
| 1.3.วัดพระธาตุหล้าหนอง (วัดพระธาตุกลางน้ำ) เป็นพระธาตุที่หักพังอยู่กลางลำน้ำโขง เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุฝ่าพระบาทเก้าพระองค์ตามตำนานอุรังคธาตุ หรือตำนานพระธาตุพนม |
 |
| 1.3.วัดพระธาตุหล้าหนอง (วัดพระธาตุกลางน้ำ) เป็นพระธาตุที่หักพังอยู่กลางลำน้ำโขง เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุฝ่าพระบาทเก้าพระองค์ตามตำนานอุรังคธาตุ หรือตำนานพระธาตุพนม |
 |
| 1.3.วัดพระธาตุหล้าหนอง (วัดพระธาตุกลางน้ำ) เป็นพระธาตุที่หักพังอยู่กลางลำน้ำโขง เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุฝ่าพระบาทเก้าพระองค์ตามตำนานอุรังคธาตุ หรือตำนานพระธาตุพนม |
3.วัดพระธาตุหล้าหนอง (วัดพระธาตุกลางน้ำ) วัดสำคัญเก่าแก่อีกแห่งในตัวเมืองหนองคาย เป็นที่เคารพสักการะของชาวหนองคาย และชาวบ้านได้จัดงานประเพณีเกี่ยวกับพระธาตุในทุกปี คือประเพณีบุญบั้งไฟ เดือน 6 เพื่อจุดถวายองค์พระธาตุ พระธาตุกลางน้ำ เดิมชื่อพระธาตุหล้าหนอง เป็นพระธาตุที่หักพังอยู่กลางลำน้ำโขง เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุฝ่าพระบาทเก้าพระองค์ตามตำนานอุรังคธาตุ หรือตำนานพระธาตุพนม จากการสำรวจใต้น้ำของหน่วยโบราณคดีภาค 7 พบว่าองค์พระธาตุมีฐานกว้างด้านละ 17.2 เมตร ย่อมุมที่ฐาน และมีความสูงประมาณ 28.5 เมตร หักออกเป็น 3 ท่อน สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 20–22 เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายพระธาตุบังพวน
ปัจจุบันองค์พระธาตุจมอยู่กลางแม่น้ำโขงห่างจากฝั่งไทย 180 เมตร
องค์พระธาตุก่อด้วยอิฐถือปูน ล้มตะแคงไปตามกระแสน้ำ
ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีฐานเหลี่ยมมุมฉาก
โดยด้านหนึ่งโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำเพียงครึ่งฐาน
 |
| 1.4.วัดสิริมหากัจจายน์ ตั้งอยู่ในเมืองหนองคาย จุดสำคัญของวัดคือ ภายในวิหารประดิษฐานพระประธาน องค์พระมหากัจจายน์ |
 |
| 1.4.วัดสิริมหากัจจายน์ ตั้งอยู่ในเมืองหนองคาย จุดสำคัญของวัดคือ ภายในวิหารประดิษฐานพระประธาน องค์พระมหากัจจายน์ |
1.4.วัดสิริมหากัจจายน์ วัดสำคัญอยู่ในตัวเมืองหนองคาย แต่เดิมมีชื่อว่าวัดวัดโพนค้อ จุดสำคัญของวัดคือ ภายในวิหารประดิษฐานพระประธาน องค์พระมหากัจจายน์ ซึ่งพระมหากัญจายน์ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น พระพักตร์ยิ้มแย้มแจ่มใส
พระนาสิกโด่ง ทางวัดบูรณะปิดทองไว้อย่างสวยงาม เชื่อกันว่าเป็นพระมหาลาภ
เมตตามหานิยม ประชาชนที่ทำธุรกิจค้าขายจึงนิยมมากราบไหว้ขอพรอยู่เสมอ
โดยแต่เดิมนั้น พระมหากัจจายน์ประดิษฐาที่วัดธาตุ อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งราวๆ 70 ปีก่อน น้ำหลากเซาะริมตลิ่ง ทำให้วัดธาตุจมลงในแม่น้ำ ชาวบ้านรีบรวบรวมพลเคลื่อนย้ายพระมหากัจจายน์ ที่มีอายุหลายร้อยปี มาประดิษฐานไว้ที่วัดโพนค้อซึ่งอยู่ใกล้ๆ ปัจจุบันคือวัดสิริมหากัจจายน์นี่เอง
 |
| 1.5.พิพิธภัณฑ์จังหวัดหนองคาย อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้อีกแห่ง ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน สถานที่ท่องเที่ยว แสดงนิทรรศการ
บอกเล่าเรื่องราวของเมืองเก่าเเก่เเห่งนี้ผ่านการจัดเเสดงของสิ่งของ
รูปถ่าย เเละข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ |
|
| 1.5.พิพิธภัณฑ์จังหวัดหนองคาย อาคารหลังเก่า สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2472 |
 |
| 1.5.พิพิธภัณฑ์จังหวัดหนองคาย อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้อีกแห่ง ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน สถานที่ท่องเที่ยว แสดงนิทรรศการ
บอกเล่าเรื่องราวของเมืองเก่าเเก่เเห่งนี้ผ่านการจัดเเสดงของสิ่งของ
รูปถ่าย เเละข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ |
 |
| 1.5.พิพิธภัณฑ์จังหวัดหนองคาย ภาพเก่าบอกเล่าเรืองราว เมื่อครั้งในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จเยือนหนองคายเมื่อปี พ.ศ.2498 |
1.5.พิพิธภัณฑ์จังหวัดหนองคาย อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้อีกแห่ง ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง ใกล้ศาลากลางจังหวัด จัดแสดงไว้ในอาคารที่ว่าการหลังเก่าแก่ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อมี พ.ศ. 2472 และปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์เมื่อปี พ.ศ.2549 จัดสถานที่ท่องเที่ยว แสดงนิทรรศการ บอกเล่าเรื่องราวของเมืองเก่าเเก่เเห่งนี้ผ่านการจัดเเสดงของสิ่งของ รูปถ่าย เเละข้าวของเครื่องใช้ต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้ชม และจัดเป็นแหล่งรวมความรู้ ความเข้าใจในเรื่องมรดกทางวัฒนธรรมของชาติให้แก่คนในสังคมช่วยให้คนในสังคม แต่ละท้องถิ่น แต่ละภูมิภาครู้จักตนเอง ได้รู้ความเป็นมาทางวัฒนธรรมของตนเองอีกด้วย
 |
| 1.6.อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ |
 |
| 1.6.อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ |
 |
| 1.6.อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ |
1.6.อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ หน้าศาลากลางจังหวัด หนึ่งสถานที่เช็คอินสำคัญอีกแห่ง ซึ่งหากใครนั่งรถวนผ่าน วงเวียนน้ำ จะต้องเห็นอนุสาวรีย์เด่นตระหง่านอยู่หน้าศาลากลางจังหวัด เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ โดยเมื่อ พ.ศ. 2428 เกิดสงครามปราบฮ่อครั้งที่สองในบริเวณทุ่งไหหิน หรือบ้านทุ่งเชียงคำ โดยพวกฮ่อกำเริบตีเมืองมาจนถึงกรุงเวียงจันทน์ และเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงทราบข่าวศึกฮ่อขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ คือกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม (เจ้าเมืองมณฑลอุดร) ขณะดำรงพระอิสริยศเป็น กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม เป็นแม่ทัพปราบฮ่อครั้งนั้นจนพวกฮ่อแตกหนี และสร้างอนุสาวรีย์ปราบฮ่อไว้ที่เมืองหนองคาย เมื่อ พ.ศ. 2429
 |
| 1.7.วัดพระธาตุบังพวน พระธาตุเก่าบรรจุอัฐิองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ยังเป็นที่เดียวในโลกที่ยังหลงเหลือโบราณสถานอันเป็นสัตตมหาสถานจากอดีตครบทั้ง 7 สิ่งไว้อีกด้วย |
 |
| 1.7.วัดพระธาตุบังพวน พระธาตุเก่าบรรจุอัฐิองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ยังเป็นที่เดียวในโลกที่ยังหลงเหลือโบราณสถานอันเป็นสัตตมหาสถานจากอดีตครบทั้ง 7 สิ่งไว้อีกด้วย |
 |
| 1.7.วัดพระธาตุบังพวน มีพระปรางค์ 3 องค์ เจดีย์เล็กอีก 7 องค์ พระพุทธรูปพระประธานใหญ่ และพระนาคปรกขนาดใหญ่ |
 |
| 1.7.วัดพระธาตุบังพวน มีพระปรางค์ 3 องค์ เจดีย์เล็กอีก 7 องค์ พระพุทธรูปพระประธานใหญ่ และพระนาคปรกขนาดใหญ่ |
 |
| 1.7.วัดพระธาตุบังพวน พระธาตุเก่าบรรจุอัฐิองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ยังเป็นที่เดียวในโลกที่ยังหลงเหลือโบราณสถานอันเป็นสัตตมหาสถานจากอดีตครบทั้ง 7 สิ่งไว้อีกด้วย |
1.7.วัดพระธาตุบังพวน พระธาตุเก่าและสำคัญอีกแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีประวัติความเป็นมายาวนาน ตั้งอยู่ที่บ้านพังพวน อำเมือง จังหวัดหนองคาย มีระยะทางห่างจากตัวเมืองประมาณ 26 กิโลเมตร จุดสำคัญภายในวัดคือ มีปูชนียวัตถุเป็นองค์พระธาตุบังพวน ซึ่งภายในบรรจุอัฐิ องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระปรางค์ 3 องค์ เจดีย์เล็กอีก 7 องค์ พระพุทธรูปพระประธานใหญ่ และพระนาคปรกขนาดใหญ่ โดยภายในวัดพระธาตุบังพวนแห่งนี้ ยังเป็นที่เดียวในโลกที่ยังหลงเหลือโบราณสถานอันเป็นสัตตมหาสถานจากอดีตครบทั้ง 7 สิ่งไว้อีกด้วย จึงเป็นโบราณสถานสำคัญที่มีนักเดินทางและพุทธศาสนิกชน แวะเวียนมาสักการะอย่างไม่ขาดสาย
 |
| 1.8.ศาลาแก้วกู่ หรือ อุทยานเทวาลัยแห่งความศรัทธา อุทยานแห่งนี้เต็มไปด้วยประติมากรรมทางศาสนา ที่สร้างเป็นรูปปั้นปูนทรงสูงใหญ่โต เด่นตระหง่าน |
 |
| 1.8.ศาลาแก้วกู่ หรือ อุทยานเทวาลัยแห่งความศรัทธา อุทยานแห่งนี้เต็มไปด้วยประติมากรรมทางศาสนา ที่สร้างเป็นรูปปั้นปูนทรงสูงใหญ่โต เด่นตระหง่าน |
 |
| 1.8.ศาลาแก้วกู่ หรือ อุทยานเทวาลัยแห่งความศรัทธา |
 |
| 1.8.ศาลาแก้วกู่ หรือ อุทยานเทวาลัยแห่งความศรัทธา |
1.8.ศาลาแก้วกู่ หรือ อุทยานเทวาลัย จัดเป็นหนึ่งในสถานที่ในจังหวัดหนองคาย ที่ดึงดูดนักเดินทางอีกแห่งที่ต้องแวะมาชมสักครั้งเมื่อมาเยือนเมืองแห่งนี้ เนื่องจากมีความแปลกตา จุดเด่นของอุทยานแห่งนี้เต็มไปด้วยประติมากรรมทางศาสนา ที่สร้างเป็นรูปปั้นปูนทรงสูงใหญ่โต เด่นตระหง่าน โดยเทวสถานแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยความศรัทธาและความเชื่อของ ปู่เหลือ โดยชาวหนองคาย เรียกสถานที่แห่งนี้ว่า วัดแขก เป็นสถานที่แทนภาพดินแดนแห่งการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง เนื่องจากรูปปั้นเทวสถานแต่ละรูป มีป้ายเขียนข้อมูลความรู้เตือนใจให้คนยึดมั่นในการทำความดี ถือเป็นที่เที่ยวลำดับต้นๆในเมืองหนองคายอีกแห่ง ที่ดึงดูดนักเดินทางมาเที่ยวชมแทบทุกวัน
 |
| 1.10.สวนสาธารณะหนองถิ่น สวนสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจอยู่ในเมืองหนองคาย |
 |
| 1.10.สวนสาธารณะหนองถิ่น สวนสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจอยู่ในเมืองหนองคาย |
 |
| 1.10.สวนสาธารณะหนองถิ่น สวนสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจอยู่ในเมืองหนองคาย |
1.10.สวนสาธารณะหนองถิ่น หนึ่งสถานที่สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งตั้งอยู่ในตัวเมืองหนองคาย มีหนองน้ำขนาดใหญ่ และเป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายและอื่นๆ ทัศนียภาพแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ ร่มรื่น และหากใครที่เที่ยวอยู่ในตัวเมือง ตกเย็นไม่รู้ไปใหนดี ก็แวะมาเดินกินลม หรือให้อาหารปลาที่สวนสาธาณะแห่งนี้ได้นะคะ
นอกจากนี้แล้วในจังหวัดหนองคาย ยังมีที่เที่ยวสวยงามซึ่งอยู่ตามอำเภออีกหลายแห่งให้แวะชมกันอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจ ดิฉันเลยขอมาสรุปให้กับเพื่อนๆคุณผู้อ่านที่กำลังวางแผนมาเที่ยวหนองคาย ได้ลองปักหมุด แวะไปเช็คอินถ่ายรูปสวยๆกันดังนี้
 |
| 2.1.วัดผาตากเสื้อ จุดเด่นเป็นจุดชมวิวทางเดินสกายวอคล์ ให้ช็อคหัวใจ ชมวิวทิวทัศน์งามวิไลเริ่ดสะแมนแตน |
 |
| 2.1.วัดผาตากเสื้อ จุดเด่นเป็นจุดชมวิวทางเดินสกายวอคล์ ให้ช็อคหัวใจ ชมวิวทิวทัศน์งามวิไลเริ่ดสะแมนแตน |
 |
| 2.1.วัดผาตากเสื้อ หน้าผาดั้งเดิม ที่ยังคงมนต์เสน่ห์ไว้อย่างไม่เจือจาง ให้มานั่งสะพร่างถ่ายรูปตรงโขดหินผาตากเสื้อ |
 |
| 2.1.วัดผาตากเสื้อ จุดเด่นเป็นจุดชมวิวทางเดินสกายวอคล์ ให้ช็อคหัวใจ ชมวิวทิวทัศน์งามวิไลเริ่ดสะแมนแตน |
 |
| 2.1.วัดผาตากเสื้อ จุดเด่นเป็นจุดชมวิวทางเดินสกายวอคล์ ให้ช็อคหัวใจ ชมวิวทิวทัศน์งามวิไลเริ่ดสะแมนแตน |
2.1.วัดผาตากเสื้อ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียง และจุดชมวิวถ่ายรูปเช็คอินที่สวยงามทีสุดอีกแห่งในเมืองหนองคาย ตั้งอยู่ที่ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม ห่างจากตัวเมืองหนองคาย ประมาณ 80 กิโลเมตร หากขับรถมอเตอร์ไซต์มาจากตัวเมือง ก็ค่อนข้างเหนื่อยเหมือนกัน แต่เมื่อมาถึง ก็จะได้ตะลึงตึงตึงไปกับทัศนียภาพอันงดงามของภาพแม่น้ำโขง เชื่อมโยงสองฝั่งไทยลาว
ถือเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมตั้งอยู่บนภูเขา
จุดเด่นของวัดผาตากเสื้อ ที่ดึงดูดนักเดินทางจากทัวสารทิศ มาสิงสถิตกันที่วัดแห่งนี้ คงเป็นจุดทางเดินสกายวอคล์ ให้ช็อกหัวใจ เพราะทางเดินกระจกให้ถ่ายรูป ชมวิวทัศนียภาพสวยงาม และรับลมเย็นๆกันอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจ
 |
| 2.3.สวนรุกขชาติน้ำตกธารทอง น้ำตกสวยรุ่มระรวยด้วยความร่มรืน มีน้ำตกให้เด็กๆและครอบครัวได้เล่นกันอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจ |
 |
| 2.3.สวนรุกขชาติน้ำตกธารทอง น้ำตกสวยรุ่มระรวยด้วยความร่มรืน มีน้ำตกให้เด็กๆและครอบครัวได้เล่นกันอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจ |
2.3.สวนรุกขชาติน้ำตกธารทอง น้ำตกสวยอยู่ติดทางหลวง ใกล้ๆทางขึ้นวัดผาตากเสื้อ ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ที่สวยงามอีกแห่ง มีน้ำตกให้เด็กๆและครอบครัวได้เล่นกันอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจ
 |
| 2.4.จุดชมวิวสุดชายแดนฝั่งโขงในอำเภอสังคม |
 |
| 2.4.จุดชมวิวสุดชายแดนฝั่งโขงในอำเภอสังคม |
 |
| 2.4.จุดชมวิวสุดชายแดนฝั่งโขงในอำเภอสังคม เมืองธรรมชาติงาม ริมแม่น้ำโขง |
 |
| 2.4.จุดชมวิวสุดชายแดนฝั่งโขงในอำเภอสังคม เมืองธรรมชาติงาม ริมแม่น้ำโขง |
4.จุดชมวิวสุดชายแดนฝั่งโขง ตั้งอยู่ในอำเภอสังคม อีกหนึ่งที่เที่ยวถ่ายรูปสวยๆอีกแห่ง ถ่ายรูปเช็คอิน คู่กับป้ายสิ้นสุดชายแดนริมแม่น้ำโขง เชื่อมโยงไปด้วยทัศนียภาพและภูมิทัศน์ที่สวยงาม
 |
| 5.วัดหินหมากเป้ง นมัสการเจดีย์พิพิธภัณฑ์พระราชนิโรธรังสี |
 |
| 5.วัดหินหมากเป้ง นมัสการเจดีย์พิพิธภัณฑ์พระราชนิโรธรังสี |
 |
| 5.วัดหินหมากเป้ง นมัสการเจดีย์พิพิธภัณฑ์พระราชนิโรธรังสี |
 |
| 5.วัดหินหมากเป้ง นมัสการเจดีย์พิพิธภัณฑ์พระราชนิโรธรังสี |
5.วัดหินหมากเป้ง นมัสการเจดีย์พิพิธภัณฑ์พระราชนิโรธรังสี ตั้งอยู่ที่ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ อีกหนึ่งวัดสำคัญ เป็นที่ตั้งขององค์เจดีย์พิพิธภัณฑ์พระราชนิโรธรังสีฯ (เทสก์ เทสรังสี) หรือคนทั่วส่วนใหญ่ เรียกว่า หลวงปู่เทสก์ พระเถระผู้เจริญยิ่งในสมณคุณ พระนักปฎิบัติธรรม เป็นที่เคารพศรัทธาต่อพุทธศาสนิกชน โดยองค์เจดีย์ดังกล่าว สร้างเมื่อปี พ.ศ.2534 เป็นองค์เจดีย์ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จเป็นองค์ประธานมาบรรจุอัฐิด้วยพระองค์องค์เมื่อปี พ.ศ.2540 จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาที่สำคัญอีกแห่งในจังหวัดหนองคาย ที่มีนักเดินทางแวะเวียนมากราบสักการะอย่างไม่ขาดสาย
 |
| 6.จุดชมวิวปล่องดอนจันทร์พันพร้าว ณ วัดบ้านพานพร้าว ริมแม่น้ำโขง ตรงข้ามเป็นเมืองเวียงจันทร์ |
 |
| 6.แวะพักทานข้าวเกรียบญวน รสเค็มๆ ที่จุดชมวิวปล่องดอนจันทร์พันพร้าว ณ วัดบ้านพานพร้าว ริมแม่น้ำโขง ตรงข้ามเป็นเมืองเวียงจันทร์ |
 |
| 6.แวะพักทานข้าวเกรียบญวน รสเค็มๆ ที่จุดชมวิวปล่องดอนจันทร์พันพร้าว ณ วัดบ้านพานพร้าว ริมแม่น้ำโขง ตรงข้ามเป็นเมืองเวียงจันทร์ |
 |
| 6.แวะพักทานข้าวเกรียบญวน รสเค็มๆ ที่จุดชมวิวปล่องดอนจันทร์พันพร้าว ณ วัดบ้านพานพร้าว ริมแม่น้ำโขง ตรงข้ามเป็นเมืองเวียงจันทร์ |
6.แวะพักเหนื่อยระหว่างทาง ที่จุดชมวิวปล่องดอนจันทร์พันพร้าว ณ วัดบ้านพานพร้าว ริมแม่น้ำโขง ตรงข้ามเป็นนครหลวงเวียนจันทร์ เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในอำเภอศรีเชียงใหม่ มีจุดนั่งพักผ่อน แวะทานข้าวเกรียบญวน รสเค็มๆ นั่งกินลม ชิลๆได้อย่างสำราญใจ
|
| 7.จุดชมวิวลานพญานาค อำเภอศรีเชียงใหม่ งามวิไลไปด้วยนางรำ |
 |
| 7.จุดชมวิวลานพญานาค อำเภอศรีเชียงใหม่ งามวิไลไปด้วยนางรำ |
 |
| 7.จุดชมวิวลานพญานาค อำเภอศรีเชียงใหม่ งามวิไลไปด้วยนางรำ |
 |
| 7.จุดชมวิวลานพญานาค อำเภอศรีเชียงใหม่ งามวิไลไปด้วยนางรำ |
7.จุดชมวิวลานพญานาค อำเภอศรีเชียงใหม่ งามวิไลไปด้วยนางรำ กำลังฟ้อน ออนซอนคั๊กหลายเด้อ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในวันออกพรรษา
 |
| 8.ไหว้หลวงพ่อพระเสี่ยง วัดมณีโคตร อำเภอโพนพิสัย |
 |
| 8.ไหว้หลวงพ่อพระเสี่ยง วัดมณีโคตร อำเภอโพนพิสัย |
 |
| 8.ไหว้หลวงพ่อพระเสี่ยง วัดมณีโคตร อำเภอโพนพิสัย |
8.ไหว้หลวงพ่อพระเสี่ยง วัดมณีโคตร พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองโพนพิสัย ประดิษฐานอยู่ที่ วัดมณีโคตร ตำบลจุมพล อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย โดยเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ โดยกษัตริย์ล้านช้างสร้างขึ้น ให้เป็นพระเสี่ยงทายประจำเมือง และใช้เป็นพระเสี่ยงทายในโอกาสเสด็จขึ้นครองราชย์ หรือมีเหตุการณ์สำคัญ ในโอกาสต่าง ๆ ทำให้เป็นพระพุทธรูปที่ชาวเมืองให้ความเคารพ ศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง และมีนักเดินทางจากต่างถิ่น มากราบสักการะขอพร กันมากมาย
 |
| 9.จุดชมบั้งไฟพญานาค วัดไทย ในอำเภอโพนพิสัย |
 |
| 9.จุดชมบั้งไฟพญานาค วัดไทย ในอำเภอโพนพิสัย |
 |
| 9.จุดชมบั้งไฟพญานาค วัดไทย ในอำเภอโพนพิสัย |
9.จุดชมบั้งไฟพญานาค วัดไทย ในอำเภอโพนพิสัย อีกหนึ่งจุดชมบั้งไฟพญานาคในช่วงเทศกาลออกพรรษาที่มีชื่อเสียงที่สุด นอกจากนี้ทัศนียภาพโดยรอบ ยังเป็นจุดชมวิวที่งดงามอีกแห่งหนึ่งด้้วย
 |
| 10.ลานพญานาค วัดลำดวน อำเภอเมืองหนองคาย |
 |
| 10.ลานพญานาค วัดลำดวน อำเภอเมืองหนองคาย |
 |
| 10.ลานพญานาค วัดลำดวน อำเภอเมืองหนองคาย |
 |
| 10.ลานพญานาค วัดลำดวน อำเภอเมืองหนองคาย |
10.ลานพญานาค วัดลำดวน อำเภอเมืองหนองคาย อีกหนึ่งจุดถ่ายรูปปั้นพญานาคสวยอีกแห่งติดริมแม่น้ำโขง ในเมืองหนองคาย แม้จะไม่ใช่จุดชมบั้งไฟพญานาค แต่สถานที่ดังกล่าวก็เป็นจุดถ่ายภาพและเป็นจุดชมวิวทัศนียภาพสวยงามที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในย่านตัวเมือง และหากมาเที่ยวช่วงเทศกาลออกพรรษา ก็จะมีการจัดแสดง แสงสี เสียง และมีมหรสพ มีร้านอาหาร ของกิน ให้เลือกทานกันอย่างสำราญใจอีกด้วย
หนองคาย 74 กิโลเมตร ไม่ใกล้และก็ไม่ไกล ขับมอเตอร์ไซต์ไปเรื่อยๆก็ถึงที่หมาย
และหากใครที่เดินทางขับรถไปยังหนองคาย อุดรธานี หากขับเรื่อยมาเหนื่อยก็ ต้องแวะริมทางสักหน่อยล่ะค่ะ
โดยสองข้างทาง จะมีร้านขายมะพร้าวน้ำหอมให้เลือกทาน ทั้งแบบเผา และไม่เผาอีกด้วย
ว่ากันว่า คนที่นี่ชอบทานไม่พร้าวกันมากๆ และมะพร้าวที่นี่ก็ไม่ได้ปลูกในท้องถิ่นด้วยสิ เพราะนำมาจากสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และราชบุรี กันเลยทีเดียว
เรียกว่ามะพร้าวน้ำหอมจากภาคกลาง มาเฉิดฉายขายดีที่เมืองหนองคายนี้เอง
ขับรถมาเหนื่อยๆ ก็ดื่ม แก้กระหายได้ดีนักเชียว
กลับมามื้อค่ำ อาหารเย็น คงไม่ต้องไปทานที่ใหนไกล
เพราะต้องล้างตู้เย็น นำแหนมเนืองที่ห่อไว้ในตู้เย็น มาซัดทานให้หมดค่ะ
และจบด้วยน้องแมวเหมียวสีเทาอีกตัว ที่เดินมานัวเนีย คลอเคลียกัน แถมนางอยากทานอาหารมื้อเย็นอีกด้วย ส่งเสียงร้องเหมียวๆใหญ่เลย
เริ่มต้นวันใหม่ พกพาสปอร์ตเดินทางมาที่ด่านพรมแดนหนองคาย เพื่อเดินทางไปที่กรุงเวียงจันทร์
มีร้านเช่ารถใกล้ๆด่าน ฝากไว้ได้ค่ะ ส่วนค่าจอดรถ มาจ่ายตอนกลับจากประเทศลาวได้ค่ะ
จากนั้นก็นั่งรถเมลล์โดยสารข้ามสะพานมิตรภาพไทยลาว
ค่าโดยสาร 20 บาท
ถึงเขตพรมแดนลาว ได้เวลาไปสุขสกาวเที่ยวเมืองเวียงจันทร์อีกครั้ง ไปดูสิว่าเปลี่ยนแปลงได้มากน้อยแค่ใหน สำหรับทริปเที่ยวหนองคาย ก็ขอแต่เพียงเท่านี้ ทริปต่อไป จะพาคุณผู้อ่านไปเที่ยวเวียงจันทร์เป็นบทความถัดไปค่ะ
สรุปค่าใช้จ่ายเที่ยวแบกเป้ลุยเดี่ยวเมืองหนองคาย
ค่าเครื่องบินไปลงที่เมืองอุดรธานี 1,018 บาท
ค่ารถตู้โดยสาร อุดรธานี-หนองคาย 200 บาท
ค่าเช่ามอเตอร์ไซต์วันละสองร้อยบาท ทั้งหมด 600 บาท
ค่าที่พัก 820 บาท
ค่าอาหารการกิน+ค่าน้ำมันรถ 788 บาท
สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด 3,426 บาท
นอกจากนี้แล้วในจังหวัดหนองคาย ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายหลายแห่ง ให้เพื่อนๆที่รักการเดินทาง และทัศนาจร ไปออนซอนเที่ยวกันค่ะ ยังไงแล้วแวะมาเที่ยวกันเยอะๆนะคะ สำหรับทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวจังหวัดหนองคาย ที่ได้นำเสนอในเว็ปบล็อกนี้ น่าจะมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ ถูกใจคุณผู้อ่านอยู่ไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาด ประการใด ต้องขออภัยด้วยค่ะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆคนที่เสียสละเวลา คลิ๊กเข้ามาสไลด์เลื่อนอ่านฆ่าเวลากัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะคะ
--------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้
มาเด้อมาเที่ยวเมืองขอนแก่น สุดสะแนนแสนชิล ขับรถไปถ่ายรูปชมวิวต่างๆ มีที่ใหนเช็คอินบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองอุดร เช่ารถออนซอน ตะลอนไปชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งกันได้เลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
แบ่งปันทริปท่องโลกกว้าง เที่ยวเมืองเซลอัมซี เมืองน่ารัก มีจุดนั่งพักถ่ายรูปสวยๆ ไปดูสิว่ามีที่เที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
รีวิวพาเที่ยวชมมิวเซียมสยาม แหล่งเรียนรู้ไทยๆสุดเก๋ไก๋ มีอะไรอัพเดทใหม่ๆให้ชมบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวและที่เที่ยวค่ะ>>>
เก็บตก รีวิวเที่ยวเวียงจันทร์ 1 วัน ไปเช้า-เย็นกลับ มีที่เที่ยวอะไรให้ชื่นชมกันอีกบ้าง ตามไปเบิ่งกันเด้อ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
รีวิวแบกเป้เที่ยวนครนายก ไม่มีรถส่วนตัว ก็เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับเที่ยวไปทั่วได้ใน 1 วันแบบชิลๆ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวจ้า>>>
พารีวิวเที่ยวชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพ เสพความรู้แบบไทยๆ เดินชมในนิทรรศการจิ๋นซีฮ่องเต้ คลิ๊กดูรายละเอียดภาพรีวิวค่ะ>>>
หรือดูรายละเอียดที่ : http://bit.ly/2l05FdT
แบ่งปันรีวิวแบกเป้เที่ยวอินส์บรูค 2 วัน 1 คืน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้ชื่นชมกันบ้าง ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>
รีวิววิธีการเดินทางไปเที่ยวชมปราสาทน็อยชวานสไตน์ด้วยตัวเองมาฝากใน 1 วัน มีที่เที่ยวอะไรให้ชมอีกบ้าง ตามไปชมกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>
รีวิวแบกเป้เที่ยวเมืองมิวนิค เดินชิคๆไปชมสถานที่สวยงามต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปชมกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>
0 ความคิดเห็น