ในช่วงที่ต้องการกักตัวอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปเริงสำราญที่ใหน เนื่องจากโรคระบาด แพร่กระจายไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ทำให้คนไม่ค่อยออกเดินทางกัน สิ่งเดียวที่ทำได้ในการอยู่บ้าน หรือว่าอยู่หอพัก ห้องเช่าเล็กๆ ก็ต้องหากิจกรรมต่างๆทำแก้เซ็งกันไป อย่างเช่นในบทความนี้ เดี๊ยนเองก็ขอรื้อ บทความบล็อกท่องเที่ยวอันเก่า นำมาเล่าใหม่ให้เหล่าเพื่อนๆที่รักการทัศนาจร ได้ออนซอน อ่านฆ่าเวลากันค่ะ
วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้าๆบอๆ เลยขอมารีวิวเที่ยวโขงเจียม กับทริปเก่าแก่เมื่อหลายปีก่อน ได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองอุบล ยลกระการงานแห่เทียนพรรษา ชื่นอุราจับใจ เพราะงานจัดได้อย่างยิ่งใหญ่โตโอฬาร สะท้านโลกายิ่งนัก และอีกหนึ่งที่เที่ยวยอดนิยมอีกแห่ง มีคนบอกว่า หากใครมาเที่ยวอุบล นอกจากจะได้ยลตระการงานแห่เที่ยน ยังไงก็ไม่พลาดต้องมาวนเวียน เที่ยวที่อำเภอโขงเจียมสักครั้ง
เนื่องจากเป็นดินแดนแห่งการเริ่มต้นอรุณเบิกฟ้าวันใหม่ หากอยากชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใคร ก็ต้องมายลโฉมความศิวิไลของดวงอัคนีที่สาดแสงผ่องเป็นสีทองที่ผาแต้มโขงเจียมแห่งนี้สักครั้ง รับรองว่าสวยปัง อลังถึงใจงามวิไลเริ่ดสะแมนแตนอย่างแน่นอนจ้า
และก่อนจะเข้าสู่บทความบล็อกเก่าเอามาเล่าใหม่ กับรีวิวเที่ยวโขงเจียม เราก็มารู้จักเมืองนี้กันสักเล็กน้อย
สาระน่ารู้เล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับอำเภอโขงเจียม พอสังเขป (About Khongjiam District) |
อำเภอโขงเจียม แยกออกจากอำเภอศรีเมืองใหม่ แต่เดิมทีนั้นชื่ออำเภอโขงเจียม ซึ่งคำว่า " โขง " หมายถึงหัวหน้าช้าง หรืออาจจะมาจากคำว่า "โขลง" ที่หมายถึง ฝูงช้างก็ได้ คำว่า "เจียม" คาดว่า เพี้ยนมาจากคำว่า " เจียง " (ภาษาส่วย) ซึ่งแปลว่า " ช้าง " ดังนั้นอำเภอโขงเจียมจึงน่าจะหมายถึง "เมืองที่มีช้างมาอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่" ซึ่งแต่ในอดีตโบราณนั้นบริเวณดังกล่าวมีช้างอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เรียกพื้นที่แห่งนี้ว่า โขงเจียม โดยในวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2514 ทางราชการได้พิจารณาเห็นว่า คำว่า "โขงเจียม" เหมาะสมกับประวัติศาสตร์และชุมชนดังเดิมแถบนี้ จึงเปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอโขงเจียม
โดยโขงเจียม จัดเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกสุดของประเทศไทย โดยมีชื่อเดิมว่า อำเภอบ้านด่าน นับเป็น 1 ใน 5 อำเภอของจังหวัดที่มีแม่น้ำโขงไหลผ่าน และเป็นบ้านเกิดของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต อีกด้วย
ซึ่งโขงเจียมนั้น มีระยะห่างจากตัวจังหวัดอุบลราชธานีไปทางทิศตะวันออก 75 กิโลเมตร ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดนักทัศนาจรอยู่หลายแห่ง อาทิเช่น อุทยานแห่งชาติผาแต้ม น้ำตกสร้อยสวรรค์ น้ำตกลงรู เถาวัลย์ยักษ์ รอยพระพุทธบาทบ้านท่าล้ง เขื่อนปากมูล แก่งตะนะ และแม่น้ำสองสีซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำมูลไหลลงสู่แม่น้ำโขง จึงเป็นเมืองที่ดึงดูดนักเดินทางแวะมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย
วันที่ 21 ก.ค. 2559 (บทความบล็อกเก่า นำมาเล่าใหม่ เรียบเรียงเขียนไปเรื่อยเปื่อย)
หลังจากที่ทริปรีวิวก่อนหน้า ได้ไปเดินลั๊ลลาชมงานแห่เทียนพรรษาอันยิ่งใหญ่โอฬาร ชื่นบานจับใจ ท่ามกลางแสงแดด และอากาศที่ร้อนอบอ้าวอยู่ไม่น้อย
เช้าวันใหม่ ก็เช็คเอาท์ออกจากที่พัก นำรถมอเตอร์ไซต์ที่เช่าไปคืนกับเจ้าของหอพัก ก็เดินทางมาที่สถานีขนส่งเมืองอุบล เพื่อนั่งรถตู้โดยสารไปยังอำเภอโขงเจียม
รถตู้โดยสารออกจากเมืองอุบลไปยังอำเภอโขงเจียมอยู่ที่เวลา 13.20 น. |
รถตู้ออกล่าช้าไปนิดหน่อย เพราะรอลูกค้าอีกคนไปเข้าห้องน้ำอยู่
ภายในรถตู้ที่จะเดินทางไปโขงเจียม ก็มีผู้โดยสารไม่มากนัก เนื่องจากเป็นวันธรรมดา |
ภายในรถตู้ที่จะเดินทางไปโขงเจียม ก็มีผู้โดยสารไม่มากนัก
เนื่องจากเป็นวันธรรมดา แต่ถ้าเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ คนน่าจะเยอะว่านี้มาก
นั่งรถมารวมชั่วโมงก็ถึงอำเภอโขงเจียมแล้วค่ะเมื่อมาถึงโขงเจียมก็โทรไปติดต่อร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์
เมื่อมาถึงโขงเจียมก็โทรไปติดต่อร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ เป็นร้านบ้านสเต็ก มีอาหารให้บริการ และมีรถมอเตอร์ไซต์ให้เช่าด้วย |
เป็นร้านบ้านสเต็ก มีอาหารให้บริการ และมีรถมอเตอร์ไซต์ให้เช่าด้วย
เช่ารถมอเตอร์ไซต์ในอำเภอโขงเจียมขับไปยังโรงแรมที่พัก |
ใครที่จะเดินทางมาเที่ยวคนเดียวแบบเดี๊ยน แนะนำเลยว่า ติดต่อทางร้านเช่ารถก่อนนะคะ
เพราะว่ารถมอเตอร์ไซต์ก็มีให้เช่าไม่มากนัก
หากใครมาเที่ยวช่วงเทศกาล และจะเช่ารถมอเตอร์ไซต์ ควรติดต่อทางร้านไว้เสียแต่เนิ่นๆ
หลังจากได้ทำการเช่ารถมอเตอร์ไซต์ที่ร้านบ้านสเต็กโขงเจียมแล้วนะคะ เดี๊ยนก็แว๊นๆขับรถมอเตอร์ไซต์ออกจากอำเภอโขงเจียม มุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่พัก |
เดี๊ยนก็แว๊นๆขับรถมอเตอร์ไซต์ออกจากอำเภอโขงเจียม มุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่พักคืนนี้ ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับผาแต้มโขงเจียม ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร
ขับมอเตอร์ไซต์จากอำเภอโขงเจียม มุ่งหน้าไปที่โรงแรมผาแต้ม แก่งพิศสมัยริเว่อร์ไซด์ ซึ่งเป็นโรงแรมที่พักค้างแรมคืนนี้
ขับรถออกจากตัวอำเภอมาได้สักประมาณ 18 กิโลเมตร ก็มีป้ายบอกทางเลี้ยวขวาให้ลงเนินเขาไปยังที่พัก โดยมีจุดชมวิวแม่น้ำโขงให้ชมอีกด้วย
เดินทางมาเข้าเช็คอินน์โรงแรมผาแต้มแก่งพิศสมัย |
เข้าเช็กอิน ทางโรงแรมลดให้ 10% จ่ายเพียง 900 บาท เป็นบ้านพักหนึ่งหลังมีระเบียงมองเห็นวิวแม่น้ำโขงค่ะ
หม่องติดต่อภายในโรงแรม |
ลักษณะที่พักเป็นแบบบ้านพักเป็นหลังๆ แบบบังกะโลส่วนตัว
ห้องพักคืนละ 900 บาท ห้องพักแบบ สองเตียง |
ในห้องพักก็มีแอร์ มีทีวี ตู้เย็น
ห้องน้ำสะอาดพอใช้
ห้องพักดูคับแคบเล็กน้อย
แต่สภาพโดยรอบก็โอเค
ตรงหน้าห้องพักมีระเบียง มองเห็นวิวทิวทัศน์แม่น้ำโขงสวยงาม
มีน้องหนูตัวน้อย กำลังนั่งเล่นชิงช้าอยู่ ดูน่ารักเชียว
ส่วนสภาพแวดล้อมตรงร้านอาหารก็ตกแต่งได้กิ๊บเก๋ น่ารักดีค่ะ
มีการนำจักรหยอก จักรยานมาติดไว้ตรงผนัง
เพื่อให้แขกที่เข้าพักได้เป็นจุดเช็กอินถ่ายภาพอีกด้วย
ช่วงยามบ่ายๆ อันเงียบสงบในวันธรรมดา
ผาแต้ม & แก่งพิศมัยริเวอร์ไซด์ |
นอกจากนี้แล้วทางที่พักยังมีบ้านพักหลังใหญ่ สำหรับครอบครัว หมู่คณะที่ต้องการโรงแรมนอนพักหลายๆคน ให้ได้ไปใช้บริการอีกด้วย
เดินลงมาตรงลานหญ้าริมแม่น้ำโขง ก็เห็นหนูน้อยสองคน กำลังซุกซนเล่นตามประสาเด็กๆกันอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจ
มองไปด้านหน้าก็เป็นบรรยากาศใกล้สนธยาริมแม่น้ำโขง
รักมั่นคงกับคนที่เรารัก
นั่งพักเช็คอินถ่ายรูปริมแก่งแม่น้ำโขง
นี่แหละแม่น้ำโขง
ส่วนบรรยากาศสภาพแวดล้อมโดยรวมของอาคารที่พัก
ก็เป็นบังกะโลหันหน้าไปรับวิวแม่น้ำโขง
ไม่รู้ว่าส่งเสียงร้องหาลูก หรือหาใครกันแน่ เพราะร้องมานานแล้ว
ตรงแม่น้ำโขงก็มีโขดหินอยู่ คนอีสานมักเรียกหินที่อยู่ในแม่น้ำว่า แก่ง
มืดค่ำไม่ได้ออกไปเที่ยวหากินอะไรที่ใหนไกล
แต่ช่วงค่ำที่ร้านอาหารของโรงแรม ยุงเยอะยิ่งนัก จนต้องบอกให้ทางพนักงาน นำพัดลมมาเปิดให้ พอช่วยไล่ยุงตัวร้ายไปได้บ้าง
19.00 น.รับประทานอาหารค่ำที่โรงแรม
เป็นอาหารอีสานแกงปลาแม่น้ำโขง รสชาติอร่อยแซ่บเว่อร์ค่ะ
อาหารมื้อนี้มีแก่งป่าปลาแม่น้ำโขง
มีส้มตำไทย รสชาติแบบอีสาน อร่อยร้าวรานจัดจ้านใจยิ่งนัก
นึกแล้วก็อยากกลับไปนั่งทานอีก
ส่วนแกงป่ามื้อเย็น ก็รสชาติอร่อยเริ่ด เพราะเป็นปลาสดๆจากแม่น้ำโขง
กินคู่กับข้าวสวยร้อน ทานแล้วออนซอน อร่อยแซ่บขนาดนักเจ้า
20.00 น.กลับเข้าห้องพักเพื่อพักผ่อน นอนหลับบรรทมฝันดีค่ะ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
22 ก.ค. 2559
6.00 น. เดี๊ยนตื่นแต่เช้าตรู่ค่ะ เพื่อตื่นรอรับอรุณรุ่งแสงแดดแรกยามเช้าริมฝั่งโขง และเดินออกกำลังเล่นริมฝั่งโขง
ช่วงยามเช้า อันแสนสุขสกาวริมแม่น้ำโขง ก็เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านที่พายเรือออกไปหาปลา
วิถีชีวิตของคนในลุ่มน้ำโขงแห่งนี้ ก็ดูเรียบง่าย สบายดียิ่งนัก
เพราะบริเวณแก่งหิน ริมน้ำดังกล่าว ดูแล้ว น่าจะมีปลาชุกชุมอยู่มากนัก
บางครั้งเดี๊ยนเห็นก็อยากจะลงไปช่วยเค้าหาปลาด้วย
แต่ดูท่าทางแล้ว ไม่น่าจะลงไปได้
ไม่นานนัก พระอาทิตย์ยามเช้าก็ทอแสงสุขสกาวรุ่งโรจน์ ช่วงโชติขึ้นมา เพื่อรื่นอุราเบิกฟ้ารับวันใหม่
อากาศยามเช้าที่นี่ ลมพัดเย็นสบายดียิ่งนัก
บรรยากาศยามเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
นอกจากนี้ยังมีแกะตัวน้อยๆ ออกมาเดินเล่นต้อนรับอีกด้วย
หม่องป้อนแกะ
ให้หาอาหารแกะ 20 บาท
ส่วนอาหารของน้องม้าก็ 20 บาทเหมือนกัน
และยังมีกิจกรรมขี่ม้าให้เริงร่าภิรมย์ โดยเฉพาะเด็กๆน่าจะชอบกิจกรรมขี่ม้าอยู่ไม่น้อย
เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ไม่บ่อยนัก จะได้ขี่ม้าแบบนี้
น่าจะเหมาะสำหรับครอบครัวพาน้องๆหนู มาจุ๊กกรูเที่ยวพักผ่อนให้ออนซอนหัวใจกัน
สำหรับอาหารเช้ามื้อนี้ที่โรงแรม ก็มีเป็นอาหารเช้าแบบง่ายๆ
ก๋วยจั๊บร้อนๆทานกับไข่ดาว ก็อร่อยแพรวพราวไปอีกแบบ
เปลี่ยนจากการทานโจ๊กในเมืองกรุง มานั่งตีพุงกินก๋วยจั๊บริมแม่น้ำโขงก็อิ่มจนแน่นท้องไปเลยล่ะค่ะ
10.00 น. หลังจากที่ได้ทานอาหารเช้าอิ่มแล้ว
เช็คเอาท์ออกจากที่พักค่ะ ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม เพื่อขับมอเตอร์ไซต์ เดินทางมุ่งหน้าไปที่ผาแต้ม ซึ่งระยะทางจากที่พักไปผาแต้มประมาณ 7 กิโลเมตรค่ะ
10.20-12.00 น. เดินลัดเลาะที่ผาแต้ม ชมภาพเขียนก่อนยุคประวัติศาสตร์ รวมระยะทางทั้งสิ้น 4.35 กิโลเมตร เดินลัดเลาะตามเส้นทาง ถือเป็นการเผาพลาญแคลลอรี่ได้ดีที่เดียวค่ะ โดยเฉพาะการไปเดินชื่นชมภาพเขียน และชมธรรมชาติกับหมู่มวลแมกไม้ของป่าเตงรัง ชมวิวผาหมอน ตามรอยเสด็จ ถือแม้อากาศจะร้อนอบอ้าว เหงื่อไหลไคลย้อยโชกตัว แต่ก็เริ่ดสุดค่ะ
ขับรถมอเตอร์ไซต์ออกจากที่พักมุ่งหน้าไปยังผาแต้ม ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร
ถึงอุทยานแห่งชาติผาแต้มโขงเจียมแล้วล่ะค่ะ
แผนที่แสดงแหล่งท่องเที่ยวและสัญลักษณ์ต่างๆในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม
ซึ่งมีทั้่งที่ทำการและยังมีบ้านพักเรือนรับรองให้นักท่องเที่ยวอีกด้วย
สำหรับค่าธรรมเนียมเข้าชมในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้มโขงเจียมค่ายานพาหนะรถมอเตอร์ไซต์ 20 บาท
ค่าธรรมเนียมเข้าชมผู้ใหญ่ 40 บาท
จุดแรกมาชมเสาเฉลียง
อีกหนึ่งจุดถ่ายรูปเช็กอินกับประติมากรรมที่สรรสร้างโดยธรรมชาติล้วนๆ
เรื่องน่ารู้สำหรับเสาเฉลียง
จัดเป็นประติมากรรมชิ้นเอกร่วมกันของหินทราย 2 ยุค นั้นก็คือ หินทรายยุค ครีเตเชียส มีอายุ 130 ล้านปี ซ่งเป็นส่วนดอกเห็ดอยู่ท่อนบน และหินทรายยุค ไดโนเสาร์ มีอายุประมาณ 180 ล้านปี โดยเป็นส่วนของต้นเสาท่อนล่าง ซึ่งผ่านกระบวนการชะล้างพังทลายของดินอันเกิดจากสภาพอากาศ ฝน และพายุลมเป็นเวลาหลายล้านปี
ขับรถออกจากจุดชมเสาเฉลียงเพื่อเดินทางไปจุดชมวิวถัดไป
และมาถึงจุดชมวิวทิวทัศน์ถ่ายภาพคู่กับป้ายผาแต้มยอดนิยม ที่ใครมาถึงที่อุทยานแห่งนี้ ก็ต้องไม่พลาดถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกัน เพื่อให้รู้ว่ามาถึงผาแต้มแล้วอย่างจริงแท้แน่นอน
โดยป้ายวันดังกล่าว มีป้ายพยากรณ์อากาศให้ได้ทราบกันอีกด้วย
ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 5.37 น.
และดวงอาทิตย์ตกเวลา 06.31 น.
อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา
อุณหภูมิสูงสุด 31 องศา
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับผาแต้ม
สำหรับผาแต้ม คำว่าแต้ม เป็นคำภาษาถิ่นดั่งเดิม หมายถึง รอยวาด ระบาย ประทับ หรือทำด้วยประการใด โดยใช้สีให้ปรากฎเป็นรูปภาพ,เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ต่างให้เกิดขึ้นมา
ผาแต้ม นันจัดเป็นแหล่งที่พบภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์อายุราว 3,000-4,000 ปี ซึ่งมีกลุ่มภาพเขียนกระจายอยู่ตามแนวเพิงผาทั้ง 4 กลุ่ม กลุ่มภาพเขียนที่ยาวและหลากหลายที่สุดคือกลุ่มที่ 2 ยาวประมาณ 180 เมตร และมีไม่น้อยกว่า 300 ภาพขึ้นไป ภาพที่เก่าน มีภาพช้าง ภาพปลาบึก ภาพตุ้ม(เครื่องมือดักปลาทำจากไม้ไผ่สาน) ภาพสัตว์ป่า และภาพฝ่ามือ เป็นต้น
ซึ่งภาพเขียนเหล่านี้บอกเล่าถึงสิ่งที่เกี่ยวกับวิถีการดำเนินชีวิต
และอารยธรรมของชุมชนลุ่มน้ำโขงในยุคนั้น โดยจารึกไว้ที่ผาหินแห่งนี้
เพื่อให้ท่านได้ชมศึกษาหาความหมาย ที่น่าอัศจรรย์ของภาพเขียนแผ่นผาหิน
ที่มีชื่อว่า "ผาแต้ม"
เดินทางเลียบลัดเลาะชมภาพแต้มเขียนสีภาพเขียนกลุ่มที่ 1 ผาขาม
เป็นภาพปลาขนาดใหญ่เล็กๆจำนวน 4 ตัว
มองไปยังดูไม่ค่อยชัดนัก
ต้องเดินลัดเลาะเดินชมให้รื่นรมย์ไปเรื่อยๆ
สำหรับกลุ่มภาพที่ 2 ดูภาพแต้มสีดังกล่าวแล้วชัดเจนขึ้นมาก
มีน้ำตกไหลย้อยลงริมทางเดินอีกด้วย |
ตามริมผาหินก็ยังมีภาพอื่นอีกหลายภาพ
ดูนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบางคน ที่มาเดินภิรมชมชื่นกับภาพเขียนสีริมหน้าผาแห่งนี้ คงจะดูแปลกตาอยู่ไม่น้อย |
ดูนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบางคน ที่มาเดินภิรมชมชื่นกับภาพเขียนสีริมหน้าผาแห่งนี้ คงจะดูแปลกตาอยู่ไม่น้อย
ภาพที่ 3 เป็นภาพหมอนน้อย แสดงการเพาะปลูกธัญพืชชนิดหนึ่ง ดูเหมือนข้าวแบบนาเมือง นอกจากป้ายบอกคำอธิบายถึงภาพเขียนสีแล้ว บริเวณดังกล่าวยังเป็นผืนป่าเต็งรัง เป็นป่าไม้ผลัดใบที่มีไม้วงศ์ยางบางชนิดเป็นไม้เด่น ได้แก่ ไม้เต็ง รัง เหียง พลวง และยางกราด
เดินออกกำลังแข้งขามาเรื่อยๆ ก็มาถึงจุดชมวิวผาหมอน ท่ามกลางแสงแดดอันเร้าร้อน แต่ก็ได้ออกกำลังแข้งขาและได้เหงื่อดียิ่งนัก
และเดินมาอีกเรื่อยๆ หากยังไม่เมื่อยกายยา ก็ต้องไม่พลาดมาเช็กอินบริเวณ จุดถ่ายภาพทำภาพยนต์ อเล็กซานเดอร์มหาราช ซึ่งได้ถ่ายวันเมื่อวันที่ 12/02/2004 จารึกไว้อีกด้วย
บริเวณดังกล่าวก็เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ร้าวรานดวงฤทัย งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนยิ่งนัก |
หลังจากที่ได้เดินออกกำลังแข้งขา ชมภาพเขียนสีผาแต้ม และเดินออกกำลังกายเป็นชมวิวตามจุดต่างๆแล้ว ก็เตรียมตัวเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวถัดไป ยังดีนะคะ ที่เอามอเตอร์ไซต์จอดไว้ในร่ม ไม่งั้นร้อนก้นแน่ๆ
ขับรถมอเตอร์ไซต์เดินทางออกจากผาแต้ม มุ่งหน้าไปยังแหล่งท่องเที่ยวถัดไป คือน้ำตกสร้อยสวรรค์ เดินทางถึงน้ำตกสร้อยสวรรค์ ขอแวะทานอาหารเที่ยงก่อนค่ะ กับอาหารสิ้นคิดข้าวผัดกะเพรา รสชาติไม่ค่อยอร่อยเลย แต่ก็ทานจะหมดเกลี้ยง เพราะหิวมากๆ เนื่องจากใช้พลังงานในการเดินชมผาแต้มไปเสียหมดเลยค่ะ
แวะชมน้ำตกสร้อยสวรรค์ แอบผิดหวังเล็กน้อยค่ะ เพราะน้ำตกไม่ค่อยมีน้ำเลยค่ะ ไหลกะปิดกะปอยมากๆนะค่ะ เดี๊ยนก็เลยไม่ได้นั่งดูน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาเท่าที่ควรค่ะ ถ่ายรูปพอกะเทินสักแช๊ะ สองแช๊ะ
หากมีโอกาสแวะมาเที่ยวน้ำตกแห่งนี้อีกครา คงต้องมาเที่ยวหน้าฝน หน้าจะสุขล้นอิ่มฤทัย เห็นความงามศิวิไลของน้ำที่ไหลระย้าจากหน้าผา ตกลงมาสู่โขดหินเบื้องล่าง เป็นสร้อยสวรรค์อย่างแน่นอน
และถึงแม้ว่าจะมีน้ำตกไหลย้อยลงมาน้อยนิด แต่ก็ดีกว่าไม่มีน้ำเลย เห็นน้องๆหนู มาทัศนศึกษาเที่ยวที่น้ำตกแห่ง ดูแล้วน่าจะสุขเกษมเปรมปรีเช่นกัน
หากมาเที่ยวช่วงหน้าฝน คงจะสุขล้นไปด้วยน้ำใหลหลาก มองจากจะชมวิวริมน้ำผา หากมีน้ำมาก น้ำตกจะไหลย้อยลงมาเป็นสร้อยสวรรค์
หากมีโอกาสแวะมาเที่ยวน้ำตกแห่งนี้อีกครา คงต้องมาเที่ยวหน้าฝน หน้าจะสุขล้นอิ่มฤทัย เห็นความงามศิวิไลของน้ำที่ไหลระย้าจากหน้าผา ตกลงมาสู่โขดหินเบื้องล่าง เป็นสร้อยสวรรค์อย่างแน่นอน
ระหว่างเดินทางกลับก็แวะพักซื้อของริมทางที่ชาวบ้านนำสินค้าประจำท้องถิ่นมาวางขายสักหน่อยค่ะ
เป็นการอุดหนุนชาวบ้านให้มีรายได้จากการเดินทางท่องเที่ยว
ซึ่งสินค้าที่ชาวบ้านนำมาขาย ก็เป็นสินค้าในชุมชนที่ปลูกและหาได้ง่ายอย่างเช่น ไผ่ กระบก ฝักแฟง แตงอ่อน
และยังมีพืชผักสมุนไพรอื่นๆ อีกหลายอย่าง แต่ที่เห็นแล้วต้องซื้อคงเป็นเม็ดกระบก ที่ราคาถูกมากๆ ซื้อไปทาน รสชาติอร่อยเคี้ยวมันสุดๆ
และหลังจากที่ได้ไปเที่ยวชมผาแต้ม และชมน้ำตกสร้อยสวรรค์แล้ว เดี๊ยนก็ขับมอเตอร์เดินทางกลับที่พัก เพื่อไปเอากระเป๋า และขับรถมอเตอร์ไซต์เข้าอำเภอโขงเจียม
จากนั้นก็เดินทางไปไหว้พระ ทำบุญ ที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังประจำอำเภอโขงเจียม โดยตั้งอยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 2222 ก่อนถึงอำเภอโขงเจียมประมาณ 3 กิโลเมตร
สำหรับวัดถ้ำคูหาสวรรค์ ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2521 โดยหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี ซึ่งใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมจำพรรษา ปัจจุบันหลวงปู่ท่านได้มรณภาพแล้ว แต่ร่างกายของท่านไม่เน่าเปื่อย บรรดาลูกศิษย์ได้เก็บร่างของท่านไว้ในโลงแก้วเพื่อบูชา และบริเวณวัดยังมีจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของลำน้ำโขงและฝั่งลาวได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
วัดถ้ำคูหาสวรรค์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดอุบลฯ โดยนักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้สังขารหลวงปู่คำคะนิงที่ไม่เน่าเปื่อย และยังถือโอกาสชมวิวแม่น้ำโขงและแม่น้ำสองสี
ไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเดินทางกลับ
วัดถ้ำคูหาสวรรค์ในอำเภอโขงเจียม |
ก่อนจะนำมอเตอร์ไซต์ไปคืนที่ร้านเช่ารถในอำเภอโขงเจียแวะไปชมแม่น้ำสองสี |
จุดชมวิวแม่น้ำสองสี อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในจังหวัดอุบล
หลังจากนั้นเดี๊ยนก็ขับรถมอเตอร์ไซต์ที่เช่ามาคืนที่ร้านสเต๊ะ ณ โขงเจียม พอมาคืนแล้วทางเจ้าของร้านก็ใจดีนะคะ ขับมาส่งเดี๊ยนที่สามแยก ท่ารถตู้ในอำเภอค่ะ |
15.45 น.นั่งรถตู้ จากโขงเจียมมุ่งหน้ากลับเมืองอุบลค่ะ
เดี๊ยนรีบเรียกแท็กซี่ เพื่อรีบเดินทางไปยังสนามบินในเมืองอุบลค่ะ เพราะเกรงจะตกเครื่องบินเอาค่ะ และเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ก็นั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ |
และเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ก็นั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
จบทริปเที่ยวเมืองอุบล 3 วัน 2 คืน สุดจะรื่นรมย์ฤดี สุขเกษมเปรมปรี เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับเที่ยวเมืองอุบลนี้ แสนสุขขีจังเลยเอย
เป็นอันจบทริปเที่ยวอุบลในช่วงหน้าฝน ที่น้ำแล้งไปหน่อยค่ะ แต่ก็ได้ยลตระการผาแต้ม และได้ไปไหว้พระทำบุญ ถือเป็นอีกทริปเที่ยวภาคอีสาน ที่ใครมายลตระการเมืองดอกบัวงามแห่งเมืองอุบล นอกจากชมงานแห่เทียนแล้ว ก็ยังได้ไปพักผ่อน นอนกินลม ชมวิวแม่น้ำโขงอันแสนสวยงามอีกด้วย
สำหรับเพื่อนๆคนใหน ที่ช่วงวันหยุดกลางปีนี้ วางแผนจะแบกเป้ลุยเดี่ยวมาเที่ยวงานแห่เทียนพรรษาในจังหวัดอุบล ก็อย่าลืมมาสุขล้นดลฤทัยแวะเที่ยวชมผมแต้ม นอนแรมรอน ออนซอนที่อำเภอโขงเจียมดูนะคะ รับรองว่าสวยเริ่ดสะแมนแตนแน่นอนจ้า
-----------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่น มีดังนี้ค่ะ
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองแห่งสปา คาร์โลวี วารี มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปกันเลย>> |
แบกเป้ลุยเดี่ยวพาเที่ยวเมืองเชสกี้ กรุมลอฟ ไปดูสิว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง>> |
รีวิวแบกเป้เที่ยวกรุงปรากแบบง่ายๆ เดินทางได้ด้วยตัวเอง ตามไปดูที่เที่ยวกันค่ะ>> |
แบ่งปันรีวิวแบกเป้เที่ยวเมืองเบอร์โน่ด้วยตัวเอง มีสถานทีท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูสิ>> |
แบ่งปันรีวิวเที่ยวระนอง ลองแช่น้ำแร่ เช่ารถแลชมที่เที่ยวต่างๆ ตามไปกันเลย>> |
แบ่งปันฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลงสากล พร้อมความหมาย ร้องได้ทุกคน คลิ๊กดูบทความค่ะ>> |
แบ่งปันรีวิวนั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองบราติสลาวา 1 วัน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง>>> |
รีวิวเที่ยวกรุงบูดาเปสต์ 1 วัน ไป-กลับ ขยับเท้าเดินชมสถานที่เที่ยวต่างๆ มีอะไรบ้าง>>> |
ไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพ ใกล้รถไฟฟ้า เดินไปได้มีวัดใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียด>> |
แบกเป้เที่ยวกรุงเวียนนาด้วยตัวเอง มีที่เที่ยวจุดถ่ายรูปอะไรบ้าง ตามไปกันเลย>> |
รีวิวพาเที่ยวชมพระราชวังเดิม เติมความรู้แบบไทยๆ ไปชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูที่เที่ยว>> |
แบ่งปันรีวิวเที่ยวฮัลล์สตัทด้วยตัวเอง มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกัน>> |
แบ่งปันทริปรีวิวเที่ยวเมืองเก่าซาลซ์บูร์ก 1 วัน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
เปิดโลกกว้างเที่ยวเมืองเซลอัมซี (Zell am See) เมืองนี้ มีที่เที่ยวอะไรบ้าง คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวมิวเซียมสยาม แหล่งเรียนรู้สุดเก๋ไก๋ มีอะไรอัพเดทใหม่บ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย>> |
แบ่งปันรีวิวเที่ยวขอนแก่น สุดสะแนนแสนชิล ไปถ่ายรูปวิวสวยงาม คลิ๊กดูที่เที่ยว>> |
รีวิวเที่ยวเมืองอุดร เช่ารถขับตะลอนไปชมสถานที่ต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งกันเด้อ>> |
แบ่งปันรีวิวเที่ยวเวียงจันทร์ 1 วัน ไป-กลับ ขยับเดินชมตามที่เที่ยวต่างๆ มีอะไรบ้าง>>> |
แบ่งปันรีวิวแบกเป้เที่ยวหนองคาย เมืองนี้มีอะไรมากมายให้ชมจริงๆ คลิ๊กดูที่เที่ยวจ้า>> |
รีวิวแบกเป้เที่ยวเมืองอินสบรูค 2 วัน 1 คืน มีที่เที่ยวอะไรให้ชมบ้าง ตามไปดูกันค่ะ>> |
แบ่งปันรีวิวเดินทางไปชมปราสาทน็อยชวานสไตน์ด้วยตัวเองมาฝาก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวพาชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครกรุงเทพ เสพความรู้แบบไทยๆ ไปชมกันเลย>> |
หรือดูรายละเอียดที่ : http://bit.ly/2l05FdT
รีวิวเที่ยวเมืองมิวนิค เดินชิคๆไปชมสถานที่สวยงามต่างๆ คลิ๊กดูที่เที่ยวค่ะ>> |
0 ความคิดเห็น