มาแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางในด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน Metro ครั้งแรกมาฝากค่ะ อยากบอกว่างงสุด แต่ก็ถึงที่หมายโดยปลอดภัย |
สำหรับเพื่อนๆท่านใดที่กำลังจะวางแผนแบกเป้ลุยเดี่ยวมาเที่ยวกรุงปารีสด้วยตัวเองครั้งแรกแบบตัวดิฉัน ต้องขอบอกเลยว่า ยังไงทำการบ้านเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟมาก่อนนะค่ะ เพราะว่าเดี๊ยนเองมาเที่ยวที่เมืองนี้เป็นครั้งครั้งแรก ปวดเศียรเวียนเกล้า และสับสน งุนงงกับเส้นทางในเมืองนี้มากๆ เพราะรถไฟมีหลายสาย และหลายเส้นทาง และมีการแบ่งเขต แบ่งโซน โน้นนี้นั้น ปวดหัวเหลือเกิน เรียกว่าหากใครที่จะลุยเดี่ยว หรือไม่ได้มีคนรู้จักมักค้นพาเที่ยวปารีสแล้ว ยังไงต้องทำความรู้จักกับการเดินทางด้วยรถไฟในเมืองนี้มาก่อนเลยค่ะ
เพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไป วันนี้เดี๊ยนเลยขอมาแบ่งปันการเดินทางเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า Metro และรถไฟ RER มาฝากค่ะ
ก่อนอื่นมารู้จักการเดินทางด้วยรถไฟ Metro กับ รถไฟ RER
1. รถไฟ Metro อ่านว่า เมโทร เป็นรถไฟใต้ดินทีี่วิ่งเฉพาะย่านใจกลางเมืองโซน 1-2 เท่านั้นค่ะ มีทั้งหมด 16 สาย
2. รถไฟ RER อ่านว่า แอ-เออ-แอ เป็นภาษาฝรั่งเศสนะค่ะ หากไปบ้านเค้าแล้ว จะถามคนในพื้นที่ถึงรถไฟสายนี้ อย่าเผลอพูดว่า อีอาร์อีล่ะ เดี่ยวเค้าจะงงเอาจ้า สำหรับรถไฟแอร์เออแอร์นี้ เป็นรถไฟที่วิ่งทั้งเข้าทั้งในเมืองและออกย่านชานเมืองค่ะ โดยจะวิ่งตั้งแต่โซน 1-5 เลยค่ะ และเป็นรถไฟขบวนต่างกันรถไฟ Metro
1.รถไฟ Metro
รถไฟ Metro ถือเป็นระบบขนส่งมวลสาธารณะหรือรถไฟใต้ดินท่ี่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีเส้นทางทั้งหมด 14 สายครอบคลุมเฉพาะการเดินทางโซน 1 กับ โซน 2 เท่านั้นค่ะ
- ราคาตั๋วโดยสารเที่ยวเดียว เริ่มต้นที่ 1.9 ยูโรตลอดสายต่อ 1 เที่ยวค่ะ ซึ่งตั๋วรถไฟเมโทรนั้นเป็นบัตร Ticket T+นั้นจะสามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียวแต่ครบคลุมทั้งรถไฟ RER รถบัสประจำทาง และรถรางอีกด้วย แต่ใช้ได้เฉพาะโซนที่กำหนดเท่านั้นนะค่ะ
- ถ้าจะให้ประหยัดแนะนำ ให้เพื่อนๆซื้อแบบ 10 ใบไปเลยค่ะ สามารถซื้อได้ที่ตู้ขายบัตรอัตโนมัติ หรือถ้าเกรงจะงงกับเครื่องขายบัตร ก็ซื้อกับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ โดยราคาตั๋ว 10 ใบจะถูกและประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยค่ะ หากไปหลายคนก็แบ่งกันใช้ได้ค่ะ
- เวลาให้บริการของรถไฟใต้ดิน Metro วัน ศุกร์-เสาร์ 5:30-01:40 และวันอาทิตย์-พฤหัสบดีเริ่ม 5:30-12:40 น.
- ขบวนรถไฟ Metro บางขบวนไม่มีการประกาศบอกสถานีนะค่ะ ดังนั้นเพื่อนต้องสังเกตุป้ายนอกกระจกรถไฟตลอดว่าถึงสถานีใหนแล้ว แต่บางขบวนก็มีบอกค่ะ สรุปคือต้องวัดดวงเอาค่ะว่าจะได้ขบวนรถไฟคันใหนที่มีเสียงประกาศบอกสถานี สนุกตรงนี้แหละค่ะ
- เก็บตั๋วโดยสารไว้ตลอดนะค่ะ เผื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจเช็ค
2.รถไฟ RER (แอร์-เออ-แอร์)
สำหรับรถไฟสายนี้นะค่ะ เป็นรถไฟที่เน้นการเดินทางจากใจกลางเมืองตั้งแต่โซน 1 – 5 ไปยังบริเวณชานเมืองหรือออกไปนอกเมือง ยกตัวอย่างเช่นจะเดินทางจากสถานีใกล้ๆ หอไอเฟลซึ่งอยู่ใจกลางเมือง ไปยังพระราชวังแวร์ซาย ซึ่งอยู่ย่านชานเมือง ก็ต้องเลือกนั่งรถไฟ ERE
หรือว่าจะนั่งจากสนามบิน CDG เข้ามาในย่านใจกลางเมืองที่สถานี Chatelet ก็ต้องนั่งรถไฟ RER เข้ามาค่ะ แล้วค่อยมาเดินทางเชื่อมต่อไปยังสถานีต่างๆด้วยรถไฟ Metro หรือ รถบัสและขนส่งแบบอื่นๆค่ะ
- จุดสังเกตที่เห็นเด่นชัดถึงความแตกต่างจากรถไฟใต้ดินนั่นคือสายที่ใช้ตัวอักษรแบ่งเป็น 5 สายหลัก ได้แก่ A, B, C, D และ E ราคาของตั๋วโดยสารนั้นก็จะขึ้นอยู่กับระยะทางต้นทางถึงปลายทางค่ะ ซึ่งแตกต่างกันกับรถไฟ Metro นะค่ะ
ความแตกต่างระหว่าง Metro กับ รถไฟ RER ต่างกันอย่างไรบ้างล่ะ
1.รถไฟ Metro วิ่งเฉพาะโซน 1-2 เท่านั้น ส่วนรถไฟ RER วิ่งตั้งแต่ในเมืองไปย่านชานเมือง1-5 เลยค่ะ
2.รถไฟ Metro มี 16 สาย และเส้นทางในแผนที่จะบอกเป็นตัวเลขค่ะ 1,2,3,4 ไปจนถึง 16 ส่วนรถไฟ RER จะบอกเป็นตัวอักษร A,B,C,D,E สังเกตุได้ที่แผนทีี่จะเป็นวงกลมไว้ของสถานีต้นทางและปลายทางจะบอกชัดเจนค่ะ
3.ราคาตั๋วรถไฟ metro เป็นราคาเดียวกันหมด ไม่ว่าจะเดินทางใกล้ไกลเพราะวิ่งเฉพาะโซน1-2เท่านั้น แต่ถ้ารถไฟ RER ราคาจะขึ้นอยู่กับระยะทางของแต่ละสถานี ราคาไม่เหมือนกัน
เพื่อให้มองเห็นภาพและเข้าใจง่ายขึ้น ขออธิบายตามรูปนะค่ะ (ไม่รู้เพื่อนๆจะเข้าใจหรือเปล่านะ แต่เดีี๊ยนพยายามให้อธิบายให้เพื่อนงงๆที่สุดจะได้เปาไปศึกษาค่ะ)
เส้นทางรถไฟ RER แบ่งโซน1-5 เครดิตภาพจากเว็ปไซต์ Paris by train คลิ๊กที่นี้เพื่อดูภาพขนาดใหญ่ขึ้นค่ะ>>> |
ภาพนี้เป็นแผนที่บอกเส้นรถไฟ RER ค่ะ แบ่งทั้งหมด 5 โซน สังเกตุตัวเลขสีส้มนะค่ะ และเส้นทางรถไฟแต่ละสายจะบอกเป็นตัวอักษร A,B,C,D,E เครดิตภาพจากเว็ปไซต์ Paris by train คลิ๊กที่นี้เพื่อดูภาพขนาดใหญ่ขึ้นค่ะ>>>
เครดิตภาพจากเว็ป Paris by train คลิ๊กดูภาพแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้นค่ะ>>> |
เครดิตภาพจากเว็ป Paris by train คลิ๊กดูภาพแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้นค่ะ>>>
ป้า่ยสัญลักษณ์ของสายรถไฟ Metro มี 16 สาย และ RER อีก 5 สายเพื่อประกอบในการดูในแผนที่ค่ะ |
ตามภาพจะเห็นรถไฟ Metro Line มีทั้งหมด 14 สายหลัก และสายลูกอีก 2 หลัก รวมเป็น 16 หลัก
ส่วนรถไฟ RER line นั้นจะมีเฉพาะ 5 สายแบ่งตามโซนไปเลยค่ะ
ป้ายบอร์ดในสถานีรถไฟ แสดงราคาบัตรโดยสารเริ่มต้น 1.9 ยูโรค่ะ ภาพไม่ค่อยชัดหน่อยนะค่ะ |
ราคาบัตร Ticket+T
ราคาตั๋วเที่ยวเดียว เริ่มต้น 1.9 ยูโร
แต่ถ้าให้คุ้มแบบเดินทางบ่อยก็ซื้อแบบ 10 ใบไปเลย
เพื่อให้เพื่อนๆและคุณผู้อ่านทุกคนเห็นภาพการเดินทาง ดิฉันขอมารีวิวการเดินทางด้วยรถไฟ Metro จากเริ่มต้นสถานี Opera ไปยังโรงแรมที่พัก ซึ่งอยู่ใกล้สถานี Ledru-Rollin มาเป็นตัวอย่างให้เพื่อนได้ดูกัน
ต่อจากบทความบล็อกก่อนหน้านี้ ซึ่งได้รีวิวการเดินทางจากสนามบินฝรั่งเศส หรือสนามบินชาร์ดเดอโกลเข้าไปในเมืองปารีสด้วยรถบัสรุสซี่ เข้าไปดูรีวิวได้ที่เว็ปบล็อก : https://khunnaiver.blogspot.com/2018/05/how-to-travel-by-Roissy-bus-from-CDG-to-Paris-downtown.html
ต่อจากบล็อกก่อนหน้า เริ่มต้นเดินทางรถไฟ Metro ที่สถานี opera |
ป้ายบอกเส้นทางรถไฟแต่ละสายในสถานี Opera มีรถไฟ Metro ผ่านสถานีนี้คือ รถไฟหมายเลข 3,7,8 |
โดยจุดมุ่งหมายของเดี๊ยนคือ เดินทางจาก Opera ไปสถานี Ledru-Rollin ซึ่งเป็นรถไฟ Metro สาย 8 หากดูในแผนที่จะเป็นสายสีม่วงค่ะ
แผนที่เดินทางด้วยรถสาธารณะในกรุงปารีส |
ขอยกตัวอย่างการเดินทางด้วยรถไฟ Metro สาย 8 สีม่วงตามภาพเลยนะค่ะ โดยเดี๊ยนจะเริ่มเดินทางจากสถานี Opera ไปยังที่พักซึ่งอยู่ใกล้ๆกับสถานี Ledru-Rollin ตามที่วงกลมสีแดงไว้ค่ะ ซึ่งต้องไปขึั้นชานชลาที่ป้ายสถานี Creteil เนื่องจากว่ารถไฟวิ่งมาจากสถานี Balard ตามวงกลมสีขาวค่ะ โดยที่สถานีจะมีป้ายบอกทางให้ค่ะ ยังไงเพื่อนๆ เรียนรู้การดูแผนที่มาก่อน ก็จะเข้าใจง่ายขึ้นค่ะ
ซื้อตั๋วรถไฟ Metro กับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ |
เนื่องจากพึ่งมาครั้งแรก ก็เลยซื้อแบบเที่ยวเดียวก่อนค่ะ ราคาบัตรโดยสาร 1.9 ยูโร
พอได้บัตรมาแล้วก็เดินผ่านประตูแบบนี้นะค่ะ มองไปเหมือนเครื่องออกกำลังแขนในฟิตเนสเลยนะค่ะ
เมื่อเดินผ่านประตูมาแล้วก็มาดูแผนที่ว่าจะผ่านสถานีอะไรบ้าง |
การเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นที่สถานี Opera ไปที่สถานี Ledru-Rollin โดยต้องไปขึ้นรถไฟที่ชานชลาป้าย Creteil ค่ะ ตามภาพเลยนะค่ะ
อุโมงชานชลารอรถไฟใต้ดิน Metro ไปสถานีปลายทางค่ะ |
ป้ายที่เห็นเป็นป้ายบอกทางไปยังรถไฟสายอื่น ส่วนป้ายที่เขียนว่า Sortie แปลว่าทางออกค่ะ เดี๊ยนเรียกว่า ป้ายอาซ้อ มาที่ฝรั่งเศสไม่มีป้ายเขียนว่า Exit เลยนะค่ะ ดังนั้นหากเพื่อนเห็นป้ายอาซ้อ แสดงว่าทางออกแน่นอนค่ะ
ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการสังเกตุป้ายสถานีที่ผ่านแต่ละสถานีผ่านทางกระจกเอาค่ะ ถ้าไม่ดู รับรองว่านั่งสุดสาย ร้องให้ขี้มูกโป่งแน่นอนจ้า หากเกิดสมมุตินั่งผิดสาย ก็มาเริ่มต้นใหม่ หรือดูป้ายแผนที่และชานลาให้ถูกต้องค่ะ
และแล้วก็ถึงสถานีรถไฟ Ledru Rollin แล้วค่ะ ตอนนั่งรถไฟมาก็เมื่อยคอตลอดค่ะ เพราะต้องชะเงอดูเงียบทุกสถานีนะค่ะ ว่าถึงสถานีหรือยัง เกรงจะนั่งเลยเถิดไปไกล ทำให้เสียเวลาค่ะ
พอถึงสถานีปลายทางแล้ว เดี๊ยนก็เดินแบกเป้ ท่ามกลางความมืดและความหนาวเย็นของอากาศ เปิดมือถือให้ GPS นำทางไปยังที่พักค้างแรมค่ะ
พักค้างแรมคืนนี้ที่ืโรงแรม โอแบร์ฌ แองแตร์นาชิโอนาล เด เฌิน (Auberge Internationale des Jeunes) |
พักที่ โอแบร์ฌ แองแตร์นาชิโอนาล เด เฌิน (Auberge Internationale des Jeunes) ชื่อโรงแรมเรียกยากมากๆ เป็นที่พักแนวโฮสเทล ห้องนอนรวม ราคาหลักร้อย ห้องน้ำรวม มีอาหารเช้าให้ทานฟรีนะ เน้นแค่นอน อย่าไปคิดอะไรมาก แต่ก็กระชากใจเว่อร์เหมือนกันนะ
ทำการ check in เข้าพักมีกุญแจแบบคีย์การ์ดให้ค่ะ
ได้ห้องพักชั้น 4 โรงแรมไม่มีลิฟท์นะค่ะ เดินขึ้นบันใด ขาแทบลากเลยค่ะ
แล้วเป็นบันใดแคบๆ เดินวนขึ้นไปเรื่อยๆ เวียนหัวเหมือนกันนะค่ะ มันเป็นบันใดวน เหมือนขนมเกลียวอะไรแบบนั้นเลย โอ้ย...เดี๊ยนจะเป็นลมค่ะ
ห้องพักคืนละ 800 บาท รวมอาหารเช้า |
สภาพห้องพักพอใช้ ไม่ดี ไม่แย่ พอถูไถๆ ถือว่าราคาถูกมากนะค่ะ เพราะปกติโฮสเทลในปารีส ราคาก็ปาไปเป็นพันกว่าแล้วค่ะ แต่ที่นี้ราคาแค่หลักร้อย สงสัยที่ราคาถูก เพราะไม่ได้อยู่ในย่านท่องเที่ยวด้วยกระมัง หากเพื่อนๆคนใหนที่มองหาที่พักหลักร้อยอยู่ ก็มาพักที่นี้ได้นะค่ะ คือแบบพอพักได้ แต่เดินบันใดขาลากเลยค่ะ และห้องอาบน้ำในชั้นก็มีอยู่ 2 ห้อง ห้องส้วมอีก 2 ห้อง
เวลาปวดอึ ก็ต้องอั้นไว้เหมือนกัน เพราะต้องต่อคิว หากจะเดินไปอึ ด้านล่าง ก็เกรงจะไม่ทัน ขี้แตกเสียก่อน โอ้ยเดี๊ยนจะเป็นลม
---------------------------------------------------
อ้อเกือบลืม สำหรับเพื่อนๆที่ถามกันไว้ว่า มีวิธีการซื้อตั๋วรถไฟ Metro ผ่านตู้ขายเครื่องอัตโนมัติใหม๊
ในบล็อกนี้เดี๊ยนก็เลยนำภาพมาลงไว้ในบล็อกด้วย แต่ทำไม่สุดขั้นตอน เนื่องจากธนบัตรที่เดี๊ยนถืออยู่นั้นเป็นแบงค์ 50 กับ แบงค์ 100 ยูโร ก็เลยนำแต่วิธีเบื้องต้นมาให้ดูค่ะ น่าจะเป็นแนวทางได้นะค่ะ
การซื้อตั๋วผ่านเครื่องขายบัตรโดยสารอัตโมนัติแบบทำเองได้ ตู้ขายบัตรเป็นปุ่มกดเอา และมีตัวเลือกเมนูอยู่ตรงกลางใ มีปุ่มสีแดงด้านซ้ายน่าจะหมายถึงไม่เอา ยกเลิก ส่วนปุ่มสีเงินหมายถึงตอบตกลง
เริ่มแรกไปที่เมนูภาษาอังกฤษก่อนเลยค่ะ
จากนั้นก็ใช้มือเลื่อนแท่งยาวๆตรงกลางเพื่อมาเลือกเมนู Ture the roller press valider
จากนั้นก็เลื่อนเมนูมาเลือกที่ Buy tickets
พอเลือก buy ticket แล้วจะขึ้นเมนูมาให้เราเลือกบัตรโดยสารหลายแบบค่ะ
อันนี้เราจะซื้อบัตรโดยสารรถไฟก็เลือก Ticket T ค่ะ
พอกดเลือก Ticket+T มาแล้วก็จะมาให้เลือก
Full Fare คือตั๋วราคาเต็ม
Reduced fare -10 year old คือตั๋วสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี
ให้เราเลือก Full fare
ทีนี้พอกดเลือก Full fare แล้วก็จะมาให้เลือกจำนวนตั๋วค่ะ ซึ่งให้เลอกตั้งแต่ 1-20 ใบเลยค่ะ
ถ้าไปเที่ยวเดียวก็เลือก 1.90 ยูโร
แต่ถ้าซื้อจำนวน 10 ใบก็ 14.9 ยูโร
พอถึงหน้านี้แล้ว เดี๊ยนก็ต้องหยุดสต๊อป เพราะมีแต่แบงค์ใหญ่อยู่ดี
ก็เลยตัดสินใจไปซื้อกับเจ้าหน้าที่ สะดวกกว่าค่ะ
ตั๋วรถไฟโดยสารซื้อแบบ 10 ใบ ราคาจะถูกและประหยัดกว่าค่ะ |
ยังไงเพื่อนที่กำลังวางแผนไปเที่ยวไปศึกษาเส้นทางเพิ่มที่เว็ปไซต์ https://www.ratp.fr/en |
เข้าไปดูข้อมูลการเดินทางได้ที่เว็ปไซต์ https://parisbytrain.com/
และเว็ปไซต์ : https://www.ratp.fr/en
เอาเป็นรีวิวทริปการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า Metro ในกรุงปารีส จากสถานี Opera มายังสถานี Ledru-Rollin ก็ขอจบเพียงเท่านี้นะค่ะ เดี่ยวมารีวิวต่อในบล็อกถัดไป จะพาเที่ยวกรุงปารีสแล้วค่ะ ยังไงต้องขอขอบพระคุณเพื่อนทุกๆท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านและปวดหัวไปด้วยกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะค่ะ
------------------------------------------------------------------------------------
รวมบทความรีวิวบล็อกท่องเที่ยวเดือนละ 1 ครั้ง มีดังนี้ค่ะ (จะทยอยเขียนเพิ่มเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไปคะ)
รวม12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในกรุงปารีส ที่คู่รักสายจี๊ด แวะไปกัน คลิ๊กดูที่เที่ยว>> |
อุปกรณ์จำเป็นที่ต้องพกใส่กระเป๋าไปด้วยเมืองไปเที่ยวต่างประเทศ คลิ๊กดูรายละเอียด>> |
แนะนำ 8 เขตโซนที่พักกรุงปารีส พร้อมแผนที่มาให้พิจารณากันจ้า>> |
หรือดูข้อมูลโซนในปารีสที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2z6cOxa
คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรม มีคำว่าอะไรบ้าง>> |
รีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยว เช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวในบุรีรัมย์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวชุมพร งามอรชรตลอดกาล เดือน ก.ย.2018 คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูรีวิวการเดินทางที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2Oc4kNZ
เที่ยวยุโรปตอนที่ 8 แวะนั่งพักตากอากาศริมหาดที่เมืองนีซ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/dLDKAX
เที่ยวยุโรปตอนที่ 7 แวะชมประเทศโมนาโค เมืองโก้หรูริมทะเลดูสิ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/e6o4UL
รีวิวเที่ยวฝรั่งเศสตอนที่ 4 เดินเร้าฤดีฉิมพลีเสน่ห์เมืองมาร์เซย์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/Bxaq9X
รีวิวเที่ยวฝรั่งเศสตอนที่ 3 เดินชิลๆดูวิวเมืองปารีส&ช๊อปปิ้ง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/XCFzYC
รีิวิวเที่ยวฝรั่งเศสตอนที่ 2 เดินย่องท่องวังแวร์ซาย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/N6BGg2
แชร์วิธีการเดินจากสนามบินฝรั่งเศส เข้าไปในกรุงปารีส คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
รีิวิวเที่ยวเมืองลพบุรี เดินยวลยีชมวังเก่า เคล้าความหลัง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/7ZB3pt
การเขียนจดหมายแนะนำตัวภาษาอังกฤษเพื่อทำวีซ่า คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/YHUCtA
หากเป็น Freelance ขอวีซ่าเชงเก้นต้องเตรียมเอกสารไปบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/sYCgPF
รีวิวเที่ยวกาฬสินธุ์ ฟินคั๊กหลายๆ ก.พ.2018 ตอนที่ 2 คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/CSYvaB
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวมาเก๊า นั่งเรือเมาไปถึงเกาะฮ่องกง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวประจำเดือน ธ.ค.2017 เที่ยวเกาะกูด สวยชะลูดบาดใจ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวประจำเดือนพฤศจิกายน แบกเป้ไปย่อง ท่องเมืองปาย ตอนที่ 3 คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวปางอุ๋ง-บ้านรักไทย งามวิไลไร่ชา เดินลั๊นลากินสตอเบอรี่ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
บล็อกรีวิวท่องเที่ยวเดือนตุลาคม 60 ไปตามรอยโครงการหลวง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
0 ความคิดเห็น