 |
| เก็บตกรีวิวเที่ยวต่างแดนไกลโพ้น แบกเป้ลุยเดี่ยวแวะไปเที่ยวเมืองนามูร์ เมืองเก่าแก่ติดริมแม่น้ำในดินแดนช็อกโกแลตแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันค่ะ |
ก็ขอสวัสดีทักทาย ซำบายดีคุณผู้อ่าน และเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจทุกๆคนค่ะ ก็กลับมาพบปะกับอีกครั้งนะคะ กับบทความบล็อกรีวิวท่องเที่ยว ที่จะพาคุณผ่านเลี้ยวแวะไปเที่ยวโน้นนี้นั้น และเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างหนัก ทำให้เดี๊ยนเองก็ไม่ได้ออกไปเที่ยวใหนไกลๆ เก็บตกทริปเที่ยวทิพย์ในบทความบล็อกนี้ เดี๊ยนเลยขอมารื้อค้นหาข้อมูลภาพไฟล์ท่องเที่ยวต่างประเทศกับภาพทริปเก่าๆเมื่อหลายปีก่อนโน้น ที่ยังไม่เคยนำมาเผยแพร่มาก่อน ขอนำมาเสนอให้คุณผู้อ่านได้สไลด์เลื่อนดูกันเว็ปบล็อกค่ะ
และเพื่อไม่ให้บทความเว็ปบล็อกนี้ร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ก็ขอเก็บตกไปเที่ยวทิพย์ พารีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวไปเที่ยวเมืองนามูร์ ประเทศเบลเยี่ยม โดยจัดเป็นหนึ่งในทริปเที่ยวยุโรปช่วงฤดูดอกไม้ผลิบานเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2019 ตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบจะ 2 ปีแล้วค่ะ พอดีพึ่งนึกได้ว่ายังเขียนไม่ครบ บทความนี้เลยขอพาไปเที่ยวเมืองเล็กๆยังเมืองนามูร์ ซึ่งเป็นเมืองน่าเที่ยวอีกแห่ง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบรัสเซลส์ เมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยม และก่อนจะเข้าสู่ภาพรีวิวที่เที่ยว เราก็มาทำความรู้จัก เมืองนามูร์ กันก่อนสักเล็กน้อยนะคะ
 |
| สาระน่ารู้เกี่ยวกับเมืองนามูร์ ประเทศเบลเยี่ยม (About Namur City, Belgium) |
สาระน่ารู้เกี่ยวกับเมืองนามูร์ ประเทศเบลเยี่ยม (About Namur City, Belgium)
นามูร์ (ฝรั่งเศส: Namur) หรือ นาเมิน (ดัตช์: Namen) เป็นเมืองและเทศบาลในประเทศเบลเยียม นามูร์เป็นเมืองหลวงของทั้งมณฑลนามูร์และเขตวัลลูน ตั้งอยู่บริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำเมิซกับแม่น้ำซ็องบร์ อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงบรัสเซลส์ 63 กิโลเมตร ทางตะวันออกของชาร์เลอรัว 28 กิโลเมตร และทางตะวันตกของลีแยฌ 56 กิโลเมตร มีประชากรประมาณ 110,000 คน
 |
| ทัศนียภาพอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ในเมืองนามูร์ |
 |
| เมืองนามูร์เป็นศูนย์กลางการค้าและอุตสาหกรรมที่สำคัญ มีการผลิตเครื่องจักร เครื่องหนัง โลหะ และเครื่องลายคราม |
ซึ่งเมืองนามูร์เป็นศูนย์กลางการค้าและอุตสาหกรรมที่สำคัญ มีการผลิตเครื่องจักร เครื่องหนัง โลหะ และเครื่องลายคราม นอกจากนี้ยังเป็นชุมทางรถไฟที่สำคัญของสายเหนือ-ใต้ระหว่างบรัสเซลส์กับลักเซมเบิร์กและสายตะวันตก-ตะวันออกระหว่างลีลกับลีแยฌ และด้วยทำเลที่ตั้งของเมืองที่มีแม่สำคัญหลายผ่าน ทำให้ได้อดีตเป็นย่านการค้าที่รุ่งเรือง และมีร่องรอยของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่ง โดย เมือง Namur ตั้งอยู่ที่จุดบรรจบของแม่น้ำ Sambre และ Meuse ไหลผ่านมา
โดยเมืองนามูร์ได้รับบทบาทใหม่ในฐานะเมืองหลวงของแคว้นวอลโลเนียสหพันธรัฐ ตำแหน่งที่หัวของ Ardennes ทำให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวยอดนิยม ที่ตั้งอยู่ในเขตทางใต้ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำ Meuse อีกทั้ง จุดชมวิวที่โดดเด่นที่สุดของเมืองคือป้อมปราการ ซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาท citadel ซึ่งปัจจุบันปลอดทหารและเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม นามูร์ยังมีอาสนวิหารสมัยศตวรรษที่ 18 ที่โดดเด่นซึ่งอุทิศให้กับแซงต์โอแบ็งและหอระฆังที่จัดโดยยูเนสโกให้เป็นส่วนหนึ่งของหอระฆังแห่งเบลเยียมและฝรั่งเศสซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
และด้วยระยะทางของเมืองนามูร์ ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงบรัสเซลล์ เมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยม ทำให้เมื่อปี พ.ศ. 2529 นามูร์เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลภาพยนตร์พูดภาษาฝรั่งเศสนานาชาติ มีการจัดเทศกาลดนตรีแจ๊ส (Nam'in'Jazz) และเทศกาลร็อค (Verdur Rock) จัดขึ้นที่ทุกปีด้วย
หลังจากที่ได้อ่านข้อมูลเบื้องต้นพอสังเขปเกี่ยวกับเมืองนามูร์กันไปแล้วนะคะ ต่อไปก็มาดูภาพรีวิวท่องเที่ยวเมืองนามูรกันเลยค่ะ
 |
| เดินทางแบกเป้ทริปลุยเดี่ยววันนี้ ก่อนออกเดินทางก็ลงมาทานอาหารเช้าที่โรงแรมก่อนเลยค่ะ |
เริ่มต้นเดินทางแบกเป้ทริปลุยเดี่ยววันนี้............... ก่อนออกเดินทางก็ลงมาทานอาหารเช้าที่โรงแรมก่อนเลยค่ะ
 |
แม้ว่าสภาพห้องพักที่ดิฉันเคยไว้รีวิวไว้ในเว็ปบล็อกรีวิวก่อนหน้านี้ สภาพห้องจะไม่ค่อยดีมากนัก แต่อาหารที่โรงแรมนี้ เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ทานได้ไม่อั้นเลยนะคะ
|
แม้ว่าสภาพห้องพักที่ดิฉันเคยไว้รีวิวไว้ในเว็ปบล็อกรีวิวก่อนหน้านี้ สภาพห้องจะไม่ค่อยดีมากนัก แต่ขอบอกเลยว่า แม้จะเป็นโรงแรมโฮสเทล ห้องนอนรวมแบบเล็กๆ แต่อาหารที่โรงแรมนี้ เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ทานได้ไม่อั้นเลยนะคะ
มีอาหารหลายอย่างให้เลือกทานจนอิ่มไปเลยคะ เรียกว่าใครเน้นกิน แต่ไม่เน้นที่นอนหรูหรา แนะนำมานอนที่นี่ได้ค่ะ ราคาพันต้นๆ พร้อมอาหารเช้าให้ด้วย เรียกว่าถูกมาก
 |
| หลังจากทานข้าวเช้าที่โรงแรมอิ่มแล้ว เดี๊ยนก็เดินเท้าออกจากโรงแรมมาที่สถานีรถไฟกรุงบรัสเซล |
หลังจากทานข้าวเช้าที่โรงแรมอิ่มแล้ว เดี๊ยนก็เดินเท้าออกจากโรงแรมมาที่สถานีรถไฟกรุงบรัสเซล เพื่อเดินทางไปยังเมืองนามูร์ ซึ่งระยะทางจากโรงแรมมายังสถานีรถไฟกรุงบรัสเซลล์ก็ไม่ไกลมากนัก
เดินเข้ามาด้านใน บรรยากาศในสถานีรถไฟช่วงเช้า ดูไม่ค่อยวุ่นวายเหมือนตอนเย็นนะคะ จำได้ว่าตอนเย็นที่สถานีในเมืองหลวงแห่งนี้ วุ่นวายมากๆเลยค่ะ
ส่วนการเดินทางไปยังเมืองนามูร์ ก็สามารถตรวจสอบเส้นทางรถไฟที่ผ่านได้ที่เว็ปไซต์ของ รถไฟยูโรพาสได้ค่ะ โดยรถไฟที่ผ่านไปยังเมืองนามูร์ ต้องไปรอขึ้นที่ชานชลาหมายเลข 11 ค่ะ
หรือหากใครที่เดินทางมาแล้ว ไม่แน่ใจ ให้รอดูจอแสดงข้อมูลในภาพมอนิเตอร์ ที่จะแสดงข้อมูลเมืองที่ผ่านด้วยค่ะ
หลังจากนั้นก็มารอขึ้นรถไฟที่ชานชลาเพื่อเดินทางไปเมืองนามูร์ ขึ้นมารถไฟก็เดินทางมาพอดีเลยค่ะ
เข้ามาในขบวนรถไฟ ก็ยังไม่ค่อยมีผู้โดยสารมากนัก เนื่องจากเป็นช่วงต้นสถานี และอีกอย่างเป็นวันธรรมดาด้วย
โดยระยะทางจากกรุงบรัสเซล ไปยังเมืองนามูร์ ประมาณ 63 กิโลเมตร ซึ่งก็ไม่ไกลจากเมืองหลวงของเบลเยี่ยมมากนัก ทำให้เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวไปเช้า-เย็นกลับได้
ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็ถึงสถานีรถไฟเมืองนามูร์แล้วล่ะค่ะ
 |
| ที่สถานีรถไฟก็มีศูนย์ให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย Namur Tourist information |
และที่สถานีรถไฟก็มีศูนย์ให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย ซึ่งคอยช่วยเหลือแนะ และนำข้อมูลและสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจต่างๆในตัวเมือง ว่ามีที่ใหนบ้าง
ใหนๆก็มาถึงเมืองนามูร์แล้ว ก็ยืนรอคิวสอบถามกับเจ้าหน้าที่สักครู่ค่ะ โดยเจ้าหน้าที่ผู้ให้ข้อมูล นอกจากพูดภาษาฝรั่งเศสซึ่งเป็นภาษาหลักแล้ว ยังพูดภาษาอังกฤษและเยอรมันได้ดีเยี่ยมไปเลยค่ะ
โดยมีแผนที่แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเมืองนามูร์ให้สำหรับนักท่องเที่ยว
ส่วนเส้นทางการเดินทางเที่ยวในเมืองนามูร์ ก็ไม่ต้องใช้รถโดยสารแต่อย่างใดค่ะ เพราะสามารถเดินเท้าเที่ยวได้ด้ด้วยตัวเองได้เลย ซึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ทำปากวงไว้ ว่ จากสถานีรถไฟตรงมุม I สีเขียว เดินตรงตามถนนมาเรื่อยๆตามแผนที่
เมื่อได้ดูแผนที่แล้ว เดี๊ยนก็เริ่มเดินเท้าออกจากสถานีรถไฟเมืองนามูร์ เพื่อเดินเข้าไปท่องเที่ยวชมบรรยากาศในตัวเมืองต่อเลยค่ะ และบริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟ ก็จะมีรถโดยสาร หรือรถเมลล์หลายสายผ่านมารับผู้โดยสารที่นี่ เวลาข้ามถนนต้องระวังด้วยนะคะ
 |
| เดินเท้าออกจากสถานีรถไฟ รวมทั้งเปิด GPS ในมือถือควบคู่มาด้วย สภาพบรรยากาศในเมืองก็ดูมีชีวิตชีวาไม่น้อยทีเดียวค่ะ |
พอเดินเท้าออกจากสถานีรถไฟ รวมทั้งเปิด GPS ในมือถือควบคู่มาด้วย สภาพบรรยากาศในเมืองก็ดูมีชีวิตชีวาไม่น้อยทีเดียวค่ะ ถนนหนทาง ดูเป็นระเบียบ มีเส้นทางจักรยาน รถราไม่ค่อยมีมากนัก ส่วนใหญ่คนนิยมจะเดินเท้ากัน
ระหว่างผ่านร้านขายดอกไม้อยู่ริมทางด้วย ดอกไม้สีสันสวยงามอร่ามจับใจมากเจ้าค่ะ
และยังมีเส้นทางเดินภายในย่านเมืองเก่า ก็มีร้านอาหารให้นั่งทานกันอย่างสำราญใจอีกด้วย
โดยภายในย่านถนนคนเดินก็มีร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งร้านขายของที่ระลึก ร้านเสื้อผ้า อยู่มากมาย
เดินไปเดินมา เจอร้านขายดอกไม้อีกแล้วค่ะ ดอกไม้สีสันสดใสงามวิไลเริ่ดสะแมนแตนมากๆ
ส่วนเจ้ารถเข็นที่เห็นนี้คือ รถขายไอติม หรือรถขายไอศครีมค่ะ ราคาเริ่มต้นขายที่โคนละ 2 ยูโรเท่านั้น
อากาศช่วงบ่ายจะเริ่มร้อน ว่ากันว่า ไอศครีมจะขายดีมากๆ มีแต่ผู้ใหญ่มาซื้อกินกัน
และสำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดตาและน่าสนใจในเมืองนามูร์ก็มีหลายแห่ง แต่ถ้าจะให้เที่ยวให้ครบหมดทุกแห่ง คงต้องเที่ยวหลายวันเลยทีเดียวล่ะค่ะ
 |
| ส่วนจะมีสถานที่ท่องเที่ยวสนใจที่ใหนบ้างนั้น เดี๊ยนก็ขอมาสรุปสถานที่ท่องเที่ยวเมืองนามูร์ (Namur city tourist attraction places) ดังนี้ค่ะ |
เพื่อไม่ให้เนื้อหาภาพยาวจนเกินไป เดี๊ยนเลยขอมาสรุปสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และจุดชมวิวโดดเด่นในเมืองนามูร์ให้กับเพื่อนๆ ที่จะวางแผนปักหมุดหยุดงาน บินลัดฟ้าเดินทางไกลมาเที่ยวเบลเยี่ยม ก็นั่งรถไฟมาาเที่ยวถ่ายรูปเช็กอินสวยๆ ที่เมืองนี้ได้นะคะ ส่วนจะมีสถานที่ท่องเที่ยวสนใจที่ใหนบ้างนั้น เดี๊ยนก็ขอมาสรุปสถานที่ท่องเที่ยวเมืองนามูร์ (Namur city tourist attraction places) ดังนี้ค่ะ
 |
1.ป้อมปราการซิตาเดล หรือ ปราสาทแห่งเมืองนามูร์ (Citadel)
|
 |
1.ป้อมปราการซิตาเดล หรือ ปราสาทแห่งเมืองนามูร์ (Citadel)
|
 |
| 1.ป้อมปราการซิตาเดล หรือ ปราสาทแห่งเมืองนามูร์ (Citadel) |
 |
| 1.ป้อมปราการซิตาเดล หรือ ปราสาทแห่งเมืองนามูร์ (Citadel) |
 |
| 1.ป้อมปราการซิตาเดล หรือ ปราสาทแห่งเมืองนามูร์ (Citadel) |
 |
| 1.ป้อมปราการซิตาเดล หรือ ปราสาทแห่งเมืองนามูร์ (Citadel) |
 |
| 1.ป้อมปราการซิตาเดล หรือ ปราสาทแห่งเมืองนามูร์ (Citadel) |
1.ป้อมปราการซิตาเดล หรือ ปราสาทแห่งเมืองนามูร์ (Citadel)
สำหรับ Citadel หรือ Castle of Namur เป็นป้อมปราการเก่าแก่ในอดีตของเมืองนามูร์ ที่ตั้งอยู่บริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำ Sambre และแม่น้ำ Meuse โดยเป็นป้อมปราสาทขนาดใหญ่บนเนินเขาสูง ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองนามูร์และแม่น้ำทั้ง 2 สายได้อย่างสวยงาม แต่เดิมทีนั้น ลักษณะของป้อมปราการอันใหญ่แห่งนี้ มีพื้นเพมาจากยุคโรมัน แต่ได้รับการสร้างขึ้นใหม่หลายครั้ง รูปแบบปัจจุบันได้รับการออกแบบโดย Menno van Coehoorn และปรับปรุงโดย Vauban หลังจากการสร้างในปี 1692 ได้รับการจัดประเภทเป็น Wallonia Major Heritage Site จุดสูงสุดอยู่ที่ 190 เมตร ซึ่งป้อมปราการเดิมนั้นมีอายุถึง 937 ปี เมื่อเมืองนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของเนเธอร์แลนด์ ในพื้นที่บริเวณก็ถูกเรียกว่า "Terra Nova" ทั้งนี้ก็เพื่อแยกความแตกต่างจากป้อม Médiane ที่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งสร้างขึ้นติดกันในปี ค.ศ. 1542 และ สร้างเพิ่มกันในปีต่อๆม และส่วนของป้อมปราสาทที่แยกย้อยออกมาที่หลากหลายนั้น ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 และถูกปลดออกจากการใช้งานทางหน่วยการทหารในปี พ.ศ. 2434 แล้วแทนที่ด้วยป้อมปราการรอบใหม่รอบๆ นามูร์ ซึ่งถูกคำนวณเพื่อป้องกันไม่ให้เมืองถูกโจมตีด้วยปืนใหญ่
ปัจจุบันถูกจัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ และยังเป็นจุดชมวิวเมืองนามูร์ที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งด้วย
 |
| 2.มหาวิหารเซ็นออบิน (St Aubin's Cathedral) |
 |
| 2.มหาวิหารเซ็นออบิน (St Aubin's Cathedral) |
 |
| 2.มหาวิหารเซ็นออบิน (St Aubin's Cathedral) |
2.มหาวิหารเซ็นออบิน (St Aubin's Cathedral)
มหาวิหารเซนต์ออบิน นามูร์ วัลโลเนีย มหาวิหารแห่งเดียวในเบลเยียมในสไตล์บาโรกในยุดช่วงปลาย และยังเป็นโบสถ์แห่งเดียวที่สร้างขึ้นช่วยประสบภาวะเศรฐกิจตกต่ำในช่วงปี 1559 เมื่อสังฆมณฑลส่วนใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ได้รับการจัดระเบียบใหม่ โบสถ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในฐานะโบสถ์วิทยาลัยในปี 1047 โดยอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งนามูร์ คณบดีคนแรก เฟรเดอริกแห่งลอร์แรน พี่เขยของอัลเบิร์ตที่ 2 ในช่วง ราวปี ค.ศ. 1,050 ได้รับการคุ้มครองดูแลจากอาสนวิหารไมนซ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหัวหน้าเซนต์อัลบินัส ซึ่งได้รับการอุปถัมภ์โบสถ์วิทยาลัย และในปี ค.ศ. 1057 เฟรเดอริก ซึ่งได้ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาในพระนามของสตีเฟนที่ 9 ระหว่างปี ค.ศ. 1751 ถึง ค.ศ. 1767 มหาวิหารได้รับการสร้างขึ้นใหม่เกือบทั้งหมดเพื่อให้ได้รับการออกแบบสไตล์อิตาลีของ Gaetano Matteo Pisoni สถาปนิกชาว Ticinese หอคอยสมัยศตวรรษที่ 13 ที่ปลายด้านตะวันตกของโบสถ์เป็นส่วนที่เหลือจากก่อนการสร้างใหม่
ในปี ค.ศ. 1209 สมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 3 ได้นำโบสถ์เซนต์ออบินมาอยู่ภายใต้การคุ้มครองอย่างเป็นทางการ โดยปัจจุบันเป็นโบราณสถานสำคัญประจำเมืองนามูร์
 |
| 3.เมืองเก่านามูร์ (Namur Old Town) |
 |
| 3.เมืองเก่านามูร์ (Namur Old Town) |
 |
| 3.เมืองเก่านามูร์ (Namur Old Town) |
 |
| 3.เมืองเก่านามูร์ (Namur Old Town) |
 |
| 3.เมืองเก่านามูร์ (Namur Old Town) |
3.เมืองเก่านามูร์ (Namur Old Town)
สำหรับในย่านเมืองเก่า ก็ถูกจัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามน่าสนใจ ภายในเมืองมีอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ยังคงถูกอนุรักษ์ไว้ชมอย่างดีเยี่ยม และยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์โบราณคดีของนามูร์ มีคอลเล็กชั่นโบราณวัตถุต่างของเมืองนามูร์ตั้งแต่สมัยโรมัน มาจนนถึงยุคสมัยเมอโรแว็งเกียน (ประมาณยุคศตวรรษที่1-7) ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่นที่ดีที่สุดในเบลเยียม งานของช่างทองและงานกระจกนั้นมีค่าและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย และในบริเวณรอบเมืองเก่า
 |
| 4.หอระฆังแห่งนามูร์ (Belfry of Namur) |
4.หอระฆังแห่งนามูร์ (Belfry of Namur)
สำหรับ หอระฆังของนามูร์ หรือที่เรียกเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า ตูร์แซงต์-ฌาค ("หอคอยเซนต์จาค็อบ") เป็นอาคารประวัติศาสตร์เก่าแก่แห่งเมืองนามูร์ โดย แต่เดิมเป็นหอคอยแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1388 และยังเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมือง และต่อมาได้กลายเป็นหอระฆังที่ถูกใช้งานในปี 1746 โดยยังเป็นหนึ่งใน 56 หอระฆังของเบลเยียมและฝรั่งเศสที่จัดอยู่ในมรดกโลกของยูเนสโกอีกด้วย จึงทำให้หอระฆังแห่งนี้มีความสำคัญและบ่งบอกถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมือนามูร์ได้อย่างดีเยี่ยม
 |
5.จุดชมวิวริมทางเดินแม่น้ำแซมเบิล ( Sambre River and Meuse River )
|
 |
| 5.จุดชมวิวริมทางเดินแม่น้ำแซมเบิล ( Sambre River and Meuse River ) |
 |
| 5.จุดชมวิวริมทางเดินแม่น้ำแซมเบิล ( Sambre River and Meuse River ) |
 |
| 5.จุดชมวิวริมทางเดินแม่น้ำแซมเบิล ( Sambre River and Meuse River ) |
 |
| 5.จุดชมวิวริมทางเดินแม่น้ำแซมเบิล ( Sambre River and Meuse River ) |
 |
5.จุดชมวิวริมทางเดินแม่น้ำแซมเบิล ( Sambre River and Meuse River )
|
5.จุดชมวิวริมทางเดินแม่น้ำแซมเบิล ( Sambre River and Meuse River ) โดยในเมืองนามูร์ มีแม่น้ำสองสายไหลผ่านตัวเมือง และมีจุดบรรจบกันที่บริเวณหัวมุมตรงทางขึ้นป้อมปราสาทซิตาเดล ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่สร้างอยู่ติดกับทางเดินริมแม่น้ำ อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกด้วย
 |
| 6.จุดชมวิวแม่น้ำเมิซที่ป้อมปราการซิตาเดล (City viewpoint of Namur ) |
 |
6.จุดชมวิวแม่น้ำเมิซที่ป้อมปราการซิตาเดล (City viewpoint of Namur )
|
 |
6.จุดชมวิวแม่น้ำเมิซที่ป้อมปราการซิตาเดล (City viewpoint of Namur )
|
 |
| 6.จุดชมวิวแม่น้ำเมิซที่ป้อมปราการซิตาเดล (City viewpoint of Namur ) |
 |
| 6.จุดชมวิวเมืองนามูร์และแม่น้ำเมิซที่ป้อมปราการซิตาเดล (City viewpoint of Namur ) |
 |
| 6.จุดชมวิวเมืองนามูร์และแม่น้ำเมิซที่ป้อมปราการซิตาเดล (City viewpoint of Namur ) |
6.จุดชมวิวแม่น้ำเมิซบนป้อมการซิตาเดล (City viewpoint of Namur ) อีกหนึ่งมุมถ่ายรูปทัศนียภาพเมืองนามูร์ที่สวยงามนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามเนินเขาลัดเลาะมาชมวิวบนป้อมปราการซิตาเดลได้อย่างงดงาม โดยสามารถมองเห็นภูมิทัศน์ของเมืองนามูร์และแม่น้ำได้อย่างทั่วถึง
โดยทางขึ้นป้อมปราการซิตาเดลก็เป็นบันไดเดินขึ้นได้สบายแต่ต้องออกแรงเยอะหน่อยล่ะค่ะ ถือได้ออกกำลังกาย
 |
| ระหว่างก็มีป้อมกำแพงและจุดชมวิวตามมุมต่างๆใหชมอย่างน่าภิรมย์ใจ |
โดยระหว่างก็มีป้อมกำแพงและจุดชมวิวตามมุมต่างๆใหชมอย่างน่าภิรมย์ใจ
และหากเดินขึ้นมาบนเนินเขาบนป้อมปราการซิตาเดลมาเหนื่อย เมื่อยก็สามารถนอนพักอาบแดดบนลานหญ้าได้นะคะ
เดินทะลุไปตามทางช่องอุโมงค์ต่างๆ
ระหว่างทางที่เดินก็จะได้พบปะทักทายนักท่องเที่ยวที่เดินขึ้นมาชมป้อมปราการแห่งนี้ด้วย
เดินมาเรื่อยๆ เริ่มหมดแรง ก็เลยขอนั่งพักรับลมระหว่างสักหน่อยค่ะ
 |
| ขอนั่งรับประทานอาหารมื้้อเที่ยง เป็นสลัดผักทานกับกีวี ราคาถูกมากๆ ทานประทังไปก่อน |
ระหว่างนี้เดี๊ยนเลยไม่รีรอ ขอนั่งรับประทานอาหารมื้้อเที่ยง เป็นสลัดผักทานกับกีวี ราคาถูกมากๆ ทานประทังไปก่อน ตอนแรกกะจะซื้อข้าวผัดไก่ แต่ราคาแพงเกินไป เดี๊ยนสู้ราคาไม่ไหว เลยทานสลัดดีกว่าค่ะ
รับประทานให้อิ่มหน่ำสำราญเติมพลังให้พร้อมก่อนจะเดินทางต่อไป
บรรยากาศภายในป้อมปราการอันใหญ่โตของ
หากเดินลัดเลาะตามแผนที่มาเรื่อยๆ ก็จะเห็นร่องรอยของป้อมปราการเก่าแก่มากๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่ให้เห็นอย่างน่าสนใจทีเดียวค่ะ
หลังจากที่ได้เดินเที่ยวชมปราสาทนามุร์ หรือป้อมปราการซิตาเดล บนเนินเขาแห่งนี้แล้ว ช่วงพลบค่ำยาม 6 โมงเย็นก็เดินทางกลับแล้วค่ะ สำหรับที่นี่ เวลาหัวค่ำ ยังสว่างจ้าอยู่เลยค่ะ ถ้าจะมืดจริงๆต้อง 3 ทุ่มขึ้นไปค่ะ
 |
| นั่งรถไฟออกจากเมืองนามูร์กลับกรุงบรัสเซลโดยสวัสดิภาพ เพื่อไปนอนพักผอ่นเก็บแรงไว้เดินทางต่อยังเมืองถัดไป |
จากนั้นก็นั่งรถไฟออกจากเมืองนามูร์กลับกรุงบรัสเซลโดยสวัสดิภาพ เพื่อไปนอนพักผอ่นเก็บแรงไว้เดินทางต่อยังเมืองถัดไปค่ะ.........จบทริปสำหรับรีวิวเที่ยวเมืองนามูร์
ขอบคุณเพื่อนๆผู้อ่านทุกคน ที่เสียสละเวลาเข้ามาเปิดสไลด์อ่านและดูภาพรีวิวกัน หากมีข้อผิดพลาดประการใด เดี๊ยนต้องขออภัยด้วยนะคะ หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไป...........จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
----------------------------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกท่องเที่ยวเมืองอื่นๆ ที่ผ่านมามีดังนี้
เดินเข้ามาด้านใน บรรยากาศในสถานีรถไฟช่วงเช้า ดูไม่ค่อยวุ่นวายเหมือนตอนเย็นนะคะ จำได้ว่าตอนเย็นที่สถานีในเมืองหลวงแห่งนี้ วุ่นวายมากๆเลยค่ะ
หรือหากใครที่เดินทางมาแล้ว ไม่แน่ใจ ให้รอดูจอแสดงข้อมูลในภาพมอนิเตอร์ ที่จะแสดงข้อมูลเมืองที่ผ่านด้วยค่ะ 
หลังจากนั้นก็มารอขึ้นรถไฟที่ชานชลาเพื่อเดินทางไปเมืองนามูร์ ขึ้นมารถไฟก็เดินทางมาพอดีเลยค่ะ 
เข้ามาในขบวนรถไฟ ก็ยังไม่ค่อยมีผู้โดยสารมากนัก เนื่องจากเป็นช่วงต้นสถานี และอีกอย่างเป็นวันธรรมดาด้วย 
 เมืองประวัติศาสตร์ติดริมแม่น้ำแห่งดินแดนช็อกโกแลต มีที่เที่ยวอะไรบ้าง){kind=link}
0 ความคิดเห็น