Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

แบ่งปันรีวิวเที่ยวถ้ำนาคา ไม่มีรถส่วนตัว แวะรื่นระรัวตามสถานที่เที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งกันเด้อ

เพื่อไม่ให้เว็ปไซต์ร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมารีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวถ้ำนาคา แบบไม่มีรถส่วนตัว เช่ารถมอเตอร์ไซต์รื่นระรัวไปเช็กอินที่เที่ยวต่างๆ  มีที่ใหนบ้าง ตามไปดูกันจ้า

ก็ขอทักทายสวัสดีคุณผู้อ่านและเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจทุกๆคนค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะกับบทความบล็อกรีวิวท่องเที่ยว หลังจากที่รีวิวก่อนหน้าได้พาไปลั๊ีลลาเที่ยวยังจังหวัดสกลนคร แวะไปออนซอน ถ่ายรูปเช็กอินตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่น่าสนใจกันไปแล้วตามเว็ปไซต์ลิงค์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2021/03/Backpack-travel-Sakhon-Nakhon-review.html


ในบทความนี้ เดี๊ยนคุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ก็ขอมาแบ่งปันรีวิวเล็กๆน้อยกับทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวถ้ำนาคา ในจังหวัดบึงกาฬให้ได้สไลด์เลื่อนอ่านชมกันต่อค่ะ...............จากกิตศัพท์ชื่อเสียงเรียงนามของถ้ำนาคา หรือหินทีมีรูปร่างลักษณะคล้ายเกล็ดของพญานาค ที่โด่งดังไปทั่วโลกา เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวดูดดูดตาอันน่าค้นหาของเหล่านักแบกเป้และนักท่องเที่ยวที่รักและชื่นชอนธรรมชาติรวมทั้งผู้คนที่ศรัทธาและเชื่อๆกับเรื่องพญานาค ทำให้ชื่อของ "ถ้ำนาคา" กลายเป็นจุดมุงหมายของนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ ต่างต้องมนต์ดลใจใช้แรงกายรวมทั้งแรงใจขึ้นมาชมให้ได้ 


และด้วยเหตนี้จึงทำให้เดี๊ยนตัดสินใจต้องเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางมาสัมผัสลี้ลับของถ้ำนาคาด้วยตาตัวเองสักครั้ง เนื่องจากดูภาพเว็ปไซต์ท่องเที่ยวต่างๆแล้ว ถ้ำนาคาดูสวยงามแปลกตา ดูแล้วค่อนข้างน่าค้นหาเหลือเกิน แม้ว่าช่วงที่เดินทางมาเที่ยวจะอยู่ในช่วงฤดูร้อน และวิกฤตโรดระบาด แต่ก็ไม่พลาดต้องไปให้ถึงเป้าหมายของทริปเดินทางที่วางไว้ เผื่อว่าจะได้แบ่งปันให้เพื่อนได้ดูกันค่ะ


และก่อนที่จะเข้าสู่ภาพรีวิวลุยเดี่ยวแบกเป้ไปเที่ยวถ้ำนาคาด้วยตัวเอง เราก็มารู้จักถ้ำนาค กันก่อนสักเล็กน้อย พอสังเขป


สารน่ารู้เกี่ยวกับถ้ำนาคา หรือว่า ถ้ำพญานาค แห่งภูลังกา จังหวัดบึงกาฬ (Naka Cave,Bueng-Kan Province ) 


เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับถ้ำนาคา หรือว่า ถ้ำพญานาค แห่งภูลังกา จังหวัดบึงกาฬ (Naka Cave,Bueng-Kan Province ) 


สำหรับถ้ำนาคา จัดเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ โดยตัวถ้ำตั้งอยู่ในบนเนินเขาสูงชัน การจะขึ้นไปเที่ยวชมถ้ำ จะต้องเดินบันไดสูงที่ทางอุทยานจัดไว้ให้โดยใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมง  และจำกัดนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมถ้ำนาคาแค่วันละ 350 คนเท่านั้น

ชื่อที่มาของถ้ำนาคา นั้นก็มาจากลักษระของหินและผนังของถ้ำที่ดูแล้วคล้ายกับลำตัวของเกล็ดพญานาค 

ส่วนชื่อที่มาของถ้ำนาคา นั้นก็มาจากลักษระของหินและผนังของถ้ำที่ดูแล้วคล้ายกับลำตัวของเกล็ดพญานาค ซึ่งมีรูปคล้ายกับตัวของพญานาคหรือว่างูใหญ่นอดขดตัวอยู่ โดยบริเวณรอบๆถ้ำนาคาก็จะมีส่วนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ส่วนหัว ส่วนลำตัว และเกล็ดพญานาคที่เกิดเป็นรูปร่างลักษณะขึ้นมาปรากฎให้เห็น ซึ่งตามความเชื่อของชาวบ้านในระแวก เชื่อว่าเป็นพญานาคที่ถูกสาปกลายเป็นหิน 


ซึ่งจากคำบอกเล่าของไกด์นำเที่ยวท้องถิ่นกล่าวว่า โดยถ้ำนาคาแห่งนี้ คือถ้ำพญานาคที่ถูกสาบแช่งให้กลายเป็นหิน

จากตำนานคำบอกเล่าของชาวบ้านที่สืบต่อมาช้านานเชื่อว่า แต่เดิมทีบริเวณนี้ คือเมืองบังบด ซึ่งจากคำบอกเล่าของไกด์นำเที่ยวท้องถิ่นกล่าวว่า โดยถ้ำนาคาแห่งนี้ คือถ้ำพญานาคที่ถูกสาบแช่งให้กลายเป็นหิน โดย ปู่อือลือ หมายถึง เทพบนสรวงสวรรค์ ที่ถูกสาบให้เป็นพญานาคปกครองเมืองบาดาล โดยเมืองบังบดนั้นมีทั้งพญานาคและมนุษย์อาศัยร่วมกันอยู่บริเวณนี้  

เหตุที่พญานาคถูกสาปให้กลายเป็นหินเนื่องจากทำผิดจารีต เพราะไปมีรักหรือมีสัมพันธ์กับมนุย์

ซึ่งเหตุที่พญานาคถูกสาปให้กลายเป็นหินเนื่องจากทำผิดจารีต เพราะไปมีรักหรือมีสัมพันธ์กับมนุย์ เลยทำให้ถูกสาบให้กลายเป็นหินที่บริเวณภูลังกาแหงนี้ นั้นก็คือ ถ้ำนาคา ในปัจจุบันนั้นเอง 


หลักฐานทางธรณีวิทยา ระบุว่าบริเวณถ้ำนาคา เป็นภูเขาหินทราย มีอายุราวประมาณ 70 ล้านปีมาแล้ว โดยเป็นหินในหมวดครีเทเซียสตอนปลายของโลกยุคไดโนเสาร์แล้ว

จากหลักฐานทางธรณีวิทยา ระบุว่าบริเวณถ้ำนาคา เป็นภูเขาหินทราย มีอายุราวประมาณ 70 ล้านปีมาแล้ว โดยเป็นหินในหมวดครีเทเซียสตอนปลายของโลกยุคไดโนเสาร์แล้ว โดยหินทรายบริเวณถ้ำนาคานั้นมีลักษณะเป็นเนื้อเดียวกับและมีต่อการเกิดลวดลายคล้ายกับเกล็ดของพญานาค 


เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของโลกไปตามวัฎการ ทำให้เกิดการกัดเซาะ

จากนั้นเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของโลกไปตามวัฎการ ทำให้เกิดการกัดเซาะ โดยในยุคน้ำแข็งกับยุคร้อนในอดีตที่เกิดการสลับกันเป็นวงรอบทุกๆ 1 แสบปี โดยมีน้ำเป็นตัวหลักทำให้เกิดการกัดเซาะหินลงไปตามกลุ่มรอยแตกของหินแนวตั้งที่มีสองแนวตัดกันจนเป็นรูปตารางสี่เหลี่ยม ดูแล้วคล้ายเกล็ดพญานาคนั้นเอง 


ส่วนเส้นทางไปถ้ำนาคาเดินเป็นอย่างไร จากรูปภาพอธิบายได้ดังนี้

ส่วนเส้นทางไปถ้ำนาคาเดินเป็นอย่างไร จากรูปภาพอธิบายได้ดังนี้

ระยะทางขึ้นไปที่ตัวถ้ำประมาณ 2 กิโลเมตร 

ใช้เวลาเดินทางไป-กลับ หรือขึ้น-ลงประมาณ 4 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างชัน

- ทางเดินจะเป็นทางเดินดินสลับกับบันได โดยบันไดแบ่งเป็นตอนสั้นๆ ประมาณ 20 ตอน รวมประมาณ 400 ชั้น 

- บางจุดเป็นทางชันมากหรือเป็นโขดหินจะต้องดึงเชือกขึ้นและลง ดังนั้นควรพกถุงมือไปด้วย เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ 

- ค่ามัดจำขยะ 100 บาท 

- อื่นๆ สิ่งที่ต้องพกติดตัวไปด้วยระหว่างทาง คือ น้ำดื่มขวดใส่กระเป๋าเป้สะพายหลัง และข้าวกล่องอาหารเที่ยงนำใส่กระเป๋าขึ้นไปทานได้ เพราะใช้เวลาเดินทางแต่เช้า เดินกลับลงมาก็เกือบบ่าย 3 -4 โมงเย็นแล้วค่ะ ดังนั้นอาหารมื้อเที่ยงสำคัญมาก 

-ส่วนถ้ามาหน้าร้อน ให้พกร่มไปด้วยก็ดี ยาดม ยาอม ยาหม่อง ป้องเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาระหว่างทาง


หากไปเที่ยวถ้ำนาคา ควรจะไปเที่ยวช่วงฤดูใหนดีที่สุด 

หากไปเที่ยวถ้ำนาคา ควรจะไปเที่ยวช่วงฤดูใหนดีที่สุด 


เดี๊ยนแนะนำว่าให้มาเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาวดีที่สุดค่ะ เพราะอากาศไม่ร้อนมาก และป่าไม้ก็เขียวชะอุ่มชุ่มชื่นดูสบายตาและเวลาเดินขึ้นก็สบายกายด้วย ไม่เหนียวเนอะหนะ แต่มาเที่ยวหน้าร้อนก็ดีอย่าง คือได้ใช้พลังงานและเสียเหงื่อเยอะ เผาพลาญพลังงานได้ดีเหลือเกิน  


และหากใครที่เที่ยวถ้ำนาคาแนะนำว่าให้จองคิวที่แอปพลิเคชั่น‎ QueQ เพื่อจองคิวก่อนล่วงหน้า 15 วัน เพราะถ้าไม่ได้จองคิว ไม่สามารถขึ้นถ้ำนาคาได้นะคะ ซึ่งจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวแค่วันละ 350 คนเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใครที่จะเดินทางมาเที่ยวเสาร์-อาทิตย์ คิวจองเต็มเร็วมาก แนะนำว่าให้จองเนิ่นๆ หรือถ้าให้ดีมาเที่ยววันธรรมดาก็ดีค่ะ เพราะคนไม่เยอะมากด้วย 

เมื่อได้อ่านข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับถ้ำนาคากันไปแล้ว ต่อไปก็มาดูภาพรีวิวเดินทางลุยเดี่ยวไปเที่ยวถ้ำนาคา บึงกาฬได้เลยได้ค่ะ 

หลังจากที่ได้อ่านข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับถ้ำนาคากันไปแล้ว ต่อไปก็มาดูภาพรีวิวเดินทางลุยเดี่ยวไปเที่ยวถ้ำนาคา บึงกาฬได้เลยได้ค่ะ 

เริ่มต้นทริปนี้เขียนต่อจากรีวิวตอนที่แล้ว : https://khunnaiver.blogspot.com/2021/03/Backpack-travel-Sakhon-Nakhon-review.html

เริ่มต้นทริปนี้เขียนต่อจากรีวิวตอนที่แล้ว : https://khunnaiver.blogspot.com/2021/03/Backpack-travel-Sakhon-Nakhon-review.html

หลังจากที่ได้ทำการคืนรถเช่ามอเตอร์ไซต์ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเมืองสกลนครแล้ว ก็มามายืนรอขึ้นรถโดยสารหวานเย็นไปอำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ


- เนื่องจากที่อำเภอบึงโขงหลง ไม่มีรถโดยสารไปถึง ทางเจ้าหน้าที่โรงแรมเลยให้ดิฉัน นั่งรถหวานเย็นจากสกลนคร ไปลงสุดปลายทางที่อำเภอเซกาค่ะ 

นั่งรอขึ้นรถโดยสารจากชานชลาหมายเลข 11 จากเมืองสกลนคร ไปออนซอนสุดปลายทางที่อำเภอเซกา

มานั่งรอขึ้นรถโดยสารจากชานชลาหมายเลข 11 จากเมืองสกลนคร ไปออนซอนสุดปลายทางที่อำเภอเซกา ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงในช่วงหน้าร้อน 

นั่งรถหวานเย็นสีส้มเริ่มต้นที่สกลนคร-อากาศอำนวย สุดทางที่อำเภอเซกา ระยะทาง 116 กิโลเมตร

รถโดยสารหวานเย็นสายอำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬก็มาแล้ว ก็ไม่คลาดแคล้วขึ้นไปเจื้อแจ้วนั่งรอในรถ 

ค่าโดยสารไปสุดปลายที่อำเภอเซกา ราคาลั๊ีลลาที่ 60 บาท 

และค่าโดยสารไปสุดปลายที่อำเภอเซกา ราคาลั๊ีลลาที่ 60 บาท 
ส่วนเวลารถออกจากชานชลาสกลนคร - ไปอำเภอเซกา บึงกาฬ ก็ไม่ได้มีทุกชั่วโมงนะคะ จำได้ว่า 2 ชั่วโมงมี 1 รอบกระมังค่ะ ตอนที่เดี๊ยนซื้อตั๋ว มานั่งรถตั้งแต่บ่ายโมงครึ่ง  รถกว่าจะออกก็ บ่าย 2.45 น.เลยค่ะ 
หากใครจะแบกเป้มาเที่ยวแบบคุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ก็แนะนำว่าให้เลือกเวลาเดินทางแต่เนิ่นๆนะคะ จะได้ไม่ดึกดึกมืดค่ำจนเกินไป 


บรรยากาศภายในรถผู้คนไม่มาก เนื่องจากเป็นวันธรรมดาที่ไม่ค่อยมีคนเดินทางมากนัก 

ระหว่างทางเดินทาง จะมีเสบียงขนมพื้นบ้านท้องถิ่นของคนที่นี่พกไปทาน อ่านหนังสือระหว่างทางด้วยก็ดี 

และระหว่างทางเดินทาง มีเสบียงขนมพื้นบ้านท้องถิ่นของคนที่นี่พกทาน อ่านหนังสือระหว่างทางไปด้วยก็ดี เพราะรถหวานเย็นนี้ จอดส่งรับคนทุกที่ตลอดทาง  หิวเมื่อไหร่ก็แทะขนมขบเคี้ยวไปเรื่อยๆ เพลินดีค่ะ 
ส่วนขนมข้าวเกรียบว่าว หรือขนมหูช้าง ไม่กางแล้วจ้า แตกปี้ป่นไปหมดเลย 

นั่งรถออกจากเมืองสกลนครเข้ามา ก็นั่งชมวิวทัศนียภาพทุ่งนาระหว่างทางไปพลางๆฆ่าเวลาค่ะ 
ถือว่าได้บรรยากาศไปอีกแบบ เพราะรถวิ่งช้าๆไปเรื่อยๆ 

ในช่วงฤดูแล้ง หน้าร้อน ฝนยังไม่ตกสะออนจากฟากฟ้า ผืนทุ่งนาก็ค่อนข้างแห้งอยู่พอสมควร แต่ก็ยังได้กลิ่นอบอวนของไอดิน ฟินไปอีกแบบ ไปแบบช้าๆ เนิ่บๆ 

นั่งรถผ่านอำเภออากาศอำนวย ก็ยังมีสายแม่น้ำลองห้วยให้ระทวยช่วยให้ชุ่มชื่นรื่นฤทัยอยู่บ้าง

นั่งรถผ่านอำเภออากาศอำนวย ก็ยังมีสายแม่น้ำลองห้วยให้ระทวยช่วยให้ชุ่มชื่นรื่นฤทัยอยู่บ้าง มองจากสะพานเห็นเด็ก
พื้นที่บริเวณใหนที่ใกล้ลำห้วย ลำคลอง ก็มักจะเขียวชะอุ่ม ชุ่มชื่นรื่นฤทัยกว่าที่อื่นๆ เพราะสามารถปลูกข้าว ทำนาปรังในหน้าแล้งได้ 

ส่วนพื้นที่บริเวณใหนที่ใกล้ลำห้วย ลำคลอง ก็มักจะเขียวชะอุ่ม ชุ่มชื่นรื่นฤทัยกว่าที่อื่นๆ เพราะสามารถปลูกข้าว ทำนาปรังในหน้าแล้งได้ 

สุดปลายทางที่อำเภอเซกา รวม 3 ชั่วโมงกว่าเลยนะคะ เพราะระยะทางไกลมาก ประมาณ 116 กิโลเมตร นั่งรับลมเย็นๆ อบอวลด้วยไอความร้อนหน่อยๆ 

เดินทางออกจากเมืองสกลนครบ่าย 2.45 น. ในที่สุดก็มาถึงอำเซกา ชื่นฉ่ำอุราจับใจแล้วค่ะ มาถึงก็พลบค่ำยามเย็นพอดี รวมเวลาเดินทางจากสกล มาสุขล้นสุดปลายทางที่อำเภอเซกา รวม 3 ชั่วโมงกว่าเลยนะคะ เพราะระยะทางไกลมาก ประมาณ 116 กิโลเมตร นั่งรับลมเย็นๆ อบอวลด้วยไอความร้อนหน่อยๆ 

สถานีขนส่งอำเภอเซกา เงียบเหงามากๆ รู้สึกว่ามีเดี๊ยนอยู่คนเดียวกระมังที่สถานี กับน้องหมาอีก 1 ตัวซึ่งขาหลังนางเดินไม่ได้ สงสารน้องหมามากๆ
บริเวณสถานีขนส่งอำเภอเซกา เงียบเหงามากๆ รู้สึกว่ามีเดี๊ยนอยู่คนเดียวกระมังที่สถานี กับน้องหมาอีก 1 ตัวซึ่งขาหลังนางเดินไม่ได้ สงสารน้องหมามากๆ  มาถึงก็ตักหลักหยิบโทรศัพท์โทรไปที่โรงแรมในอำเภอบึงโขงหลง ให้มารับที่สถานีขนส่ง บขส.อำเภอเซกาค่ะ 

ไปนอนพักค้างแรมรอน ออนซอนที่โรงแรมเรือนไทย เกสต์เฮ้าส์ ทางโรงแรมก็มีบริการรถมารับลูกค้าถึงอำเภอเซกาเลยนะคะ 

ซึ่งในทริปเที่ยวครั้งนี้ ทำการจองที่พักไว้แล้ว โดยไปนอนพักค้างแรมรอน ออนซอนที่โรงแรมเรือนไทย เกสต์เฮ้าส์ ทางโรงแรมก็มีบริการรถมารับลูกค้าถึงอำเภอเซกาเลยนะคะ 

แต่ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนิดหน่อยประมาณสองถึงสามร้อยบาทค่ะ เนื่องจากว่าไม่มีรถตู้โดยสารจากสกลไปถึงบึงโขงหลงโดยตรง การเดินทางที่สะดวกที่สุด ก็ต้องพึ่งพาการบริการรถ-รับส่งของโรงแรมเลยค่ะ

นั่งรถบริการของโรงแรมจาก บขส.อำเภอเซกา - มาที่โรงแรมThai Guest House เรือนไทยเกสต์เฮาส์ อำเภอบึงโขงหลง

เดินทางนั่งรถบริการของโรงแรมจาก บขส.อำเภอเซกา - มาที่โรงแรมThai Guest House เรือนไทยเกสต์เฮาส์ อำเภอบึงโขงหลง  ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร 

ห้องพักเรือนไทยเกสต์เฮาส์ บึงโขงหลง คืนละ 500 บาท รวมอาหารเช้า 

ส่วนห้องพักที่เรือนไทยเกสต์เฮาส์ บึงโขงหลง คืนละ 500 บาท รวมอาหารเช้า 

ภายในห้องพักมีตู้เย็น ทีวี ตู้เสื้อผ้า มีโต๊ะเครื่องแป้ง น้ำดื่มฟรี 

ห้องน้ำส่วนตัว มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ ถือว่าราคาถูก สะอาดสะอ้านดีมากค่ะ ราคาไม่แพงมีอาหารเช้าให้ทานอีกด้วย
อรุณเบิกฟ้าเช้าวันใหม่ นกกาโบยบิน ออกหากินร่าเริงแจ่มใส 

อรุณเบิกฟ้าเช้าวันใหม่ นกกาโบยบิน ออกหากินร่าเริงแจ่มใส เราเบิกบานรีบมาไวๆ ยิ้มรับวันใหม่ส่งให้แก่กัน...และหากจะขึ้นไปถ้ำนาคา ทางเจ้าของที่พักแจ้งว่าต้องตื่นแต่เช้าๆเลยก็ดี 

ที่โรงแรมก็มีไลน์อาหารเช้าให้ทานด้วย
ซึ่งที่โรงแรมก็มีไลน์อาหารเช้าให้ทานด้วย เป็นข้าวต้มร้อนๆ มีขนมปัง มีปาท่องโก๋ เครื่องดื่มชา กาแฟ โอวัลติน เลือกตามใจชอบได้เลยค่ะ 

แนะนำว่าใครที่จะขึ้นไปถ้ำนาคา ต้องทานข้าวเช้าให้เยอะๆนะคะ เพราะใช้พลังงานเยอะมาก 

ทานอาหารเช้าแบบง่ายๆ แนะนำว่าใครที่จะขึ้นไปถ้ำนาคา ต้องทานข้าวเช้าให้เยอะๆนะคะ เพราะใช้พลังงานเยอะมาก 

จากโรงแรมไปที่จุดเริ่มต้นขึ้นถ้ำนาคา ที่วัดตาดวิมานทิพย์ ประมาณ 6 กิโลเมตร ซึ่งทางโรงแรมก็มีบริการรถมอเตอร์ไซต์ให้เช่า วันละ 200 บาทค่ะ 


หลังจากทานข้าวอิ่มแล้ว เตรียมตัวไปถ้ำนาคา จากโรงแรมไปที่จุดเริ่มต้นขึ้นถ้ำนาคา ที่วัดตาดวิมานทิพย์ ประมาณ 6 กิโลเมตร ซึ่งทางโรงแรมก็มีบริการรถมอเตอร์ไซต์ให้เช่า วันละ 200 บาทค่ะ 

เช่ารถมอเตอร์ไซต์จากอำเภอบึงโขงหลง มุ่งหน้าไปยัง จุดรายงานตัวขึ้นไปถ้ำนาคา บริเวณวัดตาดวิมานทิพย์ 
ถึงจุดเช็กอินถ่ายรูปป้ายถึงแล้วนะภูลังกา

พอขับรถมอเตอร์ไซต์มาเรื่อยๆก็ถึงจุดเช็กอินถ่ายรูปป้ายถึงแล้วนะภูลังกา


เดินทางขับรถมาไม่ไกลมีป้ายบอกตลอดทาง ก็ถึงจุดรายงานตัวขึ้นไปถ้ำนาคาแล้วค่ะ 

มาถึงก็แจ้งชื่อและคิววันที่จองให้กับเจ้าหน้าที่ได้ทราบ และเสียค่าธรรมเนียอุทยานแห่งชาติ รวม 40 บาทค่ะ 

เมื่อมาถึงก็แจ้งชื่อและคิววันที่จองให้กับเจ้าหน้าที่ได้ทราบ และเสียค่าธรรมเนียอุทยานแห่งชาติ รวม 40 บาทค่ะ 

ป้ายข้อห้ามในการเข้าชมถ้ำนาคาให้อ่านด้วยนะคะ 

ก่อนขึ้นไปด้านบนเขา ก็มีป้ายข้อห้ามในการเข้าชมถ้ำนาคาให้อ่านด้วยนะคะ 
ไม่ว่าจะเป็น ห้ามเข้าถ้ำก่อนได้รับอนุญาต ห้ามเอามือสัมผัสหรือแตะต้องผนังถ้ำ รวมทั้งอย่าเก็บเศษหินติดตัวมาเป็นอันขาด 
มาชำระค่ามัดจำขยะ 100 บาท จะได้เงินคืนก็ต่อเมื่อนำเศษขยะหรือถุงขนมลงมาครบ

จากนั้นก็มาชำระค่ามัดจำขยะ 100 บาท จะได้เงินคืนก็ต่อเมื่อนำเศษขยะหรือถุงขนมลงมาครบ หากขึ้นไปด้านบน สามารถพกขนมไปทานได้ แต่ต้องนำขยะลงมาด้วยนะคะ 

ตลอดทริปจะมีเจ้าหน้าที่ไกด์ท้องถิ่นนำทางและให้ข้อมูลถ้ำนาคาแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนถ้ำแห่งนี้ด้วยตลอดทริปการเดินทางค่ะ 

และตลอดทริปจะมีเจ้าหน้าที่ไกด์ท้องถิ่นนำทางและให้ข้อมูลถ้ำนาคาแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนถ้ำแห่งนี้ด้วยตลอดทริปการเดินทางค่ะ 


เส้นทางขึ้นไปยังถ้ำเป็นบันไดลาดชันมากๆ ต้องใช้พละกำลังวังชาพอสมควร รวมทั้งใช้ระยะเวลานานมากๆ เพราะเดินไปก็พักเหนื่อยไป

ส่วนเส้นทางขึ้นไปยังถ้ำเป็นบันไดลาดชันมากๆ ต้องใช้พละกำลังวังชาพอสมควร รวมทั้งใช้ระยะเวลานานมากๆ เพราะเดินไปก็พักเหนื่อยไป  และทริปนี้เดี๊ยนโชคดีได้เดินทางไปกับทริป สว.(ผู้สูงวัย) ก็จะออกแนวช้าๆเนิ่บๆ พักเหนื่อยตลอดทาง  ใครอยากลดหุ่น แนะนำค่ะว่ามาเดินขึ้นๆลงๆถ้ำนาคา รับรองว่าหุ่นเพรียวแน่นอน 
เวลาขึ้นต้องระวัง เพราะบางช่วงก็เป็นบันไดลิง ต้องค่อยๆขึ้นไปค่ะ 

ระหว่างทางเดินขึ้นมา ก็จะได้ชมวิวทัศนียภาพผืนป่าของภูลังกาอย่างสวยงาม ลืมความเหน็ดเหนื่อยไปได้เลย 
หากเพื่อนๆเหล่านักทัศนาจร ออนซอนหัวใจคนใหน ชอบเที่ยวแนวๆลุยๆเดินป่า แนะนำว่าแบกเป้ขึ้นมาเที่ยวถ้ำนาคาดูค่ะ 

ใช้เวลาเดินขึ้นบันไดสลับทางเดินเขามาเรื่อยๆ 2 ชั่วโมงกว่า ก็ถือบริเวณทางเดินเรียบไปยังถ้ำนาคาแล้วค่ะ ใช้แรงขาพอสมควร 

จุดแรกที่ไกด์ท้องถิ่นแนะนำคือ หินรูปทรงคล้ายนหัวพญานาค มองไปแล้วก็คล้ายๆอยู่นะคะ

และจุดแรกที่ไกด์ท้องถิ่นแนะนำคือ หินรูปทรงคล้ายนหัวพญานาค มองไปแล้วก็คล้ายๆอยู่นะคะ มีตา มีเกล็ด จินตนาการกันไปค่ะ 

จากนั้นก็เดินต่อไปอีก 800 เมตร เพื่อไปถ้ำนาคาค่ะ เส้นทางนี้ไปทางเดินเรียบ ไม่ต้องจับราวบันไดลิงให้เหนื่อยอีกแล้วค่ะ 

รอคิวลงอยู่สัก 20 นาที ก็จะมีเจ้าหน้าที่เรียกลงไปตามคิวค่ะ ไม่ได้ลงไปทีเดียวนะคะ เพราะอาจจะไปแออัดกันในถ้ำได้ 

นั่งพักใต้ต้นไม้รอคิวลงอยู่สัก 20 นาที ก็จะมีเจ้าหน้าที่เรียกลงไปตามคิวค่ะ ไม่ได้ลงไปทีเดียวนะคะ เพราะอาจจะไปแออัดกันในถ้ำได้ 


เดินลงมารู้สึกได้ถึงความเยือกเย็น

และมาจุดไฮไลท์จะเห็นหินลักษณะคล้ายลำตัวพญานาคขดตัวอยู่  ที่ดูภาพในอินเตอร์เน็นจะเป็นสีเขียว แต่มาหน้าร้อน โดยรอบค่อนข้างแห้งแล้งไปสักหน่อย 


มาถึงจุดไฮไลท์จะเห็นหินลักษณะคล้ายลำตัวพญานาคขดตัวอยู่  ที่ดูภาพในอินเตอร์เน็นจะเป็นสีเขียว แต่มาหน้าร้อน โดยรอบค่อนข้างแห้งแล้งไปสักหน่อย 

ถ้ามาเที่ยวถ้ำนาคาช่วงปลายฝนต้นหนาว ก็จะเห็นมอสสีเขียวเกาะตามผนังหิน ดูลึกลับและขลังไปอีกแบบค่ะ 

โดยบริเวณถ้ำมีทางเดินลอดไปได้ ลักษณะของหินมีรอยแตกคล้ายเกล็ดพญานาค เลยเรียกถ้ำนี้ว่า ถ้ำนาคา หรือถ้ำพญานาค 

พอเดินเข้ามาที่ตัวถ้ำชั้นในอีก ก็จะมีนักท่องเที่ยวคิวถัดไป เดินต่อลงมาเลย แต่จะไม่แออัดกันมาก

ถ้ำด้านใน มีพระพุทธรูปปางนาคปรกประดิษฐานในตัวถ้ำให้ได้กราบไหว้กันอีกด้วย 
บริเวณถ้ำด้านใน มีพระพุทธรูปปางนาคปรกประดิษฐานในตัวถ้ำให้ได้กราบไหว้กันอีกด้วย 

ทางไกด์ท้องถิ่นบอกเรื่องราวลี้ลับของสถานที่แห่งนี้อีกว่า หากเดินทะลุทางดังกล่าวไป จะไม่สามารถกลับคืนมา ณ จุดเดิมได้อีก

และบริเวณดังกล่าว ทางไกด์ท้องถิ่นบอกเรื่องราวลี้ลับของสถานที่แห่งนี้อีกว่า หากเดินทะลุทางดังกล่าวไป จะไม่สามารถกลับคืนมา ณ จุดเดิมได้อีก อันนี้ตามคำบอกกล่าวของไกด์ทีเล่าเรื่องลี้ลับของถ้ำนี้ให้ฟังว่า นานมากแล้วเคยมีชาวบ้านขึ้นมาที่ภูลังกา แต่ก่อนยังไม่ถูกเรียกว่า ถ้ำนาคา แต่หินก็มีลักษณะอย่างนี้มานานมากแล้ว หากใครที่เดินทะลุทางลอดตามรูปภาพดังกล่าวออกไป จะพลัดหลงและกลับมาไม่ได้อีกเลย เหมือนกับว่า มีอะไรบังไว้ไม่ให้เห็นเส้นทางเดิม ตามชื่อเมืองบังบด  

จากคำบอกเล่าของไกด์เล่าอีกว่าในอดีตชาวบ้านที่มาบริเวณถ้ำนี้ จะเห็นแกลบหรือเปลือกข้าวอยู่บริเวณถ้ำพญานาคนี้ด้วย ซึ่งเชื่อว่าเป็นแกลบของชาวเมืองบังบดที่อาศัยอยู่บนภูลังกาแห่งนี้  พอฟังแล้วก็แอบพิศวงอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ 

ออกจากถ้ำนาคามา เดินมาอีกไม่ไกล ไกด์นำเที่ยวท้องถิ่น ก็พาเดี๊ยนพร้อม สว.หรือผู้สูงวัยไปชมบ่อน้ำบนเขาลูกนี้ ที่แต่เดิมเป็นบ่อน้ำใช้ของหลวงปู่วัง 

และใกล้ๆกันก็เป็นถ้ำของหลวงปู่วัง 

จากก็เดินทางลาดหินไปอีก เพื่อไปกราบนมัสการเจดีย์หลวงปู่วัง  

ไกด์นำเที่ยวก็พาเราไปไหว้องค์เจดีย์หลวงปู่เสาร์ก่อนค่ะ 
ก่อนจะเดินบันไดนาคไปเจดีย์หลวงปู่วัง ทางไกด์นำเที่ยวก็พาเราไปไหว้องค์เจดีย์หลวงปู่เสาร์ก่อนค่ะ 

จดีย์หลวงปู่เสาร์ที่ตั้งอยู่บริเวณริมหน้าผาสูงชัน 

ซึ่งเป็นเจดีย์หลวงปู่เสาร์ที่ตั้งอยู่บริเวณริมหน้าผาสูงชัน 

มีจุดชมวิวด้วย แต่ค่อนข้างจะหวาดเสียวมากๆ ระวังค่ะ ใครกลัวความเสียวอย่ามายืนตรงนี้นะคะ เกิดเป็นลมเป็นแล้ง ตกลงไปคงแย่เลย 

โดยบริเวณเจดีย์ก็มีจุดชมวิวด้วย แต่ค่อนข้างจะหวาดเสียวมากๆ ระวังค่ะ ใครกลัวความเสียวอย่ามายืนตรงนี้นะคะ เกิดเป็นลมเป็นแล้ง ตกลงไปคงแย่เลย 

ซึ่งทางไกด์บอกว่าการสร้างเจดีย์สมัยก่อนใช้เวลาสร้างนานมากๆ เพราะไม่มีเครื่องทุ่นแรง อย่างเช่นอิฐ หรือปูน ต้องใช้ศรัทธาของชาวบ้านในระแวกช่วยกันแบกขึ้นมาด้านบน 

และจากก็เดินขึ้นบันไดนาคไปยังเจดีย์หลวงปู่วัง

ลานทางเดินไปยังเจดีย์หลวงปู่วัง 

ถึงลานทางเดินไปยังเจดีย์หลวงปู่วัง ซึ่งเป็นเจดีย์ที่เก็บอัฐิของหลวงปู่วังให้ชาวบ้านและผู้ที่ศรัทธาได้กราบไหว้กัน
โดยลักษณะของเจดีย์หลวงปู่วัง มีลักษณะศิลปะคล้ายกับองค์พระธาตุพนม 

ส่วนบริเวณลานหินโดยรอบ ก็มีรูปลักษระคล้ายเกล็ดพญานาค หรือเกล็กจระเข้ ตามคำบอกกล่าวของไกด์ที่บอกกับเราให้ทราบ 
จากบริเวณลานหินเจดีย์หลวงปู่วัง เดินเท้าตะลุยมาอื่นๆเรื่อยๆ ก็เป็นทางเดินเท้าไปยังถ้ำหลวงปู่วัง 

และจากบริเวณลานหินเจดีย์หลวงปู่วัง เดินเท้าตะลุยมาอื่นๆเรื่อยๆ ก็เป็นทางเดินเท้าไปยังถ้ำหลวงปู่วัง 

บริเวณถ้ำหลวงปู่วัง มีลักษณะโอ่โถ่ง มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ด้านในให้ได้้กราบไหว้ และจุดนี้ไกด์ให้เรานั่งพักทานข้าวเอาแรงก่อนจะเดินทางต่อไปค่ะ 


โดยบริเวณถ้ำหลวงปู่วัง มีลักษณะโอ่โถ่ง มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ด้านในให้ได้้กราบไหว้ และจุดนี้ไกด์ให้เรานั่งพักทานข้าวเอาแรงก่อนจะเดินทางต่อไปค่ะ เดินออกมาเวลา 9.00 น. จนเวลานี้ก็บ่าย 2 โมงแล้วค่ะ  แนะนำว่าหากใครขึ้นมาเที่ยวถ้ำ พกขนมหรือข้าวหอใส่ถุงมากินด้วยก็ดีค่ะ

และเดินเท้ามาอีกไม่ไกลจากถ้ำหลวงปู่วัง ก็เป็นที่ตั้งของหัวพญานาค จุดเช็กอินถ่ายรูปยอดนิยมอีกแห่ง

หัวพญานาคในบริเวณนี้ ถือว่ามีลักษณะรูปร่างเหมือนหัวพญานาคมากๆ เหมือนกว่าจุดแรกที่ได้พบเห็นเสียอีก 
ซึ่วหัวพญานาคในบริเวณนี้ ถือว่ามีลักษณะรูปร่างเหมือนหัวพญานาคมากๆ เหมือนกว่าจุดแรกที่ได้พบเห็นเสียอีก 
ได้เวลาเดินลงถ้ำแล้วค่ะ ตอนขึ้นว่ายากแล้วนะคะ แต่ตอนลงบันไดถือว่ายากกว่าค่ะ
พอถ่ายรูปกับหัวพญานาคแล้ว ก็ได้เวลาเดินลงถ้ำแล้วค่ะ ตอนขึ้นว่ายากแล้วนะคะ แต่ตอนลงบันไดถือว่ายากกว่าค่ะ เพราะต้องระวังมากๆ พลาดไปคงจะปวดร้าวระบมไม่น้อยทีเดียว


ลงจากถ้ำนาคาแล้ว ยังไม่จบนะคะ ในอำเภอบึงโขงหลง ยังมีจุดเช็กอินให้แวะไปเที่ยวชมกันอีก 
หลังจากลงจากถ้ำนาคาแล้ว ยังไม่จบนะคะ ในอำเภอบึงโขงหลง ยังมีจุดเช็กอินให้แวะไปเที่ยวชมกันอีก 

วังเจ้าปู่สุริยะวงศ์ชัยนาคราชา หรือ ปู่อือลือ 

โดยสถานที่สำคัญอีกแห่งที่ชาวบ้านในบึงโขงหลงให้ความเคารพนับถือคือ วังเจ้าปู่สุริยะวงศ์ชัยนาคราชา หรือ ปู่อือลือ หรือชาวบ้านที่นี่เรียกว่า วังปู่อือลือ ต้องไปกราบไหว้กันอีกด้วย 

 วังเจ้าปู่อือลือ ตั้งอยู่ในตัวอำเภอบึงโขงหลง ไม่ไกลจากตลาดและย่านการค้า
โดย วังเจ้าปู่อือลือ ตั้งอยู่ในตัวอำเภอบึงโขงหลง ไม่ไกลจากตลาดและย่านการค้า และโรงแรมที่เดี๊ยนพักอยู่มากนัก ขับรถมาใกล้ๆไม่ไกล

มาถึงก็ต้องมาไหว้ขอพรใหการเดินทางครั้งนี้ปลอดภัยตลอดการเดินทางค่ะ 

หากใครที่แวะมาเที่ยวถ้ำนาคา ก็อย่าลืมแวะมาไหว้ศาลเจ้าปู่อือลือกันนะคะ 

ขับรถมอเตอร์ไซต์ลัดเลาะไปตามเส้นทางถนนบึงโขงหลง 

เมื่อได้ไหว้ศาลปู่อือลือแล้ว จากนั้นไม่ไกลนัก ก็ขับรถมอเตอร์ไซต์ลัดเลาะไปตามเส้นทางถนนบึงโขงหลง   บึงขนาดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชาวเมืองนี้มาอย่างยาวนาน

โดยบึงโขงหลงจัดได้ว่าเป็นบึงขนาดใหญ่ มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์อีกแห่ง

บริเวณบึงโขงหลงยังเป็นที่ตั้งของสถานที่่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง หาดคำสมบูรณ์ 

และบริเวณบึงโขงหลงยังเป็นที่ตั้งของสถานที่่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง หาดคำสมบูรณ์ ซึ่งเป็นชายหาดน้ำจืดอีกทั้งยังเป็นสถานพักผ่อนตากอากาศยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอีกด้วย ซึ่งตัวหาดห่างจากตัวอำเภอประมาณ 3 กิโลเมตรเท่านั้น 

หาดคำสมบูรณ์ มีลมพัดเย็นสบาย เหมาะกับการมานั่งพักกายยา กินต้มปูปลาร้าอร่อยเริ่ดสะแมนแตน

ทัศนียภาพโดยรอบหาดคำสมบูรณ์ ดูสวยงาม มีลมพัดเย็นสบาย เหมาะกับการมานั่งพักกายยา กินต้มปูปลาร้าอร่อยเริ่ดสะแมนแตน

ยังมีบริการห่วงยาง จักรยานน้ำให้เด็กๆได้เล่นน้ำกันอย่างสำราญใจ 

อีกทั้งยังมีบริการห่วงยาง จักรยานน้ำให้เด็กๆได้เล่นน้ำกันอย่างสำราญใจ 

วันหยุดปิดเทอมแบบนี้ ที่หาดคำสมบูรณ์ ก็เป็นมุมกิจกรรมที่ครอบครัวจะพาเด็กๆไม่ต้องเดินทางไปเที่ยวทะเลไกลถึงภาคตะวันออกหรือภาคใต้

และช่วงวันหยุดปิดเทอมแบบนี้ ที่หาดคำสมบูรณ์ ก็เป็นมุมกิจกรรมที่ครอบครัวจะพาเด็กๆไม่ต้องเดินทางไปเที่ยวทะเลไกลถึงภาคตะวันออกหรือภาคใต้ สามารถมานั่งเรือบานานาโบทเล่นกันได้อย่างเพลิดเพลินจำเริญใจได้อีกด้วย 

โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ในช่วงฤดูร้อนแบบนี้ จะมีนักท่องเที่ยวมานั่งพักผ่อน กินดื่ม รื่นอุรา เล่นน้ำเล่นท่า กันอย่างสบายใจเฉิบเลยเชียว

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ห้องน้ำ ห้องท่า ให้บริการ โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ในช่วงฤดูร้อนแบบนี้ จะมีนักท่องเที่ยวมานั่งพักผ่อน กินดื่ม รื่นอุรา เล่นน้ำเล่นท่า กันอย่างสบายใจเฉิบเลยเชียว แถมไม่เหนียวตัวเหมือนน้ำทะเลเค็มๆอีกซ่ะด้วยสิ 

หรือจะมานั่งพักผ่อนรับลม ชมทะเลน้ำจืดแบบอีสาน ก็เริงสำราญไปอีกแบบค่ะ 

ส่วนอาหารการกินในบริเวณ ก็ดูจะสมบูรณ์ไม่น้อยทีเดียว

สำหรับเพื่อนๆนักทัศนาจรคนใหน ที่มาเที่ยวถ้ำนาคา ก็อย่าลืมแวะมาเดินชมชายหาดสมบูรณ์กันนะคะ รับรองว่าชื่นอุราอย่างแน่นอนค่ะ 


จบทริปเที่ยวถ้ำนาคา แวะมาพักกายยาที่หาดคำสมบูรณ์ บึงโขงหลง จัดเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องแวะไปเช็กอินกันสักคราค่ะ สำหรับเพื่อนๆนักทัศนาจรคนใหน ที่มาเที่ยวถ้ำนาคา ก็อย่าลืมแวะมาเดินชมชายหาดสมบูรณ์กันนะคะ รับรองว่าชื่นอุราอย่างแน่นอนค่ะ 


และสำหรับทริปแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวถ้ำนาคา แบบไม่มีรถส่วนตัว เช่ามอเตอร์ไซต์ตะลอนเที่ยวบึงโขงหลงซึ่งได้นำเสนอในบทความเว็ปไซต์นี้ น่าจะมีประโยชน์หรือเป็น Guideline ต่อนักเดินทางทุกๆคนที่วางแผนไปเที่ยวถ้ำนาคาคนเดียวอยู่ไม่มากก็น้อย หากข้อมูลดังกล่าวที่นำเสนอไป มีข้อผิดพลาด ประการใด ดิฉันต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอบพระคุณที่แวะเวียนเข้ามาเปิดอ่านกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้งในบทความถัดไป.....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
-----------------------------------------------------------

บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ

แบ่งปันรีวิวเที่ยวบึงกาฬ แวะเริงสำราญที่เที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปดูกันค่ะ>>>

เก็บตกแบกเป้รีวิวเที่ยวบึงกาฬ เช่ารถมอเตอร์ไซต์ไปสำราญชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>


แบ่งปันเด้อกับทริปเช่ารถขับเที่ยวสกลนคร มีที่ใหนน่าไปออนซอนบ้าง คลิ๊กดูรีวิว>>

มาเด้อ..แบกเป้มารีวิวเที่ยวสกลนคร แวะไปออนซอนเช็กอินตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งดูกันจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

ตอนจบทริปรีวิวแบกเป้เที่ยวกรุงโคเปนเฮเกน ในเดนมาร์ก มีที่เที่ยวอะไรบ้าง>>>

ตอนจบกับรีวิวแบกเป้เที่ยวกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงแห่งเดนมาร์ก มีที่เที่ยวอะไรให้แวะเช็กอินถ่ายภาพอะไรบ้าง ตามไปดูกันค่ะ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

เก็บตกรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวแวะเที่ยวเมืองคอเลง เมืองเล็กๆน่ารัก ตามไปดูกันจ้า>>

รีวิวแบกเป้เดินทางไกล แวะไปเที่ยวเมืองคอเลง เมืองเล็กๆน่ารัก ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน มีที่เที่ยวอะไรบ้างนั้น ตามไปชมกันค่ คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองสตูล เมืองน่าอยู่ เดินดูภาพ street Art ตามไปเที่ยวกันค่ะ>>

มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองสตูล เมืองเล็กๆน่าอยู่ เดินเช็กอินดูภาพ street art มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรอีกบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

แบ่งปันทริปรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวเมืองฮ้มบูร์ก มีที่เที่ยวอะไรให้เช็กอินบ้าง>>>

เก็บตกรีวิวเปิดโลกกว้าง เดินทางไปเที่ยวเมืองฮัมบูร์ก เมืองท่าเรือเก่าแก่ มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรให้แลชมกันบ้าง คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

เก็บตกรีวิวเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ ดำน้ำดูปะการังใน 1 วัน ไปที่ใหนบ้าง ตามไปชมกันค่ะ>>>

แบ่งปันรีวิวแบกเป้เที่ยวเกาะหลีเป๊ะ กับทริปโปรแกรมดำน้ำดูปะการัง 600 บาทใน 1 วัน ไปเที่ยวเกาะใหนบ้างนั้น ตามไปชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

เปิดโลกกว้าง ทริปรีวิวเที่ยวกรุงเบอร์ลิน มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรให้เช็กอินบ้าง>>>
แบ่งปันทริปรีวิวแบกเป้เที่ยวกรุงเบอร์ลิน เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้เช็กอินบ้าง แวะตามไปเที่ยวชมกันดูจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

เก็บตกแบกเป้ไปเที่ยวแม่สอดในฤดูฝน มีที่เทียวสุขล้นดลฤทัย ที่ใหนบ้าง ตามไปดูกัน>>>
เก็บตก รีวิวเที่ยวอำเภอแม่สอด และอำเภอบ้านตากในฤดูฝน สวยสุขล้นธรรมชาติสดใส มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันจ้า คลิ๊กดูรีวิวภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
 

แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองตาก มีแหล่งท่องเที่ยวให้แวะไปกระชากใจหลายแห่ง ตาไปกันค่ะ>>
เที่ยวหน้าฝน รีวิวทริปเช่ารถเที่ยวเมืองตาก มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรให้กระชากใจบ้าง ตามไปชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>

รีวิวแบกเป้พาไปเที่ยวเมืองโรเธนเบิร์ก เมืองสวยน่ารัก มีที่เที่ยวอะไรบ้าง>>
เปิดโลกกว้าง เดินทางไปเที่ยวเมืองโรแมนติก สไตล์ชิคๆน่ารักที่เมืองโรเธนเบิร์ก เดินทางไปอย่างไร มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันจ้า คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

รีวิวเช่ารถขับตะลอนเที่ยวเมืองกำแพงเพชร กินของเด็ดอร่อยเริ่ด คลิ๊กดูที่เที่ยวจ้า>>
แบ่งปันทริปแบกเป้ไปเที่ยวเมืองกำแพงเพชร กินของเด็ดเมืองกล้วยไข่  มีแหล่งท่องเที่ยวและจุดเช็กอินอะไรบ้าง ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

รีวิวปั่นจักรยานไปเที่ยวคุ้งบางกะเจ้า 1 วัน ยลสุขสันต์หาของกินเริ่ดๆ คลิ๊กดูภาพรีวิวจ้า>>>
รีวิวทริปสั้นๆ ใกล้กรุง 1 วัน ปั่นจักรยานไปเที่ยวที่คุ้งบางกะเจ้า กินมะพร้าวอร่อยเริ่ดสะแมนแตน คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>
ทริปรีวิวเที่ยวเมืองไลพ์ซิก(Leipzig) มีที่เที่ยวชิคๆอะไรให้ชมบ้าง ตามไปดูกันค่ะ>>
แบ่งปันทริปแบกเป้เดินทางแวะเที่ยวเมืองไลพ์ซิก มีแหล่งท่องเที่ยวชิคๆอะไรให้ชมบ้าง ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูภาพที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น