มาม๊ะวันหยุดเดือนนี้ แบกเป้ไปเที่ยวเมืองเพชรบูรณ์สักครั้ง เพราะในตัวเมืองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ชม อย่างน่าอภิรมย์สมใจและมีของกินอร่อยมากมายให้เลือกทาน ร้าวรานถึงทรวงในเชียวล่ะค่ะ |
และสำหรับทริปรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือนนี้ ดิฉันคุณนายเว่อร์ ก็ขอเป็นคนบ้าจัดทริปมาเที่ยวเพชรบูรณ์อีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้เยือนเพชรบูรณ์ นานกาลโขทีเดียวค่ะ จำได้ว่ามาเที่ยวเพชรบูรณ์ ก็แวะไปเที่ยวเขาค้อ กับภูทับเบิกเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วเลยน่าจะได้ เรียกว่านานจริงๆนะคะ แต่ก็ไม่เคยมายลโฉมเที่ยวในตัวเมืองเพชรบูรณ์สักที เพราะมาเมืองเพชรบูรณ์ทีไรก็ได้แต่ผ่านๆ ไม่ได้ยลตระการอะไรเลย แต่จริงๆแล้วในตัวเมืองเพชรบูรณ์ ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดตาและน่าสนใจอยู่มิใช้น้อยทีเดียวเชียวล่ะ
โดยการเดินทางในครั้งก็ลุยเดี่ยวอีกเช่นเคยค่ะ เนื่องจากไปวันธรรมดา เพราะวันหยุดเสาร์อาทิตย์ดิฉันก็ทำงาน ทริปนี้ก็ลุยเดี่ยว เที่ยวคนเดียวไปแบบเรื่อยเปื่อย เหมือนกับทุกๆทริปที่ผ่านมาเลยค่ะ
เอาล่ะค่ะ ใหนๆก็พูดถึงเมืองเพชรบูรณ์แล้ว มารู้จักเมืองนี้กันสักหน่อยว่าเหตุใดถึงชื่อเมืองเพชรบูรณ์ มีที่มาอย่างไร อ่านเป็นความรู้กันค่ะ
รู้เฟื่องเรื่องเมืองเพชรบูรณ์กันสักเล็กน้อย |
รู้เฟื่องเรื่องเมืองเพชรบูรณ์กันสักเล็กน้อย
คำขวัญประจำจังหวัด : เมืองมะขามหวาน อุทยานน้ำหนาว ศรีเทพเมืองเก่า เขาค้ออนุสรณ์ นครพ่อขุนผาเมือง
สำหรับชื่อของจังหวัดเพชรบูรณ์นั้น เมื่อสมัยแต่ก่อนน่าจะชื่อว่าเมือง "เพชบุระ โดยอิงตามที่ปรากฏในจารึกลานทองคำ ที่พบจากเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ วัดมหาธาตุ ซึ่งหมายถึงเมืองแห่งพืชพันธุ์ธัญญาหาร แต่ในระยะหลังต่อมาได้เพื้ยนหรือเปลี่ยนเป็นชื่อ "เพ็ชร์บูรณ์"และเปลี่ยนอีกครั้งจนเป็น "เพชรบูรณ์" กลายความหมายเป็นเมืองที่อุดมด้วยเพชร และทั้งนี้ได้นำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัด
เพชรบูรณ์นั้น นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และมีความอุดมสมบูรณ์ และมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่ถ้าหากเอ่ยถึงเพชรบูรณ์ในยุคสมัยที่ถนนหนทางยังเข้ามาไม่ถึงเมืองนี้ในช่วงก่อนปี 2513 ถือว่าค่อนข้างจะลำบากยากเข็ญและใช้เวลานานทีเดียว เนื่องจากเมืองแห่งนี้แวดล้อมไปด้วยภูเขามากมาย การเดินทางในสมัยนั้นในช่วงก่อนปี จะต้องเดินทางจากพิษณุโลกมาลงที่อำเภอหล่มสัก แล้วต่อรถมาลงเมืองเพชรบูรณ์อีกครั้ง เรียกว่ากว่าจะมาถึงในตัวเมืองนี้ ก็ใช้เวลาเป็นวันเลยทีเดียว แต่ปัจจุบันก็ไม่ต้องลำบากแบบนั้นอีกต่อไป เพราะนับตั้งแต่มีถนนตัดผ่านจากสระบุรี สุดที่หล่มสัก ก็ทำให้การเดินทางมาเมืองเพชรบูรณ์ สะดวกสบาย และยิ่งทำให้คนรู้จักเมืองเพชรบูรณ์มากยิ่งขึ้น
และในช่วงสมัยของรัชกาลที่ 5 ก็ได้มีการรวบรวมหัวเมืองตามชายแดนที่สำคัญตั้งเป็นเขตการปกครองใหม่ ขึ้นเป็นระบบมณฑลเทศาภิบาล จนในปี พ.ศ. 2442 มณฑลเพชรบูรณ์ได้ตั้งขึ้นเป็นอิสระ เนื่องจากท้องที่มีภูเขาล้อมรอบ มีการเชื่อมต่อคมนาคมกับมณฑลอื่นไม่สะดวก ลำบากแก่การติดต่อราชการ และโอนเมืองหล่มสัก อำเภอหล่มเก่า อำเภอวังสะพุง มาขึ้นกับมณฑลเพชรบูรณ์ ยุบเมืองวิเชียรบุรีเป็นอำเภอ และโอนอำเภอบัวชุม (ปัจจุบันเป็นตำบล) อำเภอชัยบาดาลขึ้นกับเมืองเพชรบูรณ์ มณฑลเพชรบูรณ์จึงมีสองเมือง คือ หล่มสัก กับ เพชรบูรณ์
จนกระทั้งในปี พ.ศ. 2447 ได้ยุบมณฑลเพชรบูรณ์ และได้ตั้งเป็นมณฑลอีกในปี พ.ศ. 2450 และได้ยุบอีกครั้งในปี พ.ศ. 2459 จังหวัดเพชรบูรณ์ในขณะนั้นมี 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอวัดป่า (ปัจจุบันคือตำบลในอำเภอหล่มสัก) อำเภอวิเชียรบุรี และกิ่งอำเภอชนแดน จนกระทั่ง พ.ศ. 2476 ได้ยกเลิกมณฑลต่าง ๆ ทั่วประเทศ
หลังจากที่ได้รู้จักเมืองเพชรบูรณ์กันเป็นความรู้พอคร่าวๆแล้ว ดิฉันก็ขอมารีวิวพาคุณผู้อ่านทุกๆคนแวะไปเที่ยวในตัวเมืองเพชรบูรณ์ด้วยกันเลยค่ะ โดยทริปเที่ยวครั้งนี้ ดิฉันขอแบ่งเป็น 2 ตอนค่ะ ตอนแรกที่เขียนอยู่นี้ จะเป็นรีวิวเที่ยวในตัวเมือง และอีกรีวิวก็ขอเป็นทริปความหลังเที่ยวเขาค้อ และภูทับเบิกค่ะ
เริ่มต้นการเดินทางมาเมืองเพชรบูรณ์ทริปนี้ ดิฉันตีตั๋วออกจากสถานีขนส่งหมอชิตแต่เช้าตรู่เลย นั่งรถ ปอ.2 ตอนแรกจะนั่งเครื่องบินไปพิษณุโลก แต่รุ้สึกว่าจะเสียเวลาต้องนั่งรถหลายต่อ ก็เลยนั่งรถโดยสารเนี่ยแหละ สะดวกดี ต่อเดียวถึง แม้จะใช้เวลานานหน่อยก็ตาม
ราคาตั๋วโดยสาร รถปอ.2 ใช้บริการของเพชรประเสริฐทัวร์ ราคา 196 บาท รถไม่มีห้องน้ำนะคะ แต่ถ้ารถมีห้องน้ำ ก็ ปอ.1 เลยจ้า
ซึ่งการเดินทางมาเมืองเพชรบูรณ์ก็มีรถโดยสารให้บริการเกือบทุกๆชั่วโมง แต่ถ้าใครจะเดินทางมาช่วงเทศกาล เห็นท่าว่าจะต้องจองล่วงหน้าเนิ่นหน่อยก็ดี แต่ทรินี้ ดิฉันมาวันธรรมดา ก็เดินลั๊ลลามาซื้อที่เคาว์เตอร์ช่องขายตั๋วเลย
เดินทางออกจากรุงเทพมาสักพัก รถก็หยุดแวะพักให้ทานข้าวที่ลำนารายณ์ 20 นาที เนื่องจากออกมาแต่เช้า บางคนก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลย แต่ดิฉันขอวิ่งเข้าห้องน้ำก่อนเลย เพราะอั้นฉี่ไว้นานมากๆ หากใครที่จะนั่ง ปอ.2 มาเพชรบูรณ์ แนะนำดื่มน้ำมาน้อยๆ นะคะ เพราะรถไม่มีห้องน้ำ
รถโดยสาร ปอ.2 ที่เดินทางมาด้วย ดูสภาพแล้วน่าจะใช้งานมานานกาลโขพอสมควร
ผลหมากรากไม้ขายวางเรียงรายขายบนแผงดูแล้วน่าเลือกซื้อเลือกหายิ่งนัก โดยเฉพาะมะขามหวานบรรจุภัณฑ์อย่างดี มองไปไกลนึกว่าสินค้าจากเมืองจีน เพราะสีแดงระเรื้อเชียว แต่พอหันมามองลูกส้มโอสีเขียวๆแล้ว ก็นึกไปถึงนครชัยศรีเลย
ของฝากขึ้นชื่อลือชาระดับประเทศ อย่างมะขามหวาน ซึ่งต้องซื้อติดไม้ติดมือทุกครั้งคราเมื่อได้มาเมืองนี้ |
มะขามที่แขวนห้อยโหน ระโยงโตงเตงอยู่นี้ น่าจะยังไม่สุกกระมัง แต่เห็นแล้วก็เปรี้ยวปากมากๆ จนอยากจะเด็ดมาสักชิ้น เอามาจิ้มกับน้ำพริกกะปิหรือน้ำปลาหวาน โอ้ยอร่อยร้าวรานยิ่งนักแล แซ่บปากกระชากใจเว่อร์ |
เปิดกรุหยิบอนุสาร อสท.เล่าเก่าเมื่อปี 2513 มาอ่านฆ่าเวลาไป ภาพหน้าปกสีสันจัดจ้า หญิงสาวชาวเขาใส่หมวก หน้าตายิ้มแย้ม สวยงาม |
ในหนังสือก็บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับของดีเมืองเพชรบูรณ์ในยุคนั้น ตามยุคสมัย อ่านไปก็จินตนาการเอา เสมือนหนึ่งว่าเราไปอยู่ในยุคนั้น ว่างันเลยค่ะ เพราะไม่ได้มีเทคโนโลยีล้ำสมัยเหมือนยุคนี้ ดูแล้วคลาสสิคเก๋าเก๋กู๊ดดีมิใช้น้อยทีเดียว
ระหว่างทางก็ทุ่งดอกปอเทือง เหลืองอร่ามจับตาคณานับให้ชมอยู่เป็นระยะๆ
นั่ง ปอ.2 จากกรุงเทพฯ มาสุดปลายทางที่สถานีขนส่งเมืองเพชรบูรณ์โดยสวัสดิภาพ |
บรรยากาศสถานีขนส่งเพชรบูรณ์ในวันธรรมดา ไม่ค่อยมีผู้คนมากนัก แต่ก็มีรถราจอดแวะตลอด
เดินทางมายังร้าน ม.เจริญยนต์ ซึ่งเป็นร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ในเมืองเพชรบูรณ์ เนื่องจากค้นหาร้านเช่ารถใน Google ก็เห็นจะมีอยู่ร้านเดียวกระมังคะ |
ราคาเช่ารถมอเตอร์ไซต์ตกวันละ 300 บาท
มัดจำรถ 2000 บาทค่ะ
ทางร้านจะยืดบัตร ปปช.ไว้และคืนให้ตอนนำรถมาคืน
มอเตอร์ไซต์ที่ดิฉันได้ขับเป็นรถขับแบบอัตโนมัติ ซึ่งไม่ค่อยจะสันทัดกับรถแบบนี้มากนัก ใจจริงอยากได้รถแบบเกียร์ธรรมดา เอาขาเตาะเอาน่าจะเหมาะกว่านะคะ
เมื่อได้ยานพาหนะแล้ว ก็ได้เวลาทานอาหารมื้อเที่ยงแล้วค่ะ โดยตรงข้ามร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ ม.เจริญยนต์ มีร้านขายก๋วยเตี๋ยวต้มยำปากหม้ออยู่ เลยแวะไปลิ้มลองทานดู รสชาติอร่อยอยู่นะ เผ็ดซี๊ดจนต้องร้องกรี๊ดดังๆเลย ราคาไม่แพงด้วย ชามละ 40 บาท
ที่ร้านก็มีเมนูแบบเกี๋ยวเตี๋ยวให้เลือกหลายอย่าง ใครชอบแบบใหนก็เลือกทานกันดู
และเมื่อทานก๋วยเตี๋ยวรสชาติเผ็ด ทางร้านก็มีของหวานเฉาก๊วยให้ทานฟรีอีกด้วย ดีจังเลย เดี๊ยนชอบตรงของหวานเนี่ยแหละค่ะ เพราะช่วยทานแก้เผ็ดได้ดีทีเดียว
ขับมอเตอร์ไซต์เดินทางมายังโรงแรม อะเดย์ อิน เพชรบูรณ์ (A day inn Phetchabun) |
สภาพแวดล้อมของโรงแรมก็ดูสวยงาม ตกแต่งได้กิ๊บเก๋ดูดีเชียว และมีที่จอดรถให้เป็นสัดส่วน อาคารเป็นตึก 2 ชั้นไม่มีลิฟท์ให้นะคะ
ส่วนห้องพักก็กว้างขวาง มีห้องน้ำในตัว มีระเบียงห้องพักให้ ราคาสมเหตุสมผล ไม่แพงจนเกินไป ตกคืนละ 756.15 บาท สำหรับนอน 2 คน ไม่รวมอาหารเช้า ถ้ามาคนเดียว ก็ราคาเดียวกันค่ะ แต่ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามฤดูท่องเที่ยว
ห้องพักสะอาดสะอ้าน กว้างขวาง ไม่อึดอัดจนเกินไป WiFi เร็วแรงดี สิ่งอำนวยความสะดวกมีเท่าที่จำเป็นตามที่ระบุไว้ในเว็ปจองห้องพัก
มีที่สำหรับนั่งทำงานด้วย
สบู่เหลว ทิชชู ของใช้ในห้องน้ำ
มองจากระเบียงหน้าห้องพัก ก็เห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองที่โอบล้อมด้วยภูเขา สรุปโดยรวมของที่พักถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว
หลังจากที่เช็คอินน์เข้าห้องพักเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาออกมาเที่ยวในตัวเมืองเพชรบูรณ์เลยค่ะ มาดูสิว่าในเมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง
สถานที่แรกซึ่งหากใครแวะมายังเมืองเพชรบูรณ์ต้องไม่พลาด มาสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองก่อนเลย |
ว่ากันว่าเป็นเสาหลักเมืองแห่งเดียวในประเทศไทยที่ทำด้วยหิน และมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานเลยทีเดียว
สาระน่ารู้เกี่ยวกับศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเพชรบูรณ์ อ่านเป็นความรู้สักเล็กน้อย |
มีลักษณะเป็นศาลาทรงไทยตรีมุข ตกแต่งอย่างปรานีต สวยงาม โดยเป็นเสาหลักเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยที่ทำด้วยหิน อยู่ที่ถนนหลักเมือง ใจกลางเมืองเพชรบูรณ์ ตัวเลาหลักเมืองเป็นแท่งหินทรายสีเทา มีลักษณะปลายโค้งมน สันนิษฐานว่า น่าจะนำมาจากเมืองศรีเทพ ตั้งแต่ครั้งโบราณ และมาตั้งอยู่ที่วัดมหาธาตุก่อน แล้วจึงอัญเชิญมาตั้งเป็นเสาหลักเมืองเพชรบูรณ์เมื่อ พ.ศ.2443
ตัวเสาหลักเมืองเป็นแท่งเสาหินทรายสีเท่า |
หอวัฒนธรรมนครบาลเพชรบูรณ์ |
จุดถ่ายรูปที่ระลึกประติมากรรมมะขามหวานพันธุ์ หมื่นจง เพราะมะขามหวานหมื่นจงเป็นมะขามหวานพันธุ์แรกที่ปลูกในเพชรบูรณ์ |
และต้นเก่าแก่ดั่งเดิมนั้นอยู่ที่อำเภอหล่มเก่า มะขามหวานที่นิยมปลูกกันมากที่สุดในเพชรบูรณ์นอกจากพันธุ์หมื่นจงแล้ว ยังมีพันธุ์สีทอง ประกายทอง น้ำผึ้ง ศรีชมภู อินทผลัม ฯลฯ อีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวถัดมาซึ่งอยู่ใกล้ศาลหลักเมืองก็คือ หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย |
โดยเป็นหอที่จัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและโบราณคดีของจังหวัดเพชรบูรณ์ไว้ แบ่งพื้นที่การจัดแสดงเป็นโซนๆให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้
ก่อนเข้าชมทางเจ้าหน้าที่ก็มีแผ่นพับ 14 ที่เที่ยวประทับใจในเมืองเพชรบูรณ์ให้ด้วย ซึ่งทางเทศบาลได้จัดทำขึ้นให้แก่นักเดินทางที่แวะมาเที่ยวในเมืองเพชรบูรณ์ ได้นำไปเป็นคู่มือในการท่องเที่ยวค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในตัวเมืองเพชรบูรณ์ 14 แห่งได้แก่
1.ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
2.หอโบราณคดีเพ็ชบูรณ์อินทราชัย
3.ประติมากรรมมะขามหวานหมื่นจง
4.หอวัฒนธรรมนครบาลเพชรบูรณ์
5.หอเกียรติยศเพชบุระ
6.หอภูมิปัญญาและวิถีชาวบ้านเพชรบูรณ์
7.พุทธอุทยานเพชบุระ
8.วัดมหาธาตุ
9.วัดไตรภูมิ
10.กำแพงเมืองเก่าและหอนิทรรศน์กำแพงเมือง
11.วงเวียนอนุสรณ์นครบาลเพชรบูรณ์
12.หอนาฬิกาแชมป์โลกคู่แฝด
13.วัดเพชรวรารามพระอารามหลวง
14.สวนสาธารณะหนองนารี
ภายในห้องก็จัดแสดงเรื่องราวของเพชรบูรณ์ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์มาจนถึงยุคศรีเทพ
มีห้องวัดมหาธาตุ จัดเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสมัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี ห้องสมบัติเพชรบูรณ์ ห้องตำราพิชัยสงคราม
เมืองเก่าเพชรบูรณ์ในวันวาน |
มีรูปภาพเก่าๆของเมืองเพชรบูรณ์ให้ได้ชมย้อนวันวานอีกด้วย |
มีโซนห้องสมรภูมิเขาค้อและภาพเก่าๆในการสู้รบช่วงนั้นด้วย
ว่าด้วยเรื่องสมรภูมิเขาค้อ |
ปฐมบท พ.ศ.2508 ลัทธิคอมมิวนิสต์ ในรูปแบบองค์กรที่เรียกว่า พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย หรือ พคท. เริ่มแทรกซึมเข้าพื้นที่เขาค้อ หินร่องกล้า โดยขยายไปยังมวลชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐบาลและกลุ่มชนเผ่าต่างๆ
เมื่อแรกเริ่ม พคท. ได้อาศัยชนเผ่าม้งบางกลุ่มเป็นแกนน้ำในการขยายฐาน โดยวิธีการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อตอกย้ำการไม่ได้รบการดูและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐบาล ต่อต้านการปกครองเผด็จการในสมัยนั้น โดยมีการฝึกอาวุธและวางแผนยุทธศาสตร์อย่างเป็นระบบ ได้รับการช่วยเหลือจากต่างชาติที่ปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์เช่นเดียวกัน
โดยสถานการณ์ก่อการร้าย เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2508 จึงเกิดคำว่า ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) ขึ้นมาในขั้นต้นนั้น ผกค. เข้าแทรกซึมมาจากแนวชายแดนด้านทิศเหนือ และได้ยึดเอาภูหินร่องกล้าเป็นที่มั่น หลังจากนั้น ผกค. ได้ขยายงานรุกเข้าเขาค้อ เพื่อเตรียมสถาปนาเขาค้อให้เป็ฯฐานที่มั่นในการรุกต่อไป
ในวันจันทร์ที่ 20 ก.พ. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพร้อมด้วยพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ยังสนามบินเขาค้อ ต.นางั่น อ.เมืองเพชรบูรณ์ เสด็จไปทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์อาวุธสงครามแล้วเสด็จไปดำเนินไปทรงประกอบพิธิเปิดอนุสรณ์เขาค้อ
ห้องโซนประเพณีและวัฒนธรรม
จัดแสดงเรื่องราวของการแสดงวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของเมืองเพชรบูรณ์ไว้อย่างน่าสนใจ
หอเกียติยศเพชบุระ จัดแสดงนิทรรศการรวบรวมบุคคลสำคัญไว้ที่หอแห่งนี้ |
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ หอเกียติยศ เพชบุระ
แต่เดิมทีเป็นที่ตั้งของจวนข้าหลวงหรือผู้ว่าราขการจังหัดเพชรบูรณ์ โดยเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ได้ปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะกลางเมืองชื่อว่า "สวนสาธารณะเพชบุระ" เป็นชื่อเดิมของเพชรบูรณ์ตั้งแต่สมัยสุโขทัย ตามที่ปรากฎในจาลึกบนลานทองคำที่ค้นหบในกรุเจดีย์วัดมหาธาตุ
โดยอาคารจวนผู้ว่าเก่าให้ปรับปรุงทำเป็นหอเกียรติยศ รวบรวมประวัติบุคคลสำคัญของจังหวัดในด้านต่างๆ ทั้งประวัติศาสตร์ การเมือง การปกครอง การพัฒนาสังคม การกีฬา อริยสงฆ์ ปราชญ์ท้องถิ่น ผู้มีชื่อเสียงและผู้มีบทบาทสำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์
ภายในจัดแสดงในรูปแบบที่หลากหลาย มีทั้งหุ่นขี้ผึ้ง รูปหล่อครึ่งตัว รูปถ่าย ภาพจอคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสื่อผสมให้ได้ชมอย่างน่าสนใจ รวมทั้งจัดแสดงภาพเหตุการณ์สำคัญ ภายในอดีตของเพชรบูรณ์ไว้ด้วย
เดินมาห้องผู้ว่า ก็ตกใจอยู่ไม่น้อย เพราะหุ่นขี้ผึ้งทำซ่ะเหมือนเชียว แล้วอยู่ยิ่งเดินคนเดียวด้วย บางครั้งดิฉันก็กลัวเหลือเกินว่า หุ่นขี้ผึ้งเกิดมีชีวิตขยับตัวได้ขึ้นมา คงขวัญผวากันเลยเชียวค่ะ สำหรับการเดินเที่ยวชมถ่ายรูปได้ แต่ห้ามจับต้องหุ่นขี้ผึ้งนะคะ เดียวได้ไปจับ หุ่นเกิดขยับตัวได้ จะยุ่งเอานะ
หอภูมิปัญญาและชาวบ้านเพชรบูรณ์ อีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจ ต้องเดินแวะเข้าไปเดินชมและศึกษาดูกัน |
อีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจ ต้องเดินแวะเข้าไปเดินชมและศึกษาดูกัน
แต่เดิมเป็นอาคารสำนักงานเหล่ากาชาดเก่าที่อยู่ในบริเวณสวนสาธารณะเพชบุระ และได้ทำการปรับปรุงจัดเป็นหอแสดงภูมิปัญญาและวิถีชีวิตของคนเพชรบูรณ์ แบ่งเป็นเรื่องราวการทำมาหากินอาชีพดั้งเดิมของคนในเมืองนี้ด้วยกันถึง 6 เรื่องราว
โดยแบ่งเป็นโซนแสดงต่างๆในหอถึง 6 เรื่องราวได้แก่ ข้าว มะขามหวาน ข้าวโพด ใบยาสูบ การหาของป่า และวิถีชีวิตริมแม่น้ำป่าสัก พร้อมเครื่องมือทำมาหากินและเครื่องมือที่ใช้ในปัจจุบัน โดยจัดเป็นห้องนิทรรศการที่ทันสมัย สวยงาม ให้ได้ชมและถ่ายรูปได้ด้วย
อย่างเช่นห้องที่ดิฉันเดินเข้ามานี้ ก็เป็นห้องแสดงใบยาสูบ ก็เป็นใบยาสูบจริง กลิ่นของใบยาสูบตลบอบอวลทีเดียว
ห้องแสดงสัตว์ป่าก็มีเสียงสัตว์ป่า ร้องคำราม มีเสียงน้ำตก มีนก อยู่ในพงศาพนาไพร เหมือนว่าอยู่ในป่าจริงๆ ยังไงแล้วคงต้องให้คุณผู้อ่านลองแวะมาเที่ยวด้วยกันเอง น่าจะได้อรรถรสกว่าที่ดิฉันพรรณนาอย่างแน่นอน
เกี่ยวกับวัดมหาธาตุ เมืองเพชรบูรณ์ |
วัดคู่บ้านคู่เมืองเก่าแก่ที่สุดในเพชรบูรณ์ตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยด้านหลังมีพระเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์แบบสุโขทัย สูงประมาณ 8 วาเศษ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่าวัดนี้คงสร้างมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย และเมื่อปี พ.ศ. 2510 ทางกรมศิลปกรได้บูรณะพระเจดีย์องค์นี้ ได้ขุดพบลานทองจารึกในพระเจดีย์องค์ใหญ่หลังพระอุโบสถ และได้นำโบราณวัตถุที่บรรจุเจดีย์นั้นขึ้นมาด้วย มีสิ่งหนึ่งที่ได้มาพร้อมกับพระเครื่อง พระบูชา เป็นรูปช้าง รูปหมู ในท้องหมูมีลานทองจาลึกอยู่ 3 แผ่น มีข้อความตามจารึกว่า "พระเจ้าเพชรบุรเป็นลูกพระญาอนรงปรดิสถาแล" เขียน เป็นคำปัจจุบันได้ "พระ เจ้าเพชรบุรเป็นลูก พระยาอันรงประดิษฐานไว้"จึงทำให้เราทราบว่า"เพชรบูรณ์"แต่เดิมนั้นเป็น "เพชรบุร นั้นเอง
นอกจากนี้แล้วยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปศิลปะอู่ทองที่งดงาม 2 องค์ คือ หลวงพ่อพระงาม เป็นพระประธานในอุโบสถ และหลวงพ่อเพชรมีชัย ที่ตามพงศาวดารระบุว่า พระยาจักรี รัชกาลที่ 1 ในขณะนั้น ได้เคยมานมัสการในขณะเดินทัพมาพักที่เพชรบูรณ์ วัดมหาธาตุเป็นวัดที่อยู่ใจกลางเมือง มีความสำคัญต่อเมืองเพชรบูรณ์ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน
หลวงพ่อเพชรมีชัย ซึ่งตั้งอยู่ในวิหารหลวง วัดมหาธาตุ |
หลวงพ่อพระงามนั้น ตั้งอยู่ในพระอุโบสถ |
วัดไตรภูมิ อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่สำคัญยิ่งของจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยตั้งอยู่ริมกับแม่น้ำป่าสัก |
สารน่ารู้เกี่ยวกับวัดไตรภูมิ
วัดเก่าแก่กลางเมืองที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาและมีความสำคัญต่อจังหวัดเพชรบูรณ์อย่างมาก เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหาธรรมราชา พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือ เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง ปางสมาธิ หล่อด้วยสำริด ศิลปะสมัยลพบุรี หน้าตักกว้าง 13 นิ้ว และสูง 18 นิ้ว ไม่มีฐานหรือบัลลังก์ พระเศียรทรงชฎาเทริด มีกระบังหน้า ดูหน้าเกรงขาม เข้มขลังและงดงาม
วัดไตรภูมิ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหาธรรมราชา พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือมากที่สุด |
และในอดีตที่ท่าน้ำวัดไตรภูมิยังเป็นท่าน้ำที่เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นที่ตั้งของตลาดเก่าเมืองเพชรบูรณ์ เป็นท่าจอดเรือกระแซงบรรทุกสินค้าเพื่อแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้ากันมาแต่โบราณกาลด้วย
แม่น้ำป่าสักใกลกับวัด สถานที่เคยเป็นท่าน้ำอันสำคัญในอดีต
ใกล้ๆกับวัดไตรภูมิเดินข้ามสะพานแม่น้ำป่าสักมาอีกนิดเดียว ก็เป็นที่ตั้งกำแพงเมืองเก่าและหอนิทรรศการกำแพงเมืองเพชรบูรณ์ |
หลังจากที่ได้สักการะไหว้พระที่วัดไตรภูมิแล้ว ก็ขับมอเตอร์ไซต์แว๊นออกจากตัวเมืองมาที่พุทธอุทยานเพชรบุระ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในเมืองเพชรบูรณ์ซึ่งอยู่ติดกับถนนใหญ่ ซึ่งหากใครที่มาเยือนเมืองเพชรบูรณ์เป็นครั้งแรก ก็ต้องมาแวะกันแทบทุกคน
พระพุทธมหาธรรมราชาเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งสร้างจำลองมาจากพระพุทธมหาธรรมราชา พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเพชรบูรณ์ที่วัดไตรภูมิ |
นอกจากนั้นแล้ว ยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบิตร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ใน พ.ศ.2554 อีกด้วย โดยองค์พระหล่อด้วยโลหะทองเหลืองสัมฤทธิ์ หนักกว่า 45 ตัน ที่ปลายยอดจุลมงกุฎหล่อด้วยทองคำบริสุทธิ์หนัก 126 บาท องค์พระฯสูง 16.599 เมตร สูงจากพื้นดิน 35 เมตร ขนาดหน้าตัก 11.984 เมตร
สำหรับเพื่อนๆนักเดินทางคนใหนที่วางแผนจะมาเที่ยวเพชรบูรณ์ ต้องไม่พลาดแวะเข้ามาสักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคลและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไว้สักครั้ง และบริเวณโดยรอบเป็นสวนสาธารณะร่มรื่น มีที่จอดรถกว้างขวาง สะดวกสบาย
หลังจากที่ได้แวะไปชมพุทธอุทยานเพชรบุระแล้ว ไม่ไกลนักก็อย่าลืมแวะมาชมพระอาทิตย์ตกดินให้ฟินกระจายต่อที่สวนสาธารณะหนองนารี |
โดยเป็นแหล่งพันธุ์พืชประเภทบัวนานาชนิด และเป็นที่ตั้งของศูนย์วิทยาศาสตร์ด้านต่างๆ
ทั้งนี้เทศบาลเพชรบูรณ์ได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้ปรับปรุงภูมิทัศน์ ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว สถานที่ออกกำลังกาย สถานที่จัดงานประเพณีและกีฬา รวมทั้งกิจกรรมนันทนาการต่างๆ อีกทั้งยังมีหอนิทรรศการและจัดเก็บเรือยาวจังหวัดเพชรบูรณ์อีกด้วย
ชื่อที่มาของหนองนารี มีที่มาอย่างไร? |
สำหรับชื่อของหนองนารีนั้น มีที่มาจากการทำนาที่ได้รูปปั้นโค้งรีๆ ไม่ตัดตรงแบบคันนาที่อื่นๆ จึงเรียกว่าบ้านนารี ต่อมาเมื่อสมัยนครบาลเพชรบูรณ์ได้มีการสร้างถนนกั้นทางน้ำจนเกินเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ จึงเรียกชื่อว่า หนองนารี ตั้งแต่นั้นมา
พระอาทิตย์อัสดงลงแลลับสุดขอบฟ้า หมดเวลาไปอีก 1 วัน ช่างเร็วเหลือเกิน แต่ที่เพลิดเพลินจำเริญใจยิ่งนัก คงได้ออกมาพักผ่อนเปิดหู เปิดตาดูเมืองเพชรบูรณ์คราวนี้แล
เลาย้ำค่ำสนธยา มานั่งฟินๆ ริมหนองนารีนี้คงจักดี เผื่อว่าจะได้น้องนารีกลับไปเป็นคู่ครองด้วยอีกสักคน |
หอนาฬิกาแชมป์โลกคู่แฝด ยามค่ำสนธยา |
โดยเป์นอนุสรณ์ให้แก่แชมป์โลกคู่แฝดชาวเพชรบูรณ์ เขาค้อและเขาทราย แกแลคซี่ โดยทั้งสองคนได้สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นอย่างมากจนโด่งดังไปทั้วประเทศ ในฐานะที่แชมป์โลกคู่แฝดในเวลาเดียวกัน
วงเวียนอนุสรณ์นครบาลเพชรบูรณ์ |
ตลาดโต้รุ่งเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ |
ปลาปิ้งสดๆ รสชาติน่าจะอร่อยทีเดียว
เดินไปหน่อยตรงวงเวียนน้ำพุนครบาล มีร้านขายก๋วยเตี๋ยวคั่วอยู่ตรงฟุตบาล และมีลูกค้ายืนรอเข้าคิวสั่งกันเยอะเชียว ดิฉันไม่รอรี ต้องลิ้มลองทานสักครั้ง
เย็นนี้เลยขอจัดมานั่งซัด ก๋วยเตี๋ยวคั่วหมูกรอบ กลิ่นหอมหวนรัญจวนใจ |
เหมือนน้องหมากังจะร้องให้ มีน้ำตาปริ่มๆคลอเบ้าอยู่ เพราะมองหาเจ้าของอยู่ ไม่รู้เจ้าของไปอยู่ใหน มารับน้องหนูที |
ก่อนจะกลับไปยังที่พัก ก็มาชะแว๊ปแวะเดินช๊อปปิ้ง หาของกินต่อที่ตลาดไนท์ |
จากนั้นก็เดินทางกลับที่พักผ่อน จบทริปหมดไป 1 วัน
--------------------------------------------------------------------------------------------------
อรุณเบิกฟ้านกกาโบยบินกับเช้าวันใหม่ อากาศเย็นชื่นรื่นฤทัย สดใสสบายกายยิ่งนัก
เพราะอากาศไม่ได้ร้อนเว่อร์จนเกินไป ถือเป็นการเริ่มต้นวันใหม่อีกวัน
ดิฉันเช็คเอาท์ออกจากที่พักแต่เช้าเลยค่ะ เพื่อเตรียมตัวขับมอเตอร์ไซต์แว๊นๆไปอีกไกล
เดินทางเข้ามาในตัวเมืองหาอะไรกินก่อนเลย จะได้มีแรง
เช้านี้ดิฉันเลยขอมาลิ้มลองทานข้าวมันไก่ทอดเจ๊แกะสักครั้ง พอดีค้นหาร้านอร่อยๆในเว็ปไซต์ มีร้านข้าวมันไก่ของเจ๊แกะ ติดอยู่ในเว็ปไซต์ด้วย เลยมาลิ้มลองทานดูสิ
เช้านี้เติมพลังแวะมาทานข้าวมันไก่เจ๊แกะ ในเมืองเพชรบูรณ์ |
ทานข้าวมันไก่ยังไม่อิ่ม ขอมาแวะเติมไขมันในเส้นเลือดต่อ ด้วยขนมหวานๆค่ะ ซื้อตุนไปทานระหว่างทานเผื่อหิว ขนมเค้กเบเกอรี่อร่อยๆ
จัดกระเป๋าข้าวของให้พร้อม ค่อนข้างพะรุงพะรังเป็นใยป้าบ้าหอบฝางมากๆค่ะ เพราะดิฉันก็บ้าซื้อโน้นนี้นั้นตลอด
กินอาหารมื้อเช้าแล้ว ก็แว๊นๆมุ่งหน้าไปยังภูทับเบิกต่อเลยค่ะ เป็นอันจบทริปกับการเที่ยวในตัวเมืองเพชรบูรณ์ |
สำหรับเพื่อนคนใหนๆที่จะวางแผนมาเที่ยวเพชรบูรณ์ ก็ลองแวะมาเช็คอินน์ไหว้พระ เดินชมพิพิธภัณฑ์ในเมืองนี้ดูสักครั้ง ดิฉันรับรองว่าได้ความรู้กลับไป แถมยังได้ลิ้มลองทานอาหารอร่อยในเมือง ซึ่งมีอาหารหลากหลายแบบให้ทานมากมายเชียวค่ะ
และทริปรีวิวถัดไป ดิฉันจะขอพาเพื่อนๆคุณผู้อ่านไปย้อนวันวาน แวะเที่ยวภูทับเบิกและเขาค้อ นอนกางเต็นท์รอชมทะเลหมอกกันค่ะ หลังจากที่ไม่ได้มาเที่ยวเขาค้อและภูทับเบิกนานมากๆ ...สำหรับรีวิวเที่ยวเมืองเพชรบูรณ์ก็ขอจบเพียงเท่านี้ ไว้พบกันในใหม่ในเว็ปบล็อกถัดไป ขอบพระคุณค่ะ....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
--------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ
มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองนครสวรรค์ใน 1 วัน ยลสุขสันต์เมืองชุมทางสี่แคว คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวแบกเป้เที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิกอีกครั้ง ไปดูสิว่ายังสวยปังอยู่ใหม๊ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รวมจุดกางเต็นท์ในอำเภอเขาค้อ วิวทะเลหมอกสวยๆ คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
หรือดูข้อมูลได้ที่เว็ปไซต์ : https://khao-kho-tent-locations-camping-hotels-resort.html
แบ่งปันภาพแผนที่เขาค้อ ที่พัก จุดชมวิว ร้านอาหาร ร้านคาแฟ่ คลิ๊กดูข้อมูลค่ะ>> |
ประโยคภาษาอังกฤษง่ายๆ ใช้กับรถโดยสารประจำทาง คลิ๊กดูรายละเอียด>> |
รีวิวงานอุ่นไอรักคลายความหนาวครั้งที่ 2 มาดูสิว่ามีอะไรเดินย่องกันบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวแบกเป้เที่ยวเชียงคำ-งามล้ำทะเลหมอกภูลังกา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยว เช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวเมืองพะเยา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยว มาเน้อมาเที่ยวเมืองแพร่ แลยลชมธรรมชาติ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
มาเด้อ..มาเที่ยวศรีสะเกษ แดนดงดอกลำดวน หอมหวนกระเทียมดี คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูรีวิวการเดินทางได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2QngTUm
มาม๊ะ..แวะมาเที่ยวเมืองสุรินทร์ ชมถิ่นช้างใหญ่ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
0 ความคิดเห็น