บทความวันนี้ ขอมารีวิวเดินทางไกลไปกับสายการบินโอมานแอร์ (Oman air review flight from BKK to Paris) ให้ทุกท่านได้อ่านกันค่ะ |
และเพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกนี้ร้างไป วันนี้เลยขอมาแบ่งปันประสบการณ์ การเดินทางแบกเป้ไปเที่ยวยุโรปด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกเลยค่ะ จะเรียกว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตก็น่าจะได้นะค่ะ เพราะว่าแผนไว้น๊านนาน เรียกว่านานมากๆ เคยนัดกับเพื่อนๆไว้ ว่าจะจัดทริปมาเที่ยวยุโรปด้วยกัน แต่ก็มีอันต้องล่มตลอดเวลาค่ะ เพราะแต่ละคนก็งานยุ๊งยุ่งกันเสียเหลือเกิน และเวลาไม่ค่อยจะตรงกัน จนผ่านกาลเวลามาเป็น 10 ปี ในที่สุดก็ได้เวลาแล้วค่ะ ที่เดี๊ยนจะต้องเป็นคนบ้า ออกมาลั๊ลลาเที่ยวยุโรปด้วยตัวเองสักทีค่ะ เคยเห็นแต่รีวิวใน pantip แล้วก็อยากไปบ้าง เห็นเค้าไปกันแล้ว เราน่าจะไปได้บ้างนะ เดี๊ยนเลยวางแผนทำวีซ่าเชงเก้นล่วงหน้ามาแรมเดือนเลยค่ะ จนวีซ่าผ่านมาจนได้ ตอนแรกคิดว่าจะไม่ผ่านซ่ะแล้ว เพราะการเงินไม่ค่อยจะดี ติดหนี้ติดสินเยอะแยะ และก็พึ่งออกจากงานประจำมาด้วยนะค่ะ แต่ทางเจ้าหน้าที่สถานทูตก็ใจดี หลับหูหลับตา แสตมป์ตราวีซ่าเชงเก้นมาให้จนผ่านเลยจ้า
เอาเป็นว่าไม่ขอพร่ำเพร้อแล้วนะค่ะ เกรงเพื่อนจะจรลีหนีไปเสียก่อน ขอมาแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางไปประเทศฝรั่งเศสด้วยตัวเองครั้งแรก กับเที่ยวบินสไตล์อาหรับของสายการบินโอมานแอร์ อาหารบนเครื่องก็อาหรับ เหมือนกินบนฮาเรม อะไรประมาณนั้น มาให้เพื่อนที่ยังไม่เคยนั่งได้สไลด์ดูภาพกันค่ะ เผื่อใครที่จะวางแผนมาเที่ยวฝรั่งเศส หรือเดินทางมาเที่ยวในยุโรป มองหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก ก็ลองมาใช้บริการนั่งดูได้ค่ะ
- สำหรับราคาตั๋วเครื่องบิน Oman Air ในทริปนี้ เดินทางวันที่ 15 พ.ค.2018 ราคาอยู่ที่ 11803,94 บาท เป็นเที่ยวบินขาไปอย่างเดียว แบบ Transfer คือต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินในกรุงมัสกัต ประเทศโอมานค่ะ
สรุปการเดินทางดังนี้ค่ะ
- ออกจาก Bangkok, Suvarnabhumi Intl Arpt เวลา 09:10 อังคาร, 15 พ.ค. 2018
ถึง MuscatMCT, Seeb Intl12:05 อังคาร, 15 พ.ค. 2018 รวมเวลา 5.55 ชั่วโมง
รอเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินกรุงมัสกัต ประเทศโอมาน 2.10 ชั่วโมง
(อยากบอกว่า ตลอดการเดินทางของเที่ยวบินนี้ ทั้งแอร์สาว และแอร์หนุ่ม ก็ขยันเสริฟอาหารมาก เดี่ยวทานโน้น เดี่ยวทานนี้ อิ่มเว่อร์ จนท้องเรอไปเลยล่ะค่ะ)
- จากนั้นออกจากกรุง MuscatMCT, Seeb Intl เลา 14:15 อังคาร, 15 พ.ค. 2018
ถึง สนามบิน ParisCDG, Charles De Gaulle Intl ArptTerminal: 2A เวลา 19:45 อังคาร, 15 พ.ค. 2018 ใช้เวลา 7.30 ชั่วโมง
ระยะเวลาในการเดินทาง 5.55 ชั่วโมง + รอเปลี่ยน 2.10+7.30 รวมใช้เวลาไปทั้งหมด 14.95 ตีไป 15 ชั่วโมงเลยค่ะ นั่งทีรากงอกออกจากตูดเลยจ้า
- ส่วนเว็ปไซต์ที่จองตั๋วเครื่องบิน ก็คงหนีไม่พ้น Skyscanner เพราะไปเช็คราคาในเว็ปนี้ มีเอเจ้นออนไลน์หลายเจ้า เสนอราคาตั๋วเครื่องบินแบบลด แลก แจก แถม หั่นแหลกกันสุดฤทธิ์ แต่ราคาก็ยังเป็นหมื่นอยู่นะค่ะ
- ระยะเวลาในการเดินทาง รวมทั้งหมด 15 ชั่วโมงค่ะ เรียกว่านั่งจนตูดบานเลยค่ะ แต่ก็ยังดีนะค่ะ เพราะเป็นเที่ยวบิน Transfer ไม่งั้นคงเมื่อยตูดกว่านี้แน่ๆแต่ก็ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย แถมได้เปิดมุมมองในการเดินทางใหม่ๆให้กับตัวเองด้วย ถือเป็นการหาประสบการณ์ในต่างแดนค่ะ
- เริ่มต้นการเดินทางในวันนี้ 15 พ.ค.2561 ดิฉันตั้งนาฬกาปลุก ตื่นตั้งแต่ตี 4 เลยนะค่ะ ต้องรีบจรลีออกจากบ้าน ไม่งั้นถ้าช้ากว่านี้มีหวังรถติดแน่ๆ เนื่องจากเป็นวันเปิดเทอมของเด็กๆด้วยค่ะ
มาถึงสนามบินก็ไปเช็คอินน์ที่เคาว์เตอร์เลยค่ะ โดยหากเพื่อนคนใด ที่ไม่ได้เช็คอินน์มา ก็นำหลักฐานจากอีเมลล์ยืนยันการจองนั้นแหละค่ะ มาแสดงที่จุดเช็คอินน์ ตอนโหลดกระเป๋าค่ะ
กระเป้าเป้ใบใหญ่แบกไปเหมือนจะอพยพนี้ แบกไปมาเบาๆ 15 กิโลกรัม |
และทางสายการบินก็ให้นำสัมภาระติดตัวไปด้วย 2 ใบ ไม่เกิน 7 กิโลกร้ัมค่ะ แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นก็เกิน 7 กิโลกันทางนั้นเลยล่ะค่ะ
แผนการเดินทางท่องเที่ยวในทริปนี้รวม 26 วัน เริ่มต้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สิ้นสุดที่เกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ |
พอเช็คอินน์และโหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่องแล้ว ก็จะได้ใบเช็คอินน์มา 2 ใบค่ะ โดยใบแรกจะเป็นใบที่เดินทางจากกรุงเทพไปโอมาน ส่วนใบที่สอง ก็เป็นใบเดินทางจากโอมานไปฝรั่งเศสค่ะ
หลังจากโหลดกระเป๋าเรียบร้อยแล้วนะค่ะ ก็เดินผ่านด่าน ตม. ให้เจ้าหน้าที่ประทับตราให้เรียบร้อยค่ะ จากนั้นก็เดินไปที่ Gate ของสายการบินได้เลย โดยเที่ยวบิน Flight จากกรุงเทพไปมัสกัตนี้ ทางเจ้าหน้าวงกลมไว้ให้อยู่ที่ ประตูหมายเลข E9 ค่ะ
ระหว่างเดินไปที่ Gate ก็ช็อปปิ้งเดินชิลๆ ดูสินค้าในสนามบินไปเรื่อยค่ะ
เดินมาตามป้ายบอกทางเรื่อย ก็ถึงประตูทางขึ้นเครื่องหมายเลข E9 ค่ะ
พอมาถึงก็จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบตั๋วรอด้านหน้าทางเข้าเลยค่ะ
หลังจากเข้ามาแล้วนั่งรอสักแป๊บ รอเจ้าหน้าทีี่ประกาศค่ะ
นั่งรอใน Gate ไม่นานนัก ก็ได้เวลาขึ้นเครื่องบินแล้วค่ะ
เดินเข้าไปมาในเครื่องบิน ส่วนแรกก็จะเห็นที่นั่งของชั้น Business Class เลยค่ะ ดูกว้างขวางหรูหรามากค่ะ
ส่วนชั้นถัดมาก็เป็น Economy Class เลยค่ะ แบ่งเป็น 3 ส่วน เป็นเครื่องบินขนาดใหญ่พอสมควร
ที่นั่งประหยัดก็โอเค พอนั่งได้ค่ะ อาจจะแคบไปหน่อย ใครที่ตัวใหญ่ขายาว อาจจะอึดอัดบ้าง แต่ก็เห็นฝรั่งตัวใหญ่นั่งได้อยู่นะ
มีหมอนกับผ้าห่มให้ด้วยนะค่ะ เผื่อใครที่ขี้หนาว ก็เอามาห่มได้นะ ส่วนหมอนนั้นเป็นหมอนผ้าสปันบอนด์ ดูแบนๆไปหน่อย แต่ก็พอหนุนได้
ที่นั่งยังมีหนัง รายการทีวี ให้ดูด้วย เป็นหน้าจอแบบทัชสกรีน กดดูโน้นนี้นั้นได้ จะได้ไม่เบื่อระหว่างนั่งบนเครื่องนานๆ นอกจากนี้ในเครื่องบิน ยังสามารถใช้มือถือได้นะค่ะ แต่ก็จะมีเตือนบนหน้าจอตลอดหากไม่สามารถใช้มือถือ จะสัญญาณแสดงขึ้นมาค่ะ และบนหน้าจอก็มีปุ่มเรียกพนังงานบนเครื่องดู จะเห็นเป็นรูป Icon ของคนแสดงอยู่ค่ะ เผื่อใครอยากขอความช่วยเหลืออะไร ก็กดปิ้ง เดี่ยวแอร์หนุ่ม และแอร์สาว ก็จะเดินสกาวมาให้บริการค่ะ
มีหูฟังให้ด้วยนะค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะไม่มี แล้วจะฟังยังไง เพราะหูฟังอยู่ในกระเป๋าใต้ท้องเครื่อง |
ไม่นานนัก กับตันก็เทคออฟ เครื่องบินทยานพุ่งสู่ขอบฟ้า มองเห็นเมฆคล้อยลอยมา สวยงามระย้าจับใจ
มองไปด้านล่างก็เป็นบ้านม่านชานเรือนและแม่น้ำไหลลดคดเคี้ยว เหมือนงูเลี้ยวกินหาง ดูไปแล้วก็คล้ายตัวประกอบในแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์เลยนะค่ะ
ส่วนมองไปอีกด้านก็เป็นปากอ่าวติดกับทะเล ไม่รู้ที่ใหน สวยงาม ร้าวรานจับใจยิ่งนัก ถ้าไม่ได้ขึ้นมาบนท้องฟ้า ก็คงไม่ได้เห็นให้สุขอุรากระมัง
นั่งบนเครื่องไปได้สักพัก พนังงานบนเครื่องบิน ก็ถือเมนูอาหารมาให้ เพื่อบอกว่าเมนูบนเที่ยวบินนี้ มีเมนูอะไรให้ทานบ้าง ก็จะมี Appetiser (อาหารเรียกน้ำย่อย) Main (อาหารหลัก) Desert (ของหวาน) ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกด้วยนะค่ะ นอกจากนี้ยังมีชาและกาแฟ เสริฟให้อีกด้วย เนื่องจากเที่ยวบินนี้เป็นสายการบินแบบมุสลิม จะไม่มีหมูให้ทานนะค่ะ ดังนั้นอย่าเรียกหาน้องหมูเด็ดขาดค่ะ มีให้เลือกทานน้องไก่ กับน้องมังสวิรัตเท่านั้น
โดยอาหารหลัก มีให้เลือกอยู่ 3 อย่าง ตอนพนักงานบนเครื่องลากรถเข็นมาเสริฟอาหารให้ เค้าจะถามเราว่าอยากทานอะไร หากพูดไม่ได้ ก็ชี้ๆเอาก็ได้ค่ะ ของเดี๊ยนชี้ๆเอา เพราะออกเสียงภาษาปะกิจไม่ค่อยจะถูก เนื่องจากบนเครื่องบิน มีแต่แอร์สาวชาวอาหรับ ผิวขาว ตาน้ำข้าวทั้งนั้นเลย แต่ก็มีแอร์ผมดำอยู่บ้าง
อาหารทานบนเที่ยวบินนี้ กินพาสต้ากับมะเขือเปาะแปะ กระเทาะหน้าแว่นไปล่ะกันนะค่ะ |
อาหารเรียกน้ำย่อยของเค้าอร่อยดีค่ะ เป็นเนยอะไรไม่รู้สีขาวๆ หรือไม่ใช่เนย ก็มิทราบแน่ชัด รสออกเค็ม ทานตัดกับผักสลัดได้อร่อยดีนะ ส่วนรถชาติพาสต้าก็พอทานได้นะ มันจะเลี่ยนๆหน่อยนะค่ะ ยังไงหากเพื่อนคนใหนที่ไม่ชอบทานอะไรมันๆ ก็กินอาหารหลักก่อน ค่อยทานสลัดก็ได้ ไม่ว่ากัน ไม่ต้องเป๊ะตามธรรมเนียมฝรั่งหมดก็ได้
ดูคล้ายต้มเลือดหมู หรือเลือดไก่นะค่ะ แต่เป็นขนมหวานนั้นไซร์ หวานจัดเลี่ยนใจเหลือเกิน |
เนื่องจากน้ำถ้วยเล็กดื่มไปไม่พอช่วยย่อย พนักงานก็ลากรถเข็นมาเสริฟน้ำดื่มขวดให้อีกค่ะ
ทานอิ่มแล้ว ก็ไปทำธุระที่ห้องน้ำต่อค่ะ ห้องน้ำก็เหมือนกับสายการบินทั่วไป
มีที่นั่งอึ ชักโครก มีซิ่งล้างมือ มีกระจก ทิชชูให้ เวลาเข้าห้องน้ำบนเครื่องบินทีไร เดี๊ยนต้องเอามือสองข้างปิดหู ไว้ตลอดค่ะ เพราะกดปุ่มชักโครกที เสียงก็ดังสะท้านทะลุแก้วหูเลยทีเดียว
เข้าห้องน้ำเสร็จ นั่งไปสักพัก บนเครื่องบินก็ปิดไฟมืดตึ๊ดตื๋อเลยค่ะ
เนื่องจากเที่ยวบินที่ดิฉันนั่งไปนี้ ที่นั่งว่างเยอะมาก เห็นบางคนนอนราบกับที่นั่งทั้ง 3 ที่เลยค่ะ
แต่ถ้าหากผู้โดยสารเต็ม ก็อดทนสักนิด เพราะเบาะปรับเอนได้นิดเดียว คือแบบปรับได้กะจึ่งนึง
นั่งบนเครื่องไปได้สัก 4 ชั่วโมงกว่าๆนิด แอร์สาวก็มาเสริฟของกินให้อีกล่ะค่ะ เป็นเบอเกอร์ไก่
เบอเกอร์ไก่ห่อไว้ให้ หากเพื่อนๆคนใหนที่ยังไม่ทานเลย ก็เก็บใส่ในกระเป๋าเอาไปทาน ตอนรอเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินในกรุงโอมานได้ค่ะ
แน่นอนว่านั่งบนเครื่องนานๆ หลายชั่วโมง คงเบื่อแน่ๆ แนะนำเปิดหน้าจอมอนิเตอร์บนเครื่อง ก็มีหนังให้ดูหลายเรื่อง ทั้งหนังฮอลลีวูด บอลลีวูด และหนังไทยก็ยังมีให้ดูฆ่าเวลาไปค่ะ จะได้ไม่เบื่อ
นั่งเครื่องบนมาเกือบ 6 ชั่วโมง ในที่สุดก็ถึงประเทศโอมานสักทีนะค่ะ
มองทะลุหน้าต่างไปยังแผ่นดินของประเทศโอมานแล้ว ดูมีแต่ภูเขาสีน้ำตาล ดูแล้งๆยังไงไม่รู้ ถ้าให้มาอยู่คงทำใจสักพัก ไม่ค่อยจะเขียวขจีเหมือนบ้านเรานัก
แต่ตึกรางบ้านช่องของเค้าดูเป็นระเบียบดีนะค่ะ เป็นสัดเป็นส่วน อยู่ติดกับทะเลสีเขียวสดดั่งมรกตทอแสงเลย มีต้นไม้ใบหญ้าเซาะแซมแรมรอนบ้าง แต่ผืนดินส่วนใหญ่ก็เหมือนอยู่ในทุ่งทะเลทรายอะไรแบบนั้นเลย คงจะร้อนน่าดูมาก
เครื่องบนค่อยทย่านลงสู่รันเวย์ มองไปเห็นผืนดินแล้ว เหมือนมาอยู่ทุ่งทะเลทรายอะไรแบบนั้นเลยนะค่ะ แต่ก็ดูแปลกตาดีนะค่ะ
ถึงสนามบิน Seem กรุงมัตกัสประเทศโอมานแล้วค่ะ
มีสายการบินหลายสายเลยนะค่ะที่มาจอดเทียบท่าที่สนามบินแห่งนี้ เนื่องจากเป็นประเทศอยู่ในเอเชียตะวันออกกลาง ทำให้เป็นท่าเทียบจอดเปลี่ยนเครื่อง ต่อไปยังประเทศในกลุ่มยุโรป และประเทศใกล้เคียงแถวแอฟฟริกาอีกด้วย
เดินออกจากเครื่องบินมาก็ให้ไปที่อาคารเพื่อรอเปลี่ยนเครื่องเลยค่ะ
โดยสังเกตุป้าย Transfersค่ะ และในป้ายบอร์ดก็จะแสดงเที่ยวบินและประตูของเครื่องให้ด้วย จะได้ไปถูกค่ะ
ดูในตารางแสดงเที่ยวบินของเค้าแล้ว ถี่มากๆมีหลายเมืองเลย ต้องค่อยๆดูนะ หยิบตั๋วขึ้นมาดูว่ารหัสเที่ยวบินอะไร โดยเที่ยวบินนี้ไปกรุงปารีส รหัส WY131 เวลา 14.20 น.(เวลาในประเทศโอมาน) แสดงประตูหมายเลข C9
เมื่อรู้แล้วว่าอยู่ประตู C9 ทีนีก็เดินไปตามป้ายบอกทางเรื่อยเลยค่ะ
เดินมาตามป้ายบอกทางเรื่อย มีหลงทางเข้าไปดงฮาเรมช๊อปปิ้งบ้าง แต่ก็มาถูกค่ะ เพราะมีป้ายใหญ่เว่อร์บอกตลอด ส่วนสภาพแวดล้อมโดยรอบ ก็ดูสะอาดสะอ้าน โอโถ่งใหญ่โตอลังการดีค่ะ
ที่สนามบินในกรุงโอมาน มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้เล่นด้วยนะค่ะ |
นั่งรอเข้ามาใน Gate ประมาณ 2 ชั่วโมง อยากบอกว่าตั้งแต่เดินเข้ามาในสนามบินนี้ ไม่ค่อยมีพนักงานที่เป็นผู้หญิงให้บริการเลย ไปที่เคาตอร์ประชาสัมพันธ์ก็เป็นผู้ชาย พนักงานทำความสะอาดก็ผู้ชาย เดินมาที่ประตูเค้า Gate รอขึ้นเครื่องก็เป็นผู้ชายอีก เอาเป็นว่าหากใครนิยมชมชอบผู้ชายแนวแขก ต้องขึ้นมาสาแหรกขาดที่สนามบินนี้นะค่ะ รับรองเริ่ด
ทางเจ้าหน้าที่ก็เปิดประตูให้เข้าไปรอในเกต เที่ยวบินที่ไปฝรั่งเศสในรอบนี้ ผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งเลยค่ะ
ได้เวลาขึ้นเครื่องบินแล้วค่ะ flight จากกรุงมัสกัต บินไปกรุงปารีสแล้วค่ะ |
เข้ามานั่งก็ไม่ได้เออระเหยลอยลม ถ่ายรูปชิวๆมากๆ ต้องรีบนั่งรัดเข็มขัดให้แน่นเลย หลังจากเครื่องบินทยานสู่ท้องฟ้า แอร์หนุ่มบนเครื่องก็ลากรถเข็นมาเสริฟขนมกรุบกรอบ ทานกรุบกริบกระซิบกับน้ำดื่มเย็นๆไปค่ะ
หลังจากทานขนมกรุบกรอบไปได้สัก 2 ชั่วโมง ทางพนักงานบนเครื่องก็มาเสริฟอาหารให้ค่ะ ไม่รู้ว่ามีเมนูอะไรบ้าง บอกแต่ว่ามีไก่ เนื้อ และมังสวิรัตแค่นั้น นอกนั่งเดี๊ยนฟังไม่ค่อยเข้าใจ เลยบอกไปว่า ชิคเก้นแล้วค่ะ นางก็มาเสริฟให้ตามภาพที่เห็นค่ะ
อาหารบนเที่ยวบินไปฝรั่งเศสลำนี้ที่เลือกทาน เป็นมันบดทานกับไก่ราดซอดผงกระหรี่ค่ะ อยากบอกว่ากลิ่นโชยคละคลุ้งไปทั่วเลยค่ะ หากใครที่ไม่ชอบกลิ่นผงกระหรี่ รับรองเป็นลมตลอดทางแน่นอนค่ะ เพราะพีี่เค้าใส่ผงกระหรี่มาหนักมากๆ
อาหารเรียกน้ำย่อย ไม่รู้คืออะไร บอกไม่ถูก เพราะไม่มีเมนูค่ะ ตอนที่นั่งบนเครื่องก็เห็นใจพนักงานบนเที่ยวบินที่ไปฝรั่งเศสลำนี้นะค่ะ เพราะดูทำงานกันหนักมาก และบนเครื่องบินก็มีแต่ผู้โดยสารอินเดีย ขอโน้น ขอนี้ เดี๊ยนได้ยินก็ปวดหัวแทนค่ะ
ส่วนของหวานของเค้าอร่อยมากนะค่ะ ไม่ได้เป็นต้มเลือดหมูเหมือนเที่ยวบินก่อน แต่เป็นขนมเค้าหน้านิ่ม รสชาติหอมหวานเริ่ดมากๆ รู้สึกถูกปากก็ขนมนี้แหละ
นั่งบนเครื่องมาได้เกือบจะ 7 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ก็มาเสริฟน้ำและขนมให้อีกแล้วค่ะ เรียกว่าได้กินได้ทานตลอดทางเลยค่ะ แนะนำนะค่ะ เนื่องจากบนเครื่องบิน มีห้องน้ำไม่กี่ห้อง และผู้โดยสารเต็มทุกทีนั่ง พยามดื่มน้ำไม่ต้องเยอะมาก จะได้ไม่ปวดฉี่บ่อย ไม่งั้นต้องรอคิวเข้าห้องน้ำ นานมากๆค่ะ และอยู่บนเครื่องก็ไม่ค่อยจะได้นอน เพราะมีคนเดินไปห้องน้ำไปมา ยังกะเดินช๊อปปิ้งอยู่บนห้างเลย
หลังจากนั่งในเครื่องบินมานานกว่า 7 ชั่วโมง ได้ที่สุดก็ถึงสนานบินชาล์เดอโกล ประเทศฝรั่ง อย่างปลอดภัยหายห่วง โดยเครื่องบินมาจอดเทียบท่าที่อาคารผู้โดยสาร 2Aค่ะ
มีอีกเรื่องอยากจะบอกให้ทราบสำคัญมากนะค่ะ สำหรับคนที่แบกเป้มาเที่ยวคนเดียวครั้งแรก!!! คือเรื่องการเตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อผ่านด่าน ตม.ฝรั่งเศส !!
สำหรับเพื่อนๆที่จะแบกมาเที่ยวยุโรปคนเดียวแบบตัวดิฉันเนื่องจากวันที่ไปถึงสนามบิน
ทางเจ้าหน้าที่คนที่จะประทับตราให้เรา จะขอให้เราแจ้งเอกสารดังนี้ค่ะ (อันนี้แล้วแต่เคสค่ะ เจ้าหน้าที่บางคนก็ไม่ขอ แต่ด้วยหน้าตาของเดี๊ยนเหมือนโจร หรือเป็นนางงามพยายามสวยก็ไม่ทราบ ทางเจ้าหน้าที่เลยขอข้อมูลค่ะ เนื่องจากเป็นการเดินทางมาฝรั่งเศสครั้งแรก)
- ใบจองที่พักทั้งหมดเลยนะค่ะ
- ตั๋วเครื่องบินขากลับก็ต้องแสดง อย่าลืมนะคะ
- ใบประกันภัยการเดินทาง
- บัตร Eurail Pass (ถ้ามีก็แสดงให้เค้าทราบเพื่อการันตีว่ามาเที่ยวแน่ๆ แต่ถ้าไม่มีไม่เป็นไรค่ะ)
- ใบสรุปรายการเดินทาง หรือ Itinerary travel planning ก็คือใบแผนการเดินทางท่องเที่ยวว่าไปเมืองใหนบ้าง ใบเดียวกับใบที่ประกอบการยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวนั้นแหละค่ะ
- เงินสดว่านำมาเท่าไหร่ ให้ขวักแสดงต่อเจ้าหน้าที่ให้หมดเลยนะค่ะ เพราะเจ้าหน้าที่อยากรู้ว่านำเงินมาเที่ยวเมืองเค้ากี่แสนล้านยูโร มีเงินเพียงพอกับค่าครองชีพหรือเปล่า
- บัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็มก็แสดงให้หมดเช่นกันค่ะ
- จนท.จะถามว่ามากี่วัน มากับใคร ไปสิ้นสุดที่ประเทศใหน เมืองอะไร แค่นี้ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที ไม่นานไม่ต้องเข้าห้องเย็นให้เสียเวลาด้วย....จากนั้นถ้าเจ้าหน้าที่พิจารณาสมควารแล้วว่ามีเงินและเอกสารเพียงพอ ก็จะประทับตราให้เราผ่านประตูไปอย่างฉลุย พร้อมให้เราไปเป็นโรบินฮู้ดแล้วจ้า
ตอนเดี๊ยนไป เห็นคนอินเดียที่มาเที่ยว นางไม่ได้เตรียมเอกสารมา ก็โดนเรียกสอบเข้าห้องเย็นเลยค่ะ
ยังไงหากเพื่อนคนใดที่จะแบกเป้เที่ยวฝรั่งเศสครั้งแรกแบบเดี๊ยน ก็เตรียมตัวให้พร้อมนะค่ะ จะได้ไม่ตื่นเต้นนะค่ะ แต่ถ้ามีคู่หูดูโอ้ไปด้วยก็จะมีคนช่วยให้กำลังใจมาก แต่ถ้ามาคนเดียวก็ต้องเข้มแข็งหน่อยนะ
ถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสโดยสวัสดิภาพ หลังจากที่นั่งเครื่องบินนอนแรมรอนมาเป็น 10 ชั่วโมง |
สำหรับรีวิวการเดินทางในครั้งนี้ น่าจะมีประโยชน์และเป็นแนวทางต่อการตัดสินใจต่อทุกๆท่านไม่มากก็น้อยนะค่ะ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยด้วยค่ะ ขอบพระคุณทุกคนที่แวะเข้ามาลั๊ลลาดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะค่ะ จากกคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
-----------------------------------------------------------------
แนะนำบทความอื่นๆ บล็อกรีวิวท่องเที่ยวไปเรื่อยเปื่อยตามเมืองต่างๆ มีดังนี้จ้า
แบกเป้ลุยเดี่ยวพาเที่ยวเมืองเชสกี้ กรุมลอฟ ไปดูสิว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง>> |
แบ่งปันรีวิวนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองบราติสลาวา 1 วัน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง>>> |
แบ่งปันรีวิวเที่ยวระนอง ลองแช่น้ำแร่ เช่ารถแลชมที่เที่ยวต่างๆ ตามไปกันเลย>> |
สาระน่ารู้กับเพลงภาษาอังกฤษยุค 60-70's เพื่อฝึกภาษาพร้อมคำแปล คลิ๊กดูบทความค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวกรุงบูดาเปสต์ 1 วัน ไป-กลับ ขยับเท้าเดินชมสถานที่เที่ยวต่างๆ มีอะไรบ้าง>>> |
7 วัดสวยงามในกรุงเทพ ที่ใครๆก็ต้องมาเสพสุขไหว้กันสักครั้ง มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลยค่ะ>> |
แบกเป้เที่ยวกรุงเวียนนาด้วยตัวเอง มีที่เที่ยวจุดถ่ายรูปอะไรบ้าง ตามไปกันเลย>> |
รีวิวพาเที่ยวชมพระราชวังเดิม เติมความรู้แบบไทยๆ ไปชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูที่เที่ยว>> |
แบ่งปันรีวิวเที่ยวฮัลล์สตัทด้วยตัวเอง มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกัน>> |
แบ่งปันทริปรีวิวเที่ยวเมืองเก่าซาลซ์บูร์ก 1 วัน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
เปิดโลกกว้างเที่ยวเมืองเซลอัมซี (Zell am See) เมืองนี้ มีที่เที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวมิวเซียมสยาม แหล่งเรียนรู้สุดเก๋ไก๋ มีอะไรอัพเดทใหม่บ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย>> |
รีวิวแบกเป้เที่ยวเมืองอินสบรูค 2 วัน 1 คืน มีที่เที่ยวอะไรให้ชมบ้าง ตามไปดูกันค่ะ>> |
แบ่งปันรีวิวเดินทางไปชมปราสาทน็อยชวานสไตน์ด้วยตัวเองมาฝาก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวพาชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพ เสพความรู้แบบไทยๆ ไปชมกันเลย>> |
หรือดูรายละเอียดที่ : http://bit.ly/2l05FdT
ทำวีซ่าเยอรมันด้วยตัวเอง เตรียมเอกสารสำคัญอะไรไปบ้างให้ผ่านแน่นอน คลิ๊กดูรายละเอียด>> |
รวมเด็ด 9 ที่เที่ยวยอดนิยมในประเทศอิตาลี ที่คนชอบหนีไปเที่ยว คลิ๊กดูข้อมูลค่ะ>> |
รวม12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในกรุงปารีส ที่คู่รักสายจี๊ด แวะไปกัน คลิ๊กดูที่เที่ยว>> |
เอาใจคู่รัก แนะนำโรงแรมปารีส ราคาประหยัด ใกล้สถานีรถไฟ คลิ๊กดูที่พัก>> |
เที่ยวนครนายกไม่มีรถส่วนตัว ก็เช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวไปทั่วได้ด้วยตัวเอง คลิ๊กดูรีวิว>> |
แบกเป้เที่ยวนาโกย่า รีวิวการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินในตัวเมือง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวงานแห่ผ้าขึ้นพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช นอนตากอากาศที่คีรีวง คลิ๊กดูรีวิว>> |
มาม๊ะ..แวะมาเที่ยวเมืองสุรินทร์ ชมถิ่นช้างใหญ่ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวตอนที่ 24 แวะเที่ยวกรุงเอเธนส์ 1 วัน มีที่เที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2NrtXcU
รีวิวตอนที่ 18 แบกเป้ลุยเดี่ยวเมืองเวนิชครั้งแรก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2KQvnsh
2 ความคิดเห็น
สวัสดีค่ะ
ตอบลบขอสอบถามว่าตอนเปลี่ยนเครื่องต้องใช้วีซ่าไหมคะ พอดีจะต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่มัสกัตไปมอสโควค่ะ
ไม่ต้องใช้เลยจ้า
ลบ