|
เพื่อไม่ให้เว็ปไซต์ร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมารีวิวพาคุณผู้อ่านแบกเป้ไปเที่ยวเมืองไลพ์ซิก(Leipzig) ไปดูสิว่าเมืองนี้มีสถานทีท่องเที่ยวอะไรให้ชื่นชม ภิรมย์ใจและเช็กอินถ่ายรูปสวยๆบ้าง ตามไปกันเลย |
ก็ขอทักทาย สวัสดีคุณผู้อ่านบนโลกออนโลน์ และเหล่าเพื่อนๆผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจกันทุกคนอีกครั้งนะคะ ก็กลับมาพบกันอีกเช่นเคย กับรีวิวท่องเที่ยว จะพาคุณผู้อ่านเลี้ยวแวะไปเที่ยวทัศนา ชื่นอุรา เช็กอินตามที่เที่ยวต่างๆ หลังจากที่รีวิวบทความก่อนหน้านี้ ได้พาคุณผู้อ่านแวะไปเที่ยวชมเมืองเดรสเดน เมืองเก่าแก่สวยเด่นอีกแห่งของเยอรมันกันไปแล้วนะคะ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่น่าเที่ยวไม่น้อย ทั้งนี้สามารถเข้าไปดูรีวิวก่อนได้ที่เว็ปไซต์ :
https://khunnaiver.blogspot.com/2020/07/backpack-travel-dresde-city-tourist-attractions.html
และเมื่อได้เที่ยวเมืองเดรสเดนแล้ว ก็นั่งรถไฟเดินทางมาเที่ยวต่อที่เมืองไลพ์ซิก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ และมีแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมือง ให้แวะเดินชำเลืองชมแบบชิลๆอีกด้วย ว่าแล้วก่อนที่จะไปชมภาพที่เที่ยว เรามาเปิดโลกกว้าง รู้จักเมืองไลพ์ซิก กันบ้างสักเล็กน้อยนะคะ
|
เรื่องน่ารู้เล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับเมืองไลพ์ซิก (Leipzig city,Germany) |
เรื่องน่ารู้เล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับเมืองไลพ์ซิก (Leipzig city,Germany)
ไลพ์ซิช เป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งในรัฐซัคเซิน ในประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในรัฐ โดยชื่อ "ไลพ์ซิก" มาจากภาษาสลาฟว่า "ลิพสค์" (Lipsk) ซึ่ง แปลว่า ตั้งอยู่บนพื้นที่ ที่มีต้นไม้ดอกเหลือง
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดที่กล่าวถึงเมืองไลพ์ซิช
ได้แก่ จดหมายเหตุของมุขนายกธีทมาร์ แห่งเมอร์เซบูร์ก ใน ค.ศ. 1015
และบันทึกเที่ยวกับเมืองไลพ์ซิช โดยออทโทที่ 2 มาร์เกรฟแห่งไมเซิน ใน ค.ศ.
1165
เป็นเหตุให้เมืองไลพ์ซิชจึงเป็นหนึ่งในบรรดาเมืองประวัติศาสตร์ของประเทศเยอรมนี
และมีชื่อเสียงในฐานะ ศูนย์กลางทางการค้าของรัฐซัคเซิน
|
ในยุคนโปเลียน
ไลพ์ซิชเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกองทัพนโปเลียน โดยนโปเลียนใช้เมืองไลพ์ซิช
เป็นศูนย์บัญชาการเพื่อส่งกองกำลังเข้ายึดยุโรปกลาง และรัสเซีย |
และในช่วงยุค นโปเลียน
ไลพ์ซิชเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกองทัพนโปเลียน โดยนโปเลียนใช้เมืองไลพ์ซิช
เป็นศูนย์บัญชาการเพื่อส่งกองกำลังเข้ายึดยุโรปกลาง และรัสเซีย
เป็นเหตุให้เมืองไลพ์ซิชเป็นสมรภูมิสงครามแห่งชนชาติ ยุทธการที่ไลพ์ซิช
เมื่อ ค.ศ. 1913 กองทัพพันธมิตรกษัตริย์และผู้ครองนครในทวีปยุโรป
รวมทัพกันขับไล่กองทัพนโปเลียน
โดยกองทัพของนโปเลียนได้แตกพ่ายครั้งแรกที่เมืองไลพ์ซิช
ปัจจุบันนี้ยังมีอนุสรณ์สถานสงครามแห่งชนชาติ
เป็นสิ่งรำลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น
|
ในปี ค.ศ. 1839 ไลพ์ซิชเป็นชุมทางรถไฟระยะทางไกลแห่งแรกของประเทศเยอรมนี
เพื่อเดินทางไปยังเมืองเดรสเดน |
ในปี ค.ศ. 1839 ไลพ์ซิชเป็นชุมทางรถไฟระยะทางไกลแห่งแรกของประเทศเยอรมนี
เพื่อเดินทางไปยังเมืองเดรสเดน เมืองหลวงของรัฐซัคเซิน นับแต่นั้นมา
ไลพ์ซิชจึงเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางรถไฟในยุโรปกลาง
และสถานีรถไฟไลพ์ซิชเป็นสถานีรถไฟที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตั้งแต่ยุคนั้น
มาจนปัจจุบัน ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ไลพ์ซิชมีประชากรรวมกว่าล้านคน
จึงเป็นที่ตั้งของพรรคแรงงาน รวมไปถึงมี
การจัดตั้งสหภาพแรงงานขึ้นที่เมืองไลพ์ซิชนี้ ใน ค.ศ. 1863
|
ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่
2 เมืองไลพ์ซิกได้รับเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร
กองทัพสหรัฐอเมริกาได้ยึดครองไลพ์ซิชได้ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 1945 |
และในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่
2 เมืองไลพ์ซิกได้รับเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร
กองทัพสหรัฐอเมริกาได้ยึดครองไลพ์ซิชได้ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 1945
และในภายหลังได้ถ่ายอำนาจการปกครองแก่กองทัพแดงของสหภาพโซเวียตตามข้อตกลงในการปกครองดินแดน
ไลพ์ซิชจึงรวมเป็นส่วนหนึ่ง
และกลายเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งของสาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนี
ก่อนจะรวมเข้าเป็นสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ใน ค.ศ. 1989
|
นอกจากนี้แล้วงานแสดงสินค้าไลพ์ซิช เป็นงานแสดงสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ โดยเริ่มจัดมาตั้งแต่สมัยกลาง |
นอกจากนี้แล้วงานแสดงสินค้าไลพ์ซิช เป็นงานแสดงสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ โดยเริ่มจัดมาตั้งแต่สมัยกลาง ในอดีตงานแสดงสินค้าไลพ์ซิช ได้รับการคุ้มครองจากเจ้าผู้ครองรัฐที่จะไม่ให้เมืองใดในรัศมี 250 กิโลเมตร จัดงานแสดงสินค้าแข่งกับเมืองไลพ์ซิช และปัจจุบันงานแสดงสินค้าไลพ์ซิกยังเป็นงานแสดงสินค้าระดับโลกอีกด้วย
เดรดิตข้อมูลจาก :
https://th.wikipedia.org/wiki/ไลพ์ซิช
|
ใช้เวลาเดินทางจากเมืองเดรสเดน ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงสถานีรถไฟเมืองไลพ์ซิก |
ใช้เวลาเดินทางจากเมืองเดรสเดน ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงสถานีรถไฟเมืองไลพ์ซิก
|
ออกมาตั้งหลักที่ด้านหน้าสถานีรถไฟ เพื่อหาพิกัด เดินแบกเป้ไปยังโรงแรมที่พักค่ะ |
เดินออกมาตั้งหลักที่ด้านหน้าสถานีรถไฟ เพื่อหาพิกัด เดินแบกเป้ไปยังโรงแรมที่พักค่ะ
มาครั้งแรกๆ ก็จะดูงงๆ สับสนหน่อย ไม่รู้ทางใหนทิศเหนือ ทางใหนทิศใต้
|
โรงแรมที่พักค้างแรมรอน นอนออนซอนคืนนี้ ก็พักที่โรงแรมในเครือ A&O อีกเหมือนเดิมค่ะ เนื่องจากห้องพักราคาถูก |
โดยโรงแรมที่พักค้างแรมรอน นอนออนซอนคืนนี้ ก็พักที่โรงแรมในเครือ A&O อีกเหมือนเดิมค่ะ เนื่องจากห้องพักราคาถูก ไม่แพง และอยู่ใกล้สถานีรถไฟมากๆ
|
ที่ล็อกบี้ของโรงแรม กว้างขวางกว่าที่โรงแรมในเมืองเดรสเดน |
ที่ล็อกบี้ของโรงแรม กว้างขวางกว่าที่โรงแรมในเครือ A&O ในเมืองเดรสเดน
|
มีมุมหนังสือและนิตยสารต่างๆให้เปิดอ่านอีกด้วย |
มีมุมหนังสือและนิตยสารต่างๆให้เปิดอ่านอีกด้วย
|
ส่วนห้องพักก็นอนเป็นห้องนอนรวม แบบ Shared Bath Room สภาพห้องอย่างที่เห็น เพราะมีแขกที่เข้าพักก่อนหน้าแล้ว ก็จะอีรุงตุงนังพอสมควรค่ะ |
ส่วนห้องพักก็นอนเป็นห้องนอนรวม แบบ Shared Bath Room ราคาคืนละ 800 บาทต่อคืน
สภาพห้องอย่างที่เห็น เพราะมีแขกที่เข้าพักก่อนหน้าแล้ว ก็จะอีรุงตุงนังพอสมควรค่ะ ส่วนเตียงใหนเรียบร้อย แสดงว่ายังไม่มีคนเข้าพัก
|
ในห้องมีตู้ล็อกเกอร์ มีห้องน้ำในตัวให้ และห้องกว้างขวางกว่าโรงแรมที่พักก่อนหน้ามากๆ |
ในห้องมีตู้ล็อกเกอร์ มีห้องน้ำในตัวให้ และห้องกว้างขวางกว่าโรงแรมที่พักก่อนหน้ามากๆ อีกทั้งไม่วุ่นวายด้วย
|
และในเรื่องอาหารการกิน ก็หากินได้ไม่ยาก เพราะมีซุปเปอร์มาร์เกตอยู่ในสถานีรถไฟ เดินไปซื้ออาหารมาทำทานที่โรงแรมได้ |
และในเรื่องอาหารการกิน ก็หากินได้ไม่ยาก เพราะมีซุปเปอร์มาร์เกตอยู่ในสถานีรถไฟ เดินไปซื้ออาหารมาทำทานที่โรงแรมได้ เพราะที่โรงแรมก็มีห้องครัวเล็กๆให้ทำกับข้าวทานได้ค่ะ สรุปที่พักคืนนี้ถือว่าโอเคให้ผ่านจ้า
|
มีแผนที่แนะนำเส้นทางการคมนาคมให้เลือกหลากหลาย ดูในแผนที่ค่อนข้างสับสนบ้าง |
และหากใครที่จะเดินทางออกไปย่านชานเมือง ทางโรงแรมก็มีแผนที่แนะนำเส้นทางการคมนาคมให้เลือกหลากหลาย ดูในแผนที่ค่อนข้างสับสนบ้าง
|
จบจากเรื่องที่พัก ก็มาต่อด้วยเรื่องแหล่งท่องเที่ยวค่ะ ซึ่งในเมืองไลพ์ซิกก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง แผนที่แนะนำที่เที่ยวในเมืองไลพ์ซิก |
จบจากเรื่องที่พัก ก็มาต่อด้วยเรื่องแหล่งท่องเที่ยวค่ะ ซึ่งในเมืองไลพ์ซิกก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง และสามารถเดินเท้าเที่ยวชมรอบเมืองได้ด้วยตนเองแบบง่ายๆ เหมือนกับเมืองที่เที่ยวก่อนหน้านี้เลยล่ะค่ะ
|
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ของทางโรงแรมก็ได้วงกลมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแต่ละแห่งในตัวเมืองไลพ์ซิก
ที่สามารถเริ่มต้นเดินเท้าจากสถานีรถไฟไปเช็กอินถ่ายรูปได้แบบง่ายๆ |
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ของทางโรงแรมก็ได้วงกลมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแต่ละแห่งในตัวเมืองไลพ์ซิก ที่สามารถเริ่มต้นเดินเท้าจากสถานีรถไฟไปเช็กอินถ่ายรูป และชมสถานที่ท่องเที่ยวเมืองไลพ์ซิกได้อย่างสะดวกสบาย หรือหากใครที่ไม่อยากเดิน ก็สามารถเช่ารถจักรยานปั่นได้ในราคาไม่แพงมากนัก
หากเพื่อนๆเหล่านักทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้นคนใหน ในอนาคตจะปักหมุดมาเที่ยวเมืองไลพ์ซิก แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ใหนบ้าง วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า เลยขอมาสรุปแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไลพ์ซิกบางส่วนให้ได้ดูกันดังนี้
|
1.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองไลพ์ชิก และตลาดย่านใจกลางเมือง
Museum of City History Leipzig, Old Town Hall (Altes Rathaus, Markt) |
|
1.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองไลพ์ชิก และตลาดย่านใจกลางเมือง
Museum of City History Leipzig, Old Town Hall (Altes Rathaus, Markt) |
|
1.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองไลพ์ชิก และตลาดย่านใจกลางเมือง
Museum of City History Leipzig, Old Town Hall (Altes Rathaus, Markt) |
|
1.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองไลพ์ชิก และตลาดย่านใจกลางเมือง
Museum of City History Leipzig, Old Town Hall (Altes Rathaus, Markt) |
1.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองไลพ์ชิก และตลาดย่านใจกลางเมือง
Museum of City History Leipzig, Old Town Hall (Altes Rathaus, Markt)
จัดเป็นหนึ่งจุดเช็กอิน
และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งในย่านใจกลางเมือง
ศาลาว่าการเก่าที่สร้างขึ้นโดย Hieronymus Lotter ในปี 1556 และ 1557
เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมเยอรมันยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา
โดยอาคารนี้มีห้องบอลรูมยาว
53 เมตร หรือประมาณ 174 ฟุต จนกระทั่งต้นศตวรรษที่ 20
เป็นที่ตั้งของสภาเมือง Leipzig โดยอาคารเก่าแก่แห่งนี้
ถูกจัดให้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองตั้งแต่ปี ค.ศ.1909 ภายในอาคารศาลาว่าการเป็นที่เก็บรักษาโบราณวัตถุอันมีค่าจำนวนมากในประวัติศาสตร์ดนตรีของเมือง
Leipzig ซึ่งคุณสามารถพบได้ในทัวร์ของเมือง Leipzig Notenspur
และด้านหน้าอาคารก็เป็นลานบริเวณกว้างเพื่อจัดกิจกรรมต่างๆของเมือง
และในช่วงเช้าก็เป็นตลาดให้ชาวเมืองไลพ์ซิกและนักเดินทางท่องเที่ยวได้เลือกซื้อสินค้าในท้องถิ่นอีกด้วย
|
3.โบสถ์นักบุญนิโคลัส (St. Nicholas Church) |
|
3.โบสถ์นักบุญนิโคลัส (St. Nicholas Church) |
|
3.โบสถ์นักบุญนิโคลัส (St. Nicholas Church) |
|
3.โบสถ์นักบุญนิโคลัส (St. Nicholas Church) |
2.โบสถ์นักบุญโธมัส เมืองไลพ์ซิช (St. Thomas Church)
เป็นโบสถ์ที่โยฮันน์ เซบาสเทียน บาค
ทำงานดนตรี ได้แก่ การประพันธ์เพลง การควบคุมวงดนตรี
การสอนคณะนักเรียนประสานเสียง ขณะที่ใช้ชีวิตในไลพ์ซิช
ปัจจุบันได้รับการขนานนามว่า เป็น โบสถ์ของบาค
นักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเยี่ยมเยียนไลพ์ซิช
เพื่อซึมซับบรรยากาศการใช้ชีวิตของนักประพันธ์ท่านนี้ ทุกวันพุธ
และวันเสาร์ ที่โบสถ์นี้จะจัดแสดงดนตรีจากบทประพันธ์ของโยฮันน์ เซบาสเทียน
บาคโดยนักดนตรีมืออาชีพ
|
3.โบสถ์นักบุญนิโคลัส (St. Nicholas Church) |
|
3.โบสถ์นักบุญนิโคลัส (St. Nicholas Church) |
|
3.โบสถ์นักบุญนิโคลัส (St. Nicholas Church) |
|
3.โบสถ์นักบุญนิโคลัส (St. Nicholas Church) |
3.โบสถ์นักบุญนิโคลัส (St. Nicholas Church)
สำหรับโบสถ์นักบุญนิโคลัส เป็นอีกหนึ่งโบสถ์เก่าแก่ในเมืองไลพ์ซิก นอกจากเป็นโบสถ์ที่ โยฮันน์ เซบาสเทียน
บาคมักจะนำเอาผลงานการประพันธ์ทุกชิ้นออกแสดงเป็นครั้งแรกแล้ว
ยังเป็นโบสถ์ที่มีความสำคัญ เนื่องจากในช่วงที่ไลพ์ซิช
อยู่ภายใต้ประเทศเยอรมนีตะวันออก
โบสถ์แห่งนี้เป็นศูนย์รวมของชาวเมืองที่ร่วมจัดอธิษฐานเพื่อสันติภาพ
ให้หลุดพ้นจากการปกครองในระบบคอมมิวนิสต์ โดยเริ่มครั้งแรกใน ค.ศ. 1980
โดยเป็นการอธิษฐานต่อเนื่อง 10 วัน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน
และจัดต่อเนื่องกันทุกปี จนกระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 9 ตุลาคม ค.ศ. 1989
หลังงานฉลองครบรอบ 40 ปีประเทศเยอรมนีตะวันออก เพียง 2 วัน
ชาวเมืองได้ร่วมกันเดินขบวนเพื่อมาร่วมอธิษฐานที่โบสถ์แห่งนี้
จนเกิดเป็นคลื่นมหาชนที่มารวมตัวกัน
เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดลงนามการรวมประเทศเยอรมนีในวันรุ่งขึ้น
|
4.ศาลาว่าการเมืองไลพ์ซิกหลังเก่า (Leipzig city hall) |
|
4.ศาลาว่าการเมืองไลพ์ซิกหลังเก่า (Leipzig city hall) |
4.ศาลาว่าการเมืองไลพ์ซิกหลังเก่า (leipzig city hall) อาคารศาลาว่าการเมืองนี้สร้างขึ้นใน ค.ศ.
1556
และเป็นอาคารยุคเรเนซองหลังใหญ่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ในเยอรมนีในปัจจุบันนี้
เป็นอาคารที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมือง มีความยาวกว่า 90 เมตร
ประกอบด้วยหอคอย
และตัวอาคารสองหลังเชื่อมต่อกันบริเวณชั้นสองซึ่งเป็นห้องโถงใหญ่สำหรับผู้ว่าการเมือง
ออกปฏิบัติราชการและพิพากษาคดี
ปัจจุบันศาลาว่าการเมืองหลังนี้
เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ สำหรับนักท่องเที่ยวเข้าชม
โดยจัดแสดงการตกแต่งภายในที่ยังคงสภาพใกล้เคียงรูปแบบเดิม
ซึ่งตกแต่งด้วยชิ้นไม้ขนาดใหญ่ และภาพเขียนเจ้าเมือง หรือ
นายกเทศมนตรีของเมืองตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 เป็นต้นมา
ซึ่งเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่นักท่องเที่ยวควรหาเวลาเข้าชมเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนบริเวณชั้นล่าง แบ่งเป็นพื้นที่ให้เช่าสำหรับร้านค้าขายของที่ระลึก
ซึ่งรวมไปถึงผลิตภัณฑ์เซรามิก ไมเซน ที่มีชื่อเสียง
และเก่าแก่ที่สุดของเยอรมนี รวมอยู่ด้วย
|
5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะเกี่ยวกับงานวิจิตรศิลป์ (Museum of fine arts)
|
|
5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะเกี่ยวกับงานวิจิตรศิลป์ (Museum of fine arts) |
5.พิพิธภัณฑ์ศิลปะเกี่ยวกับงานวิจิตรศิลป์ (Museum of fine arts) เป็นพิพิธภัณฑ์วิจิตศิลป์ในไลพ์ซิกแซกโซนีเยอรมนี ครอบคลุมงานศิลปะตั้งแต่ปลายยุคกลางจนถึงความทันสมัย พิพิธภัณฑ์มีอายุย้อนไปถึงการก่อตั้งสมาคม "Leipzig Art Association" โดยมีนักสะสมและผู้สนับสนุนศิลปะ Leipzig ได้ร่วมกันก่อตั้งขึ้นในปี 1837 และได้ตั้งเป้าหมายในการสร้างพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่ 10 ธันวาคม ค.ศ.1848 ซึ่งสมาคมก็สามารถเปิด "พิพิธภัณฑ์ Städtische" มีการจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย (ในเวลานั้น) ประมาณร้อยรายการและบริจาคขึ้น จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญอีกแห่งของเมือง
|
6.เกวานเฮ้าส์ (Gewandhaus)
|
|
6.เกวานเฮ้าส์ (Gewandhaus)
|
6.เกวานเฮ้าส์ (Gewandhaus)
เป็นสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตออเคสตร้า และดนตรีคลาสสิก
และเป็นสถานที่จัดแสดงหลักของวงดนตรีออเคสตร้าที่มีชื่อเสียงในยุโรปด้วย
สิ่งที่น่าสนใจในเกวานเฮาส์ นอกจากงานแสดงดนตรีในรูปแบบต่าง
ในอัตราค่าเข้าชมที่ไม่สูงมากนักแล้ว
ภายในอาคารแห่งนี้ตกแต่งด้วยภาพวาดศิลปะที่เกี่ยวเนื่องกับการแสดงดนตรี
อาคารเกวานเฮาส์หลังปัจจุบันนี้ สร้างขึ้นใหม่ในช่วงที่เมืองไลพ์ซิชอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศเยอรมนีตะวันออก
เพื่อทดแทนของเก่าที่เสียหายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
รูปทรงสถาปัตยกรรมของตัวอาคารจึงมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างไปจากอาคารโดยรอบ
โดยในช่วงเวลานั้น
ลานบริเวณด้านหน้าเกวานด์เฮาส์เปลี่ยนชื่อเป็นจตุรัสคาร์ล มาร์กซ์
และมีการจัดทำอนุสวรีย์ประชาชน ไว้บริเวณดังกล่าว ภายหลังการรวมประเทศ
ลานดังกล่าวได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อ จตุรัสเอากุสตุส ดังในอดีต
และมหาวิทยาลัยไลพ์ซิก ได้ย้ายอนุสวรีย์ดังกล่าวออกจากจตุรัสนี้
ไปตั้งไว้ยังคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา แทน
|
นอกจากนี้แล้วในเมืองไลพ์ซิก ยังสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง |
นอกจากนี้แล้วในเมืองไลพ์ซิก ยังสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง
และยังมีย่านช็อปปิ้ง ถนนคนเดิน มีห้างสรรพสินค้าให้แวะไปช็อปปิ้งหลายแห่ง
อีกทั้งร้านคาเฟ่สไตล์ชิคๆเก๋ๆ ให้นั่งทานนอกร้านชมบรรยากาศดีเมือง ก็ดูชิลๆสุดๆไปเลย
|
เมีต้นม้ง ต้มไม้ ดอกไม้ขาย ตั้งเรียงรายให้เลือกซื้อ เลือกหากันอย่างสวยงามตา ระย้าจับใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตน |
บริเวณศาลาว่าการเมืองเก่า ก็มีตลาดสด มีต้นม้ง ต้มไม้ ดอกไม้ขาย ตั้งเรียงรายให้เลือกซื้อ เลือกหากันอย่างสวยงามตา ระย้าจับใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตน
|
มีผลหมาก รากไม้ท้องถิ่นในแทบนี้ เห็นจะมีแต่ผลเบอรี่สีดำและสีแดง ที่ราคาไม่แพงมากนัก |
มีผลหมาก รากไม้ท้องถิ่นในแทบนี้ เห็นจะมีแต่ผลเบอรี่สีดำและสีแดง ที่ราคาไม่แพงมากนัก ส่วนสับปะรดราคาแพงโขเอาการอยู่พอสมควร
|
ยังมีผักผลไม้อีกหลายอย่าง หากใครที่อยากทานผลไม้สดๆ เดินมาที่ตลาดในตัวเมืองไลพ์ซิก |
และยังมีผักผลไม้อีกหลายอย่าง หากใครที่อยากทานผลไม้สดๆ เดินมาที่ตลาดในตัวเมืองไลพ์ซิก มีอาหารการกินให้เลือกเพียบ ทั้งของอาหารสด และอาหารแปรรูป
|
ขนมท้องถิ่นขึ้นชื่อประจำเมืองนี้ ที่มาแล้วต้องแวะลิ้มลอง ก็คือขนมไลพ์ซิกเกอร์ เลอชึน (Leipziger Lerchen) |
และขนมท้องถิ่นขึ้นชื่อประจำเมืองนี้ ที่มาแล้วต้องแวะลิ้มลอง ก็คือขนมไลพ์ซิกเกอร์ เลอชึน (Leipziger Lerchen) ซึ่งวางขายอยู่ในร้านอันเก่าแก่ ใกล้ๆกับโบสถ์นิโคลัส เป็นขนมอบที่เต็มไปด้วยอัลมอนด์บดถั่วและแยมสตรอเบอร์รี่ ชื่อ ("Leipzig lark") มาจาก lark pâté ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษของเมือง Leipzig จนกระทั่งมีการสั่งห้ามล่าสัตว์ในเมืองแซกโซนีในปี 1876.
|
ซื้อไปลิ้มลองทานดูสักชิ้นค่ะ ราคาตกชิ้นเท่าไหร่จำไม่ได้ น่าจะประมาณสัก 2-3 ยูโรเนี่ยแหละ |
ใหนๆก็มาถึงทั้งที ก็ซื้อไปลิ้มลองทานดูสักชิ้นค่ะ ราคาตกชิ้นเท่าไหร่จำไม่ได้ น่าจะประมาณสัก 2-3 ยูโรเนี่ยแหละ ตอนแรก เดี๊ยนกะว่าจะซื้อไปฝากคนที่บ้านด้วย แต่ดูแล้ว คงจะเข้าท้องอิชั้นหรือไม่ก็ขนมแตกป่นปี้ระหว่างเดินเป็นแน่น เลยซื้อทานชิ้นเดียวดีกว่าค่ะ ส่วนรสชาติขนมคล้ายๆคุ๊กกี้นิ่มๆ หรือมัฟฟิน มีกลิ่นของอัลมอน หอมอร่อยดีค่ะ ใครมาเที่ยวที่นี่ก็ซื้อลิ้มลองทานกันดู
|
หากใครที่แวะมาเที่ยว เดินจนเมื่อยขา ในตัวเมือง ก็มีสวนสาธารณะให้แวะไปนั่งพักผ่อนกันอีกด้วย |
สำหรับใครที่แวะมาเที่ยว เดินจนเมื่อยขา ในตัวเมือง ก็มีสวนสาธารณะให้แวะไปนั่งพักผ่อนกันอีกด้วย
|
ดูอย่างเจ้าน้องหมาตัวนี้สิ หันชะแว๊ปมาที่กล้องพอดีเลย |
ดูอย่างเจ้าน้องหมาตัวนี้สิ หันชะแว๊ปมาที่กล้องพอดีเลย
|
จบทริปเที่ยวเมืองไลพ์ซิกแบบสั้นๆ เดินเที่ยวทั้งวันแบบชิลๆ ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยวในประเทศเยอรมัน จบจากเมืองนี้ นั่งรถไฟเดินทางต่อไปพักค้างเที่ยวยังเมืองถัดไป |
จบทริปเที่ยวเมืองไลพ์ซิกแบบสั้นๆ เดินเที่ยวทั้งวันแบบชิลๆ ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยวในประเทศเยอรมัน ที่มีแหล่งท่องเที่ยวและดูมีสีสันคึกคักไม่น้อยทีเดียว และสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งก็อยู่ใกล้กัน เดินวนเวียนเที่ยวได้อย่างสบายๆค่ะ
สำหรับรีวิวทริปเที่ยวเมืองไลพ์ซิกที่ได้นำเสนอในบทความนี้ น่าจะมีแหล่งท่องเที่ยวและมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อท่านที่รักการเดินทางท่องเที่ยวเปิดโลกกว้าง หรือกำลังวางแผนไปเที่ยวเยอรมันในอนาคตกันอันใกล้นี้อยู่ไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาดสิ่งใด ดิฉันต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆคน ทีเสียสละเวลาสุขล้นมาสไลด์เลื่อนดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในบทความถัดไปค่ะ....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
--------------------------------------------------------------------------------------
0 ความคิดเห็น