รีวิวท่องเที่ยวในบล็อกนี้ ขอแนะนำทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวกรุงโรม แวะไปยลโฉมอาณาจักรโรมันสักครั้งสิ ว่ามีที่เที่ยวอะไรน่าสนใจบ้างนะ |
สำหรับบทความวันนี้ หลังจากเลิกงานประจำเสร็จแล้ว ก็ขอมาเคาะแป้นพิมพ์เขียนรีวิวแนวๆบ้าๆบอเที่ยวยุโรปต่อค่ะ เขียนไม่เสร็จสักที เพราะทริปนี้ยาวนานเหลือเกิน ใหนจะงานประจำอีก เอาไปว่าบ่นไปก็เท่านั้น แต่ดิฉันก็ทำมาเรื่อย จนรีวิวตอนนี้เข้าสู่ตอนที่ 20 แล้วจ้า กะว่าเดือนหน้าคงเสร็จพอดี ถ้าไม่ติดค้างอะไรค่ะ ยังไงต้องขอบพระคุณผู้อ่านทุกคนที่เสียสละเวลาคลิ๊กเข้ามาดูกัน วันละ 1 คนก็เริ่ดแล้วจ้า.....
หลังจากที่รีวิวก่อนหน้านี้ คือรีวิวตอนที่ 19 ตามเว็ปไซต์ลิงค์ : http://bit.ly/2MDjbQz โดยได้เขียนรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวเมืองสุดจะโรแมนติคที่เมืองฟลอเรนซ์ และได้ชมหอเอนปิซ่า จนสมใจอยากแล้วนะค่ะ ก็สวยงามสม คลาสสิคชิคๆเก๋ๆ สมค่ำล่ำลือจริงๆ ไม่เสียดายที่แวะไปเที่ยวทั้ง 2 เมืองนี้ แต่เสียดายที่อยู่เที่ยวแค่วันเดียว เพราะต้องแบกเป้เดินทางต่อค่ะ โดยเมืองทริปท่องเที่ยวถัดไปก็คือ กรุงโรมค่ะ
มีคนบอกว่าหากมาเที่ยวกรุงโรม ต้องมายลโฉมสนามกีฬาโคโลเซียมสักครั้ง เพราะไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงกรุงโรม ดิฉันว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะจากที่ได้ไปเที่ยวมา ก็ดูใหญ่โตเว่อร์วังอลังการสะท้านโลกามากๆ แถมนักท่องเที่ยวก็เยอะมากๆด้วย เดินทีแทบจะชนไหล่กันเลยค่ะใหนจะต้องมาระวง ระวัง กระปง กระเป๋าอีก โอ้ย...เดี๊ยนจะเป็นลมค่ะ
และทริปเที่ยวกรุงโรมในวันนี้ วางแผนจะไปยลโฉมนครรัฐวาติกันด้วยซึ่งอยู่ในกรุงโรมแล้ว แต่ก็ไม่ได้ไปเลย เพราะใจเจ้ากรรม มีอีเมลล์จากที่ทำงานเด้งดึ๋งมาทางโทรศัพท์ให้รีบไปสะส่างงานลูกค้าด่วน ดิฉันก็เลยไม่ได้ไปนครวาติกันตามแผนที่วางไว้ซ๋ะเลย และทริปเที่ยวกรุงโรมก็วางแผนเที่ยวแค่วันเดียวด้วยสิ เอาเป็นว่าหากมีโอกาสหน้ามาเยือนอิตาลี ก็จะแวะมาเที่ยวชมแล้วกัน
รีวิวแบกเป้เที่ยวยุโรปตอนที่ 20 นั่งรถไฟจากเมืองฟลอเรนซ์ มุ่งหน้าสู่กรุงโรมเมืองหลวงประเทศอิตาลี มาดูสิว่ามีอะไรน่าเที่ยวบ้าง |
ก่อนอื่นเรามารู้จักกรุงโรมแห่งนี้สักหน่อย อ่านเป็นความรู้เปิดสู่โลกกว้างค่ะ
สาระน่ารู้เกี่ยวกับกรุงโรม
กรุงโรม หรือภาษาอังกฤษเขียนว่า Rome ส่วนภาษาอิตาลี Roma เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลัตซีโยและประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ ในเขตตัวเมืองมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 2.5 ล้านคน ถ้ารวมเมืองโดยรอบจะมีประมาณ 4.3 ล้านคน โดยมีจำนวนประชากรใกล้เคียงกับเมืองมิลานและเมืองเนเปิลส์
และนอกจากนี้ โรมยังเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกอีกด้วย
อาณาจักรเก่าจตุรัสโรมัน ในกรุงโรม |
โดยในช่วงปี พ.ศ. 2550 กรุงโรมเป็นเมืองที่มีผู้มาเยือนมากเป็นอันดับที่ 11 ของโลก มากเป็นอันดับสามในสหภาพยุโรป และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในอิตาลี ศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ใจกลางเมืองได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก นอกจากนี้ อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์อย่างพิพิธภัณฑ์วาติกัน และโคลอสเซียมยังจัดอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมมากที่สุด 50 อันดับแรกของโลก (พิพิธภัณฑ์วาติกันมีนักท่องเที่ยว 4.2 ล้านคนต่อปี และโคลอสเซียมมี 4 ล้านคนต่อปี)
หลังจากสิ้นสุดยุคกลาง โรมได้อยู่ภายใต้การปกครองของพระสันตะปาปา เช่น สมเด็จพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6 และสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10 ผู้ซึ่งสร้างสรรค์ให้โรมกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลีเช่นเดียวกับฟลอเรนซ์ ซึ่งในยุคสมัยดังกล่าว ได้มีการก่อสร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์แบบที่เห็นในปัจจุบัน และมีเกลันเจโลได้วาดภาพปูนเปียกประดับภายในโบสถ์น้อยซิสทีน ศิลปินและสถาปนิกที่มีชื่อเสียงอย่างบรามันเต แบร์นินี และราฟาเอล ซึ่งพำนักอยู่ในโรมเป็นครั้งคราว ได้มีส่วนช่วยสรางสรรค์สถาปัตยกรรมแบบสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาและแบบบารอกในโรมด้วยเช่นกัน
เครดิตข้อมูลดีจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/โรม
สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงโรมที่น่าสนใจ มีที่ใหนบ้าง (Rome Tourist Attraction place)
- สนามกีฬาโคโลเซียม สัญลักษณกรุงโรม (The Colosseum and the Arch of Constantine)
- จัตุรัสโรมัน (Roman Forum) สถานที่น่าสนใจอีกแห่งอยู่ใกล้ๆกับโคโลเซียม เดินไปได้
- Vatican City แวะชมนครรัฐวาติกัน
- Piazza Navona จตุรัสเวโรนา ใกล้กับวิหารแพนธีออน
- The Pantheon มหาวิหารแพนธีออนในเมือง
- Centro Storico & the Spanish Steps บันใดสเปน ใกล้วิหารแพนธีออน
- Baths of Caracalla ซากโบราณสถานเก่า
หลังจากที่เราได้รู้จักกรุงโรมแล้วก็มาสไลด์ดูภาพรีวิวท่องเที่ยวกันเลยจ้า รูปภาพอาจไม่สวยบาดตาอะไร เพราะถ่ายไปเรื่อย เน้นแบบธรรมชาติที่สุด เพื่อให้เพื่อนๆได้เห็นภาพจริงๆไม่ตกแต่งดึงสีแต่อย่างได
ต่อรีวิวตอนที่ 19 ตามเว็ปไซต์ลิงค์ : http://bit.ly/2MDjbQz
นั่งรถไฟออกจากเมืองฟลอเรนซ์มาไม่นานประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงสถานีรถไฟกรุงโรมแล้ว
บรรยากาศสถานีรถไฟกรุงโรมก็ใหญ่โตกว่า สถานีรถไฟเมืองที่เที่ยวก่อนหน้านี้มากๆ เนื่องจากเป็นสถานีเมืองหลวงของประเทศอิตาลี
นั่งรถไฟออกจากเมืองฟลอเรนซ์มาไม่นานประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงสถานีรถไฟกรุงโรมแล้ว
บรรยากาศสถานีรถไฟกรุงโรมก็ใหญ่โตกว่า สถานีรถไฟเมืองที่เที่ยวก่อนหน้านี้มากๆ เนื่องจากเป็นสถานีเมืองหลวงของประเทศอิตาลี
มาถึงที่กรุงโรมเวลาก็จะ 3 ทุ่มแล้วนะค่ะ เดินออกมาด้านนอกสถานีรถไฟ เพื่อปักหมุดเดินเท้าแบกเป้ไปยังโรงแรมที่พักคืนนี้ ซึ่งจองไว้แล้ว อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ
ตอนแรกดิฉันกะว่าจะนั่งรถบัสโดยสารไป แต่คิดไปคิดมา ยอมเดินไปดีกว่าค่ะ แม้จะมีคนมาเตือนให้ระวังเรื่องโจรขโมยวิ่งราวกระเป๋าก็เถอะ มาถึงขนาดนี้ล่ะ จะปล้นก็เอาไปเลย กระเป๋าเป้ 15 กิโลกรัม จะยกให้โจรแบกเอาไปเลย
แบกเป้เดินเท้ามาที่โรงแรม Generator Hostels |
เดินเข้ามาในโรงแรม Generator Hostels ก็มานั่งรอที่ล็อกบี้ก่อน บรรยากาศของโรงแรมตกแต่งสวยงาม ออกแนวๆชิคๆเรียบเก๋ดี
Check in กับเจ้าหน้าที่โรงแรมที่นี้ พนักงานต้อนรับผู้หญิงพูดจาดี รู้จักเอนเตอร์เทนลูกค้ามากๆ เอาใจเก่งและภาษาอังกฤษนางเป๊ะเว่อร์ ยอมแพ้นางค่ะ
โรงแรม Generator Hostels |
ได้ห้องพักชั้น 6 ชึ้นลิฟท์มาเลยนะค่ะ ไม่ต้องเดินบันใดแบกเป้ให้เมื่อยหลังจ้า |
ห้องพักนอนรวมคืนนี้ ถือว่าดีทีเดียว ห้องกว้าง ไม่อึดอัด ไม่คับแคบ ราคาประหยัดดี |
แขกที่เข้าพักในร่วมห้องมี 3 คน ก็เป็นแม่หญิงจากสวีเดน และแม่หญิงจากโปแลนด์ มาคนละประเทศเลยนะ มีเดี๊ยนคนเดียวเนี่ยแหละที่เป็นใยป้ามาจากเอเชีย นอนในห้องเดียวกับนาง ทักทายเฮลโหล ตามประสานักเดินทางแบกเป้ค่ะ
เตียงนอน มีลิ้นชักสำหรับเก็บกระเป๋าให้ด้วย
ส่วนห้องน้ำก็สะอาดสะอ้านดี ห้องน้ำกว้างมากๆ มีห้องน้ำ 2 ห้องให้เลือกเข้าได้เลยว่าจะเข้าห้องใหน
มีห้องอาบน้ำฝักบัวแยกให้ด้วย
สรุปห้องพักให้ผ่านค่ะ เอาไปเลย 5 ล้านดาว
หลังจากที่เดินทางเที่ยวเมืองฟลอเรนซ์ และเมืองปิซ่ามาตลอดทั้งวัน แล้วหลับดีด้วยนะ เพราะการนอนห้องพักโฮสเทล นอนรวมครั้งนี้ ไม่มีเสียงกรนให้รบกวน ดีเริ่ดมากๆ...จบทริปไป 1 วัน
------------------------------------------------------------------------------
เช้าวันใหม่ที่ 1 มิ.ย.2018 เข้าสู่วันที่ 16 ของการเดินทางแล้วค่ะ |
อากาศวันนี้ แดดน่าจะร้อนและแรงดีมากๆเลยนะค่ะ
ตื่นเช้ามาก็รีบเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเพื่อ ตระเตรียมไว้เช็คเอา์แต่เช้าเพื่อฝากกระเป๋าไว้ที่พัก
บริเวณล็อบบี้ด้านล่างของโรงแรม เป็นห้องอาหารและคาเฟ๋สไตล์เก๋ๆให้นั่งดื่ม |
แต่ต้องเสียตังเพิ่มนะค่ะ ราคาอยู่ที่คนละ 10 ยูโร
อาหารเช้าแบบ Continental Breakfast แบบง่ายๆ จ่าย 10 ยูโร เป็นบุฟเฟ่ต์ตักทานได้ไม่อั้นเลยจ้า |
แผนที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงโรม ของทางที่พักให้กับแขกที่เข้าพัก (Tourist Attraction place Map of Rome) |
แผนที่ออกแนวๆติ๊ดๆ อาร์ตหน่อยๆค่ะ
หลังจากทานอาหารอิ่มก็เช็คเอาท์เลยค่ะ
ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม แต่โรงแรมคิดค่าบริการฝากกระเป๋าด้วยนะค่ะ อยู่ที่ 5 ยูโรค่ะ จริงๆไม่น่าคิดสตังนะ อันนี้ขอติค่ะ อยากให้โรงแรมมีห้องรับฝากให้ฟรี จะดีเริ่ดกว่านี้เยอะเลย
(Rome Tourist Attraction place Map) |
โดยเฉพาะการเดินทางไปยังสนามกีฬาโคโลเซียม ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คและแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในกรุงโรม โดยทางเจ้าหน้าที่แนะนำ 2 ทางคือ เดินทางด้วยรถไฟใต้ดินกับการเดินเท้าไป
เนื่องจากสถานีรถไฟไปยังสนามกีฬาโคโลเซียม จุดท่องเที่ยวอยู่ไม่ไกลกันมากนัก สามารถเดินเท้าเลียบฟุตบาทริมถนนมาได้ ดิฉันเลยเลือกที่จะเดินไปค่ะ
ข้อดีของการเดินไป ก็จะได้เห็นสภาพบ้านเมืองในกรุงโรมว่าเป็นอย่างไร
เดินมาเรื่อยๆก็ผ่าน จุดท่องเที่ยวถ่ายภาพจุดแรกอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมากนัก
ตามภาพที่นี้คือ อนุสรณ์สถาน Obelisco Esquilino
อาคารใหญ่โตสวยงาม
มีแม่หญิงสาวผิวขาว ผมสีน้ำตาลอมทอง กำลังนั่งยองๆพักผ่อนกันอยู่
สภาพถนนหนทางในกรุงโรมก็ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดี
ตามทางเดินก็จะมีซู้มประตูโน้นนี้นั้น ให้แวะเดินลอดกัน ดูสวยงามแปลกตาดี
หากใครที่ชอบเที่ยวแบบเดินออกกำลังกาย ไม่อยากนั่งรถไฟใต้ดิน ก็มาเดินฟินถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อยได้ค่ะ
เดินมาเรื่อยๆก็เห็นอาคารโคลอสเซียมแล้วค่ะ |
ระหว่างเดินก็มีร้านขายของที่ระลึกให้เลือกซื้อมากมาย
เดินเท้ามาถึงสักค่ะ สนามกีฬาโคลอสเซียม (Colosseum) |
เป็นสนามกีฬาที่ใหญ่โตโอฬารมากๆ เว่อร์วังอลังการจริงนะค่ะ
เดินเข้าไปใกล้ๆ ตัวเล็กไปเลยจ้า
สนามกีฬาโคลอสเซียม (Colosseum) แหล่งท่องเที่ยวที่ใครมาเยือนกรุงโรมต้องแวะมาให้ได้ |
โคลอสเซียม (อังกฤษ: Colosseum), โคลิเซียม (อังกฤษ: Coliseum) หรือทวิอัฒจันทร์ฟลาเวียน (อังกฤษ: Flavian Amphitheatre; ละติน: Amphitheatrum Flavium; อิตาลี: Anfiteatro Flavio หรือ Colosseo) เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม
เริ่มสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสเปเซียนแห่งจักรวรรดิโรมัน และสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 อัฒจันทร์เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทรายวัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน มีการออกแบบอย่างชาญฉลาดโดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆในปัจจุบัน ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 10 ปี
ซึ่งในวันที่ 7 กรกฎาคม ปี 20018 สนามกีฬาคลอสเซียมได้รับเลือกให้เป็น1 ในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ จากการลงคะแนนทั่วโลกทั้งทางอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถืออีกด้วย
เครดิตข้อมูลดีจากๆสารานุกรมเสรีวิกิพีเดีย : https://th.wikipedia.org/wiki/โคลอสเซียม
ต้องเรียงคิวเข้าแถวรอซื้อบัตรเข้าชม ใช้เวลานานมากๆ แนะนำซื้อทางออนไลน์มาล่วงหน้าเลยค่ะ เพราะคนเยอะมากๆ |
โดยการจะเข้าไปชมด้านในสนามกีฬาโคลอสเซียม ก็ต้องมายืนตากแดดเรียงคิวแบบนี้ค่ะ
อยากบอกว่า วันที่ไปเที่ยว คนเยอะและแดดร้อนมากๆถึงมากที่สุดเลยล่ะค่ะ
ต้องเรียงคิวเข้าแถวรอซื้อบัตรเข้าชม ใช้เวลานานมากๆ
ค่าธรรมเนียมบัตรเข้าชมโคลอสเซียมด้านใน ราคาเต็ม 12 ยูโร |
โดยในรายละเอียดแจงไว้ว่า บัตรใช้ได้ 2 วน นับตั้งแต่วันที่ซื้อ
ซึ่งบัตรสามารถเข้าชม จตุรัสโรมันได้ด้วย
แนะนำ เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าแถวรอนาน หากเพื่อนคนใหนที่เข้าชมสนามกีฬาด้านใน ให้ซื้อผ่านทางออนไลน์มาได้เลยค่ะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลา ต่อคิวนานชิ๊บ....เลย
หลังจากที่เข้าคิวรอซื้อบัตรนานนับชั่วโมง ก็เข้าสู่ความโอ่อ่าใหญ่โตของสนามกีฬาด้านใน
มีนักท่องเที่ยวเดินชมกันมากมาย ตามมุมต่างก็มีจุดขึ้นไปถ่ายรูปได้ด้วย
แต่วันที่ไปก็ไม่ได้ขึ้นตามจุดต่างด้านบน เพราะนักท่องเที่ยวเยอะมากๆ ดูตามภาพเหมือนคนจะไม่ค่อยเยอะ แต่วันที่มาเที่ยวจริงๆ คนด้านในที่มาชม เยอะมากๆค่ะหลังจากได้ไปชมสนามกีฬาโคลอสเซียมด้านในแล้ว
ก็เดินออกไปยังจุดท่องเที่ยวถัดไป ซึ่งระแวกใกล้ๆสนามกีฬา ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆให้ชมด้วยค่ะ
และแหล่งท่องเที่ยวถัดไปซึ่งอยู่ใกล้ๆกับโคลอสเซียมก็คือ จตุรัสโรมัน หรือ Roman Forum โดยใช้บัตรเข้าชมโคลอสเซียมที่ซื้อไปเนี่ยแหละค่ะ นำมาแสดงให้กับเจ้าหน้าที่
จุดชมวิวเนินเขาแคปิโตลิเน (Capitoline hill) |
ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นจตุรัสโรมันอันเก่าแก่แห่งนี้ได้อย่างสวยงาม
จตุรัสโรมัน (Roman Forum) แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในกรุงโรม |
จัตุรัสโรมัน (อังกฤษ: Roman Forum) หรือ ฟอรูงโรมานูง (ละติน: Forvm Romanvm) ตั้งอยู่ระหว่างเนินพาเลติเน (Palatine hill) กับเนินแคปิโตลิเน (Capitoline hill) ในกรุงโรมในประเทศอิตาลี บริเวณนี้เป็นบริเวณศูนย์กลางของการวิวัฒนาการของวัฒนธรรมโรมันมาแต่โบราณ ประชาชนมักจะเรียกบริเวณนี้ว่า "ฟอรูงมังนูง" หรือเพียงสั้น ๆ ว่า "ฟอรูง"
โดยโครงสร้างที่เก่าและสำคัญที่สุดต่าง ๆ ของเมืองเก่าต่าง ก็ตั้งอยู่ในบริเวณนี้ที่รวมทั้งที่ประทับเดิมที่เรียกว่า "เรกิอา" (Regia) และกลุ่มสิ่งก่อสร้างรอบ ๆ สำหรับ "เทพีพรหมจารีย์" (Vestal virgins) สาธารณรัฐโรมันมีตึกรัฐสภา (Comitivm) ที่เป็นที่ประชุมของวุฒิสมาชิกในบริเวณนี้ด้วย
โดยจัตุรัสแห่งนี้เป็นเหมือนจัตุรัสศูนย์กลางของเมืองที่ประชาชนใช้เป็นที่ชุมนุมในกิจการต่าง ๆ ของรัฐ และยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและถือกันว่าเป็นศูนย์กลางของสาธารณรัฐและจักรวรรดิต่อมา
หากอยู่บนเนินเขาแห่งนี้ ก็จะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์เมืองและสนามกีฬาโคลอสเซียมที่อยู่ใกล้ๆได้อีกด้วย
โดยสิ่งก่อสร้างในบริเวณจัตุรัสก็มีด้วยกันหลายอย่างที่รวมทั้งเทวสถาน เช่น เทวสถานแห่งอันโตนินัสและฟาอัสตินา, ประตูชัยเช่นประตูชัยเซ็พติมิอัส เซเวอรัส และอื่นๆ อีกมากมาย
บรรยากาศด้านล่างของจตุรัสโรมัน ก็เป็นซากโบราณสถานที่ยังหลงเหลืออยู่ให้เห็นจนถึงปัจจุบัน
ภูมิทัศน์โดยรอบใกล้ๆจตุรัสโรมัน ก็เต็มไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมตึกสีแนวพาสเทลดูสวยงามคลาสสิคตามฉบับอิตาลีดีค่ะ
นอกจากนี้บนเนินเขายังมีสวนธารณะให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจกันอีกด้วย
มีดอกม้ง ดอกไม้ขนาดเล็กมุ้งมิ้งให้ชื่นชมกันด้วย
วิวทิวทัศนีภาพอีกบนเนินเขาแคปิโตลิเน ก็สามารถเห็นวิวเมืองโรมันได้รอบด้าน
เดินลงจากเขาแคปิโตลิเน ก็จะเป็นซากโบราณสถานให้ได้เดินชมและศึกษากันอีกด้วยซากโบราณสถานในจตุรัสโรมัน |
เทวสถานแห่งอันโตนินัสและฟาอัสตินา |
อย่างเห็นที่เป็นอาคารอยู่นี้คือ เทวสถานแห่งอันโตนินัสและฟาอัสตินา
เทวสถานแห่งคาสเตอร์และโพลลักซ์ |
และมีประตูชัยเซ็พติมิอัส เซเวอรัส
โดยซากโครงสร้างโบราณสถานที่เห็นนี้เป็นจัดเป็นเทวสถานมาก่อน
จึงเป็นส่วนสำคัญที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ในอดีตของอาณาจักแห่งนี้
และนอกจากนี้แล้ว ยังมีจุดแวะพักผ่อนต่างๆอีกด้วยเนื่องจากวันที่ไปเที่ยวนั้น แดดร้อนมากๆค่ะ เดินออกแดดที เหงื่อแตกซิกๆเลย
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่แวะมาเที่ยวก็มักจะเดินหลบพักในร่มกันเสียส่วนใหญ่
บรรยากาศท้องฟ้าแจ่มใสสีสดมาก แต่ข้อเสียคือแดดร้อนแรงจัดจ้านทีเดียว
อย่าลืมพกขนมกรุบกรอบ มาทานให้กรุบกริบด้วย เพื่อเติมพลังงาน |
ไม่ไกลนักจากจตุรัสโรมันซึ่งอยู่ติดๆกัน ที่เห็นภาพนี้คือ Equestrian statue of Vittorio Emanuele II
หรือเป็นอาคารกองทัพของกรุงโรมัน
วางแผนจะเดินทางไปนครรัฐวาติกันต่อก็ไม่ได้ไปแล้วค่ะ เพราะมีงานเข้า
ดิฉันเลยต้องเดินทางกลับไปยังโรงแรมที่พัก เพื่อนั่งสะส่างงานให้เสร็จ กลายเป็นว่าอดไม่ได้ไปเลย
เอาไว้คราวหน้าละกัน
หลังจากนั้นก็เดินแบกเป้มาที่สถานีรถไฟกรุงโรม
เพื่อมาเสียค่าที่นั่งบนรถไฟค่ะ
การซื้อบัตรก็ใช้บัตร Euria Pass ยื่นแนบแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ตอนซื้อได้เลย
โดยเสียค่าตั๋วจองที่นั่งจากกรุงโรมไปยังกรุงเนเปิ้ลอยู่ที่ 10 ยูโร ใช้บัตร Eurail pass แสดงตอนซื้อเลยค่ะ และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่จะได้ใช้บัตร Eurail pass แล้วด้วย เนื่องจากใช้ครบ 15 วันแล้ว
เมื่อเสียค่าตั๋วจองที่นั่งแล้ว ก็ต้องเดินมาดูตารางเวลาและชานชลาที่รถไฟเทียบท่าว่าอยู่ชานชลาใหน
ซึ่งที่สถานีรถไฟกรุงโรมก็มีเที่ยวรถไฟเยอะมากๆค่ะ ดูทีตาลายเลยล่ะค่ะ
หากเพื่อนๆคนใหนเดินทางด้วยรถไฟ ก็เผื่อเวลาไว้ด้วยนะค่ะ ไม่งั้นจะตกรถไฟเอา เพราะรถไฟค่อนข้างตรงเวลามากๆ
ขบวนรถไฟที่จะเดินไปทางไปเมือง Napoli ขบวนนี้ก็เรียบหรูมากๆ รถไฟชั้น 1 จ้า
ไม่เห็นมีผู้โดยสารมานั่งกันเลยค่ะ เห็นมีแต่ดิฉันคนเดียว สงสัยจะหนีไปใช้รถไฟชั้น 2 หมดแล้วกระมัง เพราะราคาถูกกว่า
คือแบบว่าที่นั่งกว้างมากๆ ไม่ค่อยมีผู้โดยสารมานั่งเลยนะค่ะ
ค่อนข้างเงียบมากๆ เหมาะสำหรับพักผ่อนดี
หลังจากนั้นไม่นาน รถไฟก็วิ่งออกจากชานชลาสถานีกรุงโรมมุ่งหน้าสู่เมืองเนเปิ้ล ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวถัดไป...จบทริปรีวิวเที่ยวกรุงโรมแบบสั้น แต่เสียดายไม่ได้ไปนครรัฐวาติกัน ไว้โอกาศหน้าฟ้าใหม่มีโอกาศมาเยือนอิตาลี คงได้มาชมนะ
เดี่ยวตอนถัดไปจะพาเพื่อนๆและคุณผู้อ่านไปย่องท่องเมืองเนเปิ้ล และไปดูเมืองปอมเปอี ซึ่งเป็นเมืองที่ลาวาภูเขาไฟฝั่งคนทั้งเป็นในเมืองนี้ค่ะ สำหรับรีวิวทริปเที่ยวกรุงโรมก็ขอจบเพียงเท่านี้ หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ.....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
-------------------------------------------------------------------------------------
บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
รวมเด็ด 9 ที่เที่ยวยอดนิยมในประเทศอิตาลี ที่คนชอบหนีไปเที่ยว คลิ๊กดูข้อมูลค่ะ>> |
รีวิวตอนที่ 23 เมื่อฉันต้องนั่งเรือเฟอรี่จากอิตาลีไปกรีซครั้งแรก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2Q4tkEC
รีวิวตอนที่ 22 แบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวเมือง Sorrento คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2C4PTGF
รีวิวตอนที่ 19 แวะเที่ยวเมืองโรแมนติคที่ฟลอเรนซ์-ปิซ่า คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2MDjbQz
รีวิวตอนที่ 18 แบกเป้ลุยเดี่ยวเมืองเวนิชครั้งแรก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2KQvnsh
รีวิวตอนที่ 17 แบกเป้ไปเที่ยวเมืองมิลาน มีอะไรให้ชมบ้างนะ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2AWC1xk
แบกเป้ลุยเดี่ยวตอนที่ 16 ไปเดินลั๊ลลาไปชมน้ำตกไรน์-ซูริค คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2MiG5cz
รีวิวลุยเดี่ยวตอนที่ 15 แบกเป้เดินเที่ยวรอบเมืองลูเซิร์นแบบชิลๆ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2vjt0bK
รีวิวลุยเดี่ยวตอนที่ 14 แบกเป้ไปชมความน่ารักที่เมืองกอลมาร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2uQBBTE
รีวิวเที่ยวยุโรปตอนที่ 13 วิธีการเดินทางไปจุงเฟราด้วยตัวเอง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2LHckBV
รีวิวเที่ยวยุโรปตอนที่ 12 ลุยเดี่ยวไปเมืองสปิซ-อินเทอร์ลาเก้น คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://bit.ly/2LkZvQM
รีวิวเที่ยวยุโรปตอนที่ 11 แบกเป้เที่ยวกรุงเบิร์น ดูเพลินๆสวยดีนะ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://bit.ly/2uoxRbX
รีวิวเที่ยวยุโรปตอนที่ 10 เยือนสวิตเซอร์แลนด์ เจนีวา-โลซาน คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://bit.ly/2N0X57i
รีวิวเที่ยวยุโรปตอนที่ 9 เดินชมเมืองลียง ชมอัสดงที่เขาฟูรวิแยร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://bit.ly/2NyWRFA
เที่ยวยุโรปตอนที่ 8 แวะนั่งพักตากอากาศริมหาดที่เมืองนีซ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/dLDKAX
เที่ยวยุโรปตอนที่ 7 แวะชมประเทศโมนาโค เมืองโก้หรูริมทะเลดูสิ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/e6o4UL
รีวิวเที่ยวตอนที่ 6 แวะเที่ยวเมืองคานส์ มีอะไรให้ยลตระการบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/GpiYVK
0 ความคิดเห็น