Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

รีวิวเที่ยวงานอุ่นไอรักคลายความหนาว ครั้งที่ 2 ไปเดินย่อง ท่องเที่ยวดูสิ มีให้อะไรให้ชื่นชม รื่นรมย์อุราบ้าง Let's go

เพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอขอมารีวิวเที่ยวงานอุ่นไอรักคลายความหนาว ครั้งที่ 2 มาให้เพื่อนๆได้ดูกันค่ะ มาดูสิว่ามีอะไรบ้าง


ก็ขอสวัสดี สวีดัดคุณผู้อ่าน เพื่อนๆพี่ๆน้องๆผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น งามเริ่ดสะแมนแตนกันทุกคนค่ะ ดิฉันคุณนายเว่อร์ เธอก็ขอเป็นคนบ้า มาลั๊ลลา ทักทาย ซำบายดี อีหลีบ่ และต้อนรับท่านเข้่าสู่เว็ปบล็อกของคนบ้าเที่ยว เขียนบล็อกไปเรื่อยเปื่อย ให้ท่านได้เปิดสไลด์เลื่อนดูภาพอีกเช่นเดิมจ้า



ก็กลับมาอีกครั้งนะคะ สำหรับงานอุ่นไอรักคลายความหนาว งานที่จัดแสดงนิทรรศการความเป็นไทยไว้ให้เพื่อนๆผู้รักการทัศนาจร ไปเดินชมศึกษาอย่างน่าสนใจ และที่พลาดไม่ได้เสน่ห์ในงานนี้ คงเป็นการแต่งชุดไทยแบบต่างๆ เดินเข้าไปชมและถ่ายรูปตามมุมต่างๆ ที่ถูกอก ถูกใจคนทุกเพศทุกวัย เพื่อสะท้อนวิถีไทยผ่านเครื่องแต่งกายอันสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งภายในงานก็มีร้านค้าๆทั้งของราชการและเอกชน ให้แวะไปเลือกซื้อซื้อเลือกหากันอย่างอภิรมย์สมใจ

โดยคอนเซปต์ของงานอุ่นไอรักปีนี้ มีชื่อว่า "สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2561 ถึง วันที่ 19 มกราคม 2562 จัดตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ ลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า โดยที่ลานพระราชวังดุสิต ได้ถูกเนรมิตรให้เป็นพื้นที่ในการจัดแสดงนิทรรศการบอกเล่าประวัติศาสตร์ที่สำคัญ คุณค่าของสายน้ำแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ รวมทั้งภายในก็มีกิจกรรมต่างๆให้ผู้ที่มาในงานได้ร่วมเล่นกันอีกด้วย นอกจากนี้แล้วยังได้ชมความงดงามของแมกไม้นานาพันธ์ และความงดงามของศิลปะสร้างแบบจำลองพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ พระที่นั่งกลางน้ำเรือพระที่นั่ง และรูปแบบอาคารบ้านเรือนต่างๆ ไล่เรืยงจากต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จนถึงปัจจุบัน และมีมุมถ่ายรูปสวยๆให้เช็คอินฟินกันอย่างเพลิดเพลินใจ



ส่วนการเดินทางมาในงาน แนะนำว่ามารถสาธารณะดีที่สุดค่ะ โดยทั้งนี้ทาง ขสมก.ก็จัดเดินรถเมลล์โดยสารให้บริการรับ-ส่งฟรีแก่ผู้ที่มาในตามจุดต่างๆดังนี้ค่ะ

 

1.จัดรถเฉพาะกิจให้บริการฟรี (จอดรับ-ส่งทุกป้าย) จำนวน 5 เส้นทาง ได้แก่
- เส้นทางที่ 1 สถานีขนส่งจตุจักร จอดส่งที่แยกอู่ทองใน ให้บริการ จำนวน 10 คัน
- เส้นทางที่ 2 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ(เกาะพญาไท) จอดส่งที่แยกวัดเบญจฯ ให้บริการ จำนวน 10 คัน
- เส้นทางที่ 3 วงเวียนใหญ่ จอดส่งที่แยกวังแดง ให้บริการ จำนวน 10 คัน
- เส้นทางที่ 4 สถานีรถไฟหัวลำโพง จอดส่งที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ ให้บริการ จำนวน 10 คัน
- เส้นทางที่ 5 สนามศุภชลาศัย จอดส่งที่แยกสวนมิสกวัน ให้บริการ จำนวน 10 คัน
ระยะเวลาการปล่อยรถ ปล่อยรถออกทุกๆ 10 นาที

 

2. จัดรถ Shuttle Bus ให้บริการฟรี (รับจากจุดจอดรถ-จุดส่ง) จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่
- เส้นทางที่ 1 สนามม้านางเลิ้ง จอดส่งที่แยกวัดเบญจฯ ให้บริการ จำนวน 10 คัน
- เส้นทางที่ 2 สนามหลวง จอดส่งที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ ให้บริการ จำนวน 10 คัน



ซึ่ง การจัดเดินรถโดยสารทั้งหมด มีรายละเอียด ดังนี้
- ท่าต้นทางทั้ง 7 จุด รถคันแรกออก เวลา 09.00 น. รถคันสุดท้ายออก เวลา 21.00 น.
- ท่าปลายทาง (พื้นที่จัดงาน) ให้บริการเดินรถ จนกว่าจะส่งประชาชนออกจากพื้นที่หมด
- ระยะเวลาการปล่อยรถ ปล่อยรถออกทุกๆ 10 นาที
เพื่อนๆคนใหนมีข้อสงสัย สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็ปไซต์ : http://www.bmta.co.th/th/home

เริ่มต้นการเดินทางมาในงานนี้ ดิฉันเลือกนั่งรถเมลล์โดยสารสาธารณะ หรือรถหวานเย็นสีแดง ร้อนแรงจับใจ จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิฝั่งเกาะพญาไทย ไปตะลุยตะไลที่งานอุ่นไอรักคลายความหนาวครั้งที่ 2
หลักจากที่ได้ทราบข้อมูลเบื้องต้นไปแล้ว ทีนี้ก็มาสไลด์เลื่อนดูภาพรีวิวในงานอุ่นไอรักคลายความหนาวครั้งที่ 2 กันเลยจ้า มาดูสิว่าภายในงานปลายปีนี้อะไรที่พิเศษกว่าช่วงต้นปีบ้าง

เริ่มต้นการเดินทางมาในงานนี้ ดิฉันเลือกนั่งรถเมลล์โดยสารสาธารณะ หรือรถหวานเย็น สีแดงร้อนแรงใจ จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขึ้นรถฝั่งเกาะพญาไท ขึ้นมาบนรถโล่งเชียวล่ะ เนื่องจากเป็นวันธรรมดา 
รถเมลล์มาสิ้นสุดที่วัดเบญจบพิตร
นอกจากนี้ยังมีป้ายติดบอก บริการ Shuttle Service รับส่งให้อีกด้วย
มีเก้าอี้ให้นั่งรถด้วย สำหรับคนที่จะมายืนรอตอนขากลับ จะได้ไม่ต้องยืนให้เมื่อย
จากนั้นเดินมาในงานก็จะต้องผ่านจุดคัดกรองให้เรียบร้อยก่อนนะ อย่าลืมว่ามาในงาน พกบัตร ปปช.มาด้วยจ้า  สำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศก็พก พาสต์ปอร์ตมาได้ โดยวันที่ดิฉันมาเที่ยว มีทัวร์จากต่างประเทศมากันเยอะเชียว

และอีกอย่างมีบริการเช่าชุดไทยให้แต่งสวย แต่งหล่อ กันก่อนจะผ่านจุดคัดกองอีกด้วยค่ะ ใครที่จะจูงมือพาคู่รักมาถ่ายภาพงานนี้โดยเฉพาะ ก็ลัดเลาะแต่งสวย แต่งหล่อกันมาก่อนได้เลยนะคะ หรือใครที่อยากสวยแบบอลังการ ก็แต่งมาจากบ้านเลยก็ได้

สำหรับผู้หญิงจะทำผมตีกระบังโต้ลมพายุทอร์นาโด  หรือจะรวบตึงกุมารทองแล้วสานผมเป็นทรงลูกตะกร้อ ปักปิ่นใส่ผ้าซิ่นพื้นเมือง แล้วห่มสไบเฉียงเปิดไหล่ขวาก็ตามใจแบบสบายๆ ส่วนท่านชายก็ง่ายๆ โจงกระเบน เสื้อราชปะแตน แค่นี้ก็เริ่ดสะแมนแตนแล้วจ้า ส่วนใครที่ไม่อยากแต่งชุดไทย เอาชุดสุภาพเรียบร้อยก็พอ
 แผนผังแสดงสถานที่สำคัญในพื้นที่การจัดงาน
 แผนผังแสดงสถานที่สำคัญในพื้นที่การจัดงาน
เดินผ่าน อย่าลืมหยิบแผ่นพับแสดงรายละเอียดภายในงานมาด้วยนะคะ
มาถึงก็ถ่ายรูปกับป้ายหน้างานก่อนเลยค่ะ
หากใครที่แต่งชุดไทยมาอย่างสวยงาม ก็ขึ้นไปบนสะพานถ่ายรูปได้นะ
 ทัศนียภาพโดยรอบลานพระราชวังดุสิต รายล้อมไปด้วยมวลบุปผานานาพันธ์ุ ประดับประดาอย่างวิจิตรตระการ ช่ะช่ะช่าหัวใจ
 
ทัศนียภาพโดยรอบลานพระราชวังดุสิต รายล้อมไปด้วยมวลบุปผานานาพันธ์ุ ประดับประดาอย่างวิจิตรตระการ ช่ะช่ะช่าหัวใจ

 
 ส่วนจุดเด่น จุดแรกเมื่อเดินเข้ามาในงาน ก็จะเห็นพระที่นั่งกลางน้ำ รูปทรงอาคารสีสันสวยสดงดงามตระการ สะกดตานักท่องเที่ยวทุกราย โดยพระที่นั่งนี้มีชื่อว่า พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ ซึ่งจำลองมาจากของจริง ที่พระราชวังบางปะอิน


หากใครที่เคยไปเที่ยวอยุธยา คงไม่พลาดต้องแวะไปชมพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ของจริงสักครั้ง แต่ถ้าใครที่ไม่เคยไปเยือนพระราชวังบางปะอิน ก็ย่อสัดส่วนจำลองมาไว้ในงานให้ถ่ายรูปกันอย่างสวยสดงดงาม
สาระน่ารู้เกี่ยวกับพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ อ่านดูสักเล็กน้อย


สาระน่ารู้เกี่ยวกับพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ อ่านดูสักเล็กน้อย 

สำหรับพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์จัดได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเคยได้รับเกียรติให้สร้างจำลองแบบไปแสดงในงานมหกรรมนานาชาติ ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อ พ.ศ. 2501

โดยเป็นพระที่นั่งปราสาทโถงกลางน้ำ สร้างในแบบจตุรมุข พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จำลองแบบมาจาก พระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง สร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2419 และพระราชทานนามว่า "พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์" ตามนามพระที่นั่งองค์แรก ซึ่งสมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ณ พระราชวังบางปะอินแห่งนี้

นอกจากอาคารสถาปัตยกรรมไทยอันวิจิตรหยดย้อยแล้ว ยังมีอาคารรูปทรงตะวันตกแนวน่ารักกิ๊บเก๋ยูเรก้า ให้หนุ่มบาว สาวสะพรั่งได้นั่งถ่ายรูปกันอีกด้วย
เรียกว่าใครที่ชอบถ่ายรูป ก็จัดไปเลยตามใจชอบ
แต่ที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาในงาน คงต้องมาสักการะ นมัสการ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ณ ลานบรมรูปทรงม้าก่อนเลย โดยมีจุดรับพานและดอกไม้ให้ฟรีอีกด้วย
 เนื่องจากภายในงานเน้นคอนเซป สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ก็จะมีเรือสำเภาเด่นตระหง่านให้ได้ถ่ายรูป
และมีเรือลำเล็กใหญ่น้อย ลอยอยู่ในน้ำ
 มีโซนนิทรรศการต่างๆให้ได้เดินชม
เหมือนกรุงศรี มีคลอง มหานาค ในฤดู น้ำหลาก สนุกเหลือ
เป็นแหล่งพัก เล่นสักวา ร้องเพลงเรือ ทั้งยังเอื้อ ค้าขาย มากมายเรือนแพ
มีกจิกรรมแต่ละฐานให้เล่นอีกด้วย แบ่งเป็น 3 ชุดกิจกรรม โดยกิจกรรมต้องรับบัตรเพื่อเล่นเกมส์ได้ที่จุดประชาสัมพันธ์
 ห้องนิทรรศการพระมหากรุณาธิคุณต่อสายน้ำ
โดยภายในห้องนิทรรศนิการก็มีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำในแต่ละจุดด้วย
เร่งรุดน้ำเพื่อการเกษตร  พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอนันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ได้เสด็จฯไปทรงหว่านข้าวที่ทุ่งบางเขน เป็นพระราชกรณียกิจครั้งสุดท้ายในรัชกาล นาข้าวที่ทรงหว่านอุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำเพื่อที่จะทำให้ดินข้าวเจริญเติบโตขึ้นต่อไปในอนาคต
มีการสาธิตการทำขนมไทยโบราณ และจำหน่ายให้ผู้ที่มาเที่ยวได้ซื้อไปรับประทานอีกด้วย
 อย่างที่เห็นอยู่นี้ เป็นการทำล่าเตียง หรือหรุ่ม ซึ่งเป็นอาหารคาวหวานที่อยู่ในรั้วในวัง พิถีพิถันในการทำละเมียดละไมเหลือเกิน เป็นอาหารไทยคาวหวานที่หาทานได้ยาก ตองมางานนี้ มีแม่หญิงในวัง นั่งทำให้ทานจ้า
ใหนก็มาทั้งที จัดไปค่ะ ล่าเตียง 1 ชุด 60 บาท
ยังมีการสาธิตวิธีการทำหัวโขน ซึ่งเป็นศิลปะชั้นสูงให้ได้ชมกันอีกด้วย
มีภาพสามมิติหลากหลายมุมให้เลือกถ่ายกันอย่างเพลิดเพลินใจ ไปกับคุณยายพายเรือแจวกำลังทะลุมิติออกจากหน้าต่างเชื่อมกาลเวลามาหาลูกค้าที่งานแห่งนี้
 และตรงกลางลานก็เป็นการจัดแสดงเรือจำลอง พระที่นั่ง 4 ลำ อย่างที่เห็นอยู่นี้คือ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช


โซนจัดแสดงความรู้เกี่ยวกับกระบวนพยุหยาตราชลมารค ซึ่งเป็นกระบวนเสด็จพระราชดำเนินทางน้ำที่เป็นราชประเพณีไทยที่มีมาแต่โบราณ ให้ได้ชมและศึกษาความรู้กันอย่างน่าสนใจ

 เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ อ่านเป็นความรู้กันค่ะ


 เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ อ่านเป็นความรู้กันค่ะ

สำหรับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์มีชื่อกล่าวถึงเป็นครั้งแรก ในสมัยกรุงศรีอยุธยาต้นรัชกาลสมเด็จพระมหาจักรพรรดิราวปี พ.ศ. 2091ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเรียกว่า "สุวรรณหงส์" เป็นหนึ่งในเรือพระที่นั่ง และพระราชพิธี กระบวนพยุหยาตราชลมารค เป็นเรือที่ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก ในปัจจุบันจัดแสดงอยู่ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี ปากคลองบางกอกน้อย เขตบางกอกน้อย
 โดยเรือจำลองที่จัดไว้แสดง ก็มีป้ายข้อมูลความรู้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้อ่านกันอีกด้วย
เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ ซึ่งเป็นเรือประจำรัชกาลที่ 9
เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ ซึ่งเป็นเรือประจำรัชกาลที่ 9 อ่านเป็นความรู้สักนิด

เป็นเรือพระที่นั่งกิ่งประเภทเรือรูปสัตว์ หนึ่งในเรือพระราชพิธี ในกระบวนพยุหยาตราชลมารค จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาส พระราชพิธีกาญจนาภิเษก แห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2539 โดย กองทัพเรือ ร่วมกับ กรมศิลปากร ได้นำ โขนเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ ที่สร้างขึ้น ในสมัยรัชกาลที่ 3 และ รัชกาลที่ 4 มาเป็นต้นแบบ โดยกองทัพเรือ สร้างในส่วนที่เป็นโครงสร้างเรือ พาย และคัดฉาก ส่วนกรมศิลปากร ดำเนินการในงานที่เกี่ยวกับ ศิลปกรรมของเรือทั้งหมด 
ทัศนียภาพโดยรอบก็ถูกประดับประดาไปด้วยมวลแมกไม้ มวลบุปผานานาพันธุ์ งดงามดุจอำพันดั่งสวรรค์ชั้นฟ้า ร่วงลงมาสู่ดิน ให้ได้เช็คอิน ฟินถ่ายรูปกันอย่างบานฤทัย
ดอกคอสมอสก็นำมาปลูกไว้ในงานให้ได้ยลตระการ อย่างสำราญใจ อยู่ใกล้พระที่นั่งอนันตสมาคม
มีลานน้ำพุตั้งอยู่ในบริเวณโดยรอบ ก็ชุ่มฉ่ำช่วยคลายร้อน
มีการจำลองสะพานกรุงธนบุรีให้ได้ชมกันอย่างจำเริญใจ ก็ใครชอบมุมใหนก็จัดไปตามใจชอบ

 ส่วนโซนนี้เป็นโซนอาหารคาวหวาน วิทยาลัยในวังหญิง
 แม่หญิงชาววังกำลังนั่งทำขนมกันอยู่เลย
 น้ำพริกลงเรือก็ถูกจัดแต่งเรียงรายอยู่ในเรือลำน้อย รอคอยคนมาช้อนกินกัน เพราะแกะสลัดด้วยดอกไม้ตามแบบฉบับไทยในวั้ง ในวังเหลือเกิน
บัวลอยไข่หวาน ก็ขายหน้าตาหวาน ชวนให้อยากจะซื้อรับประทานเลยเชียว  บัวลอยไข่หวานของนักเรียนวิทยาลัยในวังหญิง ดูชาววั้ง ชาววัง เพราะกลิ่นหอมของกระทิ ก็โชยเต๊ะจมูก
ดูคนปุรงรสชาติขนมแล้ว การันตีได้เลยว่าต้องอร่อยแน่ๆ เพราะต้องมีความชำนาญในการทำขนมไทยในวังมิใช่น้อยเลยเชียว
ดูคนปุรงรสชาติขนมแล้ว การันตีได้เลยว่าต้องอร่อยแน่ๆ เพราะต้องมีความชำนาญในการทำขนมไทยในวังมิใช่น้อยเลยเชียว
 เดินถัดมาอีกหน่อย ก็จะเห็นภูเขาที่แสดงพระราชกรณีของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่สูงเด่นตระหง่าน ประดับประดาไปด้วยแมกไม้และบุปผานานาพันธ์สวยงามดุจดั่งป่าหิมพานต์
เพื่อแสดงถึงปรัชญาเศรษฐกิจแบบพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9
ใครที่แวะผ่านไปมาก็ต้องมาสังเกตุสังกากันแทบทุกราย เพราะตกแต่งด้วยรายละเอียดยิบย่อย ดูเข้าใจง่าย พร้อมกับความสวยงามเย็นฉ่ำไปด้วยน้ำตกและธารน้ำไหล น้ำตกย้อยหยาดเยิ้ม
มาดูในสนามเสือป่าดูสิ มีอะไรบ้าง
 มีร้านจิตอาสา 904
เข้ามาซื้อกระติกน้ำสำหรับปั่นจักรยานค่ะ ใบละ 59 บาท
 ใกล้กันก็เป็นตลาดน้ำในฝัน
 ตกแต่งเป็นน้ำตก และธารน้ำไหล ดูเย็นชื่นใจ ประดับประดาด้วยแมกไม้เขียวชะอุ่ม
 บริเวณโดยรอบที่นั่งร่มรื่น
มีดนตรีให้ได้ฟังกันอีกด้วย
 บริเวณสนามเสือป่าก็ตกแต่งอย่างสวยงาม
โซนนิทรรศการสินในน้ำ สืบสานงานพระราชดำริ โดยเป็นนิทรรศการปลาของพ่อ
 โซนนิทรรศการสินในน้ำ สืบสานงานพระราชดำริ โดยเป็นนิทรรศการปลาของพ่อ
ปลานิล ปลาพระราชทาน
ปลานิล ปลาพระราชทาน : จากพระปรีชาสามารถของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมองการไกลในการใช้การประมงมาเป็นสิ่งเชื่อมความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างประเทศญี่ปุ่น จากการเสด็จเยื่ยมเยือนของกษัตริย์ทั้งสองประเทศใน พ.ศ.2506 และ 2507 สมเด็จพระจักรพรรดิ อากิฮิโต แห่งประเทศญี่ปุ่น เมื่อครั้งดำรงพระอิสรยศมกุฎราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่น ได้ทูลเกล้าถวาย ลูกปลาตระกูลเดียวกับปลาหมอเทศซึ่งเจริญเติบโตเร็วกว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2508 และในปี 2509 ทรงพระราชทานชื่อปลานี้ว่า ปลานิล พร้อมพระราชทานพันธุ์ปลา 10,000 ตัว จากบ่อปลาสวนจิตรลดาแก่กรมประมงในวันที่ 17 มีนาคม 2509 เพื่อนำไปเลี้ยงและขยายพันธ์
 และไม่พลาดหากมาในงานก็ร่วมซื้อสลากการกุศลอุ่นไอรักด้วย
ใบละ 129 บาท ราคาเดียวกับงานรอบที่แล้วค่ะ
โดยงานในครั้งนี้มีรางวัลมากมาย แต่ละรางวัลก็เริ่ดๆทั้งนั้นนะคะ
ซึ่งการประกาศรางวัลฉลากจะประกาศผู้โชคดีในวันที่ 19 ม.ค.2562 
อย่างรางวัลที่ 1 ก็เป็นบ้านสวนลุมพินี 1 รางวัล
ส่วนรางวัลที่ 2 เป็นรถยนต์ Toyota Camry
รางวัลที่ 3 เป็นรถยนต์ Honda CR-V
รางวัลที่ 4 เป็นสลากออมสินพิเศษ มูลค่า 1 ล้านบาทเลยทีเดียว
รางวัลที่ 5 เป็นรถจักรยานต์ Honda CB150R
รางวัลที่ 6 เป้นตั๋วโดยสารเครื่องบิน กรุงเทพ-นาโกย่า 2 ที่นั่ง
และยังมีรางวัลเลยท้าย 4 ตัว และเลยท้าย 3 ตัวอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีสลากมัจฉาพาโชคให้ได้ร่วมการกุศลด้วย
 สลากมัจฉาพาโชคตกใบละ 25 บาท
 ซื้อแล้วก็นำไปให้เจ้าหน้าที่ ณ ตักมัจฉาที่ว่ายอยู่ในน้ำ
หมู่มัจฉาหลากสีสันว่ายเวียนวนให้ได้เลือกตักลุ้นโชคกันว่าจะได้อะไร
รอบนี้ดิฉันซื้อมา 2 ใบ ได้เป็นสบู่นกแก้ว กับ ผลิตภัณฑ์จากนมจากสวนจิตรลดาไปค่ะ หากอยากได้รางวัลใหญ่กว่านี้ ก็ตองซื้อหลายๆใบเลย
 รอบบริเวณก็เป็นงานออกร้านของกระทรวงต่างๆ
และอีกมุมก็เป็นร้านค้าของพระบรมวงศ์ศานุวงศ์
 ถัดเดินมาอีกหน่อยก็เป็นตลาดบกวิถี 4 ภาค ซึ่งรวบรวมอาหารอร่อยหลายภาพมารวมไว้ในตลาดนี้ให้ได้เลือกชิม เลือกซื้อกันอย่างจุใจ ใครอยากทานอะไร ก็ซัดทานกันได้เลยจ้า
 ขนม นม เนยแบบไทย เรียงรายไว้ในหาบเร่
ส่วนที่นั่งก็มีมากมายหลากหลายมุม ถ้ามาช่วงวันธรรมดา ที่นั่งจะว่างเยอะทีเดียว แต่ถ้าช่วงเย็นๆ หรือช่วงเสาร์อาทิตย์ คนจะเยอะหน่อย
 หลังจากเดินช๊อปปิ้งสนามเสือป่า มีเวลาอีกนิดเข้าไปพิชิตความรู้ ดูบ้านพลังงานสักเล็กน้อย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่อธิบายให้ฟังด้วย
จัดขึ้นรอบละ 15 นาที มีบัตรคิว กดแล้วนั่งรอแป๊บเดียว คนที่มานั่งฟังกัน ก็เห็นแต่ผู้เฒ่าผู้แก่ คุณลุง คุณป้า มีอายุกันทั้งนั้นเลย ไม่ค่อยจะมีวัยรง วัยรุ่นเท่าที่ควร
 แถมมีการตอบคำถามชิงรางวัลในนิทรรศการอีกด้วย
 ขึ้นมาด้านบนก็เป็นห้องอธิบายการทำงานของพลังงานไฟฟ้า และเป็นห้องนอนตกแต่งน่ารักเชียว
และนิทรรศการต่อไปที่น่าสนใจ และถูกใจวัยเด็ก วัยแนว และวัยผู้ใหญ่ ต้องเข้าไปชมสักครั้งก็คงเป็นนิทรรศการน้ำกับชีวิต
ด้านหน้าทางเข้าห้องนิทรรศการ น้ำกับชีวิต ก็มีเจ้าหน้าที่แต่งชุดไทยสุดหล่อ รอคอยต้อนรับผู้ที่เข้ามาในงาน
 ด้านหน้าทางเข้าห้องนิทรรศการ น้ำกับชีวิต ก็มีเจ้าหน้าที่แต่งชุดไทยสุดหล่อ รอคอยต้อนรับผู้ที่เข้ามาชมอย่างไม่ขาดสาย
 โดยภายในจัดแสดงวีดีทัศน์ภาพสามิติระยะสั้นๆใช้เวลาไม่นาน
 มีแว่นตาให้อีกด้วย เนื่องจากเป็นวีดีทัศน์ 3 มิติ จัดแสดงเรื่องราวน้ำกับชีวิต ใช้เวลาแปีบเดียวจริงๆ ไม่เกิน 5 นาทีก็จบ
เดินเที่ยวงานอุ่นไอรักคลายความหนาวครั้งที่ ขาลาก กระชากใจเว่อร์ รอบนี้ดิฉันซื้อของเยอะเชียว
เดินเที่ยวงานอุ่นไอรักคลายความหนาวครั้งที่ ขาลาก กระชากใจเว่อร์ รอบนี้ดิฉันซื้อของเยอะเชียว ส่วนใหญ่เป็นของกิน ซื้อไปฝากที่ทำงาน และที่บ้านด้วย หากไม่ซื้อไปต้องโดนกระซวกแน่นอน ทำไมไม่ซื้อของติดไม้ติดมือมาด้วย ก็เลยซื้อมาจนถุงกระดาษขาด ต้องซื้อถุงผ้ามาใส่แทน
 หลังจากได้เดินชมงานอุ่นไอรักคลายความหนาว สายน้ำแห่งกรุงรัตนโกสินทร์แล้วในรอบนี้ ก็เดินทางมาขึ้นรถเมลล์โดยสารหวานเย็น สีแดงร้อนแรงใจเดินทางกลับที่ทำงานโดยสวัสดิภาพ

จบทริปแล้วจ้า..สำหรับเพื่อนๆคนใหนที่วางแผนวันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่รู้จะลั๊ลลาไปใหนดี ก็ลองจรลี หนีมาเที่ยวงานนี้ดูนะคะ มาเดินแต่งชุดไทยถ่ายรูปสวยๆ หรือถ้าไม่อยากแต่งชุดไทย ก็แต่งกายสุภาพมาเดินชมนิทรรศการต่างๆ และช๊อปปิ้ง เลือกสรรหา ซื้อสินค้าและร่วมซื้อสลากการกุศลด้วยกัน โดยเงินจากการซื้อสลากก็เป็นรายได้่ช่วยเหลือผู้ยากไร้ต่อไป ถือว่ามาเดินเที่ยวและได้บุญอีกด้วย อย่าลืมแวะมาเที่ยวกันนะคะ สำหรับรีวิวเที่ยวงานอุ่นไอรักครั้งที่ 2 ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ ไว้พบกันใหม่ในเว็ปบล็อกถัดไป ขอบพระคุณค่ะ......จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ขอบเที่ยวกินนอน

ขอบคุณเครดิตสาระน่ารู้จาก : แผ่นพับงานอุ่นไอรักคลายความหนาว
จากเว็ปไซต์ สารานุกรมเสรีวิกิพีเดีย
--------------------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ
รีวิวเที่ยวมิวเซียมสยาม แหล่งเรียนรู้สุดเก๋ไก๋ มีอะไรอัพเดทใหม่บ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย>>
รีวิวพาเที่ยวชมมิวเซียมสยาม แหล่งเรียนรู้ไทยๆสุดเก๋ไก๋ มีอะไรอัพเดทใหม่ๆให้ชมบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวและที่เที่ยวค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวขอนแก่น สุดสะแนนแสนชิล ไปถ่ายรูปวิวสวยงาม คลิ๊กดูที่เที่ยว>>
มาเด้อมาเที่ยวเมืองขอนแก่น สุดสะแนนแสนชิล ขับรถไปถ่ายรูปชมวิวต่างๆ มีที่ใหนเช็คอินบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
รีวิวเที่ยวเมืองอุดร เช่ารถขับตะลอนไปชมสถานที่ต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งกันเด้อ>>
มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองอุดร เช่ารถออนซอน ตะลอนไปชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งกันเด้อจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเวียงจันทร์ 1 วัน ไป-กลับ ขยับเดินชมตามที่เที่ยวต่างๆ มีอะไรบ้าง>>>
เก็บตก รีวิวเที่ยวเวียงจันทร์ 1 วัน ไปเช้า-เย็นกลับ มีที่เที่ยวอะไรให้ชื่นชมกันอีกบ้าง ตามไปเบิ่งกันเด้อ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวแบกเป้เที่ยวหนองคาย เมืองนี้มีอะไรมากมายให้ชมจริงๆ คลิ๊กดูที่เที่ยวจ้า>>
มาเด้อมารีวิวเที่ยวหนองคาย 3 วัน 2 คืน ไปชื่นชม ภิรมย์ใจตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>

รีวิวแบกเป้เที่ยวเมืองอินสบรูค 2 วัน 1 คืน มีที่เที่ยวอะไรให้ชมบ้าง ตามไปดูกันค่ะ>>
แบ่งปันรีวิวแบกเป้เที่ยวอินส์บรูค 2 วัน 1 คืน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้ชื่นชมกันบ้าง ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>
แบ่งปันรีวิวเดินทางไปชมปราสาทน็อยชวานสไตน์ด้วยตัวเองมาฝาก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิววิธีการเดินทางไปเที่ยวชมปราสาทน็อยชวานสไตน์ด้วยตัวเองมาฝากใน 1 วัน มีที่เที่ยวอะไรให้ชมอีกบ้าง ตามไปชมกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>
รีวิวพาชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพ เสพความรู้แบบไทยๆ ไปชมกันเลย>>
พารีวิวเที่ยวชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพ เสพความรู้แบบไทยๆ เดินชมในนิทรรศการจิ๋นซีฮ่องเต้ คลิ๊กดูรายละเอียดภาพรีวิวค่ะ>>>
หรือดูรายละเอียดที่ : http://bit.ly/2l05FdT
รีวิวเที่ยวเมืองมิวนิค เดินชิคๆไปชมสถานที่สวยงามต่างๆ คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>>
รีวิวแบกเป้เที่ยวเมืองมิวนิค เดินชิคๆไปชมสถานที่สวยงามต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปชมกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>
รีวิวเช่ารถมอเตอร์ไซต์ไปเที่ยวเมืองปราจีนบุรี ต้องไปฉิมพลีกันสักครั้งครา คลิ๊กดูรีวิว>>
เก็บตก แวะเที่ยวเมืองปราจีนบุรี เมืองที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน แต่ก็มีอะไรให้ยลตระการ ชื่นบานอุราอยู่ไม่น้อย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>>
เที่ยวนครนายกไม่มีรถส่วนตัว ก็เช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวไปทั่วได้ด้วยตัวเอง คลิ๊กดูรีวิว>>
รีวิวแบกเป้เที่ยวนครนายก ไม่มีรถส่วนตัว ก็เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับเที่ยวไปทั่วได้ใน 1 วันแบบชิลๆ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวจ้า>>>
รีวิวพาไปเที่ยวเมืองอูล์ม เมืองน่ารักที่ไม่เป็นแค่ทางผ่าน คลิ๊กดูสถานที่ท่องเที่ยวจ้า>>
แบ่งปันรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวพาไปเที่ยวเมืองอูล์ม(Ulm) เมืองน่ารัก ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน แต่ก็มีสถานที่ให้ยลตระการอยู่ไม่น้อย คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวจ้า>>
แบ่งปันรีวิวพาไปชมเมืองสตุทการ์ท มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปกันเลย>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวพาไปเที่ยวเมืองสตุทการ์ท มีประวัติศาสตร์น่าสนใจ มีที่เที่ยวอะไรให้ชมอีกบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวจ้า>>>
แบกเป้ท่องโลกกว้าง เดินทางไปเที่ยวกรุงเฮก มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันจ้า>>
ท่องโลกกว้าง เดินทางไกลไปเที่ยวในกรุงเฮก(Den haag) ไปดูสิว่ามีที่เที่ยวอะไรให้ชื่นชมบ้าง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวจ้า>>
รีวิวแบกเป้พาไปเที่ยวเมืองฮาร์เลม เมืองเล็กๆน่ารัก ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน คลิ๊กดูรีวิว>>
แบ่งปันรีวิวลุยเดี่ยวพาไปเที่ยวเมืองฮาร์เลม เมืองเล็กๆน่ารัก แวะไปพักเที่ยวชมดูสิ มีอะไรให้เช็คอินบ้าง คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวเลยจ้า>>>
แบกเป้รีวิวพาเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัม เมืองนี้มีอะไรให้ดื่มด่ำฤทัยบ้าง ตามไปดูกันสิ>>
รีวิวแบกเป้พาไปเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัม ชื่นฉ่ำฤทัยใน 1 วัน เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปชมกันสิ คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวเลยจ้า>>>

มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองนครสวรรค์ใน 1 วัน ยลสุขสันต์เมืองชุมทางสี่แคว คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>
รีวิวเที่ยวนครสวรรค์ ยลสุขสันต์เมืองสี่แคว งามจริงแท้ยอดเขาคีรีวง ชมอาทิตย์อัสดง งามเริ่ดสะแมนแตคลิ๊กดูภาพรีวิวและที่เที่ยวค่ะ>>

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น