|
และเพื่อไม่ให้เว็ปไซต์ร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมาแบ่งปันรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวกรุงเบอร์ลิน ไปดูสิว่าในเมืองหลวงของเยอรมนีแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้แวะชมบ้าง ตามไปกันจ้า
|
ก็ขอสวัสดีทักทาย กับคุณผู้อ่านบนโลกอินเตอร์ และเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจทุกคนค่ะ ก็กลับมาพบปะทักทายซำบายดีกันอีกครั้งนะคะ กับบทความบล็อกรีวิวท่องเที่ยว ที่จะพาคุณผู้อ่านเลี้ยวแวะไปเช็กอินแหล่งท่องเที่ยวโน้นนี้นั้นเรื่อยเปื่อยตามเมืองต่างๆ ทั่วไทยชะโงกทัวร์ไกลไปทั่วโลก แนวๆกะโหลกกะลา ไก่กาอาราเล่ย์ ให้ได้สรวญเสเฮฮา ชื่นอุราสไลด์เลื่อนอ่านกันอย่างสับสนงวยงงอีกเช่นเดิมนะคะ
หลังจากที่บทความเว็ปไซต์บล็อกก่อนหน้า ได้พาไปเที่ยวชมเมืองเก่าโบราณทางตอนใต้ของเยอรมนี หรือเมืองโรเธนเบิร์กกันไปแล้วนะคะ ซึ่งสามารถเข้าไปดูรีวิวก่อนได้ที่เว็ปไซต์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2020/09/Backpack-travel-Rothenburg-ob-der-Tauber.html
และในบทความเว็ปไซต์นี้ คุณนายเว่อร เธอเป็นคนบ้า ก็ขอจัดทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวเปิดโลกกว้าง เดินทางไกลในประเทศเยอรมนีกันต่อค่ะ โดยทริปนี้ขอพาไปเที่ยวกรุงเบอร์ลิน หนึ่งในเมืองหลวงของประเทศเยอรมัน ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมที่สวยงาม เรืองอร่ามไปด้วยพิพิธภัณฑ์ให้เรียนรู้มากมาย จึงจัดเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวต้องห้ามพลาด ที่เหล่านักทัศนาจร ต้องปักหมุด มาออนซอน เที่ยวชมกันสักครา และทริปเที่ยวยุโรปรอบนี้ เดี๊ยนเองก็ไม่พลาดต้องแวะมานอนพักค้างที่กรุงเบอร์ลินสัก 3 วัน 2 คืน เพื่อไปเช็กอินตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
เมื่อเอ่ยนามถึงกรุงเบอร์ลิน ชื่อเสียงของเมืองนี้ที่หลายๆคนรู้จัก คงไม่หนีพ้นประวัติศาสตร์ของสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการสู้รบเป็นไฟล่ามไปทั่วโลก การมาเที่ยวกรุงเบอร์ลินในครั้งแรกนี้ แม้จะเป็นการมาเที่ยวแบบงงๆ ครั้งแรก แต่ก็ได้เช็กอินตามสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้แวะไปถ่ายรูปภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกหลายแห่งเลยล่ะค่ะ และก่อนที่จะเข้าสู่ภาพรีวิวแหล่งท่องเที่ยว เรามาก็มาทำความรู้จักกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของประเทศเยอรมนีกันบ้างสักเล็กน้อย
|
ก่อนจะเข้าสู่ภาพที่เที่ยว มาอ่านเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรุงเบอร์ลิน
เมืองหลวงเยอรมนี กันพอสังเขปสักหน่อย ( About Berlin captital City, Germany) |
และก่อนจะเข้าสู่ภาพที่เที่ยว มาอ่านเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงเยอรมนี กันพอสังเขปสักหน่อย (Berlin captital City, Germany)
เบอร์ลิน ภาษาอังกฤษ เบอร์ลิน ส่วนภาษาเยอรมัน: Berlin แบร์ลีน) เป็นเมืองหลวงและรัฐหนึ่งในสิบหกรัฐสหพันธ์ของประเทศเยอรมนี มีประชากร 3.4 ล้านคนในเขตเมือง มากที่สุดในเยอรมนี และมากเป็นอันดับสองในสหภาพยุโรป เป็นศูนย์กลางของเขตนครหลวงเบอร์ลิน-บรันเดินบวร์ค ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเยอรมนี
|
ในภาษาเยอรมันว่า แบร์ลีน นั้นไม่ทราบแหล่งที่มา แต่อาจเกี่ยวข้องกับหน่วยคำภาษาโปลาเบียนเก่า berl-/birl- ซึ่งหมายถึง "หนองน้ำ" |
ชื่อ Berlin ซึ่งออกเสียงในภาษาอังกฤษว่า เบอร์ลิน และในภาษาเยอรมันว่า แบร์ลีน นั้นไม่ทราบแหล่งที่มา แต่อาจเกี่ยวข้องกับหน่วยคำภาษาโปลาเบียนเก่า berl-/birl- ซึ่งหมายถึง "หนองน้ำ"
|
เบอร์ลินเป็นหนึ่งในศูนย์กลางที่มีอิทธิพลที่สุดของยุโรป ในด้านการเมือง วัฒนธรรม สื่อสารมวลชน และวิทยาการ ประกอบไปด้วย อุตสาหกรรมการสร้างสรรค์ นวัตกรรมอันทันสมัย
|
โดยกรุงเบอร์ลินเป็นหนึ่งในศูนย์กลางที่มีอิทธิพลที่สุดของยุโรป ในด้านการเมือง วัฒนธรรม สื่อสารมวลชน และวิทยาการ เป็นศูนย์กลางที่สำคัญของการคมนาคมทางอากาศและทางรางของทวีป พื้นฐานเศรษฐกิจของเมืองคือธุรกิจบริการอันหลากหลาย ซึ่งประกอบไปด้วย อุตสาหกรรมการสร้างสรรค์ บริษัทด้านสื่อ การบรีการสิ่งแวดล้อม ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้าเบอร์ลินเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมากเป็นอันดับสามของยุโรป อุตสาหกรรมอื่น ๆ รวมถึง วิศวกรรมจราจร ออปโตอิเล็กทรอนิกส์ ไอที อุตสาหกรรมยานยนต์ สุขภาพ วิศวกรรมชีวการแพทย์ และเทคโนโลยีชีวภาพ
|
เหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สองเริ่มตั้งแต่การบุกครองโปแลนด์ของเยอรมนีในวันที่
1 กันยายน 1939
นำไปสู่การประกาศสงครามต่อเยอรมนีของประเทศฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร |
และหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่โลกรู้จักเมืองนี้ ก็คือเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สองเริ่มตั้งแต่การบุกครองโปแลนด์ของเยอรมนีในวันที่ 1 กันยายน 1939 นำไปสู่การประกาศสงครามต่อเยอรมนีของประเทศฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร ตั้งแต่ปลายปี 1939 ถึงต้นปี 1941 ในการทัพและสนธิสัญญาต่าง ๆ ประเทศเยอรมนีพิชิตหรือควบคุมยุโรปภาคพื้นทวีปได้ส่วนใหญ่ โดยเป็นสงครามทั่วโลกกินเวลาตั้งแต่ปี 1939 ถึง 1945 ประเทศส่วนใหญ่ในโลกมีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งรัฐมหาอำนาจทั้งหมด แบ่งเป็นพันธมิตรทางทหารคู่สงครามสองฝ่าย คือ ฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายอักษะ เป็นสงครามที่กว้างขวางที่สุดในประวัติศาสตร์ มีทหารกว่า 100 ล้านนายจากกว่า 30 ประเทศเข้าร่วมโดยตรง สงครามนี้มีลักษณะเป็น "สงครามเบ็ดเสร็จ สงครามโลกครั้งที่สองจึงนับว่าเป็นสงครามขนาดใหญ่ที่สุด ใช้เงินทุนมากที่สุดและมีผู้เสียชีวิตสูงสุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
|
จากสงครามโลกครั้งที่สอง เมืองเบอร์ลินถูกแยกเป็นสองส่วน ระหว่างปีค.ศ.
1949-1990 คือ เบอร์ลินตะวันออก และ เบอร์ลินตะวันตก
ฝั่งตะวันออกปกครองโดยสหภาพโซเวียต ส่วนฝั่งตะวันตกปกครองโดย สหรัฐอเมริกา
สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส |
หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง เมืองเบอร์ลินถูกแยกเป็นสองส่วน ระหว่างปีค.ศ. 1949-1990 คือ เบอร์ลินตะวันออก และ เบอร์ลินตะวันตก ฝั่งตะวันออกปกครองโดยสหภาพโซเวียต ส่วนฝั่งตะวันตกปกครองโดย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส โดยในช่วงแรก การแบ่งเขตเป็นไปอย่างไม่เคร่งเครียดนัก ประชาชนของทั้งสองฝั่งสามารถไปมาหาสู่กันได้ จนกระทั่งสงครามเย็นถึงจุดตึงเครียด รัฐบาลเบอร์ลินตะวันออกได้สร้างกำแพงเบอร์ลินขึ้นเมื่อ 13 สิงหาคม ค.ศ. 1961 ล้อมรอบเบอร์ลินตะวันตก ตัดขาดสองฝั่งของเมืองออกจากกันอย่างสิ้นเชิง
|
เยอรมนียังถูกแบ่งออกเป็นสองประเทศ ประเทศเยอรมนีตะวันออกถือเอาเบอร์ลินตะวันออกเป็นเมืองหลวงของตน |
ช่วงที่เยอรมนียังถูกแบ่งออกเป็นสองประเทศ ประเทศเยอรมนีตะวันออกถือเอาเบอร์ลินตะวันออกเป็นเมืองหลวงของตน (แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากชาติพันธมิตรตะวันตก) ส่วนเมืองหลวงของประเทศเยอรมนีตะวันตกคือบอนน์ (และโดยฐานะอย่างเป็นทางการแล้ว เบอร์ลินตะวันตกก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนีตะวันตก)
|
ตั้งแต่การสร้างกำแพงเบอร์ลิน การข้ามผ่านแดนจากเยอรมนีตะวันออก
ไปยังเยอรมนีตะวันตก กลายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย หากมีการฝ่าฝืนและถูกพบเห็น
มีโทษสถานเดียว คือ การยิงทิ้ง ตลอดระยะเวลาคาดว่ามีผู้เสียชีวิตที่กำแพงเบอร์ลินขณะหลบหนีระหว่าง 137 ถึง 206 คนเลยทีเดียว
|
และก็นับตั้งแต่มีการสร้างกำแพงเบอร์ลินเพื่อกั้นพรมแดนระหว่าง 2 ประเทศ ที่ปกครองแตกต่างกัน ดังนั้นแล้วการข้ามผ่านแดนจากเยอรมนีตะวันออก ไปยังเยอรมนีตะวันตก กลายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย หากมีการฝ่าฝืนและถูกพบเห็น
มีโทษสถานเดียว คือ การยิงทิ้ง ณ บริเวณกำแพงนั่นเอง ตลอดระยะเวลา 28 ปี
คาดว่ามีผู้เสียชีวิตที่กำแพงเบอร์ลินขณะหลบหนีระหว่าง 137 ถึง 206 คน
|
เหตุการณ์เสียชีวิต
ณ กำแพงเบอร์ลิน ครั้งที่โด่งดังที่สุด เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม
พ.ศ. 2505 เมื่อนายปีเตอร์ เฟตช์เตอร์ (Peter
Fechter)เด็กหนุ่มที่ลอบข้ามกำแพงเบอร์ลินถูกยิง
และปล่อยให้เลือดไหลจนตายต่อหน้าสื่อมวลชนตะวันตก |
เนื่องจากผู้คนที่อาศัยอยู่ฝั่งเยอรมนีตะวันออก ต้องการอิสรภาพและคุณภาพชีวิตทีดีกว่า ทำให้มีผู้คนพยายามการปีนกำแพงข้ามพรมแดนจากเยอรมนี ตะวันออกมายังฝั่งเยอรมนีตะวันตกนั้นเกิดขึ้นมาเรื่อยตั้งแต่มีการสร้างกำแพงนี้ขึั้นมา แต่การข้ามกำแพงมายังอีกฝั่งนั้น ไม่ใช้เรื่องง่ายๆ เพราะมันขึ้นความเสี่ยงที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต และหลายร้อยชีวิตที่พยามหลบหนีจากเยอรนีตะวันออก มาที่เยอรมนีตะวันตกก็เสียชีวิตบริเวณกำแพงนี้ ทำให้กำแพงดังกล่าว กลายเป็นกำแพงแห่งความตาย
โดยเหตุการณ์เสียชีวิต
ณ กำแพงเบอร์ลิน ครั้งที่โด่งดังที่สุด เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม
พ.ศ. 2505 (ค.ศ. 1962) เมื่อนายปีเตอร์ เฟตช์เตอร์ (Peter
Fechter)เด็กหนุ่มที่ลอบข้ามกำแพงเบอร์ลินถูกยิง
และปล่อยให้เลือดไหลจนตายต่อหน้าสื่อมวลชนตะวันตก
เป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินการต่อต้านกำแพงเบอร์ลินอย่างเป็นรูปธรรม
เมื่อวัน ผู้หลบหนีรายสุดท้ายที่ถูกยิงตายคือนาย Chris Gueffroy
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 (ค.ศ. 1989)
|
จากการรวมประเทศเมื่อ 3 ตุลาคม พ.ศ. 1990
เบอร์ลินก็กลับมาเป็นเมืองหลวงของประเทศเยอรมนีอีกครั้งหนึ่ง
และนั้นได้ทำให้เบอร์ลินรวมเป็นหนึ่งเดียว (ภาพวาดฝาผนังมีชื่อเสียง ณ จุดเช็กอิน East Side gallery wall)
|
หลังจากการรวมประเทศเมื่อ 3 ตุลาคม พ.ศ. 1990 เบอร์ลินก็กลับมาเป็นเมืองหลวงของประเทศเยอรมนีอีกครั้งหนึ่ง และนั้นได้ทำให้เบอร์ลินรวมเป็นหนึ่งเดียว และทำให้เยอรมนีตะวันออกถูกเปิดสู่สายตาชาวโลก ทำให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆของยุโรป ที่ต้องเดินทางมาตามรอยประวัติศาสตร์สงครามโลก และชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆมากมายในเมืองนี้กันสักครั้ง
|
และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ดึงดูดนักเดินทางทั่วทุกมุมโลกมาเยือนเบอร์ลินแห่งนี้ คงไม่พลาดที่จะไปชม กำแพงเบอร์ลิน กำแพงที่สร้างขึ้นช่วงสงครามเย็น มีวัตถุประสงค์เพื่อปิดกั้นพรมแดนระหว่างเบอร์ลินตะวันตก กับเยอรมนีตะวันออก |
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ดึงดูดนักเดินทางทั่วทุกมุมโลกมาเยือนเบอร์ลินแห่งนี้ คงไม่พลาดที่จะไปชม กำแพงเบอร์ลิน เป็นกำแพงที่สร้างขึ้นช่วงสงครามเย็น มีวัตถุประสงค์เพื่อปิดกั้นพรมแดนระหว่างเบอร์ลินตะวันตก กับเยอรมนีตะวันออกที่โอบอยู่โดยรอบ มีความยาวทั้งสิ้น 155 กิโลเมตร เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2504 (ค.ศ. 1961) และปิดกั้นพรมแดนนี้เป็นระยะเวลา 28 ปี ก่อนถูกทลายในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532
|
การเดินทางคมนาคม ระบบขนส่งมวลชนภายในเบอร์ลิน ประกอบด้วย เอส-บาห์น
(S-Bahn รถไฟเขตเมือง) ซึ่งและ รถไฟใต้ดิน (U-Bahn) |
ส่วนการเดินทางคมนาคม ระบบขนส่งมวลชนภายในเบอร์ลิน ประกอบด้วย เอส-บาห์น (S-Bahn รถไฟเขตเมือง) ซึ่งดำเนินการโดย บริษัทเอส-บาห์น เบอร์ลิน (S-Bahn Berlin GmbH) และ รถไฟใต้ดิน (U-Bahn), รถราง (Straßenbahn), รถเมล์, และเรือข้ามฟาก ซึ่งดำเนินการโดย บริษัทระบบขนส่งเบอร์ลิน หรือ เบเฟาเก (Berliner Verkehrsbetriebe - BVG) เอส-บาห์นนั้นโดยส่วนใหญ่วิ่งอยู่เหนือดิน ส่วนอู-บาห์นส่วนใหญ่จะอยู่ใต้ดิน สตาสเซ่นบาห์น หรือ รถราง นั้นเกือบทั้งหมดจะวิ่งอยู่ในเขตตะวันออกของเมือง รถเมล์ให้บรีการเชื่อมเขตรอบนอกเข้ากับใจกลางเมือง
|
แผนที่เส้นทางรถไฟสาย S และสาย U ในกรุงเบอร์ลิน
|
และเชื่อมกับเอส-บาห์นและอู-บาห์น ขนส่งมวลชนแทบทุกชนิด ยกเว้นเรือข้ามฟากบางสาย ใช้ตั๋วโดยสารร่วมกันได้ โดยปกติแล้วผู้โดยสารไม่จำเป็นต้องแสดงหรือตอกตั๋ว ยกเว้นบนรถเมล์ - อย่างไรก็ตาม จะมีพนักงานนอกเครื่องแบบคอยสุ่มตรวจเป็นประจำ โดยจะขึ้นมาในห้องโดยสารแล้วเรียกขอดูตั๋วจากผู้โดยสารทุกคน ใครก็ตามที่ไม่มีตั๋วที่ถูกต้อง จะถูกปรับเป็นเงิน 40 ยูโร
เครติดข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/เบอร์ลิน
หลังจากที่ได้ความรู้จากกรุงเบอร์ลินแบบพอสังเขปกันไปแล้ว ต่อก็มาดูภาพรีวิวที่เที่ยวในกรุงเบอร์ลินกันต่อเลยจ้า
เริ่มต้นการเดินทางทริปนี้ เขียนต่อจากรีวิวก่อนหน้า ตามเว็ปไซต์ลิงค์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2020/09/Backpack-travel-Rothenburg-ob-der-Tauber.html
แบกเป้ลุยเดี่ยวนั่งรถไฟเที่ยวจากเมืองเก่าโรเธนเบิร์ก จากนั้นนั่งรถไฟต่อจากเมืองนูเรมเบิร์ก เพื่อมาสุดปลายทางที่กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของประเทศเยอรมนี
|
ถึงสถานีรถไฟกรุงเบอร์ลิน ก็งงๆสับสนเล็กน้อย เพราะสถานีรถไฟใหญ่โตมาก ตอนแรกนึกว่าสนามบินซ่ะอีก |
มาถึงสถานีรถไฟกรุงเบอร์ลิน ก็งงๆสับสนเล็กน้อย เพราะสถานีรถไฟใหญ่โต ดูทันสมัยเอามากๆ ตอนแรกนึกว่าสนามบินซ่ะอีก โดยรถไฟจอดเทียบท่าที่ชั้นใต้ดิน
สอบถามเจ้าหน้าที่แจ้งว่า หากจะเดินทางในตัวเมือง แนะนำให้ขึ้นบันใดเขื่อนไปยังชั้นบน ซึ่งเป็นระบบการเดินทางในเมือง
|
การเดินทางโดยรถไฟในกรุงเบอร์ลิน ก็ต้องทำความเข้าใจกับเส้นทางรถไฟสาย S
และสาย U ก่อนอยู่ไม่น้อยค่ะ ตอนมาแรกๆก็จะงงๆหน่อยค่ะ ยืนดูแผนที่อยู่นาน
ว่าจะเดินทางไปยังโรงแรมที่พักคืนนี้ |
สำหรับการเดินทางโดยรถไฟในกรุงเบอร์ลิน ก็ต้องทำความเข้าใจกับเส้นทางรถไฟสาย S และสาย U ก่อนอยู่ไม่น้อยค่ะ ตอนมาแรกๆก็จะงงๆหน่อยค่ะ ยืนดูแผนที่อยู่นาน ว่าจะเดินทางไปยังโรงแรมที่พักคืนนี้ได้อย่างไร เนื่องจากโรงแรมที่จองไว้ ไม่ได้อยู่ใกล้สถานีรถไฟเหมือนทริปรีวิวที่ผ่านๆมา ที่สามารถเดินแบกเป้ไปได้
|
การเดินทางด้วยรถไฟในกรุงเบอร์ลิน ก็ต้องซื้อบัตรโดยสารผ่านเครื่องขายตั๋วอัติโนมัตเลยค่ะ สะดวกกว่า |
โดยการเดินทางด้วยรถไฟในกรุงเบอร์ลิน ก็ต้องซื้อบัตรโดยสารผ่านเครื่องขายตั๋วอัติโนมัตเลยค่ะ สะดวกกว่า
|
การซื้อก็ง่ายๆ ให้เลือกภาษาก่อนเริ่มแรก ไปเลือกที่ภาษาอังกฤษค่ะ |
วิธีการซื้อก็ง่ายๆ ให้เลือกภาษาก่อนเริ่มแรก ไปเลือกที่ภาษาอังกฤษค่ะ ในตู้ไม่มีภาษาไทยนะคะ ถ้ามีคงจะดีไม่น้อยเลย
จากนั้นก็จะประเภทตั๋วให้เลือกหลายแบบค่ะ แต่ทริปนี้เดี๊ยนต้องการแบบเที่ยวเดียว ก็เลือก Berlin สาย AB แบบ Single Ticket หรือตั๋วแบบเที่ยวเดียวหรือใช้ได้ครั้งเดียว
|
ก็มาหน้าจ่ายเงิน เตรียมเงินให้พร้อมนะคะ ราคาตั๋ว 2.8 ยูโร ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 98 บาท |
จากนั้นก็มาหน้าจ่ายเงิน เตรียมเงินให้พร้อมนะคะ ราคาตั๋ว 2.8 ยูโร ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 98 บาท
|
ได้ตั๋วมาแล้ว ก็ไปที่สถานีหมายเลขชานชลาที่ต้องการเดินทาง โดยนำบัตรไปเข้าเครื่องปั้มใช้ตั๋วค่ะ |
เมื่อได้ตั๋วมาแล้ว ก็ไปที่สถานีหมายเลขชานชลาที่ต้องการเดินทาง โดยนำบัตรไปเข้าเครื่องปั้มใช้ตั๋วค่ะ
|
ปั๋มจากเครื่องใช้ตั๋วแล้ว ก็เก็บตั๋วไว้ให้ดีนะคะ เผื่อมีเจ้าหน้าที่เรียกดู |
เมื่อปั๋มจากเครื่องใช้ตั๋วแล้ว ก็เก็บตั๋วไว้ให้ดีนะคะ เผื่อมีเจ้าหน้าที่เรียกดู อ่านในเว็ป tripadviser บอกว่า อย่าทำตั๋วหายเด็ดขาย เพราะหากมีเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟมาขอตรวจตั๋วแล้วไม่มี จะเสียค่าปรับมากโขเอาทีเดียวเชียวล่ะ
|
จากนั้นก็ไปรอขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางไปยังสถานีปลายทางที่ต้องการได้เลยค่ะ |
จากนั้นก็ไปรอขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางไปยังสถานีปลายทางที่ต้องการได้เลยค่ะ
สำหรับโรงแรมที่พักคืนนี้ ต้องนั่งรถไฟสาย U จากสถานีกลางกรุงเบอร์ลิน ไปลงที่สถานีที่มีชื่อ Oranienburger Tor ซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ใกล้โรงแรมที่สุด
|
ทริปนี้ เดี๊ยนนั่งรถไฟจากสถานีกลางกรุงเบอร์ลินไม่นาน ก็นั่งรถไฟสาย U ถึงสถานี Oranienburger Tor |
โดยทริปนี้ เดี๊ยนใช้เวลานั่งรถไฟจากสถานีกลางกรุงเบอร์ลินไม่นาน ก็นั่งรถไฟสาย U ถึงสถานี Oranienburger Tor
โดยโรงแรมที่พักในกรุงเบอร์ลินทริปนี้ เดี๊ยนเลือกพักที่โรงแรม เจเนอเรเตอร์ เบอร์ลิน มิทเทอ (Generator Berlin Mitte)
เนื่องจากเป็นโรงแรมราคาถูก ไม่แพงมากนัก อยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟ ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เดินทางไปได้สะดวกอีกด้วย
ทำการเช็กอินแจ้งชื่อเข้าที่พักเรียบร้อย โรงแรมก็มีลิฟท์โดยสาร ไม่ต้องเดินขึ้นบันใดให้เมื่อยค่ะ
|
เป็นห้องนอนโฮสเทล นอนรวมกับผู้เข้าพักอื่นๆ ห้องน้ำรวม ราคาตกคืนละ 890 บาท/คน |
ห้องพักเป็นห้องนอนโฮสเทล นอนรวมกับผู้เข้าพักอื่นๆ ห้องน้ำรวม ราคาตกคืนละ 890 บาท/คน ภายในห้องไม่ใหญ่มากนัก มีทั้งหมด 8 เตียงให้องเดียวกัน ค่อนข้างคับแคบเล็กน้อย แต่ก็สะอาดสะอ้านใช้ได้ โดยเตียงมี 2 ชั้น โชคดีอีกแล้วค่ะ ที่จองห้องมาทางโรงแรมจัดให้ได้เตียงชั้นล่าง ไม่งั้นต้องปีกไปนอนชั้นบนแน่ๆเลย โดยที่เตียง ก็มีตู้ล็อกเกอร์ลิ้นตรงชั้นล่างสุดให้ด้วย แต่ไม่มีกุญแจให้นะคะ แนะนำว่าให้เตรียมกุญแจมาล็อกเองจะดีที่สุด
|
ในห้องมีห้องน้ำในตัว
แต่ก็ต้องรอใช้ร่วมกับแขกคนอื่นๆที่นอนร่วมห้องด้วยกัน |
ในห้องมีห้องน้ำในตัว
แต่ก็ต้องรอใช้ร่วมกับแขกคนอื่นๆที่นอนร่วมห้องด้วยกัน
เพราะมีแค่ห้องเดียวค่ะ โรงแรมราคาประหยัดก็ประมาณนี้แหละค่ะ
แต่ถ้าต้องการห้องนอนส่วนตัว ราคาก็จะแพงไปอีกเยอะเลย
โดยที่เตียงนอนก็มีปลั๊กไฟให้ มีที่วางของเล็กน้อยๆ ได้ ส่วนหากใครที่พกคอมพิวเตอร์หอบงานอันยุ่งเหยิ่งจากเมืองไทยมาทำงานด้วย ก็สามารถเปิดใช้งานได้ ทางโรงแรมก็มีอินเตอร์เน็ต WiFi ให้ด้วย
|
ส่วนเรื่องอาหารการกิน ก็ง่ายๆ ถ้าอยากได้ถูกๆ เน้นประหยัด
แนะนำไปที่ร้านซุปเปอร์มาเก็ตมีของกินให้เลือกมากมาย
ส่วนใครที่อยากกินร้านอาหาร ใกล้ๆกับโรงแรมก็มีร้านอาหารเอเชียให้เลือกทานหลายอย่าง
|
ส่วนเรื่องอาหารการกิน ก็ง่ายๆ ถ้าอยากได้ถูกๆ เน้นประหยัด แนะนำไปที่ร้านซุปเปอร์มาเก็ตมีของกินให้เลือกมากมาย ส่วนใครที่อยากกินร้านอาหาร ใกล้ๆกับโรงแรมก็มีร้านอาหารเอเชีย อาหารจีน อาหารไทย อินเดีย และอาหารสไตล์ยุโรปให้เลือกทานด้วย แต่ทริปนี้เน้นเที่ยวประหยัดค่ะ ส่วนใหญ่ก็แวะไปแต่ร้านซุปเปอร์มาเก็ต ซื้อใส่กล่องทานอิ่มง่ายดี....หมดไปอีก 1 วันกับการเดินทางจากเมืองโรเธนเบิร์ก หรือเมืองโรแมนติกในเยอรมัน นั่งรถไฟมาสุดทางถึงเบอร์ลิน
จบเรื่องที่พักและเรื่องอาหารการกินแบบง่ายๆไปแล้ว ต่อไปก็มาดูสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเบอร์ลินกันต่อค่ะ สำหรับเพื่อนๆคนใหนที่ในอนาคต ปักหมุดวางแผนจะมาเที่ยวกรุงเบอร์ลิน หรือมาเที่ยวเยอรมัน ในกรุงเบอร์ลินก็มีสถานที่ท่องเที่ยว และจุดเช็กอินที่น่าสนใจหลายแห่ง
|
จบเรื่องที่พักและเรื่องอาหารการกินแบบง่ายๆไปแล้ว ต่อไปก็มาดูสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเบอร์ลินกันต่อค่ะ |
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่โรงแรมเจเนอเรเตอร์ เบอร์ลิน มิทเทอ (Generator Berlin Mitte) ก็มีแผนที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเบอร์ลินให้ด้วย และให้คำแนะนำว่าแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเบอร์ลินนั้นมีมากมาย ส่วนใหญ่เน้นไปทางพิพิธภัณฑ์ อาคารสถาปัตยกรรมอันสวยงาม รวมทั้งแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ซ่ะมากกว่า
|
วันนี้เดี๊ยนเลยขอมาสรุปแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเบอร์ลินให้ได้ไลด์เลื่อนดูกันดังนี้ น่าจะมีประโยชน์อยู่ไม่น้อยนะคะ |
หากจะเที่ยวเมืองเบอร์ลินจริงๆจังๆคงต้องวางแผนเที่ยวเป็นสัปดาห์เป็นอาทิตย์กันเลยทีเดียว.....วันนี้เดี๊ยนเลยขอมาสรุปแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเบอร์ลินให้ได้ไลด์เลื่อนดูกันดังนี้ น่าจะมีประโยชน์อยู่ไม่น้อยนะคะ
|
1.กำแพงเบอร์ลิน (Berlin memorial wall)
ว่ากันว่าหากใครมาเที่ยวกรุงเบอร์ลิน ไม่ได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้
เหมือนไม่ได้มาตามรอยประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ |
|
1.กำแพงเบอร์ลิน (Berlin memorial wall)
ว่ากันว่าหากใครมาเที่ยวกรุงเบอร์ลิน ไม่ได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้
เหมือนไม่ได้มาตามรอยประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ |
|
1.กำแพงเบอร์ลิน (Berlin memorial wall)
ว่ากันว่าหากใครมาเที่ยวกรุงเบอร์ลิน ไม่ได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้
เหมือนไม่ได้มาตามรอยประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ |
|
1.กำแพงเบอร์ลิน (Berlin memorial wall)
ว่ากันว่าหากใครมาเที่ยวกรุงเบอร์ลิน ไม่ได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้
เหมือนไม่ได้มาตามรอยประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ |
1.กำแพงเบอร์ลิน (Berlin memorial wall) ว่ากันว่าหากใครมาเที่ยวกรุงเบอร์ลิน ไม่ได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้ เหมือนไม่ได้มาตามรอยประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลกก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นกำแพงที่สร้างขึ้นช่วงสงครามเย็น มีวัตถุประสงค์เพื่อปิดกั้นพรมแดนระหว่างเบอร์ลินตะวันตกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเยอรมนีตะวันตก กับเยอรมนีตะวันออกที่โอบอยู่โดยรอบ
โดยในเยอรมนีตะวันออก กำแพงเบอร์ลิน คือ แนวเขตแดนที่มั่นคง และสัญลักษณ์ของการต่อต้านทุนนิยม มันถูกเรียกอย่างเป็นทางการว่า "แนวป้องกันการต่อต้านฟาสซิตส์" แต่สำหรับโลกเสรีแล้ว มันคือ สัญลักษณ์ของความขัดแย้งระหว่างระบบทุนนิยมของยุโรปตะวันตก ภายใต้การนำของสหรัฐอเมริกา กับระบบคอมมิวนิสต์ของยุโรปตะวันออก ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต หรือที่เรียกกันว่า สงครามเย็น นั่นเอง กำแพงเบอร์ลิน ทำให้กรุงเบอร์ลินฝั่งตะวันตก กลายเป็นเสมือน หน้าต่างสู่เสรีภาพ
โดยกำแพงมีความยาวทั้งสิ้น 155 กิโลเมตร เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ.
2504 (ค.ศ. 1961) และปิดกั้นพรมแดนนี้เป็นระยะเวลา 28 ปี
ก่อนถูกทลายในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532
นับตั้งแต่การสร้างกำแพงเบอร์ลิน การข้ามผ่านแดนจากเยอรมนีตะวันออก ไปยังเยอรมนีตะวันตก กลายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย หากมีการฝ่าฝืนและถูกพบเห็น มีโทษสถานเดียว คือ การยิงทิ้ง ณ บริเวณกำแพงนั่นเอง ตลอดระยะเวลา 28 ปี คาดว่ามีผู้เสียชีวิตที่กำแพงเบอร์ลินขณะหลบหนีระหว่าง 137 ถึง 206 คน
|
2.East Side Gallery Wall ภาพวาดศิลปะบนฝาผนังกำแพงมีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่ง |
|
2.East Side Gallery Wall ภาพวาดศิลปะบนฝาผนังกำแพงมีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่ง |
|
2.East Side Gallery Wall ภาพวาดศิลปะบนฝาผนังกำแพงมีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่ง |
|
2.East Side Gallery Wall ภาพวาดศิลปะบนฝาผนังกำแพงมีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่ง |
|
2.East Side Gallery Wall ภาพวาดศิลปะบนฝาผนังกำแพงมีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่ง |
2.East Side Gallery Wall ภาพวาดศิลปะบนฝาผนังกำแพงมีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่ง ที่เหล่าผู้รักการถ่ายภาพต้องเดินทางมาเช็กอินถ่ายรูปกันที่นี้ สำหรับEast side Gallery เป็นกำแพงที่อยู่เลียบริมแม่น้ำสปรี (Spree river) โดยสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน โดยกำแพงมีความยาวกว่า 1.3 กิโลเมตร
ภาพวาดบนกำแพงที่วาดขึ้นนี้สื่อถึงการมีความหวังและโลกที่สันติในอนาคต บางภาพออกแนวเสียดสีและบางภาพแสดงถึงการรำลึก แต่ทุกภาพออกแบบมาเพื่อให้คนดูได้นึกและคิดตาม ทำให้ผลงานภาพที่กำแพงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจที่สุดอีกแห่งในกรุงเบอร์ลิน โดย East Side Gallery เป็นสถานที่สาธารณะเปิดให้ชมฟรีตลอดเวลา แต่จะคึกคักเป็นพิเศษช่วงเย็นๆ เนื่องจากบริเวณดังกล่าว มีร้านอาหารนั่งดื่มแบบชิลๆริมแม่น้ำให้บริการมากมาย
|
3.ประตูบรันเดินบวร์ค (The Brandenburg Gate) |
|
3.ประตูบรันเดินบวร์ค (The Brandenburg Gate) |
|
3.ประตูบรันเดินบวร์ค (The Brandenburg Gate) |
|
3.ประตูบรันเดินบวร์ค (The Brandenburg Gate) |
3.ประตูบรันเดินบวร์ค (The Brandenburg Gate) อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวและจุดเช็กอินถ่ายรูปมีชื่อเสียงในกรุงเบอร์ลิน ที่นักเดินทางจากทั่วโลกต้องแวะมาชะโงกทัวร์ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน เนื่องจากเป็นประตูที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม มีความโอ่อ่าใหญ่โต ประตูแห่งนี้เป็นอนุสรณ์ของทางเข้าสู่ถนนอุนเทอร์ เดน ลินเดน ซึ่งเป็นถนนหลวงที่มีชื่อเสียงมาจากต้นลินเดน (บางที่เรียกต้นทิเลีย หรือต้นไลม์)
ซึ่งเป็นถนนที่ตรงไปสู่พระราชวังกรุงเบอร์ลิน ของกษัตริย์แห่งปรัสเซีย พระเจ้าฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 2 แห่งปรัสเซียทรงมีรับสั่งให้สร้างประตูบรันเดินบวร์คเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ ใช้เวลาสร้างตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2331 ถึงปี 2334 โดยนายคาร์ล ก็อทท์ฮาร์ด แลงฮานส์ แล้วได้รับความเสียหายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาประตูบรันเดินบวร์คก็ได้รับการบูรณะจนเสร็จสิ้นในช่วงปีพุทธศักราช 2543 ถึง 2545 โดยมูลนิธิอนุรักษ์อนุสาวรีย์เบอร์ลิน (Stiftung Denkmalschutz Berlin)
|
4.วิหารเบอร์ลิน (Berliner Dom) |
|
4.วิหารเบอร์ลิน (Berliner Dom) |
|
4.วิหารเบอร์ลิน (Berliner Dom) |
|
4.วิหารเบอร์ลิน (Berliner Dom) |
4.วิหารเบอร์ลิน (Berliner Dom) เป็นโบสถ์โปรเตสแตนต์และสุสานของราชวงศ์สำคัญในเยอรมันโดยสร้างขึ้นตั้งแต่ปีพ. ศ. 2437 ถึง พ.ศ. 2448 ตามคำสั่งของจักรพรรดิวิลเลียมที่ 2 ของเยอรมัน ตัวโดมที่อยู่สูงขึ้นไป 230 ฟุต (70 เมตร) เหนือใจกลางโบสถ์ถือเป็นชิ้นส่วนที่สวยงาม ทางด้านศิลปกรรมและวิศวกรรม ยังมีภาพโมเสกแบบต่างๆ 35
วิหารเบอร์ลินมีประวัติศาสตร์อันยาวนานโดยเริ่มจากการเป็นสถานที่สักการะบูชาของชาวคริสต์นิกายโรมันคาธอลิกในศตวรรษที่ 15 กลายเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และอาคารสถาปัตยกรรมที่สวยงามใหญ่โตโอ่อ่าของเยอรมนี
|
5.พิพิธภัณฑ์ Altes |
|
5.พิพิธภัณฑ์ Altes |
|
5.พิพิธภัณฑ์ Altes |
|
5.พิพิธภัณฑ์ Altes |
5.พิพิธภัณฑ์แอลเท่ Altes พิพิธภัณฑ์สำคัญใจกลางกรุงเบอร์ลิน โดยเป็นอาคารที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพิพิธภัณฑ์ในศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเบอร์ลิน และยังเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกขององค์การยูเนสโก ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์เรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของยุโรปยุคโบราณ อีกทั้งยังมีโบราณวัตถุสมัยกรีกและโรมันที่ตั้งอยู่ในอาคารขนาดใหญ่สไตล์นีโอคลาสสิกบนพิพิธภัณฑ์ที่เมืองเบอร์ลินแห่งนี้อีกด้วย
ตัวอาคารแห่งนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2368 ถึง ปี พ.ศ. 2373 ตามคำสั่งของกษัตริย์เฟรเดอริควิลเลียมที่ 3 แห่งปรัสเซียตามแผนการของคาร์ลฟรีดริชชินเคิล โดยเป็นผลงานหลักของสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิกของเยอรมัน ตัวอาคารสร้างอยู่ใกล้ๆกับพื้นที่ของมหาวิหารเบอร์ลิน ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกจจุบันพิพิธภัณฑ์ Altes เป็นที่ตั้งของ Antikensammlung และบางส่วนของ Münzkabinet ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เรียนรู้ที่น่าสนใจอีกแห่งที่มีนักเดินทางมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย
|
6.หอกระจายภาพโทรทัศน์ในกรุงเบอร์ลิน (Berliner Fernsehturm) |
|
6.หอกระจายภาพโทรทัศน์ในกรุงเบอร์ลิน (Berliner Fernsehturm) |
|
6.หอกระจายภาพโทรทัศน์ในกรุงเบอร์ลิน (Berliner Fernsehturm) |
6.หอกระจายภาพโทรทัศน์ในกรุงเบอร์ลิน (Berliner Fernsehturm) เป็นหอกระจายภาพโทรทัศน์อยู่ใจกลางกรุงเบอร์ลิน โดยตั้งอยู่ใกล้อเล็คซันเดอร์พลัทซ์ หอแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1965–1969 โดยรัฐบาลเยอรมนีตะวันออก เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของระบอบคอมมิวนิสต์ในกรุงเบอร์ลินตะวันออกด้วยความสูง 368 เมตร ทำให้หอกระจายภาพแห่งนี้เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในประเทศเยอรมนี และเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงอันดับสามในสหภาพยุโรปอีกด้วย โดยบนจุดสูงสุดสามารถมองเห็นทิวทัศน์ไกลถึง 42 กิโลเมตรในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ปัจจุบัน หอกระจายภาพเบอร์ลินไม่เพียงแต่กระจายคลื่นโทรทัศน์เท่านั้น แต่ยังเป็นจุดหมายตาและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ชั้นบนของหอกระจายภาพเป็นจุดชมวิวในสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในเยอรมนี มีนักเดินทางเข้ามาเยือนและเยี่ยมชมหอกระจายภาพแห่งนี้กว่า 1 ล้านคน
|
7.คอนเสิร์ตเฮาส์ เบอร์ลิน (The Konzerthaus Berlin) |
|
7.คอนเสิร์ตเฮาส์ เบอร์ลิน (The Konzerthaus Berlin) |
|
7.คอนเสิร์ตเฮาส์ เบอร์ลิน (The Konzerthaus Berlin) |
|
7.คอนเสิร์ตเฮาส์ เบอร์ลิน (The Konzerthaus Berlin) |
|
7.คอนเสิร์ตเฮาส์ เบอร์ลิน (The Konzerthaus Berlin) |
7.คอนเสิร์ตเฮาส์ เบอร์ลิน (The Konzerthaus Berlin) เป็นห้องแสดงคอนเสิร์ตในเบอร์ลินและเป็นที่ตั้งของ Konzerthausorchester Berlin ตั้งอยู่ที่จัตุรัส Gendarmenmarkt ในเขต Mitte ตอนกลางของเมืองเดิมสร้างขึ้นเพื่อเป็นโรงละคร โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้างขึั้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2361 มาจนถึงปี พ.ศ. 2364 ภายใต้ชื่อ Schauspielhaus Berlin จากนั้นก็ได้เปลียนมาใช้ชื่อว่า Theatre am Gendarmenmarkt และ Komödie กลายเป็นคอนเสิร์ตฮอลล์หลังสงครามโลกครั้งที่สองและเปลี่ยนชื่อเป็นห้องแสดงคอนเสิร์ตในปี 1994 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้น นอกจากเป็นสถานที่จัดคอนเสิรต์และแสดงดนตรีแล้ว ตัวอาคารยังมีสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม กลายเป็นจุดเช็กอินถ่ายรูปของเหล่าคู่รักอีกด้วย
|
8.จัตุรัสเบเบลพลัส (Bebelplatz) |
|
8.จัตุรัสเบเบลพลัส (Bebelplatz) |
|
8.จัตุรัสเบเบลพลัส (Bebelplatz) |
8.จัตุรัสเบเบลพลัส (Bebelplatz) เป็นจัตุรัสสาธารณะในเขต Mitte ใจกลางกรุงเบอร์ลินซึ่งเป็นเมืองหลวงของเยอรมนี โดยอาคารดังกล่าวที่เห็นคือ
มหาวิทยาลัยฮัมโบลดต์ จัตุรัสแห่งนี้ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ของถนน Unter den Linden ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรหลักทางตะวันออก - ตะวันตกที่ไหลผ่านใจกลางเมืองเบอร์ลิน ซึ่งมีอาณาเขตทางทิศตะวันออกติดกับอาคาร State Opera (ชื่อก่อนสงคราม) ส่วนทางทิศตะวันตกเป็นอาคารของมหาวิทยาลัยฮัมโบลดต์ และทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดกับมหาวิหารเซนต์เฮดวิกซึ่งเป็นโบสถ์คาทอลิกแห่งแรกที่สร้างขึ้นในปรัสเซียหลังจากการปฏิรูป หลังจากเกิดเหตุการณ์สงครามโลก จัตุรัสนี้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเบเบลผู้ก่อตั้งพรรคสังคมประชาธิปไตยแห่งเยอรมนี
|
9.อนุสรณ์สงครามโซเวียต Tiergarten |
|
9.อนุสรณ์สงครามโซเวียต Tiergarten |
9.อนุสรณ์สงครามโซเวียต Tiergarten อนุสรณ์แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ทางประวัติศาสตร์สำคัญในกรุงเบอร์ลิน ถูกสร้างขึ้นเมื่อปลายปี 1945 และแม้ว่าอนุสรณ์สถานแห่งนี้จะอยู่ในพื้นที่ของเยอรมันตะวันตก แต่มันได้รับการคุ้มครองโดยทหารโซเวียตจากเบอร์ลินตะวันออกตลอดช่วงระยะเวลาของสงครามเย็น
ภายในบริเวณอนุสาวรีย์นั้น ประกอบด้วยประติมากรรมการก่อสร้างหินรูปโค้ง มีรูปปั้นทหารในชุดคลุมสะพายปืนไรเฟิลยืนอยู่ โดยที่เสาหินแต่ละต้น ก็จะมีการสลักชื่อของเหล่าทหารโซเวียต ที่เสียชีวิตจากการสู้รบในยุทธการที่เบอร์ลิน และจุดเด่นอีกอย่างคือจะมีรถถัง T-34 ของจริงอยู่ในบริเวณเดียกันด้วย
|
10.อนุสาวรีย์แห่งชัยชนะ (Berlin Victory Column) |
|
10.อนุสาวรีย์แห่งชัยชนะ (Berlin Victory Column) |
|
10.อนุสาวรีย์แห่งชัยชนะ (Berlin Victory Column) |
|
10.อนุสาวรีย์แห่งชัยชนะ (Berlin Victory Column) |
10.อนุสาวรีย์แห่งชัยชนะ (Berlin Victory Column) สำหรับเสาชัยชนะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในเมืองเบอร์ลิน แพลตฟอร์มการชมซึ่งต้องใช้ตั๋วให้ทัศนียภาพของเบอร์ลิน โดยเป็นอนุสาวรีย์ในเบอร์ลินที่ออกแบบโดย Heinrich Strack ภายหลังปี พ. ศ. 2407 เพื่อรำลึกถึงชัยชนะของปรัสเซียในสงครามเดนมาร์ก - ปรัสเซีย ซึ่งอนุสาวรีย์เปิดอย่างเป็นทางในวันที่ 2 กันยายน ปี พ.ศ. 2416 ปรัสเซียได้เอาชนะออสเตรียและพันธมิตรของเยอรมันในสงครามออสเตรีย - ปรัสเซีย (พ.ศ. 2409) และในสงครามฝรั่งเศส - ปรัสเซีย (1870–71) บนยอดสุดของเสาชัยชนะ มีรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของวิกตอเรียซึ่งเป็นเทพีแห่งชัยชนะของโรมันสูง 8.3 เมตร (27 ฟุต) และหนัก 35 ตันออกแบบโดย Friedrich Drake ชาวเบอร์ลินตั้งชื่อเล่นให้กับรูปปั้นว่า Goldelse ซึ่งมีความหมายว่า "Golden Lizzy"
|
11.สะพานโอเบอร์บวม (Oberbaum Bridge) |
11.สะพานโอเบอร์บวม (Oberbaum Bridge) เป็นสะพานสองชั้นข้ามแม่น้ำ Spree ของกรุงเบอร์ลินซึ่งถือเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของเมือง มีการเชื่อมโยงฟรีดริชเชนและครอยซ์เบิร์กซึ่งเป็นเมืองเก่าที่ถูกแบ่งโดยกำแพงเบอร์ลินและกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของความเป็นหนึ่งเดียวของเบอร์ลิน
|
12.พระราชวังBellevue (Bellevue Palace (Germany)) |
|
12.พระราชวังBellevue (Bellevue Palace (Germany)) |
12.พระราชวังBellevue (Bellevue Palace (Germany)) ตั้งอยู่ในเขต Tiergarten ของกรุงเบอร์ลินเป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีแห่งเยอรมนีตั้งแต่ปี 1994 Schloss ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Spree ใกล้กับ Berlin Victory Column ริมทางตอนเหนือของสวนเทียร์การ์เด่าน ชื่อของพระราชวังเป็น ภาษาฝรั่งเศสหมายถึง"มุมมองที่สวยงาม" นักท่องเที่ยวที่เดินมาในสวนเทียร์การเด้น หรือจะเดินไปชมเสาแห่งชัยชนะ สามารถเดินลัดเลาะตามแนวสวนผ่านมาชมพระราชวังแห่งนี้ได้
นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ในกรุงเบอร์ลินยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายหลายแห่ง ให้ได้แวะไปเช็กอินถ่ายรูปกันค่ะ ส่วนในช่วงยามเย็น นักท่องเที่ยวและชาวเยอรมันส่วนใหญ่ในกรุงเบอร์ลิน ก็มักมานั่งกันที่ริมแม่น้ำ Spreee บริเวณกำแพงภาพวาด East Side gallery ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวชื่อดังที่มีนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกแวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสาย
|
สถานที่ดังกล่าวกลายเป็นจุดเช็กอิน และจุดนัดพบของบรรดาเหล่าวัยรุ่น และนักเดินทางนิยมมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ |
ทำให้สถานที่ดังกล่าวกลายเป็นจุดเช็กอิน และจุดนัดพบของบรรดาเหล่าวัยรุ่น และนักเดินทางนิยมมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ รับลมเย็นๆริมแม่น้ำ Spree กันอย่างคึกคัก
โดยมีที่นั่งและลานหญ้าให้นั่งพักกันตามอัธยาศัย ใครชอบมุมใหนก็เลือกนั่งได้เลยตามใจชอบ
หรือหากจะปั่นจักรยานลัดเลาะเลียบริมแม่น้ำ ก็มาหยุดพักที่ปลายทางที่นี่
และยังมีสวนสวนสาธารณะะในตัวเมืองเบอร์ลินส่วนใหญ่ ก็กลายเป็นจุดที่ชาวเยอรมันนิยมานั่งเตียงผ้าใบเพื่อนอนอาบแดดกันเป็นอย่างมาก
ส่วนใครที่อยากซึมซับบรรยากาศริมน้ำ ก็มาบริการเรือนำเที่ยวล่องแม่น้ำ Spree ให้ผู้ที่สนใจได้ไปนั่งชมบรรยากาศของกรุงเบอร์ลินอีกด้วย
โดยเรือบริการนำเที่ยวก็มีทั้งที่อยู่ในย่านใจกลางเมือง
ใกล้ๆกับวิหารเบอร์ลิน และอยู่ที่ East side gallery wall
ก็มีให้บริการด้วยเช่นกัน
|
ขนมของกินที่หาทานได้ง่ายที่สุด คงจะเป็ขนมปังเพรสเซล (pretzel) ขนมปังขึ้นชื่อของประเทศเยอรมัน เพราะมีขายตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ |
ส่วนขนมของกินที่หาทานได้ง่ายที่สุด คงจะเป็ขนมปังเพรสเซล (pretzel) ขนมปังขึ้นชื่อของประเทศเยอรมัน เพราะมีขายตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ และก็ขายดีมากด้วย เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ก็ต้องเดินใช้พลังงานกัน เดินไปเหนื่อย หมดแรงก็ซื้อขนมปังทาน
|
ขนาดของขนมปังชิ้นเบ้อเริ่มเทิ่มใหญ่เว่อร์วังเชียว
กินอันเดียวอิ่มไปทั้งวันเลย ราคาต่อชิ้นของขนมปัง pretzel
ก็ไม่ได้แพงมากนัก ตกชิ้นละ 2.5 ยูโร |
ดูขนาดของขนมปังชิ้นเบ้อเริ่มเทิ่มใหญ่เว่อร์วังเชียว กินอันเดียวอิ่มไปทั้งวันเลย ราคาต่อชิ้นของขนมปัง pretzel ก็ไม่ได้แพงมากนัก ตกชิ้นละ 2.5 ยูโร มีหลายแบบให้เลือกด้วย หากใครมาเที่ยวเบอร์ลิน ก็ลองซื้อขนมปังเพรสเซลชิ้นเบ้อเริ่มเทิ่มดูนะคะ
|
ก่อนจะอำลากรุงเบอร์ลิน ของฝากและของที่ระลึก ก็ต้องซื้อติดไม้ติดมือใส่กระเป๋าเป้กลับเมืองไทยไปฝากทางบ้านและที่ทำงานด้วย |
แน่นอนก่อนจะอำลากรุงเบอร์ลิน ของฝากและของที่ระลึก ก็ต้องซื้อติดไม้ติดมือใส่กระเป๋าเป้กลับเมืองไทยไปฝากทางบ้านและที่ทำงานด้วย ของฝากขึ้นชื่อราคาถูกประหยัด หนีไม่พ้น พวงกุญแจ เพราะราคาพอสู้ได้ ไม่แพงมากนัก พกพาใส่กระเป๋าไปได้ง่าย ตั้งแต่เที่ยวมาหลายเมือง มีแต่พวงกุญแจกับ Magnet หรือที่ติดตู้เย็นเนี่ยแหละค่ะ ราคาถูกสุดๆแล้ว
และสำหรับทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวกรุงเบอร์ลินในบทความนี้ น่าจะมีประโยชน์ต่อคุณผู้อ่านหรือนักเดินทางที่กำลังวางแผนปักหมุดแบกเป้ไปเที่ยวกรุงเบอร์ลิน และมองหาจุดเช็กอินหรือสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมืองหลวงของประเทศเยอรมันแห่งนี้อยู่ไม่มากก็น้อย หากข้อมูลดังกล่าว มีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยคุณผู้อ่านทุกๆคนมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้พบปะกันอีกครั้งในบทความถัดไป....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
----------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกเที่ยวเมืองอื่นๆ ที่ผ่านมา มีดังนี้จ้า
ตอนจบกับรีวิวแบกเป้เที่ยวกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงแห่งเดนมาร์ก มีที่เที่ยวอะไรให้แวะเช็กอินถ่ายภาพอะไรบ้าง ตามไปดูกันค่ะ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
เก็บตก รีวิวเที่ยวอำเภอแม่สอด และอำเภอบ้านตากในฤดูฝน สวยสุขล้นธรรมชาติสดใส มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันจ้า คลิ๊กดูรีวิวภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
เที่ยวหน้าฝน รีวิวทริปเช่ารถเที่ยวเมืองตาก มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรให้กระชากใจบ้าง ตามไปชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>
เปิดโลกกว้าง เดินทางไปเที่ยวเมืองโรแมนติก สไตล์ชิคๆน่ารักที่เมืองโรเธนเบิร์ก เดินทางไปอย่างไร มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันจ้า คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
แบ่งปันทริปแบกเป้ไปเที่ยวเมืองกำแพงเพชร กินของเด็ดเมืองกล้วยไข่ มีแหล่งท่องเที่ยวและจุดเช็กอินอะไรบ้าง ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
รีวิวทริปสั้นๆ ใกล้กรุง 1 วัน ปั่นจักรยานไปเที่ยวที่คุ้งบางกะเจ้า กินมะพร้าวอร่อยเริ่ดสะแมนแตน คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
แบ่งปันทริปแบกเป้เดินทางแวะเที่ยวเมืองไลพ์ซิก มีแหล่งท่องเที่ยวชิคๆอะไรให้ชมบ้าง ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
ท่องโลกกว้าง..เดินทางแบกเป้ไปเที่ยวเมืองเดรสเดน เดินเล่นรอบเมือง มีที่เที่ยวอะไรให้ชำเลืองบ้าง ตามไปดูสิ คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางจ้า>>>
มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวมหาชัย ไปสโลว์ไลฟ์ที่ท่าฉลอม แวะไปดอมดมชมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางจ้า>>>
รีวิวทริปสั้นๆ เดินเที่ยวเมืองฟุสเซ่น เมืองเล็กน่ารักๆ มีที่เที่ยวอะไรให้นั่งพักบ้าง ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดภาพแหล่งท่องเที่ยว>>>
เปิดโลกกว้างเดินทางไปเที่ยวประเทศลักเซมเบิร์ก ไปดูสิว่าประเทศเล็กๆแห่งนี้ มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันค่ะ คลิ๊กดูรายละเอียดที่เที่ยวค่ะ>>
เก็บตก แบกเป้พาไปเที่ยวชมหุบเขา ซิกมันด์ ทูน คลัมม์ เดินทางไปอย่างไร ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวโลกกว้าง เดินทางแวะกรุงบรัสเซลส์ เบลเยี่ยม มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดภาพรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
บทความบล็อกเก่ามาเล่าใหม่ พารีวิวเที่ยวโขงเจียม-ผาแต้ม นอนค้างแรมสักคืน มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปเบิ่งกันเด้อ คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>>
แบกเป้ในต่างแดน เที่ยวเมืองแห่งสปา คาร์โลวี วารี มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดภาพรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
ท่องโลกกว้าง แบ่งปันรีวิวแบกเป้เที่ยวเมืองเชสกี้ กรุมลอฟ ชมเมืองเก่ามรดกโลก มีที่เที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>>
แบ่งปันรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวกรุงปราก เดินจนขาลาก กระชากใจเว่อร์ มีสถานที่ท่องเที่ยวเลิศเลออะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรีวิวภาพรีวิวท่องเที่ยวค่ะ>>>
รีวิวเที่ยวเมืองเบอร์โน่ (Brno city) อีกหนึ่งเมืองเก่าแก่สวยงาม ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวภาพที่เที่ยว>>>
มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองระนอง ลองไปแช่น้ำแร่ เช่ารถนั่งแลชมทะเลสวยๆ และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดรีวิวที่เที่ยวค่ะ>>>
0 ความคิดเห็น