Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

แบ่งปัน..รีวิวเที่ยวลำพูน 2 วัน เริงสุขสันต์ชมเมืองเล็กๆเก่าแก่โบราณ มีสถานที่ให้แวะไปยลตระการอย่างชื่นบานอุรา ช่ะช่ะช่าหัวใจ

เก็บตกทริปรีวิวเที่ยวประจำเดือนนี้ เพื่อไม่ให้เว็ปไซต์ร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอพาไปเที่ยวเมืองลำพูน เมืองเล็กๆเก่าแก่โบราณ มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ไปยลตระการแห่ง ต้องปักลายแทงไปเช็กอินกันสักครั้ง



กลับมาทักทาย ซำบายดี สวีดัด สวัสดีเพื่อนๆคุณผู้อ่าน รวมทั้งเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจทุกคนค่ะ กลับมาพบปะกันอีกเช่นเดินนะคะ กับบทความบล็อกรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือน ที่จะมาจัดสรร แบ่งปันรีวิวภาพแหล่งท่องเที่ยวให้ได้ชมกัน หลังจากที่บทความรีวิวก่อนหน้าได้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ได้พาไปรีวิวเที่ยวเมืองรถม้าลำปางกันไปแล้ว เพื่อนๆคุณผู้อ่าน สามารถเข้าไปรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2022/01/rent-motorbike-travel-Lampang-review.html



และหลังจากที่เดินทางไปเที่ยวจังหวัดลำปางแล้ว เดี๊ยนก็ตีตั๋วนั่งรถจากลำปางไปเที่ยวต่ออีกหนึ่งจังหวัดในภาคเหนือ นั้นก็คือ จังหวัดลำพูน เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในมณฑลพายัพ หรือในภาคเหนือ แต่ด้วยความเล็กของลำพูน กลับเป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ น่าค้นหา ที่ใครต้องไปชื่นอุราเที่ยวชมกันสักครั้ง เพราะในอดีตเคยเป็นเมืองโบราณที่เก่าแก่ มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานที่สุดอีกแห่ง ยกให้เป็นต้นเนิดของอาณาจักรหริภูญชัย อีกทั้งยังเป็นแหล่งปลูกลำไย รสชาติหอมหวานอร่อย เป็นที่ของฝากขึ้นชื่อประจำจังหวัดนี้อีกด้วย อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ให้แวะไปยลตระการถ่ายรูปเช็กอินอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจอีกด้วย เรียกว่าใครขับรถจะมาเชียงใหม่ ก็อย่าได้ขับเลยผ่านไป แวะมาเที่ยวลำพูนก่อนสักครั้ง มีมุมถ่ายรูปสวยปังแน่นอนค่ะ 



แต่ก่อนที่เราจะไปรีวิวเที่ยวชมภาพแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจในจังหวัดลำพูน เราก็มาทำความรู้จักประวัติความเป็นมาของเมืองลำพูนกันสักเล็กน้อย พอสังเขปนะคะว่า เมืองเก่าแก่แห่งนี้ มีที่มาอย่างไร นำมาให้ได้อ่านเป็นความรู้กันจ้า



สาระน่ารู้พอสังเขปเกี่ยวกับ จังหวัดลำพูน (About Lamphun city) ภาพเก่าบอกเล่าเรื่องราวจากพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน


สาระน่ารู้พอสังเขปเกี่ยวกับ จังหวัดลำพูน (About Lamphun city)


ตั้งอยู่ทางภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ระยะทาง 689 กิโลเมตร เป็นจังหวัดที่มีขนาดเล็กที่สุดในภาคเหนือ นับเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ เคยเป็นที่ตั้งของนครหริภุญชัย ในสมัยพระนางจามเทวี เดิมชื่อเมืองหริภุญไชย เป็นเมืองโบราณมีอายุประมาณ 1,343 ปี ตามพงศาวดารโยนกเล่าสืบต่อกันถึงการสร้างเมืองหริภุญไชย โดยฤๅษีวาสุเทพเป็นผู้เกณฑ์พวกเม็งคบุตรหรือชนเชื้อชาติมอญมาสร้างเมืองนี้ขึ้นในพื้นที่ระหว่างแม่น้ำสองสาย คือ แม่น้ำกวงและแม่น้ำปิง 


สร้างเสร็จได้ส่งทูตไปเชิญราชธิดากษัตริย์เมืองละโว้พระนาม "จามเทวี" มาเป็นปฐมกษัตริย์ (ภาพเก่าจากพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน)

เมื่อมาสร้างเสร็จได้ส่งทูตไปเชิญราชธิดากษัตริย์เมืองละโว้พระนาม "จามเทวี" มาเป็นปฐมกษัตริย์ปกครองเมืองหริภุญไชยสืบราชวงศ์กษัตริย์ต่อมาหลายพระองค์ จนกระทั่งถึงสมัยพญายีบาจึงได้เสียการปกครองให้แก่พญามังราย ผู้รวบรวมแว่นแคว้นทางเหนือเข้าเป็นอาณาจักรล้านนา



แม้ว่าเมืองลำพูนจะตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรล้านนา แต่ก็ได้เป็นผู้ถ่ายทอดมรดกทางศิลปะและวัฒนธรรมให้แก่ผู้ที่เข้ามาปกครอง (ภาพไม่เกี่ยวกับเนื้อหา ภาพเก่าจากพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน)


ถึงแม้ว่าเมืองลำพูนจะตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรล้านนา แต่ก็ได้เป็นผู้ถ่ายทอดมรดกทางศิลปะและวัฒนธรรมให้แก่ผู้ที่เข้ามาปกครอง ดังปรากฏหลักฐานทั่วไปในเวียงกุมกาม เชียงใหม่ และเชียงราย เมืองลำพูนจึงยังคงความสำคัญในทางศิลปะและวัฒนธรรมของอาณาจักรล้านนา


ภาพเก่าจากพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน


จนกระทั่งสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมืองลำพูนจึงได้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทย มีผู้ครองนครสืบต่อกันมาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ต่อมาภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เมื่อเจ้าผู้ครองนครองค์สุดท้าย คือ พลตรี เจ้าจักรคำขจรศักดิ์ ถึงแก่พิราลัย เมืองลำพูนจึงเปลี่ยนเป็นจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ปกครองสืบมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน


อกจากจังหวัดลำพูนจะมีชื่อเสียงในฐานะเป็นเมืองประวัติศาสตร์แล้ว ยังเป็นแหล่งเพาะปลูกลำไย (ภาพขบวนแห่ครัวทานปอยหลวง ไปยังวัดพระธาตุหริภุญชัย)


และนอกจากจังหวัดลำพูนจะมีชื่อเสียงในฐานะเป็นเมืองประวัติศาสตร์แล้ว ยังเป็นแหล่งเพาะปลูกลำไย พระเครื่อง โบราณสถานที่สำคัญ และผ้าทอฝีมือดี จนมีถูกตั้งมาเป็นคำขวัญประจำจังหวัด คือ พระธาตุเด่น พระรอดขลัง ลำไยดัง กระเทียมดี ประเพณีงาม จามเทวีศรีหริภุญไชย

ภาพเก่าประตูเมืองลำพูนในอดีต (เครดิตภาพเก่าจากพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน)

ปัจจุบันมีประตูเมืองหลักทั้งสี่ทิศคือ ทิศเหนือประตูช้างสี ทิศตะวันออกประตูท่าขาม ทิศใต้ประตูลี้ ทิศตะวันตกประตูมหาวัน มีกำแพงเมืองเก่าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือคือ ประตูท่านาง

ภาพเก่ามืองลำพูน - จากตำนานในอดีตกล่าวว่าเป็นเมืองที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในแผ่นดินล้านนา มีวัดวาอารามและโบราณสถานมากมาย


จังหวัดลำพูนได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมและพุทธศาสนา ซึ่งจากตำนานในอดีตกล่าวว่าเป็นเมืองที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในแผ่นดินล้านนา มีวัดวาอารามและโบราณสถานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัดพระธาตุหริภุญไชย วัดจามเทวี วัดมหาวัน วัดกู่ละมัก และวัดพระยืน ซึ่งแต่ละวัดมีประวัติความเป็นมายาวนาน 

สาวงามคนแรกของเมืองลำพูนที่ขึ้นเวทีประกวดระดับประเทศและได้รับตำแหน่งรองนางสาวไทยเมื่อปี พ.ศ.2496 - นางสาวนวลสวาท ลังการ์พินธุ์ -  ช่างสวยงามสดใส ละมัยอำพันยิ่งนัก- ภาพเก่าย้อนวันวานจากพิพิธภัณฑ์ชุมชมเมืองลำพูน

ทำเนียบสาวงามลำพูนที่ได้รับตำแหน่ง ช่างสวยงามสดใส ละมัยอำพันยิ่งนัก  ภาพเก่าย้อนวันวานจากพิพิธภัณฑ์ชุมชนบ้านชาวยอง

ทำเนียบสาวงามลำพูนที่ได้รับตำแหน่ง ช่างสวยงามสดใส ละมัยอำพันยิ่งนัก  ภาพเก่าย้อนวันวานจากพิพิธภัณฑ์ชุมชนบ้านชาวยอง

ทำเนียบสาวงามลำพูนที่ได้รับตำแหน่ง ช่างสวยงามสดใส ละมัยอำพันยิ่งนัก  ภาพเก่าย้อนวันวานจากพิพิธภัณฑ์ชุมชนบ้านชาวยอง


ส่วนของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดลำพูนนั้นมีทั้งงานหัตถกรรม และของรับประทานยามว่าง อีกทั้งยังมี งานหัตถกรรมที่มีชื่อได้แก่ ผ้าฝ้ายทอยกดอกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะและสวยงามยิ่ง มีผลิตภัณฑ์จากผ้าฝ้าย ผ้าบาติก ไม้แกะสลัก เป็นต้น ส่วนของกินขึ้นชื่อประจำเมืองลำพูนที่ใครแวะมาก็ต้องซื้อกันก็ ได้แก่ ลำไยสด ลำไยอบแห้ง ไส้อั่ว และกระเทียม ที่ต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับไปทุกราย 


เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/จังหวัดลำพูน


หลังจากที่ได้อ่านเรื่องน่ารู้เกี่ยวประวัติความเป็นมาของเมืองลำพูนกันไปแล้วนะคะ ต่อไปก็ตามมาดูรีวิวเที่ยวเมืองลำพูนกันต่อเลยค่ะ 


เริ่มต้นการเดินทางทริปนี้  ขับรถมอเตอร์ไซต์มาคืนที่ร้านเช่ารถใกล้ๆกับสถานีขนส่งเมืองลำปาง จากนั้นก็เดินมาซื้อตั๋วรถเพื่อที่จะเดินทางไปจังหวัดลำพูน

เริ่มต้นการเดินทางทริปนี้ เขียนต่อจากรีวิวก่อนหน้านี้ที่เว็ปไซต์ :  https://khunnaiver.blogspot.com/2022/01/rent-motorbike-travel-Lampang-review.html

หลังจากเช็กเอาท์ออกจากโรงแรมในเมืองลำปาง เดี๊ยนก็ขับรถมอเตอร์ไซต์มาคืนที่ร้านเช่ารถใกล้ๆกับสถานีขนส่งเมืองลำปาง จากนั้นก็เดินมาซื้อตั๋วรถเพื่อที่จะเดินทางไปจังหวัดลำพูน


 เดี๊ยนเลยต้องซื้อตั๋วรถโดยสารของ Green Bus ไปลงที่สถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่แทนค่ะ

แต่เนื่องจากในเมืองลำพูนไม่มีร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ เดี๊ยนเลยต้องซื้อตั๋วรถโดยสารของ Green Bus ไปลงที่สถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่แทนค่ะ เพราะว่าแถวสถานีขนส่งเชียงใหม่ มีร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ให้เลือกเช่าอยู่หลายร้านเหมือนกัน อีกทั้งจากเมืองเชียงใหม่ไปลำพูน ระยะทางก็ไม่ไกลอีกด้วย 



ราคาตั๋วโดยสารจากลำปางไปเชียงใหม่ ราคาอยู่ที่ 83 บาทค่ะ 

ส่วนราคาตั๋วโดยสารรถตู้จากลำปางไปเชียงใหม่ ราคาอยู่ที่ 83 บาทค่ะ  ส่วนรถโดยสารก็เป็น รถมินิบัสเล็กๆคันตามรูปภาพเลยค่ะ แต่บางครั้งก็ไม่ได้เป็นมินิบัสเสมอไปนะคะ อาจจะเป็นรถตู้ก็ได้  


ด้านในรถมินิบัสผู้โดยสารที่จะออกเดินทางจากลำปางไปเชียงใหม่ ก็มาใช้บริการรถ Green Bus นั่งกันจนเต็มคันรถเลยคัน แม้ว่าจะเป็นวันธรรมดาก็ตาม 


นั่งรถมินิบัสโดยสารออกจากสถานีขนส่งลำปาง มาถึงจังหวัดเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 96 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆก็ถึงค่ะ 


จากนั้นก็เปิด GPS เดินเท้าออกจากสถานีขนส่งอาเขตหลังเก่ามาที่ร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ SK service motorcycle for rent ซึ่งเป็นร้านมอเตอร์ไซต์อยู่ใกล้กับ บขส.เชียงใหม่ 


ทำการเช่ารถมอเตอร์ไซต์ในร้าน SK service  เลือกรถดีๆหน่อย ราคาไม่แพงมากนัก
ค่าเช่าวันละ 300 บาท เลือกเช่า Honda Click 
ใช้บัตรประจำตัวประชาชนในการจอง
ลงทะเบียนผ่านทางระบบของร้านชำระเงิน เรียบร้อย ก็ออกสต๊าทรถเดินทางไปเที่ยวต่อได้เลย 


ขับรถออกจาก บขส.เชียงใหม่ เดินทางไปยังเมืองลำพูน ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร 



ขับรถมาไม่นาน ก็มาถึงเมืองลำพูนแล้วค่ะ 

เมื่อได้รถมอเตอร์ไซต์แล้ว จากนั้นก็ขับรถออกจาก บขส.เชียงใหม่ เดินทางไปยังเมืองลำพูน ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ก็ถึงเมืองลำพูนแล้วค่ะ 


ในย่านตัวเมืองลำพูน จุดโดดเด่นเลยก็คือ กำแพงเมืองเก่าแก่ ที่สวยไม่แพ้เมืองเชียงใหม่เลยล่ะ

ถ้ามาถึงในย่านตัวเมืองลำพูน จุดโดดเด่นเลยก็คือ กำแพงเมืองเก่าแก่ ที่สวยไม่แพ้เมืองเชียงใหม่เลยล่ะค่ะ เนื่องจากมีคูน้ำล้อมรอบเมือง อีกทั้งบรรยากาศการจราจร ก็ไม่ได้ติดขัดอีกด้วย ด้านในก็เต็มไปด้วยวัดวาอารามและสถานที่สำคัญหลายแห่ง 


มนต์เสน่ห์เย้ายวนใจของเมืองลำไย หรือว่าเมืองลำพูน คือเป็นเมืองเล็กๆ ที่ไม่วุ่นวาย ยังมีรถสามล้อถีบให้บริการอยู่ เป็นเมืองที่ใช้ชีวิตแบบช้าสโลว์ไลฟ์จริงๆ จะเห็นว่าในรูป สโลว์ไลฟ์จนคนปั่นสามล้อถีบหลับไปเลย 


และมนต์เสน่ห์เย้ายวนใจของเมืองลำไย หรือว่าเมืองลำพูน คือเป็นเมืองเล็กๆ ที่ไม่วุ่นวาย ยังมีรถสามล้อถีบให้บริการอยู่ บ่งบอกถึงความเป็นเมืองสโลว์ไลฟ์ ไปแบบช้าๆอย่างแท้จริงค่ะ จะเห็นว่าในรูป สโลว์ไลฟ์จนคนปั่นสามล้อถีบหลับไปเลย 


ใครที่มาเที่ยวลำพูน อยากชมบรรยากาศรอบเมือง ชำเลืองมองบ้านม่านชานเรือนเก่าแก่ ก็สามารถมานั่งรถจักรยานสามล้อถีบชมเมืองลำพูนได้นะคะ 

หากใครที่มาเที่ยวลำพูน อยากชมบรรยากาศรอบเมือง ชำเลืองมองบ้านม่านชานเรือนเก่าแก่ ก็สามารถมานั่งรถจักรยานสามล้อถีบชมเมืองลำพูนได้นะคะ 

ทริปนี้เลือกนอนพักที่โรงแรม สุขสถาน ณ ลำพูน ที่พักราคาถูกอยู่ห่างจากตัวเมืองลำพูนประมาณ 6 กิโลเมตร 


และก่อนจะไปขับรถไปไหว้พระแวะเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจต่างๆในเมืองลำพูน เดี๊ยนก็ขอไปเช็กอิน นำกระเป๋าไปไว้ที่ห้องพักก่อนค่ะ โดยทริปนี้เลือกนอนพักที่โรงแรม สุขสถาน ณ ลำพูน ที่พักราคาถูกอยู่ห่างจากตัวเมืองลำพูนประมาณ 6 กิโลเมตร 

รอเช็กอินที่โรงแรมก่อนเข้าห้องพักค่ะ มีมุมให้นั่งพักถ่ายรูปสวยๆอยู่หลายมุม 

มาถึงก็นั่งรอเช็กอินที่โรงแรมก่อนเข้าห้องพักค่ะ มีมุมให้นั่งพักถ่ายรูปสวยๆอยู่หลายมุม 

ในโรงแรม สุขสถาน ณ ลำพูน ก็ร่มรื่นดีมากๆค่ะ แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ประดับใหญ่น้อย เติมต้อยดูแล้วสดชื่นดีนัก

บรรยากาศภายในโรงแรม สุขสถาน ณ ลำพูน ก็ร่มรื่นดีมากๆค่ะ แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ประดับใหญ่น้อย เติมต้อยดูแล้วสดชื่นดีนัก 

นลักษณะของที่พักก็เป็นบ้านพักเป็นหลังๆ บังกะโลส่วนตัว  มีที่จอดรถสะดวกกว้างขวาง 

ส่วนลักษณะของที่พักก็เป็นบ้านพักเป็นหลังๆ บังกะโลส่วนตัว สภาพแวดล้อมของที่พักสวยงามค่ะ มีที่จอดรถสะดวกกว้างขวาง น่าจะเหมาะกับคู่รัก หรือว่าครอบครัวหมู่คณะที่ต้องการนอนพักรีสอร์ท ที่มีต้นไม้เยอะๆ 

บ้านพักที่เดี๊ยนจองไว้ ก็ได้บ้านพักบังกะโลเล็กๆ น่ารักดีค่ะ ราคาคืนละ 630 บาทค่ะ

 โดยบ้านพักที่เดี๊ยนจองไว้ ก็ได้บ้านพักบังกะโลเล็กๆ น่ารักดีค่ะ ราคาคืนละ 630 บาทค่ะ

บ้านพักเรือนไม้ ขนาดห้องพักเล็กๆ ไม่กว้างขวางมากนัก 

เป็นบ้านพักเรือนไม้ ขนาดห้องพักเล็กๆ ไม่กว้างขวางมากนัก เหมาะสมกับราคาห้องพักค่ะ  แต่ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบค่ะ ตู้เย็นเล็ก ทีวี ห้องแอร์ มีชั้นวางของ โต๊ะวางของ น้ำดื่มฟรี มีชากาแฟให้อีกด้วย

ราคาห้องพักคืนละ 630 บาท เตียงนอนภายในบ้านพักบังกะโลที่รีสอร์ทสุขสถาน ณ ลำพูน 

ส่วนสภาพเตียงก็นอนนุ่มกำลังดี ไม่แข็งหรือนิ่มเกินไป ตรงหัวเตียงมีปลั๊กให้เสียบ และมีโคมไฟให้ด้วย 

มาดูห้องน้ำกัน โดยห้องน้ำภายในบังกะโล คือกว้างขวางดีมาก เพราะแบ่งเป็น 2 โซนคือโซนเปียก และโซนแห้งแยกกันเลยค่ะ

ดูห้องนอนเสร็จ มาดูห้องน้ำกัน โดยห้องน้ำภายในบังกะโล คือกว้างขวางดีมาก เพราะแบ่งเป็น 2 โซนคือโซนเปียก และโซนแห้งแยกกันเลยค่ะ สรุปรีวิวภาพรวมของโรงแรมสุขสถาน ณ ลำพูน ห้องพักถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีค่ะ ราคาถูก ไม่แพง แต่อยู่ไกลจากตัวเมืองลำพูนไปหน่อยค่ะ หากใครที่จะมาพักที่นี่ ต้องมีรถส่วนตัว หรือเช่ารถมาค่ะ จะได้เดินทางได้สะดวก 


หลังจากทำการเช็กอินนำกระเป๋าไปไว้ที่โรงแรมแล้ว ก็ได้เวลาออกไปหาอะไรทานแล้วค่ะ 

หลังจากทำการเช็กอินนำกระเป๋าไปไว้ที่โรงแรมแล้ว ก็ได้เวลาออกไปหาอะไรทานแล้วค่ะ ขับรถมอเตอร์ไซต์จากรีสอร์ทสุขสถาน ณ ลำพูน เข้ามาหาอะไรอร่อยๆทานในตัวเมือง 

มาฝากท้องมื้อง่ายๆ ที่ร้านข้าวมันไก่ไทยแลนด์ ข้าวมันไก่อร่อยดีค่ะ ราคาไม่แพงด้วย
มื้อเที่ยงนี้ มาฝากท้องมื้อง่ายๆ ที่ร้านข้าวมันไก่ไทยแลนด์ ข้าวมันไก่อร่อยดีค่ะ ราคาไม่แพงด้วย อยู่ใกล้ๆกับวัดพระธาตุหริภูญชัยเลย

ทานข้าวมันไก่ไม่อิ่ม ไปหาของอร่อยทานต่อ ที่ร้านข้าวซอยบ้านยอง 

และเมื่อทานข้าวมันไก่ไม่อิ่ม ไปหาของอร่อยทานต่อ ที่ร้านข้าวซอยบ้านยอง 


ทานข้าวซอยไก่ กินไก่อีกแล้วจ้า ข้าวซอยไก่หอมน้ำต้ม กินแนมคู่กับหอมแดง บีบมะนาวลงไปหน่อยนึง อร่อยดีทีเดียวค่ะ

แวะทานข้าวซอยไก่ กินไก่อีกแล้วจ้า ข้าวซอยไก่หอมน้ำต้ม กินแนมคู่กับหอมแดง บีบมะนาวลงไปหน่อยนึง อร่อยดีทีเดียวค่ะ
ไม่อิ่มก็ตามต่อด้วย ขนมจีนน้ำเงี้ยวแบบคนเมืองแต้ๆเจ้า กินให้พุงกางไปเลยจ้า 

หากยังไม่อิ่มก็ตามต่อด้วย ขนมจีนน้ำเงี้ยวแบบคนเมืองแต้ๆเจ้า กินให้พุงกางไปเลยจ้า 

ทานอาหารจนอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาออกไปเช็กอินเดินย่อยอาหาร ด้วยการเดินทางไปถ่ายรูปตามสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดลำพูนต่อค่ะ


หลังจากที่ทานอาหารจนอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาออกไปเช็กอินเดินย่อยอาหาร ด้วยการเดินทางไปถ่ายรูปตามสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดลำพูนต่อค่ะ ซึ่งในเมืองลำพูน แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่เก่าแก่ สวยงามและน่าสนใจอยู่หลายเลยค่ะ 

สำหรับเพื่อนๆคนใหนที่มาเที่ยวเมืองลำพูน ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ใหนดี วันนี้เดี๊ยนเลยขอมาสรุปสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดตาและตราตรึงในจังหวัดลำพูน มาให้เพื่อนๆได้แวะไปเช็กอินเที่ยวกันดังนี้ค่ะ 


1.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชย  (Hariphunchai National​ Museum, Lamphun)

1.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชย  (Hariphunchai National​ Museum, Lamphun)

1.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชย  (Hariphunchai National​ Museum, Lamphun)

1.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชย  (Hariphunchai National​ Museum, Lamphun)

1.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชย  (Hariphunchai National​ Museum, Lamphun)




1.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชย  (Hariphunchai National​ Museum, Lamphun)

ถือเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติแห่งแรกของภาคเหนือก็ว่าได้ ตั้งอยู่เยื้องกับวัดพระธาตุหริภุญไชย เป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ต้องห้ามพลาด เป็นสถานที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุและศิลปวัตถุที่ได้มาจากวัดสำคัญและแหล่งโบราณคดีในจังหวัดลำพูน  ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นที่รวบรวมและจัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุที่มีอยู่มากมายในภาคเหนือของประเทศไทยอีกแห่งหนึ่ง 


เมื่อแรกตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งนี้มี่ชื่อเรียกพิพิธภัณฑสถานลำพูน อยู่ในความดูแลของวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร และจังหวัดลำพูน ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ก็ยังคงอยู่ในความดูแลของวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศาลากลางจังหวัดเรื่อยมา จนกระทั่งกรมศิลปากรได้ดำเนินการขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์ และประกาศเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกรมศิลปากร ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2504 เป็นต้นมา 



ในปัจจุบันมีอาคารพิพิธภัณฑสถาน 2 หลัง คือ อาคารพิพิธภัณฑสถานลำพูนหลังเดิม ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร (อาคารหลังเดิมได้ถูกรื้อลง และสร้างใหม่บนที่เดิมแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2540) อยู่ในความดูแลของวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร และอาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชย ตั้งอยู่ ณ ถนนอินทยงยศ อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกรมศิลปากร


2.วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร (Wat Phrathat Haripunchai Woramahawihan)

2.วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร (Wat Phrathat Haripunchai Woramahawihan)

2.วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร (Wat Phrathat Haripunchai Woramahawihan)

2.วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร (Wat Phrathat Haripunchai Woramahawihan)


2.วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร (Wat Phrathat Haripunchai Woramahawihan)




2.วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร (Wat Phrathat Haripunchai Woramahawihan)
จัดเป็นหนึ่งในวัดเด่น วัดดังที่สุดในจังหวัดลำพูน ว่ากันว่าหากใครที่มาเที่ยวลำพูน แล้วไม่ได้มากราบวัดพระธาตุหริภุญชัย ถือว่ามาไม่ถึงลำพูนกันเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นวัดเก่าแก่อายุนานนับพันปี เป็นปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 150 เมตร มีถนนล้อมรอบสี่ด้าน สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1651 มีสิ่งที่น่าสนใจคือ ซุ้มประตูซึ่ง ก่อนที่จะเข้าไปในบริเวณวัด ต้องผ่านซุ้มประตูก่ออิฐถือปูนประดับลวดลายวิจิตรพิสดาร เป็นฝีมือโบราณสมัยศรีวิชัย ประกอบด้วยซุ้มยอดเป็น ชั้น ๆ เบื้องหน้าซุ้มประตูมีสิงห์ใหญ่คู่หนึ่งยืนเป็นสง่าบนแท่นสูงประมาณ 1 เมตร สิงห์คู่นี้ปั้นขึ้นใน สมัยพระ เจ้าอาทิตยราชเมื่อทรงถวายวังให้เป็นสังฆารามวิหารหลวง เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้าไปแล้วจะเห็นวิหารหลังใหญ่ เรียกว่า วิหารหลวง เป็นวิหารหลัง ใหญ่มีพระระเบียงรอบด้านและมีมุขออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นวิหารที่สร้างขึ้นใหม่แทนวิหารหลังเก่า ซึ่งถูกพายุพัดพังทลายไปเมื่อ พ.ศ. 2466


3.พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน (Lamphun community museum- Khum Sampantawong)

3.พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน (Lamphun community museum- Khum Sampantawong)

3.พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน (Lamphun community museum- Khum Sampantawong)

3.พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน (Lamphun community museum- Khum Sampantawong)

3.พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน (Lamphun community museum- Khum Sampantawong)

3.พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน (Lamphun community museum- Khum Sampantawong)

3.พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน (Lamphun community museum- Khum Sampantawong)




3.พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน (Lamphun community museum- Khum Sampantawong)

สำหรับใครที่มาเที่ยวเมืองลำพูนแล้ว ต้องไม่พลาดมาเดินชมและเรียนรู้ความเป็นมาของเมืองลำพูน ที่พิพิภัณฑ์ชุมชมเมืองลำพูน ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติหริภุญไชย เปิดให้ชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น. โดยเข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ดยใช้พื้นที่ของคุ้มเจ้าราชสัมพันธ์วงษ์ ซึ่งเป็นอาคารเรือนไม้เก่าแก่อายุกว่า 100 ปี เป็นพิพิธภัณฑ์บอกเล่าประวัติความเป็นมาอันยาวนานของเมืองลำพูน เมืองที่มีความศรัทธา ทางพระพุทธศาสนาที่รุ่งเรืองจากอดีต  จนถึงปัจจุบัน ร่วมเรียนรู้เมืองลำพูนผ่านภาพถ่าย ทั้ง บุคคล เหตุการณ์ และสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งที่นี่ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยที่มีชีวิตโดยมีการจัดแสดงภาพเก่าแก่ของเมืองลำพูน สิ่งของเครื่องใช้และวิถีชีวิตของ ชาวเมืองลำพูน ในอดีตได้ชมกันอย่างเพลิดเพลินใจ หากใครที่ชอบเที่ยวชมภาพเก่า และอยากย้อนวันวาน หรือชมภาพทำเนียบนางงามลำพูนก็ไม่พลาดมาเดินเที่ยวชมที่พิพิธภัณฑ์เมืองลำพูนแห่งนี้ 



4.อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี (Camadevi Monument -The landmark of Hripunchai's first ruler)

4.อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี (Camadevi Monument -The landmark of Hripunchai's first ruler)

4.อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี (Camadevi Monument -The landmark of Hripunchai's first ruler)

4.อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี (Camadevi Monument -The landmark of Hripunchai's first ruler)




4.อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี (Camadevi Monument -The landmark of Hripunchai's first ruler)

และหนึ่งในที่เที่ยวต้องห้ามพลาดอีกแห่ง เมื่อมาไหว้พระธาตุหริภุญชัยแล้ว ก็ต้องไม่พลาด มาสักการะอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อการสร้างอาณาจักรแห่งนี้จนเป็นปึกแผ่น  โดยอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองลำพูน ตำบลในเมือง บริเวณด้านหลังตลาดหนองดอก ห่างจากศาลากลางจังหวัดลำพูนประมาณ 1 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระนางจามเทวี ซึ่งเป็นองค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย พระนางทรงเป็นปราชญ์ที่มีคุณธรรม เป็นนักรบที่มีความสามารถและกล้าหาญชาญชัย พระนางคือผู้นำพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมมาเผยแผ่ในดินแดนแถบนี้จนรุ่งเรื่องสืบมาจนถึงปัจจุบัน




5.วัดพระนางจามเทวี (Wat Chamthewi)

5.วัดพระนางจามเทวี (Wat Chamthewi)

5.วัดพระนางจามเทวี (Wat Chamthewi)

5.วัดพระนางจามเทวี (Wat Chamthewi)

5.วัดพระนางจามเทวี (Wat Chamthewi)

5.วัดพระนางจามเทวี (Wat Chamthewi)




5.วัดพระนางจามเทวี (Wat Chamthewi)

สำหรับวัดจามเทวี หรือเดิมชื่อ วัดกู่กุด ตั้งอยู่บนถนนจามเทวี หมู่ 5 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เป็นวัดเก่าแก่ สมัยล้านนา  มีโบราณสถานที่สำคัญ คือ พระสุวรรณจังโกฏเจดีย์ เชื่อกันว่าเป็นที่ประดิษฐานพระอัฐิของพระนางจามเทวี ต่อมาจะเป็นสมัยใดไม่ทราบแน่ชัดยอดพระเจดีย์ได้หักหายไป ชาวบ้านจึงเรียกว่ากู่กุดพระเจดีย์ องค์นี้มีชื่อเป็น ทางการว่า พระเจดีย์สุวรรณจังโกฏิ พระเจดีย์องค์นี้ ถือเป็นแบบสถาปัตยกรรมที่มีความสําคัญในศิลปกรรมหริภุญชัย นอกจากนี้ยังมีโบราณสถานที่สำคัญ คือ เจดีย์แปดเหลี่ยม ลักษณะทางสถาปัตยกรรมมีแผนผังเป็นรูปแปดเหลี่ยมซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป  มีความสําคัญทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ และโบราณคดีตามหลักฐานที่ได้พบศิลาจารึกเชื่อว่า พระราชโอรส ของพระนางจามเทวีคือ พระเจดีย์มหันตยศ และพระเจ้าอนันตยศโปรดให้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อถวายพระเพลิง แล้วโปรดให้สร้าง เจดีย์เหลี่ยมมียอดหุ้มด้วยทอง เรียกชื่อว่า สุวรรณจังโกฏิ โดยวัดจามเทวี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2478



6.วัดมหาวันวรวิหาร (Wat Mahawan Woramahawihan)

6.วัดมหาวันวรวิหาร (Wat Mahawan Woramahawihan)

6.วัดมหาวันวรวิหาร (Wat Mahawan Woramahawihan)

6.วัดมหาวันวรวิหาร (Wat Mahawan Woramahawihan)

6.วัดมหาวันวรวิหาร (Wat Mahawan Woramahawihan)



6.วัดมหาวันวรวิหาร (Wat Mahawan Woramahawihan)


ตั้งอยู่ที่ถนนจามเทวี อำเภอเมืองลำพูน เป็นวัดที่เก่าแก่ ซึ่งมีอายุกว่า 1,300 ปี สร้างในสมัยพระนางจามเทวี มีพระพุทธรูปปางนาคปรกที่อัญเชิญมาจากเมืองละโว้ กรุพระเครื่องชื่อดัง คือ พระรอดมหาวัน ถือเป็นแบบพิมพ์องค์พระรอดที่มีชื่อเสียง เจดีย์วัดมหาวันเป็นที่บรรจุพระรอดลำพูน 1 ใน 5 พระเครื่องชุดเบญจภาคีที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด เชื่อกันว่า พระรอดมีความศักดิ์สิทธิ์หรือความขลังในด้านแคล้วคลาด ปราศจากภัยอันตรายและความวิบัติต่างๆ



7.วัดพระยืน (Wat Phra Yuen)

7.วัดพระยืน (Wat Phra Yuen)

7.วัดพระยืน (Wat Phra Yuen)

7.วัดพระยืน (Wat Phra Yuen)

7.วัดพระยืน (Wat Phra Yuen)




7.วัดพระยืน (Wat Phra Yuen)

จัดเป็นวัดสำคัญหนึ่งในสี่ของวัดสี่มุมเมืองที่พระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์แห่งหริภุญชัยนคร  วัดพระยืน แต่เดิมไม่ได้มีชื่อนี้ สันนิษฐานว่าพระนางจามเทวีทรงสร้างขึ้นในราว พ.ศ. 1213 (หลังครองราชย์ได้ 7 ปี) ตามตำนานเรียกชื่อวัดนี้ว่า อรัญญิการาม โดยภายในวัดมีเจดีย์เก่าแก่สำคัญคือ เจดีย์พระยืน เป็นศิลปะพุกาม สร้างบนยกพื้นสูงเป็นชั้นลดหลั่น ลานประทักษิณชั้นบนมีเจดีย์ขนาดเล็กประจำมุม เรือนธาตุเป็นทรงสี่เหลี่ยมมีจระนำยื่นออกมาทั้งสี่ด้าน เหนือเรือนธาตุเป็นหลังคาลาดรองรับชุดฐานซ้อนต่อยอดทรงระฆัง เจดีย์องค์ใหม่ที่สร้างครอบของเดิมนี้ เจ้าหลวงอินทยงยศเจ้าผู้ครองนครลำพูนได้ให้หนานปัญญาเมืองชาวบ้านหนองเส้ง ซึ่งเป็นช่างประจำคุ้มหลวง เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง วัดยังมีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นทางด้านหลังวัดที่ก่อตั้งขึ้นมาในปี พ.ศ. 2547 จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้เก่าแก่ต่าง ๆ อาทิ ตู้พระธรรม หีบพระธรรม เครื่องเขิน ถ้วยชาม สัตตภัณฑ์ ขันโตก ผ้าพระบฏ เป็นต้น



8.กู่ช้างกู่ม้า (Ku Chang - Ku Ma)

8.กู่ช้างกู่ม้า (Ku Chang - Ku Ma)

8.กู่ช้างกู่ม้า (Ku Chang - Ku Ma)

8.กู่ช้างกู่ม้า (Ku Chang - Ku Ma)

8.กู่ช้างกู่ม้า (Ku Chang - Ku Ma)



8.กู่ช้างกู่ม้า (Ku Chang - Ku Ma)

เป็นเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอีกแห่งหนึ่งที่ชาวลำพูนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก ด้วยความเชื่อว่าเป็นสุสานช้างศึก - ม้าศึก คู่บารมีของพระนางจามเทวี  กู่ช้าง กู่ม้า เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่คู่กัน กู่ทั้งสองนี้ตั้งอยู่ใกล้ชุมชนวัดไก่แก้ว ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน ห่างจากตัวเมืองลำพูนไปทางเหนือ (ออกจากเมืองลำพูนไปทาง ถนนเชียงใหม่ ลำพูนสายเก่า) ประมาณ 2 กิโลเมตร

ชาวลำพูนให้ความเคารพนับถือกู่ช้างมาก มีการสร้างศาลเจ้าพ่อกู่ช้างไว้ในทางทิศตะวันออกใกล้กับองค์เจดีย์ด้านหน้า ศาลเจ้าพ่อกู่ช้าง มีรูปปั้นจำลองของปู่ก่ำงาเขียว เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มาสักการะ เชื่อกันว่าหากได้ลอดท้องพระยาช้างเชือกนี้ จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา ในวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ของทุกปี จะมีงานรดน้ำดำหัว และบวงสรวงเจ้าพ่อ เพื่อขอขมาลาโทษ และขอพรให้ปกปักษ์รักษาประชาชนจากความทุกข์ทั้งปวงอีกด้วย



9.อุโมงค์ขุนตาล (Khun Tan Train Tunnel)

9.อุโมงค์ขุนตาล (Khun Tan Train Tunnel)

9.อุโมงค์ขุนตาล (Khun Tan Train Tunnel)

9.อุโมงค์ขุนตาล (Khun Tan Train Tunnel)

9.อุโมงค์ขุนตาล (Khun Tan Train Tunnel)

9.อุโมงค์ขุนตาล (Khun Tan Train Tunnel)



9.อุโมงค์ขุนตาล (Khun Tan Train Tunnel)

จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกแห่งในจังหวัดลำพูน ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล อำเภอแม่ทา โดยอุโมงค์ดังกล่าว เป็นอุโมงค์ทางรถไฟลอดผ่านยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาวถึง 1,352.10 เมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2540 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2461 เป็นระยะเวลา 11 ปี และช่วงระหว่างการก่อสร้างจึงต้องใช้ความอุตสาหะพากเพียรอย่างยิ่ง เครื่องมือและสัมภาระต่าง ๆ ที่ใช้ก่อสร้างต้องใช้ช้างและเกวียนบรรทุกไป พอถึงบริเวณที่ที่เป็นภูเขาต้องใช้วิธีชักรอกขึ้นเขาลงเขาอย่างทุลักทุเล

นักท่องเที่ยวสามารถแวะไปถ่ายรูปที่อุโมงค์ขุนตาลแห่งนี้ได้โดยการขับรถส่วนตัวไปเอง หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศไปนั่งรถไฟก็ได้สัมผัสความเป็นธรรมชาติที่สวยงาม


10.สะพานขาวทาชมพู (Tha Chumphu White Bridge )

10.สะพานขาวทาชมพู (Tha Chumphu White Bridge )

10.สะพานขาวทาชมพู (Tha Chumphu White Bridge )

10.สะพานขาวทาชมพู (Tha Chumphu White Bridge )

10.สะพานขาวทาชมพู (Tha Chumphu White Bridge )

10.สะพานขาวทาชมพู (Tha Chumphu White Bridge )




10.สะพานขาวทาชมพู (Tha Chumphu White Bridge )

และอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวเช็กอินถ่ายรูป มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งของจังหวัดลำพูน คือ สะพานขาวทาชมภู สะพานสีขาวโดดเด่น สถาปัตยรรมสวยงาม เป็นสะพานโค้งครึ่งวงกลมคู่ทาสีขาวทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก และเป็นทางรถไฟที่ทอดข้ามแม่น้ำทา  สร้างเมื่อปีพ.ศ. 2461 และสร้างเสร็จในปีพ.ศ. 2463 โดยมีรูปทรงเป็นทรงโค้งทาสีขาวในแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก นับเป็นสะพานประวัติศาสตร์  จึงทำให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ


11.วัดสันป่ายางหลวง (Wat San Pa Yang Luang)

11.วัดสันป่ายางหลวง (Wat San Pa Yang Luang)

11.วัดสันป่ายางหลวง (Wat San Pa Yang Luang)

11.วัดสันป่ายางหลวง (Wat San Pa Yang Luang)

11.วัดสันป่ายางหลวง (Wat San Pa Yang Luang)



11.วัดสันป่ายางหลวง (Wat San Pa Yang Luang)

เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม และจัดให้เป็นหนึ่งในวัดที่มีพระวิหารงดงามที่สุดอีกแห่งของเมืองไทย วัดตั้งอยู่ในตัวเมืองลำพูน จุดเด่นของวัดสันป่ายางหลวงคือ  ภายในวิหารพระเขียวโขงเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธอัญญรัตนมหานาทีศรีหริภุญชัย หรือพระเขียวโขง เป็นพระพุทธรูปแกะสลักจากหินแม่น้ำโขง บ้านดอนมหาวัน ที่ใกล้กับประเทศลาว ซึ่งมีการแกะสลักลายปูนปั้นอย่างวิจิตรงดงาม ตามแบบสถาปัตยกรรมนีโอล้านนา นอกจากนี้แล้ว วัดสันป่ายางหลวงยังเป็นที่ถวายพระเพลิง พระศพพระนางจามเทวี ซึ่งเป็นกษัตรีองค์แรกที่ปกครองนครหริภุญชัยอีกด้วย


12.วัดพระพุทธบาทตากผ้า (Wat phra phutthabat tak pha)

12.วัดพระพุทธบาทตากผ้า (Wat phra phutthabat tak pha)

12.วัดพระพุทธบาทตากผ้า (Wat phra phutthabat tak pha)

12.วัดพระพุทธบาทตากผ้า (Wat phra phutthabat tak pha)

12.วัดพระพุทธบาทตากผ้า (Wat phra phutthabat tak pha)

12.วัดพระพุทธบาทตากผ้า (Wat phra phutthabat tak pha)





12.วัดพระพุทธบาทตากผ้า (Wat phra phutthabat tak pha)

สำหรับวัดพระพุทธบาทตากผ้า ถือเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 175 ไร่ ซึ่งเป็นเนินเขาเตี้ยๆ อยู่ใกล้ดอย (เขา) 2 ลูกคือ ดอยช้างและดอยเครือ อยู่ห่างจากเมืองลำพูนประมาณ 19 กิโลเมตร เป็นปูชนียสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลำพูน หรือของภาคเหนือ วัดพระพุทธบาทตากผ้า ตั้งอยู่ระหว่างดอยม่อนช้างกับดอยเครือ นับถือกันว่าเป็นรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าที่มาประทับไว้ตรงบริเวณที่นำผ้าจีวรมาตาก มีรอยตารางบนผาหินที่เชื่อว่าคือรอยตากผ้าจีวรพระพุทธเจ้า ปัจจุบัน วัดพระพุทธบาทตากผ้า เป็นศูนย์กลางที่สำคัญของการศึกษาพระปริยัติธรรม ทั้งแผนกนักธรรม และบาลี ของพระภิกษุสามเณรในภาคเหนือ นอกจากนี้แล้ว ทางวัดได้จัดให้มีการปฏิบัติธรรมควบคู่ไปกับการศึกษา ได้จัดตั้งสำนักวิปัสสนากรรมฐานขึ้น เพื่อเป็นที่ปฏิบัติธรรมสำหรับพระภิกษุสามเณร อุบาสก อุบาสิกา และผู้สนใจทั่วไป



13.วัดพระคงฤาษี (Wat Wat Pra Kong Ruesi)

13.วัดพระคงฤาษี (Wat Wat Pra Kong Ruesi)

13.วัดพระคงฤาษี (Wat Wat Pra Kong Ruesi)

13.วัดพระคงฤาษี (Wat Wat Pra Kong Ruesi)




13.วัดพระคงฤาษี (Wat Wat Pra Kong Ruesi)

เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ภายในตัวเมืองลำพูน ที่สร้างขึ้นในสมัยพระนางจามเทวีครองเมืองหริภุญชัย ในวัดนี้มี พระคง ซึ่งเป็นพระเครื่องที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่นับถืออีกองค์หนึ่งของเมืองลำพูน เป็น 4 วัด 4 มุมเมือง ที่มีการจุดพบพระเครื่องของเมืองลำพูน  เชื่อว่าพระเครื่องที่ขุดได้นี้เป็นเป็นพระคง ที่ วาสุเทพฤาษี และสุกกทันตฤาษี สร้างวัด จึงเรียกว่า วัดพระคงฤาษี แต่นั้นเป็นต้นมา



14.พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านชาวยอง หรือ พิพิธภัณฑ์วัดต้นแก้ว (Wat Ton Kaeo Museum)

14.พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านชาวยอง หรือ พิพิธภัณฑ์วัดต้นแก้ว (Wat Ton Kaeo Museum)


14.พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านชาวยอง หรือ พิพิธภัณฑ์วัดต้นแก้ว (Wat Ton Kaeo Museum)


14.พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านชาวยอง หรือ พิพิธภัณฑ์วัดต้นแก้ว (Wat Ton Kaeo Museum)


14.พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านชาวยอง หรือ พิพิธภัณฑ์วัดต้นแก้ว (Wat Ton Kaeo Museum)


14.พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านชาวยอง หรือ พิพิธภัณฑ์วัดต้นแก้ว (Wat Ton Kaeo Museum)



14.พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านชาวยอง หรือ พิพิธภัณฑ์วัดต้นแก้ว (Wat Ton Kaeo Museum)
ผ้าลายโบราณอายุ 103 ปี



14.พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านชาวยอง (Wat Ton Kaeo Museum)


จัดเป็นพิพิธภัณฑ์เรียนรู้ที่น่าสนใจอีกแห่ง ตั้งอยู่ภายในวัดต้นแก้ว ย่านชุมชนชาวยอง ในตัวเมืองลำพูน โดยพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านชาวยอง หรือเรียกอีกชื่อคือ พิพิธภัณฑ์วัดต้นแก้ว ก่อตั้งโดยพระครูไพศาลธีรคุณเจ้าอาวาสวัดต้นแก้ว เมื่อปีพ.ศ. 2530 โดยเริ่มจากการเก็บสะสมของโบราณ ที่เป็นข้าวของเครื่องใช้ในวิถีชีวิตประจำวัน ของชาวยองในอดีต จนภายหลังเริ่มมีผู้มีจิตศรัทธา นำสิ่งของเก่ามาบริจาคมากขึ้น จึงได้จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์วัดต้นแก้ว ภายในพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยอาคารที่ใช้จัดแสดง 2 หลัง อาคารหลังแรกสร้างขึ้นใหม่ และเก็บรวบรวมเรื่องราวทางพระพุทธศาสนาและสิ่งของต่าง ๆ ส่วนอาคารหลังที่ 2 นั้น ทำจัดแสดงเกี่ยวกับเครื่องพัดยศ และพระเครื่องรุ่นเก่า พระเครื่องสกุลต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงของลำพูนเอาไว้มากมายให้ผู้ที่สนใจเข้าไปชม โดยเฉพาะหากใครที่ต้องการดูผ้าทอเก่าดั้งเดิม ลายฉบับต้นกำเนิดแท้ ต้องไม่พลาดมาชมที่พิพิธภัณฑ์ผ้าที่วัดต้นแก้ว 







หลังจากได้เดินทางไปเช็กอินถ่ายรูปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆแล้ว ก็ไปเดินหาอะไรกินแถวกาดหนองดอก หรือตลาดหนองดอก ตลาดยามเย็น มีอาหารให้เลือกทานหลายอย่าง



หลังจากเที่ยวแล้ว ก็ไปเดินหาอะไรกินแถว กาดหนองดอก อยู่ใกล้ๆกับอนุสาวรีย์พระนางจามเทวีค่ะ 



ด้านในตลาดมีของกินขายหลายอย่างเลยค่ะ ให้เลือกซื้อ เลือกหา เลือกทานตามใจชอบ ส่วนเดี๊ยนก็พยายามเดินหาดูของกินพื้นถิ่นของล้านนา ที่หาทานไม่ได้ในกรุงเทพ จะได้ไม่เสียเที่ยวที่แวะมาเที่ยวถึงลำพูนค่ะ 


มีข้าวต้มมัดอันเล็กๆ หรือข้าวต้มถั่วดินขายด้วย บอกแม่ค้าว่าไม่ต้องใส่น้ำตาล เน้นทานคู่กับมะพร้าวทึนทึก รสชาติเค็มๆมันๆอร่อยดีค่ะ 


เดินไปเดินไป ก็ได้อาหารทานหลายอย่างเลยค่ะ มื้อนี้อิ่มท้องและถูกด้วย 


จากนั้นก็ขับรถมอเตอร์ไซต์จากลำูนมาคืนที่ร้านเช่ารถแถวสถานีขนส่ง และนั่งแท๊กซี่มาสนามบินเชียงใหม่ เดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ


เมื่อได้ทานอาหารมื้อค่ำอิ่มแล้ว ก็เดินทางไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแรม จากนั้นก็ขับรถมอเตอร์ไซต์จากลำูนมาคืนที่ร้านเช่ารถแถวสถานีขนส่ง และนั่งแท๊กซี่มาสนามบินเชียงใหม่ เดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ....เป็นอันจบทริปเที่ยวลำปาง-ลำพูนอย่างสุขใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนค่ะ 



ขอบพระคุณเพื่อนๆคุณผู้อ่านทุกๆคน ทีเสียสละเวลาเข้ามาคลิ๊กเปิดสไลด์เลื่อนอ่านดูกัน หากบทความรีวิท่องเที่ยวดังกล่าวข้างต้น มีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้งในบทความถัดไปนะคะ....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน 

------------------------------------------------------------------------

บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ 



ทริปรีวิวเที่ยวลำปางในมุมมองใหม่ๆ ไหว้พระใหญ่สไตล์ญีุ่่น คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

แบ่งปันรีวิวเที่ยวลำปางล่าสุดในมุมใหม่ๆ ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ งามระทึกเจดีย์บนดอยสูงเสียดฟ้า มีสถานที่ท่องเที่ยวถ่ายรูปเช็กอินที่ใหนบ้าง ตามไปชมกัน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>


ฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลงสากลวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ มีเพลงอะไรบ้าง>>

แบ่งปันคำอวยพรวันคริสต์มาส และบทเพลงฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลงสากลในวันขึ้นปีใหม่ พร้อมความหมาย ที่ร้องกันได้อย่างเพลิดเพลินใจ มีเพลงอะไรบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>


ล่าสุดรีวิวเที่ยวเกาะสิมิลันในราคา 1,350 บาท ไปเที่ยวเกาะใหนบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

เก็บตก รีวิวเที่ยวเกาะสิมิลันล่าสุด ในราคา 1,350 บาท ไปเที่ยวดำน้ำเกาะใหนบ้าง และทางทัวร์มีบริการอะไรอีกบ้าง ตามไปดูกันจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>


แบ่งปันรีวิวเช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวภูเก็ต มีที่เที่ยวเด็ดอะไรบ้าง ตามไปดูกันค่ะ>>

มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเกาะภูเก็ต นั่งกินอาหารพื้นเมืองรสเด็ด ระเหินระเห็ด เช็กอินชมทะเลสวยๆ รุ่มระรวยด้วยที่เที่ยวมากมาย มิวายต้องไปถ่ายภาพกันสักครา คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>


ไปรีวิวเที่ยวพังงา-ตะกั่วป่า ที่ใครมาก็ต้องไปเช็กอินกัน มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

มาม๊ะ..มารีวิวเช่ารถขับเที่ยวพังงา-เขาหลัก-ตะกั่วป่า ชื่นอุราชมเมืองเก่า คลอเคล้าทะเลสวย รุ่มระรวยด้วยสถานที่ท่องเที่ยวงดงาม ต้องตามไปเช็กอินกัน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>> 


เที่ยวเมืองกาจญน์ตอนจบ แวะไปซบกลิ่นอายสังขละบุรี คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>>

เก็บตกเที่ยวกาญจน์ตอนจบ แวะไปซบกลิ่นอายสังขละบุรี นั่งเรือฉิมพลีชมเมืองบาดาล ยลตระการธรรมชาติงดงาม ต้องไปเที่ยวตามชมกัน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>


แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองกาญจน์ตอนที่ 2 ท่องแดนดินถิ่นน้ำตกสวย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

แบ่งปันทริปรีวิวเช่ารถขับเที่ยวเมืองกาญจน์ตอนที่ 2 ท่องแดนดินถิ่นน้ำตกสวย รุ่มระรวยด้วยธรรมชาติงดงาม มีที่เที่ยวใหนต้องแวะไปเช็กอินบ้าง ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงนะ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>


รีวิวเที่ยวเมืองกาญจน์ ย้อนวันวานชมเมืองประวัติศาสตร์สงครามโลก คลิ๊กดูรีวิว>>

มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองกาญจนบุรี นั่งรถไฟฉิมพลี ย้อนวันวานอีกสักครั้งครา ในตัวเมือง มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรบ้างหนา ตามไปลั๊ลลาเช็กอินกัน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>


รีวิวพาไปเที่ยวเมืองบรูซ เมืองเมรดกโลกสวยโรแมนติก มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกัน>>>

เก็บตกท่องโลกกว้าง รีวิวเดินทางไปเที่ยวเมืองบรูซ เมืองแห่งสายน้ำสวยงามโรแมนติก ที่เหล่าคู่รักสายชิคต้องมาเช็กอินกัน มีที่เที่ยวที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>

เก็บตก รีวิวแบกเมืองเมืองนามูร์ มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกัน>>

แปลกถิ่นรีวิวเที่ยวทิพย์ แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวเมืองนามูร์ เมืองเก่าแก่ติดริมแม่น้ำในแดนช็อกโกแลต มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกัน คลิ๊กรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

จัดทริปเก็บตกแบกเป้เที่ยวเมืองพัทยา มีที่ใหนเปิดให้ชมบ้าง ตามไปดูกันค่ะ>>

เก็บตกรีวิวเที่ยวเมืองพัทยาอีกสักครั้งครา มีที่ใหนเปิดให้ชมบ้าหนา ตามไปลั๊ลลาแวะถ่ายรูปภาพกันได้เลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

จัดทริปแบกเป้ไปเที่ยวเปิดเกาะล้าน หลังจากปิดไปนาน ไปดูสิว่าเป็นอย่างไรบ้าง>>

แบ่งปันรีวิวไปเที่ยวช่วงเปิดเกาะล้าน หลังจากปิดไปนาน ย้อนวันวาน ชมทะเลสวยหวาน น้ำสดใส เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง ตามไปดูกัน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

เก็บตกเที่ยวทิพย์ ทริป 1 วันสั้นๆ นั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองเฮลซิงเงอร์ คลิ๊กดูที่เที่ยว>>

เที่ยวทิยพ์..ทริปสั้นๆเก็บตก 1 วัน นั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองเฮลซิงเงอร์ เมืองเล็กๆน่ารักติดริมชายทะเล มีมุมถ่ายรูปสวยๆเก๋ๆด้วยนะ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

แบ่งปันรีวิวเที่ยวบึงกาฬ แวะเริงสำราญที่เที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปดูกันค่ะ>>>

เก็บตกแบกเป้รีวิวเที่ยวบึงกาฬ เช่ารถมอเตอร์ไซต์ไปสำราญชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

จัดทริปลุยเดี่ยวไปรีวิวเที่ยวถ้ำนาคา ไม่มีรถส่วนตัวก็ไปได้ คลิ๊กดูบทความที่เที่ยวค่ะ>>

แบ่งปันรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวถ้ำนาคา ไม่มีรถส่วนตัว แวะไปรื่นระรัวทัวร์ได้อย่างสบายอุรา มีที่ใหนบ้างหนา ตามไปลั๊ลลากันเลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

แบ่งปันเด้อกับทริปเช่ารถขับเที่ยวสกลนคร มีที่ใหนน่าไปออนซอนบ้าง คลิ๊กดูรีวิว>>

มาเด้อ..แบกเป้มารีวิวเที่ยวสกลนคร แวะไปออนซอนเช็กอินตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งดูกันจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

ตอนจบทริปรีวิวแบกเป้เที่ยวกรุงโคเปนเฮเกน ในเดนมาร์ก มีที่เที่ยวอะไรบ้าง>>>

ตอนจบกับรีวิวแบกเป้เที่ยวกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงแห่งเดนมาร์ก มีที่เที่ยวอะไรให้แวะเช็กอินถ่ายภาพอะไรบ้าง ตามไปดูกันค่ะ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น