บทความรีวิวเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ตอนที่ 13 ขอมาแบ่งปันรีวิวการเดินทางไปเที่ยวยอดเขาจุงเฟราด้วยตัวเองมาฝากเพื่อนๆทุกคนค่ะ |
และเพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไป บทความเนื้อแนๆบ้าๆในวันนี้ ดิฉันก็ขอมาเขียนบล็อกท่องเที่ยวต่อนะค่ะ หลังจากที่บล็อกรีวิวตอนที่ 12 ตามเว็ปไซต์ลิงค์ : https://bit.ly/2LkZvQM โดยบทความก่อนหน้านี้ ได้มารีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยว แวะเที่ยวชมธรรมชาติอันสวยงามของทะเลสาบทูน และนั่งดูรถไฟปู๊นปู๊นที่เมืองอินเทอร์ลาเก้น เดินเล่นๆชิวๆที่เมืองสปิซไปเรียบร้อยแล้วนะค่ะ
นี้ก็เป็นครั้งแรกที่เดี๊ยนได้แบกเป้มาเที่ยวยุโรปเป็นครั้งแรก และเมื่อได้แวะมาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ดินแดนแห่งธรรมชาติ สายน้ำ และแสงแดดแห่งนี้แล้ว ก็เลยขอตามรอยละครดังจากเรื่องสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ไปเสพสุขสม เร้าอารมย์ให้สมอุรา กับยอดเขาจุงเฟราแห่งนี้สักครั้ง ไปดูสิว่าจะงดงามเว่อร์วังอลังการสะท้านโลกาแค่ใหน พอได้มีโอกาสได้ไปเยือนยอดเขาแห่งนี้ ก็สวยงามสมค่ำล่ำลือ บนยอดเขาจุงเฟราก็หนาวเหน็บ มีแต่หิมะขาวโพลนไปหมด งามจรดสู่ผืนทราย พร่างพรายดั่งสายน้ำทิพย์จริงนะค่ะ ลมพัดมา หน้าชาไปหมดเลยนะ ลองตบหน้าตัวเองดูเอง ก็แทบไม่รู้สึก เพราะหน้ามันด้านมากๆฮ่าๆๆ
รีวิวเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ตอนที 13 วันนี้เดินทางไปเที่ยวชมยอดเขาจุงเฟราคะ |
เพื่อไม่ให้เสียเวลา วันนี้คุณนายเว่อร์ เลยขอมารีวิววิธีการเดินทางไปยอดเขาจุงเฟราด้วยตัวเองแบบง่ายๆ มาฝาก ไปตามสเต็ป หรือใครจะแดนซ์ไปด้วยก็ไม่ว่ากัน เพราะคนมาเที่ยวเนอะ จัดไปจ้า
ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหารีวิวการเดินทาง เรามารู้จักยอดเขาจุงเฟรากันก่อน มาเปิดอ่านดูเป็นความรู้สู่โลกกว้างนะคะ
เกี่ยวกับยอดเขายุงเฟรา (Jungfrau) |
สำหรับยอดเขาจุงเฟรานี้ ตั้งอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ใกล้กับเมืองเวงเงินส์ เป็นหนึ่งในยอดเขาที่สุดที่สุดบนเทือกเขาแอลป์ ในระดับที่มากกว่า 4000 เมตร ยอดเขายุงเฟรา มีความสูงถึง 4,158 เมตร คำว่า "ยุงเฟรา" เป็นภาษาเยอรมันแปลว่า "หญิงสาว โดยปัจจุบันยอดเขาแห่งนี้ได้กลายเป็นยอดเขาที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนตลอดทั้งปี หรือแม้ในช่วงที่ฤดูหนาว ก็สามารถมาเที่ยวชมยอดเขาแห่งนี้ได้เช่นกัน
โดยผู้บุกเบิกเส้นทางรถไฟสู่ยอดเขาจุงเฟราคือ อดอฟฟ์ กูยเยอร์ เซลเลอร์(Mr.Adolf Guyer Zeller) นักพัฒนาธุรกิจชาวสวิสที่มีชื่อเสียงโดยเขาได้ผุดความคิดอันแสนวิเศษ ในขณะเดินป่า จนเขาได้รับสมญานามว่าเป็นราชาแห่งการรถไฟ ซึ่งเขาได้ระเบิดภูเขาหินไอเกอร์และเมิ้นซ์ เพื่อสร้างรถไฟเฟืองสู่ยอดเขาจุงเฟรา โดยได้รับการสนับสนุนจากท้องถิ่นเป็นอย่างดี เพื่อเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว
ซึ่งเส้นทางรถไฟสู่ยอดเขาจุงเฟราเริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี 1898 และเสร็จสิ้นเมื่อปี 1912 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ปี 1912 รวมระยะเวลาในการก่อสร้างนานถึง 16 ปี โดยใช้งบประมาณถึง 16 ล้านฟรังค์สูงเป็นสองเท่าของการประมาณการเริ่มต้น และด้วยมนต์เสน่ห์และความงดงามของยอดเขาแห่งนี้ จากอดีตถึงปัจจุบันสายรถไฟแห่งนี้ได้นำพานักท่องเที่ยวไปสู่ยอดเขาแล้วร่วมกว่า 100 กว่าปี มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างมาเยือนและสัมผัสกับยอดเขาแห่งนี้
แล้วจะเดินทางไปยอดเขาจุงเฟราอย่างไรล่ะ?
แผนที่การเดินทางไปยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau railway map) |
- ซื้อบัตรเที่ยวจุงเฟราที่สถานี Interlaken Ost
1.เริ่มต้นนั่งรถไฟจากสถานี Interlaken ost มุ่งหน้าไปที่สถานี lauterbrunnen
2.เมื่อถึง lauterbrunnen จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถไฟขบวนสีเหลือง
3.นั่งรถไฟขบวนสีเหลืองมาจนถึงสถานี kleine scheidegg จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสายสีแดง เพื่อเดินทางไปยังสถานี jungfraujoch
4. ถึงสถานี jungfraujoch ก็เดินเที่ยว ถ่ายรูปตามใจชอบ
5.เวลาเดินทางกลับ ก็นั่งรถไฟจากสถานี jungfraujoch เดินทางมาลงที่สถานี kleine scheidegg จากนั้นก็นั่งรถไฟสายสีเหลืองๆ เดินทางไปยังสถานี Grindelwald
6.เมื่อนั่งรถไฟถึงสถานี grindelwald ก็เดินเที่ยวชมในหมู่บ้านนี้ตามใจชอบ
7.จากนั้นก็นั่งรถไฟจากสถานี grindelwald เดินทางกลับมาที่ Interlaken Ost โดยสวัสดิภาพ
ราคาบัตรเที่ยวยอดเขาจุงเฟราเท่าไหร่
ราคาบัตรเที่ยวยอดเขาจุงเฟรา (jungfrau ticket price) |
สำหรับบัตรไป-กลับยอดเขาจุงเฟรา ราคาอยู่ที่ 210.8 สวิสฟรังค์ / คน (1-9 คน)
- แต่ถ้าหากมา 10 คนหรือเป็นกรุ๊ปทัวร์ ก็จะมีราคาพิเศษลดให้อีกนะคะ
- หากใช้บัตรรถไฟ Eurial Pass ลดให้ 25% นำไปแสดง ณ วันที่ซื้อค่ะ
- แต่ถ้าหากใช้บัตร Swiss Pass ลดไปเลย 50%
ตามรูปบัตรด้านบน ดิฉันเอาบัตร Eurail Pass ไปแสดงวันซื้อ ลดเหลือ 158.20 CHF ค่ะ
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต ยังไงเช็คราคาและเงื่อนไขก่อนได้นะค่ะ จะได้เตรียมสตังค์มาให้พอ
โดยราคาลองคูณเป็นเงินไทยดูสิว่าเท่าไหร่ แล้วเก็บตังค์วนไป หากเก็บตังครบเมื่อไหร่ ก็ลองแวะมาเที่ยวดูเลยจ้า
ตารางแสดงเวลาเดินทางด้วยขบวนรถไฟจาก interlaken ost ไปที่สถานี lauterbrunnen |
ตารางแสดงเวลาเดินทางด้วยขบวนรถไฟจาก interlaken ost ไปที่สถานี grindelwald |
โดยเพื่อนๆสามารถเลือกได้นะค่ะ ว่าจะเดินทางไปขึ้นยอดเขาที่สถานี lauterbrunnen หรือว่า grindelwald
แต่ในรีวิวนี้ดิฉันขอเดินทางด้วยตาราง 2A ค่ะ โดยเริ่มเดินทางจาก Interlaken Ost ไปขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟ lauterbrunnen แล้วขากลับค่อยไปที่สถานี grindelwald
เมื่อพอทราบข้อมูลเบื้องต้นพอคร่าวๆแล้ว ดิฉันก็ขอมารีวิววิธีการเดินทางไปตามภาพให้เพื่อนๆได้ดูกันดังนี้ค่ะ เผื่อว่าจะได้มองภาพออกและไปเที่ยวได้ถูกคะ
เส้นทางรถไฟสู่ยอดเขายุงเฟรา (Jungfrau) Top of Europe |
เช้าวันใหม่อากาศแจ่มดีจังเลยค่ะ แถมอากาศในเมืองนี้ก็เย็นดี๊ดีเสียเหลือเกิน
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่ 25 พ.ค.นี้ เตรียมตัวเดินทางไปพิชิตชมยอดเขาจุงเฟราสักครั้งหนึ่งในชีวิตค่ะ
ยอดเขาที่เห็นนี้ น่าจะใช่ยอดเขาจุงเฟรานะ
Check out ออกจากโรงแรมที่พักเมื่อคืนนี้ จากนั้นก็เดินข้ามแม่น้ำอาเร่ มาฝั่งชุมชน Unterseen จ้า
แม่น้ำก็สีใสสดดั่งมรกตทอแสง น่าลงไปเล่นมากๆ
เดินแบกเป้มาไม่ไกลนักก็ถึงโรงแรมที่พักคืนนี้แล้วค่ะ มา Check in ที่โรงแรมโฮเทลบัวซาย์ อินเทอร์ลาเก้นค่ะ คืนนี้พักที่นี้แหละค่ะ
เนื่องจากดิฉันมา Check in ตอนเช้า ห้องยังไม่ว่าง ก็เลยขอฝากกระเป๋าไว้ก่อนนะ เดียวตอนเย็นกลับจากทริปเที่ยวจุงเฟราค่อยมาเข้าห้องพัก
ห้องอาหารที่โรงแรมนี้ก็จัดซ่ะหรูหราเชียว เดี๊ยนไม่กล้านั่งทานข้าวเลยค่ะ เพราะหรูเกิ๊น
ดอกม้ง ดอกไม้ที่นี้ก็สวยดีเหลือเกินนะค่ะ
มองไปก็คิดว่าเป็นดอกไม้ปลอมหรือประดิษฐ์ขึ้นมาเสียอีก
แต่พอเข้าไปมองไกล เอ้า..เป็นดอกไม้ของแท้เลยนะ สวยงามแปลกตาดีจัง
ส่วนอีกดอกอยู่ใกล้ๆกันก็เป็นแม่ดอกไฮเดรนเยีย เห็นแล้วก็เลียหัวใจเหลือกิน เพราะแม่เจ้าจัดใส่ในกระบะพุ่มพ่วงทะล้วงใจแบบสุดๆ
เดินทางจากสถานีรถไฟ interlaken West |
ดิฉันก็เดินแบกเป้ใบเล็กกะจิ๊ดลิ้ว หอบน้ำและขนมมาด้วยมาที่สถานีรถไฟ interlaken west
เพื่อเดินทางไปยังสถานีรถไฟ Interlaken ost ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก
มาลงที่สถานีรถไฟ interlaken ost |
นั่งรถไฟมาแป๊บเดียวไม่นานเลยค่ะ ก็ถึงสถานีรถไฟ interlaken ost แล้ว
พอมาถึงก็เดินเข้าไปซื้อตั๋วรถไฟ หรือบัตรเที่ยวจุงเฟราด้านในสถานีได้เลยค่ะ
พอเข้ามาด้านในก็มากดบัตรคิวก่อนเลยค่ะ
จากนั้นก็รอหมายเลขแสดงที่จอมอนิเตอร์ รอไม่นานค่ะ
เมื่อหมายเลขบัตรที่เราถืออยู่แสดงแล้ว ก็เดินไปตามเคาว์เตอร์ที่ได้เลยค่ะ
จากนั้นก็บอกเจ้าหน้าที่ว่า ไอวู๊ดไลท์ทูบายอะทิคเกต์ กี่จำนวนบลาๆ ก็ว่าไป
ของดิฉันมาคนเดียว ก็บอกว่า วันเพอร์ซัน
เมื่อชำระเงินแล้ว ก็จะได้บัตรและรายละเอียดท่องเที่ยวตามภาพเลยค่ะ มีใบคู่มือท่องเที่ยวเล่มสีแดง ตารางแสดงเวลา โบว์ชัวร์
ตอนซื้อดิฉันใช้บัตร Eurail Global Pass ซื้อ ก็ได้ส่วนลดไป 25% ลดเหลือ 158.2 สวิตฟรังค์ บัตรเก็บไว้ให้ดีๆ ห้ามหายนะค่ะ เพราะจะมีเจ้าหน้าที่เช็คตลอดเส้นทางที่เรานั่งรถไฟแต่ละขบวน
พอได้บัตรแล้ว ก็เดินไปที่ชานชลาหมายเลข 2 B ตามที่เจ้าหน้าที่บอกค่ะ
จากนั้นก็ขึ้นรถไฟขบวนที่จะไป Lauterbrunnen ตามภาพเลยจ้า
พอเข้ามาในด้านในขบวนรถไฟ จะเลือกนั่งตรงใหนก็ได้ตามใจชอบจ้า
หรือจะหอบรักมาห่มป่าด้วย ก็ไม่ว่ากันนะ
ระหว่างนั่งรถไฟไป Lauterbrunnen ก็เปิดอ่านข้อมูลคู่มือท่องเที่ยวในเล่มสีแดงได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่เข้าใจนะค่ะ เพราะเค้ามีภาษาไทยให้ด้วย แสดงว่าคนไทยมาเที่ยวเยอะจริงๆ เลยจัดทำไว้เฉพาะเลย
ในเล่มก็จะบอกประวัติความเป็นมา และจุดท่องเที่ยวต่างๆ ตลอดเส้นทางนั่งรถไฟสายจุงเฟรานี้ ว่าจะแวะไปที่ใหนบ้าง จะได้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปค่ะ เพราะราคาก็ไม่ได้ถูกๆเลยเน้อะ เดี๊ยนเองเก็บตังวนไปอยู่นาน กว่าจะได้มาที่นี้นะ ดังนั้นก็เที่ยวให้คุ้มค่า สมกับที่หอบน้ำข้ามทะเล นั่งเรือบินมาไกลจ้า
นั่งรถไฟชมวิวมาเรื่อยๆ ไม่ทันเมื่อยก็ถึงสถานีรถไฟ Lauterbrunnen แล้วค่ะ
เมื่อถึงสถานีนี้ รถไฟก็จะหยุดให้เราลงจากรถจ้า
จากนั้นนค่ะ ก็เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสีเหลืองที่เขียนว่า Wengernalphahn ตามภาพเลยจ้า
ขึ้นมาบนรถไฟแล้ว ก็เลือกที่นั่งได้ตามใจเลยจ้า
แต่คุณนายเว่อร์ เธอขอเป็นคนบ้า อยากแนะนำเพื่อนๆว่าให้เลือกที่นั่งด้านขวานะค่ะ
เพราะว่าวิวจะสวยเริ่ด เชิด หยิ่ง สวิงริงโก้กว่ามาก
โดยวันที่ไปเที่ยวนั้น ดิฉันเลือกนั่งด้านซ้ายของขบวน ก็เลยเห็นแต่ทุ่งหญ้าของภูเขาเหลาดอยสีเขียวค่ะ เพราะรถไฟวิ่งเลียบเลาะเกาะไต่ไปตามภูเขาตลอดเส้นทาง เลยไม่เห็นวิวทิวทัศน์จุดอื่นมากนัก
แต่ถ้าเลือกนั่งด้านขวามือ ก็จะเห็นแต่วิวภูเขาหิมะแบบนี้เลยค่ะ
แนะนำหากขึ้นมาขบวนรถไฟสีเหลืองคันนี้ ก็เลือกนั่งด้านขวาเลยนะ
ไม่งั้นจะต้องชะเง้อคอจนเมื่อยแบบดิฉันเนี่ยแหละค๊า
เป็นรถไฟสายที่วิ่งช้าที่สุดแล้ว เหมาะสำหรับนั่งดูวิวทิวทัศน์ที่แวดล้อมไปด้วยป่าไม้และหุบเขาเหลาดอยอันเขียวชะอุ่มชุ่มขจี ฉวีผ่องเป็นยองยิ่งนัก
วิวทิวทัศนระหว่างเดินทางไปจุงเฟรา ก็สวยงามสมค่ำล่ำลือจริงๆนะค่ะ
มีคนบอกไว้ว่า 10 ปากว่า ไม่เท่าตาเห็น ดูท่าจะจริงนะค่ะ ต้องมาดูและสัมผัสด้วยตัวเอง เพราะในภาพคงไม่สวยเท่าของจริงแน่นอนค่ะ ดังนั้นหากเพื่อนๆคนใหนไม่เคยมา ลองจัดทริปจูงมือคนรัก มาเที่ยวพักผ่อนชมวิวกันที่นี้สักครั้งนึง คงจะตะลึงงึงงันไม่น้อยเลย
และอีกอย่างรถไฟขบวนสีเหลืองนี้ ก็วิ่งเอื่อยเฉื่อยมากๆด้วย คือเป็นรถไฟสำหรับชมวิวจริงนะคะ
นั่งรถไฟเฉื่อยมาเรื่อยๆ ก็ลงที่สถานี Kleine Scheidegg
ที่สถานีรถไฟ Kleine Scheidegg นักท่องเที่ยวเยอะมากๆ ส่วนใหญ่เห็นแต่คนเอเชียเยอะกว่าฝรั่งมังข้าเสียอีก
พอมาถึงสถานีนี้ ก็จะดูวุ่นวายหน่อยๆ ให้เราเดินมาเข้าแถวขึ้นรถไฟไปยอดเขาจุงเฟราต่อที่ป้าย Individual Gate เลยจ้า โดยขบวนที่จะได้นั่งไปอยู่ท้ายๆบวนเลยนะค่ะ จะไม่ได้นั่งขบวนสีแดงนะค่ะ เพราะสีแดงเป็น VIP เห็นเป็นรถไฟเฉพาะกรุ๊ปทัวร์กระมัง เพราะกรุ๊ปทัวร์เยอะมากๆ
ตอนเดี๊ยนลงมาจากรถ ก็งงหนักมาก เพราะได้ยินแต่เจ้าหน้าที่ นางนึงพูดว่าให้ โก โก ไม่รู้จะให้โกไปใหนนะค่ะ เดี๊ยนก็เดิมตามตูดเค้าไปต้อยๆ ที่ใหนได้พาเดี๊ยนไปผิดทางค่ะ จะไปขึ้นรถไฟขบวน Group tour ก็เลยต้องเดินอ้อมมาตั้งหลักใหม่ หาป้าย Individual Gare ค่ะ เพราะสถานีมีขบวนแยกระหว่าง กรุ๊ปทัวร์ กับ มาเที่ยวเองส่วนตัว ดังนั้นเพื่อไม่ให้หลงทาง สังเกตุป้ายดีๆนะค่ะ จะไม่เอ๋อเหรอ เสลอแบบเดี๊ยนค๊า
พอขึ้นมาบนรถไฟ ก็พยายามเลือกที่นั่งด้านขวาของขบวนนะค่ะ
แต่ถ้าเลือกไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร เพราะรถไฟจะวิ่งทะลุถ้ำขึ้นไปเรื่อยๆ
ถ้าเลือกนั่งด้านขวาก็จะเห็นวิวภูเขาหิมะขาวโพลน โลนไปทั่วแบบนี้เลยค่ะ
ระหว่างนั่งมาในขบวนรถไฟ ก็จะมีจอมอนิเตอร์บอกว่าถึงสถานีใหนแล้ว อะไรประมาณนี้แหละค่ะ
นั่งรถไฟไต่เขาขึ้นมาเรื่อยๆ รถไฟก็หยุดสต๊อปให้แวะลงไปชมวิวค่ะ
ดิฉันก็เลยเดินลงไปชมสักหน่อยให้เป็นบุญตา ช่ะช่ะช่าหัวใจ
เดินมาก็จะเห็นภูเขาหิมะ สีขาวชะอ่วมท่วมล้นหัวใจแบบนี้เลยจ้า
ต้องดูผ่านห้องกระจกนะค่ะ
หลังจากชมวิวแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็เรียกขึ้นรถไฟไต่เขาไปเรื่อยจนถึงสถานี Jungfraujoch ซึ่งเป็นสถานีปลายทางแล้วคะ
ลงจากรถไฟมาก็เดินตามตูดเค้าไปเรื่อยๆ ไม่รู้จะพาไปใหนนะค่ะ อยากบอกว่าช่วงที่ดิฉันมาเที่ยวคนเยอะมากๆ
เดินผ่านลานอนุสรณ์ A Guyer zerller ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกเส้นทางรถไฟสายจุงเฟรานี้เองค่ะ
พอเดินมาห้องนี้ก็เริ่มเที่ยวได้ตามใจชอบเลยจ้า
วิธีการเที่ยวให้คุ้มค่าที่สุดก็คือ เดินไปตามป้าย Tour ได้เลยค่ะ
ลูกศรชี้ไปทางใหนก็เดินตามป้ายไปค่ะ เพราะในคู่มือเล่มสีแดง ก็บอกว่าให้เดินเที่ยวไปตามลูกศรีชี้ว่า Tour ก็จะเที่ยวได้ครบ
เห็นป้าย Tour ก็เดินตามลูกศรชี้ไปเรื่อยๆ จะมีจุดให้แวะชมโน้นนี้นั้นหลายจุดค่ะ
หรือถ้างงและสับสน ก็มาดูแผนที่แหล่งท่องเที่ยวบนยอดเขาแห่งนี้ก่อนค่ะว่ามีที่ใหนบ้าง
หมายเลขแสดงรายละเอียดบนยอดเขาจุงเฟรา มีดังนี้ค่ะ
1.station
2.Left Luggage Locker
3.Jungfrau Panorama view จุดชมวิว 360 องศา
4.Sphinne Viewpoint
5.Aletsh Glacier Snow fun จุดเล่นหิมะ
6.Monchsjoch Hut
7.Alphine Sensation
8.Ice palace
9.Plateau snow ice
10.Main Complex มีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายช็อคโกแลต
แต่ถ้าเที่ยวคนเดียวแบบดิฉัน จะเดินเลี้ยวแวะไปใหนก็ได้ตามใจโล้ดเลยจ้า
อากาศข้างบนนี้ค่อนข้างเย็นหน่อยนะค่ะ ยังไงใส่เสื้อกันหนาวให้อบอุ่นด้วยนะคะ
และอย่าลืมเลยนะ มาเที่ยวแบบนี้ คนก็เยอะมากๆ ร้านอาหารคนก็เยอะแบบสุดๆจนแทบไมีมีที่นั่งเลย
ดังนั้น คุณนายเว่อร์ ขอแนะนำให้เพื่อนพกขนม นมเนยมาทานด้วยระหว่างทางก็ช่วยแก้หิวได้เยอะเลยนะค่ะ ส่วนน้ำดื่มก็ตรอกใส่ขวดดื่มจากที่พักมาได้เลยนะ จะได้ประหยัดสตางค์ด้วย
ในเมื่อมาถึงที่นี้ทั้งที ก็ไม่พลาดขึ้นลิฟท์ไปชมวิวด้านบนสุดกันค่ะ
คนเยอะหน่อยต้องเข้าแถวรอคิวเข้าค่ะ ใครที่ลัดคิว โดยกระซวกแน่ๆค่ะ
พอขึ้นมาด้านบนก็จะเป็นห้องกระจกชมวิว 360 องศา ช่ะข่ะช่าหัวใจให้เราได้ชมกันค่ะ
ดูค่อนข้างคับแคบไปเลย เพราะนักท่องเที่ยวเวียนมาชมอย่างไม่ขาดสาย
มีป้ายให้ถ่ายภาพที่ระลึกไว้เป็นที่ระทึกหัวใจด้วยว่ามาถึงแล้วโว้ยยอดเขาจุงเฟรา คลอเคล้าสายลมและแสงแดดแผนเผา และคลอเคล้าหิมะสีขาวโพลนไปทั่ว
ยอดเขาจุงเฟรา มีความสูง 3,571 เมตร หรือ 11,782 ฟูต ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป
ระเบียงชมวิวสฟิงค์ จุดชมวิวทิวทัศน์บนยอดเขาจุงเฟรา |
ดูสวยงามเลอค่า สมกับที่อุตสาห์ตั้งใจมาถึงสวิตเซอร์แลนด์เลยนะ
จุมชมวิว Sphinx Terrace
ระเบียงชมวิวสฟิงซ์ มีความสูง 3571 เมตร
โดยจุดชมวิวแห่งนี้เปิดทำการตั้งแต่ปี 1996 มาจนถึงปัจจุบันค่ะ
มีมุมเงียบๆให้นั่งพักด้วย กินขนมปังยังไม่ล้างปากเลยค่ะ เลยงัดแอปเปิ้ลมากัดทานช่วยแก้หิวไปได้เยอะเลย
มองไปก็เห็นมีแต่หิมะสีขาว สวยงาม ตามสไตล์ยุโรป
ยอดเขานี้น่าจะเป็น Top of Europe อีกยอดเขานึงกระมัง เพราะดูใหญ่โตโอฬาร ตระการตาเสียเหลือเกิน
และอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาด เมื่อชมวิวแล้ว ต้องแวะมาเดินสัมผัสหิมะเย็นที่ลาน Snow fun นะคะ
เพราะมีกิจกรรมโน้นนี้นั้น ให้ได้เล่นกันอีกด้วย แต่ต้องเสียตังเพิ่มนะค่ะ
มีทางเดินให้สัมผัสจับดูหิมะสีขาวและถ่ายภาพกันด้วยนะค่ะ แต่ต้องระวังเวลาเดินหน่อยนะค่ะ อาจจะลื่นหัวขมัมได้จ้า
หิมะกำลังละลายค่ะ
ข้างบนแม้อาจจะเย็น ตัวเลขเดียว
แต่แดดก็แรงเหมือนกันนะค่ะ
มองไปทางใหนก็มีแต่หิมะสีขาวจัดจ้านสายตา
อย่าลืมพกแว่นกันแดดมาด้วยนะค่ะ ขาวแรงแทงนัยตาจริงๆ
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย
ซูมกล้องไปก็เป็นจุดชมวิวด้านบน
กิจกรรมที่ลาน Snow Fun
มีแต่หิมะสีขาวละลานตาไปหมด ถ้าเพื่อนคนใหนมาเที่ยว อย่าลืมพกแว่นตากันแสงมาด้วยนะ ไม่งั้นทะแยงดวงตาจนปวดร้าวระทม ทุกข์ตรมหมองไหม้แน่นอนจ้า
กิจกรรมโหนสลิงจากยอดเขาลงมาที่ลาน Snow Fun ก็เป็นอีกมุมที่ดึงดูกนักท่องเที่ยว
มีนักท่องเที่ยวทยอยเดินออกมาสัมผัสความหนาวเย็นอย่างไม่ขาดสาย ท่ามกลางอากาศอันหนาวเหน็บ
นอกจากนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวต่างๆให้เดินชมอีกมากมายอาทิเช่น Ice Palace
ซึ่งเป็นลานน้ำแข็งที่สร้างขึ้นในปี 1930 และได้ตัดเจาะใหม่เป็นครั้งคราว ด้วยความร้อนจากร่างกายของนักท่องเที่ยวนับหมื่นคนต่อวัน จำเป็นต้องทำให้ห้องโถ่งภายในไอซ์พาเลซแห่งนี้ความเย็นอยู่ที่ -3 องศาตลอดเวลา
ลานจัดแสดงรูปน้ำแข็งแกะสลักเป็นรูปต่างให้ชม เช่นนกเพนกวิน รูปวิว นกอินทรีย์ และอื่นๆ มากมาย
ดูน้ำแข็งก่อนนี้ไม่รู้ว่าแกะสลักเป็นรูปหมี หรือรูปวัวกันแน่ เดี๊ยนล่ะสงสัยจริงๆ
มีเจ้าหนูถูกแช่แข็งไว้ด้วย
เดินมาตามป้าย Tour เรื่อยๆ ก็ยังมีอุโมงค์ห้อง Alpine Sensaton
ซึ่งเป็นอุโมงค์โลกอัลไพน์ โถงสวิสมหัศจรรย์แสดงวิถีชีวิต วัฒนธรรมและธรรมชาติของสวิส
มีแม่วัวยืนเก๊กท่าให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปคู่ด้วยนะ
ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของ Adolf Guyer Zeller ผู้บุกเบิกและผู้ก่อตั้งการรถไฟจุงเพรา ได้ทำการร่างสเก็ตให้เป็นจริง ด้วยสุดยอดนวัตกรรมการก่อสร้าง เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางสู่ยอดเขาจุงเฟราได้สะดวกสบาย
นอกจากนี้ยังมีการแสดงพิพิธภัณฑ์ช็อคโกแลต Lindt ซึ่งเป็นช็อคโกแลตยี่ห้อดังของประเทศสวิสให้ได้ชมกันอีกด้วยค่ะ
เดินเข้ามาก็มีโซนการแสดงวิธีการทำช็อคโกแลตให้ดู
เห็นแล้วก็อยากทานนะค่ะ ยิ่งเข้าในโซนทำช็อคโกแลต กลิ่นนี้หอมฟุ้งไปทั่วเลย เข้ามาแล้วก็ต้องเสียเงินซื้อช็อคโกแลตไปกินสักก้อนนึงล่ะ แต่ช็อคโกแลตเค้าอร่อยดี
และหากเพื่อนๆได้เดินเที่ยวจนเบื่อแล้วนะค่ะ ทีนี้จะเดินทางกลับ ก็เดินมาที่ประตูทางออกค่ะ ยืนเรียงแถวเพื่อนั่งรถไฟกลับค่ะ
โดยนั่งรถไฟจากสถานีจุงเฟราไปลงทีสถานี Kleine Scheidegg
พอนั่งรถไฟมาถึงที่สถานี Kleine Sheidegge ทางเจ้าหน้าที่ของรถไฟ ก็จะมีขนมช็อกโกแลตลินดาไว้ให้ทานอีกด้วยค่ะ
นั่งรถไฟลงมาทีสถานี Kleine Scheidgg
พอมาถึงสถานีนี้ ก็จะมีทางเดินไปชมวิว บนเนินหญ้าสักสักหน่อยค่ะใหนๆก็ตั้งใจมาแล้ว
เดินขึ้นมาบนทางเนินเขาที่เป็นลานหญ้า ก็จะเห็นภูเขาหิมะมกำลังละลาย
มีกระท่อมเก็บเสบียงอะไรไม่รู้อยู่บนนี้
มีดอกไม้จำพวกอัลไพน์ให้ได้แวะชมกันด้วย เห็นกำลังออกดอกบานเลยค่ะ ดอกเล็กตะมุตะมิมากๆเลยนะค่ะ
รถไฟสีแดงกำลังจะไต่ร่างขึ้นไปสู่ยอดเขา เพื่อไปรับนักท่องเที่ยวค่ะ
อันนี้ก็ไม่รู้ว่าดอกไม้ชื่ออะไร ดอกคว่ำหน้าลงดิน สงสัยจะขี้อายกระมัง
นอกจากดอกสีม่วง ก็ยังมีดอกสีขาวด้วยนะ
เดินมาบนลานเนินหญ้า ก็เห็นพ่อหนุ่มหน้าใสดูเป็นผู้ใหญ่หน่อยๆ กำลังยืนเก๊กแมน เริ่ดสะแมนแตนชมวิวทิวทัศน์ของหุบเขาแห่งนี้อยู่
วิวทิวทัศน์ด้านบนนี้ก็แปลกตา มีน้ำแข็งเกาะ เซาะแซงทะแยงเป็นสีขาวหย่อมๆ ดูสวยงามแปลกตาดีค่ะ
ซูมกล้องลงไปด้านล่าง ก็เห็นรถไฟอีกขบวนกำลังเอื่อยอ้อย ไต่ต้อยมาตามราง ขึ้นมารับนักท่องเที่ยวด้านบนยอดเขาแห่งนี้
มีน้องหมาด้วยนะค่ะ ไม่รู้ว่าน้องหมาของใคร |
บนเนินลานหญ้าแห่งนี้ ก็มีแต่ดอกไม้กลุ่มอัลไพน์ขึ้นเต็ม ดอกสีขาวนี้ ก็ไม่รู้ดอกอะไรนะค่ะ ดูคล้ายดอกลั่นทมๆ ถ้าเอาไปจิ้มกินกับน้ำพริก จะมีพิษมีภัยใหม๊น๊อ
หลังจากที่ได้เดินพักชมวิวบนเนินหญ้าใกล้สถานี Kleine Scheidgg แล้วนะค่ะ จากนั้นก็มาขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางลงไปที่สถานี Grindelwald ค่ะ
ระหว่างนั่งรถไฟลงไปสถานี Grindelwald
นั่งชมวิวริมทางมาก็เห็นฝูงวัวกำลังแทะเลมกินหญ้ากันอยู่เลย
กระท่อมบ้านเรือนทรงน่ารักมุ้งมิ้งบนเนินเขาระหว่างลงไปยัง Grindelwald ดูสวยงาม และเรียบง่ายแบบชนบทสไตล์สวิสเซอร์แลนด์จริงนะค
นั่งรถไฟเอื่อยเฉื่อยไต่เขาจากสถานีด้านบนลงมาเรื่อย ก็ถึงสถานี Grindelwald แล้วค่ะ
จากนั้นเมื่อถึงสถานีนี้แล้ว ก็ไปเดินเลาะเล่นชมวิวกันสักแป๊บนึงค่ะ
เดินจากสถานีมาเดินชมดอกไม้ใบหญ้าสักหน่อย
ริมทางเดินลงไปยังหมู่บ้าน Grindelwald
มีดอกไม้สวยรูปทรงน่ารัก ให้ได้ชื่นชมกันอีกด้วยค่ะ
ดอกไม้ละดอกก็สวยงามตามสไตล์ฝรั่งจริงๆนะ
ดอกไม้รูปทรงเล็กๆ น่ารักมุ้งมิ้งมากๆ
เดินมาในหมู่บ้านก็ได้กลิ่นไก่อบ โชยเตะจมูก กลิ่นหอมน่าทานมากๆ มีนางกวักด้วยนะ น่าจะกวักเรียกลูกค้ามาซื้อได้เยอะเลยนะ
เพราะที่หมู่บ้าน Grindelwald มีนักเที่ยวมาพักผ่อนเยอะเหมือนกันนะ
ดิฉันเลยอุดหนุนซื้อไก่คุณลุงไปครึ่งตัว
ถ้าตัวนึงเกรงจะทานไม่หมดค่ะ ดูแต่ตัวก็ใหญ่เหมือนนะ
ก็เดินกลับมาทีสถานีรถไฟ Grindelwald
จากนั้นก็ขึ้นรถไฟคันสีน้ำเงินขบวนนี้แหละค่ะ เดินทางกลับ Interlaken Ost เป็นอันจบทริปเที่ยวยอดเขาจุงเฟราจ้า
-------------------------------------------------------------------
เมื่อเดินทางมาถึง Interlaken ดิฉันก็เดินเท้าจากสถานีรถไฟมายังโรงแรมที่พักคืนนี้ค่ะ
โดยพักค้างที่โรงแรม Hotel Beausite
ห้องพัก Standard Single คืนละ 5000 กว่าบาท เตียงเดียวนอนคนเดียว |
ตู้เย็นก็มีให้นะค่ะ ของกินในกระเป๋าเป้ เอามายัดใส่ให้หมด
ไก่อบร้านคุณลุงที่หมู่บ้าน Grindelwald ก็หอบซื้อมาทานด้วย
เสียดายไม่มีข้าวเหนียว ถ้ามีด้วยคงจะเริ่ดมากๆ
อาหารเย็นนี้ก็มีไก่อบ ทานคู่กับสลัดผักรวม และโยเกิร์ต
ทานจนอิ่มแป๊รไปเลยล่ะค่ะ
หลังจากที่ได้ทานไก่ไปครึ่งตัว ก็ทำให้ดิฉันท้องตึง นอนพักหลับไปตลอดคืน
จบทริปรีวิวเที่ยวยอดเขาจุงเฟราครั้งหนึ่งในชีวิตของคุณนายเว่อร์ เธอเป็นบ้าไปแล้วจ้า
เดี่ยวรีวิวทริปต่อไป ดิฉันจะมารีวิวการเดินทางไปเที่ยวเมืองกอร์มา หรือโกลมาร์ เมืองเล็กน่ารักฟรุ้งฟริ้งอีกแห่งที่ต้องแวะมาเยือน
สำหรับทริปรีวิวการเดินทางไปเที่ยวยอดเขาจุงเฟราด้วยตัวเอง ที่ดิฉันได้นำมาเสนอไว้ในเว็ปบล็อกนี้ น่าจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ที่กำลังวางแผนไปเที่ยวอยู่ไม่มากก็น้อยนะค่ะ หากข้อมูลดังกล่าว มีข้อผิดพลาด ประการใด ดิฉันต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกคนที่เสียสละเวลาเข้ามาสไลด์ดูภาพกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะค่ะ...จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
------------------------------------------------------------
แนะนำบทความอื่นๆ และบล็อกรีวิวท่องเที่ยวเมืองต่างๆที่ผ่านมามีดังนี้ค่ะ
รวมข้อมูลที่พักเมืองอินเทอร์ลาเคน ใกล้สถานีรถไฟ คลิ๊กดูข้อมูลที่พักค่ะ>> |
รีวิวแบกเป้เที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิกอีกครั้ง ไปดูสิว่ายังสวยปังอยู่ใหม๊ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวแบกเป้ลุเดี่ยว มาเน้อมาเที่ยวเมืองแพร่ แลยลชมธรรมชาติ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
สาระน่ารู้กับประโยคภาษาอังกฤษใช้ในสนามบิน มีคำว่าอะไรบ้าง คลิ๊กอ่านดูจ้า>>> |
รีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยว เช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวในบุรีรัมย์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
แบกเป้ลุยเดี่ยว เที่ยวเมืองโคราช กินหมี่รสชาติแซ่บๆกันจ้า คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวตอนที่ 18 แบกเป้ลุยเดี่ยวเมืองเวนิชครั้งแรก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2KQvnsh
รีวิวลุยเดี่ยวตอนที่ 14 แบกเป้ไปชมความน่ารักที่เมืองกอลมาร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2uQBBTE
รีวิวเที่ยวยุโรปตอนที่ 12 ลุยเดี่ยวไปเมืองสปิซ-อินเทอร์ลาเก้น คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://bit.ly/2LkZvQM
รีวิวเที่ยวยุโรปตอนที่ 11 แบกเป้เที่ยวกรุงเบิร์น ดูเพลินๆสวยดีนะ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://bit.ly/2uoxRbX
รีวิวเที่ยวยุโรปตอนที่ 10 เยือนสวิตเซอร์แลนด์ เจนีวา-โลซาน คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://bit.ly/2N0X57i
รีวิวเที่ยวยุโรปตอนที่ 9 เดินชมเมืองลียง ชมอัสดงที่เขาฟูรวิแยร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://bit.ly/2NyWRFA
เที่ยวยุโรปตอนที่ 8 แวะนั่งพักตากอากาศริมหาดที่เมืองนีซ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/dLDKAX
เที่ยวยุโรปตอนที่ 7 แวะชมประเทศโมนาโค เมืองโก้หรูริมทะเลดูสิ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/e6o4UL
รีวิวเที่ยวตอนที่ 6 แวะเที่ยวเมืองคานส์ มีอะไรให้ยลตระการบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/GpiYVK
รีวิวเที่ยวฝรั่งเศสตอนที่ 5 เดินลั๊ลลาเมืองโพรว็องสุดโรแมนติค คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/4tuuke
รีวิวเที่ยวฝรั่งเศสตอนที่ 4 เดินเร้าฤดีฉิมพลีเสน่ห์เมืองมาร์เซย์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/Bxaq9X
รีวิวเที่ยวฝรั่งเศสตอนที่ 3 เดินชิลๆดูวิวเมืองปารีส&ช๊อปปิ้ง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/XCFzYC
รีวิวเที่ยวฝรั่งเศสตอนที่ 2 เดินย่องท่องวังแวร์ซาย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/N6BGg2
รีวิวเที่ยวประจำเดือน พ.ค.2018 แบกเป้เที่ยวฝรั่งเศส คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/eoJBtM
บอกเล่าการเลือกบัตร Eurail Pass ก่อนซื้อคุ้มค่าใหม๊ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/2WGywk
แบ่งปันการเดินทางด้วยรถไฟ Metro ในกรุงปารีสครั้งแรก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูข้อมูลที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/sbA4ek
แชร์วิธีการเดินจากสนามบินฝรั่งเศส เข้าไปในกรุงปารีส คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
รีิวิวสายการบินโอมานแอร์ จากกรุงเทพไปฝรั่งเศส คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
รีิวิวเที่ยวเมืองลพบุรี เดินยวลยีชมวังเก่า เคล้าความหลัง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/7ZB3pt
รีิวิวเที่ยวประจำเดือน เม.ย.นี้ แวะไปเที่ยวสิงห์บุรีมาค่ะ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/eL6fHw
รีวิวท่องเที่ยวประจำเดือน เม.ย.2018 ล่องเรือไหว้แม่น้ำเจ้าพระยา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/HrLddq
จัดมารีวิวเที่ยวสัตหีบ 2 วัน 1 คืน เดือน มี.ค.61 ไปที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/YV4FbW
0 ความคิดเห็น