|
เพื่อไม่ให้เว็ปไซต์ร้างไป เก็บตกรีวิวค้างแรมปีวันนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอเลิกจากงานประจำ พาคุณผู้อ่านไปเปิดโลกกว้างยลตระการเที่ยวเมืองฮัมบูร์ก(Hamburg) ไปดูสิว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจ ให้ไปถ่ายรูปเช็กอินกันบ้าง |
เพราะโลกมันกว้าง ก็เลยต้องออกเดินทางไปเที่ยวชมให้เห็นด้วยตาด้วยตัวเองสักครั้ง....สวัสดีคุณผู้อ่านและเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจทุกคนค่ะ เก็บตกทริปแบกเป้ท่องโลกกว้างค้างนานแรมปี ยังเขียนไม่จบสักที ในบทความบล็อกนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอพาเพื่อนๆคุณผู้อ่านไปยลตระการเที่ยวยุโรปกันต่อกัน หลังจากรีวิวบทความตอนที่แล้ว ได้พาไปเที่ยวแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในกรุงเบอร์ลินกันไปแล้ว ตามเว็ปไซต์ลิงค์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2020/10/Backpack-travel-berlin-germany-trip.html
และเพื่อไม่ให้เว็ปไซต์ร้างไป ก็ขอมารีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวกันต่อที่เมืองฮัมบูร์ก อีกหนึ่งเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศเยอรมนี โดยมีอาณาเขตติดกับทะเล เป็นเมืองท่าเรือที่สำคัญ อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ให้แวะไปเดินเช็กอินกันด้วย และก่อนที่จะเข้าสู่ภาพรีวิวแหล่งท่องเที่ยว เราก็มารู้จัก เมืองฮัมบูร์ก กันบ้างสักเล็กน้อยค่ะ
|
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเมืองฮัมบรู์ก ประเทศเยอรมนี อ่านเป็นความรู้พอสังเขปสักเล็กน้อยค่ะ |
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเมืองฮัมบรู์ก ประเทศเยอรมนี อ่านเป็นความรู้พอสังเขปค่ะ
เมืองฮัมบูร์ก หรือบางคนอ่านว่า ฮัมบวร์ค (ภาษาเยอรมัน: Hamburg) ฮัมบวร์คถือเป็นศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญและถือเป็นหนึ่งใน เมืองที่รวยที่สุดในยุโรปและเป็นเขตเมือง อุตสาหกรรมที่แห่งหนึ่งที่สำคัญของ เยอรมัน อีกทั้่งยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเยอรมนี รองลงมาจากเบอร์ลิน และเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับ 8 ของยุโรป โดยมีประชากรอาศัยอยู่ในเมืองฮัมบวร์คมากกว่า 1.8 ล้านคน ในขณะที่รวมปริมณฑลรอบ ๆ ไปด้วยแล้วจะทำให้ นครฮัมบูร์ก มีประชากรทั้งสิ้น 5 ล้านคน
|
นครฮัมบวร์ค หรือเมือฮัมบูร์ก เป็นนครรัฐที่มีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเองอย่างสมบูรณ์จนกระทั่งมีการผนวกเยอรมนีใน ค.ศ. 1871 |
สำหรับชื่ออย่างเป็นทางการของฮัมบวร์ค คือ ฮัมบวร์ค นครอิสระและฮันเซอ (เยอรมัน: Freie und Hansestadt Hamburg) ซึ่งสะท้อนความเป็นมาของฮัมบวร์คในฐานะที่เป็นสมาชิกสันนิบาตฮันเซอในยุคกลาง และเป็นราชนครอิสระในจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ นครฮัมบวร์ค หรือเมือฮัมบูร์ก เป็นนครรัฐที่มีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเองอย่างสมบูรณ์จนกระทั่งมีการผนวกเยอรมนีใน ค.ศ. 1871 และเป็นสาธารณรัฐที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้มีผู้ปกครองจากชนชั้นฮันเซอาเทินจนถึง ค.ศ. 1919 เมืองฮัมบูร์กเองก็เคยเผชิญพิบัติภัยมากมาย เช่น เพลิงไหม้ครั้งใหญ่, ทะเลเหนือท่วม, และความขัดแย้งทางทหาร เป็นต้นว่า การทิ้งระเบิดช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ฮัมบวร์คก็สามารถกลับสู่ภาวะปกติและรุ่งเรืองยิ่งขึ้นทุกครั้ง
|
ท่าเรือฮัมบวร์คเป็นท่าเรือสำคัญ ซึ่งนับเป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสหภาพยุโรป และใหญ่เป็นอันดับที่ 10 ของโลก |
|
พื้นที่ท่าเรือส่วนใหญ่เป็นบริเวณปลอดภาษี มีบริษัท ห้างร้านที่สำคัญ ๆ ของเยอรมนี อยู่ที่เมืองนี้ |
ท่าเรือฮัมบวร์คเป็นท่าเรือสำคัญ ซึ่งนับเป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสหภาพยุโรป และใหญ่เป็นอันดับที่ 10 ของโลก พื้นที่ท่าเรือส่วนใหญ่เป็นบริเวณปลอดภาษี มีบริษัท ห้างร้านที่สำคัญ ๆ ของเยอรมนี อยู่ที่เมืองนี้ และที่สำคัญคือเมืองฮัมบูร์กได้รับการศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญมานานหลายศตวรรษและเป็นที่ตั้งของธนาคารที่เก่าแก่ในประเทศเยอรมันอีกด้วย
|
ปัจจุบันฮัมบวร์คเป็นศูนย์กลางการค้านานาชาติ และศูนย์กลางวัฒนธรรมของทางภาคเหนือของประเทศเยอรมัน |
ในส่วนของสภาพภูมิศาสตร์ เมืองฮัมบูร์กนั้น ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของคาบสมุทรจัตแลนด์ ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์นั้นอยู่ระหว่างสแกนดิเนเวียกับพื้นทวีปยุโรป ระหว่างทะเลเหนือกับทะเลบอลติก ปัจจุบันฮัมบวร์คเป็นศูนย์กลางการค้านานาชาติ และศูนย์กลางวัฒนธรรมของทางภาคเหนือของประเทศเยอรมัน
|
ในเมืองฮัมบูร์กยังเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ช่วยดึงดูดนักเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศให้มาเยือนอย่างต่อเนื่องอีกด้วย |
นอกจากนี้แล้วในเมืองฮัมบูร์กยังเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ช่วยดึงดูดนักเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศให้มาเยือนอย่างต่อเนื่องอีกด้วย โดยจากการจัดอันดับโดยได้อันดับที่ ที่ 17 ของโลกในปี 2555 และในปี 2553 ก็ได้อันดับที่ 10 ของโลก
|
สำหรับเมืองฮัมบูร์ก มีภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นภาคพื้นสมุทร อันเป็นอิทธิพลจากสภาพภูมิอากาศในมหาสมุทรเป็นส่วนมากและมวลความกดอากาศสูงจากมหาสมุทรแอตแลนติก |
หากมาเที่ยวเมืองฮัมบูร์ก เยอรมัน จะเที่ยวช่วงใหนดี สำหรับเมืองนี้ มีภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นภาคพื้นสมุทร อันเป็นอิทธิพลจากสภาพภูมิอากาศในมหาสมุทรเป็นส่วนมากและมวลความกดอากาศสูงจากมหาสมุทรแอตแลนติก เดือนที่สภาพอากาศร้อนที่สุดคือเดือนมิถุนายน กรกฎาคม และสิงหาคมตามลำดับ ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยช่วงนี้คือ 20.1 ถึง 23.5 °C และช่วงฤดูหนาวนั้นคือช่วงประมาณเดือน ธันวาคม มกราคม และกุมภาพันธ์ โดยมีอุณหภฺมิเฉลี่ยอยู่ที่ -0.3 ถึง 1.0 ° C โดยเฉลี่ยจะมีหิมะตกที่ฮัมบวร์คปีละ 1 ถึง 2 ครั้งเท่านั้น
เครดิดข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/ฮัมบวร์ค
หลังจากที่ได้อ่านข้อมูลสาระเล็กๆน้อยเกี่ยวกับเมืองฮัมบูร์กไปแล้ว ก็มาดูภาพรีวิวที่เที่ยวกันได้เลยค่ะ.....เริ่มต้นการเดินทางแบกเป้ลุยเดี่ยวทริปนี้ เขียนต่อจากบทความรีวิวก่อนหน้าที่เว็ปไซต์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2020/10/Backpack-travel-berlin-germany-trip.html
|
เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมแต่เช้าตรู่ จากนั้นก็เดินทางมาที่สถานีรถไฟในกรุงเบอร์ลิน |
เริ่มต้นการเดินทางแบกเป้ลุยเดี่ยวทริปนี้ เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมแต่เช้าตรู่ จากนั้นก็เดินทางมาที่สถานีรถไฟในกรุงเบอร์ลิน เพื่อเดินทางไปเที่ยวเมืองฮัมบูร์ก
|
ต้องรีบมาให้ทันรถไฟรอบเวลา 9.30 น. เพราะถ้าพลาดรอบนี้ ก็ต้องรอไปอีกเป็นชั่วโมงเลยค่ะ
|
ต้องรีบมาให้ทันรถไฟรอบเวลา 9.30 น. เพราะถ้าพลาดรอบนี้ ก็ต้องรอไปอีกเป็นชั่วโมงเลยค่ะ
|
อีกอย่างรถไฟที่ออกจากกรุงเบอร์ลินส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างตรงเวลาด้วย |
และอีกอย่างรถไฟที่ออกจากกรุงเบอร์ลินส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างตรงเวลาด้วย
|
นั่งรถไฟออกจากกรุงเบอร์ลิน มุ่งหน้าไปยังเมืองฮัมบูร์ก ระยะทางประมาณ 288 กิโลเมตร ผ่านท่ามกลางทุ่งนาข้าวบาร์เลย์ และโรงงานอุตสาหกรรม อยู่เป็นระยะ |
นั่งรถไฟออกจากกรุงเบอร์ลิน มุ่งหน้าไปยังเมืองฮัมบูร์ก ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจากเมืองหลวงของเยอรมัน ระยะทางประมาณ 288 กิโลเมตร ผ่านท่ามกลางทุ่งนาข้าวบาร์เลย์ และโรงงานอุตสาหกรรม อยู่เป็นระยะ
|
รถไฟมาเรื่อยๆ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงสถานีรถไฟเมืองฮัมบูร์กแล้วค่ะ |
นั่งรถไฟมาเรื่อยๆ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงสถานีรถไฟเมืองฮัมบูร์กแล้วค่ะ
|
ด้านในสถานีรถไฟช่วงฤดูร้อน คับคั่งไปด้วยผู้คนมากมาย เนื่องจากเป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับประเทศเดนมาร์ก |
บรรยากาศด้านในสถานีรถไฟช่วงฤดูร้อน คับคั่งไปด้วยผู้คนมากมาย เนื่องจากเป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับประเทศเดนมาร์ก นักเดินทางส่วนใหญ่ที่จะเดินทางไปเดนมาร์ก ก็มักจะมาเปลี่ยนขบวนรถไฟที่สถานีแห่งนี้
|
มาถึงก็ต้องตั้งหลักสักพัก มาเปิด GPS ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อเดินทางไปยังโรงแรมที่จองไว้คืนนี้ |
มาถึงสถานีรถไฟ ก็ต้องมาตั้งหลักสักพัก เปิด GPS ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อเดินทางไปยังโรงแรมที่จองไว้คืนนี้ โดยที่พักอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมากนัก จะได้ไปต้องเดินแบกเป้ไปไกล
|
ระหว่างเดินอยู่ในสถานีรถไฟ ใกล้กับซุปเปอร์มาเก็ต ก็เหลือบไปเห็นร้านขายขนมแปลกๆให้ลิ้มลองทานอีกแล้วค่ะ |
และระหว่างเดินอยู่ในสถานีรถไฟ ใกล้กับซุปเปอร์มาเก็ต ก็เหลือบไปเห็นร้านขายขนมแปลกๆให้ลิ้มลองทานอีกแล้วค่ะ
|
ขนมชิ้นเล็กๆที่เห็นอยู่นี้มีชื่อ่า Schmalzkuchen เป็นโดนัทเยอรมัน ขนมชนิดนี้ทำขึ้นจากแป้งผสมกลิ่นวนิลาและผิวเลมอนขูดผสมเข้าด้วยกัน |
ค้นใน Google ขนมชิ้นเล็กๆที่เห็นอยู่นี้มีชื่อ่า Schmalzkuchen เป็นโดนัทเยอรมัน ขนมชนิดนี้ทำขึ้นจากแป้งผสมกลิ่นวนิลาและผิวเลมอนขูดผสมเข้าด้วยกัน ทอดจนเป็นสีเหลืองทอ แล้วโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง ทีที่ร้านขายเป็นขีด ตกขีดละ 3 ยูโร ลองซื้อมาทานดูสัก 1 ขีดค่ะ
|
ทานไปแล้ว รสชาติเหมือนซาลาเปาทอดเป๊ะๆเลยค่ะ แต่ลักษณะเนื้อแป้งออกแข็งๆกว่าหน่อย และกลิ่นยีสต์แรงกว่ามาก |
ทานไปแล้ว รสชาติเหมือนซาลาเปาทอดเป๊ะๆเลยค่ะ แต่ลักษณะเนื้อแป้งออกแข็งๆกว่าหน่อย และกลิ่นยีสต์แรงกว่ามาก ทานไปก็อร่อยดี แต่ออกเลี่ยนน้ำมันไปหน่อย ถ้าใครมาเที่ยวเยอรมัน เห็นขนมนี้วางขายอยู่ ก็ลองซื้อทานดูนะคะ แนะนำว่าพกนมข้นหวานไปด้วยก็ดี น่าจะช่วยให้มีรสชาติขึ้นมาบ้าง
|
จากนั้นก็เดินตาม GPS ในมือถือ ออกมาที่ด้านนอกตัวอาคารของสถานีรถไฟ เพื่อเดินไปโรงแรมที่พักคืนนี้ |
หลังจากที่ได้ลิ้มลองทานขนมโดนัทสไตล์เยอรมันแล้ว จากนั้นก็เดินตาม GPS ในมือถือ ออกมาที่ด้านนอกตัวอาคารของสถานีรถไฟ เพื่อเดินไปโรงแรมที่พักคืนนี้
|
เดินจากสถานีรถไฟมาไม่ไกลค่ะ ประมาณ 1 กิโล ก็ถึงโรงแรม A&O Hamburg Hauptbahnhof เป็นโรงแรมแนวโฮสเทล ห้องนอนรวม ราคาคืนละ 750 บาท |
แล้วก็เดินแบกเป้จากสถานีรถไฟมาเรื่อยๆไม่ไกลค่ะ ประมาณ 1 กิโล ก็ถึงโรงแรม A&O Hamburg Hauptbahnhof ซึ่งเป็นที่พักของทริปนี้ เป็นโรงแรมแนวโฮสเทล ราคาตกคืนละ 750 บาท ห้องเตียงรวม และห้องน้ำรวม ซึ่งโรงแรมในเครือ A&O ก็มีลักษณะเหมือนกัน ซึ่งดิฉันได้รีวิวไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ในบทความบล็อกนี้ ก็ขอไม่รีวิวภาพต่อนะคะ
|
ต่อไปก็ขอพาไปดูสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเมืองฮัมบูร์กกันต่อค่ะ ที่โรงแรมจะมีแผนที่แนะนำแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในเมืองฮัมบูร์กให้ด้วย |
หลังจากได้ทำการเช็กอินเข้าโรงแรมเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ขอพาไปดูสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเมืองฮัมบูร์กกันต่อค่ะ ที่โรงแรมจะมีแผนที่แนะนำแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในเมืองฮัมบูร์กให้ด้วย
|
เจ้าหน้าที่ของโรงแรมแนะนำว่า สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งในเมืองฮัมบูร์ก สามารถเริ่มต้นเดินเท้าเที่ยวจากสถานีรถไฟเดินวนรอบเมืองได้ใกล้ๆไม่ไกล |
ทางเจ้าหน้าที่ของโรงแรมแนะนำว่า สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งในเมืองฮัมบูร์ก สามารถเริ่มต้นเดินเท้าเที่ยวจากสถานีรถไฟเดินวนรอบเมืองได้ใกล้ๆไม่ไกลค่ะ เนื่องจากจุดเช็กอิน และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแต่ละแห่งก็อยู่ติดๆกัน และไม่ไกลกันมากนัก ทำให้คนที่มีเวลาน้อย สามารถเดินเที่ยวในเมืองได้อย่างง่ายดาย
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆในเมืองฮัมบูร์ก มีจุดเช็กอินถ่ายรูปภาพอันโดดเด่นที่ใหนบ้างนั้น เดี๊ยนเลยขอมาสรุปเป็นข้อๆให้ดูกันดังนี้ค่ะ
|
1.ศาลากลางเก่าเมืองฮัมบูร์ก (Hamburg city Town Hall) |
|
1.ศาลากลางเก่าเมืองฮัมบูร์ก (Hamburg city Town Hall) |
|
1.ศาลากลางเก่าเมืองฮัมบูร์ก (Hamburg city Town Hall) |
1.ศาลากลางเก่าเมืองฮัมบูร์ก (Hamburg city Town Hall)
สำหรับอาคารดังกล่าวโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ตั้งอยู่ในย่าน Altstadt ใจกลางเมืองที่จัตุรัส Rathausmarkt ใกล้กับทะเลสาบ Binnenalster และสถานีกลาง ศาลากลางจังหวัดสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2429 ถึง พ.ศ. 2440 ยังคงเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการเดิมโดยมีสำนักงานของนายกเทศมนตรีเมืองฮัมบูร์กคนแรกและห้องประชุมสำหรับรัฐสภาและวุฒิสภา โดยศาลาว่าการฮัมบูร์กนั้นยังเป็นที่ตั้งของรัฐบาลท้องถิ่นของเมืองอิสระ หรือฮันเซียติกแห่งฮัมบูร์กประเทศเยอรมนี เหตุนี้จึงเป็นที่นั่งของรัฐสภาแห่งหนึ่งใน 16 รัฐของเยอรมนี Rathaus
|
2.ทะเลสาบบินเนนอัลสเตอร์ (Binnenalster lake) |
|
2.ทะเลสาบบินเนนอัลสเตอร์ (Binnenalster lake) |
|
2.ทะเลสาบบินเนนอัลสเตอร์ (Binnenalster lake) |
|
2.ทะเลสาบบินเนนอัลสเตอร์ (Binnenalster lake) |
2.ทะเลสาบบินเนนอัลสเตอร์ (Binnenalster lake)
จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจเมืองฮัมบูร์กที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟ และใกล้ศาลากลางเมือง โดยทะเลสาบบินเนินอัลสเตอร์ หรือ หรือ Inner Alster Lake เป็นหนึ่งในทะเลสาบเทียมสองแห่งภายในเขตเมืองฮัมบูร์กประเทศเยอรมนีซึ่งเกิดจากแม่น้ำ Alster (อีกแห่งคือAußenalster) โดยทะเลสาบมีพื้นที่ 0.2 ตารางกิโลเมตร (0.077 ตารางไมล์) เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของนักท่องเที่ยวและชาวเมืองฮัมบูร์กเองด้วย
|
3.อนุสรณ์สถานมหาวิหารนิโคลัสฮัมบูร์ก (St. Nikolai Memorial Hamburg) |
|
3.อนุสรณ์สถานมหาวิหารนิโคลัสฮัมบูร์ก (St. Nikolai Memorial Hamburg) |
|
3.อนุสรณ์สถานมหาวิหารนิโคลัสฮัมบูร์ก (St. Nikolai Memorial Hamburg) |
|
3.อนุสรณ์สถานมหาวิหารนิโคลัสฮัมบูร์ก (St. Nikolai Memorial Hamburg) |
3.อนุสรณ์สถานมหาวิหารนิโคลัสฮัมบูร์ก (St. Nikolai Memorial Hamburg)
โบสถ์เซนต์นิโคลัสเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคซึ่งเดิมเคยเป็น 1 ใน 5 ของลูเธอรันฮัปต์เคียร์เชนในเมืองฮัมบูร์กประเทศเยอรมนี โบสถ์หลังเดิมซึ่งเป็นอาคารไม้สร้างเสร็จในปี ค.ศ.1195 โดยถูกไฟไหม้ในปี 1842 และโบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดในปี ค.ศ. 1874 และจัดว่าเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก จากปีพ. ศ. 2417 ถึง พ.ศ. 2419 ด้วย จากเหต์การทิ้งระเบิดในฮัมบูร์กในสงครามโลกครั้งที่สอง ได้ทำลายโบสถ์จำนวนมาก การกำจัดซากปรักหักพังเหลือเพียงห้องใต้ดินสถานที่ตั้งและหอคอยทรงสูงซึ่งส่วนใหญ่เป็นโพรงกลวงสำหรับระฆังชุดใหญ่ ซากปรักหักพังเหล่านี้ยังคงใช้เป็นอนุสรณ์และสถานที่สำคัญทางสถาปัตยกรรมช ซากโบสถ์เก่าเป็นโครงสร้างที่สูงใหญ่โตมาก และในปี 2548 ลิฟต์ถูกติดตั้งบนแพลตฟอร์มสูง 75.3 เมตร จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาตร์ต่อเมืองฮัมบูร์กอีกแห่งด้วย
|
4.ท่าเรือฮัมบูร์ก (Port of Hamburg) จุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักเดินทางมาถ่ายรูปภาพ |
|
4.ท่าเรือฮัมบูร์ก (Port of Hamburg) จุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักเดินทางมาถ่ายรูปภาพ |
|
4.ท่าเรือฮัมบูร์ก (Port of Hamburg) จุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักเดินทางมาถ่ายรูปภาพ |
|
4.ท่าเรือฮัมบูร์ก (Port of Hamburg) จุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักเดินทางมาถ่ายรูปภาพ |
|
4.ท่าเรือฮัมบูร์ก (Port of Hamburg) จุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักเดินทางมาถ่ายรูปภาพ |
4.ท่าเรือฮัมบูร์ก (Port of Hamburg) จุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักเดินทางมาถ่ายรูปภาพ
จัดเป็น 1 ในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาถ่ายรูปมากที่สุดอีกแห่งในเมืองฮัมบูร์กก็ว่าได้ เนื่องจากท่าเรือฮัมบูร์กเป็นท่าเรือเก่าแก่ มีทัศนียภาพที่สวยงาม บรรยากาศดี มีร้านขายของที่ระลึก เรือนำเที่ยวให้บริการ โดยที่ตั้งของท่าเรือ ตั้งอยู่่ท่าริมแม่น้ำเอลเบ มีระยะห่างจากปากทะเลเหนือ เพียง 110 กิโลเมตร อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักในนาม "ประตูสู่ขั้วโลก"อีกด้วย โดยท่าเรือฮัมบูร์กของเยอรมนีเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และยังเป็นท่าเรือที่พลุกพล่านที่สุดอันดับสามในยุโรปและใหญ่เป็นอันดับที่ 15 ของโลกอีกด้วย โดยในปี 2014 มีการจัดการ 9.73 ล้าน TEU ในฮัมบูร์ก ท่าเรือครอบคลุมพื้นที่ 73.99 ตารางกิโลเมตรซึ่ง 43.31 กิโลเมตร สภาพพื้นที่ริมแม่น้ำเอลเบ่ Elbe ที่แตกแขนงทำให้มีพื้นที่ในการขนส่งสิ่งอำนวยความสะดวกในการขนถ่ายสินค้า ท่าเรือเสรีที่กว้างขวางก่อตั้งขึ้นเมื่อเมืองฮัมบูร์กเข้าร่วมสหภาพศุลกากรเยอรมันได้เปิดใช้งานการจัดเก็บสินค้านำเข้าแบบปลอดภาษี
|
5.อาคารเก่าย่านถนน Deichstraße |
|
5.อาคารเก่าย่านถนน Deichstraße |
|
5.อาคารเก่าย่านถนน Deichstraße |
5.อาคารเก่าย่านถนน Deichstraße
Deichstraße เป็นถนนที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ใน Altstadt of Hamburg ประเทศเยอรมนี และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองฮัมบูร์กที่นักท่องเที่ยวแวะมาถ่ายรูปภาพสวยๆ ปัจจุบันมีบ้านสมัยศตวรรษที่ 17-19 ที่ได้รับการบูรณะใหม่ทั้งหมดที่เหลืออยู่ในย่านท่าเรือเก่า ไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี พ. ศ. 2385 ทำให้อาคารดั้งเดิมถูกทำลายไปหลายแห่ง แต่ไว้ชีวิตทางใต้สุดของถนนที่แผ่กระจายโดยลม - ส่วนใหญ่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันย่านถนน Deichstraße –along กับ ถนน Peterstraßeแห่ง Neustadt มีอาคารที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองรวมทั้งโกดังที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งสร้างขึ้นในปี 1780 ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปชมกัน
|
6.ตึก Elbphilharmonie อาคารแปลกตาในเมืองฮัมบูร์ก |
|
6.ตึก Elbphilharmonie อาคารแปลกตาในเมืองฮัมบูร์ก |
6.ตึก Elbphilharmonie อาคารแปลกตาในเมืองฮัมบูร์ก
เป็นอาคารแปลกตาอีกแห่ง โดยเป็นอาคารที่มีห้องแสดงคอนเสิร์ตในย่าน HafenCity ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือ ของเมืองฮัมบูร์ก และยังเป็นหนึ่งในคอนเสิร์ตฮอลล์ที่ใหญ่ที่สุดและล้ำหน้าที่สุดในโลกอีกด้วย
|
7.ย่านเขตอาคารคลังเก่า The Speicherstadt Hamburg ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก |
|
7.ย่านเขตอาคารคลังเก่า The Speicherstadt Hamburg ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก |
|
7.ย่านเขตอาคารคลังเก่า The Speicherstadt Hamburg ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก |
|
7.ย่านเขตอาคารคลังเก่า The Speicherstadt Hamburg ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก |
|
7.ย่านเขตอาคารคลังเก่า The Speicherstadt Hamburg ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก |
7.ย่านเขตอาคารคลังเก่า The Speicherstadt Hamburg ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก
เมืองฮัมบูร์กประเทศเยอรมนีเป็นเขตคลังสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในท่าเรือฮัมบูร์กภายในย่าน HafenCity และสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2426 ถึง พ.ศ. ซึ่งอาคารตั้งอยู่บนฐานรากที่ทำด้วยไม้ซุงท่อนไม้โอ๊ค 2470
ในย่านเขต The Speicherstadt ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเขตปลอดการขนถ่ายสินค้าโดยไม่ต้องเสียภาษีศุลกากร 2552 ทั้งเขตและพื้นที่โดยรอบอยู่ระหว่างการปรับปรุงใหม่ ในฐานะที่เป็นอาคารเก่าแก่แห่งแรกในฮัมบูร์ก บริเวณอาคารดังกล่าวได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 อีกด้วย
|
8.อาคารเก่า Chilehaus |
|
8.อาคารเก่า Chilehaus |
|
8.อาคารเก่า Chilehaus |
8.อาคารเก่า Chilehaus
Chilehaus เป็นอาคารสำนักงานสิบชั้นในเมืองฮัมบูร์กประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ในเขต Kontorhaus เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมสไตล์ Brick Expressionism สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1920 อาคารเชิงมุมขนาดใหญ่แห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 6,000 ตร.ม. สร้างข้ามถนน Fischertwiete ในฮัมบูร์ก ได้รับการออกแบบโดย Fritz Högerสถาปนิกชาวเยอรมันและสร้างเสร็จในปีพ. ศ. 2467 จัดเป็นอาคารเก่าแก่อีกแห่งในเมืองฮัมบูร์กที่ยังใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน
|
นอกจากนี้แล้วในเมือง hamburg ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้แวะไปเที่ยวชมอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Miniatur Wunderland พิพิธภัณฑ์เมืองจำลองที่เล็กที่สุดในโลก, |
และนอกจากที่เที่ยวที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ในเมือง hamburg ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้แวะไปเที่ยวชมอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Miniatur Wunderland พิพิธภัณฑ์เมืองจำลองที่เล็กที่สุดในโลก, โบสถ์ St. Michael's Church และอื่นๆ
|
อากาศร้อนๆแบบนี้ ไอศครีมขายดีมากๆ เห็นแต่ผู้ใหญ่เรียงคิวเข้าแถวรอซื้อทานกัน |
ในช่วงสภาพอากาศร้อนๆแบบนี้ ไอศครีมขายดีมากๆ เห็นแต่ผู้ใหญ่เรียงคิวเข้าแถวรอซื้อทานกัน
|
เดินเที่ยวรอบเมืองฮัมบูร์กจนเหนื่อย แวะทานไอติมสักเติมพลังสักหน่อยค่ะ |
แบกเป้มาออกกำลังขา เดินเที่ยวรอบเมืองฮัมบูร์กจนเหนื่อย แวะทานไอติมสักเติมพลังสักหน่อยค่ะ
ตามเส้นทางเดินในเมือง จะมีลำคลองและสะพานเดินข้ามทอดไปยังอีกฝั่ง
|
ใครที่ชอบรับลมเย็นๆ แนะนำมานั่งพักผ่อนที่บริเวณท่าเรือเมืองฮัมบูร์กได้อย่างเพลิดเพลินจำเริญใจ |
ส่วนใครที่ชอบรับลมเย็นๆ แนะนำมานั่งพักผ่อนที่บริเวณท่าเรือเมืองฮัมบูร์ก ซึ่งมีร้านอาหาร ร้านคาเฟ่สไตล์น่ารักๆเก๋ๆ มีจุดให้นั่งพักเอนกายรับลมเย็นสบายๆในช่วงที่อากาศร้อน
|
ในย่าน The Speicherstadt หรือโซนตึกแดง ก็ยังมีร้านอาหารเก่าแก่ และร้านขายเครื่องดื่ม กาแฟร้อนๆให้ได้ลิ้มลองทานกันด้วย |
นอกจากบริเวรท่าเรือแล้ว ในย่าน The Speicherstadt หรือโซนตึกแดง ก็ยังมีร้านอาหารเก่าแก่ และร้านขายเครื่องดื่ม กาแฟร้อนๆให้ได้ลิ้มลองทานกันด้วย
|
กลับจากการเดินเที่ยวแสนเมื่ือยล้า ก็ไปหาซื้ออะไรทานที่ซุปเปอร์มาเก็ต อาหารมื้อเย็นแบบง่ายๆ เงินใกล้จะหมดแล้ว ต้องประหยัด ขนมโดนัทเยอรมันที่ซื้อเมื่อตอนเช้า ก็ต้องเอามาทานให้หมด |
และเมื่อกลับจากการเดินเที่ยวแสนเมื่อยล้า ออกกำลังได้กล้ามขาเป็นมัดๆแล้ว ก็ไปหาซื้ออะไรทานที่ซุปเปอร์มาเก็ตในสถานีรถไฟ อาหารมื้อเย็นแบบง่ายๆ จะทานแบบหรูหราไม่ได้แล้วค่ะ เงินใกล้จะหมดแล้ว ต้องประหยัด ขนมโดนัทเยอรมันที่ซื้อเมื่อตอนเช้า ก็ต้องเอามาทานให้หมด
|
เช้าวันใหม่ เช็คเอาท์ออกจากโรงแรม A&O hostel เดินทางไปที่สถานีรถไฟ เพื่อนั่งรถไฟเดินทางไปเที่ยวยังเมืองถัดไปค่ะ ป็นอันจบทริปเที่ยวเมืองฮัมบูร์กแบบสั้นๆใน 2 วัน 1 คืน |
หลังจากที่ได้เดินลั๊ลลาเที่ยวเมืองฮัมบูร์กแล้ว เช้าวันใหม่ เช็คเอาท์ออกจากโรงแรม A&O hostel เดินทางไปที่สถานีรถไฟ เพื่อนั่งรถไฟเดินทางไปเที่ยวยังเมืองถัดไปค่ะ
เป็นอันจบทริปเที่ยวเมืองฮัมบูร์กแบบสั้นๆใน 2 วัน 1 คืน เป็นอีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยวในประเทศเยอรมัน ที่ใครวางแผนแบกเป้มาเที่ยวยุโรป ก็ต้องปักหมุดแวะมาเยือนกันสักครั้งค่ะ และในเมืองนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญให้แวะไปถ่ายรูปเช็กอินอีกหลายแห่งเลยล่ะค่ะ เพียงแต่หากใครที่จะมาต้องวางแผนเที่ยวหลายวันหน่อย ก็สามารถไปเก็บภาพสวยๆได้เยอะทีเดียว
สำหรับบทความเก็บตกค้างแรมปี กับรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวเยอรมันในเว็ปไซต์นี้ ก็ขอจบเพียงเท่านี้ ส่วนรีวิวถัดไป จะพาไปเที่ยวเมืองใหน สามารถคลิ๊กเข้ามาเลื่อนสไลด์ดูกันได้ค่ะ จะมาอัพเดทเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เว็ปไซต์ร้างไป ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆคน ที่เสียสละเวลา เข้ามาสุขล้นสไลด์เลื่อนดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในบทความถัดไปนะคะ......จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
--------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่น ที่ผ่านมามีดังนี้ค่ะ
0 ความคิดเห็น