บล็อกรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือนตุลาคม 2560 เที่ยวเชียงใหม่ฤดูฝน ขับมอเตอร์ไซต์ไปนอนกรนที่แม่กำปอง งามสวยผ่องธรรมชาติ อากาศดีเว่อร์ |
ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ดิฉันได้มีโอกาศไปขับมอเตอร์ไซต์ หลงทางลั๊ลลาในจังหวัดเชียงใหม่มาอีกครั้ง โดยรอบนี้ได้ลางาน ลาพักร้อนจากบริษัท ไปเที่ยว 3 วัน 2 คืนค่ะ และก่อนหน้าเดี๊ยนเองก็ได้เขียนรีวิวเที่ยวเชียงใหม่ในฤดูฝนไปแล้ว 2 ตอนนะค่ะ ตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ เดียวถ้าไม่รีบเขียน จะลืมและเว็ปบล็อกร้างไปค่ะ
และอีกอย่างก็คือดิฉันเองก็คงมาเทียวในช่วงฤดูฝนด้วยกระมัง อากาศที่หมู่บ้านแม่กำปองแห่งนี้ เลยสดชื้นรื่นรมย์ฤดีไปหมดค่ะ เสน่ห์ของหมู่บ้านแห่งนี้ก็คงจะเป็นหมู่บ้านอยู่กลางป่า มีมอส มีเฟิร์น ซึ่งแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์พูลผลไปด้วยโอโซนอันแสนจะบริสุทธิ์ และสายแม่น้ำลำธาร ที่ไหลระย้าโรยรินไม่สูญสิ้นความงาม ให้ร้าวรานจับใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนค่ะ
รู้สึกว่าตัวเองบ่นมาเยอะแล้ว ยังไงเดี๊ยนขอมารีวิวเที่ยวแม่กำปอง และมาบอกเล่าเก้าสิบเหตุผลของการมาเที่ยวแม่กำปอง ว่าทำไมใครก็หลงรักหมู่บ้านแห่งนี้ ให้ท่านได้ฉิมพลีอ่านกันค่ะ
อันดับแรก ขอมารีวิวการเช่ามอเตอร์ไซต์ขับไปแม่กำปองให้นักเดินทางทุกท่านได้อ่านกัน เผื่อเป็นไกด์ไลน์นำทาง น่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย หากผิดพลาดยังไง ขออภัยด้วยค่ะ
ต่อจากรีวิวตอนที่ 2 ตามเว็ปไซต์ลิงค์ https://goo.gl/VAyBvh
ต่อจากรีวิวตอนที่ 2 ตามเว็ปไซต์ลิงค์ https://goo.gl/VAyBvh : เริ่มต้นการเดินทาง ดิฉันตะลุยเดี่ยวขับรถมอเตอร์ไซต์ออกจากที่ทำการน้ำตกห้วยทรายเหลืองในอำเภอแม่แจ่ม ขับขึ้นดอยลงดอยในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เข้าอำเภอจอมทอง-อำเภอดอยหล่อ-สันป่าตอง-หางดง-เชียงใหม่-ดอยสะเก็ด
หลังจากนั้นก็เลี้ยวขวาตรงเข้าสู่ถนนในหมู่บ้านนี้เลยค่ะ ขับตรงไปเรื่อยๆเลยนะค่ะ
โดยระยะทางจากสามแยกจากป้อมตำรวจบ้านโป่งกุ่มไปยัง สามแยกบ้านห้วยแก้วระยะทาง 9 กิโลเมตรค่ะ
ขับรถมาสักระยะ หากเหนื่อยเมื่อยก็แวะพักค่ะ เพราะบางเส้นทางเป็นเนินเขาเหลาดอยสีเขียวขจีฉวีผ่อง งามเป็นยองใยยิ่งนัก
ขับรถตรงมาเรื่อยๆจากบ้านโป่งกุ่มระยะทาง 9 กิโลเมตร พอขับมาจะเจอ 3 แยกบ้านห้วยแก้ว จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเพื่อตรงไปยังหมู่บ้านแม่กำปองค่ะ ตลอดระยะทางจะมีป้ายบอกตลอดไม่ต้องกลัวหลงนะค่ะ
อีกครั้งค่ะ!! ขับมาเจอ 3 แยก เลี้ยวซ้ายไปเลยเน้อเจ้า อย่าฟั่นเลี้ยวขวาเน้อ ถ้าตั๋วเลี้ยวขวาจะปิ๊กแม่ออนต่อ เดี่ยวจะย่ะฮือเสียเวลาหนักกว่าเก่าเน้อ
พอเลี้ยวซ้ายมาแล้ว ก็ขับรถตรงมาเรื่อยเพื่อไปยังหมู่บ้านแม่กำปองค่ะ ระหว่างทางขับรถขับรา ก็ระมัดระวังด้วยนะค่ะ เพราะเส้นทางบางช่วงก็เป็นเนินเขาสูงชันบ้างเล็กน้อย แต่บางครั้งก็ชันสูงลิบลิ่วสยิวหัวใจมากๆค่ะ
ขับมาจากสามแยกห้วยแก้ว ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตรก็ถึงแล้วค่ะ หมู่บ้านแม่กำปอง เป็นอันจบรีวิวการเดินทางค่ะ
ขับรถมอเตอร์ไซต์จากบ้านโป่งกุมตรงมาเรือย เส้นทางค่อนข้างมืดมาก เพราะไม่มีไฟริมทาง เวลาขับรถจะเลี้ยวขวาหน้าหลัง ต้องบีบแตรส่งสัญญาณค่ะ จนขัมมาถึง 3 แยกบ้านหัวแก้วเจอป้ายก็ขับตรงไปยังหมู่บ้านแม่กำปองค่ะ
ขับรถฝ่าความมืดถนนก็ชันเหลือเกินนะค่ะ ยังดีที่รถมอเตอร์ไซต์ไม่ยางแตก ยางรั่วนะค่ะ ไม่งั้นมีหวังเข็นลากมาไกลเป็นแน่แท้ ขับรถมาเรื่อยก็ถึงที่พักสำหรับคืนนี้แล้วค่ะ มานอนพักแบบโฮมสเตย์ห้องน้ำรวม ที่เฮือนบอกฮัก แม่กำปองค่ะ
ขอมารีวิวเฮือนบอกฮักให้ทุกท่านได้ดูกันสักหน่อยค่ะว่า มีอะไรให้บ้าง
ที่พักเป็นแบบโฮมสเตย์อยู่ติดริมถนนในหมู่บ้านแม่กำปองเลยค่ะ บ้านอยู่ท่ามกลางป่าเขา อากาศเย็นดีมากๆค่ะ
ส่วนราคาที่พักตกคนละ 550 บาท รวมอาหารเช้าค่ะ ก่อนจะมาพักต้องจองล่วงหน้านะค่ะ เพราะที่พักโฮมสเตย์หลังนี้ เห็นมีแขกเข้าพักตลอดเลยค่ะ เป็นที่พักแบบง่ายๆ ตกแต่งได้กิ๊บเก๋ยูเรก้าดีค่ะ เข้ามาพักแล้วรู้สึกอบอุ่น
เข้ามาด้านบนเป็น Space area แบบห้องรับแขก เป็นพื้นที่โล่งสำหรับนั่งเล่น ตกแต่งได้กิ๊บเก๋น่ารักดีค่ะ
ส่วนสภาพอากาศคืนนี้ ถือว่าเย็นทีเดียวค่ะ คือแบบอากาศดีมากๆค่ะ อุณหภูมิน่าจะประมาณ 20 องศาได้กระมังค่ะ หากใครมาต้องชอบค่ะ เพราะอากาศดีจริงๆค่ะ
มุมนี้เป็นมุมนั่งทานข้าว จิบชา กาแฟ อยู่ตรงริมระเบียง มีตู้เย็นด้วยนะค่ะ ใครซื้อกับข้าวกับปลามาก็เอามาเก็บไว้ได้ แต่เขียนชื่อไว้หน่อยก็ดี เดียวมีแขกท่านอื่นหยิบไปทานค่ะ
ส่วนห้องพักก็แบ่งเป็นล๊อคๆค่ะ โดยแต่ละห้องจะมีป้ายชื่อหมายเลขห้องระบุไว้ค่ะ อย่างเช่นห้องนี้เป็นห้องบอกฮัก 1 ค่ะ
เข้ามาในห้องพักก็จะเป็นห้องประมาณนี้ค่ะ ห้องพักสะอาดดีมากๆค่ะ เป็นห้องพักเป็นเตียงเดียวนอนได้ 2 คน ในห้องไม่มีแอร์นะค่ะ ไม่พัดลมนะค่ะ เพราะที่หมู่บ้านนี้ตอนกลางคืนอากาศจะเย็นอยู่แล้วค่ะ
ในห้องก็มีน้ำดื่มฟรีให้ มีผ้าขนหนูให้ด้วยนะค่ะ แต่ผ้าขนหนูเก๊าเก่าค่ะ เดี๊ยนเลยใช้ผ้าขนหนูโดเรมอนที่ได้พกมาด้วย เพราะคิดว่าเป็นโฮมสเตย์คงมี Amenity ให้ไม่เยอะมากค่ะ
ห้องพักตกแต่งได้น่ารักเชียวค่ะ ชุดผ้าปูกับหมอนก็ลายสต๊อกสีแดงแรงฤทธิ์เชียวค่ะ
ข้อเสียของการนอนโฮมสเตย์คือ ห้องพักจะไม่เก็บเสียงนะค่ะ เวลาจะเดิน จะพูด ต้องเบา ค่อยๆค่ะ ไม่เสียงดัง จะได้ไม่รบกวนแขกอื่นที่กำลังพักผ่อนอยู่ค่ะ ถือเป็นการมาทำสมาธิอย่างหนึ่งเลยค่ะ เราจะได้ควบคุมสติการพูดไม่ปล่อยปละละเลยไปตามอารมณ์ แบบว่ามาพักโฮมสเตย์ต้องเกรงใจกันและกันค่ะ
ส่วนห้องน้ำก็เป็นแบบห้องน้ำรวมค่ะ มี 2 ห้องค่ะ มีห้องน้ำอยู่ด้านบนและด้านล่าง แต่ห้องน้ำด้านล่างดูกว้างกว่าเยอะเลยค่ะ มีสบู แชมพู ครีมนวดให้ด้วยนะคะ และที่สำคัญต้องมีเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ เพราะอากาศตอนกลางคืนที่นี้เย็นจริงๆ หากอาบน้ำเย็นมีหวังเป็นไข้แน่ๆค่ะ
ส่วนอาหารเย็นมื้อนี้ ต้องพึ่งข้าวกล่องเซเว่นที่ซื้อมาจากปั้มน้ำมันในเชียงใหม่แล้วค่ะ เพราะทางที่พักแจ้งว่าร้านอาหารในหมู่บ้านแม่กำปองก็ปิดตั้งแต่หัวค่ำแล้ว ดังนั้นดิฉันเลยต้องปิ๊กนิคอาหารการกินมาตั้งแต่เชียงใหม่ค่ะ
หลังจากที่ได้ทานข้าวอิ่มไปแล้วนะค่ะ ดิฉันก็ไปอาบน้ำทำภารกิจส่วนตัวจนเสร็จ หัวลงหมอนก็นอนหลับเป็นตายคาที่นอนเลยค่ะ เพราะรู้สึกเมื่อยเอาเสียมากๆ เนื่องจากขับรถมอเตอร์ไซต์มาไกลตั้งแต่ ที่ทำการน้ำตกห้วยทรายเหลืออำเภอแม่แจ่ม ข้ามฟากมาไกลถึงแม่กำปอง รวมระยะทางดูใน GPS แล้วก็ปาไปถึง 170 กว่ากิโลเมตรเลยค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------
เช้าตรู่ของวันถัดมา ดิฉันตื่นแต่เช้าตรู่เลยค่ะ อากาศตอนเช้าที่หมู่บ้านแห่งนี้ดีมากๆ อากาศเย็นและสดชื่นทีเดียวค่ะ
เช้าวันใหม่ ท้องฟ้าสดใสดีจริงๆค่ะ หลังจากที่ 2 วันที่แล้วต้องแรมรอนอยู่ท่ามกลางสายฝนมานาน พอได้มาเยือนแม่กำปองแล้ว อากาศดีทีเดียวค่ะ
มีสาระน่ารู้เกี่ยวกับประวัติ หมู่บ้านแม่กำปองมาให้ทุกท่านอ่านกันค่ะ
บ้านแม่กำปอง เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ที่เป็นหุบเขาและเนินเขา มีต้นน้ำ และแม่น้ำไหลผ่านตลอดหมู่บาน และเป็นแหล่งพันธุ์ไม้ที่อุดมสมบูรณ์นานาชนิด มีบรรยากาศที่เย็นสบายตลอดปี และค่อนข้างหนาว โดยในช่วงฤดูหนาว มีอากาศที่บริสุทธิ์ อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเฉลี่ย 1300 เมตร จากประวัติผู้เฒ่า ผู้แก่ได้เล่าต่อๆกันมาว่า หมู่บ้านแม่กำปองได้ก่อตั้งขึ้นมานานกว่า 120 ปีแล้ว มีชาวบ้านที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ส่วนใหญ่เคลื่อนย้ายมาจากอำเภอดอยสะเก็ด เพื่อมาเก็บใบเมี่ยงใบชา และได้ตั้งรกรากทำสวนเมี่ยงเรื่อยมา จนยึดเป็นอาชีพหลักของหมู่บ้าน โดยตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณลำห้วยที่ไหลผ่าน หมู่บ้านที่มีต้นดอกกำปองขึ้นอยู่ตลอดแนว จึงเรียกชื่อหมู่บ้านแห่งนี้ตามดอกไม้ว่า บ้านแม่กำปอง มาจนถึงปัจจุบัน
ภายในหมู่บ้านมีวัดประจำหมู่บ้าน คือวัดแม่กำปอง เริ่มสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2473 และชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธเป็นหลัง มีโรงเรียนแม่กำปอง ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2490 และในปี พ.ศ.2524 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จประพาสเยี่ยมชาวบ้านแม่กำปองและทรงมีพระราชดำริแนวคิดสร้างโครงการหลวงตีนตกขึ้น ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้กับชุมชน พร้อมกับมีโครงการส่งเสริมอาชีพทางเกษตรกรรม ให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้ประกอบอาชีพ และมีงานทำ เช่นการส่งเสริมการปลูกกาแฟ และที่สำคัญมีพระราชดำริให้สร้างโรงผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ ทั้งนี้ทรงเห็นว่าบ้านแม่กำปองมีทุนทางธรรมชาติ ซึ่งก็คือน้ำตกแม่กำปองที่สามารถนำมาผลิตเป็นพลังงานใช้ในหมู่บ้านได้ จึงดำริให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพลังงาน ดำเนินการตั้งโรงไฟฟ้าพลังน้ำเพื่อ ผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังน้ำให้คนในชุมชนได้ใช้กระแสไฟฟ้าพลังน้ำอย่างทั่วถึง จึงเป็นที่มาของ “สหกรณ์ไฟฟ้าโครงการหลวงแม่กำปอง จำกัด” อยู่ภายใต้การดูแลของกรมพัฒนาพลังงานทนแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ในปัจจุบัน
ดิฉันมาเดินเล่นรอบๆโฮมสเตย์ เฮือนบอกฮักค่ะ บ้านไม้หลังน้อยอยู่ท่ามกลางป่าเขาและป่าไม้ร่มรืนย์ สดชื่นจริงๆค่ะ
บริเวณที่พักก็จัดสวนไม้ดอก ไม้ประดับมุ้งมิ้งอยู่รอบที่พัก ทำให้รู้สึกเหมือนมาอยู่ที่บ้านเลยค่ะ
มาพักที่นี้มีน้องหมาก็ออกมาเห่าบ๊อกๆตลอดเลยนะค่ะ แต่น้องหมาไม่กัดหรอกค่ะ กลัวคนเนี่ยแหละค่ะจะกัดน้องหมา มีอยู่ 2-3 ตัว เมื่อคืนนี้ ต้องที่เดี๊ยนมาถึง จะขึ้นมาบนที่พัก น้องหมาวิ่งมารุมใหญ่เลยค่ะ ถ้าใครกลัวมาคงวิ่งหนีแน่ๆ แต่น้องหมาน่ารักและขึ้อ้อนสุดๆไปเลย
ดิฉันเดินชิวๆตอนเช้า ถ่ายรูปวิว โน้นนี้นั้นไปเรื่อยเปื่อยค่ะ แล้วแต่ใจพาไปแบบบ้าๆบอๆค่ะ
ตรงด้านหน้าก็เป็นร้านขายเสื้อผ้านะค่ะ แต่ยังไม่เปิด เดี๊ยนออกมาเปิดประตูดู เห็นมีนักท่องเที่ยวออกมาเดินจุ๊กกรูกันแต่เช้าเลยค่ะ
เดินมาหน้าที่พัก ตกแต่งได้น่ารักมุ้งมิ้งเชียวค่ะ มีมุมถ่ายรูปเก๋หน้าที่พักสวยดีค่ะ
โฮมสเตย์ที่พักอยู่ฝั่งตรงข้ามก็น่าพักค่ะ อยู่ติดริมลำธาร มีไม้เลื้อยปกคลุมไปทั่วหลังคาเลย
ใกล้เฮือนบอกฮักก็จะเป็นที่พักโฮมสเตย์ของอีกแห่งค่ะ อยู่ติดริมลำธารเหมือนกันค่ะ
เสน่ห์ของที่นี้คงเป็นบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่สดชื่น ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีค่ะ
ส่วนบรรยากาศในหมู่บ้านตอนเช้า ก็เงียบสงบ ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวออกมาเดินกันมากนักค่ะ อาจจะเป็นเพราะเป็นวันธรรมดาด้วยกระมังค่ะ อ่านในรีวิวกระทู้ในพันทิพบอกว่า หากมาสุดสัปดาห์นักท่องเที่ยวจะเยอะมาก โชคดีนะค่ะที่มาวันธรรมดา ไม่งั้นนักท่องเที่ยวคงเยอะกว่านี้มากค่ะ
หลังจากเดินออกกำลังกายตอนเช้า ก็ได้เวลาทานอาหารเช้าแล้วค่ะ อาหารเช้าที่เฮือนบอกฮักแม่กำปอง มื้อเช้าที่นี้ก็เป็นแบบง่ายๆ คงไม่ใช้บุฟเฟต์หรืออาหารเช้าแบบอเมริกันค่ะ แต่เป็นข้าวต้มร้อน มีไข่เจียวให้ด้วยค่ะ ถ้าทานไม่อิ่มก็ไปตักทานเองได้ค่ะมาดูภาพเหตุผลทำไมใครๆก็หลงไหล และต้องไปเที่ยวหมู่บ้านแม่กำปอง ดิฉันเลยร่าย บรรยายออกมาดังนี้ค่ะ
เผื่อใครยังไม่เคยจรลีหนีงานมาเที่ยว ณ หมู่บ้านแห่งนี้ ลองมาเที่ยวสักที รับรองสุขฤดี อิ่มฤทัย ไฉไลเริ่ดเว่อร์อย่างแน่นอนค่ะ
มีเฟิร์น มีมอส เกาะอยู่ตามหลังคา และตามอิฐหินปูนทราย เห็นก็สดชื่นรื่นฤทัย งามวิไลยิ่งนักค่ะ
มองไปทางใหนก็มีแต่ความชุ่มฉ่ำ สราญร่าช่ะช่ะช่าหัวใจ
พืชบางชนิดก็ไม่ค่อยพบเจอ บางอยากก็ดูแปลกตา
มีต้นตุ้ม ต้นไม้ใหญ่ยักษ์อยู่ติดริมลำธาร ตรงทางเดินไปน้ำตกค่ะ สำหรับคนที่ไม่เอารถไป ก็สามารถเดินไปน้ำตกได้ โดยลัดเลาะไปตามริมลำธารก็จะผ่านต้นตุ้ม ต้นไม้ใหญ่ยักษ์น่าจะมีเทพารักอารักขาอยู่ค่ะ
มีอุโบสถกลางน้ำ ที่ใครก็ต้องตามกันมาถ่ายรูปกันให้ได้
ไหว้พระพุทธรูปในพระอุโบสถกลางน้ำ
มีมุมถ่ายรูปมหาชน ที่นักเดินทางทุกคนต้องก็ต้องสุขล้นความมาถ่ายรูปลงเฟสบุ๊ส ไอจี รับรองว่าสวยฉวีผ่องกันทุกราย
จุดชมวิวหมู่บ้านแม่กำปอง ภาพอันมีชื่อเสียงที่โด่งดังจนใครๆก็ต้องถ่ายรูปกันให้ปังปังๆ อลังถึงใจค่ะ
มีขนมอร่อยๆให้ท่านคู่กับชาและกาแฟ ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนค่ะ
มีของกินริมทางให้เลือกซื้อทานกันหลายอย่างเลยค่ะ อย่างเช่นข้าวโพดคลุกเนย กลิ่นหอมดุจแม่ทรายเชย ไฉนเลยจะมาลิ้มลองสักครา
มีน้ำตกสวยๆอยู่กลางพนาไพร ก็งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนยิ่งนัก เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสุดคึกคักที่ใครต่างก็ต้องแวะมาเช็คอินน์ ให้ฟินเว่อร์ค่ะ
มีน้ำตกสวยๆอยู่กลางพนาไพร ก็งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนยิ่งนัก เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสุดคึกคักที่ใครต่างก็ต้องแวะมาเช็คอินน์ ให้ฟินเว่อร์ค่ะ
มีสายลำธารใหลในหมู่บ้านให้ได้ชื่นชม แสนจะสุขสมอุราช่ะช่ะช่าหัวใจค่ะ
มีมุมถ่ายรูปน่ารักมุ้งมุ้ง สุดสวิงริงโก้ ให้ได้เฮโลถ่ายรูปเช็คอินน์ ให้ฟินกันไปเลยค่ะ
มีมุมถ่ายรูปน่ารักหลายมุม แล้วแต่ว่าใครจะชอบแบบใหน ก็จัดไปเลยค่ะ
มีตุ๊กตาตุ๊กตุ่นให้ได้แชะภาพกันหลายเฟรม แล้วแต่มุมมอง ให้ได้ลองถ่ายภาพกันอย่างสำราญใจค่ะ
มีดอกไม้สวยหลากหลายพันธุ์ ไม่รุ้ว่าดอกอะไรกัน แต่ดูแล้วก็สุขสันต์ลั๊ลลา เริงร่างยิ่งนักค่ะ
ทั้งดอกไม้สีเหลือง ก็บานรุ่งเรืองเฟื่องฟุ้ง กระจุงกระจายไปตลอดทางเดิน
หรือดอกกล้วยไม้สีม่วง เป็นแม่พุ่มพวงออกรวงสีบานฉ่ำ
ดอกไม้สีแดงแรงฤทธิ์นี้ไม่รู้ดอกอะไร แต่ก็งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนยิ่งนัก
ดอกไม้นี้เติบโตอยู่กลางป่า ระหว่างเดี๊ยนเดินทางไปลั๊ลลาที่น้ำตก ก็งดงามสะทกสะท้านหวั่นไหว
ดอกกล้วยไม้พันธุ์อะไรมิรู้ แต่สีสวยแปลกตาน่าดูเชียว
มีหนูน้อยบนดอยน่ารัก เดินเตาะแตะน่าชังยิ่งนักเชียว
เด็กน้อยบนดอยกำลังเดินต้วมเตี้ยมทานขนมลูกอมโบตั๋น ยาสีฟันคอลเกต สบู่วิเศษ แล้วก็เป่ายิ่งฉุบ
มีน้องหมาหน้าแบ๊วๆ ตาสดใสแพรวพราว เป็นดาวที่หมู่บ้านนี้เลยค่ะ เพราะเดินไปตามถนนหนทาง น้องหมาเดินตามต๊อยๆเลย
มีน้องแมวเหมียวขึ้ออน กำลังเดินออนซอนมาแอบกินอาหารที่วางไว้บนโต๊ะ
มีอาหารอร่อยให้เลือกกินกันอย่างสำราญใจลงไปถึงกระเพาะเรียกน้ำย่อย น้ำลายไหลย้อยกินแล้วก็อร่อยเว่อร์
มีร้ายขายเครื่องดื่มกาแฟบนต้นไม้ที่โด่งดังไปไกลถึงเมืองนอกเมืองนา จนใครๆก็ต้องแวะมากันสักครั้ง ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่บนดอยสูง ขับรถมาก็ต้องระมัดระวังเพราะทางคดเคี้ยวและเลี้ยวลดไปด้วยความลาดชัน
ดื่มโก้โก้ร้อนก็อร่อยออนซอนไม่เบาค่ะ แต่กว่าจะขับเนินเนามาถึง ก็สะพรึงไปด้วยทางลาดชันค่ะ
และยังมีมุมถ่ายรูปสวยเก๋ให้ได้เดินเฮโลถ่ายกันอีกมากมาย รอให้ท่านมาเดินพร่างพราย สัมผัสด้วยตัวเอง รับรองว่าครืนเครงสุขใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนอย่างแน่อนนะค่ะ
หลังจากนั้นได้เดินชมสถานที่ท่องเที่ยวในหมู่บ้านแม่กำปองแล้ว ช่วงเวลาประมาณบ่าย 2 ดิฉันก็เช็คออกจากเฮือนบอกฮักแม่กำปองค่ะ เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ
ระหว่างทางแวะมาชมผาน้ำลอด แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติริมทางอยู่ในโครงการหลวงตีนตกค่ะ
ผาน้ำลอด แหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่ใครๆก็ต้องแวะมาชมค่ะ มีน้ำไหลลอดผาก็เลยเรียกว่าผาน้ำลอดค่ะ
ดิฉันขับรถมอเตอร์ไซต์แว๊นๆมาอีกไม่ไกล ก็ถึงศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก อีกหนึงโครงการที่พ่อหลวงได้มีพระราชดำริสร้างศูนย์นี้ขึ้นเพื่อพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ค่ะเกี่ยวกับโครงการหลวงตีนตก : ในปี พ.ศ.2524 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จประพาสเยี่ยมชาวบ้านแม่กำปองและทรงมีพระราชดำริแนวคิดสร้างโครงการหลวงตีนตกขึ้น ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้กับชุมชน พร้อมกับมีโครงการส่งเสริมอาชีพทางเกษตรกรรม ให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้ประกอบอาชีพ และมีงานทำ เช่นการส่งเสริมการปลูกกาแฟ และที่สำคัญมีพระราชดำริให้สร้างโรงผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ ทั้งนี้ทรงเห็นว่าบ้านแม่กำปองมีทุนทางธรรมชาติ ซึ่งก็คือน้ำตกแม่กำปองที่สามารถนำมาผลิตเป็นพลังงานใช้ในหมู่บ้านได้ จึงดำริให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพลังงาน ดำเนินการตั้งโรงไฟฟ้าพลังน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังน้ำให้คนในชุมชนได้ใช้กระแสไฟฟ้าพลังน้ำอย่างทั่วถึง จึงเป็นที่มาของ “สหกรณ์ไฟฟ้าโครงการหลวงแม่กำปอง จำกัด” อยู่ภายใต้การดูแลของกรมพัฒนาพลังงานทนแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ในปัจจุบัน
ภายในก็เป็นการจัดแสดงพันธุ์กล้วยไม้ค่ะ
สาระน่ารู้เกี่ยวกับวิธีการปลูกกล้วยไม้สกุลฟาแลนนอซิส
โดยทั่วไปอาจเครื่องปลูกเป็นออสมันดา มะพร้าวสับหรือใยมะพร้าวก็ได้ สำหรับภาชนะทั่วไปใช้กระถางดินเผา แต่ถ้าไม่สะอาจอาจใช้พระถางพลาสติกแทนได้ โดยวางกล้วยไม้ให้โคนต้นอยู่ต่ำกว่าขอบกระถาง สำหรับการใช้ออสมันดาให้ปลูกลงในกระถางขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 นิ้ว ต้องระวังอย่าให้แน่นมากนัก พอให้ยุงลำต้นได้ หากต้นโตมากขึ้นให้เปลี่ยนกระถางเป็น 2 นิ้ว การปลูกโดยใช้มะพร้าวสับหรือใยมะพร้าวก็ใช้วิธีการเดียวกัน แต่ต้องระวังในเรื่องความสะอาด และความชื้นมิให้ชื้นแฉะเป็นเวลานาน การปลูกกล้วยไม้สกุลนี้มักก่อนฤดูฝน เนื่องจากถ้าปลูกในฤดูฝนอาจทำให้เกิดใบและยอดเน่าได้
ควรมีการพรางแสงประมาณ 60-70% เพื่อให้อากาศถ่ายเท
กล้วยไม้พันธุ์ฟาแลนนอซิส
ต้นบิโกเนียค่ะ ปลูกอยู่ในกระถางขายต้นละ 40บาทค่ะ
ต้นบิโกเนียเป็นไม้ประดับ ใบสีสันสวยงามอร่ามจับใจค่ะ
อีกหนึ่งผักน่ารักมุ้งมิ้ง มะเขือมิกกี้เมาส์ที่ใครก็ต้องแวะเดินมาเนินเนาดูสักครั้ง ปลูกอยู่ริมทาง ก็กำลังผลิผลดลฤทัยให้มาเดินไฉไลจ้องมองดูค่ะ มะเขือสีเหลืองมีโหนกออกที่หัวคล้ายมิกกี้เมาส์
เดินมาในร้านอาหารจะไปเข้าห้องน้ำ ผ่านภาพในหลวงกับประชาชนค่ะ
ภาพนี้เป็นภาพเมื่อปี 2522 ในหลวงพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพฯ เสด็จเยี่ยมราษฎร ณ บ้านทุ่งเริง ทุ่งเขา อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
ภาพนี้ในหลวงทรงมีปฏิสันถารกับชาวเขาค่ะ
ส่วนภาพนี้ในหลวงพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จเยี่ยมราษฎรและทอดพระเนตรการเลี้ยงปลาน้ำจืด ณ บ้านใหม่หมอกจ๋าม ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหมอกจ๋าม อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่
ภาพนี้เมื่อปี พ.ศ.2519 ในหลวงเสด็จทอดพระเนตรความเป็นอยู่ของชาวเขาเผ่าลีซอและทอดพระเนตรสภาพพื้นที่โดยทั่วไปของบ้านป่าแป๋ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย
เดินชมบรรยากาศรอบโครงการหลวง
บรรยากาศโดยรอบน่าอยู่มากค่ะ มีลำธารไหลผ่าน ต้นไม้สีเขียวชะอุ่มชุ่มชื่น อากาศดีสุดๆค่ะ
เดินมาดูต้นเฟิร์นสายพันธุ์นี้ ดูแปลกตาดีเหลือเกินค่ะ ไม่รู้ว่าพันธุ์อะไร ใคร่อยากจะเอาไปปลูกดูที่บ้าน คงจะสวยร้างรานน่าดูกระมังค่ะ
ฝั่งตรงข้ามที่ติดกับลำธารก็เป็นบ้านพักตากอากาศเป็นหลังๆเลยค่ะ สำหรับไว้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการนอนพักบ้านเป็นหลังๆ มีห้องน้ำในตัว เหมาะสำหรับคู่รักและครอบครัวค่ะ
นั่งห้อยขาริมสะพานกับบรรยากาศลำธารน้ำไหล น่ารื่นรมย์ฤทัยยิ่งนักค่ะ
เดินมาชมการปลูกไม้ประดับอีกชนิด ไม่รู้ต้นอะไร สีเขียวอ่อนต้นดูออกซอนน่ารัก
ส่วนไม้ประดับชนิดนี้เคยเห็นแล้วที่โครงการหลวงดอยอินทนนท์ มีหลายสีเลยค่ะ แต่ที่ปลูกในกระถางนี้เป็นสีชมพู
แวะเดินออกมาก็พบกล้วยไม้ป่าสีชมพูอ่อนอีกชนิด ดอกกะจิ๊ดลิ๊ด ดูน่ารักมุ้งมิ้งสวยดีค่ะ
ดอกกล้วยไม้สีหวาน รับความสำราญกับการมาท่องเที่ยวช่วงใหม่ในฤดูฝนนี้ คงสิ้นสุดแล้วซี ปีหน้าฟ้าใหม่นี้คงได้จรลีมาเที่ยวอีกอย่างแน่นอน
ก่อนจะเดินทางกลับก็แวะซื้อของฝากริมทางสักหน่อยค่ะ
ซื้อสตอเบอรี่บนดอยแห่งนี้ มีทั้งอบแห้งและแบบสด รสชาติหวานกำลังดี แต่แบบอบแห้งรสเปรี้ยวจี๊ดดีเหลือเกินค่ะ แอบถ่ายน้องหนูน้อย สงสัยจะกลัวกล้องของเดี๊ยนเสียกระมัง เห็นร้องดังใหญ่เลย 555
หลังจากที่เดี๊ยนได้เดินชมพืชพันธ์ในโครงการหลวงตีนตกแล้วนะค่ะ เบนดูเข็มนาฬิกาได้เวลาต้องรีบกลับเชียงใหม่ ต้องไปก่อนร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ปิดค่ะ เลยแว๊นๆขับมอเตอร์ไซต์จากแม่ออน มุ่งหน้าเข้าเมืองเชียงใหม่ เอาไปมอเตอร์ไซต์ไปคืนที่ร้าน Bikeky
จากนั้นก็จรลี รีบเดินไปที่ร้านขายตั๋วโดยสารนครชัยแอร์ นั่งรถกลับถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ จบทริปเที่ยวเชียงใหม่ในฤดูฝน 3 วัน 2 คืนค่ะ โอกาสหน้าฟ้าใหม่คงได้กลับไปเที่ยวอีกแน่นอนค่ะ เพราะชุ่มฉ่ำไปด้วยสายฝนโปรยปราย มีทั้งสายหมอก และอากาศก็เย็นดี๊ดีฉวีผ่องยิ่งนักค่ะ
หากวันหยุดลาพักร้อนประจำปีนี้ ท่านใดที่ไม่รู้จะจรลีหนีไปเที่ยวใหนดี ลองวางแผนมาเที่ยวหมู่บ้านแม่กำปองดูสักครั้งครานะค่ะ เดี๊ยนรับรองว่าท่านจะสุขอุราอิ่มฤทัย และงามวิไลสดใสแพรวพราวที่หมู่บ้านเล็กแห่งนี้อย่างแน่นอนจ้า
สรุปค่าเสียหายจากการท่องเที่ยวในทริปนี้เสียหายไปเท่าไหรบ้าง?
ค่าโดยสารขาไป-กลับกรุงเทพนครชัยแอร์ 556+541=1,097 บาท
ค่าเช่ามอเตอร์ไซต์ 3 วัน รวม 600 บาท (ไม่มีมัดจำ)
ค่าเช่าหมอกกันน๊อคแบบมีบังกันลม 100 บาท
ค่าเติมน้ำมันทั้งหมด 60+40+60+70 = 230 บาท
ค่าที่พักแบบเต็นท์ ชมทุ่งนาขั้นบันใดที่บ้านระเบียงนา แม่แจ่ม 400 บาท
ค่าที่พักโฮมสเตย์ เฮือนบอกฮัก แม่กำปอง 550 บาท
ค่าอาหารการกินตลอด 3 วัน = 764 บาท
ค่าธรรมเนียมผ่านทางไปดอยอินทนนท์ 70 บาท
ค่าธรรมเนียมเข้าโครงการหลวงอินทนนท์ 20 บาท ไป 2 ครั้ง รวม 40 บาท
(ไม่รวมเงินทำทานที่บ้านเด็กกำพร้าปิยวัฒน์)
รวมค่าเสียหายทั้งหมด 3 วัน 2 คืน เป็นจำนวนเงิน 3,851 บาท
สำหรับบทความรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือนตุลาคม 2560 ก็ขอจบเพียงเท่านี้ค่ะ ดิฉันหวังว่าข้อมูลดังกล่าวคงจะกระตุ้นให้ท่านได้ออกเดินทางไปท่องเที่ยวกันไม่มากก็น้อยนะค่ะ หากข้อมูลดังกล่าวมีข้อผิดพลาด หรือภาพไม่สวยประการใด ดิฉันเองต้องขออภัยคุณผู้อ่านทุกๆท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ ขอบพระคุณท่านที่เสียสละเวลาคลิ๊กเข้ามาสไลด์ดูภาพและอ่านกันค่ะ หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
---------------------------------------------------------------
รวมบทความบล็อกเที่ยวเดือนละ 1 ครั้ง มีดังนี้ค่ะ(จะทยอยอัพเดทเรื่อยๆ เว็ปบล็อกจะได้ไม่ร้างไปค่ะ)
รีวิวเที่ยวยุโรปตอนที่ 10 เยือนสวิตเซอร์แลนด์ เจนีวา-โลซาน คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://bit.ly/2N0X57i
รีิวิวเที่ยวฝรั่งเศสตอนที่ 2 เดินย่องท่องวังแวร์ซาย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/N6BGg2
รีิวิวเที่ยวประจำเดือน พ.ค.2018 แบกเป้เที่ยวฝรั่งเศส คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/eoJBtM
แบ่งปันการเดินทางด้วยรถไฟ Metro ในกรุงปารีสครั้งแรก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูข้อมูลที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/sbA4ek
แชร์วิธีการเดินจากสนามบินฝรั่งเศส เข้าไปในกรุงปารีส คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
รีิวิวสายการบินโอมานแอร์ จากกรุงเทพไปฝรั่งเศส คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
รีิวิวเที่ยวเมืองลพบุรี เดินยวลยีชมวังเก่า เคล้าความหลัง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/7ZB3pt
รีิวิวเที่ยวประจำเดือน เม.ย.นี้ แวะไปเที่ยวสิงห์บุรีมาค่ะ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/eL6fHw
รีวิวท่องเที่ยวประจำเดือน เม.ย.2018 ล่องเรือไหว้แม่น้ำเจ้าพระยา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/HrLddq
วิธีวางแผนเดินทางตามรถไฟสายยุโรปด้วยตัวเองแบบง่ายๆ คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
หรือเข้าไปดูเนื้อหาบทความได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/4nwkke
จัดมารีวิวเที่ยวสัตหีบ 2 วัน 1 คืน เดือน มี.ค.61 ไปที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/YV4FbW
รวมเด็ด 7 โบราณสถานเด็ดเมืองอยุธยา มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
จัดมารวมประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการโรงแรม คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
หรือดูเนื้อหาบทความได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/uBCnFK
บล็อกรีวิวเที่ยวประจำเดือนธันวาคม 2017 เยือนตราด-เกาะกูด ตอนที่ 1 คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวประจำเดือนพฤศจิกายน แบกเป้ไปล่องท่องเมืองปาย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวปางอุ๋ง-บ้านรักไทย งามวิไลไร่ชา เดินลั๊ลลากินสตอเบอรี่ คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
บล็อกรีวิวเที่ยวประจำเดือนพฤศจิกายน แบกเป้ไปแม่ฮ่องสอน คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
บล็อกรีวิวเที่ยวแม่กำปอง ต้องลองมาสักครั้ง อากาศดีปังเว่อร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
บล็อกรีวิวเที่ยวเดือนตุลาคม นอนที่บ้านป่าปงเปียง กินโอเลี้ยงอร่อยเว่อร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
บล็อกรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือนตุลาคม ไปตามรอยโครงการหลวง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
จัดมา 9 เพลงเทิดพระเกียรติ ฟังทีไร ก็นึกถึงในหลวง คลิ๊กดูบทความค่ะ>> |
มาร่วมตามรอย ธรรมราชาในดินแดนภาคอีสาน คลิ๊กดูบทความค่ะ>> |
10 ข้อแนะนำไปพิชิตภูกระดึง ต้องเตรียมตัวอะไรไปบ้าง คลิ๊กดูบทความค่ะ>> |
รีวิวท่องเที่ยวเดือนกันยายน ลุยเดี่ยวเช่ามอเตอร์ไซต์ขับไปเขาใหญ่ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวท่องเที่ยวเดือน สิงหาคม 2560 รีวิวเที่ยวเมืองเก่าอยุธยา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ที่พักเมืองโตเกียว เอาใจขาเที่ยวงบน้อยๆ คลิ๊กดูที่พักค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวประจำเดือน ก.ค.2560 เที่ยวญี่ปุ่นตอนจบ สรุปค่าใช้จ่าย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 14 ไปชมภูเขาไฟฟูจิซัง นั่งดูวิวทะเลสาบคาวากูชิโก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 13 นอนค้างโตเกียว นั่งรถไฟไปเที่ยวคามากุระ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 12 เดินชิลเมืองท่าเรือสุดแสนโรแมนติก ริมทะเล คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 11 ขี่จักรยานชมไร่นาเมืองบิเอะ สวยเป๊ะเว่อร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 10 ปั่นจักยานไปชมดอกลาเวนเดอร์บานๆ อลังการเว่อร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
แบกเป้เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 9 เดินชิลชมเมืองซับโปโรครึ่งวัน คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
รีวิวแบกเป้เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 8 ชมศิลปะทุ่งนาข้าวผลิหลากสีสวยงาม คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
เที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 7 รีวิวการเดินทางไปหลังคาญี่ปุ่นด้วยตัวเองมาฝาก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>> |
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 6 เดินตลาดเช้าทาคายาม่า แวะดูทุ่งนาชิราคาวาโก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 5 เดินดูเมืองเก่าคุราชิกิ ชมใบไม้ผลิสวยเริ่ด คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 4 ตามรอยระเบิดเมืองฮิโรชิม่า ไปลั๊นลาเกาะมิยาจิมะ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นตอนที่ 3 ท่องเมืองฟูกุโอกะ ชมเทศกาลยามากาสะ งามเริ่ด คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ตอนที่ 2 นั่งไฟออนซอนไปอบทรายร้อนที่อิบูชูกิ คลิ๊กดูค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ตอนที่ 1 นั่งรถไฟแมวทามะ แวะพักชมปราสาทสวย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
10 ที่พักโอซาก้า ราคาถูกสุดๆ ใกล้สถานีรถไฟ JR คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
วิธีการวางแผนเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตนเองมาฝาก คลิ๊กดูค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวนครพนม เม.ย.60 ขับมอเตอร์ไซต์ไปมูลนิธิคนชราที่ท่าอุเทน คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
บล็อกสุขสันต์วันสงกรานต์ประจำปี 2560 มาให้ทุกท่านได้อ่านกันค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวระยอง มี.ค. 60 ท่องเกาะเสม็ด นั่งกินเห็ดอร่อยเริ่ดเว่อร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวเพชรบุรี ก.พ.60 ไปฉิมพลีที่เขาวัง รำลึกความหลังหาดเจ้าสำราญ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวแอบเที่ยวเมืองโฮจิมินห์ครึ่งวัน นั่งสุขสันต์ริมแม่น้ำไซ่ง่อน คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
รวมภาพงานเที่ยวเมืองไทยปี 2560 ณ สวนลุมพีนี เริ่ดสะแมนแตนอีหลีเด้อจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวสุพรรณบุรี ปั่นจักรยานแสนสุขขีไปบึงฉวาก คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวสงขลา-หาดใหญ่ ขับสองล้อท่องไป ไฉไลเริ่ดเว่อร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวสงขลา หาดใหญ่ เดือน พ.ย.2559 ขับมอเตอร์ไซต์ไปทำทานที่มูลนิธิคนชรา แวะไปลั๊นลาไหว้พระที่เขาคอหงส์ ชมอาทิตย์อัสดงลงงามชนะเลิศ คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวเมืองเลย แวะไปเดินชมเชยที่เชียงคาน ยลตระการยอดภูกระดึง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวภูกระดึง 4-6
ต.ค.2559 รำลึกความหลังครั้งวันวาน
แวะผ่านไปค้างที่เมืองเลย ก่อนไปนั่งรำเพยที่เชียงคาน คลิ๊กดูภาพรีวิวเดินทางค่ะ>>
รีวิวเที่ยวปัว-น่าน ขับมอเตอร์ไซต์แว๊นไปดอยภูคา คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวปัว-น่าน วันที่ 21-23 ก.ย.59 นอนพักชมทุ่งนาเขียวสดสีงามวิไล ขับมอเตอร์ไซต์แว๊นไปที่ดอยภูคา จิบน้ำชาชมวิวเบิกฟ้า สวยเลอค่ายิ่งนักเอย คลิ๊กดูรีวิวการเดินทางค่ะ>>
รีวิวเที่ยวอุทัยธานี เลาะริมน้ำสะแกกรัง นั่งดูวิถีชีวิตสุดชิวเว่อร์ คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
รีวิวทริปเที่ยวอุบล ยลตระการงานแห่เทียนพรรษา ไปลั๊นลาที่ผาแต้ม คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
รีวิวทริปเที่ยวตรัง 3 วัน 2 คืน ขับมอเตอร์ไซต์ตะล่อนทัวร์ คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวจันทบุรี 2 วัน 1 คืน เดินลัดเลาะชุมชนเก่าริมฝั่งน้ำ คลิ๊กดูภาพรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวอัมพวา เดินย้ำตลาดน้ำ ชมตลาดร่มหุบแม่คลอง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
0 ความคิดเห็น