Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

มาเด้อ..มาเที่ยวเมืองโคราช เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับใน 1 วัน สุขสันต์บานฉ่ำ แวะทำบุญทำทาน ร้าวรานจับใจ กับรีวิวท่องอีสานใต้ตอนที่ 1

สำหรับรีวิวประจำเดือนนี้ คุณนายเว่อร์ เธอขอเป็นคนบ้า แบกเป้ลุยเดี่ยวท่องอีสานใต้ เช่ามอเตอร์ไซต์ตะลุยแดนอารยธรรม สำราญจับใจ
ก็ขอสวัสดีทักทายซำบายดีกับเพื่อนๆคุณผู้อ่านผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น เริ่ดสะแมนแตนเที่ยวทั่วไทยไปไกลทั่วทีปทั่วแดนอีกเหมือนเดิมจ้า หลังกจากที่รีวิวเมื่อเดือนที่แล้ว ดิฉันคุณนายเว่อร์ ได้เป็นคนบ้า ไปเลาะย่ำเที่ยวยังภาคใต้มาแล้ว พอย่างกรายเข้าสู่เดือนนี้ ดิฉันไม่รู้จะวางแผนไปใหนดี พอดีมีเหล่าเพื่อนๆของดิฉัน ได้กริ๊งกร๊างโทรศัพท์ และส่งไลน์มาให้ บอกว่าให้ดิฉันแวะไปเที่ยวยังภาคอีสานใต้สักครั้งสิ เพราะจำได้ว่าเคยมาเยือนอีสานใต้เมื่อหลายปีมาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เลาะเที่ยวอะไรมากมายนัก


พอมาเดือนนี้ ดิฉันคุณนายเว่อร์ เลยมีความประสงค์จงใจ อยากจะเป็นคนบ้า แบกเป้ลุยเดี่ยว แวะเที่ยวตามฉบับตัวเองดูอีกสักครั้ง โดยการเดินทางในครั้งนี้ ดิฉันเลือกปักหมุด หยุดกาลเวลา มาลั๊ลลา เที่ยวในตัวเมืองโคราชสักครั้ง เพราะเมื่อหลายปีก่อนนานโขแล้วค่ะ อย่าให้ดิฉันเอ่ยถึงปี พ.ศ.เลยนะคะ เดี่ยวจะว่าอิชั้นเป็นมนุษย์ป้าอัลไซเมอร์สมองเบลอไป รู้สึกมาคราวก่อนนั้น ดิฉันมาทำงาน ซึ่งอารมณ์ของคนทำงาน ก็จะไม่อยากเที่ยวนะคะ เพราะต้องสะส่างงานให้แล้วเสร็จๆจบไป แต่พอมาตอนนี้นึกเกิดจะเป็นคนบ้า มีอารมณ์สุนทรีย์อะไรอยากเที่ยวเมืองโคราชขึ้นมาซ่ะงั้น ดิฉันเลยจัดทริปเลาะเที่ยวยังอีสานใต้รอบเดียว เที่ยวหลายๆจังหวัดไปเลยจ้า



ว่ากันว่าหากใครก็แล้วแต่ที่จะเดินทางมายังภาคอีสาน ต้องผ่านเมืองโคราช หรือชื่อเต็มเมืองนครราชสีมาอย่างแน่นอนนะคะ ถือว่าเป็นประตูสู่ภาคอีสาน ที่เป็นเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดติดอันดับประเทศเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดตาและตราตรึงใจประทับซึ่งอยู่ในห้วง ดั่งดวงหฤทัย ให้ไปยลโฉมประโลมความงามอยู่หลากหลายแห่งเลยทีเดียวเชียวล่ะ ถ้าไม่นับรวมที่เที่ยวในเขาใหญ่แล้ว ดิฉันมีคิดเห็นว่า เมืองโคราชก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มิใช่น้อยเลยนะคะ



หลายคนที่เคยเยือนเมืองโคราช ก็แค่แวะผ่านๆ ไม่ค่อยจะพิศวาสอะไรเมืองนี้มากนัก เพราะคิดว่าไม่มีอะไรจะเที่ยว แต่จริงๆแล้ว ในเมืองโคราชปุรีนคร อรชร อ๊อนแอ๊นแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเช็คอินน์ให้ฟินกระจาย สะหยายผมโป่ง เชื่อมโยงอดีตกาลและปัจจุบัน อยากให้ทุกท่านหันมาเที่ยวในตัวเมืองโคราชกันครั้ง เดี๊ยนรับรองว่าสวยปังอลังการสะท้านโลกา ชื่นช่ำอุราถึงทรวงในอย่างแน่นอน


เอาล่ะค่ะเพื่อไม่ให้เสียเวลา กับการพร่ำเพร้อพรรณาไปมากกว่านี้ ดิฉันคุณนายเว่อร์ ก็ขอมาเป็นคนบ้า เลิกจากงานประจำเสร็จแล้ว ก็ขอมาแบ่งปัน เขียนรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวเมืองโคราช โดยการเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับเที่ยวในเมืองนี้ให้เพื่อนๆคุณผู้อ่านที่ยังไม่เคยมาเที่ยวเมืองโคราช ได้แวะมายลตระการกันสักครั้งได้ดูกัน มาดูสิว่ามีเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปกันเลย


ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหา เรามารู้จักเมืองโคราชให้มากกว่านี้กันสักหน่อยนะคะ
เมืองโคราชในปัจจุบันอันรุ่งเรืองเฟื่องฟุ้ง ฟรุ้งฟรุ้งสวิงริงโก้ ยังคงกลิ่นไอของบ้านเรือนไม้เก่าแก่ให้แลชมอย่างน่าอภิรมย์สมใจ
อำเภอเมืองนครราชสีมามี ชื่อเรียกตามความถนัดของชาวพื้นเมืองว่า "โคราช" เรียกตามภาษาราชการว่า "เมืองนครราชสีมา" เหตุที่เรียก 2 ชื่อ ด้วยปรากฏว่าตามหลักฐานโบราณคดีเรื่องงานข้างต้นวินิจฉัยชื่อเมืองนครราชสีมาว่า ก่อนที่จะสร้างขึ้นในสถานที่ปัจจุบัน เดิมมีเมืองโบราณอยู่ 2 เมือง ซึ่งอยู่ทางขวาของลำตะคอง ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอสูงเนิน เมืองที่หนึ่งอยู่ทางฝั่งซ้ายของลำตะคองมีชื่อเรียกว่า เมืองโคราช จากหลักฐานที่ได้สำรวจพบว่าในบริเวณเมืองทั้งสอง เมืองเสมาสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ ต่อมาได้ข้ามมาสร้างเมืองโคราชขึ้นอีกเป็นเมืองใหม่ ทิ้งเมืองเสมาให้เป็นเมืองร้างในที่สุด


คำขวัญเก่าในอดีตของเมืองโคราช
คำขวัญเก่าในอดีตของเมืองโคราช
โคราชลือเลื่อง เมืองก่อนเก่า นกเขาคารม อ้อยคันร่ม ส้มขี้ม้า ผ้าหางกระรอก


ส่วนคำขวัญปัจจุบัน


เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน


ภาพเมืองโคราชในอดีตอันนานนม ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี
ชื่อเมืองโคราช น่าจะเพี้ยนมาจากชื่อเมือง "นครราช" ในภาษาเขมร และไม่น่านำมาจากชื่อเมือง "โคราฆะปุระ" ในมัชฌิมประเทศ เนื่องจากเมืองโคราฆะปุระเป็นเมืองที่สร้างขึ้นในอินเดีย ราวคริสต์ศตวรรษที่ 13 ซึ่งมีอายุน้อยกว่าอารยธรรมขอม-ทวาราวดีของเมืองเสมามาก 

และต่อมาสมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้ทรงย้ายเมืองโคราชและเมืองเสมามาสร้างในที่ตั้งปัจจุบัน และตั้งชื่อใหม่ว่า เมืองนครราชสีมา เมืองที่สร้างขึ้นใหม่นี้เป็นเมืองหน้าด่าน มีคูล้อมรอบและมีประตูเมือง 4 ประตู
เครดิดข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/อำเภอเมืองนครราชสีมา



นามเมือง นครราชสีมา ปรากฎหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ในกฎมณเฑียรบาลที่ตราขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ มีฐานะเป็นหนึ่งในเมืองพระยามหานคร 8 เมือง ซึ่งต้องถือน้ำพิพิฒน์สัตยา


ประตูเมืองเก่าในอดีตของเมืองโคราช


เมืองนครราชสีมาเป็นหัวเมืองสำคัญของกรุงศรีอยุธยามาโดยตลอด จนกระทั้งในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้ย้ายเมืองนครราชสีมา มาจากอำเภอสูงเนิน มายังที่ตั้งในเมืองนครราชสีมาในปัจจุบัน ซึ่งสันนิษฐานว่า "นครราชสีมา" คือการรวมชื่อเมือง 2 เมือง คือเมืองเสมา และเมืองโคราชปุระไว้ด้วยกัน

ปัจจุบันนครราชสีมา หรือรู้จักในชื่อ โคราช เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทยและมีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เริ่มต้นการเดินทางในครั้งนี้ ดิฉันนั่งรถทัวร์โดยสารจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 มายังเมืองโคราช ตอนแรกกะว่าจะอยากจะนั่งเครื่องบินมาลงที่เมืองนี้สักหน่อย แต่เสียดายสารการบินปิดกิจการไปเสียก่อน ก็เลยไม่ได้มาเจิมสนามบินเมืองโคราชเลยนะคะ

แต่ไม่เป็นไร การเดินมายังเมืองโคราชก็ไม่ได้อยากเย็นแสนเข็ญมากนัก เพราะมีระบบขนส่งสาธารณะทั้ง รถไฟ,รถบัสโดยสารและรถตู้ จะขาดก็เสียแต่เครื่องบินอย่างที่กล่าวไปคะ

หากใครที่จะวางแผนจากกรุงเทพฯมาเมืองโคราช ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะหมดคิวรถ ได้นอนหดตัวปูเสื่อนอนในสถานีขนส่ง เพราะการเดินทางมายังเมืองนี้ ก็มีรถให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงเลยล่ะค่ะ
ส่วนราคารถบัสโดยสารชั้น 1 จากหมอชิต2 ไปยังเมืองโคราช ราคาอยู่ที่ 191 บาทถ้วนค่ะ
ระหว่างเดินทางไปยังภาคอีสาน หากใครที่ใช้ถนนสายมิตรภาพ ยังไง๊ ยังไงก็ต้องขับรถผ่านเขื่อนลำตะคองอย่างแน่นอน
 ผ่านเขื่อนลำตะคอง เขื่อนขนาดใหญ่ กลายเป็นจุดแวะพักชมวิวทิวทัศนียภาพของเหล่านักเดินทางจากทั่วสารทิศ
หลังจากที่ใช้เวลาเดินทางด้วยรถบัสโดยสารจากกรุงเทพใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมงก็ถึงสถานีขนส่งโคราชใหม่ จากนั้นก็นั่งวินจากขนส่ง มายังร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ในตัวเมือง ซึ่งน่าจะห่างจากสถานีขนส่งประมาณ 3 กิโลเมตรได้กระมังค่ะ

สำหรับร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ในเมืองโคราช ก็อยู่ใกล้ๆกับสถานีขนส่งโคราชเก่าเลยค่ะ ดิฉันเห็นมีอยู่ 2  ร้าน ได้แก่ ร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ไดมอนยนต์ และร้านยูโรการช่าง สำหรับร้านมอเตอร์ไซต์ที่ดิฉันตัดสินใจเช่าขับในการเที่ยววันนี้ เลือกร้านยูโรการช่าง เพราะเห็นมีรถมอเตอร์ไซต์เยอะกว่า  หากเพื่อนๆคนใหนที่จะเช่ามอเตอร์ไซต์ขับแบบดิฉัน จะต้องนั่งวินมอเตอร์ไซต์มาประมาณ 40 บาทมาลงที่ร้านเช่ารถใกล้ๆขนส่งสายเก่าเลยจ้า
โดยค่าเช่ารถมอเตอร์ไซต์อยู่ที่วันละ 300 บาท
ค่ามัดจำรถค่อนข้างแพงไปหน่อยค่ะ ตกมัดจำคันละ 5000-6000 บาทเลยทีเดียวค่ะ
ทางร้านจะยึดบัตร ปปช.ของเราไป ส่วนเราก็ใช้ใบขับขี่แทนค่ะ 
หากใครที่จะเช่ารถขับเที่ยวแบบดิฉัน หรือเช่าไปทำธุระปราปรายในตัวเมือง ก็เตรียมเงินมัดจำมาเยอะหน่อยนะคะ
เช่ารถมอเตอร์ไซต์ในเมืองโคราชวันละ 300 บาท
เมื่อได้รถมอเตอร์ไซต์เป็นพาหนะแล้ว ก็ Let's go ขับตะล่อนเที่ยวในเมืองโคราชได้แล้วจ้า แต่อย่าลืมใส่หมวกกันน๊อคด้วยนะคะ เพราะเมืองใหญ่อย่างโคราช รถราเยอะ และตำรวจก็ตรวจจับ ปรับกันแบบจริงๆ ไม่อิงนิยายนะจ๊ะ
จากนั้นดิฉันก็ขับมอเตอร์ไซต์มายังโรงแรมไอซาน่า ซึ่งเป็นที่พักคืนนี้เลยค่ะ ซึ่งกว่าที่ดิฉันจะขับรถมอเตอร์ไซต์หาโรงแรมได้ ก็ทำเอาปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่นาน เนื่องจากเป็นโรงแรมพึ่งเปิดใหม่ไม่กี่เดือนเอง เลยอยากมาลองพักค้างแรมดูสักคืนสิว่า ห้องเป็นอย่างไร บริการเป็นยังไงบ้าง จะได้มาบอกเล่าให้คุณผู้อ่านได้ดูกัน
ทริปนี้ดิฉันตัดสินใจพักค้างแรม 1 คืน ที่โรงแรมไอซาน่า (Asana Hotel)
 เข้ามาเช็คอินน์เข้าพักที่ล็อบบี้ในโรงแรมก็ดูโอ่โถ่งกว้างขวาง ใหญ่โตสวยงาม สมกับราคาและเงินที่จ่ายไป และโรงแรมมีลิฟท์ ไม่ต้องเดินบันใดขึ้นให้เมื่อยขา แถมมี Bell Boy หรือพนักงานบริการยกกระเป๋าให้ด้วย ถือว่ามีมาตรฐานดีทีเดียว
ราคาห้องพักที่โรงแรมไอซาน่า ตกคืนละ 1263 บาทรวมอาหารเช้าค่ะ พักได้ 2 คน ถ้ามาคนเดียวแบบตัวดิฉันก็ราคาเดียวกันนะคะ จะไปขอต่อลดราคากับทางที่พักก็คงไม่ได้นะค่ะ เพราะดูโรงแรมแล้วค่อนข้างมีมาตรฐานทีเดียว ไม่ได้ไก๋ก๋า กะโหลกกะลาเหมือนทริปที่ผ่านๆมานะคะ
มีโคมไฟ ที่วางสัมภาระ มีตู้เซฟนิรภัย ตู้เย็น กาต้มน้ำร้อน ชากาแฟ น้ำดื่มฟรีให้
บรรยยากาศภายในล็อบบี้โรงแรม
เตียงนอนนุ่มกำลังดี ไม่บุ๋มยุบย้วยจนเกินไป

 
สภาพโดยรวมของห้องพักถือว่าดีทีเดียวค่ะ เพราะทุกอย่างใหม่เอี่ยมอ่อง สะอาดสะอ้าน ห้องพักขนาดกว้างขวาง ไม่อึดอัดหรือแคบจนเกินไป มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบ มีระเบียงห้องพัก สัญญาณ WiFi รวดเร็วทันใจ มีชากาแฟในห้องพัก น้ำดื่มฟรี ตู้เย็น ทีวี ที่วางของ มีมุมนั่งทำงานให้ด้วย

 
ห้องน้ำด้านในก็ดีค่ะ กว้างขวางไม่อึดอัด แบ่งเป็นโซนห้องอาบน้ำ และโซนนั่งขี้ต่างหาก ตกแต่งเรียบๆ สะอาด ดูสบายตา สรุปห้องพักให้ผ่านค่ะ แต่ยังไม่รู้ว่าอาหารเช้าจะเป็นอย่างไร เดี่ยวดิฉันจะมาบ้าเขียนรีวิวโรงแรมไอซาน่าแยกออกต่างหากอีกครั้งค่ะ
หลังจากที่ได้เช็คอินน์นำกระเป๋าไปไว้ยังที่โรงแรมไอซาน่าเรียบร้อยแล้วนะค่ะ จากนั้นก็ได้เวลาทานอาหารเที่ยงแล้วค่ะ เพราะเมื่อตอนเช้าทานข้าวต้มไปนิดเดียวเอง

ใหนๆมาถึงเมืองโคราชทั้งที  ยังไงก็ต้องแวะลิ้มลองทานหมี่โคราชสักครั้ง
ว่ากันว่า หากใครที่มาถึงเมืองโคราชแล้ว ไม่ได้ทานหมี่โคราช ถือว่ามาไม่ถึงโคราชนะคะ
โดยร้านที่ดิฉันเลือกมาทานหมี่โคราชนี้ แวะมาทานที่ร้านแมนโร่ ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ชื่อดังประจำเมืองโคราช ที่เปิดมานานมากๆ เลยแวะมาทานสักครั้ง
 ราคาหมี่โคราชที่ร้านแมนโร่ ตกห่อละ 50 บาท ถ้านั่งทานที่ร้านก็ราคาเดี่ยวกันค่ะ
 โดยคนผัดหมี่โคราช ก็เป็นคุณป้าก็เป็นเจ้าของร้านเป็นคนผัดเลยนะคะ น่าจะการันตีรสชาติได้ว่าต้องอร่อยถูกปากแน่ๆ แต่ถ้าใครที่ไม่อยากทานหมี่โคราช ก็มีผัดไทยให้ด้วยนะค่ะ
 ผัดหมี่กำลังผัดโฉ้งเช้งในกระทะร้อนๆ
 สำหรับใครที่ยังไม่เคยทานหมี่โคราช เห็นหน้าตาของหมี่แล้ว ก็คงจะสงสัยว่าแตกต่างกันอย่างไรใช่ใหม๊ค่ะ แต่ลักษณะที่เด่นชัดของหมี่โคราชก็คงจะเป็นเส้นลักษณะแบนๆที่ค่อนข้างเหนียวหนึบ เวลาผัดจะปรุงพริกผง ใส่ไข่ลงไป ทำให้รสชาติเผ็ดซี๊ดอร่อยจี๊ดจนถึงทรวง แบบไม่ต้องปรุงเลยล่ะค่ะ
ของดีหมี่โคราช มาถึงโคราชทั้งที ต้องลิ้มลองผัดหมี่แบบโคราชแท้ๆสักครั้งสิ
แต่ถ้าหากเป็นผัดไทยจะนำเส้นก๋วยเตี๋ยวมาผัด ลักษณะเส้นจะเป็นเส้นสี่เหลี่ยม ผัดใส่ไข่ ไม่มีการใส่พริกผงแต่อย่างใด อันนี้ดิฉันได้ฟังจากคำบอกเล่าของที่ร้านอธิบายให้ฟังค่ะ เลยมาบอกเล่าคุณผู้อ่านให้เข้าใจอีกที

เอาเป็นว่าหากเพื่อนๆคนใหนที่ทัศนาจรมาถึงเมืองโคราช ก็อย่าลืมแวะทานหมี่โคราชนะคะ มีหลายเจ้าให้เลือกทาน รสชาติก็แซ่บๆพอๆกันคะ
ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือลานย่าโม หากใครที่มาโคราชแล้วไม่มาสักการะถือว่ามาไม่ถึงเมืองโคราชนะคะ
หลังจากที่ทานผัดหมี่โคราชอิ่มแล้วนะค่ะ ไม่ไกลนักจากร้านผัดหมี่แมนโร่ ก็ต้องมาสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือคนที่นี้เรียกว่า ย่าโม่ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ที่หากมาเยือนเมืองโคราช นอกจากจะทานหมี่โคราชแล้ว ต้องไม่พลาดมาสักกาะสักครั้ง
 
ว่ากันว่าหากใครก็แล้วต้อง ที่แวะมาที่เมืองโคราช ต้องมาสักการะย่าโม่ทุกครั้ง หากไม่มาถือว่ามาไม่ถึงเลยนะคะ เพราะเป็นจุดเช็คอินน์และเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองหน้าด่านของประตูสู่ภาคอีสานแห่งนี้

 
สาระน่ารู้เกี่ยวกับท้าวสุรนารี อ่านกันเป็นความรู้ค่ะ


เกี่ยวกับท้าวสุรนารี อ่านกันเป็นความรู้ค่ะ

ท้าวสุรนารี หรือ คุณหญิงโม (ต้นฉบับว่า ท่านผู้หญิงโม้) นิยมเรียกว่า ย่าโม (พ.ศ. 2314 — พ.ศ. 2395) เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ไทยในฐานะวีรสตรีมีส่วนกอบกู้เมืองนครราชสีมาจากกองทัพเจ้าอนุวงศ์ พระมหากษัตริย์เวียงจันทน์ เมื่อปี พ.ศ. 2369 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายหลังคุณหญิงโมได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นท้าวสุรนารี


ท้าวสุรนารี มีนามเดิมว่า "โม" (แปลว่า ใหญ่มาก) หรือท้าวมะโหโรงเป็นชาวเมืองนครราชสีมาโดยกำเนิด เกิดเมื่อปีระกา พ.ศ. 2314 มีนิวาสถานอยู่ ณ บ้านตรงกันข้ามกับวัดพระนารายณ์มหาราช (วัดกลางนคร) ทางทิศใต้ของเมืองนครราชสีมา เป็นธิดาของนายกิ่มและนางบุญมา มีพี่สาวหนึ่งคนชื่อ แป้นาผล ไม่มีสามี จึงอยู่ด้วยกันจนวายชนม์ มีน้องชายหนึ่งคน ชื่อ จุก (ภายหลังได้เป็นเจ้าเมืองพนมซร็อก ต่อมามีการอพยพชาวเมืองพนมซร็อกมาอยู่ริมคูเมืองนครราชสีมาด้านใต้ จึงเอาชื่อเมืองพนมซร็อกมาตั้งชื่อ บ้านพนมศรก ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็นบ้านสก อยู่หลังสถานีรถไฟชุมทางถนนจิระจนทุกวันนี้)

 
ประตูชุมพล
ประตูเมืองทางทิศตะวันตกของเขตเมืองเก่า เป็นประตูเมืองเพียงแห่งเดียว ในบรรดาประตูเมืองทั้งหมด 4 ประตูของเมืองนครราชสีมา ที่ยังคงสภาพเดิมอยู่พร้อมกำแพงเมืองเก่า สำหรับ ชื่อประตู "ชุมพล" นั้นหมายความถึง ที่ชุมนุมพลส่วนใหญ่ เป็นประตูสำหรับเตรียมไพร่พล และออกศึก เนื่องจากมีภูมิประเทศเปิดกว้าง ไม่มีป้อมปราการตามธรรมชาติเหมือนประตูอื่น ๆ ในอดีตมีความเชื่อว่า เมื่อลอดผ่านประตูชุมพลไปทำศึกแล้ว จะแคล้วคลาดได้กลับบ้านเมือง

อนึ่ง ประตูชุมพล ทางกรมศิลปากร ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุสถานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2480 และ กำแพงเมืองโคราช ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุสถานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2479 อีกด้วย
เครดิตข้อมูลจาก https://th.wikipedia.org/wiki/ระตูเมืองนครราชสีมา#ประตูชุมพล
เครดิตข้อมูลดีจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/ท้าวสุรนารี

บริเวณรอบคูเมืองเก่าใกล้ๆลานท้าวสุรนารี

การร้องเพลงโคราชที่สืบทอดจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีการแก้บนของผู้ที่มาสักการะท้าวย่าโม ด้วยการร้องเพลงเป็นภาษาโคราชให้ได้ฟังกันอีกด้วยล่ะ

 
สาระเกี่ยวกับเพลงโคราช อ่านเป็นความรู้กันจ้า
สาระเกี่ยวกับเพลงโคราช อ่านดูเป็นความรู้จ้า

เนื่องจากเพลงโคราชเป็นวัฒนธรรมมุขบาฐเรื่องราวความเป็นมาต่างๆ ที่เกี่ยวกับเพลงโคราช จึงถูกถ่ายทอดด้วยวิธีปากต่อปากและการสังเกตการจดจำ จากครูเพลงถึงลูกศิษย์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพลงโคราชกล่าวกันว่าเป็นที่นิยมเล่นตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ต่อมาเมื่อมีการสร้างอนุสาวรีย์ท้าวย่าโมขึ้น จึงได้ให้มีงานฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี เพลงโคราชได้มีโอกาสเล่นในงานฉลองตั้งแต่ปี พ.ศ.2477 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน และประชาชนต่างๆมีความเชื่อมันกันว่าท้าวสุรนารีในสมัยที่มีชีวิตอยู่นั้นท่านชอบเพลงโคราชเป็นอย่างมาก จึงมีการแสดงเพลงโคราชแก้บนที่บริเวณลานอนุสาวรีย์และวัดศาลาลอยดังที่พบเห็นได้ในปัจจุบัน และปรากฎที่มาของเพลงโคราชว่าที่กำเนิดมาจากตำนานเพลงโคราช 2 ตำนานซึ่งเป็นที่รู้จักกันในกลุ่มของหมอเพลง



ร่วมบริจาคทรัพย์ที่มูลนิธิสงเคราะห์ผู้สูงอายุโพธิ์กลาง
 และหลังจากที่ได้สักการะท้าวสุรนารีแล้วนะคะ
จากนั้นดิฉันก็แว๊นๆขับมอเตอร์ไซต์เริ่ดสะแมนแตนมาทำทาน ร่วมบริจาคทรัพย์ที่มูลนิธิสงเคราะห์ผู้สูงอายุโพธิ์กลาง ซึ่งอยู่ในตัวเมืองโคราช 

 
ร่วมบริจาคทรัพย์ที่มูลนิธิสงเคราะห์ผู้สูงอายุโพธิ์กลาง
 ใหนๆก็แวะมาโคราชทั้งที ก็มาสะสมเสบียงบุญด้วยการสละทรัพย์ทำทานเป็นสิ่งที่ดีที่สุดค่ะ


ดิฉันก็ขับมอเตอร์ไซต์มาร่วมบริจาคทรัพย์ สละอัตตาหิอัตโนนาโถ มาต่อที่สถานสงเคราะห์คนชราบ้านธรรปกรณ์ วัดม่วง
 และไม่ไกลจากมูลนิธิผู้สูงอายุโพธิ์กลาง ดิฉันก็ขับมอเตอร์ไซต์มาร่วมบริจาคทรัพย์ สละอัตตาหิอัตโนนาโถมาต่อที่สถานสงเคราะห์คนชราบ้านธรรปกรณ์ วัดม่วง ซึ่งอยู่ในตัวเมืองโคราชเช่นเดียวค่ะ


หากเพื่อนๆหรือคุณผู้อ่านท่านที่ตั้งใจแวะมาเที่ยวเมืองโคราช อยากจะทำบุญทำทาน ก็สามารถแวะมาร่วมบริจาคสิ่งของที่จำเป็นกันได้นะคะ


และหลังจากที่ได้ทำทานด้วยการร่วมบริจาคทรัพย์ช่วยเหลือมูลนิธิผู้สูงอายุทั้ง 2 แห่งแล้วนะค่ะ ดิฉันขับมอเตอร์ไซต์แว๊นๆไปยังจุดหมายถัดไป นั้นก็คือวัดศาลาลอย ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ในเมืองโคราช ที่ใครก็ต้องแวะมากราบสักการะและร่วมทำบุญกัน


 ระหว่างขับรถมอเตอร์ไซต์จะไปที่วัดศาลาลอย รถติดที่สามแยกประตูน้ำพอดี ดิฉันเลยขอมาอุดหนุนลิ้มลองซื้อโดนัทเมืองย่าโมสักหน่อยสิ

 
ขนมโดนัทเมืองย่า
ากันว่าหากอยากทานโดนัทเมืองย่า จะต้องซื้อช่วงรถติดไฟแดงเท่านั้น เพราะจะมีคนแบกถุงขนมและพวงมาลัยมาขายคู่กัน โดยขายถุงละ 20 บาท  ดูแล้วคล้ายๆกับการขายขนมกล้วยช่วงรถติดที่ถนนหลานหลวงในกรุงเทพเลยนะ


ได้ลิ้มลองรสชาติของโดนัทที่นี้ ถือว่ารสชาติอร่อยทีเดียวค่ะ สงสัยว่าเดี๊ยนจะไม่ได้ทานโดนัทมานานด้วยกระมัง ก็เลยไม่รู้รสของโดนัทเลยว่าเป็นอย่างไร แต่ของเค้าอร่อยดี สมคำล่ำลือจริงๆ เห็นทีขากลับต้องแวะซื้อเพิ่มอีกหนึ่งถุงแล้วล่ะค่ะ

หลังจากนั้นก็เดินทางขับมอเตอร์ไซต์แว๊นๆมาทำบุญต่อที่วัดศาลาลอย ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งในเมืองโคราช


เกี่ยวกับวัดศาลาลอย อ่านกันดูเป็นความรู้จ้า

วัดศาลาลอย เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวโคราชเคารพนับถือเป็นอย่างมากเป็นเวลากว่า 200 ปี เมื่อครั้งท้าวสุรนารี หรือ ย่าโม เสร็จศึกสงครามจากทุ่งสัมฤทธิ์ ขณะยกทัพกลับเมืองนครราชสีมา ได้แวะพักบริเวณท่าตะโก และได้สั่งให้ทหารทำแพเป็นรูปศาลาเสี่ยงทายลอยไปตามลำตะคอง พร้อมตั้งจิตอธิฐาน หากแพรูปศาลานี้ ลอยไปติดอยู่ ณ ที่แห่งใด จะสร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์ ซึ่งแพได้ลอยไปติดอยู่ริมฝั่งขวาของลำตะคอง ซึ่งเป็นวัดร้าง จึงได้สร้างพระอุโบสถ เป็นวัดศาลาลอยในปัจจุบัน

 
วัดศาลาลอย วัดเก่าแก่ในตัวเมืองโคราช
โดยวัดศาลาลอยนั้น ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นวัดเก่าแก่ที่ท้าวสุรนารีสร้างขึ้นภายหลังจากรบชนะกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ เมื่อปี พ.ศ. 2370 ซึ่งได้มีการสร้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และอนุสรณ์สถานเจดีย์บรรจุอัฐิท้าวสุรนารีขึ้นภายในวัด ภายหลังที่ท่านได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว จุดเด่นของวัดนี้ อยู่ที่อุโบสถหลังใหม่ ที่ได้รับรางวัลดีเด่นแนวบุกเบิกอาคารทางศาสนา จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ปี พ.ศ. 2516


พระพุทธรูปยืนภายในโบสถ์วัดศาลาลอย

และรางวัลจากมูลนิธิเสฐียรโกเศศและนาคะประทีป ใช้วัสดุพื้นเมืองคือกระเบื้องดินเผาด่านเกวียนนำมาประดับตกแต่ง เช่น ผนังด้านหน้าอุโบสถเป็นภาพพุทธประวัติตอนมารผจญ ผนังด้านหลังเป็นภาพตอนพระเจ้าเปิดโลก ส่วนบานประตูเป็นโลหะลายนูน ภาพเล่าเรื่องมหาเวสสันดรชาดก (13 กัณฑ์)
อนุสาวรีย์ท้าวย่าโมที่วัดศาลาลอย

และยังเป็นที่บรรจุอัฐิท้าวสุรนารีภายในวัด ท่านได้นมัสการพระประธาน และพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ อุโบสถหลังเก่า พร้อมชมศิลปะประยุกต์ อุโบสถเรือสำเภาประดับด้วยกระเบื้องดินเผาด่านเกวียนด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นที่เคารพสักการะของชาวโคราชสืบมาจนถึงปัจจุบัน 

 
ภายในมีพระประธานปูนปั้นสีขาว ปางห้ามสมุทร เป็นพระพุทธรูปยืนประทับ ณ ประตูเมืองสังกัสนคร พระนามว่า"พระพุทธประพัฒน์สุนทรธรรมพิศาล ศาลาลอยพิมาลวรสันติสุขมุนินทร์"
ภายในมีพระประธานปูนปั้นสีขาว ปางห้ามสมุทร เป็นพระพุทธรูปยืนประทับ ณ ประตูเมืองสังกัสนคร พระนามว่า"พระพุทธประพัฒน์สุนทรธรรมพิศาล ศาลาลอยพิมาลวรสันติสุขมุนินทร์" หน้าประตูอุโบสถมีปูนปั้นรูปท้าวสุรนารีนั่งพนมมือกลางสระน้ำ ตัวอุโบสถล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วรูปเสมา สัญลักษณ์ของเมืองเสมาเดิม ด้านข้างมีสถูปขนาดเล็กซึ่งเคยใช้เป็นที่บรรจุอัฐิท้าวสุรนารี
เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/วัดศาลาลอย


เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับออกจากเมืองโคราช มุ่งหน้าไปยังอำเภอพิมาย


หลังจากที่ได้ไปทำบุญไหว้พระที่วัดศาลาลอยแล้ว ดิฉันก็ขับมอเตอร์ไซต์มุ่งหน้าออกจากตัวเมืองโคราชไปยังอำเภอพิมาย เพื่อไปชมปราสาทหินพิมายสักครั้ง เนื่องจากตั้งแต่แวะมาเที่ยวโคราช ยังไม่เคยไปชมปราสาทหินแห่งนี้เลยค่ะ

 
จากเมืองโคราชไปยังอำเภอพิมายประมาณ 60 กิโลเมตร


โดยระยะทางจากตัวเมืองโคราชไปยังอำเภอพิมายประมาณ 60 กิโลเมตร ขับรถมอเตอร์ไซต์ชิดซ้ายแบบช้าๆเนิ่บๆไปเรื่อยๆ


Phimai Historical Park
ใช้เวลาขับรถมอเตอร์ไซต์ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงอุทยานประวัติศาสตร์หินพิมายค่ะ

 
ค่าเข้าชมปราสาทหินพิมาย 20 บาทจ้า
ส่วนค่าเข้าชมปราสาทหินพิมายอยู่ที่ 20 บาทจ้า

นอกจากนี้ยังมีแผ่นพับแผนที่แสดงข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับปราสาทหินให้ได้อ่านเป็นความรู้กันอีกด้วยค่ะ
โดยช่วงเวลาที่ดิฉันมาถึงนี้ ก็ปาเข้าไปตอน 4 โมงเย็นแล้วค่ะ เพราะมัวแต่เอ้อระเหยลอยลม ชมวิวริมทางอยู่ ก็เลยช้าหน่อย

บรรยากาศในช่วงยามเย็นแม้จะใกล้เวลาปิดการ แต่เวลายามนี้ดูน่าจะเดินชมได้อภิรมย์ยิ่งนัก เพราะนักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะ และแดดก็ไม่ค่อยร้อนอีกด้วย

 
เดินเข้ามาในตัวปราสาทก็จะผ่าน สะพานนาคราช เพื่อเดินเข้าไปชมตัวปราสาทด้านใน

 
โดยบันใดแห่งนี้เป็นทางขึ้นสู่ตัวปราสาท มีลักษณะเป็นลายยกพื้นรูปกากบาทตามคติความเชื่อในการก่อสร้างปราสาทของศาสนาฮินดู เป็นทางเชื่อต่อระหว่างโลกมนุษย์กับโลกสวรรค์ ราวสะพานโดยรอบสลักเป็นลำตัวนาคชูคอแผ่พังพานเป็นนาคเจ็ดเศียร มีลักษณะรูปแบบศิลปกรรมแบบนครวัด สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 17


เดินตามบันใดนาคไปยงตัวปราสาท

 
ทางเดินเข้าไปยังปราสาทหินพิมาย
สาระน่ารู้เกี่ยวกับปราสาทหินพิมาย
สาระน่ารู้เกี่ยวกับปราสาทหินพิมาย  อ่านเป็นความรู้กันจ้า


สำหรับอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย เป็นหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ที่ตั้งอยู่ในตัวอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วยปราสาทหินในสมัยอาณาจักรขะแมร์ที่ใหญ่โตและงดงาม สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ราวพุทธศตวรรษที่ 16 เพื่อใช้เป็นเทวสถานของศาสนาพราหมณ์


 
ตัวอุทยานตั้งอยู่ฟากทิศตะวันออกของแม่น้ำมูล บนพื้นที่ 115 ไร่ วางแผนเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 565 เมตร ยาว 1,030 เมตร ลักษณะพิเศษของปราสาทหินพิมาย คือ ปราสาทหินแห่งนี้สร้างหันหน้าไปทางทิศใต้ ต่างจากปราสาทหินอื่น ๆ ที่มักหันไปทางทิศตะวันออก สันนิษฐานว่าเพื่อให้หันรับกับเส้นทางตัดมาจากเมืองยโศธรปุระ เมืองหลวงในสมัยนั้นของอาณาจักรขะแมร์ ซึ่งเข้ามาสู้เมืองพิมายทางทิศใต้

 
ประวัติของเมืองพิมายเป็นเมืองที่สร้างตามแบบแผนของศิลปะเขมร


ประวัติของเมืองพิมายเป็นเมืองที่สร้างตามแบบแผนของศิลปะเขมร มีลักษณะเป็นเวียงสี่เหลี่ยม ชื่อ พิมาย น่าจะมาจากคำว่า วิมาย หรือ วิมายปุระ ที่ปรากฏในจารึกภาษาเขมรบนแผ่นหินตรงกรอบประตูระเบียงคดด้านหน้าของปราสาท จากหลักฐานศิลาจารึกและศิลปะสร้างบ่งบอกว่า ปราสาทหินพิมายคงเริ่มสร้างขึ้นสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ราวพุทธศตวรรษที่ 16 ในฐานะเทวสถานของศาสนาพราหมณ์ รูปแบบของศิลปะเป็นแบบบาปวนผสมผสานกับศิลปะแบบนครวัด ซึ่งหมายถึงปราสาทนี้ได้ถูกดัดแปลงมาเป็นสถานที่ทางศาสนาพุทธในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7


เมื่ออิทธิพลของวัฒนธรรมขอมเริ่มเสื่อมลงหลังรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และมีการสถาปนาอาณาจักรสุโขทัยในเวลาต่อมา เมืองพิมายคงจะหมดความสำคัญลง และหายไปในที่สุด เนื่องไม่ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับเมืองพิมายเลยในสมัยสุโขทัย 

 
ปราสาทองค์ประธาน เป็นส่วนสำคัญที่สุดของปราสาทหินพิมาย
ปราสาทองค์ประธาน เป็นส่วนสำคัญที่สุดของปราสาทหินพิมาย เป็นปราสาทองค์ใหญ่ สร้างขึ้นราวพุทธศรรตวรรษที่ 16-17 ก่อสร้างด้วยศิลาทรายสีขาวหันหน้าไปทางทิศใต้ ซึ่งแตกต่างจากศาสนสถานแบบขอมในที่อื่น ๆ ซึ่งมักจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ปราสาทประธานประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วนคือ มณฑป และ เรือนธาตุ 


ปราสาทองค์ประธาน ก็เป็นปราสาทพรหมทัตกับบรรณาลัย
และใกล้เคียงกับปราสาทองค์ประธาน ก็เป็นปราสาทพรหมทัตกับบรรณาลัย

 
การจำหลักลวดลายประดับตามส่วนต่าง ๆ เช่น หน้าบัน ทับหลัง มักจำหลักเป็นภาพเล่าเรื่องรามเกียรติ์และเรื่องราวทางพุทธศาสนา


โดยที่ปราสาทปรางค์ประธานนั้น มีการจำหลักลวดลายประดับตามส่วนต่าง ๆ เช่น หน้าบัน ทับหลัง มักจำหลักเป็นภาพเล่าเรื่องรามเกียรติ์และเรื่องราวทางพุทธศาสนา ยกเว้นทางด้านทิศใต้ จำหลักเป็นภาพศิวนาฏราช ภายในเรือนธาตุเป็นส่วนสำคัญที่สุดเรียกว่า ห้องครรภคฤหะ เป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพสำคัญ พื้นห้องตรงมุมด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีร่องน้ำมนต์ต่อลอดผ่านพื้นห้องออกไปทางด้านนอก เรียกว่า ท่อโสมสูตร


อุทยานประวัติศาสตร์หินพิมาย (Pimai Historial Park)
และพลับพลา ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้ากำแพงชั้นนอก ด้านซ้ายมือของทางเดินเข้าสู่ตัวปราสาท เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เดิมเรียกกันว่า "คลังเงิน" จากตำแหน่งที่ตั้งสันนิษฐานว่าคงเป็นที่พักเตรียมพระองค์สำหรับกษัตริย์ หรือเจ้านายชั้นสูงที่เสด็จมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา รวมทั้งเป็นสถานที่พักจัดขบวนสิ่งของถวายต่าง ๆ จากการขุดแต่งบริเวณนี้เมื่อปี พ.ศ. 2511 ได้พบโบราณวัตถุจำนวนมาก มีทั้งรูปเคารพ เครื่องประดับ และเหรียญสำริด เป็นเหตุให้เรียกกันว่า "คลังเงิน"
สวนไทรงาม ในอำเภอพิมาย
 และหลังจากที่ได้เดินชมปราสาทหินพิมายจนทั่วแล้วนะค่ะ
ไม่ไกลนักจากปราสาทหินพิมายระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรก็เป็นที่ตั้งของสวนไทรงามอายุกว่า 350 ปี ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกแห่งในเมืองพิมายที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะไปกัน
โดยภายในสวนไทรงามเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่ไทรงาม
สวนไทรงาม ณ ช่วงเวลายามเย็นอันโพลเพล้
พอดีช่วงที่ดิฉันมานี้ ก็มาช่วงเย็นพอดี บรรยยากาศในสวนไทรงามแห่งนี้ก็เลยดูวังเวงเป็นพิเศษทีเดียวค่ะ มองไปทางใหนก็ไม่มีนักท่องเที่ยวใดๆเลย ยิ่งต้นไทรมีลักษณะเป็นรากย้อยโยงระย้าลากลงพื้นดินแบบนี้ด้วยก็ยิ่งทำให้ดิฉันจินตนาการไปต่างๆนานา หากจะมาเดินถ่ายรูปชมให้สวยงาม คงจะต้องมากันหลายๆคน น่าจะสุขสมอุราไม่น้อยทีเดียวค่ะ
ถึงแม้ในช่วงยามเย็นอันวังเวงแบบนี้ แต่ก็มีภาพเก่าๆแก่ให้แลชมอย่างน่าอภิรมย์สมใจอยู่ไม่น้อย เนื่องจากมีภาพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรไทรงาม พร้อมสาระเจ้าแม่ไทรงาม อำเภอพิมาย จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2513
ในหลวง ร.9 และพระราชินีเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรไทรงาม อำเภอพิมาย เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน เมื่อปี พ.ศ.2498
และมีภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรไทรงาม อำเภอพิมาย เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน เมื่อปี พ.ศ.2498
หากเพื่อนๆคุณผู้อ่านคนใหนที่วางแผนมาเที่ยวพิมายก็อย่าลืมแวะมาสักการะเจ้าแม่ไทรงาม และเดินชมสวนไทรงามแห่งนี้สักครั้งนะค่ะ รับรองว่าสวยงามเป๊ะปัง อลังการแปลกตา ช่ะช่ะช่าหัวใจอย่างแน่นอนจ้า เพราะบริเวณโดยรอบก็ปกคลุมชุ่มชื่น รื่นบานฤทัยไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจี 
แต่ถ้าให้ดี หากจะมาเที่ยวช่วงยามเย็นพลบค่ำแบบนี้ หาคู่หูดูโอ้มาเดินเป็นเพื่อนด้วยก็ดีนะค่ะ จะได้ไม่รู้สึกว่าวังเวง
หลังจากที่ได้เดินชมสวนไทรงามจนชื่นฉ่ำบานใจแล้วนะค่ะ ดิฉันก็แว๊นๆเป็นผู้สาวขาเลาะขับมอเตอร์ไซต์ออกจากอำเภอพิมาย มุ่งหน้ากลับเข้ามายังตัวเมืองโคราชอีก 60 กว่ากิโลเมตร
เมืองโคราชในช่วงยามหัวค่ำ
 ขับรถแบบเฉื่อยๆช้าๆ เนิ่บๆมาเรื่อยก็ถึงตัวเมืองโคราช จอดรถแวะพักที่หน้าห้าง Terminal 21 ซึ่งเป็นห้างเปิดใหม่ เห็นมีหอคอยให้ขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ค่ำคืนของเมืองนี้ด้วย แต่ด้วยเวลาไม่พอ คงไว้โอกาศหน้าแล้วกันนะคะ
แวะตลาดร้อยปีเมืองย่าโม เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก
 มาถึงโคราชเหนื่อยๆได้เวลาทานข้าว ไม่ไกลจากโรงแรมที่พักมากนัก มีตลาดเก่า 100 ปี เมืองย่าให้แวะไปทานด้วย
 เดินเข้าไปดูสิว่ามีอะไรให้ทานบ้าง
มื้อเย็นนี้ที่เมืองโคราช ทานก๊วยจั๊บคู่กับโยเกิรต์แล้วกันน่าจะอร่อยดีนะ เพราะเมื่อตอนกลางวันได้ซัดหมี่โคราชไปแล้ว รอบเย็นก็ซัดก๊วยจั๊บญวนเป็นมื้อหนักไป รสชาติถือว่าอร่อยเริ่ดทีเดียวค่ะ เห็นมีคนนั่งในร้านเต็มเลย
ของฝากเมืองโคราช ไม่พลาดเส้นหมี่โคราช อร่อยๆถูกปากของฝากถูกใจ
ของฝากขึ้นชื่อมาเมืองโคราช ก็คงหนีไม่พ้นเส้นหมี่โคราชเหนียวหนึบให้เลือกซื้อสรรหาเป็นไปของฝากค่ะ
 หลังจากที่ทานอาหารมื้อเย็นจนอิ่มแล้ว ดิฉันก็แว๊นๆขับมอเตอร์ไซต์กลับเข้ามายังที่พักเพื่อพักผ่อน
จบทริปหมดไป 1 วัน รู้สึกว่าเวลาช่างเดินไปไวเสียเหลือเกิน แป๊บๆก็หมดไปเป็นวันแล้วค่ะ
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ในเมืองโคราช
ทานอาหารเช้าที่โรงแรมไอซาน่า (Aisana Hotels)
เช้านี้ทานอาหารที่โรงแรม ตอนแรกดิฉันวางแผนไว้จะไปทานข้างนอกแหละค่ะ แต่จองห้องพักรวมอาหารเช้าไปล่ะ ก็เลยมาทานที่โรงแรมเลยแล้วกัน จะได้ไม่เปลืองสตางค์ สำหรับอาหารเช้าที่โรงแรมไอซาน่าก็มีไลน์อาหารเช้าบุฟเฟ่ต์จัดอลังการสมราคาเลยค่ะ
 มีสลัดผัก โยเกิรต์ ขนมปังปิ้ง ผลหมากรากไม้ อาหารหนัก อาหารเบา เรียงไว้เลือกทานหลากหลาย แต่ดิฉันก็ทานได้แค่นิดเดียว เพราะเมื่อคืนนี้ก็ซัดทานก๊วยจั๊บซ่ะจนอื่มมาถึงตอนเช้าเลย มื้อนี้ก็เลยเบาๆ ขนมปังแผ่นเดียว กับผลไม้นิดเดียว
แต่ในห้องอาหารของโรงแรมก็จัดไลน์อาหารดูน่าทานดี ห้องอาหารก็โอ่โถ่งไม่คับแคบ ตกแต่งได้สวยงามกิ๊บเก๋ หรูหราสมราคาก็เลยล่ะค่ะ
 หลังจากที่ทานอาหารเช้าจนอิ่มแล้ว เช้านี้ยังเวลาอีกนิดหน่อย ดิฉันเลยขอไปเดินเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์เมืองโคราชสักหน่อยคะ
โดยทำการเช็คเอาท์ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อนเลย
จากนั้นก็ขับมอเตอร์ไซต์จากโรงแรมมาที่วิทยาลัยครูนครราชสีมา หรือชื่อในปัจจุบัน ม.ราชภัฎนครราชสีมา แต่ดิฉันชอบเรียกว่า วิทยาลัยครูมากกว่าค่ะ เพื่อเดินทางมาชมพิพิธภัณฑ์เมืองโคราช ซึ่งตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้
โดยพิพิธภัณฑ์อยู่ที่สำนักศิลปะและวัฒนธรรม
 พิพิธภัณฑ์เมืองนครราชสีมา ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่รวบรวบเรื่องราวความรู้ต่างๆของเมืองโคราชไว้ให้ผู้ที่สนใจได้แวะเข้ามาเดินชมและศึกษาความรู้กันค่ะ
ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์เมืองนครราชสีมา
ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์เมืองนครราชสีมา
เป็นพิพิธภัณฑ์ทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมของเมืองนครราชสีมา บริหารโดยสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา มีเป้าหมายในการเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีการบูรณาการความรู้เกี่ยวกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ ศิลปะและวัฒนธรรมของจังหวัดนครราชสีมา อันควรค่าที่คนโคราชจะได้รับรู้และภาคภูมิใจ เปิดให้บริการเพื่อการศึกษา เรียนรู้และท่องเที่ยวทัศนศึกษาตั้งแต่ พ.ศ.2557
พิพิธภัณฑ์เมืองโคราช สถานที่เรียนรู้ที่รวบรวมเรื่องราวของเมืองโคราชไว้อย่างน่าสนใจ
โดยมีเนื้อหาเป็นห้องจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ 8 ห้อง ได้แก่ ห้องเบิกโรง ห้องต้นกำเนิดอารยธรรม ห้องสมัยทวารวดี ห้องสมัยลพบุรี ห้องสมัยอยุธยา ห้องสมัยรัตนโกสินทร์ ห้องมหานครอีสาน และห้องของดีเมืองโคราช นอกจากนี้ยังมีแหล่งเรียนรู้ปฎิบัติการทางด้านวัฒนธรรมในบริเวณใกล้เคียง คือ เรือนโคราช ลานวัฒนธรรม และลานธรรมให้ชมกันอีกด้วย
เดินมาจุดแรกเป็นห้องเบิกโรง
เป็นห้องที่บอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์
ห้องสมัยลพบุรี
 นอกจากนี้ยังมีภาคเก่าๆของเมืองโคราชให้ชมกันอีกด้วย อย่างภารที่เห็นเป็นภาพประตูเมืองเก่าของโคราช เมื่อปี ค.ศ.1920
 ห้องมหานครแห่งอีกสาน
ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงความรู้ต่างๆไว้ได้อย่างน่าสนใจทีเดียว แถมได้ความรู้อีกด้วย

หากเพื่อนๆคุณผู้อ่านคนใหนที่แวะเวียนมาเที่ยวเมืองโคราช ก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวเดินชมศึกษากันนะคะ รับรองว่าได้ความรู้กลับไปอย่าแน่นอนจ้า
ขับมอเตอร์ไซต์กลับมาเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแรม
 หลังจากที่ได้เดินชมพิพิธภัณฑ์เมืองโคราชแล้วนะค่ะ ก็เดินทางกลับมายังโรงแรมเพื่อมาเอากระเป๋าที่ฝากไว้
นั่งวินมอเตอร์ไซต์จากร้านเช่ารถ มาที่สถานีขนส่งเพื่อซื้อตั๋วรถตู้ไปลงเมืองบุรีรัมย์
 จากนั้นก็ขับรถมอเตอร์ไซต์ไปคืนที่ร้านเช่ารถ
ได้เงินมัดจำคืน พร้อมบัตรประจำตัวประชาชน
และนั่งวินมอเตอร์ไซต์จากร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ซึ่งอยู่ใกล้สถานีขนส่งสายเก่า
เดินทางมายังสถานีขนส่งโคราชสายใหม่ ราคา 40 บาท เพื่อซื้อตั๋วรถตู้โดยสาร เดินทางไปยังเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นทริปเมืองท่องเที่ยวถัดไปคะ
นั่งรถตู้จากเมืองโคราช ไปยังเมืองบุรีรัมย์
ตอนซื้อตั๋วรถตู้นั่งไปยังเมืองบุรีรัมย์ก็เหลือที่นั่งว่าง 1 ที่นั่งพอดีเป๊ะเลยค่ะ แต่ว่าได้นั่งเบาะหลังสุดของรถตู้เลยนะค่ะ จะค่อนข้างเด้งๆดึ๋งๆหน่อยล่ะ

จบทริปเที่ยวเมืองโคราช 1 วัน เช่ามอเตอร์ไซต์ลุยเดี่ยวขับเที่ยวด้วยตัวเอง ไม่ยากเลยนะคะ ในเมืองโคราชยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งช๊อปปิ้งเช็คอินน์ให้ฟินกระจายอีกมากมายให้แวะชมกันค่ะ ถ้าเพื่อนๆคนใหนที่ยังไม่เคยมาเยือนเมืองโคราช ลองแวะมาเที่ยวกันสักครั้งนะคะ รับรองว่าสุขสมอุรา ช่ะช่ะช่าหัวใจอย่างแน่นอนจ้า

สำหรับรีวิวถัดไปจะพาเพื่อนๆคุณผู้อ่านบนโลกออนไลน์ไปเที่ยวบุรีรัมย์ แบบไม่ต้องตำน้ำกินค่ะ อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในดินแดนอีสานใต้ ที่ยังไงก็ต้องแวะไปเที่ยวสักครั้ง ยังไงรอมาคลิ๊กสไลด์เปิดดูกันนะคะ ขอบพระคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาคลิ๊กเข้ามาลั๊ลลาเปิดดูกัน....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
-------------------------------------------
รีวิวท่องเที่ยวไปเรื่อยเปื่อยตามเมืองต่างๆ ที่ผ่านมามีดังนี้จ้า
แบ่งปันรีวิวเที่ยวขอนแก่น สุดสะแนนแสนชิล ไปถ่ายรูปวิวสวยงาม คลิ๊กดูที่เที่ยว>>
มาเด้อมาเที่ยวเมืองขอนแก่น สุดสะแนนแสนชิล ขับรถไปถ่ายรูปชมวิวต่างๆ มีที่ใหนเช็คอินบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวระนอง ลองแช่น้ำแร่ เช่ารถแลชมที่เที่ยวต่างๆ ตามไปกันเลย>>
มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองระนอง ลองไปแช่น้ำแร่ เช่ารถนั่งแลชมทะเลสวยๆ และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>

สาระน่ารู้กับเพลงภาษาอังกฤษยุค 60-70's เพื่อฝึกภาษาพร้อมคำแปล คลิ๊กดูบทความค่ะ>>
น่ารู้กับเพลงสากลยุค 60-70's เพื่อฝึกภาษาอังกฤษผ่านบทเพลง พร้อมคำแปล มีเพลงอะไรบ้าง ลองฟังวันย้อนวันวานกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

แบ่งปันรีวิวนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองบราติสลาวา 1 วัน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองบราติสลาวา เมืองหลวงประเทศสโลวาเกีย มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปเที่ยวชมดูสักครั้งสิ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
รีวิวเที่ยวกรุงบูดาเปสต์ 1 วัน ไป-กลับ ขยับเท้าเดินชมสถานที่เที่ยวต่างๆ มีอะไรบ้าง>>>
เก็บตก รีวิวเที่ยวฮังการี เดินฉิมพลีชมกรุงบูดาเปส์แห่งนี้ มีที่เที่ยวอะไรให้ชื่นชมกันอีกบ้าง ตามไปชมกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
ไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพ ใกล้รถไฟฟ้า เดินไปได้มีวัดใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียด>>
รวมไหว้พระ 9-12 วัดในกรุงเทพใกล้รถไฟฟ้า เดินลั๊ลลาไปไม่ไกล งามวิไลรับสิ่งดีๆต้นปีนี้ คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>>>
แบกเป้เที่ยวกรุงเวียนนาด้วยตัวเอง มีที่เที่ยวจุดถ่ายรูปอะไรบ้าง ตามไปกันเลย>>
แบ่งปันทริปเที่ยวกรุงเวียนนาด้วยตัวเองง่ายๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้เริงสุขสันต์กันบ้าง ตามไปชมกันเลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
รีวิวพาเที่ยวชมพระราชวังเดิม เติมความรู้แบบไทยๆ ไปชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูที่เที่ยว>>
เก็บตกวันหยุด พารีวิวเที่ยวชมพระราชวังเดิม เติมความรู้ไทยๆ มีอะไรให้ชมบ้างในโบราณสถานแห่งนี้ คลิ๊กดูรายละเอียดและการเดินทางค่ะ>>>
รีวิวพาชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพ เสพความรู้แบบไทยๆ ไปชมกันเลย>>
พารีวิวเที่ยวชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพ เสพความรู้แบบไทยๆ เดินชมในนิทรรศการจิ๋นซีฮ่องเต้ คลิ๊กดูรายละเอียดภาพรีวิวค่ะ>>>
หรือดูรายละเอียดที่ : http://bit.ly/2l05FdT
รีวิวเที่ยวเมืองมิวนิค เดินชิคๆไปชมสถานที่สวยงามต่างๆ คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>
รีวิวแบกเป้เที่ยวเมืองมิวนิค เดินชิคๆไปชมสถานที่สวยงามต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปชมกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>
เที่ยวนครนายกไม่มีรถส่วนตัว ก็เช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวไปทั่วได้ด้วยตัวเอง คลิ๊กดูรีวิว>>
รีวิวแบกเป้เที่ยวนครนายก ไม่มีรถส่วนตัว ก็เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับเที่ยวไปทั่วได้ใน 1 วันแบบชิลๆ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวจ้า>>>

รีวิวแบกเป้เที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิกอีกครั้ง ไปดูสิว่ายังสวยปังอยู่ใหม๊ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบกเป้เที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิกอีกครั้ง มาดูสิว่ายังสวยงาม อลังปังอยู่ใหม๊ มีที่เที่ยวใหม่ๆอะไรบ้าง ไปดูสิ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>
รีวิวแบกเป้เที่ยวเชียงคำ-งามล้ำทะเลหมอกภูลังกา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
มาเน้อเจ้า..มาแอ่วภูลังกา ดูทะเลหมอกสวยระย้าจับใจ แวะตะไลไปเชียงคำ สัมผัสวัฒนธรรมไทลื้อ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางจ้า>>>
รีวิวตอนที่ 18 แบกเป้ลุยเดี่ยวเมืองเวนิชครั้งแรก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวตอนที่ 18 เที่ยวเมืองเวนิช นอนแนบชิดติดริมน้ำ เดินตามหาของกินอร่อยในซอกซอยเล็กๆ คลิ๊กดูภาพรีวิวการเดินทางค่ะ>>>
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2KQvnsh
รีวิวตอนที่ 17 แบกเป้ไปเที่ยวเมืองมิลาน มีอะไรให้ชมบ้างนะ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบกเป้ขยันลุยเดี่ยว ตอนที่ 17 นั่งรถไฟข้ามพรมแดนมาเริ่ดสะแมนแตนที่เมืองมิลาน มาดูมีที่เที่ยวใหนให้ยลตระการบ้าง คลิ๊กดูภาพรีวิวการเดินทางคะ>>>
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2AWC1x

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น