Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

รีวิวแบกเป้เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 10 ปั่นจักรยานชมทุ่งดอกไม้หลากสี ที่เมืองฟูราโน่ตอนเช้าๆ พฤกษาสวยสกาว แพรวพราวดุจอำพัน ดั่งสวรรค์ชั้นฟ้ามาลาดิน

แบกเป้เที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ตอนที่ 10 เที่ยวเมืองฟูราโน่ ปั่นจักรยานไชโยไปชมดอกลาเวนเดอร์สีหวานๆ งามอลังการสะท้านโลกา ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน
ขอสวัสดี๊ดี สวีดั๊ดดัดคุณผู้อ่านชาวเน็ตทุกๆท่าน ที่กำลังสำเริงสำราญ ร้าวรานดวงฤทัยอยู่บนโลกออนไลน์ อันไร้สาย ไร้พรมแดน จนขนแขนสะแตนอัพ สดับตรับฟัง บัลลังก์พินาศ พิฆาตนารี สีสมร อรชร อ๊อนแอ๊น สุดแสนจะเริ่ดสะแมนแตนกันอยู่ ณ ขณะเสี้ยววินาทีนี้นะค่ะ ดิฉันคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน บล็อกเกอร์สมัครเล่นแนวๆกากๆ โกโรโกโส ขอมาเฮลโหล จ๊ะจ๋า บ้าๆบอๆ ขอต้อนรับทุกๆท่านตามประเพณีอันดีงาม เข้ามาร้าวรานเว็ปบล็อกแนะนำที่พัก รีวิวท่องเที่ยว เขียนจนโลกเบี้ยวไปหนึ่งข้าง ให้ท่านได้สะพร่างอ่านกันแบบระรัวจนปวดหัวปวดสมอง ได้ประลองปัญญา จะได้เป็นคนบ้า(เที่ยว)ไปด้วยกันนะค่ะ

กลับมาอีกครั้งสำหรับบทความรีวิวท่องเที่ยวนะค่ะ ขอมารายงานตัวกับคุณผู้ท่านที่รอติดตามบล็อกของเดี๊ยนอยู่นะค่ะ โดยบทความในวันนี้ ดิฉันขอมาเขียนรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นช่วงฤดูร้อนต่อนะค่ะ โดยรีวิวตอนนี้เข้าสู่ตอนที่ 10 แล้วค๊า โอ้ยดีใจมากๆค่ะ รู้สึกว่าเขียนมาจะเป็นเดือนแล้ว ยังไม่เสร็จสักกะที กะว่าจะเขียนไปเรื่อยๆค่ะ สิ้นเดือนก็คงจะจบครบทุกตอน จะพยายามใช้เวลาเลิกงานประจำ มาเคาะแป้นพิมพ์เขียนไปเรื่อยเปื่อยๆค่ะ มีคนมาอ่านหรือเปล่าไม่รู้ แค่มีคนมาดู 1 คน เดี๊ยนได้ดีใจเริ่ดสุดแล้วค่ะ

หลังจากบทความครั้งที่แล้ว ดิฉันได้พาทุกๆท่านไปเดินทอดน่อง ท่องความชิลๆรับวิวสวยๆในเมืองซับโปโร และไปเดินเฮโลชมคลองโตารุ ที่สวยทะลุไปสุดยอดฟ้า กับบรรยากาศอันแสนเย็นสบายบนเกาะฮอกไกโดไปแล้วนะค่ะ วันนี้ดิฉันจะขอมารีวิวพาทุกๆท่าน ไปปั่นจักรยาน สำราญรมย์ ชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์งามๆ ที่เมืองฟูราโน่ค่ะ ถือเป็นเมืองจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของทริปนี้เลยค่ะ เพราะดิฉันก็ได้เห็นภาพดอกไม้หลากสีเรียงรายอยู่ในอินเตอร์เน็ต ก็อยากจะระเหินระเห็ด มาเด็ดดอมดมดอกไม้ที่เมืองนี้สักครั้งหนึ่งในชีวิตค่ะ มาทริปนี้ไม่ผิดหวังค่ะ ได้เห็นภาพสวยสมใจ และงามวิไลเริ่ดสะแมนแตน แถมอลังการสะท้านโลกายิ่งๆค๊า...หากใครที่รักและหลงไหลในดอกไม้สวย ลองแบ็คแพ็คแบกเป้มาเที่ยวกันได้ค่ะ เดี๊ยนรับรองว่าสวยงาม ประทับตราตรึง ซึ้งถึงทรวงในจริงๆจ้า

เพื่อไม่งวยงงและสันสนกับเนื้อหารีวิวท่องเที่ยวญี่ปุ่นแนวๆกากๆของดิฉันนะค่ะ ท่านสามารถไปอ่านบทความรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อนก่อนหน้านี้ได้ค่ะ โดยแบ่งเป็นตอนๆ เป็นมหากาพย์ดังนี้ค่ะ

ตอนที่ 1 : รีวิวเที่ยวเมืองวาคายาม่า ไปลั๊ลลานั่งรถไฟแมวเหมียวทามะสุดน่ารัก คลิ๊กดูที่เว็ป khunnaiver.blogspot.com/2017/07/1.html

ตอนที่ 2 : รีวิวเที่ยวเมืองคาโกชิม่า นั่งรถไฟลั๊นลาไปอบทรายร้อน งามออนซอนแท้เด้ คลิ๊กดูที่เว็ป khunnaiver.blogspot.com/2017/07/2.html

ตอนที่ 3 : รีวิวท่องเที่ยวเมืองฟูกุโอกะ ชมเทศกาลยามากาสะในฤดูร้อน งามอรชร หาดทรายสวย รวยเสน่หา คลิ๊กดูที่เว็ป http://khunnaiver.blogspot.com/2017/08/3.html

ตอนที่ 4 : รีวิวท่องเที่ยวเมืองฮิโรชิม่า เดินลั๊นลาตามรอยระเบิดเคลียร์ ไปนั่ทักเปียผม ชมนกไม้ พร่างพรายดูสะพาน 5 โค้ง คลิ๊กดูที่เว็ป :http://khunnaiver.blogspot.com/2017/08/4.html

ตอนที่ 5 : รีวิวเดินเที่ยวเมืองโอคายาม่า ไปเดินย้อนเวลาสมัยเอโดะที่เมืองเก่าคุราชิกิ ชื่นชมใบไม้ผลิสีแดง ร้อนแรงใจ คลิ๊กดูได้ที่เว็ป : http://khunnaiver.blogspot.com/2017/08/5.html

ตอนที่ 6 : รีวิวเดินเที่ยวเมืองทาคาย่าม่า เดินชมตลาดเช้าทาคายาม่า ชมวิวทุ่งนาที่ชิราคาวาโก งามไฮโซ เฮโลเริ่ดเว่อร์ :http://khunnaiver.blogspot.com/2017/08/Shirakawagoreview.html

ตอนที่ 7 : รีวิวเดินทางไปสัมผัสความหนาวบนเทือกเขาทาเตยาม่า สวยระย้าหิมะกำลังละลายในฤดูร้อน งามอรชรดีเลิศเว่อร์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2017/08/japan-alpine-review.html

ตอนที่ 8 : รีวิวเที่ยวอาโอโมริ ชมทุ่งนาข้าวหลากสีสัน เมืองอินาคาดาเตะ สวยงาม อลังการเป๊ะเว่อร์ :http://khunnaiver.blogspot.com/2017/08/Inakadatericepaddyart.html

ตอนที่ 9 : รีวิวเดินเที่ยวชิลๆเมืองซับโปโร เดินเฮโลชมเมืองชายทะเลโอตารุ สวยทะลุไปสู่ยอดฟ้า :  khunnaiver.blogspot.com/2017/08/Sapporotravelreview.html


ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาและภาพรีวิวนะค่ะ ดิฉันขอมาแนะนำเส้นทาง และวิธีการเดินทางไปชมทุ่งดอกไม้ที่ฟาร์มโทมิตะให้ท่านได้อ่านกันก่อนค่ะ เผื่อใครที่กำลังวางแผนมาเที่ยว จะได้เป็นไกด์ไลน์น่าจะพอเป็นแนวทางได้บ้าง ไม่มากก็น้อยนะค่ะ

เกี่ยวกับการเที่ยวฟูราโน่ช่วงฤดูร้อน

เมืองฟูราโน่เป็นที่ตั้งอยู่ใจกลางชองเกาะฮอกไกโด  เป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์ในชนบทแบบสวยงาม ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศทั้งในประเทศ และต่างประเทศมาเยี่ยมเยือนเพื่อชมความงามของทิวทัศน์แบบพาโนราม่า ที่กว้างใหญ่ไพศาล สุดลูกลูกตาในแบบฉบับของเกาะฮอกไกโด โดยเสน่ห์ที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวเกาะนี้ในช่วงฤดูร้อน คงจะหนีไม่พ้น มวลดอกไม้นานาพันธ์ อาทิดอกลาเวนเดอร์ ดอกป๊อปปี้ เป็นต้น ซึ่งจะผลิดอกเบ่งบานในช่วงเดือนกรกฏาคม

แหล่งท่องเที่ยวฟูราโน่ยอดนิยมเดือน ก.ค.- ส.ค.
1.ฟาร์มโทบิตะ (Tomita Farm) เป็นสวนดอกไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุดในฟูราโนะ และเป็นสวนที่ปลูกทุ่งลาเวนเดอร์ที่ว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนกว่าล้านคน โดยดอกลาเวนเดอร์จะออกดอกอย่างงดงามที่สุดในช่วงเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้แล้วยังมีดอกป๊อปปี้ และดอกไม้อื่นๆอีกมากมายที่จะบานต้อนรับผู้มาชมตั้งแต่ต้นฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วงเลยที่เดียวค่ะ และมีร้านคาเฟ่ภายในสวน กาแฟ น้ำชา รวมทั้งอาหารและขนมอร่อยให้ได้ทานด้วยค่ะ

2.ฟาร์มโทบิตะตะวันออก (Farm Tomita East) เป็นสวนดอกลาเวนเดอร์ที่ตั้งอยู่ห่างจาก Farm tomita ประมาณ 4 กิโลเมตรค่ะ แต่เดิมเป็นที่สวนนี้เป็นที่ปลูกดอกไม้เพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบในการทำน้ำมันลาเวนเดอร์และดอกไม้แห้ง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมภาพลาเวนเดอร์อันกว้างใหญ่ได้ โดยจากบนจุดชมวิวที่ Farm Tomita East  ก็มีรถวิ่งให้บริการทำให้สามารถเที่ยวชมสวนไปพร้อมฟังคำบรรยายเรื่องลาเวนเดอร์และธรรมชาติได้โดยไม่ต้องเร่งรีบ

3.Furano Winery โรงผลิตไวน์เมืองฟูราโน่

4.Rokugo Observatory จุดชมวิวทุ่งดอกไม้ในสวนโรกุโกะ

วิธีการเดินทางไปยังฟาร์มดอกไม้โทบิตะ และฟาร์มดอกไม้อื่น มีดังนี้ค่ะ
1.เดินทงด้วยรถจักรยาน มีจักรยานให้เช่าชั่วโมงละ 200 เยนค่ะ
1.รถจักรยาน : ร้านเช่าจักรยานอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟูราโน่ โดยค่าเช่าจักรยานแบบธรรมดาตกชั่วโมงละ 200 เยน ส่วนแบบไฟฟ้าอยู่ที่ชั่วโมงละ 600 เยนค่ะ สามารถปั่นไปฟาร์มโทบิตะและฟาร์มดอกไม้ไกลเคียงได้ค่ะ โดยระยะทางจากสถานีรถไฟเมืองฟูราโน่ไปสิ้นสุดที่ฟาร์มโทมิตะ ประมาณ 9 กิโลเมตรค่ะ ระหว่างทางปั่นจักรยานไปก็จะได้ชมวิวทุ่งนา หากเหนื่อย เมื่อยก็แวะพักค่ะ ถือเป็นพาหนะยอดนิยมอีกอย่างสำหรับคนงบน้อยค่ะ หรือมาเที่ยวคนเดียวค่ะ

เดินทางด้วยรถไฟ Furano-Biei Norokko Train
2.รถไฟสาย Norokko : แนะนำให้นั่งรถไฟสาย Norokko Train ค่ะ เนื่องจากเป็นรถไฟสำหรับนั่งชมวิวโดยเฉพาะ และรถไฟสายนี้ผ่านสถานีลาเวนเดอร์ฟาร์มด้วยค่ะ หากใครที่จะนั่งรถไฟสายนี้ ต้องวางแผนเรื่องเวลาให้ดีๆค่ะ เพราะรถไฟมีเป็นรอบๆตามเวลาที่ระบุไว้เท่านั้นค่ะ โดยเส้นทางของรถไฟสายนี้ จะวิ่งระหว่างเมือง  Asahikawa- Biei- Furano ทั้งไปและกลับค่ะ

3.เช่ารถยนต์ส่วนตัวขับ : เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสะดวกสบาย สามารถไปเดินทางไปเที่ยวยังฟาร์มที่อยู่ในระยะทางที่ไกลๆที่เข้าถึงได้ยาก  ซึ่งการเช่ารถขับเที่ยวในเกาะฮอกไกโดถือเป็นทางเลือกที่ดี สะดวกสบาย เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางกันมาเป็นมาเป็นกลุ่มเล็กๆหรือครอบครัว ที่ต้องการจะเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยว ที่เข้าถึงได้ยาก โดยมีบริการรถให้เช่าอยู่หลายบริษัท เช่น
- รถเช่าของบริษัทในเครือรถไฟ JR มีสำนักงานอยู่ในเมืองบริเวณสถานีรถไฟ www.jrh-rentalcar.com
- รถเช่าของบริษัทยี่ห้อโตโยต้าทุกรุ่น ทุกรูปแบบ www.rent.toyota.co.jp/en
- รถเช่าของบริษัท Rent-a-car มีรถไฟใ้บริการหลากหลายยี่ห้อ www.nrh.co.jp/foreign
ขอบพระคุณข้อมูลจากโบว์ชัวร์ท่องเที่ยว : yakpaihokkaido

หมายเหตุ : สำหรับใครที่งบน้อยๆ หรือมาเที่ยวคนเดียว แบกเป้มาเที่ยวแบบดิฉัน แนะนำให้เช่าจักรยานปั่นไปเที่ยวดีที่สุดค่ะ  แม้ว่าอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ก็ได้แวะชมวิวริมทาง ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย ประหยัดสตางค์แถมได้แวะตามฟาร์มดอกไม้ที่อยากไปด้วยค่ะ หรือเดินทางด้วยรถไฟก็ได้ค่ะ แต่ต้องวางแผนเวลาให้ดีๆนะค่ะ

เอ้าล่ะค่ะเพื่อไม่ให้เสียเวลา และสาเวเลียไปกับการบ่นพร่ำทำเพลงไปมากกว่านี้ เดี๊ยนขอมาร่ายบทความรีวิวพร้อมภาพให้ท่านได้อ่านหรือสไลด์ดูกันนะค่ะ ในรีวิวนี้จะขอเน้นรูปภาพนะค่ะ ภาพไม่สวยหรือเขียนอธิบาย อักขระตกหล่น ผิดพลาดยังไงต้องขออภัยด้วยคะ
เมื่อคืนนี้พักค้างที่ โรงแรม Log yukari guesthouse เป็นโรงแรมที่ราคาถูกที่สุดในเมืองฟูราโน่แล้วค่ะ
(ต่อจากตอนที่แล้ว) เช้าตรู่ของวันที่ 20 ก.ค.2560 ดิฉันตื่นแต่เช้าเลยค่ะ ออกมาเดินรับอากาศเย็นยามเช้า บริเวณโรงแรม Log yukari guesthouse ที่พักราคาถูกที่สุดในเมืองฟูราโน่แล้วค่ะ ที่พักแนวโฮสเทลห้องนอนรวม คืนละ 450 บาท (1500 เยน) แต่ห้องอาบน้ำไม่ค่อยโอเคเลยนะค่ะ  เดี๊ยนรับไม่ค่อยได้ค่ะเพราะไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเลยค่ะ มีถ้ำมองตลอดเลยค่ะ
ห้องพักโอเค พอใช้ ไม่หรูหรา เน้นนอนอย่างเดียว แต่เจ้าของใจดีมากๆ คลิ๊กดูรีวิวและรายละเอียดที่พักได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/8KTCio
 ที่พักตั้งอยู่กลางป่าดงพงไพร ไม่มีร้านสะดวกซื้ออยู่ใกล้ๆ และค่อนข้างไกลจากสถานีรถไฟพอสมควร ตอนที่นั่งมาเมื่อคืน บรรยากาศโดยรอบดูเปลี่ยวๆหน่อย แต่พอตอนเช้า บรรยากาศดีมาก อากาศเย็นดี๊ดีค่ะ
ห้องล็อบบี้ทานข้าวอยู่ชั้นล่างค่ะ
 เข้ามาด้านในเป็นห้องทานอาหาร และห้องนั่งเล่นรวมค่ะ
ห้องพักหลักร้อย มีขนมให้ทานด้วยนะค่ะ คลิ๊กดูรีวิวและรายละเอียดห้องพักที่เว็ปไซต์ https://goo.gl/8KTCio
บริเวณห้องนั่งเล่น ก็มีชา ขนมปังให้ทานฟรีด้วยนะค่ะ ปกติแล้วไปพักบางแห่งเค้าไม่มีให้นะค่ะ แต่ที่นี้คืนละ 450 บาท มีให้ค่ะ ถ้ามีผลหมากรากไม้ ไข่ดาว ให้ด้วย คงดีเยี่ยมมาก รับเลย 5 ล้านดาวค๊า
อาหารเช้าที่โรงแรม Log yukari guesthouse ก็เป็นแบบง่ายๆ เน้นทานพลังงานเพิ่มชั้นไขมันในร่างกายค่ะ
อาหารเช้าของที่พัก มีขนมปัง ชา กาแฟ โก้ๆให้ท่านด้วยนะค่ะ ของดิฉันเหลือบะหมี่อยู่ 1 ถ้วยเลยเอามาต้มกินทานคู่กับขนมปัง เพราะเช้านี้ต้องใช้พลังงานเยอะค่ะ

สำหรับใครที่วางแผนมาเที่ยวฟูราโน่ มองหาที่พักราคาถูกๆอยู่ ไม่รู้พักใหนดี แนะนำมาพักที่นี้ได้ค่ะ เจ้าของใจดีค่ะ  คลิ๊กดูรีวิวและรายละเอียดที่พักได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/8KTCio
 
หลังจากได้ทานอาหารมื้อเช้าอิ่มแล้วนะค่ะ สักประมาณ 7.40 น.ดิฉันก็รีบทำภารกิจส่วนตัวให้เสร็จ เก็บเสื้อกระเป๋าเป้ใบใหญ่พร้อมโน๊ตบุ๊ค รีบแบกออกจากเตียงที่พัก มานั่งรอคุณลุงเจ้าของที่พักที่ห้องรับแขก เพื่อให้คุณลุงขับรถไปส่งที่สถานีรถไฟ Furano ค่ะ  และคุณคุณลุงก็มาหาดิฉันตามเวลาที่แจ้งไว้เมื่อคืนนี้ ตรงเวลาเป๊ะมากๆค่ะ
คุณลุงเจ้าของที่พัก ขับรถมาส่งถึงสถานีรถไฟ Furano แล้วค่ะ อากาศที่สถานีรถไฟดูไม่ค่อยจะเย็นเท่าที่โรงแรมคุณลุงเลยนะค่ะ
แผนการเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อน เดือน ก.ค.2560
ตามแผนที่วางไว้ ตอนนี้มาถึงเมืองฟูราโน่ เมืองจุดหมายปลายทาง เหนือสุดของทริปนี้แล้วค่ะ กับการเช่าจักรยานปั่นไปชมดอกไม้สวยงามหลากสีสัน ที่ใครๆมาเที่ยวเกาะฮอกไกโดก็ต้องแวะมากันทุกรายค่ะ
สถานีรถไฟ Furano ในตอนเช้าๆ อากาศเย็นๆนิด แต่สู้อากาศที่โรงแรมของคุณลุงไม่ได้ค่ะ
รถตู้ขนาดเล็กน่ารักของคุณลุงคันนี้แหละค่ะ มาส่งดิฉันตอนเช้าเลย
แอบถ่ายรูปรถของคุณ แต่ได้รูปคุณลุงติดมาด้วยค่ะ เผื่อใครที่แวะมาเที่ยวฟูราโน่ในช่วงหน้าร้อน อยากหาที่พักราคาถูกแบบหลักร้อย จำรถรถตู้เล็กๆคันนี้ไว้เลยนะค่ะ เดียวจะมารับและมาส่งฟรีถึงที่ค่ะ
เมื่อมาถึงสถานีรถไฟ ใกล้กับสถานีมีร้านให้เช่าจักรยานค่ะ ดิฉันเลยเข้าไปติดต่อด้านใน
ร้านเช่าจักรยานในเมือง Furano มีอยู่ร้านเดียวค่ะ อยู่ติดสถานีรถไฟเลยค่ะ หากเดินออกจากประตูสถานีรถไฟมานะค่ะ เห็นร้านอยู่ด้านข้างซ้ายมือ ตั้งตระหง่านอยู่ค่ะ เข้าไปติดด้านในเป็นคุณป้าใจดีพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่คุณป้าแกก็เข้าใจที่เราพูดค่ะ
โดยค่าเช่ารถจักรยานแบบธรรมดาอยู่ที่ชั่วโมงละ 200 เยนค่ะ
แต่ถ้าใครไม่อยากใช้แรงขาเยอะก็เลือกรถจักรยานไฟฟ้า ชั่วโมงละ 600 เยนค่ะ
ส่วนเดี๊ยนขอเลือกแบบธรรมดาค่ะ เพราะประหยัดตังดี
ได้จักรยานมาแล้วเตรียมพร้อมลุยปั่นไปชมทุ่งดอกไม้ที่ฟาร์มโทมิตะค่ะ เดี๊ยนชอบเป็นฟาร์มโนบิตะตลอดเลยค่ะ เพราะชื่อออกเสียงคล้ายกับตัวละครในการตูนโดเรม่อน
นอกจากได้เช่าจักรยานแล้ว คุณป้าก็ยังแนะนำเส้นทางในการปั่นจักรยานให้ด้วยค่ะ ถึงแม้จะพูดกันคนละภาษานะค่ะ แต่ก็พอเข้าใจที่แกพูดค่ะ เพราะคุณป้าพูดไปแกก็วาดรูปแผนที่ไปให้ด้วยนะค่ะ
ตามที่คุณป้าเจ้าของร้านเช่าจักรยานแนะนำมา แกก็ใช้ดินสอสีวาดเส้นทางให้ดิฉันปั่นไปตามเส้นทางที่บอกค่ะ ระยะทางไม่ไกลประมาณ 9 กิโลเมตรค่ะ แต่ยังไงถ้าให้ดีเปิด GPS ในมือถือไปด้วยก็จะดีมากๆค่ะ
ปั่นจักรยานออกจากเมืองฟูราโน่ตามแผนที่ พร้อมเปิด GPS มาเรื่อย บรรยากาศริมทางก็สวยงาม เป็นเมืองแบบชนบทดูเรียบง่ายมากค่ะ ถนนหนทางเพื่อไปสวนโทมิตะนั้นก็เป็นเส้นทางราบเรียบ ดูเงียบสงบ สยบความครืนเครง ไม่มีอะไรมาบรรเลงให้กวนใจจริงๆค่ะ 
หากปั่นจักรยานออกจากเมืองฟูราโน่มาจะต้องใข้กำลังขา ปั่นข้ามสะพานข้ามทางรถไฟนี้ค่ะ เล่นเอาซ่ะเมื่อยขาเลยค่ะ แต่ยังไงปั่นจักรยานก็เตรียมน้ำดื่มขวดใหญ่ไปเป็นแกนล่อนเลยนะค่ะ เพราะได้เหงื่อยดีเหลือเกินค่ะ
จากนั้นก็เป็นเนินสะพานข้ามแม่น้ำใสไหลเย็น แต่ไม่เห็นตัวปลาค่ะ มีภูเขารายล้อมรอบเมือง สีเขียวชะอุ่มชุ่มชื่นบานฤทัย งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนยิ่งนักค่ะ
ปั่นไปเรื่่อยๆก็เริ่มเหนื่อย เมื่อยก็พอ ชมแม่น้ำ สายลม และแสงแดดซึ่งกำลังทอแสงรัศมีอันเจิดจ้าให้ผิวพรรณของเดี๊ยนไหม้คลำดำด่างไปกว่าเดิมค่ะ
พบทุ่งนาข้าวบาเลย์กำลังจะสุกงอม น่าจะกร้อมเก็บเกี่ยวแล้วกระมังค่ะ 
มองไปอีกฝั่งก็เห็นชาวสวนที้นี้ กำลังขยันขันแข็งปลูกพืชผลกันอยู่ค่ะ ไม่รู้ว่าปลูกอะไร จะเข้าไปถามก็เกรงใจ เพราะพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ค่ะ
ถนนหนทางก็เงียบสงบ รถที่วิ่งส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นรถยนต์ท่องเที่ยววิ่งไปสวนโทมิตะค่ะ
ปั่นจักรยานมาได้สัก 5 กิโลก็เริ่มเป็นทุ่งนาข้าวสีเขียวขจี รื่นรมย์ฤดียิ่งนักเชียวค่ะ
นอกจากจะปลูกข้าวกันแล้วนะค่ะ ยังปลูกหัวหอมใหญ่ด้วยนะค่ะ
ดิฉันปั่นจักรยานตามถนนมุ่งตรงสู่สวนดอกไม้ที่ ฟาร์มโทมิตะค่ะ ข้อดีของการปั่นจักรยานคือได้ออกกำลังกาย แถมได้ชมบรรยากาศสองข้างทาง วิวสวยอลังการดีมากๆค่ะ ให้ความรู้สึกชิวๆ ไม่ต้องคิดมากๆ ปั่นมาเมื่อยขา ก็จอดแวะพักอาบแดดไปค่ะ
และแล้วก็มาถึงเนินเขามฤตยูแล้วค่ะ จุดนี้มีเนินเขาจุดเดียว เป็นเนินเขาที่ต้องต้องใช้แรงขาเยอะมาก จนเดี๊ยนไม่ไหว ต้องลากจักรยานจูงขึ้นบนเนินค่ะ
พอปั่นขึ้นเนินมาก็จะเจอฟาร์มดอกไม้แรก ก่อนถึงฟาร์มโทมิตะเป็นฟาร์มดอกไม้ Nakafuran Flower Park ค่ะ เป็นฟาร์มดอกไม้อยู่ใกล้ๆกับฟาร์มโทมิตะอยู่บนเนินเขา
ดิฉันปั่นจักรยานเข้าไปด้านในซึ่งเป็นลานจดรถด้านหน้า ก็จะมองเห็นทุ่งดอกลาเวนเดอร์อยู่ด้านบนเนินเขา จุดเด่นของฟาร์มนี้ น่าจะเป็นกระเช้านั่งลอยฟ้าไปยังเนินชมวิวค่ะ เดียวขากลับค่อยแวะมาดีกว่าค่ะ

และแล้วก็มาถึงสักทีค่ะ ฟาร์มโทมิตะ ฟาร์มดอกไม้หลากสี และทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่มีชื่อเสียงค่ะ ด้านหน้าเป็นที่จอดรถ เรียงรายเป็นตับเลยค่ะ  เข้าไปชมดอกไม้ด้านใน เข้าไปชมได้ฟรี ไม่ต้องเสียตังนะค่ะ แต่ถ้าให้ดีไปช่วยซื้อขนน นม เนย ไอตง ไอติมของเค้าหน่อยก็ดี ทางฟาร์มจะได้มีรายได้ค่ะ
มาถึงด้านหน้าฟาร์มแล้วค่ะ ก็จะเป็นร้านขายเครื่องดื่ม ผลหมากรากไม้ น่าทานทั้งนั้นค่ะ
เดินขึ้นมาด้านบนก่อนจะเข้าไปในสวน มีร้านขายแตงเมล่อน น่าทานมากๆค่ะ 
แตงเมล่อน เรียงจัดใส่ไว้ในตู้ไว้ ชวนให้น้ำลายไหลเยิ้ม เพราะน่าทานมากๆค่ะ เป็นของอร่อยขึ้นชื่อของฟาร์มนี้เลยนะค่ะ มีทั้งแบบซีกและแบบครึ่งลูก ส่วนราคาก็สมเหตุสมผลค่ะ ซีกนึงก็ตกอยู่ที่ชิ้นละ 300-500 เยนนะค่ะ หรือท่าเที่ยบเป็นเงินไทยก็ซีกละประมาณ 90-150 บาทค่ะ ถ้าอยู่เมืองไทยซื้อได้หลายลูกเลยนะค่ะ เดียวตอนกลับลงจากชมดอกไม้เสร็จ ค่อยแวะมาลิ้มลองว่าอร่อยสมราคาหรือเปล่านะค่ะ
 เดินเข้ามาในสวนก็เห็นทุ่งดอกลาเวนเดอร์กำลังบานผลิดอกออกบานสะพรั่ง ต้อนรับแขกที่มาเยือน พร้อมป้าย ฟาร์มโทมิตะ ให้ถ่ายรูปกันค่ะ เดี๊ยนชอบเรียกผิดเป็นฟาร์มโนบิตะตลอดเลยค่ะ
ดอกลาเวนเดอร์กำลังผลิดดอกเปล่งสีม่วงบานสะพรั่ง งดงามอลังการมากนะค่ะ หากใครที่ชอบถ่ายรูปกับดอกม้ง ดอกไม้สวยๆ ต้องไม่พลาดแวะมาชื่นชมให้ได้ค่ะ สวยงามจริงๆค่ะ พึ่งเคยเห็นดอกลาเวนเดอร์แบบเยอะๆอลังการก็ครั้งนี้แหละค่ะ
ดอกลาเวนเดอร์ สีสด มองไปใกล้ๆก็ได้กลิ่นหอมของดอกไม้สีม่วงนี้
เดินเข้ามาในสวนนี้ นอกจากดอกลาเวนเดอร์สีม่วง ชวนหลงไหลให้เคลิบเคลิ้มแล้วนะค่ะ ยังมีมวลพฤกษาพนาไพรอื่นให้ไปชมกันด้วย ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดถ่ายรูปเมื่อมาเยือนสวนแห่งนี้ คงเป็นทุ่งดอกไม้หลากสีสรรที่ใครๆก็ต้องมาถ่ายรูปกันค่ะ

ตลอดเส้นทางเดินไปชมสวน ก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศเลยค่ะ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากชาวจีน ครองสวนแห่งนี้ไปเลยค่ะ นี้ขนาดเป็นวันธรรมดานะค่ะ ถ้าเป็นวันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดแห่งชาติ เดี๊ยนว่าสวนนี้แทบไม่มีที่เดินเป็นแน่แท้ค่ะ

เดินมาอีกนิดก็จะเป็นทุ่งดอกไม้นานาพันธูปลูกเป็นแฉกๆ เหมือนที่เคยเห็นในอินเตอร์เน็ตเลยค่ะ งดงามอลังการมากๆนะค่ะ
Furano Lavender Flower at Tomita Farm on Summer
ในที่สุดก็ได้มาเห็นทุ่งดอกไม้หลากหลายพันธ์ ปลูกเรียงรายเป็นตับๆ มองจากเนินไปด้านล่างก็เป็นบ้านเรือนน่ารักมุ้งมิ้งเห็นวิวภูเขา ดูสวยงามสดชื่นระรื่นตา งามอลังการสะท้านโลกาสุดๆค่ะ 
ทุ่งดอกไม้หลากสีสันที่ฟาร์มโทมิตะ เมืองฟูราโน่
เคยเห็นตามภาพสื่อท่องเที่ยวในอินเตอร์เน็ต มาเห็นของจริง ฟาร์มอาจดูเล็กไปถนัดตาค่ะ หรือไปเพราะนักท่องเที่ยวเยอะก็ไม่ทราบนะค่ะ
 ดิฉันเดินไป ก็ต้องพยายามหลบกล้องคนอื่น เพราะเกรงจะมีรูปตัวเองไปอยู่ในกล้องเค้าค่ะ แต่ก็พยามรอจังหวะมุมถ่ายรูปดอกไม้ค่ะ
หากเดินมาเหนื่อยๆ เมื่อยก็นั่งพักชมทุ่งดอกไม้สวยๆได้ค่ะ
มีทุ่งดอกลาเวนเดอร์บนเนินเขาให้ถ่ายรูปกันอย่างงดงาม ร้าวรานใจค่ะ
โซนดอกลาเวนเดอร์นี้ รู้สึกจะถูกตัดไปแล้วค่ะ
บรรยากาศตลอดทางเดินก็เป็นดอกลาเวนเดอร์ และดอกไม้หลากหลายพันธ์ ให้สุขสันต์ถ่ายรูปและเดินชมกันอย่างสบายตา ชื่นอุราไปถึงทรวงในค่ะ 
บรรยากาศตลอดทางเดินก็เป็นดอกลาเวนเดอร์ และดอกไม้หลากหลายพันธ์ ให้สุขสันต์ถ่ายรูปและเดินชมกันอย่างสบายตา ชื่นอุราไปถึงทรวงในค่ะ

มารู้จักดอกไม้สวยของฟาร์มแห่งนี้กันค่ะว่ามีดอกอะไรบ้าง พอดีว่าดิฉันถ่ายมาด้วย เลยมาเอาลงในบล็อก เผื่อใครอยากจะไปซื้อเมล็ดพันธ์มาปลูกดูค่ะ ดิฉันเองก็อยากรู้ เพราะอยากหาซื้อเมล็ดเผื่ออยากเอาไปทดลองปลูกในสวนที่บ้านดูค่ะ

 1.ดอกสวีทวิลเลี่ยม แคทฟลายค่ะ ดอกสีชมพูหวานฉ่ำ (ถ่ายมาตามป้ายชื่อเลยค่ะ)
1.ตามป้ายบอกชื่อไว้เลยค่ะว่า ดอกสวีทวิลเลี่ยม แคทฟลายค่ะ
2.ดอกป๊อปปี้ แคลิฟฟอเนียค่ะ (Californai Poppy) เรียกง่ายก็คือ ดอกป๊อปปี้สีเหลืองค่ะ
 2.ดอกป๊อปปี้ แคลิฟฟอเนียค่ะ (Californai Poppy) เรียกง่ายก็คือ ดอกป๊อปปี้สีเหลืองค่ะ ปลูกถัดมาจากดอกสวีทวิลเลี่ยม
 2.ดอกป๊อปปี้ แคลิฟฟอเนียค่ะ (Californai Poppy) เรียกง่ายก็คือ ดอกป๊อปปี้สีเหลืองค่ะ ปลูกถัดมาจากดอกสวีทวิลเลี่ยม
 3.ต้นเปปเปอร์มินต์ (Peppermint)
 3.ต้นเปปเปอร์มินต์ (Peppermint) ตามป้ายชื่อเลยค่ะ
 4.ดอกอิโซโทมะ (Isotoma)
  4.ดอกอิโซโทมะ (Isotoma)
 4.ดอกอิโซโทมะ (Isotma)
 5.ข้าวบาเลย์ (Two rowed barley)
  5.ข้าวบาเลย์ (Two rowed barley)
 6.ดอกเบบี้บรีด (Baby's breath) ถ้าแปลแบบตรงตัวน่าจะหมายถึง ลมหายใจแบบเด็กๆค่ะ 555
 6.ดอกเบบี้บรีด (Baby's breath) ถ้าแปลแบบตรงตัวน่าจะหมายถึง ลมหายใจแบบเด็กๆค่ะ 555
 6.ดอกเบบี้บรีด (Baby's breath) ถ้าแปลแบบตรงตัวน่าจะหมายถึง ลมหายใจแบบเด็กๆค่ะ 555
 7.ดอกยารอล (Yarrow Flower)
  7.ดอกยารอล (Yarrow Flower)
  7.ดอกยารอล (Yarrow Flower)

 8.ดอกป๊อปปี้ (Poppy) ดอกสีแดงงดงามร้อนแรงจับใจ
  8.ดอกป๊อปปี้ (Poppy) ดอกสีแดงงดงามร้อนแรงจับใจ
 8.ดอกป๊อปปี้ (Poppy) ดอกสีแดงงดงามร้อนแรงจับใจ
 9.ดอกลาเวนเดอร์ (Okamurasaki Lavender) ถือเป็นดอกไม้เด่นประจำฟาร์มแห่งนี้เลยค่ะ
  9.ดอกลาเวนเดอร์ (Okamurasaki Lavender) ถือเป็นดอกไม้เด่นประจำฟาร์มแห่งนี้เลยค่ะ
  9.ดอกลาเวนเดอร์ (Okamurasaki Lavender) ถือเป็นดอกไม้เด่นประจำฟาร์มแห่งนี้เลยค่ะ
 9.ดอกลาเวนเดอร์ (Okamurasaki Lavender)
เข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆก็ได้กลิ่นของดอกลาเวนเดอร์ หอมโชยเตะจมูกค่ะ

บรรยากาศสองข้างทางก็ดูสดชื่น รมย์รื่นไปด้วยดอกไม้นานาพรรณค่ะ
เดินไปอีก 60 เมตรก็จะเป็นทุ่งดอกป๊อปปี๊หลากสีค่ะ 
เดินมาแป๊บเดียวก็ถึงแล้วค่ะ ทุ่งดอกป๊อปปี้สีแดงและสีชมพู กำลังผลิดอกออกบานสะพรั่ง ประดุจวังสีทอง สวยผุดผ่องเป็นยองใย สว่างสดใสแพรวพราว สกาวรุ่งโรจน์ยิ่งนักค่ะ ใครมีคนรักต้องไม่พลาดจูงมือกันมาถ่ายรูปสวยๆ ให้มอดม้วยมรณากันไปข้างนึงเลยนะค่ะ บรรยากาศสวยๆ เดินชิวๆ กับวิวทุ่งดอกไม้สีหวานๆ ทั้งสีชมพูอ่อน แดง ก็ร้อนแรงจับใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนยิ่งนักค่ะ
สวยงดงามจริงๆค่ะ ดอกป๊อปปี้ บานละลานตา สวยระย้าจับใจ งามไฉไลสุดเก๋ เทห์ซ่ะไม่เบาเชียวค่ะ เห็นก็อยากจะเด็ดมาทัดที่ใบหู คงจะสวยเป็นคนบ้าน่าดูนะค่ะ
หากใครที่ชอบดอกม้ง ดอกไม้ และรักการถ่ายรูป อย่าพลาดแวะมาชม ดอกดมดอกไม้ในสวนแห่งนี้ สวยสดงดงาม ร้าวรานถึงทรวงในจริงๆค่ะ
ดอกป๊อปปี้สีแดงบานร้อนแรงใจจริงๆนะค่ะ
บางดอกก็ก็เป็นสีชมพูอ่อนกำลังผลิบาน มีหมู่ผึ้งมาตอมเก็บเกสรเอาไปทำน้ำหวานค่ะ
มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เก๋ๆให้ถ่ายหลายมุมเลยค่ะ ใครชอบตรงใหนก็ถ่ายได้เลยนะค่ะ
ดูเจ้าแมลงปอตัวนี้ เกาะที่ต้นป๊อปปี้ ไม่ยอมจรลี บินหนีไปใหนเลยค่ะ ขนาดเดี๊ยนพยายามซูมกล้องเข้าไปใกล้ๆแล้วนะค่ะ มันก็ยังไม่ไปเลยค่ะ แมลงปอที่นี้ไม่ค่อยกลัวคนแฮ่ะ
ดูเจ้าแมลงปอตัวนี้ เกาะที่ต้นป๊อปปี้ ไม่ยอมจรลี บินหนีไปใหนเลยนะค่ะ ขนาดเดี๊ยนพยายามซูมกล้องเข้าไปใกล้ๆแล้วนะค่ะ มันก็ยังไม่ไปเลยค่ะ แมลงปอที่นี้ไม่ค่อยกลัวคนแฮ่ะ 
ทุ่งดอกป๊อปปี้ในฟาร์ม Tomita บานสะพรั่งงดงาม ร้านรานใจยิ่งนักค่ะ ใครมีคนรักต้องไม่พลาดจูงมือกันมาถ่ายรูปสวย ให้มอดม้วยมรณากันไปข้างนึงเลยค่ะ
ขณะนี้ที่เดี๊ยนกำลังจะถ่ายรูปอยู่นั้น มีแม่หนูน้อยร้อยชัง ก็เดินเตอะแตะมาอยู่ในเฟรมรูปภาพของเดี๊ยนอย่างไม่ได้ตั้งใจ ดูน่ารัก น่าชังมากๆค่ะ
 อันนี้เป็นดอกไม้ชื่ออะไรไม่รู้ ดูคลายๆดอกฟอเทืองนะค่ะสีเหลืองอร่ามงามจับตาคณานับเลยค่ะ
 หลังจากได้เพลิดเพลินชมทุ่งดอกป๊อปปี้สีแดง ร้อนแรงใจไปแล้วนะค่ะ ก็มาเดินชิลๆ นั่งชมวิวที่ทุ่งดอกไม้ในสวนดอกไม้แห่งนี้ต่อสักพักค่ะ
 เดินมาพอทุ่งดอกไม้อีกชนิด ไม่รู้ว่าดอกอะไร หาป้ายบอกชื่อไม่เจอค่ะ แต่สวยงาม ร้านรานใจดีจริงๆค่ะ
มองไปทางใหนก็มีแต่ดอกไม้เลยนะค่ะ เดินเพลินเลยล่ะค่ะ มีมุมโน้น มุมนี้ ดอกนั้น ดอกนี้ ให้ฉิมพลีแวะดูและถ่ายรูปกันอย่างไม่น่าเบื่อเลยค่ะ
 ดอกลาเวนเดอร์ สีม่วงบานสะพรั่ง ดูละลานตาเต็มไปหมดค่ะ
 แต่ในหมู่สีม่วงก็ยังมีสีขาวแทรกตัวอยู่นะค่ะ ไม่รู้ว่าดอกอะไร แต่กลีบดอกเล็กกะจิ๊ดลิ๊ด น่ารักดีค่ะ

ต้นข้าวบาเลย์ก็มีปลูกแซมอยู่บนเนิน กำลังออกผลออกเม็ดสวยเรียวเรียงราย งามพร่างพรายจริงๆค่ะ
จะถ่ายรูปเม็ดข้าวบาเลย์แล้ว ถ่ายลำบากเหลือเกินค่ะ เพราะลมพัดตลอดเลยนะค่ะ
 เดินไปที่จุดชมวิวจะเป็นร้านขายไอศกรีมและขายเครื่องดื่มค่ะ
เริ่มหิวล่ะค่ะ ประหยัดมาแต่เช้า ได้เสียตังสักทีนะค่ะ จัดไปค่ะไอศกรีมสีม่วงน่าทาน กับบรรยากาศหว๊านหวานของดอกไม้หลากสีค่ะ ซื้อไอติมมาต้องรีบทานค่ะ เพราะมันละลายเร็วมากๆนะค่ะ
 นองจากจุดชมวิวไปก็เห็นทุ่งดอกไม้หลากสี แต่ดอกลาเวนเดอร์ดูค่อนข้างจะกินพื้นที่ไปเกินครึ่งเลยค่ะ  ขณะที่นักท่องเที่ยวก็เริ่มเดินทางเข้ามาเรื่อยๆค่ะ
 ทุ่งดอกไม้สีหวานๆ งดงามอลังการ ร้าวรานดวงใจ จนอยากจะไปเด็ดดอกไม้มาดอมดม ให้สุขสมอุราไปจังหวัดสามช่าจริงๆค่ะ
 มองไปทางใหนก็มีแต่ดอกไม้สีม่วง บานละลานตาเต็มไปหมดค่ะ ถ่ายรูปดูจนเพลินเลยค่ะ 
จากจุดชมวิวก็เดินเวียนวนและวนเวียน ถ่ายรูปเพลินต่อค่ะ มีมุมถ่ายรูปหลากแห่งเลยค่ะ  
 ตอนที่ดิฉันปั่นจักรยานมาช่วงเช้าๆ ฟ้ายังไม่ค่อยกระจ่างมากนักค่ะ แต่พอตอนสายๆ ฟ้าก็เริ่มสดใส แดดเริ่มทอแสง อากาศก็เริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆค่ะ แต่บรรยากาศโดยรวมถือว่าดีเลยค่ะ อากาศน่าจะสักประมาณ 26 องศาประมาณเนี่ยค่ะ
นักท่องเที่ยวก็มากันเรื่อยๆนะค่ะ ส่วนใหญ่ก็อย่างที่บอก เป็นทัวร์จากนักท่องเที่ยวชาวจีน เสียงก็ค่อนข้างจะดังหน่อยค่ะ แต่ก็ต้องทำใจนะค่ะ เพราะถ้านักท่องเที่ยวมากันเยอะ ฟาร์มที่นี้ก็มีรายได้ค่ะ แต่ดูฟาร์มนี้จะเป็นฟาร์มที่นักท่องเที่ยวมากันเยอะมากๆค่ะ
สำหรับฟาร์มดอกไม้แห่งนี้ ดอกไม้จะเริ่มบานสวยที่สุดในเดือน ก.ค. ถึง กลางเดือน ส.ค.ค่ะ ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาฟาร์มแห่งนี้เยอะมากๆ
นอกจากนี้ในสวนยังมีร้านขายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากดอกลาเวนเดอร์ด้วยค่ะ ขนาดดอกไม้ลาเวนเดอร์เป็นกำๆแบบนี้ก็ขายได้นะค่ะ มัดละ 150 เยนค่ะ ต้นลาเวนเดอร์ที่ตัดมาแล้วมัดเป็นกำๆไว้ ส่งกลิ่นห๊อม หอม หอมกว่ากลิ่นที่อยู่ในสวนอีกค่ะ ว่าจะซื้อมาสักมัดนึงแหละค่ะ แต่ก็เกรงจะพะรุงพรังดอกไม้พังระหว่างทางแบกเป้ค่ะ ก็เลยไม่ซื้อดีกว่าค่ะ

แวะเดินลงมาจากสวนมานั่งพักให้หายเหนื่อยก่อนค่ะ
 เดินเข้ามาดูสินค้าของดีที่ฟาร์มแห่งนี้ ผลเมล่อนคุณภาพดีมีวางขาย ดูราคาแล้วก็ตกใจไม่น้อยค่ะ บางลูกเกือบหมื่นเยนเลยนะค่ะ โอ้..แม่เจ้า ต้องเป็นผลไม้ที่รสชาติหวานอร่อยเริ่ดแน่ๆเลยค่ะ เพราะราคาแพงลิบลิ่วสมกับเป็นผลไม้ชั้นเลิศของเมืองนี้จริงค่ะ
 เมื่อตอนเดินเข้ามาเห็นเรียงรายอยู่ในตู้ละ ตอนขาจะกลับ ยังไงขอแวะซื้อทาน ลิ้มลองรสชาติสักหน่อยค่ะ ราคาตกอยู่ที่ชิ้นละ 300 เยนค่ะ
ราคาตกชิ้นละ 300 เยน ถ้าซื้อ 2 ชิ้น 500 เยนค่ะ เลยจัดมา 2 ชิ้นค่ะ 

พอได้ลิ้มลองรสชาติแล้ว ก็หวานน้ำชุ่มคอ อร่อยเริ่ดสมคำ ล่ำลือจริงๆนะค่ะ ก็ว่าอยู่นะค่ะ ว่าทำไมลูกนึงราคาแพงจังค่ะ
หลังจากที่ได้ชื่นชมสวนดอกไม้ที่ฟาร์มโทมิตะจนเพลินตา และได้ลั๊ลลาลิ้มลองรสชาติของเมล่อนหวานฉ่ำไปแล้วนะค่ะ ก็ได้เวลาปั่นจักรยานกลับแล้วค่ะ ระหว่างทางปั่นกลับ ก็ผ่านสวนดอกไม้อีกแห่ง ชื่อสวน Nakafurano Tower ดิฉันเลยขอเวลาอีกสัก 10 นาที แวะถ่ายรูปฟาร์มนี้หน่อย
 เป็นสวนที่มีเนินชมวิวอยู่ด้านบนเขาค่ะ และพิเศษที่มีกระเช้านั่งขึ้นไปชมวิวด้านบนค่ะ
มีนักท่องเที่ยวมาเรียงแถว รอนั่งกระเช้ากันตลอดค่ะ ราคานั่งกระเช้าไม่ทราบเท่าไหร่นะค่ะ น่าจะอยู่ประมาณ 300 เยนเนี่ยแหละค่ะ
 แต่ดิฉันไม่ได้นั่งกระเช้าค่ะ เพราะหากไปนั่ง เกรงจะเดินจนเพลินตา เลยขอมาลั๊ลลาถ่ายรูปตรงเนินเขาด้านล่างดีกว่าค่ะ
ดอกทานตะวันสีเหลืองอร่าม กำลังชูช่อดอกบานรับแสงตะวัน ขณะนี้ที่แดดก็เริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆค่ะ
หลังจากที่ได้ถ่ายรูปที่ฟาร์มดอกไม้แห่งนี้แล้ว ก็ได้เวลาปั่นจักรยานกลับแล้วค่ะ ดูเวลาตอนนี้ก็ปาไป 11 โมงเช้าแล้วค่ะ เหลือเวลาอีก 40 นาที ต้องรีบปั่นไปให้เร็วรี่ให้ถึงก่อน 11.50 น.ค่ะ ไม่งั้นไม่ได้นั่งรถไฟขบวนพิเศษแน่เลยค่ะ
จริงๆแล้วใกล้ๆฟาร์ม Tomita ยังมีฟาร์มดอกไม้ลาเวนเดอร์ให้ชมอีกหลายสวนเลยค่ะ แต่ด้วยเวลาของเดี๊ยนไม่พอแล้วค่ะ เลยต้องรีบปั่นกลับค่ะ หากใครที่แวะมาเที่ยวที่นี้ มีเวลาเหลือพอก็แวะไปเที่ยวให้ครบทุกฟาร์มได้นะค่ะ
ปั่นจักรยานผ่านบ้านเรือน ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านแบบสไตล์น่ารัก และน่าอยุ่มากๆค่ะ มีสวนดอกไม้หน้าบาน เหมือนบ้านในการ์ตูนอะไรประมาณนั้นเลยค่ะ
ผ่านฟาร์มดอกลาเวนเดอร์ก็มีปลูกในที่ราบด้วยนะค่ะ แต่ดูดอกน่าจะยังไม่โตค่ะ
ในที่สุดก็มาปั่นจักรยานมาถึงเมืองฟูราโน่แล้วค่ะ ตอนปั่นไปฟาร์มโทมิตะ ระยะทาง 9 กิโลเมตร ขาปั่นกลับอีก 9 กิโลรวมระยะทางทั้งไปและกลับ 18 กิโล ปั่นจักรยานรอบนี้ได้กล้ามขาเป็นมัดๆ กระชับตึงเปรี๊ยะเลยค่ะ
ปั่นเข้ามาในเมืองฟูราโน่ ก่อนจะถึงสถานีรถไฟ เหลียบไปเห็นร้านขนมเบเกอรี่ เลยขอแวะไปซื้อหน่อยค่ะ มาทริปเน้นกินจุ๊ก กินจิ๊กจริงๆนะค่ะ
เข้ามาในร้านขนมเบเกอรี่ของ Shinya ดูน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ เลยขออนุญาตคนขายถ่ายรูปขนมน่ารักไว้หน่อยค่ะ โอ้ย..น่ากินจริงๆนะค่ะ ตอนแรกกะเข้ามาดูเฉย ไปๆมาๆตอนขวักตังซื้ออีกแล้วค่ะ
มองเห็นขนม สตรอเบอรี่พัฟเค้กเหลือชิ้นเดียว ดูท่าทางน่าจะอร่อยนะค่ะ ชิ้นละ 280 เยน ชิ้นสุดท้ายด้วยสิเลยจัดไปค่ะ 1 ชิ้น
ขนมเค้กผลไม้รวมก็น่าทานค่ะ ราคา 306 เยน สีสดใสวิี้ง น่ากินมากๆ จัดไปอีก 1 ค่ะ
เข้ามาร้านนี้ได้ขนมมา 2 ชิ้นค่ะ หมดไป 586 เยนค่ะ ซื้อเอาไปไว้นั่งทานบนรถไฟค่ะ น่าจะพอทานพออิ่มได้นะค่ะ 
พอมาถึงสถานีรถไฟฟุราโน่ ดิฉันก็นำจักรยานไปคืนที่ร้านเช่าค่ะ ใช้เวลาเช่าจักรยานทั้งหมด 3 ชั่วโมง 40 กว่านาที ก็ตีไปว่าเช่า 4 ชั่วโมงค่ะ จ่ายค่าเช้าไป 1200 เยนค่ะ
หลังจากนั้นนะค่ะ เวลา 11.50  ดิฉันก็แบกเป้มาที่สถานีรถไฟ เพื่อไปขึ้นเที่ยวรถไฟ Norokko Train เป็นรถไฟขบวนพิเศษสำหรับนั่งชมวิวค่ะ เพื่อมุ่งหน้าไปสู่เมืองบิเอ
รถไฟขบวนนำเที่ยวมาจอดรถอที่สถานีรถไฟ Furano แล้วค่ะ
นักท่องเที่ยวนั่งก็เต็มขบวนทุกตู้เลยนะค่ะ
รถไฟแต่ละตู้ก็มีสีสันแตกต่างกัน ดูน่ารักมุ้งมิ้งเชียวค่ะ
ดูโบกี้ตู้รถไฟคันนี้ เป็นรูปบาบีคิวค่ะ 
เข้ามาด้านในไม่มีที่นั่งแล้วค่ะ นักท่องเที่ยวนั่งกันเต็มเลยค่ะ ดิฉันเลยต้องหาที่ยืนหลบมุมไปอยู่ตรงเกือบชิดประตูเลยค่ะ นักท่องเที่ยวก็เดินเข้ามากันอย่างเนืองแน่ เสียงดังโช้งเช้งมากๆนะค่ะ
เข้ามาด้านในไม่มีที่นั่งแล้วค่ะ นักท่องเที่ยวนั่งกันเต็มเลยค่ะ ดิฉันเลยต้องหาที่ยืนหลบมุมไปอยู่ตรงเกือบชิดประตูเลยค่ะ นักท่องเที่ยวก็เดินเข้ามากันอย่างเนืองแน่ เสียงดังโช้งเช้งมากๆนะค่ะ
หลังจากขึ้นรถไฟขบวนนำเที่ยวพิเศษไม่นานรถไฟ รถไฟก็แล่นออกจากสถานีเมืองฟูราโน่ มุ่งตรงไปยังสถานีถัดไปคือ ชานชลารถไฟสถานี ลาเวนเดอร์ฟาร์มค่ะ ก็คือฟาร์มโทมิตะนั้นเองค่ะ
พอรถไฟมาถึงสถานีลาเวนเดอร์ (สถานี Farm Tomita) แล้วนะค่ะ จากเดิมที่นักท่องเที่ยวนั่งกันเต็มทุกที่นั่ง ตอนนี้ว่างทุกที่นั่ง จะเลือกนั่งตรงใหนก็ได้ค่ะ ไม่ต้องยืนแล้วค่ะ  เดี๊ยนขอเลือกนั่งริมหน้าต่างค่ะ เพื่อจะได้นั่งทานขนม ชิลๆ ชมวิวตลอดการเดินทางรถไฟไปเรื่อยเปื่อย ซึ่งจุดหมายปลายทางแหล่งท่องเที่ยวช่วงบ่ายนี้ ไปปั่นจักรยานออกกำลังกายขึ้นเนินเขา ชมทุ่งนาข้าวบาร์เลย์ที่เมืองบิเอะ(Biei City

 รถไฟนั่งชมวิวสุดน่ารักนี้ กำลังจะพาดิฉันไปเมืองบิเอะค่ะ ระยะทาง 60 กว่ากิโลเมตรค่ะ
พอที่นั่งวางบานที่นี้จะเหลือนั่งตรงไฟตรงใหนก็ได้ค่ะ สำหรับตัวดิฉันขอเลือกที่นั่งที่หันไปริมหน้าต่างค่ะ ถือเป็นที่นั่งยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวบางคน ต้องซื้อตั๋วจองที่นั่งไว้เลยนะค่ะ แต่สำหรับดิฉันไม่ต้องค่ะ รถไฟเที่ยวนี้ ใช้บัตร JR Pass ได้ค่ะ
 ระหว่างนั่งรถไฟออกจากสถานี lavender farm รถไฟก็ค่อยวิ่งไปอย่างช้าๆค่ะ นึกภาพเหมือนนั่งรถไฟไปเมืองกาญจนบุรี อะไรประมาณนั้นค่ะ แต่นี้ระยะทางสั้นกว่าค่ะ  โดยสองข้างทางก็จะเป็นฟาร์มไร่ข้าว ไร่นา ไร่ดอกไม้ของชาวบ้านในเมืองนี้ บรรยากาศสวยงาม อร่ามจับตาคณานับจริงค่ะ ท้องฟ้าแจ่มใสมีภูเขา สายลม และแสงแดดค่ะ นั่งชิลๆ รับลมชมวิวไปเรื่อยเปื่อยค่ะ ไม่ต้องคิดมากค่ะ
เนื่องจากช่วงที่รถไฟวิ่งมานั้นอยู่ในช่วงเที่ยวพอดีค่ะ รถไฟออกจากสถานี Furano เวลา 11.53 น. เป็นช่วงกลางวันพอดี หิวมากค่ะ ใหนก็อุตสาห์แวะซื้อขนมมาแล้ว ขอเอามากินเป็นอาหารเที่ยงเลยแล้วกันนะค่ะ
อาหารเที่ยวมื้อนี้ เดี๊ยนของดของคาวนะค่ะ เพราะใหนๆมื้อเช้าก็จัดขมม นมเนยมาเสียเต็มประดาแล้ว ยังไงก็ขอมาลั๊ลลาทานขนมตอนเที่ยงต่อเลยนะค่ะ อยากลิ้มลองจังว่ารสชาติจะอร่อยเริ่ดสะแมนแตนแค่ใหนค่ะ
มาลิ้มลองขนมชิ้นแรกก่อนเลยนะค่ะ ขนมชื่ออะไรไม่รู้ แต่เหลือชิ้นเดียว คงเป็นขนมที่ขายดีทีสุด พอได้ลิ้มลองแต่ลิ้น กลืนลงคอ แล้วต้องขอบอกค่ะว่า อร่อยเริ่ดจริงๆนะค่ะ สตอเบอรี่ก็ส๊ดสด แป้งนิ่มไม่หวานจนเกินไป ตกลงอันนี้ให้ผ่านค่ะ  ระหว่างทานขนมก็ดูวิวริมทางไป บรรยากาศลมพักเย๊น เย็น วิวก็สวยเริ่ดเว่อร์ค่ะ 
 ชิ้นแรกผ่านไปมาลิ้มลองชิ้นที่สองต่อค่ะ เค้กผลไม้รวม ชื่อขนมอะไรไม่รู้ แต่ดูมันน่าทานมาก เดี๊ยนเลยจัดขอมาลองอีกหนึ่งชิ้นค่ะ อันนี้อร่อยกว่าที่ทานอันแรกอีกค่ะ เนื้อครีมซอฟ นิ่มลิ้น มีผลไม้แก้เลี่ยนด้วย ทานแล้วสดชื่น หวานฉ่ำ อยากทานอีกจังเลยค่ะ
ทานขนมไป 2 ชิ้นแล้ว รู้สึกไม่ค่อยอิ่มเลยค่ะ อยากทานอีกนะค่ะ ก็เลยแก้การหิวด้วยการ แหกขนม Corn chocolate มาทานต่อให้อิ่มซ่ะเลยค่ะ 
ระหว่างทานขนมก็ดูวิวริมทางไป บรรยากาศลมพักเย๊น เย็น วิวก็สวยเริ่ดเว่อร์ค่ะ
 พอทานขนมอิ่ม จนเบาหวานขึ้นเต็มเส้นเลือดแล้วนะค่ะ ก็มาเดินโยกเยก ดูบรรยากาศบนรถไฟต่อค่ะ ที่นั่งวางบาน รถไฟก็ค่อยวิ่งและร้องเสียงปู๊นปูนไปเรื่อยค่ะ

จบตอนที่ 10 แล้วค่ะ สามารถไปดูภาพรีวิวตอนที่ 11 ต่อได้ค่ะ เดี๊ยนจะพาท่านไปปั่นจักรยานชมเมืองบิเอะค่ะ คลิ๊กดูรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ http://khunnaiver.blogspot.com/2017/08/Bieitravelreview.html

สำหรับทริปเที่ยวชมทุ่งดอกไม้งานที่เมืองฟูราโน่ช่วงเช้าในทริปนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้นะค่ะ ขอบพระคุณทุกๆท่านที่เสียสละเวลาคลิ๊กเข้ามาสไลด์เปิดดูภาพหรืออ่านกันค่ะ หากมีข้อผิดพลาดประการใด เดี๊ยนเองต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ และหวังว่าจะได้พบกันอีกในบล็อกถัดไปค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
จากคุณนายเว่อร์  เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
บล็อกเกอร์สมัครเล่น
---------------------------------------------------------------------------------
รวมบทความบล๊อกเที่ยวเดือนละ 1 ครั้ง มีดังนี้ (จะทยอยอัพเขียนเพิ่มเรื่อยๆ เว็ปบล็อกจะได้ไม่ร้างไปค่ะ)
แนะนำโรงแรมในเกาะฮอกไกโด แช่ออนเซ็น เห็นวิวสวยๆ คลิ๊กดูข้อมูลที่พัก>>
รวมเด็ดกับโรงแรมในฮอกไกโด นอนแช่น้ำพุร้อนออนเซ็น เห็นวิวสวยๆ อากาศดีๆ นอนสบายๆ สำหรับคู่รักและครอบครัว คลิ๊กดูข้อมูลที่พัก+เบอรโทรติดต่อค่ะ>>>
โรงแรมในเมืองฮาโกดาเตะ สุดน่ารัก แถมราคาถูกอีกด้วย คลิ๊กดูข้อมูลที่พักค่ะ>>
สุดน่ารัก 10 ที่พักฮาโกดาเตะ ราคาถูก ใกล้สถานีรถไฟJR นอนพักสบายๆในเมืองสวยโรแมนติค คลิ๊กดูข้อมูลที่พักค่ะ>>> 
หรือดูข้อมูลได้ที่เว็ปบล็อก : http://bit.ly/2EMob0W
รวมข้อมูลโรงแรมในเมืองซัปโปโร สำหรับครอบครัวนอนหลายๆคน คลิ๊กดูที่พักค่ะ>>
รวมเด็ด 12 โรงแรมในซัปโปโร เน้นสำหรับครอบครัวนอนหลายๆคน ใกล้สถานีรถไฟ JR ใกล้สวนโอโดริ คลิ๊กดูข้อมูลที่พักค่ะ>>
หรือดูข้อมูลได้ที่เว็ปบล็อก : http://bit.ly/2Ey10Z0
แนะนำโรงแรมในนาโกย่า ใกล้สถานีรถไฟ ราคาสุดประหยัด คลิ๊กดูข้อมูลที่พักค่ะ>>
รวมข้อมูลที่พักเมืองนาโกย่า เน้นใกล้สถานีรถไฟ ห้องราคาถูก สำหรับพักคู่และครอบครัว คลิ๊กดูรายชื่อที่พักค่ะ>>
แนะนำโรงแรมโตเกียวเปิดใหม่ปี 2108 สำหรับคู่รัก คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>>
แนะนำโรงแรมโตเกียวเปิดใหม่2018 วิวสวยๆ สำหรับคู่รักฮันนีมูน ราคาสุดประหยัด ใกล้สถานีรถไฟอีกด้วย คลิ๊กดูรายละเอียดที่พักค่ะ>>  
หรือดูข้อมูลได้ที่บล็อก : http://bit.ly/2L3Nivv 
แนะนำจ้า ที่พักเกียวโต ใกล้สถานีรถไฟ คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>>
คัดมา 15 ที่พักเกียวโต สไตล์เรียวกัง ราคาถูก ใกล้สถานีรถไฟ สำหรับคู่รักและครอบครัวค่ะ คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> 
แนะนำโรงแรมในซัปโปโร ห้องนอนคู่ดูโอ้ ใกล้สถานีรถไฟ คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>>
รวมที่พักซับโปโร ห้องพักนอนคู่ดูโอ้ ราคาถูก เน้นใกล้สถานีรถไฟ JR เดินลั๊ลลาได้ชิวเว่อร์ คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> 
บล็อกรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือนตุลาคม ไปตามรอยโครงการหลวง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวเชียงใหม่ในฤดูฝน งามสุขล้นตามรอยโครงการหลวง ชมพุ่มพวงดอกไม้งามเบิกบานใจ คลิ๊กดูรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
ที่พักเมืองโตเกียว เอาใจขาเที่ยวงบน้อยๆ คลิ๊กดูที่พักค่ะ>>
แนะนำโรงแรมในโตเกียว ราคาหลักร้อย ประหยัด ใกล้สถานีรถไฟ JR เดินทางได้ใกล้ๆค่ะ คลิ๊กดูรายละเอียดที่พักค่ะ>> 
 รีวิวเที่ยวประจำเดือน ก.ค.2560 เที่ยวญี่ปุ่นตอนจบ สรุปค่าใช้จ่าย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียวตอนที่ 15 (ตอนจบ) สิ้นสุดการเดินทางอันยาวไกล แวะไปซื้อของฝากเมืองโอซาก้า คลิ๊กดูรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 14 ไปชมภูเขาไฟฟูจิซัง นั่งดูวิวทะเลสาบคาวากูชิโก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบ็คแพ็คเที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ตอนที่ 14 นั่งรถไฟไปชมภูเขาไฟฟูจิซัง นั่งริมทะเลสาบคาวากูชิโกะ คลิ๊กดูรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 13 นอนค้างโตเกียว นั่งรถไฟไปเที่ยวคามากุระ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ตอนที่ 13 เที่ยวโตเกียวใน 1 วัน นั่งรถไฟสุขส้นต์ไปเมืองคามากุระ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
 10 ที่พักโอซาก้า ราคาถูกสุดๆ ใกล้สถานีรถไฟ JR คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>>
รวมที่พักโอซาก้าราคาถูกหลักร้อย ใกล้สถานีรถไฟ JR เดินไปได้ใกล้ๆ สะดวกสุดๆ คลิ๊กดูรายละเอียดที่พักค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 12  เดินชิลเมืองท่าเรือสุดแสนโรแมนติก ริมทะเล คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวแบกเป้เที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 12 แวะเดินชิลๆเมืองฮาโกดาเตะ สุดแสนโรแมนติก ชิคๆน่ารัก คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 11 ขี่จักรยานชมไร่นาเมืองบิเอะ สวยเป๊ะเว่อร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบ็คแพ็ครีวิวญี่ปุ่นญี่ปุ่น ตอนที่ 11 ขี่จักรยานชมทุ่งนาข้าวบาร์เลย์เมืองบิเอะตอนบ่าย งามพร่างพรายสวยเว่อร์ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
แบกเป้เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 9 เดินชิลชมเมืองซับโปโรครึ่งวัน คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>>
แบ็คแพ็ครีวิวเที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ตอนที่ 9 เดินชิลๆชมเมืองซับโปโร ไปเดินเฮโลที่คลองโอตารุ สวยทะลุสู่ยอดฟ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวแบกเป้เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 8 ชมศิลปะทุ่งนาข้าวผลิหลากสีสวยงาม คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ตอนที่ 8 แวะผ่านอาโอโมริ ไปชมศิลปะทุ่งนาข้าวผลิหลากสีที่ อินาคาดาเตะ งามเป๊ะเว่อร์ คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>

เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 7 รีวิวการเดินทางไปหลังคาญี่ปุ่นด้วยตัวเองมาฝาก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 7 รีวิววิธีการเดินทางไปเจแปนแอลป์ด้วยตัวเองมาฝาก ภูเขาสวยงามมาก กระชากใจเริ่ดเว่อร์ คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 6 เดินตลาดเช้าทาคายาม่า แวะดูทุ่งนาชิราคาวาโก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวแบ็คแพ็คเที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 6 เดินตลาดเช้าทาคายาม่า แวะไปชมทุ่งนาที่ชิราคาว่าโก สวยโอฬาร งามเริ่ดเว่อร์ คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 5 เดินดูเมืองเก่าคุราชิกิ ชมใบไม้ผลิสวยเริ่ด คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ตอนที่ 5 เดินลั๊ลลาดูเมืองเก่าสมัยเอโดะที่คุราชิกิ ชื่นชมใบไม้ผลิสีแดง แรงเริ่ดเว่อร์ คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 4 ตามรอยระเบิดเมืองฮิโรชิม่า ไปลั๊นลาเกาะมิยาจิมะ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวลุยเดี่ยวเที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ตอนที่ 4 ตามรอยระเบิดนิวเคลียร์เมืองฮิโรชิม่า นั่งรถไฟลั๊ลลาไปสะพานคินไตเคียว คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 3 ท่องเมืองฟูกุโอกะ ชมเทศกาลยามากาสะ งามเริ่ด คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ตอนที่ 3 เดินย่องท่องเมืองฟูกุโอกะ ชมเทศกาลยามากาสะในหน้าร้อน งามอรชรดีเริ่ด คลิ๊กดูบทความรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>>
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ตอนที่ 2 นั่งไฟออนซอนไปอบทรายร้อนที่อิบูชูกิ คลิ๊กดูค่ะ>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ตอนที่ 2 ลัดเลาะเนินเขาชมวิวคาโกชิม่า นั่งรถไฟลั๊ลลาไปอบทรายร้อนอิบูซูกิ คลิ๊กดูบทความรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ตอนที่ 1 นั่งรถไฟแมวทามะ แวะพักชมปราสาทสวย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ตอนที่ 1 นั่งรถไฟแมวเหมียวทามะสุดน่ารัก แวะเดินพักชมปราสาทวาคายามะ คลิ๊กดูบทความรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>>

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น