จัดทริปแบกเป้ลุยเดี่ยว ส่งท้ายปลายปี คุณนายเว่อร์ เธอขอเป็นคนบ้า ขับมอเตอร์ไซต์ไปเริงร่าเที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิกอีกครั้ง ไปดูสิว่ายังอลังการ สะท้านโลกาอยู่ไหม๊นะ Let's go |
เข้าสู่รีวิวบทความประจำเดือนนี้ ดิฉันก็ขอแบกเป้เช่ามอเตอร์ไซต์ ตะลอนแวะไปเที่ยวเขาค้อ และภูทับเบิกอีกครั้ง เพื่อย้อนวันวาน หลังจากที่ไม่ได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้นานมากๆแล้ว น่าจะสิบปีได้แล้วกระมัง หากเอ่ยถึงแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในเพชรบูรณ์ คงปฎิเสธไม่ได้ที่จะต้องมาเที่ยวเขาค้อ และภูทับเบิก ซึ่งเป็นที่เที่ยวคู่หูดูโอ้ยอดนิยม ที่เหล่าคนรักทะเลหมอก ต้องมาเย้าหยอกชมกันสักครั้ง มาดูสิว่าที่ที่เขาค้อและภูทับเบิก เปลี่ยนแปลงไปแค่ใหน และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหนน่าสนใจบ้าง
ใหนๆก็เอ่ยถึงเขาค้อและภูทับเบิกทั้งที เรามารู้จักเมืองท่องเที่ยวแห่งนี้กันสักเล็กน้อย
รู้จักเขาค้อ (Khao Kho) ชื่อนี้มีที่มาอย่างไร อ่านเป็นความรู้กันค่ะ |
รู้จัก เขาค้อ ชื่อนี้มีที่มาอย่างไร อ่านเป็นความรู้กันค่ะ
สำหรับชื่อเขาค้อ มีที่มาจาก ป่าในเขตบริเวณนี้มีต้นค้อขึ้นอยู่มาก ซึ่งโดยปกติต้นค้อจะขึ้นในพื้นที่ ซึ่งมีภูมิอากาศหนาวเย็น แม้ว่าปัจจุบันป่าจะถูกถางไปมากก็ตาม แต่ก็ยังมีต้นค้อให้เห็นอยู่บ้าง และเขาค้อยังเป็นชื่อรวมของกลุ่มภูเขาน้อยใหญ่ที่เรียงรายสลับกันไปมา เป็นที่ตั้งของอำเภอที่ตั้งอยู่บนภูเขา มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี และจุดเด่นของเขาค้อ ก็คือการเที่ยวชมทะเลหมอกในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ซึ่งจุดนี้เองทำให้เขาค้อ ได้รับการขนานนามว่า สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย เรียกว่าไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงทวีปยุโรป ก็ได้สัมผัสไอทะเลหมอกสีขาวพราวเสน่ห์ และธรรมชาติที่สวยงาม
เขาค้อกับในอดีต ดินแดนคือสมรภูมิรบ ถิ่นที่ใรมิอาจอย่างกรายมาได้ |
เขาค้อกับในอดีต ดินแดนคือสมรภูมิรบ ถิ่นที่ใครมิอาจย่างกรายมาได้
แต่หากเอ่ยถึงเขาค้อในอดีตนั้น ดินแดนแห่งนี้กลับไปพื้นที่เขตอันตรายยิ่งนัก เพราะเคยเป็นฐานที่ตั้งของขบวนการผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) โดยได้เข้าแทรกซึมมาจากแนวชายแดนด้านทิศเหนือ และได้ยึดเอาภูหินร่องกล้าเป็นที่มั่น ซึ่งเริ่มต้นเมื่อปี 2508 หลังจากนั้น ผกค. ได้ขยายงานรุกเข้าเขาค้อ เป็นฐานที่ยืดมั่น เพื่อต่อเข้ามาเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ และทำสงครามกองโจร เพื่อปฏิวัติยึดอำนาจรัฐบาลในยุคนั้น
ซึ่งเหตุการณ์สู้รบยังกันระหว่าง ผกค. กับฝ่ายรัฐบาลไทยยังสู้กันมาอย่างต่อเนื่อง จวบจนกระทั้งในปี 2525 การรบที่ยืดเยื้อมากว่า 15 ปี ก็ยุติลง ความสงบเงียบเริ่มเข้ามาแทนที่ จะเหลือไว้ก็แต่เพียงความพินาศความเสียหาย และประวัติการรบที่ห้าวหาญของวีรชนในขณะนั้น
จากวันนั้นถึงวันนี้ เขาค้อผ่านห้วงกาลเวลามอย่างยาวนาน และปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆของเมืองไทย ที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม มีนักเดินทางจากทั่วสารทิศแวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสาย มีสถานประกอบการ โรงแรม ร้านอาหาร ที่พักเกิดขึั้น มีการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่อย่างยั้งยืน
เปิดกรุหยิบอนุสาร อสท.เล่มเก่าปี 2513 มาอ่านเห็นภาพสาวสวยยิ้มแย้มแบบฉบับหญิงไทยถือกะหล่ำปลีช่อใหญ่เว่อร์วัง ดิฉันเลยขอไปชมไร่กำหล่ำที่ภูทับเบิกอีกครั้งครา เพื่อย้อนวันวาน ไปดูสิว่าเปลี่ยนแปลงแค่ใหน |
สำหรับ ภูทับเบิก เป็นหนึ่งยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร โดยตั้งอยู่ตำบลวังบาล ห่างจากอำเภอหล่มสักและหล่มเก่าประมาณ 40 กิโลเมตร มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ซึ่งได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก โดยอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ ประกอบด้วยอาชีพทำการเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิงเขา โดยในช่วงหน้าฝนยังมีไร่กะหล่ำปลี่สวยงาม และถือเป็นแหล่งที่ปลูกกะหล่ำปลีมากที่สุดในโลก ด้วยภูมิประเทศที่สวยงามโอบล้อมด้วยทะเลภูเขาน้อยใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตา ส่วนหน้าหนาวมีดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งทั่วทั้งภูเขาในช่วงเดือนธันวาคมจนถึงเดือน มกราคมให้ได้ชมกันอีกด้วย
เครดิตข้อมูลดีๆจากสารานุกรมเสรีวิกิพีเดีย : https://en.wikipedia.org/wiki/Phu_Thap_Boek
หลังจากที่ได้รู้จักเขาค้อและภูทับเบิกกันไปแล้ว ดิฉันก็ขอมาร่ายบทความรีวิวเช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวเขาค้อและภูทับเบิกให้เพื่อนได้ดูกันเลยค่ะ
ต่อจากกระทู้รีวิวก่อนหน้าที่เว็ป : http://bit.ly/2s0HnR2 เริ่มต้นการเดินทางในวันนี้ ดิฉันก็สตาร์ทรถมอเตอร์ไซต์ บิดคันเร่ง มุ่งหน้าสู่ภูทับเบิกก่อนเลยค่ะ |
กางแผนที่ท่องเที่ยวในอำเภอเขาค้อ และเส้นทางไปภูทับเบิกดูสิ ว่ามีอะไรให้ชื่นชม รื่นรมอุรา ช่ะช่ะช่าหัวใจบ้าง |
ถนนหนทางขึ้นไปยังภูทับเบิก (Phuthapboek) ถนนยังคงคงชำรุดอยู่เป็นระยะ |
แต่ถ้ามาหน้าฝน หากใครจะขับรถยนต์ส่วนตัวขึ้นมา แนะนำว่าต้องระมัดระวังมากๆนะคะ เพราะถนนชำรุดยังซ่อมไม่เสร็จ และลาดชันสุดๆทีเดียว
ด้วยเส้นทางและถนนที่คดเคี้ยว และชำรุดอยู่เป็นระยะๆ ทำดิฉันให้ต้องจอดแวะพักตลอดค่ะ |
ระหว่างทางก็จอดแวะชมดอกม้ง ดอกไม้ริมทาง งามอลังการยิ่งนัก ยิ่งขับรถมาสูงเท่าไหร่ อากาศก็ยิ่งเย็นสบายยิ่งนัก
มวลบุปผา ประชาดอกเสี้ยวสีชมพูหวานแหว๋ว รอนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปเช็คอินน์กัน
นั่งพักรับลมเอาแรงซ่ะหน่อย ก่อนที่จะตะลอนขับรถไปต่อ
หน่วยทับเบิก(Phuthapboek) ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,667 เมตร |
ทัศนียภาพภูเขากับเส้นทางสู่ภูทับเบิก
ถนนหนทางก็คดเคี้ยวเลี้ยวลดเสียเหลือเกิน แต่บรรยากาศระหว่างทาง ก็เพลิดเพลินจำเริญใจอยู่ไม่น้อย เนื่องจากอากาศเย็นหยดย้อย ดั่งน้ำอ้อยหวาน ร้าวรานจับใจ
มองไปยังเบื้องล่างก็เห็นหลังคาบ้านเรือนขนาดเล็กและขุนเขารายล้อมรอบ
สมัยแต่ก่อนน้อยคนนักที่จะเดินทางมาที่ภูทับเบิกแห่งนี้ เนื่องจากการเดินทางก็ทุรกันดารยิ่งนัก ถนนหนทางก็ลาดชัน |
สมัยแต่ก่อนน้อยคนนักที่จะเดินทางมาที่ภูทับเบิกแห่งนี้ เนื่องจากการเดินทางก็ทุรกันดารยิ่งนัก ถนนหนทางก็ลาดชัน แต่หากมาถึงก็เหมือนดั่งสวรรค์บนดิน ที่งามสุดฟินไปด้วยทะเลหมอกสีขาวและไร่กะหล่ำปลีอร่ามจับตาคณานับ ซึ่งที่เป็นจุดขายของที่นี่ไปแล้ว ทำให้คนแล้วคนเล่า ต้องแวะมาคลอเคล้าสัมผัสบรรยากาศที่ดินแดนแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย ทำให้มีโรงแรม ที่พักผุดขึ้นบนดอกเห็ดแตกหน่กไปทั่วผืนดอยแห่งนี้ เพื่อรองรับนักเดินทางจากทั่วสารทิศ จากแต่ก่อนที่ชาวบ้านเคยทำไร่อย่างเดียว แต่เดียวนี้ก็มีรายได้จากการเปิดห้องพักให้นักท่องเที่ยวมาค้างแรม ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก
ภูทับเบิกในวันนี้ ยังมีไร่กำหล่ำปลีให้ชมอยู่นะคะ |
ทัศนียภาพภูทับเบิกอันสวยงาม (Phuthapboek) |
ถนนหนทางก็ลาดชันยิ่งนัก เวลาขับรถต้องระมัดระวังหน่อยนะคะ ถ้าใครจะขับรถมาภูทับเบิก ก็ตรวจตราเติมน้ำยาเบรคให้พร้อม เพราะต้องเบรคบ่อยมากๆ ไม่งั้นอาจะไถลหลุดลงหน้าผาไปได้นะ
ไร่กะหล่ำปลี เอกลักษณ์ของภูทับเบิก ถ้าไม่มีไร่กะหล่ำปลีคงไม่มีใครมาเที่ยวที่นี่เป็นแน่แท้ |
ว่ากะว่าดอกกะหล่ำปลีทีนี้ เป็นพื้นที่ปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และส่งขายไปทั่วประเทศ |
ไร่กะหล่ำที่ถูกตัดไปแล้ว
ซึ่งนอกจากไร่กำหล่ำปลีอันกว้างใหญ่แล้ว ยังเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกยามเช้าที่สวยงามอีกแห่งด้วย ทำให้มีโรงแรม ที่พัก บังกะโล และมีจุดกางเต็นท์ ให้ผุ้รักการทัศนาจร แวะมาอรชร ชื่นชมกันอย่างไม่ขาดสาย
ซูมกล้องไปไกลๆ ก็เห็นคนงานกำลังขมักเขม้นเร่งกับกะหล่ำกันอย่างขันแข็ง
อาหารเที่ยงมื้อนี้ จัดไปผัดกะเพราไก่ไข่ดาว เมนูยอดฮิตของคนที่ไม่รู้จะกินอะไร ก็ต้องลงท้ายด้วยคำว่า งั้นเอาผัดกระเพราละกัน
ตามต่อด้วยขนมเบเกอรี่เพิ่มคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดที่ซื้อมาจากเมืองเพชรบูรณ์ จากบทความรีวิวทริปก่อนหน้าซึ่งได้เขียนไปแล้ว อร่อยดีนะ
ดอกม้งดอกไม้บนภูทับเบิกก็สวยงามยิ่งนัก
เนื่องจากพื้นที่อยู่บนดอยสูง อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ทำให้เป็นถิ่นปลูกดอกไม้เมืองหนาวได้สวยงามกว่าอยู่บนที่ราบมาก
และระหว่างก่อนลงจากภูทับเบิก ก็แวะไปอุดหนุนสินค้าของชาวบ้านในพื้นที่สักหน่อยค่ะ ชาวบ้านจะได้มีรายได้
กะหล่ำปลีที่ภูทับเบิก ราคาถูกมากๆ |
มีจุดแวะพักตลอดเส้นทาง เนื่องจากเส้นทางทีคดเคี้ยว ทำให้รู้สึกเมื่อยหลังไม่น้อยเวลาขับมอเตอร์ไซต์ |
หากเพื่อนๆผู้รักการทัศนาจรคนใหนที่ช่วงวันหยุดนี้ ไม่รู้จะไปเที่ยวใหนดี ก็ลองแวะมาเที่ยวภูทับเบิกดูนะคะ ยังมีทุ่งกะหล่ำปลีให้ชมอยู่ค่ะ
มะขามหวานของฝากขึ้นชื่อของเพชรบูรณ์ ต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับไปสักโล สองโลแหละ ไม่งั้นโดนที่บ้านและที่ทำงานกินหัวแน่นอน |
แม่ค้าคนขายก็แกะมะขามหวานให้ลิ้มลองเลยค่ะ แต่ละพันธุ์ก็หวานพอๆกัน มีทั้งแบบมะขามขาหมู และแบบสุกจนแห้งเลยก็มี แล้วแต่ว่าจะชอบ แต่สำหรับดิฉันชอบแบบแห้งมากกว่า เห็นแม่ค้าแกะมะขามขาหมูให้ทานรสชาติออกจะเปรี้ยวหน่อยๆ
ลงจากภูทับเบิก ก็มาชมความเอิกเกริกของวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว จุดเช็คอินน์ยอดนิยมตลอดกาลในเขาค้อ |
พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ซ้อนกัน 5 องค์ที่อยู่บนมหาวิหารอลัการอีกด้วย |
และไม่พลาดมาถ่ายรูป ชมความงามขององค์เจดีย์ที่มีลักษณ์ะเป็นดอกบัวซ้อนกัน 7 ชั้น |
ความอลังการของพุทธสานแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาลำเนาไพรที่สวยงาม และในช่วงยามเช้า บริเวณวัดยังเป็นจุดวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งด้วย
เดินทางมาถ่ายรูปชมดอกไม้สวยที่ไร่บีเอ็น สถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีมานานคู่เขาค้อแห่งนี้ บุกเบิกตั้งแต่ปี 2512 |
ทุ่งดอกคอสมอสริมทางที่ไร่บีเอ็น |
ทุ่งดอกคอสมอสริมทางที่ไร่บีเอ็น งามสะพร่างไปด้วยดอกไม้สีสันสดใส ถูกใจหนุ่มบ่าวสาวสมัยใหม่ |
ยิ่งโดยเฉพาะในช่วงบรรยากาศตอนเย็นๆแบบนี้ แดดไม่ร้อน บรรยากาศเหมาะกับการมาทัศนาจร เดินอรชร อ้อนแอ้นยิ่งนัก
หากเพื่อนๆคนใหนที่แวะมาเที่ยวเขาค้อ ก็แวะพักเดินชมดอกไม้สวยให้ชื่นตาระย้าจับใจหน่อยก็ดี
แวะถ่ายรูปซุ้มต้นไผ่ทางเข้าไร่บีเอ็นด้านใน ซึ่งเป็นซิคเนเจอร์ เป็นสัญลักษณ์ที่อยู่คู่ไร่แห่งนี้มาอย่างยาวนานทีเดียว |
ไร่บีเอ็นเป็นไร่ที่อยู่คู่อำเภอเขาค้อมาช้านาน ตั้งแต่ปี 2512 ทำให้บรรยากาศในไร่ก็ร่มรื่นด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่
มีพันธ์ไม้เมืองหนาวหลากหลายชนิดปลูกเรียงรายและจำหน่ายอีกด้วย
มีดอกบีโกเนียและดอกไม้อื่นๆ ดิฉันเองก็จำชื่อไม่ได้แล้ว สวยงามเชียวค่ะ
ผลิตภัณฑ์และพืชผลทางการเกษตรในไร่บีเอ็น |
ผลทิสซ่า ผลไม้ฟิลิปปินส์รสหวาน มันอร่อย ขาย ก.ก.ละ 70 บาท
มีกานาฉ่ายขายด้วย กานาฉ่ายที่นี้ก็ทำเอง ไม่ใส่สารกันบูด ดิฉันเองก็ชอบทานมากๆ เพราะคุณแม่ชอบเอาไปผัดกับข้าวอร่อยมากๆ หรือทานกับข้าวสวยร้อนก็เริ่ดสะแมนแตนทีเดียว
แว๊นๆขับมอเตอร์ไซต์เดินทางต่อมายังทุ่งกังหันลม |
ระหว่างขับรถมาเหนื่อยๆ เมื่อยก็แวะพักสักหน่อยค่ะ
สำหรับการเดินทางไปชมทุ่งกังหันลมที่นี้ ก็นั่งรถรางเข้าไปนะคะ ซึ่งตอนที่ดิฉันมาก็ทันรถรางเข้าไปชมทุ่งกังหันลมค่ะ
ค่ารถรางไปชมทุ่งกังหันลมด้านใน ค่าเสียหายคนละ 60 บาทจ้า |
ครั้งแรกเลยที่ได้มาทุ่งกังหันลม บรรยากาศดูสวยงามแปลกตายิ่งนัก
มาถึงก็เป็นจุดถ่ายภาพชมวิวทัศนียภาพอันสวยงามในบรรยากาศยามเย็น
ข้อดีของการมาเที่ยวช่วงเย็นคือ ได้ชมพระอาทิตย์ตกดิน ฟินไปอีกรูปแบบ แต่ถ้าอยากเห็นทะเลหมอกก็ต้องเป็นช่วงยามเช้า หรือหากช่วงหน้าฝนก็คงสวยงามล้นดีทีเดียว
พระอาทิตย์กำลังจะอัสดงลงแลลับ สุดขอบฟ้า เปล่งแสงทองส่องออร่า สวยระย้าจับใจยิ่งนักเชียว |
มีจุดชมวิวคิงคองด้วย อีกหนึ่งจุดที่เที่ยวใกล้ทุ่งกังหันลมของคนรักการถ่ายรูป
พระอาทิตย์เริ่มจะอัสดงลงแลลับสุดขอบฟ้าไปเรื่อยๆ
พระอาทิตย์กำลังจะอัสดงลงแลลับสุดขอบฟ้า เปล่งแสงทองส่องออร่า สวยระย้าจับใจยิ่งนักเชียว |
หลังจากชมแสงตะวันลับลิบสุดขอบฟ้าแล้ว ก็เข้าสู่ความมืดมิด ดิฉันก็ขับมอเตอร์ไซต์จากทุ่งกังหันลมมายังที่พักคืนนี้ต่อค่ะ
โดยที่พักคืนนี้ ก็มาเปลี่ยนบรรยากาศนอนเต็นท์ ที่คนรักทะเลหมอกเขาค้อ ซึ่งมีเต็นท์ให้บริการพักค้างแรมอยู่ใกล้ๆจุดชมวิวทะเลหมอกเขาค้อ ราคาเต็นท์ละ 609 บาท นอนได้ 2 คน ดิฉันจองผ่านอะโกด้ามา แต่ถ้าใครที่จองกับทางที่พักโดยตรง ราคาก็น่าจะถูกกว่านี้นะคะ
หลังจากเช็คอินน์เสร็จแล้ว ก็ได้เวลาตระเวนออกไปหาอะไรทานมื้อเย็นแล้ว มื้อนี้ดิฉันเลยแวะมาฝากท้องที่ร้านครัวมาลัย อีกหนึ่งร้านดังในเขาค้อ
แวะมาทานอาหารเย็นที่ครัวมาลัย ร้านอยู่ตรงขัามพระบรมธาตุกาญจนาภิเษกในอำเภอเขาค้อ |
ตามต่อด้วยต้มยำไก่บ้าน ยกมาเสริฟเป็นหม้อเชียว ตอนสั่งดิฉันก็ลืมถามว่าเป็นหม้อหรือเป็นชามมาให้ แต่ที่ร้านเสริฟมาแบบนี้ ทำดิฉันสั่งอาหารอย่างอื่นต่อไม่ได้เลยค่ะ เพราะทานคนเดียวคงจะไม่หมดกระมัง มื้อเย็นนี้เลยนั่งซัดแต่กับข้าวไปค่ะ
สำหรับรสชาติไก่บ้านอร่อยมากๆ ทานแล้วนึกถึงต้มยำไก่บ้านที่อีสานเลย รสแซ่บสุดๆ เป็นไก่บ้านจริงๆ ไม่ได้หลอกขาย ใส่กระเพราลงไป ต้มแบบบ้าน อร่อยทีเดียวเชียว
แก้วใส่เทียนไว้ ดิฉันก็คิดว่าแก้วน้ำใสน้ำแดง จะกรอกเข้าปากอยู่แล้วเชียว แต่เห็นแสงเทียนยังเปล่งออร่าอยู่ ก็เลยยั้งใจไว้ทัน
ทานข้าวอิ่มมากๆแล้ว ก็ต้องมาซัดทานขนมเบเกอรี่ชีสเค้กอันเละตุ้มเป๊ะที่ซื้อมาจากเพชรบูรณ์เมื่อเช้านี้ให้หมด เนื่องจากหอบใส่รถมอเตอร์ไซต์พาขึ้นไปภูทับเบิกด้วย สภาพตามที่เห็นค่ะ ถ้าไม่ทานมื้อนี้ คงจะบูดทิ้งเป็นแน่แท้ มื้อเย็นนี้อิ่มหนักมากๆ ต้มยำไก่บ้านทำดิฉันแน่นท้องไปเลย เพราะต้องซัดทานให้หมดทั้งหม้อคนเดียว เนื่องจากสั่งไปแล้ว ค่าเสียหายมื้อเย็น 263 บาท......จบทริปหมดไป 1 วันกับทริปเที่ยวภูทับเบิก และเขาค้อ ไม่รอแล้วนะ
----------------------------------------------------------------------------------------------
เช้าวันใหม่เปิดม่านกางเต็นท์ก็เห็นทะเลหมอกสีขาวสวยเด่น ซึ่งเป็นซิคเนเจอร์ของเขาค้อแห่งนี้ |
เดินมาชมทะเลหมอกหน้าที่พัก คนรักทะเลหมอกเขาค้อ |
เต็นท์ที่เปิดให้แขกเข้าพักก็เรียงรายเป็นตับ แต่วันธรรมดาแบบนี้ ก็มีแขกไม่เยอะนัก ทำให้ดูไม่วุ่นวาย เหมาะกับการมาเที่ยวพักผ่อนนอนชมทะเลหมอกยามเช้าอย่างยิ่ง
ไอหมอกเริ่มๆค่อยๆฟุ้งกระจายและจางไปเรื่อยๆ
ว่ากันว่าหากมาพักค้างที่เขาค้อ 1 คืน อายุจะยืนเพิ่มอีก 10 ปีเลยทีเดียว ซึ่งได้กลายเป็นประโยคสุดคลาสสิคในการรณรงค์การท่องเที่ยวไปเสียแล้ว เห็นท่าว่าหากมาพักหลายๆคืน คงจะอายุยืนเป็นหมื่นปีแน่แท้
มีจุดไปนั่งพักชมวิวทะเลหมอกอีกด้วยแม้หมอกจะไม่ได้เยอะมากนัก แต่ยังพอมีเห็นอยู่บ้าง
เดินมาตรงจุดชมวิวก็เห็นน้องเหมียวเคี้ยวเพชร กำลังนั่งรับไอทะเลหมอกอยู่เลย
น้องเหมียวหน้าดุไปหน่อย น่าจะยิ้มให้กว้างดุจนางสาวศรีสยามกว่านี้ คงน่ารักมิใช้น้อย
ดอกคอสมอสใกล้ๆจุดชมวิวเริ่มจะโรยราลงไปเรื่อยๆ
ทัศนียภาพทะเลหมอกโดยรอบก็ปกคลุมไปด้วยทะเลหมอกสีขาว และเริ่มจะค่อยๆเจือจางลง
ดชมวิวทะเลหมอกในอำเภอเขาค้อ ซึ่งเป็นจุดชมวิวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปอย่างไม่ขาดสาย |
บรรยากาศยามเช้าๆ อากาศเย็นสายยิ่งนัก เหมาะแก่การพักผ่อน นอนตากอากาศสุดแสนสบายในวันธรรมดาแบบนี้
หมอกเริ่มจะจางลงไปเรื่อย เพราะแสงอัศเจรีย์สีทองเริ่มสาดส่องไล่ทะเลหมอกออกไป ทำให้นักท่องเที่ยวต้องรีบมาถ่ายรูปก่อนที่จะไม่ได้เห็นทะเลหมอก
แม่ลูกคู่นี้น่ารักซ่ะจริงๆเชียว ยืนมองทะเลหมอกสีขาวที่ค่อยจางไปอย่างไม่ละสายตา
หากเพื่อนๆผู้รักการทัศนาจรคนใหนที่ยังไม่เคยมาเยือนเขาค้อ หรืออยากมารำพันความหลังในวันวาน ก็ปักหมุดมาเที่ยวเขาค้ออีกครั้งนะคะ
และจุดชมวิวทะเลหมอกยอดนิยมตลอดกาลอีกแห่งก็อยู่ที่ ไปรษณีย์เขาค้อ
หลังจากไปเดินชมทะเลหมอกสีขาวพราวเสน่ห์ และสูดอากาศอันแสนจะเย็นชื่นรื่นฤทัยแล้ว กลับมายังที่พักก็ขนมปังบิสกิต กาแฟ ไมโลให้ดื่มฟรีกันอีกด้วย
ตอนระหว่างทางเดินทางไปชมทะเลหมอกที่ไปรษณีย์ก็แวะซื้อข้าวเหนียวปิ้ง 5 บาทของชาวบ้านมาทานด้วย อร่อยจัดไปมื้อเช้าแบบง่ายๆ
เมื่อทานอาหารมื้อเช้าพอแค่อิ่ม ตะวันแดดเริ่มอรชรขึ้นสู่ท้องฟ้าจนแจ่มใส งามไฉไลสดสี ก็ได้เวลาขับรถมอเตอร์ไซต์ตะลอนเที่ยวเขาค้อแล้วล่ะคะ
จุดท่องเที่ยวแรกหากมาแวะเขาค้อ ก็มาถ่ายรูปหน้าที่ว่าการอำเภอเขาค้อสักหน่อย เพราะมีประติมากรรมปูนปั้น ผลหมากรากไม้หลากหลายชนิดเชียว
จากนั้นก็เดินทางไปที่พระบรมธาตุกาญจนาภิเษก |
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปให้ประชาชนได้สักการะบูชา ยอดเจดีย์พระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมากจากประเทศรีลังกา
หลังจากที่ไหว้พระธาตุแล้ว ก็ขับรถมอเตอร์ไซต์ แว๊นๆเดินทางมาชมพิพิธภัณฑ์อาวุธ |
ค่าบัตรบำรุงสถานที่ในการเข้าชมพิพิธภัณฑ์อาวุธ 10 บาทค่ะ
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ พิพิธภัณฑ์อาวุธอิทธิ |
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ พิพิธภัณฑ์อาวุธอิทธิ
สำหรับ “พิพิธภัณฑ์อาวุธฐานอิทธิ” ซึ่งตั้งชื่อเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พันเอกอิทธิ สิมารักษ์ ผู้ที่ได้เสียสละชีวิต ณ ฐานบัญชาการแห่งนี้ โดยป้จจุบันได้จัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญในอำเภอเขาค้อ โดยภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงอาวุธต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถถัง เฮลิคอปเตอร์ ปืนต่างที่ใช้ในการสู้รบ โดยมีป้ายอธิบายรายละเอียด สำหรับผู้ที่สนใจได้ศึกษาได้อ่านกันเป็นความรู้ด้วย
อนุสรณ์เขาค้อ ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานสำคัญต่อการเสียสละของเหล่าทหาร และผู้ที่พลีชีพในการสู้รบ ปกป้องพื้นที่แห่งนี้ |
และใกล้ๆกับอนุสรณ์สถานก็จัดแสดงเป็นฐานจำลองการสู้รบ ที่เป็นเนินเตี้ยๆ มีกระสอบทรายบังเกอร์ และมีหลุมหลบภัย ซึ่งในอดีตที่แห่งนี้เป็นฐานแห่งแรกที่ทหารไทยยึดคืนมาได้จากการสู้รบกับ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) โดยจัดแสดงไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน
จุดชมวิวอนุสรณ์เขาค้อ อีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งในเมืองสี้ |
มองจากจุดชมวิวอนุสรณ์เขาค้อ ก็เห็นทุ่งกังหันลม |
ทัศนียภาพเบื้องล่างในอำเภอเขาค้อ อันแสนเงียบสงบในวันธรรมดา ถ้าเป็นช่วงเทศกาลคงจะคึกคักไม่น้อย |
หลังจากที่ได้ชมอนุสรณ์เขาค้อไปแล้ว ดิฉันก็ขับรถมอเตอร์ไซต์เดินทางมาที่พระตำหนักเขาค้อ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมคู่เขาค้อนี้มานาน
เดินทางมาที่พระตำหนักเขาค้อ |
ข้อมูลน่ารู้เล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับพระตำหนักเขาค้อ (khao kho Palace) |
สำหรับพระตำหนักเขาค้อ จัดได้ว่าเป็นจุดที่สูงสุดของอำเภอเขาค้อ โดยสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1,050 เมตรเลยทีเดียว ทำให้ผู้ที่ต้องการสัมผัสความเย็นและความงดงามของธรรมชาติ ต่างแวะเวียนมาที่พระตำหนักแห่งนี้สักครั้ง
ซึ่งเป็นพระตำหนักที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2527 บริเวณเขาย่า สำหรับใช้ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสที่พระองค์ท่านเสด็จฯ มาทรงเยี่ยมงานในโครงการพระราชดำริ ทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง
บริเวณโดยรอบก็ร่มรื่นไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ที่เห็นโดดเด่นที่สุดคงเป็นดอกกุหลาบช่อใหญ่ กำลังเบ่งบานส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ
มีหมู่ผึ้งภมร มาบิ่นเว้าวอนตอมเกษรไปทำน้ำหวานอีกด้วย
และรอบบริเวณก็เป็นป่าสนเรียงรายดูให้ร่มเงาเย็นสบาย และกลายเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของคู่บ่าวสาวผู้รักการทัศนาจร
จากนั้นก็เดินทางมาชมวิวที่เขาตะเคียนโง๊ะ |
โดยจุดชมวิวแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา มีทิวทัศน์ที่งดงาม ซึ่งช่วงที่ดิฉันมานี้ก็เป็นช่วงกลางวัน ซึ่งไม่มีทะเลหมอกให้เห็นแล้ว แต่ถ้าใครที่อยากจะมาเที่ยวเขาค้อ และไม่อยากพักในตัวเมือง ก็เลือกมากางเต็นท์นอกชมทะเลหมอกที่เขาตะเคียนโง๊ะแห่งนี้ได้ ถือเป็นทำเลที่สวยงามทีเดียว
ทำไมชื่อเขาตะเคียนโง๊ะ ชื่อนี้มีที่มาจากใหน อ่านเป็นความรู้สักเล็กน้อย |
โดยชื่อที่มาของเขาตะเคียนโง๊ะ แห่งนี้มีที่มาจาก เมื่อในอดีตเป็นภูเขาที่เคยมีต้นตะเคียน ที่มีลักษณะพิเศษคือ มีความโค้งงอโน้มลงสู่พื้นดิน ซึ่งคำว่า โง๊ะ เป็นภาษาอีสาน หมายถึงโค้งงดคดเคี้ยว โดตัั้งตระหง่านอยู่บนภูเขาลูกนี้ แต่ปัจจุบันได้โค่นล้มไปแล้วตามกาลเวลา
โดยเขาตะเคียนโง๊ะได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆของจังหวัดเพชรบูรณ์ที่สามารถชมวิวได้ 360 องศา โดยสามารถมองเห็นเขาย่า ในมุมที่คล้ายภูเขาฟูจิในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
ปิดท้ายก่อนกลับแวะมาสดับตรับฟังน้ำตกกลางป่า สวยระย้าจับใจ ที่น้ำตกศรีดิษฐ์ |
น้ำตกศรีดิษฐ์ในช่วงหน้าแล้ง ก็ยังมีน้ำไหลตกลงหน้าผาให้ชมตลอดทั้งปี แม้จะไม่อลังการเท่าหน้าฝนก็ตาม |
แต่ถ้าใครที่อยากชมน้ำตกแบบสวยๆ แนะนำมาช่วงฤดูฝน น้ำจะค่อนข้างเยอะ ไหลลงจากหน้าผา น้ำสาดกระเซ็นกระเด็นกระดอน ชุ่มฉ่ำเย็นชื่นใจสุดไปเลยล่ะค่ะ
แวะไปชมน้ำตกแล้ว ก็ได้เวลาทานอาหารเที่ยงแล้วค่ะ มื้อนี้คิดอะไรไม่ออก ก็ผัดกระเพราอีกแล้วค่ะ ดูสีของกระเพราแล้วแดงเดือดเชียว น่าจะเผ็ด รสเด็ดจัดจ้านแน่ๆ แต่ยังดีทีมีผลหมากรากไม้ที่ซื้อมาระหว่างทาง ช่วยแก้เผ็ดได้เยอะเชียว
หลังจากทานอาหารมื้อเที่ยงอิ่มไปแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกลับแล้วค่ะ ขับรถมอเตอร์ไซต์แว๊นมาเรื่อย ก็ผ่านไร่สตอเบอรี่หลายแห่ง ที่เปิดริมทางให้นักท่องเที่ยวได้แวะไปเก็บด้วยตัวเอง กลายเป็นอีกหนึ่งจุดขายของเขาค้อ
สตอเบอรี่ตั้งขายริมทาง มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งสตอเบอรี่สด และแบบอบแห้ง ส่วนราคาหากซื้อเยอะก็สามารถต่อรองกับคนขายได้
จัดไปอีกสักสองสามกล่องค่ะ ซื้อไปฝากที่บ้านและที่ทำงาน
จากนั้นก็ขับรถเดินทางจากอำเภอเขาค้อ มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองเพชรบูรณ์ นำรถมอเตอร์ไซต์ที่เช่าไปคืนที่ร้าน ได้เงินมัดจำคืน ก็ตีตั๋วกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ จบทริปเที่ยวภูทับเบิก-เขาค้อค่ะ ถือเป็นอีกหนึ่งทริปที่ได้เดินทางมาย้อนวันวานในอดีต หลังจากที่ไม่ได้มาเยือนนานมากๆแล้ว และพบว่าในอำเภอเขาค้อ มีสถานที่ท่องเที่ยวเกิดขึ้นใหม่ๆมากมายหลายแห่งทีเดียว และระหว่างทางก็มีร้านค้าแผงขายของฝาก ขายมะขามหวาน ขายสตอเบอรี่ให้เลือกซื้อเยอะมากๆ
สำหรับเพื่อนๆคนใหนที่ยังไม่รู้จะไปเที่ยวใหนในช่วงนี้ ก็เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแล้วมานอนเฝ้ารอชมทะเลหมอกสีขาวพราวเสน่ห์ที่ภูทับเบิกและเขาค้อได้นะคะ บรรยากาศและธรรมชาติที่นี้ยังคงสวยงามและต้อนรับนักทัศนาจรทุกท่านเสมอค่ะ
และบทความทริปรีวิวเที่ยวประจำเดือนธันวาคมปี 2561 ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ ขอขอบพระคุณผู้อ่านทุกคนที่เสียสละเวลาคลิ๊กเข้ามาดูกัน และขออวยพรให้เพื่อนๆผู้อ่านทุกความสุข เดินทางท่องเที่ยวปลอดภัย โชคดีมีชัยกันทุกๆคน ขอบพระคุณค่ะ หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไป....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
------------------------------------------------------------------
บทความอื่นๆ และรีวิวท่องเที่ยวไปเรื่อยเปื่อยตามเมืองต่าๆ มีดังนี้ค่ะ
รีวิวเที่ยวในเมืองเพชรบูรณ์ แบบช้าๆ มีที่เที่ยวให้ลั๊ลลามากมาย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวงานอุ่นไอรักคลายความหนาวครั้งที่ 2 มาดูสิว่ามีอะไรเดินย่องกันบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวแบกเป้เที่ยวเชียงคำ-งามล้ำทะเลหมอกภูลังกา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยว เช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวเมืองพะเยา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยว มาเน้อมาเที่ยวเมืองแพร่ แลยลชมธรรมชาติ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
มาเด้อ..มาเที่ยวศรีสะเกษ แดนดงดอกลำดวน หอมหวนกระเทียมดี คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูรีวิวการเดินทางได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2QngTUm
มาม๊ะ..แวะมาเที่ยวเมืองสุรินทร์ ชมถิ่นช้างใหญ่ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยว เช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวในบุรีรัมย์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
แบกเป้ลุยเดี่ยว เที่ยวเมืองโคราช กินหมี่รสชาติแซ่บๆกันจ้า คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ต้องแวะมา 6 ชายหาดยอดนิยมในชุมพร ที่ต้องแวะไปอรชรกันสักครั้ง>> |
รีวิวเที่ยวหลังสวน ลิ้มลองทุเรียนจากสวนหวานฉ่ำ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวชุมพร งามอรชรตลอดกาล เดือน ก.ย.2018 คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูรีวิวการเดินทางที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2Oc4kNZ
ตอนจบกับทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวยุโรป 26 วัน คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูรีวิวการเดินทางที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2xlaVuZ
แบ่งปันการเดินทางในเกาะซานโตรินีด้วยตัวเองง่ายๆ คลิ๊กดูรายละเอียดจ้า>> |
หรือดูรีวิวการเดินทางที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2p5eQZf
รีวิวตอนที่ 24 แวะเที่ยวกรุงเอเธนส์ 1 วัน มีที่เที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2NrtXcU
รีวิวตอนที่ 23 เมื่อฉันต้องนั่งเรือเฟอรี่จากอิตาลีไปกรีซครั้งแรก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2Q4tkEC
0 ความคิดเห็น