Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

มาม๊ะ..มาเที่ยวพะเยา เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับไปแบบชิลๆ นอนดูวิวริมกว๊าน นมัสการพระเจ้าตนหลวง ชมพุ่มพวงริมน้ำ งามสะท้านถึงทรวงใน

ต่อจากตอนที่แล้ว บล็อกวันนี้เลยขอจรลี แบกเป้หนีมาแอ่วเมืองพะเยา แวะคลอเคล้าริมกว๊าน นมัสการพระเจ้าตนหลวง ชมพุ่มพวงริมน้ำ งามสะท้านถึงทรวงใน
สวัสดีค่ะเพื่อนๆผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้นกันทุกๆคน หลังจากที่บล็อกรีวิวก่อนหน้า ดิฉันเองได้พาเพื่อนแบกเป้ไปเที่ยวเมืองแพร่ แวะแลชมธรรมชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆจนเบิกบานฤทัย งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนกันไปแล้ว ทั้งนี้คุณผู้อ่านทุกท่านสามารถเข้าไปดูรีวิวเที่ยวเมืองแพร่ก่อนหน้าได้ที่เว็ปไซต์ลิงค์ : http://bit.ly/2RvacQE

เข้ามาสู่รีวิวบล็อกนี้ ดิฉันคุณนายเว่อร์ เธอเลยก็ขอเป็นคนบ้า อยากจะพาเพื่อนๆแวะไปเยือนเมืองพะเยากันจ้า เมืองที่หลายๆคนมองเห็นเป็นแต่ทางผ่าน คิดว่าคงไม่มีอะไรแน่ๆ แต่จริงๆแล้วในพะเยาแห่งนี้ มีอะไรที่ซ่อนอยู่ให้ไปจุ๊กกรูกันอยู่ไม่น้อยเลยนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากใครที่เดินทางผ่านพะเยา คงจะต้องเห็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา ซึ่งนั้นเป็นที่ตั้งของกว๊านพะเยา ที่หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตของชาวเมืองแห่งนี้มาช้านาน และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ เต็มด้วยทัศนียภาพที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งด้วย มีคนบอกว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ไฉนเลยจะสวยเท่าของจริง ว่าแล้วก็ต้องไปเยือนแวะชมด้วยตาตัวเองครั้งครา ซ่ะแล้วสิ

มาม๊ะ..วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ เพื่อนคนใหนที่อยากจะจรลีจากงานประจำ หรือเปลี่ยนบรรยากาศกับการนั่งนอนอยู่ที่บ้าน ก็ออกแวะมายลตระการเมืองพะเยาสักครั้ง ดิฉันรับรองว่ามีที่เที่ยว ถ่ายรูปให้สวยปัง อลังถึงใจอย่างแน่นอนเลยล่ะค่ะ
จังหวัดพะเยา (Phayao)
เปิดกรุหยิบอนุสารเก่า อสท.ปี พ.ศ.2521(Year1978) ออกมาอ่าน ซึ่งเป็นฉบับแนะนำจังหวัดพะเยาทั้งเล่มยุคแรกๆ ก็เลยอยากจรลีมาเที่ยวเมืองนี้สักครั้งครา น่าจะชื่อฉ่ำอุราไปถึงทรวงในไม่น้อยทีเดียว
พอดีได้เปิดกรุ หยิบอนุสารเล่มเก่า อสท.ปี พ.ศ.2521(Year 1978) ออกมาอ่านซึ่งเป็นฉบับแนะนำเมืองพะเยายุคแรกๆก็ว่าได้ พอได้อ่านแล้วก็เกิดนึกพรรณาอยากตามคนเขียนในยุคนั้น มาพัวพัวเที่ยวทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้นดูสักครั้ง อนุสารก็เก่ามากๆ เปิดอ่านก็ต้องค่อย เพราะกระดาษกรอบไปเสียหมดแล้ว ตามอายุขัย
ภาพตรงกลางเล่ม ที่เห็นเป็นต้นไม้ตอใหญ่ริมกว๊านพะเยาเมื่อปี2521 ดิฉันไปถามผู้เฒ่าผู้แก่คนในยุคนั้น ก็บอกว่าไม่มีให้เห็นแล้วล่ะค่ะ
ส่วนด้านในภาพตรงกลางเล่ม ที่เห็นเป็นต้นไม้ตอใหญ่ริมกว๊านพะเยาเมื่อปี2521 ดิฉันไปถามผู้เฒ่าผู้แก่คนในยุคนั้น ก็บอกว่าไม่มีให้เห็นแล้วล่ะค่ะ เนื่องจากถูกโค่นทิ้งไปตั้งนานแล้ว ถ้ายังอยู่นี้ถือว่าเป็นต้นไม้ที่แข็งแกร่งมากๆเลยทีเดียว


เอ้าล่ะค่ะ เมื่อให้เสียเวลากับการพร่ำเพร้อพรรณากับบ่นแบบบ้าๆไปมากกว่านี้ ดิฉันขอพาคุณผู้อ่าน ไปตะแล๊ดแต๊ดแต๋เที่ยวเมืองพะเยากันเลย

ก่อนจะเข้าสู่รีวิว เรามารู้จักเมืองพะเยากันสักเล็กน้อย อ่านเป็นความรู้กันค่ะ

คำขวัญประจำจังหวัด : กว๊านพะเยาแหล่งชีวิต ศักดิ์สิทธิ์พระเจ้าตนหลวง บวงสรวงพ่อขุนงำเมือง งามลือเลื่องดอยบุษราคัม

พะเยาอีกหนึ่งเมืองทางภาคเหนือของประเทศไทย ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน ซึ่งแต่เดิมนั้น พะเยาอยู่ใต้การปกครองของจังหวัดเชียงรายในฐานะ อำเภอพะเยา และเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2520 อำเภอพะเยาได้ยกฐานะขึ้นเป็น จังหวัดพะเยา นับเป็นจังหวัดที่ 72 ของประเทศไทย
บริเวณริมกว๊านพะเยา (Phayao Lake)
และบริเวณที่ตั้งของตัวเมืองพะเยาในปัจจุบัน อยู่ติดกับกว๊านพะเยา เดิมเป็นที่ตั้งของเมือง ภูกามยาว หรือ พะยาว ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อพุทธศตวรรษที่ 16 โดยกษัตริย์องค์แรกคือ พญาจอมธรรม ซึ่งเป็นราชบุตรองค์หนึ่งจากเมืองหิรัญนครเงินยางเชียงแสน และเป็นบรรพบุรุษของกษัตริย์เมืองพะยาวอีกหลายองค์ เช่น พญาเจือง วีรบุรุษแห่งเผ่าไท-ลาวในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง และพญางำเมืองซึ่งได้กระทำสัตย์สาบานเป็นไมตรีต่อกันกับพญามังรายแห่งนครพิงค์เชียงใหม่ และพญาร่วงรามคำแหงแห่งสุโขทัย ภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจ และตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของอาณาจักรล้านนา ในสมัยพญาคำฟู

และเมื่อถึงสมัยยุคกรุงรัตนโกสินทร์ ใน พ.ศ. 2386 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 3 เมืองพะเยานั้นก็ถูกตั้งขึ้นใหม่พร้อมเมืองเชียงรายและเมืองงาว เพื่อเป็นเมืองหน้าด่านต่อตีกับกองทัพพม่าที่ตั้งอยู่ที่เมืองเชียงแสน โดยให้เมืองพะเยาขึ้นตรงต่อ นครลำปาง (พื้นที่บางส่วนของจังหวัดพะเยาปัจจุบัน ได้แก่ อำเภอเชียงม่วน อำเภอปง อำเภอเชียงคำ และอำเภอภูซางขึ้นตรงต่อนครน่าน)
เครดิตข้อมูลดีมีสาระจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/จังหวัดพะเยา

หลังจากที่ได้รู้จักพะเยากันไปแล้ว ดิฉันก็ขอมาเป็นคนบ้า มาเขียนรีวิวเที่ยวพะเยาให้เพื่อนสไลด์ดูรูปกันได้เลยค่ะ รูปภาพอาจไม่สวยเท่าของจริงนะคะ เพราะไม่ได้ตกแต่งดึงสีสันประการใด ถ้าอยากเห็นภาพสวยจริง ต้องมาดูด้วยตาตัวเองยังสถานที่จริงเลยจ้า
รีวิวทริปนี้ต่อจากตอนที่แล้ว : http://bit.ly/2RvacQE นั่งรถตู้โดยสารจากเมืองแพร่มายังพะเยา
จากที่กล่าวเบื้องต้น รีวิวทริปนี้ต่อจากตอนที่แล้ว : http://bit.ly/2RvacQE
เริ่มต้นการเดินทางมาพะเยา ดิฉันนั่งรถตู้โดยสารจากเมืองแพร่มายังพะเยาก็เป็นเวลาช่วงบ่ายแก่ๆจวนจะเย็นแล้วล่ะค่ะ
รอเวลารถตู้ออกอยู่ไม่นานนัก ฝนก็กรูตกลงมาจากฟากฟ้า ประดาดังอลังหนักมากๆ ดิฉันเองไม่ได้พกร่มและเสื้อกันฝนมาด้วยสิ ถ้าตกยาวไปถึงพะเยา คงเปียกปอนเป็นแน่แท้
ค่าตั๋วรถตู้หนานคำนั่งจากแพร่-มาที่พะเยา ค่าเสียหาย 102 บาทจ้า
นั่งรถตู้จากเมืองแพร่ แลดอยสีเขียวๆ เลี้ยวลงหน้า ม.พะเยา
นั่งรถโดยสารจากเมืองแพร่ มาเรื่อยๆ ก็มาลงที่วินท่ารถตู้หน้า ม.พะเยา เพื่อมาเช่ารถมอเตอร์ไซตที่นี้ค่ะ เนื่องจากได้ติดต่อกับร้านไว้แล้ว
โดยร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ก็อยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับวินท่ารถตู้มาหน่อยคะ แต่จะอันตรายตรงที่จะต้องข้ามถนนเนี่ยแหละ เพราะรถราก็มากโขอยู่ ดิฉันเลือกเกาะกลุ่มเดินข้ามกับเด็กนักศึกษาไป ดูแล้วตัวเองละอ่อนขึ้นเยอะเลย ร้านเช่ารถอยู่ติดกับร้านนกน้อย ขายเครื่องเขียน
หากเพื่อนๆคนใหนที่เป็นคนเที่ยวสายลุยแบบคุณนายเว่อร์ ก็มาเอ๋อเหรอ ปรนเปรอเช่ารถมอเตอร์ไซต์ที่หน้า ม.พะเยาได้เลยนะคะ หรือจะเช่ารถเก๋ง รถกระบะ ก็มีให้เช่าเหมือนกัน แต่เสียดายไม่มีรถซาเล้งให้เช่า ส่วนเบอร์โทรร้านเช่า สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 065-0561653 หรือเข้าไปสอบถามใน facebook ได้เลยค่ะ ค้นหาใน Google พิมพ์ว่า รถเช่าพะเยา ก็โชว์หลาบนหน้าเว็ป
เช่ารถมอเตอร์ไซต์ที่หน้า ม.พะเยา ค่าเช่าวันละ 300 บาท
สำหรับค่าเช่ารถมอเตอร์ไซต์ ดิฉันเลือกใช้รถเกียร์ธรรมดา ขับออกนอกเมืองด้วย
ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซต์ ตกวันละ 300 บาท
ค่ามัดจำรถ 500 บาท
เมื่อได้มอเตอร์ไซต์แล้วก็ Let's go เฮโลไปเที่ยวกันได้เลยจ้า
ตอนแรกกะว่าจะขับรถมาให้ทันเวลาพระอาทิตย์อัสดงลงแลลับริมสุดขอบฟ้าที่ริมกว๊านพะเยา แต่เสียดายมาไม่ทันซ่ะแล้ว
 ขับรถมอเตอร์ไซต์จาก ม.พะเยาเข้ามาในตัวเมืองระยทางทางประมาณ 20 กิโลเมตร ตอนแรกกะว่าจะมาให้ทันเวลาพระอาทิตย์อัสดงลงแลลับริมขอบฟ้าที่ริมกว๊านพะเยา แต่เสียดายมาไม่ทันซ่ะแล้ว พระอาทิตย์ตกดินไปเสียก่อน เพราะมั่วแต่เอ้อระเหยลอยลมอยู่ หน้า ม.พะเยา
ใหนๆก็มาถึงกว๊านพะเยาแล้ว ก็มารู้จักกว๊านพะเยากันสักเล็กน้อย...ว่ากันว่าหากใครมาพะเยาและมาแวะมาชมกว๊านพะเยา ถือว่ามาไม่ถึงเมืองพะเยาเลยนะคะ ถือเป็นกิมมิคที่เที่ยวชื่อดังเลย

สาระน่ารู้เกี่ยวกับกว๊านพะเยา อ่านเป็นความรู้กันจ้า

สำหรับกว๊านเป็นทะเลสาบน้ำจืดใหญ่เป็นอันดับ 1 ในภาคเหนือ และ อันดับ 4 ของประเทศไทย (รองจากบึงบอระเพ็ด, หนองหาน และบึงละหาน) ซึ่งคำว่า "กว๊าน" ตามภาษาพื้นเมืองเหนือ หมายถึง "บึง" เกิดขึ้นจากกรมประมงได้ทำประตูกั้นน้ำไว้เพื่อให้ราษฎรมีน้ำใช้ในฤดูแล้ง และในฤดูฝนก็กั้นไม่ให้น้ำไหลแรงไปท่วมเรือกสวนไร่นาที่อยู่ปลายน้ำ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองพะเยา มีทิวเขาเป็นฉากหลังสวยงาม

และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาต่างๆ ทัศนียภาพโดยรอบกว๊านพะเยา มีส่วน ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ที่สวยงามประทับใจผู้พบเห็น จนอาจจะกล่าวได้ว่าหัวใจของเมืองพะเยาอยู่ที่กว๊านพะเยานี่เอง และด้วยความสมบูรณ์ของพันธุ์ปลาที่กว๊านพะเยา ทำให้เป็นแหล่งที่ผลิตปลาส้มรายใหญ่และขึ้นชื่อ จนกลายเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของจังหวัดพะเยา
บรรยากาศยามพลบค่ำที่อัสดงลงแลลับไปแล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังขยันนั่งตกเบ็ดหาปลากันอยู่ ดูแล้วในน้ำแห่งนี้มีปลาให้ตกกินอย่างคณานับเชียวล่ะ
โดยบริเวณ ริมกว๊านพะเยาเป็นร้านอาหารและสวนสาธารณะให้ประชาชนพักผ่อนหย่อนใจ กว๊านพะเยาในอดีตแต่เดิมเคยเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำมีสายน้ำอิงไหลพาดผ่านคดเคี้ยวทอดเป็นแนวยาวไปตลอด จากทิศเหนือจรดขอบกว๊านฯ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประกอบกับมีหนองน้ำน้อยใหญ่หลายแห่ง และร่องน้ำหลายสายที่ไหลลงมาจากขุนเขาดอยหลวงแล้วเชื่อมติดต่อถึงกัน ทำให้พื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำแห่งนี้จึงมีความอุดมสมบูรณ์ยิ่งนัก มีผู้คนเข้ามาตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่เป็นชุมชนนานนับตั้งแต่โบราณ เป็นแหล่งน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวเมืองพะเยามายาวนาน
ทัศนียภาพโดยรอบริมกว๊าน ก็ประดับประดาไปด้วยโคมไฟแบบล้านนา
ควันหลงงานกระทงที่นี้ยังมีอยู่ให้ได้สัมผัส ถ้าเป็นที่อื่นคงเงียบเหงาไปล่ะ
แม้งานยี่เป็งหรืองานลอยกระทงจะจบไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน แต่ที่นี้ยังมีกระทงเรียงราย วางขายให้ผู้ที่แวะเวียนไปมาได้อุดหนุนแม่ค้า เอาไปลอยริมน้ำกัน
ละอ่อนน้อยก็สนุกสนานกับการเล่นไฟ เลยเป็นที่มาของงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ ก็มาจากด้วยเหตุนี้เอง
การลอยโคมก็เป็นที่นิยมทางภาคเหนือ
และพลาดไม่ได้อีกอย่างหากมาเยือนพะเยา ก็ต้องมากราบสักการะบูชา อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่สร้างเมืองพะเยาแห่งนี้ขึ้นมาแต่โบราณกาลมาแล้ว ซึ่งสมัยก่อนเมืองพะเยาแห่งนี้ เป็นเมืองภูกามยาว
สาระน่ารู้เล็กน้อยๆเกี่ยวกับ พ่อขุนงำเมือง หรือ พญางำเมือง
สาระน่ารู้เล็กน้อยๆเกี่ยวกับ พ่อขุนงำเมือง หรือ พญางำเมือง

อนุสาวรีย์พญางำเมือง อดีตกษัตริย์ผู้ปกครองเมืองภูกามยาว (พะเยา) ประดิษฐานอยู่ที่สวนสาธารณะ เทศบาลหน้ากว๊านพะเยา เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2524 เสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2527 พญางำเมืองเป็นพระสหายร่วมน้ำสาบาน กับ พญามังรายอดีต กษัตริย์เมืองเชียงราย และพระร่วงเจ้า แห่งกรุงสุโขทัย ซึ่งทั้งสามกษัตริย์ได้ทรงกระทำสัตย์ต่อกัน ณ บริเวณน้ำแม่อิง ซึ่งปัจจุบันอยู่บริเวณกว๊านพะเยา ปัจจุบันได้จัดเป็นอนุสาวรีย์ให้นักท่องเที่ยวได้มาสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล
 และไม่ไกลนักจากอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง ขับรถลัดเลาะเลียบริมกว๊านมาหน่อยในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ ก็มีตลาดนัดถนนคนเดินให้แวะได้เพลิดเพลินช๊อปปิ้งกันอีกด้วย
 ภายในตลาดก็มีของกินให้เลือกรับประทานมากมาย ทั้งของคาว ของหวาน และของฝากของแห้ง ร้อนแรงจับใจเลยทีเดียว
 ชะแว๊ปแวะมาเห็นป้าทำขนมรังผึ้งขายก็น่าทานดี ตกชิ้นละ 5 บาท
 คุณป้ากำลังบรรจงปิ้งกับเตาถ่าน
มองไปเห็นอีกขนมชนิดนึงห่อใบตองไว้ คิดว่าขนมกล้วย เปิดออกมา คุณป้าบอกว่าเป็น ขนมเกลือ...ดิฉันเองก็พึ่งได้ยินชื่อครั้งแรก น่าจะเป็นขนมพื้นถิ่นที่นี้กระมัง ลองชิมดูแล้ว รสชาติออกเค็มหวานหน่อยๆ อารมณ์เหมือนทาน แป้งห่อขนมใส่ใส้เลย อะไรประมาณนั้นค่ะ ...ดิฉันได้เห็นดังนี้ก็ต้องช่วยอุดหนุนคุณป้าเลยค่ะ เพราะขายถูกเหลือเกิน
 หลังจากที่ได้เดินช๊อปปิ้งซื้อของกินเล็กๆน้อยๆที่ถนนคนเดินสุดสัปดาห์ริมกว๊านพะเยาแล้ว ก็มารับประทานอาหารเย็นที่ร้านน้องอิง ซึ่งเป็นร้านอาหารอยู่ติดเลียบถนนริมกว๊าน ไม่ไกลจากถนนคนเดิน
 มื้อนี้จัดเต็มมาก เป็นมื้อที่พิเศษสุดล่ะ เพราะก่อนหน้าก็กินแต่แกงถุง มื้อนี้มาทานร้านอาหาร สั่งมาถ้วยใหญ่เลยจ้า เป็นต้มยำปลาคัง
ตอนแรกว่าจะสั่งเพิ่มอีก แต่เห็นชามนี้มาเสริฟซ่ะใหญ่เชียว ดิฉันเห็นอาหารมาเสริฟแล้ว หากจะสั่งเพิ่มเกรงจะทานไม่หมดแน่ๆ เลยทานอย่างเดียวแล้วกัน แค่นี้ก็อิ่มแล้ว ใหนขนม นมเนย ผลหมากรากไม้ที่ซื้อมาจากตลาดถนนคนเดินอีก อิ่มพุงปลิ้นไปเลยล่ะ
ค่าเสียหายที่ร้านอาหารน้องอิง
ต้มยำปลาคัง 120
ข้าวสวยรวยระกา 10 บาท
น้ำ 10 บาท
รวมค่าเสียหายทั้งหมดก็ 140 บาทจ้า
หลังจากทานข้าวเย็นจนอิ่ม ก็เดินทางมายังที่พัก โดยที่พักคืนนี้ ดิฉันพักที่โรงแรม ดีดีการ์เด้นโฮม รีสอร์ท ซึ่งเป็นที่พักเปิดใหม่ในพะเยา ก็เลยลองมาพักดู แต่ข้อเสียโรงแรมอยู่ไกลตัวเมืองออกมาหน่อยประมาณ 6 กิโลเมตรได้กระมัง โรงแรมอยู่ติดเส้นถนนทางไปเชียงราย หาง่ายไม่ต้องเข้าซอกซอยให้เวียนหัว
 ห้องพักที่นี้เป็นแนวรีสอร์ท ออกแบบบังกะโล
เช็คอินน์ที่พักคืนนี้ ค้างแรมที่โรงแรม ดีดีการ์เดนโฮม พะเยา คืนละ747 บาทรวมอาหารเช้า
ห้องพักตกคืนละ 747 บาทรวมอาหารนอนได้ 2 คน แต่ถ้ามานอนคนเดียวก็ราคาเดียวกันค่ะ
ส่วนสภาพห้องพักโดยรวมถือว่าดีทีเดียว ห้องดูกว้างๆมากๆ มีโซฟาเล็กๆให้นั่งพักผ่อนด้วย
เตียงนอนนิ่มกำลังดี ไม่แข็งหรือบุ๋มยุบจนเกินไป 
 มีทีวี ตู้เย็น ทีวี แอร์ น้ำดื่มฟรีสองขวด
 ห้องน้ำในตัว มีโซนอาบน้ำเป็นตู้กระจกแยก ดูใหม่เอี่ยมเชียว
กุญแจห้องพักแบบคีย์การ์ด
 สรุปโดยรวมถือว่าดีเยี่ยมทีเดียว ชอบตรงที่ห้องค่อนข้างกว้างขวาง ไม่แออัดเหมือนโรงแรมที่อยู่บนตึกและมีโต๊ะนั่งทำงานให้ด้วย
หากเพื่อนๆคนใหนที่อยากพักผ่อนแบบห้องกว้าง ก็มาพักที่นี้ได้นะคะ แต่ต้องมีรถส่วนตัว ขับเลยออกเมืองมาหน่อย ที่พักอยู่ติดริมถนนทางหลวงใหญ่เส้นที่จะวิ่งไปเชียงรายเลย จบทริปวันนี้หมดไป 1 วันทั้งทริปเที่ยวแพร่ และมาคลอเคล้าเมืองพะเยายามเย็น
-----------------------------------------
อรุณเบิกฟ้า นกกาไม่เห็นโบยบิน.....เช้าวันใหม่ในพะเยา เปิดประตูห้องออกมาก็เต็มไปด้วยหมอกขาว พราวสะท้านไปทั่วรอบบริเวณ
 แวะเดินเล่นออกมาเห็นรถยนต์เด็กๆเล็กๆน่ารักเชียว
 ส่วนอาหารเช้าในโรงแรมดีดีการ์เดนส์ โฮมมีอะไรบ้างมาดูสิ
 อาหารเช้าที่นี้จัดเป็นชุด ต้องสั่งทาน มีอาหารหลักเลือกได้ 1 อย่าง ข้ามต้มหมู กุ้ง หรือปลา และอาหารสไตล์อเมริกัน,ข้าวใข่เจียว และโรตีไข่ เลือกได้สัก 1 อย่างค่ะ ใครชอบทานแบบใหน ก็สั่งทานได้เลย
 ส่วนขนมปัง ซีเรียลธัญพืช โยเกิร์ต และเครื่องดื่มก็เสริฟบริการได้ด้วยตัวเองเลยจ้า
มื้อเช้านี้ดิฉันเลยจัดเบาๆไปเต็มน้ำตาลลงในเส้นเลือดหน่อย เป็นโรตีไข่ ราดนมข้น เห็นแล้วเยิ้มเชียว ใครเป็นเบาหวาน รับประทานไม่ได้แน่ๆ น้ำตาลพุ่งแรง
ทัศนียภาพโดยรอบที่พักก็ร่มรื่น ชื่นฤทัยดีเหลือเกิน ดูกว้างขวาง บรรยากาศดี มีหมอกขาวปกคลุมไปทั่ว
การจัดตกแต่งสวนหย่อม มีน้ำตก มีดอกม้ง ดอกไม้ งามขนาดเจ้า
 ทานอาหารเสร็จก็ปั่นจักรยานของโรงแรมมาทางด้านหลังเพื่อชมบรรยากาศริมน้ำอิง
 แต่บรรยากาศก็ตามภาพที่เห็น ขาวโพลนไปด้วยหมอกหนาเชียว อากาศเย็นเช้านี้ก็เย็นดีทีเดียวค่ะ
หลังจากไปปั่นจักรยาน ออกกำลังกายพอสลายไขมันและให้ร่างกายได้อบอุ่นแล้วเล็กน้อย ก็ได้เวลาเช็คเอาท์ออกจากที่พักเพื่อไปเที่ยวแล้ว
ผนที่ท่องเที่ยวในจังหวัดพะเยา แวะไปคลอเคล้ากันได้นะคะ
ดูรูปตามแผนที่แล้ว  ในพะเยาก็มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้ไปเดินพร่างพราย สะหยายผมโป่งอยู่ไม่น้อยทีเดียวเลยนะ
 สถานที่ท่องเที่ยวแรกเช้านี้ที่แวะมาก็คือ มาถ่ายรูปชมบรรยากาศริมกว๊านพะเยาก่อนเลยค่ะ เนื่องจากเมื่อคืนชมบรรยากาศตอนเย็นไปแล้ว ก็มาดูภาพกว๊านพะเยาตอนกลางวันบ้าง
ภาพบรรยากาศกว๊านท้องฟ้าแจ่มใสยิ่งนัก แดดทอส่องแสงประกายร้อนแรงพร่างพรายยิ่งนัก
ทัศนยภาพกว๊านพะเยา รายล้อมไปด้วยหุบเขาเหลาดอยสีเขียวของเทือกเขาผีปันน้ำ
มองไปยังเวิ้งน้ำอันกว้างใหญ่ สุดลูกหูลูกตา รายล้อมไปด้วยหุบเขาเหลาดอยสีเขียวของเทือกเขาผีปันน้ำ ซูมกล้องไปไกลลิ่บๆ ก็มีชาวบ้านออกเรือหาปลา เป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ดูแล้วสบายใจยิ่งนัก
บริเวณโดยรอบริมกว๊านก็จัดตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับ เหมาะเป็นสถานที่อันน่าอภิรมย์ แก่การพักผ่อนหย่อนใจต่อผู้ที่มาทัศนาจร
อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง
และไม่พลาดต้องมาสักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง
หลังจากนั้นก็แวะมายังวัดศรีโคมคำ วัดดังในเมืองพะเยา
 หลังจากที่ได้แวะพักนั่งชมบรรยากาศริมกว๊านพะเยาแล้ว ก็แวะมายังวัดศรีโคมคำ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาดเมื่อมาเยือนพะเยา เพราะเป็นที่ตั้งของพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนี้มายาวนาน นั้นก็คือ พระเจ้าตนหลวง
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ วัดศรีโคมคำ
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ วัดศรีโคมคำ (วัดพระเจ้าตนหลวง)

วัดศรีโคมคำ หรือวัดพระเจ้าตนหลวง ตั้งอยู่ริมกว๊านพะเยา เขตเทศบาลเมืองพะเยา พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดมหานิกาย ภายในวิหารประดิษฐานพระเจ้าตนหลวงเป็นพระประธาน สร้างขึ้นในรัชสมัยของพญายอดเชียงราย กษัตริย์ลำดับที่ 10 แห่งราชวงศ์มังราย

วัดศรีโคมคำเป็นวัดที่สร้างขึ้นภายหลังจากการก่อสร้างพระเจ้าตนหลวง ตัววิหารหลังเดิม ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าผู้ใดสร้าง เนื่องจากเมืองพะเยามีการอพยพผู้คนจากภัยสงคราม ทำให้ตัวเมืองถูกปล่อยร้าง จนกระทั่งมีการฟื้นฟูเมืองขึ้นมาใหม่ หลังยุคที่กรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์ ตีเอาล้านนามาจากพม่า มาจนถึงช่วงที่พระยาประเทศอุดรทิศ เป็นผู้ครองเมืองพะเยาคนสุดท้าย ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนระบบการปกครองแบบหัวเมือง มาเป็นมณฑลเทศาภิบาลในสมัยรัชกาลที่ 5 ช่วงสมัยนี้ เริ่มมีการบูรณะวัดศรีโคมคำและพระเจ้าตนหลวงขึ้นมาอีกครั้ง หลังตัววัดและองค์พระมีสภาพทรุดโทรมมาเกือบ 60 ปี
และภายในวัดศรีโคมคำยังมีอุโบสถกลางน้ำ เป็นศิลปะแบบล้านนาประยุกต์ โดยสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2528 รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 ตัวอุโบสถสร้างยื่นเข้าไปในกว๊านพะเยา ด้านหน้ามีทางเดินเชื่อม ภายในมีภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังของ อังคาร กัลยาณพงศ์ ศิลปินแห่งชาติให้ชมกันอีกด้วยและหากเดินไปยังด้านหลัง
และหากเดินไปยังด้านหลังวัดศรีโคมคำ ติดกับกว๊านพะเยา จากจุดนี้ก็จะมองเห็นทิวเขาผีปันน้ำทอดตัวเป็นแนวยาว
 และหากเดินไปยังด้านหลังวัดศรีโคมคำ ติดกับกว๊านพะเยา จากจุดนี้ก็จะมองเห็นทิวเขาผีปันน้ำทอดตัวเป็นแนวยาว อยู่ด้านหลังกว๊านพะเยาได้อย่างชัดเจน ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมพระอาทิตย์ตกด้านหลังวัดศรีโคมคำนี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ ที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกดิน นกน้ำ กว๊านพะเยา และทิวเขา ได้สวยงามที่สุดของจังหวัดพะเยา
หลังจากที่ไหว้พระเจ้าตนหลวงที่วัดศรีโคมคำแล้ว ดิฉันก็แว๊นขับมอเตอร์ไซต์ เดินไปไหว้พระต่อที่วัดอนาลโย อีกหนึ่งวัดสวยงามอีกแห่งบนดอยบุศราคัม
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ วัดอนาลโยทิพยาราม
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ วัดอนาลโยทิพยาราม 
โดยวัดอนาลโยทิพยาราม ตั้งอยู่บนดอยบุษราคัม บ้านสันป่าม่วง หมู่ที่ 6 ต.สันป่าม่วง จังหวัดพะเยา จากตัวเมืองไปเส้นทางพะเยา -เชียงราย ประมาณ 7 กม.แยกซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1127 ประมาณ 9 กิโลเมตร ก็ถึงวัดอนาลโย
โดยวัดแห่งนี้ สร้างโดยพระปัญญาพิศาลเถร (พระอาจารย์ไพบูลย์ฯ) จัดเป็นอุทยานพระพุทธศาสนา มีศาสนสถานที่สวยงามให้ได้แวะไปชมกัน อาทิเช่น พระพุทธรูปศิลปสุโขทัย องค์ใหญ่ พระพุทธรูปปางต่างๆ
มี พระพุทธลีลา พุทธคยา เก๋ง จีน ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม หอพระแก้วมรกตจำลองทำด้วยทองคำ ฯลฯ บรรยากาศร่มรื่น พื้นที่กว้างขวาง แวดล้อมไปด้วยทรัพยากรป่าไม้ จากยอดดอยสามารถชมทัศนียภาพของกว๊านพะเยา และตัวเมืองของพะเยาได้อย่างสวยงามสามารถขึ้นวัดอนาลโยได้ 2 ทางคือ ทางรถยนต์และทางบันได มีที่พักแบบรีสอร์ทอยู่บนวัดอีกด้วย
หากใครที่จะขับรถขึ้นมายังดอยบุษราคัมด้านบน ก็ต้องระมัดระวังเรื่องการขับรถหน่อยนะคะ เพราะเส้นทางค่อนข้างจะลาดชันมากๆ
มีเจดีย์พุทธคยาให้เข้าไปชม แต่บริเวณศาสนสถานโดยรอบ ก็ค่อนข้างทรุดโทรมมากๆ บรรยากาศบนดอยก็เงียบสงบ และสงัดแบบสุด มีแต่เสียงลมพัดลมเพ กับเสียงนกร้องกระจิ๊บกระจ๊าบ บางครั้งก็วังเวงไม่ใช่น้อย เพราะสถานที่เหมือนไม่มีคนดูแล ถ้ามีการปรับปรุงจัดดอกม้งใส่ดอกไม้ หรือโปรโมทส่งเสริมสักหน่อย น่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่น้อยทีเดียว
 หลังจากได้นั่งพักชมวิวอันเงียบสงบ บนดอยบุษราคัมไปแล้ว ดิฉันก็ขับมอเตอร์ไซต์ลงเขามาเรื่อย ก็เห็นร้านคาเฟ่ริมทุ่งนา ซึ่งอยู่ติดกับถนนที่จะไปยังวัดอนาลโยก็น่าไปนั่งชิลๆเช็คอินน์ถ่ายรูปไม่น้อยเช่นกัน แต่เกรงเวลาจะไม่พอ ดิฉันเลยไม่ได้เข้าไปดริ่งแอนด์ดรั่ง
 ขับรถมาเรื่อยก็ผ่านร้านขายผลิตภัณฑ์กระเป๋าจากผักตบชวา อีกหนึ่งของฝากในเมืองพะเยา
 เป็นกระเป๋าสานทำจากงานฝีมือล้วนๆ น่าจะถูกใจชอบแท้และสาวเทียมไม่น้อยเลยล่ะค่ะ เพราะงานฝีมือประณีต
ผลิตภัณฑ์งานจักสารกระเป๋าจากผักตบชวา น่าจะถูกใจสาวๆที่ชอบงานฝืมือไม่น้อยทีเดียว
 นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าให้เลือกหลากหลายแบบเลยทีเดียว
 สำหรับเพื่อนๆคนใหนที่แวะผ่านมาเที่ยวที่วัดอนาลโย ก็เฮโลจอดรถแวะริมทาง มาชมการสานผักตบชวาและอุดหนุนแม่ค้าได้ที่ร้านชวาวาดเลยนะ
และอีกร้านอยู่ติดๆกันคือร้าน ญาดา ผักตบชวาก็เปิดเรียงวางขายผลิตภัณฑ์ให้เลือกสรรกันอย่างละลานตา เอาใจสาวๆซื้อไปเป็นของฝากผู้ให้ ถูกใจผู้รักกันจ้า
หลังจากที่ได้แวะไปชมผลิตภัณฑ์ผักตบชวาแล้ว ก็ได้เวลาทานอาหารมื้อเที่ยงแล้ว โดยมื้อนี้ฝากท้องไว้ที่ร้านขนมจีนป้าศรีนวล บ้านต๋อม ร้านขนมจีนชื่อดังประจำหมู่บ้าน ที่ใครผ่านมาก็ต้องแวะทาน แม้จะอยู่ห่างจากตัวเมืองมาไกลหน่อย แต่คนทีนี้ก็ทานกันเต็ม
เดินมาในร้านเห็นแม่ศรีนวล ทรงผมสลวยสวยเก๋ เป็นบ๊อบสั้นเทลงมา ดูทันยุคทันสมัย กำลังไฉไลตักน้ำยาใส่ถุง
เดินมาในร้านเห็นแม่ศรีนวล ทรงผมสลวยสวยเก๋ เป็นบ๊อบสั้นเทลงมา ดูทันยุคทันสมัย กำลังไฉไลตักน้ำยาใส่ถุง ปรุงแต่งอย่างเอร็ดอร่อยให้ลูกค้าที่ยืนรออยู่ด้วยล่ะ
 มื้อนี้ดิฉันก็เลยขอซัดจัดหนัก รับประทานขนมจีนน้ำเงี้ยวแบบบ้านๆ สไตล์เมืองเหนือที่ร้านป้าศรีนวลสักครั้ง ราคาบ่แพงเน้อเจ้า ชามละ ซาวบาท มีผักเครื่องเคียงให้ด้วย
 ภายในร้านก็มีลูกค้ามาอุดหนุนทานกันอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่ก็มีแต่คนในระแวกบ้านใกล้เรือนเคียงแถวนี้แวะมาทานกัน มีแต่พี่น้องจ้าวเหนือตึงมดตึงมวนเลย
ทานขนมจีนเสร็จ ก็ระเห็ดตามต่อด้วยขนมเกลือที่เหลืออยู่จากเมือวาน นำมาทานให้หมด มางั้นคงจะเสียแน่ๆ
กินขนมเส้นน้ำเงี้ยวอิ่มแล้ว ก็ขับรถมาแอ่วจุดชมวิวหาดอิงกว๊าน พะเยา
หาดอิงกว๊าน ริมกว๊านพะเยา
และหลังจากที่ทานขนมจีนจนอิ่มแล้ว ดิฉันก็ได้รับคำแนะนำจากลูกค้าร้านขนมจีนแม่ศรีนวล บอกว่าให้ขับรถลัดเลาะมาอีกหน่อย จะเป็นหาดอิงกว๊าน 
 ซึ่งหาดอิงกว๊าน ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ อันน่าอภิรมย์สมสมัย งามวิไลน่ามาเยือนชมและเช็คอินน์กันไม่น้อย
จุดชมวิวหาดอิงกว๊าน พะเยา
 บรรยากาศโดยรอบ รายล้อมไปด้วยระบบนิเวศและจุดถ่ายภาพอันสวยงาม
มองไปไม่ไกลนัก ก็เห็นคนกำลังนั่งตกปลากลางแดดร้อนจ้า ดูท่าที่กว๊านทะเลสาบแห่งนี้ คงจะมีหมู่มวลมัจฉาชุกชุมไม่น้อยทีเดียว เรียกว่าเป็นสินในน้ำที่หาได้ไม่มีวันหมด และไม่อดตายอย่างแน่นอน
 แวะนั่งพักชมวิวริมหาดอิงกว๊านไม่นานนัก ดิฉันก็แว๊นๆขับมอเตอร์ไซต์เข้ามาในตัวเมืองพะเยาอีกครั้ง เพื่อมาสักการะ นมัสการพระธาตุจอมทอง
สาระน่ารู้เกี่ยวกับวัดพระธาตุจอมทอง เมืองพะเยา 
สาระน่ารู้เกี่ยวกับวัดพระธาตุจอมทอง เมืองพะเยา

วัดพระธาตุจอมทอง อำเภอเมืองพะเยา เป็นวัดสำคัญที่ประดิษฐานพระธาตุจอมทอง อันเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนเมืองพะเยามาตั้งแต่โบราณกาล พระธาตุองค์นี้ไม่มีหลักฐานปรากฎชัดเจนว่าสร้างตั้งแต่สมัยใด เพียงแต่มีประวัติเกี่ยวกับพระธาตุจอมกิตติที่เชียงแสน จังหวัดเชียงราย ตามตำนายว่า พระเจ้ามังคราช เจ้าผู้ครองโยนกบุรีศรีเชียงแสนโปรดให้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งพระพุทธโฆษาจารย์นำมาจากลังกาทวีป และมอบให้พระยาเรือนแก้ว เจ้าเมืองไชยนารายณ์ พระองค์จึงสร้างพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุดังกล่าวไว้บนดอยแห่งหนึ่งในเมืองพะเยา เรียกกันว่า พระธาตุจอมทอง
 และหลังจากที่ได้ไปนมัสกาลพระธาตุจอมทองแล้ว ดิฉันก็ขับรถมาจอดที่ท่าเรือวัดติโลกอาราม อีกหนึ่งวัดสำคัญที่เหล่านักท่องเที่ยวต้องมากันสักครั้ง ซึ่งการเดินทางไปวัดแห่งนี้จะต้องนั่งเรือไป เพราะเป็นวัดที่ตั้งอยู่เกาะกลางน้ำในกว๊านพะเยา
จุดจำหน่ายตั๋วเรือวัดติโลอาราม ค่าเรือ 30 บาท จะออกก็ต่อเมื่อมีผู้โดยสาร 5 คน ขึ้นไปเท่านั้นนะคะ
 จุดจำหน่ายตั๋วเรือวัดติโลอาราม ค่าเรือ 30 บาท จะออกก็ต่อเมื่อมีผู้โดยสาร 5 คน ขึ้นไปเท่านั้นนะคะ ถ้าไม่ครบจำนวน อาจจะต้องเหมาเรือไป แต่ราคาก็แพงไม่ใช่น้อยทีเดียว...เมื่อเช้าดิฉันก็มาติดต่อแล้วครั้งนึง แต่ไม่มีคนจะนั่งเรือไปด้วย และไม่อยากรอนาน ก็เลยตัดสินใจมาช่วงบ่ายแทน พอมาช่วงบ่ายโชคดี มีกรุ๊ปทัวร์จากคณะใหนมิทราบได้ ก็เลยได้พึ่งใบบุญเกาะอาศัยเรือไปกับเขาด้วย ก็เลยไม่ต้องรอนานเหมือนตอนเช้าค่ะ
โดยท่าเรือเปิดให้บริการนั้งแต่เวลา 8.30 น.ถึงเวลา 17.30 น. พอดีมาช่วงบ่ายโชคดีเลยค่ะ มีกรุ๊ปทัวร์จากคณะใหนมิทราบได้ ดิฉันเลยได้พึ่งใบบุญเกาะอาศัยเรือไปกับเขาด้วย ก็เลยไม่ต้องรอนาน
 เสน่ห์ของการเดินทางไปวัดนี้ ก็คงเป็นการนั่งเรือพายไปเนี่ยแหล่ะ
 บรรยากาศบนเรือก็นั่งกันเต็มลำเลย
 หันไปด้านหลังก็เป็นคนพายเรือ ดูท่าคนพายน่าจะต้องใช่แรงตีฝีพายกับมวลน้ำมหาศาลในกว๊านแห่งนี้ไม่น้อย เพราะน้ำหนักเรือของคนไม่ใช่เบาเลยทีเดียว แต่ดูคุณพี่แกแข็งแรงมากๆนะคะ
 เรือค่อยๆพายไปยังวัดเกาะกลางน้ำ การนั่งเรือไปยังวัดติโลกอาราม ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
 มองไปยังเรืออีกลำ น่าจะเป็นคณะเดียวกัน กำลังโบกไม้โบกมือมาทางเรือลำที่ดิฉันนั่งอยู่นี้ด้วย
การนั่งเรือพายมายังวัดเกาะกลางน้ำในกว๊านพะเยา ถือว่าเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อย
การนั่งเรือพายมายังวัดเกาะกลางน้ำในกว๊านพะเยา ถือว่าเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อย เพราะถือเป็นการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่มาพายเรือที่นี้อีกด้วย ถ้าเกิดมีการสร้างสะพานเชื่อมต่อไปยังวัดกลางน้ำเลย มนต์เสน่ห์แบบนี้ก็จะหายไป ชาวบ้านก็จะไม่มีรายได้ไปด้วย
 สาระน่ารู้เกี่ยวกับวัดติโลกอาราม อ่านกันเป็นความรู้กัน
สาระน่ารู้เกี่ยวกับวัดติโลกอาราม อ่านกันเป็นความรู้กัน

วัดติโลกอาราม เดิมมีเพียงยอดเจดีย์ที่ก่อด้วยอิฐดินเผา โผล่พ้นน้ำขึ้นมาในช่วงฤดูแล้ง ชาวบ้านที่ทำการประมงแถบกว๊านพะเยาเรียกว่า สันธาตุกลางน้ำ เนื่องจากเห็นเป็นส่วนของพระธาตุโผล่พ้นผิวน้ำขึ้นมา โดยวัดติโลกอาราม จัดเป็นพระอารามหลวงในรัชสมัยพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ล้านนาลำดับที่ 9 แห่งราชวงศ์มังราย สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2019 - 2029

เนื่องจากในปี พ.ศ. 2482 กรมประมงได้ก่อสร้างประตูกั้นน้ำ ทำให้น้ำแม่อิงและลำน้ำสาขาซึ่งไหลลงมาจากทิวเขาผีปันน้ำ เกิดการเอ่อล้นเข้าท่วมชุมชนโบราณที่ตั้งอยู่บริเวณหนองเอี้ยงจนเกิดทะเลสาบน้ำจืดขึ้นมา เรียกว่ากว๊านพะเยา ทำให้วัด โบราณสถาน และชุมชนโบราณจำนวนมาก จมอยู่ใต้น้ำ

และในช่วงวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาจะมีการจัดเวียนเทียนกลางน้ำ ซึ่งต้องนั่งเรือเวียนเทียน ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศไม่น้อยทีเดียว
พระพุทธรูปหินทราย ปางมารวิชัย ศิลปะสกุลช่างพะเยาวัดติโลกอาราม
และเมื่อช่วงปี ปี พ.ศ. 2526 มีการค้นพบพระพุทธรูปใต้กว๊านพะเยา เป็นพระพุทธรูปหินทราย ปางมารวิชัย ศิลปะสกุลช่างพะเยา หน้าตักกว้าง 105 เซนติเมตร ชาวบ้านได้อัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นมาจากน้ำ จากนั้นทางจังหวัดพะเยาได้เชิญไปประดิษฐานไว้ที่วัดศรีอุโมงค์คำ จนมาถึงปี พ.ศ. 2550 ได้มีการบูรณะสันธาตุบวกสี่แจ่งขึ้นมา มีการตั้งฐานบุษบกด้วยอิฐดินเผา และได้มีการอัญเชิญพระพุทธรูปหินทรายจากวัดศรีอุโมงค์ คำมาประดิษฐานไว้บนฐานบุษบกบริเวณลานซึ่งสร้างขึ้นมาเหนือน้ำ ที่วัดติโลกอาราม 
คำว่าบวกสี่แจ่ง เป็นภาษาถิ่น (บวก หมายถึงหนองน้ำ แจ่ง หมายถึงมุม)
 พื้นที่เดิมของวัดติโลกอาราม สร้างขึ้นบริเวณบวกสี่แจ่ง คำว่าบวกสี่แจ่ง เป็นภาษาถิ่น (บวก หมายถึงหนองน้ำ แจ่ง หมายถึงมุม) บวกสี่แจ่ง หมายถึงหนองน้ำบริเวณสี่แยก เนื่องจากพื้นที่วัดติโลกอาราม แต่เดิมเป็นพื้นที่ในบริเวณสี่แจ่งหรือสี่แยกอยู่ใกล้กับหนองเต่า
พื้นที่ชุมชนริมหนองเต่านี้ ถือเป็นชุมชนโบราณ จนปี พ.ศ. 2482 กรมประมงได้สร้างประตูคอนกรีตขึ้นมากั้นน้ำแม่อิงและลำน้ำสายต่าง ๆ ที่ไหลลงมาจากทิวเขาผีปันน้ำ ทำให้พื้นที่ซึ่งเป็นชุมชนโบราณ วัด หนองน้ำ ทั้งหมดจมอยู่ใต้ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ ซึ่งต่อมาเรียกว่ากว๊านพะเยา
 ทัศนียภาพโดยรอบกว๊านพะเยา
หลังจากที่ได้สักการะนมัสการพระพุทธรูปหินทรายที่วัดติโลกอารามแล้ว ก็นั่งเรือกลับมายังท่าเรือ
และสถานที่ท่องเที่ยวถัดไปที่คุณนายเว่อร์ ขอมาบ้าเที่ยวสักครั้งก็คือ ภูลังกา ซึ่งได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของภูแห่งนี้มานานแล้ว อยากมาเยือนสักครั้ง
สตาร์ทรถมอเตอร์ไซต์ รีบขับออกจากตัวเมืองพะเยา เพื่อมุ่งหน้าไปยังภูลังกา เดี่ยวไม่ทันเวลาพระอาทิตย์จะร่วงโรยราไปเสียก่อน ดูรีวิวเที่ยวภูลังกาต่อที่เว็ปไซต์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2018/12/backpack-to-travel-phayao-phulangka-chiangkham-review.html
ดิฉันเลยรีบสตาร์ทรถมอเตอร์ไซต์ รีบขับออกจากตัวเมืองพะเยา เพื่อมุ่งหน้าไปยังภูลังกา  เดี่ยวไม่ทันเวลาพระอาทิตย์จะร่วงโรยราไปเสียก่อน

ระยะทางจากตัวเมืองพะเยาไปยังภูลังกา ก็ไม่ใกล้เลยนะคะ ไกลทีเดียว ระยะทางร่วม 100กว่ากิโลได้ล่ะ หากใครที่เป็นคนเที่ยวสายลุยๆแบบดิฉัน ก็เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับไปได้ แต่ถ้าใครอยากจะเที่ยวสบายๆหน่อย ก็เช่ารถเก๋งส่วนตัวขับแอร์เย็นๆได้เลย ส่วนดิฉันขอขับรถมอเตอร์ไซต์โต้ลมธรรมชาติแทนดีกว่า

สามารถเข้าไปชมการเดินทางไปภูลังกาได้ที่เว็ปไซต์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2018/12/backpack-to-travel-phayao-phulangka-chiangkham-review.html

จบทริปเที่ยวเมืองพะเยา เดี่ยวทริปต่อไปจะมารีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวภูลังกา ให้เพื่อนๆผู้อ่านทุกท่านได้สไลด์รูปเลื่อนดูกัน สำหรับรีวิวทริปเที่ยวพะเยาก็ขอจบเพียงเท่านี้ ไว้พบกันใหม่ในทริปถัดไปนะคะ...จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน

เครดินข้อมูลดีจาก :  https://th.wikipedia.org/wiki/กว๊านพะเยา 
https://th.wikipedia.org/wiki/พ่อขุนงำเมือง
https://th.wikipedia.org/wiki/วัดศรีโคมคำ
https://th.wikipedia.org/wiki/วัดติโลกอาราม
https://th.wikipedia.org/wiki/กว๊านพะเยา
----------------------------------------------------------------------------
บทความอื่นๆ มีดังนี้จ้า
แนะนำ 6 ที่เที่ยวในเมืองพะเยา เอาใจสายชิล มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>
จัดมาเบาๆ 6 ที่เที่ยวในเมืองพะเยา เอาใจสายชิล แวะชมวิวสวยๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูข้อมูลที่เที่ยวค่ะ>>>
รีวิวแบกเป้เที่ยวเชียงคำ-งามล้ำทะเลหมอกภูลังกา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
มาเน้อเจ้า..มาแอ่วภูลังกา ดูทะเลหมอกสวยระย้าจับใจ แวะตะไลไปเชียงคำ สัมผัสวัฒนธรรมไทลื้อ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางจ้า>>> 
แบ่งปันรีวิวเที่ยวระนอง ลองแช่น้ำแร่ เช่ารถแลชมที่เที่ยวต่างๆ ตามไปกันเลย>>
มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองระนอง ลองไปแช่น้ำแร่ เช่ารถนั่งแลชมทะเลสวยๆ และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>

สาระน่ารู้กับเพลงภาษาอังกฤษยุค 60-70's เพื่อฝึกภาษาพร้อมคำแปล คลิ๊กดูบทความค่ะ>>
น่ารู้กับเพลงสากลยุค 60-70's เพื่อฝึกภาษาอังกฤษผ่านบทเพลง พร้อมคำแปล มีเพลงอะไรบ้าง ลองฟังวันย้อนวันวานกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

แบ่งปันรีวิวนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองบราติสลาวา 1 วัน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองบราติสลาวา เมืองหลวงประเทศสโลวาเกีย มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปเที่ยวชมดูสักครั้งสิ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
รีวิวเที่ยวกรุงบูดาเปสต์ 1 วัน ไป-กลับ ขยับเท้าเดินชมสถานที่เที่ยวต่างๆ มีอะไรบ้าง>>>
เก็บตก รีวิวเที่ยวฮังการี เดินฉิมพลีชมกรุงบูดาเปส์แห่งนี้ มีที่เที่ยวอะไรให้ชื่นชมกันอีกบ้าง ตามไปชมกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
ไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพ ใกล้รถไฟฟ้า เดินไปได้มีวัดใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียด>>
รวมไหว้พระ 9-12 วัดในกรุงเทพใกล้รถไฟฟ้า เดินลั๊ลลาไปไม่ไกล งามวิไลรับสิ่งดีๆต้นปีนี้ คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>>>
แบกเป้เที่ยวกรุงเวียนนาด้วยตัวเอง มีที่เที่ยวจุดถ่ายรูปอะไรบ้าง ตามไปกันเลย>>
แบ่งปันทริปเที่ยวกรุงเวียนนาด้วยตัวเองง่ายๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้เริงสุขสันต์กันบ้าง ตามไปชมกันเลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
รีวิวพาเที่ยวชมพระราชวังเดิม เติมความรู้แบบไทยๆ ไปชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูที่เที่ยว>>
เก็บตกวันหยุด พารีวิวเที่ยวชมพระราชวังเดิม เติมความรู้ไทยๆ มีอะไรให้ชมบ้างในโบราณสถานแห่งนี้ คลิ๊กดูรายละเอียดและการเดินทางค่ะ>>>

แบ่งปันรีวิวเที่ยวขอนแก่น สุดสะแนนแสนชิล ไปถ่ายรูปวิวสวยงาม คลิ๊กดูที่เที่ยว>>
มาเด้อมาเที่ยวเมืองขอนแก่น สุดสะแนนแสนชิล ขับรถไปถ่ายรูปชมวิวต่างๆ มีที่ใหนเช็คอินบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>

รีวิวแบกเป้เที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิกอีกครั้ง ไปดูสิว่ายังสวยปังอยู่ใหม๊ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบกเป้เที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิกอีกครั้ง มาดูสิว่ายังสวยงาม อลังปังอยู่ใหม๊ มีที่เที่ยวใหม่ๆอะไรบ้าง ไปดูสิ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>> 
รีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยว มาเน้อมาเที่ยวเมืองแพร่ แลยลชมธรรมชาติ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบกเป้ลุยเดี่ยว มาเน้อเจ้า...มาเที่ยวเมืองแพร่ เดินแลงานยี่เป็ง แวะไปชมพระธาตุดอยเล็ง วิวสวยเจ๋งงามเริ่ดสะแมนแตน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางจ้า>>

มาม๊ะ..แวะมาเที่ยวเมืองสุรินทร์ ชมถิ่นช้างใหญ่ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวท่องอีสานใต้ตอนที่ 3 มาม๊ะ..มาเที่ยวสุรินทร์ ไม่ต้องกินสุรา แวะไปดูช้าง ดูชาวบ้านทอผ้า สวยระย้านาข้าวหอมมะลิ กำลังผลิบาน ร้าวรานจับใจ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวเลยจ้า>>>
รีวิวตอนที่ 20 เที่ยวกรุงโรม ไปจู่โจมอาณาจักรโรมันสักครั้งสิ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวตอนที่ 20 แบกเป้เที่ยวกรุงโรม แวะไปจู่โจมอาณาจักรโรมัน มีที่เที่ยวอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2BI8ckL
รีวิวตอนที่ 18 แบกเป้ลุยเดี่ยวเมืองเวนิชครั้งแรก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวตอนที่ 18 เที่ยวเมืองเวนิช นอนแนบชิดติดริมน้ำ เดินตามหาของกินอร่อยในซอกซอยเล็กๆ คลิ๊กดูภาพรีวิวการเดินทางค่ะ>>>
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2KQvnsh
รีวิวตอนที่ 17 แบกเป้ไปเที่ยวเมืองมิลาน มีอะไรให้ชมบ้างนะ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบกเป้ขยันลุยเดี่ยว ตอนที่ 17 นั่งรถไฟข้ามพรมแดนมาเริ่ดสะแมนแตนที่เมืองมิลาน มาดูมีที่เที่ยวใหนให้ยลตระการบ้าง คลิ๊กดูภาพรีวิวการเดินทางคะ>>>
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2AWC1xk
แบกเป้ลุยเดี่ยวตอนที่ 16 ไปเดินลั๊ลลาไปชมน้ำตกไรน์-ซูริค คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
แบกเป้ลุยเดี่ยว ตอนที่ 16 มาเดินชิคๆชมวิวเมืองซูริค นั่งรถไฟกุ๊กกิ๊กไปดูน้ำตกไรน์ น้ำใสสวยสด งดงามอร่ามตา คลิ๊กดูภาพรีวิวการเดินทางคะ>>>
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2MiG5cz


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น