 |
| เพื่อไม่ให้เว็ปไซต์ร้างไป จัดทริปวันหยุดลาพักร้อนเดือนนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมารีวิวทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวกับโปรแกรมเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ 4 วัน 3 คืน ดำน้ำดูปะการัง Day trip 1 วัน ไปเที่ยวเกาะใหนบ้าง มาให้ได้ชมกันจ้า |
เมื่อเอ่ยถึงเกาะสวาท หาดสวรรค์ที่สวยที่สุดอีกแห่งในท้องทะเลอันดามันทางภาคใต้ของเมืองไทย เห็นจะต้องยกให้ เกาะหลีเป๊ะ เกาะในจังหวัดสตูล เป็นหนึ่งใน Destination หรือจุดมุ่งหมายของใครหลายๆคน ที่ต้องปักหมุดมาเที่ยวชมอย่างน่าภิรมย์ใจ พร้อมเช็กอิน ฟินกับน้ำทะเลใสที่เกาะแห่งนี้สักครั้ง หากคุณผู้อ่านและเหล่าผู้รักทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภาคนใหน ที่หลงใหลในห้วงมหาสมุทอันดามัน คงไม่พลาดที่จะมาดื่มด่ำให้ฉ่ำฤทัยไปน้ำทะเลสีฟ้าครามอร่ามจับใจที่นี่สักครา แถมมีอาหารทะเลอร่อยๆให้เลือกทาน กันอย่างสำราญเริงใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนอีกด้วย
 |
| แม้ว่าเกาะหลีเป๊ะจะอยู่ห่างไกลจากชายฝั่งนานทะเลอ่าวไทย ไปไกลเกือบสุดขอบน่านน้ำทะเลไทย แต่กลิ่นอายมนต์ขลังยังคงกำราบซ่าบซ่าน ร้าวรานถึงทรวงในตลอดกาล |
ถึงแม้ว่าเกาะหลีเป๊ะจะอยู่ห่างไกลจากชายฝั่งนานทะเลอ่าวไทย ไปไกลเกือบสุดขอบเขตแดนของน่านน้ำทะเลไทย แต่กลิ่นอายมนต์ขลังยังคงกำราบซ่าบซ่าน ร้าวรานถึงทรวงในตลอดกาล อีกทั้งขจรกลอนไกลเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกล่า สมฉายาว่าเป็นมัลดีฟของเมืองไทย ที่ยังคงความงดงามดุจมรกตอำพัน ดั่งสวรรค์ชั้นฟ้าร่วงระย้าลงมาสู่ดินอย่างแท้จริง นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมของเหล่าคู่รักฮันนีมูน และครอบครัว นิยมมารื่นระรัว จัดทัวร์โบกรถ ลงเรือ ขึ้นเหนือ ล่องใต้ เพื่อมาพักผ่อนที่เกาะแห่งนี้กันอย่างไม่ขาดสายอีกด้วย
 |
| จัดทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวมาเที่ยวเกาะหลีเป๊ะสักครั้ง หลังจากที่หมายมั่น ปั้นฝันไว้นาน แต่ก็ไม่ได้มาสักที |
และในช่วงวันหยุดยาวเดือนนี้ เดี๊ยนก็เลยขอจัดทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวมาเที่ยวเกาะหลีเป๊ะสักครั้ง หลังจากที่หมายมั่น ปั้นฝันไว้นาน แต่ก็ไม่ได้มาสักที ในช่วงหลังจากปลดล็อกสถานการณ์โรคระบาดโควิด19 หลายโรงแรมที่พักในเกาะหลีเป๊ะ จัดโปรโมชั่นลดราคากันแบบถูกสุดๆ เพราะปกติราคาที่พักในเกาะแห่งนี้ คือแพงมากๆ ในช่วงวิกฤตแบบนี้ ก็ต้องไปเที่ยวเพื่อเป็นการกระจายรายได้สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและโรงแรมได้มีลมหายใจอยู่ต่อไปอีกนานค่ะ
 |
| เพื่อไม่ให้เว็ปไซต์ร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า เลยขอมารีวิวเที่ยวเกาะหลีะเป๊ะ 4 วัน 3 คืนแบบสโลว์ไลฟ์ไปแบบช้าๆให้ได้สไลด์เลื่อนดูกันค่ะ |
เพื่อไม่ให้เว็ปไซต์ร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า เลยขอมารีวิวเที่ยวเกาะหลีะเป๊ะ 4 วัน 3 คืนแบบสโลว์ไลฟ์ไปแบบช้าๆให้ได้สไลด์เลื่อนดูกันค่ะ ภาพอาจไม่สวยเท่าไหร่ เพราะกล้องถ่ายรูปเริ่มเก่า ภาพที่ถ่ายเลยออกมาแนวๆกากๆบ้าง ต้องขอภัยค่ะ จุดเด่นของทริปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ คงเป็นโปรแกรมเที่ยว Day trip ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น ซึ่งเป็น Highlight เด่นของเกาะนี้ โดยมีแพ็คเกจเที่ยวให้เลือกเที่ยวโซนในและโซนนอน ราคาต่างกัน
 |
| สำหรับราคาแพ็คเกจเที่ยว Day trip ดำน้ำรอบโซนใน ราคาอยู่ที่ 500 บาท |
สำหรับราคาแพ็คเกจเที่ยว Day trip ดำน้ำรอบโซนใน ราคาอยู่ที่ 500 บาท
แต่ถ้าแพ็คเกจเที่ยวทั้งโซนในและโซนนอก ราคาอยู่ที่ 600 บาท มาเที่ยวหลีเป๊ะทั้งที คงไม่มีโอกาสมาบ่อยครั้งนัก เดี๊ยนเลยขอซื้อแพ็คเกจเที่ยวทั้งโซนนอกและโซนในเลยค่ะ เป็นการ Join trip คือถ้ามาคนเดียวก็ติดต่อซื้อขอร่วมแจมไปกับลูกค้าคนอื่นด้วยได้ โดยแพ็คเกจดำน้ำนี้ ดิฉันติดต่อซื้อกับทางที่พักค่ะ
 |
| น้ำทะเลและชายหาดทรายสีขาว ที่สามารถลงเล่นได้อย่างสุขสกาวใจ |
และก่อนจะเข้าสู่ภาพรีวิวโปรแกรม Join trip snorkeling tour koh lipe (ทัวร์ดำน้ำดูปะการัง) เราก็มารู้จักประวัติและที่มาของเกาะแห่งนี้ก่อนสักเล็กน้อย พอสังเขปนะคะ
 |
| ก่อนจะเข้าสู่ภาพรีวิวที่เที่ยวโปรแกรม Join trip snorkeling tour koh lipe (ทัวร์ดำน้ำดูปะการัง) มาอ่านสาระน่ารู้เกี่ยวกับเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล (About koh Lipe, Satun provinc) กันก่อนสักเล็กน้อย |
มาอ่านสาระน่ารู้เกี่ยวกับเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล (About koh Lipe, Satun provinc) กันก่อนสักเล็กน้อย
เกาะหลีเป๊ะ เป็นหนึ่งในเกาะกลางทะเลอยู่ในเขตจังหวัดสตูล มีความกว้างระหว่างหัวเกาะไปถึงท้ายเกาะประมาณ 3 กิโลเมตร จัดเป็นเกาะขนาดเล็ก อยู่ในเขตอำนาจการควบคุมของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา ถือเป็นเกาะที่อยู่สุดท้ายทางตอนใต้ของทะเลอันดามันของไทย เนื่องจากพื้นที่ถัดไปคือทะเลสากลที่เชื่อมกับทะเลของประเทศเพื่อนบ้าน คือ มาเลเซีย
 |
| คำว่าหลีเป๊ะเป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำภาษามลายู “นิปิส” แปลว่า “บาง” มีความหมายเหมือนกับแผ่นกระดาษ หรือแบนเรียบ |
ชื่อที่มาของเกาะหลีเป๊ะ นั้นก็มีที่มาอย่างน่าสนใจ โดยคำว่าหลีเป๊ะเป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำภาษามลายู “นิปิส” แปลว่า “บาง” มีความหมายเหมือนกับแผ่นกระดาษ หรือแบนเรียบ ตามลักษณะเกาะที่แบนๆไม่มีภูเขาสูงใหญ่มากนัก และขนาดของตัวเกาะมีลักษณะคล้ายกับอุปกรณ์บูมเมอแรง มีทางเดินเชื่อมจากหน้าเกาะไปยังหลังเกาะได้ ระยะทางไม่ไกล สามารถเดินเที่ยวหาดต่างๆรอบเกาะได้สบายๆ ทำให้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนชาวเลหรือชาวประมงท้องถิ่นในเกาะที่ตั้งรกรากอาศัยอยู่ในเกาะหลีเป๊ะมาอย่างนาน
 |
| จากที่ภาพหมู่เกาะที่โอบล้อมไปด้วยน้ำทะเลใสสีฟ้าครามของเกาะหลีเป๊ะออกปรากฎไปสู่สายตาชาวโลก เกาะแห่งนี้ก็กลายเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวไปทั่วสารทิศ |
หลังจากที่ภาพหมู่เกาะที่โอบล้อมไปด้วยน้ำทะเลใสสีฟ้าครามของเกาะหลีเป๊ะออกปรากฎไปสู่สายตาชาวโลก เกาะแห่งนี้ก็กลายเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวไปทั่วทุกมุมโลก ทำให้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมตลอดกาล ที่ผู้หลงใหลและรักทะเลต้องมาเสพสุขที่เกาะสวรรค์แห่งนี้สักครั้ง
 |
| จุดเด่นของทางเกาะหลีเป๊ะ คือ ความเป็นธรรมชาติของปะการังรายล้อมรอบเกาะ มีเวิ้งอ่าวที่สวยงาม หาดทรายละเอียดนิ่มนวลขาวเหมือนผงแป้ง |
จุดเด่นของทางเกาะหลีเป๊ะ คือ ความเป็นธรรมชาติของปะการังรายล้อมรอบเกาะ มีเวิ้งอ่าวที่สวยงาม หาดทรายละเอียดนิ่มนวลขาวเหมือนผงแป้ง เกาะหลีเป๊ะ มีชายหาดที่สำคัญ ๆ อยู่ 4 ชายหาดได้แก่ หาดพัทยา,หาดซันไรซ์,หาดซันเซท และหาดคาร์มา ซึ่งหันหน้าเข้ากับเกาะอาดัง
 |
| ส่วนชายหาดอันโดดเด่นอย่างหาดพัทยา ชื่อเดิมเรียกเป็นภาษามลายูว่า “ หาดปะไตดายา” หรือ “หาดลมตะวันตก” นักท่องเที่ยวชาวตะวันตกเรียกเพี้ยนเป็น “พัทยา” และเรียกมาถึงปัจจุบัน |
และหาดที่โดดเด่นอย่าง หาดพัทยา ชื่อเดิมเรียกเป็นภาษามลายูว่า “ หาดปะไตดายา” หรือ “หาดลมตะวันตก” นักท่องเที่ยวชาวตะวันตกเรียกเพี้ยนเป็น “พัทยา” จนติดปากผู้คนไปแล้ว ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์กลางท่าเรือสปีดโบท ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกมีหาดทรายยาว โดยหาดแห่งนี้ได้มีนักลงทุนเอกชนมาปลูกสร้างรีสอร์ทโรงแรมไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวหลายแห่ง มีตลาดถนนคนเดิน ร้านค้า ร้านอาหารมากมาย ธุรกิจอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจึงรุ่งเรืองมากๆด้วย
 |
| การเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดคือ เริ่มจากบินมาลงสนามบินหาดใหญ่ ต่อรถตู้ไปท่าเรือปากบารา จ.สตูล และต่อเรือสปีดโบ๊ทไปยังเกาะหลีเป๊ะ |
ส่วนการเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดคือ เริ่มจากบินมาลงสนามบินหาดใหญ่ ต่อรถตู้ไปท่าเรือปากบารา จ.สตูล และต่อเรือสปีดโบ๊ทไปยังเกาะหลีเป๊ะ โดยต้องวางแผนติดต่อจองตั๋วรถตู้ + เรือสปีดโบทไว้เสียแต่เนิ่นๆ เพื่อจะได้ควบคุมค่าใช้จ่ายและงบประมาณได้
และหลังจากที่ได้อ่านข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับเกาะหลีเป๊ะไปแล้ว ต่อไปก็มาดูภาพรีวิวการเดินทางและภาพโปรแกรมเที่ยวดำน้ำดูปะการังทั้งโซนนอกและโซนในเกาะหลีเป๊ะได้เลยค่ะ
 |
| เริ่มต้นนั่งเครื่องบินออกจากสนามบินดอนเมืองแต่เช้าตรู่ เพื่อเดินทางไปลงที่สนามบินหาดใหญ่ |
เดินทางไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะทริปนี้ เริ่มต้นนั่งเครื่องบินออกจากสนามบินดอนเมืองแต่เช้าตรู่ เพื่อเดินทางไปลงที่สนามบินหาดใหญ่ มาเที่ยววันธรรมดา ผู้โดยสารบนเครื่องไม่มากนัก เนื่องจากวันที่ไปเที่ยวเป็นช่วงที่คนเริ่มกลับมาทำงานกันแล้ว
 |
| ทานอาหารเช้าบนเครื่องบินเติมพลังก่อนค่ะ |
ทานอาหารเช้าบนเครื่องบินเติมพลังก่อนค่ะ มีข้าวผัดเห็ดหอมกับผักรวม ทานกับน้ำขิงร้อนๆ
 |
| ใช้เวลานั่งเครื่องบิน 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงสนามบินหาดใหญ่แล้วล่ะค่ะ |
ใช้เวลานั่งเครื่องบิน 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงสนามบินหาดใหญ่แล้วล่ะค่ะ
 |
| เดินออกมารอรถตู้โดยสารไปท่าเรือปากราที่ด้านหน้าอาคารขาเข้าสนามบิน อยู่ตรงข้าม 7-eleven |
จากนั้นก็เดินออกมารอรถตู้โดยสารไปท่าเรือปากราที่ด้านหน้าอาคารขาเข้าสนามบิน อยู่ตรงข้าม 7-eleven
 |
| ดิฉันได้ซื้อตั๋วล่วงหน้าไว้แล้วค่ะ เป็นของบริษัท easylipe พอดีค้นใน google ก็อยู่หน้าแรกเลย |
โดยดิฉันได้ซื้อตั๋วล่วงหน้าไว้แล้วค่ะ เป็นของบริษัท easylipe พอดีค้นใน google ก็อยู่หน้าแรกเลย แต่ก็มีรถตู้ของบริษัทท่องเที่ยวหลายเจ้านะคะ และราคาไม่ต่างกันมากนัก
 |
| และด้านในรถตู้ของบริษัทขายตั๋วไปเท่าเรือปากบารา ราคา 300 บาท |
ด้านในรถตู้ของบริษัทขายตั๋วไปเท่าเรือปากบารา ราคา 300 บาท ผู้โดยสารไม่เยอะมากนัก เนื่องจากเป็นวันธรรมดา
 |
| ใช้เวลานั่งรถตู้จากสนามบินหาดใหญ่ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆก็มาถึงท่าเรือปากบาราแล้วล่ะค่ะ |
ใช้เวลานั่งรถตู้จากสนามบินหาดใหญ่ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆก็มาถึงท่าเรือปากบาราแล้วล่ะค่ะ เมื่อมาถึงทางรถตู้ก็ใหไปติดต่อรับตั๋วเรือก่อนค่ะ พอดียุ่งมั่วจ่ายเงินค่าธรรมเนียม เลยไม่ได้ถ่ายรูปตั๋วเรือไว้ค่ะ เป็นตั๋วเรือขาไป- และขากลับ ราคารวม 800 บาทค่ะ
 |
เดินไปรอขึ้นเรือสปีดโบทที่อาคารขาออกท่าเรือ ก็จะผ่านร้านขายขนมของฝากขึ้นชื่อของสตูลหลายอย่าง
|
ระหว่างเดินไปรอขึ้นเรือสปีดโบทที่อาคารขาออกท่าเรือ ก็จะผ่านร้านขายขนมของฝากขึ้นชื่อของสตูลหลายอย่าง
 |
| ก่อนเข้าไปรอขึ้นเรือด้านใน ก็เสียค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติ + ค่าธรรมเนียมท่าเรือ |
ก่อนเข้าไปรอขึ้นเรือด้านใน ก็เสียค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติ 40 บาท + ค่าธรรมเนียมท่าเรืออีก 20 บาท รวม 60 บาทค่ะ
 |
| เมื่อเข้ามาด้านในก็ยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่เพื่อรับบัตร Check in ticket ได้คิวหมายเลขที่ 30 เที่ยวเรือเวลา 11.30 น. |
หลังจากเสียค่าธรรมเนียมท่าเรือและค่าเข้าของอุทยานแห่งชาติแล้ว เมื่อเข้ามาด้านในก็ยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่เพื่อรับบัตร Check in ticket ได้คิวหมายเลขที่ 30 เที่ยวเรือเวลา 11.30 น.
 |
| ระหว่างรอ เดี๊ยนเลยซื้อขนมของฝากขึ้นชื่อประจำจังหวัดสตูล ที่มีชื่อว่าขนมบุหงาบุดะมาเปิดทานแก้หิวไปก่อนเลยค่ะ |
ระหว่างรอขึ้นเรือ เดี๊ยนเลยซื้อขนมของฝากขึ้นชื่อประจำจังหวัดสตูล ที่มีชื่อว่าขนมบุหงาบุดะมาเปิดทานแก้หิวไปก่อนเลยค่ะ เพราะตอนนั่งเรือจะทานไม่ได้แล้วนะคะ ขนมสีสันน่าทาน ใส้ด้านในเป็นมะพร้าว ลักษณะเหมือนขนมเกษรลำเจียรเป๊ะเลยค่ะ แต่บุหงาบุดะจะค่อนข้างแห้งกว่า อร่อยคนละแบบ
 |
| ขนมอีกอย่างที่เป็นของฝากขึ้นชื่อทีนีคือ ขนมผูกรัก |
และขนมอีกอย่างที่เป็นของฝากขึ้นชื่อทีนีคือ ขนมผูกรัก ใส้ด้านในเป็นปลาบด อารมณ์เหมือนกินขนมปั้นขลิปค่ะ แต่แป้งขนมผูกรักแป้งบางกว่า ชิ้นเล็กๆดูมุ้งมิ้งน่ารักดี
 |
| ยังไม่หมดค่ะ ซื้อครบ 3 กล่อง 100 บาท มีขนมลูกกอ ซื้อมาทานด้วย |
ยังไม่หมดค่ะ ซื้อครบ 3 กล่อง 100 บาท มีขนมลูกกอ ขนมคุกกี้ลักษณะรสชาติคล้ายขนมกลีบลำดวนค่ะ แต่ด้านในแป้งผสมถั่วลงไปด้วย
 |
| เวลา 11.30 น. ก็นั่งเรือออกจากท่าเรือปากบารา |
เวลา 11.30 น. ก็นั่งเรือออกจากท่าเรือปากบารา
 |
| แวะสถานที่ท่องเที่ยวจุดแรกก่อนเลยคือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา |
นั่งเรือสปีดโบทแวะสถานที่ท่องเที่ยวจุดแรกก่อนเลยคือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา โดยจะจอดแวะให้ไปยืดเส้นยืดสาย เดินถ่ายรูปบนเกาะประมาณ 15 นาทีค่ะ
 |
ไม่พลาดมาถ่ายรูปเช็กอินคู่ป้ายของอุทยานเพื่อให้รู้ว่าฉันมาถึงแล้วนะ
|
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เมื่อมาถึงเกาะตะรุเตา ก็ไม่พลาดมาถ่ายรูปเช็กอินคู่ป้ายของอุทยานเพื่อให้รู้ว่าฉันมาถึงแล้วนะ
แต่จุดเด่นของอุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตาแห่งนี้คือ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา อุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของเมืองไทย ที่มีชื่อเสียงทางด้านประวัติศาสตร์และความสวยงามของธรรมชาติ อีกทั้งยังได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน (ASEAN Heritage Parks and Reserves) อีกด้วย อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่จำนวน 51 เกาะ มีเกาะขนาดใหญ่ 7 เกาะ
 |
| ไม่เพียงเป็นเกาะใหญ่สุดของอุทยานฯ เท่านั้น หากยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยระบบนิเวศหลากหลาย ทั้งป่าดิบชื้น ป่าชายเลน |
เกาะตะรุเตาที่ไม่เพียงเป็นเกาะใหญ่สุดของอุทยานฯ เท่านั้น หากยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยระบบนิเวศหลากหลาย ทั้งป่าดิบชื้น ป่าชายเลน อันเป็นถิ่นอาศัยของพรรณไม้และสัตว์ป่านานาชนิดให้ได้ชมอันอย่างน่าภิรมย์ใจ
 |
| ที่ถูกใจเหล่าเด็กๆ รวมทั้งนักท่องเที่ยวสุดที่มาเกาะแห่งนีัคงเป็น น้องหมูป่า ที่ออกเริงร่ามาทักทายต้อนรับผู้มาเยือนอย่างน่าตื่นเต้น |
และที่ถูกใจเหล่าเด็กๆ รวมทั้งนักท่องเที่ยวสุดที่มาเกาะแห่งนีัคงเป็น น้องหมูป่า ที่ออกเริงร่ามาทักทายต้อนรับผู้มาเยือนอย่างน่าตื่นเต้น แต่คนที่ตื่่นเต้นสุดๆคงเป็นเด็กๆที่เห็นน้องหมูป่า ก็ดูจะลั๊ลลาช่ะช่ะช่าหัวใจไม่น้อย
 |
| ยังมีป้ายของอุทยานแห่งชาติตะรุเตาที่อยู่ติดชายหาด ก็เป็นป้ายยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวเรียวคิวรอถ่ายรูปอย่างไม่ขายสายเลยค่ะ |
นอกจากป้ายด้านในที่ทำการแล้ว ยังมีป้ายของอุทยานแห่งชาติตะรุเตาที่อยู่ติดชายหาด ก็เป็นป้ายยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวเรียวคิวรอถ่ายรูปอย่างไม่ขายสายเลยค่ะ เนื่องจากป้ายใหญ่สะใจกว่าเยอะกว่า
 |
| อ่าวหาดตะรุเตามีชายหาดยาวขาวสะอาด และเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติตะรุเตาและศูนย์บริการนักท่องเที่ยว |
ที่นี่เป็นอ่าวที่มีชายหาดยาวขาวสะอาดและเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติตะรุเตาและศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งส่วนหนึ่งจัดนิทรรศการเกี่ยวกับเรื่องของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ของเกาะตะรุเตาให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้อีกด้วย
 |
| ทัศนียภาพโดยรอบของที่ทำการอุทยาน ก็ร่มรื่นไปด้วยต้นสนและมะพร้าวสูงสกาวเรียงราย อากาศลมพัดเย็นสบาย ดูไม่วุ่นวายอีกด้วย |
ทัศนียภาพโดยรอบของที่ทำการอุทยาน ก็ร่มรื่นไปด้วยต้นสนและมะพร้าวสูงสกาวเรียงราย อากาศลมพัดเย็นสบาย ดูไม่วุ่นวายอีกด้วย จัดเป็นอีกหนึ่งเกาะที่น่าสนใจและเหมาะกับการพักผ่อนกางเต็นท์นอนค้างแรมรอน ออนซอนสวยไม่แพ้เกาะหลีเป๊ะเลยทีเดียวเชียวล่ะ
 |
| นั่งเรือมาต่อที่เกาะไข่ เกาะสวยอีกแห่งซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมอีกแหง แต่เสียดายค่ะ ที่คนขับบอกว่าไม่สามารถจอดเรือได้ |
ใช้เวลารื่นรมย์ใจถ่ายรูปที่เกาะตะรุเตาแล้ว ก็นั่งเรือมาต่อที่เกาะไข่ เกาะสวยอีกแห่งซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมอีกแหง แต่เสียดายค่ะ ที่คนขับบอกว่าไม่สามารถจอดเรือได้ เนื่องจากคลื่นแรงมากๆ เพราะมรสุมกำลังจะเข้า
 |
| แม้ว่าจะไม่ได้ไม่ได้ไปเดินย่ำที่หาดทรายที่เกาะไขแห่งนี้ ได้แค่เห็นก็ดีใจแล้วค่ะ |
เมื่อไม่สามารถจอดเรือได้ ก็เลยได้แต่ถ่ายรูปชมด้านนอกเอาแล้วกัน ให้รู้ว่าได้เห็นเกาะไข่แล้วนะ แม้ว่าจะไม่ได้ไม่ได้ไปเดินย่ำที่หาดทรายที่เกาะไขแห่งนี้ ได้แค่เห็นก็ดีใจแล้วค่ะ ดูนักท่องเที่ยวที่อยู่ก็โบกไม้บนมือ เพราะพากันติดเกาะ เนื่องจากเรือสปีดโบทที่มาด้วย ไม่สามารถเข้าไปรับได้เหมือนกัน คลื่นแรงมากๆ
 |
| นั่งเรือสปีดโบทฝ่าคลื่นมรสุมอันแสนน่ากลัวพร้อมกับชุ่มฉ่ำเนื้อตัวเปียกปอนไปด้วยสายฝน เดินทางมาถึงเกาะหลีเป๊ะโดยสวัสดิภาพค่ะ |
หลังจากที่ต้องนั่งเรือสปีดโบทฝ่าคลื่นมรสุมอันแสนน่ากลัวพร้อมกับชุ่มฉ่ำเนื้อตัวเปียกปอนไปด้วยสายฝนอยู่เป็นชั่วโมง ก็เดินทางมาถึงเกาะหลีเป๊ะโดยสวัสดิภาพค่ะ ใครที่เป็นคนเมาเรือ แนะนำพกยาแก้เมาเรือมาด้วยนะคะ ไม่งั้นอ้วกแตกอ้วกแตน อาเจียนหมุนเวียนเศียรเกล้าแน่นอนค่ะ
 |
| เรือจอดเทียบท่าที่หาดพัทยา ก็เปิด GPS ในมือถือ เพื่อหาพิกัดของโรงแรมที่พัก เดินจากถนนคนเดิน Walking street ไปได้ไม่ไกลประมาณ 1 กิโลเมตร |
เรือจอดเทียบท่าที่หาดพัทยา ก็เปิด GPS ในมือถือ เพื่อหาพิกัดของโรงแรมที่พักในทริปนี้ โดยทางโรงแรมระบุว่า จากท่าเรือหาดพัทยาไปยังโรงแรม สามารถเดินจากถนนคนเดิน Walking street ไปได้ไม่ไกลประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนใครที่มาเป็นหมู่คณะหรือมีกระเป๋าเยอะ สามารถใช้บริการ Taxi เป็นรถซาเล้งพ่วงข้างๆนั่งมาที่โรงแรมได้เหมือนกัน
 |
| โดยทริปนี้พักค้างที่โรงแรม castaway รีสอร์ทยอดนิยมในเกาะหลีเป๊ะ อยู่ติดชายหาดซันไรซ์ ไม่ไกลจากท่าเรือ |
เดินจากท่าเรือหาดพัทยา ก็เจอป้ายโรงแรมที่พักคืนนี้แล้วค่ะ โดยทริปนี้พักค้างที่โรงแรม castaway รีสอร์ทยอดนิยมในเกาะหลีเป๊ะ อยู่ติดชายหาดซันไรซ์ ไม่ไกลจากท่าเรือ
 |
| ที่พักเป็นแบบบ้านพัก บังกะโลเป็นหลังๆแบบส่วนตัว ราคาไม่แพงด้วย เนื่องจากอยูในช่วงการแพรระบาดของโรคโควิด19 |
บรรยากาศที่พักเป็นแบบบ้านพัก บังกะโลเป็นหลังๆแบบส่วนตัว ราคาไม่แพงด้วย เนื่องจากอยูในช่วงการแพรระบาดของโรคโควิด19 ทางโรงแรมก็จัดโปรโมชั่นลดราคาลงถูกไปมาก ปกติราคาห้องพักที่นี่ก็แพงพอสมควร
 |
| นอนพักที่ Castaway Resort ก็เพราะที่พักอยู่ติดชายหาดซันไรซ์ ติดทะเล เห็นวิวสวยๆ |
เลือกนอนพักที่ Castaway Resort ก็เพราะที่พักอยู่ติดชายหาดซันไรซ์ ติดทะเล เห็นวิวสวยๆ และน้ำทะเลใสๆ น่าลงไปเล่นมากๆ
 |
| ราคาบ้านพักบังกะโลส่วนตัวตกคืนละ 1,100 บาทค่ะ ไม่รวมอาหารเช้าค่ะ |
โดยราคาบ้านพักบังกะโลส่วนตัวตกคืนละ 1,100 บาทค่ะ ไม่รวมอาหารเช้าค่ะ
 |
| หากต้องการอาหารเช้า สามารถจ่ายเพิ่มได้นะคะ |
สำหรับใครที่หากต้องการอาหารเช้า สามารถจ่ายเพิ่มได้นะคะ ลักษณะบ้านพักเป็นเรือนไม้ คล้ายๆบ้านสไตล์ภาคเหนือหรือภาคอีสานเลยค่ะ
 |
| โดยภายในห้องนอนเตียงใหญ่ ไม่มีแอร์ ไม่มีทีวี นะคะ มีระบุไว้ในระบบจองห้องชัดเจน เน้นพักแบบธรรมชาติ |
ห้องนอนเตียงใหญ่ ไม่มีแอร์ ไม่มีทีวี นะคะ มีระบุไว้ในระบบจองห้องชัดเจน แต่ลูกค้าก็นิยมมานอนพักโรงแรม Castaway รีสอร์ทกันตลอด เนื่่องจากมีความเป็นธรรมชาติดี
 |
| มีหีบไว้ใส่ของ โดยมีแม่กุญแจมาให้ตอนเช็กอินด้วย เผื่อใครที่มีของมีค่า มีโน๊ตบุ๊คก็นำมาใส่หีบไว้ได้ค่ะ |
ภายในห้องยังมีหีบไว้ใส่ของ โดยมีแม่กุญแจมาให้ตอนเช็กอินด้วย เผื่อใครที่มีของมีค่า มีโน๊ตบุ๊คก็นำมาใส่หีบไว้ได้ค่ะ
 |
| ห้องน้ำอยู่ด้านหลังห้องนอน แยกโซนอาบน้ำและโซนอ่างล้างหน้า |
ส่วนห้องน้ำอยู่ด้านหลังห้องนอน แยกโซนอาบน้ำและโซนอ่างล้างหน้า
 |
| โดยรวมของที่พักถือว่าดีทีเดียวค่ะ เหมาะกับคนที่ชอบนอนพักบ้านไม้แบบธรรมชาติ สิ่งอำนวยความสะดวกอาจไม่มากนัก |
สภาพโดยรวมของที่พักถือว่าดีทีเดียวค่ะ เหมาะกับคนที่ชอบนอนพักบ้านไม้แบบธรรมชาติ สิ่งอำนวยความสะดวกอาจไม่มากนัก เพราะไม่มีแอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่นให้ แต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบค่ะ เนื่องจากรีสอร์ทอยู่ติดชายหาด มีมุมถ่ายรูปสวยๆอีกด้วย
 |
| เก็บกระเป๋าเอาไว้ในห้องพักแล้ว ก็มานั่งจิบชาชมวิวชายหาดซันไรซ์ ทีบริเวณร้านอาหารและ Bar ขายเครื่องดื่มของโรงแรมค่ะ |
หลังจากเก็บกระเป๋าเอาไปไว้ในห้องพักแล้ว ก็มานั่งจิบชาชมวิวชายหาดซันไรซ์ ทีบริเวณร้านอาหารและ Bar ขายเครื่องดื่มของโรงแรมค่ะ
 |
| ห้องพัก WiFi ค่อนข้างช้ามากๆ เดี๊ยนเลยต้องยกคอมพิวเตอร์มาทำงานที่บริเวณ bar ก็เร็วกว่าที่ห้องพักมากๆ |
ที่ห้องพัก WiFi ค่อนข้างช้ามากๆ เดี๊ยนเลยต้องยกคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ตมาทำงานที่บริเวณ bar ของโรงแรม ก็เร็วกว่าที่ห้องพักมากเลยทีเดียว
 |
| อาหารมื้อเย็นนี้ ดิฉันมาฝากท้องที่ร้านอาหารไทยเดิม ร้านอยู่สุดซอยใกล้ถนนคนเดิน |
ส่วนอาหารมื้อเย็นนี้ ดิฉันมาฝากท้องที่ร้านอาหารไทยเดิม ร้านอยู่สุดซอยใกล้ถนนคนเดิน
เห็นเมนูร้านมีอาหารน่าสนใจทานหลายอย่าง ร้านเปิด 4 โมงเย็น ถึงตี 2 เลยค่ะ
 |
| สั่งต้มแซ่บปลากระพง ราคา 200 บาท ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ปลาสดจริงๆ รสชาติแซ่บกำลังดี อร่อยมากๆ ตอนแรกจะสั่งหลายอย่าง แต่ทานคนเดียว หากสั่งหลายอย่าง เกรงจะทานไม่หมดค่ะ |
มื้อนี้เลยสั่งต้มแซ่บปลากระพง ราคา 200 บาท ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ปลาสดจริงๆ รสชาติแซ่บกำลังดี อร่อยมากๆ ตอนแรกจะสั่งหลายอย่าง แต่ทานคนเดียว หากสั่งหลายอย่าง เกรงจะทานไม่หมดค่ะ หากใครชอบทานอาหารพวกต้มๆ แวะมาเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ มองหาร้านอาหารอร่อยๆ แนะนำมาลิ้มลองทานร้านอาหารไทยเดิมดูนะคะ ที่นี่มีข้าวมต้มกุย ข้าวต้มปลาขายด้วย
 |
| ไปเดินดูตลาดถนนคนเดิน Walking street ที่เกาะหลีเป๊ะต่อค่ะ |
ทานอาหารมื้อเย็นอิ่มแล้ว ก็ไปเดินดูตลาดถนนคนเดิน Walking street ที่เกาะหลีเป๊ะต่อค่ะ
 |
บรรยากาศตลาดถนนคนเดิน Walking street koh lipe ในช่วงค่ำคืนวันหยุดยาว
|
หลังจากที่สถานการณ์โรคระบาดโควิดคลี่คลายลงไปบ้าง ทำให้ร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ ก็มาเปิดให้พอสมควร แม้จะไม่คึกคักเต็ม100% แต่ก็ทำให้พ่อค้าแม่ค้าพอลืมตาอ้าปากได้บ้าง เนื่องมีนักท่องเที่ยวชาวไทยมาเที่ยวกันเยอะขึ้นมากๆ
 |
| เดินไปเดินมาต้มแซ่บปลากะพงย่อยไปหมดแล้ว จัดต่อด้วยขนมเครป ไม่ได้ทานนานแล้วค่ะ |
เดินไปเดินมาต้มแซ่บปลากะพงย่อยไปหมดแล้ว จัดต่อด้วยขนมเครป ไม่ได้ทานนานแล้วค่ะ อร่อยดีนะ ปกติจะไม่ค่อยทานขนมมื้อเย็น แต่มาเที่ยวทริปนี้ ขอหนึ่งมื้อนี้เพิ่มไขมันในเส้นเลือดสักหน่อยค่ะ
-------------------------------------------------------------
 |
| (Day 2) วันที่ 2 : เริ่มต้นเช้าวันใหม่ ตื่นมารอชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่ท้องฟ้าเมฆปิดมืดไปหมด |
วันที่ 2 : เริ่มต้นเช้าวันใหม่ ตื่นมารอชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่ท้องฟ้าเมฆปิดมืดไปหมดค่ะ
 |
| อาหารมื้อเช้านี้ ก็ออกมาหาอะไรทานสไตล์บ้านๆของชาวเกาะหลีเป๊ะดูค่ะ |
หลังจากนั่งชมวิวทะเลยามเช้าแล้ว อาหารมื้อเช้านี้ ก็ออกมาหาอะไรทานสไตล์บ้านๆของชาวเกาะหลีเป๊ะดูค่ะ
 |
มีขนมของกินท้องถิ่นแปลกที่ไม่เคยทาที่เกาะหลีเป๊ะ ต้องลองทานดูสักหน่อยล่ะค่ะ อาทิเช่น ขนมเร็มปาฮ์อุดัง
|
อาหารเช้าแบบง่ายๆ มีขนมของกินท้องถิ่นแปลกที่ไม่เคยทาที่เกาะหลีเป๊ะ ต้องลองทานดูสักหน่อยล่ะค่ะ มาถึงเกาะหลีเป๊ะทั้งที ต้องหาอะไรแปลกๆทานดู อาทิเช่น ขนมเร็มปาฮ์ อุดัง(ข้าวเหนียวปิ้ง) ข้าวเหนียงสังขลา ข้าวเหนียวหน้าปลา และอื่นๆ
 |
| อาหารคาวท้องถิ่นที่นี้ก็ยังมี ข้าวเศรษฐี เป็นข้าวห่อมลายู เรียกชื่อภาษาอีกอย่าง ไม่รู้เรียกว่าอะไร จำได้ ก็แต่ขนมเร็มปาฮ์อุดัง เป็นอาหารที่ไม่มีขายในกรุงเทพแน่ๆ |
และอาหารคาวท้องถิ่นที่นี้ก็ยังมี ข้าวเศรษฐี เป็นข้าวห่อมลายู เรียกชื่อภาษาอีกอย่าง ไม่รู้เรียกว่าอะไร จำได้ ก็แต่ขนมเร็มปาฮ์อุดัง เป็นอาหารที่ไม่มีขายในกรุงเทพแน่ๆ ถ้าอยากทานต้องลงมาทางภาคใต้ แถวสงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ได้ทานแน่นอนคะ
 |
| มีน้องแมวเหมียวขี้ออนให้ออนซอนอีกด้วย นางจะขี้อ้อนมากๆ ร้องครวญครางตลอดเวลา |
ในร้านมีน้องแมวเหมียวขี้ออนให้ออนซอนอีกด้วย นางจะขี้อ้อนมากๆ จนลูกค้าหลายคนรำคาญไปเลย
บรรยากาศการทานอาหารเช้าของคนที่นี่ ก็นิยมดื่มชาทานกับขนม
 |
| ขมมที่เจาะเป็นรูๆแบบนี้ ก็เรียก่วาขนมหัว รสชาติมันๆอร่อยดีค่ะ แต่ค่อนข้างเลี่ยนไปหน่อย |
มีขนมแปลกๆอย่างขมมที่เจาะเป็นรูๆแบบนี้ ก็เรียก่วาขนมหัว รสชาติมันๆอร่อยดีค่ะ แต่ค่อนข้างเลี่ยนไปหน่อย
 |
| ที่ขายดีเห็นจะเป็นโรตีทานกับชาร้อนๆ ก็อร่อยหอมหวานเพิ่มน้ำตาลเส้นเลือดได้เยอะพอสมควร |
แต่ที่ขายดีเห็นจะเป็นโรตีทานกับชาร้อนๆ ก็อร่อยหอมหวานเพิ่มน้ำตาลเส้นเลือดได้เยอะพอสมควร ทานมื้อนี้แล้ว ต้องออกไปใช้พลังงานหรือออกไปทำกิจกรรมเยอะๆเลยค่ะ
 |
| หลังจากทานอาหารมื้อเช้าอิ่มแล้ว คนขายโปรแกรมทัวร์ดำน้ำดูปะการังก็มารับที่รีสอร์ท เพื่อไปส่งท่าเรือค่ะ |
หลังจากทานอาหารมื้อเช้าอิ่มแล้ว คนขายโปรแกรมทัวร์ดำน้ำดูปะการังก็มารับที่รีสอร์ท เพื่อไปส่งท่าเรือค่ะ
 |
| รอขึ้นเรือหางยาว ที่บริเวณหาดพัทยา |
มารอขึ้นเรือหางยาว ที่บริเวณหาดพัทยา
 |
| โปรแกรมเที่ยวดำน้ำดูปะการังโซนใน+โซนนอก ราคา 600 บาท เป็นราคา join trip ร่วมกับลูกค้าคนอื่นๆที่มารอขึ้นเรือหางยาวด้วยกันที่หาดพัทยา |
โดยโปรแกรมเที่ยวดำน้ำดูปะการังโซนใน+โซนนอก ราคา 600 บาท เป็นราคาทัวร์ร่วมกับลูกค้าคนอื่นๆที่มารอขึ้นเรือหางยาวด้วยกันที่หาดพัทยา
 |
ทัวร์ดูปะการังร่วมกับลูกทัวร์คนอื่นๆที่ซื้อทัวร์ไปด้วยกันค่ะ ทั้งหมดมี 7 คน แต่ละคนก็มากันเป็นคู่นะคะ ตกเศษเดี๊ยนอยู่คนเดียวค่ะที่ไม่มีคู่ |
9.แวะดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นที่ด้านใต้ของเกาะหินงาม เป็นจุดดำน้ำสุดท้ายก่อนกลับเกาะหลีเป๊ะ บริเวณนี้ปะการรังก็สวยงาม เนื่องจากน้ำนิ่ง คลื่นไม่แรงมาก สามารถดูปะการังได้อย่างสำราญใจ
 |
| จบทริปเที่ยวว่ายน้ำดูปะการังน้ำตื้นมาทั้งวัน ทางเรือก็มีบริการของว่าง อย่างสัปปะรดหวานให้ทานอีกด้วย |
ู
จบทริปเที่ยวว่ายน้ำดูปะการังน้ำตื้นมาทั้งวัน ทางเรือก็มีบริการของว่าง อย่างสัปปะรดหวานให้ทานอีกด้วย
สัปปะรดหวานฉ่ำอร่อยล้ำเลิศบรรเจิดไฉไลยิ่งนัก ช่วยเติมพลังงานที่ศูนย์เสียไปได้เยอะทีเดียวค่ะ
 |
| นั่งเรือกลับมาจากเกาะหินงาม มาจอดส่งที่บริเวณจุดชมวิวพระอาทิตย์กำลังตกดินพอดี |
นั่งเรือกลับมาจากเกาะหินงาม มาจอดส่งที่บริเวณจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน ทีระหว่างหาดซันเซทและหาดไรซ์พอดีค่ะ
 |
| พระอาทิตย์กำลังจะอัสดงลงแลลับ สองทองระยับส่องประกายสิ้นสุดขอบฟ้า บอกให้รู้ว่าจะหมดช่วงเวลาดีๆกับการท่องเที่ยวทัศนาไปอีก 1 วัน |
ซึ่งพระอาทิตย์กำลังจะอัสดงลงแลลับ สองทองระยับส่องประกายสิ้นสุดขอบฟ้า บอกให้รู้ว่าจะหมดช่วงเวลาดีๆกับการท่องเที่ยวทัศนาไปอีก 1 วัน
 |
| เป็นอันจบทริปเที่ยวดำน้ำดูปะการังที่สวยงามอีกแห่งของเมืองไทย ไม่เสียดายที่อุตสาห์เก็บสะตุ้งสะตังมาพักตากอากาศที่เกาะหลีเป๊ะแห่งนี้ค่ะ |
เอาเป็นว่า เป็นอันจบทริปเที่ยวดำน้ำดูปะการังที่สวยงามอีกแห่งของเมืองไทย ไม่เสียดายที่อุตสาห์เก็บสะตุ้งสะตังมาพักตากอากาศที่เกาะหลีเป๊ะแห่งนี้ค่ะ
 |
ใกล้ๆกับจุดชมวิวพระอาทิตย์ตก บริเวณชายหาดหน้าโรงแรมZodiac Seesun Resort มีการแสดงโชว์ไฟให้ชมและเครื่องดื่มให้นักท่องเที่ยวอีกด้วย
|
และใกล้ๆกับจุดชมวิวพระอาทิตย์ตก บริเวณชายหาดหน้าโรงแรมโซดิแอค ซีซั่น หลีเป๊ะ รีสอร์ท (Zodiac Seesun Resort) มีการแสดงโชว์ไฟให้ชมและเครื่องดื่มให้นักท่องเที่ยวอีกด้วย
 |
| ดูการแสดงไฟบริเวณริมชายหาดหน้าbar โซดิแอค ซีซั่น หลีเป๊ะ รีสอร์ท ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่น่าสนใจและตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก |
แวะดูการแสดงไฟบริเวณริมชายหาดหน้าbar โซดิแอค ซีซั่น หลีเป๊ะ รีสอร์ท ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่น่าสนใจและตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชมพระอาทิตย์ตกดินแล้ว ก็มานั่งฟินดื่มกันต่อ
 |
| อาหารเย็นมื้อนี้ ซื้อข้าวต้มปลาทะเลสดๆจากร้านอาหารไทยเดิมมาทานราคา 80 บาท |
ส่วนอาหารเย็นมื้อนี้ ซื้อข้าวต้มปลาทะเลสดๆจากร้านอาหารไทยเดิมมาทาน 80 บาท รสชาติเหมือนข้าวต้มเจ้าเก่าร้านดังในกรุงเทพเลยค่ะ ใครที่เมาเรือหรือรู้สึกไม่สบาย ก็สั่งมาทานได้นะคะ
---------------------------------------------------------
 |
| วันที่ 3 เที่ยวแบบชิลเอาท์ ไปชมวิวหน้าผาชะโดที่เกาะอาดัง โดยสามารถมาติดต่อนั่งเรือได้ที่ Taxi Boat บริเวณหาดซันไรซ์ใกล้ๆ โรงเรียนบ้านเกาะอาดังที่เกาะหลีเป๊ะค่ะ |
(Day 3) วันที่ 3 เที่ยวแบบชิลเอาท์ ไปปีกหน้าผาชมวิวที่เกาะอาดัง โดยสามารถมาติดต่อนั่งเรือได้ที่ Taxi Boat บริเวณหาดซันไรซ์ใกล้ๆ โรงเรียนบ้านเกาะอาดังที่เกาะหลีเป๊ะค่ะ มีเรือให้บริการข้ามฟากทั้งไปรับ-ไปส่งให้ในราคา 200 บาท
ราคาเรือข้ามไปเกาะอาดัง เดี๊ยนนั่งไปคนเดียวรวมไป-กลับ 200 บาทค่ะ แต่ไม่รู้ว่าถ้านั่งหลายคน ราคาเท่าไหร่ เพราะไม่ได้ถาม ถ้าใครที่เป็นหมู่คณะจะข้ามไป ต้องลองเจรจาตกลงราคาก่อนได้
 |
| มาเที่ยวเกาะอาดัง สามารถมาอยู่ได้ตั้งแต่เช้าตรู่ ถึงเย็นเลยก็ได้ โดยตอนขากลับต้องระบุเวลาที่ชัดเจนให้คนขับเรือทราบ เพื่อที่จะมารอรับได้ทันเวลาค่ะ |
หากใครที่มาเที่ยวเกาะอาดัง สามารถมาอยู่ได้ตั้งแต่เช้าตรู่ ถึงเย็นเลยก็ได้ โดยตอนขากลับต้องระบุเวลาที่ชัดเจนให้คนขับเรือทราบ เพื่อที่จะมารอรับได้ทันเวลาค่ะ
 |
| จุดเด่นของเกาะอาดังคือ ความเงียบสงบ ชายหาดที่เรียงรายไปด้วยทิวสนสวยงามพร้อมหาดทรายขาวนวล |
จุดเด่นของเกาะอาดังคือ ความเงียบสงบ ไม่พลุ่กพล่านเหมือนเกาะหลีเป๊ะ มีชายหาดที่เรียงรายไปด้วยทิวสนสวยงามพร้อมหาดทรายขาวนวล และน้ำทะเลใสสวยงามมากๆ
 |
| คนขับเรือหางยาวมาส่งแล้วก็ออกเรือกลับไปยังเกาะหลีเป๊ะตามเดิม จะกลับมารับอีกทีก็เวลาขากลับ ต้องระบุเวลากลับให้คนขับเรือทราบให้ชัดเจน |
คนขับเรือหางยาวมาส่งแล้วก็ออกเรือกลับไปยังเกาะหลีเป๊ะตามเดิม จะกลับมารับอีกทีก็เวลาขากลับ ต้องระบุเวลากลับให้คนขับเรือทราบให้ชัดเจน ไม่มีมีประมาณการนะคะ เน้นเป็นเวลาเลขทีเดียว เช่นมารับบ่าย 3 โมง ก็ต้องมารอที่ท่าเรือให้ตรงเป๊ะ เพราะที่นี่หลีเป๊ะค่ะ
 |
| เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเกาะอาดัง (About A-Dang island) |
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเกาะอาดัง (About A-Dang island)
เกาะอาดัง เป็นเกาะกลางทะเลอันดามัน เป็นส่วนหนึ่งในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตาหรืออุทยานแห่งชาติตะรุเตา อยู่ใกล้กับเกาะหลีเป๊ะหรือเกาะลีเป๊ะ มีความยาว 6 กิโลเมตร และกว้าง 5 กิโลเมตร จุดสูงสุดของเกาะคือ 690 เมตร สภาพของเกาะอาดังมีความสงบ สะอาด และเป็นสถานที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา บนเกาะไม่มีที่พักของเอกชนให้บริการ จะมีก็แต่บ้านพักของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ และจุดให้กางเต็นท์ ผู้ที่จะมาท่องเที่ยวจึงมักจะไปพักค้างแรมบนเกาะหลีเป๊ะที่อยู่ใกล้เคียงกันมากกว่า
เนื่องจากเป็นเกาะที่อุดมสมบูรณ์และเงียบสงบไม่วุ่นวาย ทำให้ได้เห็น นกเงือกออกมาให้ได้ยลโฉม เล้าโลมหัวใจอีกด้วย
 |
| ไม่พลาดเดินขึ้นเขาไปชมวิวที่ผาชะโด จุดเช็กอินทชื่อดังในเกาะอาดัง ที่ใครๆก็ต้องมาถ่ายรูปให้สวยปังกันสักครั้ง |
มาถึงเกาะอาดังทั้งที ต้องไม่พลาดเดินขึ้นเขาไปชมวิวที่ผาชะโด จุดเช็กอินทชื่อดังในเกาะอาดัง ที่ใครๆก็ต้องมาถ่ายรูปให้สวยปังกันสักครั้ง
ระหว่างเดินขึ้นก็ไม่ต้องกลัวค่ะ เพราะรื่นรมย์ไปด้วยต้นไม้และมีเชือกให้ไต่ขึ้นไปบนเขาได้ในบางส่วน
แต่มาเที่ยวคนเดียวแบบนี้ ดิฉันก็แอบเสียวอยู่เหมือนกันว่าจะพลาดลื่ืนตกเขาลงไป เพราะไม่มีใครเห็น ทัศนียภาพโดยรอบก็เงียบสงัด มีแต่เสียงนกกรีดกริ่งร้องระงม ระทมไปทั่วผืนป่าพนาไพร
เดินออกกังกายขึ้นมาด้านบน เสียเหงื่อยเยอะพอสมควร แต่ก็วิวทิวทัศน์ด้านบนก็สวยงามยิ่งนัก
 |
| ขึ้นไปชมวิวจุดที่ 2 (View point 2) |
ขึ้นไปชมวิวจุดที่ 2 (View point 2)
 |
| มองจากด้านบนลงไปด้านล่างสวยงามยิ่งนัก |
มองลงไปยังเบื้องล่างของที่ทำการอุทยานก็สวยงามยิ่งนัก เพราะรายล้อมไปด้วยต้นสนกับน้ำทะเลใสเป็นสีฟ้าคราม
|
| เมื่อเดินมาถึงจุดชมวิวผาชะโด ก็จะเห็นเกาะหลีเปีะที่อยู่เบื้องหน้าได้อย่างสวยงาม |
และเมื่อเดินมาถึงจุดชมวิวผาชะโด ก็จะเห็นเกาะหลีเปีะที่อยู่เบื้องหน้าได้อย่างสวยงาม มีลักษณะเป็นบูมเมอแรงจริงๆ ลักษณะเกาะแบนเรียบ มีหาดทรายสีขาว น้ำทะเลใสสดอยู่รายล้อมรอบ และมีโรงแรมรีสอร์ที่พักมากมาย
ส่วนเกาะเล็กๆที่เห็นเบื้องหน้าคือ เกาะอุเสน และเกาะกละ อยู่ใกล้ชายหาดซันไรซ์
 |
| ตอนขึ้นว่าใช้แรงมากแล้ว ตอนขาลงต้องระมัดระวังกว่ามากๆ |
ตอนขึ้นว่าใช้แรงมากแล้ว ตอนขาลงต้องระมัดระวังกว่ามากๆ เพราะค่อนข้างชัน บางช่วงก็หวาดเสียว เสลียวใจอยู่ไม่น้อย
 |
| หลังจากชมวิวที่ผาชะโดแล้ว เดินลงจากเขา ก็มาเดินเนินเนา คล้ายความซึมเศร้าที่บริเวณหาดหน้าที่ทำการอุทยานเกาะอาดังค่ะ |
หลังจากชมวิวที่ผาชะโดแล้ว เดินลงจากเขา ก็มาเดินเนินเนา คล้ายความซึมเศร้าที่บริเวณหาดหน้าที่ทำการอุทยานเกาะอาดังค่ะ หาดสวยงาม เงียบสงบมากๆ แทบไม่มีคนเลย เหมือนหาดส่วนตัว อะไรประมาณนั้น
ส่วนบริเวณทิวสนก็มีที่ให้นั่งผ่อนพัก นอนรับโอโซนทะเลอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจอีกด้วย
 |
| หากใครที่มีงบน้อย ไม่อยากพักที่เกาะหลีเป๊ะ แนะนำมากางเต็นท์ รับลมทะเลเย็นที่เกาะอาดังก็ชมวิวสวยปังไม่แพ้เกาะอื่นๆเลยล่ะค่ะ |
และหากใครที่มีงบน้อย ไม่อยากพักที่เกาะหลีเป๊ะ แนะนำมากางเต็นท์ รับลมทะเลเย็นที่เกาะอาดังก็ชมวิวสวยปังไม่แพ้เกาะอื่นๆเลยล่ะ เพราะตรงที่ทำการอุทยานแห่งชาติก็มีห้องน้ำ ห้องท่าให้อย่างสะดวกอยู่พอสมควร จะขาดก็แต่ของกิน ว่าควรเตรียมมาเอง บรรเลงทำอาหารได้อย่างสำราญใจไปเลย
 |
| นั่งเรือกลับจากเกาะอาดังมาเที่ยวถ่ายรูปเช็กอินที่เกาะหลีเป๊ะต่อค่ะ |
นั่งเรือกลับจากเกาะอาดังมาเที่ยวถ่ายรูปเช็กอินที่เกาะหลีเป๊ะต่อค่ะ สำหรับใครที่มีเวลาน้อย ไม่ได้ซื้อโปรแกรมทัวร์ออกไปดำน้ำดูปะการัง แนะนำว่ามาถ่ายรูปเดินชมชายหาดและน้ำทะเลสวยในเกาะหลีเป๊ะ ก็มีจุดถ่ายรูปวิวสวยๆหลายแห่งโดยจุดแรก บริเวณหาดซันไรซ์ หน้าโรงแรมโซดิแอค ก็กลายเป็นหนึ่งในจุดเช็กอินที่คู่รักต่างมาถ่ายรูปกันมาก
โดยบริเวณหาดมีน้ำทะเลใสๆให้ได้เล่นอย่างสนุกสนานเริงร่า ช่ะช่ะช่าหัวใจอีกด้วย
มาถึงเกาะหลีเป๊ะทั้งที ไม่รู้จะไปถ่ายรูปเช็กอินที่ใหนดี แนะนำมาถ่ายรูปวิวทะเลสวยๆที่หาดซันไรซ์ได้ค่ะ
มีโขดหินให้นั่งฟินถ่ายรูป
 |
| เดินลัดเลาะข้ามโขดหินมาอีกหน่อย ก็จะเป็นชายหาดซันเซท |
เดินลัดเลาะข้ามโขดหินมาอีกหน่อย ก็จะเป็นชายหาดซันเซท
แต่บริเวรหาดซันเซท โขดหินจะมีอยู่มากไปหน่อย เป็นโซนชายหาดที่เงียบสงบมากๆ
ที่หาดซันไรซ์น่าจะเหมาะกับการนอนพักผ่อน และเล่นน้ำทะเลมากกว่าค่ะ
และอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวจุดชมวิวเช็กอินถ่ายรูปชื่อดังของเกาะหลีเป๊ะอยู่ที่โรงแรม Mountain resort koh lipe มีร้านขายเครื่องดื่ม เดินขึ้นไปอุดหนุนเครื่องดื่มเย็นๆ
 |
| อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวจุดชมวิวเช็กอินถ่ายรูปชื่อดังของเกาะหลีเป๊ะอยู่ที่โรงแรม Mountain resort koh lipe |
และก็สามารถนั่งชมวิวหาดทรายสีขาวๆกับน้ำทะเลใสๆที่แห่งนี้ได้
 |
| กิจกรรมยอดนิยมอีกอย่างเมื่อมาเที่ยวเกาะหลีเป๊ะคือการพายเรือคายัค ทางโรงแรม castaway ก็จัดบริการให้ลูกค้าที่เข้าพักได้พายเรือฟรี 1 ชั่วโมงอีกด้วย |
ยังไม่หมดค่ะ กิจกรรมยอดนิยมอีกอย่างเมื่อมาเที่ยวเกาะหลีเป๊ะคือการพายเรือคายัค ทางโรงแรม castaway ก็จัดบริการให้ลูกค้าที่เข้าพักได้พายเรือฟรี 1 ชั่วโมงอีกด้วย
มาเที่ยวเกาะหลีเป๊ะทั้งที เดี๊ยนเลยไม่รีรอขอไปพายเรือออกกังกายชมเกาะอุเสน ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆที่อยู่ใกล้ๆรีสอร์ที่สุดแล้วค่ะ
พายไป 1 ชั่วโมงรอบเกาะไปกลับ กำลังเหมาะพอดี
ตกเย็นมื้อสุดท้าย มาทานอาหารจานเดียว 80 บาท ผัดพริกแกงกุ้งสุดสตอ เผ็ดจริงอะไรจริง
หมดไปอีกหนึ่งวันกับทริปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะวันที 3
-----------------------------------------------------------------
 |
| วันสุดท้ายแล้ว เช็คเอาท์จากที่พักแต่เช้า แล้วก็เดินแบกเป้ออกมาหาอะไรทานง่ายๆ |
วันที่ 4 วันสุดท้ายแล้ว เช็คเอาท์จากที่พักแต่เช้า แล้วก็เดินแบกเป้ออกมาหาอะไรทานง่ายๆ ทีร้านอาหารเช้าของชุมชนชาวเลในเกาะหลีเป๊ะ
จัดไปเช้านี้ โจ๊กไก่ใส่ขิงราคาประหยัด
 |
| ต่อด้วยอาหารหวาน ขนมเร็มปาฮ์ อุดัง (Rempah Udang) และขนมข้าวเหนียวสังขยา |
ตามต่อด้วยอาหารหวาน ขนมเร็มปาฮ์ อุดัง (Rempah Udang) และขนมข้าวเหนียวสังขยา ส่วนขนมเร็มปาอุดังคือ ขนมข้าวเหนียวปิ้ง หรือเรียกอีกเป็นภาษาจีนชื่อว่า ขนมเป่าหล้าง
จากนั้นก็เดินมารถขึ้นเรือที่หาดพัทยา
 |
| นั่งเรือสปีดโบทกลับฝั่งท่าเรือปากบาราเวลา 9.30 น.ถึงฝั่งโดยสวัสดิภาพ เป็นอันจบทริปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ 4 วัน 3 คืน อย่างสำราญใจ |
และก็นั่งเรือสปีดโบทกลับฝั่งท่าเรือปากบาราเวลา 9.30 น.ถึงฝั่งโดยสวัสดิภาพ เป็นอันจบทริปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ 4 วัน 3 คืน อย่างสำราญใจ แม้ว่าจะเป็นทริปเที่ยวแบบเหงาๆ แต่ก็คลอเคล้าไปด้วยภาพทะเลอันแสนสุขและสวยงามยิ่งนัก
หากเพื่อนๆหรือนักทัศนาจรคนใหนที่วางแผนจะมาเที่ยวทะเลอันดามันอยู่ ก็ลองปักหมุดหยุดงาน มาเริงสำราญเที่ยวเกาะหลีเป๊ะดูสักครั้งนะคะ รับรองว่าสวยงามร้าวรานถึงทรวงในอย่างแน่นอนค่ะ แถมช่วงโควิดแบบนี้ หลายๆโรงแรมที่พักในเกาะหลีเป๊ะ ก็ลดราคาห้องพักแบบถูกสุดๆอีกด้วย แวะมาเที่ยวพักผ่อนกันสัก 3 วัน 2 คืนก็ได้ หากใครที่มีเวลาน้อย ส่วนใครที่มีเวลามากพอ แนะนำพักค้างสัก 7 วันไปเลยจ้า......จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
-----------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกรีวิวแบกเป้เที่ยวเมืองอื่นๆที่ผ่านมา มีดังนี้ค่ะ
สัปปะรดหวานฉ่ำอร่อยล้ำเลิศบรรเจิดไฉไลยิ่งนัก ช่วยเติมพลังงานที่ศูนย์เสียไปได้เยอะทีเดียวค่ะ 
เนื่องจากเป็นเกาะที่อุดมสมบูรณ์และเงียบสงบไม่วุ่นวาย ทำให้ได้เห็น นกเงือกออกมาให้ได้ยลโฉม เล้าโลมหัวใจอีกด้วย 
เดินออกกังกายขึ้นมาด้านบน เสียเหงื่อยเยอะพอสมควร แต่ก็วิวทิวทัศน์ด้านบนก็สวยงามยิ่งนัก 
0 ความคิดเห็น