Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

เก็บตก มาเด้อรีวิวเที่ยวบึงกาฬ เช่าสองล้อขับไปสุขสราญตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปดูกันจ้า

และเพื่อไม่ให้เว็ปไซต์ร้างลาไป เก็บตกแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวทริปนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมารีวิวเที่ยวบึงกาฬ เช่ารถมอเตอร์ไซต์ไปยลตระการตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งกันเด้อค่ะ


ก็ขอสวัสดีคุณผู้อ่านที่น่ารัก และเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนทุกๆคนค่ะ กลับมาพบปะทักทายซำบายดีกันอีกครั้งนะคะ กับบทความบล็อกรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือน ที่จะพาคุณผู้อ่านไปลัดเลาะ ท่องเที่ยวทั่วแคว้นแดนไทย และบางทริปอาจตะลุยไปไกลถึงทั่วโลกก็มี  หลังจากที่บทความบล็อกตอนที่แล้ว ได้มารีวิวลุยเดี่ยวแบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวถ้ำนาคา หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่ที่มีชื่อเสียงมาแรงที่สุดอีกแห่ง ซึ่งเดี๊ยนได้เขียนรีวิวไว้แล้วตามเว็ปไซต์ลิงค์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2021/04/Backpack-travel-Naka-Cave-Bueng-Kan.html



และสำหรับทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวทริปนี้ เดี๊ยนคุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ก็ขอมารีวิวเที่ยวเมืองบึงกาฬต่อค่ะ แม้ว่าจะเป็นช่วงฤดูแล้ง หรือเข้าสู่หน้าร้อนแล้วก็ตาม แต่เมืองบึงกาฬ ก็ยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีสถานที่น่าสนใจให้แวะไปถ่ายรูปเช็กอินหลายแห่ง เพราะมีนักเดินทางหลายๆคนที่แนะนำไว้ในบล็อกท่องเที่ยวต่างๆบอกว่า หากมาเที่ยวบึงกาฬแนะนำว่าให้มาเที่ยวช่วงฤดูฝน เพราะว่าไม่ร้อนและยังมีน้ำตกสวยงามให้ไปเยี่ยมชมและสัมผัสกันอย่างเย็นชื่นรื่นฤทัยอีกด้วย แต่ใหนๆก็จัดทริปมาเที่ยวถึงแดนดินถิ่นอีสานเหนือทั้งที หากจะรอเข้าสู่ช่วงหน้าฝนกลางปี เดี๊ยนมีหวังว่าคงไม่ได้มาเที่ยวบึงกาฬแน่นอนค่ะ เพราะเกรงว่าจะต้องไปสาระวนอยู่กับการทำงานประจำซ่ะมากกว่าค่ะ 


แม้ว่าจะเป็นช่วงฤดูแล้ง หรือเข้าสู่หน้าร้อนแล้วก็ตาม แต่เมืองบึงกาฬ ก็ยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีสถานที่น่าสนใจให้แวะไปถ่ายรูปเช็กอินหลายแห่ง

ในการเดินทางทริปนี้ แม้ว่าจะไม่ได้มีรถส่วนตัวขับเหมือนนักท่องเที่ยวอื่นๆ แต่เดี๊ยนก็ได้วางแผนติดต่อร้านเช่ารถมอเตอรไซต์ในเมืองบึงกาฬไว้เรียบร้อยแล้ว ทำให้การเดินทางครั้งนี้ ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไปว่าจะเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งอย่างไร โดยเดี๊ยนได้เช่ารถมอเตอร์ไซต์สองล้อของโรงแรมไว้ก่อนมาเที่ยวเมืองบึงกาฬเลยค่ะ และก่อนที่จะเข้าสู่ภาพรีวิวแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองบึงกาฬ เราก็มารู้จักประวัติของจังหวัดบึงกาฬ  ก่อนสักเล็กน้อยพอสังเขป 



เรื่องน่ารู้เล็กน้อยๆพอสังเขปเกี่ยวกับ เมืองบึงกาฬ (About Bueng Kan Province )

เรื่องน่ารู้เล็กน้อยๆพอสังเขปเกี่ยวกับ เมืองบึงกาฬ (About Bueng Kan Province )

สำหรับเมืองบึงกาฬ จัดเป็นเมืองเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของไทยในภาคตะวันออกเฉียงหรือภาคอีสาน ที่พึ่งถูกจัดตั้งเป็นจังหวัดใหม่ของไทยล่าสุดในเมื่อปี 2554 ซึ่งแยกการปกครองออกจากจังหวัดหนองคาย จึงมีผลทำให้เป็นจังหวัดลำดับที่ 76 ของประเทศไทย และยังเป็นจังหวัดที่มีเขตพื้นที่ติดต่อกับประเทศลาว โดยมีแม่น้ำโขงเป็นแนวพรมแดน และยังมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน  แต่เดิมทีนั้น บึงกาฬ เดิมเป็น อำเภอไชยบุรี ในเขตการปกครองของ จังหวัดนครพนม ซึ่งมีที่ว่าการอำเภอ ตั้งอยู่ที่บริเวณปากน้ำสงคราม ไชยบุรี เดิมชื่อ "เมืองไชยสุทธิ์อุตมบุรี" อยู่ในเขตการปกครองของเมืองเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของไทยในสมัยนั้น 

แต่เดิมทีนั้น บึงกาฬ เดิมเป็น อำเภอไชยบุรี ในเขตการปกครองของ จังหวัดนครพนม ซึ่งมีที่ว่าการอำเภอ ตั้งอยู่ที่บริเวณปากน้ำสงคราม ไชยบุรี เดิมชื่อ "เมืองไชยสุทธิ์อุตมบุรี"


ตามแผ่นศิลาจารึกที่วัดไตรภูมินั้น ประวัติของเมืองไชยบุรี ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2351 หัวหน้าชาวไทยญ้อชื่อ ท้าวหม้อและนางสุนันทา ได้พาบุตรและบ่าวไพร่ อพยพโยกย้ายผู้คนพลเมืองจากเมืองหงสา (ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตอนเหนือเมืองหลวงพระบาง) อพยพลงมาตามแม่น้ำโขง ลงมาตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณปากน้ำสงครามในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ได้รวบรวมผู้คนมาสร้างเมืองใหม่ขึ้น และตั้งชื่อว่า “เมืองไชยสุทธิ์อุตมบุรี” ขึ้นตรงต่อเมืองเวียงจันทน์ เจ้าผู้ครองนครเวียงจันทน์ ได้ตั้งให้ท้าวหม้อเป็นพระยาหงสาวดี และท้าวเล็กน้องชายท้าวหม้อเป็นอุปราชวังหน้า ท้าวหม้อมีบุตรชายคนโตชื่อท้าวโสม

ชื่อเดิมตามศิลาจารึกว่า "เมืองไชยสุทธิ์อุตมบุรี" นั้นหมายถึงเมืองที่มีชัยชนะและอุดมสมบูรณ์ 


ซึ่งชื่อเดิมตามศิลาจารึกว่า "เมืองไชยสุทธิ์อุตมบุรี" นั้นหมายถึงเมืองที่มีชัยชนะและอุดมสมบูรณ์ ที่ได้ชื่ออย่างนี้ก็เพราะว่า ในสมัยที่ตั้งเมืองนั้นมีการทำสงครามระหว่างกรุงเทพฯ - เมืองเวียงจันทน์ - ญวนอยู่บ่อยๆ สำหรับเรื่องความอุดมสมบูรณ์นั้นเล่ากันว่า ไชยบุรีเป็นเมืองที่ "ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว" อย่างอุดมสมบูรณ์เพราะตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงและแม่น้ำสงครามจึงจับปลา ได้อย่างสะดวก


ต่อมา พ.ศ. 2459 มีประกาศพระบรมราชโองการเรื่อง โอนอำเภอไชยบุรีไปขึ้นจังหวัดหนองคาย ลงวันที่ 22 มีนาคม 2459 

ครั้นในปีต่อมา พ.ศ. 2459 มีประกาศพระบรมราชโองการเรื่อง โอนอำเภอไชยบุรีไปขึ้นจังหวัดหนองคาย ลงวันที่ 22 มีนาคม 2459 มีความว่าทรงทราบฝ่าละอองธุรีพระบาทว่าอำเภอไชยบุรี ซึ่งเป็นอำเภอขึ้นจังหวัดนครพนมเวลานี้ (พ.ศ. 2459) มีท้องที่และระยะทางห่างไกลจากจังหวัดนครพนมมาก เป็นการลำบากแก่ราษฎรที่อยู่ในแขวงอำเภอไชยบุรี ผู้มีกิจสุขทุกข์จะมายังจังหวัดนครพนมและทั้งไม่เหมาะแก่การปกครอง จึงทรงพระราชดำริว่าสมควรจะโอนอำเภอไชยบุรี มาขึ้นจังหวัดหนองคาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้โอนอำเภอไชยบุรีมาขึ้นจังหวัดหนองคาย ตั้งแต่บัดนี้ (พ.ศ. 2459) เป็นต้นไป

ชาวบ้านเรียก "บึงกาญจน์" เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป จึงได้พิจารณาและจัดทำรายงานไปยังกระทรวงมหาดไทย ขอเปลี่ยนแปลงชื่ออำเภอไชยบุรีเป็น "อำเภอบึงกาญจน์" ตั้งแต่นั้นมา

และเมื่อปี พ.ศ. 2475 ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยท่านหนึ่งเดินทางมาตรวจราชการที่อำเภอไชยบุรี จังหวัดหนองคายพบว่า หมู่บ้านบึงกาญจน์ มีหนองน้ำใหญ่แห่งหนึ่ง กว้างประมาณ 160 เมตร ยาวประมาณ 3,000 เมตร มีน้ำขังตลอดปี ชาวบ้านได้อาศัยน้ำในบึงแห่งนี้บริโภคและใช้สอย ชาวบ้านเรียก "บึงกาญจน์" เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป จึงได้พิจารณาและจัดทำรายงานไปยังกระทรวงมหาดไทย ขอเปลี่ยนแปลงชื่ออำเภอไชยบุรีเป็น "อำเภอบึงกาญจน์" ตั้งแต่นั้นมา

บึงกาญจน์ ซึ่งแปลว่าน้ำสีทองนั้น ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง เพราะน้ำเป็นสีคล้ำค่อนข้างดำ จึงได้เปลี่ยนชื่อใหม่ให้สอดคล้องกับความหมาย และความเป็นจริงของน้ำในบึงว่า “บึงกาฬ”


ปี พ.ศ. 2477 ทางราชการได้พิจารณาเห็นว่า บึงกาญจน์ ซึ่งแปลว่าน้ำสีทองนั้น ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง เพราะน้ำเป็นสีคล้ำค่อนข้างดำ จึงได้เปลี่ยนชื่อใหม่ให้สอดคล้องกับความหมาย และความเป็นจริงของน้ำในบึงว่า “บึงกาฬ” ทางการจึงได้เปลี่ยนชื่อ อำเภอบึงกาญจน์ เป็น"อำเภอบึงกาฬ" เพื่อความสะดวกและเข้าใจง่าย นายอำเภอคนแรกคือ รองอำมาตย์โท พระบริบาลศุภกิจ (คำสาย ศิริขันธ์) ต่อมาได้แยกอำเภอเซกา อำเภอพรเจริญ อำเภอศรีวิไล และ อำเภอบุ่งคล้า ออกจากอำเภอบึงกาฬ ตามลำดับ

เมื่อวันที่ วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554 ก็ได้มีการจัดตั้ง เมืองบึงกาฬ เป็นจังหวัดบึงกาฬขึ้น

ต่อมาเมื่อวันที่ วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554 ก็ได้มีการจัดตั้ง เมืองบึงกาฬ เป็นจังหวัดบึงกาฬขึ้น โดยแยกอำเภอบึงกาฬ อำเภอเซกา อำเภอโซ่พิสัย อำเภอบุ่งคล้า อำเภอบึงโขงหลง อำเภอปากคาด อำเภอพรเจริญ และอำเภอศรีวิไล ออกจากการปกครองของจังหวัดหนองคาย จังหวัดบึงกาฬ จัดตั้งเป็นจังหวัดลำดับที่ 76 ของประเทศไทย เป็นจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองที่สำคัญของจังหวัดแถบลุ่มแม่น้ำโขง

จังหวัดบึงกาฬมีคำขวัญประจำจังหวัดคือ คำขวัญ: ภูทอกแหล่งพระธรรม ค่าล้ำยางพารา งามตาแก่งอาฮง บึงโขงหลงเพลินใจ น้ำตกใสเจ็ดสี ประเพณีแข่งเรือ เหนือสุดแดนอีสาน นมัสการหลวงพ่อใหญ่ ศูนย์รวมใจศาลสองนาง

โดยจังหวัดบึงกาฬมีคำขวัญประจำจังหวัดคือ คำขวัญ: ภูทอกแหล่งพระธรรม ค่าล้ำยางพารา งามตาแก่งอาฮง บึงโขงหลงเพลินใจ น้ำตกใสเจ็ดสี ประเพณีแข่งเรือ เหนือสุดแดนอีสาน นมัสการหลวงพ่อใหญ่ ศูนย์รวมใจศาลสองนาง


สภาพภูมิประเทศ  จังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวัดที่มีสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ แวดล้อมไปด้วยภูเขาและน้ำตกที่สวยงาม

ในส่วนของสภาพภูมิประเทศ  จังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวัดที่มีสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ แวดล้อมไปด้วยภูเขาและน้ำตกที่สวยงาม เช่น น้ำตกเจ็ดสี, น้ำตกตากชะแนน ที่อยู่ภายในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว พื้นที่ส่วนใหญ่ในจังหวัดเป็นที่ราบลุ่ม

สภาพอากาศของบึงกาฬ สภาพอากาศ ภูมิอากาศที่จังหวัดบึงกาฬค่อนข้างดี เพราะได้อิทธิพลจากแม่น้ำโขงทำให้อากาศไม่ร้อนมากในช่วงถดูร้อน 

และสภาพอากาศของบึงกาฬ สภาพอากาศ ภูมิอากาศที่จังหวัดบึงกาฬค่อนข้างดี เพราะได้อิทธิพลจากแม่น้ำโขงทำให้อากาศไม่ร้อนมากในช่วงถดูร้อน ในฤดูหนาวอากาศดีเหมาะแก่การท่องเที่ยวและพักผ่อนโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญจังหวัดบึงกาฬมักจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจองห้องพักต่อเนื่อง ทำให้เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ให้กับชุมชนในท้องที่อีกด้วย

เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/จังหวัดบึงกาฬ


และหลังจากที่ได้อ่านข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับเมืองบึงกาฬกับแบบพอสังเขปกันไปแล้วนะคะ ต่อไปก็ตามมาดูภาพรีวิวการเดินทางไปเที่ยวบึงกาฬกันต่อเลยค่ะ

เริ่มต้นการเดินทางทริปนี้ เขียนต่อจากรีวิวตอนที่แล้ว https://khunnaiver.blogspot.com/2021/04/Backpack-travel-Naka-Cave-Bueng-Kan.html 

เริ่มต้นการเดินทางทริปนี้ เขียนต่อจากรีวิวตอนที่แล้ว อรุณเบิกฟ้าเช้าวันใหม่ หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมเรือนไทยเกสต์เฮ้าส์แล้ว ก็เช็กเอาท์ออกจากที่พัก  ; https://khunnaiver.blogspot.com/2021/04/Backpack-travel-Naka-Cave-Bueng-Kan.html

ใช้บริการรถแท๊กซี่ส่วนบุคคลของโรงแรมเรือนไทยเกสต์เฮ้าบึงโขงหลง บริการมาส่งทีสี่แยกดงบัง เพื่อซื้อตั๋วรถโดยสารเดินทางไปยังตัวเมืองบึงกาฬ


และใช้บริการรถแท๊กซี่ส่วนบุคคลของโรงแรมเรือนไทยเกสต์เฮ้าบึงโขงหลง บริการมาส่งทีสี่แยกดงบัง เพื่อซื้อตั๋วรถโดยสารเดินทางไปยังตัวเมืองบึงกาฬ  ซึ่งระยะทางจากตัวอำเภอบึงโขงหลง-มาที่สี่แยกดงบังประมาณ 12 กิโลเมตรค่ะ 

พอมาถึงสี่แยกดงบัง ก็มาติดต่อซื้อตั๋วรถที่ผ่านไปเมืองบึงกาฬที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเลยค่ะ มีอยู่ร้านเดียวตรงสี่แยกดงบัง  โดยมีรถโดยสารหลายสายที่ผ่านบึงกาฬ เช่นรถตู้สาย 224 และรถตู้สายอื่นๆเช่น สายนครพนมอีกด้วย 

รถบัสโดยสารที่ดิฉันเดินทางไปบึงกาฬ ก็ไม่ใช่รถตู้นะคะ เป็นรถมินิบัส นั่งสบายดี ไม่แออัดเหมือนรถตู้ค่ะ 

โดยรถบัสโดยสารที่ดิฉันเดินทางไปบึงกาฬ ก็ไม่ใช่รถตู้นะคะ เป็นรถมินิบัส นั่งสบายดี ไม่แออัดเหมือนรถตู้ค่ะ 

นั่งรถโดยสารสายอุดร-บ้านแพง ราคา 80 บาทค่ะ 

ซึ่งเป็นรถโดยสารอุดร-บ้านแพงสาย224  ราคา 80 บาทจ้า

ส่วนระยะทางออกจากสี่แยกดงบัง มาเมื่องบึงกาฬประมาณ 75 กิโลเมตรค่ะ 

เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งจากสี่แยกดงบัง ก็มาถึงสถานีขนส่งเมืองบึงกาฬแล้วค่ะ 
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งจากสี่แยกดงบัง ก็มาถึงสถานีขนส่งเมืองบึงกาฬแล้วค่ะ 

จากนั้นก็ติดต่อใช้บริการรถสามล้อเครื่อง หรือรถตุ๊กๆอีสาน เพื่อเดินทางไปยังโรงแรมที่พักคืนนี้ 

ต่อจากนั้นก็ติดต่อใช้บริการรถสามล้อเครื่อง หรือรถตุ๊กๆอีสาน เพื่อเดินทางไปยังโรงแรมที่พักคืนนี้ 

ทริปนี้เดี๊ยนเลือกพักที่โรงแรมเป็นหนึ่งรีสอร์ท เนื่องจากว่าทางโรงแรมมีรถมอเตอร์ไซต์ให้เช่าด้วย

โดยทริปนี้เดี๊ยนเลือกพักที่โรงแรมเป็นหนึ่งรีสอร์ท เนื่องจากว่าทางโรงแรมมีรถมอเตอร์ไซต์ให้เช่าด้วย จริงๆแล้วจะพักอีกโรงแรม แต่ด้วยไม่สามารถหารถมอเตอร์ให้ได้ เลยต้องมาพักที่โรงแรมนี้ค่ะ 

ราคาห้องพักตกคืนละ 600 บาท ห้องพักกว้างขวางนะคะ แต่ค่อนข้างมีกลิ่นอับชื้นไปหน่อย

ซึ่งสภาพห้องพักที่โรงแรมเป็นหนึ่งรีสอร์ท ราคาห้องพักตกคืนละ 600 บาท ห้องพักกว้างขวางนะคะ แต่ค่อนข้างมีกลิ่นอับชื้นไปหน่อย ต้องเปิดหน้าหรือเปิดพัดลมระบาย ช่วยลดกลิ่นได้ระดับนึง

ภายในห้องพักมีทีวี ตู้เย็น น้ำดื่มฟรี 

ห้องน้ำส่วนตัว มีโซนแบ่งห้องอาบน้ำแยก และมีเครื่องทำน้ำอุ่นให้  

หน้าห้องพักมีโต๊ะนั่งระเบียงทานข้าวได้ แต่ตอนหัวค่ำยุงเยอะไปหน่อยค่ะ แนะนำว่านั่งอยู่ในห้องดีกว่า

ด้านหน้าห้องพักมีโต๊ะนั่งระเบียงทานข้าวได้ แต่ตอนหัวค่ำยุงเยอะไปหน่อยค่ะ แนะนำว่านั่งอยู่ในห้องดีกว่า ส่วนความเร็ว Inter Wifi ก็ถือว่าความเร็วอยู่ค่ะ  สรุปห้องพักที่โรงแรมเป็นหนึ่งรีสอร์ทในเมืองบึงกาฬ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์พอใช้ค่ะ หากใครที่จะมาแบกเป้ลุยเดี่ยวมาเที่ยวบึงกาฬคนเดียว และหากร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ไม่ได้ ก็สามารถมาพักค้างและเช่ารถมอเตอร์ไซต์ที่โรงแรมนี้ได้นะคะ 

และก็ได้ติดต่อเช่ารถมอเตอร์ไซต์ของทางโรงแรมไว้แล้วค่ะ 

และก็ได้ติดต่อเช่ารถมอเตอร์ไซต์ของทางโรงแรมไว้แล้วค่ะ 
เนื่องจากหาข้อมูลร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ในเมืองบึงกาฬใน Google แล้ว ไม่สามารถติดต่อได้ เดี๊ยนเลยติดต่อตามโรงแรมเอาค่ะ ปรากฎว่ามีโรงแรมเป็นหนึ่งรีสอร์ท ที่มีรถมอเตอร์ไซต์ให้เช่า เลยต้องมาเลือกพักที่นี่ 

ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซต์ในบึงกาฬ ตกวันละ 250 บาทค่ะ

ซึ่งค่าเช่ารถมอเตอร์ไซต์ในบึงกาฬ ตกวันละ 250 บาทค่ะ
มีค่ามัดจำรถ 1,000 บาท 
ส่วนน้ำมันรถเติมคืนเต็มถัง 
เมื่อได้รถมอเตอร์ไซต์เป็นพาหนะส่วนตัวแล้ว ก็สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้อย่างสะดวกสบาย 


ต่อไปก็มาตะลอนเช่ารถขับมอเตอร์ไซต์เที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในบึงกาฬกันเลยค่ะ  



ค่ะและหลังจากที่จบเรื่องรีวิวการเดินทางมาสถานีขนส่งผู้โดยสาร บขส.บึงกาฬและรีวิวโรงแรมเป็นหนึ่งรีสอร์ทไปเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็มาตะลอนเช่ารถขับมอเตอร์ไซต์เที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในบึงกาฬกันเลยค่ะ  

ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ให้แผ่นที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดบึงกาฬมาให้เปิดดูข้อมูลอีกด้วย 

ซึ่งตอนที่เดี๊ยนเดินทางมาถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารบึงกาฬ เดี๊ยนก็ได้ติดต่อแผนกประชาสัมพันธ์เพื่อขอทราบข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวในบึงกาฬ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ให้แผ่นที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดบึงกาฬมาให้เปิดดูข้อมูลอีกด้วย  ส่วนจะมีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้างนั้น วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมาสรุปจุดเช็กอินที่เที่ยวสวยๆ มาให้สไลด์เลื่อนดูกันดังนี้ค่ะ 

1.วัดโพธาราม เมืองบึงกาฬ (Wat Photaram,Bueng Kan city) 
1.วัดโพธาราม เมืองบึงกาฬ (Wat Photaram,Bueng Kan city) 
1.วัดโพธาราม เมืองบึงกาฬ (Wat Photaram,Bueng Kan city) 
1.วัดโพธาราม เมืองบึงกาฬ (Wat Photaram,Bueng Kan city) 

1.วัดโพธาราม (Wat Photaram,Bueng Kan city) เป็นหนึ่งในวัดสำคัญและเก่าแก่ศักดิ์สิทธ์คู่บึงกาฬมาอย่างยาวนาน โดยตั้งอยู่ห่างจากย่านตัวเมืองบึงกาฬประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบึงกาฬและชาวจังหวัดใกล้เคียงรวมไปถึงใน สปป.ลาว ที่ตั้งรกรากกันอยู่แถบลุ่มแม่น้ำโขงอีกด้วย ซึ่งภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใหญ่ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ฉาบปูน  เดิมเป็นพระพุทธรูปทองสำริดที่มีความงดงาม  แต่ต่อมามีการพอกปูนฉาบไว้ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นการอำพรางจากเหตุการณ์สงคราม ซึ่งในพระอุโบสถจะให้ผู้ชายเท่านั้นที่เข้าไปกราบไหว้ ส่วนสุภาพสตรีจะสามารถกราบไหว้ได้ที่ด้านหน้าของพระอุโบสถหรือองค์จำลองที่ประดิษฐานอยู่ข้างพระอุโบสถ 


2.วัดภูทอก (Wat Phu Tok) 
2.วัดภูทอก (Wat Phu Tok) 
2.วัดภูทอก (Wat Phu Tok) 
2.วัดภูทอก (Wat Phu Tok) 

2.วัดภูทอก (Wat Phu Tok) จัดเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโดดเด่นเป็นที่รู้จักมากที่สุดของจังหวัดบึงกาฬ เนื่องจากเป็นวัดที่มีทิวทัศน์สวยงาม มีทางเดินบันไดขึ้นเขาที่สูงและเสียวชัน แต่บรรยากาศระหว่างขึ้นไปบนภูทอกก็จะได้พบกับความงดงามของทัศนียภาพโดยรอบอย่างงดงาม  ซึ่งวัดภูทอก มีชื่อเต็มว่า วัดเจติยาคีรีวิหาร เป็นสำนักปฎิบัติธรรมที่อยู่บนภูทอก ธรรมชาติอันเงียบสงบ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงพุทธรักษ์ คือ การท่องเที่ยวใเชิงการแสวงบุญหรือธรรมจาริก นักท่องเที่ยวจะได้ประโยชน์จากการเที่ยวชมธรรมชาติคือขุนเขาลำเนาไพรและได้ศึกษาพระพุทธศาสนา โดยระหว่างทางขึ้นจะมีป้ายคำคมต่างๆที่เตือนใจไว้ให้นักท่องเที่ยวได้อ่านเตือนสติตัวเองตลอดเวลา  ซึ่งวัดเจติยาคีรีวิหารหรือภูทอก มีขนาดความสูงโดยวัดจากฐานถึงยอด 460 เมตร มีบันไดเรียงขึ้นตามชั้นต่างๆ 7 ชั้น และฐานชั้นที่ 6 วัดโดยรอบได้ 800 เมตร เป็นหน้าผาสูงชัน ด้านบนเป็นจุดชมวิวมีทัศนียสวยงาม ภายในวัดมีพื้นที่ธรณีสงฆ์ 78 ไร่ 3 งาน 18 ตาราง ถือเป็นสถานปฎิบัติและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดนักเดินทางมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย 


3.ภูสิงห์ หรือหินสามวาฬ (Hin Sam Wan or Phu Sing)
3.ภูสิงห์ หรือหินสามวาฬ (Hin Sam Wan or Phu Sing)
3.ภูสิงห์ หรือหินสามวาฬ (Hin Sam Wan or Phu Sing)
3.ภูสิงห์ หรือหินสามวาฬ (Hin Sam Wan or Phu Sing)
3.ภูสิงห์ หรือหินสามวาฬ (Hin Sam Wan or Phu Sing)

3.ภูสิงห์ หรือหินสามวาฬ (Hin Sam Wan or Phu Sing)  อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวถ่ายรูปเช็กอินที่มาแรงที่สุดอีกแห่งของจังหวัดบึงกาฬ ตั้งอยู่ทีบ้านโนนไทรทอง ต.โคกก่อง อ.บึงกาฬ จ.บึงกาฬ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร โดย ภูสิงห์ บึงกาฬ อยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายทอดตัวไปตามทิศเหนือ-ใต้ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอศรีวิไลกับอำเภอเมืองบึงกาฬ มีทรัพยากรป่าไม้ ที่ยังคงสภาพอุดมสมบูรณ์ ภูเขาหินทรายบนภูสิงห์เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาของเปลือกโลกในลักษณะต่างๆ โดยที่ภูสิงห์ มีหินสามวาฬ เนื่องจากมีหินขนาดเล็ก มีรูปร่างคล้ายปลาวาฬขนาดใหญ่ 3 ตัวคือ หินพ่อ หินแม่ และหินลูก ก็เลยเรียกหินดังกล่าวว่าหินสามวาฬ ปัจจุบันถูกจัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวถ่ายรูปชมวิวทีมีชื่อประจำจังหวัดบึงกาฬอีกด้วย 


4.วัดอาฮงศิลาวาส (wat ahong silawat) 
4.วัดอาฮงศิลาวาส (wat ahong silawat) 
4.วัดอาฮงศิลาวาส (wat ahong silawat) 
4.วัดอาฮงศิลาวาส (wat ahong silawat) 

4.วัดอาฮงศิลาวาส (wat ahong silawat) 


4.วัดอาฮงศิลาวาส (wat ahong silawat)  ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณแก่งอาฮง แอ่งน้ำขนาดใหญ่จากฝั่งไทยถึงฝั่งลาว มีความเชื่อกันว่าบริเวณหน้าวัด คือ จุดที่ลึกที่สุดของแม่น้ำโขงซึ่งมีความลึก 200 เมตร จึงทำให้เชื่อกันว่าที่นี่คือ จุดที่เป็น สะดือแม่น้ำโขง และในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมของทุกๆปี ก็สามารถมองเห็นแก่งอาฮง แก่งหินกลาง ลำน้ำโขงที่ปรากฎขึ้นมาเหนือน้ำ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งพักผ่อนและสถานที่ท่องเที่ยว รวมทั้งชาวบ้านโดยรอบก็ได้อาศัยทำการประมงอีกด้วย


5.วัดสว่างอารมณ์ หรือ วัดถ้ำศรีธน (Wat Sawang Arom (Wat Tham Sri Thon))
5.วัดสว่างอารมณ์ หรือ วัดถ้ำศรีธน (Wat Sawang Arom (Wat Tham Sri Thon))
5.วัดสว่างอารมณ์ หรือ วัดถ้ำศรีธน (Wat Sawang Arom (Wat Tham Sri Thon))
5.วัดสว่างอารมณ์ หรือ วัดถ้ำศรีธน (Wat Sawang Arom (Wat Tham Sri Thon))
5.วัดสว่างอารมณ์ หรือ วัดถ้ำศรีธน (Wat Sawang Arom (Wat Tham Sri Thon))

5.วัดสว่างอารมณ์ หรือ วัดถ้ำศรีธน (Wat Sawang Arom (Wat Tham Sri Thon)) ตั้งอยู่บ้านโนนศิลา อำเภอปากคาด ห่างจากตัวเมืองบึงกาฬประมาณ 35 กิโลเมตร  เป็นวัดสงฆ์สังกัดมหานิกาย โดยเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอปากคาด ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ณ บริเวณที่ตั้งของวัดมีความเป็นมาเล่าขานกันตั้งแต่ครั้งโบราณกาล ซึ่งยืนยันด้วยหินทรายมากมายที่มีอายุนับร้อยล้านปี โดยภายในวัดมีถ้ำประดิษฐานพระพุทธรูปและมีเจดีย์สวยงามบนฐานหินโดดเด่น มีจุดชมวิวที่สวยงาม มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานภายในวัดให้กราบไหว้ขอพร ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาและทางธรรมชาติที่น่าสนใจอีกแห่ง


6.ศาลเจ้าแม่สองนาง  (Bueng Kan Shrine )
6.ศาลเจ้าแม่สองนาง  (Bueng Kan Shrine )

6.ศาลเจ้าแม่สองนาง  (Bueng Kan Shrine ) ถือว่าเป็นศาลศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเมืองบึงกาฬให้ความศรัทธามากราบไหว้กัน โดยตั้งอยู่หน้าโรงพยาบาลบึงกาฬ ชาวบึงกาฬยกย่องว่าการบูชาเจ้าแม่สองนางคือสองศรีพี่น้องนามว่า กิมเหลากับกิมเภา ซึ่งเป็นบุตรของ ญาพ่อผ้าขาว หรือ ญาพ่อชีปะขาว โดยญาพ่อนั้นหมายถึง ผู้นำประจำถิ่น ที่มีคาถาอาคมรักษาผู้ป่วยให้หายขาดได้ อีกทั้งเป็นผู้มีเวทมนตร์ขจัดภูตผีปีศาจและสัตว์ป่าที่สิงสถิตอยู่เหนือหนองกุดทิง มิให้เข้ามาคุกคามชีวิตชาวชุมชนแถบนั้นได้


7.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง
7.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง
7.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง
7.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง

7.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง แหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 11,000 ไร่ อยู่ในเขตอำเภอบึงโขงหลง เป็นโครงการเก็บกักน้ำเพื่อการเกษตรในหน้าแล้งของกรมชลประทาน ประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลงเมื่อปี พ.ศ.2525 นอกจากนี้ยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลก (Ramsar Site) ลำดับที่ 1,098 ของโลก (Wetland of international Importance) เมื่อปี พ.ศ.2544 และเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำลำดับที่ 2ของประเทศไทยอีกด้วย

8.หาดคำสมบูรณ์ (kham sombun beach bueng kan)
8.หาดคำสมบูรณ์ (kham sombun beach bueng kan)
8.หาดคำสมบูรณ์ (kham sombun beach bueng kan)
8.หาดคำสมบูรณ์ (kham sombun beach bueng kan)

8.หาดคำสมบูรณ์ (kham sombun beach bueng kan)เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใน อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ที่บึงโขงหลงแห่งนี้ นอกจากจะมีชายหาดทอดยาวแล้ว ยังเหมาะแก่การเล่นน้ำของเด็กๆและผู้ใหญ่อีกด้ว อีกทั้งยังเป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์นก โดยเฉพาะนกเป็ดน้ำ ห่านป่า นกยาง นกกระเต็นที่จะอพยพมาชั่วคราวในช่วงฤดูหนาว ซึ่งจุดชมนก จะอยู่ที่ดอนสวรรค์ มีซุ้มไพรหญ้าให้บริการอยู่ริมน้ำ ทำให้เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่มีคนมาเยือนเยอะมาก โดยเฉพาะช่วงเทศกาล 


9.ตลาดถนนคนเดินข้าวเม่าริมโขง ( Bueng Kan walking street market)
9.ตลาดถนนคนเดินข้าวเม่าริมโขง ( Bueng Kan walking street market)
9.ตลาดถนนคนเดินข้าวเม่าริมโขง ( Bueng Kan walking street market)
9.ตลาดถนนคนเดินข้าวเม่าริมโขง ( Bueng Kan walking street market)
9.ตลาดถนนคนเดินข้าวเม่าริมโขง ( Bueng Kan walking street market)


9.ตลาดถนนคนเดินข้าวเม่าริมโขง ( Bueng Kan walking street market) อยู่ถนนเลียบริมแม่น้ำโขง ต.บึงกาฬ อ.บึงกาฬ จ.บึงกาฬ เปิดศุกร์-เสาร เวลา 16.00 เป้นต้นไป ตลาดถนนข้าวเม่าริมโขงเป็นตลาดต้องชมแห่งแรกของจังหวัดบึงกาฬ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนจังหวัดบึงกาฬได้เดินเลาะเลือกซื้อ เลือกหาของกินอร่อยๆ และสัมผัสบรรยากาศริมแม่น้ำโขง ภายในตลาดมีการจำหน่ายอาหารของดีประจำท้องถิ่นและสินค้า OTOP ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดบึงกาฬอีกด้วย

บรรยากาศในตัวเมืองบึงกาฬก็ไม่ได้วุ่นวายเหมือนเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ออกสไตล์ชนบทเป็นอาคารเรือนไม้แบบเรียบง่าย

ในส่วนของอาหารการกินยามเช้า ที่เมืองบึงกาฬก็มีร้านอาหารอร่อยๆให้แวะไปลิ้มลองทานหลายแห่งเลยค่ะ โดยบรรยากาศในตัวเมืองบึงกาฬก็ไม่ได้วุ่นวายเหมือนเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ออกสไตล์ชนบทเป็นอาคารเรือนไม้ ดูไปแล้วก็คล้ายๆกับเชียงคาน อะไรประมาณนั้น 

อาหารการกินถ้านึกไม่ออก ก็คงไปจบที่ผัดกะเพราหมูสับไข่ดาวค่ะ

ส่วนอาหารการกินถ้านึกไม่ออก ก็คงไปจบที่ผัดกะเพราหมูสับไข่ดาวค่ะ อาหารสิ้นคิด ทานง่าย อร่อยด้วยค่ะ 

ใครที่มาเที่ยวแถบบึงกาฬ  ก็คงไม่พลาดจะต้องแวะมาลิ้มลองทานข้าวจี่ปากซันดูนะคะ

หากใครที่มาเที่ยวแถบบึงกาฬ  ก็คงไม่พลาดจะต้องแวะมาลิ้มลองทานข้าวจี่ หรือแซนสวิสฝรั่งเศสไตล์อีสานสักหน่อยล่ะค่ะ 

จัดไปค่ะ 1 กล่อง ของร้านข้าวจี่ปาเต้ สาขาปากซัน บึงกาฬ กล่องล่ะ 50 บาท 

ใหนๆก็มาทั้งที ก็จัดไปค่ะ 1 กล่อง ของร้านข้าวจี่ปาเต้ สาขาปากซัน บึงกาฬ กล่องล่ะ 50 บาท 

ในส่วนความพิเศษของข้าวจึ่สไตล์อีสาน ก็คงเป็นตัวแป้งขนมปังที่นิ่มนุ่ม ไม่แข็งเหมือนแป้งขนมปังฝรั่งเศส

และในส่วนความพิเศษของข้าวจึ่สไตล์อีสาน ก็คงเป็นตัวแป้งขนมปังที่นิ่มนุ่ม ไม่แข็งเหมือนแป้งขนมปังฝรั่งเศส และมีกลิ่นของเนย ไส้ด้านในเป็นหมูยอมีแครอทและผักอื่นๆกลิ่นหอม รสชาติออกเค็ม ทานกับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวานคล้ายน้ำจิ้มลูกชิ้น ทานไปแล้วรสชาติอร่อยมากๆ นึกแล้วก็อยากทานอีกค่ะ 


และเมื่อได้รับประทานอาหารมื้อเที่ยงจนอิ่มแล้วก็ขับรถมอเตอร์ไซต์ฝ่าแดดร้อนๆ ไปออนซอนไปเช็กอินตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆต่อค่ะ 
ซึ่งในบึงกาฬมีสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดตาและตราตรึงใจ งามวิไลอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะใครที่ชอบถ่ายรูป ต้องไม่พลาดไปเช็กอินที่หินสามวาฬ เรียกว่าช่วงนี้ฮอตฮิต ติดลมบนสุดๆ 


นอกจากนี้ยังมีผลไม้ป่าแปลกๆแถบอีสานให้ลิ้มลองชิมกันด้วย ลักษณะคล้ายลูกหว้าแต่ผลเล็กว่า มีสีแดงๆ คนแถบนี้เรียกผลไม้นี้ว่า หมากหวดข่า รสชาติออกหวานๆฝาดๆ อร่อยดีค่ะ เพราะในกรุงเทพไม่มีขายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำเลย 

ก็กลับไปเช็กเอาท์ออกจากโรงแรมที่พัก จากนั้นก็นั่งสามล้อเครื่อง มายังสถานีขนส่งบึงกาฬ

หลังจากที่ได้เช่ารถมอเตอร์ไซต์ตะลอนขับเช็กอินถ่ายรูปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆแล้ว ก็กลับไปเช็กเอาท์ออกจากโรงแรมที่พัก จากนั้นก็นั่งสามล้อเครื่อง มายังสถานีขนส่งบึงกาฬ เพื่อซื้อตั๋วรถตู้โดยสารสาย 224 
 
นั่งรถตู้โดยสารออกจากเมืองบึงกาฬ ไปสุดปลายทางที่ ห้างเซ็นทรัลพลาซ่าอุดรธานี

แล้วก็นั่งรถตู้โดยสารออกจากเมืองบึงกาฬ ไปสุดปลายทางที่ ห้างเซ็นทรัลพลาซ่าอุดรธานี ซึ่งระยะทางค่อนข้างไกลพอสมควร เพราะผ่านหลายอำเภอ ผ่านเมืองคาย ก็จะมาหยุดสุดทางที่เมืองใหญ่อย่างอุดรธานี

ถึงห้างเซ็นทรัลพลาซ่า จากนั้นก็ใช้บริการนั่งรถแท๊กซี่มาที่สนามบินอุดรธานี เพื่อมาให้ทันเวลาเช็กอิน และเดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพค่ะ.

ใช้เวลานั่งรถตู้โดยสารจากบึงกาฬ มาสุดปลายทางที่เมืองอุดร เกือบ 3 ชั่วโมง ก็ถึงห้างเซ็นทรัลพลาซ่า จากนั้นก็ใช้บริการนั่งรถแท๊กซี่มาที่สนามบินอุดรธานี เพื่อมาให้ทันเวลาเช็กอิน และเดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพค่ะ....เป็นอับจบทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวสกลนคร-ถ้ำนาคา-เมืองบึงกาฬค่ะ


สำหรับทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวบึงกาฬ ก็ขอจบแต่งเพียงเท่านี้ จริงๆแล้วในบึงกาฬ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้แวะไปเที่ยวชมอีกมากมายหลายแห่งเลยค่ะ วันหยุดลาพักร้อนกลางปีหน้าฝนนี้ เพื่อนๆคุณผู้อ่านที่รักการทัศนาจร ก็ลองแวะมาออนซอนเที่ยวชมกันดูนะคะ รับรองว่าได้สวยงามถูกใจ แถมได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับไปอย่างแน่นอนค่ะ


ก่อนจบก็ต้องขอขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆคน ที่เสียสละเวลาเข้ามาสุขล้นเปิดสไลด์เลื่อนดูกัน หากข้อมูลดังกล่าวในเว็ปบล็อก มีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยด้วยนะคะ หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้งในบทความถัดไปค่ะ....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
----------------------------------------------------------------------------

บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้


จัดทริปลุยเดี่ยวไปรีวิวเที่ยวถ้ำนาคา ไม่มีรถส่วนตัวก็ไปได้ คลิ๊กดูบทความที่เที่ยวค่ะ>>

แบ่งปันรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวถ้ำนาคา ไม่มีรถส่วนตัว แวะไปรื่นระรัวทัวร์ได้อย่างสบายอุรา มีที่ใหนบ้างหนา ตามไปลั๊ลลากันเลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

แบ่งปันเด้อกับทริปเช่ารถขับเที่ยวสกลนคร มีที่ใหนน่าไปออนซอนบ้าง คลิ๊กดูรีวิว>>

มาเด้อ..แบกเป้มารีวิวเที่ยวสกลนคร แวะไปออนซอนเช็กอินตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งดูกันจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

ตอนจบทริปรีวิวแบกเป้เที่ยวกรุงโคเปนเฮเกน ในเดนมาร์ก มีที่เที่ยวอะไรบ้าง>>>

ตอนจบกับรีวิวแบกเป้เที่ยวกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงแห่งเดนมาร์ก มีที่เที่ยวอะไรให้แวะเช็กอินถ่ายภาพอะไรบ้าง ตามไปดูกันค่ะ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

เก็บตกรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวแวะเที่ยวเมืองคอเลง เมืองเล็กๆน่ารัก ตามไปดูกันจ้า>>

รีวิวแบกเป้เดินทางไกล แวะไปเที่ยวเมืองคอเลง เมืองเล็กๆน่ารัก ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน มีที่เที่ยวอะไรบ้างนั้น ตามไปชมกันค่ คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองสตูล เมืองน่าอยู่ เดินดูภาพ street Art ตามไปเที่ยวกันค่ะ>>

มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองสตูล เมืองเล็กๆน่าอยู่ เดินเช็กอินดูภาพ street art มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรอีกบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

แบ่งปันทริปรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวเมืองฮ้มบูร์ก มีที่เที่ยวอะไรให้เช็กอินบ้าง>>>

เก็บตกรีวิวเปิดโลกกว้าง เดินทางไปเที่ยวเมืองฮัมบูร์ก เมืองท่าเรือเก่าแก่ มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรให้แลชมกันบ้าง คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

เก็บตกรีวิวเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ ดำน้ำดูปะการังใน 1 วัน ไปที่ใหนบ้าง ตามไปชมกันค่ะ>>>

แบ่งปันรีวิวแบกเป้เที่ยวเกาะหลีเป๊ะ กับทริปโปรแกรมดำน้ำดูปะการัง 600 บาทใน 1 วัน ไปเที่ยวเกาะใหนบ้างนั้น ตามไปชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

เปิดโลกกว้าง ทริปรีวิวเที่ยวกรุงเบอร์ลิน มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรให้เช็กอินบ้าง>>>
แบ่งปันทริปรีวิวแบกเป้เที่ยวกรุงเบอร์ลิน เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้เช็กอินบ้าง แวะตามไปเที่ยวชมกันดูจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

เก็บตกแบกเป้ไปเที่ยวแม่สอดในฤดูฝน มีที่เทียวสุขล้นดลฤทัย ที่ใหนบ้าง ตามไปดูกัน>>>
เก็บตก รีวิวเที่ยวอำเภอแม่สอด และอำเภอบ้านตากในฤดูฝน สวยสุขล้นธรรมชาติสดใส มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันจ้า คลิ๊กดูรีวิวภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
 

แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองตาก มีแหล่งท่องเที่ยวให้แวะไปกระชากใจหลายแห่ง ตาไปกันค่ะ>>
เที่ยวหน้าฝน รีวิวทริปเช่ารถเที่ยวเมืองตาก มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรให้กระชากใจบ้าง ตามไปชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>

รีวิวแบกเป้พาไปเที่ยวเมืองโรเธนเบิร์ก เมืองสวยน่ารัก มีที่เที่ยวอะไรบ้าง>>
เปิดโลกกว้าง เดินทางไปเที่ยวเมืองโรแมนติก สไตล์ชิคๆน่ารักที่เมืองโรเธนเบิร์ก เดินทางไปอย่างไร มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันจ้า คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

รีวิวเช่ารถขับตะลอนเที่ยวเมืองกำแพงเพชร กินของเด็ดอร่อยเริ่ด คลิ๊กดูที่เที่ยวจ้า>>
แบ่งปันทริปแบกเป้ไปเที่ยวเมืองกำแพงเพชร กินของเด็ดเมืองกล้วยไข่  มีแหล่งท่องเที่ยวและจุดเช็กอินอะไรบ้าง ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

รีวิวปั่นจักรยานไปเที่ยวคุ้งบางกะเจ้า 1 วัน ยลสุขสันต์หาของกินเริ่ดๆ คลิ๊กดูภาพรีวิวจ้า>>>
รีวิวทริปสั้นๆ ใกล้กรุง 1 วัน ปั่นจักรยานไปเที่ยวที่คุ้งบางกะเจ้า กินมะพร้าวอร่อยเริ่ดสะแมนแตน คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น