Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

มาม๊ะไปเที่ยวมุกดาหาร ยลตระการเมืองพญานาคริมแม่น้ำโขง เชื่อมโยงฝั่งไทยลาว ต้องแวะมาสุขสกาวกันสักครา

เดินทางเที่ยวไทยในแดนดินถิ่นอีสานเดือนนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอพาไปรีวิวเที่ยวจังหวัดมุกดาหาร ยลตระการเมืองพญานาคริมแม่น้ำโขง เชื่อมโยงฝั่งไทยลาว ต้องแวะมาสุขสกาวกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน 





ก็ขอกลับมาพบปะทักทาย สวัสดีคุณผู้อ่านและเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจกันอีกครั้งนะคะ มาพบกันอีกครั้งกับบทความบล็อกรีวิวท่องเที่ยว ที่จะพาคุณผู้อ่านไปเลี้ยวแวะดูโน้นนี้ ตามใจฉัน ฝันเพ้อเจ้อกันไป หลังจากที่บทความก่อนหน้าได้พาไปชมงานแห่เทียนพรรษาที่ังหวัดอุบลกันแล้ว บทความบล็อกนี้ ยังคงวนเวียนอยู่ในภาคอีสานต่อค่ะ โดยทริปนี้ก็ขอพาคุณผุ้อ่านไปยลตระการเที่ยวจังหวัดมุกดาหาร อีกหนึ่งเมืองสวยงามติดริมแม่น้ำโขงของไทย ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดตาและตราตรึงใจให้แวะไปเที่ยวชมกันอยู่ไม่น้อย 



แม้ว่าช่วงที่เดี๊ยนไปเที่ยวจะเป็นช่วงหน้าฝน สลับกับอากาศที่ร้อนสุดจะอบอ้าว แต่ระหว่างเดินทางไปเที่ยวก็ยังมีลมพัดลมเพ โอ้ละเห่เย็น ให้สาดกระเซ็นหัวใจอยู่ไม่น้อย เพราะได้เจอทั้งแดดและฝนฟ้าคึกคะนอง ช่วยคลายร้อนลงไปได้บ้าง แต่ทริปนี้ก็แสนสุข เพราะไม่ต้องเช่ารถเตอร์ไซต์ขับเที่ยวเหมือนทริปเที่ยวที่ผ่านๆมาค่ะ เนื่องจากมีพี่สาวเป็นสารถี ขับรถพาเดี๊ยนไปเที่ยวค่ะ ทริปนี้เลยไม่ต้องขับรถตากแดด หน้าดำ คร่ำเครียดอีกต่อไป 



ก่อนหน้าที่จะมาเที่ยวมุกดาหาร เดี๊ยนก็วางแผนจะลุยเดี่ยวมาเที่ยวมุกดาหาร และเที่ยวสะหวั่นนะเขตด้วย แต่ด้วยเวลาจำกัด และค้นหาข้อมูลร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ในมุกดาหารแล้ว ไม่มีร้านใหนเปิดบริการให้เช่ารถมอเตอร์ไซต์เลยสักแห่ง ทริปนี้พี่สาวของเดี๊ยนเลยอาสาเป็นคนขับพามาเที่ยวถึงจังหวัดมุกดาหาร โดยแวะพักค้างแรมที่เมืองนี้ 2 คืน เพื่อเก็บข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดมุกดาหาร มาให้ได้อ่านกัน แต่ก่อนที่เราจะไปดูที่เที่ยวสวยๆเปิดใหม่ในมุกดาหาร เราก็มารู้จักประวัติความเป็นมาของจังหวัดมุกดาหารกันก่อนสักเล็กน้อยนะคะ 


รื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดมุกดาหาร อ่านเป็นความรู้พอสังเขป (About Mukdahan Province, Northern part of Thailand)




สาระเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดมุกดาหาร อ่านเป็นความรู้พอสังเขป (About Mukdahan Province, Northern part of Thailand)


มุกดาหารเริ่มก่อตั้งเป็นเมืองขึ้นใน ราวปี พ.ศ. 2310 สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา เมื่อเจ้ากินรี บุตรชายของเจ้าจันทรสุริยวงศ์ ผู้ปกครองบ้านหลวงโพนสิน ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณพระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต ประเทศ สปป. ลาวในปัจจุบัน ได้ข้ามลำน้ำโขงมาสร้างเมืองขึ้นที่บริเวณปากห้วยมุก แล้วตั้งชื่อเมืองว่า “มุกดาหาร” 


กระทั่ง พ.ศ. 2321 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก และเจ้าพระยาจักรียกกองทัพขึ้นมาปราบปรามและรวบรวมหัวเมืองใหญ่น้อยในสองฝั่งแม่น้ำโขง



ครั้นถึงสมัยอาณาจักรธนบุรี สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีได้แผ่แสนยานุภาพขึ้นมาถึงแถบลุ่มแม่น้ำโขง กระทั่ง พ.ศ. 2321 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก และเจ้าพระยาจักรียกกองทัพขึ้นมาปราบปรามและรวบรวมหัวเมืองใหญ่น้อยในสองฝั่งแม่น้ำโขง และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งให้ เจ้าจันทกินรี เป็น พระยาจันทรศรีสุราชอุปราชามันธาตุราช ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองมุกดาหารคนแรก

ภาพเก่าที่ประทับแรม ปัจจุบันเป็นจวนผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร



มุกดาหารเคยเป็น “เมือง” มาก่อนถึง 173 ปี ก่อนถูกยุบเป็นอำเภอเมืองมุกดาหาร ขึ้นกับเมืองนครพนม แล้วจึงได้เปิด ที่ว่าการอำเภอเมืองมุกดาหาร เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2450 จนถึง พ.ศ. 2459 กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศให้เปลี่ยนคำว่า “เมือง” เป็น “จังหวัด” ให้เหมือนกันหมดทั่วราชอาณาจักร ตามประกาศ กระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2459 (ราชกิจจานุเบกษา) พ.ศ.2459


ภาพเก่าบอกเล่าเรื่องราวในอดีต กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จถึงท่าน้ำเมืองมุกดาหาร วัดศรีมงคลใต้


เมืองนครพนม จึงเปลี่ยนเป็น จังหวัดนครพนม และอำเภอเมืองมุกดาหาร ก็เปลี่ยนเป็นอำเภอมุกดาหาร ขึ้นกับจังหวัดนครพนม ในการปกครองของมณฑลอุดร พ.ศ.2525 รัฐบาลได้ออกพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. 2525 ยกฐานะอำเภอมุกดาหารเป็นจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2525 และเป็นจังหวัดมุกดาหารถึงปัจจุบัน จังหวัดมุกดาหารขึ้นเป็นจังหวัดที่ 73 ของประเทศไทย และเป็นจังหวัดที่ 17 ของภาคอีสาน

มุกดาหารแยกออกมาจากจังหวัดนครพนมเมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2525 นับเป็นจังหวัดที่ 73 ของประเทศไทย เป็นจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญของอิสานภูมิประเทศติดกับแม่น้ำโขง



โดยในจังหวัดมุกดาหาร เป็นจังหวัดชายแดน อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทยตั้งอยู่ในแอ่งสกลนคร และอยู่ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน2 ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 650 กิโลเมตร แยกออกมาจากจังหวัดนครพนมเมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2525 นับเป็นจังหวัดที่ 73 ของประเทศไทย เป็นจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญของอิสานภูมิประเทศติดกับแม่น้ำโขง


จังหวัดมุกดาหารนั้น โดดเด่นในด้านความหลากหลายของเชื้อชาติ เนื่องจากพลเมืองของจังหวัดประกอบด้วยชนพื้นเมืองต่างๆ หลากหลายเผ่า มุกดาหารจึงเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมอันงดงาม



ซึ่งจังหวัดมุกดาหารนั้น โดดเด่นในด้านความหลากหลายของเชื้อชาติ เนื่องจากพลเมืองของจังหวัดประกอบด้วยชนพื้นเมืองต่างๆ หลากหลายเผ่า มุกดาหารจึงเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมอันงดงามและมีเอกลักษณ์โดดเด่น มากมาย นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ทั้งบนบกและในน้ำ จึงนับเป็นจังหวัดท่องเที่ยวอีกจังหวัดหนึ่งที่น่าสนใจและไม่ควรมองข้ามกันเลยทีเดียว 






เขียนต่อจากรีวิวทริปตอนที่แล้ว : https://khunnaiver.blogspot.com/2022/07/Candle-Festival-Ubon-Ratchathani-review.html
  


เริ่มต้นทริปนี้ ....... พี่สาวขับกระบะกระจกหน้าแตก เดินทางสายแหลก แหกโค้งออกจากจังหวัดอุบล ด้วยเส้นทางหลวงหมายเลข 212  มุ่งหน้าไปยังจังหวัดมุกดาหาร 

ขับรถมาถึงอำเภอม่วงสามสิบ ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก ต้องขับช้าๆ เพราะถนนลื่นค่ ะ


ขับรถผ่านจากอุบล มายังจังหวัดอำนาจด้วยทางหลวงหมายเลข 212 ก็ไม่พลาดที่จะแวะซื้อของกินแก้หิวระหว่างทาง อย่างข้าวหลาม และซาลาเปา


หากใครที่ขับรถผ่านจากอุบล มายังจังหวัดอำนาจด้วยทางหลวงหมายเลข 212 ก็ไม่พลาดที่จะแวะซื้อของกินแก้หิวระหว่างทาง อย่างข้าวหลาม และซาลาเปา


สั่งซาลาเปาแม่ค้าหนึ่งกล่อง กับข้าวหลามอีกหนึ่งชุดมาทานเป็นอาหารมื้อเที่ยงไปค่ะ



ขับรถมาได้สักพักก็ถึงจังหวัดอำนาจเจริญแล้วค่ะ 
 โดยเฉพาะใครที่ผ่านมาเมืองอำนาจ ก็ไม่พลาดไปไหว้พระใหญ่ หรือพระมงคลมิ่งเมือง เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอำนาจเจริญมาอย่างยาวนาน

มาถึงเมืองอำนาจเจริญแม้จะเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวให้แวะไปเช็คอินเช่นกัน โดยเฉพาะใครที่ผ่านมาเมืองอำนาจ ก็ไม่พลาดไปไหว้พระใหญ่ หรือพระมงคลมิ่งเมือง เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอำนาจเจริญมาอย่างยาวนาน เริ่มสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2508  หน้าตักกว้าง 11 เมตร มีความสูง 20 เมตร บริเวณเขาพระบาท มีพื้นที่หลักฐานว่าเป็นศาสนสถานมากกว่า 2,000 ปี 

พุทธอุทยานพระมงคลมิ่งเมือง  มีพื้นที่มากกว่า 36 ไร่ พื้นที่เป็นภูเขาเล็กน้อย  ประกอบไปด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่น้อย ความร่มเย็น 

โดยตั้งอยู่ในพุทธอุทยานพระมงคลมิ่งเมือง  มีพื้นที่มากกว่า 36 ไร่ พื้นที่เป็นภูเขาเล็กน้อย  ประกอบไปด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่น้อย ความร่มเย็น เป็นพุทธอุทยานที่เหมาะสำหรับการปฎิบัติธรรม 


สำหรับเพื่อนๆนักเดินทางคนใหนที่แวะผ่านมาเที่ยวอำนาจเจริญครั้งแรก ก็อย่าพลาด มาไหว้พระขอพรพระใหญ่ในเมืองอำนาจแห่งนี้กันนะคะ 


หลังจากไหว้พระมงคลมิ่งเมืองที่อำนาจเจริญ ก็เดินทางต่อมาอีก 90 กิโลเมตร ก็ถึงจังหวัดมุกดาหารแล้วค่ะ 

หลังจากไหว้พระมงคลมิ่งเมืองที่อำนาจเจริญ ก็เดินทางต่อมาอีก 90 กิโลเมตร ก็ถึงจังหวัดมุกดาหารแล้วค่ะ 

ทริปนี้เดี๊ยนแวะมานอนพักที่โรงแรมเวียงโขง เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง 

โดยทริปนี้เดี๊ยนแวะมานอนพักที่โรงแรมเวียงโขง เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง มีทัศนียภาพสวยงาม บรรยากาศดี เลยขอมาลองใช้บริการที่นี่สักคืนค่ะ


ตอนแรกกะว่าจะไปนอนในเมืองกัน แต่สรุปกับทางบ้านก็เลยอยากได้บรรยากาศที่พักติดริมแม่น้ำเลยเลือกมาพักที่นี่ค่ะ 


โดยโรงแรมตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านตลาดอินโดจีน อีกทั้งอยู่ใกล้ร้านอาหารอร่อยๆติดริมแม่น้ำโขงให้เลือกทานหลายร้านด้วย 

เลือกพักเป็นห้อง 2 เตียง ราคาห้องพักตกคืนละ 920 บาท รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 คนค่ะ 

โดยห้องพักเลือกพักเป็นห้อง 2 เตียง ราคาห้องพักตกคืนละ 920 บาท รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 คนค่ะ 
สภาพห้องพักโดยรวมถือว่าสะอาดสะอ้านดีขึ้น ได้มาตรฐานตามโรงแรม แม้ราคาแอบสูงไปนิด หากเป็นโรงแรมในต่างจังหวัด แต่ขายบรรยากาศโรงแรมติดริมแม่น้ำโขง ก็ถือว่าดีงามค่ะ 

ภายในห้องก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้อาทิ ตู้เย็น ทีวี แอร์ น้ำดื่มฟรี ขนาดห้องพักกว้างขวาง ไม่คับแคบหรือแออัดเกินไป 

หลังห้องพักก็มีระเบียงให้ไปนั่งชมวิวด้วย 

และบริเวณหลังห้องพักก็มีระเบียงให้ไปนั่งชมวิวด้วย 

แต่ช่วงหัวค่ำ ยุงจะเยอะมากๆ แนะนำว่าให้ปิดประตูมุ้งลวดให้ดีนะคะ ไม่งั้นยุงเข้าไปในห้อง ไม่ได้นอนแน่ๆ 

ซึ่งห้องที่เดี๊ยนพักกับพี่สาว ก็มองเห็นวิวภายในสวนของโรงแรมและวิวแม่น้ำโขงด้วย แต่ช่วงหัวค่ำ ยุงจะเยอะมากๆ แนะนำว่าให้ปิดประตูมุ้งลวดให้ดีนะคะ ไม่งั้นยุงเข้าไปในห้อง ไม่ได้นอนแน่ๆ 

ห้องน้ำก็กว้างขวาง สะอาดสะอ้านดีค่ะ แต่ไม่มีหมวกคลุมผมอาบน้ำ และคอตต้อนบัด หรือสำลีให้ 

ส่วนห้องน้ำก็กว้างขวาง สะอาดสะอ้านดีค่ะ แต่ไม่มีหมวกคลุมผมอาบน้ำ และคอตต้อนบัด หรือสำลีให้ 


เอากระเป๋าไปไว้ที่ห้องพักแล้ว ก็ได้เวลาทานอาหารเย็นแล้วล่ะค่ะ โดยร้านอาหารที่เลือกทานทริปนี้ ก็ไม่ไกลจากโรงแรมเวียงโขงมากนัก


หลังจากเช็คอินเอากระเป๋าไปไว้ที่ห้องพักแล้ว ก็ได้เวลาทานอาหารเย็นแล้วล่ะค่ะ โดยร้านอาหารที่เลือกทานทริปนี้ ก็ไม่ไกลจากโรงแรมเวียงโขงมากนัก เลือกมาทานที่ร้านอาหารบ่าวประดิษฐ จริงๆจะเลือกทานที่ร้านพวงเพชรนะคะ แต่คนเยอะมากๆ เลยตัดสินใจมาทานที่ร้านนี้ 

บรรยากาศร้านอาหารบ่าวประดิษฐนั้นก็วิวสวยดีทีเดียวค่ะ เพราะอยู่ติดริมแม่น้ำโขง

ซึ่งบรรยากาศร้านอาหารบ่าวประดิษฐนั้นก็วิวสวยดีทีเดียวค่ะ เพราะอยู่ติดริมแม่น้ำโขง เป็นร้านอาหารเปิดโล่ง ภายในร้านมีลูกค้ายังไม่มากนัก 


โดยเมนูอาหารมื้อนี้ สั่งอาหารไปไม่กี่อย่างเองค่ะ น่าจะ 3 อย่าง แต่ละอย่างก็จัดหนักๆไปเลย ทั้งต้มยำ ต้มเห็ดป่า ลาบปลา เพราะหากสั่่งมาเยอะ เกรงว่าจะทานไม่หมด 

 น่าจะเป็นลาบปลาคัง รสชาติแซ่บซี๊ดอีหลี และยังมีต้มยำปลาคัง ก็อร่อยไม่แพ้กันค่ะ 


แต่เมนูรสเด็ดแสนที่อร่อยๆ น่าจะเป็นลาบปลาคัง รสชาติแซ่บซี๊ดอีหลี และยังมีต้มยำปลาคัง ก็อร่อยไม่แพ้กันค่ะ สรุปอาหารมื้อนี้ ทานกัน 4 คน หมดไป 700 บาท รวมน้ำดื่มแล้ว 

ชะแว๊ปแวะมาเดินถ่ายรูปชมวิวริมแม่น้ำโขง มีการซ้อมการแข่งเรือพายด้วย

ทานอาหารเสร็จแล้ว ก็แอบชะแว๊ปแวะมาเดินถ่ายรูปชมวิวริมแม่น้ำโขง มีการซ้อมการแข่งเรือพายด้วย 


สำหรับเพื่อนๆคนใหน ที่แวะมาเที่ยวมุกดาหาร มองหาร้านอาหารติดริมแม่น้ำโขงวิวสวยๆ ลูกค้าไม่ค่อยเยอะมากนัก ลองแวะมาลิ้มลองทานอาหารที่ร้านบ่าวประดิษฐดูนะคะ 


อรุณสวัสดิ์เช้าวันใหม่ ท้องฟ้าแจ่มใส เป็นอีกหนึ่งวันที่จะต้องได้เดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดมุกดาหารแล้วค่ะ ก่อนจะไปเที่ยวก็เติมอาหารลงท้องกันสักก่อนค่ะ

 

เบิกอรุณสวัสดิ์เช้าวันใหม่ ท้องฟ้าแจ่มใส เป็นอีกหนึ่งวันที่จะต้องได้เดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดมุกดาหารแล้วค่ะ ก่อนจะไปเที่ยวก็เติมอาหารลงท้องกันสักก่อนค่ะ

 โดยในโรงแรมก็มีบริการอาหารเช้าแบบง่ายๆให้ทานด้วย 


มีขนมปังปิ้ง และผลไม้ มีแต่แตงโม น่าจะมีอย่างอื่นเพิ่มอีกสักอย่างน่าจะดีค่ะ

มีข้าวผัดและไส้กรอกให้เลือกทาน 

อาหารเช้าที่โรงแรมเวียงโขง มุกดาหาร ยังมีเมนูข้าวต้มให้ทานอีกด้วย 

และยังมีเมนูข้าวต้มให้ทานอีกด้วย 


อาหารมีให้เลือกไม่เยอะมากนัก เช้านี้เดี๊ยนเลยเลือกทานข้าวต้มแบบง่ายๆ เติมพลังตอนเช้าไปก่อนค่ะ เพื่อจะได้มีแรงไปเดินชมสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดมุกดาหาร 


ในบทความความนี้เดี๊ยนเลยขอมาสรุปแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในมุกดาหารมาให้ได้สไลด์อ่านกันดังนี้ค่ะ  

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นในจังหวัดมุกดาหารก็มีอยู่มากมายหลายแห่งเลยล่ะค่ะ ในบทความความนี้เดี๊ยนเลยขอมาสรุปแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในมุกดาหารมาให้ได้สไลด์อ่านกันดังนี้ค่ะ  




1.หอแก้วมุกดาหาร (Mukdahan Tower)  

1.หอแก้วมุกดาหาร (Mukdahan Tower

1.หอแก้วมุกดาหาร (Mukdahan Tower

1.หอแก้วมุกดาหาร (Mukdahan Tower)  วิวทิวทัศน์เมืองมุกดาหาร มองจากหอแก้วมุกดาหาร

1.หอแก้วมุกดาหาร (Mukdahan Tower)  พิพิธภัณฑ์ภายในหอแก้ว

1.หอแก้วมุกดาหาร (Mukdahan Tower)  พิพิธภัณฑ์ภายในหอแก้ว

1.หอแก้วมุกดาหาร (Mukdahan Tower)  วิวทิวทัศน์เมืองมุกดาหาร มองจากหอแก้วมุกดาหาร

1.หอแก้วมุกดาหาร (Mukdahan Tower)  วิวทิวทัศน์เมืองมุกดาหาร มองจากหอแก้วมุกดาหาร




1.หอแก้วมุกดาหาร (Mukdahan Tower)

จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงประจำจังหวัด ตั้งอยู่ในตัวเมือง โดยหอแก้วมุกดาหารเฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2539 เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ครองราชย์ครบ 50 ปี หอแก้วมุกดาหารมีลักษณะเป็นหอคอยสูง ส่วนฐานของหอคอยเป็นอาคารทรงเก้าเหลี่ยม 2 ชั้น (ความหมายตรงกับรัชกาลที่ 9) ความกว้างของเส้นผ่าศูนย์กลาง 40 เมตร ชั้นที่ 1 จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ในการดำรงชีวิตของชาวมุกดาหาร ชั้น 2 เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติเมืองมุกดาหารวัตถุโบราณ ภาพถ่ายเก่า ตลอดจนเครื่องแต่งกายชาวไทยพื้นเมืองมุกดาหาร 8 เผ่า ชั้นที่ 3-5 เป็นส่วนแกนของหอคอย ชั้น 6 เป็น จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพรอบตัวเมืองมุกดาหาร แม่น้ำโขงและแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ชั้นบนสุด (ชั้น 7) เป็นหอพระประดิษฐานพระพุทธรูปนวมิ่งมงคลมุกดาหาร และพระประจำวันเกิดทั้ง 7 วัน เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น.  


2. วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ (Wat Roi Phra Phutthabat Phu Manorom)

2. วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ (Wat Roi Phra Phutthabat Phu Manorom)

2. วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ (Wat Roi Phra Phutthabat Phu Manorom)

2. วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ (Wat Roi Phra Phutthabat Phu Manorom)

2. วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ (Wat Roi Phra Phutthabat Phu Manorom)

2. วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ (Wat Roi Phra Phutthabat Phu Manorom)

2. วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ (Wat Roi Phra Phutthabat Phu Manorom)

2. วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ (Wat Roi Phra Phutthabat Phu Manorom)



2. วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ (Wat Roi Phra Phutthabat Phu Manorom)

อีกหนึ่งวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดมุกดาร ด้วยความโดดเด่นขององค์พระใหญ่ และรูปปั้นองค์พญานาคอันสวยงามวิจิตรตระการตา ทำให้กลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คและดึงดูดพุทธศาสนิกชนและผู้แสวงบุญ ต่างต้องมนต์ดลใจมาเที่ยวไหว้พระสักการะพระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ และองค์พญานาคกันสักครั้ง ซึ่งวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ อยู่ห่างจากตัวเมืองมุกดาหารประมาณ 5 กม. มีเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติมุกดาหาร ภายในวัดมี "องค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช" แลนด์มาร์คใหม่ของมุกดาหาร และยังประดิษฐานพระุทธรูปเฉลิมพระเกียรติ “พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์” ประดิษฐานอยู่บนยอดภู พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก 39.99 เมตร สูง 59.99 เมตร ความสูงจากฐานถึงยอดเศียร 84 อีกทั้งยังมีจุดดชมวิวมีภาพ 3 มิติ ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปอีกด้วย 



3.อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Thoep National Park)

3.อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Thoep National Park)

3.อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Thoep National Park)

3.อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Thoep National Park)

3.อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Thoep National Park)

3.อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Thoep National Park)




3.อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Thoep National Park)

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันโดดเด่นและสำคัญของจังหวัดมุกดาหาร โดยอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในจังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ และความน่าสนใจของอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ ได้แก่ กลุ่มหินเทิบ การเกิดกลุ่มหินเทิบจากอดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นที่มาของประติมากรรมธรรมชาติที่ล้วนเกิดจากการกัดเซาะของฝน น้ำ ลมและแสงแดด ผ่านกาลเวลามาถึง 120-95 ล้านปีทำให้กลุ่มหินเหล่านี้มีสภาพแตกต่างกันไปดูคล้ายรูปเครื่องบินไอพ่น จานบิน เก๋งจีน มงกุฎ หัวจระเข้และหอยสังข์  ฤดูกาลท่องเที่ยวของอุทยานฯ คือ ฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน ฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ และฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนมีนาคม-พฤษภาคม ค่าเข้าชม คนไทยผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท /ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท



4.แก่งกะเบา (Kaengkabao)

4.แก่งกะเบา (Kaengkabao)

4.แก่งกะเบา (Kaengkabao)

4.แก่งกะเบา (Kaengkabao)

4.แก่งกะเบา (Kaengkabao)

4.แก่งกะเบา (Kaengkabao)



4.แก่งกะเบา (Kaengkabao)

เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินแลนด์มาร์ค ที่เที่ยวเปิดใหม่ในจังหวัดมุกดาหาร ที่นักท่องเที่ยวต้องห้ามพลาดไปถ่ายรูปภาพกัน โดยความโดดเด่นของแก่งกะเบาคือ  มีรูปปั้น"องค์พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช" พญานาคองค์ใหญ่สีขาวงดงามอยู่ริมแม่น้ำโขง สำหรับแก่งกะเบา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเขตบ้านนาแกน้อย ตำบลป่งขาม อำเภอหว้านใหญ่ ห่างจากตัวจังหวัดมุกดาหาร 35 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ห่างจากอำเภอธาตุพนมเป็นระยะทาง 24 กิโลเมตร ตรงข้ามกับเมืองไชยบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว แก่งกะเบา เป็นแก่งหินและโขดหินยาวตามลำน้ำโขง สายน้ำโขงที่ไหลมามาจะกระทบกับแก่งหินมีการกัดเซาะทำให้เกิดรูปร่างที่สวยงาม ในบางที่จะมีลักษณะเหมือนกับหลุมลึกบางที่ก็จะเป็นลักษณะเหมือนถ้ำใต้น้ำ บางช่วงบนฝั่งมีลานหินกว้างใหญ่เป็นที่พักผ่อนได้อย่างดี ในฤดูแล้งประมาณเดือนมกราคม-พฤษภาคม น้ำลดจนมองเห็นเกาะแก่งกลางน้ำและหาดทรายสวยกว่าฤดูอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจรวมทั้งมาทำกิจกรรมภายในครอบครัวหรือเล่นน้ำ



5. วัดศรีมหาโพธิ์-อาคารกุฏิหลังเก่าที่ว่าการกิ่งอำเภอหว้านใหญ่สุดคลาสิค 

5. วัดศรีมหาโพธิ์-อาคารกุฏิหลังเก่าที่ว่าการกิ่งอำเภอหว้านใหญ่สุดคลาสิค 

5. วัดศรีมหาโพธิ์-อาคารกุฏิหลังเก่าที่ว่าการกิ่งอำเภอหว้านใหญ่สุดคลาสิค 

5. วัดศรีมหาโพธิ์-อาคารกุฏิหลังเก่าที่ว่าการกิ่งอำเภอหว้านใหญ่สุดคลาสิค 

5. วัดศรีมหาโพธิ์-อาคารกุฏิหลังเก่าที่ว่าการกิ่งอำเภอหว้านใหญ่สุดคลาสิค 

5. วัดศรีมหาโพธิ์-อาคารกุฏิหลังเก่าที่ว่าการกิ่งอำเภอหว้านใหญ่สุดคลาสิค 



5. วัดศรีมหาโพธิ์-อาคารกุฏิหลังเก่าที่ว่าการกิ่งอำเภอหว้านใหญ่สุดคลาสิค 

จัดเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นและเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดมุกดาหาร  วัดพระศรีมหาโพธิ์ เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองมานานนับ 100 ปี ตั้งอยู่กลางใจเมือง บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงตั้งอยู่ที่บ้านหว้านใหญ่ ตำบลหว้านใหญ่ ภายในวัดจะมีโบราณสถานคือ สิมอีสาน(โบสถ์) ที่เก่าแก่ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2459 ศิลปะผสมตะวันตก ไทย เวียดนาม ฝรั่งเศส เป็นสิมที่ผนัง 3 ด้าน ภายในผนังจะมีธูปแต้มหรือจิตกรรมฝาผนังเรื่องราวของพระเวสสันดรชาดกที่เป็นฝีมือของช่างพื้นบ้านซึ่งนับว่าเป็นภาพที่งดงามและหาดูได้ยากในปัจจุบัน ส่วนอาคารเก่าทรงยุโรป เมื่อ พ.ศ. 2467 แล้วเสร็จ พ.ศ. 2470 สร้างโดยชาวญวนซึ่งอพยพมาบวชที่วัดนี้แล้วไม่มีที่อยู่อาศัย บ้างระบุว่าผู้สร้างชื่อ หัสดี จากฝั่งประเทศลาวซึ่งมาบวชที่วัดแห่งนี้ บ้างกล่าวว่าแรกสร้างจะใช้เป็นกุฏิสงฆ์ อย่างไรก็ตามอาคารนี้เคยใช้เป็นที่ว่าการกิ่งอำเภอหว้านใหญ่ เมื่อ พ.ศ. 2520 ดังที่ปรากฏรูปครุฑปูนปั้นอยู่หน้าบันของอาคาร



6.จุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 (Thai Lao Friendship Bridge NO.2)


6.จุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 (Thai Lao Friendship Bridge NO.2)


6.จุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 (Thai Lao Friendship Bridge NO.2)


6.จุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 (Thai Lao Friendship Bridge NO.2)


6.จุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 (Thai Lao Friendship Bridge NO.2)





6.จุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 (Thai Lao Friendship Bridge NO.2)

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียง และเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินยอดนิยมที่นักเดินทางไม่พลาดแวะมาเที่ยวชมกัน เนื่องจากเป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขง เชื่อมต่อจังหวัดมุกดาหารของประเทศไทย เข้ากับแขวงสุวรรณเขตของประเทศลาว เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเศรษฐกิจตะวันตกตะวันออก ซึ่งเริ่มจากพม่า ผ่าน ไทย ลาวและสิ้นสุดที่เวียดนาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงของธนาคารการพัฒนาแห่งเอเชีย ซึ่งมีความยาวทั้งหมด 1,600 เมตร มีความกว้าง 12 เมตร และมีช่องการจราจร 2 ช่อง บริเวณจุดชมมีทางเดินให้นั่งและแวะพักชมวิวทัศนียภาพอันงดงามของ 2 ฝั่งโขง


7.วัดศรีมงคลใต้ (Wat Si Mongkhon Tai)

7.วัดศรีมงคลใต้ (Wat Si Mongkhon Tai)

7.วัดศรีมงคลใต้ (Wat Si Mongkhon Tai)

7.วัดศรีมงคลใต้ (Wat Si Mongkhon Tai)




7.วัดศรีมงคลใต้ (Wat Si Mongkhon Tai)

จัดเป็นวัดเก่าแก่สำคัญตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงในตัวเมืองมุกดาหาร เป็นวัดเก่าแก่ สร้างสมัยกรุงธนบุรี ตั้งอยู่ถนนสำราญชายโขง ริมแม่น้ำโขงในตัวเมืองมุกดาหาร ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระเจ้าองค์หลวงพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ประชาชนชาวไทยและลาวเลื่อมใสศรัทธามาหลายชั่วอายุคน สร้างขึ้นก่อนตั้งเมืองมุกดาหาร แต่ไม่ปรากฏว่าสร้างในสมัยใด มีขนาดหน้าตักกว้าง 2.20 เมตร ส่วนสูงเฉพาะองค์ถึงยอดพระเมาลี 2 เมตร เป็นวัดเก่าแก่ สร้างสมัยกรุงธนบุรี ตั้งอยู่ถนนสำราญชายโขง ริมแม่น้ำโขงในตัวเมืองมุกดาหาร ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระเจ้าองค์หลวงพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ประชาชนชาวไทยและลาวเลื่อมใสศรัทธามาหลายชั่วอายุคน สร้างขึ้นก่อนตั้งเมืองมุกดาหาร แต่ไม่ปรากฏว่าสร้างในสมัยใด มีขนาดหน้าตักกว้าง 2.20 เมตร ส่วนสูงเฉพาะองค์ถึงยอดพระเมาลี 2 เมตร



8.วัดศรีบุญเรือง (Wat Sriboonruang Mukdahan) ประดิษฐานพระพุทธรูปสิงห์สอง 

8.วัดศรีบุญเรือง (Wat Sriboonruang Mukdahan) ประดิษฐานพระพุทธรูปสิงห์สอง 

8.วัดศรีบุญเรือง (Wat Sriboonruang Mukdahan) ประดิษฐานพระพุทธรูปสิงห์สอง 

8.วัดศรีบุญเรือง (Wat Sriboonruang Mukdahan) ประดิษฐานพระพุทธรูปสิงห์สอง 

8.วัดศรีบุญเรือง (Wat Sriboonruang Mukdahan) ประดิษฐานพระพุทธรูปสิงห์สอง 



8.วัดศรีบุญเรือง (Wat Sriboonruang Mukdahan) ประดิษฐานพระพุทธรูปสิงห์สอง 

เป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญของจังหวัดมุกดาหาร ตั้งอยู่ที่ถนนสำราญชายโขง การสร้างและการบูรณะวัด จากหลักฐานของคนเฒ่าคนแก่เล่าสืบต่อกันมา และเอกสารพอเชื่อถือได้ กล่าวไว้ว่า "วัดศรีบุญเรือง" เป็นวัดที่ชาวบ้านสร้างขึ้นมาในยุคเดียวกับการสร้างเมืองมุกดาหาร ( ประมาณ พ.ศ.2310 - 2317) หลังจากสร้างอุโบสถพุทธสีมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ให้ชาวบ้านศรีบุญเรืองจัดขบวนดอกไม้ธูปเทียน ไปอัญเชิญ "พระพุทธสิงห์สอง" จากวัดศรีมงคลใต้ มาประดิษฐานไว้ เป็นพระประธานในอุโบสถหลังนี้ ก็เนื่องจากว่าพระองค์พระพุทธรูปสิงห์สองนี้ เป็นพระพุทธรูปเมืองเหนือ ตัวท่านเองก็เป็นคนชาวเหนือ ได้อพยพลงมาในดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ และท่านมีความเคารพพระพุทธรูปองค์นี้มาก จึงได้นำมาประดิษฐานไว้เป็นอนุสรณ์ในอุโบสถที่ท่านได้สร้างขึ้นมา โดยพระพุทธสิงห์สอง พระพุทธรูปสมัยเชียงแสน ปัจจุบันทางวัดได้ถือเอาหลวงพ่อพุทธสิงห์ เป็นพระประธานและเป็นสัญญลักษณ์ของวัดตลอดมา ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวบ้านศรีบุญเรือง และชาวมุกดาหาร จะยึดเอาหลวงพ่อพุทธสิงห์สองนี้ เป็นหลักยึดเหนี่ยวทางจิตใจมาโดยตลอด



9.วัดสองคอน-สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี (Wat Songkhon - Catholic Shrine Of The Martyrs Of Thailand)

9.วัดสองคอน-สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี (Wat Songkhon - Catholic Shrine Of The Martyrs Of Thailand)

9.วัดสองคอน-สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี (Wat Songkhon - Catholic Shrine Of The Martyrs Of Thailand)

9.วัดสองคอน-สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี (Wat Songkhon - Catholic Shrine Of The Martyrs Of Thailand)



9.วัดสองคอน-สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี (Wat Songkhon - Catholic Shrine Of The Martyrs Of Thailand)

เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ณ บ้านสองคอน ตำบลป่งขาม อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร เดิมมีชื่อว่า วัดพระแม่ไถ่ทาส สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานเทิดพระเกียรติบุญราศีมรณสักขีทั้ง 7 ที่อุทิศชีวิตในป่าศักดิ์สิทธิ์เพื่อพิสูจน์ศรัทธาที่มีต่อพระเจ้า เมื่อครั้งเกิดกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งต่อมา พ.ศ. 2532 พระสันตะปาปาก็ได้ประกาศให้ท่านทั้งเจ็ดคนเป็นบุญราศีมรณสักขี โดยในทุก ๆ ปี วัดสองคอนจะมีพิธีเฉลิมฉลองรำลึกการสถาปนาแต่งตั้งบุญราศี ณ กรุงโรมวันที่ 22 ตุลาคม และพิธีรำลึกบุญราศีสองคอน 16 ธันวาคม โบสถ์เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2538 จุดเด่นคือ โบสถ์คริสต์สร้างแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กโถงสี่เหลี่ยมชั้นเดียว



10.ตลาดอินโดจีน (Indochina Market Mukdahan)

10.ตลาดอินโดจีน (Indochina Market Mukdahan)

10.ตลาดอินโดจีน (Indochina Market Mukdahan)

10.ตลาดอินโดจีน (Indochina Market Mukdahan)




10.ตลาดอินโดจีน (Indochina Market Mukdahan)

สำหรับตลาดอินโดจีน ก็จัดเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งช็อปปิ้งสำคัญของจังหวัดมุกดาหาร  และยังถือว่าเป็นตลาดอินโดจีนที่ใหณ่ที่สุดในภาคอีสาน ตั้งอยู่ที่ถนนสำราญชายโขง ต.ศรีบุญเรือง อ.เมือง จ.มุกดาหาร จำหน่ายสินค้าจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เวียดนาม จีน รัสเซีย จำพวก ข้าวของเครื่องใช้ ผ้าพื้นเมือง เซรามิก เครื่องเงิน เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ​ ตลาดแห่งนี้เริ่มเปิดเมื่อปี พ.ศ. 2523 โดยมีแม่ค้ามาจำหน่ายบนรถเข็น สินค้าที่นำมาจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวที่มาชมทัศนียภาพสองฝั่งโขง ซึ่งจะเป็นมะขามหวาน และอาหารขบเคี้ยวทั่วไปจำหน่ายทั้งราคาส่ง และปลีก และนอกจากสินค้าที่นำเข้ามา จำหน่ายจากต่างประเทศแล้วยังมี สินค้าพื้นเมืองของชาวมุกดาหารมาจำหน่ายอีกด้วย เช่น ผ้าไหม ผ้ามัดหมี่ ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อเลือกหากันด้วย 





เที่ยวเสร็จก็มาเดินลัดเลาะ หาอะไรทานในตัวเมืองมุกดาหารต่อเลย


หลังจากแวะขับรถตะลอนเที่ยวเสร็จ ก็มาเดินลัดเลาะ หาอะไรทานในตัวเมืองมุกดาหารต่อเลย


ในตัวเมืองมุกดาหาร ก็มีร้านอาหารอร่อยๆให้ปักหมุดไปลิ้มลองทานอยู่หลายอย่างเลยล่ะค่ะ 

หากเดินจากหอนาฬิกาไปยังย่านถนนต่างๆในตัวเมืองมุกดาหาร ก็มีร้านอาหารอร่อยๆให้ปักหมุดไปลิ้มลองทานอยู่หลายอย่างเลยล่ะค่ะ 


ข้าวเปียก หรือว่าก๋วยจั๊บญวน อาหารพื้นถิ่นของคนที่นี่ตอนเช้า ต้องมาลิ้มลองทานกัน

อาหารพื้นถิ่นรสเด็ดของเมืองมุกดาหาร ข้าวเปียก หรือว่าก๋วยจั๊บญวน ก็ได้รับความนิยมทานเป็นอาหารมื้อเช้าและมื้อเที่ยงของคนทีนี้


นอกจากจากนี้ยังมีขนมญวนปากหม้อไส้หมู เป็นสไตล์เวียดนามเลย 

เวลาจะทานมีน้ำจิ้มหรือว่าน้ำอาจาด ราดลงไปในตัวขนม บีบมะนาวลงสักเล็กน้อยเพิ่มความเปรี้ยวนิดๆ อร่อยดีค่ะ 

และเวลาจะทานมีน้ำจิ้มหรือว่าน้ำอาจาด ราดลงไปในตัวขนม บีบมะนาวลงสักเล็กน้อยเพิ่มความเปรี้ยวนิดๆ อร่อยดีค่ะ 

อีกหนึ่งชนิดที่หาทานได้เฉพาะแทบนี้ ตามรูปเรียกว่าขนมซูเซ โซวเซ

และขนมญวนอีกหนึ่งชนิดที่หาทานได้เฉพาะแทบนี้ ตามรูปเรียกว่าขนมซูเซ โซวเซ  ชื่อขนมออกแปลก แต่รสชาติขนมก็ออกหนึบๆหนับๆ หอม หวานอร่อยดีค่ะ ข้างในเป็นใต้ถั่ว ตัวแป้งขนมเป็นแป้งมัน คล้ายทานมันโรยมะพร้าวทึนทึกกับถั่วกวนรวมกัน อะไรประมาณนั้นเลยค่ะ


พี่สาวก็ขับรถมาส่งเดี๊ยนที่บขส.มุกดาหาร เพื่อนั่งรถตู้โดยสารจากมุกดาหารมุ่งหน้าสู่นครพนม เพื่อเดินทางไปให้ทันเวลาขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพค่ะ 


หลังจากที่ได้พากันเดินไปลิ้มลองทานอาหารต่างๆแล้ว พี่สาวก็ขับรถมาส่งเดี๊ยนที่บขส.มุกดาหาร เพื่อนั่งรถตู้โดยสารจากมุกดาหารมุ่งหน้าสู่นครพนม เพื่อเดินทางไปให้ทันเวลาขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพค่ะ 


นั่งรถตู้โดยสารจากจังหวัดมุกดาหาร มายังสถานีขนส่งจังหวัดนครพนมประมาณ 2  ชั่วโมงเลยล่ะค่ะ 

ใช้เวลานั่งรถตู้โดยสารจากจังหวัดมุกดาหาร มายังสถานีขนส่งจังหวัดนครพนมประมาณ 2  ชั่วโมงเลยล่ะค่ะ ใช้เวลานานพอสมควร เนื่องจากเป็นรถตู้โดยสารที่รับส่งคนระหว่างทางตลอด


เหมารถแท๊กซี่จากสถานีขนส่ง มาที่สนามบินนครพนม เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ เป็นอันจบทริปเที่ยวมุกดาหารในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาประจำเดือนนี้  



จากนั้นก็เหมารถแท๊กซี่จากสถานีขนส่ง มาที่สนามบินนครพนม เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ เป็นอันจบทริปเที่ยวมุกดาหารในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาประจำเดือนนี้  

สำหรับทริปเที่ยวมุกดาหารก็เป็นอีกทริปที่สะดวกสบาย ไม่ต้องเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับให้เมื่อย แต่ก็เกรงใจพี่สาวเหมือนกันค่ะ เพราะต้องพาขับรถไปเที่ยวโน้นนี้ เดี๊ยนกะว่ากลับจากกรุงเทพรอบนี้ คงต้องไปเรียนหัดขับรถยนต์ และสอบใบขับขี่ให้ผ่านแล้วล่ะค่ะ จะได้เที่ยวแบบสบายๆกับเขาบ้างค่ะ 



ต้องขอขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆคน ที่แวะเวียนเข้ามาเปิดสไลด์เลื่อนอ่านกัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความบล็อกดังกล่าว น่าจะมีประโยชน์ต่อคุณผู้อ่านอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย หากข้อมูลดังกล่าว ที่ได้นำเสนอไป มีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยด้วยนะคะ หวังว่าจะได้กันอีกในบทความถัดๆไปค่ะ.......จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน 


--------------------------------------------------------------------

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น