Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

งามเด็ด 7 โบราณสถานเมืองเก่าอยุธยา ที่ออเจ้าต้องตามไปศึกษาเรียนรู้ให้จุ๊กกรูจับใจ มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลยจ้า

บทความวันนี้ ขอแนะนำโบราณสถานยอดนิยมในเมืองเก่าอยุธยา ที่แวะไปชมครั้งครา ก็สุขอุราชื่นฤทัย ได้ความรู้กลับไปอย่างแน่นอน
ก็ขอกราบสวัสดี๊ดี สวีดั๊ดดัด พี่ๆน้องๆ เพื่อนผองชาวไทยและชาวโลกออนไลน์ ที่น่ารักสดใส งามไฉไลสุดเก๋ เทห์ระเบิดเทิดเทิง เปิดเปิงหัวใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนกันอยู่ ณ ขณะนี้นะค่ะ ดิฉันคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน ขอมาออนซอน และเว้าวอน ต้อนรับท่านเข้าสู่เว็ปบล็อกของคนบ้าเที่ยว และบ้าเขียนบล็อกไปเรื่อยเปื่อย ให้ท่านได้อ่านกันจนปวดเศียร เวียนเกล้ากันอีกเช่นเดิมนะค่ะ ถือว่ามาอ่านบล็อกฆ่าเวลาไป ส่วนดิฉันเองก็ได้ครืนเครงเป็นงานอดิเรกไปค่ะ

และวันนี้ขอมาตามรอยกระแสละครดัง บุพเพสันนิวาส ที่ปังแบบสุดๆ เรียกว่าฉุดไม่อยู่จริง เรียกว่าถ้าไม่ได้ดูละครก็จะทำให้คุยกับใครไม่รู้เรื่องเลย ว่างั้นเถอะค่ะ...ด้วยเนื้อหาละครอ้างอิงเรื่องประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยุธยา ทำให้เมืองมรดกโลกอย่างพระนครศรีอยุธยา มีคนเดินทางไปเที่ยวลั๊ลลาอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งปกติอยุธยาก็ดังและปังอยู่แล้วนะค่ะ แต่พอมีกระแสละครดังที่อิงประวัติศาสตร์ กระชากใจคนดูไปสู่ถึงห้วงดวงหฤทัย ก็ยิ่งทำให้คนอยากจะไปกันมากขึ้นกว่าเดิม และเพิ่มเติมคือความสุข สนุกครืนเครง บรรเลงจับใจ ไปกับการเรียนรู้สถานที่ท่องเที่ยวตามโบราณสถานต่างที่ดูคึกคักสุดขั้วไปเลยจ้า.....นอกจากกระแสและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังทำให้คนไทยหันมาใส่ใจกับความเป็นไทย สนใจเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และมีการแต่งกายชุดไทยย้อนยุคดูแล้วก็สะดุดตา ช่ะช่ะช่าหัวใจเป็นที่สุดไม่ว่าจะเป็นพ่อชายก็นุ่งโจงกระเบน เสื้อราชปะแตน ส่วนแม่หญิงก็ห่มสไบใส่ผ้าซิ่นลายไทยโบราณ งดงามอลังการ ร้าวรานจับใจยิ่งนัก แขกไปใครมาได้เห็นก็ปลื้มปริ่ม อิ่มอุราถึงทรวงในกันแทบทุกคนเลย

และในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ วันทำงานแสนจะธรรมด๊า ธรรมดาในอาทิตย์นี้ หากเพื่อนๆน้องๆพี่ท่านใดที่กำลังวางแผนมาเที่ยวอยุธยา แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ใหนดี วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเลยขอมาคนบ้า พาทุกท่านลั๊ลลาไปเที่ยวแวะชมและเรียนรู้ตามโบราณสถานต่างๆกันค่ะ...จริงแล้วดิฉันก็เคยเขียนบล็อกรีวิวเที่ยวอยุธยามาแล้วค่ะ แต่มาบล็อกนี้ จัดพิเศษ ขอมา Rewrite บล็อกอีกครั้ง น่าจะช่วยดึงดูดเหล่านักท่องเที่ยว แวะไปปั่นจักรยานเดินสะพร่างตามแหล่งท่องเที่ยว ทำให้เศรษฐกิจในเมืองนี้คึกคักไม่น้อยค่ะ
แผนที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอยุธยาในแต่ละแห่งค่ะ แต่ละแห่งก็อยู่ไม่ไกลกันนัก ปั่นจักรยานออกกำลังขาไปได้จ้า
สำหรับใครที่จะไปเที่ยวอยุธยาในช่วงเสาร์อาทิตย์ แนะนำไม่อยากให้นำรถส่วนตัวมาเที่ยว เพราะรถราติดขัดมากๆ แนะนำให้จอดไว้ที่บ้าน หรือตามโรงแรม และปั่นจักรยานเอาค่ะ และที่ขาดไม่ได้หากจะแวะเที่ยวอยุธยาให้สนุก อย่าลืมดังต่อไปนี้ค่ะ :
 
- เช่าจักยานปั่นออกกำลังกายได้ในราคาคันละ 50 บาท เช่าปั่นได้ตั้งแต่เช้า ยันเย็นเลยจ้า

- พกน้ำดื่มไปด้วยนะค่ะ จะได้แก้กระหาย
- พกร่ม หรือเสื้อกันฝนไปด้วยก็ดี เผื่อฝนตกโปรยปราย ส่วนร่มก็กันแดดและฝนได้ด้วย
- พกกล้องถ่ายรูปสวยๆ หรือมือถือมีแอ๊ปแต่งภาพแบบเริ่ดไปด้วยได้ก็ดี จะได้ถ่ายรูปไปอวดในไอจง ไอจีได้ทันเพลา
- ยาดม ยาอม ยาหม่อง เผื่อวินเวียนเศียรเกล้า เป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาจะได้แก้ทัน
- พัดสวยๆช่วยคลายร้อน และเป็นอุปกรณ์เสริมความงามช่วงถ่ายภาพให้เข้ากับบรรยากาศ
- แว่นตากันแดดแบบเรียบเก๋
- ถ้าจะให้ดี แต่งชุดไทยห่มสใบเฉียงด้วยได้ยิ่งดีเริ่ดสะแมนแตนค่ะ (ถ้าไม่ชุดไทย ก็ชุดที่สุภาพเรียบร้อย ไม่นุ่งสั้น ห่มน้อยไปอวดอ้อยเรือนร่างตามโบราณสถาน เพราะถือไม่ให้เกียรติสถานที่ค่ะ)



ส่วนจะไปปั่นจักรยานแวะที่ใหนบ้างนั้น วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอขอเป็นบ้าขอแนะนำ 10 โบราณสถานแห่งเมืองอยุธยา ให้ท่านแวะไปลั๊ลลาและตามรอยศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์กันค่ะ


1.วัดมหาธาตุ (Wat Mahathat)
1.วัดมหาธาตุ (Wat Mahathat) เศียรพระพุทธรูปในวัดมหาธาตุ
  1.วัดมหาธาตุ เป็นวัดนี้มีชื่อเสียงจาก เศียรพระพุทธรูปหน้าวิหารเล็กที่ปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่มานานหลายร้อยปี ทำให้ใครก็แล้วแต่ที่ได้เห็น ต่างก็ตะลึงงึงงัน อัศจรรย์ใจยิ่งนัก เพราะมีความขลัง ลึกลับน่าค้นหา เหมือนมีอะไรบางอย่างซ้อนอยู่ ทำให้นักเดินทางที่มาเที่ยวต่างก็อยากเรียนรู้อยุธยามากขึ้น ยิ่งโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้เห็นภาพเศียรพระพุทธรูปตามเว็ปไซต์ท่องเที่ยวต่างๆแล้ว ต่างก็อยากมาเยือนเห็นสักครั้งให้เป็นบุญตา....ไม่น่าเชื่อเลยนะค่ะว่า แค่เศียรพระองค์เดียว สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ทั่วทุกมุมโลกเลย และเศียรพระพุทธรูปองค์นี้ ยังขึ้นปกนิตยสารท่องเที่ยวทั้่งในประเทศ และต่างประเทศมาแล้วหลายร้อยหลายพันเล่มเลยทีเดียวค่ะ  หากใครมาเที่ยวอยุธยาครั้งแรก ต้องไม่พลาดแวะมาชมโบราณสถานแห่งนี้


แท้จริงแล้ว วัดนี้มีประวัติศาสตร์และความสำคัญต่อกรุงศรีอยุธยาไม่น้อยทีเดียว ....


วัดมหาธาตุเป็นวัดที่เก่าแก่และมีประวัติที่ไม่แน่ชัด บางบอกปี พ.ศ. 1917 บางบอกปี พ.ศ. 1927 อย่างไรก็ตาม ได้ใช้เวลาก่อสร้างไปเป็นจำนวนมากในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม พระปรางค์เคยพังลงมาเกือบครึ่งองค์ถึงชั้นครุฑ ปรางค์ของวัดเดิมสร้างด้วยศิลาแลง แต่จะด้วยเหตุผลประการใดไม่ทราบ จึงยังมิได้ซ่อมแซมให้คืนดีดังเดิมในรัชกาลนั้น ต่อมาสมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงบูรณะใหม่ รวมเป็นความสูง 25 วา แต่ก็ได้พังทลายลงมาอีกรอบในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนำกำลังทหารไปช่วยกันสร้างยอดพระปรางค์ด้วยไม้สักและได้สถาปนาให้เป็นพระปรางค์ประจำชาติ และพระปรางค์วัดมหาธาตุก็ยังคงอยู่ที่นั้นตลอด


เป็นหนึ่งในวัดในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา วัดมหาธาตุเป็นวัดที่มีความสำคัญยิ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา เพราะเป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร และเป็นที่พำนักของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสีอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงได้รับการก่อสร้างและดูแลตลอดเวลาจวบจนถูกทำลายลงหลังเสียกรุงครั้งที่ 2
เครดิตข้อมูลดีจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/วัดมหาธาตุ



2.วัดราชบูรณะ
2.วัดราชบูรณะ
2.วัดราชบูรณะ วัดที่โด่งดังและมีชื่อเสียงจากการลักลอบขุดกรุพระเครื่องในองค์พระปรางค์ การค้นพบกรุเมื่อปี พ.ศ. 2499 เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ ปีถัดมาทำให้มีขโมยกลุ่มใหญ่ลักลอบมาขุดกรุวัดราชบูรณะ พบเครื่องทองและอัญมณีจำนวนมาก แต่ทว่าฝนตกหนักและรีบเร่งกลุ่มขโมยจึงขนของไปไม่หมด เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาไม่กี่วันก็จับและยึดของกลางได้บางส่วน หลังจากนั้นกรมศิลปากรได้เข้ามาขุด ปรากฏว่าพบสิ่งของกว่า 2000 รายการ พระพิมพ์กว่า แสนองค์ ทองคำหนักกว่า 100 กิโลกรัม ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา

วัดราชบูรณะสร้างขึ้นในรัชสมัยของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ในบริเวณพื้นที่และตำแหน่งเดิมที่พระองค์ได้ทรงถวายพระเพลิงศพให้กับเจ้าอ้ายพระยาและเจ้ายี่พระยา พระเชษฐาทั้งสองพระองค์ที่สิ้นพระชนม์ภายในหลังจากการกระทำยุทธหัตถี เพื่อแย่งชิงราชสมบัติของสมเด็จพระนครอินทราธิราชพระราชบิดาที่เสด็จสวรรคตลงในปี พ.ศ. 1967

เมื่อครั้งที่สมเด็จพระนครอินทราธิราช เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 6 แห่งกรุงศรีอยุธยา และพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิ โปรดเกล้าให้พระราชโอรสของพระองค์ทั้ง 3 พระองค์ได้แก่ เจ้าอ้ายพระยา เจ้ายี่พระยาและเจ้าสามพระยา แยกย้ายกันปกครองหัวเมืองต่าง ๆ โดยทรงมอบหมายให้เจ้าอ้ายพระยา พระราชโอรสองค์ใหญ่ปกครองเมืองสุพรรณบุรี เจ้ายี่พระยา พระราชโอรสองค์กลางปกครองเมืองแพรกศรีราชา และเจ้าสามพระยาพระราชโอรสองค์เล็ก ปกครองเมืองชัยนาท (พิษณุโลก)

และในปี พ.ศ. 1967 สมเด็จพระนครินทราธิราชเสด็จสวรรคต โดยที่ยังมิได้สถาปนาพระมหาอุปราชผู้เป็นรัชทายาทครอบครองกรุงศรีอยุธยา เมื่อเจ้าอ้ายพระยากับเจ้ายี่พระยาทราบข่าวการสวรรคต จึงยกกองทัพเข้ากรุง เพื่อชิงราชสมบัติสืบแทนพระราชบิดา ทั้งสองพระองค์ยกทัพมาเวลาเดียวกันพอดี เจ้าอ้ายพระยาตั้งทัพอยู่ใกล้วัดพลับพลาไชย ป่ามะพร้าว เจ้ายี่พระยาตั้งทัพอยู่ใกล้วัดชัยภูมิ ป่ามะพร้าว แล้วทั้งสองพระองค์ก็เคลื่อนทัพเข้าสู้กัน บริเวณสะพานป่าถ่านในปัจจุบัน ทั้ง 2 พระองค์ทรงพระแสงของ้าวฟันต้องพระศอขาดพร้อมกันทำให้สวรรคตพร้อมๆกัน เจ้าสามพระยาซึ่งไม่ได้มาร่วมด้วย จึงเสด็จจากเมืองชัยนาท ขึ้นครองราชย์ในกรุงศรีอยุธยา แทนพระราชบิดาทันที มีพระนามว่า สมเด็จพระบรมราชาธิราช ที่ 2 เมื่อเจ้าสามพระยาทรงขึ้นครองราชย์แล้ว จึงจัดการถวายเพลิงพระศพ พระเชษฐาธิราชทั้งสองพระองค์พร้อมกัน สถานที่ที่ถวายพระเพลิงนั้น ก็ทรงอุทิศสร้างพระปรางค์และพระวิหาร มีนามว่า เจดีย์เจ้าอ้ายพระยาเจ้ายี่พระยา
เครดิตข้อมูลดีจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/วัดราชบูรณะ



3.วัดพระศรีสรรเพชญ
3.วัดพระศรีสรรเพชญ
3.วัดพระศรีสรรเพชญ วัดสวยงามกับเจดีย์ทรงลังกา 3 องค์ใหญ่โตอลังการ สะดุดตาแก่นักเดินทางที่มาพบเห็น...วัดพระศรีสรรเพชญ์ หรือ วัดพระศรีสรรเพชญ เป็นอดีตวัดหลวงประจำพระราชวังโบราณ อยุธยา ตั้งอยู่ที่ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทางทิศเหนือของวิหารพระมงคลบพิตรในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา สร้างชึ้นราวปี พ.ศ. 1991 โดยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ

วัดพระศรีสรรเพชญ์ มีจุดที่น่าสนใจที่สำคัญคือเจดีย์ทรงลังกา จำนวนสามองค์ที่วางตัวเรียงยาวตลอดทิศตะวันออกและทิศตะวันตก สร้างขึ้นเป็นองค์แรกทางฝั่งตะวันออก เมื่อปี พ.ศ. 2035 โดยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 เพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (พระราชบิดา) ต่อมาในปี พ.ศ. 2042 ก็ทรงให้สร้างเจดีย์องค์ต่อมา (องค์กลาง) ของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 (พระเชษฐาต่างพระมารดาของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2) และเจดีย์ฝั่งตะวันตกของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 และในรัชสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 ก็ทรงสร้างเจดีย์อีกองค์ในฝั่งทิศตะวันตกให้ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 พระราชบิดา รวมเป็นสามองค์ตามปัจจุบัน

วัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดประจำวังที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา แตกต่างจากวัดมหาธาตุ สุโขทัย ที่มีพระสงฆ์จำพรรษา จึงกลายเป็นต้นแบบของ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ในเวลาต่อมา
เครดิตข้อมูลดีจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/วัดพระศรีสรรเพชญ์



4.วัดหน้าพระเม
4.วัดหน้าพระเม
4.วัดหน้าพระเมรุ ถือเป็นวัดและโบราณสถานแห่งเดียวในอยุธยาที่ไม่โดนพม่าเผ่าทำลายเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2  และยังคงความงามแบบไทยแท้ ทั้งสถาปัตยกรรมและพระพุทธรูปประทานทรงเครื่องขนาดใหญ่ในพระอุโบสถไว้ได้ยาวนานหลายร้อยปี

วัดหน้าพระเมรุ ตั้งอยู่ที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ริมคลองสระบัวด้านเหนือของคูเมือง (แม่น้ำลพบุรีเก่า) ตรงข้ามกับพระราชวังหลวง มีชื่อเดิมว่า "วัดพระเมรุราชการาม" แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างในสมัยใด พิจารณาได้ว่า น่าจะเป็นวัดสร้างขึ้นตรงที่ถวายพระเพลิงกษัตริย์องค์ใดองค์หนึ่งต้นสมัยอยุธยา เป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ถูกพม่าทำลาย และยังคงสภาพที่ดีมาก เพราะพม่าได้ไปตั้งกองบัญชาการอยู่ที่วัดนี้ พระอุโบสถเป็นแบบอยุธยาซึ่งมีเสาอยู่ภายใน แต่น่าจะมาเพิ่มเสารับชายคาที่หลังในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระประธานในอุโบสถซึ่งสร้างปลายสมัยอยุธยา เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องหล่อสำริดขนาดใหญ่ ด้านหลังพระอุโบสถยังมีอีกองค์หนึ่งแต่เล็กกว่า คือ พระศรีอริยเมตไตรย์

สิ่งสำคัญที่ปรากฏภายในวัดนี้ คือ พระอุโบสถและพระพุทธรูปประธานทรงเครื่องใหญ่ ซึ่งคงสร้างขึ้นราวรัชกาลของพระเจ้าปราสาททอง หน้าบันของพระอุโบสถเป็นไม้แกะสลักปิดทองที่แสดงรูปพระนารายณ์ทรงครุฑแวดล้อมด้วยเหล่าเทวดา คติดังกล่าวเป็นที่นิยมในสมัยโบราณที่ถือว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นสมมติเทพ คือเป็นพระนารายณ์อวตาร ดังนั้น หน้าบันของโบสถ์ วิหาร หรือปราสาทราชวังที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างหรือทรงบูรณะก็มักจะทำรูปพระนารายณ์ทรงครุฑเป็นสำคัญ อันมีความหมายว่าวัดแห่งนี้เป็นพระอารามหลวง
เครดิตข้อมูลดีจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/วัดหน้าพระเมรุ



5.วัดพนัญเชิงราชวรวิหาร
5.วัดพนัญเชิงราชวรวิหาร
5.วัดพนัญเชิงราชวรวิหาร วัดเด่นและวัดดังอยู่ติดริมแม่น้ำและเป็นวัดที่ชาวอยุธยาให้ความเคารพและศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างมาก หากใครได้แวะมาเยือนอยุธยาครั้งแรก ต้องไม่พลาดแวะมากราบกรานและทำบุญห่มผ้าหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงไปทั่วทั้งโลกา แม้แต่ฝรั่งที่ได้มาแล้วยังต้องอัศจรรย์ใจกับความใหญ่โตขององค์พระพุทธรูปสีทองผุดผ่องอำไพ อยู่ในวิหารที่มีผู้คนมากราบไหว้อย่างไม่ขาดสาย

วัดพนัญเชิง เป็นวัดที่มีประวัติอันยาวนาน ก่อสร้างก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา และไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง ตามหนังสือพงศาวดารเหนือกล่าวว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้งเป็นผู้สร้าง และพระราชทานนามว่า วัดเจ้าพระนางเชิง[ต้องการอ้างอิง] และพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์กล่าวไว้ว่า ได้สถาปนาพระพุทธรูปพุทธเจ้าพแนงเชิง เมื่อปี พ.ศ. 1867 ซึ่งก่อนพระเจ้าอู่ทองจะสถาปนากรุงศรีอยุธยาถึง 26 ปี

พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ และใหญ่ที่สุดในพระนครศรีอยุธยา หน้าตักกว้าง 20 เมตรเศษ สูง 19 เมตร เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย เคยได้รับความเสียหายในสมัยเสียกรุง แต่ก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอด จนกระทั่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ พ.ศ. 2394 ได้โปรดเกล้าให้บูรณะใหม่หมดทั้งองค์ และพระราชทานนามใหม่ว่า พระพุทธไตรรัตนนายก หรือที่รู้จักกันในหมู่พุทธศาสนิกชนชาวไทยเชื้อสายจีนว่า หลวงพ่อซำปอกง
เครดิตข้อมูลดีจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/วัดพนัญเชิงวรวิหาร


6.วัดใหญ่ชัยมงคล
6.วัดใหญ่ชัยมงคล จุดเด่นของวัดได้แก่เจดีย์องค์ใหญ่ที่เชื่อกันว่า ได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ภายในได้มีการค้นพบชัยมงคลคาถาบรรจุอยู่ ภายในพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคล พระประธานที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด นอกจากนี้แล้ว ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2544 อีกด้วย

สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1900 เป็นที่พำนักของพระภิกษุคณะป่าแก้ว ซึ่งมี สมเด็จพระวันรัตน์เป็นประธานสงฆ์ จึงได้ชื่อว่า วัดเจ้าพระยาไทยคณะป่าแก้ว  สันนิษฐานว่าเป็นที่กระทำการเสี่ยงเทียน ในคราวก่อนที่พระเฑียรราชาจะทรงปราบดาภิเษก ยึดอำนาจจากขุนวรวงศาธิราชและท้าวศรีสุดาจันทร์

ในรัชกาลของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นที่พำนักของ สมเด็จพระวันรัตน์ ผู้เป็นพระเถระที่สมเด็จพระนเรศวรทรงให้ความเคารพ ในคราวที่ทรงกระทำยุทธหัตถี ชนะพระมหาอุปราชของหงสาวดี สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงพระพิโรธต่อบรรดาแม่ทัพนายกองที่ตามทัพไม่ทัน ทรงดำริจะลงพระราชอาญาประหารชีวิต แต่สมเด็จพระวันรัตน์ได้ทูลขอพระราชทานชีวิตของแม่ทัพนายกองเหล่านั้นไว้ โดยยกเอาพุทธประวัติตอนที่เจ้าชายสิทธัตถะบำเพ็ญเพียรอยู่ใต้ต้นโพธิ์ ก่อนที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ต้องผจญมารอยู่โดยลำพัง เปรียบเสมือนกับสมเด็จพระนเรศวรที่ต้องทรงกระทำยุทธหัตถีโดยลำพัง และได้ทูลแนะนำให้ทรงสร้างเจดีย์ใหญ่ขึ้นแทนการประหารชีวิต สมเด็จพระนเรศวรทรงเห็นด้วยและทรงให้สร้างพระเจดีย์ใหญ่ขึ้น ชื่อว่า "พระเจดีย์ชัยมงคล" ประมาณ พ.ศ. 2135 มีความสูง 1 เส้น 1 วา เป็นเจดีย์ ที่สูงที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาจนทุกวันนี้
เครดิตข้อมูลดีจาก :https://th.wikipedia.org/wiki/วัดใหญ่ชัยมงคล 



7.วัดไชยวัฒนาราม
7.วัดไชยวัฒนาราม
7.วัดไชยวัฒนาราม : วัดเด่นวัดดังที่ปังสุด ณ ตอนนี้คงต้องยกให้ วัดไชยวัฒนารามที่ใครก็แล้วแต่ ไปเที่ยวอยุธยา ต้องแวะไปตามรอยกันแทบทุกคน แม้แต่คนอยุธยายังต้องแวะไปลั๊ลลากันให้ได้เลยค่ะ ด้วยเป็นวัดที่มีความสวยงาม ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานอีกด้วย

เดิมเป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านป้อม อำเภอเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทางฝั่งตะวันตกนอกเกาะเมือง[1]วัดไชยวัฒนารามเป็นวัดสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททอง พ.ศ. 2173 โดยเดิมบริเวณที่ตั้งของวัดแห่งนี้เคยเป็นที่อยู่ของพระราชมารดาที่ได้สิ้นพระชนม์ไปก่อน ที่พระเจ้าปราสาททองได้เสวยราชสมบัติเป็นกษัตริย์ เมื่อพระองค์ได้เสวยราชสมบัติ พระองค์จึงได้สร้างวัดไชยวัฒนารามขึ้นเพื่ออุทิศผลบุญนี้ให้กับพระราชมารดาของพระองค์ และอีกประการหนึ่งวัดนี้อาจถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือเขมรด้วย จึงทำให้มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมส่วนหนึ่งมาจากปราสาทนครวัด

ก่อนกรุงแตก พ.ศ. 2310 วัดไชยวัฒนารามถูกแปลงเป็นค่ายตั้งรับศึก หลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง วัดไชยวัฒนารามได้ถูกปล่อยทิ้งให้ร้างเรื่อยมา บางครั้งมีผู้ร้ายเข้าไปลักลอบขุดหาสมบัติ เศียรพระพุทธรูปถูกตัดขโมย มีการรื้ออิฐที่พระอุโบสถ และกำแพงวัดไปขาย แต่ในปี พ.ศ. 2530 กรมศิลปากรจึงได้เข้ามาอนุรักษ์จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2535
เครดิตข้อมูลดีจาก :https://th.wikipedia.org/wiki/วัดไชยวัฒนาราม



และปล.อย่าลืมแวะไปชมโบราณวัตถุและเรียนรู้เพิ่มที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเจ้าสามพระยานะค่ะ รับรองได้ความรู้กลับไปอย่างแน่นอนค่ะ
และปล.อย่าลืมแวะไปชมโบราณวัตถุและเรียนรู้เพิ่มที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเจ้าสามพระยานะค่ะ รับรองได้ความรู้กลับไปอย่างแน่นอนค่ะ

และท้ายสุด สุดท้ายนี้ ดิฉันคุณนายเว่อร์ ก็ขอเรียนเชิญน้องพี่ ท่านได้ที่ยังไม่จรลี มาฉิมพลีที่เมืองอยุธยา ขอเชิญแวะกันมาเที่ยวสักครั้งครานะค่ะ หรือใครที่เคยมาเที่ยวแล้ว ก็มาเที่ยวอีก ยังมีแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานอีกหลายแห่งให้ได้เดินชม นอกจากนี้ยังมีอาหารรสเด็ด ไม่ว่าจะเป็นกุ้งแม่น้ำรสแซ่บ หรือก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ด และของฝากอย่างโรตีสายไหม ก็อร่อยเริ่ดไฉไลให้เลือกซื้อเลือกหากันอีกด้วยค่ะ...มาเที่ยวกันให้นะค่ะ

สำหรับบล็อกบทความนี้ ก็ขอจบเพียงเท่านี้ ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วยค่ะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆคนที่เข้ามาสไลด์ดูภาพกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะค่ะ
จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน

---------------------------------------------------
รวมบทความบล็อกเที่ยวเดือนละ 1 ครั้ง มีดังนี้ค่ะ(จะทยอยอัพเดทเรื่อยๆ เว็ปบล็อกจะได้ไม่ร้างไปค่ะ) 

แนะนำข้อมูลที่พักในอำเภอวังน้อย ราคาถูกสุดๆ หลักร้อย คลิ๊กดูรายชื่อที่พักค่ะ>>
รวมข้อมูลที่พักอำเภอวังน้อย ราคาถูกหลักร้อย หอพักรายเดือน ห้องเช่ารายวัน ราคาไม่แพง มีที่จอดรถสะดวก คลิ๊กดูรายชื่อที่พัก+เบอร์โทรติดต่อค่ะ>>

รีวิวแบกเป้เที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิกอีกครั้ง ไปดูสิว่ายังสวยปังอยู่ใหม๊ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบกเป้เที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิกอีกครั้ง มาดูสิว่ายังสวยงาม อลังปังอยู่ใหม๊ มีที่เที่ยวใหม่ๆอะไรบ้าง ไปดูสิ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>
รีวิวแบกเป้ลุเดี่ยว มาเน้อมาเที่ยวเมืองแพร่ แลยลชมธรรมชาติ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบกเป้ลุยเดี่ยว มาเน้อเจ้า...มาเที่ยวเมืองแพร่ เดินแลงานยี่เป็ง แวะไปชมพระธาตุดอยเล็ง วิวสวยเจ๋งงามเริ่ดสะแมนแตน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางจ้า>>

แบกเป้ลุยเดี่ยว เที่ยวเมืองโคราช กินหมี่รสชาติแซ่บๆกันจ้า คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวท่องอีสานใต้ตอนที่ 1 มาเด้อ..มาเที่ยวเมืองโคราช กินหมี่รสแซ่บอีหลี แสนสุขขีแวะทำบุญสุนทาน ร้าวรานจับใจ มาเที่ยวกันได้เลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>>

รีิวิวเที่ยวเมืองลพบุรี เดินยวลยีชมวังเก่า เคล้าความหลัง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>
รีวิวเที่ยวเมืองลพบุรี เดินยวลยีชมวังเก่า เคล้าความหลังครั้งวันวาน งามอลังการยิ่งนักเอย คลิ๊กดูภาพและรีวิวบทความค่ะ>>
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/7ZB3pt

รีวิวท่องเที่ยวเดือน สิงหาคม 2560 รีวิวเที่ยวเมืองเก่าอยุธยา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวอยุธยาครึ่งวัน ขี่จักรยานสุขสันต์ตามโบราณสถาน ย้อนวันวานภูมิหลัง งามอลังการชนะเลิศเว่อร์ คลิ๊กดูภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>> 
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์: https://goo.gl/df15Xi

อัพเดท ที่พักอยุธยา บ้านเป็นหลัง สำหรับครอบครัว คลิ๊กดูรายชื่อที่พักค่ะ>>
ขอแนะนำที่พักอยุธยา ราคาประหยัด แนวบ้านเป็นหลัง เน้นสำหรับครอบครัวนอนพักกันหลายคน คลิ๊กดูรายชื่อที่พัก+เบอร์โทรติดต่อค่ะ>>
หรือดูรายละเอียดข้อมูลที่พักได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/1YEJZt


รีวิวท่องเที่ยวประจำเดือนเมษายน ล่องเรือไหว้แม่น้ำเจ้าพระยา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>
รีวิวเที่ยวกรุงเทพ 1 วัน เสพสุขสันต์เย็นซ่า ล่องเรือไหว้พระตามลำน้ำเจ้าพระยา สุขอุราชื่นบานยิ่งนักเอย คลิ๊กดูภาพและบทความรีวิวค่ะ>>>
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/HrLddq


จัดมารีวิวเที่ยวสัตหีบ 2 วัน 1 คืน เดือน มี.ค.61 ไปที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>
บล็อกรีวิวเที่ยวประจำเดือน มี.ค.61 แวะเที่ยวสัตหีบ ไปนอนงีบที่เกาะแสมสาร ทะเลสวยหวาน ร้าวรานจับใจ คลิ๊กดูภาพและรายละเอียดรีวิวค่ะ>> 
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/YV4FbW


รีวิวเที่ยวกาฬสินธุ์ ฟินคั๊กหลายๆ ก.พ.2018 ตอนที่ 2 คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวกาฬสินธุ์ เดือน ก.พ.61 เยือนถิ่นไดโนเสาร์ นอนคลอเคล้าที่เขื่อนลำปาว สวยสกาวคั๊กอีหลีเด้อ คลิ๊กดูภาพและรายละเอียดรีวิวค่ะ>> 
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/CSYvaB


รีวิวเที่ยวร้อยเอ็ด งามเด็ดอีหลีเด้อ ก.พ.2018 ตอนที่ 1 คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวเมืองร้อยเอ็ด เดือน ก.พ.61 เช่ามอเตอร์ไซต์ขับไปทำบุญสุนทาน สุดอลังการพระสูงใหญ่ คลิ๊กดูภาพและรายละเอียดรีวิวค่ะ>> 
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/igFAoe  

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น