Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

รีวิวเที่ยวเชียงใหม่หน้าฝน ตอนที่ 2 นอนกางเต็นท์ที่บ้านป่าบงเปียง ฟังเสียงนกร้อง เดินย่องดูทุ่งนา สวยระย้าจับใจ


เที่ยวเชียงใหม่ฤดูฝน ตอนที่ 2 รีวิวเที่ยวบ้านป่าปงเปียง นอนชมเสียงฝนตก งามสะทกทุ่งนาขั้นบันใด และขอแนะนำที่พักในหมู่บ้านนี้ให้เลือกกันค่ะ
ขอสวีดัด สวัสดี๊ดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆผองชาวไทยที่งามวิไลและน่ารักสดใสเริ่ดสะแมนแตนกันทุกๆคนนะค่ะ ดิฉันคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน ขอมาเว้าวอน ทักทาย ออนซอน ต้อนรับท่านเข้าสู่เว็ปบล็อกแนะนำที่พัก รีวิวท่องเที่ยว เขียนจนโลกเบี้ยวไปเรื่อยเปื่อย บ้าๆบอๆ หาสาระดีไม่ค่อยจะมี ให้ท่านได้ฉิมพลีอ่านฆ่าเวลา จะได้เป็นคนบ้าเที่ยวด้วยกันค่ะ และอีกอย่างเดี๊ยนเองก็ได้มาเขียนบล็อกฆ่าเวลา หลังเลิกงานประจำไปด้วย เว็ปบล็อกจะได้ไปร้างไปค่ะ มีคนมาอ่านวันละ 1 คนก็แสนสุขล้นชื่นฤทัยแล้วค่ะ

โดยบทความในเว็ปบล็อกนี้ ดิฉันขอมารีวิวลุยเดียวเที่ยวเชียงใหม่ต่อจากตอนที่ 1 เลยนะค่ะ หลังจากตอนที่แล้ว ดิฉันได้พาทุกท่านแวะไปเที่ยวชมดอกไม้เมืองหนาว สีสวยงาม อร่ามจับตา ท่ามกลางฝนฟ้าที่โหมกระหน่ำลงมาสู่พื้นพสุธาอย่างไม่หยุด แต่เดี๊ยนเองก็ไม่ท้อค่ะ แม้ฝนจะตก ฟ้าจะถลม แผ่นดินจะทลาย ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเที่ยวแต่อย่างใดค่ะ เพราะกางร่มถ่ายรูปชิวๆ ชมวิวไปเรื่อยเปื่อย

ทริปรีวิวเที่ยวเชียงใหม่ช่วงฤดูฝน ตอนที่ 2 ไปนอนพักโฮมสเตย์ชมนาขั้นบันใดที่บ้านป่าปงเปียง และแวะไปกินน้ำโอเลี้ยงที่บ้านแม่กำปอง เส้นทางไกลพอสมควรค่ะ
 
แม้เสื้อผ้าจะเปียกปอนไปหมด แต่ก็สดชื่นและชุ่มฉ่ำบานใจไปหมดค่ะ แถมยังได้ภาพดอกไม้สวยๆ มาบันทึกลงไว้ในบล็อกไดอารี่เว็ปนี้ค่ะ ก็เขียนเสร็จไป 1 ตอนแล้วนะค่ะ...คุณผู้อ่านสามารถเข้าไปดูรีวิวตอนที่ 1 ได้ที่เว็ปไซต์นี้ https://goo.gl/cRS3EH

มาเขียนบล็อกรีวิวบ้าๆบอๆ ในตอนที่ 2 นี้ ดิฉันจะพาทุกท่านไปเที่ยวบ้านป่าปงเปียงค่ะ อีกหนึ่งหมู่บ้านท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีชื่อเสียงจากการทำนาขั้นบันใด บนหุบเขาเหลาดอยอันสูงชัน ที่ใครๆก็ต่างร่ำลือกันว่าสวยงามหยาดฟ้ามาลาดิน จนต้องบินถลาไปลั๊ลลาชมกันครั้งค่ะ แถมราคาที่พักก็ถูกมากๆด้วยนะค่ะ เพราะจ่ายค่าที่พักแค่หลักร้อย แต่ได้วิวหลักล้าน วิวสวยงามอลังการสะท้านโลกา ช่ะช่ะช่าหัวใจ และนาขั้นบันใดที่นี้ก็สวยงามวิไลไม่ต้องบินถลาไปไกลถึงเวียดนาม ซาปา บาหลี หรือเมืองจีนให้เมื่อยตู้มเลยค่ะ เพราะหากใครได้ไปมาก็ต้องบอกต่อเล่าขานกันปากต่อปากว่า ให้รีบเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเป้ ออกมาเฮ้โลเที่ยวนอนพักชมวิวทุ่งนา สูดอากาศบริสุทธิ์ และใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ในหมู่บ้านป่าเปียงแห่งนี้สักครั้งหนึ่ง รับรองว่าสวยงามตราตรึง ประทับซึ้งถึงทรวงใน งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนอย่างแน่นอนจ้า

ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวชมทุ่งนาขั้นบันใดงามวิไลเริ่ดสะแมนแตนในบ้านป่าปงเปียง มี 3 ฤดูดังนี้ค่ะ

1. เดือนกรกฎาคม ถึง เดือน สิงหาคม จะเป็นช่วงของการเพาะปลูกต้นกล้า ก็จะมีน้ำเซาะเกาะแซมไปทั่วทุ่งนา ยามอาทิตย์เปล่งแสงออร่ามาสะท้อนกับผิวน้ำ งดงามอลังการ เหมาะสำหรับนักถ่ายภาพขั้นเทพ ที่ต้องไปเสพกันให้ได้ แต่มิวายต้องเสี่ยงโชคดูฝนฟ้าอากาศให้ดีด้วยนะค่ะ

2.เดือนกันยาน ถึง เดือนตุลาคม จะเป็นช่วงต้นนาข้าวจะสีเขียวขจีเต็มท้องทุ่ง โดยช่วงเดือนตุลาคมข้าวเริ่มแตกหน่อออกรวง และเป็นช่วงที่ฝนฟ้าคึกคะนองที่สุด หากมาช่วงที่ฝน จะได้เห็นสายหมอกออกมาเย้าหยอกล้อเล่นสุขอุราช่ะช่ะช่าหัวใจ และเหมาะสำหรับคนที่รักการพักผ่อน รักการนอน รับรองว่าได้นอนพักเย็นสบายตลอดทั้งวันค่ะ

3.เดือนพฤศจิกายน จะเป็นช่วงที่นาข้าวหลายแห่งบนดายในหมู่บ้านป่าปงเปียง รวงข้าวจะสุกงอมเป็นสีเหลืองทอง อร่ามฉามฉ่องผุดผ่องเป็นยองใยไปทั่วผืนดอย งดงามหยดย้อยดั่งสร้อยสวรรค์ชั้นฟ้า ร่วงลงมาสู่ดิน หากใครที่ชอบบรรยากาศรวงข้าวสีทอง ต้องไม่พลาดแวะมาในเดือนนี้ แถมฝนฟ้าก็ไม่ค่อยมี เริ่มจรลีหนี เพราะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว
**ยังไงเพื่อความชัวร์และแน่นอน สอบถามช่วงฤดูกาลกับทางที่พักในบ้านป่าปงเปียงได้ค่ะ**

ส่วนวิธีการเดินทางสำหรับขาลุยมี 2 วิธีค่ะ 

1.สำหรับคนที่ไม่เอารถ แนะนำนั่งรถสองแถวสีเหลืองสายแม่แจ่มมาลงที่สามแยกตรง ที่ทำการน้ำตกห้วยทรายเหลือง-น้ำตกแม่ปานได้เลยค่ะ แต่รู้สึกว่ารถสองแถวสีเหลืองที่วิ่งจากเชียงใหม่มามีแค่มีกี่รอบเท่านั้นค่ะ เมื่อมาถึงสามแยกตรงทางลงน้ำตกให้โทรหาที่พัก เพื่อให้รถกระบะโฟร์วิลมารับค่ะ โดยเสียค่าใช้จ่ายเหมารถไปบ้านป่าปงเปียงเองค่ะ

2.ขับรถส่วนตัวมา ก็จะสะดวกหน่อยค่ะ อาจจะเช่ารถมอเตอร์ไซต์จากเชียงใหม่มา หรือว่าเช่ารถจากอำเภอจอมทองมาก็ได้ค่ะ หรือใครที่ไม่อยากขับมอเตอร์ไซต์ ก็ขับรถยนต์ส่วนตัว หรือเช่ามาจากเชียงใหม่ได้ค่ะ

จบจากทริปตามรอยโครงการหลวงเสร็จ  วันที่ 17 ต.ค. ช่วงตอนบ่ายๆ ดิฉันเลยขับแว๊นๆมอเตอร์ไซต์ตะลุยเดียวออกมาจากสถานีเกษตรหลวงดอยอินทนนท์ ขับแว๊นๆ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายไม่หยุดเพื่อมาเที่ยวพักผ่อนนอนค้างที่หมู่บ้านป่าปงเปียงแห่งนี้สักครั้งค่ะ โดยก่อนหน้าที่จะมาเที่ยวที่หมู่บ้านนี้ ก็ได้วางแผนเรื่องการจองที่พักไว้แล้วค่ะ แต่ก็เป็นการจองแบบกระชันชิดมากนะค่ะ

ตอนแรกกะจะนอนพักที่บ้านระเบียงนา แต่ที่พักเต็มค่ะ ทางบ้านระเบียงนาเลยส่ง ข้อมูลที่พักมาให้ดิฉันเพื่อจะได้ติดต่อเอง เดี๊ยนเลยเลือกมานอนพักแบบเต็นท์ดูค่ะ จะได้เปลี่ยนบรรยากาศการนอนที่พักแบบเดิมๆดูบ้างค่ะ

และเพื่อให้เว็ปบล็อกนี้เกิดประโยชน์และเป็นไกด์ไลน์นำทาง เดี๊ยนเลยตัดสินใจมาเขียนบล็อกแนะนำรีวิวการเดินทางไปบ้านป่าปงเปียง พร้อมแนะนำรายชื่อที่พัก โฮมสเตย์ในหมู่บ้านปงเปียง แห่งนี้ให้ท่านได้ลองนำไปเลือกพักกันค่ะ ข้อมูลอาจจะงงๆไปบ้างต้องขออภัยนะค่ะ เพราะเดี๊ยนเองก็เป็นคนงงๆ หากท่านเข้ามาอ่าน ยังไงต้องปรับจูนสมองนิดนึงค่ะ 555

ต่อจากรีวิวตอนที่ 1 https://goo.gl/cRS3EH....ดิฉันตะลุยเดี่ยวขับมอเตอร์ไซต์ออกจากโครงการหลวงดอยอินทนนท์มายังน้ำตกแม่ปาน เพื่อมานอนพักกางเต็นที่บ้านป่าปงเปียงค่ะ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งในช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ค่ะ

โดยระยะทางจากโครงการหลวงมา ขับมาอีก 20 กว่ากิโลเมตรค่ะ ตอนขับรถมอเตอร์ไซต์ต้องระมัดระวังมากค่ะ เพราะถนนลื่นสุดๆ อีกอย่างทางก็แคบด้วยค่ะ
ขับมาถึงก็เอารถมอเตอร์ไซต์ไปจอดไว้ที่ทำการน้ำตกห้วยทรายเหลืองด้านในค่ะ
ขอมารีวิวการเดินทางไปบ้านป่าปงเปียงมาฝาก สำหรับท่านที่ขับรถมา
หากขับรถมาทางทางหลวงจากดอยอินนทนท์ที่จะไปแม่แจ่ม เมื่อมาเจอป้ายน้ำตกแม่ปาน จะเจอสามแยกค่ะ จากนั้นให้เลี้ยวขวามา จะเป็นทางหลวงเล็กๆไปยังที่ทำการของน้ำตกค่ะ

แต่ถ้าท่านขับรถตรงไปไม่ได้เลี้ยวขวาลงน้ำตกนะค่ะ รับรองว่าท่านจะตะเลิดเปิดเปิงเป็นใยเพิง หลงทางขับรถลงดอยไปอ้อยสร้อยถึงอำเภอแม่แจ่มเป็นแน่แท้ ดังนั้นเจอป้ายน้ำตกแม่ปานให้เลี้ยวขวาหักพวกมาลัยเข้าถนนเล็กเส้นนี้เลยนะค่ะ

 อีกครั้งนะค่ะ สมมุติว่าไม่ได้สังเกตุป้ายแม่ปาน ขับเลยมาให้สังเกตุป้ายสีเขียว ที่เขียนว่าน้ำตกแม่ปาน และน้ำตกห้วยทรายเหลือง จะมีลูกศรีชี้ไปทางขวา ให้เลี้ยวขวาขับลงไปเลยค่ะ ระยะทางจากสามแยกไปยังที่ทำการน้ำตกประมาณ 4-5 กิโลเมตรได้ค่ะ
 เส้นทางจะเป็นถนนทางหลวงเล็กๆ มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งเต็มไปด้วยป่าเขา และมีความขรุขระลาดชันพอสมควรแต่พอขับไปได้ค่ะ
ระยะทางจากปากทางเข้ามาน่าจะสักประมาณ 3-4 กิโลได้กระมังค่ะเดาเอา ขับมาไม่นานก็ถึงหน่วยพิทักษ์ อน.2 ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์แล้วค่ะ 
สำหรับท่านใดที่ขับรถยนต์ รถเบนซ์ รถหรูหรามา ก็ให้ไปจอดไว้ที่จอดรถเป็นลานกว้างๆ อยู่ใกล้ๆกับ หากใครที่ขับมอเตอร์ไซตมา ก็เอาจอดใกล้กับที่ทำการจะมีที่ให้จอดไว้ค่ะ
 ไม่ต้องกลัวรถหายนะค่ะ แค่ล๊อคคอรถไว้ให้ดีๆค่ะ ไม่หายแน่นอนค่ะ ยกเว้นเสียแต่จะมีคนมายกใส่รถกระบะไป อันนั้นหายแน่นอน แต่ไม่ต้องห่วงกลางป่าแบบนี้ คนไม่มีใครทำอันตรายกับรถให้บอบช้ำค่ะ
พอมาถึงที่ทำการจากนั้นก็โทรติดต่อไปยังที่พัก ที่ท่านได้จองไว้ค่ะ เพื่อให้รถกระบะมารับ หากมาฤดูฝนแบบดิฉันแนะนำให้เหมารถกระบะไปจบค่ะ ราคาคันละ 700 บาท รวมทั้งขาไปและขากลับค่ะ โดยสามารถติดต่อกับทางที่พักได้เลยค่ะ

กรณีไม่อยากเหมารถไป ก็สามารถขับรถไปได้นะค่ะ แต่หากเป็นช่วงฤดูฝนน้ำหลากไหลไฟดับ ท่านต้องมั่นใจว่ารถแกร่งพอค่ะ เพราะเส้นทางโหดมากๆค่ะ ถนนลูกรังเป็นหลุมเป็นบ่อเยอะพอสมควร แนะนำหากขับรถมาต้องไปรถกระบะ ล้อสูงแบบยกล้อได้ยิ่งดีๆ รับรองว่าไปได้ค่ะ

เนื่องจากว่าเส้นทางจากน้ำตกห้วยทรายเหลือง-ไปยังบ้านป่าปงเปียงในช่วงหน้าฝน เส้นทางค่อนข้างลำบากมากๆ ทางที่พักเลยแนะนำให้ใช้บริการรถโฟว์วิลค่ะ หากขับมอเตอร์ไซต์มีหวังติดหล่มแน่ๆค่ะ ดิฉันเลยติดกับทางที่พักให้เอารถมารับดีกว่าค่ะ

- สำหรับค่าบริการรถเหมาไปบ้านป่าปงเปียงอยู่ที่ 700 บาททั้งขาไปและกลับค่ะ(หากมาเที่ยวกันหลายคนก็สามารถแชร์ค่ารถไปได้ค่ะ เพราะรถคิดแบบเหมาทั้งคน ไม่ได้คิดต่อคนค่ะ)

- แต่ถ้ามาเที่ยวช่วงที่ไม่ใช่ฤดูฝน เส้นทางก็จะพอขับไปได้ค่ะ แต่ถ้าหน้าฝนตกกระหน่ำแบบนี้ตามภาพ เดี๊ยนว่าไม่ไหวแน่นอนค่ะ แนะนำให้ใช้บริการรถของทางหมู่บ้านโดยสารเข้าไปดีกว่าค่ะเพราะดูท่าแล้ว เส้นทางน่าจะทรหดอดทน ข้นแค้นน่าดูนะค่ะ เพราะที่อ่านๆข้อมูลมา เห็นบอกว่าถ้ารถไม่อึดหรือทึกจริงๆไปไม่รอดค่ะ มีติดหล่มกลางถนนลูกรังแน่นอนค่ะ
 ระหว่างทางนั่งรถไปยังที่พักในบ้านป่าปงเปียงในช่วงฤดูฝน จะเป็นเส้นทางถนนลูกรัง ดูเส้นทางแล้วโหดจริงๆค่ะ แค่นั่งรถคุยกับคนขับก็โยกกันไป โยกกันมา ลำใส้ทำงานดี๊ดีค่ะ บรรยากาศเนี่ยฟินสุดๆเลยนะค่ะ
skdนั่งรถกระบะขับรถมาไม่นาน ระยะทางน่าจะประมาณสัก 6-7 กิโลเมตรได้ค่ะ ก็ถึงบ้านป่าปงเปียงแล้วค่ะ  สวยงามสมคำล่ำลือและชุ่มชื่นคร่ำครือไปด้วยสายฝนโปรยปรายค่ะ
 ----------------------------------------------------------------------------------------


บรรยากาศภายในที่ทำการอุทยานน้ำตกห้วยทรายเหลือจะมีน้ำตกห้วยทรายเหลืองค่ะ
ขับมาก็จะมีป้ายบอกทางค่ะไม่ต้องกลัวหลงนะค่ะ ขับตรงไปยังที่ทำการใกล้ๆค่ะ
ดิฉันมารอรถริมศาลาหน้าที่ทำการค่ะ แต่ดูท่าจะนาน ระหว่างนั้นเลยเดินไปชมน้ำตกดีกว่าค่ะ เห็นได้ยินเสียงน้ำตกดังครึครืนอยู่แต่ไกลๆ น้ำตกน่าจะไหลเยอะน่าดูค่ะ
ระหว่างที่รอรถกระบะมารับ ดิฉันเลยเดินเข้าไปชมน้ำตกทรายเหลือซึ่งอยู่ใกล้ๆ เดินไปได้ไม่ไกลค่ะ บรรยากาศสองข้างทางก็เต็มไปด้วยป่าไม้เขียวชะอุ่ม ชุ่มชื่นเบิกบานใจยิ่งนัก อากาศก็ดี๊ดีเสียเหลือเกินค่ะ
ระยะทางจากปากทางเดินเข้ามาไม่ไกลประมาณ 50 เมตรก็ถึงแล้วค่ะ
น้ำตกสวยมากๆ น้ำไหลแรงสุด แค่เดินเข้าไปใกล้ๆ ละอองของน้ำก็กระเด็นกระดอน กระเจือกกระจ่อน ทำให้เสื้อผ้าเปียกปอนของเดี๊ยนเปียกปอนไปหมดเลยค่ะ
ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับน้ำตกห้วยทรายเหลือง

เป็นน้ำตกสูงประมาณ 60 เมตร มีต้นกำเนิดมาจากยอดยอดกิ่วแม่ปาน ลำห้วยมีน้ำใสและไหลตลอดปี สภาพป่าโดยรอบเป็นป่าดิบเขาผสมไม้สน มีทั้งสนสองใบ  Pinus Merkusii และสนสามใบ Pinus Kesiya โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนินีนาถ เสด็จทอดพระเนตรน้ำตกแห่งนี้เมื่อปี 2528


จากนั้นไม่นานนัก ก็มีโทรศัพท์กริ๊งกร๊าง จากคนขับโทรเข้ามา ดิฉันก็เลยต้องรีบเดินออกจากน้ำตกแห่งนี้ เพื่อรีบจรลีไปขึ้นรถกระบะที่กำลังรอรับอยู่ตรงที่ทำการน้ำตกค่ะ

เผอิญช่วงขาไปโชคดีมีนักท่องเที่ยวแวะมาพักที่บ้านป่าปงเปียงนี้อีกคน ดิฉันเลยมีคนช่วยแชร์ค่าโดยสารเหมารถไปค่ะ  ค่าเหมารถ 700 บาท ถ้ามาหลายคนก็จะประหยัด แต่ดิฉันมาคนเดียว รอบขาไปจ่าย 175 บาทค่ะ ส่วนขากลับมานั้นเหมารถกระบะ จ่ายคนเดียวค่ะ 350 บาท รวม 700 บาทค่ะ
ดูเส้นทางระหว่างไปบ้านป่าปงเปียงแล้ว เดี๊ยนเพลียจริงๆค่ะ เพราะเส้นทางนี้โหดจริงๆค่ะ เต็มไปด้วยโคลนลึกมากๆค่ะ เวลานั่งในรถเนี่ย ลำใส้โยคย้ายส่ายสะบัดดีเหลือเกินค่ะ เพราะเอนไปเอนมา บางครั้งเดี๊ยนก็รู้สึกเสียวสันหลัง กลัวรถจะตกไหล่ทาง ไถล่ลงเขาไปค่ะ เห็นภูเขาแล้วสูงชันเหลือเกินค่ะ

นั่งรถมาไม่นาน ระยะทางน่าจะสักประมาณ 6-7 กิโลได้ค่ะ คนขับรถก็มาส่งดิฉันถึงที่พักเลยค่ะ บอกให้เดินขึ้นตามเนิ่นไปอีกนิดหน่อย 

บ้านป่าปงเปียง บรรยากาศดีมากๆเลยนะค่ะ มีทุ่งนาขั้นบันใดงามวิไลเริ่ดสะแมนแตนสมค่ำล่ำลือค่ะ ท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปรายและเปอะแปะอยู่ตลอดค่ะ
ตอนแรกจะพักที่บ้านระเบียงนา แต่บ้านระเบียงนาเต็มค่ะ ดิฉันเลยเลือกมานอนพักเต็นท์แล้วกันค่ะ
โดยทางคนขับรถมาส่งดิฉันถึงที่พักเลยค่ะ โดยที่พักคืนนี้มานอนเต็นท์ของคนในหมู่บ้านนี้ค่ะ ราคาเต็นท์ละ 400 บาท รวมอาหารเช้าและเย็นให้ค่ะ  

ข้อแนะนำการเตรียมตัวมาพักโฮมสเตย์ที่บ้านป่าปงเปียง เพื่อชมวิวทุ่งนาและอากาศที่สดชื่สุขอุรายิ่งนัก

- ที่พักไม่มีผ้าขนหนูให้นะค่ะ ยังไงเตรียมมาด้วย
- ที่พักไม่มีสบู แชมพู ครีมนวด ให้นะค่ะ ยังไงเตรียมมาด้วยค่ะ
- ที่พักไม่มีพัดลมหรือแอร์ให้นะค่ะ แต่ไม่ต้องเตรียมมาค่ะ เพราะอากาศดีมากค่ะ
- ที่พักไม่มีไฟฟ้าให้นะค่ะ มีแต่สายจากดวงจันทร์กรณีฟ้าเปิด พกไฟฉายมาด้วยก็ดี หากเอาโทรศัพท์มือถือมา พก Power bank มาด้วยค่ะ  
- มาพักที่นี้มีสัญญาณอินเตอร์อยู่นะค่ะ
- หากมาหน้าฝน พกร่ม เสื้อกันฝนมาด้วยค่ะ
- พกรองเท้าแตะมาด้วยค่ะ 
และสักพักทางเจ้าของที่พักก็ออกมาต้อนรับ พร้อมนำปิ่นโตอาหารพร้อมเทียน และไฟนีออนแบบหมุนมาให้ค่ะ เนื่องจากที่พักในหมู่บ้านนี้ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปาเข้าถึงค่ะ ดังนั้นทุกอย่างจะต้องอยู่แบบธรรมชาติที่สุดค่ะ การนอนพักคืนนี้เลยเน้นนอนพักชมธรรมชาติค่ะ
อาหารเย็นมื้อนี้เป็นอาหารใส่ปิ่นโตมาให้ทานค่ะ ดูเข้ากันดี๊ดีกับบรรยากาศในท้องไร้ท้องนาค่ะ
แถมมีเทียนมาให้จุดทานชมบรรยากาศกันด้วยนะค่ะ

ส่วนห้องน้ำก็อยู่ไม่ไกลจากเต็นที่พักมากนัก แต่ก็เล่นเอาเมื่อยขาเหมือนกันค่ะ เพราะต้องลงเนินไปอีกสักหน่อยค่ะ ใครปวดฉี่บ่อยคงเดินขาลากค่ะ โดยต้องจะเดินลงไปห้องน้ำห้องท่าก็ต้องระวังนะค่ะ เพราะจะหัวขมัมเอาค่ะ บันใดก็เป็นบันใดดินค่ะ เวลาจะเดินเนี่ยนะค่ะ เดี๊ยนต้องเดินเอียงเฉียงๆสักหน่อยค่ะ เดินแบบนางงามลงจากเวทีอะไรประมาณนั้นค่ะ เพราะทางเดินค่อนข้างชันและแคบมาก ถือว่ามาเปลี่ยนรับบรรยากาศใหม่ งามวิไลเริ่ดเว่อร์ค่ะ

หากเป็นตอนกลางคืน ต้องใช้ไฟฉายส่องดีๆนะค่ะ เพราะจะมีกบ มีเขียด ออกมากระโดดโลดแล่น ให้กรี๊ดกราดกันอย่างสนุกสนานค่ะ เดี๊ยนชอบตรงห้องน้ำเนี่ยแหละค่ะ  โดยในห้องน้ำก็แยกเป็นห้องอาบน้ำ ส่วนห้องส้วมก็เป็นแบบส้วมซึมแบบนั่งยองๆ อาจจะเมื่อยขาหน่อย แต่สีทนได้ค่ะไม่ต้องคิดอะไรมาก ใช้ชีวิตเรียบง่าย ผ่อนคลายสบายเริ่ดเว่อร์ค่ะ
อาหารมื้อเย็นที่ทางเต็นท์ที่พักจัดให้ มียำปลากระป๋อง  หมูผัดถั่วฝักยาว และข้าวสวยกำลังร้อนๆค่ะ หากใครจะสั่งหูฉลาม หรืออาหารหรูระดับภัตตาคาร 5 ดาวไม่มีนะค่ะ ที่นี้มีแต่ภัตตาคารอาหารบ้านทุ่งจ้า เน้นแบบง่ายๆ
เอาล่ะค่ะหลังจากไม่นานนักนะค่ะ เวลาประมาณ 6 โมงเย็น ก็เข้าสู่เวลาพลบค่ำ ได้เวลาทานอาหารค่ำแล้วค่ะ ไม่มีแสงไฟนีออนนะค่ะ มื้อนี้ต้องกินข้าวใต้แสงเทียนค่ะ บรรยากาศก็หนาวเย็นดีเหลือเกิน ฝนก็ตกไม่หยุดสักกะที เย็นฤดีชื่นฤทัย งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนเสียจริงๆค่ะ
ทานข้าวอิ่มแล้ว ดิฉันก็กระโจมอกเดินไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำ ต้องถือไฟฉายไปส่องทางด้วยนะค่ะ เดียวเจองู เจอสิงห์ เจอกระทิง เจอแรด จะได้หนีได้ทันค่ะ
หลังจากอาบน้ำท่ามกลางธรรมชาติเสร็จเรียบร้อย ดิฉันก็เข้านอนแต่หัวค่ำเลยค่ะ หลังจากที่ขับมอเตอร์ไซต์ตะแล๊ดแต๊ดแต๋มาทั้งวันค่ะ
-------------------------------------------------------------------------------------------
เช้าตรู่ของวันถัดมา ทริปวันที่ 2 ของเดือนตุลาคม 2560
เช้าตรู่ของวันถัดมา ดิฉันตื่นแต่เช้าตรู่เลยค่ะ อากาศหนาวดี๊ดีค่ะ รูดม่านเต็นท์เปิดออกมา ก็เห็นแต่สายหมอกลอยฟุ้ง กระจุงกระจาย ยังไม่สลายตัวไปใหนเลยค่ะ มองไปทางใหนก็ขาวโพลนไปหมดค่ะ แทบจะมองไม่เห็นวิวทุ่งนาสีเขียว  และก็ไร้วี่แววของแสงอสุรีย์ที่จะฉายส่องลงมา เพราะพระพิรุณได้ปิดม่านเฆมฟ้าแล้วเทสายน้ำฝนลงมากระหน่ำฉ่ำฉายิ่งนักเชียว
 เสียงฝนตก เปาะแปะเปาะแปะ อากาศตอนบรรยากาศตอนเช้าดูเหงาหงอย น่านอนต่อจริงๆค่ะ แต่เดี๊ยนเองคงนอนต่อไม่ไหวแล้วค่ะ ดูเข็มนาฬิกาจะปาไป 7 โมงเช้าแล้วค่ะ ก็เลยรีบจรลีไปล้างหน้าแปรงฟัน กะว่าจะอาบน้ำด้วย
 ไม่นานนัก ประมาณ 7 โมงครึ่งเป๊ะ ทางที่พักก็เอาปินโตอาหารมาให้ค่ะ มื้อเช้านี้ต่างจากมื้อเย็นค่ะ
โดยอาหารเช้าที่พักแห่งนี้ มีปลาย่าง มีข้าวสวยๆร้อนเลยนะค่ะ มีผัก และน้ำพริกมาให้ค่ะ น่าจะเป็นน้ำพริกปลาย่างกระมังค่ะ กลิ่นหอมโชยเต๊ะจมูกน่าทานเชียวค่ะ
 เวลาจะทานให้ได้อารมณ์ฟินๆ กินบรรยากาศวิวทุ่งนา ก็ต้องใช้มือเปิดทาน จิ้มกับผักอร่อยเริ่ดสะแมนแตนเชียวค่ะ น้ำพริกปลาก็เค็มกำลังดี ทานคู่กับข้าวสวยร้อน รสชาติอรชรยิ่งนัก
 ระหว่างทานข้าวไปก็นั่งดูวิวไป ฟินเว่อร์ อากาศก็เย็นดี๊ดี ไม่หนาวค่ะ ไม่อบอ้าวเลยค่ะ ตอนแรกรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยว่ามาฟ้าจะเปิดเห็นพระอาทิตย์ทอแสงเรไร แต่คิดมาคิดมาฝนตกไฉไลแบบนี้ก็ดีเหมือนกันค่ะ เพราะได้อีกบรรยากาศค่ะ แถมชุ่มฉ่ำเชียวค่ะ
ดูท่าท่างเช้านี้ ฝนฟ้าจะไม่สต๊อปแอนด์สตู๊ดแล้วคะ เพราะตกโปรยลงมาเรื่อยๆ ตกหนักบ้าง เบาบ้างๆ ฝนตก
หลังจากทานข้าวอิ่มแล้ว ได้เวลาไปเดินย่อยอาหารแล้วค่ะ เดี๊ยนเลยต้องเดินกางร่มถ่ายรูป เหมือนกับเคสเมื่อวานนี้ ตอนที่อยู่ในโครงการหลวงเลยค่ะ 
ระหว่างเดินไปก็ต้องรอจังหวะสายหมอกสีขาว ค่อยๆล่อยเคว้งไปก่อนค่ะ ถึงจะเห็นวิวทุ่งนาขั้นบันใดนะค่ะ
 อากาศตอนเช้าดีเหลือเกินค่ะ เต็มไปด้วยสายหมอกสีขาวปกคลุมหุบเขาเหลาดอยแห่งนี้จะคระครึ้มไปหมดค่ะ
 ระหว่างเดินลงไปชมทุ่งนาขั้นบันใดก็ต้องระมัดระวังเหยียบต้นข้าวที่เค้าเกี่ยวแล้วเสียหายนะค่ะ
 เดินมาที่กระท่อมบนดอยแห่งนี้ดูเงียบเหงาหงอย
 ฝนก็ยังตกเปอะแปะไม่ยอมหยุดเลยค่ะ
 มองไปทางใหนก็มีแต่เมฆหมอกสีขาวคละคลุ้งปกคลุมไปทั่วค่ะ จะรอจังหวะให้หมอกลอยไป ก็ช่างนานเหลือเกินค่ะ
 มองไปอีกฝากจากที่ดิฉันยืนอยู่ก็จะเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ใครก็ต้องมาถ่ายกันค่ะ
 เดินมาเริ่มเมื่อยขาแล้วค่ะ ขอมาพักเอาแรงที่กระท่อมปลายนาบนดอยแห่งนี้ ดูสภาพผ่านฟ้าฝนและลมพายุมาอย่างโชกโชนนะคะ เพราะเอนเอียงไปตามสภาพ
 ขึ้นมาพักบนกระท่อมแห่งนี้เพื่อหลบสายฝน ก็กลัวเหลือเกินว่าน้ำหนักตัวของเดี๊ยนจะทำให้กระท่อมบนดอยแห่งนี้ถล่มพังลงมา เพราะสภาพมันเอนเอียง แต่ดูสภาพไม้ที่ใช้สร้างกระท่อมนี้แล้ว น่าจะต้านทานแรงลมได้ดีทีเดียวค่ะ
 บนกระท่อมก็มีเตาและเครื่องครัวที่ไม่ได้ผ่านการใช้งานมานาแล้ว วางอึงทึงอยู่ค่ะ
 มองไปทางใหนก็เขียวขจี ฉวีผ่องดีเหลือเกินนะค่ะ ถ้าแดดออกทอแสงเรไร คงงามวิไลน่าดูค่ะ แต่อากาศแบบนี้ก็ดีเหมือนกันค่ะเพราะเย็นสบายดี ชุ่มฉ่ำไปหมดทั้งตัว เหลือแต่หัวใจที่ยังไม่มีใครมาจองค่ะ
 หลังจากที่สายฝนเริ่มจะค่อยซาลงแล้ว เดี๊ยนก็เดินออกจากกระท่อมไปถ่ายรูปยังมุมอื่นๆค่ะ
 เดินผ่านดอกไม้ป่าริมนาข้าว สวยสกาวแพรวพราวกลีบเหลืองออน กำลังชุ่มฉ่ำไปด้วยหยดน้ำจากฟากฟ้า ดูแล้วเย็นซ่าสุขอุรายิ่งนักเชียวค่ะ
 มีมดตัวน้อยกระจ๊อยร๊อย กะจิ๊ดริดเดินต๊วมเตี๊ยมเกาะติดบนดอกไม้ ไม่ยอมจรลี หนีไปใหน คงจะมารอดูดน้ำหวานจากกลีบดอกไม้นี้เสียกระมังค่ะ

สำหรับนักเดินทางท่านใด ที่จะวางแผนมาเที่ยวพักผ่อนชมทุ่งนาขั้นบันใด แต่ไม่รู้จะไปพักที่ใหนดี ดิฉันเลยขอมาแนะนำรายชื่อที่พัก โฮมสเตย์ในบ้านป่าปงเปียง ให้ท่านได้เลือกพักดังนี้ค่ะ

-เผื่อว่าใครจะเดินทางมาเที่ยวบ้านป่าปงเปียง จะได้นำไปเลือกเพื่อประกอบการจอง และอีกอย่างจะได้ช่วยชาวบ้านที่นี้ให้มีรายได้จากการประกอบการที่พักและบริการเรื่องท่องเที่ยว ทำให้ชุมชนมีรายได้ไม่ต้องออกไปทำงานไกลยังต่างถิ่นค่ะ ูลองไปเลือกกันดูนะค่ะ
ขอแนะนำโฮมสเตย์ที่พักในบ้านป่าปงเปียง มีดังนี้ค่ะ 
- ที่พักคุณสมบัติ  บ้านระเบียงนา 080-7946883
- ที่พักคุณศรชัย 093-9722575
- ที่พักคุณวินี 063-1983744
- ที่พักคุณน้ำพุ 093-2206128
- ที่พักคุณโอ๊ค 088-4061851
- ที่พักคุณสาโรช กระท่อมดาวบนดอย 091-7673998
- ที่พักคุณวีรศักดิ์ 093-0742686
-บ้านพักม่อนนา 087-175-4461
-บ้านพักมาฉิโพ่ 081-0201691
-บ้านพักรีวิว 099-6135900- (ที่พักแบบเต็นท์) คุณกัญญา 097-1714112
**ลองนำไปเลือกพักดูนะค่ะ

โฮมสเตย์ ที่พักบ้านระเบียงนา ป่าปงเปียง ติดต่อคุณสมบัติ เบอร์โทร 080-7946883

 โฮมสเตย์ที่พักกระท่อมดาวบนดอย คุณสาโรช โทร
 เป็นกระท่อมอยู่กลางทุ่งนา บรรยากาศและวิวสวยดีค่ะ 
 มีดอกไม้เมืองหนาววางอยู่ริมระเบียงให้ถ่ายรูปกันด้วยค่ะ
 ดอกไม้เมืองหนาวที่ใส่ในตะกร้า สีสันก็สวยซ่าบซ่าชื่นใจ งามวิไลดีเสียจริงค่ะ
 มีน้องหมาตามดิฉันขึ้นมาที่กระท่อมบนดอยแห่งนี้ด้วยค่ะ
น้องหมาในหมู่บ้านป่าปงเปียง เดินอยู่ริมทางถนน เดี๊ยนให้น้องหมาเป็นดาราในกล้องเลยค่ะ เพราะมันเดินตามเดี๊ยนไปตลอดทางเลยค่ะ 
 น้องหมาแวะเดินตามเดี๊ยนมาขึ้นในบ้านกระท่อมบนดอย มันนั่งอ้อยสร้อยมองวิวทุ่งนา เป็นดาราประจำกล้องไปเลยค่ะ


ส่วนบ้านพักโฮมสเตย์หลังนี้ น่าจะรองรับครอบครัวได้เยอะ ที่เดี๊ยนเองก็เดินไปไม่ถึงค่ะ 
 ที่พักโฮมสเตย์บ้านมาฉิโพ ทีฉี่เชอ เบอร์โทร 081-0201691
 ที่พักบ้านม่อนนา เบอร์โทร 087-1754461
 มีดอกไม้บนดอยสีเหลืองกำลังผลิดอกออกบางสะพรั่งเลยค่ะ
บ้านพักรีวิว เบอร์โทร 099-6135900
โฮมสเตย์บ้านน้องน้ำพุ โทร 093-2206128

ที่พักโฮมสเตย์คุณวีรศักดิ์ เบอร์โทร 093-0742686
 บรรยากาศทุ่งนาข้าวสีเขียวในบ้านป่าปงเปียง ช่วงที่ฝนหยุดตกแล้วค่ะ
 สายหมอกเริ่มทะยอยลอยจางหายไปแล้วค่ะ
 แต่น้ำในคันนายังไหลซัดซวนเซและเรรวลไม่ยอมหยุดค่ะ
 ที่พักแบบเต็นท์ คุณกัญญา 097-1714112
ได้ลิ้มลองรสชาติข้าวสวยร้อนๆจากโฮมสเตย์ที่พักเมื่อเช้านี้แล้ว 
รสชาติข้าวหอมอร่อยมากๆค่ะ ข้าวเป็นเม็ดเล็กๆนิ่มและไม่แข็ง ทานไปแล้วอร่อยถูกปากเดี๊ยนมากค่ะ 
 บรรยากาศช่วงที่ฝนหยุดตก หมอกเริ่มเจือจาง เห็นวิวทิวทัศน์ของหุบเขาเหลาดอยอีกฝั่งอย่างชัดเจนค่ะ
แต่ท้องฟ้าก็ยังครึ้มอยู่เพียงแต่ว่าฝนหยุดตกแล้วเท่านั้นเอง
เดี๊ยนเดินถ่ายรูปชิวๆไปเรื่อยเปื่อยค่ะ แต่ที่สะดุดและชอบสุดคงจะเป็นหยดน้ำค้างบนต้นข้าว ที่ค้างติ่งอยู่ไม่ ดูสดชื่นดีจริงๆค่ะ
เดี๊ยนใช้เวลากับการผ่อนคลาย เดินชมวิวนาขั้นบันใดในหมู่บ้านแห่งนี้อยู่เสียนาน ดูเข็มนาฬิกาในข้อมือก็ใกล้ได้เวลาเดินทางแล้วค่ะ แหม๊!! เวลาช่างผ่านไปเร็วเสียจริงๆค่ะ ได้เวลาเดินทางออกจากหมู่บ้านนี้แล้วค่ะ

ใจจริงอยากจะนอนพักค้างอีกสักคืน แต่ด้วยเวลามีจำกัดจริงค่ะ รอบหน้าฟ้าใหม่คงได้มีโอกาสปิ๊คมาเยือน นอนเป็นเพื่อนคู่ทุ่งนาที่นี้อีกครั้งค่ะ

ถนนในหมู่บ้านแห่งนี้ก็เป็นถนนลูกรัง เส้นทางธรรมชาติ ดินสีส้มแสดงว่าแร่ธาตุดินดีค่ะ
ไม่นานนักดิฉันก็เดินกลับที่พัก แพ็คเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเป้ และโทรให้ทางที่พักนำรถโฟรวิวสี่ล้อมารับถึงหน้าที่พักค่ะ
 ระยะทางระหว่างกลับดูท่าจะหนักกว่าเดิมค่ะ เพราะเต็มไปด้วยโคลนเต็มและน้ำที่ท่วมขังถนน จากฝนที่ตกหนักเมื่อคืนนี้ค่ะ
นั่งรถโยกเยกไปอยู่บนรถกระบะไม่นานนักก็ คนขับรถก็ส่งเดี๊ยนที่ทำการน้ำตก เป็นอันจบทริปที่บ้านป่าปงเปียงค่ะ ถือเป็นอีกหนึ่งบรรยากาศของการมานอนพักผ่อนโฮมสเตย์แบบเต็นท์ หลังจากที่ไม่ได้พักมานาน ถึงแม้ฝนฟ้าจะตกและหมอกสีขาวคละคลุ้งไปทั่ว แต่บรรยากาศก็สวยงามระรัวไปอีกแบบค่ะ และอีกอย่างอากาศเย็นดีเหลือเกินค่ะ โอกาศหน้าฟ้าใหม่คงได้มีโอกาสแวะกลับไปเยือน เพื่อชมดาวและเดือนในหมู่บ้านนี้อีกครั้งอย่างแน่นอนค่ะ

โดยรีวิวต่อไปดิฉันจะพาทุกท่านไป รีวิวเที่ยวบ้านแม่กำปองกันค่ะ หมู่บ้านที่ใครๆต้องก็ต้องแวะไปเที่ยวไปนอนพักผ่อนกัน ใหนๆมาเชียงใหม่ทั้งที เดี๊ยนก็ไม่พลาดขอมาเจิมเที่ยวหมู่บ้านแม่กำปองแห่งนี้สักครั้งค่ะ สำหรับบทความในรีวิวเที่ยวเชียงใหม่ตอนที่ 2 ขอจบเพียงเท่านี้ค่ะ ไว้พบกันใหม่ในรีวิวบทความถัดไปค่ะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆท่านที่แวะเวียนคลิ๊กเข้ามาอ่านและเปิดดูภาพกัน หากข้อมูลดังกล่าวมีข้อผิดพลาดยังไงเดี๊ยนต้องขออภัยด้วยนะค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
บล็อกเกอร์สมัครเล่น
------------------------------------------------------------------
รีวิวเที่ยวประจำเดือนพฤศจิกายน แบกเป้ไปล่องท่องเมืองปาย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวเมืองปาย สไตล์ชิคๆ แวะกุ๊กกิ๊กถนนคนเดิน เช่ามอเตอร์ไซต์ขับเพลินๆ ดีเลิศสะแมนแตน คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวปางอุ๋ง-บ้านรักไทย งามวิไลไร่ชา เดินลั๊ลลากินสตอเบอรี่ คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>>
รีวิวเที่ยวแม่ฮ่องสอนตอนที่ 2 ขับมอเตอร์ไซต์ไปออนซอนที่บ้านรักไทย งามวิไลปางอุ๋ง สวยจูงเบย คลิ๊กดูรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
บล็อกรีวิวเที่ยวแม่กำปอง ต้องลองมาสักครั้ง อากาศดีปังเว่อร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>
รีวิวเที่ยวเชียงใหม่ฤดูฝน ตอนที่ 3 ทำไมใครๆก็หลงไหลในแม่กำปอง เลยต้องลองไปพักสักครั้ง คลิ๊กดูรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>>

บล็อกรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือนตุลาคม ไปตามรอยโครงการหลวง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวเชียงใหม่ในฤดูฝนตอนที่ 1 สวยสุขล้นตามรอยโครงการหลวง ชมพุ่มพวงดอกไม้งามเบิกบานใจ คลิ๊กดูรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวท่องเที่ยวเดือนกันยายน ลุยเดี่ยวเช่ามอเตอร์ไซต์ขับไปเขาใหญ่ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวเขาใหญ่ในฤดูฝน เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับไปชมน้ำตก เดินป่าดูนกในดงพนาไพร งามวิไลเลิศเว่อร์ คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
วางแผนแบกเป้ไปเที่ยวต่างประเทศ ต้องคำนึงถึงอะไรบ้างนะ คลิ๊กดูบทความค่ะ>>
จะวางแผนแบกเป้ไปเที่ยวต่างประเทศ ต้องคำนึงถึงอะไรบ้างนะ มีสาระดีๆมาให้อ่านค่ะ คลิ๊กดูบทความค่ะ>>
รีวิวท่องเที่ยวเดือน สิงหาคม 2560 รีวิวเที่ยวเมืองเก่าอยุธยา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวอยุธยาครึ่งวัน ขี่จักรยานสุขสันต์ตามโบราณสถาน ย้อนวันวานภูมิหลัง งามอลังการชนะเลิศเว่อร์ คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
ที่พักเมืองโตเกียว เอาใจขาเที่ยวงบน้อยๆ คลิ๊กดูที่พักค่ะ>>
แนะนำโรงแรมในโตเกียว ราคาหลักร้อย ประหยัด ใกล้สถานีรถไฟ JR เดินทางได้ใกล้ๆค่ะ คลิ๊กดูรายละเอียดที่พักค่ะ>>
 รีวิวเที่ยวประจำเดือน ก.ค.2560 เที่ยวญี่ปุ่นตอนจบ สรุปค่าใช้จ่าย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียวตอนที่ 15 (ตอนจบ) สิ้นสุดการเดินทางอันยาวไกล แวะไปซื้อของฝากเมืองโอซาก้า คลิ๊กดูรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 14 ไปชมภูเขาไฟฟูจิซัง นั่งดูวิวทะเลสาบคาวากูชิโก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบ็คแพ็คเที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ตอนที่ 14 นั่งรถไฟไปชมภูเขาไฟฟูจิซัง นั่งริมทะเลสาบคาวากูชิโกะ คลิ๊กดูรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 13 นอนค้างโตเกียว นั่งรถไฟไปเที่ยวคามากุระ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ตอนที่ 13 เที่ยวโตเกียวใน 1 วัน นั่งรถไฟสุขส้นต์ไปเมืองคามากุระ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 12  เดินชิลเมืองท่าเรือสุดแสนโรแมนติก ริมทะเล คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวแบกเป้เที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 12 แวะเดินชิลๆเมืองฮาโกดาเตะ สุดแสนโรแมนติก ชิคๆน่ารัก คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 11 ขี่จักรยานชมไร่นาเมืองบิเอะ สวยเป๊ะเว่อร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบ็คแพ็ครีวิวญี่ปุ่นญี่ปุ่น ตอนที่ 11 ขี่จักรยานชมทุ่งนาข้าวบาร์เลย์เมืองบิเอะตอนบ่าย งามพร่างพรายสวยเว่อร์ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 10 ปั่นจักยานไปชมดอกลาเวนเดอร์บานๆ อลังการเว่อร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวแบกเป้คนเดียวเที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ตอนที่ 10 ปั่นจักรยานไปชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์บานตอนเช้าๆ สวยแพรวพราวน่ารักเว่อร์ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
แบกเป้เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 9 เดินชิลชมเมืองซับโปโรครึ่งวัน คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>>
แบ็คแพ็ครีวิวเที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ตอนที่ 9 เดินชิลๆชมเมืองซับโปโร ไปเดินเฮโลที่คลองโอตารุ สวยทะลุสู่ยอดฟ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวแบกเป้เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 8 ชมศิลปะทุ่งนาข้าวผลิหลากสีสวยงาม คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ตอนที่ 8 แวะผ่านอาโอโมริ ไปชมศิลปะทุ่งนาข้าวผลิหลากสีที่ อินาคาดาเตะ งามเป๊ะเว่อร์ คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>

เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 7 รีวิวการเดินทางไปหลังคาญี่ปุ่นด้วยตัวเองมาฝาก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 7 รีวิววิธีการเดินทางไปเจแปนแอลป์ด้วยตัวเองมาฝาก ภูเขาสวยงามมาก กระชากใจเริ่ดเว่อร์ คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 6 เดินตลาดเช้าทาคายาม่า แวะดูทุ่งนาชิราคาวาโก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวแบ็คแพ็คเที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 6 เดินตลาดเช้าทาคายาม่า แวะไปชมทุ่งนาที่ชิราคาว่าโก สวยโอฬาร งามเริ่ดเว่อร์ คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 5 เดินดูเมืองเก่าคุราชิกิ ชมใบไม้ผลิสวยเริ่ด คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ตอนที่ 5 เดินลั๊ลลาดูเมืองเก่าสมัยเอโดะที่คุราชิกิ ชื่นชมใบไม้ผลิสีแดง แรงเริ่ดเว่อร์ คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 4 ตามรอยระเบิดเมืองฮิโรชิม่า ไปลั๊นลาเกาะมิยาจิมะ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวลุยเดี่ยวเที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ตอนที่ 4 ตามรอยระเบิดนิวเคลียร์เมืองฮิโรชิม่า นั่งรถไฟลั๊ลลาไปสะพานคินไตเคียว คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 3 ท่องเมืองฟูกุโอกะ ชมเทศกาลยามากาสะ งามเริ่ด คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ตอนที่ 3 เดินย่องท่องเมืองฟูกุโอกะ ชมเทศกาลยามากาสะในหน้าร้อน งามอรชรดีเริ่ด คลิ๊กดูบทความรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>>
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ตอนที่ 2 นั่งไฟออนซอนไปอบทรายร้อนที่อิบูชูกิ คลิ๊กดูค่ะ>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ตอนที่ 2 ลัดเลาะเนินเขาชมวิวคาโกชิม่า นั่งรถไฟลั๊ลลาไปอบทรายร้อนอิบูซูกิ คลิ๊กดูบทความรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>>
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ตอนที่ 1 นั่งรถไฟแมวทามะ แวะพักชมปราสาทสวย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ตอนที่ 1 นั่งรถไฟแมวเหมียวทามะสุดน่ารัก แวะเดินพักชมปราสาทวาคายามะ คลิ๊กดูบทความรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>>
 10 ที่พักโอซาก้า ราคาถูกสุดๆ ใกล้สถานีรถไฟ JR คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>>
รวมที่พักโอซาก้าราคาถูกหลักร้อย ใกล้สถานีรถไฟ JR เดินไปได้ใกล้ๆ สะดวกสุดๆ คลิ๊กดูรายละเอียดที่พักค่ะ>>
วิธีการวางแผนเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตนเองมาฝาก คลิ๊กดูค่ะ>>
อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี มีวิธีการวางแผนเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตนเองมาฝากค่ะ คลิ๊กอ่านบทความค่ะ>>

รีวิวเที่ยวพิษณุโลก นั่งชะโงกกินก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ไปลั๊นลาบ้านรักไทย งามวิไลเนินมะปราง สวยสะพร่างแก่งโสภา คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>

รีวิวเที่ยวสวนผึ้ง ราชบุรี นอนยวนยีชมแกะน้อย งามหยดย้อยอุทยานหินเขางู สวยจุ๊กกรูเมืองโอ่งมังกร  งามอรชรดีเริ่ดสะแมนแตน คลิ๊กดูรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวนครพนม เม.ย.60 ขับมอเตอร์ไซต์ไปมูลนิธิคนชราที่ท่าอุเทน คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวนครพนม นั่งเรือรับลมชมสองฝั่งโขง เชื่อมโยงไทยลาว สวยสกาวองค์พระธาตุ เด่นผงาดสูงเสียดฟ้า นั่งกินปลาร้าอร่อยเริ่ดเว่อร์ คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>

แสดงความคิดเห็น

1 ความคิดเห็น

  1. At some point couple of instructive websites turn out to be extremely useful while getting applicable and new data identified with your focused on zone. As I discovered this blog and welcome the data conveyed to my database. เต็นท์คลุมรถ พับได้

    ตอบลบ