Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวระนอง ย่องไปแช่น้ำแร่ แลชมทะเลสวยๆ รุ่มระรวยด้วยของกินอร่อยเริ่ดๆ ตามไปเที่ยวกันเลย

จัดทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยววันหยุดนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมารีวิวพาไปเที่ยวระนอง ย่องไปแช่น้ำแร่ เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับไปแลชมทะเลสวยๆ  พร้อมด้วยอาหารการกินคาวหวานที่อร่อยๆกัน และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง ตามไปกันเลย Let's go to Ranong City
ก็ขอสวัสดีทักทาย ซำบายดีคุณผู้อ่านและเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจทุกคนค่ะ ก็กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ สำหรับบทความรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือนนี้ ที่จะมาคุณผู้อ่านไปทอดน่อง ท่องเที่ยวกันทุกๆเดือน และหนึ่งในช่วงวันหยุดลาพักร้อนที่ผ่าน เดี๊ยนก็ได้มีโอกาสไปลั๊ลลาจัดทริปเที่ยวจังหวัดระนองมาค่ะ หลังจากที่วุ่นวายอยู่กับการทำงาน หาเงินอยู่นานเป็นแรมเดือน ต้นปีรับศักราชใหม่ คุณนายเว่อร์ เธอเลยเป็นคนบ้า ขอจัดทริปลุยเดี่ยวไปเที่ยวระนองสักครั้ง

ว่ากันว่าระนอง เป็นเมืองฝน 8 แดด 4 จำได้ตอนสมัยเรียนว่าระนองจัดเป็นจังหวัดที่ฝนตกมากที่สุด น่าจะเป็นเมืองที่ชุ่มฉ่ำสดชื่น รื่นฤทัยอยู่ไม่น้อย แถมพูดถึงระนอง เมื่อไหร่ ก็มักจะพูดพ่วงไปกับจังหวัดระยอง และยะลา  กลายเป็น ระนอง ระยอง ยะลา และระนองเป็นอีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยวที่มีชื่อเสียง และได้ชื่อว่าเป็นเมืองน้ำแร่ แหล่งบ่อน้ำพุร้อน หรือเป็น Onsen แห่งเมืองไทย ที่ใครๆก็ต้องมาออนซอนเที่ยวกันก็ว่าได้ และนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นชายหาด และหมู่เกาะ ทางท้องทะเลอันดามันที่สวยงาม ร้าวรานจับใจหลายแห่ง

นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อยๆให้ได้ลิ้มลองทานกันอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจ โดยเฉพาะอาหารทะเลสด รสชาติหร่อยอย่างแรงหลาว หรืออาหารคาว ขนมหวานท้องถิ่น ที่หากินไม่ได้ในที่อื่นๆ ต้องมารื่นรมย์ ชลฤทัยให้หลงใหล เที่ยวไปในเมืองระนอง ท่องเมืองน้ำแร่ แช่ออนเซ็นแห่งนี้สักครั้ง

ก่อนจะเข้าสู่ภาพรีวิวท่องเที่ยวระนอง มารู้จักเมืองระนอง กันสักเล็กน้อย
ก่อนจะเข้าสู่ภาพรีวิวท่องเที่ยวระนอง มารู้จักเมืองระนอง กันสักเล็กน้อย
ก่อนจะเข้าสู่ภาพรีวิวท่องเที่ยวระนอง มารู้จักเมืองระนอง กันสักเล็กน้อย

ระนองเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีประวัติความเป็นมายาวนานนับตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเรืองอำนาจ เดิมเป็นหัวเมืองขนาดเล็กขึ้นกับเมืองชุมพร คำว่าระนองเพี้ยนมาจากคำว่า แร่นอง เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดมีแร่อยู่มากมาย ชื่อระนอง หรือเมืองแร่นอง เดิมเป็นหัวเมืองเล็ก ๆ มีฐานะเป็นเมืองขึ้นของเมืองชุมพรมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีของไทย โดยแบ่งการปกครองออกเป็น 2 เมือง คือ เมืองระนองและเมืองตระ ซึ่งอยู่ในการปกครองเมืองชุมพร เจ้าเมืองมีบรรดาศักดิ์เป็นหลวง เรียกชื่อตามนามเมืองว่า “หลวงระนอง” ครั้นต้นสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ มีชาวจีนฮกเกี้ยนชื่อ “ คอซู้เจียง ” ได้ยื่นขอประมูลอากรดีบุกในเขตเมืองระนองและเมืองตระ พระบาทสมเด็จหลวงรัตนเศรษฐี ดำรงตำแหน่งนายอากรเมืองตระและเมืองระนอง

ในช่วงปีพ.ศ.2397 ตำแหน่งเจ้าเมืองระนองว่างลง เนื่องจากหลวงระนองป่วยถึงแก่กรรม พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้า” พระราชทานสัญญาบัตรเลื่อนบรรดาศักดิ์ หลวงรัตนเศรษฐี (คอซู้เจียง) ขึ้นเป็นพระรัตนเศรษฐี เป็นเจ้าเมืองระนอง เมื่อพม่าตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษและรัฐบาลอังกฤษได้จัดการปกครองหัวเมือง ที่ได้ในเวลาต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริว่าเมืองระนองและเมืองตระ เป็นเมืองขึ้นอยู่ในเมืองชุมพรจะรักษาราชการ ทางชายแดนไม่สะดวก จึงโปรดเกล้าให้ยกเมืองตระและเมืองระนอง เป็นหัวเมืองจัตวาขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานคร และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนบรรดาศักดิ์พระรัตนเศรษฐี (คอซู้เจียง) ขึ้นเป็นผู้ว่าราชการเมืองระนอง

ตึกเก่าแก่ในเมืองระนอง เดินย่องๆมอง ทอดน่องท่องเที่ยวกันได้
เมื่อพ.ศ.2405 และในปีพ.ศ.2420 สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี ระนองมีฐานะเป็นหัวเมืองอิสรพ และต่อมาได้ยกฐานะ เป็นจังหวัดและได้มีการยุบเมืองตระเป็นอำเภอ เรียกว่า อำเภอกระบุรี โดยให้ขึ้นกับจังหวัดระนองตั้งแต่นั้นมาระนองในอดีตมี ความสำคัญในฐานะที่เป็นเมืองดีบุก เมืองชายแดน

โดยระนองจัดว่าเป็นเมือง "ฝนแปด แดดสี่" นั่นคือมีฝนตก 8 เดือน และฝนแล้งเพียง 4 เดือน นับว่าเป็นจังหวัดที่ฝนตกชุกมากที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากอยู่ติดกับทะเลอันดามัน ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้อย่างมาก และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่น่าสนใจมากมายหลายแห่ง ทั้งทางบกและทางทะเล

คำขวัญจังหวัดระนอง : คอคอดกระ ภูเขาหญ้า กาหยูหวานธารน้ำแร่ มุกแท้เมืองระนอง

เริ่มต้นทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวเดือนนี้ นั่งเครื่องบินออกจากสนามบินดอนเมือง-กรุงเทพ ลงที่สนามบินระนอง
สำหรับโปรแกรมทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยระนองทริปนี้ จัดทริปไปเที่ยวแบบชิลๆ 4 วัน 3 คืน
เริ่มต้นด้วยนั่งเครื่องบินออกจากสนามบินดอนเมือง-กรุงเทพ ลงที่สนามบินจังหวัดระนอง
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงแล้วค่ะ

 เข้ามาในอาคารผู้โดยสาร มีป้ายยินดีต้อนรับ และจุดรับกระเป๋าก็อยู่ที่เดียวกันเลยค่ะ
ถ่ายรูปเช็กอินคู่กับป้ายยินดีต้อนรับสักนิด
การเดินทางจากสนามบินไปยังตัวเมืองระนอง ก็นั่งรถสองแถวไม้สไตล์ชิคเก๋ๆไปได้เลยค่ะ ค่าโดยสารคนละ 50 บาทขาดตัว
ส่วนการเดินทางจากสนามบินไปยังตัวเมืองระนอง ก็นั่งรถสองแถวไม้สไตล์ชิคเก๋ๆไปได้เลยค่ะ
ค่าโดยสารรถสองแถวไม้ คนละ 50 บาท

ซึ่งระยะทางจากสนามบิน ไปยังตัวเมืองระนอง ประมาณ 20 กิโลเมตร
 ซึ่งระยะทางจากสนามบิน ไปยังตัวเมืองระนอง ประมาณ 20 กิโลเมตร
ค่อนข้างไกลพอสมควร หากใครที่มาเที่ยวคนเดียวแบบดิฉัน และอยากประหยัดค่าใช้จ่าย ก็นั่งสองแถวไม้นี้แหล่ะค่ะ ประหยัดดีค่ะ

ภายในรถสองแถวไม้ ไม่ค่อยมีคนไทย มีแต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแน่นเต็มคันรถเลยจ้า
 ในรถโดยสารสองแถวไม้ ไม่ค่อยมีคนไทย มีแต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
นั่งกันเต็มคันรถ มีคนไทยอยู่แค่ 3 วันกระมังค่ะ
กระเป๋าล้นออกมาว่างด้านนอกเลย
ส่วนถนนหนทาง รถราก็ไม่ค่อยเยอะ เนื่องจากเป็นวันธรรมดา
ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศร้อนยิ่งนัก แต่ก็มีลมพัดโชยมาเรื่อยๆ ช่วยคลายร้อนได้บ้าง

นั่งรถสองแถวไม้ออกจากสนามบิน รับลมเย็นมาเรื่อย ผ่านอุทยานแห่งน้ำตกหงาว แต่ไม่มีน้ำเลยค่ะ เนื่องจากเป็นช่วงหน้าแล้ง

พอนั่งรถสองแถวเข้ามาในตัวเมือง รถสองแถวจะไปส่งนักท่องเที่ยวที่ท่าเรือก่อนค่ะ
จากนั้นค่อยไปส่งลูกค้าคนอื่นๆต่อ
รถขับผ่านมาโซนในตัวเมืองระนอง
นั่งรถเข้ามาในย่านตัวเมืองระนอง รถค่อยๆส่งผู้โดยสารคนอื่นๆ แถวถนนคนเดิน
นั่งรถเข้ามาในย่านตัวเมืองระนอง รถค่อยๆส่งผู้โดยสารคนอื่นๆ แถวถนนคนเดิน ผ่านตึกเก่าๆอันแสนคลาสสิค ดูไม่ค่อยวุ่นวายเหมือนเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ 
โดยที่พักในทริปนี้ ดิฉันเลือกพักที่โรงแรม เลอ ระนอง บิสโทร แอนด์ เกสต์เฮาส์ (Le Ranong Bistro and Guesthouse)
 รถสองแถวก็หยุดจอดหน้าโรงแรมพอดี โดยที่พักในทริปนี้ ดิฉันเลือกพักที่โรงแรม เลอ ระนอง บิสโทร แอนด์ เกสต์เฮาส์ (Le Ranong Bistro and Guesthouse)
เป็นโรงแรมขนาดเล็กๆ ไม่ใหญ่ สไตล์เกสต์เฮ้าส์ 
โดยโรงแรมเลอ ระนอง บิสโทร แอนด์ เกสต์เฮาส์ (Le Ranong Bistro and Guesthouse) ตั้งอยู่ในตัวเมือง ตรงข้ามโรงเรียนศรีอรุโนทัย ไม่ไกลจากตลาดและย่านการค้า

 มาถึงโรงแรมก็เข้าเช็คอินได้เลยค่ะ
 มาถึงโรงแรมก็เข้าเช็คอินได้เลยค่ะ
เนื่องจากแม้บ้านทำความสะอาดห้องเสร็จแล้ว
ตรงบริเวณล็อกบี้โรงแรมเป็นร้านคาเฟ่เล็กๆให้บริการด้วย  
ใครแบกเป้สะพายหลังมาเหนื่อย เมื่อยก็นังพักก่อนนะคะ 

เช็คอินน์เข้าโรงแรม ทางที่พัก็มีกุญแจและคีย์การ์ดสำหรับเปิดประตูให้ตอนช่วงเวลาค่ำ

ทำการเช็คอินน์เข้าโรงแรม ทางที่พัก็มีกุญแจและคีย์การ์ดสำหรับเปิดประตูให้ตอนช่วงเวลาค่ำ
และโรงแรมไม่มีลิฟท์นะคะ เป็นบันใดเดินออกกำลังแข้ง ขาขึ้นไปชั้นบน

นห้องที่โรงแรมเลอ ระนอง เกสต์เฮาส์ จองไว้เป็น ห้อง Standard Single Room สำหรับนอนคนเดียว ราคาคืนละ 540 บาท
ส่วนห้องที่โรงแรมเลอ ระนอง เกสต์เฮาส์ จองไว้เป็น ห้อง Standard Single Room สำหรับนอนคนเดียว ราคาคืนละ 540 บาท ห้องแอร์ ขนาดห้องพักพอดี ไม่แออัด หรือคับแคบเกินไป

โดยราคาห้องไม่รวมอาหารเช้านะคะ หากอยากทานอาหารเช้า สามารถจ่ายเพิ่มที่เคาว์เตอร์หน้างานได้ แต่ส่วนใหญ่คนที่มาเที่ยวก็จะไปทานข้างนอกกัน เพราะใกล้ๆก็มีร้านอารหารหลายร้าน 

ในห้องก็มีทีวี ตู้เย็น ตู้ใส่เสื้อผ้า แอร์ ห้องน้ำในตัว ขนาดห้องพอดี ไม่แออัดเกินไป เหมาะกับการนอนคนเดียวจริงๆ
อินเตอร์เน็ต WiFi ก็เร็วแรงดี ไม่ช้า ถือว่าดีทีเดียวค่ะ เหมาะสมกับราคาอยู่นะคะ

มีข้อเสียคือ ทำเลของโรงแรมอยู่ติดวัด ตอนตี 4 พระจะมาตีฆังเพื่อทำวัตรตั้งแต่เช้าตรู่เลยค่ะ ใครที่นอนหลับอยู่ อาจสะดุ้งตื่นขึ้นมาได้
ส่วนด้านหลังของโรงแรมก็เป็นที่จอดรถ กว้างขวาง น่าจะจอดได้หลายคันอยู่นะคะ มีไม้เลื้อยปกคลุมหน้าต่างเหล็กของโรงแรม ดูสวยไปอีกแบบ เพราะไม่ทำให้ห้องนอนร้อนเกินไปด้วย สรุปโรงแรมที่นอนพัก ถือว่าดีทีเดียว เพราะราคาไม่แพง 

แต่มีข้อเสียคือ ทำเลของโรงแรมอยู่ติดวัด ตอนตี 4 พระจะมาตีฆังเพื่อทำวัตรตั้งแต่เช้าตรู่เลยค่ะ ใครที่นอนหลับอยู่ อาจสะดุ้งตื่นขึ้นมาได้ 

มาต่อเรื่องการเดินทางเที่ยวในตัวเมืองระนอง มีร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ในเมืองระยอง ให้เลือกเช่าหลายร้านเลยค่ะ
สรุปจบเรื่องที่พักไปแล้ว มาต่อเรื่องการเดินทางเที่ยวในตัวเมืองระนอง หากใครที่มาเที่ยวคนเดียวแบบดิฉันและไม่อยากเสียสตังเช่ารถยนต์ขนาดใหญ่ขับ มีร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ในเมืองระยอง ให้เลือกเช่าหลายร้านเลยค่ะ

โดยทริปนี้ เดี๊ยนได้โทรนัดติดต่อร้านเช่าไว้ล่วงหน้าแล้ว ค้นหาใน Google
ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซต์วันละ 250 บาท
ไม่มีมัดจำ เพราะทางร้านบอกว่า ให้นำตั๋วเครื่องบินขาไปและกลับมาแสดง
ทางร้านมาส่งให้ที่โรงแรมถึงที่ คิดค่าบริการมาส่งรถแค่ครั้งเดียว 50 บาท
ใช้บัตรขับขี่ + บัตร ปปช. ยื่นให้ร้านเช่ารถ ก็ได้รถมอเตอร์ไซต์เช่าเที่ยวขับในเมืองแล้วจ้า

ทำสัญญาเช่ารถ เป็นอันเสร็จ ทีนี้ก็ได้รถมอเตอร์ไซต์ขับตะลอนไปเที่ยวเมืองระนองแล้วล่ะค่ะ
ทางร้านจะถ่ายรูปใบขับขี่ หรือบัตร ปปช.
และทำสัญญาเช่ารถ เป็นอันเสร็จ ทีนี้ก็ได้รถมอเตอร์ไซต์ขับตะลอนไปเที่ยวเมืองระนองแล้วล่ะค่ะ

ทางโรงแรมก็มีแผนที่แนะนำที่เที่ยวบางส่วนของเมืองระนองให้ด้วย แต่ก็ไม่ค่อยละเอียดมากนัก พอดูได้ค่ะ 
ที่โรงแรมก็มีแผนที่แนะนำที่เที่ยวบางส่วนของเมืองระนองให้ด้วย 
เอาไว้ดูว่ามีแหล่งท่องเที่ยวอะไรบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยละเอียดมากนัก พอดูได้ค่ะ 
ส่วนใหญ่เปิดในมือถือดูเอาค่ะ  
กราบนมัสการศาลหลักเมืองระนอง
 มาถึงเมืองระนองทั้งที ต้องไม่พลาดมาสักการะ นมัสการศาลหลักเมืองก่อนเลย

 เพื่อความเป็นสิริมงคล จะได้เดินทางขับรถราไปใหนก็ราบรื่น
ตั้งตนอยู่บนสติตลอด หากใครที่แวะมาเที่ยวระนอง ก็อย่าลืมแวะมากราบสักการะกันนะคะ

แน่นอนว่าอีกสิ่งหนึ่งไม่พลาดเมื่อมาเที่ยวระนอง ก็ต้องย่องหาของกินอร่อย ซึ่งในเมืองระนองมีร้านอาหารอร่อยหลายร้านเลยค่ะ
แน่นอนว่าอีกสิ่งหนึ่งไม่พลาดเมื่อมาเที่ยวระนอง ก็ต้องย่องหาของกินอร่อย ซึ่งในเมืองระนองมีร้านอาหารอร่อย ให้เลือกไปลิ้มลองทานกันหลายร้านเลยค่ะ แต่ละร้านก็เด็ดไม่แพ้เมืองอื่นๆเลยล่ะ แถมราคาอาหารการกินก็ไม่ได้โขกสับละลายทรัพย์นักท่องเที่ยวด้วยนะคะ คือแบบเหมาะสมกับราคา  
เริ่มร้านแรกเช้าวันใหม่ ไม่ไกลจากโรงแรมเลอ ระนอง บิสโทร แอนด์ เกสต์เฮาส์ เดินมาประมาณ 100 เมตรก็เป็นร้านตำซำยามเช้า
เริ่มร้านแรกเช้าวันใหม่ ไม่ไกลจากโรงแรมเลอ ระนอง บิสโทร แอนด์ เกสต์เฮาส์ (Le Ranong Bistro and Guesthouse) เดินมาประมาณ 100 เมตรก็เป็นร้านตำซำยามเช้า อยู่ติดถนนใหญ่เลยหาง่าย ไม่ไกลจากโรงแรมด้วย รสชาติอร่อยอยู่นะ มีคนนั่งทานกันเยอะ 

 โดยร้านอาหารติมซำยามเช้า เดินจากโรงแรมเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกตลาดแขกมานิดหน่อย ประมาณ 50 เมตร ก็จะเป็นร้านติมซำยามเช้า
 เป็นร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆกับโรงแรม เดินมาได้ไม่ไกล บรรยากาศกว้างขวาง นั่งสบายๆ
 มีเมนูยามเช้าให้เลือกทานหลายอย่าง ราคาไม่แพง ตามภาพเลยค่ะ ราคาอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต ถ้าวัตถุดิบมีราคาแพงขึ้น ใครอยากทานอะไรก็จัดไปตามใจชอบ

ส่วนมื้อเช้านี้ เดี๊ยนจัดเต็มมากๆค่ะ เยอะสุดๆ
เพราะทานทั้งติ่มซำ และทานทั้งก๋วยเตี๋ยว
ปกติไม่ทานเยอะขนาดนี้นะคะ
เพราะกลัวอ้วนเหมือนกัน 
ทานอาหารเช้ามื้อนี้ คงอิ่มไปจนถึงมื้อเที่ยงเลยทีเดียวล่ะค่ะ
เพราะจัดหนักมากๆ กะว่ามาเที่ยวระนอง มาเพื่อกินจริงๆ
เนื่องจากต้องใช้พลังงาน ในการออกเดินทาง ตะล่อนเลาะขับรถไปทั่วทีปทั่วแดนต่ออีก

หากชอบบรรยากาศการทานอาหารแบบ Street Food แสนคึกคัก ก็ขับมอเตอร์ไซต์มาตะลอนเลาะหาของกินอร่อยต่อที่ตลาดสดในเมืองระนอง
และหากใครชอบบรรยากาศ การทานอาหารแบบ Street Food แสนคึกคัก ก็ขับมอเตอร์ไซต์มาตะลอนเลาะหาของกินอร่อยต่อที่ตลาดสดในเมืองระนอง รับรองว่าคึกคะนอง ก้องไปทั่วไพรีและธานีแห่งนี้อย่างแน่นอนเลย 

 ซึ่งที่ตลาดสดเมืองระนอง มีอาหารการกินหลากหลายให้เลือกทาน กันอย่างสำราญเริงใจเลยล่ะค่ะ
เสน่ห์ของตลาดที่นี่ ไม่เหมือนที่อื่น เพราะจะมีรถสองแถวไม้วิ่งรอบเมืองให้บริการตลอดแทบทั้่งวัน

สองแถวไม้เมืองระนอง รถโดยสารเอกลักษณ์สุดชิคประจำเมืองน้ำแร่แห่งนี้
 หากใครที่มาเที่ยวระนองแล้ว ไม่ได้ลองมานั่งรถสองแถวไม้ดู เรียกว่ามาไม่ถึงเมืองระนองเลยค่ะ
เพราะเป็นรถคอกหมูขนาดเล็กจิ๋วน่ารัก ให้บริการไปทั่วสารทิศในย่านตัวเมืองและออกไปนอกเมือง ส่วนสถานีขนส่งรถสองแถวก็อยู่ใกล้ๆกับตลาด
 บรรยากาศตลาดก็คึกคักจอแจ แต่รถราก็ไม่ถึงติดขัด ยัดเยียดเหมือนกรุงเทพ หรือเมืองท่องเที่ยวอื่นๆนะคะ เรียกว่าสัญจรได้คล่องตัวทีเดียว ค
 อาหารกินก็หลากหลาย ทั้งข้า่วราดแกง หรือขนมจีน

ทานขนมจีนแม่จันทร์ ที่ตลาดสดเมืองระนอง รสชาติอร่อยเด็ด เผ็ดจริงๆ
 แต่มาถึงใต้ทั้งที ต้องกินขนมจีนร้านแม่จันทร์ตลาดระนอง มีเครื่องเคียงผักมากมายหลายอย่าง รสชาติอร่อยอย่างแรงหลาว กินไปด้วยเช็ดน้ำมูก น้ำตาไปด้วย เพราะรสเด็ด เผ็ดถึงเครื่องอย่างแรงหลาว
แก้เผ็ดต่อด้วยการมากินของหวานต่อ ที่ร้านขนมโบราณ ขนมพื้นเมืองระนอง ที่ร้านขนมใบเตย อยู่ใกล้ๆกับตลาดสด
 ทานของเผ็ด ก็เดินมาระเหินระเห็ดกินขนมหวานโบราณพื้นเมือง รสเด็ดที่มีเฉพาะในระนองเท่านั้น ที่ร้านขนมใบเตย อยู่ใกล้ๆตลาดสด
ขนมอาโป้งแบบหนาว
 มีขนมอาโป้งแบบหนาว พึ่งเคยเห็น ใครมาที่นี่ต้องซื้อทาน เพราะไม่มีขายในกรุงเทพนะจ๊ะ
มีอาโป้งแบบหนา และแบบบาง แล้วแต่คนชอบ
ขนมอาโป้งรสชาติอร่อยดีค่ะ ต้องลองซื้อทาน
ขนมอาโป้งรสชาติอร่อยดีค่ะ ต้องลองซื้อทาน

อีกหนึ่งขนมหาทานยากคือขนมอั่งกู๊ ขนมพื้นเมืองของพังงา ภูเก็ต ระนอง ที่อร่อยเริ่ดสุดไปเลยล่ะ
 และอีกหนึ่งขนมหาทานยากคือขนมอั่งกู๊ ซึ่งมีขายเฉพาะแทบระนอง พังงา ภูเก็ต เป็นขนมพื้นเมือง ทำจากแป้งข้าวเหนียว ใส้ถั่วกวน รสชาติอร่อยมากๆ  แต่หลายคนเรียกว่าขนมเต่า

คุณป้ากำลังปิ้งขนมไข่กับเตาโบราณ
 เดินมาอีกหน่อย ก็เจอคุณป้ากำลังปิ้งขนมไข่กับเตาโบราณ
กลิ่นของขนมโชยมาเตะจมูก น่าซื้อไปทานกับน้ำชาหรือกาแฟสักแก้วจัง

ขนมไข่โบราณแบบกรอบ กลิ่นหอมน่าทานมากๆ ปิ้งกับเตาทาน ไม่ใช้เตาแก๊สแบบสมัยใหม่แต่อย่างใด
ขนมไข่โบราณแบบกรอบ กลิ่นหอมน่าทานมากๆ

ขนมสาคู ทำจากเม็ดสาคูแทัๆ อร่อยมากๆ นึกแล้วก็อยากทานอีกค่ะ
 ตามมากินต่อด้วยขนมสาคูหยก ทำจากเม็ดสาคูแทัๆ อร่อยมากๆ
นึกแล้วก็อยากทานอีกค่ะ
ตามต่อด้วย ขนมกี้อาโก้ ขนมโบราณพื้นเมืองของเมืองนี้ด้วย
ตามต่อด้วย ขนมกี้อาโก้ ขนมกวนสีเหลือง ทำจากแป้งโม่สด ทานคู่กับน้ำเชื่อมกลิ่นหอมของน้ำตาลอ้อย รสชาติอร่อยดีค่ะ 
 มาเดินเลาะหาของกินต่อ ตรงใกล้ๆกับขนมจีนแม่จันทร์ ก็มีคุณป้าขายขนมพื้นเมืองของภาคใต้ ให้ลองซื้อทานอยู่หลายอย่างไม่กันค่ะ
 อยากเช่นขนมปาโป้งแบบบาง รสชาติอร่อย กลิ่นหอมกว่าอาโป้งแบบหนา
หาทานได้ที่ระนอง ภูเก็ต พังงา ขนมพื้นเมืองที่หาทานได้แถบนี้เท่านั้น 

 แล้วก็ขนมชั้นแบบภาคใต้ แยกชั้นกันจริงๆ แป้งไม่ได้เหนียวเหมือนของภาคกลาง แต่กลิ่นหอม อร่อยดีค่ะ ราคาไม่แพงด้วย
ทานขนมจีนแล้วต้องมาซื้อทานแก้เผ็ดคือ ขนมขึ้น คนขายบอกว่า ทานแล้วขึ้นอย่างเดียว ลงไม่ได้นะ ฮ่าๆๆ เป็นขนมพื้นเมืองภาคใต้ รสชาติหอมหวานอร่อยๆทีเดียว ทำจากแป้ง ดูเหมือนสังขยา แต่ไม่ใช่นะคะ
และที่ชอบที่สุด ที่ทานขนมจีนแล้วต้องมาซื้อทานแก้เผ็ดคือ ขนมขึ้น คนขายบอกว่า ทานแล้วขึ้นอย่างเดียว ลงไม่ได้นะ ฮ่าๆๆ เป็นขนมพื้นเมืองภาคใต้ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่คนมาทำขายถึงที่นี่ อร่อยมากๆ พึ่งเคยกิน อร่อยมาก นึกแล้วอยากทานอีก ดูลักษณะแล้วคล้ายสังขยา แต่ไม่ใช่นะคะ เพราะทำจากแป้งกวนหอมกะทิมะพร้าวมากๆ

หากใครที่อยากทานขนมพื้นบ้าน ขนมพื้นเมืองโบราณอร่อยๆ ก็ลองมาเดินตลาดเช้าเมืองระนองดูนะคะ รับรองว่าอิ่มจนพุ้งปลิ้นไปเลยล่ะค่ะ แถมได้พูดคุยกับแม่ค้าคนขายอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจอีกด้วย

ออกไปนอกเมือง จะตะล่อนขับมอเตอร์ไซต์ออกไปที่อำเภอกะเปอร์เลยค่ะ ไปให้สุดหยุดที่อุทยานแห่งชาติแหลมสน
หากขับออกไปนอกเมือง ก็ต้องตะล่อนขับมอเตอร์ไซต์ออกไปที่อำเภอกะเปอร์เลยค่ะ 51 กิโลเมตร ไปให้สุดแล้วหยุดพักที่อุทยานแห่งชาติแหลมสน แต่คงบิดคันเร่งไปไม่ถึงตะกั่วป่ากับพังงาแน่นอน เพราะไกลเกิน
หลังจากที่ได้แวะไปทานอาหารและขนมหวานจนอิ่มหน่ำสำราญใจแล้ว ก็ไปเที่ยวกันต่อเลย ในเมืองระนอง มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง
หลังจากที่ได้แวะไปทานอาหารและขนมหวานจนอิ่มหน่ำสำราญใจแล้ว ก็ได้เวลาขับมอเตอร์ไซต์ออนตะลอนไปเที่ยวแล้วค่ะ ซึ่งในตัวเมืองระนอง ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ให้แวไปเช็กอินถ่ายรูปภาพกันอยู่หลายแห่ง

วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า เลยขอมาสรุปแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองระนอง และสถานที่ท่องเที่ยวนอกตัวเมือง และที่เทียวในเกาะพยาม มาให้ได้สไลด์เลื่อนดูกันดังนี้ค่ะ เผื่อๆเพื่อนๆคนใหน ที่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ใหนบ้าง ก็แวะไปเที่ยวกันดูนะคะ

1.พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) (Rattanarangsan Palace)
1.พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) (Rattanarangsan Palace)
1.พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) (Rattanarangsan Palace)
1.พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) (Rattanarangsan Palace)
1.พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) (Rattanarangsan Palace)
1.พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) (Rattanarangsan Palace)
เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นใหม่ แทนพระราชวังหลังเดิมที่ทรุดโทรมและพุพังไป โดยพระราชวังดังกล่าว เดิมทีนั้นจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์การเสด็จประทับแรมจังหวัดระนองของพระมหากษัตริย์ 3 พระองค์ สร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2433 โดยพระยารัตนเศรษฐี (คอซิมก๊อง) เจ้าเมืองระนองในขณะนั้น เนื่องด้วยรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ฝ่ายตะวันตกเป็นครั้งแรกที่จะได้เสด็จไปถึงเมืองระนองในวันที่ 23-25 เมษายน พ.ศ. 2433 พระยารัตนเศรษฐีจึงได้สร้างพลับพลาที่ประทับรับเสด็จที่บนเนินควนอันอยู่ใจกลางเมือง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดระนอง ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขารัตนรังสรรค์ (ใกล้ศาลากลางจังหวัดระนอง) ตำบลเขานิเวศน์ เป็นพระราชวังที่ทำด้วยไม้สักและไม้ตะเคียนทอง

ถือเป็นพระราชวัง ที่มีการประกาศพระบรมราชโองการ ยกขึ้นเป็นพระราชวัง 1 ใน 19 แห่งของ ประเทศไทย และเป็นพระราชวัง 1ใน 6 แห่งที่สร้างขึ้น ตามหัวเมือง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 เป็นพระราชวังที่ สร้างจากไม้ทั้งหลัง สวยงามาก เพื่อเป็นอนุสรณ์ ในการเสด็จประทับแรมของพระมหากษัตริย์ทั้ง 3 พระองค์

2.หอพระเก้าเกจิ
2.หอพระเก้าเกจิ
2.หอพระเก้าเกจิ
2.หอพระเก้าเกจิ
ตั้งอยู่ตำบลเขานิเวศน์ ในอำเภอเมืองระนอง ใกล้กับพระราชวังรัตนรังสรรค์  สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2525 ช่วงปีเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ ครบ 200 ปี ภายในประดิษฐานรูปเหมือนของเกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคใต้ ได้แก่ หลวงพ่อจันทร์ หลวงพ่อนุ้ย หลวงพ่อรื่น หลวงปู่ทวด หลวงพ่อเบี้ยว หลวงพ่อติ๋ว หลวงพ่อลอย หลวงพ่อน้อย และหลวงพ่อบรรณ ซึ่งถือเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งของชาวระนอง รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศนิยมมาสักการะบูชาลักษณะของหอพระ

มีรูปทรงเหมือนโบสถ์ทั่วไป แต่ย่อส่วนให้มีขนาดเล็กลง ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ธรรมชาติ มองไปทางด้านหลังจะเป็นที่ตั้งของศาลากลางจังหวัด ตั้งอยู่บนเนินเชามองจากทางหน้าลงด้านหน้าลงไปก็จะเห็นบ้านเมืองระนองและเห็นพระราชวังรัตนรังสรร  ด้านหน้าอาคารหอเป็นถนนเล็กตัดผ่านสวยงาม เนื่องจากพื้นที่เมืองระนอง ส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนภูเขา มีทัศนียภาพสวยงาม

3.จวนเจ้าเมืองระนอง (Ranong Governor's Residence)
3.จวนเจ้าเมืองระนอง (Ranong Governor's Residence) เสาจวนอาคารหลังเดิมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ให้เห็นถึงปัจจุบัน
3.จวนเจ้าเมืองระนอง (Ranong Governor's Residence)
3.จวนเจ้าเมืองระนอง (Ranong Governor's Residence) ภายจวนในอดีตอันยิ่งใหญ่
3.จวนเจ้าเมืองระนอง (Ranong Governor's Residence)
3.กำแพงรอบคายจวนเจ้าเมืองระนอง (Ranong Governor's Residence)
3.จวนเจ้าเมืองระนอง (Ranong Governor's Residence)
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวโบราณสถานและประวัติศาสตร์สำคัญอีกแห่ง ตั้งอยู่ในเมืองระนอง สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2420 บนเนื้อที่ประมาณ 33 ไร่เศษ โดยเป็นบ้านของเจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดระนอง คือ พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง ณ ระนอง)  ในสมัยพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง) และภายในจวนเจ้าเมือง เป็นที่เก็บข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของต้นตระกูล ณ ระนอง ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ควบคู่กับความเจริญเติบโตของเมืองระนองอีกด้วย
หากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนระนอง จะเห็นกำแพงของเจ้าเมืองล้อมรอบภายในค่าย ซึ่งอาคารหลังเดิมยังคงมีหลักฐานเสาของจวนหลังเก่าให้ได้เห็นอยู่ ภายในยังจัดแสดงเรื่องราว ชีวิประวัติต่างๆของจวนเจ้าเมือง และประวัติของพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี หรือ คอซู้เจียง ณ ระอง ให้ได้อ่านกันอีกด้วย

3.บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน (Raksawarin hot spring)  ว่ากันว่าหากใครมาเที่ยวเมืองระนองแล้ง ไม่ได้มาเช็กอิน หรือแช่น้ำพุร้อน หรือน้ำแร่ที่เมืองนี้ ถือว่ามาไม่ถึงเมืองระนองนะคะ
3.บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน (Raksawarin hot spring)
3.บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน (Raksawarin hot spring)
3.บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน (Raksawarin hot spring)
3.บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน (Raksawarin hot spring)
3.บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน (Raksawarin hot spring)
3.บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน (Raksawarin hot spring)  ว่ากันว่าหากใครมาเที่ยวเมืองระนองแล้ง ไม่ได้มาเช็กอิน หรือแช่น้ำพุร้อน หรือน้ำแร่ที่เมืองนี้ ถือว่ามาไม่ถึงเมืองระนองนะคะ
3.บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน (Raksawarin hot spring)
ว่ากันว่าหากใครมาเที่ยวเมืองระนองแล้ง ไม่ได้มาเช็กอิน หรือแช่น้ำพุร้อน หรือน้ำแร่ที่เมืองนี้ ถือว่ามาไม่ถึงเลยล่ะค่ะ เพราะระนอง มีบ่อน้ำพุร้อน ให้นอนแช่ออนเซนอยู่หลายแห่ง แต่ที่โด่งดังปังสุดๆ และอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองก็คือ บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน  น้ำพุร้อนใกล้เมืองระนอง ที่ไม่มีสารกำมะถันเจือปน ด้วยอุณหภูมิประมาณ 65 องศาเซลเซียส จึงทำให้น้ำแร่ร้อนจากที่นี่มีประโยชน์ ในการบำบัดรักษาสุขภาพ

โดยประกอบด้วยบ่อหลักๆ 3 บ่อ ได้แก่ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูกสาว ใกล้ ๆ กับบ่อน้ำร้อนยังมีสวนสาธารณะ “รักษะวาริน” หมายความว่า น้ำที่ใช้รักษาโรคได้ อันเป็นนามที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้พระราชทานไว้ เมื่อคราวเสด็จเยือนระนอง พ.ศ.2510 และใกล้ๆกับบ่อน้ำร้อน ก็ยังเป็นที่ตั้งของป่าในเมือง ซึ่งมีทางเดินศึกษาธรรมชาติให้ได้ชมและเรียนรู้ รวมถึงมีมุมถ่ายภาพเช็คอินสวยๆอีกด้วย รวมทั้งบริการร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก มุมเก๋ๆ สำหรับถ่ายรูปให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินจำเริญใจ จัดเป็นหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียง ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต้องมาเยือนแทบทุกคน เมื่อมาเที่ยวเมืองนี้

4.อ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น (Hat Som Paen Dam)
4.อ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น (Hat Som Paen Dam)
4.อ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น (Hat Som Paen Dam)
4.อ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น (Hat Som Paen Dam)
4.อ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น (Hat Som Paen Dam)
4.อ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น (Hat Som Paen Dam)
เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก มีที่ภูมิทัศน์และทัศนียภาพที่สวยงามอีกแห่งของจังหวัดระนอง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในที่สูงโอบล้อมด้วยหุบเขาเขียวขจี มีลมพัดเย็นสบายๆ และมีบรรยากาศที่เงียบสงบ ทำให้อ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายภาพกันอย่างไม่ขาดสาย

และเส้นทางจากเมืองระนองมายังอ่างเก็บน้ำ แวดล้อมด้วยป่าไม้เขียวขจี โดยอเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลางมีความจุน้ำขนาด 10 ล้าน ลูกบาศก์เมตร ซึ่งอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ ยังเป็นอ่างที่ให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ จากการนำน้ำไปใช้ในการเกษตรหลายส่วน ไม่ว่าจเป็น สวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน และสวนผลไม้ และยังเป็นแหล่งน้ำดิบอีกแหล่งน้ำในการสูบน้ำขึ้นมาเพื่อการผลิตน้ำประปาไปยังเมืองระนองอีกด้วย 

 5.ระนองแคนย่อน (Ranong Canyon)
 5.ระนองแคนย่อน (Ranong Canyon)
 5.ระนองแคนย่อน (Ranong Canyon)
 5.ระนองแคนย่อน (Ranong Canyon)
 5.ระนองแคนย่อน (Ranong Canyon)
จัดเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงของจังหวัดระนอง อยู่เลยถัดจากอ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้นมาไม่ไกล ตัวเมืองประมาณ 15 กม. โดยใช้เส้นทางเดียวกับบ่อน้ำร้อนรักษะวาริน  ตั้งอยู่ที่บริเวณบ้านทุ่งคา ตำบลหาดส้มแป้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง เป็นเหมืองแร่ดีบุกเก่า เป็นภูเขาหินปูนที่ถูกกัดเซาะจนเว้าแหว่งเกิดเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขา  ช่วงเช้าของทุกวันที่บึงแห่งนี้จะมีหมอกขาวโพลนลอยเหนือน้ำ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าหมอกไล่น้ำ ทำให้กลายเป็นจุดเช็กอิน ถ่ายภาพอีกแห่งของเหล่านักเดินทาง

6.บ้านร้อยปีเทือนสือ (Baan Thein Suek Museum )
6.บ้านร้อยปีเทือนสือ (Baan Thein Suek Museum )
6.บ้านร้อยปีเทือนสือ (Baan Thein Suek Museum )
6.บ้านร้อยปีเทือนสือ (Baan Thein Suek Museum )
6.บ้านร้อยปีเทือนสือ (Baan Thein Suek Museum )
6.บ้านร้อยปีเทือนสือ (Baan Thein Suek Museum )
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกแห่งตั้งอยู่ในตัวเมืองระนอง จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ บ้านเทียนสือ เป็นบ้านเก่าแก่อายุกว่า 150 ปี  เปิดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่รวบรวมองค์ความรู้ เรื่องราวเกี่ยวกับจังหวัดระนอง อาทิเช่น จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตภูมิ ปัญญาของท้องถิ่น หรือ ภาพถ่ายเก่าสำคัญ ที่ยืนยันความเป็นมาของบรรพบุรุษต้นตระกูล และส่วนอื่นๆ

โดยบ้านสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ผู้เป็นจ้าวบ้านคือ "ท่านเทียนสือ" ซึ่งเป็นหลานเขยของ คอซู้เจียง เจ้าเมืองระนอง โดยนายเทียนสือได้แต่งงานกับ "ฉ่ายหล่วน" ซึ่งเป็นหลานสาวของพระยารัษฎานุประดิษฐ์ (คอซินบี้ณ ระนอง) เจ้าเมืองตรัง จึงได้สร้างบ้านหลังนี้ ในสมัยประมาณปี พ.ศ.2433 ตั้งอยู่ไม่ไกลจากค่าย ณ ระนอง

นายเทือนสือมีบุตรทั้งหมด 5 คน ในค่ำคืนเดือนหงาย หรือท้องฟ้าสว่างไสว เทือนสือ มักจะชวนลูกหลานมาช่วยกัน นั่งนับเหรียญ (เงินในสมัยนั้นซึ่งค้าขายกับชาวตะวันตกด้วย) ในส่วนกลางบ้านและช่วยนำมาบรรจุในถุงผ้าใบที่สำหรับใช้ใส่แร่ดีบุก  ดังนั้นบ้านเทือนสือจึงเปรียบเสมือนห้องคลังใจกลางเมืองระนอง จึงไม่แปลกใจเลยที่ทำให้บ้านเทือนสือ จะมีประตูเข้าตัวบ้านถึง 5 ชั้น กว่าจะถึงตัวบ้านด้านใน จะมีผนังกำแพงที่แข็งแรงมาก มีความหนาประมาณ 1 ฟุตครึ่ง หรือ 15 นิ้ว ก่อสร้างอย่างมั่นคงแข็งแรง ไม่มีชำรุด อยู่มานานร่วมนับร้อยปี และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมทุกวัน

7.บ่อน้ำร้อนพรรั้ง (PornRang Hot Mineral Spring) มีตาน้ำพุร้อนที่ออกจากซอกหินอยู่ทั่วบริเวณ สามารถแช่เท้า เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตในร่างกาย
7.บ่อน้ำร้อนพรรั้ง (PornRang Hot Mineral Spring)
7.บ่อน้ำร้อนพรรั้ง (PornRang Hot Mineral Spring) มีตาน้ำพุร้อนที่ออกจากซอกหินอยู่ทั่วบริเวณ สามารถแช่เท้า เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตในร่างกาย
7.บ่อน้ำร้อนพรรั้ง (PornRang Hot Mineral Spring)
7.บ่อน้ำร้อนพรรั้ง (PornRang Hot Spring) มีตาน้ำพุร้อนที่ออกจากซอกหินอยู่ทั่วบริเวณ สามารถแช่เท้า เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตในร่างกาย
7.บ่อน้ำร้อนพรรั้ง (PornRang Hot Mineral Spring)
จัดเป็นบ่อน้ำร้อนที่มีชื่อเสียงไม่แพ้บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน โดยบ่อน้ำร้อนพรรั้ง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว ลายร้อมไปด้วยแมกไม้นานาพันธ์ และทัศนียภาพที่สวยงาม อยู่ห่างจากตัวเมืองระนอง 5 กิโลเมตร ไปตามทางสายเพชรเกษม แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร โดยน้ำพุร้อนอยู่ในพื้นที่หุบเขารายล้อม มีแม่น้ำลำธารสายเล็กๆจากธรรมชาติใสสะอาดไหลผ่าน และน้ำในลำธารแห่งนี้ นอกจากเป็นลำน้ำธรรมชาติแล้ว ยังมีน้ำแร่ไหลผสมในลำคลองได้รับการดูแลโดยอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาวอีกด้วย ตามทางเดินเข้าไปยังบ่อน้ำแร่ มีป้ายให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับที่มาของการเกิดบ่อน้ำร้อน

โดยภายในบริเวณของบ่อน้ำร้อน แต่ละพื้นที่มีเส้นทางเดิมเชื่อมแต่ละจุดกิจกรรม มีบ่อที่กักเก็บน้ำแร่ร้อน 1 บ่อใหญ่ กับ 2 บ่อเล็ก และบ่อแช่ตัว 6 บ่่อ มีตาน้ำพุร้อนที่ออกจากซอกหินอยู่ทั่วบริเวณ สามารถแช่เท้า เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตในร่างกาย มีนักเดินทางและนักท่องเที่ยวมาแช่เท้า และอาบน้ำแร่แห่งนี้ กันอย่างไม่ขาดสาย
8.ภูเขาหญ้า หรือภูเขาหัวโล้น (Phu Khao Ya,Ranong) ในช่วงหน้าแล้ง ก็สวยร้อนแรงไม่เบาเลยนะ
8.ภูเขาหญ้า หรือภูเขาหัวโล้น (Phu Khao Ya,Ranong) ในช่วงหน้าแล้ง ก็สวยร้อนแรงไม่เบาเลยนะ
8.ภูเขาหญ้า หรือภูเขาหัวโล้น (Phu Khao Ya,Ranong)
8.ภูเขาหญ้า หรือภูเขาหัวโล้น (Phu Khao Ya,Ranong)
8.ภูเขาหญ้า หรือภูเขาหัวโล้น (Phu Khao Ya,Ranong) ในช่วงหน้าแล้ง ก็สวยร้อนแรงไม่เบาเลยนะ
8.ภูเขาหญ้า หรือภูเขาหัวโล้น (Phu Khao Ya,Ranong)
เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและจุดถ่ายภาพเช็กอิน ที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งของเมืองระนอง ตั้งอยู่ติดถนนเพชรเกษม ทางหลวงใหญ่ เยื้องกับอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว ห่างจากตัวเมืองระนอง ไปทางทิศใต้ประมาณ 13 กิโลเมตร โดยภูเขาหญ้าเป็นภูเขาหัวโล้นที่มีหญ้าขึ้นทั่วทั้งภูเขา ในช่วงหน้าฝนภูเขาหญ้าจะมีสีเขียว ส่วนในช่วงฤดูแล้งภูเขาหญ้าจะมีสีน้ำตาล ขนาดไม่สูงสามารถเดินขึ้นไปได้ เนินเขาแต่ละลูกมีทางเดินเชื่อมถึงกัน เมื่อขึ้นไปอยู่ด้านบนจะชมทิวทัศน์ได้โดยรอบ

9.วัดบ้านหงาว (Wat Baan Ngao)
9.วัดบ้านหงาว (Wat Baan Ngao) อุโบสถหลังงาม ประดิษฐานหลวงพ่อดีบุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก
9.วัดบ้านหงาว (Wat Baan Ngao)
9.วัดบ้านหงาว (Wat Baan Ngao) อุโบสถหลังงาม ประดิษฐานหลวงพ่อดีบุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก
9.วัดบ้านหงาว (Wat Baan Ngao)
ตั้งอยู่ไม่ไกลจากภูเขาหญ้า เป็นวัดเด่น วัดดังอีกแห่งของเมืองระนอง ตั้งอยู่ที่บ้านเหงา มีอุโบสถที่สวยงาม ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปดีบุก หรือหลวงพ่อดีบุกองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ใกล้กับวัดบ้านเหงาอยู่ใกล้กับภูเขาหญ้า และอยู่ตรงข้ามน้ำตกหงาว ภายในวัดมีวังมัฉจา มีปลาจำนวนมาก บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ

10.ภูหงาวดาวดึงส์ (Phu Ngao mountain, Wat Baan Ngao)
10.ภูหงาวดาวดึงส์ (Phu Ngao mountain, Wat Baan Ngao)
10.ภูหงาวดาวดึงส์ (Phu Ngao mountain, Wat Baan Ngao)
10.ภูหงาวดาวดึงส์ (Phu Ngao mountain, Wat Baan Ngao)
10.ภูหงาวดาวดึงส์ (Phu Ngao mountain, Wat Baan Ngao)
10.ภูหงาวดาวดึงส์ (Phu Ngao mountain, Wat Baan Ngao)
10.ภูหงาวดาวดึงส์ (Phu Ngao mountain, Wat Baan Ngao)
10.ภูหงาวดาวดึงส์ (Phu Ngao mountain, Wat Baan Ngao)
ตั้งอยู่ที่วัดบ้านเหงา จัดเป็นภูเขาที่มีทัศนีภาพสวยงาม เป็นทางเดินตามแนวขั้นบันใดถึง 343 ขั้นเพื่อให้ผู้ที่มาไหว้พระที่วัดบ้านเหงา ได้เดินมาพิชิตและชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ด้านบนประดิษฐานพระพุทธรูป และมีระฆัง สามารถมองเห็นวิวบ้านเรือน แมกไม้ ป่าเขา และทะเลได้อย่างชัดเจน

11.ศูนย์วิจัยป่าชายเลนหงาว พื้นที่สงวนชีวมณฑลป่าชายเลนระนอง (Ranong Biosphere Reserve)
11.ศูนย์วิจัยป่าชายเลนหงาว พื้นที่สงวนชีวมณฑลป่าชายเลนระนอง (Ranong Biosphere Reserve)
11.ศูนย์วิจัยป่าชายเลนหงาว พื้นที่สงวนชีวมณฑลป่าชายเลนระนอง (Ranong Biosphere Reserve)
11.ศูนย์วิจัยป่าชายเลนหงาว พื้นที่สงวนชีวมณฑลป่าชายเลนระนอง (Ranong Biosphere Reserve)
11.ศูนย์วิจัยป่าชายเลนหงาว พื้นที่สงวนชีวมณฑลป่าชายเลนระนอง (Ranong Biosphere Reserve)
11.ศูนย์วิจัยป่าชายเลนหงาว พื้นที่สงวนชีวมณฑลป่าชายเลนระนอง (Ranong Biosphere Reserve)
11.ศูนย์วิจัยป่าชายเลนหงาว พื้นที่สงวนชีวมณฑลป่าชายเลนระนอง (Ranong Biosphere Reserve)
เป็นพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณนี้มีความอุดมสามบูรณ์มากประกอบด้วยพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ มากมายและเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่างๆ มากมายทั้งสัตว์น้ำ สัตว์บก และสัตว์เลื้อยคลาน โดยพื้นที่สงวนชีวมณฑลมีวัตถุประสงค์เพื่อการอนุรักษ์ และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนของความหลากหลายทางชีวภาพ การศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมทางชีวภาพ และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนการดำรงรักษาคุณค่าทางประเพณีและวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้อง ยังจัดเป็นหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่มีทัศยีภาพสวยงาม และสมบูรณ์อีกแห่งของเมืองไทยด้วย


12.อุทยานแห่งชาติแหลมสน (Laemson National Park) งามสุขล้น ดลฤทัยไปด้วยหาดทรายและน้ำทะเลใส อันแสนเงียบสงบ สยบความครืนเครง ไม่มีอะไรมาบรรเลงให้กวนใจ
12.ขับมอเตอร์ไซต์จากเมืองระนอง มาเดินย่องกินลม ชมวิวทะเลที่อุทยานแห่งชาติแหลมสน
12.อุทยานแห่งชาติแหลมสน (Laemson National Park)
12.อุทยานแห่งชาติแหลมสน (Laemson National Park) งามสุขล้น ดลฤทัยไปด้วยหาดทรายและน้ำทะเลใส อันแสนเงียบสงบ สยบความครืนเครง ไม่มีอะไรมาบรรเลงให้กวนใจ
12.อุทยานแห่งชาติแหลมสน (Laemson National Park)
12.อุทยานแห่งชาติแหลมสน (Laemson National Park) งามสุขล้น ดลฤทัยไปด้วยหาดทรายและน้ำทะเลใส อันแสนเงียบสงบ สยบความครืนเครง ไม่มีอะไรมาบรรเลงให้กวนใจ
12.อุทยานแห่งชาติแหลมสน (Laemson National Park)
12.อุทยานแห่งชาติแหลมสน (Laemson National Park) งามสุขล้น ดลฤทัยไปด้วยหาดทรายและน้ำทะเลใส อันแสนเงียบสงบ สยบความครืนเครง ไม่มีอะไรมาบรรเลงให้กวนใจ
12.อุทยานแห่งชาติแหลมสน (Laemson National Park)
เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลอีกแห่งหนึ่ง  ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเมือง อำเภอกะเปอร์ ห่างจากตัวเมืองระนองประมาณ 56 กิโลเมตร ร่มรื่นด้วยป่าสนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นที่อยู่ของนกนานาชนิด ทั้งมีหาดทรายขาวละเอียดเป็นแนวยาวและกว้างใหญ่ มีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก

นอกจากนี้แล้วอุทยานแห่งชาติแหลมสน ประกอบด้วยพื้นที่ริมทะเลตั้งแต่ ตำบลราชกรูดลงไปจนถึง ถึงเกาะต่างๆ ในทะเลอันดามันคือ เกาะค้างคาว หมู่เกาะกำ สำหรับที่ทำการอุทยานตั้งอยู่ที่หาดบางเบน อุทยานฯ มีภูมิอากาศสองแบบคือฤดูฝนซึ่งมีฝนตกชุก ระหว่างเดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายนและฤดูร้อนระหว่างเดือนธันวาคม-เมษายน เป็นแหล่งทรัพยากรที่มีค่ามากมาย ทั้งชายหาดสวยงาม ธรรมชาติและสัตว์ป่า นานาชนิด จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอีกด้วย

13.โบสถ์กลางน้ำเกาะพยาม (Koh Phayam temple)
13.โบสถ์กลางน้ำเกาะพยาม (Koh Phayam temple)
13.โบสถ์กลางน้ำเกาะพยาม (Koh Phayam temple)
13.โบสถ์กลางน้ำเกาะพยาม (Koh Phayam temple)
13.โบสถ์กลางน้ำเกาะพยาม (Koh Phayam temple)
13.ทิวทัศน์ทะเลสวยบริเวณโบสถ์กลางน้ำเกาะพยาม (Koh Phayam temple)
13.โบสถ์กลางน้ำเกาะพยาม (Koh Phayam temple)

โบสถ์กลางทะเล หรืออุโบสถกลางน้ำ ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมือง จังหวัดระนอง  มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า อุทุกกเขปสีมา ซึ่งหมายถึงโบสถ์กลางน้ำ ที่พระพุทธเจ้าเคยกล่าวถึงไว้ในพุทธกาล โดยเป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2528 เป็นการร่วมแรงร่วมใจของชาวเกาะพยาม ตัวโบสถ์มีสะพานยื่นใปในทะเล 150 เมตร ปลายสะพานมีรูปปั้นของ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ โบสถ์มีจุดที่ตัดขาด ไม่เชื่อมกับสะพาน ลักษณะเป็นอาคารทรงกลม มี 8 ประตู หมายถึง มรรค 8 ฐานโบสถ์เป็นดอกบัวล้อมรอบ ด้านบนหลังคาโบสถ์มีประพุทธรูปปางสีลาประดิษฐาน หันหน้าไปทางสู่ทะเล

14.หินทะเล หาดอ่าวเขาควาย สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในเกาะพยาม ที่ต้องตามกันมาถ่ายรูปภาพเช็กอินกันค่ะ
14.หินทะลุ-ชายหาดอ่าวเขาควาย (Hin Talu Ao khao kwai beach)
14.หินทะลุ-ชายหาดอ่าวเขาควาย (Hin Talu Ao khao kwai beach)
14.หินทะลุ-ชายหาดอ่าวเขาควาย (Hin Talu Ao khao kwai beach)
14.หินทะลุ-ชายหาดอ่าวเขาควาย (Hin Talu Ao khao kwai beach)
14.หินทะลุ-ชายหาดอ่าวเขาควาย (Hin Talu Ao khao kwai beach)
14.หินทะลุ-ชายหาดอ่าวเขาควาย (Hin Talu Ao khao kwai beach)

14.หินทะลุ-ชายหาดอ่าวเขาควาย (Hin Talu Ao khao kwai beach)

ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะพยาม มีชายหาดยาวประมาณ 3-4 กิโลเมตร แบ่งลักษณะชายหาดได้ 2 ส่วนคือ ชายหาดอ่าวควายเหนือ และอ่าวควายใต้

อ่าวเขาควายเหนือ เป็บบริเวณที่สวยที่สุดของอ่าว มีหาดทราย ที่ละเอียด น้ำทะเลใส คลื่นลมไม่แรง อ่าวเขาควายช่วงกลาง จะมีลักษณะของหินเยอะ เป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีโขดหิน ที่มีลักษณะโดดเด่น สวยงาม มีรูทะลุ คล้ายซุ้มประตู นับความงดงามทางธรรมชาติอีกอย่างหนึ่ง ที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะ ที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะเป็นเวลานาน จนกลายเป็นหินทะลุ

ส่วนอ่าวเขาควายใต้ มีลักษณะคล้ายปากน้ำ มีคลองไหลเข้าสู่กลางเกาะ เป็นคลองสายสั้นๆ มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร อ่าวเขาควายใต้ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ มีระบบนิเวศคล้ายป่าชายเลน แต่ต้นไม้หนาแน่น มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม

15.ชายหาดอ่าวกวางปีบ (Ao Kwang Peep Beach)
15.ชายหาดอ่าวกวางปีบ (Ao Kwang Peep Beach)
15.ชายหาดอ่าวกวางปีบ (Ao Kwang Peep Beach)
15.ชายหาดอ่าวกวางปีบ (Ao Kwang Peep Beach)
15.ชายหาดอ่าวกวางปีบ (Ao Kwang Peep Beach)
15.ชายหาดอ่าวกวางปีบ (Ao Kwang Peep Beach)
15.ชายหาดอ่าวกวางปีบ (Ao Kwang Peep Beach)

15.ชายหาดอ่าวกวางปีบ (Ao Kwang Peep Beach)
เป็นชายหาดอ่าวที่ตั้งอยู่เหนือสุดของเกาะพยาม โดยอ่าวกวางปีบ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า อ่าวลิง ปกคลุมไปด้วยป่าไม้ยืนต้นและธรรมชาติที่สวยงาม ชายหาดทรายขนาดสั้นๆ มีโขดหินเรียงรายอยู่บ้างไม่มาก แต่มีทัศนียภาพที่สวยงาม เงียบสงบ 

16.เช็กอินถ่ายรูปคู่ฮิปปี้ บาร์ (Hippy Bar) ที่หาดอ่าวเขาควาย
16.เช็กอินถ่ายรูปคู่ฮิปปี้ บาร์ (Hippy Bar) ที่หาดอ่าวเขาควาย
16.เช็กอินถ่ายรูปคู่ฮิปปี้ บาร์ (Hippy Bar) ที่หาดอ่าวเขาควาย
16.เช็กอินถ่ายรูปคู่ฮิปปี้ บาร์ (Hippy Bar) ที่หาดอ่าวเขาควาย
16.เช็กอินถ่ายรูปคู่ฮิปปี้ บาร์ (Hippy Bar) ที่หาดอ่าวเขาควาย
16.เช็กอินถ่ายรูปคู่ฮิปปี้ บาร์ (Hippy Bar) ที่หาดอ่าวเขาควาย
16.เช็กอินถ่ายรูปคู่ฮิปปี้ บาร์ (Hippy Bar) ที่หาดอ่าวเขาควาย
ตั้งอยูที่ชายหาดอ่าวเขาควาย จัดเป็นหนึ่งจุดถ่ายรูปเช็กอินถ่ายภาพที่มีชื่อเสียงของเกาะพยาม ที่เหล่านักเดินทางทุกคนที่รักการถ่ายรูป ต้องแวะมาชมทะเล และเช็กอินคู่กับ Hippy Bar แห่งนี้สักครั้ง

17.ชายอ่าวแม่ม่าย (Ao Mae Mai)
17.เช่ารถมอเตอร์ไซต์ ขับเที่ยวเกาะพยาม กินลมชมวิวทะเลที่ชายอ่าวแม่ม่าย (Ao Mae Mai)
17.ชายอ่าวแม่ม่าย (Ao Mae Mai)
17.ชายอ่าวแม่ม่าย (Ao Mae Mai) 
ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือเกาะพยามที่สุด และยังเป็นชายหาดที่มีทัศนียภาพสวยงาม สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของภูเขาเรียวตัวทอดแนวยาวไกล และมีเรือเฟอรี่ ทั้งเรือด่วนและเรือธรรมดาให้บริการนักท่องเที่ยวตลอดทุกๆชั่วโมงๆ ใกล้ๆเป็นโรงแรม รีสอร์ท และมีร้านอาหารอร่อยๆ ให้เลือกแวะทาน รวมทั้งคาเฟ่เล็กๆให้นังจิบชา กาแฟกัน ชมวิวทะเลอีกด้วย

สำหรับการเดินทางไปเที่ยวเกาะพยาม ก็ไม่ต้องพยามอีกต่อไป เพราะเที่ยวแบบ 1 วันไปกลับได้ด้วย
 สำหรับการเดินทางไปเที่ยวเกาะพยาม ก็ไม่ต้องพยามอีกต่อไป เพราะเที่ยวแบบ 1 วันไปกลับได้
เพราะเดี่ยวนี้การเดินทางไปแสนง่าย มีเรือสปี๊ดโบทให้บริการทุกๆชั่วโมง ค่าเรือคนละ 350 บาท
แต่วันที่ดิฉันไปเที่ยว แบบ 1 วันไปกลับ ซื้อตั๋วเรือไปกลับ คนขายลดให้เที่ยวละ 300 บาท
หรือใครอยากประหยัดเงินค่าเรือ ก็รอนั่งเรือธรรมดาไปก็ได้ แต่ออกประมาณ 10 โมงนะคะ
ค่าเรือ 250 บาทค่ะ สำหรับคนที่อยากประหยัดตัง

 ภาพตารางเรือให้บริการไปยังเกาะพยาม มีออกเกือบทุกๆชั่วโมงค่ะ
 ภาพตารางเรือให้บริการไปยังเกาะพยาม มีออกเกือบทุกๆชั่วโมงค่ะ
 ราคาเรือสปี๊ดโบ๊ทคนละ 350 บาท
แต่ถ้าอยากประหยัดก็นั่งเรือ Ferry Boat แบบธรรมดานะคะ ราคา 200 บาท เรือรอบ 10 โมงเช้า
ส่วนเรือ Express Boat ราคา 250 บาท ออกจากระนองรอบเวลา 9 โมงเช้า
รายละเอียดตามรูปเลยค่ะ

 นั่งเรือสปี๊ดไปเกาะพยาม หากใครที่กลัวเมาเรือ ทานยาแก้เมาไว้ก่อนเลยนะคะ เพราะเรือเร็วสมชื่อจริงๆ
ส่วนใครที่ไม่เมา ก็นั่งเรือคลอเคล้า โต้ลมทะเล สรวญเสเฮฮา เริงร่าไปกับมหาสมุทรอันดามันได้เลยค่ะ

 วันธรรมดา ผู้โดยสารน้อยนิดๆ แต๋ก็มีคนเดินทางมาเกาะแห่งนี้ตลอดเวลา
จะมีคนเยอะหน่อย ก็ช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์
ถึงท่าเรือเกาะพยาม ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ลมพัดเย็นสบายมากๆ

มาเที่ยวันธรรมดา ก็ดูไม่วุ่นวาย จะเห็นก็แต่ฝรั่งมังค่าหัวแดงเยอะมากกว่าคนไทยซ่ะอีก ป้ายทางเข้ายินดีต้อนรับสู่เกาะพยาม
 บรรยากาศผู้คนในวันธรรมดา ก็ดูไม่วุ่นวาย จะเห็นก็แต่ฝรั่งมังค่าหัวแดงเยอะมากกว่าคนไทยซ่ะอีก
ป้ายทางเข้ายินดีต้อนรับสู่เกาะพยาม
ที่เดียวนี้ไม่ต้องพยามมาเที่ยวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะมีเรือให้บริการจากตัวเมืองระนอง มายังเกาะพยามทุกชั่วโมง
แผนที่ป้ายบอกเส้นทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในเกาะพยาม มีหลายชายหาด
 มาถึงเกาะพยาม ก็มีแผนที่แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวรอบเกาะพยาม และมีชายหาดสวยๆให้แวะไปเช็กอิน ถ่ายภาพอยู่หลายแห่งค่ะ

แผนที่ท่าเรือเกาะพยาม จุดศูนย์กลางของการคมนาคมขนส่งของเกาะ
 แผนที่ท่าเรือเกาะพยาม อยู่บริเวณอ่าวแม่ม่าย
ส่วนการเดินทางในเกาะพยาม มีอย่างเดียวคือ ต้องเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับเที่ยวรอบเกาะ ราคา 250 บาทต่อวัน
ส่วนการเดินทางในเกาะพยาม มีอย่างเดียวคือ ต้องเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับเที่ยวรอบเกาะ ค่าเช่ารถวันละ 250 บาท หากมาเที่ยวแบบ 1 วันไปกลับ ก็ไม่ต้องจ่ายมัดจำค่ะ ส่วนใครที่มากันหลายๆคน ไม่อยากเช่ารถขับ ก็ใช้บริการนั่งรถซาเล้งพ่วงข้าง หรือเช่าวินมอเตอร์ไซต์ไปได้ค่ะ

มีแผนที่เดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนที่อยู่ใกล้ๆท่าเรือเกาะพยามด้วย
เช่นวัดเกาะพยาม โบสถ์กลางน้ำ พ่อตาหินขาว

และใกล้ๆท่าเรือก็มีร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ให้นั่งกินลม ชมวิวทะเลแบบเพลินๆ ให้จำเริญใจกันอีกด้วย
นอกจากเจดีย์กลางน้ำแล้ว ในวัดเกาะพยาม ยังมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ประดิษฐานอยู่บนเนินเขา ให้เดินบันใดขึ้นไปสักการะอีกด้วย
 ส่วนถนนหนทางในเกาะ ก็ค่อนข้างแคบมากๆ เวลาขับรถต้องระมัดระวังมากๆ
หากเป็นช่วงหน้าฝนยิ่งต้องระวังสุดๆ เพราะถนนบางเส้นทางพุพัง ไม่ค่อยดีนัก แต่ก็สมบุกสมบันดีค่ะ ดูธรรมชาติ ออกแนวๆทรหด อดทนดีทีเดียว
เช่ารถมอเตอร์ไซต์วันละ 250 บาท ขับเที่ยวในเกาะพยาม ถือว่าสะดวกที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่สบายเท่าไหร่นัก เพราะถนนหนทางแคบไปหน่อย
 การเช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวในเกาะพยาม ถือว่าสะดวกที่สุดแล้ว แต่ก็ต้องพยามครองสติสตังไว้ให้ดีนะคะ เพราะตามตรอก ซอกซอยก็แคบมาๆ
ตามถนนบางส่วนก็กำลังทำการปรับปรุงอยู่ ทำให้ต้องใช้เส้นทางเลี่ยง และต้องระมัดระวังในการขับอยู่ไม่น้อย แต่ก็ดูสมบุกสมบัน และออกแนวผจญภัยดีค่ะ

 ป้ายบอกทางไปชายหาดต่างๆ ต้องสังเกตุให้ดี
เพราะเป็นถนนเป็นซอยเล็กๆ ขับเข้าไปด้านในลึก เหมือนมุดตัวเข้าไปอยู่ในป่าดึกดำบรรพ์เลย

 ส่วนทะเลที่นี่ก็สวยใส ลมพัดเย็นสบายดีเชียวล่ะค่ะ
ใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศการเที่ยวทะเลอ่าวไทย ก็ลองมาเดินไฉไลเที่ยวทะเลอันดามันที่เกาะพยามแห่งนี้ได้นะคะ
 และสำหรับใครที่จะหิวระหว่างทาง ก็พกผลหมาก รากไม้ ขนมนม เนยมาทานระหว่างทาง หรือนั่งริมชายหาดทานได้
 นอกจากหาดอ่าวเขาควายแล้ว ยังมีหาดอ่าวใหญ่ ที่ใหญ่สมชื่อ
 นอกจากหาดอ่าวเขาควายแล้ว ยังมีหาดอ่าวใหญ่ ที่ใหญ่สมชื่อ
 แต่ชายหาดไม่ค่อยสวยเท่าหาดอ่าวเขาควายนัก เพราะมีเม็ดทรายสีดำปะปน
อย่างไรก็ตาม ก็มีฝรั่งมังค่า และนักท่องเที่ยวมานอนอาบแดด และเล่นน้ำกันอย่างสราญเริงใจ 
 มีโรงแรม รีสอร์ทและที่พักแนวบ้านพัก บังกะโลติดริมทะเลส่วนตัว
สไตล์เรียบง่าย เก๋ๆ และราคาไม่แพงอีกด้วย
ส่วนร้านอาหาร ผับบาร์ นั่งดริ๊ง ก็ตกแต่งสไตล์ฮิปๆแนวๆทะเลเก๋ๆ ดูแบบง่ายๆ สบายๆชิลๆสุดๆ
เป็นที่ถูกอก ถูกใจชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวที่เดินมาไกลอยู่ไม่น้อย
 จัดทริปเที่ยวเกาะพยามแบบ 1 วัน เดินทางไป-กลับ ช่วงเย็นก็นำรถมอเตอร์ไซต์ไปคืนที่ร้านเช่า และเดินมัวเมามารอที่เท่าเรือเกาะพยาม
 นั่งเรือสปี๊ดโบทจากเกาะพยามกลับเมืองระนอง
 นั่งเรือสปี๊ดโบทจากเกาะพยามกลับเมืองระนอง 
 วันสุดท้ายของทริป ติดต่อนัดร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ให้ไปรับรถเช่าคืนที่สถานีขนส่ง จากนั้นก็นั่งรถสองแถวไม้จากเมืองระนอง มาที่สนามบิน
 วันสุดท้ายของทริป ติดต่อนัดร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ให้ไปรับรถเช่าคืนที่สถานีขนส่ง
จากนั้นก็นั่งรถสองแถวไม้จากสถานีขนส่งเมืองระนอง นั่งรถสายอำเภอกะเปอร์ มาที่สนามบิน ค่ารถราคาเดิม 50 บาท  โดยบอกคนขับให้มาส่งที่อาคารสนามบินด้านใน

ทำการเช็คอินที่สนามบิน เดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
จากนั้นก็ทำการเช็คอินที่สนามบิน เดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
เป็นอันจบทริปเที่ยวระนองแบบชิลๆ เช่ารถขับชมวิวไปเรื่อยเปื่อย แบบคนเดียวก็เที่ยวได้แบบง่ายๆจ้า

สรุปค่าใช้จ่ายทริปโปรแกรมแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวระนองแบบชิลๆ 4 วัน 3 คืน 
ค่าตั๋วเครื่องบินโดยสารไป-กลับ (จองแบบใกล้วันจะไป) รวม 2,856 บาท
ค่าห้องพัก 3 คืน ที่โรงแรมเลอระนอง บิสโทร เกสต์เฮ้าส์ รวม 1,620 บาท
ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซต์ 3 วัน วันละ 250 บาท  รวมทั้งหมด 750 บาท
ค่าน้ำมันรถ 180 บาท
ค่ากินโน้นนี้นั้น 778 บาท
ค่ารถโดยสาร สองแถวไม้ไป-กลับสนามบินระนอง รวม 100 บาท 
ค่าเรือสปี๊ดโบทไป-กลับเกาะพยาม รวม 600 บาท
ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซต์ 250 บาท+น้ำมันขวด 35 บาท รวม 285 บาท

รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 7,169 บาท

นอกจากนี้แล้วระนอง ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายหลายแห่ง หากเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจรคนใหน ที่วางแผนวันหยุดนี้ ไม่รู้ไปใหนดี ก็ลองแวะมาเที่ยวระนองดูสักทีนะคะ รับรองว่าเป็นอีกเมืองรองที่ต้องมาเดินทอดน่อง ท่องเที่ยวอย่างสำราญอย่างแน่นอนจ้า
--------------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ 
สาระน่ารู้กับเพลงภาษาอังกฤษยุค 60-70's เพื่อฝึกภาษาพร้อมคำแปล คลิ๊กดูบทความค่ะ>>
น่ารู้กับเพลงสากลยุค 60-70's เพื่อฝึกภาษาอังกฤษผ่านบทเพลง พร้อมคำแปล มีเพลงอะไรบ้าง ลองฟังวันย้อนวันวานกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

แบ่งปันรีวิวนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองบราติสลาวา 1 วัน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองบราติสลาวา เมืองหลวงประเทศสโลวาเกีย มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปเที่ยวชมดูสักครั้งสิ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
รีวิวเที่ยวกรุงบูดาเปสต์ 1 วัน ไป-กลับ ขยับเท้าเดินชมสถานที่เที่ยวต่างๆ มีอะไรบ้าง>>>
เก็บตก รีวิวเที่ยวฮังการี เดินฉิมพลีชมกรุงบูดาเปส์แห่งนี้ มีที่เที่ยวอะไรให้ชื่นชมกันอีกบ้าง ตามไปชมกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>

แบกเป้เที่ยวกรุงเวียนนาด้วยตัวเอง มีที่เที่ยวจุดถ่ายรูปอะไรบ้าง ตามไปกันเลย>>
แบ่งปันทริปเที่ยวกรุงเวียนนาด้วยตัวเองง่ายๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้เริงสุขสันต์กันบ้าง ตามไปชมกันเลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
รีวิวพาเที่ยวชมพระราชวังเดิม เติมความรู้แบบไทยๆ ไปชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูที่เที่ยว>>
เก็บตกวันหยุด พารีวิวเที่ยวชมพระราชวังเดิม เติมความรู้ไทยๆ มีอะไรให้ชมบ้างในโบราณสถานแห่งนี้ คลิ๊กดูรายละเอียดและการเดินทางค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวฮัลล์สตัทด้วยตัวเอง มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกัน>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวฮัลล์สตัทด้วยตัวเองแบบชิลๆ เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยววิวสวยๆอะไรให้ชมกันบ้าง ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>> 
แบ่งปันทริปรีวิวเที่ยวเมืองเก่าซาลซ์บูร์ก 1 วัน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
เปิดโลกกว้าง เดินทางไปเที่ยวเมืองซาลซ์บูร์ก(Salzburg) เมืองเก่าแก่แห่งนี้ มีที่เที่ยวจุดชมวิวสวยๆอะไรบ้าคลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
เปิดโลกกว้างเที่ยวเมืองเซลอัมซี (Zell am See) เมืองนี้ มีที่เที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>
แบ่งปันทริปท่องโลกกว้าง เที่ยวเมืองเซลอัมซี เมืองน่ารัก มีจุดนั่งพักถ่ายรูปสวยๆ ไปดูสิว่ามีที่เที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
รีวิวเที่ยวมิวเซียมสยาม แหล่งเรียนรู้สุดเก๋ไก๋ มีอะไรอัพเดทใหม่บ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย>>
รีวิวพาเที่ยวชมมิวเซียมสยาม แหล่งเรียนรู้ไทยๆสุดเก๋ไก๋ มีอะไรอัพเดทใหม่ๆให้ชมบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวและที่เที่ยวค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวขอนแก่น สุดสะแนนแสนชิล ไปถ่ายรูปวิวสวยงาม คลิ๊กดูที่เที่ยว>>
มาเด้อมาเที่ยวเมืองขอนแก่น สุดสะแนนแสนชิล ขับรถไปถ่ายรูปชมวิวต่างๆ มีที่ใหนเช็คอินบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
รีวิวเที่ยวเมืองอุดร เช่ารถขับตะลอนไปชมสถานที่ต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งกันเด้อ>>
มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองอุดร เช่ารถออนซอน ตะลอนไปชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งกันเด้อจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเวียงจันทร์ 1 วัน ไป-กลับ ขยับเดินชมตามที่เที่ยวต่างๆ มีอะไรบ้าง>>>
เก็บตก รีวิวเที่ยวเวียงจันทร์ 1 วัน ไปเช้า-เย็นกลับ มีที่เที่ยวอะไรให้ชื่นชมกันอีกบ้าง ตามไปเบิ่งกันเด้อ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น