|
เพื่อไม่ให้เว็ปไซต์ร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมารีวิวเที่ยวในต่างแดนต่อจากตอนที่แล้วค่ะ กับทริปแบกเป้เที่ยวเมืองเดรสเดน เมืองประวัติศาสตร์สวยเด่น เดินเล่นได้อย่างสบายอุรา ช่ะช่ะช่าหัวใจ มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปเดินสะพร่างกันได้เลยจ้า |
สวัสดีคุณผู้อ่านและเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจกันทุกๆคนค่ะ สำหรับบทความในบล็อกนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมาบอกเล่า เก้าสิบเก็บตกทริปรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวต่างแดนต่อค่ะ หลังจากที่ค้างคาอยู่นาน เพราะมัวแต่สาระวนอยู่กับการทำงาน จนลืมไปเลยว่า ยังเหลือทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวยุโรปต้องมาสาธยายลงในเว็ปบล็อกให้เสร็จค่ะ
และเนื่องจากเมือง Karlovy vary ประเทศเช็ก เป็นเมืองที่มีอาณาเขตพรมแดนติดกับประเทศเยอรมัน การเดินทางครั้งนี้ ดิฉันเลยวางแผนนั่งรถไฟจากเมือง Karlovy vary มาเปลี่ยนชานชลาที่สถานี usti nad labem station czech เพื่อนั่งรถไฟขบวนระหว่างประเทศ จากสาธารณรัฐเช็ก มาเที่ยวเปิดโลกกว้างต่อที่เมืองเดรสเดน ประเทศเยอรมัน โดยทริปนี้นอนพักค้างแรม 1 คืนค่ะ
และก่อนที่จะเข้าสู่ภาพรีวิวท่องเที่ยวเมืองเดรสเดน เรามารู้จักเมืองเดรสเดนกันสักเล็กน้อยนะคะ
|
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเมืองเดรสเดน ประเทศเยอรมนี (About Dresden city,Germany) |
สาระน่ารู้เล็กน้อยๆเกี่ยวกับเมืองเดรสเดน (About Dresden City,Germany)
เมืองเดรสเดิน หรือที่ใครๆมักเรียกว่า เดรสเดน (ภาษาเยอรมัน Dresden) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 12 ของประเทศเยอรมัน โดยเป็นเมืองหลวงของรัฐซัคเซิน มีพรมแดนติดกับสาธารณรัฐเช็ก โดยเดรสเดนเป็นเมืองขนาดใหญ่ เป็นรองจากเมืองฮัมบวค โดยตัวเมืองมีแม่น้ำเอ็บเบลไหลผ่าน
นครเดรสเดนถูกจัดให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ระหว่างปี ค.ศ.2004-2009 เนื่องจากมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีโบราณสถานใหญ่โต ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงและที่ประทับของเจ้าแคว้นและกษัตริย์แห่งซัคเซิน
เป็นเมืองที่รุ่งเรืองไปด้วยวัฒนธรรมและศิลปะตลอดหลายศตวรรษ
อาคารบริเวณใจกลางเมืองมีสถาปัตยกรรมบารอกและโรโกโกที่วิจิตรจนได้รับการขนานนามว่าเป็นกล่องอัญมณีของเยอรมันอีกด้วย
|
และที่สำคัญคือ หลังจากหลังการรวมประเทศเยอรมนีในปีค.ศ. 1990
เดรสเดินได้กลายเป็นศูนย์กลางด้านวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ การเมือง
และการศึกษาของประเทศเยอรมนี |
ที่สำคัญคือ หลังจากหลังการรวมประเทศเยอรมนีในปีค.ศ. 1990
เดรสเดินได้กลายเป็นศูนย์กลางด้านวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ การเมือง
และการศึกษาของประเทศเยอรมนี
มีมหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งเดรสเดินเป็นหนึ่งในสิบสถาบันอุดมศึกษาใหญ่ที่สุดของประเทศ อีกยังโดยเป็นแหล่งอุตสากรรมสารกึ่งตัวนำมาที่มีมาตั้งแต่ปีค.ศ.
1969 อุตสาหกรรมรองลงมาคืออุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ หรือจำพวกยา และยังมีโรงงานเซรุ่นซัคเซินถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตวัคซีคแถวหน้าของโลก ทำให้เมืองเดรสเดรนจัดเป็นเมืองที่ผลิตยาเวชภัณฑ์ส่งออกไปยังทั่วโลก
|
แต่อย่างไรก็ตาม เมืองเดรสเดินก็เป็นเองได้รับความเสียหายจากการทิ้งระเบิดโดยสัมพันธมิตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง |
อย่างไรก็ตาม เมืองเดรสเดินก็เป็นเองได้รับความเสียหายจากการทิ้งระเบิดโดยสัมพันธมิตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งสงครามดังกล่าวได้คร่าชีวิตผู้คนกว่า
25,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
ภายหลังสงครามได้มีการบูรณะโบราณสถานต่างๆในเมืองซึ่งใช้เวลากว่าหลายสิบปี จึงฟื้นตัว แต่โบราณสถานต่างๆที่พุพังก็ได้รับการซ่อมแซมและอนุรักษ์ไว้ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญดึงดูดนักเดินทางชาวยุโรปและจากทั่วโลกให้แวะมาเที่ยวชมอย่างไม่ขาดสาย
|
ในเดินการทางมาเที่ยวเมืองเดรสเดน(Dresden)
ทริปนี้ดิฉันวางแผนนั่งรถไฟเดินทางออกจากเมืองคาร์โลวี วารี (Karlovy
Vary) ประเทศเช็กเกีย |
และในเดินการทางมาเที่ยวเมืองเดรสเดน(Dresden) ทริปนี้ดิฉันวางแผนนั่งรถไฟเดินทางออกจากเมืองคาร์โลวี วารี (Karlovy Vary) ประเทศเช็กเกีย เพื่อเดินทางไปเปลี่ยนสถานีรถไฟที่เมือง Usti nad labem
|
นั่งรถไฟออกจากเมืองคาร์โลวีวารี ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆก็ถึงสถานีรถไฟ Usti nad labem |
เดินทางนั่งรถไฟออกจากเมืองคาร์โลวีวารี ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆก็ถึงสถานีรถไฟ Usti nad labem เพื่อรอเปลี่ยนขบวนไปนั่งรถไฟข้ามพรมแดนไปยังประเทศเยอรมัน
|
แม้จะเป็นวันธรรมดา แต่ทีสถานีรถไฟในเมือง Usti nad labem ก็มีผู้โดยสารรอนั่งรถไฟไปยังกรุงปราก หรือไปยังประเทศเยอรมัน |
|
ยังพอมีเงินเหรียญสกุลประเทศเช็กเหลืออยู่ ต้องเอามาใช้ซื้อกับข้าวทานมื้อเที่ยงให้หมด |
ยังพอมีเงินเหรียญสกุลประเทศเช็กเหลืออยู่ ต้องเอามาใช้ซื้อกับข้าวทานมื้อเที่ยงให้หมด เหลือเงินเหรียญติดตัวบ้างเล็กน้อยไว้เป็นที่ระลึกค่ะ
รอรถไฟที่สถานี Usti nad labem ประมาณ 30 นาทีนิดๆ ขบวนรถไฟที่จะไปเยอรมันก็มาสักที
|
หลังจากที่แรมรอน ออนซอนมาไกลตั้งแต่ออกจากเมืองมิวนิค
นั่งรถไฟชิคๆเข้าสู่ประเทศออสเตรีย ไปฮังการี ไปประเทศเช็ก
และก็วนเวียนมาที่ประเทศเยอรมันเหมือนเดิม |
เดินทางนั่งรถไฟข้ามพรมแดนจากประเทศเช็ก สู่ประเทศเยอรมันอีกครั้ง หลังจากที่แรมรอนออนซอนมาไกลตั้งแต่ออกจากเมืองมิวนิค นั่งรถไฟชิคๆเข้าสู่ประเทศออสเตรีย ไปฮังการี ไปประเทศเช็ก และก็วนเวียนมาที่ประเทศเยอรมันเหมือนเดิม
|
เดินทางนั่งรถไฟจากสถานี Usti nad labem มายังถึงเมืองเดรสเดน ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆก็ถึงแล้วค่ะ |
ใช้เวลาเดินทางนั่งรถไฟจากสถานี Usti nad labem มายังถึงเมืองเดรสเดน ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆก็ถึงแล้วค่ะ
|
เดินออกมาหน้าสถานีรถไฟเมือง Dresden |
เดินออกมาหน้าสถานีรถไฟเมือง Dresden
|
มาตั้งหลักเปิด GPS ในโทรศัพท์มือถือเพื่อหาพิกัด เดินแบกเป้ไปยังโรงแรมที่พักค่ะ |
เดินออกต้องมาตั้งหลักเปิด GPS ในโทรศัพท์มือถือเพื่อหาพิกัด เดินแบกเป้ไปยังโรงแรมที่พักค่ะ ไม่งั้นหลงทางแน่ๆ เพราะไม่รู้ว่าจะเดินไปทางใหน ซ้ายหรือขวาดี
|
โรงแรมที่พักเที่ยวเมืองเดรสเดนทริปนี้ ดิฉันเลือกพักที่โรงแรม A&O อีกเช่นเดิมค่ะ เนื่องจากเป็นโรงแรมที่ราคาถูก |
โดยโรงแรมที่พักเที่ยวเมืองเดรสเดนทริปนี้ ดิฉันเลือกพักที่โรงแรม A&O อีกเช่นเดิมค่ะ เนื่องจากเป็นโรงแรมที่ราคาถูก อยู่ใกล้สถานีรถไฟ และเดินไปสะดวกที่สุดแล้ว
|
ห้องพักก็เป็นแบบห้องเตียงนอนรวม ค่าห้องพักตกคืนละ 800 บาท |
ห้องพักก็เป็นแบบห้องเตียงนอนรวม ค่าห้องพักตกคืนละ 800 บาท มีห้องน้ำส่วนตัวในห้องให้ แต่ต้องรอคิวใช้ห้องน้ำกับแขกร่วมห้องที่นอนด้วยกัน ในห้องพักมีทั้งหมด 6 เตียง หากปวดฮึ ปวดฉี่ ก็ต้องอดกลั้นเอาไว้ หรือไปห้องน้ำโซนล็อบบี้แทนค่ะ
|
ส่วนอาหารเย็นมื้อนี้ ก็หากินได้แบบง่ายๆ เพราะมีซุปเปอร์มาเกตอยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟ |
ส่วนอาหารเย็นมื้อนี้ ก็หากินได้แบบง่ายๆ เพราะมีซุปเปอร์มาเกตอยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟ เดินเท้าไปซื้อมาทานที่โรงแรมได้ มื้อเย็นนี้จัดไปเบาๆ ทานแต่สลัดกับขนมปัง ใจจริงอยากทานข้าวผัดกะเพรา แต่ก็ต้องอดทนเอาไว้ เดี่ยวก็ได้กลับเมืองไทยแล้ว
|
ต่อไปก็มาดูเรื่องแหล่งท่องเที่ยวต่อค่ะ สำหรับเมืองเดรสเดน
ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองมีพระราชวัง พิพิธภัณฑ์
สถาปัตยกรรมที่เก่าแก่สวยงามหลายแห่ง |
จบเรื่องการเดินทางไปแล้ว ต่อไปก็มาดูเรื่องแหล่งท่องเที่ยวต่อค่ะ สำหรับเมืองเดรสเดน ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองมีพระราชวัง พิพิธภัณฑ์ สถาปัตยกรรมที่เก่าแก่สวยงามหลายแห่ง
|
ในเมืองก็มีศูนย์ให้ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวในตัวเมืองเดรสเดนให้ด้วย |
ในเมืองก็มีศูนย์ให้ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวในตัวเมืองเดรสเดนให้ด้วย
สามารถเดินเข้าไปสอบถาม หรือหยิบแผนที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองมาเปิดดูแล้วเที่ยวตามได้ หรือหากใครมีข้อสงสัย สอบถามเจ้าหน้าที่ได้ โดยเจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคลวทีเดียว
|
แผนที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองเดรสเดน สามารถเดินเที่ยวในย่านเมืองเก่าได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ |
แผนที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองเดรสเดน สามารถเดินเที่ยวในย่านเมืองเก่าได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ เนื่องจากที่เที่ยวแต่ละแห่งก็อยู่ใกล้ๆกัน ส่วนใหญ่เป็นพิพิธภัณฑ์ พระราชวัง และอาคารเก่าแก่สำคัญที่เดินไปเที่ยวเองได้ เดี๊ยนเลยขอมาสรุปแหล่งท่องเที่ยวในเมืองนี้บางส่วนมาให้ดูกันดังนี้ค่ะ
|
1.เดรสเดินเฟราเอินเคียร์เชอ หรือโบสถ์พระแม่เดรสเดิน (Dresden Frauenkirche) |
|
1.เดรสเดินเฟราเอินเคียร์เชอ หรือโบสถ์พระแม่เดรสเดิน (Dresden Frauenkirche) |
|
1.เดรสเดินเฟราเอินเคียร์เชอ หรือโบสถ์พระแม่เดรสเดิน (Dresden Frauenkirche) |
1.เดรสเดินเฟราเอินเคียร์เชอ หรือโบสถ์พระแม่เดรสเดิน (Dresden Frauenkirche)
จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง เป็นโบสถ์โปรเตสแตนต์ของนิกายลูเทอแรน ในเมืองเดรสเดิน ประเทศเยอรมนี โดยในอดีตโบสถ์แห่งนี้ปรากฏการมีอยู่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ซึ่งแรกเริ่มเป็นโบสถ์ของศาสนจักรโรมันคาทอลิกด้วยสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ ต่อมาเมื่อมีการปฏิรูปศาสนาในช่วงศตวรรษที่ 18 ก็ได้มีการรื้อโบสถ์หลังเดิมและสร้างอาคารโบสถ์หลังใหม่ที่ใหญ่โตกว่าเดิมด้วยสถาปัตยกรรมบาโรกจนแล้วเสร็จในปีค.ศ. 1743 โดมของโบสถ์แห่งนี้ใช้หินทรายกว่า 12,000 ตันสร้าง เป็นหนึ่งในโดมโบสถ์คริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปโดย มีขนาดใหญ่พอๆกับโดมของมหาวิหารนักบุญเปโตรในนครวาติกันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม โบสถ์แห่งนี้ได้ถูกทำลายลงในปี 1945 จากการทิ้งระเบิดที่เดรสเดินในสงครามโลกครั้งที่สอง มีเพียงอนุสาวรีย์ของมาร์ติน ลูเทอร์ที่ด้านหน้าของโบสถ์เท่านั้นที่เหลือรอดมาได้ โบสถ์นี้อยู่ในสภาพซากปรักหักพังเป็นเวลากว่า 50 ปีจนกระทั่งเมื่อมีการรวมประเทศเยอรมนีในปี 1994 ก็มีการสร้างโบสถ์หลังนี้ขึ้นใหม่จนแล้วเสร็จโดยสมบูรณ์ในปี 2005 โดยใช้งบประมาณบูรณะไปทั้งสิ้น 180 ล้านยูโรจากการระดมทุนและรับบริจาค ในปัจจุบัน โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมืองเดรสเดิน ในแต่ละปีมีผู้มาเยือนโบสถ์นี้นับล้านราย
เครดิตข้อมูล : https://th.wikipedia.org/wiki/โบสถ์แม่พระเดรสเดิน
|
2.Dresden Cathedral (มหาวิหารเดรสเดน) |
|
2.Dresden Cathedral (มหาวิหารเดรสเดน) |
|
2.Dresden Cathedral (มหาวิหารเดรสเดน) |
2.Dresden Cathedral (มหาวิหารเดรสเดน)
เป็นโบสถ์คริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกที่สำคัญที่สุดอีกแห่งของเมืองเดรสเดิน ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำเอ็ลเบอ ย่านศูนย์กลางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ และยังเป็นโบสถ์ที่ฝังศพของ House of Wettin กษัตริย์โปแลนด์ในอดีตอีกด้วย
|
3.โรงมหรสพเซ็มเพอร์ (Semperoper,Dresden) |
|
3.โรงมหรสพเซ็มเพอร์ (Semperoper,Dresden) |
|
3.โรงมหรสพเซ็มเพอร์ (Semperoper,Dresden) |
3.โรงมหรสพเซ็มเพอร์ (Semperoper,Dresden)
เป็นโรงมหรสพของวงออร์เคสตราแห่งรัฐซัคเซิน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเอ็ลเบอใจกลางเมืองเดรสเดิน อาคารหลังแรกสร้างขึ้นโดยสถาปนิกชื่อว่า ก็อทฟรีท เซ็มเพอร์ (Gottfried Semper) ใน ค.ศ. 1841 ด้วยสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างเรอแนซ็องส์-บารอกตอนต้น และใช้เสาแบบคอรินเทียนของกรีก โดยโรงมหรสพดังกล่าว ถูกยกย่องว่าเป็นโรงมหรสพที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป อย่างไรก็ตาม อาคารหลังแรกถูกเพลิงไหม้จนย่อยยับจากเหตุลุกฮือใน ค.ศ. 1869
เนื่องด้วยก็อทฟรีทต้องลี้ภัยทางการเมืองจากการมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลุกฮือใน ค.ศ. 1869 ทำให้บุตรชายของเขา มันเฟรท เซ็มเพอร์ (Manfred Semper) ต้องมารับผิดชอบก่อสร้างอาคารหลังใหม่จนแล้วเสร็จใน ค.ศ. 1878 ด้วยสถาปัตยกรรมเรอแนซ็องส์ใหม่ อย่างไรก็ตาม อาคารหลังนี้ถูกทำลายลงอีกครั้งจากการทิ้งระเบิดที่เดรสเดินในสงครามโลกครั้งที่สอง อาคารนี้เป็นซากปรักพังพังกว่า 40 ปีก่อนที่จะได้รับการบูรณะจนแล้วเสร็จใน ค.ศ. 1985 โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบเดิมก่อนถูกทำลายจากสงคราม
เครดิตน่ารู้จาก : https://th.wikipedia.org/wiki/เซ็มเพอร์โอเพอร์
|
4.พระราชวังซวิงเงอร์ (Zwinger) พระราชวังหรูหราในเมืองDresden |
|
4.พระราชวังซวิงเงอร์ (Zwinger) พระราชวังหรูหราในเมืองDresden |
|
4.พระราชวังซวิงเงอร์ (Zwinger) พระราชวังหรูหราในเมืองDresden |
|
4.พระราชวังซวิงเงอร์ (Zwinger) พระราชวังหรูหราในเมืองDresden |
|
4.พระราชวังซวิงเงอร์ (Zwinger) พระราชวังหรูหราในเมืองDresden |
4.พระราชวังซวิงเงอร์ (Zwinger)
เป็นพระราชวังในเมืองเดรสเดิน ประเทศเยอรมนี สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมบารอก พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นหลังจากที่ พระเจ้าออกัสตัสที่ 2 แห่งโปแลนด์ ซึ่งทรงมีพระยศในเยอรมันเป็นเจ้าผู้คัดเลือกแห่งซัคเซิน ได้เสด็จพระราชดำเนินกลับจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในช่วงนั้นเป็นช่วงที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ทรงย้ายราชสำนักฝรั่งเศสไปยังพระราชวังแวร์ซาย พระเจ้าออกัสตัสทรงประทับใจในพระราชวังแวร์ซายมาก และทรงนึกปรารถนาจะมีวังที่โอ่อ่าอย่างเดียวกัน พระองค์จึงทรงบัญชาให้สร้างวังแห่งนี้ขึ้นในเดรสเดิน การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1710 และแล้วเสร็จในปี 1728 แต่ก็ยังขาดองค์ประกอบบางอย่างไปอยู่ เช่น ปีกนิทรรศการ ปีกหอสมุด การสวรรคตของพระเจ้าออกัสตัสในปี 1733 ทำให้การก่อสร้างปีกดังกล่าวหยุดลงเนื่องจากขาดแคลนทุนทรัพย์ บางส่วนของพระราชวังเริ่มเปิดเป็นสวนสาธารณะ
เกือบทั้งหมดของพระราชวังนี้ถูกทำลายลงจากการทิ้งระเบิดที่เดรสเดินในสงครามโลกครั้งที่สอง ระหว่าง 13–15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1945 อย่างไรก็ตาม งานจิตรกรรมและงานเขียนจำนวนมากถูกนำออกไปเก็บรักษาไว้ก่อนแล้ว ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุด พระราชวังแห่งนี้ก็ถูกบูรณะขึ้นจากการสนับสนุนงบประมาณโดยสหภาพโซเวียต การบูรณะแล้วเสร็จในปี 1963 ซึ่งได้ทำให้ซวิงเงอร์เกือบทั้งหมดกลับมามีสภาพเหมือนดังครั้งก่อนสงคราม
เครติดข้อมูลจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/ซวิงเงอร์
|
5.ปราสาทเดรสเดน (Dresden Castle) |
|
5.ปราสาทเดรสเดน (Dresden Castle) |
5.ปราสาทเดรสเดน (Dresden Castle)
ปราสาทเดรสเดนหรือพระราชวัง (เยอรมัน: Dresdner Residenzschloss หรือ Dresdner Schloss) เป็นหนึ่งในปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดอีกแห่งในเดรสเดนประเทศเยอรมนี เป็นเวลาเกือบ 400 ปี ที่ปราสาทแห่งนี้ได้กลายเป็นที่พำนักของผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นเจ้าเมือง และเป็นที่พำนักของกษัตริย์
ปัจจุบันปราสาทเดรสเดน เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ที่มีห้องเก็บของประวัติศาสตร์ ตู้เก็บเหรียญชุดสะสม ภาพพิมพ์ ภาพวาดและภาพถ่ายและคลังสรรพาวุธเดรสเดน นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของห้องสมุดศิลปะและการจัดการคอลเล็กชั่นศิลปะที่มีค่าของเมืองไว้ให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาชมอีกด้วย
|
6.พิพิธภัณฑ์กรีนวอลท์ (Green Vault) |
|
6.พิพิธภัณฑ์กรีนวอลท์ (Green Vault) |
6.พิพิธภัณฑ์กรีนวอลท์ (Green Vault)
The Green Vault (เยอรมัน: GrünesGewölbe) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในเมืองเดรสเดินประเทศเยอรมนีซึ่งมีการสะสมสมบัติที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1723 โดยออกัสตัสแห่งโปแลนด์และแซกโซนี ภายในห้องมีการจัดแสดงหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่สไตล์บาโรกไปจนถึงคลาสสิก โดยThe Green Vault ได้รับการตั้งชื่อตามฐานเสาและหินมาลาฮีทสีเขียว ที่ทาสีของห้องแรก มีบางคนอ้างว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
|
7.สวนสาธารณะเมืองเดรสเดิน (The Grand Garden of Dresden) |
|
7.สวนสาธารณะเมืองเดรสเดิน (The Grand Garden of Dresden) |
|
7.สวนสาธารณะเมืองเดรสเดิน (The Grand Garden of Dresden) |
|
7.สวนสาธารณะเมืองเดรสเดิน (The Grand Garden of Dresden) |
7.สวนสาธารณะเมืองเดรสเดิน (The Grand Garden of Dresden)
ภาษาเยอรมัน The Großer Garten ส่วน อังกฤษ: Great Garden เป็นสวนสไตล์บาโรกในใจกลางเมืองเดรสเดิน ที่มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีอาณาเขตครอบคลุมประมาณพื้นที่ทั้งหมาด 1.8 กม. ภายในสวนมีเส้นทางและลู่ทางจัดเป็น symmetrically ทั่วสวนสาธารณะ Sommerpalais Lustschloss เล็ก ๆ ตั้งอยู่ใจกลางสวน มีต้นไม้เขียว และมีการจัดแต่งสวนไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม เป็นที่พักผ่อน ออกกำลังกายของชาวเมืองเดรสเดิน
|
8. จิตรกรรมฝาผนังพอร์ซเลน |
นอกจากนี้แล้ว ในเมืองเดรสเดน ยังมีสถานทีท่องเที่ยวและจุดเช็กอินถ่ายรูปสวยงามหลายแห่ง
|
8.จิตรกรรมฝาผนังพอร์ซเลน อย่างเช่นในย่านเมืองเก่า ก็มีจิตรกรรมภาพวาดสวยงาม |
8.จิตรกรรมฝาผนังพอร์ซเลน จัดเป็นหนึ่งในจิตรกรรมฝาผนังที่มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก นักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางมาเดรสเดน ก็มักจะไม่พลาดมายืนถ่ายรูปคู่กับภาพจิตรกรรมฝาผนังแห่งนี้ เนื่องจากอยู่ใกล้ย่านท่องเที่ยวในตัวเมือง ซึ่งสามารถเดินจากสถานีรถไฟมาไม่ไกล สถานที่ท่องเที่ยวใกล้แม่น้ำ
|
โดยจะ มีร้านอาหารย่านถนนคนเดิน ที่อยู่ใกล้กับวิหารเดรสเดินเฟราเอินเคียร์เชอ |
โดยจะ มีร้านอาหารย่านถนนคนเดิน ที่อยู่ใกล้กับวิหารเดรสเดินเฟราเอินเคียร์เชอ
|
มีร้านคาเฟ่ ร้านอาหารสไตล์เยอรมันให้เลือกทานหลากหลาย รวมทั้งมีของที่ระลึกให้เลือกซื้อเลือกหากันอีกด้วย |
ซึ่งย่านดังกล่าว ก็มีร้านคาเฟ่ ร้านอาหารสไตล์เยอรมันให้เลือกทานหลากหลาย รวมทั้งมีของที่ระลึกให้เลือกซื้อเลือกหากันอีกด้วย
|
ในช่วงยามเย็นที่บริเวณริมแม่น้ำเอ็ลเบอในเมืองเดรสเดน |
และในช่วงยามเย็นที่บริเวณริมแม่น้ำเอ็ลเบอในเมืองเดรสเดน
|
มีมุมนั่งพักรับลมเย็นๆ ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอีกแห่งของตัวเมืองให้ได้ชื่นชมอย่างน่าภิรมย์ใจด้วย |
จะมีมุมนั่งพักรับลมเย็นๆ ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอีกแห่งของตัวเมืองให้ได้ชื่นชมอย่างน่าภิรมย์ใจด้วย
ส่วนอากาศช่วงหน้าร้อนที่เมืองนี้ ก็ไม่ได้ร้อนอบอ้าวด้วย ลมพัดเย็นดีด้วยซ้ำ
|
ส่วนใครอยากเห็นตึกรางบ้านช่องและโบสถ์วิหารขนาดใหญ่ แนะนำว่าให้เดินเท้าออกกำลังกาย ข้ามสะพานแม่น้ำเอ็ลเบอมาอีกสักเล็กน้อย |
ส่วนใครอยากเห็นตึกรางบ้านช่องและโบสถ์วิหารขนาดใหญ่ แนะนำว่าให้เดินเท้าออกกำลังกาย ข้ามสะพานแม่น้ำเอ็ลเบอมาอีกสักเล็กน้อย
|
หากเป็นช่วงพลบค่ำประมาณ 3 ทุ่ม ซึ่งตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว จะเห็นแสงสปอต์ไลท์ เฉิดส่องไฉไลสู่ตัววิหาร งดงามไปแพ้กัน |
บริเวณดังกล่าว ก็เป็นลานหญ้าให้นั่งชมวิวแบบชิลๆ ให้วิวทิวทัศน์อันสวยงามของตัวเมือง และหากเป็นช่วงพลบค่ำประมาณ 3 ทุ่ม ซึ่งตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว จะเห็นแสงสปอต์ไลท์ เฉิดส่องไฉไลสู่ตัววิหาร งดงามไปแพ้กัน
|
มีเรือให้บริการนำเที่ยวชมทัศนียภาพริมแม่น้ำในเมืองเดรสเดนให้บริการอีกด้วย |
มีเรือให้บริการนำเที่ยวชมทัศนียภาพริมแม่น้ำในเมืองเดรสเดนให้บริการอีกด้วย
|
พอตกยามเย็น ชาวเมืองเครสเดรนก็พาลูกเด็กเล็กแดง มาเดินออกกำลังกายที่ถนนริมแม่น้ำ และนั่งเล่นริมลานหญ้า กันอย่างสำราญเริงใจ |
ยิ่งพอตกยามเย็น ชาวเมืองเครสเดรนก็พาลูกเด็กเล็กแดง มาเดินออกกำลังกายที่ถนนริมแม่น้ำ และนั่งเล่นริมลานหญ้า กันอย่างสำราญเริงใจ
บริเวณลานหญ้ากว้างขวาง สะอาดสะอ้าน ริมแม่น้ำเอ็ลเบอในเมืองเดรสเดน สามารถนั่งเล่นชิลๆชมวิวรับลมเย็นได้
|
เดินเที่ยวจนเหนื่อย เติมความหวานสักหน่อย |
เดินเที่ยวจนเหนื่อย เติมความหวาน ด้วยการมาลิ้มลองทานไอติมช็อกโกแลตของเยอรมันดูสิ
|
จัดไปสักแท่ง กับไอศครีมช็อกโกแลต ราคา 2 ยูโร |
จัดไปสักแท่ง กับไอศครีมช็อกโกแลต ราคา 2 ยูโร รสชาติอร่อยมากๆ นึกแล้วอยากทานอีกค่ะ
ก่อนจะเดินทางกลับโรงแรมที่พัก ก็ต้องซื้อของที่ระลึกประจำเมืองเดรสเดนไปสักหน่อยค่ะ หนีไม่พ้นที่ติดตู้เย็น Magnet เพราะราคาถูก อีกทั้งพกพาง่ายทีสุดแล้ว หากจะเอาสินค้าชิ้นใหญ่ๆไป มีหวังแตกหักในกระเป๋าเป้แน่นอน
|
นอกจากที่กล่าวมานี้แล้ว ในเมืองเดรสเดน
ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง หากเพื่อนๆคุณผู้อ่านคนใหน
ที่วางแผนปักหมุดเที่ยวกันได้ |
และนอกจากที่กล่าวมานี้แล้ว ในเมืองเดรสเดน ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง หากเพื่อนๆคุณผู้อ่านคนใหน ที่วางแผนปักหมุดเที่ยวเยอรมัน ก็แวะมาเริงสุขสันต์เที่ยวเมืองเดรสเดนได้นะคะ ในเมืองประวัติศาสตร์อันเก่าแก่แห่งนี้ ยังมีจุดเช็กอินถ่ายรูป และเรื่องราวที่น่าค้นหา มีพิพิธภัณฑ์เรียนรู้ให้แวะไปเข้าดูอีกหลายแห่ง ยังไงในอนาคตวางแผนมาเที่ยวกันดูนะคะ
สำหรับบทความบล็อกรีวิวท่องเที่ยวเมือง Dresden ที่ได้นำเสนอไว้ในเว็ปไซต์นี้ น่าจะมีประโยชน์และเป็นแนวทางให้กับท่านที่กำลังวางแผนมาเที่ยวเดรสเดนกันอยู่ไม่มากก็น้อย หากข้อมูลดังกล่าวที่ได้นำเสนอไป มีข้อผิดพลาดสิ่งใด ดิฉันต้องขออภัยด้วยค่ะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆคน ที่แวะเวียนเข้ามาสุขล้น สไลด์เลื่อนเปิดดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในบทความถัดไป....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
--------------------------------------------------------
0 ความคิดเห็น