มาเขียนรีวิวต่อค่ะ สำหรับรีวิวเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ตอนที่ 15 นี้ ขอแบกเป้ลุยเดี่ยวแวะเดินเที่ยวรอบเมืองลูเซิร์น มาดูสิเมืองนี้สถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้ชมบ้างนะ |
เอาล่ะเพื่อไม่ให้เสียเวลาและเว็ปบล็อกนี้ร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ ก็ขอเลิกจากงานประจำ มาร่ายบทความรีวิวทริปเที่ยวยุโรปต่อนะค่ะ หลังจากที่รีวิวก่อนหน้านี้ก็คือ รีวิวตอนที่ 14 ได้แบกเป้จรลี หนีไปเที่ยวเมืองกอล์มาร์ ข้ามพรมแดนไปถึงประเทศฝรั่งเศสกันแล้ว (ตามเว็ปไซต์ลิงค์ : bit.ly/2uQBBTE )
มาตอนนี้ดิฉันก็แบกเป้นั่งรถไฟจรลี หนีกลับเข้ามาที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีกครั้งค่ะ เรียกว่าขยันเดินทางมากๆนะ อันนี้ก็เพราะว่าได้ถอยตั๋วรถไฟ Eurial pass ชั่น 1 ไปแล้ว ยังไงก็ต้องใช้ให้คุ้มค่ากับสตังที่เสียไปแหละค่ะ แต่ก็เหนื่อยโคตรๆและท้าทายเหมือนกันนะค่ะ โดยเฉพาะตอนเดินหาชานชลารถไฟ เรียกว่าเดี๊ยนเดินจนขาลาก แทบจะเป็นลมไปเลยล่ะค่ะ เนื่องจากเป็นทริปแรกในชีวิตที่มาตะลุยยุโรปแบบนี้ ก็สนุกดีนะ ได้ประสบการณ์ด้วย
และทริปรีวิวตอนที่แล้วก็เดินแบกเป้ไปจนเหนื่อยล่ะ เดี๊ยนไม่ไหว เป็นลม หมดยาดมไปหลายหลอด ทริเที่ยวในเมืองลูเซิร์นนี้ก็เลย ขอเดินเที่ยวแบบชิลๆหน่อยนะค่ะ และเมืองลูเซิร์นก็เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่หากใครมาเยือนสวิตเซอร์แลนด์ ก็ต้องแวะมาเริ่ดสะแมนแตนชมกันสักครั้ง โดยเฉพาะสัญลักษณ์ของสะพานไม้เก่าแก่ Chapel Bridge มีหอคอยปราสาทอยู่กลางน้ำโดดเด่น ที่เคยเห็นแต่ในนิตยสารท่องเที่ยวและรูปภาพในเว็ปท่องเที่ยว เดี๊ยนก็เลยปักหมุดขอแบกเป้ลุยเดี่ยวมาเที่ยวเยือนเมืองลูเซิร์นแห่งนี้สักครั้งสิ มาดูสิว่า เมือง Luzern แห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง นอกจากสะพาน Chapel Bridge วันนี้ก็เลยขอมารีวิวให้เพื่อนๆได้สไลด์ดูภาพกัน
ออกเดินทางจากเมืองกอลมาร์ประเทศฝรั่งเศส นั่งรถไฟมาที่เมืองลูเซิร์น |
ก่อนจะไปพร่ำเพร้อดูภาพรีวิวท่องเที่ยว เราก็มารู้จักเมืองลูเซิร์นกันก่อนนะค่ะ มาเปิดโลกกว้าง อ่านกันดูนะค่ะ (อารมณ์เหมือนมาเปิดหนังสือสังคมศึกษา วิชาโลกของเรานะคะ)
สาระน่ารู้เกี่ยวเมืองลูเซิร์น
เมืองลูเซิร์น (อังกฤษ: Lucerne) หรือ ลุทแซร์น (เยอรมัน: Luzern) เป็นเมืองหลวงของรัฐลูเซิร์นในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยความที่ลูเซิร์นเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในภาคกลางของประเทศ ทำให้เมืองแห่
นี้กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ, การคมนาคม, ทางวัฒนธรรม ของภาคกลางในประเทศแห่งน ภาษาทางการที่ใช้ในลูเซิร์นคือภาษาเยอรมัน
โดยเมืองลูเซิร์นนี้ตั้งอยู่ชายฝั่งด้านตะวันตกติดกับทะเลสาบลูเซิร์น มีแม่น้ำร็อยส์ไหลออกมาจากทะเลสาบผ่านกลางเมือง จากเมืองนี้สามารถมองเห็นเทือกเขาแอลป์, เขาพีลาทุส และเขารีกี ลูเซิร์นมีภูมิอากาศเย็นตลอดทั้งปี จุดหมายตาที่สำคัญในเมืองคือคาเพ็ลล์บรึคเคอ สนามบินที่อยู่ใกล้ลูเซิร์นที่สุดคือท่าอากาศยานซือริช ซึ่งมีรถไฟโดยตรงมาสู่ลูเซิร์นทุกชั่วโมงโดยใช้เวลาเดินทางราว 1 ชั่วโมงเท่านั้น
เมืองลูเซิร์น (Luzern) |
ที่มาของเมืองลูเซิร์น มีประวัติศาสต์ความเป็นมาอย่างไร?
ซึ่งภายหลังการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันในคริสต์ศตวรรษที่ 6 ชนอลามันน์เชื้อสายเยอรมันก็มีอิทธิพลเหนือดินแดนที่เป็นประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในปัจจุบัน จนกระทั่งราวปี 750 ก็มีการจัดตั้งสังฆมณฑลซังคท์เลโอเดอการ์ (St. Leodegar) นิกายโรมันคาทอลิกขึ้น ต่อมาในศตวรรษที่ 9 สังฆมณฑลซังคท์เลโอเดอการ์ได้ตกอยู่ในการปกครองของอารามมูร์บัค (Murbach Abbey) ในแคว้นอาลซัส ในช่วงเวลานี้เอง พื้นที่แถบนี้ได้ถูกเรียกว่า ลูกิอาริอา (ละติน: Luciaria) ต่อมาในปี 1178 สังฆมณฑลแห่งนี้ได้เป็นอิสระจากอารามมูร์บัค และได้สถาปนาสังฆมณฑลเป็นเมืองลูเซิร์นในปีเดียวกัน เมืองลูเซิร์นกลายเป็นทางผ่านที่สำคัญบนเส้นทางการค้าที่กำลังเฟื่องฟูในภูมิภาคก็อทฮาร์ท (Gotthard)
เครดิตข้อมูลดีๆ จากสารานุกรมเสรีวิกิพีเดีย : https://th.wikipedia.org/wiki/ลูเซิร์น
สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองลูเซิร์นมีที่ใหนบ้าง (Luzern tourist Attracition place) |
- สะพานไม้คาเพ็ลล์บรึคเคอ Kapellbrücke (ภาษาอังกฤษ : Chapel Bridge)
- ทะเลสาบลูเซิร์น (Luzern Lake)
- อนุสาวรีย์สิงห์โต (Lion Monument)
- โบสถ์ Hofkirche St. Leodegar
- กำแพงเมืองเก่า musegg wall lucerne
- สะพานไม้เก่า Spreuer Bridge
- แหล่งช็อปปิ้งย่านชุมชนเก่า Luzern Old Town
Alphorn (อัลเพนนฮอร์น) เครื่องดนตรีประจำประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเครื่องเป่าทำจากไม้ |
แผนการเดินทางท่องเที่ยวในทริปนี้รวม 26 วัน เริ่มต้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สิ้นสุดที่เกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ |
(ต่อจากรีวิวตอนที่ 14 เว็ปลิงค์ : bit.ly/2uQBBTE)
เช้าวันใหม่ที่ 27 พ.ค.2561 กับการนอนไม่ค่อยจะเต็มอิ่มนัก เพราะเมื่อคืนนี้ แขกร่วมห้องที่นอนด้วย นอนกรนดังตลอดทั้งคืน เดี๊ยนจะเป็นลมค่ะ วันนี้เลยรู้สึกสลึมสลือ ดูตึบๆยังไงไม่รู้ แต่ก็สู้ตื่นมา เพราะว่าสายมากแล้ว
โดยที่พักเมื่อคืนนี้ ก็นอนพักที่โรงแรม อพาร์ตโฮเต็ล อาดเลอร์ (Aparthotel Adler) ที่พักคืนละ 1600 บาทต่อ 1 คืน เป็นห้องนอนรวมกับแขกคนอื่นที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ที่พักออกแนวอพาร์มเม้นท์ แต่นำมาซอยทำเป็นห้องนอนรวม มี 4 เตียงใน 1 ห้อง เดี๊ยนโชคร้ายได้เตียงบน ก็เลยทนฟังเสียงกรนจากเตียงด้านล่างตลอดคืนเลย ในห้องมีห้องน้ำให้ในตัว แต่ต้องใช่ร่วมกันค่ะ เวลาจะใช้ต้องคิวหน่อยนะค่ะ เพราะแขกร่วมห้องบางคน นางอาบน้ำนานเหลือเกิน ถ้าปวดขี้ ปวดฉี่ ก็ต้องอั้นไว้นะ อย่าพึ่งปล่อยราดออกมาก่อนนะ ท.ทหารอดทนต้องนำมาใช้เลยด่วนๆๆ
ที่พักเมื่อคืนนี้พักค้างที่โรงแรม อพาร์ตโฮเต็ล อาดเลอร์ (Aparthotel Adler) |
แต่ห้องน้ำกว้างขวางดีมาก ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนห้องครัว รู้สึกเป็นส่วนตัวกว่ามาก แต่ทิชชู สบู่ไม่มีให้นะค่ะ สรุปที่พักคืนนี้ให้แค่พอใช้ค่ะ ไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไหร่นัก Space area คับแคบ แต่ก็ถือว่าราคาถูกแล้วนะ หากไม่ซีเรียสหรือว่ามาพักหลายคน มองหาโรงแรมราคาถูกในเมืองลูเซิร์น ก็เข้าไปดูข้อมูลได้ที่เว็ปไซต์ อพาร์ตโฮเต็ล อาดเลอร์ (Aparthotel Adler)
ส่วนอาหารเช้าไม่มีให้นะค่ะ ต้องหาทานเอง โดยอาหารมื้อนี้ เดี๊ยนก็เตรียมทานเอง ออกแนวกากๆ สับปะรังเคหน่อย ตามสภาพเลยค่ะ กินตามมีตามเกิด ขนมปังที่เหลืออยู่ แช่ตู้เย็นไว้ นำมาทานให้หมด มีไก่และใส้กรอก ทานเอาแรง แต่อิ่มเว่อร์ ได้โภชนาการอยู่นะ จะขาดก็แต่ผักและผลไม้นี้แหละ จัดไปอย่าให้เสียของจ้า เพราะค่าครองชีพแรงสูงจริงๆนะจ๊ะ
ที่พักเมื่อคืนนี้พักค้างที่โรงแรม อพาร์ตโฮเต็ล อาดเลอร์ (Aparthotel Adler) |
Altes Luzerner Rathaus สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองลูเซิร์นใกล้ๆที่พัก |
ย่านท่องเที่ยวในตัวเมืองเก่า อยู่ใกล้ๆที่พัก
จะเป็นร้านค้าขายพวกเสื้อผ้าแบรนเนม และร้านอาหาร
ทางเดินในย่านเมืองเก่า จะเป็นถนนคนเดินเส้นเล็กๆ สองข้างทางก็เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนและร้านขายสินค้า
มีอาคารสถาปัตยกรรมตกแต่งสวยงามคลาสสิค
และมีนักท่องเที่ยวเดินแวะเวียนมาเดินชมตลอดเลยล่ะคะ
และทีขาดไม่ได้เลย แต่ละเมืองในประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะต้องมีรูปปั้นในบ่อน้ำพุสวยงามประดับประดา และให้นักท่องเที่ยวได้กรอกน้ำไปดื่มกันได้ด้วย
บรรยากาศยามเช้า ท้องฟ้าแจ่มใสดีค่ะ แต่วันนี้ไม่ค่อยมีแดดนัก
ดูครึมเมฆเยอะไปหน่อย แต่ก็ยังดี ที่ฝนไม่ตกนะ
เดินมาอีกหน่อยจากที่พักจะเป็นทางลงไปยังแม่น้ำรอยส์ ซึ่งเป็นแม่น้ำประจำเมืองลูเซิร์น
พอเดินออกมาก็จะมีร้านอาหารเปิดอยู่ริมแม่น้ำรอยส์ มีนักท่องเที่ยวกำลังนั่งรับประทานอาหารกันเต็มเลยค่ะ
สะพานไม้ คาเพ็ลล์บรึคเคอ (Kapellbrücke) หรือ Chapel Bridge ถ้ามาแล้วไม่ได้เดินข้ามถือว่ามาไม่ถึงนะ |
สาระน่ารู้เกี่ยวกับสะพานคาเพ็ลล์บรึคเคอ (Kapellbrücke) หรือ Chapel Bridge
สะพานคาเพ็ลล์บรึคเคอ (เยอรมัน: Kapellbrücke) ( อังกฤษ : Chapel Bridge) เป็นสะพานคนเดินข้ามแม่น้ำร็อยส์ในนครลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1365 เมื่อแรกสร้างมีความยาว 270 เมตร แต่เนื่องจากตลิ่งแม้น้ำที่งอกเพิ่มขึ้นตลอดหลายร้อยปี ทำให้ในปัจจุบันตัวสะพานเหลือความยาว 204.7 เมตร
โดยสะพานแห่งนี้ถือเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และถือเป็นหนึ่งในสะพานแบบโครงที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ในโลก ตลอดลำสะพานมีจิตรกรรมจำนวนมากที่วาดขึ้นในศตวรรษที่ 17 อย่างไรก็ตาม จิตรกรรมกว่า 2 ใน 3 ได้ถูกทำลายจากเหตุเพลิงไหม้ในปี ค.ศ. 1993
ปัจจุบันสะพานแห่งนี้ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกแวะมาเยือนตลอดทั้งปี เนื่องจากมีภูมิทัศน์ที่สวยงาม อยู่ติดริมทะเลสาบลูเซิร์น
น้ำในแม่น้ำรอยก็ใส๊ใส น่าลงไปเล่นมากๆนะค่ะ
ในเมื่อมาถึงแล้วก็ไม่พลาด ต้องไปเดินข้ามสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งนี้สักครั้งค่ะ
เดียวจะหาว่า คุณนายเว่อร์มาไม่ถึง
เดินข้ามสะพานแต่ละจุดจะมีภาพวาดผาผนังให้ชมด้วยนะ
มองไปอีกฝั่งก็จะเห็นโบสถ์เก่า Jesuitenkirche
เดินมาที่สถานีรถไฟเมืองลูเซิร์น |
ดิฉันก็เดินมาที่สถานีรถไฟเมืองลูเซิร์น เพื่อมาเอาโบว์ชัวร์แผนที่ท่องเที่ยวในเมืองนี้ว่ามีอะไรบ้าง
มาที่ Tourist information ประจำเมืองลูเซิร์น |
ก็แนะนำให้แวะมาที่สถานีรถไฟได้ค่ะ โดยด้านในสถานีจะมี Tourist information มีแผ่นที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองลูเซิร์นให้ค่ะ
เมื่อเข้ามาถึงก็จะมีแผนที่ให้เราไปหยิบเลือกดูเลยค่ะ ว่าจะเอาแบบใหน
จะเที่ยวที่ใหนบ้าง หากมีข้อสงสัยก็กดบัตรคิว ติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ได้ด้วยก็ไม่ต้องห่วงเรื่องภาษานะค่ะ เพราะเจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษได้ แต่ถ้ามีเจ้าหน้าที่ให้บริการภาษาไทยด้วย ก็จะเริ่ดมากๆ โดยด้านในเป็นแหล่งรวมข้อมูลการเที่ยวเมืองลูเซิร์นให้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวได้ด้วยตัวเอง
แผนที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองลูเซิร์น ซึ่งสามารถเดินเท้าชมรอบเมืองนี้ |
หลังจากหยิบคู่มือท่องเที่ยวมาแล้ว ก็ออกไปเที่ยวกันเลยค่ะ
เดินออกมาจุดแรกมุมนี้เป็นศูนย์วัฒนธรรม Lucerne Culture and Congress Centre
วิวทิวทัศน์ริมทะเลสาบลูเซิร์น |
เดินกินลม เลาะชมวิวทิวทัศน์ริมทะเลสาบลูเซิร์น |
โดยที่มีบริการเรือหลากหลายให้ไว้บริการ ซึ่งท่าเรือก็อยู่ใกล้สถานีรถไฟเลยค่ะ
ส่วนทริปวันนี้ ดิฉันเลือกเดินเที่ยวในเมืองดีกว่าค่ะ เพราะไม่ได้วางแผนว่าจะนั่งเรือ
ก็เลยเลือกเดิมชมเมืองแทน ซึ่งการเดินเที่ยวในเมืองก็เป็นอีกทริปยอดนิยมเช่นกัน
สถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป และพักผ่อนกัน คงไม่พลาดต้องมานั่งชิวๆชมวิวทะเลสาบลูเซิร์นค่ะ มีหงส์สีขาวกำลังสุขสกาวแหวกว่ายน้ำให้ชื่นบานกันด้วยค่ะ
หงส์ขาว ถือว่านางเป็นดาราประจำทะเลสาบแห่งนี้เลยก็ว่าได้นะ
เพราะแหวกว่ายอยู่ริมทะเลสาบ ช่วยสร้างสีสันให้เมืองนี้ไม่น้อยทีเดียว
บรรยากาศริมทะเลสาบลูเซิร์นก็มีท่าเรือจอดเทียบท่าและมีหงส์สีขาวมากมาย
มารอต้อนรับนักท่องเที่ยว
วิวทิวทัศน์ริมทะเลสาบลูเซิร์น |
และหาดเดินมาริมทางก็จะมีมุมถ่ายรูปสวยๆหลากหลายมุมให้เราได้แวะถ่ายภาพกันค่ะ
ใครชอบแบบใหนก็จัดไปเลยนะ
หากใครที่เดินมาเหนื่อย เมื่อยก็หยุดแวะพักนั่งพักริมทางได้ค่ะ
ดิฉันเดินลัดเลาะไปทางทางเรื่อยๆ
หากใครที่เหนื่อย เมื่อยก็หยุดพักได้นะ เพราะมีที่นั่งพักตลอดริมทะเลสาบค่ะ
ในวันที่ดิฉันไปเที่ยว ก็มีการจัดแสดงดนตรีในสวนสาธารณะอยู่ริมทะเลสาบให้ได้ฟังกันด้วยนะค่ะ
ดนตรีออกแนวแจส ไพเราะเพราะพริ้งดีค่ะ ฟังแล้วเพลินเลย ถ้ามีระนาด หรือฉิ่งฉาบโปงลาง ก็จะสนุกแดนซ์กระจายกันไปเลย
เดินเลาะริมทะเลสาบมาเรื่อยๆก็ถึง โบสถ์ Hofkirche St. Leodegar |
โดยโบสถ์แห่งนี้เป็นวิหารเก่าแก่อีกแห่งในเมืองลูเซิร์น
โบสถ์ Hofkirche St. Leodegar |
ตั้งตระหง่านอยู่ในเมืองใกล้ทะเลสาบลูเซิร์น
เดินต่อไปยังสวนสาธารณะอนุสาวรีย์สิงห์โต |
เดินมาเรื่อยๆ ก็ไม่ต้องกลัวหลงนะค่ะ เพราะมีป้ายบอกทางให้ค่ะ
ของที่ระลึกในเมืองลูเซิร์น สวิตเซอร์แลนด์ ตุ๊กตาน่ารักเห็นแล้วอยากได้อีกแล้ว |
เห็นตุ๊กตาน่ารักวางขายในตู้ น่าซื้ออีกแล้ว
ถึงแล้วค่ะสวนสาธารณะที่ตั้งของอนุสาวรีย์สิงโตในเมืองลูเซิร์น
เดินเข้ามาด้านในเป็นสวน บรรยากาศร่มรืนย์ แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ลมพัดเย็นสบาย
โดยที่ลานอนุสาวรีย์แห่งนี้ มีเรื่องราวและที่มาให้อ่านด้วยนะค่ะ
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) |
อนุสาวรีย์สิงโตตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิร์น เป็นรูปปั้นสิงโตที่ใกล้ตาย ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ผู้คนระลึกถึงองครักษ์สวิสที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ จากการลุกฮือที่พระราชวังทุยเลอเรียงที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งขณะที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ตกอยู่ภายใต้การนำของประเทศฝรั่งเศส ราชองครักษ์สวิสราว1,200 นายได้ทำหน้าที่ปกป้องพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ต่อมาในช่วงที่เกิดการปฏิวัติในฝรั่งเศส กลุ่มผู้ปฏิวัติที่โกรธแค้นได้บุกและยึดพระราชวังทุยเลอเรียง ซึ่งสมาชิกของราชวงศ์ได้ออกจากวังไปแล้วก่อนที่ผู้ปฏิวัติจะมาถึง
อนุสาวรีย์สิงโตในสวนสาธารณะมีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นย์ |
อย่างไรก็ตามทหารสวิสราว 1,000 พันนายได้ต่อสู้กับผู้ปฏิวัติเพื่อปกป้องพระราชวังที่ไร้ผู้คน ในการต่อสู้ครั้งนี้มีทหารมีเสียชีวิตประมาณ 760 นาย องครักษ์ทั้งหมด200นาย ซึ่งทำหน้าที่ติดตามพระราชาไปที่สภาสมัชชาแห่งชาติได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้
วันที่ 10 สิงหาคม ปี ค.ศ. 1792 อนุสาวรีย์นี้เป็นหนึ่งในอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ในแต่ละปีจะมีผู้มาเยี่ยมชมอนุสาวรีย์แห่งนี้ประมาณ 1.4 ล้านคนและในปี ค.ศ. 2006 อนุสาวรีย์แห่งนี้ได้รับการคุ้มครองเป็นให้เป็นมรดกแห่งชาติอีกด้วย
เครดิตข้อมูลดีๆจากสารานุกรมเสรีวิกิพีเดีย (https://th.wikipedia.org/wiki/อนุสาวรีย์สิงโต)
ใกล้ๆกับสวนสาธารณะอนุสาวรีย์สิงห์โต ก็ยังมีร้านคอฟฟี่ช๊อปนั่งดื่มให้ได้นั่งพักผ่อนกันอีกด้วยค่ะ
หลังจากได้ไปชมอนุสาวรีย์สิงห์โตแล้วนะค่ะ ก็เดินต่อไปยังจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งนั้นก็คือ musegg wall lucerne หรือกำแพงเมืองเก่าแห่งเมืองลูเซิร์นนั้นเองค่ะ
โดยระยะทางก็สามารถเดินเท้ามาได้ไม่ไกลเช่นกันคะ
ตามถนนหนทางก็สวยงามเป็นระเบียบร้อยเรียบ และเรียบร้อย ดูสะอาดสะอ้านสบายตาดีเหลือกเกิน
ถนนหนทางบางช่วงเป็นเนินลาดชันขึ้นมาก็ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวหรือรถราวิ่งมากนัก
เดินมาอีกนิด ก็เห็นเด็กๆดูน่ากิน เอ้ยไม่ใช่น่ารักเชียว กำลังจะเดินไปใหนสักแห่ง แถมทักทายเดี๊ยนไปภาษาอังกฤษด้วยนะ
กำแพงเมืองเก่าลูเซิร์น หรือ musegg wall lucerne |
ซึ่งที่นี้ถือเป็นอีกจุดชมวิวเมืองที่สวยงามอีกแห่งในเมืองนี้ค่ะ
เดียวเราขึ้นไปเดินที่กำแพงเก่ากันคะ
เดินมาก็เจอน้ำพุอีกแล้ว หิวหรือกระหายน้ำเมื่อไหร่ก็กรอกใส่ขวดดื่มได้เลยนะ
กำแพงเมืองเก่า musegg wall lucerne
มีทางขึ้นไปด้านบนกำแพงเมืองด้วยนะคะ
แผนที่การเดินขึ้นไปยังหอคอยต่างๆตามกำแพงเมืองเก่า |
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ musegg wall lucerne
เป็นกำแพงเมืองที่ล้อมรอบตัวเมืองสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1386 โดยผนังของกำแพงยังคงมีความสมบูรณ์ ซึ่
หอคอยทั้งสี่จุด ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ด้วย ได้แก่ Schirmer, Zyt, Wacht และMännli และที่กำแพงเมืองแห่งนี้ มีนาฬิกาเมืองที่เก่าแก่ที่สุดที่สร้างโดย Hans Luter ในปี 1535 ซึ่งติดตั้งอยู่ในหอคอย Zyt
ทางเดินขึ้นไปด้านบนค่ะ เป็นบันใดไม้ ทางขึ้นค่อนข้างเล็กนิดนึง ใครที่กลัวความสูง หรือกลัวเป็นลม ก็พกยาดมยาหม่องไปด้วยนะ
พอขึ้นก็จะเป็นห้องมีแสงสว่างอยู่นะ ไม่ได้มืดไปซ่ะทีเดียว
และจะมีประตูเดินออกมาจากหอคอย ก็จะเป็นทางเดินเชื่อมต่อไปยังอีกหอคอยนึง
พอเดินขึ้นมาจุดนี้ ก็จะเห็นวิวทิวทัศน์และทะเลสาบลูเซิร์นได้อย่างสวยงาม
นอกจากนี้ยังเห็นหลังคาบ้านเรือนและตัวเมืองลูเซิร์นอีกด้วยนะ
ซูมกล้องไปก็เห็นสะพานไม้เก่าและหอนาฬิกาเก่าอีกด้วยล่ะค่ะ
ซูมกล้องไปด้านล่างก็เป็นใบเมเปิ้ลสีแดง ดูสวยงามร้อนแรงจับใจ
ตรงที่ดิฉันยืนอยู่นี้เป็นจุดชมวิวตรงระเบียงทางเดินกำแพงเมืองเก่าค่ะ
สามารถเดินเลียบเลาะมาเรื่อยๆได้เลย
ซูมกล้องมองไปไกลก็เห็นเรือใบ ลอยลำอยู่กลางทะเลสาบ
เดินขึ้นมาก็เห็นวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองและทะเลสาบลูเซิร์น |
ยังไม่หมดนะค่ะเดินลงจากริมระเบียงเลาะกำแพงเก่าก็มีทางเดินเลาะเนินหญ้าไปเรื่อยๆ
จุดนี้เป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายรูปที่เหล่าคู่รักโรแมนติด นิยมมาชิคแอนด์ชิลถ่ายรูปกัน
เนื่องจากมีจุดนั่งพักและเป็นทางเดินลงเนินเขาและเป็นลานหญ้า
ส่วนหอคอย mannliturm tower นี้ก็เป็นอีกหนึ่งของกำแพงเมืองเก่าที่มีทางเดินขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ค่ะ
หอคอย mannliturm tower อยู่ในส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองเก่า |
ใครที่ชอบถ่ายภาพแนวๆอาร์ตต้องไม่พลาดมาเดินชมให้สุขสมอุรากันนะคะ
เดินขึ้นไปยังด้านบนหอคอย |
ถ้าหากใครที่เดินบันใดขึ้นมาแล้วรู้สึกวิงเวียนศรีษะ ก็อย่าลืมพกยาดม ยาหม่องมาด้วยนะ และอีกอย่างเลยก็คือน้ำดื่มค่ะ กรอกน้ำประปาใส่ขวดพกมาดื่มด้วย เพราะตอนเดินขึ้นก็ใช้แรงไม่น้อยเลยล่ะ
พอเดินขึ้นมาด้านบนหอคอย mannliturm tower ก็จะเห็นหลังคาลักษณะเป็นกรวยโดม
มองจากจุดชมวิวบนหอคอย mannliturm tower อยู่ในส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองเก่า |
มองลงไปด้านล่างก็เห็นแม่น้ำรอยส์ กับสะพานไม้เก่า Spreuer Bridge |
จุดชมวิว 360 องศา เดินไต่บันใดขึ้นมาบนสุดของหอคอยกำแพงเมืองเก่า |
ซูมกล้องไปก็เห็นสถานีรถไฟ ศูนย์วัฒนธรรม และโดมสะพานไม้เก่า Chapel Bridge
วิวทิวทัศน์เมืองลูเซิร์น |
ส่วนมองไปอีกมุมที่เป็นปราสาทสีขาวคล้ายๆปราสาทเจ้าหญิงสโนท์ไวท์อันนั้นคือ โรงแรม Hotel Château Gütsch เป็นโรงแรมหรูตั้งอยู่เนินเขา
ตอนแรกเดี๊ยนก็คิดว่าเป็นปราสาทพระราชวังให้แวะไปเที่ยวชมได้เสียอีก ที่ใหนเปิดดูในมือถือ บอกว่าเป็นโรงแรมค่ะ ราคาน่าจะแพงมากด้วยนะ เพราะตั้งบนเนินเขาสูง มองเห็นวิวทิวทัศน์เมืองได้สวยงาม
มองจากจุดชมวิวบนหอคอย mannliturm tower อยู่ในส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองเก่า |
โดยลักษณะของหลังคาหอคอย mannliturm tower จะมีรูปปั้นทหารอยู่บนยอดโดมของหลังคาค่ะ
ทางเดินลงค่อนข้างเล็กและแคบนิดนึง |
ทางลงก็เป็นบันใดขนมเกลียว เวลาเดินลงแล้วเวียนหัวหน่อยค่ะ
ลานหญ้าริมกำแพงเก่า ที่เหล่าบ่าวสาวนิยมมาถ่ายรูปกัน |
เดินลัดเลาะไปเรื่อยๆค่ะ
จะมีถนนตัดผ่านอาคารบ้านเรือนของชาวบ้าน
จะมีต้นใบเมเปิ้ลสีแดงให้ชืนชมกันอีกแล้ว
ใกล้กับกำแพงเมืองก็เป็นสะพานไม้เก่ามีชื่อว่า Spreuer Bridge |
สะพาน Spreuer Bridge |
โดยที่จุดสะพานแห่งนี้ จะเป็นจุดจัดการน้ำ โดยเป็นฝายน้ำล้น ทำให้เห็นภาพสีของแม่น้ำนั้นใสมากๆ
ฝายน้ำล้นในแม่น้ำรอยส์ที่ไหลผ่านตรงสะพานไม้เก่า Spreuer Bridge
สาระน่ารู้เล็กๆน้อยเกี่ยวกับสะพานไม้ Spreuer Bridge
สะพานไม้ Spreuer Bridge แห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1408 และเกิดน้ำท่วมขึ้นทำให้สะพานนี้พังเสียหายเมื่อปี 1566 และได้มีการรื้อซ่อมแซมสะพานนี้อีกครั้งหลังจากปี 1566 จนแล้วเสร็จ
บรรากาศทิวทัศน์จากสะพาน ก็เห็นตัวอาคารบ้านเรือนอยู่ริมสองฝั่งตั้งเรียงรายสวยงาม
มองทะลุไปก็เห็นหอคอยกำแพงเมืองเก่าซึ่งสร้างติดริมแม่น้ำร็อยส์
อาหารเที่ยงมื้อนี้ หนีไม่พ้นสลัด กับขนมปังอีกแล้วจ้า สมมุติว่าเป็นผัดกระเพราะไก่แล้วกันนะ |
ก็ได้เวลาทานอาหารมื้อเที่ยงแล้วค่ะ หลังจากที่ใช้แรงกายและแรงขาเดินขึ้นหอคอยจนหมดแรง
ต้องเติมพลังด้วยอาหารปิคนิคที่พกกระเป๋ามาด้วยค่ะ
อาหารมื้อนี้ก็ซื้อมาจากสถานีรถไฟตอนที่ไปศูนย์ข้อมูลท่องเทียวค่ะ เนื่องจากถ้าไม่ซื้อมา ก็จะต้องเสียเวลาหาร้านทานข้าว และต้องรอคิว นานอีก เสียเวลาค่ะ ซื้อมาจากสถานีรถไฟเลย หิวเมื่อไหร่ก็นั่งทานตรงนั้น อาหารมื้อเที่ยงนี้ มาทานตอนบ่าย 2 เลยนะ มีขนมปัง สลัดผัก แอปเปิ้ล สมมุติเอาว่าเป็นผัดกระเพราแล้วกันนะ
ทานไปก็ไม่ต้องกลัว เพราะมีนกกระจิบเป็นเพื่อน บินมาเป็นฝูงเลย มารอจิกเศษขนมปังที่ร่วงลงพื้น |
หลังจากที่ได้ทานสลัดผักกับขนมปังเป็นมื้อเที่ยงไปแล้วนะค่ะ
ดิฉันก็เดินชมเมืองต่ออีกซักพักเพื่อย่อยอาหารค่ะ
เดินเที่ยวชมเมืองลูเซิร์นแบบชิวๆ ชมวิวแม่น้ำรอยส์และกำแพงเมืองเก่า |
ร้านอาหารริมแม่น้ำรอยส์ |
เดินมาในยานนี้ก็จะดูไม่วุ่นวายมากนัก
บรรยากาศดูสวยงามดีค่ะ มีอาคาร และสำนักงานอยู่หลากหลายแห่ง
โบสถ์ Jesuitenkirche ตั้งอยู่ริมแม่น้ำร็อยส์
มีหุ่นรูปปั้นสำริดเป็นรูปคุณลุงกับแกะตั้งอยู่ริมทางให้นักท่องเที่ยวได้แวะถ่ายภาพกันด้วย
และหลังจากที่ได้เดินชิลๆ ชมเมืองลูเซิร์นไปแล้ว ดิฉันก็เดินกลับที่พักค่ะ
ระหว่างเดินกลับที่พักก็ผ่านร้านขายของที่ระลึก
ช็อคโกแลตสวิสสีน้ำตาลหลากหลายรสชาติวางขายในร้าน ก็น่าทานมากๆ กลิ่นหอยโชย จนเดี๊ยนต้องควักเงินซื้อทานตลอด |
แบกเป้เดินมาที่สถานีรถไฟลูเซิร์น
เดินกลับไปยังโรงแรมเพื่อไปเอากระเป๋าเป้ เตรียมเดินทางไปยังเมืองต่อไป |
นั่งรถไฟไปเมืองซูริค |
นั่งรถไฟออกจากเมืองลูเซิร์นเวลา 15.10 น.และจะไปถึงเมืองซูริค เวลา 16.13 น.ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ
ระหว่างทางก็ชมวิวทุ่งหญ้าป่าไม้สีเขียวๆของเมืองนี้ไป
นั่งรถไฟมาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆก็ถึงสถานีรถไฟเมืองซูริคแล้วค่ะ |
เดินออกจากสถานีรถไฟไปยังโรงแรมที่พักคืนนี้ |
คืนนี้พักค้างที่โรงแรม Montana Hotel Zurich |
นอนพักค้าง 1 คืนที่โรงแรม Montana Hotel Zurich |
ล็อบบี้ที่โรงแรม Montana Hotel Zurich |
ห้องพักคืนนี้ จองห้อง Standard Single แต่ทางโรงแรมจัดเป็นห้อง 2 เตียงให้ เพราะกว้างกว่า โดยรวมถือว่าดีทีเดียวค่ะ |
หลังจากที่ได้เข้า Chechk in เอากระเป๋าไว้ที่ห้องเรียบร้อยแล้วนะค่ะ ก็เตรียมตัวเดินทางไปชิคแอนด์ชิวต่อในเมืองซูริคค่ะ จบทริปเที่ยวเมืองลูเซิร์นค่ะ...เดี่ยวตอนต่อไป ดิฉันจะมารีวิวเที่ยวเมืองซูริคให้เพื่อนๆและคุณผู้อ่านทุกๆท่านได้มาสไลด์ดูกันต่อนะค่ะ
สำหรับทริปรีวิวเที่ยวเมืองลูเซิร์นก็ขอจบเพียงเท่านี้ หวังว่าน่าจะมีข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์อยู่ไม่มากก็น้อยนะค่ะ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกคนที่เสียสละเวลาคลิ๊กเข้ามาเปิดอ่านกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะค่ะ...จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
-------------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกรีวิวท่องเที่ยวไปเรื่อยเปื่อยตามเมืองต่างๆ ที่ผ่านมา มีดังนี้ค่ะ
แนะนำโรงแรมในสวิส วิวสวยๆ สำหรับคู่รักและครอบครัว ราคาประหยัด นอนสบายๆ คลิ๊กดูที่พัก>> |
รวมข้อมูลที่พักเมืองอินเทอร์ลาเคน ใกล้สถานีรถไฟ คลิ๊กดูข้อมูลที่พักค่ะ>> |
รวมข้อมูล 11 ที่เที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ ที่คนนิยมไปเช็คอินกัน มีที่ใหนบ้างนะ>> |
แบ่งปันรีวิวนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองบราติสลาวา 1 วัน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง>>> |
รีวิวเที่ยวกรุงบูดาเปสต์ 1 วัน ไป-กลับ ขยับเท้าเดินชมสถานที่เที่ยวต่างๆ มีอะไรบ้าง>>> |
7 วัดสวยงามในกรุงเทพ ที่ใครๆก็ต้องมาเสพสุขไหว้กันสักครั้ง มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลยค่ะ>> |
แบกเป้เที่ยวกรุงเวียนนาด้วยตัวเอง มีที่เที่ยวจุดถ่ายรูปอะไรบ้าง ตามไปกันเลย>> |
รีวิวพาเที่ยวชมพระราชวังเดิม เติมความรู้แบบไทยๆ ไปชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูที่เที่ยว>> |
แบ่งปันรีวิวเที่ยวฮัลล์สตัทด้วยตัวเอง มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกัน>> |
รีวิวพาชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพ เสพความรู้แบบไทยๆ ไปชมกันเลย>> |
หรือดูรายละเอียดที่ : http://bit.ly/2l05FdT
รีวิวเที่ยวงานแห่ผ้าขึ้นพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช นอนตากอากาศที่คีรีวง คลิ๊กดูรีวิว>> |
รีวิวแบกเป้เที่ยวเชียงคำ-งามล้ำทะเลหมอกภูลังกา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
มาม๊ะ..แวะมาเที่ยวเมืองสุรินทร์ ชมถิ่นช้างใหญ่ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวลุยเดี่ยวตอนที่ 14 แบกเป้ไปชมความน่ารักที่เมืองกอลมาร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2uQBBTE
รีวิวเที่ยวยุโรปตอนที่ 13 วิธีการเดินทางไปจุงเฟราด้วยตัวเอง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2LHckBV
รีวิวเที่ยวยุโรปตอนที่ 11 แบกเป้เที่ยวกรุงเบิร์น ดูเพลินๆสวยดีนะ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://bit.ly/2uoxRbX
รีวิวเที่ยวยุโรปตอนที่ 10 เยือนสวิตเซอร์แลนด์ เจนีวา-โลซาน คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://bit.ly/2N0X57i
รีวิวเที่ยวยุโรปตอนที่ 9 เดินชมเมืองลียง ชมอัสดงที่เขาฟูรวิแยร์ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://bit.ly/2NyWRFA
0 ความคิดเห็น