รีวิวแบกเป้เช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวภูลังกา สวยระย้าจับใจ ตะลุยไปไหว้พระที่เชียงคำ สัมผัสวัฒนธรรมไทลื้อ งามระบือแท้เจ้า

ต่อจากรีวิวตอนที่แล้วจ้า เช่ารถรถมอเตอร์ไซต์จากเมืองพะเยา มาคลอเคล้าไอทะเลหมอกที่ภูลังกา สวยระย้าจับใจ ก่อนตะลอนไปเชียงคำ สัมผัสวัฒนธรรมไทลื้อ

ก็ขอสวีดัด สวัสดีทักทายแอนด์ ซำบายดีเพื่อนๆผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้นกันทุกๆคนอีกครั้งนะคะ หลังจากที่รีวิวก่อนหน้านี้ ดิฉันได้มารีวิวเที่ยวแบบชิลๆ นอนชมวิวที่เมืองพะเยาไปแล้ว มารีวิวในบล็อกนี้ ดิฉันคุณนายเว่อร์ เธอก็ขอเป็นคนบ้า มาแบ่งปันประสบการณ์ลุยเดี่ยว ด้วยการเช่ารถมอเตอร์ไซต์แวะไปเที่ยวนอนชมวิวทะเลหมอกที่ภูลังกา ก่อนจะลั๊ลลามาเที่ยวที่เชียงคำ เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมไทลื้อ และเดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ

ด้วยเหตุอันว่า เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามและภาพอันสวยสดของทะเลหมอกสีขาว พราวเสน่ห์ของภูลังกาแห่งนี้ ดิฉันเลยอยากจะมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งครา มาดูสิว่าจะงดงามชื่นอุราถึงทรวงในแค่ใหน และใหนๆก็อุตสาห์วางแผนมาเที่ยวพะเยาทั้งที เลยปลีกวิเวกจรลี ขับมอเตอร์ไซต์ตะล่อนเที่ยวมาให้ถึงที่เสียเลย

เอาล่ะค่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลากับการพร่ำเพร้อพรรณากับความบ้าไปมากกว่านี้ ดิฉันขอมารีวิวพาเพื่อนๆไปเที่ยวภูลังกา และไปลั๊ลลาเที่ยวที่เชียงคำกันเลยจ้า

ก่อนจะเข้าสู่รีวิวที่เที่ยว ก็มารู้จักภูลังกาและอำเภอเชียงคำ กันสักเล็กน้อย

วนอุทยานภูลังกา

 วนอุทยานภูลังกา
สำหรับวนอุทยานภูลังกา ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเชียงคำและอำเภอปง จังหวัดพะเยา อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำเปื๋อย ป่าน้ำหยวนและป่าน้ำลาว และป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยม เป็นภูเขาสูงชันอยู่ในเทือกเขาสันปันน้ำ วางตัวอยู่ในแนวตะวันออก-ตะวันตก สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 900-1,720 เมตร มีลำห้วยที่สำคัญ คือ น้ำแม่คะไหลผ่านด้านทิศใต้ ห้วยน้ำต้มและน้ำแม่รูไหลลงน้ำแม่รูทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ห้วยคะแนงและห้วยป่ายางไหลลงน้ำแม่ลาวทางทิศเหนือ ลำห้วยทั้งหมดจะไหลลงสู่แม่น้ำยม

อำเภอเชียงคำ 

เป็นหนึ่งเมืองเก่าแก่ที่อยู่ในจังหวัดพะเยา ตั้งอยู่ในบริเวณที่ราบลุ่มน้ำลาว น้ำยวน และน้ำแวน ซึ่งเป็นลุ่มน้ำย่อยของลุ่มน้ำอิง ในอดีตเป็นแอ่งอารยธรรมของชุมชนที่มีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับสายน้ำมายาน และยังเป็นถิ่นฐานของชาวไทลื้ออีกด้วย ปัจจุบันเชียงคำได้จัดเป็นเมืองท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเชิงอนุรักษ์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งด้วย มีวัดวาอารามเก่าแก่ให้แวะไปสักการะกราบไหว้บูชา และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย

หลังจากที่ได้อ่านสาระน่ารู้เล็กๆน้อยๆกันไปแล้ว ก็ไปเที่ยวกันเลย

ต่อจากรีวิวก่อนหน้านี้ตามเว็ปไซต์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2018/12/phayao-travel-backpack-rent-motorbike-review.html

หลังจากที่ได้ไปตะลอนขับรถไหว้พระตามวัดวาอารามต่างๆในเมืองพะเยาแล้ว เวลาบ่าย 4 โมงเย็นกว่า ดิฉันก็ต้องรีบจรลี ไปยังภูลังกา

ซึ่งระยะทางจากเมืองพะเยาไปยังภูลังกาก็ไม่ได้ใกล้ๆเลยนะคะ แต่ก็บ่ยั้น รีบแว๊นไปด่วนเลย

ขับรถมาเชียงคำ ก็พลบค่ำเสียแล้วคะ

เส้นทางไปยังภูลังกา เป็นภูเขาเลี้ยวลดคดเคี้ยวและลาดชันแถมขับตอนกลางคืนด้วยอากาศเย็นมากๆ ต้องระมัดระวังสุดๆเลยแหละ ถ้ายิ่งเป็นช่วงหน้าฝน ยิ่งต้องระวังเลยทีเดียว

และแล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อรถมอเตอร์ไซตที่ขับมาเกิดยางรั่วที่ล้อหลังจ้า โอ้มายกอดจะทำอย่างไรดี เพราะระยะทางอีกเกือบ 10 กว่ากิโลเมตรเลย กว่าจะไปถึงภูลังกา ดิฉันเลยตัดสินใจโบกรถเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่กว่ารถจะผ่านมาสักคัน ก็นานเหลือเกิน บางคันโบกก็ไม่จอดนะคะ เพราะเห็นหน้าตาดิฉันเหมือนโจร ก็ขับรถยิ่งเผ่นหนีกันหมด เพราะกลัวว่าดิฉันเป็นมิจฉาชีพ เนื่องจากมืดค่ำแล้ว จะบดล้อรถไปก็ลำบาก ตอนขับลงไปเท่าไหร่ แต่ถ้าตอนขับขึ้นจะเหนื่อยยากหน่อย 

ขณะนี้โบกรถขอความช่วยเหลืออยู่นี้ ก็มีคุณพี่ขับรถกระบะขนเสาปูน มีน้ำใจสุดๆ ถือเป็นเทพบุตรน้ำใจงามได้จอดรถข้างทาง มาช่วยผู้หญิงไม่แท้ตัวคนเดียวแบบดิฉัน และคุณพี่ขับรถกระบะแนะนำว่าให้ยกรถมอเตอร์ไซต์ใส่รถกระบะขนปูไปที่ร้านซ่อมในหมู่บ้านแม่สะเกิน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่รถยางรั่วนี้ไปอีกไกลทีเดียวเชียว่ะ

ดิฉันต้องขอบคุณ คุณพี่คนขับรถกระบะท่านนี้มากๆ เรียกว่าน้ำใจพี่น้องชาวไทย ไม่ทิ้งกันจริงๆ ถ้าไม่ได้คุณพี่ท่านนี้ เดี๊ยนมีหวังจะต้องจูงมอเตอร์ไซต์ หรือไม่ก็คงไปสิงสถิตนอนอยู่ริมดงกล้วยริมทางอย่างแน่นอน

คุณพี่ขับรถกระบะ พาดิฉันและรถมอเตอร์ไซต์ที่ยกใส่กระบะ นำมาส่งที่ร้านซ่อมซึ่งอยู่ในหมู่บ้านแม่สะเกิน ไกลจากจุดที่พักภูลังกามาอีก 3 กิโลเมตร และทางร้านซ่อมก็ใจดี เปิดให้บริการพิเศษในช่วงมืดๆดึกๆดืนๆอย่างนี้ด้วยค่ะ  โดยทางเจ้าของซ่อมบอกว่ารถดิฉันขับไปเหยียบตูปูมา ไม่สามารถปะยางได้ ก็เลยต้องเปลี่ยนยางในใหม่หมดเลย เสียค่าเปลี่ยนยางและค่าซ่อมรวมค่าบริการพิเศษ 200 บาท

ต้องขอบพระคุณเจ้าของรถกระบะขนเสาปูนท่านนี้มากๆ ไม่รู้จักตอบแทนด้วยสิ่งใด ดิฉันเลยหยิบของฝากจากทริปเที่ยวเมืองแพร่ มอบให้คุณพี่แก เพื่อเป็นสินน้ำใจในการช่วยเหลือยามดึกดึนเช่นนี้..ต้องขอบพระคุณจากใจจริง  หากเพื่อนๆคนใหนที่จะลุยเดี่ยวมาเที่ยวแบบดิฉัน แนะนำว่าให้ขับมาช่วงกลางวันก่อนเวลาพลบค่ำนะคะ

หลังจากได้ทำการเปลี่ยนยางรถมอเตอร์ไซต์ที่ร้านซ่อมในหมู่บ้านแม่สะเกินเรียบร้อยแล้ว ดิฉันก็ขับรถมอเตอร์ไซต์ย้อนกลับมาที่ภูลังกา

โดยทริปนี้ดิฉันไม่ได้จองที่พักล่วงหน้า ก็เลยเดินหาที่พักแบบ Walk in โดยวันที่มาเที่ยวนี้ก็ติดอยู่ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ห้องพักส่วนตัวเต็มหมดแล้วด้วย ก็เลยต้องเลือกนอนพักแบบกางเต็นท์เอาจ้า โดยพักค้างที่ภูภาโฮมสเตย์ ค่าเสียหายกางเต็นนอนรวม 400 บาทรวมอาหารเช้า

และจุดกางเต็นท์วิวสวยๆก็ถูกจองเต็มกันหมดแล้ว ดิฉันก็เลยต้องยอมใจมากางนอนด้านในบ้านเลย แต่ก็สะดวกดีนะคะ เพราะมีปลั๊กฟง ปลั๊กไฟให้พร้อมเลย แถมใกล้ห้องน้ำด้วย

อากาศบนดอยเย็นยิ่งนัก แต่ก็มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้นะคะ และเป็นเครื่องทำอุ่นแบบแก๊สด้วย เปิดปุ๊บร้อนปั๊บ ขยับอุณหภูมิไม่ได้นะจ๊ะ ต้องผสมน้ำเย็นเอาเอง

 และใกล้ๆบ้านพักโฮมสเตย์จุดกางเต็นที่ดิฉันพักอยู่ ก็มีร้านอาหารบ้านทะเลหมอกซึ่งยังเปิดให้บริการอาหารอยู่ ก็แวะไปนั่งทาน ชมดวงเดือนทอแสงส่องประกายได้

 ระหว่างรออาหารจากแม่ครัว ซึ่งน่าจะใช้เวลานาน ยังมีอาหารเหลือจากมื้อกลางวัน ช่วยแก้หิวไปได้บ้าง

มื้อเย็นนี้ขอสั่งทานแบบง่ายๆ หนีไม่พ้นอาหารสิ้นคิด อย่างผัดกระเพราอีกเช่นเดิมค่ะ เป็นอาหารสิ้นคิดที่ติดโผอาหารยอดนิยมระดับโลกไปเสียแล้ว

หลังจากทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ ก็กลับมานั่งทำงานต่ออีกสักพัก ก่อนจะนอนหลับคาเต็นท์ไปเลย หมดไป 1 วัน เป็นทริปการเดินทางที่เหนื่อยๆมากๆ เพราะมอเตอร์ไซต์ยางรั่วนี้แหละ แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีเช่นกัน
-----------------------------------------------------------------------

อรุณเบิกฟ้านกกาโบยบิน ออกหากินร่าเริงแจ่มใส เราเบิกบานรีบมาไวๆ ยิ้มรับวันใหม่ยิ้มให้แก่กัน..เช้าวันใหม่ทริปนี้ บนดอยภูลังกา ตื่นมาก็เห็นนกกาโบยบินจริงนะคะ จากทริปรีวิวก่อนๆไม่เคยเห็นนกกาโบยบินเท่าใดนัก

 เดินออกจากจุดกางเต็นท์ในโฮมสเตย์ไม่ไกลนัก ก็พบกับบรรยากาศทะเลหมอกสีขาวนวลผ่องกำลังปกคลุมรอบบริเวณอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน

 บรรยากาศยามเช้านี้อากาศเย็นสบายยิ่งนัก ไม่หนาวจนเกินไป ตื่นมาหน้าไม่ต้องล้าง ฟันไม่ต้องแปรง เดินฉีกแข้งขา มาลั๊ลลาถ่ายรูปก่อนเลย

เพื่อมารอชมพระอาทิตย์ลอยละล่องทอแสงส่องสู่ฟากฟ้า

มวลพฤกษาแม่ดอกบัวตองกำลังผลิดอกบานเหลืองอร่าม ให้ชวนชมกันอย่างอภิมรมย์สมใจอีกด้วย

และหากมาเที่ยวช่วงเดือน พ.ย.และต้นเดือนธันวาคมนี้  จะพบกันมวลพฤกษาแม่ดอกบัวตองกำลังผลิดอกบานเหลืองอร่าม ให้ชวนชมกันอย่างอภิมรมย์ใจอีกด้วย

 รอไม่นานเกินรอ พระอาทิตย์ก็ส่องความฟิน เปล่งแสงโรยรินออกมากจากฟากฟ้า สวยงามระย้าจับใจ เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ ขอให้พบแต่สิ่งดีๆ อย่าให้รถยางรั่วนะ

 เวลายามเช้ากับอากาศเย็น เต็มได้ด้วยนักถ่ายภาพมืออาชีพและมือสมัครเล่นมากมาย มาพร่างพรายตั้งกล้องลั่นชัตเตอร์ เอาไว้ปรนเปรอความสุข เก็บในแฟ้มไดอารี่การเดินทาง

 ทัศนีภาพโดยรอบด้านล่างที่มองเห็นอยู่นี้ คืออุทยานแห่งชาติแม่สะเกินจังหวัดน่าน ส่วนจุดที่ดิฉันยืนอยู่นี้คือเขตจังหวัดพะเยา

ถือเป็นสถานที่สำหรับการพักผ่อนเปลี่ยนอริยาบทและรับมุมมองใหม่อย่างแท้จริง

 จุดถ่ายภาพยอดนิยมที่ Magic Mountain Cafe

 และนอกจากนี้ยังมีจุดถ่ายภาพมากมายหลายมุม โดยเฉพาะจุดถ่ายภาพที่ร้านเมจิก เมาเทน คาเฟ่ ซึ่งเป็นจุดที่เหล่าวัยรุ่นและคู่รักนักเดินทางนิยมไปเดินสะพร่าง ชะแว๊ปแวะไปถ่ายภาพและนั่งจิบชากาแฟกันเยอะมาก

 จุดชมวิวที่ร้านเมจิก เมาเทนส์คาเฟยามเช้า

 ดอกบัวตองสีเหลืองทองอร่าม กำลังชูช่อสะพร่างรับแสงออร่าจากพระอาทิตย์มาแต่ไกล

หากใครที่เบื่อๆการนอนอยู่บ้าน หรือเบื่อการทำงาน ก็แวะมาชาร์ตแบตให้ตัวเองที่ภูลังกาแห่งนี้ได้นะคะ

 จุดถ่ายภาพยอดนิยมที่ Magic Mountain Cafe

 จุดถ่ายภาพยอดนิยมที่ Magic Mountain Cafe มากมายไปด้วยนักท่องเที่ยวที่แวะไปถ่ายรูป และจิบชากาแฟกันในร้าน

อีกหนึ่งจุดชมวิวสวยที่ ร้านภูลังกา เลอบาโคนี่

 อีกหนึ่งจุดชมวิวสวยที่ ร้านภูลังกา เลอบาโคนี่ ก็มีร้านอาหารและเครื่องดื่มให้นั่งทานชมวิวภ่ายภาพสวยๆเช่นกัน

ใครที่ชอบถ่ายรูปมุมใหนก็แวะไปกันได้นะคะ แต่ยังไงก็ตื่นเช้าหน่อยล่ะกัน อย่ามัวแต่หลับเพลินจนลืมมาถ่ายภาพตอนเช้าๆกันล่ะ

เมื่อหมอกสีขาวจางหายไป ก็เหลือไว้แต่รอยยิ้มพิมพ์ใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตน

ระยะทางจากจุดชมวิวทะเลหมอกภูลังกาไปยังพะเยา 113 กิโลเมตร ขับรถ ขับราต้องระวังยางรั่ว ยางอัว ยางแตกเหมือนข้าน้อยเน้อเจ้า

จากจุดชมวิวทะเลหมอกภูลังกาที่ดิฉันยืนสแตนอัพอยู่นี้ ระยะทางไปยังจังหวัดพะเยา 113 กิโลเมตรเลยจ้า ไกลเหมือนกันนะ ขับรถ ขับราต้องระวังยางรั่ว ยางอัว ยางแตกเหมือนข้าน้อยเน้อเจ้า

 บริเวณโดยรอบก็มีร้านค้าของชาวน้ำ นำพืชผลทางการเกษตรมาวางขายให้นักท่องเที่ยวได้แวะซื้อกันอีกด้วย

อาหารเช้ามื้อนี้ที่ภูภาโฮมสเตย์ เป็น

 กลับจากการเดินชมวิวทะเลหมอกแล้ว ก็มาทานอาหารเช้ากันค่ะ ที่ภูภาโฮมสเตย์

 อาหารเช้าเป็นข้าวต้มร้อนแบบง่ายๆ ทานสบายท้องดี จะสั่งอเมริกันเบรคฟาส์หรือพิซซ่าไม่มีให้นะจ๊ะ
ทานแบบนี้แหละ เรียบง่ายดี

 นั่งทานอาหารชมวิวทิวทัศน์ไปได้บรรยากาศดีนะ

มีแต่ป่าไม้สีเขียวชอุ่ม ท้องฟ้าก็แจ่มใส งามวิไลยิ่งนัก

หลังจากทานข้าวอิ่ม อาบน้ำ ปะแป้ง ทาถู ทาถู ด้วยยาหม่องตราถ้วยทองยี่สิบกล่องคงไม่พอเสร็จแล้ว จากนั้นก็สตาร์ทรถมอเตอร์ไซต์ ภาวนาไว้อย่าให้รถไปเหยียบตะปูยางรั่วให้นะ

 ขับรถมอเตอร์ไซต์ลงจากจุดชมวิวทะเลหมอกภูลังกา มาเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน ซึ่งในเขตจังหวัดน่าน และเป็นที่เที่ยวที่อยู่ใกล้จุดชมวิวที่สุดแล้ว

 ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยทราบกัน ดิฉันเองก็รับคำแนะนำจากเจ้าของที่พัก ภูภาโฮมสเตย์ แนะนำให้มาเที่ยวชมสักครั้ง เพราะอยู่ไม่ไกลกัน ประมาณ 3 กิโลเมตรเอง

ระหว่างทางขับรถมาก็พบเห็นชาวบ้านกำลังลงแขกเกี่ยวข้าวที่กำลังสุกงอกอยู่พอดี เป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่าย สไตล์ชนบทแท้ๆเชียวล่ะ

สาระน่ารู้เกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน

 ขับรถจากปากทางเข้ามาไม่ไกลนักประมาณ 3.5 กิโลเมตรก็ถึงที่ทำการอุทยานแล้วค่ะ

สาระน่ารู้เกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน

โดยตั้งอยู่ในตำบลยอด อำเภอสองแคว จังหวัดน่าน เนื้อที่ของอุทยานนั้นครอบคลุมพื้นที่เทือกเขาสูงตอนปลายแห่งทิวเขาหลวงพระบาง ประกอบด้วยผืนป่าสมบูรณ์ ถ้ำขนาดใหญ่ น้ำตกและอยู่ใกล้จุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามติดกับอาณาเขต อำเภอปง จังหวัดพะเยาอีกด้วย

 เสียค่าธรรมเนียมเข้าชม 20 บาท
ค่ารถมอเตอร์ไซต์อีก 20 บาท
รวมค่าเสียหาย 40 บาท

โดยในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้เที่ยวชมอย่างอภิรมย์สมใจเลยนะคะ
-น้ำตกผาธาร
-ถ้ำหลวงสะเกิน
-ต้นพระเจ้าห้าพระองค์
-ถ้ำทอง
-ตาน้ำบ่อปลากั้ง
-เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
ซึ่งเส้นทางบางแห่งต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางไป ใช้เวลาพอสมควร หากเพื่อนคนใหนที่รักการเดินป่า อยากจะออกมาเริงร่าชมความเขียวสดของผืนป่าแห่งนี้ ก็แวะมากันได้เลย

 และด้วยเวลาอันจำกัด ทางเจ้าหน้าที่เลยเลือกให้ดิฉันไปชมน้ำตกผาธารแทน เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากที่ทำการ และสามารถเดินเท้าไปได้ไม่ไกลนัก

เดินจากปากทางน้ำตกมาไม่ไกลนักประมาณ 400 เมตรก็ถึงชั้นที่ 1 ของน้ำตกผาธาร แม้น้ำจะน้อยไปหน่อย แต่ก็งามหยดย้อยไม่เบาทีเดียวค่ะ บรรยากาศโดยรอบอากาศเย็นสดชื่น รื่นฤทัยสุดๆไปเลยทีเดียว

สาระน่ารู้เกี่ยวกับน้ำผาธาร ในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน

สาระน่ารู้เกี่ยวกับน้ำผาธาร ในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน

มีลักษณะเป็นน้ำตกขนาดกลาง มีความสูง 3 ชั้น มีน้ำไหลตลอดทั้งปีจากห้วยน้ำงิม โดยมีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาดอยจี๋ มีความสูงประมาณ 20 เมตร น้ำตกกว้าง 5 เมตร และยังมีการปรากฎของหินเปลี่ยนสี ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากแสงแดดส่องผ่านละอองน้ำในอากาศ ซึ่งสามารถมองเห็นปรากฎการณ์ของหินเปลี่ยนสีได้ในช่วงเวลา 10.00-11.00 น.ของทุกวันด้วย

 และหลังจากที่ได้ดื่มด่ำชมความงามของน้ำตกผาธารที่อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกินแล้ว ดิฉันก็แว๊นๆ ขับมอเตอร์ไซต์มาที่อำเภอเชียงคำ อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดพะเยา  โดยสถานที่แรกที่ดิฉันแวะมาคือ วัดพระนั่งดิน

แว๊นขับมอเตอร์ไซต์จากอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกินมาที่อำเภอเชียงคำอำเภอเชียงคำ

 อำเภอเชียงคำ เมืองเก่าแก่ มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน มีวัดวาอารามเก่าแก่ แวดล้อมไปด้วยหุบเขาป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์  จนได้รับการขนามนามว่าเป็นเมืองแห่งธรรมะ มีพระนั่งดิน. ถิ่นทอน้ำไหล ผ้าไทลื้อ น้ำตกเลื่องลือ คะแนงน้ำมิน ป่าไม้ผืนดิน อุดมสมบูรณ์.

วัดพระนั่งดิน

 เกี่ยวกับวัดพระนั่งดิน

วัดเก่าแก่ในอำเภอเชียงคำ โดยเป็นวัดที่มีองค์พระประธานของวัดไม่มีฐานชุกชีรองรับเหมือนพระประธานในวัดอื่น ๆ เคยมีราษฎร์สร้างฐานชุกชีและอัญเชิญพระประธานขึ้นประดิษฐาน แต่ปรากฏว่าพยายามอย่างไรก็ยกไม่ขึ้น จึงเรียกสืบต่อกันว่า พระเจ้านั่งดิน นอกจากนี้ยังมีตำนานเล่าถึงพระพุทธรูปองค์นี้อีกว่า ได้รับการสร้างขึ้นเมื่อครั้งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ชีพอยู่ ดังนั้นจึงสันนิษฐานได้ว่าพระเจ้านั่งดินองค์นี้น่าจะมีอายุกว่า 2,500 ปี แล้ว

 หากเข้ามากราบสักการะในพระอุโบสถจะเห็นองค์จำลองพระนั่งดิน ให้ผู้ที่เดินทางมาสักกาะได้ปิดทองได้

ส่วนองค์จริงของอยู่ในตู้กระจกครอบไว้อย่างแน่นหนา

โดยพระนั่งดินที่อำเภอเชียงคำ ถูกจัดเป็นหนึ่งใน Unseen Thailand ซึ่งหากใครที่แวะมาเที่ยวเชียงคำ ยังไงก็ต้องแวะมาสักการะกันสักครั้งให้ได้

 และหลังจากที่ได้สักการะพระนั่งดินแล้ว ก็ขับมอเตอร์ไซต์มาอีกไม่ไกลนัก เข้ามาในตัวอำเภอเชียงคำ แวะมาวัดนันตาราม อีกหนึ่งวัดสำคัญในเมืองนี้ ที่เหล่านักเดินทางทุกคนต้องแวะมาพัก

เกี่ยวกับวัดนันตาราม

 โดยวัดแห่งนี้ถือเป็นวัดที่สร้างจากไม้สักทองทั้งหลัง

เกี่ยวกับวัดนันตาราม
สำหรับวัดแห่งนี้ไม่ปรากฎว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยใด แต่เป็นวัดประจำของชาวไทยใหญ่ ซึ่งแต่เดิมนั้นเรียกว่า วัดจองคำ เพราะมุงด้วยหญ้าคา โดยมีฐานะเป็นพระอารามหรือสำนักสงฆ์สำหรับปฏิบัติศาสนกิจ ชาวบ้านส่วนใหญ่มักเรียกว่า วัดจองเหนือ เพราะตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของอำเภอเชียงคำ และเปลี่ยนชื่อเป็น วัดนันตาราม ในปัจจุบัน เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณงามความดีของผู้สร้างวัดแห่งนี้

โดยวิหารเป็นศิลปะแบบไทใหญ่ สร้างจากไม้สักทั้งหลัง หลังคาหน้าจั่วยกเป็นช่อชั้น ลดหลั่นกันมุงด้วยแป้นเกร็ด เพดานประดับประดาด้วยกระจกสีลวดลายวิจิตรสวยงามไม้ซ้ำกัน เสาทั้ง 68 ต้น ลงรักปิดทองอย่างสวยงาม

นอกจากนี้แล้วภายในวิหาร ก็ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บข้าวของเครื่องใช้ในอดีตที่หาดูได้ยากในปัจจุบันเช่น ธนบัตรเก่า ผ้าลายโบราณ หนังสือพิมพ์ แผ่นเสียงและเครื่องใช้โบราณต่างๆ ให้ได้เดินชมและเรียนรู้กันอีกด้วย

 และไม่ไกลนักจากวัดเชียงคำ ก็เดินทางมาที่วัดหย่วน ซึ่งใกล้วัดหย่วนเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ไทลื้อให้แวะเข้าไปชมศึกษาและเรียนรู้อย่างน่าสนใจ

 วัดหย่วนวัดเก่าแก่ในอำเภอเชียงคำ

ศูนย์วัฒนธรรมไทลื้อ

 โดยพิพิธภัณฑ์อยู่ใกล้ๆกับวัดเลยค่ะ

 สาระน่ารู้เกี่ยวกับศูนย์วัฒนธรรมไทลื้อ 

สำหรับศูนย์วัฒนธรรมไทยลื้อ ตั้งอยู่ที่วัดหย่วน เริ่มก่อตั้งในปี 2536 ด้วยความประสงค์ของท่านพระครูสุภัทร พรหมคุณ เจ้าอาวาสวัดหย่วน ที่ต้องการให้กลุ่มทอผ้าในหมู่บ้านย้ายไปทอผ้าในวัดหย่วน เพื่อเป็นการอนุรักษ์และฟื้นฟูการทอผ้า เนื่องจากการทอผ้าได้เริ่มสูญหายไปจากในหมู่บ้าน ศูนย์แห่งนี้เป็นศูนย์แสดงผลงานทางศิลปวัฒนธรรม และฝึกอาชีพของชาวไทยลื้อ โดยเฉพาะผ้าของชาวไทยลื้อที่มีลวดลายและสีสันสดใส เช่น ลายดอกขอเครือ ลายดอกขอ ลายม้า ลายดอกตั้ง เป็นต้น เพื่อจัดแสดงให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาชมและเรียนรู้วัฒนธรรมไว้อย่างน่าสนใจ 

เดินเข้ามาด้านในมีแผนที่แนะนำชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ไทลื้อเมืองมาง เมืองหย่วนให้ได้แวะไปชมกันอีกด้วย

 สำหรับศูนย์วัฒนธรรมไทยลื้อ วัดหย่วนนี้ เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ ถึง วันอาทิตย์
ตั้งแต่เวลา 9.00-17.30 น. ไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด

ด้านในพิพิธภัณฑ์ก็จัดแสดงนิทรรศการความรู้ต่างๆเกี่ยวกับวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมไทลื้อ

 เดินมาด้านในพิพิธภัณฑ์ก็จัดแสดงนิทรรศการความรู้ต่างๆเกี่ยวกับวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรม สิ่งของ เครื่องใช้ต่างๆ และความเป็นมาต่างๆ ให้ได้เดินศึกษาตามอัธยาศัย 

 และที่โดดเด่นเห็มมาแต่ไกลหากนึกถึงวัฒนธรรมไทลื้อ คงเป็นเครื่องแต่งกายที่มีเอกลักษณ์สวยงาม โดยเป็นผ้าทอมือสีสันโดดเด่น

 มีโรงทอผ้าของชาวไทลื้อในศูนย์แห่งนี้ ได้ชมกันอีกด้วยล่ะค่ะ

สำหรับผ้าที่เห็น คือผ้าเช็ดหลวง ซึ่งลักษณะเหมือนคล้ายตุง แต่จะแตกต่างจากตรงที่ผ้าเช็ดหลวงจะไม่มีไม้ไผ่สอดแทนเส้นยืนเหมือนตุง และไม่นิยมทอเป็นลายปราสาท เหมือนตุง

สำหรับผ้าที่เห็น คือผ้าเช็ดหลวง ซึ่งลักษณะเหมือนคล้ายตุง แต่จะแตกต่างจากตรงที่ผ้าเช็ดหลวงจะไม่มีไม้ไผ่สอดแทนเส้นยืนเหมือนตุง และไม่นิยมทอเป็นลายปราสาท เหมือนตุง

เครื่องแต่งกายที่โดดเด่น ซึ่งสื่อถึงอัตลักษณ์ของชาวไทลื้อได้อย่างชัดเจน

และในเชียงคำเองก็มีเฮือนไทลื้อแบบโบราณให้แวะเข้าไปชมและถ่ายรูปได้ด้วย

 และของฝากขึ้นชื่อในอำเภอเชียงคำ ก็เป็น กะละแมโบราณแบบตำรับชาวไทลื้อ

 ซื้อจัดบรรจุภัณฑ์อย่างสวยงาม

ของฝากเมืองเชียงคำ เป็นกะละแมโบราณแบบเมืองเหนือแต้ๆเจ้า หอม หวานมัน อร่อยลำนำกาลไปในยุคโบราณแต้ๆ

ทางเจ้าของก็ให้แกะชิม ลิ้มลองได้อีกด้วย รสชาติหอม หวานมัน อร่อยมากๆ

จัดตามมาด้วย หมี่กรอบลำไยก็อร่อยเช่นเกัน มาเที่ยวเชียงคำรอบนี้ ดิฉันได้ของฝากที่เชียงคำไปให้ที่ทำงานและไปฝากที่บ้านเยอะเลยเชียว 

อาหารเที่ยงที่เชียงคำมื้อนี้ ทานก๋วยเตี๋ยวแบบง่ายๆ

 ชะแว๊ปมาเห็นชาวบ้านในเชียงคำ กำลังปิ้งขนมจากห่อใบตองอีกแล้วเน้อเจ้า หลังจากทริปเมื่อเดือนก่อนไปเที่ยวสุรินทร์ ก็ได้ลิ้มลองขนมจากห่อใบตองเหมือนกัน มาเที่ยวทางภาคเหนือ แวะเชียงคำก็เจอขนมจากห่อใบตองอีกแล้ว ต้องซื้อมาลิ้มลองทานสักหน่อย

แกะทานดูสิว่า รสชาติเป็นอย่างไร รสชาติเหมือนกับทริปรีวิวที่ไปเที่ยวสุรินทร์ หรือไปจังหวัดชุมพรหรือเปล่า พอได้ทานแล้ว รสชาติก็หอม หวานอร่อยทีเดียวนะคะ เป็นของว่างทานได้เลยเชียว

 ของฝากอีกอย่าง ที่สาวเล็ก สาวใหญ่ต้องชอบ ก็คงเป็นผ้าทอไทลื้อ

ผ้าซิ่นหรือผ้าถุงลวดลายต่างๆ จำหน่ายขายในราคาไม่แพง ใครซื้อมากก็ต้องต่อรองราคากับคนขายได้ด้วยนะคะ

ขับมอเตอร์ไซต์เชียงคำไปน้ำตกภูซางระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร

และอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัดพะเยา และอยู่ไม่ไกลจากเชียงคำ สามารถขับรถมอเตอร์ไซต์หรือรถยนต์ส่วนตัวไปได้ ก็คือ น้ำตกภูซาง หรือน้ำตกอุ่น จัดเป็นน้ำตกสวยงามที่ต้องไปแวะชมสักครั้ง โดยระยะทางจากเชียงคำไปประมาณ 20 กิโลเมตร

 ขับรถมาเรื่อยๆ เส้นทางไม่ลาดชัน และน้ำตกก็อยู่ติดถนนเลย ไม่ได้เดินไปไกล บรรยากาศโดยรอบ แวดล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวชอุ่ม โดยน้ำตกอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูซาง

อุทยานแห่งชาติน้ำตกภูซาง

อุทยานแห่งชาติน้ำตกภูซาง 

น้ำตกภูซางตั้งอยู่ที่ ตำบลภูซาง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูซาง ประมาณ 200 เมตร ในสมัยอดีตกาลไม่ปรากฏหลักฐาน มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า มีปู่กับย่าเป็นนักแสวงบุญได้มาปฏิบัติธรรมอยู่บนภูเขาลูกหนึ่งและได้ก่อสร้างพระธาตุขึ้น ก่อนตายชาวบ้านละแวกนั้นเรียกว่า พระธาตุปู่สร้าง และเพี้ยนมาเป็นภูซาง

น้ำตกภูซาง น้ำตกสวยงามแห่งจังหวัดพะเยา

น้ำตกภูซาง จัดเป็นน้ำตกขนาดเล็กมีน้ำไหลสม่ำเสมอตลอดปี โดยน้ำตกมีความสูงประมาณ 25 เมตร จุดเด่นของน้ำตกภูแห่งนี้คือเป็นกระแสน้ำอุ่น มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส โดยน้ำไม่มีกลิ่นของกำมะถัน โดยนักท่องเที่ยวที่แวะมาเที่ยว สามารถอาบน้ำ เล่นน้ำ อย่างสบาย โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว

สาระน่ารู้ของเส้นทางน้ำตกภูซาง

สาระน่ารู้ของเส้นทางน้ำตกภูซาง 
การเดินทางของสายน้ำอุ่น สายน้ำของน้ำตกภูซาง เดินทางลัดเลาะมาตามลำห้วยน้ำฮวด ไหลผ่านบ่อน้ำร้อนที่เรียกว่า บ่อซับน้ำอุ่นตกลงหน้าผาหินปูนความสูง 15 เมตร กลายเป็น น้ำตกอุ่น ที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียล และไหลรวมกันลำน้ำเปื่อย เป็นแหล่งน้ำที่หล่อเลี้ยงชุมชนต่อไป 

ระหว่างเส้นทาง สายน้ำอุ่นนี้ได้ผ่านป่าที่มีน้ำขังตลอดปี มีซากพืชสลาดกับถมกันแน่นหลายชั้น พืชหลากชนิด สามารถปรับตัวขึ้นอยู่ในพื้นที่นี้ อาทิ คล้า คลุ้ม เตยเหาะ ลำเท็ง แข้งไก่ กรวย และทองหลางป่า ป่าชนิดนี้พบได้ไม่มากในเมืองไทย มีชื่อว่า-ป่าพรุ นอกจากนี้ ยังไหลผ่านป่าดงดิบแล้งที่สมบูรณ์ด้วยไม้ผลัดใบและไม่ผลัดใบขนาดใหญ่ หลากหลายขั้นอายุ ที่ร่วมกับป่าพรุในการรักษาต้นน้ำลำธารของน้ำตกแห่งนี้

ขับมอเตอร์ไซต์ออกจากน้ำตกภูซาง มุ่งหน้ามาที่ หน้า ม.พะเยา เพื่อนำรถมาคืนที่ร้านเช่ารถ

 หลังจากที่นั่งพักผ่อนชมน้ำตกภูซางจนสำราญสมใจแล้ว ดิฉันก็ขับมอเตอร์ไซต์ออกจากภูซาง มุ่งหน้ามาที่ หน้า ม.พะเยา เพื่อนำรถมาคืนที่ร้านเช่ารถ แวะทานก๋วยเตี๋ยวใกล้ร้านเช่ารถเป็นอาหารมื้อเย็นนี้

จากนั้นก็นั่งรถบัสโดยสารด้วยจาก หน้า ม.พเยา กลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ...จบทริปเที่ยวแพร่และจังหวัดพะเยา

หลังจากที่ทานอาหารมื้อเย็นจนอิ่มแล้ว จากนั้นก็นั่งรถบัสโดยสารด้วยจาก หน้า ม.พเยา กลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ...จบทริปเที่ยวแพร่และจังหวัดพะเยา

สรุปค่าใช้จ่ายทริปเที่ยวแพร่ แวะไปแลพะเยา คลอเคล้าที่ภูลังกา

ค่ารถบัสโดยสารจากรุงเทพ-แพร่ 427 บาท
ค่าที่พัก-เชตวันโฮมสเตย์แพร่ คืนละ 400 บาท พัก 2 คืน 800 บาท
ค่าเช่ามอเตอร์ไซต์แพร่ จากร้าน บีไบค์ ค่าเช่าวันะ 180 บาท รวม 360 บาท
ค่ากินจิปาถะ 456 บาท

ค่ารถตู้โดยสารหนานคำ นั่งจากแพร่มาที่พะเยา 102 บาท
ค่าที่พักโรงแรมดีดีการ์เดนส์โฮม (DD garden home พะเยา) คืนละ 765 บาท
ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซต์ วันละ 300 บาท เช่า 2 วัน รวม 600 บาท
ค่าเช่าเต็นท์กางนอนที่ภูลังกา 400 บาท
ค่าเปลี่ยนยางรถมอเตอร์ไซต์ 200 บาท
ค่ารถบัสโดยสารกลับกรุงเทพ 484 บาท 
ค่ากินจิปาถะอื่นๆ 887 บาท
รวมค่าเสียหายจากทริปนี้ทั้งหมด 5,481 บาท

สำหรับรีวิวทริปเที่ยวประจำเดือนพฤศจิกายนก็ขอจบเพียงเท่านี้ ต้องขอขอบพระคุณผู้อ่านและเพื่อนๆผู้รักการทัศนาจรทุกท่านที่เสียสละเวลาคลิ๊กเข้ามาสไลด์เลื่อนดูกัน หากข้อมูลรีวิวดังกล่าวมีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไป ขอบพระคุณค่ะ...จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
-----------------------------------------------------------------------------
บทความอื่นๆ และทริปรีวิวเที่ยวไปเรื่อยเปื่อยตามเมืองต่างๆมีดังนี้

แนะนำ 6 ที่เที่ยวในเมืองพะเยา เอาใจสายชิล มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>

จัดมาเบาๆ 6 ที่เที่ยวในเมืองพะเยา เอาใจสายชิล แวะชมวิวสวยๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูข้อมูลที่เที่ยวค่ะ>>>

แนะนำที่พักริมกว๊านพะเยา ในราคาเบาๆ กับวิวสวยๆ คลิ๊กดูข้อมูลที่พักค่ะ>>

แนะนำข้อมูลที่พักริมกว๊านพะเยา ในราคาเบาๆ สุดประหยัด นอนพักสบาย สำหรับพักคู่และครอบครัว คลิ๊กดูข้อมูลที่พักค่ะ>>

งามอย่างแรง ที่พักสันกำแพง วิวสวยๆ อากาศดีๆ ราคาสุดประหยัด คลิ๊กดูที่พักค่ะ>>

งามอย่างแรง ที่พักสันกำแพง ราคาประหยัด ใกล้ชิดธรรมชาติ อากาศดีๆ ราคาประหยัด นอนพักสบายๆ คลิ๊กดูข้อมูลที่พัก+เบอร์โทรติดต่อค่ะ>>หรือดูข้อมูลที่พักเพิ่มเติมที่เว็ปไซต์ :  https://update-new-sankamphaeng-hotels-resort.html

รีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยว เช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวเมืองพะเยา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

แบกเป้ลุยเดี่ยว มาเน้อเจ้า..มาแอ่วเมืองพะเยา นอนคลอเคล้าริมกว๊าน งามอลังการสะท้านโลกา คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางจ้า>>>

แนะนำที่พักดอยภูคา อากาศดีๆ สำหรับคนรักธรรมชาติ คลิ๊กดูที่พัก>>

เอาใจคนรักป่า ที่พักดอยภูคา วิวสวยๆ ราคาประหยัด บรรยากาศดีๆ สำหรับคู่รักและครอบครัว ได้เลือกมานอนกันจ้า คลิ๊กดูข้อมูลรายชื่อที่พัก>>
เว็ปไซต์ : https://doi-phu-kha-national-park-hotels-resort-and-nearby.html

รีวิวงานอุ่นไอรักคลายความหนาวครั้งที่ 2 มาดูสิว่ามีอะไรเดินย่องกันบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

รีวิวงานอุ่นไอรักคลายความหนาวครั้งที่ 2 มีอะไรให้เดินย่อง ท่องเที่ยวดูบ้าง มาชมกันดูสิ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวค่ะ>>

รีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยว มาเน้อมาเที่ยวเมืองแพร่ แลยลชมธรรมชาติ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

แบกเป้ลุยเดี่ยว มาเน้อเจ้า...มาเที่ยวเมืองแพร่ เดินแลงานยี่เป็ง แวะไปชมพระธาตุดอยเล็ง วิวสวยเจ๋งงามเริ่ดสะแมนแตน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางจ้า>>

มาเด้อ..มาเที่ยวศรีสะเกษ แดนดงดอกลำดวน หอมหวนกระเทียมดี คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

รีวิวท่องอีสานใต้ตอนที่ 4(จบ) มาเด้อจ้า..มาเที่ยวเมืองศรีสะเกษ แดนดงดอกลำดวน หอมหวนกระเทียมดี มีทุเรียนดินภูเขาไฟ อาหารแซ่บคั๊กหลายเด้อ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
ดูรีวิวการเดินทางได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2QngTUm

มาม๊ะ..แวะมาเที่ยวเมืองสุรินทร์ ชมถิ่นช้างใหญ่ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

รีวิวท่องอีสานใต้ตอนที่ 3 มาม๊ะ..มาเที่ยวสุรินทร์ ไม่ต้องกินสุรา แวะไปดูช้าง ดูชาวบ้านทอผ้า สวยระย้านาข้าวหอมมะลิ กำลังผลิบาน ร้าวรานจับใจ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวเลยจ้า>>>

รีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยว เช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวในบุรีรัมย์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

รีวิวท่องอีสานใต้ตอนที่ 2 มาเด้อเที่ยวเมืองบุรีรัมย์ เยือนถิ่นปราสาทหินเก่าแก่ แลภูเขาไฟ งามไฉไลเมืองกีฬาฟุตบอล แวะมาออนซอนกันได้เลย คลิ๊กดูรีวิวภาพที่เที่ยวจ้า>>>

แบกเป้ลุยเดี่ยว เที่ยวเมืองโคราช กินหมี่รสชาติแซ่บๆกันจ้า คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

รีวิวท่องอีสานใต้ตอนที่ 1 มาเด้อ..มาเที่ยวเมืองโคราช กินหมี่รสแซ่บอีหลี แสนสุขขีแวะทำบุญสุนทาน ร้าวรานจับใจ แวะมาเที่ยวกันนะคะ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>>

รีวิวเที่ยวหลังสวน ลิ้มลองทุเรียนจากสวนหวานฉ่ำ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

รีวิวเที่ยวหลังสวน เดือน ก.ย.2018 แวะเยือนเมืองผลไม้ เมืองนี้มีอะไรให้เที่ยวชมบ้างนะ คลิ๊กดูภาพรีวิวการเดินทางค่ะ>>

รีวิวเที่ยวชุมพร งามอรชรตลอดกาล เดือน ก.ย.2018 คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

รีวิวเที่ยวชุมพร เช่ามอเตอร์ไซต์ตะลอนไปทำทานที่มูลนิธิคนชรา แวะลั๊ลลาหาดทรายรี สวยฉิมพลีอ่าวทุ่งมหา อาหารทะเลรสแซ่บซ่ายิ่งนักเอย คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
หรือดูรีวิวการเดินทางที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2Oc4kNZ

ตอนจบกับทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวยุโรป 26 วัน คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

แบกเป้ลุยเดี่ยวตอนที่ 26 ตอนจบกับทริปตะลุยยุโรปอันยาวนาน มาสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด และรีวิวเดินทางกลับเมืองไทยด้วยสายการบิน flyScoot คลิ๊กดูภาพรีวิวการเดินทางค่ะ>>
หรือดูรีวิวการเดินทางที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2xlaVuZ

แบ่งปันการเดินทางในเกาะซานโตรินีด้วยตัวเองง่ายๆ คลิ๊กดูรายละเอียดจ้า>>

รีวิวแบกเป้ตอนที่ 25 แบ่งปันวิธีการเดินทางเที่ยวเกาะซานโตรินีด้วยตัวเองมาฝาก ไม่ยากเลยจ้า ลองแวะไปเที่ยวกันดูนะคะ คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>
หรือดูรีวิวการเดินทางที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2p5eQZf

รีวิวตอนที่ 24 แวะเที่ยวกรุงเอเธนส์ 1 วัน มีที่เที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

รีวิวแบกเป้ตอนที่ 24 แวะเที่ยวในกรุงเอเธนส์ 1 วัน เดินสุขสันต์ชมโบราณสถาน และมีที่เที่ยวใหนให้ชมบ้างอีกนะ คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>
หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2NrtXcU

รีวิวตอนที่ 23 เมื่อฉันต้องนั่งเรือเฟอรี่จากอิตาลีไปกรีซครั้งแรก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

แบกเป้ลุยเดี่ยวตอนที่ 23 ขอแบ่งปันประสบการณ์ วิธีการเดินทางนั่งเรือเฟอรี่จากอิตาลี ข้ามไปยังประเทศกรีซด้วยตัวเองมาฝากคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวค่ะ>>
หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2Q4tkEC

การเขียนจดหมายเพื่อขอวีซ่าท่องเที่ยว สำหรับคนทำงานประจำ คลิ๊กดูเลยจ้า>>>

แนะนำตัวอย่างการเขียนจดหมายแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษเพื่อขอวีซ่าท่องเที่ยว สำหรับคนทำงานประจำมาฝากจ้า คลิ๊กดูตัวอย่างจดหมายเลยจ้า>>>
หรือดูตัวอย่างจดหมายที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2DQptcv 

รีวิวตอนที่ 22 แบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวเมือง Sorrento คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

รีวิวตอนที่ 22 แวะทอดน่องที่เมืองซอเรนโต้ยามเย็น เดินเล่นแบชิลๆ มาดูสิว่าเมืองนี้มีวิวอะไรให้ชมบ้างนะ คลิ๊กดูภาพรีวิวการเดินทางค่ะ>>>
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2C4PTGF

รีวิวตอนที่ 21 ลุยเดี่ยวไปเที่ยวเนเปิล-เมืองมรณะปอมเปอี คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

รีวิวตอนที่ 21 แบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวซากเมืองมรณะปอมเปอี เมืองนี้ไงที่โดนระเบิดภูเขาไฟฝั่งคนไว้ทั้งเป็น ต้องแวะให้เห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง คลิ๊กดูรายเอียดรีวิวค่ะ>>>
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2oiNldZ

รีวิวตอนที่ 20 เที่ยวกรุงโรม ไปจู่โจมอาณาจักรโรมันสักครั้งสิ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

รีวิวตอนที่ 20 แบกเป้เที่ยวกรุงโรม แวะไปจู่โจมอาณาจักรโรมัน มีที่เที่ยวอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2BI8ckL