|
แบ่งปันทริปบันทึกเทีี่ยวไปตามภาพ รีวิวลุยเดี่ยวแบกเป้ไปเที่ยวเมืองปัตตานี เมืองนี้มีแต่ของดีๆอร่อยๆให้ทาน เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับไปชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลยจ้า |
เที่ยวเมืองไทย ถ้าไม่ออกไป ก็ไม่รู้จ้า สวัสดีเพื่อนๆผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนกันทุกๆคนค่ะ กลับมาพบปะทักทาย ซำบายดี อีหลีอยู่บ่กันอีกครั้งนะคะหลังจากที่บทความบล็อกตอนที่แล้ว ได้พาคุณผู้อ่านไปรีวิวเที่ยวอำเภอเบตง ใต้สุดแดนสยามของประเทศไทยกันไปแล้ว ตามเว็ปไซต์ลิงค์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2023/06/Backpack-Betong-%20southernmost.html
เพื่อไม่ให้บทความร้างไปวันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมาแบ่งปันทริปรีวิวเที่ยว 3 จังหวัดชายแดนใต้กันต่อค่ะ เป็นจังหวัดที่หลายๆคนอาจจะมีความกลัวและกังวลในเรื่องความไม่สงบ ว่าจะมีระเบิดตูมตามอลังการสะท้านโลกาหรือไม่ แต่พอเดี๊ยนได้เดินทางมาแล้ว กลับไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
เอาเป็นว่า พอได้มาเที่ยวแล้ว เดี๊ยนเอง กลับหลงเสน่ห์ อันแสนกิ๊บเก๋ ยูเรก้า ช่ะช่ะช่าหัวใจในจังหวัดแถบนี้ไปซ่ะแล้ว เนื่องจากมีมนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหล แฝงเอาไว้ให้ต้องไปแสวงหา ทั้งอาหารการกินแสนอร่อย วิถีชีวิต ผู้คนเป็นมิตร ยิ้มแย้ม และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติที่สมบูรณ์พูนผล น่าไปค้นหาทัศนาจรอย่างยิ่งยวดนัก จนลบภาพข่าวความไม่สงบตามจุดต่างๆที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดไปเลย เดี๊ยนเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับเที่ยวแบบชิลๆ สบายไปเลยค่ะ
เพราะพอได้พูดคุยกับชาวบ้านหรือผู้คนในพื้นที่แล้ว ก็ไม่มีอะไร ทุกคนก็ใช้ชีวิตปกติดี อย่างเช่นในทริปนี้ ซึ่งเขียนต่อจากบความตอนที่แล้ว ก็เดินทางนั่งรถแท๊กซี่จากเมืองเบตง มาต่อแท็กซี่ที่เมืองยะลาไปไปจังหวัดปัตตานี
ซึ่งท่ารถแท็กซี่อยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟ กลับมาผู้โดยสารมารอขึ้นกันอยู่เรื่อยๆ แบบไม่ต้องนั่งรอนานเลย เนื่องจากมีผู้โดยสารนิยมใช้บริการแท็กรถกันส่วนมาก เอาเป็นว่าเพื่อไม่เสียเวลา ไปดูภาพรีวิวการเดินทางกันเลยจ้า
|
เช็คเอาท์จากโรงแรมที่พักในอำเภอเบตง มารอขึ้นรถแท็กซี่โดยสารเพื่อเดินทางต่อรถที่จังหวัดยะลาค่ะ |
หลังจากทำการเช็คเอาท์จากโรงแรมในอำเภอเบตงแล้ว จากนั้นเดินแบกเป้มาซื้อตั๋วเพื่อรอขึ้นรถไปยะลาต่อค่ะ ซึ่งเป็นคิวรถแท๊กซี่ หากเพื่อนๆคนใหนที่จะเดินทางไปยะลา หรือไปปัตตานีต่อ สามารถเลือกนั่งรถตู้ หรือว่าแท๊กซี่ได้นะคะ คิวรถตู้จะอยู่ใกล้ๆกับร้านข้าวมันไก่เจริญ แต่ว่าถ้านั่งรถตู้ต้องรอคนเต็ม หรือมีคนมากพอ รถถึงจะออกค่ะ
|
ท่ารถตู้ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง ใกล้กับตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย |
โดยท่ารถตู้อยู่ใกล้กับตู้ไปรษณีย์กลางเมืองเบตงเลยค่ะ |
ย่านใจกลางเมืองเบตง |
เดินออกมาจากโรงแรมในเมืองเบตง มาไม่ไกล ฝนก็ตกลงมาพอดีเลยค่ะ
เป็นรถแท๊กซี่นั่ง 4 คน จากเบตงไป ยะลา ราคา 230 บาทต่อคน ซึ่งราคาอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต
|
เดินทางออกจากเบตงไปยะลา ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง |
เมื่อผู้โดยสารครบ 4 คนแล้ว ก็เดินทางออกจากเบตงไปยะลา ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง
|
รอขึ้นรถแท๊กซี่ยะลาไป ปัตตานี |
รถมาส่งที่วินแท๊กซี่ยะลา ปัตตานี ทางคนขับและคนที่นั่งมาด้วยกัน บอกว่านั่งสบายกว่า ไม่ต้องรอคนเต็มเหมือนรถตู้
โดยความพิเศษของแท๊กซี่จากยะลาไปปัตตานีคือ เป็นรถแท๊กซี่เบนซ์หวานเย็น
|
รอผู้โดยสารที่คิวรถแท๊กซี่เมืองยะลาไม่นาน ก็มีผู้โดยสารมาครบ 4 คน เพื่อนั่งรถแท๊กซี่เบนซ์หวานเย็นไปเมืองปัตตานีต่อค่ะ รถแท๊กซี่หวานเย็น ใช้แอร์ธรรมชาติิรับลมเย็นๆ ไปบริการส่งถึงที่ด้วย ถือว่าเริ่ดสะแมนแตนมาก..... |
นั่งรอผู้โดยสารที่คิวรถแท๊กซี่เมืองยะลาไม่นาน ก็มีผู้โดยสารมาครบ 4 คน เพื่อนั่งรถแท๊กซี่เบนซ์หวานเย็นไปเมืองปัตตานีต่อค่ะ เดี๊ยนพึ่งรู้ว่าคนที่นี่นิยมนั่งแท๊กซี่ เพราะว่าไม่ต้องรอคนเต็ม อีกทั้งรถแท๊กซี่ไปบริการส่งถึงที่ด้วย ถือว่าเริ่ดสะแมนแตนมากมากที่เดียวค่ะ
โดยพี่คนขับแท็กซี่ก็ทยอยผู้โดยสารถึงที่หมาย แบบว่าไม่ต้องไปต่อรถที่สถานีขนส่งเลยค่ะ รถมาส่งถึงที่จริงๆ คุ้มค่ากับราคาโดยสารมากๆ นั่งมา 4 คนจากยะลา ค่าโดยสาร คนละ 75 บาทค่ะ โดยโชว์เฟอร์หรือคนขับก็ส่งเดี๊ยนถึงโรงแรมที่พักคนสุดท้ายเลยจ้า
และทริปมาเที่ยวจังหวัดปัตตาครั้งนี้ และเป็นครั้งแรกด้วย เดี๊ยนเลือกมาพักที่โรงแรมบีเอ็ม อพาร์ทเม้นต์ ป้ตตานี B.M. Apartment Pattani ซึ่งเป็นที่พักแนวเซอร์วิช หอพักในปัตตานี บริการห้องเช่าพักรายวัน ราคาถูก ไม่แพง มีที่จอดรถกว้างขวาง น่าจะเหมาะกับครอบครัวหรือคนที่มองหาโรงแรมและที่พักใกล้ ม.อ.ปัตตานี เพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย ม.อ. อีกทั้งใกล้โซนร้านอาหารและย่านของกิน ดูคึกคักมากๆ
|
เช็คอินเข้าห้องพักที่โรงแรม B.M. Pattani Apartment (บี.เอ็ม. ปัตตานี อพาร์ทเมนท์) ที่พักแถว ม.อ.ปัตตานี |
มาถึงก็รอเช็คอินเข้าห้องพัก บรรยากาศบริเวณล็อบบี้ของที่พักก็ตกแต่งน่ารักดีทีเดียว
กุญแจที่พักเป็นแบบคีย์การ์ดเพื่อเปิดประตู
ส่วนสภาพห้องพักถือว่าดีทีเดียว ราคาห้องพักคืนละ 690 บาท ห้องพักกว้างขวาง สะอาดสะอ้าน มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ แบ่งเป็นล็อกๆให้ใส่เสื้อผ้าและของจุกจิกได้เยอะทีเดียว ทีวีจอแบน ตู้เย็น
|
รีวิวห้องพักคืนละ 690 บาท ที่โรงแรม B.M. Pattani Apartment (บี.เอ็ม. ปัตตานี อพาร์ทเมนท์) ที่พักแถว ม.อ.ปัตตานี |
สำหรับห้องพักคืนละ 690 บาท นอนได้ 2 คนค่ะ ถ้ามาคนเดียว ก็ราคาเดียวกัน เตียงนอนก็นิ่มกำลังดี มีโคมไฟและปลั๊กให้เสียบตรงหัวเตียงด้วย และสัญญาณอินเตอร์เน็ตก็เร็วแรงดี ไม่มีหลุดเลย ให้ผ่านค่ะ
|
สภาพห้องน้ำ สะอาดสะอ้าน กว้างขวางดี ไม่คับแคบหรืออึดอัดเกินไป |
ห้องน้ำก็กว้าง ไม่คับแคบเกินไป มีเครื่องทำน้ำอุ่น มีสบู่เหลว และแชมพูให้ค่ะ
มีระเบียงห้องพักและราวตากผ้าให้ด้วย สรุปภาพรวมของห้องพักที่โรงแรม บีเอ็ม อพาร์ทเม้นต์ปัตตานี ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยมไปเลยจ้า ราคาถูก ไม่แพงเกินไป ห้องก็ดีสะอาดสะอ้าน ที่จอดรถกว้าง อยู่ใกล้ตลาด ร้านอาหาร ย่านของกินมากมาย
|
เดินเท้าออกจากโรงแรม ไปหาอะไรทานได้ แถวตลาดหลัง ม.อ.ปัตตานี ร้านค้าเยอะมาก |
ยามหัวค่ำ ก็สามารถเดินเท้าออกจากโรงแรม ไปหาอะไรทานได้ มีร้านสะดวกซื้อ 7-11, Big C mini, ร้านคาเฟ่น่ารัก และตลาดหลัง ม.อ.ปัตตานีด้วย
|
บรรยากาศตลาดหลัง ม.อ.ปัตตานี ก็มีร้านอาหารของกินให้เลือกทานเยอะ |
บรรยากาศตลาดหลัง ม.อ.ปัตตานี ก็มีร้านอาหารของกินให้เลือกทานเยอะทีเดียวค่ะ
ผู้คนส่วนใหญ่ก็เป็นนักศึกษาที่มาเรียนที่นี่
อาหารแต่ละอย่างก็น่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ
|
ที่สำคัญคืออาหาร ราคาถูกมาๆ เน้นราคานักเรียน นักศึกษาจริงๆ ปลาก็ชิ้นละ 5 บาท |
ที่สำคัญคืออาหาร ราคาถูกมาๆ เน้นราคานักเรียน นักศึกษาจริงๆ ปลาก็ชิ้นละ 5 บาท เลือกได้เอากี่ชิ้น จัดไปค่ะ
|
เดี๊ยนเห็นจะชอบเป็นพิเศษ คงเป็นข้าวยำปักษ์ใต้ ราคาห่อละ 15 บาทเท่านั้น ขายถูกมากๆ บ้าไปแล้ว ถ้าอยู่กรุงเทพเคยทานแต่กล่องละ 50 บาท |
แต่ทีเดี๊ยนเห็นจะชอบเป็นพิเศษ คงเป็นข้าวยำปักษ์ใต้ ราคาห่อละ 15 บาทเท่านั้น ขายถูกมากๆ บ้าไปแล้ว อยู่กรุงเทพเคยซื้อแต่กล่องละ 50-60 บาท มานี่ห่อละ 15บาท แม่ค้าก็ให้เยอะด้วย สำหรับคนชอบทานผัก น่าจะชอบทานข้าวยำแน่ๆ
|
ข้าวยำปักษ์ใต้เมืองปัตตานี ห่อละ 15 บาท ถูกจริง อะไรจริง |
อาหารค่ำมื้อนี้ เลยได้ทานข้าวยำปักษ์ใต้ แดนดินถิ่นน้ำบูดูแท้ๆ ราคาถูกจริง 15 บาทเอง ใครแวะมาเที่ยวปัตตานี้ อย่าลืมมาเดินหาของกินที่ตลาดหลัง ม.อ.ได้นะคะ
|
ตำนานเล่าขานความเป็นมาของเมืองปัตตานี มีที่มาอย่างไร |
น่ารู้กับตำนานเล่าขานความเป็นมาของเมืองปัตตานี
ปัตตานีเป็นหนึ่งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลตะวันออกของภาคใต้สุด ติดกับทะเลจีนใต้ อยู่ห่างจากกรุงเทพโดยทางรถยนต์ประมาณ 1,055 กิโลเมตร หรือ 1,025 กิโลเมตรโดยทางรถไฟ
คำว่า ปัตตานี มาจากคำภาษามลายูปัตตานี (ڤطاني) ซึ่งมาจากคำว่า Pata Ini ("ชายหาดแห่งนี้") นักวิชาการทางประวัติศาสตร์ และโบราณคดีเชื่อว่า ปัตตานี เป็นที่แวะพักจอดเรือ เพื่อแลกเปลี่ยนซื้อ-ขายสินค้าระหว่างพ่อค้าชาวอินเดียทางตะวันตกกับพ่อค้าชาวจีนทางตะวันออกและชนพื้นเมืองบน แผ่นดินและหมูเกาะใกล้เคียงต่างๆ
|
เดิมปัตตานีเป็นอาณาจักรที่เก่าแก่และมีความเจริญรุ่งเรืองในอดีต เนื่องจากมีหลักฐานทาง โบราณคดีว่า บริเวณอำเภอยะรัง มีซากร่องรอยของเมืองโบราณขนาดใหญ่ซ้อนทับกันถึง 3 เมือง |
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าเดิมปัตตานีเป็นอาณาจักรที่เก่าแก่และมีความเจริญรุ่งเรืองในอดีต เนื่องจากมีหลักฐานทาง โบราณคดีว่า บริเวณอำเภอยะรัง มีซากร่องรอยของเมืองโบราณขนาดใหญ่ซ้อนทับกันถึง 3 เมือง มีวัตถุโบราณ สถานที่ศาสนสถานหลายแห่ง นอกจากนี้ยังค้นพบโบราณวัตถุจำนวนมาก โดยวัตถุบางชิ้นมีตัวอักษร ซึ่งนักภาษาโบราณอ่านและแปลว่าเป็นอักษรปัลลวะ (อินเดียใต้) ภาษาสันสกฤตเขียนเป็น คาถาในพุทธศาสนาลัทธิ มหายาน พระโพธิสัตว์สัมฤทธิ์ และเศษภาชนะดินเผาที่มีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 12 ถึง13 สอดคล้องกับจดหมายเหตุจีนที่ได้กล่าวถึงไว้
|
ต่อมาได้ย้ายเมืองปัตตานีมาบริเวณบ้านพรือเซะ สันนิษฐานว่า เกิดจากการ เปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ |
นอกจากนั้นหลักฐานได้ขุดค้นพบ ยังแสดงให้เห็นด้วยว่าบริเวณที่ตั้งอำเภอยะรังในปัจจุบัน เป็นชุมชนที่มีความเจริญรุ่งเรืองในอดีตและต่อมาได้ย้ายเมืองปัตตานีมาบริเวณบ้านพรือเซะ สันนิษฐานว่า เกิดจากการ เปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ทำให้เมืองเดิมไม่เหมาะในการเป็นเมืองท่าการค้า (เครดิตข้อมูลดีๆจาก : http://www.pattani.go.th/content/history)
|
บรรยากาศย่านเมืองเก่าปัตตานี |
แม้ปัตตานีจะเป็นพื้นที่ที่ห่างไกลพระนคร แต่ทว่าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีก็ได้เสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงแผ่พระปรีชาคุณแก่ราษฎรในดินแดนใต้สุดแห่งสยามนี้
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปยังมณฑลปัตตานีถึง ๒ ครั้ง ครั้งแรกในปี พุทธศักราช ๒๔๗๑ เพื่อทรงเยี่ยมราษฎรที่เมืองปัตตานี ยะลา สายบุรี และนราธิวาส ทั้งสองพระองค์ได้ทอดพระเนตรกิจการด้านการศึกษาทั้งโรงเรียนกสิกรรม โรงเรียนสอนภาษามลายู และการศาสนาที่มัสยิด รวมทั้งการแสดงศิลปวัฒนธรรมประจำท้องถิ่น และวิถีความเป็นอยู่ของราษฎร เช่นการเก็บเกี่ยวข้าวแบบพื้นเมือง ระหว่างเสด็จพระราชดำเนินกลับ ทรงแวะที่เมืองสงขลาในมณฑลนครศรีธรรมราช เกาะสมุย และหมู่เกาะอ่างทองในจังหวัดสุราษฎร์ธานี (เครดิตข้อมูลดีๆจาก : http://wiki.kpi.ac.th/index.php?)
|
ก่อนออกเดินทางไปเที่ยว ก็ติดต่อร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ในเมืองปัตตานี ร้านเช่าก็อยู่ใกล้ๆกับที่พักเลยค่ะ เดินไปได้ไม่ไกล |
ส่วนใครที่จะแบกเป้ลุยเดี่ยว มาเที่ยวปัตตานี ก็ไม่ต้องห่วง ว่าจะเดินทางไปใหนลำบาก เพราะมีร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ และร้านเช่ารถยนต์ให้บริการด้วย เดี๊ยนเลยติดต่อไว้ล่วงหน้า จองไว้ 1 คันค่ะ เช่าคันดีๆหน่อยก็คันละ 350 บาท มัดจำรถ 1000 บาท มีหมวกันน็อกให้ด้วย
ซึ่งร้านเช่ารถในปัตตานี ที่เดี๊ยนติดต่อไว้ ก็อยู่ใกล้ๆกับโรงแรมด้วย ก็เลยเดินเท้าไปได้ไม่ไกล สำหรับใครที่ต้องการเช่ารถ ก็สามารถค้นหาร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ใน Google ได้เลย มีเจ้าเดียว อยู่หน้าแรก ตามเบอร์โทรเลยค่ะ 099-2243666 หรือเบอร์ 081-9695051
|
พอได้รถมอเตอร์ไซต์แล้ว ก็ขับลุยฝ่าแสงแดด และสายฝนไปเที่ยวปัตตานีกันเลยจ้า |
ได้รถมอเตอร์ไซต์แล้ว ก็ลุยขับไปเที่ยวเมืองปัตตานีก่อนเลยจ้า ตามไปดูสิว่าในเมืองปัตตานี มีจุดเช็คอินถ่ายรูปที่ใหนบ้าง
|
1.ย่านเมืองเก่าปัตตานี ชุมชนกือดาจีนอ หรือ ชุมชนตลาดจีนปัตตานี |
|
1.ย่านเมืองเก่าปัตตานี ชุมชนกือดาจีนอ หรือ ชุมชนตลาดจีนปัตตานี |
|
ย่านเมืองเก่าปัตตานี ชุมชนกือดาจีนอ หรือ ชุมชนตลาดจีนปัตตานี |
|
ย่านเมืองเก่าปัตตานี ชุมชนกือดาจีนอ หรือ ชุมชนตลาดจีนปัตตานี |
|
ย่านเมืองเก่าปัตตานี ชุมชนกือดาจีนอ หรือ ชุมชนตลาดจีนปัตตานี |
|
1.ย่านเมืองเก่าปัตตานี ชุมชนกือดาจีนอ หรือ ชุมชนตลาดจีนปัตตานี |
1.ย่านเมืองเก่าปัตตานี ชุมชนกือดาจีนอ หรือ ชุมชนตลาดจีนปัตตานี
อี่กหนึ่งย่านท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในเมืองปัตตานี ที่ใครที่มาเมืองนี้ ก็ต้องแวะไปเช็คอินถ่ายรูปสวยๆกัน โดยชุมชนกือดาจีนอ (ชุมชนตลาดจีน) หรือชุมชนหัวตลาด ตั้งอยู่พื้นที่ถนนอาเนาะรู ถนนปัตตานีภิรมย์ และถนนฤาดี ชุมชนที่นี้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยร่วมกันของชาวไทยพุทธ ชาวไทยมุสลิม และชาวไทยเชื้อสายจีน โดยเป็นชุมชนจีนที่ขนาบข้างด้วยชุมชนอาเนาะซูงา และคลองช้างที่มีชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม
โดยกือดาจีนอ เป็นภาษามลายู ซึ่งคำว่า กือดา แปลว่า ตลาด ส่วนคำว่า จีนอ แปลว่า จีน กือดาจีนอประกอบด้วยถนนปัตตานีภิรมย์ซึ่งวิ่งขนานกับแม่น้ำปัตตานีไปบรรจบกันที่ถนนอาเนาะรู ซึ่งมีศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวตั้งอยู่ที่นั่น กือดาจีนอเป็นย่านเมืองเก่าที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางด้านการค้าในอดีต แถมปัจจุบันยังคงเหลือสถาปัตยกรรมผสมผสานแบบไทยและจีนหลงเหลืออยู่ให้เห็นอีกหลายหลัง แถมยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของผู้คนในชุมชนให้ทุกคนได้เห็นและสัมผัสกันอีกด้วย
|
2.ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว |
|
2.ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว |
|
2.ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว |
|
2.ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว |
2.ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นศาลเจ้าตามคติจีนหนึ่งในสามแห่งของจังหวัดปัตตานี ตั้งอยู่บริเวณเชิงสะพานเดชานุชิตในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดปัตตานีและใกล้เคียง ภายในประดิษฐานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว (ภาษามลายูปัตตานีว่า โต๊ะแปะกงแมะ หรือโตะกงแมะ) โดยมีตำนานที่ยึดโยงกับสถานที่และโบราณสถานอื่น ๆ ในจังหวัด
เดิมศาลเจ้านี้มีชื่อเรียกว่า "ศาลเจ้าซูก๋ง" ตามหลักฐานที่จารึกอยู่ในศาลเจ้า ตั้งขึ้นในปีปีพุทธศักราช 2117 ในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาธรรมราชาแห่งกรุงศรีอยุธยา แม้ศาลเจ้านี้จะตั้งมาเก่าแก่นับได้หลายศตวรรษ แต่ด้วยบุญญาภินิหารของเจ้าแม่หลิมกอเหนี่ยว ศาลเจ้านี้จึงมีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นที่ศรัทธาของสาธุชนเสมอมามิได้ขาด
|
3.มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี หนึ่งในมัสยิดที่สวยงามที่สุดอีกแห่งของเมืองไทย |
|
3.มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี หนึ่งในมัสยิดที่สวยงามที่สุดอีกแห่งของเมืองไทย |
|
3.มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี หนึ่งในมัสยิดที่สวยงามที่สุดอีกแห่งของเมืองไทย |
|
3.มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี หนึ่งในมัสยิดที่สวยงามที่สุดอีกแห่งของเมืองไทย |
|
3.มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี หนึ่งในมัสยิดที่สวยงามที่สุดอีกแห่งของเมืองไทย |
3. มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี
เป็นหนึ่งในมัสยิดที่สวยงามที่สุดอีกแห่งของเมืองไทย เป็นมัสยิดที่ตั้งอยู่ใน ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามมีความโดดเด่น และยังเป็นศาสนสถานศูนย์รวมจิตใจของผู้นับถือศาสนาอิสลามในภาคใต้ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีก่อสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2497 โดยใช้พื้นที่บริเวณริมถนนหลวงสายปัตตานี-ยะลา ย่านตำบลอาเนาะรู กว้าง 3 ไร่ 55 ตารางวา ตามแนวคิดของรัฐบาลในสมัยนั้นที่ต้องการให้เกิดสันติสุขขึ้นในพื้นที่ห่างไกล โดยพลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเดินทางมาวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่6 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 และใช้เวลาก่อสร้างนาน 9 ปี เมื่อแล้วเสร็จจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2506 ให้ชื่อว่า มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี รูปทรงภายนอกของมัสยิดมีต้นแบบมาจากทัชมาฮาล มียอดโดมสีเขียวขนาดใหญ่กลางอาคาร มีความงามโดดเด่น (เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี )
|
4.มัสยิดกรือเซะและที่ฝังศพเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว |
|
4.มัสยิดกรือเซะและที่ฝังศพเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว |
|
4.มัสยิดกรือเซะและที่ฝังศพเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว |
|
4.มัสยิดกรือเซะและที่ฝังศพเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว |
|
4.มัสยิดกรือเซะและที่ฝังศพเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว |
|
4.มัสยิดกรือเซะและที่ฝังศพเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว |
4.มัสยิดกรือเซะและที่ฝังศพเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
หรือ มัสยิดสุลต่านมูซัฟฟาร์ชาห์ เป็นมัสยิดเก่าแก่อายุกว่า 200 ปีในจังหวัดปัตตานี สันนิษฐานได้ว่าเป็นศาสนสถานที่สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 22 ร่วมสมัยกรุงศรีอยุธยา มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า มัสยิดปิตูกรือบัน ชื่อนี้เรียกตามรูปทรงของประตูมัสยิด ซึ่งมีลักษณะเป็นวงโค้งแหลมแบบกอทิกของชาวยุโรป และแบบสถาปัตยกรรมของชาวตะวันออกกลาง (คำว่า ปิตู แปลว่า ประตู กรือบัน แปลว่า ช่องประตูที่มีรูปโค้ง)
โดยตัวมัสยิดนี้ ตั้งอยู่ริมถนนสายปัตตานี-นราธิวาสหรือทางหลวงแผ่นดินสาย 42 บริเวณบ้านกรือเซะ ห่างจากตัวเมืองปัตตานีประมาณ 7 กิโลเมตร ลักษณะการก่อสร้างมัสยิดแห่งนี้เป็นแบบเสากลมก่ออิฐถือปูนแบบศิลปะทางตะวันออกกลาง บริเวณใกล้เคียงนั้นมีฮวงซุ้ยหรือที่ฝังศพเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว มัสยิดแห่งนี้สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (ช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2121 – 2136)
|
5.สะพานไม้บานา จุดเช็คอินถ่ายรูปสวยๆไม่ไกลจากเมืองปัตตานี |
|
5.สะพานไม้บานา จุดเช็คอินถ่ายรูปสวยๆไม่ไกลจากเมืองปัตตานี |
|
5.สะพานไม้บานา จุดเช็คอินถ่ายรูปสวยๆไม่ไกลจากเมืองปัตตานี |
|
5.สะพานไม้บานา จุดเช็คอินถ่ายรูปสวยๆไม่ไกลจากเมืองปัตตานี |
|
5.สะพานไม้บานา จุดเช็คอินถ่ายรูปสวยๆไม่ไกลจากเมืองปัตตานี |
|
5.สะพานไม้บานา จุดเช็คอินถ่ายรูปสวยๆไม่ไกลจากเมืองปัตตานี |
5.สะพานไม้บานา จุดเช็คอินถ่ายรูปสวยๆไม่ไกลจากเมืองปัตตานี
สำหรับสะพานไม้บานา เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากเดินรับลมเย็นๆ ชมวิวทะเลสวยๆต้องมาถ่ายรูปภาพเป็นที่ระลึกกัน โดยสะพานไม้บานา” ตั้งอยู่ที่ตำบลบานา อำเภอเมืองจังหวัดปัตตานี สะพานไม้ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ สร้าง สะพานไม้ ทอดยาวลงไปสู่ อ่าวปัตตานี สามารถไปเดินเล่นชมบรรยากาศท้องทะเล และป่าชายเลน มีศาลาสำหรับนั่งเล่น และยังมีกิจกรรมล่องเรือชมวิวให้นักท่องเที่ยวด้วย
|
ขับรถมาเที่ยวปัตตานี ก็แวะซื้อของฝากริมทางสักหน่อยค่ะ มีลูกตาลอ่อนและผลิตภัณฑ์ของฝากให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับไปด้วย |
แวะซื้อของฝากริมทางของจังหวัดปัตตานี หลังจากขับออกมาจากมัสยิดได้ไม่ไกล
โดยของฝากของกินที่นี่ ก็เป็นลูกตาลและน้ำตาลสด หรือคนที่นี่เรียกว่า ตูเวาะ ส่วนที่เห็นนั้นคือขนมที่ทำจากน้ำตาลโตนด รสชาติหอมหวานอร่อยดีค่ะ ถุงล่ะ 15 บาท
โดยบริเวณดังกล่าว มีต้นตาลอยู่มาก ชาวบ้านก็นำลูกตาลอ่อนมาขายให้กับนักท่องเที่ยว และผู้ที่สัญจรไปมาก็ต้องแวะซื้อกัน โดยเฉพาะ น้ำตูเวาะ
และของฝากขึ้นชื่ออีกอย่างที่ขึ้นชื่อก็คือ เกลือทะเล ว่ากันว่าเป็นเกลือสำหรับเอาไปหมักปลา หรือทำปลาเค็มได้อร่อยยิ่งนักแล
|
น้ำตูเวาะสดๆ รสชาติหอมหวาน อร่อยดีนะคะ มาถึงปัตตานี ต้องดื่มน้ำตูเวาะ |
จัดไปสัก 1 ถุงกับ น้ำตูเวาะสด ใครมาเที่ยวปัตตานี แวะผ่านก็ลิ้มลองทานน้ำตูเวาะ หอมหวานได้นะคะ
|
ขนมอาเกาะ หรือขนมไข่อบเตาถ่าน
|
และอีกหนึ่งขนมก็ต้องลิ้มลองทานก็คือ ขนมอาเกาะ คล้ายขนมหม้อแกงไข่ กลิ่นหอม หวาน รสชาติอร่อยมากค่ะ มาเที่ยวปัตตานีก็ต้องลองค่ะ เพราะมีขายเฉพาะในพื้นถิ่นแถบนี้เท่านั้น
|
6.วังเจ้าเมืองยะหริ่ง |
|
6.วังเจ้าเมืองยะหริ่ง |
|
6.วังเจ้าเมืองยะหริ่ง |
|
6.วังเจ้าเมืองยะหริ่ง |
6.วังเจ้าเมืองยะหริ่ง
อีกหนึ่งวังเก่าแก่ ตั้งอยู่ในอำเภอยะหริ่ง ตัววังตั้งอยู่ในซอยพิพิธราษฎร์บำรุง มีลักษณะสถาปัตยกรรมที่สวยงาม แต่วันที่ไปเที่ยว ทางวังปิดปรับปรุงชั่วคราว เลยไม่ได้เข้าไปด้านในค่ะ
ถูกจัดให้เป็นวังที่มีประวัติศาสตร์เป็นมายาวนาน การเข้าชมสามารถติดต่อขออนุญาตได้ที่ทายาทเจ้าของวัง โดยตัวอาคารมีสถาปัตยกรรมผสมผสานกันระหว่างไทยมุสลิม จีน และยุโรป สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2438 ปลายรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 ผู้สร้าง คือ พระยาพิพิธเสนา อมาตยาธิบดีศรีสุรสงคราม ตัวอาคาร 2 ชั้น มีลักษณะครึ่งตึกครึ่งไม้ ชั้นล่างเป็นลานโล่ง ใต้ถุนตึกสูงชั้นบนแบ่งเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ มีห้องพักของเจ้าเมืองและบุตรธิดา ช่องรับแสงประดับด้วยกระจกสีสด ช่องระบายอากาศ หน้าจั่วทำด้วยไม้ฉลุลวดลายงดงามจุดเด่น คือ บันไดโค้งแบบยุโรปทอดขึ้นสู่ระเบียงทั้งสองด้าน บริเวณโดยรอบแวดล้อมด้วยพันธุ์ไม้ร่มรื่นอายุกว่า 100 ปี เหมาะกับการไปทัศนศึกษา
|
7.ชายหาดตะโละกาโปร์ |
|
7.ชายหาดตะโละกาโปร์ |
|
7.ชายหาดตะโละกาโปร์ |
|
7.ชายหาดตะโละกาโปร์ |
|
7.ชายหาดตะโละกาโปร์ |
|
7.ชายหาดตะโละกาโปร์ |
7.ชายหาดตะโละกาโปร์
จัดเป็นหนึ่งในชายหาดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดปัตตานี ตั้งอยู่ในอำเภอยะหริ่ง ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองปัตตานีตามทางหลวงหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) ตั้งอยู่ใน ตำบลตะโล๊ะกาโปร์ เขตอำเภอยะหริ่ง ห่างจากที่ว่าการอำเภอยะหริ่ง ประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นหาดทรายขาวสะอาดขนานกับชายฝั่งทะเล มีเรือกอและของชาวประมงจอดอยู่เป็นจำนวนมาก หาดทรายแห่งนี้งอกยาวออกไปเรื่อย ๆ เพราะเกิดจากกระแสน้ำพัดเอาตะกอนทรายมาทับถมพอกพูน เหมาะแก่การไปนั่งพักผ่อนหย่อนใจ ภายในบริเวณมีร้านค้าและร้านอาหารให้รับประทาน และช่วงวันหยุดจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่พาครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อนกันมากมาย
|
8.แหลมตาซี หรือแหลมโพธิ์ |
|
8.แหลมตาซี หรือแหลมโพธิ์ |
|
8.แหลมตาซี หรือแหลมโพธิ์ |
|
8.แหลมตาซี หรือแหลมโพธิ์ |
|
8.แหลมตาซี หรือแหลมโพธิ์ |
|
8.แหลมตาซี หรือแหลมโพธิ์ |
|
8.แหลมตาซี หรือแหลมโพธิ์ |
|
หากมาเที่ยวแหลมตาซี จะเจอน้องแกะ และแพะออกมาต้อนรับด้วย |
8.แหลมตาซี หรือแหลมโพธิ์
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจต้องไปเช็คอินถ่ายรูปภาพกัน เนื่องจากเป็นแหลมที่กั้นอ่าวปัตตานี (ทะเลใน) และอ่าวไทย (ทะเลนอก) เกิดจากการก่อตัวของสันทรายที่ยื่นออกไปในทะเลในลักษณะสันดอนจะงอย โดยปลายแหลมจะงอกเพิ่มขึ้นทุกปี บริเวณด้านในของแหลมฝั่งที่หันหน้าเข้าหาแผ่นดินใหญ่ เป็นที่ตั้งของชุมชนมากมาย เช่น บ้านดาโต๊ะ บ้านตะโละสะมิแล บ้านบูดี ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงเป็นหลัก และมีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น ปลากะพง หอยแครง หอยแมลงภู่ เป็นต้น และบริเวณด้านนอกของแหลมฝั่งที่หันหน้าออกทะเลกว้าง โดยตัวชายหาดแหลมตาซี บรรยากาศโดยรอบนั้นร่มเย็น และเงียบสงบ มีเรือกอและของชาวประมง และมีแพะออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย ระยะทางจากตัวเมืองปัตตานีมาที่แหลมตาซี ประมาณ 43 กิโลเมตร ใช้เส้นทางเดียวกับไปชายหาดตะโละกาโปร์
|
9.ชายหาดตะโล๊ะสะมิแล หนึ่งในชายหาดสวย น้ำทะเลใส ที่ต้องไปถ่ายรูปเช็คอินกัน |
|
9.ชายหาดตะโล๊ะสะมิแล หนึ่งในชายหาดสวย น้ำทะเลใส ที่ต้องไปถ่ายรูปเช็คอินกัน |
|
9.ชายหาดตะโล๊ะสะมิแล หนึ่งในชายหาดสวย น้ำทะเลใส ที่ต้องไปถ่ายรูปเช็คอินกัน |
|
9.ชายหาดตะโล๊ะสะมิแล หนึ่งในชายหาดสวย น้ำทะเลใส ที่ต้องไปถ่ายรูปเช็คอินกัน |
|
9.ชายหาดตะโล๊ะสะมิแล หนึ่งในชายหาดสวย น้ำทะเลใส ที่ต้องไปถ่ายรูปเช็คอินกัน บ้านไม้ริมทะเล |
|
9.ชายหาดตะโล๊ะสะมิแล หนึ่งในชายหาดสวย น้ำทะเลใส ที่ต้องไปถ่ายรูปเช็คอินกัน ที่บ้านไม้ริมทะเล |
|
9.ชายหาดตะโล๊ะสะมิแล หนึ่งในชายหาดสวย น้ำทะเลใส ที่ต้องไปถ่ายรูปเช็คอินกัน ที่บ้านไม้ริมทะเล |
|
9.ชายหาดตะโล๊ะสะมิแล หนึ่งในชายหาดสวย น้ำทะเลใส ที่ต้องไปถ่ายรูปเช็คอินกัน |
9.ชายหาดตะโล๊ะสะมิแล หนึ่งในชายหาดสวย น้ำทะเลใส ที่ต้องไปถ่ายรูปเช็คอินกัน
จัดเป็นชายหาดสวย น้ำทะเลใส และมีชื่อเสียงอีกแห่ง ที่นักเดินทางไม่ควรพลาด เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นที่ตั้งของร้าน Coffe Hut และร้านอาหารบ้านไม้ริมทะเล ร้านคาเฟ่น่ารักติดริมชายหาด บรรยากาศดี วิวทิวทัศน์สวยงาม ไม่วุ่นวาย กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวมาเลเซียนิยมกันมาเป็นอย่างมาก
|
10.ล่องเรือบางปู ลอดอุโมงค์ป่าโกงกาง ชมป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ชมนกและพระอาทิตย์ตกดิน |
|
10.ล่องเรือบางปู ลอดอุโมงค์ป่าโกงกาง ชมป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ชมนกและพระอาทิตย์ตกดิน |
|
10.ล่องเรือบางปู ลอดอุโมงค์ป่าโกงกาง ชมป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ชมนกและพระอาทิตย์ตกดิน |
|
10.ล่องเรือบางปู ลอดอุโมงค์ป่าโกงกาง ชมป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ชมนกและพระอาทิตย์ตกดิน |
|
10.ล่องเรือบางปู ลอดอุโมงค์ป่าโกงกาง ชมป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ชมนกและพระอาทิตย์ตกดิน |
|
10.ล่องเรือบางปู ลอดอุโมงค์ป่าโกงกาง ชมป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ชมนกและพระอาทิตย์ตกดิน |
|
10.ล่องเรือบางปู ลอดอุโมงค์ป่าโกงกาง ชมป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ชมนกและพระอาทิตย์ตกดิน |
|
10.ล่องเรือบางปู ลอดอุโมงค์ป่าโกงกาง ชมป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ชมนกและพระอาทิตย์ตกดิน |
10.ล่องเรือบางปู ลอดอุโมงค์ป่าโกงกาง ชมป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ชมนกและพระอาทิตย์ตกดิน
หากใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูป ต้องไม่พลาดมาล่องเรือบางปู หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมสำหรับคนที่มาท่องเที่ยวปัตตานี นอกจากไปชมชายหาดแล้ว ก็ต้องไม่พลาดมาล่องเรือ หรือการล่องเรือบางปู อยู่ที่บ้านลาดูวอ ในอำเภอยะหริ่ง โดยไฮไลท์ของการล่องเรือคือ จะได้ลอดอุโมงค์ป่าโกงกาง ชมธรรมชาติความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลน และหากมาล่องเรือยามเย็น จะได้ชมพระอาทิตย์ตกดินด้วย โดยเรือที่ล่องให้บริการเหมาลำละ 500 บาท ใช้เวลาการล่องเรือประมาณ 2 ชั่วโมง ถือว่าคุ้มค่ามากๆ หากใครที่มาเที่ยวคนเดียว สามารถร่วมแชร์กับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆได้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจ สามารถติดต่อได้ที่ท่าเรือบริเวณชุมชนท่องเที่ยวบางปู
|
11.วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม |
|
11.วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม ที่ประดิษฐานสถูปบรรจุอัฐิหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด |
|
11.วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม ที่ประดิษฐานสถูปบรรจุอัฐิหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด |
|
11.วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม |
|
11.วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม |
|
11.วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม |
|
11.วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม ที่ประดิษฐานสถูปบรรจุอัฐิหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด |
|
11.วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม ที่ประดิษฐานสถูปบรรจุอัฐิหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด |
11.วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม ที่ประดิษฐานสถูปบรรจุอัฐิหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
สำหรับใครที่เป็นพุทธศาสนิกชน และศรัทธาในองค์หลวงปู่ทวดเหยีบน้ำทะเลจืด หากได้มาเยือนปัตตานี แน่นอนว่าต้องไม่พลาดไปกราบสักการะเจดีย์อัฐิขององค์หลวงปู่ทวดสักครั้ง โดยวัดช้างให้ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแล้วกว่า 300 ปี ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลควนโนรี อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี โดยวัดช้างให้ ห่างจากตัวเมืองปัตตานี ประมาณ 31 กิโลเมตร ภายในประดิษฐานวิหารสมเด็จหลวงพ่อทวด เป็นวิหารที่ประดิษฐานรูปเหมือนของหลวงพ่อทอง ซึ่งมีขนาดเท่าองค์จริง พระธาตุเจดีย์วัดช้างให้ รูปแบบ เป็นเจดีย์ 5 ยอด โดยมีองค์ใหญ่อยู่ตรงกลาง ด้านล่างเป็นห้องโถง มีระเบียงเป็นวิหารคตรอบองค์พระเจดีย์ ฉัตรทองคำหนัก 100 บาท เป็นฉัตร 7 ชั้น ประดับทับทิมประดิษฐานอยู่บนยอดเจดีย์ ภายในองค์พระธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ความสูง 59.09 เมตร และเจดีย์อัฐิของหลวงปูทวด ที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล
ความเป็นมาของวัดช้างให้ สร้างโดยพระยาแก้มดำเจ้าเมืองไทรบุรี สร้างเมืองใหม่ได้อธิษฐานปล่อยช้างให้ออกเดินทางไปในป่า โดยมีเจ้าเมืองและไพร่พลเดินติดตามไป เมื่อช้างหยุดอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่ง แล้วร้องขึ้นสามครั้ง จึงสร้างเมืองใหม่ ณ ที่ตรงนั้นสมัยโบราณกาล คนมลายูซึ่งยังนับถือพุทธศาสนา พระยาแก้มดำจึงได้สร้างวัดช้างให้
|
เดินทางกลับยังโรงแรมที่พักก็มืดๆค่ำ ขับรถ ขับราต้องระวังค่ะ |
เดินทางกลับที่พักมามืดๆค่ำ ขับรถ ขับราต้องระวังค่ะ
ได้เวลาออกไปหาอะไรทาน ที่ตลาดหลัง ม.อ.ปัตตานีค่ะ
หนีไม่พ้นข้าวยำอีกล่ะ 15 บาท ติดใจในรสชาติ และราคาไม่แพง
เติมน้ำตาลต่อด้วย โรตีมะตะบะ ใส่กล้วย อร่อยๆอีกล่ะ
|
นาซีเลอมัก ข้าวทานกับปลา ไข่ต้ม มีน้ำจิ้มคล้ายน้ำกะทิราดทานคลุกกัน อร่อยดีค่ะ |
และข้าวห่ออีกชนิดที่ต้องมาทานคือ นาซีเลอมัก ข้าวทานกับปลา ไข่ต้ม มีน้ำจิ้มคล้ายน้ำกะทิราดทานคลุกกัน อร่อยดีค่ะ มาเที่ยวปัตตานีหรือมาเที่ยวแถบทางใต้ แถวยะลา นราธิวาส ต้องลองทานดูค่ะ
|
เดินทางลงใต้ไปเที่ยวต่อที่จังหวัดนราธิวาส ขับรถไปอีก 90 กิโลเมตร |
หลังจากที่ได้ไปไหว้พระที่วัดช้างให้แล้ว ก็ขับมอเตอร์ไซต์เดินทางลงใต้ไปเที่ยวจังหวัดนราธิวาสต่อค่ะ ระยะทางจากปัตตานีไปนราธิวาศ 90 กว่าโลเมตรเลยค่ะ.......
จบทริปเที่ยวเมืองปัตตานี เมืองที่มีแต่ของดีๆอร่อยๆให้ทาน ที่เที่ยวสวยๆเยอะ เที่ยววันเดียวก็ไม่หมดจริงๆจ้า รีวิวถัดไป จะพาเดินทางไปเที่ยวเมืองนราธิวาส ไปดูสิว่าในเมืองอยู่ทางภาคใต้ของไทยแห่งนี้ มีที่เที่ยวอะไรให้ไปชมบ้าง
ขอบพระคุณเพื่อนๆคุณผู้อ่านที่เข้ามาสไลด์อ่านดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้งในบทความถัดไปค่ะ....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ
มาม๊ะมาเก็บตกเที่ยวนราธิวาส ไม่พลาดไปเช็คอินที่เที่ยวต่างๆ กินอาหารพื้นบ้านแสนอร่อยๆ มีจุดเช็คอินถ่ายรูปสวยๆใหม่ๆหลายแห่ง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>
แบ่งปันรีวิวทริปเที่ยวเมืองเก่าโบราณศรีเทพ เมืองมรดกโลกแห่งใหม่ของเมืองไทย มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปเที่ยวชมกันค่ะ คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
บันทึกเดินทางปลายปี2022 ลองสะพายเป้ไปเที่ยวดานัง-เว้-ฮอยอัน มีที่เที่ยวเปิดใหม่น่าสนใจ และอาหารแปลกถิ่นอะไรให้กินบ้าง ตามไปเที่ยวกันจ้า คลิ๊กดูรีวิวบันทึกภาพการเดินทางค่ะ>>>
แบ่งปันทริปรีวิวเที่ยวฟองญาปี2565 ชมเมืองป่าเขามรดกโลก เดินทางไปอย่างไร มีที่เที่ยวอะไรน่าสนใจ ให้ไปเช็คอินถ่ายรูปสวยๆบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูรีวิวบันทึกภาพการเดินทางค่ะ>>>
บันทึกเที่ยวไปตามภาพ ไม่พลาดรีวิวเที่ยวอุตรดิตถ์ เมืองรองต้องห้ามพลาด ทานลางสาดหวานเจี๊ยบ มีที่เที่ยวเปิดใหม่น่าสนใจที่ใหนบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูรีวิวบันทึกภาพการเดินทางค่ะ>>
แบ่งปันทริปรีวิวเที่ยวล่องไม้ไผ่ที่เขาสก แวะชมน้ำตกสวยๆ รุ่มระรวยด้วยทะเลหมอกงดงาม ต้องตามไปชมกันสักครั้ง พร้อมสรุปค่าใช้จ่าย มาให้อ่านกันจ้า คลิ๊กดูรีวิวบันทึกภาพการเดินทางค่ะ>>>>
บันทีกเที่ยวไปตามภาพ : นั่งรถไฟ และปั่นจักรยานเที่ยวนครปฐม ชื่นชมนครชัยศรี-บางเลน นอนเอนกายสไตล์ไทยๆ มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันค่ะ คลิ๊กดูรีวิวภาพบันทึกการเดินทางค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวไปเที่ยวเมืองมุกดาหาร ยลตระการเมืองพญานาคริมแม่น้ำโขง เชื่อมโยงฝั่งไทยลาว มีที่เที่ยวเปิดใหม่ที่ใหนบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลยจ้า คลิ๊กดูบทความรีวิวภาพสถานที่ท่องเที่ยวค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวเที่ยวลำปางล่าสุดในมุมใหม่ๆ ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ งามระทึกเจดีย์บนดอยสูงเสียดฟ้า มีสถานที่ท่องเที่ยวถ่ายรูปเช็กอินที่ใหนบ้าง ตามไปชมกัน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>
แบ่งปันทริปรีวิวแบกเป้คนเดียวเที่ยวนอร์เวย์ แวะชมเมืองออสโล เมืองหลวงแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่อะไรน่าสนใจบ้าง ตามเช็คอินกันดูค่ะ คลิ๊กดูรายละเอียดบทความ>>>
เก็บตกรีวิวไปเที่ยวเมืองเจนัว แวะชมบ้านเกิดคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือคนแรกของโลกที่นี่ มีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
แบ่งปันทริปเดินทางไปเที่ยวซิงเคว เทอเร่ (Cinque Terre) ใน 1 วัน แวะชมหมู่บ้านชมประมงติดริมทะเลแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
เก็บตกรีวิวแบกเป้ไปเที่ยวเมืองปอร์โต้ เมืองเก่าแก่มรดกโลก ติดริมชายทะเลแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้ชมบ้าง ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
แบ่งปันทริปนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองลิเว่อร์พูล ไม่ได้ไปดูฟุตบอล พาไปตะลอนชมพิพิธภัณฑ์เรือไททานิค และท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งของยุโรป คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
เก็บตกพาไปเที่ยวเมืองบาธ เมืองมรดกโลก เดินทางไปชมโรงอาบน้ำแร่โรมันเก่าแก่ที่สุดอีกแห่ง มีที่มาน่าสนใจอย่างไร ตามไปเที่ยวชมกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
แบ่งปันทริปนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองเอดินเบอระ ประเทศสก็อตแลนด์ มีที่เที่ยวอะไรให้เริ่ดสะแมนแตนถ่ายรูปบ้าง ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
บันทึกเดินทางไกล พาไปเที่ยวเมืองยอร์ค เมืองเก่าแก่อายุ 2,000 ปี มีจุดแวะเดินชมกำแพงโบราณ และที่เที่ยวต่างๆอะไรบ้าง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
บันทึกเดินทางรีวิวเที่ยวโปรตุเกสล่าสุด ไปหยุดที่เมืองลิสบอน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้ไปออนซอน เช็คอินถ่ายรูปกันบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
แบ่งปันทริปนั่งรถไฟไปตามหาต้นตำรับขนมฝอยทองของแม่ทองมา (ท้าวทองกีบม้า) ที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เดินทางไปอย่างไร ตามไปกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
เก็บตกแปลกถิ่นแวะเที่ยวเมือง Honningsvåg ไปเดิน Hiking ชมวิวเส้นทางบนภูเขาอันหนาวเหน็บในฤดูร้อน มีที่เที่ยวอะไรให้ไปเช็คอินถ่ายรูปกันบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
มาแบ่งปันรีวิวตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 5 แบกเป้คนเดียวไปเที่ยว North Cap แดนดินถิ่นพระอาทิตย์เที่ยงคืน หากจะไปเที่ยวด้วยตัวเอง เดินทางไปอย่างไร นำมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>>
แบ่งปันวิธีทำตุ๊กตากระดาษแบบไทยๆในยุค60-90 และมารู้จักประวัติตุ๊กตากระดาษในโลกนั้น มีที่มาอย่างไร นำมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
0 ความคิดเห็น