 |
| แบ่งปันเที่ยวทั่วไทยทริปนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมาแบ่งปันรีวิวไปเที่ยวจังหวัดเลย เช่ารถมอเตอร์ไซต์ไปสัมผัสอากาศหนาวสุดในสยามที่อำเภอภูเรือ ไหว้พระที่อำเภอด่านซ้าย ขับรถไปชมวิวที่เชียงคาน แวะยลตระการภูป่าเปาะ ฟูจิเมืองเลย 4 วัน 3 คืน แวะดูที่เที่ยวเปิดใหม่ที่ใหนบ้าง |
มาทักทายสวัสดีคุณผู้อ่านและเพื่อนๆที่รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนกันทุกๆคนอีกครั้งจ้า
นานแล้วค่ะ ที่ไม่ได้ไปเที่ยวจังหวัดเลย จำได้ว่าทริปเที่ยวเมืองเลยล่าสุด ก็ปี 2559 ถือว่าเป็นบทความแรกๆเลยนะคะ ที่เดี๊ยนได้มาพร่ำเพร้อพรรณา บ้าๆบอๆได้มาแบ่งปันให้ได้อ่านกัน จากวันนั้น มาถึงวันนี้หลายปีแล้วค่ะ และในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งอากาศยังเย็นสบายอยู่ เดี๊ยนคุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า มาแบ่งปันรีวิวทริปเที่ยวไปตามภาพ แวะไปเที่ยวจังหวัดเลยประจำปี 2566 มาให้ได้สไลด์อ่านดูกันค่ะ โดยทริปนี้ เดี๊ยนจัดทริปไปเที่ยวภูเรือ-ด่านซ้าย-เชียงคาน-ภูป่าเปาะหรือฟูจิเมืองเลย รวมระยะเวลาทั้ง 4 วัน 3 วันคืนค่ะ
สมญานามตามคำขวัญจังหวัดเลย : เมืองแห่งทะเลภูเขา สุดหนาวในสยาม ดอกไม้งามสามฤดู แวะไปเที่ยวดูให้จุ๊กกรูหัวใจสิว่าเมืองแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดตา และตราตรึงใจที่ใหนบ้าง
ซี่งทริปนี้เที่ยววางแผนไปภูเรือกับด่านซ้าย 2 วัน ส่วนอีก 2 วันวางไปเที่ยวเชียงคาน ภูป่าเป่าเมืองเลย ซึ่งเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ จะมีเพื่อนสาวมาร่วมจอยเที่ยวด้วยอีกคน แต่จะเช่ารถยนต์ขับเที่ยวกันค่ะ ขอมาแบ่งปั้นส่วนภาพเที่ยวการเดินทางเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลยจ้า
---เที่ยววันที่ 1 (Day 1)--
 |
| เริ่มต้นทริปเดินทางไปเที่ยวจังหวัดเลย แวะไปเดินชมเชยที่ภูเรือ-ด่านซ้าย-เชียงคาน-ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย |
เริ่มต้นทริปเที่ยวไปตามภาพทริปนี้ เดี๊ยนก็นั่งเครื่องบินออกจากสนามบินดอนเมืองแต่เช้าตรู่เลยจ้า
เพื่อมาให้ทันเวลาเช็คอิน เดี่ยวจะตกเครื่องเอาค่ะ
 |
| เดี๊ยนซื้อตั๋วแบบไปกลับ รวม 2428 บาทค่ะ ตกเที่ยวละ 1214 บาท ถือว่าราคาไม่แพงจนเกินไปนะคะ |
ส่วนราตั๋วเครื่องบิน เดี๊ยนซื้อตั๋วแบบไปกลับ รวม 2428 บาทค่ะ ตกเที่ยวละ 1214 บาท ถือว่าราคาไม่แพงจนเกินไปนะคะ ราคาถูกกว่าอีกเจ้า แต่ต้องเสี่ยงดวง ว่าเครื่องบินจะดีเลย์หรือไม่ แค่นั้นจ้า เดี๊ยนโชคดีที่จองเที่ยวบินรอบเช้า เห็นว่ากันว่า รอบเย็น บางเที่ยวก็ดีเลย์
 |
| ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงสนามบินจังหวัดเลยแล้วจ้า |
ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงสนามบินจังหวัดเลยแล้วจ้า
ตอนแรกก็แอบหวั่นๆนะคะว่า ตอนที่มาเช็คอิน เครื่องจะดีเลย์หรือเปล่า เพราะได้อ่านข่าวมาว่าสายการบินดีเลย์บ่อย
 |
| ถึงสนามบินก็มาร้านเช่ารถเมืองเลย ด้านหน้าประตูทางเข้าสนามบิน |
พอมาถึงสนามบินก็มาร้านเช่ารถเมืองเลย ด้านหน้าประตูทางเข้าสนามบิน
เพื่อติดต่อเช่ารถมอเตอร์ไซต์ค่ะ แต่ที่ร้านก็มีรถยนต์ให้เช่าด้วยนะคะ ราคาก็ไม่แพง
ส่วนในจังหวัดเลย ก็มีร้านเช่ารถยนต์ให้เลือกหลายร้านเลย มีทั้งมาบริการส่งถึงสนามบินโดยตรง หรือไปส่งให้ที่โรงแรมก็มีค่ะ สำหรับใครที่ไม่ถนัดเช่ารถยนต์ขับในเมืองเลย ก็เช่ารถมอเตอร์ไซต์ลุยๆกลางแสงแดดเปรี้ยงๆแบบเดี๊ยนได้จ้า
ได้แล้วจ้า รถมอเตอร์ไซต์สำหรับเช่าเที่ยวจังหวัดเลยทริปนี้ เป็นรถฮอนด้า ซุมเมอร์X ใจจริงอยากได้รถเวฟรุ่นเก่าๆนะคะ แต่ทางร้านไม่มี เลยต้องขับรถรุ่นใหม่ๆ ตามสมัยแฟชั่นไป
ราคาเช่ารถมอเตอร์ไซต์วันละ 250 บาทค่ะ รวม 2 วัน ราคา 500 บาทค่ะ
ส่วนอีก 2 วันจะมีเพื่อนสาว เดินทางจากกรุงเทพ มาสมทบทเที่ยวด้วยอีก 1 คน
แต่จะเช่ารถยนต์ขับ ค่อยมาแชร์กันค่ะ
มัดจำ 500 บาท มีหมวกกันน็อคให้ด้วย
พอได้รถและศึกษาวิธีการใช้งานรถมอเตอร์ไซต์แล้ว ก็ออกลุยไปเที่ยวกันเลยจ้า
ก่อนจะไปเที่ยวภูเรือ ก็แวะไปเที่ยวเมืองเลยก่อนค่ะ โดยในเมืองเลยก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่เช่นกัน นั้นก็คือ ภูบ่อบิด ที่ใครชอบถ่ายรูปต้องไม่พลาดมาเที่ยวชมสักครั้ง
 |
| จำได้เลยว่าหลายปีก่อน มาเที่ยวจังหวัดเลย ก็พลาดไม่ได้มาเที่ยวภูบ่อบิด รอบนี้เดี๊ยนก็ขอจัดไปเที่ยวชมสักครั้งค่ะ |
หลายปีก่อน มาเที่ยวเลย ก็พลาดไม่ได้มาเที่ยวภูบ่อบิด รอบนี้เดี๊ยนขอจัดไปเที่ยวชมให้เป็นบุญตาสักครั้งค่ะ
 |
| 1.เที่ยวชมวิวสวยที่วนอุทยานภูบ่อบิด (Phu Bo Bit) |
 |
| 1.เที่ยวชมวิวสวยที่วนอุทยานภูบ่อบิด (Phu Bo Bit) |
 |
| 1.เที่ยวชมวิวสวยที่วนอุทยานภูบ่อบิด (Phu Bo Bit) |
 |
| 1.เที่ยวชมวิวสวยที่วนอุทยานภูบ่อบิด (Phu Bo Bit) |
 |
| 1.เที่ยวชมวิวสวยที่วนอุทยานภูบ่อบิด (Phu Bo Bit) |
 |
| 1.เที่ยวชมวิวสวยที่วนอุทยานภูบ่อบิด (Phu Bo Bit) |
1.เที่ยวชมวิวสวยที่วนอุทยานภูบ่อบิด (Phu Bo Bit)
สำหรับภูบ่อบิด เป็นหนึ่งในที่เที่ยวในตัวเมืองเลย ที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่ง ภูบ่อบิด เป็นภูเขาที่มีความสูงประมาณ 500-600 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ห่างจากตัวเมืองเลยเพียงแค่ 3 กิโลเมตร ที่นี่ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติและจุดชมวิวทัศนยภาพที่สวยงามอีกแห่ง โดยด้านบนมีจุดชมวิวด้านทิศตะวันออกที่จะมองเห็นวิวเมือง และด้านทิศตะวันตก มองเห็นวิวภูเขา บรรยากาศดี ทิวทัศน์งดงาม
การจะเดินทางขึ้นมายอดภูบ่อบิด สามารถขึ้นได้ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางที่ 1 ใช้บริการรถอีแต๊ก จากนั้นเดินขึ้นบันไดเหล็กต่ออีก 180 เมตร และเส้นทางที่ 2 เดินเท้าขึ้นยอด ตั้งแต่ด้านล่างตีนดอย ไต่ระดับขึ้นเขา ตามเส้นทางบันไดเหล็กและเดินตามทางที่ป้ายเส้นทางไปยังด้านบน และที่บ่อบิดยังมีถ้ำพระ ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปให้สักการะ และยังมีถ้ำลอด ที่สามารถเดินลอดไปยังบนยอดเขาภูบ่อบิดได้ด้วย
 |
| เที่ยวภูบ่อบิด จนได้เหงื่อเต็มตัวแล้ว ก็เดินทางขับรถมอเตอร์ไซต์เข้ามาในตัวเมืองเลย เพื่อมาให้หาอะไรทานค่ะ |
หลังจากได้ไปเดินออกกำลังแข้งขา เที่ยวภูบ่อบิด จนได้เหงื่อเต็มตัวแล้ว ก็เดินทางขับรถมอเตอร์ไซต์เข้ามาในตัวเมืองเลย เพื่อมาให้หาอะไรทานค่ะ
 |
| หาแนวกิน แวะไปลิ้มลองทานอาหารเวียดนาม ที่ครัวดานัง |
อาหารเที่ยงมื้อนี้ เดี๊ยนเลยแวะไปฝากท้อง ขอไปลิ้มลองทานอาหารเวียดนามที่ครัวดานัง
 |
| สังเมนูแรกมาทานเป็น ขนมจีนเวียดนาม |
เมนูแรก สั่งเป็นขนมจีนเวียดนาม เส้นขนมจีนเหมือนบ้านเรา แต่โรยด้วยถั่ว และผักเครื่องเคียงเป็นผักแพว ถั่วงอกและผักอื่นๆ เน้นเป็นผัก ส่วนน้ำยา ก็คล้ายน้ำอาจาด รสชาติ ร้าวรานฤทัย อร่อยดีค่ะ ใครที่ยังไม่เคยทาน ต้องมาลองทานดูค่ะ
 |
| เมนูที่สองคือ บั่นแบ๋ว ขนมถ้วยขนาดเล็ก คล้ายๆ ขนมถ้วยของบ้านเราที่เป็นอาหารหวาน แต่ทีเวียดนามเป็นอาหารคาว โรยหน้าด้วยหมุหยองกับแคปหมู |
ส่วนอีกเมนูที่มาเสริฟต่อที่หลัง คือ บั่นแบ๋ว ขนมถ้วยขนาดเล็ก คล้ายๆ ขนมถ้วยของบ้านเราที่เป็นอาหารหวาน แต่ทีเวียดนามเป็นอาหารคาว โรยหน้าด้วยหมุหยองกับแคปหมู อันนี้เดี๊ยนชอบทาน อร่อยดี กรุบกริบ กรอบๆ ให้ผ่านจ้า ทานจนอิ่มเลย ค่าเสียมื้อนี้ หมดไปเท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว น่าจะ 100 ขึ้นไปค่ะ
หลังจากที่ทานอาหารมื้อเที่ยงอิ่มแล้ว ก็เดินทางขับรถมอเตอร์ไซต์ออกจากเมืองเลย มุ่งหน้าไปที่อำเภอภูเรือค่ะ ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร เพื่อไปนอนพักค้างที่อำเภอนี้สองคืนค่ะ
 |
| 2.เที่ยวไหว้พระที่วัดป่าห้วยลาด (Wat Pa Huay Lad) |
 |
| 2.เที่ยวไหว้พระที่วัดป่าห้วยลาด (Wat Pa Huay Lad) |
 |
| 2.เที่ยวไหว้พระที่วัดป่าห้วยลาด (Wat Pa Huay Lad) |
 |
| 2.เที่ยวไหว้พระที่วัดป่าห้วยลาด (Wat Pa Huay Lad) |
 |
| 2.เที่ยวไหว้พระที่วัดป่าห้วยลาด (Wat Pa Huay Lad) |
 |
| 2.เที่ยวไหว้พระที่วัดป่าห้วยลาด (Wat Pa Huay Lad) |
2.เที่ยวไหว้พระที่วัดป่าห้วยลาด (Wat Pa Huay Lad)
จัดเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่ที่มีชื่อเสียงของอำเภอภูเรือ วัดป่าห้วยลาดก่อตั้งขึ้นโดยหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ชาวบ้านได้เกิดความเลื่อมใสในปฏิปทาของหลวงปู่ชอบ จึงงได้นิมนต์ท่านมาสร้างวัดแห่งนี้เมื่อ พ.ศ. 2483 และก็มีการพัฒนาวัดขึ้นมาตามลำดับ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2542 และยังเป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย โดยวัดป่าห้วยลาด ห่างจากตัวอำเภอภูเรือประมาณ 7 กิโลเมตร
ซึ่งจุดเด่นและไฮไลท์ของวัดแห่งนี้คือ มีประติมากรรมมากมายไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นพระตรีมูรติ พระอินทร์ พระพิฆเนศ พญานาค และองค์เทพต่าง ๆ อีกมากมาย ภายในวัดมีบ่อน้ำใหญ่อยู่ตรงกลาง ศาลาเฉลิมพระเกียรติ ที่ได้รับพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. และพระนามาภิไธยย่อ ส.ก. ขึ้นประดับที่หน้าบัน ภายในศาลาเฉลิมพระเกียรติ มีพระประธานองค์สีขาวขนาดใหญ่ สูง 19 เมตร มีนามว่า พระสัพพัญญูรู้แจ้งสามแดนโลกธาตุ ให้ได้กราบไหว้กันเพื่อความเป็นสิริมงคล (เครดิตข้อมูลดีๆจาก (https://th.wikipedia.org/wiki/วัดป่าห้วยลาด)
 |
| อุดหนุนขนมของฝากช่วยแม่ค้า เพราะวันธรรมดาเงียบมากๆ |
บรรยากาศที่วัดไม่ค่อยมีนักท่องเทียวมากนัก มีร้านขายของฝากอยู่ เดี๊ยนเลยอุดหนุนขนมช่วยแม่ค้าสักหน่อยค่ะ
 |
| ซื้อเอาไว้ทานระหว่างทาง และเอาไว้ไปใส่บาตรหรือว่าเอาไปแจกเด็กๆด้วย |
ได้ขนมมาทาน 3 ถุง 100 บาทจ้า ซื้อเอาไว้ทานระหว่างทาง และเอาไว้ไปใส่บาตรหรือว่าเอาไปแจกเด็กๆด้วย
ไหว้พระที่วัดป่าห้วยลาดแล้ว ไม่ไกลนักจากวัดป่าห้วยลาดประมาณ 4 กิโลเมตร ก็ขับรถเดินทางลุยกันต่อไปนั่งชิลๆ ที่คาเฟ่ไร่แฟนฉัน ซึ่งเป็นร้านคาเฟ่วิวสวยที่สุดอีกแห่งในอำเภอภูเรือ
 |
| ขับรถขึ้นมา เส้นทางค่อนข้างลาดชันเดียวค่ะ แต่วิวทิวทัศน์คือสวยจริง อะไรจริงจ้า |
ระหว่างขับรถขึ้นมา เส้นทางค่อนข้างลาดชันเดียวค่ะ แต่วิวทิวทัศน์คือสวยจริง อะไรจริงจ้า ระหว่างทางก็จะขับผ่านสวนยาง และสวนไร่แก้วมังกรที่ปลูกกันมากในบริเวณนี้
 |
| ไร่แฟนฉันกาแฟห้อยขา Fanchan Camp Cafe ร้านคาเฟ่ชื่อดังในอำเภอภูเรือ ตั้งอยู่บนภูเขา อากาศเย็นสบาย |
ถึงแล้วจ้า ไร่แฟนฉันกาแฟห้อยขา Fanchan Camp Cafe ร้านคาเฟ่ชื่อดังในอำเภอภูเรือ พิกัด : https://goo.gl/maps/hxymwzGCifvd8GUE9
 |
| บรรยากาศร้านคาเฟ่ ไร่แฟนฉันกาแฟห้อยขา Fanchan Camp Cafe รับอากาศเย็นๆ ลมพัดดีงาม อร่ามจับใจเหลือเสียเต็มประดาทีเดียวเชียว |
ร้านคาเฟ่ ไร่แฟนฉัน ด้านในบริการเครื่องดื่ม ราคาไม่แพง เริ่มต้น 40 บาท
แวะไปนั่งชิลๆ ใช้ชีวิตแบบช้าๆ ไม่เร่งรีบ ด้วยการไปจิบเครื่องดื่มอุ่นๆ สั่งโก้ๆมาทาน พร้อมกันนี้ทางร้านยังเสริฟชากุหลาบมาให้อีกด้วย คือดีมากๆ
และสำหรับเพื่อนคนใหนๆที่แวะมาเที่ยวภูเรือ อยากได้บรรยากาศดีๆ ต้องไม่พลาด มานั่งจิบชา กาแฟ ชมวิวสวยๆที่ร้านคาเฟ่นี้ได้ค่ะ พิกัด : https://goo.gl/maps/hxymwzGCifvd8GUE9
หลังจากที่ใช้เวลาอยู่กับการนั่งชิลๆที่ร้านคาเฟ่ไร่แฟนฉันอยู่นาน ก็เดินทางเข้ามาในตัวอำเภอภูเรือ เพื่อไปยังโรงแรมที่พักทริปนี้ค่ะ
 |
| แวะไปชมลานทุ่งคริสต์มาส ภูเรือ อีกหนึ่งที่เที่ยวในตำนาน แต่วันเดี๊ยนเดินทางมา สถานที่ท่องเที่ยวดังกล่าวเสื่อมโทรมไปมากทีเดียวค่ะ น่าจะอยู่ในระหว่างปรับปรุง |
ระหว่างทางเลยแวะไปเที่ยว ลานทุ่งคริสต์มาส ภูเรือ (Poinsettia Garden Phurua) อีกหนึ่งจุดถ่ายรูปในตำนานและแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอภูเรือ แต่วันที่เดี๊ยนเดินทางมา สถานที่ท่องเที่ยวดังกล่าวเสื่อมโทรมไปมากทีเดียวค่ะ น่าจะอยู่ในระหว่างปรับปรุง เนื่องสถานการณ์โควิดด้วยกระมัง ในอนาคตน่าจะกลับมาสวยดังเดิมค่ะ
 |
| พักค้างที่โรงแรมภูสำเภา วัลเลย์ ซึ่งเป็นโรงแรมที่อยู่ไม่ไกลจากตลาด ร้านอาหาร และอุทยานแห่งชาติภูเรือด้วย |
ส่วนโรงแรมที่พักทริปนี้ เดี๊ยนนอนพักค้างที่โรงแรมภูสำเภา วัลเลย์ ซึ่งเป็นโรงแรมที่อยู่ไม่ไกลจากตลาด ร้านอาหาร และอุทยานแห่งชาติภูเรือด้วย
 |
| ที่ล็อบบี้ของโรงแรมภูสำเภา วัลเลย์ เป็นร้านคาเฟ่และร้านอาหาร ตกแต่งได้น่ารัก น่านั่งมากๆค่ะ |
บริเวณล็อบบี้เช็คอิน เป็นร้านคาเฟ่และร้านอาหาร ตกแต่งได้น่ารัก น่านั่งมากๆค่ะ บรรยากาศดี มองเห็นวิวภูเขา ทิวทัศน์สวยงามมาก มีมุมถ่ายรูปน่ารักๆภายในร้านด้วย
 |
| รีวิวห้องพักโรงแรมภูสำเภาวัลเลย์ |
จองห้องพักเป็นห้องสตูดิโอ 1 ห้องนอน มี 2 เตียง คือเตียงนอนล่าง และเตียงบนเป็นฟูก
ราคาห้องคืนละ 784 บาทไม่รวมอาหารเช้า จองราคาโปรโมชั่นมาค่ะ แต่อินเตอร์เตอร์เน็ต Wi-Fi ใช้ไม่ได้เลย ทางโรงแรมแจ้งว่าอินเตอร์เน็ตเสีย เลยต้องไปใช้ที่บริเวณล็อบบี้แทนค่ะ
ห้องถือว่ากว้างทีเดียวค่ะ มีชั้นลอยและที่นอนสำหรับเด็กๆไปนอนได้ด้วย
ในห้องก็มีจาน ชาม แก้วน้ำดื่ม ตู้เย็น ทีวี จอแบนให้
ห้องน้ำส่วนตัว มีเครื่องทำน้ำอุ่น สบู่ แชมพู ผ้าขนหนูให้ครบ ถือว่าดีทีเดียวค่ะ
ด้านนอกห้องพัก มีเตียงแคร่ไม้ไผ่ ที่นั่งให้สำหรับทำอาหาร ทานได้
และยังมีเตาอั้งโล่สำหรับทำปิ้งย่าง ทำหมูกะทะทานด้วย จัดเป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่เหมาะสำหรับครอบครัว นอนพักหลายๆคนค่ะ
 |
| พระอาทิตย์กำลังตกพอดี ซึ่งวันที่เดี๊ยนไปเที่ยว อากาศก็กำลังหนาวเย็นทีเดียวค่ะ |
เดินจากห้องพักขึ้นไปบริเวณล็อบบี้ของโรงแรมเป็นร้านคาเฟ่และร้านอาหาร พระอาทิตย์กำลังตกพอดี ซึ่งวันที่เดี๊ยนไปเที่ยว อากาศก็กำลังหนาวเย็นทีเดียวค่ะ
เช็คอินเอากระเป๋าไปไว้ที่ห้องพักเรียบร้อย พลบค่ำก็ออกไปขับรถฝ่าความหนาว ออกไปหาอะไรทานค่ะ เลยแวะไปที่ร้านข้าวต้มภูเรือ
ราคาอาหารก็อยู่ที่ประมาณ 60-100 บาทค่ะ
อาหารค่ำมื้อนี้ ทานผัดผักบุ้งไฟแดง ต้มโคล้งปลาแห้งทอดกรอบ กับข้าวสวยร้อนๆ รวมค่าเสียหายมื้อนี้ 180 บาทค่ะ
-----วันที่ 2 (Day 2)------
อรุณเบิกฟ้าเช้าวันใหม่ที่ภูเรือ อากาศหนาวเย็นทีเดียวค่ะ
 |
| ออกไปหาอะไรทานที่ตลาดเทศบาลภูเรือ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม |
ขับรถมอเตอร์ไซต์ฝ่าความหนาว ออกไปหาอะไรทานที่ตลาดเทศบาลภูเรือ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก ขับรถมาประมาณ 1.5 กิโลเมตรก็ถึงตลาดแล้วค่ะ
ที่ตลาดภูเรือตอนเช้า ก็เป็นตลาดเล็กๆค่ะ แต่ก็มีร้านอาหารให้นั่งทานอยู่นะคะ
เดินผ่านร้านขายปาท่องโก๋ทอด และสอยมา 1 ถุง 20 บาทเด้อ
ซื้อปาท่องโก๋เอามาทานกับโจ๊กหมู 40 บาท รวมค่าเสียหายมื้อเช้านี้ 60 บาทจ้า
 |
| ได้พลังงานเติมอิ่มแล้ว ก็ไปเที่ยวกันต่อในวันที่ 2 ของทริปเที่ยวจังหวัดเลยในรอบหลายๆปีกันต่อเลยค่ะ |
เติมอาหารลงท้องได้พลังงานเติมอิ่มแล้ว ก็ไปเที่ยวกันต่อในวันที่ 2 ของทริปเที่ยวจังหวัดเลยในรอบหลายๆปีกันต่อเลยค่ะ
 |
ใครที่มาเที่ยวภูเรือก็ต้องไปเช็คอินกันที่อุทยานแห่งชาติภูเรือค่ะ เสียค่าเข้า 40 บาท ค่ารถ 20 บาท รวมค่าเสียหาย 60 บาทจ้า
|
เที่ยวอุทยานแห่งชาติภูเรือ หนึ่งในยอดภูในตำนาน ที่เคยหนาวที่สุดในแดนสยาม ใครที่มาเที่ยวภูเรือก็ต้องไปเช็คอินกันที่อุทยานแห่งชาติภูเรือค่ะ เสียค่าเข้า 40 บาท ค่ารถ 20 บาท รวมค่าเสียหาย 60 บาทจ้า
 |
| 3.แวะไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูเรือ (Phu Ruea National Park) อุทยานที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดของประเทศไทยโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะหนาวเย็นมาก |
สำหรับอุทยานแห่งชาติภูเรือ จัดเป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่่มีชื่อเสียงของจังหวัดเลย เป็นอุทยานที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดของประเทศโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะหนาวเย็นมาก จนกระทั่งน้ำค้างบนยอดหญ้าจะแข็งตัว ภาษาพื้นเมือง เรียกว่า "แม่คะนิ้ง" อุทยานแห่งชาติภูเรือ เป็นอุทยานแห่งชาติตั้งอยู่ที่ ตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ และอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย
อาณาเขตทางทิศเหนือติดกับประเทศลาว เป็นภูเขาสูงบนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างมีต้นสนจำนวนมาก ขึ้นสลับซับซ้อน มีลักษณะแปลกก็คือ มีส่วนหนึ่งเป็นผาชะโงกยื่นออกมาเหมือนหัวเรือสำเภาขนาดใหญ่ ลักษณะภูมิประเทศของอุทยานแห่งชาติภูเรือเมื่อมองโดยรอบ ในที่สูง จะเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนกันสวยงาม ประกอบด้วยเขาหินประเภทต่าง ทรายและหินแกรนิสสสับกัน สัตว์ป่าที่พบเห็นได้แก่ หมี เก้ง หมาใน ไก่ฟ้าพญาลอ เต่าปูลู อุทยานภูเรืออยู่บนยอดเขาสูงทำให้มี อากาศหนาวเย็นตลอดปี
โดยแหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูเรือ อาทิต ผาซำทอง, ผาโหลนน้อย,หินเต่า, มีเส้นทางเดินป่าระยะสั้นๆ มีจุดชมวิวตามเส้นทางเดินต่างๆ และยังมีจุดลานกางเต็นท์ให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะมาสัมผัสความหนาวเหน็บช่วงฤดูหนาวที่ภูเรือแห่งนี้ด้วย
 |
| 4.วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง (Wat Somdet Phu Ruea) |
 |
| 4.วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง (Wat Somdet Phu Ruea) |
 |
| 4.วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง (Wat Somdet Phu Ruea) |
 |
4.วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง (Wat Somdet Phu Ruea) | | 4.วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง (Wat Somdet Phu Ruea) |
|
4.วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง (Wat Somdet Phu Ruea)
สำหรับวัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาในอำเภอภูเรือ จังหวัดเลย อยู่ไม่ไกลจากย่านตัวอำเภอและยังอยู่ใกล้เส้นทางไปอุทยานแห่งชาติภูเรืออีกด้วย โดยวัดแห่งนี้ มีเสน่ห์ที่โดดเด่นคือ ตัววิหารที่สร้างจากไม้สักทั้งหลัง ประกอบกับงานประติมากรรมแกะสลักไม้ที่มีความวิจิตรงดงามในทุกส่วนของวิหาร อีกทั้งยังมีพระนอน พระวิหาร และส่วนของนาคหัวบันได ที่แกะสลักจากหินหยกแม่น้ำโขงขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามมากเช่นกัน มีเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธบาท ให้พุทธศาสนิกชนได้เข้ามากราบไหว้พระขอพรกัน บรรยากาศในวัดสามารถมองเห็นวิวเมืองภูเรือได้อย่างสวยงาม เนื่องจากตั้งอยู่บนเนินเขา (เครดิต : https://thai.tourismthailand.org/Attraction/วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง)
 |
| ไปเที่ยวอำเภอด่านซ้าย ขับรถจากภูเรือมุ่งหน้าไปอีกประมาณ 35 กิโลเมตร |
มุ่งหน้าเดินทางไปทางไปเที่ยวอำเภอด่านซ้าย ขับรถจากภูเรือมุ่งหน้าไปอีกประมาณ 35 กิโลเมตร
 |
พบเห็นร้านขายต้นไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ และพืชต่างๆมากมาย ที่ภูเรือขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งเพาะปลูกไม้ดอกที่มีชื่อเสียงอีกแห่ง เนื่องจากมีภูมิประเทศบนเนินเขา มีอากาศเย็น
|
ระหว่างทางจากภูเรือไปด่านซ้าย จะพบเห็นร้านขายต้นไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ และพืชต่างๆมากมาย ที่ภูเรือขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งเพาะปลูกไม้ดอกที่มีชื่อเสียงอีกแห่ง เนื่องจากมีภูมิประเทศบนเนินเขา มีอากาศเย็น
ใครที่ชอบปลูกดอกไม้ แนะนำว่ามาภูเรือ ได้ไปหลายต้นแน่ๆ เพราะราคาถูกมากๆค่ะ
 |
| ถึงแล้วจ้า จุดมุ่งหมายปลายทางอำเภอด่านซ้าย ไม่พลาดต้องมาไหว้พระธาตุศรีสองรัก |
ในที่สุดก็ถึงแล้วจ้า จุดมุ่งหมายปลายทางอำเภอด่านซ้าย ไม่พลาดต้องมาไหว้พระธาตุศรีสองรัก สถานที่ท่องเที่ยวต้องห้ามพลาดที่ใครมาด่านซ้าย ต้องมาไหว้พระธาตุสุดเก่าแก่แห่งนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลกันสักครั้ง
 |
| แผนที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในอำเภอด่านซ้าย โดยเน้นอยู่ภายในตัวอำเภอ ใกล้ย่านตลาดและย่านการค้า |
แผนที่แนะนำแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอด่านซ้าย ก็มีจุดให้แวะไปเช็คอินเที่ยวชมหลายแห่งเหมือนกันนะคะ
 |
| 5.วัดพระธาตุศรีสองรัก (Phrathat Sri Song Rak) |
 |
| 5.วัดพระธาตุศรีสองรัก (Phrathat Sri Song Rak) |
 |
| 5.วัดพระธาตุศรีสองรัก (Phrathat Sri Song Rak) |
 |
5.วัดพระธาตุศรีสองรัก (Phrathat Sri Song Rak) | | 5.วัดพระธาตุศรีสองรัก (Phrathat Sri Song Rak) |
|
5.วัดพระธาตุศรีสองรัก (Phrathat Sri Song Rak)
เป็นหนึ่งในวัดพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองด่านซ้าย มาอย่างยาวนาน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เมื่อปี พ.ศ. 2103 เสร็จในปี พ.ศ. 2106 โดยพระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยา (สมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ) กับกรุงศรีสัตนาคนหุต (ปัจจุบันคือเวียงจันทน์ ประเทศลาว)
โดยกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ทรงครองราชสมบัติ ตรงกับสมัยที่พม่าเรืองอำนาจ และมีการรุกรานดินแดนต่าง ๆ เพื่อขยายอำนาจ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิและพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจึงตกลงรวมกำลัง เพื่อต่อสู้กับพม่า จึงทรงกระทำสัตยาธิษฐานว่าจะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกัน และเพื่อเป็นที่ระลึกในการทำไมตรีต่อกัน จึงได้ร่วมกันสร้างพระธาตุศรีสองรักเพื่อเป็นสักขีพยาน ณ กึ่งกลางระหว่างแม่น้ำน่านและแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นรอยต่อของทั้งสองราชอาณาจักร
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปปางนาคปรก ศิลปะล้านช้างทรงเครื่องอยุธยา หัวนาคปรกสร้างด้วยศิลา องค์พระพุทธรูปสร้างด้วยทองสำริด มีหน้าตักกว้าง 21 นิ้ว สูง 30 นิ้ว และทุกวันขึ้น 15 เดือน 6 ชาวอำเภอด่านซ้าย หรือ"ลูกผึ้งลูกเทียน" จะร่วมกันจัดงานสมโภชพระธาตุขึ้น โดยจะนำต้นผึ้ง มาถวายพระธาตุถือเป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นประจำทุกปีอีกด้วย (เครดิตข้อมูลดีๆ : https://th.wikipedia.org/wiki/วัดพระธาตุศรีสองรัก)
 |
| 6.พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย ด่านซ้าย (Phi Ta Khon Dan Sai Museum) |
 |
| 6.พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย ด่านซ้าย (Phi Ta Khon Dan Sai Museum) |
 |
| 6.พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย ด่านซ้าย (Phi Ta Khon Dan Sai Museum) |
 |
| 6.พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย ด่านซ้าย (Phi Ta Khon Dan Sai Museum) |
 |
| 6.พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย ด่านซ้าย (Phi Ta Khon Dan Sai Museum) |
 |
| 6.พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย ด่านซ้าย (Phi Ta Khon Dan Sai Museum) |
 |
| 6.พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย ด่านซ้าย (Phi Ta Khon Dan Sai Museum) |
6.พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย (Phi Ta Khon Dan Sai Museum)
จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจอีกแห่งในอำเภอด่านซ้าย นอกจากมาไห้วพระธาตุศรีสองรักแล้ว ต้องไม่พลาดมาเดินชมพิพิธภัณฑ์ผีตาโขนแห่งนี้ โดยพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในวัดโพนชัย ถนนแก้วอาสา ห่างจากอำเภอด่านซ้ายประมาณ 2 กิโลเมตร ตัวพิพิธภัณฑ์เป็นบ้านเรือนไม้
เป็นสถานที่เก็บ และจัดนิทรรศการเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ ที่สืบต่อกันมา รวมถึงผีตาโขนที่มีความเชื่อกันว่าเป็นการละเล่นพื้นบ้านที่สืบทอดมาแต่โบราณ ว่างานบุญผีตาโขนนี้เป็นส่วนหนึ่งของ "งานบุญหลวง" ที่ถือว่าเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของท้องถิ่นที่รวมเอางานบุญพระเวส (ฮีตเดือนสี่) และงานบุญบั้งไฟ (ฮีตเดือนหก) ให้เป็นงานบุญเดียวกัน และการละเล่นผีตาโขน วัสดุอุปกรณ์ทำหน้ากากผีตาโขน นอกจากนี้ยังจัดแสดงวัฒนธรรมประเพณีต่างๆในอำเภอด่านซ้ายให้ได้เรียนรู้อย่างน่าสนใจด้วย
หลังจากได้เที่ยวไหว้พระธาตุศรีสองรัก และเดินชมพิพิธภัณฑ์ผีตาโขนแล้ว ก็เดินทางกลับที่พักมืดค่ำพอดค่ะ ได้เวลาออกไปหาอะไรทาน
 |
| ทานไก่บ้านย่าง จากร้านมุมอร่อยไก่ยาง |
อาหารมื้อเย็นนี้ ทานไก่บ้านย่าง จากร้านมุมอร่อยไก่ยาง น้ำจิ้มรสเด็ด รสชาติอร่อยทีเดียวค่ะ ไก่บ้านเนื้อเยอะดี ย่างไม่แห้งด้วย ถือว่าให้ผ่านค่ะ ค่าเสียหาย 100 กว่าบาท จำไม่ได้แล้วว่าเท่าไหร่ค่ะ ใครผ่านมาภูเรือ ก็แวะไปอุดหนุนลองทานก็ดูนะคะ มีหลายเมนูเลย แต่เดี๊ยนไป ตอนร้านใกล้ปิดแล้ว นอนพักภูเรือคืนสุดท้าย ก่อนเดินทางไปพักที่เมืองเลย
---วันที่ 3 (Day 3)---
 |
| เข้าสู่การเดินทางเที่ยวเลย-ภูเรือวันที่ 3 แล้วค่ะ เตรียมาตัวเช็คเอาท์ออกจากที่พัก |
เช้าวันที่ 3 เตรียมตัวเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมภูสำเภา วัลเลย์ตอนเช้าเลยค่ะ เพราะวันนี้ต้องเดินทางไปเที่ยวที่อำเภอเชียงคาน
ก่อนจะเดินทางไปเที่ยว ก็แวะไปทานอาหารที่ตลาดเทศบาลภูเรือก่อนค่ะ แวะไปร้านเดิม เพราะหาอะไรทานง่ายดี คิดอะไรไม่ออก ก็ข้าวผัดกะเพรานี้แหละค่ะ
ผัดกะเพราะทานกับคู่ข้าวหลามก็อร่อยๆแปลกๆดีค่ะ ได้คาร์ไบไฮเดรตเยอะเชียวล่ะค่ะ ค่าเสียหายมื้อนี้ จำไม่ได้แล้วค่ะ แต่รู้ว่าไม่เกิน 100 แน่ๆ
 |
| ขับรถมอเตอร์ไซต์จากอำเภอภูเรือ เอารถมอเตอร์ไซต์มาคืนที่สนามบิน และรอเพื่อนสาวที่นั่งเครื่องบินมาจากกรุงเทพ เพื่อเช่ารถยนต์ขับไปเที่ยวเชียงคานด้วยกันต่อค่ะ |
จากนั้นก็เดินทางขับรถมอเตอร์ไซต์จากอำเภอภูเรือ เอารถมอเตอร์ไซต์มาคืนที่สนามบิน และรอเพื่อนสาวที่นั่งเครื่องมาจากกรุงเทพ เช่ารถยนต์ขับไปเที่ยวเชียงคานด้วยกันต่อค่ะ เป็นทริปที่ไม่เหงา เพราะเมามอยกันตลอด 2 วัน
โดยค่าเช่ารถยนต์ตกวันละ 1000 บาท
เราก็เลยแชร์หารกัน 2 คนจ้า
มุ่งหน้าเดินทางมาที่อำเภอเชียงคาน เพื่อแวะไปหาอะไรทานก่อน เพราะเพื่อนสาวนั่งเครื่องมาจากสนามบินยังไม่ทานอะไรแต่เช้า ขอแวะไปเติมพลังงานก่อน
แวะไปทานอาหารที่ร้่านครัวอร่อยจัง ร้านดังที่อำเภอเชียงคาน ใกล้ถนนคนเดิน ขับรถเข้ามา ลำบากที่จอดรถ แนะนำจอดหน้าถนนใหญ่แล้วเดินมาในซอยดีกว่าค่ะ
 |
| ราคาอาหารไม่ได้แพงจนเกินไป อาหารจานเดียวเริ่ม 50 บาท น้ำดื่ม น้ำแข็งฟรี |
เมนูอาหาร ราคาตามภาพเลยจ้า ราคาอาหารไม่ได้แพงจนเกินไป อาหารจานเดียวเริ่ม 50 บาท น้ำดื่ม น้ำแข็งฟรี
 |
| เน้นแต่อาหารผัดๆค่ะ จำพวก ผัดฉ่าปลาแม่น้ำโขง ผัดคะน้าหมูกรอบ และไข่เจียวหมูสับ แค่นี้ก็อิ่มมากๆแล้วค่ะ |
ส่วนอาหารกลางวันมื้อนี้ ทานกัน 2 คน ก็เน้นแต่อาหารผัดๆค่ะ จำพวก ผัดฉ่าปลาแม่น้ำโขง ผัดคะน้าหมูกรอบ และไข่เจียวหมูสับ แค่นี้ก็อิ่มมากๆแล้วค่ะ
ทานข้าวเที่ยงอิ่มก็ไปเที่ยวกันต่อค่ะ ....เชียงคานในยามกลางวัน เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนไม้เรียงรายเป็นแถวตลอดแนวเป็นกิโลเมตร ถือว่าเป็นเสน่ห์ของเมืองนี้เลยก็ว่าได้ ใครที่มาเชียงคานก็ไม่พลาด มานอนพักชมวิวแม่น้ำโขงกันสักครั้ง
 |
| 8.แก่งคุดคู้ (kaeng khut khu, Chaiang Khan) |
 |
| 8.แก่งคุดคู้ (kaeng khut khu, Chaiang Khan) |
 |
| 8.แก่งคุดคู้ (kaeng khut khu, Chaiang Khan) |
 |
| 8.แก่งคุดคู้ (kaeng khut khu, Chaiang Khan) |
 |
| 8.แก่งคุดคู้ (kaeng khut khu, Chaiang Khan) |
8.แก่งคุดคู้ (kaeng khut khu, Chaiang Khan)
นอกจากมนต์เสน่ห์บ้านไม้ริมฝั่งแม่น้ำโขงแล้ว แก่งคุดคู้ ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยนและเป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอีกแห่งของอำเภอเชียงคานอีกด้วย โดยแก่งคุดคู้ เป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง ในช่วงโค้งของลำน้ำโขงพอดี ทำให้เกิดกระแสน้ำเชี่ยวไหลผ่านแก่ง ในหน้าน้ำ น้ำจะท่วมจนมองไม่เห็นแก่ง เวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้คือเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะเป็นหาดทรายกว้างและหิน ก้อนกลมเงาเรียงรายกันนับร้อยนับพันก้อน มีศาลาชมวิว บรรยากาศดี ลมเย็นสบาย มองออกมาจากศาลาไปทางลำน้ำ จะเห็นโขดหินคล้าย ๆ กับสันเขื่อน ที่วางขวางลำน้ำ ซึ่งหินดังกล่าวเป็นที่มาเรียกว่า แก่งคุดคู้ และบริเวณแก่งก็มีทางเดินชมวิว และมีร้านอาหาร ร้านขายของฝากให้เลือกซื้อเลือกหากันอย่างเพลิดเพลินใจ (เครดิต : https://thai.tourismthailand.org/Attraction/แก่งคุดคู้ )
 |
| 9.วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน (wat phra phutthabat phu kwai ngoen) |
 |
| 9.วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน (wat phra phutthabat phu kwai ngoen) |
 |
| กระต่ายที่วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน |
 |
| 9.วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน (wat phra phutthabat phu kwai ngoen) |
 |
| 9.วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน (wat phra phutthabat phu kwai ngoen) |
9.วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน (wat phra phutthabat phu kwai ngoen)
จัดเป็นหนึ่งโบราณสถานเก่าแก่อีกแห่งในอำเภอเชียงคาน มีประวัติความเป็นมายาวนาน จากหลักฐานที่บันทึกประวัติความเป็นมาของวัด ได้ระบุไว้ว่าวัดพระพุทธบาทภูควายเงินสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2300 เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขาสูงจากระดับทะเลปานกลาง 400 เมตรนอกจากนี้แล้วยังมีเรื่องเล่าต่อกันมาด้วยว่า ในอดีตวัดแห่งนี้เป็นวัดร้าง แต่มักจะมีพระธุดงค์เดินทางมาปักกลดบำเพ็ญเพียรอยู่เสมอ และในบริเวณวัดยังมีรอยพระพุทธบาทปรากฏอยู่ภายใต้ซุ้มอิฐใหญ่ ขนาดพอที่คนจะเข้าไปนั่งได้ 2 คนซึ่งในภาษาถิ่นจะเรียกสิ่งปลูกสร้างในลักษณะนี้ว่า"อุบมุง" ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นชื่อหมู่บ้านทางทิศตะวันออกของวัดคือบ้านอุมุง ที่หมู่บ้านอุมุงแห่งนี้ มีชาวนาผู้หนึ่งที่มักพาควายขึ้นมาหาหญ้ากินบนภูเขาบริเวณวัด และเมื่อมีพระธุดงค์ผ่านมาชาวนาผู้นี้ก็จะนำเอาอาหารมาถวายแก่พระธุดงค์เป็น ประจำ ซึ่งอานิสงส์แห่งการถวายทานนี้เอง ทำให้ชาวนาทำนาขายข้าวได้เงินมากทุกปี จนร่ำรวยถึงขั้นเศรษฐีและด้วยสำนึกในบุญคุณของควาย ที่ช่วยไถนาปลูกข้าวอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ชาวนาจึงเรียกควายตัวนี้ว่า"ควายเงิน" วัดแห่งนี้จึงตั้งชื่อว่า"วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน"
ในปัจจุบันการเดินทางมาวัดแห่งนี้ สามารถทำได้อย่างสะดวกโดยใช้เส้นทางสายเชียงคาน-ปากชมที่มีระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตรเมื่อถึงหมู่บ้านผาแบ่นแล้วให้ไปตามทางแยกเข้าบ้านอุมุงอีกประมาณ 3 กิโลเมตรจะถึงทางขึ้นเขาซึ่งเป็นทางลูกรังประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดพระพุทธบาทภูควายเงินแห่งนี้ โดยนักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้ขอพร และอีกหนึ่งไฮไลท์คือ ภายในวัดมีการเลี้ยงกระต่ายแบบปล่อยอิสระอยู่มากมาย กลายเป็นหนึ่งจุดเช็คอินของอำเภอเชียงคาน
ไหว้พระเสร็จก็มาแวะชิลๆ หาอะไรดื่มกันต่อค่ะ เลยปักหมุดหาร้านคาเฟ่ติดริมแม่น้ำโขง เลือกไปที่ร้าน Cafe De Revier
 |
| แวะเช็คอินร้านคาเฟ่ริมแม่น้ำโขงในอำเภอเชียงคานที่ cafe de river |
ซึ่งเป็นร้านอาหารติดริมแม่น้ำโขง มีเครื่องดื่มให้บริการด้วย โดยร้านคาเฟ่ เดอร์ ริเว่อร์ ก็ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงคานด้วยค่ะ
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารบรรยากาศดี มีเครื่องดื่มขายในราคาไม่แพงเกินไป และมีมุมเช็คอินถ่ายรูปสวยๆให้อีกด้วย
บ่ายๆแก่ ใกล้จะถึงเวลาเย็นแล้ว ก็เดินทางไปเที่ยวชม สกายวอล์คเชียงคาน จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่ มาแรงอีกแห่งสำหรับใครที่มาเชียงคาน ก็ไม่พลาดไปเช็คอินกันค่ะ
 |
| 10. แลนด์มาร์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว (สกายวอล์คเชียงคาน) |
 |
| 10. แลนด์มาร์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว (สกายวอล์คเชียงคาน) |
 |
| 10. แลนด์มาร์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว (สกายวอล์คเชียงคาน) |
 |
| 10. แลนด์มาร์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว (สกายวอล์คเชียงคาน) |
 |
| 10. แลนด์มาร์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว (สกายวอล์คเชียงคาน) |
 |
| 10. แลนด์มาร์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว (สกายวอล์คเชียงคาน) |
 |
| 10. แลนด์มาร์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว (สกายวอล์คเชียงคาน) |
10. แลนด์มาร์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว (สกายวอล์คเชียงคาน)
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ในอำเภอเชียงคาน ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านท่าดีหมี ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย บริเวณดังกล่าวประดิษฐานพระใหญ่คกงิ้ว เป็นพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร หล่อด้วยไฟเบอร์ผสมเรซิ่นทอง สูงกว่า 19 เมตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของแลนด์มาร์คนี้ และที่ขาดไม่ได้คือ ทางเดินกระจก หรือสกายวอล์ค ทางเดินที่ทำด้วยกระจกใสชนิดพิเศษ พื้นกว้าง 2 เมตร ยาวกว่า 100 เมตร มีตะแกรงเหล็กรองรับ ซึ่งจากทางเดินสกายวอล์ค นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงและภูเขาจากฝั่งไทยและฝั่งประเทศลาวได้อย่างสวยงาม บรรยากาศดี ช่วงยามเย็น ลมพัดเย็นสบาย จึงจัดได้ว่าเป็น ที่เที่ยวต้องห้ามพลาดสำหรับทริปมาเที่ยวจังหวัดเลย
 |
| เดินเที่ยวตลาดถนนคนเดินเชียงคานต่อค่ะ ซึ่งถือเป็นไฮไลท์เด็ดของเมืองนี้เลย |
เที่ยวเสร็จค่ำพอดี ไปเดินเที่ยวตลาดถนนคนเดินเชียงคานต่อค่ะ ซึ่งถือเป็นไฮไลท์เด็ดของเมืองท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขงแห่งนี้เลยว่าได้ มีร้านค้าขายของกิน และของฝากให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือหลายนอย่างค่ะ
 |
| กุ้งเสียบ หอยเสียบ ปูเสียบ ไม้ละ 20 บาท |
มีอาหารแปลกถิ่นให้ลิ้มลองทานหลายอย่าง ราคาไม่แพงมาก ไม้ละ 20 บาทเท่านั้น
ส่วนมื้อนี้เรามากินมื้อเบาๆ ข้าวต้มปลาทานกับปาท่องโก๋ยัดใส้ อร่อยมากๆ พึ่งทานครั้งแรกก็ติดใจอยากทานอีก
 |
| เรามานอนพักกันที่เมืองเลย โดยมาใช้บริการพักที่โรงแรม อินดิโก้ สเปซ เลย (Indiego Space) |
ส่วนที่พักคืนนี้ เดี๊ยนกับเพื่อนสาว ไม่ได้นอนที่เชียงคานนะคะ แต่เรามานอนพักกันที่เมืองเลย โดยมาใช้บริการพักที่โรงแรม อินดิโก้ สเปซ เลย (Indiego Space) ราคาห้องพักคืนละ 990 บาท เป็นห้องครอบครัวขนาดใหญ่ กว้างขวางมากๆ มี 3 เตียง
 |
| ห้องพักสำหรับครอบครัวที่โรงแรม อินดิโก้ สเปซ เลย (Indiego Space) ห้องมีเตียงใหญ่ 1 และเตียงแบบ 2 ชั่้นอีก 1 เตียง |
โดยเพื่อนนอนเตียงใหญ่ ส่วนเดี๊ยนนอนเตียงเล็กๆ ในห้องมีเตียงใหญ่ 1 และเตียงแบบ 2 ชั่้นอีก 1 เตียง มีแอร์ให้ถึง 2 ตัว ภายในมีตู้เย็น ทีวี ชา กาแฟ กาต้มน้ำร้อนให้ครบ ห้องสะอาดสะอ้านด้วย
 |
| ห้องพักแบบครอบครัวขนาดกว้างขวางที่โรงแรม อินดิโก้ สเปซ เลย (Indiego Space) |
ห้องพักมีขนาดกว้างขวางมากๆ ด้านหลังเป็นห้องน้ำ และโซนห้องครัวเล็กๆ มีซิงล้างจานให้ด้วย น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคู่รักและครอบครัวที่มองหาที่พักในเมืองเลยราคาไม่แพงค่ะ
--วันที่ 4 (Day 4)--
 |
| ทริปเที่ยวจังหวัดเลยวันสุดท้าย ตื่นแต่สายๆ ไม่ได้ตื่นเช้าเลยค่ะ ทริปวันสุดท้ายนี้ เที่ยวแบบชิลๆ |
เช้าวันใหม่กับทริปเที่ยวจังหวัดเลยวันสุดท้าย ตื่นแต่สายๆ ไม่ได้ตื่นเช้าเลยค่ะ ทริปวันสุดท้ายนี้ เที่ยวแบบชิลๆ ออกไปหาอาหารมื้อเช้าทานแบบง่ายๆ เป็นโจ๊กและไข่กระทะ
 |
| ขับรถเดินทางไปที่อำเภอหนองหิน เพื่อไปเที่ยวชมภูป่าเปาะ หรือว่าฟูจิเมืองเลย |
ทานอาหารเช้าอิ่มแล้ว ก็ขับรถเดินทางไปที่อำเภอหนองหิน เพื่อไปเที่ยวชมภูป่าเปาะ หรือว่าฟูจิเมืองเลย อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวถ่ายรูปมีชื่อเสียงของจังหวัดเลยค่ะ
ไฮไลท์เด็ดของที่นี้ คือการนั่งรถไถขึ้นไปชมยอดภูป่าเปาะ หรือว่าไปชมฟูจิเมืองเลย ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ของการเดินทางสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแ่หงนี้เลยทีเดียวค่ะ โดยภูป่าเปาะไม่สามารถนำรถส่วนตัวขึ้นไปได้นะคะ จะต้องใช้บริการรถไถ ซึ่งเป็นรถท้องถิ่นไว้บริการนักท่องเที่ยว
 |
| ค่ารถไถคนละ 60 บาทเท่านั้น |
ค่ารถไถคนละ 60 บาทเท่านั้น แต่คนขับก็บริการพาเราเดินทางไปถึงจุดวิวตามชั้นต่างๆได้อย่างอเมซิ่งจริงๆเชียวล่ะค่ะ
สำหรับเส้นทางขึ้นไปยังภูป่าเปาะ เพื่อชมฟูจิเมืองเลย ก็ตามภาพเลยจ้า ถนนค่อนข้างโหดมากๆ มีน้องหมามาต้อนรับด้วย ถ้ารถยนตร์ส่วนตัว ขึ้นมาไม่ได้แน่นอนค่ะ
 |
| 11.ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย (Phu Pa Po (Fuji @ Loei) |
 |
| 11.ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย (Phu Pa Po (Fuji @ Loei) |
 |
| 11.ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย (Phu Pa Po (Fuji @ Loei) |
 |
| 11.ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย (Phu Pa Po (Fuji @ Loei) |
 |
| 11.ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย (Phu Pa Po (Fuji @ Loei) |
 |
| 11.ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย (Phu Pa Po (Fuji @ Loei) |
 |
| 11.ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย (Phu Pa Po (Fuji @ Loei) |
 |
| 11.ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย (Phu Pa Po (Fuji @ Loei) |
11.ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย (Phu Pa Po (Fuji @ Loei)
โดยภูป่าเปาะ ตั้งอยู่บ้านผาหวาย ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน ยอดภูป่าเปาะมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 910 เมตร โดยเป็นป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็น ภูหอ ซึ่งมีลักษณะเหมือนภูเขาไฟฟูจิของประเทศญี่ปุ่นได้อย่างชัดเจน และเป็นทั้งจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึงของเมืองไทยก็ว่าได้ และได้กลายเป็นจุดหมายปักหมุดของนักท่องเที่ยว ต้องมาถ่ายรูปกัน
การขึ้นไปยังจุดชมทิวทัศน์ภูป่าเปาะ ต้องจอดรถส่วนตัวไว้ ณ ลานจอดรถที่ทางหน่วยงานในพื้นที่จัดไว้ให้ จากนั้นใช้บริการรถอีแต๊กรับส่งของชุมชนท่องเที่ยวในพื้นที่ขึ้นไปยังภูป่าเปาะ รถอีแต๊กให้บริการทุกวัน 05.00-18.00 น. นั่งได้คันละ 6-9 คน ค่าบริการไปกลับคนละ 60 บาท ใช้เวลานั่งรถอีแต๊กขึ้นเขาประมาณ 20 นาที ถึงจุดชมทิวทัศน์จุดแรกบนภูป่าเปาะ
บนภูป่าเปาะมีจุดชมทิวทัศน์ 3 จุดด้วยกัน จุดที่ 1 และ 2 จะอยู่ระดับความสูงใกล้เคียงกันและรถอีแต๊กบริการส่งถึงจุดชมทิวทัศน์ไม่ต้องเดินต่อ ส่วนจุดที่ 3 เป็นจุดที่อยู่สูงสุดบนยอดภูป่าเปาะ เมื่อลงรถอีแต๊กจะต้องเดินเท้าขึ้นภูเขาตามเส้นทางเดินที่กำหนดไว้ ระยะทางเดินประมาณ 600 เมตร ถึงยอดภูป่าเปาะ เป็นจุดที่สามารถชมทัศนียภาพได้รอบทิศ 360 องศา สามารถมองเห็นภูกระดึง ภูหลวง ภูยอง ภูผาขวาง ภูค้อ-ภูกระแต สวนหินผางาม ภูผาม่าน และอ่างเก็บน้ำได้อย่างงดงาม (เครดิต: https://thai.tourismthailand.org/Attraction/ภูป่าเปาะ-ฟูจิเมืองไทย)
 |
| 12.สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองไทย) Suan Hin Pha Ngam (Kunming of Thailand) |
 |
12.สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองไทย) Suan Hin Pha Ngam (Kunming of Thailand)
|
 |
12.สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองไทย) Suan Hin Pha Ngam (Kunming of Thailand)
|
 |
12.สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองไทย) Suan Hin Pha Ngam (Kunming of Thailand)
|
 |
12.สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองไทย) Suan Hin Pha Ngam (Kunming of Thailand)
|
 |
12.สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองไทย) Suan Hin Pha Ngam (Kunming of Thailand)
|
 |
12.สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองไทย) Suan Hin Pha Ngam (Kunming of Thailand)
|
12.สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองไทย) Suan Hin Pha Ngam (Kunming of Thailand)
ไม่ไกลจากภูป่าเปาะ ก็เป็นที่ตั้งของสวนหินผางาม อยู่ที่บ้านผางาม หมู่ 10 ตำบลปวนพุ จากกิ่งอำเภอหนองหินเข้าไปประมาณ 18 กิโลเมตร แนวผาหินปูนสูงใหญ่แลดูเป็นสง่า ทอดตัวเป็นแนวยาว โดดเด่นท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวขจี พื้นที่บริเวณนี้คือที่ตั้งของ สวนหินผางาม เมืองเลย ภายในมีเส้นทางเดินสลับซับซ้อน บางช่วงดูลึกลับตื่นเต้นคล้ายกับผจญภัยอยู่ในเขาวงกต บางช่วงต้องปีนป่ายเพิงหิน หรืออาจต้องมุดลอดโพรงถ้ำ นอกจากนี้ตลอดเส้นทางยังมีโอกาสพบเห็นต้นไม้หายาก และต้นไม้ยักษ์ อย่างปรงเขาที่มีอายุหลายร้อยปี สวนหินแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า "คุนหมิงเมืองเลย"
สันนิษฐานกันว่าในอดีตเคยเป็นพื้นของท้องทะเลมาก่อน และมีอายุมากว่า 225 ล้านปี ภายในมีทางเดินสลับซับซ้อน บางช่วงดูลึกลับน่าตื่นเต้นคล้ายกับผจญภัยอยู่ในเขาวงกต บางช่วงต้องปีนป่ายเพิงหิน หรืออาจต้องมุดลอดโพรงถ้ำ สวนหินผางาม ในบริเวณ มีสถานีบริการนักท่องเที่ยว ที่จอดรถ ห้องน้ำ ร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหารให้บริการแก่นักท่องเที่ยว
 |
| เดี๊ยนกับเพื่อนสาว ก็ขับรถเดินทางไปยังสนามบิน ทำการคืนรถเช่า และเดินทางนั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ |
หลังจากเที่ยวภูป่าเปาะ ชมฟูจิเมืองเลย และสวนหินผางามแล้ว เดี๊ยนกับเพื่อนสาว ก็ขับรถเดินทางไปยังสนามบิน เพื่อเดินทางนั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ เป็นอันจบทริปเที่ยวภูเรือ ด่านซ้าย เชียงคาน เมืองเลย ภูป่าเปาะค่ะ....
ขอบพระคุณเพื่อนๆผู้อ่านทุกๆคนที่เข้ามาคลิ๊กดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในบทความถัดๆไปนะคะ....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
----------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้จ้า
อรุณเบิกฟ้าเช้าวันใหม่ที่ภูเรือ อากาศหนาวเย็นทีเดียวค่ะ 
0 ความคิดเห็น