|
เพื่อไม่ให้เว็ปไซต์บล็อกนี้ร้างไป รีวิวท่องเที่ยวประจำเดือนนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอพาไปรีวิวเที่ยวลำปางในมุมมองใหม่ๆ แวะไปไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ งามระทึกเจดีย์บนดอยสูงเสียดฟ้ากันค่ะ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรให้แวะไปเช็กอินอีกบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย |
กลับมาพบปะทักทาย ซำบายดี สวีดัด สวัสดีคุณผู้อ่านและเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจ งามวิไลเลิศสะแมนแตนกันทุกๆคนค่ะ ห่างหายไปเป็นแรมเดือนเลยนะคะ กับบทความบล็อกรีวิวท่องเที่ยว หลังจากบทความก่อนหน้าได้พาคุณผู้อ่าน ไปล่องท่องทะเลใต้ฝั่งอันดามันกันไปแล้ว
วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอเลิกจากงานประจำ มารีวิวพาคุณผู้อ่านไปเที่ยวกันอีกครั้ง แต่บทความบล็อกนี้ เดี๊ยนขอพาไปเที่ยวชมธรรมชาติที่ภาคเหนือค่ะ เนื่องจากสถานการณ์โควิด ทำให้ไม่ได้เดินทางไปเที่ยวนานเลย ทริปนี้เดี๊ยนเลยขอจัดทริปไปเที่ยวจังหวัดลำปาง เมืองน่าเที่ยวอีกแห่งในภาคเหนือ ที่งามเหลือเฟือไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่มากมายหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น โบราณสถาน วัดวาอาราม และธรรมชาติอันงดงามตระการตา อีกทั้งยังมีอาหารการกินพื้นเมืองให้ได้ลิ้มลองทานกันอย่างสราญเริงใจอีกด้วย
จำได้ว่ามาเที่ยวลำปางล่าสุด เมื่อช่วงต้นปี 2558 ตอนนั้นมาเที่ยวลำปาง เพราะหอบปฎิทินของบริษัท มาบริจาคที่โรงเรียนสอนคนตาบอดในเมืองลำปาง ก็เลยได้มีโอกาสแวะเที่ยวด้วย แต่ก็เป็นทริปสั้นๆ เพราะว่ามีเวลาแค่ 2 วันเท่านั้น และตอนนี้ เดี๊ยนจำได้ว่ามาเที่ยวลำปางในหน้าหนาว แต่ฝนตกตลอดทั้งวันเลยค่ะ เนื่องจากมีาพายุเข้าพอดี ทำให้การท่องเที่ยวตอนนั้น ก็ชุ่มฉ่ำและเปียกปอนไปทั้งตัว
|
ผ่านมานานหลายปี ย้อนวันวานมารีวิวเที่ยวเมืองลำปางล่าสุดนี้ เดี๊ยนก็เห็นว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดลำปางเปิดใหม่อยู่หลากหลายแห่ง และบางแห่งก็ยังไม่เคยไปเที่ยวชมเลย |
พอผ่านมานานหลายปี ย้อนวันวานมารีวิวเที่ยวเมืองลำปางล่าสุดนี้ เดี๊ยนก็เห็นว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดลำปางเปิดใหม่อยู่หลากหลายแห่ง และบางแห่งก็ยังไม่เคยไปเที่ยวชมเลย ใหนๆก็จัดทริปมาเยือนแดนดินถิ่นเมืองรถม้าทั้งที ทริปนี้เลยขอพาคุณผู้อ่านไปยลตระการเที่ยวจังหวัดลำปางด้วยกัน เผื่อใครที่ยังไม่เคยไปเที่ยวเมืองลำปาง ก็ลองจัดโปรแกรมทัวร์พาคู่รักหรือครอบครัวมาไหว้พระ 9 วัดในจังหวัดลำปาง แวะชมที่เที่ยวถ่ายรูปสวยๆงามๆดูสักครั้งค่ะ แต่ก่อนที่จะไปชมแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดลำปาง เราก็มารู้จักประวัติความเป็นมาของเมืองลำปางกันสักเล็กน้อยพอสังเขปค่ะ
|
เรื่องน่ารู้พอสังเขปเล็กๆน้อย เกี่ยวกับ เมืองลำปาง เมืองเก่า หรือเมืองรถม้าแห่งนี้ มีที่มาอย่างไร (About Lampang City) |
เรื่องน่ารู้พอสังเขปเล็กๆน้อย เกี่ยวกับ เมืองลำปาง เมืองเก่าแห่งนี้ มีที่มาอย่างไร (About Lampang City)
สำหรับ เมืองลำปาง หรือที่หลายๆคนรู้จักกันดีอีกชื่อว่า เมืองรถม้า เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคเหนือ มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนาน เป็นจังหวัดที่มีอายุเก่าแก่ไม่น้อยกว่า 1,300 ปี มีชื่อเรียกขานกันหลายชื่อ ซึ่งปรากฏหลักฐานตามตำนานต่าง ๆ รวม 11 ชื่อ ได้แก่ กุกกุฏนคร ลัมภกับปะนคร ศรีนครชัย นครเวียงคอกวัว เวียงดิน เขลางค์นคร นครลำปางคำเขลางค์ อาลัมภางค์ เมืองลคร และเมืองนครลำปาง จากการที่เรียกขานกันว่า “ กุกกุฏนคร ” แปลว่าเมืองไก่ ดังนั้น ตราประจำจังหวัดลำปาง คือ “ ไก่ขาว
|
แม่น้ำสำคัญคือ แม่น้ำวังที่มีต้นน้ำอยู่ที่ตอนเหนือ บริเวณอำเภอวังเหนือ ที่ไหลลงจากเหนือสู่ใต้ |
โดยลำปางนั้น ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มรอบล้อมด้วยหุบเขาจากทุกด้าน ทำให้มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ มีแม่น้ำสำคัญคือ แม่น้ำวังที่มีต้นน้ำอยู่ที่ตอนเหนือ บริเวณอำเภอวังเหนือ ที่ไหลลงจากเหนือสู่ใต้ พื้นที่ราบที่กว้างใหญ่ที่สุดอยู่บริเวณตอนกลางนั่นคือ บริเวณอำเภอเมืองลำปาง อำเภอเกาะคา และอำเภอห้างฉัตร
|
คำขวัญประจำจังหวัด ที่บ่งบอกถึงเมืองลำปางคือ ถ่านหินลือชา รถม้าลือลั่น เครื่องปั้นลือนาม งามพระธาตุลือไกล ฝึกช้างใช้ลือโลก |
และคำขวัญประจำจังหวัด ที่บ่งบอกถึงเมืองลำปางคือ ถ่านหินลือชา รถม้าลือลั่น เครื่องปั้นลือนาม งามพระธาตุลือไกล ฝึกช้างใช้ลือโลก
|
ประวัติการกำเนิดการเกิดเมืองลำปางนั้น เจ้าอนันตยศ โอรสของพระนางจามเทวี เจ้าแห่งผู้ครองเมืองหริภุญชัย (ลำพูน) ได้สร้างเมืองขึ้นใหม่อีกเมืองหนึ่งใกล้ ๆ ให้ชื่อเมืองว่า “ นครเขลางค์ ” |
ประวัติการกำเนิดการเกิดเมืองลำปางนั้น จากข้อมูลหนังสือพงศาวดารโยนกกล่าวว่า “ สุพรหมฤาษี ” สร้างเมืองเพื่อให้ เจ้าอนันตยศ โอรสของพระนางจามเทวี เจ้าแห่งผู้ครองเมืองหริภุญชัย (ลำพูน) ได้สร้างเมืองขึ้นใหม่อีกเมืองหนึ่งใกล้ ๆ ให้ชื่อเมืองว่า “ นครเขลางค์ ” ต่อมาเปลี่ยนเป็น “ นครอัมภางค์ ” และเปลี่ยนชื่อเป็น “ นครลำปาง ” ในภายหลัง โดยเมืองเขลางค์นคร สร้างเมื่อ พ.ศ.1223
|
นครลำปางเคยได้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของขอม เคยเป็นเมืองประเทศราชของพม่าและเมืองเชียงใหม่ ในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี “ เจ้าทิพย์ช้าง ” |
พอเข้าสุ่ในสมัยโยนกเชียงแสน นครลำปางเคยได้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของขอม เคยเป็นเมืองประเทศราชของพม่าและเมืองเชียงใหม่ ในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี “ เจ้าทิพย์ช้าง ” สามารถขับไล่พวกพม่าออกจากเมืองลำปางได้สำเร็จ จึงได้รับการสถาปนาเป็น “ พระยาสุวลือไชยสงคราม ” ขึ้นครองนครลำปางในปี พ.ศ.2279
|
“ เจ้าแก้วฟ้า ” พระโอรสของเจ้าทิพย์ช้างได้ขึ้นครองนครลำปาง และเป็นต้นตระกูล ณ ลำปาง ณ ลำพูน รวมทั้ง ณ เชียงใหม่ ในเวลาต่อมา |
ในปี พ.ศ.2307 “ เจ้าแก้วฟ้า ” พระโอรสของเจ้าทิพย์ช้างได้ขึ้นครองนครลำปาง และเป็นต้นตระกูล ณ ลำปาง ณ ลำพูน รวมทั้ง ณ เชียงใหม่ ในเวลาต่อมา และมี “ เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต ” เป็นผู้ครองนครลำปางองค์สุดท้าย
|
จังหวัดลำปางได้ประกาศจัดตั้งเป็นจังหวัด ในปี พ.ศ.2435 (สมัยรัชกาลที่ 5) โดยขึ้นอยู่กับมณฑลพายับสมัยหนึ่ง (พ.ศ.2443) |
จนกระทั้งเมื่อ จังหวัดลำปางได้ประกาศจัดตั้งเป็นจังหวัด ในปี พ.ศ.2435 (สมัยรัชกาลที่ 5) โดยขึ้นอยู่กับมณฑลพายับสมัยหนึ่ง (พ.ศ.2443) ต่อมาแยกเป็นมณฑลมหาราษฎร์ ในปี พ.ศ.2458 ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีประกาศยกเลิกมณฑลทั่วราชอาณาจักร ลำปางจึงมีฐานะเป็น “ จังหวัดลำปาง ” ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการอาณาจักรสยาม พ.ศ.2476
|
ยุคนี้เป็นการเปิดหน้าประวัติศาสตร์ของระบบทุนนิยมเข้าสู่นครลำปาง กลุ่มแรก ๆ ที่มีโอกาสสะสมทุนก็ได้แก่ กลุ่มทำไม้ ชาวไทใหญ่-พม่า ที่ร่วมกับชาวยุโรป |
โดยยุคนี้เป็นการเปิดหน้าประวัติศาสตร์ของระบบทุนนิยมเข้าสู่นครลำปาง กลุ่มแรก ๆ ที่มีโอกาสสะสมทุนก็ได้แก่ กลุ่มทำไม้ ชาวไทใหญ่-พม่า ที่ร่วมกับชาวยุโรป โดยเฉพาะอังกฤษ ดังปรากฏการสร้างบ้านใหญ่โต บริเวณท่ามะโอ หรือการสร้างวัดแบบไทใหญ่-พม่า บริเวณย่านป่าขามเป็นจำนวนมาก อีกกลุ่มหนึ่ง คือ ชาวจีน ที่เดินทางมาจากส่วนกลางของสยามประเทศและศูนย์กลางการค้าทางน้ำ เช่น สวรรคโลก นครสวรรค์ มาประกอบอาชีพค้าขายทางน้ำ โดยเรือหางแมงป่อง ขึ้น-ล่อง ส่งสินค้าระหว่างนครลำปาง กับปากน้ำโพ และอาจไปจนถึงกรุงเทพฯ หรือบางคนสามารถสะสมทุนและได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายอากรเก็บภาษีในท้องถิ่น
|
เมื่อเส้นทางรถไฟตัดผ่านเมืองใด เมืองนั้นก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างรวดเร็ว |
และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในเงื่อนไขของการคมนาคมเช่นเดียวกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมในประเทศตะวันตก เมื่อเส้นทางรถไฟตัดผ่านเมืองใด เมืองนั้นก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างรวดเร็ว ในกรณีลำปาง จากเส้นทางน้ำสู่การค้าทางบกอย่างรถไฟที่มีความรวดเร็ว ปลอดภัย คุ้มค่า ในอีกด้านหนึ่งก็เป็นการดึงคนเข้าเมือง โดยเฉพาะชาวจีนที่เข้ามาเป็นจำนวนมากพร้อมๆ กับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทั้งในแง่ของความรู้ การจัดการตลอดไปจนเครื่องจักรต่างๆ ล้วนเติบโตในช่วงนี้เอง
|
ส่วนใหญ่ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานเป็นชาวจีน |
ส่วนใหญ่ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานเป็นชาวจีน ซึ่งตั้งตัวอยู่บริเวณถนนประสานไมตรีใกล้ย่านสถานีรถไฟ ย่านการค้าซึ่งเป็นส่วนขยายของเมืองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งกลับขยับขยายไปบริเวณย่านตลาดในเมือง ได้แก่ ตลาดบริบูรณ์ปราการ ตลาดราชวงศ์ ซึ่งปรากฏการตั้งถิ่นฐานบนถนนทิพย์ช้าง ถนนบุญวาทย์ ถนนรอบเวียง
|
ย่านสถานีรถไฟ กลายเป็นศูนย์กลางการขนส่ง และแหล่งการค้าสำคัญซึ่งมีกิจการที่เกี่ยวข้องอันได้แก่ โรงสี โรงเลื่อย โกดังเก็บผลผลิตทางการเกษตร ทั้งยังเป็นเส้นทางผ่านไปยัง พะเยา เชียงราย |
และย่านสถานีรถไฟ กลายเป็นศูนย์กลางการขนส่ง และแหล่งการค้าสำคัญซึ่งมีกิจการที่เกี่ยวข้องอันได้แก่ โรงสี โรงเลื่อย โกดังเก็บผลผลิตทางการเกษตร ทั้งยังเป็นเส้นทางผ่านไปยัง พะเยา เชียงราย ควบคู่ไปด้วยกันนั้น แหล่งบันเทิง ย่านกินเที่ยว ก็ตามมา ทั้งโรงฝิ่นบนถนนประสานไมตรี และข้างสถานีตำรวจสบตุ๋ยในปัจจุบัน หรือย่านเที่ยวบนถนนบุญวาทย์ที่มีทั้งซ่อง โรงฝิ่น โรงภาพยนตร์ โรงแรม ร้านอาหาร ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญในการติดต่อค้าขายและการขนส่ง
|
ศูนย์กลางอยู่ที่สถานีรถไฟนครลำปางแห่งนี้ เริ่มมีการเดินรถไฟครั้งแรกในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2459 ถือเป็นสถานีรถไฟสายประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่อีกแห่ง |
ซึ่งศูนย์กลางอยู่ที่สถานีรถไฟนครลำปางแห่งนี้ เริ่มมีการเดินรถไฟครั้งแรกในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2459 ถือเป็นสถานีรถไฟสายประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่อีกแห่ง และทำการอนุรักษ์ไว้ รูปแบบสถาปัตยกรรมของสถานีรถไฟลำปางเป็นอาคาร 2 ชั้น ก่ออิฐฉาบปูน ผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีปีก 2 ข้างเชื่อมกับโถงกลาง รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบอาณานิคม มีการใช้โค้ง และการประดับตกแต่งด้วยไม้ฉลุ และปูนปั้น
|
ชื่อบ้านนามเมือง จังหวัดลำปางเดิมชื่อ "เมืองนครลำปาง" จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน ได้แก่ ศิลาจารึก เลขทะเบียน ลป.1 |
ส่วนชื่อบ้านนามเมือง จังหวัดลำปางเดิมชื่อ "เมืองนครลำปาง" จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน ได้แก่ ศิลาจารึก เลขทะเบียน ลป.1 จารึกเจ้าหมื่นคำเพชรเมื่อ พ.ศ. 2019 และศิลาจารึกเลขทะเบียน ลป.2 จารึกเจ้าหาญสีทัต ได้จารึกชื่อเมืองนี้ว่า "ลคอร" ส่วนตำนานชินกาลมารีปกรณ์ ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ตำนานเมืองเชียงแสน ตลอดจนพงศาวดารของทางฝ่ายเหนือ ก็ล้วนแล้วแต่เรียกชื่อว่า เมืองนครลำปาง
|
แต่เอกสารทางราชการสมัยรัตนโกสินตอนต้น ก็เรียกเจ้าเมืองว่า พระยานครลำปาง นอกจากนี้จารึกประตูพระอุโบสถวัดบุญวาทย์วิหาร ก็ยังมีข้อความตอนหนึ่งจารึกว่า เมืองนครลำปาง |
แม้แต่เอกสารทางราชการสมัยรัตนโกสินตอนต้น ก็เรียกเจ้าเมืองว่า พระยานครลำปาง นอกจากนี้จารึกประตูพระอุโบสถวัดบุญวาทย์วิหาร ก็ยังมีข้อความตอนหนึ่งจารึกว่า เมืองนครลำปาง แต่เมื่อมีการปฏิรูปบ้านเมืองจากมณฑลเทศาภิบาลเป็นจังหวัด ตามคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2459 ปรากฏว่า ชื่อของเมืองนครลำปาง ได้กลายมาเป็นจังหวัดลำปาง มาจนกระทั่งทุกวันนี้
|
ด้วยประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของเมืองลำปาง ที่มีอายุมานานนับพันปีแห่งนี้ ทำให้ยังคงมนต์เสน่ห์ของวิถีชีวิตและมีโบราณสถานสำคัญให้ไปชมกันอย่างน่าภิรมย์ใจ |
และด้วยประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของเมืองลำปาง ที่มีอายุมานานนับพันปีแห่งนี้ ทำให้ยังคงมนต์เสน่ห์ของวิถีชีวิตและมีโบราณสถานสำคัญไม่ว่าจะเป็น วัดวาอารามอันเก่าแก่ ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้เที่ยวและได้ศึกษาเรียนรู้กันมาถึงปัจจุบัน
|
สัญลักษณ์อีกอย่างที่ทำให้คนนึกถึงลำปาง คงเป็น รถม้า ที่ยังคงมีการบริการให้อยู่ที่เดียวในเมืองไทย โดยเป็นลักษณะการท่องเที่ยว |
สัญลักษณ์อีกอย่างที่ทำให้คนนึกถึงลำปาง คงเป็น รถม้า ที่ยังคงมีการบริการให้อยู่ที่เดียวในเมืองไทย โดยเป็นลักษณะการท่องเที่ยว โดยมีรถม้าคันแรกของจังหวัดลำปางเป็นของเจ้าบุญวาทย์ วงศ์มานิต เจ้าผู้ครองนครลำปาง หลังจากนั้นรถม้าจึงเริ่มมีแพร่หลายทั้งในลำปางและตามเมืองหลักต่างๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปความเจริญของเทคโนโลยีการคมนาคมทำให้รถม้าค่อยๆเลือนหายไป เหลือแต่เพียงที่จังหวัดลำปางเท่านั้นที่ยังคงใช้รถม้าเป็นยานพาหนะอยู่มาจนปัจจุบัน และเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในจังหวัดลำปาง
|
นอกจากรถม้าแล้ว สัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งที่คนมาถึงลำปาง ต้องแวะซื้อเป็นของฝากกันนั้นก็คือ ชามตราไก่ ซึ่งมีตำนานพื้นเมืองบางฉบับเรียกชื่อเมืองลำปางว่า “กุกกุฏนคร” ซึ่งแปลว่า “เมืองไก่” |
และนอกจากรถม้าแล้ว สัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งที่คนมาถึงลำปาง ต้องแวะซื้อเป็นของฝากกันนั้นก็คือ ชามตราไก่ ซึ่งได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์เซรามิคสำคัญประจำจังหวัดอีกด้วย ซึ่งมีตำนานพื้นเมืองบางฉบับเรียกชื่อเมืองลำปางว่า “กุกกุฏนคร” ซึ่งแปลว่า “เมืองไก่” เมืองลำปางจึงมีสัญลักษณ์เป็นรูปไก่ ซึ่งสามารถพบเห็นอยู่ตามป้ายถนนและตึกเก่าหลายแห่ง ทำให้ชามตราไก่ ได้กลายเป็นสินค้าของฝากอันโดดเด่นที่ใครแวะมาเที่ยวลำปาง ก็ต้องซื้อติดไม้ติดมือไปด้วย
เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/จังหวัดลำปาง และ http://www.lampang.go.th/t_lampang/
หลังจากที่ได้อ่านเรื่องน่ารู้เล็กๆน้อย เกี่ยวกับจังหวัดลำปางกันไปแล้ว ก็ตามมาดูรีวิวภาพการเดินทาง ที่พัก และแหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่น่าสนใจในลำปางกันเลยค่ะ
|
เริ่มต้นการเดินทางไปลำปางทริปนี้ เดี๊ยนเลือกเดินทางด้วยรถไฟค่ะ |
เริ่มต้นการเดินทางไปลำปางทริปนี้ เดี๊ยนเลือกเดินทางด้วยรถไฟค่ะ เนื่องจากไม่เคยนั่งรถไฟนอนเดินทางด้วยรถไฟขึ้นไปภาคเหนือเลย เคยแต่นั่งลงภาคใต้เมื่อหลายปีก่อนโน้น ตอนที่จัดทริปพาคุณแม่นั่งรถไฟไปเที่ยวจังหวัดตรังค่ะ
เดี๊ยนเดินทางมาขึ้นรถไฟที่สถานีหลักสี่ เนื่องจากอยู่ใกล้ที่พักและเดินทางสะดวกที่สุดแล้ว
|
นั่งรถไฟรอบเที่ยวเวลา 2 ทุ่ม 15 นาที |
นั่งรถไฟรอบเที่ยวเวลา 2 ทุ่ม 15 นาที
รอรถไฟไม่นานนัก รถไฟก็มาตรงเวลาพอดีอยู่นะคะ
|
เดี๊ยนก็เลือกจองแบบเตียงนอนค่ะ จะได้ไม่ต้องนั่งให้ปวดหลัง แต่ว่าเตียงนอนที่ได้ก็เหลือแต่ชั้นบนค่ะ |
ก่อนจะเดินทางมาที่สถานีรถไฟ เดี๊ยนก็เลือกจองแบบเตียงนอนค่ะ จะได้ไม่ต้องนั่งให้ปวดหลัง
แต่ว่าเตียงนอนที่ได้ก็เหลือแต่ชั้นบนค่ะ เลยต้องจำยอมเหลือนอนเตียงบน
มาถึงพนักงานของสถานีรถไฟ ก็กำลังจะปูที่นอนเตียงบนให้พอดีค่ะ
|
เตียงนอนชั้นบน ค่อนข้างจะคับแคบไปสักหน่อย พอเหยีดแข้งขาและนอนพักหลับได้อยู่ค่ะ แต่จะให้หลับสนิท แบบหลับลึก คงไม่ขนาดนั้น |
ซึ่งเตียงนอนชั้นบน ค่อนข้างจะคับแคบไปสักหน่อย พอเหยีดแข้งขาและนอนพักหลับได้อยู่ค่ะ
แต่จะให้หลับสนิท แบบหลับลึก คงไม่ขนาดนั้น เพราะว่า นอนเตียงบน เตียงจะสั่นคลอนตลอดเลยค่ะ
|
ออกจากสถานีรถไฟหลักสี่ กรุงเทพ ตอน 2 ทุ่ม 15 มาถึงจังหวัดลำปาง ตอนเวลา 7. 20 นาที |
ใช้เวลาเดินทางออกจากสถานีรถไฟหลักสี่ กรุงเทพ ตอน 2 ทุ่ม 15 มาถึงจังหวัดลำปาง ตอนเวลา 7. 20 นาที ถือว่าใช้เวลานานพอสมควรค่ะ แต่ก็ได้บรรยากาศเดินทางอีกรูปแบบนึง ที่ให้คนึงหวนหา
|
มาถึงฝนตกแต่เช้าเลยค่ะ พอมาถึงก็นั่งรถ 2 แถวสีเหลือง ให้มาส่งที่ร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ แถวๆสถานีขนส่ง บ.ข.ส. ลำปาง
|
วันที่มาถึงฝนตกแต่เช้าเลยค่ะ พอมาถึงก็นั่งรถ 2 แถวสีเหลือง ให้มาส่งที่ร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ แถวๆสถานีขนส่ง บ.ข.ส. ลำปาง
|
ราคาโดยสาร 2 แถว จากสถานีรถไฟ มาที่สถานีขนส่งลำปาง ราคา 40 บาทค่ะ |
โดยราคาโดยสาร 2 แถว จากสถานีรถไฟ มาที่สถานีขนส่งลำปาง ราคา 40 บาทค่ะ ซึ่งคุณลุงคนขับ แกรู้จักร้านเช่ารถ ก็มาจอดที่หน้าร้านเช่ารถเลย
|
ร้านยังไม่เปิดค่ะ โทรหาเจ้าของร้านเช่ารถ กำลังจะเดินทางมาจ้า |
พอมาถึงร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ ร้านยังไม่เปิดค่ะ โทรหาเจ้าของร้านเช่ารถ กำลังจะเดินทางมาจ้า
|
ระหว่างที่รอร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์เปิด ก็เลยไปหาอะไรทานแถวๆ บขส.ลำปาง |
และในช่วงระหว่างที่รอร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์เปิด ก็เลยไปหาอะไรทานแถวๆ บขส.ลำปาง แวะทานข้าวกะเพราไก่เผ็ดมากๆ ทานแล้วตื่นจากภวังค์เลยค่ะ
|
ติดต่อเช่ารถมอเตอร์ไซต์ ซึ่งหากใครที่วางแผนมาเที่ยวลำปาง ไม่มีรถส่วนตัวมา ก็สามารถมาติดต่อร้านเช่ารถล่วงหน้าไว้เนิ่นๆนะคะ |
จากนั้นก็มาติดต่อเช่ารถมอเตอร์ไซต์ ซึ่งหากใครที่วางแผนมาเที่ยวลำปาง ไม่มีรถส่วนตัวมา ก็สามารถมาติดต่อร้านเช่ารถล่วงหน้าไว้เนิ่นๆนะคะ มีข้อมูลใน Google อยู่ไม่กี่ร้านในเมืองลำปางค่ะ
ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซต์ตกวันละ 300 บาท
มัดจำรถ 1000 บาท ค่ะ
มีหมวกกันน๊อกให้พร้อม ตอนคืนรถเช่า ก็เติมน้ำมันคืนเต็มถัง
|
ได้รถมอเตอร์ไซต์เป็นพาหนะแล้ว ก็พร้อมลุยเลยค่ะ |
พอได้รถมอเตอร์ไซต์เป็นพาหนะแล้ว ก็พร้อมลุยเลยค่ะ
|
โดยโรงแรมที่เดี๊ยนเลือกพักในทริปเที่ยวลำปางครั้งนี้ ก็นอนพักที่โรงแรม Le Neuf Nakorn Lampang (เลอเนิฟ เลิฟเน้อ นครลำปาง) |
ก่อนจะไปเที่ยวก็เดินทางมาเช็กอิน นำกระเป๋ามาไว้ที่โรงแรมก่อนค่ะ โดยโรงแรมที่เดี๊ยนเลือกพักในทริปเที่ยวลำปางครั้งนี้ ก็นอนพักที่โรงแรม Le Neuf Nakorn Lampang (เลอเนิฟ เลิฟเน้อ นครลำปาง) เป็นโรงแรมเล็กๆ น่ารัก อยู่ใกล้ๆห้าแยกหอนาฬิกา
|
รอเช็กอินที่ด้านล่างๆตรงบริเวณที่จอดรถของโรงแรม |
นั่งรอเช็กอินที่ด้านล่างๆตรงบริเวณที่จอดรถของโรงแรม
|
โรงแรมมีที่จอดรถอยู่ชั้นล่างให้ด้วย แต่ว่าจอดได้ไม่เยอะมากนัก น่าจะพอดีกับห้องพักค่ะ |
ในโรงแรมมีที่จอดรถอยู่ชั้นล่างให้ด้วย แต่ว่าจอดได้ไม่เยอะมากนัก น่าจะพอดีกับห้องพักค่ะ เพราะห้องพักก็ไม่ได้มีเยอะมากนัก โรงแรมออกสไตล์แนวอพาร์ทเม้นต์ คล้ายหอพักเล็กๆ
ได้กุญแจเป็นคีย์การ์ดแล้ว ก็ขึ้นไปห้องพักชั้นบน มีระเบียงด้านหน้าห้องพัก
โดยห้องพักตกคืนละ 690 บาท เป็นห้องพักเตียงใหญ่ 1 เตียง
|
ห้องพักกว้างขวาง ไม่คับแคบนะคะ มีระเบียงด้านหลังห้องพักด้วย |
สภาพห้องพักกว้างขวาง ไม่คับแคบนะคะ มีระเบียงด้านหลังห้องพัก
|
ในห้องพักมีทีวี ตู้เย็น มีกาต้มน้ำร้อน ชากาแฟ น้ำดื่มฟรี โต๊ะสำหรับนั่งทำงานและโต๊ะวางของ รองเท้าแตะใส่ในห้องพักให้ด้วย |
ภายในห้องพักมีทีวี ตู้เย็น มีกาต้มน้ำร้อน ชากาแฟ น้ำดื่มฟรี โต๊ะสำหรับนั่งทำงานและโต๊ะวางของ รองเท้าแตะใส่ในห้องพักให้ด้วย ดูกะทัดรัดและสะดวกสบายดีค่ะ
|
ชอบมากกว่าห้องนอน ก็คงเป็นห้องน้ำ เพราะห้องพักน้ำค่อนข้างกว้างขวางทีเดียว |
แต่ที่ชอบมากกว่าห้องนอน ก็คงเป็นห้องน้ำ เพราะห้องพักน้ำค่อนข้างกว้างขวางทีเดียว ดูไม่อึดอัด แถมสะอาดสะอ้านดีมาก
มีรองเท้าแตะให้ในห้องน้ำด้วย
|
บริเวณชั้นเดียวกันกับห้องพัก ก็มีมุมนั่งพักตรงระเบียง และมีไมโครเวฟ และถ้วยจานชามให้อุ่นอาหารทานได้ด้วย |
ในชั้นเดียวกันมีมุมนั่งพักตรงระเบียง และมีไมโครเวฟ และถ้วยจานชามให้อุ่นอาหารทานได้ด้วย แต่เสียดาย ไม่มีซิงค์สำหรับล้างจาน ถ้ามีให้คงที่ล้างจานให้คงจะเริ่ดมากๆ
สรุปรีวิวภาพรวมของโรงแรม Le Neuf Nakorn Lampang (เลอเนิฟ เลิฟเน้อ นครลำปาง) ถือว่าดีทีเดียวค่ะ ที่พักเล็กๆ สะอาดสะอ้าน ไม่วุ่นวาย เช็กอินรอไม่นาน มีห้องว่างตอนเช้าก็เข้าพักได้เลย WiFi เร็ว มีโต๊ะสำหรับวางของและนั่งทำงานได้ด้วย รับไปเลย 5 ล้านดาวจ้า
|
ทางโรงแรมก็มีแผนที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในตัวเมืองลำปางให้ด้วย ว่ามีที่ใหนน่าสนใจบ้าง |
หลังจากที่ได้ทำการเช็กอินเข้าพักที่โรงแรมเลอเนิฟลำปางไปแล้ว ก็ได้เวลาออกไปเดินทางท่องเที่ยวแล้วค่ะ ทั้งนี้ทางโรงแรมก็มีแผนที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในตัวเมืองลำปางให้ด้วย ว่ามีที่ใหนน่าสนใจบ้าง ซึ่งทางพนักงานของโรงแรมก็แนะนำที่เที่ยวจุดเช็กอินถ่ายรูปสวยๆและร้านอาหาร ร้านคาเฟ่อร่อยๆน่ารักให้อีกด้วย ถือว่าน่าสนใจดีทีเดียวค่ะ
|
เพื่อไม่ให้บทความบล็อกนี้ยาวจนเกินไป วันนี้เดี๊ยนคุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า เลยขอมาสรุปสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นน่าสนใจในจังหวัดลำปาง |
และเพื่อไม่ให้บทความบล็อกนี้ยาวจนเกินไป วันนี้เดี๊ยนคุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า เลยขอมาสรุปสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นน่าสนใจในจังหวัดลำปาง และที่เที่ยวเปิดใหม่ทีต้องเดินทางไปเช็กอิน มาให้เพื่อนๆที่กำลังวางแผนมาเมืองรถม้าแห่งนี้ ได้ลองปักหมุดไปเที่ยวกัน มีดังนี้ค่ะ ยังไงมาเที่ยวกันเยอะๆนะคะ
|
1.วัดพระธาตุลำปางหลวง (Wat Phra That Lampang Luang) วัดคู่บ้านคู่เมืองสุดเก่าแก่ ที่ใครก็ต้องมาแลชมกันสักครา ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงลำปางเลยทีเดียว
|
|
1.วัดพระธาตุลำปางหลวง (Wat Phra That Lampang Luang) วัดคู่บ้านคู่เมืองสุดเก่าแก่ ที่ใครก็ต้องมาแลชมกันสักครา ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงลำปางเลยทีเดียว
|
|
1.วัดพระธาตุลำปางหลวง (Wat Phra That Lampang Luang) วัดคู่บ้านคู่เมืองสุดเก่าแก่ ที่ใครก็ต้องมาแลชมกันสักครา ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงลำปางเลยทีเดียว
|
|
1.วัดพระธาตุลำปางหลวง (Wat Phra That Lampang Luang) วัดคู่บ้านคู่เมืองสุดเก่าแก่ ที่ใครก็ต้องมาแลชมกันสักครา ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงลำปางเลยทีเดียว
|
|
1.วัดพระธาตุลำปางหลวง (Wat Phra That Lampang Luang) วัดคู่บ้านคู่เมืองสุดเก่าแก่ ที่ใครก็ต้องมาแลชมกันสักครา ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงลำปางเลยทีเดียว
|
|
1.วัดพระธาตุลำปางหลวง (Wat Phra That Lampang Luang) วัดคู่บ้านคู่เมืองสุดเก่าแก่ ที่ใครก็ต้องมาแลชมกันสักครา ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงลำปางเลยทีเดียว
|
|
1.วัดพระธาตุลำปางหลวง (Wat Phra That Lampang Luang) วัดคู่บ้านคู่เมืองสุดเก่าแก่ ที่ใครก็ต้องมาแลชมกันสักครา ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงลำปางเลยทีเดียว
|
|
1.วัดพระธาตุลำปางหลวง (Wat Phra That Lampang Luang) วัดคู่บ้านคู่เมืองสุดเก่าแก่ ที่ใครก็ต้องมาแลชมกันสักครา ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงลำปางเลยทีเดียว
|
|
1.วัดพระธาตุลำปางหลวง (Wat Phra That Lampang Luang) วัดคู่บ้านคู่เมืองสุดเก่าแก่ ที่ใครก็ต้องมาแลชมกันสักครา ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงลำปางเลยทีเดียว
|
|
1.วัดพระธาตุลำปางหลวง (Wat Phra That Lampang Luang) วัดคู่บ้านคู่เมืองสุดเก่าแก่ ที่ใครก็ต้องมาแลชมกันสักครา ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงลำปางเลยทีเดียว
|
|
1.วัดพระธาตุลำปางหลวง (Wat Phra That Lampang Luang) วัดคู่บ้านคู่เมืองสุดเก่าแก่ ที่ใครก็ต้องมาแลชมกันสักครา ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงลำปางเลยทีเดียว
|
1.วัดพระธาตุลำปางหลวง (Wat Phra That Lampang Luang) วัดคู่บ้านคู่เมืองสุดเก่าแก่ ที่ใครก็ต้องมาแลชมกันสักครา ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงลำปางเลยทีเดียว
จัดเป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง และเป็นสถานที่สำคัญที่ใครแวะมาเที่ยวลำปาง ยังไงก็ต้องแวะมายลตระการและไหว้พระธาตุนี้สักครั้ง โดยถูกยกให้เป็นพระธาตุประจำคนที่เกิดวันพุธ อยู่ห่างจากตัวเมืองลำปางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร วัดตั้งอยู่บนเนินสูง มีการจัดวางผังและส่วนประกอบของวัดสมบูรณ์แบบที่สุด มีสิ่งก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ บริเวณพุทธาวาสประกอบด้วย องค์พระธาตุลำปางหลวง เป็นประธาน มีบันไดนาคนำขึ้นไปสู่ซุ้มประตูโขง ถัดซุ้มประตูโขงขึ้นไปเป็น วิหารหลวง บริเวณทิศเหนือขององค์พระธาตุมีวิหารบริวารตั้งอยู่คือ วิหารน้ำแต้ม และ วิหารต้นแก้ว ด้านตะวันตกขององค์พระธาตุประกอบด้วย วิหารละโว้ และ หอพระพุทธบาท ด้านใต้มี วิหารพระพุทธ และอุโบสถ ทั้งหมดนี้จะแวดล้อมด้วยแนวกำแพงแก้วทั้งสี่ด้าน สิ่งพิเศษคือสามารถเห็นภาพแสงหักเหที่ปรากฏเป็นเงาพระธาตุและพระวิหารในด้านมุมกลับภายในหอพระพุทธ
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน
จัดเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ยอดนิยมมาแรงที่สุดอีกแห่ง เนื่องจากภายในวัดประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ สไตล์ญี่ปุ่น พระใหญ่ไดบุตสึ เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอันเงียบสงบภูเขาที่เรียกว่าดอยพระฌาน ตำบลป่าตัน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง และถูกจัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวถัดจากการไหว้พระธาตุลำปางหลวงอีกด้วย โดยมี่ระยะทางห่างจากตัวเมืองลำปาง ประมาณ 23 กิโลเมตร โดยทัศนียภาพบนวัด สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์และทัศนียภาพที่สวยงามของอำเภอแม่ทะ และเห็นทิวเขาต้นไม้ที่เขียวขจีได้รอบทิศ ในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวในช่วงเวลาเช้าสามารถเห็นทะเลหมอกอันงดงามได้อีกด้วย ประมาณเดือนพฤษภาคม ของทุกปี เมื่อถึงวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 7 พุทธศาสนิกชนชาวตำบลป่าตันและตำบลใกล้เคียงจะพากันเดินขึ้นดอยไปสักการะพระธาตุบนดอยพระฌาน
|
3. วัดปงสนุก ( Wat Pong Sanuk ) ธรรมสถานหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่ได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO
|
|
3. วัดปงสนุก ( Wat Pong Sanuk ) ธรรมสถานหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่ได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO
|
|
3. วัดปงสนุก ( Wat Pong Sanuk ) ธรรมสถานหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่ได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO
|
|
3. วัดปงสนุก ( Wat Pong Sanuk ) ธรรมสถานหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่ได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO
|
|
3. วัดปงสนุก ( Wat Pong Sanuk ) ธรรมสถานหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่ได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO
|
|
3. วัดปงสนุก ( Wat Pong Sanuk ) ธรรมสถานหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่ได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO
|
|
3. วัดปงสนุก ( Wat Pong Sanuk ) ธรรมสถานหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่ได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO
|
3. วัดปงสนุก ( Wat Pong Sanuk ) ธรรมสถานหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่ได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO
ถือเป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในเขตตัวเมืองลำปาง ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง อีกทั้งยังเป็น ธรรมสถานหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่ได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO ในปี 2008 เผยเส้นทางการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม-สถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในประเทศ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยที่เจ้าอนันตยศ ราชบุตรของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญไชย (ลำพูน) เสด็จมาสร้างเขลางค์นคร (ลำปาง) เมื่อ พ.ศ.1223 หรือ 1,328 ปีก่อน โดยมีชื่อเปลี่ยนไปตามยุคสมัย เช่น วัดศรีจอมไคล วัดศรีเชียงภูมิ
และเชื่อกันว่าได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดปงสนุก ตามคำเรียกของชาวเชียงแสน ที่ถูกกวาดต้อนมาและอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ซึ่งชื่อปงสนุกก็มาจากชื่อถิ่นเดิมในเมืองเชียงแสนนั้นเอง ปัจจุบันวัดปงสนุกได้แบ่งเป็นสองอาณาเขตคือ วัดปงสนุกเหนือ และวัดปงสนุกใต้ ทั้งนี้วัดปงสนุกยังเป็นที่ฝังเสาอินทขิล หรือเสาหลักเมืองลำปาง หลังแรกในปี พ.ศ. 2400 ก่อนจะถูกอัญเชิงไปไว้ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอีกด้วย
|
4.วัดพระแก้วดอนเต้า (Wat Phra Kaew Don Tao) |
|
4.วัดพระแก้วดอนเต้า (Wat Phra Kaew Don Tao) |
|
4.วัดพระแก้วดอนเต้า (Wat Phra Kaew Don Tao) |
|
4.วัดพระแก้วดอนเต้า (Wat Phra Kaew Don Tao) |
|
4.วัดพระแก้วดอนเต้า (Wat Phra Kaew Don Tao) |
|
4.วัดพระแก้วดอนเต้า (Wat Phra Kaew Don Tao) |
4.วัดพระแก้วดอนเต้า (Wat Phra Kaew Don Tao)
จัดเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอยู่คู่เมืองลำปางมาอย่างยาวนาน มีความสวยงามอีกทั้งมีอายุนานนับพันปี ตั้งอยู่ที่ ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง อยู่ไม่ไกลจากวัดปงสนุก เป็นที่ตั้งของพระบรมธาตุดอนเต้าซึ่งเป็นพระเจดีย์องค์ใหญ่ บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้ามณฑปศิลปะพม่า ลักษณะงดงาม ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่และวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ซึ่งมีอายุเก่าแก่พอๆกับการสร้างวัดนี้ นอกจากนี้ยังมีวิหารหลวงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติล้านนาและวิหารพระเจ้าทองทิพย์
|
5.กำแพงประตูม้าเมืองลำปาง (Pratu Ma City Gate of old town Lamphang) |
|
5.กำแพงประตูม้าเมืองลำปาง (Pratu Ma City Gate of old town Lamphang) |
|
5.กำแพงประตูม้าเมืองลำปาง (Pratu Ma City Gate of old town Lamphang) |
|
5.กำแพงประตูม้าเมืองลำปาง (Pratu Ma City Gate of old town Lamphang) |
|
5.กำแพงประตูม้าเมืองลำปาง (Pratu Ma City Gate of old town Lamphang) |
5.กำแพงประตูม้าเมืองลำปาง (Pratu Ma City Gate of old town Lamphang)
เป็นหนึ่งในประตูเมืองที่เก่าแก่ บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองเก่าลำปาง หรือเมืองเขลางนครได้อดีตได้เป็นอย่างดี โดยมีชื่อว่า กำแพงประตูม้าเมืองเขลางค์นคร จากข้อมูลตามตำนานกล่าวว่า สร้างขึ้นใน ปี พ.ศ. 1223 โดยมีประตูที่สำคัญ 7 ประตู และเมื่อมีการขยายเมืองขึ้นใหม่ ถัดจากเมืองเขลางค์เดิมลงไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ได้สร้างประตูเมืองเพิ่มอีก 3 แห่ง คือประตูเชียงใหม่ ประตูนาสร้อย และประตูปลายนา โดยเมืองเขลางค์นครสมัยที่สองนี้ มีพื้นที่ประมาณ 80 ไร่
|
6.วัดพระเจดีย์ซาวหลัง (Wat Chedi Sao) |
|
6.วัดพระเจดีย์ซาวหลัง (Wat Chedi Sao) |
|
6.วัดพระเจดีย์ซาวหลัง (Wat Chedi Sao) |
|
6.วัดพระเจดีย์ซาวหลัง (Wat Chedi Sao) |
|
6.วัดพระเจดีย์ซาวหลัง (Wat Chedi Sao) |
|
6.วัดพระเจดีย์ซาวหลัง (Wat Chedi Sao) |
|
6.วัดพระเจดีย์ซาวหลัง (Wat Chedi Sao) |
|
6.วัดพระเจดีย์ซาวหลัง (Wat Chedi Sao) |
6.วัดพระเจดีย์ซาวหลัง (Wat Chedi Sao)
วัดนี้เป็นปูชนียสถานที่สำคัญของจังหวัดลำปางสร้างแต่โบราณ ทรงคุณค่าทั้งทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุ โดยตัววัดตั้งอยู่ที่ตำบลต้นธงชัย ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือ 5 กิโลเมตรตามถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม เป็นวัดใหญ่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ซึ่งชื่อ "ซาว" แปลว่า 'ยี่สิบ' และ "หลัง" แปลว่า 'องค์' วัดพระเจดีย์ซาวหลัง แปลว่า วัดที่มีเจดีย์ 20 องค์นั้นเอง
จากหลักฐานการขุดพบพระเครื่องสมัยหริภุญชัยที่องค์พระเจดีย์ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าวัดนี้สร้างมานานกว่าพันปีสิ่งที่น่าชมภายในวัดคือ องค์พระธาตุเจดีย์ซาว ที่มีศิลปะล้านนาผสมศิลปะพม่า ข้างหมู่พระเจดีย์มีวิหารหลังเล็ก ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดปางสมาธิ ศิลปะเชียงแสน ชาวบ้านเรียกว่า "พระเจ้าทันใจ" มีพระอุโบสถหลังใหญ่ซึ่งประดิษฐานพระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีพุทธลักษณะงดงาม บานประตูทั้งสามเป็นของโบราณ เขียนลวดลายรดน้ำละเอียดสวยงาม
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang)
ถูกจัดให้เป็นหนึ่งวัดที่เที่ยว ที่มีความเป็น Unseen น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง เนื่องจากภายในวัดที่มีเจดีย์เล็กสีขาว สร้างอยู่บนยอดของภูเขาสูงเสียดฟ้า รายล้อมไปด้วยเทือกเขาสูงใหญ่ ตัวศาลาของวัดและเจดีย์มีความสูงถึง 815 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำเลที่ตั้งของวัดตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 7 บ้านทุ่งทอง อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง โดยสถานที่ภายในวัด ยังพระพุทธบาทของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้จารึกไว้บนแผ่นหิน ขนาดใหญ่ และความโดดเด่นของเจดีย์สีขาวบนยอดเขานั้น มีมากกว่า 10 องค์ด้วยกัน ใช้เวลาในการก่อสร้างขึ้นด้วยความศรัทธานานนับ 10 ปี จนกลายเป็น Unseen เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นของจังหวัดลำปาง อีกทั้งด้านบนยังเป็นจุดชมวิวทัศนียภาพที่สามารถมองเห็นวิวของอำเภอแจ้ห่ม และวิวอำเภอเมืองปานได้อย่างสวยงามอีกแห่งด้วย
|
8.บ่อน้ำพุร้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน (Chae Son Hot Springs, Chae Son National Park ) |
|
8.บ่อน้ำพุร้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน (Chae Son Hot Springs, Chae Son National Park ) |
|
8.บ่อน้ำพุร้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน (Chae Son Hot Springs, Chae Son National Park ) |
|
8.บ่อน้ำพุร้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน (Chae Son Hot Springs, Chae Son National Park ) |
|
8.บ่อน้ำพุร้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน (Chae Son Hot Springs, Chae Son National Park ) |
|
8.บ่อน้ำพุร้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน (Chae Son Hot Springs, Chae Son National Park ) |
8.บ่อน้ำพุร้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน (Chae Son Hot Springs, Chae Son National Park )
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมตลอดกาล โดยทำเลของอุทยานแห่งชาติ ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ตำบลวังเงินถนนลำปาง-เดินชัย บ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อน เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีสภาพการเกิดทางธรณีวิทยา มีกลิ่นกำมะถันอ่อน ๆ จำนวน 9 บ่อ ตั้งอยู่รวมกันในบริเวณ พื้นที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 3 ไร่ ภายในพื้นที่มีโขดหินน้อยใหญ่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป และมีไอน้ำลอยกรุ่นขึ้นมาจากบ่อปกคลุมรอบบริเวณน้ำพุร้อน มีอุณหภูมิเฉลี่ย 73 องศาเซลเซียส เป็นที่นิยมนำไข่ไก่และ ไข่นกกระทามา แช่สำหรับไข่ไก่แช่นานประมาณ 17 นาที ไข่แดงจะแข็งมี รสชาติมันอร่อย ส่วนไข่ขาวจะเหลวคล้ายไข่เต่า นอกจากนี้ยังมีบริการแช่อาบน้ำพุร้อนและกิจกรรมนวดคลายเส้นให้บริการแก่นักท่องเที่ยวด้วย
|
9. น้ำตกแจ้ซ้อน (Chae Son waterfall ) |
|
9. น้ำตกแจ้ซ้อน (Chae Son waterfall ) |
|
9. น้ำตกแจ้ซ้อน (Chae Son waterfall ) |
|
9. น้ำตกแจ้ซ้อน (Chae Son waterfall ) |
|
9. น้ำตกแจ้ซ้อน (Chae Son waterfall ) |
|
9. น้ำตกแจ้ซ้อน (Chae Son waterfall ) |
|
9. น้ำตกแจ้ซ้อน (Chae Son waterfall ) |
9. น้ำตกแจ้ซ้อน (Chae Son waterfall )
เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่ง โดยตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน และอยู่ไม่ไกลจากบ่อน้ำพุร้อนอีกด้วย โดยมีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ถือว่าเป็นน้ำตกที่มีความอุดมสมบูรณ์ และมีน้ำไหลตลอดทั้งปี และน้ำจะมากสุดในช่วงหน้าผน โดยต้นกำเนิดของสายน้ำ เกิดจากลำน้ำแม่มอนที่ไหลผ่านภูมิประเทศที่มี ความสูงต่างระดับกัน ตกลงมาเป็นชั้นๆ ในแต่ละชั้นจะมีแอ่งน้ำรองรับและมีความสวย งามแตกต่างกันออกไป มีเส้นทางรถยนต์ และทางเดินเท้าเข้าถึง ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรจากที่ทำการอุทยานฯ มีทั้งหมด 6 ชั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมความงามของน้ำตกแต่ละชั้น พร้อมสัมผัสความงามของป่าไม้อันเขียวชะอุ่ม และอากาศที่เย็นสบายอีกด้วย
|
10.พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง หรือ มิวเซียมลำปาง (Lam Pang Museum) |
|
10.พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง หรือ มิวเซียมลำปาง (Lam Pang Museum) |
|
10.พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง หรือ มิวเซียมลำปาง (Lam Pang Museum) |
|
10.พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง หรือ มิวเซียมลำปาง (Lam Pang Museum) |
|
10.พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง หรือ มิวเซียมลำปาง (Lam Pang Museum) |
|
10.พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง หรือ มิวเซียมลำปาง (Lam Pang Museum) |
|
10.พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง หรือ มิวเซียมลำปาง (Lam Pang Museum) |
10.พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง หรือ มิวเซียมลำปาง (Lam Pang Museum)
จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ ศาลากลางจังหวัดลำปาง(หลังเก่า) ถนนวชิราวุธดำเนิน ตำบลพระบาท อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง โดยเป็นประเภทพิพิธภัณฑ์เมืองจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองและมีห้องจัดแสดงนิทรรศการชุด “คน- เมือง- ลำปาง” โดยนำเสนอผ่านหัวข้อว่าด้วยเรื่อง “คน” ที่มีบทบาทสำคัญในทุกเรื่องราว “เมือง” ที่จะพาไปรู้จักกับนครลำปาง และ “ลำปาง” ที่จะสำรวจและรวบรวมความเหมือนและแตกต่างในทุกด้าน โดยแบ่งห้องนิทรรศการเป็น 16 ห้อง ซึ่งนักท่องเที่ยวห้ามพลาด เปิดให้เข้า อังคาร-อาทิตย์ 9.00-17.00 น. (หยุดวันจันทร์)
|
11.ถนนคนเดินกาดกองต้า (Kad kong ta walking street market) |
|
11.ถนนคนเดินกาดกองต้า (Kad kong ta walking street market) |
|
11.ถนนคนเดินกาดกองต้า (Kad kong ta walking street market) |
|
11.ถนนคนเดินกาดกองต้า (Kad kong ta walking street market) |
|
11.ถนนคนเดินกาดกองต้า (Kad kong ta walking street market) |
|
11.ถนนคนเดินกาดกองต้า (Kad kong ta walking street market) |
|
11.ถนนคนเดินกาดกองต้า (Kad kong ta walking street market) |
11.ถนนคนเดินกาดกองต้า (Kad kong ta walking street market)
เป็นตลาดถนนคนเดินในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากยังคงมนต์กลิ่นอายของอาคารสถาปัตยกรรมบ้านเรือนเก่าแก่ให้ได้ชม และมีสินค้าของที่ระลึก รวมทั้งอาหารการกินให้ได้ลิ้มลองทานกันมากมาย นักท่องเที่ยวที่จัดโปรแกรมทัวร์ลำปางวันหยุดสุดสัปดาห์ก็คงไม่พลาดที่จะต้อง แวะมาชมมนต์เสน่ห์สถาปัตยกรรมเก่าแก่ทีผสมผสานระหว่างยุโรป จีน พม่า ล้านนา ไทยภาคกลาง และของกินพื้นเมืองจังหวัดลำปางกันอย่างเอร็ดอร่อยอีกด้วย
|
12.วัดศรีรองเมือง (Wat Sri Rong Muang Lampang) |
|
12.วัดศรีรองเมือง (Wat Sri Rong Muang Lampang) |
|
12.วัดศรีรองเมือง (Wat Sri Rong Muang Lampang) |
|
12.วัดศรีรองเมือง (Wat Sri Rong Muang Lampang) |
|
12.วัดศรีรองเมือง (Wat Sri Rong Muang Lampang) |
|
12.วัดศรีรองเมือง (Wat Sri Rong Muang Lampang) |
12.วัดศรีรองเมือง (Wat Sri Rong Muang Lampang)
เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ในตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นคือ มีวิหารมีลักษณะแบบวิหารไทใหญ่ในภาคเหนือ ซึ่งมีลวดลายสลักปิดทองและเครื่องไม้ประดับที่สวยงาม วิหารเป็นอาคาร 2 ชั้นมีหลังคาซ้อนกันแบบพม่า ชั้นล่างก่ออิฐถือปูน ส่วนชั้นบนทำด้วยไม้ ภายในวิหารประดิษฐานพระประธานที่ทำจากไม้ขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางของเรือนยอด บนวิหารที่เป็นเรือนไม้นั้นมีเสากลมใหญ่เรียงรายกันหลายต้น แต่ละต้นประดับประดาด้วยลวดลายจำหลักไม้และกระจกสีแวววับสวยสดงดงาม
โดยประวัติความมาของวัดศรีรองเมือง สร้างโดยพ่อเฒ่าจองตะก่าอินต๊ะ คหบดีชาวไทใหญ่ ที่เข้ามาทำไม้ในเมืองลำปาง ของบริษัท บอมเมย์เบอร์ม่า สร้างวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2447 ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เหตุที่มีอาชีพตัดไม้ โค่นต้นไม้ในป่า จึงได้สร้างวัดศรีรองเมืองนี้ได้เพื่อเป็นที่พึ่งทางจิตใจ ขอขมาต่อธรรมชาตินั้นเอง
|
13.วัดจองคา หรือ วัดไชยมงคล ลำปาง (Wat Chai Mongkon) |
|
13.วัดจองคา หรือ วัดไชยมงคล ลำปาง (Wat Chai Mongkon) |
|
13.วัดจองคา หรือ วัดไชยมงคล ลำปาง (Wat Chai Mongkon) |
|
13.วัดจองคา หรือ วัดไชยมงคล ลำปาง (Wat Chai Mongkon) |
|
13.วัดจองคา หรือ วัดไชยมงคล ลำปาง (Wat Chai Mongkon) |
|
13.วัดจองคา หรือ วัดไชยมงคล ลำปาง (Wat Chai Mongkon) |
|
13.วัดจองคา หรือ วัดไชยมงคล ลำปาง (Wat Chai Mongkon) |
13.วัดจองคา วัดไชยมงคล ลำปาง (Wat Chai Mongkon)
่สำหรับวัดไชยมงคล หรือวัดจองคา เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่อยู่คู่เมืองลำปาง มาอย่างยาวนาน มีความโดดเด่นอยู่ที่วิหารสีขาวที่มีหลังคาเครื่องไม้แบบพม่า หน้าบันประดับกระจกเป็นรูปเทวดา เสาประดับด้วยลวดโลหะสีทองขดเป็นลายเครือเถาประดับกระจกสีงดงามมาก ส่วนม่านและระเบียงโดยรอบนั้นทำด้วยแผ่นไม้ฉลุอย่างประณีต ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดที่มีพุทธลักษณะงดงามซึ่งสร้างขึ้นที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
|
14.พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนดี (Dhanabadee Ceramic Museum) |
|
14.พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนดี (Dhanabadee Ceramic Museum) |
|
14.พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนดี (Dhanabadee Ceramic Museum) |
|
14.พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนดี (Dhanabadee Ceramic Museum) |
|
14.พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนดี (Dhanabadee Ceramic Museum) |
|
14.พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนดี (Dhanabadee Ceramic Museum) |
|
14.พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนดี (Dhanabadee Ceramic Museum) |
14.พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนดี (Dhanabadee Ceramic Museum)
หากใครที่ต้องการเรียนรู้เรียนพิพิธภัณฑ์ความเป็นมาของชามตราไก่ ต้องไม่พลาดมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบุรี ตั้งอยู่ ถนนวัดจองคำ พระบาท ซอย 1 ต.พระบาท อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ภายในพิพิธภัณฑ์แสดงถึงประวัติของบริษัทในเครือธนบดี ต้นกำเนิดชามไก่ ต้นกำเนิดเซรามิคของเมืองลำปาง และสาธิตการผลิตชามไก่แบบโบราณรวมถึงสามารถชมกระบวนการผลิตเซรามิคสมัยใหม่ โดยมีเจ้าหน้าที่หรือวิทยากร ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของชาวตราไก่ได้อย่างน่าสนใจ
|
15.ถนนคนเดินสายวัฒนธรรม ย่านเมืองเก่า (เปิดทุกวันศุกร์) (Lampang Cultural Street Market) |
|
15.ถนนคนเดินสายวัฒนธรรม ย่านเมืองเก่า (เปิดทุกวันศุกร์) (Lampang Cultural Street Market) |
|
15.ถนนคนเดินสายวัฒนธรรม ย่านเมืองเก่า (เปิดทุกวันศุกร์) (Lampang Cultural Street Market) |
|
15.ถนนคนเดินสายวัฒนธรรม ย่านเมืองเก่า (เปิดทุกวันศุกร์) (Lampang Cultural Street Market) |
|
15.ถนนคนเดินสายวัฒนธรรม ย่านเมืองเก่า (เปิดทุกวันศุกร์) (Lampang Cultural Street Market) |
15.ถนนคนเดินสายวัฒนธรรม ย่านเมืองเก่า (เปิดทุกวันศุกร์) (Lampang Cultural Street Market)
เป็นตลาดถนนคนเดินที่น่าสนใจอีกแห่งตั้งอยู่ใกล้กับวัดประตูต้นผึ้ง ถนนวังเหนือ ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ภายในตลาดมีสินค้าของชาวบ้านในราคาไม่แพง นำมาวางจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อเลือกหา และยังมีอาหารพื้นเมืองให้เลือกรับประทานอีกด้วย บรรยากาศของตลาดรายล้อมไปด้วยต้นไม้ ร่มรื่น มีการแสดงดนตรี มีมุมให้ถ่ายรูป และนั่งพักผ่อนอีกด้วย โดยตลาดถนนสายวัฒนธรรมจะเปิดให้บริการทุกวันศุกร์เท่านั้น
|
ระหว่างขับรถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งที่อยู่ไกลออกไป ยังมีร้านคาเฟ่สไตล์น่ารักเก่ๆ ให้นั่งพักชมวิวสวยๆ รุ่มระรวยด้วยป่าเขา เหลาดอยสวยงาม |
นอกจากนี้แล้ว ระหว่างขับรถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งที่อยู่ไกลออกไป ยังมีร้านคาเฟ่สไตล์น่ารักเก่ๆ ให้ได้ไปนั่งพักชากาแฟ ชมวิวทิวทัศน์ระหว่างแสนสวยงามอีกด้วย
|
นั่งพักให้หายเมื่อย ด้วยการดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ แก้กระหายได้ดีทีเดียวค่ะ |
ขับรถมอเตอร์ไซต์มาเหนื่อย นั่งพักให้หายเมื่อย ด้วยการดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ แก้กระหายได้ดีทีเดียวค่ะ ราคาไม่แพงด้วย 35 บาทเท่านั้น
|
เพื่อนๆคนใหน ที่เป็นขาแวีน เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับรถมาเที่ยวแจ้ซ้อน ก็แวะมาดื่มเครื่องดื่มร้อน-เย็น ที่คาเฟ่เดอเมืองปานได้นะคะ |
สำหรับเพื่อนๆคนใหน ที่เป็นขาแวีน เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับรถมาเที่ยวแจ้ซ้อน ก็แวะมาดื่มเครื่องดื่มร้อน-เย็น ที่คาเฟ่เดอเมืองปานได้นะคะ บรรยากาศดีทีเดียว
|
อย่าลืมค่ะ มาเที่ยวก็อย่าลืมอุดหนุนแม่ค้า ขายสินค้าตามริมทางด้วยนะคะ |
และอย่าลืมค่ะ มาเที่ยวก็อย่าลืมอุดหนุนแม่ค้า ขายสินค้าตามริมทางด้วยนะคะ
เนื่องจากวันที่เดี๊ยนไปเที่ยว แม้ว่าจะเป็นวันหยุด แต่คนก็ยังไม่ค่อยเยอะมาก
|
เม็ดกระบก หรือคนเหนือ เรียกว่า บะหมื่นขั้วเจ้า ขายแค่ถ้วยละ 10 บาท |
ขับรถผ่านมา มีมันเทศปิ้งและเม็ดกระบก หรือคนเหนือ เรียกว่า บะหมื่นขั้วเจ้า ขายแค่ถ้วยละ 10 บาท
ราคาถูกมากๆ แวะผ่านมาทั้งที ไม่ซื้อไม่ได้แล้ว
|
มันเทศที่คุณป้าปิ้งไว้ ก็รอนักท่องเที่ยวใจดี มาช่วยซื้อด้วย ราคาไม่แพง 20 บาท ได้มาตั้งเยอะเลยค่ะ |
ส่วนมันเทศที่คุณป้าปิ้งไว้ ก็รอนักท่องเที่ยวใจดี มาช่วยซื้อด้วย ราคาไม่แพง 20 บาท ได้มาตั้งเยอะเลยค่ะ
มันเทศปลูกเองด้วย
|
ได้กินมันเทศร้อนๆ ท่ามกลางบรรยากาศเย็นๆกลางป่าเขา รสชาติหวานอร่อยๆมากๆ และต้องเป็นมันเทศปิ้งกับถ่านเท่านั้นด้วยนะคะ |
ไม่ได้กินมันเทศนานแล้ว ได้กินมันเทศร้อนๆ ท่ามกลางบรรยากาศเย็นๆกลางป่าเขา รสชาติหวานอร่อยๆมากๆ และต้องเป็นมันเทศปิ้งกับถ่านเท่านั้นด้วยนะคะ ถึงจะได้อรรถรสในการทานอย่างสำราญใจ
|
ของกินของฝากขึ้นชื่อลือชา ก็คงไม่พลาดซื้อ ข้าวแต๋นน้ำแตงไม โอ้โฮ้ ราคาไม่แพงค่ะ |
ส่วนของกินของฝากขึ้นชื่อลือชา ก็คงไม่พลาดซื้อ ข้าวแต๋นน้ำแตงไม โอ้โฮ้ ราคาไม่แพงค่ะ 5 ถุง 100 เดียว หรือใครมีเงินน้อย ซื้อถุงเดียวไปชิมดูก่อนได้
|
ยกให้ถ้วยจานชามเซรามิคตราไก่ ที่เป็นสินค้าโดดเด่นของลำปาง |
และผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อประจำจังหวัด คงต้องยกให้ถ้วยจานชามเซรามิคตราไก่ ที่เป็นสินค้าโดดเด่นของลำปาง ใครขับรถส่วนตัวมาก็แวะซื้อไปแทบทุกราย
|
เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งเมื่อมาเที่ยวลำปางแล้ว ต้องไม่พลาดมานั่งรถม้าเที่ยวรอบเมืองลำปาง |
กิมมิคหรือว่าเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งเมื่อมาเที่ยวลำปางแล้ว ต้องไม่พลาดมานั่งรถม้าเที่ยวรอบเมืองลำปาง ซึ่งมีสถานีรถม้าให้บริการอยู่ไม่ไกลจากตลาดถนนคนเดินกาดกองต้า และพิพิธภัณฑ์ลำปางค่ะ
|
ตอนที่เดี๊ยนมาเที่ยว เป็นช่วงเวลาเย็น เลือกเที่ยวรอบเมืองเล็ก เป็นอย่างเมืองเก่า ราคา 200 บาทเท่านั้น |
โดยมีราคาให้บริการเที่ยวรอบเมืองเล็ก และรอบเมืองใหญ่ ในราคาที่ไม่แพงค่ะ
ซึ่งตอนที่เดี๊ยนมาเที่ยว เป็นช่วงเวลาเย็น เลือกเที่ยวรอบเมืองเล็ก เป็นอย่างเมืองเก่า ราคา 200 บาทเท่านั้น
|
คนขับรถม้าก็จะพาลัดเลาะไปเที่ยวชมบรรยากาศย่านเมืองเก่า ซึ่งเป็นรอบเมืองเล็ก ใช้เวลานั่งรถม้าชมเมืองไม่นานด้วย
|
โดยคนขับรถม้าก็จะพาลัดเลาะไปเที่ยวชมบรรยากาศย่านเมืองเก่า ซึ่งเป็นรอบเมืองเล็ก ใช้เวลานั่งรถม้าชมเมืองไม่นานด้วย
|
ย่านเมืองเก่า ก็ยังคงสถาปัตยกรรมบ้านเก่าเรือนไม้ดั้งเดิมเอาไว้ให้ชมอย่างน่าภิรมย์ใจ |
ในย่านเมืองเก่า ก็ยังคงสถาปัตยกรรมบ้านเก่าเรือนไม้ดั้งเดิมเอาไว้ให้ชมอย่างน่าภิรมย์ใจ ซึ่งตอนนั่งรถม้าเที่ยว ทางคนขับก็จะบรรยายสถานที่สำคัญแต่ละแห่งให้ได้ฟังด้วย
|
คนขับจะบรรยายสถานที่ในอดีตให้ได้ฟังอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจทีเดียว |
โดยคนขับจะบรรยายสถานที่ในอดีตให้ได้ฟังอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจทีเดียว อีกอย่างบรรยากาศช่วงเย็น ซึ่งอากาศก็ไม่ร้อนมากด้วย เหมาะกับการนั่งรถม้าชมเมืองเก่า ได้อรรถรสในการท่องเที่ยวอีกด้วยค่ะ
|
อาหารมื้อเย็นนี้ เดี๊ยนฝากท้องไว้ที่ร้านอร่อยบาทเดียว ร้านเด่น ร้านดัง ที่ราคาไม่แพง |
สำหรับอาหารมื้อเย็นนี้ เดี๊ยนฝากท้องไว้ที่ร้านอร่อยบาทเดียว ร้านเด่น ร้านดัง ที่ราคาไม่แพง เพราะข้าวต้มแค่บาทเดียวจริงๆ แต่กับข้าวไม่ได้บาทเดียวนะคะ ราคาอาหารปรับราคาตามยุคสมัย แต่ก็ไม่ได้แพงเว่อร์ เคยมาทานเมื่อตอนปี 2558 นานแล้วค่ะ กลับมาได้ทานอีกครั้ง
|
พอมีโต๊ะว่างให้นั่งสำหรับคนเดียวค่ะ ถ้ามาหลายคนเป็นครอบครัว อาจจะต้องรอนานเลย |
เข้ามาคนนั่งเต็มร้านเลยค่ะ แต่ก็ยังพอมีโต๊ะว่างให้นั่งสำหรับคนเดียวค่ะ ถ้ามาหลายคนเป็นครอบครัว อาจจะต้องรอนานเลย
|
บริกร หรือว่าเด็กเสริฟของร้าน รีบเช็ดโต๊ะกันอย่างขมักเขม้น ดูคล่องแคล่วว่องไว เห็นมีแต่เด็กผู้ชายวัยรุ่นยดูเอาะๆ เดินเสริฟอาหารกันอย่างขวักไขว่ |
มีบริกร หรือว่าเด็กเสริฟของร้าน รีบเช็ดโต๊ะกันอย่างขมักเขม้น ดูคล่องแคล่วว่องไว ไฉไลกันมากๆ เพราะเห็นมีแต่เด็กผู้ชายวัยรุ่นยดูเอาะๆ เดินเสริฟอาหาร เป็นบริกรที่ดูอย่างขวักไขว่
|
สั่งอาหารไม่นานนัก แป๊บเดียว ทางบริกรก็มาเสริฟแล้ว อะไรจะเร็วขนาดนั้น |
ส่วนอาหารที่เดี๊ยนสั่งไป สั่งอาหารไม่นานนัก แป๊บเดียว ทางบริกรก็มาเสริฟแล้ว อะไรจะเร็วขนาดนั้น ไม่ต้องรอนาน ชอบมาก ได้ทานต้มยำปลาช่อน ปลาช่อนทอดน้ำปลา และผัดผัดบุ้งไฟแดง ทานกับข้าวต้มร้อนๆแล้ว คล่องคอดีนัก ยังดีที่มีต้มยำแก้เลี่ยนของทอดได้ ค่าเสียหายมื้อนี้ หมดไป 152 บาทเท่านั้น ราคาถูก เหมาะสมกับราคา และไม่แพงเลยค่ะ
|
ก่อนจะเดินทางกลับโรงแรมที่พัก ก็แวะมาถ่ายรูปตรงห้าแยกหอนาฬิกาก่อนสักแป๊บนึงค่ะ จบทริปเที่ยวเมืองลำปางล่าสุด สะดุดไปไหว้ชมพระญี่ปุ่น งามละมุนยิ่งนักเชียว ถือว่าเป็นการเปิดมุมมองชมสถานที่ท่องเที่ยวแบบใหม่ที่ดีงามยิ่งนักทีเดียวค่ะ |
ก่อนจะเดินทางกลับโรงแรมที่พัก ก็แวะมาถ่ายรูปตรงห้าแยกหอนาฬิกาก่อนสักแป๊บนึงค่ะ เป็นการโบกมืออำลาเมืองลำปางคืนสุดท้าย ก่อนที่จะย่างกราย จรลีออกจากเมืองรถม้าแห่งนี้ไปเที่ยวเมืองอื่นต่อไป...
จบทริปเที่ยวเมืองลำปางล่าสุด สะดุดไปไหว้ชมพระญี่ปุ่น งามละมุนยิ่งนักเชียว ถือว่าเป็นการเปิดมุมมองชมสถานที่ท่องเที่ยวแบบใหม่ที่ดีงามยิ่งนักทีเดียวค่ะ
ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆคน ที่เสียสละเวลาเข้ามาสไลด์เลื่อนอ่านดูกัน หากมีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้พบกันอีกครั้งในบทความถัดไปค่ะ....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
----------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ ที่ผ่านมา มีดังนี้ค่ะ
0 ความคิดเห็น