Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

แบ่งปันรีวิวเที่ยวสิงคโปร์อีกครั้งในปี 2022 เปิดเมืองบินลัดฟ้าไปเช็คอิน ถ่ายรูปฟินๆดูสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลย

แบกเป้เที่ยวต่างประเทศครั้งแรกในรอบ 2 ปี หลังจากโควิด ทริปนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมารีวิวทริปเที่ยวสิงคโปร์ล่าสุดในปี 2022 เปิดเมืองบินลัดฟ้าไปเช็คอินพาหลานสาวไปเที่ยวถ่ายรูป สถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ มีที่ใหนบ้าง ตามไปกันเลยจ้า





ทักทายสวัสดีคุณผู้อ่าน และเพื่อนๆชาวแบกเป้ผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจทุกๆคนค่ะ กลับมาพบปะกันอีกเช่นเคยนะคะ กับบทความบล็อกรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือน ที่จะพาเพื่อนๆไปแวะเที่ยวดูโน้นนี้นั้น และทริปนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทริปท่องเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกในรอบ 2 ปี 

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทุกๆคน ก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิดที่ยาวนานเหลือเกิน  พอมีข่าวการเปิดเมืองให้นักท่องเที่ยวได้ออกไปตะลอนต่างประเทศอีกครั้ง เดี๊ยนเลยไม่รีรอ ขอตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ และประเทศสิงคโปร์ก็เป็นประเทศแรกๆที่เปิดใหันักทัศนาจรได้ไปเที่ยวกัน ในบทความบล็อกรีวิวทริปนี้ เดี๊ยนเลยขอปักหมุดไปเที่ยวสิงคโปร์อีกครั้ง



เดี๊ยนจำได้ว่าตัวเองเคยไปเที่ยวสิงคโปร์ครั้งล่าสุดน่าจะปี 2555 เรียกว่านานมากๆเลยล่ะค่ะ เนื่องจากมีรูปใน Facebook story time แสดงขึ้นมา เลยกระตุ้นต่อมชีพจรลงเท้า ให้เดี๊ยนต้องวนเวียนไปเที่ยวย้อนวันวาน กับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างประเทศสิงคโปร์อีกครั้ง อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีทัศนียภาพสวยงาม บ้านเมืองที่เป็นระเบียบ เรียบร้อย มองไปทางใหน ก็ดูเจริญตาไปหมด และยังเป็นประเทศที่สร้างสถานที่ดึงดูดให้ผู้คนต้องแวะมาเยือนอยู่ตลอดเวลา พูดง่ายๆคือ ไม่หยุดพัฒนาเลยทีเดียว ทำให้สามารถสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศทั้งด้านการท่องเที่ยวได้มากมาย 


และทริปแบกเที่ยวสิงคโปร์ครั้งนี้ ก็ไม่ได้แบกเป้ไปเที่ยวคนเดียว เหมือนทริปที่ผ่านๆมานะคะ เพราะพาหลานสาว 2 คน ที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยไปเที่ยวด้วย เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่ของหลานๆทั้ง 2 อยากให้เดี๊ยนพาไปเปิดโลกทัศน์และเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆในต่างประเทศด้วย  


และสำหรับใครที่ต้องการฝึกภาษาอังกฤษ ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศแรกๆที่เหมาะกับการมาฝึกภาษาอังกฤษแบบไม่ไกลจากเมืองไทย นั่งเครื่องมาได้แค่ 2 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้วล่ะค่ะ เอาเป็นว่าใครที่อยากมาฝึกภาษาและมาเที่ยวดูบ้านเมืองสวยๆ ก็ปักหมุดมาสิงคโปร์กันดูนะคะ  และก่อนจะเข้าสู่บทความบล็อกรีวิว เราก็มารู้จักประวัติความเป็นมาของสิงคโปร์กันสักเล็กน้อย พอสังเขปนะคะ


เรื่องน่ารู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์ (About Singapore)




สาระน่ารู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์ (About Singapore)


สิงคโปร์ ป็นประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศสิงคโปร์แยกจากคาบสมุทรมลายูโดยช่องแคบยะโฮร์ทางทิศเหนือ และจากหมู่เกาะเรียวของประเทศอินโดนีเซียโดยช่องแคบสิงคโปร์ทางทิศใต้ ประเทศมีลักษณะแบบเมืองอย่างสูง และคงเหลือพืชพรรณดั้งเดิมเล็กน้อย ดินแดนของประเทศขยายอย่างต่อเนื่องโดยการแปรสภาพที่ดิน


แม้ว่าจะเป็นประเทศเล็กๆ มีพื้นที่จำกัดเพียงแค่ 728.6 ตร.กม.เท่านั้น แต่เต็มไปด้วยประชากรที่เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า ให้ความสำคัญและสนับสนุนเรื่องการศึกษากันอย่างเต็มที่



ซึ่งประเทศสิงคโปร์ แม้ว่าจะเป็นประเทศเล็กๆ มีพื้นที่จำกัดเพียงแค่ 728.6 ตร.กม.เท่านั้น แต่เต็มไปด้วยประชากรที่เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า ดังนั้นทุกฝ่ายจึงให้ความสำคัญและสนับสนุนเรื่องการศึกษากันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดระบบการศึกษา ที่สร้างสรรค์และมีคุณภาพ บรรยากาศทางการศึกษาที่ทำให้ผู้เรียนสามารถแลกเปลี่ยนมุมมองและความคิดได้อย่างอิสระและเปิดกว้าง ทำให้ผู้เรียนมีความรักและสนุกสนานกับการเรียนรู้อย่างเต็มที่ 


ประเทศสิงคโปร์ยังมีชื่อเสียงเป็นที่กล่าวขานกันอย่างมากในเรื่องความปลอดภัย ความสะอาด มาตรฐาน อาคารบ้านเรือนที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่สูง



และในประเทศสิงคโปร์ยังมีชื่อเสียงเป็นที่กล่าวขานกันอย่างมากในเรื่องความปลอดภัย ความสะอาด มาตรฐาน ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่สูง เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีกฎหมายลงโทษร้ายแรง คือ การประหารชีวิต หรือโทษจำคุกระยะยาว มีการห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะอย่างเด็ดขาด การทิ้งเศษขยะลงพื้น ฝ่าฝืนครั้งแรกถูกปรับ ต้องทำ ความสะอาด ในที่ สาธารณะด้วย กฎหมายนี้รวมถึงการห้ามถ่มน้ำลายในที่สาธารณะ จึงถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีกฎหมายเข้มงวดและเป็นเมืองที่สะอาดที่สุดอีกแหงหนึ่งของโลกด้วย 



สิงคโปร์นั้น ถูกจัดให้เป็นศูนย์กลางพาณิชย์สำคัญของโลกแห่งหนึ่ง โดยเป็นศูนย์กลางการเงินใหญ่สุดเป็นอันดับสี่และเป็นหนึ่งในห้าท่าที่วุ่นวายที่สุดอีกด้วย



โดยประเทศสิงคโปร์นั้น ถูกจัดให้เป็นศูนย์กลางพาณิชย์สำคัญของโลกแห่งหนึ่ง โดยเป็นศูนย์กลางการเงินใหญ่สุดเป็นอันดับสี่และเป็นหนึ่งในห้าท่าที่วุ่นวายที่สุด เศรษฐกิจซึ่งเป็นโลกาภิวัฒน์และมีความหลากหลายอาศัยการค้าเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิต ซึ่งคิดเป็นประมาณ 30% ของจีดีพีของสิงคโปร์ในปี พ.ศ. 2556 ในแง่ความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ ประเทศสิงคโปร์มีรายได้ต่อหัวสูงสุดเป็นอันดับสามของโลกแต่มีความเหลื่อมล้ำของรายได้รุนแรงที่สุดในหมู่ประเทศพัฒนาแล้ว



เป็นศูนย์กลางการศึกษาในภูมิภาคเอเชีย โดยมีการนำเสนอความโดดเด่นที่ หลากหลายของการศึกษาไว้ด้วยกัน


ประเทศสิงคโปร์ได้รับการจัดอันดับสูงในแง่การศึกษา สาธารณสุขและความสามารถการแข่งขันทางเศรษฐกิจ เมื่อปลายเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2557 มีประชากรอาศัยอยู่ในประเทศสิงคโปร์เกือบ 5.5 ล้านคน ซึ่งกว่า 2 ล้านคนมีสัญชาติต่างชาติ แม้สิงคโปร์จะมีความหลากหลาย แต่เชื้อชาติเอเชียมีมากที่สุด 75% ของประชากรเป็นชาวจีน โดยมีชนกลุ่มน้อยที่สำคัญ เช่น ชาวมลายู ชาวอินเดียและชาวยูเรเชีย มีภาษาราชการสี่ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ ภาษามลายู ภาษาจีนกลาง และภาษาทมิฬ และประเทศสนับสนุนพหุวัฒนธรรมนิยมผ่านนโยบายทางการต่าง ๆ อีกด้วย



อีกทั้งประเทศนี้ยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาในภูมิภาคเอเชีย โดยมีการนำเสนอความโดดเด่นที่ หลากหลายของการศึกษาไว้ด้วยกัน ทั้งในด้านความเจริญของเมือง ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบาย ประกอบกับ หลักสูตรการศึกษาพื้นฐานที่ดีเยี่ยม เข้มข้นมากตามมาตรฐานสากล



สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางการเมืองมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก 



และสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางการเมืองมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก เพราะนับแต่ตั้งประเทศเป็นต้นมา มีรัฐบาลที่มาจากพรรคเดียวและเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก และมีการควบคุมสิทธิเสรีภาพของสื่อสารมวลชนและประชาชนในการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างค่อนข้างเข้มงวด ประเทศสิงคโปร์เป็นหนึ่งในห้าสมาชิกผู้ก่อตั้งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)  อีกยังเป็นที่ตั้งของสำนักเลขาธิการความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) และสมาชิกการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและเครือจักรภพแห่งประชาชาติ การพัฒนาอย่างรวดเร็วของประเทศสิงคโปร์นำให้มันมีอิทธิพลอย่างสำคัญในกิจการโลก นำให้นักวิเคราะห์บางส่วนระบุว่าเป็นอำนาจปานกลาง


ประวัติศาสตร์ของสิงคโปร์ก่อนศตวรรษที่ 14 มิได้ถูกบันทึกอย่างชัดเจนและแน่นอนนัก ในช่วงศตวรรษที่ 14 สิงคโปร์อยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรมัชฌาปาหิตแห่งชวา (เครดิตภาพจากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์)



ในด้านประวัติศาสตร์ของสิงคโปร์นั้น ประวัติศาสตร์ช่วงต้น - ประวัติศาสตร์ของสิงคโปร์ก่อนศตวรรษที่ 14 มิได้ถูกบันทึกอย่างชัดเจนและแน่นอนนัก ในช่วงศตวรรษที่ 14 สิงคโปร์อยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรมัชฌาปาหิตแห่งชวา ต่อมาในต้นศตวรรษที่ 15 ก็อยู่ภายใต้การยึดครองของอาณาจักรสยาม จนถูกประมุขแห่งมะละกาเข้ามาแย่งชิงไป และเมื่อโปรตุเกสเข้ายึดครองมะละกา สิงคโปร์ก็กลายเป็นเมืองขึ้นของโปรตุเกสในราวปี ค.ศ. 1498 และต่อมาอยู่ภายใต้อิทธิพลของฮอลันดาในช่วงศตวรรษที่ 17

ประเทศแรกที่มายึดสิงคโปร์ไว้ได้คือโปรตุเกส เมื่อปี ค.ศ. 1511 แล้วก็ถูกชาวดัตช์มาแย่งไป (ภาพไม่เกี่ยวกับเนื้อหาเครดิตภาพจากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์)


ยุคแห่งการล่าอาณานิคม ประเทศแรกที่มายึดสิงคโปร์ไว้ได้คือโปรตุเกส เมื่อปี ค.ศ. 1511 แล้วก็ถูกชาวดัตช์มาแย่งไป เมื่ออังกฤษขยายอิทธิพลเข้ามาบริเวณแหลมมลายูในกลางศตวรรษที่ 18 แต่ประมาณปี ค.ศ. 1817 อังกฤษได้แข่งขันกับดัตช์ในเรื่องอาณานิคม อังกฤษได้ส่งเซอร์ โทมัส สแตมฟอร์ด แรฟเฟิลส์ มาสำรวจดินแดนแถบสิงคโปร์ ตอนนั้นสิงคโปร์ยังมีสุลต่านแห่งรัฐยะโฮร์ปกครองอยู่ แรฟเฟิลส์ได้ตกลงกับสุลต่านฮุสเซียน ชาห์ว่า จะตั้งสถานีการค้าของอังกฤษที่นี่ แต่สุดท้ายอังกฤษยึดสิงคโปร์ไว้เป็นเมืองขึ้นได้และก่อตั้งประเทศในปี ค.ศ. 1819 

ภาพเก่าบ้านเมืองสิงคโปร์ในอดีต - อังกฤษได้ขอเช่าเกาะสิงคโปร์จากจักรวรรดิ์ยะโฮร์ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของฮอลันดา ในปี ค.ศ. 1824 อังกฤษมีสิทธิครอบครองสิงคโปร์ตามข้อตกลงที่ทำกับฮอลันดา


 รัฐบาลอังกฤษได้เข้ามาดูแลระบบนี้เอง ในปี ค.ศ. 1867 สิงคโปร์กลายเป็นอาณานิคม (Crown Colony) อย่างสมบูรณ์จนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นจึงได้ขับไล่อังกฤษออกจากสิงคโปร์และเข้าไปยึดครองแทน (ภาพเก่าบ้านเมืองสิงคโปร์ในอดีต เครดิตภาพจากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์) 


โดยอังกฤษได้ขอเช่าเกาะสิงคโปร์จากจักรวรรดิ์ยะโฮร์ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของฮอลันดา ในปี ค.ศ. 1824 อังกฤษมีสิทธิครอบครองสิงคโปร์ตามข้อตกลงที่ทำกับฮอลันดา ต่อมาในปี ค.ศ. 1826 สิงคโปร์ถูกปกครองภายใต้ระบบสเตรตส์เซตเทิลเมนต์ (Straits Settlement) ซึ่งบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษควบคุมดูแลสิงคโปร์ รวมทั้งปีนังและมะละกาด้วย ต่อมาในปี ค.ศ. 1857 รัฐบาลอังกฤษได้เข้ามาดูแลระบบนี้เอง ในปี ค.ศ. 1867 สิงคโปร์กลายเป็นอาณานิคม (Crown Colony) อย่างสมบูรณ์จนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นจึงได้ขับไล่อังกฤษออกจากสิงคโปร์และเข้าไปยึดครองแทน


นับจากปี ค.ศ. 1965 เมืองสิงคโปร์ประกาศตนเป็นประเทศเอกราช  นับแต่นั้น ประเทศสิงคโปร์พัฒนาอย่างรวดเร็ว จนได้รับการรับรองว่าเป็นหนึ่งในสี่เสือแห่งเอเชีย


หลังจากนั้น สิงคโปร์ได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรใน ค.ศ. 1963 และเข้าร่วมกับอดีตดินแดนของอังกฤษอื่นเพื่อตั้งประเทศมาเลเซีย แต่ถูกขับอีกสองปีต่อมาผ่านพระราชบัญญัติโดยเอกฉันท์ นับแต่นั้น ประเทศสิงคโปร์พัฒนาอย่างรวดเร็ว จนได้รับการรับรองว่าเป็นหนึ่งในสี่เสือแห่งเอเชีย



สี่เสือแห่งเอเชีย หรือภาษาอังกฤษอังกฤษ Four Asian Tigers) เป็นคำที่ใช้อ้างถึงเศรษฐกิจที่พัฒนาอย่างรวดเร็วของฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้และไต้หวัน ประเทศหรือบริเวณเหล่านี้เป็นบริเวณที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง (มากกว่า 7% ต่อปี)และมีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วระหว่าง พ.ศ. 2503 – 2533 ในศตวรรษที่ 21 ทั้งหมดได้พัฒนาไปสู่เศรษฐกิจที่ก้าวหน้าและมีรายได้สูง  


กลุ่มสี่เสือแห่งเอเชียนี้ขึ้นกับนโยบายทางด้านอุตสาหกรรมซึ่งสนับสนุนการส่งออกและการเป็นชาติอุตสาหกรรม  ทั้งหมดได้พัฒนาไปสู่เศรษฐกิจที่ก้าวหน้าและมีรายได้สูง  



ประสบการณ์ของประเทศในกลุ่มสี่เสือแห่งเอเชียนี้ขึ้นกับนโยบายทางด้านอุตสาหกรรมซึ่งสนับสนุนการส่งออกและการเป็นชาติอุตสาหกรรม ธนาคารโลกได้ยอมรับนโยบายเสรีนิยมใหม่ด้วยความรับผิดชอบต่อการขยายตัว รวมทั้งการรักษาระบบการค้าทางด้านการส่งออกโดยยอมรับข้อดีของนโยบายการควบคุมทางการเงิน


ด้านการเมืองการปกครองของรัฐบาลสิงคโปร์ มีระบอบการปกครองของสิงคโปร์ คือ ระบอบประชาธิปไตย ภายใต้การปกครองของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวตำแหน่งรัฐมนตรีติดต่อกันเป็นเวลากว่า 50 ปี ซึ่งก็คือ นาย ลี กวน ยู ซึ่งนาย ลี เป็นผู้ก่อตั้งแต่ปี ค.ศ. 1961 นั้นมีชัยชนะในการเลือกตั้งเกือบทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งทั่วไป หรือการเลือกตั้งซ่อม เขาเป็นบุคคลการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดในทวีปเอเชียคนหนึ่ง



ในด้านการเมืองการปกครองของรัฐบาลสิงคโปร์ มีระบอบการปกครองของสิงคโปร์ คือ ระบอบประชาธิปไตย มีประธานาธิบดีเป็นประมุข ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน คือ นายโทนี ตัน เค็ง ยัม เข้ารับตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554 ส่วนนายกรัฐมนตรีคือ นายลี เซียน ลุง ซึ่งรับตำแหน่งต่อจากนายโก๊ะ จ๊กตง และนายลี กวน ยูซึ่งมีฐานะเป็นบิดาของนาย ลี เซียน ลุง สิงคโปร์แยกตัวออกจากมาเลเซียเมื่อปี พ.ศ. 2508 มีการปกครองในระบอบสาธารณรัฐโดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขทางพิธีการ และมีนายกรัฐมนตรีเป็นประมุขทางด้านบริหาร 




ประเทศสิงคโปร์นั้นมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วภายในช่วงเวลาเพียง 50 ปี จนกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในภูมิภาคอาเซียน หลังจากการได้รับเอกราชในปี ค.ศ.1965 โดยมีแผนการพัฒนาที่โดดเด่น 


นับจากปี ค.ศ. 1965 เมืองสิงคโปร์ประกาศตนเป็นประเทศเอกราช มีอำนาจอธิปไตยของตนเอง โดยปกครองในรูปของสาธารณรัฐ หลังจากนั้นสิงคโปร์อยู่ภายใต้การปกครองของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวตำแหน่งรัฐมนตรีติดต่อกันเป็นเวลากว่า 50 ปี ซึ่งก็คือ นาย ลี กวน ยู ทั้งนี้เป็นเพราะพรรคกิจประชา (PAP: People’ Action Party) ซึ่งนาย ลี เป็นผู้ก่อตั้งแต่ปี ค.ศ. 1961 นั้นมีชัยชนะในการเลือกตั้งเกือบทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งทั่วไป หรือการเลือกตั้งซ่อม 



ซึ่งประเทศสิงคโปร์นั้นมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วภายในช่วงเวลาเพียง 50 ปี หลังจากการได้รับเอกราชในปี ค.ศ.1965 โดยมีแผนการพัฒนาที่โดดเด่น 2 ด้านหลักๆ คือแผนด้านเศรษฐกิจที่เป็นกลยุทธ์เชิงรุกซึ่งมีความสำคัญที่สุด และแผนพัฒนาด้านกายภาพ สิ่งแวดล้อมที่ควบคุมทิศทางการพัฒนาเชิงพื้นที่ที่เป็นรูปธรรม อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ ทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ มีการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมมาถึงปัจจุบัน



เกาะสิงคโปร์ยังได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยการผสมผสานความเป็นชาวเอเชียอย่างลงตัวและ คุณภาพชีวิตที่ดีด้วย 


และในเกาะสิงคโปร์ยังได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยการผสมผสานความเป็นชาวเอเชียอย่างลงตัวและ คุณภาพชีวิตที่ดีด้วย เนื่องจากประชากรมีหลากหลายเชื้อชาติ เช่น จีน มาเลย์ อินเดีย และลูกครึ่ง ระหว่างชาวเอเชีย และชาวยุโรปมาอยู่รวมกันอย่างสงบและ ไม่มีปัญหาขัดแย้ง เรื่องชนชาติระหว่างกัน ทั้งยังดำรงวิถีชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรมของตนไว้อย่างเคร่งครัด สิ่งสุดท้ายที่จะทำให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้น


เปอรานากัน ( Peranakan) หรือ บาบ๋า-ย่าหยา (Baba-Nyonya, : 峇峇娘惹)


เปอรานากัน ( Peranakan) หรือ บาบ๋า-ย่าหยา (Baba-Nyonya, : 峇峇娘惹) คือกลุ่มลูกครึ่งมลายู-จีนที่มีวัฒนธรรมผสมผสาน และสร้างวัฒนธรรมแบบใหม่ขึ้นมาโดยเป็นการนำเอาส่วนดีระหว่างจีนกับมลายูมารวมกัน โดยชื่อ "เปอรานากัน" มีความหมายว่า "เกิดที่นี่" 


สำหรับสายเลือดใหม่ของชายชาวจีนกับหญิงมลายูหากเป็นชายจะได้รับการเรียกขานว่า บ้าบ๋า หรือบ้าบ๋า (Baba) ส่วนผู้หญิงจะเรียกว่า ย่าหยา (Nyonya) และเมื่อคนกลุ่มนี้มีจำนวนมากขึ้น ก็ได้สร้างวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิมของบรรพบุรุษโดยมาผสมผสานกันเป็นวัฒนธรรมใหม่ เมื่อพวกเขาอพยพไปตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้ก็ได้นำวัฒนธรรมของตนกระจายไปด้วย วัฒนธรรมใหม่นี้จึงถูกเรียกรวมๆว่า จีนช่องแคบ (Straits Chinese ;土生華人) 

วัฒนธรรมใหม่นี้จึงถูกเรียกรวมๆว่า จีนช่องแคบ (Straits Chinese ;土生華人) 



ต่อมาเมื่อสมัยอาณานิคมดัตช์ช่วงต้นทศวรรษ 1800 ได้มีชาวจีนอพยพเข้ามามากขึ้น จนทำให้เลือดมลายูของชาวเปอรานากันจางลง จนรุ่นหลังแทบจะเป็นจีนเต็มตัวไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้วัฒนธรรมผสมผสานของชาวเปอรานากันจืดจางลงไปเลย การผสมผสานนี้ยังมีให้เห็นในการแต่งกายแบบมลายูเช่น ซารุง กบายา และชุดย่าหยา ซึ่งถือเป็นการแต่งกายอันสวยงามที่ผสมผสานรูปแบบของชาวจีนและมลายูเข้าด้วยกันอย่างงดงาม ฝ่ายหญิงใส่เสื้อฉลุลายดอกไม้ รอบคอ เอว และปลายแขนอย่างงดงาม นิยมนุ่งผ้าซิ่นปาเต๊ะ ฝ่ายชายยังคงแต่งกาย คล้ายรูปแบบจีนดั้งเดิม อาหารแบบเฉพาะตัว และภาษาที่ผสมผสานคำทั้งมลายู จีน และอังกฤษไว้ด้วยกันอย่างลงตัว 


เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/ประเทศสิงคโปร์




หลังจากที่ได้อ่านข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับสิงคโปร์กันไปแล้ว ต่อไปก็ตามมาดูภาพรีวิวการเดินทางไปท่องเที่ยวสิงคโปร์แบบง่ายๆกันเลยจ้า  


เดินทางเที่ยวทริปนี้ ก่อนเดินทาง ก็ต้องเตรียมตัวเรื่องเอกสารให้พร้อมค่ะ เดี๊ยนได้สรุปเอกสารที่ต้องเตรียมตัวไว้แล้ว ในเว็ปไซต์ลิงค์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2022/06/Singapore-travel-Documents-through-immigration.html




เริ่มต้นเดินทางเที่ยวทริปนี้ ก่อนเดินทาง ก็ต้องเตรียมตัวเรื่องเอกสารให้พร้อมค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเดินทาง และพาสปอร์ควัคซีน รวมทั้งเอกสารข้อกำหนดของสิงคโปร์ที่ต้องเตรียมเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเดี๊ยนได้สรุปเอกสารที่ต้องเตรียมตัวไว้แล้ว ในเว็ปไซต์ลิงค์ : https://khunnaiver.blogspot.com/2022/06/Singapore-travel-Documents-through-immigration.html



จัดโปรแกรมเที่ยวสิงคโปร์ 4 วัน 3 คืน ในงบราคาถูก แบบประหยัด เดินทางไปเที่ยวด้วยตัวเองแบบง่ายๆ 


หากเพื่อนๆคนใหนที่วางแผนจะไปเที่ยวก็ดูสรุปการเตรียมเอกสารตามเว็ปไซต์ด้านบนได้นะคะ 

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า ทริปนี้ไม่ได้มาเที่ยวคนเดียวเหมือนทริปก่อนๆค่ะ เพราะพ่วงหลานสาว 2 คนมาด้วยค่ะ 

โดยจัดทริปโปรแกรมเที่ยวสิงคโปร์ 4 วัน 3 คืน ในงบราคาถูก แบบประหยัด เดินทางไปเที่ยวด้วยตัวเองแบบง่ายๆ 


Take off ออกจากสนามบินดอนเมือง ม่งหน้าไปยังสิงคโปร์ ตอนนั่งเครื่องบิน มีตกหลุมอากาศด้วย ตกใจหมดเลยค่ะ มีเสียงให้ของเด็กมาตลอดหลังจากที่เครื่องบินตกหลุมอากาศ


นั่งเครื่องบินออกจากสนาามบินดอนเมืองเวลาบ่าย 2 โมงค่ะ ตอนนั่งเครื่องบิน มีตกหลุมอากาศด้วย ตกใจหมดเลยค่ะ 

ถึงสิงคโปร์แล้วจ้า โดยเวลาที่สิงคโปร์จะเร็วกว่าเวลาที่ไทยประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ 



ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงสิงคโปร์แล้วจ้า โดยเวลาที่สิงคโปร์จะเร็วกว่าเวลาที่ไทยประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ 


 
หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองสิงคโปร์มาได้แบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เจ้าหน้าที่ไม่ได้ถามอะไรเลย เพราะเตรียมเอกสารไปครบ ทั้งตั๋วเครื่องบินไป-กลับ และอื่นๆครบค่ะ 

เมื่อออกจากด่าน ตม.มาที่ลานประตู ขาเข้าเมืองแล้ว ก็จะมาติดต่อซื้อ Sim Net ค่ะ แต่ว่าร้านปิดไปแล้ว เดี๊ยนเลยไม่ได้รีวิวการซื้อซิมเน็ตเลยค่ะ แต่ไปซื้อซิมเน็ตในสิงคโปร์ตามร้านขายมือถือใกล้ๆโรงแรมก็มีขายค่ะ ราคาไม่แพงด้วย

โดยซิมเน็ตในสิงคโปร์มีให้เลือกหลายแบบเลยค่ะ เน็ตก็เร็วด้วยนะคะ ราคามีตั้งแต่ 8$ ไปจนถึง 100$ สิงคโปร์เลยก็มี แต่สำหรับเพื่อนๆคนใหนที่งบน้อยๆ และมาเที่ยวไม่กี่วัน ก็เลือกซื้อแบบราคาถูกๆก็ได้ค่ะ 


ไม่พลาดมาถ่ายรูปเช็คอินที่สถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่มาแรง อย่าง น้ำตก Jewel โดยอยู่ติดกับอาคาร Terminal 1

แน่นอนว่ามาถึงสิงคโปร์ทั้งที ต้องไม่พลาดมาถ่ายรูปเช็คอินที่สถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่มาแรง อย่าง น้ำตก Jewel โดยอยู่ติดกับอาคาร Terminal 1 ซึ่งเป็นอาคารขาเข้าผู้โดยสาร อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมีชื่อเสียงเปิดใหม่ ที่เหล่านักเดินทางเมื่อมาถึงสนามบินแห่งนี้ ต้องถ่ายรูปภาพที่ระลึกไว้กันทุกราย 


ได้เวลาเดินทางเข้าเมือง ด้วยรถไฟฟ้าแล้วล่ะค่ะ 


หลังจากพาหลานสาววัยรุ่นๆ ถ่ายรูปภาพเช็คอินสวยๆที่น้ำพุ Jewel  ไปแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางเข้าเมือง ด้วยรถไฟฟ้าแล้วล่ะค่ะ 

แผนที่เส้นทางรถไฟฟ้าในสิงคโปร์ ครอบคลุมแทบทั้งหมดในเกาะ

ซึ่งระบบการขนส่งสาธารณะในสิงคโปร์ ถือว่าสะดวกมาก เพราะครอบคลุมแทบทั้งหมด โดยการเดินทางที่ได้รับความนิยมากที่สุดก็คือ การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่เชื่อมโยงกันทุกสาย ไปได้ทั่วเกาะเลยล่ะค่ะ 

บัตร Ez link ได้ที่จุดขายบัตรที่สถานี ซึ่งเป็นบัตรเอนกประสงค์ และเป็นบัตรเดียวที่ใช้เดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชลของสิงคโปร์ได้ทั้งหมดค่ะ 


โดยก่อนขึ้นรถไฟฟ้า สามารถติดต่อซื้อบัตร Ez link ได้ที่จุดขายบัตรที่สถานี ซึ่งเป็นบัตรเอนกประสงค์ และเป็นบัตรเดียวที่ใช้เดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชลของสิงคโปร์ได้ทั้งหมดค่ะ 

ตอนมาถึงสนามบิน สามารถติดต่อได้ที่บริเวณจุดเคาว์เตอร์ขายตั๋ว Passenger Service ของสถานีรถไฟเลยค่ะ ราคาอยู่ที่ 12$ โดยแบ่งเป็นค่าบัตร $5 และเงินที่ใช้ได้อีก $7  (ดอลลาร์สิงคโปร์)


 ต้องนั่งรถไฟสายสีเขียวไปลงที่สถานี Tanah Merah เพื่อเปลี่ยนขบวนไปรถไฟฟ้าที่วิ่งไปยังตัวเมืองค่ะ 

ส่วนการเดินทางในสิงคโปร์หากมาครั้งแรก ก็จะสับสนหน่อยนะคะ  เพราะว่าต้องทำความเข้าใจในสถานีแต่ละสาย เพื่อจะได้ไม่หลงทาง ซึ่งหากออกจากสนามบินสิงคโปร์ ต้องนั่งรถไฟสายสีเขียวไปลงที่สถานี Tanah Merah เพื่อเปลี่ยนขบวนไปรถไฟฟ้าที่วิ่งไปยังตัวเมืองค่ะ 

เดี๊ยนจำได้ว่าตอนที่มาเที่ยวสิงคโปร์คนเดียวครั้งแรก ตอนนั้นก็หลงทาง นั่งรถไฟผิดไปลงอีกสถานี เจ้าหน้าที่บอกให้เปลี่ยนไปอีกสถานี จนไปถึงโรงแรมที่พัก 




 เลือกโรงแรมใกล้สถานีรถไฟฟ้า Aljunied เพราะว่าสามารถแบกเป้หรือว่าลากกระเป๋าไปได้ไม่ไกล 


ส่วนมาเที่ยวครั้งนี้ ก็รือฟื้นความจำเล็กน้อย ก็ไม่หลงทางอีกแล้ว เพราะความผิดพลาดครั้งก่อน สอนให้จำไว้เลยว่า ควรดูป้ายสถานีให้ชัดเจนค่ะ 

โดยทริปนี้เดี๊ยนเลือกพักในย่านเกลัง เลือกโรงแรมใกล้สถานีรถไฟฟ้า Aljunied เพราะว่าสามารถแบกเป้หรือว่าลากกระเป๋าไปได้ไม่ไกล 

แม้ว่าในย่านเกลังจะขึ้นชื่อว่าเป็นย่านโคมแดง แต่ในย่านนี้ ถือว่าเป็นย่านที่หาของกินได้ง่ายมากๆ 

จากสถานีรถไฟฟ้าเดินเท้าไปยังโรงแรมที่พัก ก็มีทางเดินฟุตบาทให้เดินปลอดภัย แม้ว่าในย่านเกลังจะขึ้นชื่อว่าเป็นย่านโคมแดง แต่ในย่านนี้ ถือว่าเป็นย่านที่หาของกินได้ง่ายมากๆ มีร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารมากมาย

ลากระเป๋าเดินจากสถานีรถไฟ Aljunied มาไม่ไกลประมาณ 500 เมตร ก็ถึงโรงแรม Ibis Budget Singapore Ruby  ที่พักราคาถูกในย่านเกลัง หรือย่านโคมแดง 


เดินเท้าจากสถานีรถไฟฟ้า Aljunied มาไม่ไกลประมาณ 500 เมตร ก็ถึงโรงแรม Ibis Budget Ruby ซึ่งเป็นที่พักในทริปนี้แล้วล่ะค่ะ 

 โรงแรมมีลิฟท์ ไม่ต้องรอคิวนานค่ะ แต่ว่าไม่มีพนักงานยกกระเป๋านะะคะ ต้องยกเองคะ

มาถึงก็ทำการเช็คอินเข้าห้องพัก ได้คีย์การ์ดมาเรียบร้อย โรงแรมมีลิฟท์ ไม่ต้องรอคิวนานค่ะ แต่ว่าไม่มีพนักงานยกกระเป๋านะะคะ ต้องยกเองคะ

พักอยู่ชั้น 5 ทางเดินไปยั้งห้องพักแคปไปหน่อยค่ะ 

ออกจากประตูลิทฟ์มา ห้องพักอยู่ชั้น 5 ทางเดินไปยั้งห้องพักแคปไปหน่อยค่ะ 

 อยากจะบอกว่า ขนาดห้องพักเล็กและกะทัดรัดมากๆค่ะ ขนาดห้องพักโดยรวมน่าจะประมาณ 18 ตร.ม.ได้ค่ะ

ถึงห้องพักแล้วค่ะ อยากจะบอกว่า ขนาดห้องพักเล็กและกะทัดรัดมากๆค่ะ ขนาดห้องพักโดยรวมน่าจะประมาณ 18 ตร.ม.ได้ค่ะ คือเล็กจริง อะไรจริง เน้นนอนพักผ่อน แบบสะดวกสบายมีห้องน้ำในตัว 


ห้องพักที่เดี๊ยนจองไว้เป็นแบบ ห้องพักสำหรับนอน 3 คน ราคาห้องพักตกคืนละ 2,410 บาท มีตู้เย็นเล็ก และมีห้องน้ำในตัว ไม่ต้องจ่ายค่ามัดจำกุญแจด้วยค่ะ

ส่วนห้องพักที่เดี๊ยนจองไว้เป็นแบบ ห้องพักสำหรับนอน 3 คน เตียงใหญ่ 1 เตียงนอน 2 คน และเตียงเล็กอีก 1 เตียง สำหรับนอน 1 คน   โดยราคาห้องพักตกคืนละ 2,410 บาท มีตู้เย็นเล็ก และมีห้องน้ำในตัว และตอนเช็คอินก็ไม่ต้องมัดจำกุญแจด้วย ทั้งนี้เพื่อนๆสามารถดูราคาโปรโมชั่นห้องพักที่เว็ปไซต์ : https://bit.ly/3MWr0Mp


ของหลานสาว 2 คน ก็นอนเตียงใหญ่ไปค่ะ ส่วนเดี๊ยนก็นอนเตียงเล็กไป แต่ภายในห้องก็สะอาดอยู่นะคะ เตียงนอนนิ่มไม่บุ๋มยุบ หรือแข็งเกินไป 

เดี๊ยนพยายามหาโรงแรมราคาประมาณนี้ แต่ไม่ค่อยมีตู้เย็นให้ ถ้ามีราคาก็จะแพงขึ้นไปอีก ประเด็นคือ อยากได้ตู้เย็น เอาไว้แช่ผลไม้ หรือน้ำดื่มค่ะ 

ภายในห้องพักตรงโต๊ะเครื่องแป้ง มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ตามมาตรฐาน มีน้ำดื่มฟรี  กาต้มน้ำร้อน ชากาแฟฟรี มีไดร์เป่าผม มีทิชชู และมีตู้เย็นเล็กให้ด้วยค่ะ อยู่ตรงข้างๆเตียงนอน ซึ่งเดี๊ยนพยายามหาโรงแรมราคาประมาณนี้ แต่ไม่ค่อยมีตู้เย็นให้ ถ้ามีราคาก็จะแพงขึ้นไปอีก ประเด็นคือ อยากได้ตู้เย็น เอาไว้แช่ผลไม้ หรือน้ำดื่มค่ะ 


ขนาดห้องพักจำกัดมากๆ ต้องใช้สอยพื้นที่ให้คุ้มค่า ด้วยการจัดเรียงกระเป๋าให้มีทางเดินนะคะ 

ตรงมุมห้องมีที่ว่างกระเป๋าเดินทางให้ด้วย


มีที่วางกระเป๋าเดินทาง และมีไม้แขวนเสื้อแบบกันขโมยให้ด้วย


ขนาดห้องก็ไม่ได้เล็กคับแคบเกินไปนะคะ ขนาดกำลังพอเหมาะ


ส่วนห้องน้ำก็สะอาดสะอ้าน และขนาดห้องก็ไม่ได้เล็กคับแคบเกินไปนะคะ ขนาดกำลังพอเหมาะ คนตัวใหญ่ ร่างท้วมเขาไปก็ไมอึดอัดมากนัก 

มีชุดแปรงสีฟันให้บริการอีกด้วย 

ภายในห้องน้ำมีซิงค์อ่างล้างหน้า มีผ้าขนหนู และมีชุดแปรงสีฟันให้บริการอีกด้วย 

ปลั๊กไฟภายในห้องพักของโรงแรม ถือว่าไม่ต้องกังวล เพราะหากไม่ต้องใช้ Universal Plug หรือตัวแปลงอีกต่อไป

และในส่วนของปลั๊กไฟภายในห้องพักของโรงแรม ถือว่าไม่ต้องกังวล เพราะหากไม่ต้องใช้ Universal Plug หรือตัวแปลงอีกต่อไป เพราะสามารถใช้กับหัวปลั๊กของไทยได้ค่ะ แต่ถ้าพักโรงแรมอื่นๆ หากจะต้องพอ universal plug มาด้วยนะคะ ทริปนี้เดี๊ยนก็พกมา แต่ไม่ได้ใช้ เพราะปลั๊กไฟที่นี้ ใช้เสียบมือถือของไทยได้สบายๆ 


ในส่วนของรีวิวห้องพักที่โรงแรม Ibis Budget Singapore Ruby น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับเพื่อนที่วางแผนกันมาเป็นครอบครัว หรือคู่รัก อยากได้โรงแรมราคาถูกๆ มีห้องน้ำในตัว ก็มาพักในย่านเกลัง หรือย่านโคมแดงแห่งนี้ได้นะคะ ปลอดภัยไม่น่ากลัวอย่างที่คิด 


 ในโซนเกลัง แม้ว่าจะเป็นย่านโคมแดง หรือ Red light แต่ย่านนี้คึกคักไปด้วยร้านอาหารมากมาย

หลังจากนำกระเป๋าเอาไปไว้ที่ห้องพักเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาพาหลานๆออกมาทานข้าวแล้วล่ะค่ะ ในโซนเกลัง แม้ว่าจะเป็นย่านโคมแดง หรือ Red light แต่ย่านนี้คึกคักไปด้วยร้านอาหารมากมาย และหลากหลาย มีร้านสะดวกซื้อมากมาย หาของกินง่ายด้วย  

ใกล้ๆกับโรงแรมที่พัก มีศูนย์อาหารเล็ก ซึ่งทีนี้เรียกว่า ฮอว์เกอร์เซนเตอร์ (Hawker Centres) เป็นศูนย์อาหาร คล้ายกับร้านอาหารในโรงเรียน หรือมหาลัย

ซึ่งใกล้ๆกับโรงแรมที่พัก มีศูนย์อาหารเล็ก ซึ่งทีนี้เรียกว่า ฮอว์เกอร์เซนเตอร์ (Hawker Centres) เป็นศูนย์อาหาร คล้ายกับร้านอาหารในโรงเรียน หรือมหาลัย ที่มีร้านอาหารหลายๆร้านให้เลือกค่ะ โดยมีอาหารท้องถิ่น ราคาไม่แพงสำหรับนักท่องเที่ยวได้เลือกทานกันค่ะ 

พาหลานสาวออกมาหาอะไรทานใกล้ๆกับโรงแรม ก็เลือกเลือกทานร้านขายก๋วยเตี๋ยวและข้าวหน้าเป็ดค่ะ

โดยเดี๊ยนพาหลานสาวออกมาหาอะไรทานใกล้ๆกับโรงแรม ก็เลือกเลือกทานร้านขายก๋วยเตี๋ยวและข้าวหน้าเป็ดค่ะ


 แต่ราคาอาหารของประเทศที่ค่าครองชีพสูงแห่งนี้ ถือว่าถูกแล้วล่ะคะ่ 

โดยอาหารที่สั่งซื้อก็ราคาไม่แพงมากนัก อยู่ที่ 4.50 เหรียญสิงคโปร์ ตกเป็นเงินไทยประมาณ 112.5 บาท ถือว่าแพงถ้าเทียบกับอาหารไทย แต่ราคาอาหารของประเทศที่ค่าครองชีพสูงแห่งนี้ ถือว่าถูกแล้วล่ะคะ่ 

ส่วนของรสชาติ ก็ถือว่าใช้ได้ แต่บางอย่างก็รสชาติจืดไปค่ะ และข้าวค่อนข้างแข็งไปหน่อย ไม่นิ่ม


ในส่วนของรสชาติ ก็ถือว่าใช้ได้ แต่บางอย่างก็รสชาติจืดไปค่ะ และข้าวค่อนข้างแข็งไปหน่อย ไม่นิ่ม ต้องเคี้ยวข้าวนาน  แต่ก็ทานจนหมดค่ะ เพราะหิวกันมากๆ หลานสาวบอกว่า ไม่ได้ทานอาหารมื้อเที่ยงเลย เพราะรีบเดินทางมาขึ้นเครื่องบิน 

เช้าวันใหม่ เปิดหน้าต่างออกไป วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส เตรียมตัวพาหลานๆออกไปท่องเที่ยวกันค่ะ

อรุณเบิกฟ้าเช้าวันใหม่ เปิดหน้าต่างออกไป วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส เตรียมตัวพาหลานๆออกไปท่องเที่ยวกันค่ะ แต่ก็อย่าชะล่าใจ เพราะว่าช่วงบ่ายๆ ฝนอาจจะตกก็ได้ ต้องพกร่มไปด้วย 

น้ำดื่มก็สามารถกรอกใส่กระบอกน้ำเล็กๆ ไว้ดื่มได้ระหว่างทางด้วย เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายอีกทางนึง

ก่อนออกไปทานข้าว ทางโรงแรมก็มีชากาแฟและน้ำดื่มที่บริเวณล็อบบี้ให้บริการด้วยนะคะ แต่เสียดายไม่มีอาหารเช้าให้ ถ้ามีอาหารเช้าให้ด้วย คือแบบว่า เริ่ดมากๆจ้า  ซึ่งน้ำดื่มก็สามารถกรอกใส่กระบอกน้ำเล็กๆ ไว้ดื่มได้ระหว่างทางด้วย เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายอีกทางนึง

 

มาถึงสิงโคโปร์ทั้งที ก็ต้องลิ้มลองข้าวมันไก่ อาหารขึ้นชื่่อของที่นี้เลยล่ะค่ะ มาทานดูสิว่า รสชาติเหมือนข้าวมันไก่ไทยแลนด์หรือเปล่า

ส่วนอาหารเช้ามื้อนี้ ก็เดินหากินใกล้ๆกับโรงแรมที่พัก ใหนๆก็มาถึงสิงโคโปร์ทั้งที ก็ต้องลิ้มลองข้าวมันไก่ อาหารขึ้นชื่่อของที่นี้สักครั้ง  มาทานดูสิว่า รสชาติเหมือนข้าวมันไก่ไทยแลนด์หรือเปล่า

เมนูผัดหมี่สไตล์ฮกเกี้ยน 

ตามต่อด้วยหมีซั่วสไตล์ฮกเกี๊ยน รสชาติก็อร่อยอยู่นะคะ 

นางสั่งเมนูอาหารแนวๆจีนอะไรก็ไม่รู้สักอย่างค่ะ เดี๊ยนจำชื่อไม่ได้เลย

ส่วนของหลานๆ นางสั่งเมนูอาหารแนวๆจีนอะไรก็ไม่รู้สักอย่างค่ะ เดี๊ยนจำชื่อไม่ได้เลย รสชาติเหมือนกับข้าวซอยทางภาคเหนือเลยจ้า 
จะขาดก็แต่หอมแดงเล็กซอยเท่านั้น 

เดี๊ยนมาลองเปิบเมนูที่ไม่มีขายในเมืองไทย น่าจะเป็นอาหารว่างๆ คล้ายกับก๋วยเตี๋ยวหลอด หรือเมนูขนมผักกาดเลยค่ะ 



ส่วนของเดี๊ยนมาลองเปิบเมนูที่ไม่มีขายในเมืองไทย น่าจะเป็นอาหารว่างๆ คล้ายกับก๋วยเตี๋ยวหลอด หรือเมนูขนมผักกาดเลยค่ะ 


สั่งเมนู Yam Cake  มาลิ้มลองทานด้วยค่ะ  ตามภาพที่แม่ค้ากำลังตักให้นั้น ลักษณะแป้งเด้งดึ๋งคล้ายกับขนมเปียกปูนเลยค่ะ แต่ไม่ใช่นะคะ จากนั้นแม่ค้าก็โรยน้ำมันและน้ำจิ้มราดลงไปในจาน พร้อมเสริฟค่ะ เมนูนี้ราคา 2.2 ยูโร 

เมนูอาหารว่าง หรือว่า Yam Cake นี้ ไม่ได้มีรสชาติหวานนะคะ แต่รสชาติจะคล้ายๆกับแป้งก๋วยเตี๋ยวหลอดเลยค่ะ 

โดยเมนูอาหารว่าง หรือว่า Yam Cake นี้ ไม่ได้มีรสชาติหวานนะคะ แต่รสชาติจะคล้ายๆกับแป้งก๋วยเตี๋ยวหลอดเลยค่ะ มีกลิ่นกุ้งแห้งนิดๆ  และมีน้ำซอสรสชาติเหมือนทานกะปิ   น่าจะต้องทานคู่กับอะไรสักอย่าง แต่เดี๊ยนก็ไม่ได้ถามแม่ค้า เพราะว่า มีคนต่อคิวซื้ออีกหลายคน หากเพื่อนๆคนใหน ที่ไปเที่ยวสิงคโปร์ ก็ลองสั่งทานดูนะคะ 

ขนมหวานอาหารพื้นเมืองชาวเปอรานากันในสิงคโปร์


ในส่วนของขนมหวานแบบพื้นบ้านที่สิงคโปร์ ก็เหมือนๆกับแถวทางภาคใต้ของไทยเราค่ะ เพราะเป็นเมนูอาหารของสาวชาวเนียงยา หรือชาวเปอรากัน ที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำอาหารต่างๆ เดี๊ยนสั่งเรมปาอุดัง (Rempa Udang) หรือว่าข้าวเหนียวปิ้งใส้กุ้ง กับซาลาเปามาทาน

ขนมปาวหล้าง เรมปาอุดัง หรือว่าข้าวเหนียวปิ้ง  ใบมีขนาดใหญ่ๆหนาๆ ห่อกับข้าวเหนียวและใส่ใส้กุ้งลงไป นำไปย่าง  กลิ่นหอม รสชาติอร่อย

โดยขนมหวานอย่างขนมปาวหล้าง หรือว่าข้าวเหนียวปิ้ง โดยขนมที่นี่จะไม่เหมือนข้าวเหนียวปิ้งที่ห่อเป็นรูปสามเหลี่ยมของไทยเรานะคะ แต่น่าจะใช้ใบจาก ใบมีขนาดใหญ่ๆหนาๆ ห่อกับข้าวเหนียวและใส่ใส้กุ้งลงไป นำไปย่าง  กลิ่นหอม รสชาติอร่อยมากๆค่ะ  ราคาตกกล่องละ 2 เหรียญ 

อีกหนึ่งเมนูขนมมงคลของชาวเปอรานากัน เป็นขนมชั้น ทำจากแป้งข้าวเจ้า รสชาติอร่อยค่ะ เหมือนกับขนมชั้นของไทยเราเลย

ส่วนขนมหลากสีสันที่เห็น ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูขนมมงคลของชาวเปอรานากัน เป็นขนมชั้น ทำจากแป้งข้าวเจ้า รสชาติอร่อยค่ะ เหมือนกับขนมชั้นของไทยเราเลย แต่จะมีความแตกต่างตรงของไทยจะเคี้ยวหนึบหนับกว่า ส่วนขนมชั้นของชาวเปอรานากัน จะออกนิ่มๆ นวลๆ ถือว่ามีความแตกต่างกัน  หากเพื่อนๆคนใหนมาสิงคโปร์ อยากทานขนมพื้นบ้าน ก็ลองซื้อทานดูนะคะ อร่อยคนละแบบค่ะ  

ขนมหวานคลายร้อนยอดฮิต ที่ใครมาสิงคโปร์ก็ต้องทานกัน ก็คือ ไอศครีมค่ะ 

และอีกหนึ่งเมนูขนมหวานคลายร้อนยอดฮิต ที่ใครมาสิงคโปร์ก็ต้องทานกัน ก็คือ ไอศครีมค่ะ โดยร้านขายไอศครีม ที่นี่เป็นแบบรถเร่ มีขายตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ 


ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ชิ้นละ 1.2 เหรียญค่ะ โดยมีไอติมหลากหลายรสชาติให้เลือกทาน 

ไอศครีมตัดเป็นแท่ง ทานคู่กับแป้งวัลเฟิลบางๆ รสชาติหวานอร่อยดีค่ะ

ซึ่งไอศครีมที่นี่จะเป็นไอศครีมตัดเป็นแท่ง ทานคู่กับแป้งวัลเฟิลบางๆ รสชาติหวานอร่อยดีค่ะ หากใครที่มาเที่ยวสิงคโปร์ ก็อย่าลืมแวะทานกันนะคะ อีกหนึ่งของหวานที่ช่วยคลายร้อนได้ดีทีเดียว 

ได้เวลาไปใช้พลังงานด้วยการออกไปเดินทางท่องเที่ยวในสิงคโปร์กันต่อเลยค่ะ 

เติมพลังด้วยการทานอาหารจนอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาไปใช้พลังงานด้วยการออกไปเดินทางท่องเที่ยวในสิงคโปร์กันต่อเลยค่ะ โดยในสิงคโปร์นั้น แม้จะเป็นเกาะเล็ก มีพื้นที่จำกัด แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกให้มาเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสาย  ซึ่งมีทั้งที่เที่ยวเก่าและแหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่ ที่ต้องไปเช็คอิน ถ่ายรูปสวยๆกันสักครั้ง 


วันนี้เดี๊ยนเลยขอมาสรุปสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นในสิงคโปร์มาให้เพื่อนๆคุณผู้อ่านได้ดูกันค่ะ ส่วนจะมีที่ใหนบ้างนั้น ตามไปกันเลยค่ะ 


1.จุดเช็คอินถ่ายรูป อุโมงค์ต้นไม้ สิงคโปร์ Fort Canning Park 

1.จุดเช็คอินถ่ายรูป อุโมงค์ต้นไม้ สิงคโปร์ Fort Canning Park 

1.จุดเช็คอินถ่ายรูป อุโมงค์ต้นไม้ สิงคโปร์ Fort Canning Park 

1.จุดเช็คอินถ่ายรูป อุโมงค์ต้นไม้ สิงคโปร์ Fort Canning Park 

1.จุดเช็คอินถ่ายรูป อุโมงค์ต้นไม้ สิงคโปร์ Fort Canning Park 

1.จุดเช็คอินถ่ายรูป อุโมงค์ต้นไม้ สิงคโปร์ Fort Canning Park 

1.จุดเช็คอินถ่ายรูป อุโมงค์ต้นไม้ สิงคโปร์ Fort Canning Park 


1.จุดเช็คอินถ่ายรูป อุโมงค์ต้นไม้ สิงคโปร์ Fort Canning Park 

1.จุดเช็คอินถ่ายรูป อุโมงค์ต้นไม้ สิงคโปร์ Fort Canning Park 


1.จุดเช็คอินถ่ายรูป อุโมงค์ต้นไม้ สิงคโปร์ Fort Canning Park 

จัดเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวมาแรง ที่นักเดินทางที่รักการถ่ายรูป ต้องแวะมาเช็คอินถ่ายรูปกับอุโมงต้นไม้ ซึ่งอุโมงดังกล่าว มีการสร้างมานานแล้ว และด้วยภูมิทัศน์และสถานที่ดังกล่าวอยู่ในสวนสาธารณะมีต้นไม้ปกคลุมเขียวชะอุ่ม รวมทั้งยุคปัจจุบันมีการใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปภาพกันมากขึ้น ทำให้อุโมงต้นไม้ดังกล่าว ได้กลายเป็นหนึ่งในจุดเช็คอิน แหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่ที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งของสิงคโปร์ก็ว่าได้  สำหรับการเดินทางไปยังอุโมงค์ต้นไม้  ตั้งอยู่ที่สวน Fort Canning Park ใกล้ สถานี Dhoby Ghaut สามารถเดินเท้าออกจากสถานีรถไฟฟ้า ข้ามทางม้าลายไปได้ไม่ไกล ก็จะเห็นอุโมงค์ต้นไม้ โดยจุดถ่ายรูปเช็คอินอุโมงค์ต้นไม้ ถือเป็นมุมมหาชน มีนักท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน แนะนำให้มาเที่ยววันธรรมดา แต่ถ้าวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ


2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore)

2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore)

2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore)


2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore)

2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore)

2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore)


2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore)

2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore)

2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore)


2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore)


2. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore)

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ใกล้ๆกับสวน อุโมงค์ต้นไม้ สิงคโปร์ Fort Canning Park  โดยหากใครที่แวะมาเที่ยวถ่ายรูปอุโมงค์ต้นไม้เสร็จ ก็ไม่ควรพลาดมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์  โดยในพิพิธภัณฑ์ แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของ Singapore จากหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ จนกลายเป็นเมืองใหญ่แสนศิวิลัยในวันนี้ และยังเป็นพิพิธภัณฑ์เรียนรู้ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศสิงคโปร์ ภายในพิพิธภัณฑ์มีห้องจัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศในแบบสมัยใหม่ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมและเรียนรู้ที่วิวัฒนาการ ความเป็นมาตั้งแต่เริ่มต้นของสิงคโปร์ ไปจนถึงยุคปัจจุบัน ที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆได้อย่างน่าสนใจ 

ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ณ 93 ถนน Stamford Road, the National Museum of Singapore เป็นการรักษาประวัติศาสตร์อันยาวนานจากการพัฒนาเมืองของสิงคโปร์ 



3.บ้านเปอรานากัน ย่าน  Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House)




3.บ้านเปอรานากัน ย่าน  Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House)

3.บ้านเปอรานากัน ย่าน  Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House)

3.บ้านเปอรานากัน ย่าน  Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House)

3.บ้านเปอรานากัน ย่าน  Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House)

3.บ้านเปอรานากัน ย่าน  Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House)

3.บ้านเปอรานากัน ย่าน  Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House)

3.บ้านเปอรานากัน ย่าน  Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House)

3.บ้านเปอรานากัน ย่าน  Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House)


3.บ้านเปอรานากัน ย่าน  Joo Chait Road (Singapore of Peranakan House)


สำหรับบ้านหลากสีสัน หรือบ้านเปอรานากัน จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเรียนรู้ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของสิงคโปร์ โดยในย่าน Joo Chiat นี้ได้รับการตั้งชื่อตาม Chew Joo Chiat เจ้าของที่ดินชาวจีนผู้ร่ำรวยในช่วงต้นศตวรรษที่ 20  ซึ่งเอกลักษณ์อันโดดเด่นของย่านนี้คือ อาคารที่ได้รับการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ในสไตล์สถาปัตยกรรมสไตล์ชิโนโปตุกกีสช่วงก่อนสงครามโลก โดยเป็นตึกแถวสองชั้นและทาวน์เฮาส์ที่ทาสีสันสดใส โดยออกแบบด้านหน้าให้งดงามหรูหรา มีลวดลายที่สวยงามอ่อนช้อย และตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิก ทำให้เป็นมุมถ่ายรูปเช็คอินที่สวยงามอีกแห่งของสิงคโปร์ อีกทั้งบางบ้าน ยังจัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์เรียนรู้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชม ข้าวของ เครื่องใช้ ที่จัดแสดงให้ชมด้วย 

การเดินทางไปบ้านเปอรานากันเฮ้าส์ (Singapore of Peranakan House) สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี  Eunos และเดินเท้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงถนน Joo Chiat ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารตึกเก่าแก่ สีสันสดใสสวยงาม 



4.สิงโตทะเลพ่นน้ำ หรือ เมอร์ไลออน (  The State of Merlion) 

4.สิงโตทะเลพ่นน้ำ หรือ เมอร์ไลออน (  The State of Merlion) 

4.สิงโตทะเลพ่นน้ำ หรือ เมอร์ไลออน (  The State of Merlion) 

สิงโตทะเลตัวเล็ก หรือตัวลูก อยู่ด้านหลังตัวแม่. 4.สิงโตทะเลพ่นน้ำ หรือ เมอร์ไลออน (  The State of Merlion) 

4.สิงโตทะเลพ่นน้ำ หรือ เมอร์ไลออน (  The State of Merlion) 

4.สิงโตทะเลพ่นน้ำ หรือ เมอร์ไลออน (  The State of Merlion) 



4.สิงโตทะเลพ่นน้ำ หรือ เมอร์ไลออน (  The State of Merlion) 

สำหรับเมอร์ไลอ้อน ถูกจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงที่สุดของสิงคโปร์ โดยถูกออกแบบขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของคณะกรรมการการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ ในปี 1964 – รูปปั้นนี้มีหัวเป็นสิงโต ร่างเป็นปลา ยืนอยู่บนยอดคลื่น ต่อมาไม่นานทั่วโลกก็ถือกันว่าสิงโตทะเลตัวนี้คือเครื่องหมายประจำชาติสิงคโปร์ แต่เดิมรูปปั้นนี้ตั้งอยู่ที่สวนสิงโตทะเล (Merlion Park) ข้างสะพานเอสพลาเนด (Esplanade Bridge) แม่สิงโตและลูกสิงโตได้กลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว มีการจัดพิธีติดตั้งสิงโตทะเลในวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 1972 โดยมีประธานในพิธีคือนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ณ เวลาดังกล่าว ซึ่งก็คือ นายลี กวน ยู   และนอกจากนี้ใกล้กับเจ้าสิงโตทะเลพ่นน้ำตัวใหญ่ ยังมีลูกสิงโตทะเลตัวเล็กๆ ที่สร้างไว้ใกล้ๆกันด้วย รูปปั้นสิงโตทะเลตัวที่สองจะมีขนาดเล็กกว่า ขนาดสูง 2 เมตรและหนัก 3 ตัน สิงโตตัวนี้ก็ถูกสร้างขึ้นโดยนายลิมเช่นกัน ตัวสิงโตทำจากวัสดุจำพวกซีเมนต์ ผิวหนังทำจากแผ่นกระเบื้อง และตาทำจากถ้วยชาสีแดงขนาดเล็ก  ซึ่งหากใครที่มาเที่ยวสิงคโปร์ครั้งแรก ต้องไม่พลาดมาถ่ายรูปคู่กับเจ้าสิงโตทะเลนี้สักครั้ง เรียกว่าหากมาสิงคโปร์แล้ว ไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับเจ้าสิงโตทะเล ถือว่ามาไม่ถึงสิงคโปร์กันเลยทีเดียว 



5.น้ำพุแห่งความมั่นคั่งที่ตึกซันเทค (Fountain of Wealth Suntec city)

5.น้ำพุแห่งความมั่นคั่งที่ตึกซันเทค (Fountain of Wealth Suntec city)

5.น้ำพุแห่งความมั่นคั่งที่ตึกซันเทค (Fountain of Wealth Suntec city)

5.น้ำพุแห่งความมั่นคั่งที่ตึกซันเทค (Fountain of Wealth Suntec city)

5.น้ำพุแห่งความมั่นคั่งที่ตึกซันเทค (Fountain of Wealth Suntec city)

5.น้ำพุแห่งความมั่นคั่งที่ตึกซันเทค (Fountain of Wealth Suntec city)



5.น้ำพุแห่งความมั่นคั่งที่ตึกซันเทค (Fountain of Wealth Suntec city)

สำหรับใครที่มาเที่ยวสิงคโปร์ และเป็นนักท่องเที่ยวสายมู น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนและสัมผัสกับพลังของน้ำพุที่นี่อย่างไม่ขาดสาย ตั้งอยู่ที่อาคารซันเทคทาวน์เวอร์ โดยจุดน้ำพุแห่งโชคลาภที่ตึกซันเทค น้ำพุในสิงคโปร์ ได้รับการบันทึกในกินเนสบุ๊คว่าเป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1995 และยังเป็นลานน้ำพุที่ชาวจีนเชื่อว่าให้พลังดีที่สุดแห่งหนึ่งด้วย ดังนั้นจึงมีนักธุรกิจที่ทำการค้าขายหรือว่านักท่องเที่ยว ไม่พลาดต้องมารับพลังด้วยการขอพรที่น้ำพุแห่งความมั่งคงในสิงคโปร์กัน เพื่อให้กิจการค้า เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป 


6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay)

6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay)

6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay)

6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay)

6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay)

6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay)

6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay)

6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay)

6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay)



6.สวนการ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Garden by The Bay)

เป็นสวนพฤษศาสตร์หรือ สวนการ์เดนส์บายเดอะเบย์ เป็นอุทยานธรรมชาติขนาด 101 เฮกตาร์ (250 เอเคอร์) ในบริเวณภาคกลางของประเทศสิงคโปร์ อยู่ติดกับอ่างเก็บน้ำมารีนา อุทยานนี้ประกอบด้วยสวนริมน้ำ 3 แห่ง ได้แก่ เบย์ เซาท์ การ์เดน, เบย์ อีสต์ การ์เดน, และเบย์ เซ็นทรัล การ์เดน สวนที่ใหญ่ที่สุดคือเบย์ เซาท์ การ์เดน มีขนาด 54 เฮกตาร์ (130 เอเคอร์) ถูกออกแบบโดยบริษัท Grant Associates นอกจากนี้ ภายในอุทยานยังมีโดมดอกไม้ (Flower Dome) เป็นเรือนกระจกแก้วที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยจุดเด่นภายในสวนแห่งนี้คือ มีทางเดินลอยฟ้า OCBC Skyway เรียกว่า Super Tree ให้ได้เดินชม โดยเสียค่าเข้าชมบนทางเดินลอยฟ้าเพียงแค่ 8 เหรียญเท่านั้น  และไฮไลท์อีกอย่างคือ การจัดแสดงแสงสีเสียงที่บริเวณ Super Tree ระหว่างเวลา 19.45 น. และ 20.45 น. ของทุกวันให้ได้ชม และถ่ายรูปภาพกันอีกด้วย 


7.ย่านถนนคนเดินไชน่าทาวน์ ( Singapore Chinatown) 

7.ย่านถนนคนเดินไชน่าทาวน์ ( Singapore Chinatown) 

7.ย่านถนนคนเดินไชน่าทาวน์ ( Singapore Chinatown) 

7.ย่านถนนคนเดินไชน่าทาวน์ ( Singapore Chinatown) 

7.ย่านถนนคนเดินไชน่าทาวน์ ( Singapore Chinatown) 

7.ย่านถนนคนเดินไชน่าทาวน์ ( Singapore Chinatown) 

7.ย่านถนนคนเดินไชน่าทาวน์ ( Singapore Chinatown) 

7.ย่านถนนคนเดินไชน่าทาวน์ ( Singapore Chinatown) 




7.ย่านถนนคนเดินไชน่าทาวน์ ( Singapore Chinatown) 

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งช็อปปิ้งที่คึกคักอีกแห่งในสิงคโปร์ เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากจุดท่องเที่ยว Merlion Park มากนัก สามารถเดินทางมาได้ด้วยรถไฟฟ้า หรือรถโดยสารสาธารณะ ย่าน Chinatown เป็นย่านท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยร้านขายสินค้าของที่ระลึก และยังมีร้านอาหารหลากหลายให้ได้เลือกทานอีกด้วย 


8.ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India)

8.ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India)

8.ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India)

8.ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India)

8.ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India)

8.ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India)




8.ย่านลิตเติ้ลอินเดีย (Little India)

จัดเป็นหนึ่งในย่านชุมชนคนอินเดียที่อพยพ ย้ายเข้ามาอยู่ในสิงคโปร์ตั้งแต่อดีต และอยู่อาศัยในย่านนี้ จนเกิดเป็นย่านการค้า มีวัฒนธรรมและมีศาสนสถานหลายแห่ง ทั้งวัดฮินดูและวัดจีน มัสยิด และโบสถ์ต่างๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานของวัฒนธรรม โดยนักเดินทางที่มาเที่ยวย่านย่าน Little India จะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในประเทศอินเดียเลย มีบ้านเรือนสไตล์โคโลเนียลสีสันสดใสตลอดสองข้างทาง มีทั้งสีฟ้า สีเขียว แดง เหลือง และยังมีร้านค้าขายผลไม้ ขายพวงมาลัยสีสันงดงามตา อีกทั้งมีร้านขายเครื่องประดับสวยงามตระการตาอีกด้วย  และหากใครที่มาถึงย่านนี้ ก็ไม่พลาดที่จะต้องแวะมาที่ วัดศรีวิรามกาลีอัมมัน ซึ่งเป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดวัดหนึ่งของสิงคโปร์ วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เจ้าแม่กาลี มีประตูทางเข้าวัดเป็นซุ้มเจดีย์ มีรูปปั้นเทพเจ้าต่างๆ  นอกจากวัดฮินดูแล้ว ยังมีมัสยิด อับดุลกาฟูร์เป็นมัสยิดเก่าแก่ที่สวยคลาสสิคให้ได้ชมอีกด้วย


9.จุดถ่ายรูปเช็คอินที่ห้องสมุด Library@Orchard Singapore ภายในห้างสรรพสินค้า  Orchardgateway

9.จุดถ่ายรูปเช็คอินที่ห้องสมุด Library@Orchard Singapore ภายในห้างสรรพสินค้า  Orchardgateway

9.จุดถ่ายรูปเช็คอินที่ห้องสมุด Library@Orchard Singapore ภายในห้างสรรพสินค้า  Orchardgateway

9.จุดถ่ายรูปเช็คอินที่ห้องสมุด Library@Orchard Singapore ภายในห้างสรรพสินค้า  Orchardgateway

9.จุดถ่ายรูปเช็คอินที่ห้องสมุด Library@Orchard Singapore ภายในห้างสรรพสินค้า  Orchardgateway

9.จุดถ่ายรูปเช็คอินที่ห้องสมุด Library@Orchard Singapore ภายในห้างสรรพสินค้า  Orchardgateway




9.จุดถ่ายรูปเช็คอินที่ห้องสมุด Library@Orchard Singapore ภายในห้างสรรพสินค้า  Orchardgateway

ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่มาแรง และกลายเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปของวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ ที่รักการการถ่ายภาพ ไม่พลาด ต้องแวะไปถ่ายภาพกันสักครั้ง โดยร้านหนังสือดังกล่าว เป็นห้องสมุด ดังกล่าวหากใครที่เข้าไปถ่ายภาพ จะต้องเบาเสียงให้มากที่สุด ห้ามเสียงดังเด็ดขาด โดยภายในห้องสมุด จะมีมุมให้ยืนถ่ายรูปภาพจากด้านบนลงไปด้านล่างได้อีกด้วย โดยภายในห้องสมุด มีการออกแบบได้อย่างทันสมัยและสวยงาม 

สำหรับการเดินทางไปถ่ายรูปเช็คอินสวยๆที่ร้านหนังสือ Library@Orchard Singapore  สามารถนั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงมาลงที่สถานี Somerset เดินขึ้นมาที่ชั้น Orchard Gateway Shopping โดยห้องสมุดอยู่ที่ชั้น 3 และ ชั้น 4 ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า


10.ถนนคนเดิน Street Art สุดชิคที่ย่านบูกิส Bugis และย่านกัมปง กีลาม(Kampong Glam)

10.ถนนคนเดิน Street Art สุดชิคที่ย่านบูกิส Bugis และย่านกัมปง กีลาม(Kampong Glam)

10.ถนนคนเดิน Street Art สุดชิคที่ย่านบูกิส Bugis และย่านกัมปง กีลาม(Kampong Glam)

10.ถนนคนเดิน Street Art สุดชิคที่ย่านบูกิส Bugis และย่านกัมปง กีลาม(Kampong Glam)

10.ถนนคนเดิน Street Art สุดชิคที่ย่านบูกิส Bugis และย่านกัมปง กีลาม(Kampong Glam)

10.ถนนคนเดิน Street Art สุดชิคที่ย่านบูกิส Bugis และย่านกัมปง กีลาม(Kampong Glam)




10.ถนนคนเดิน Street Art สุดชิคที่ย่านบูกิส Bugis และย่านกัมปง กีลาม(Kampong Glam)

โดยย่าน Bugis เป็นย่านที่อยู่ติดกันที่ปัจจุบันแยกกันไม่ค่อยออก เป็นแหล่งที่อยู่ของชาวอาหรับและชาวมลายูที่นับถือศาสนาอิสลาม บริเวณดังกล่าวมีมัสยิดสุลต่านแห่งสิงคโปร์ Sultan Mosque สถาปัตยกรรมโดดเด่นสวยงาม โดยที่ถนน กัมปง กีลาม(Kampong Glam) เป็นย่านถนน Street Art มีภาพจิตรกรรมฝาผนังสีสันสดใส และมีร้านค้า ร้านอาหาร ผับ บาร์เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่นิยมท่องราตรี ทำให้บรรยากาศช่วงกลางคืนดูคึกคัก สวนตอนกลางวัน ก็กลายเป็นถนนคนเดิน street art สุดชิค มีมุมถ่ายรูปสวยๆหลากหลายมุมให้ได้เช็คอินกัน 


11.น้ำตกจิวเวลสนามบินชางงี ที่เที่ยวเปิดใหม่แรงสุดๆ (jewel changi fountain at Changi Airport)

11.น้ำตกจิวเวลสนามบินชางงี ที่เที่ยวเปิดใหม่แรงสุดๆ (jewel changi fountain at Changi Airport)

11.น้ำตกจิวเวลสนามบินชางงี ที่เที่ยวเปิดใหม่แรงสุดๆ (jewel changi fountain at Changi Airport)

11.น้ำตกจิวเวลสนามบินชางงี ที่เที่ยวเปิดใหม่แรงสุดๆ (jewel changi fountain at Changi Airport)

11.น้ำตกจิวเวลสนามบินชางงี ที่เที่ยวเปิดใหม่แรงสุดๆ (jewel changi fountain at Changi Airport)

11.น้ำตกจิวเวลสนามบินชางงี ที่เที่ยวเปิดใหม่แรงสุดๆ (jewel changi fountain at Changi Airport)

11.น้ำตกจิวเวลสนามบินชางงี ที่เที่ยวเปิดใหม่แรงสุดๆ (jewel changi fountain at Changi Airport)





11.น้ำตกจิวเวลสนามบินชางงี ที่เที่ยวเปิดใหม่แรงสุดๆ (jewel changi fountain at Changi Airport)


จัดเป็ฺนสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ภายในสนามบินชางงี และเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ในอาคารแห่งใหม่ จีเวล ชางงี แอร์พอร์ต (Jewel Changi Airport) ภายในสร้างสวนและน้ำตกอินดอร์ The Rain Vortex ขนาด 130 ฟุต มีน้ำตกใหลจากหลังคากระจก มีความสวยงาม ตระการตา กลายเป็นหนึ่งในสนามบินที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดอีกแห่งหนึ่งก็ว่าได้  โดยอาคารน้ำตกแห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเมื่อปี 2562 และภายในอาคารนอกจากเป็นสนามบินแล้ว ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร บริเวณน้ำตกเอง ก็มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุ มีสวนลอยฟ้าให้ไปถ่ายรูป ถือว่าเป็นที่เที่ยวเปิดใหม่ ที่ต้อนรับผู้ที่เดินทางเข้ามาสิงคโปร์ และต้องถ่ายรูปภาพไว้เป็นที่ระลึกกันแทบทุกคน 


12.สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studio of Singapore) 

12.สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studio of Singapore) 

12.สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studio of Singapore) 

12.สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studio of Singapore) 

12.สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studio of Singapore) 

12.สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studio of Singapore) 




12.สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studio of Singapore) 

หากเอ่ยถึงสวนสนุกระดับโลกที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองไทยมากนัก คงต้องนึกถึงสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ อย่างแน่นอน เพราะเป็นสวนสนุกที่มีเครื่องเล่นมากที่สุดใน ASEAN ที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่น การแสดงรวมถึงร้านค้าของที่ระลึกจากตัวละครในภาพยนตร์ของค่าย Universal Studios มากมายภายใน Universal Studios Singapore แบ่งออกเป็น 7 โซนให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในสวนได้ต่อคิวรอเล่นเครื่องเล่นแต่ละชนิดได้อย่างสนุกสนานเร้าใจ โดยสวนยูนิเวอร์แซล เป็นหนึ่งในสวนสนุกสำหรับครอบครัวที่พาเด็กมาเที่ยวได้อย่างเพลิดเพลิน และโซนโดดเด่น อย่างปราสาทเจ้าหญิงเจ้าชาย หรือโซน Far Far Away ดินแดนอันแสนมหัศจรรย์ของ Shrek ก็เป็นหนึ่งเครื่องเล่นที่เด็กๆสามารถสนุกไปกับรถไฟเหาะมังกรไฟขนาดเล็ก ที่พาเหอะเหินได้อย่างเร้าใจด้วย 

สำหรับค่าเข้าไปในสวนสนุก Universal Studio ราคา ณ ปัจจุบันเมื่อปี 2565 ซื้อที่เคาว์เตอร์อยู่ที่ 81 เหรียญ สามารถเล่นเครื่องเล่นได้ทุกอย่าง แต่อาจจะต้องรอคิวนาน เพราะมีนักท่องเที่ยวต่อคิวรอเครื่องเล่นนานมากๆเช่นกัน  ในส่วนของการเดินทางไปยังสวนสนุก Universal Studio of Singapore ตั้งอยู่ที่เกาะเซนโตซ่า สามารถเดินทางด้วยรถไฟลอยฟ้า เดินตามเส้นทาง Skywalk หรือนั่งกระเช้าลอยฟ้ามาที่เกาะเซนโตซ่าได้อย่างสะดวกสบาย



กลับจากพาหลานๆไปเที่ยวสวนสนุก Universal Studio ทางหลานๆ อยากลองกินอาหารอินเดียดูบ้าง  หากินใกล้ๆที่พัก สะดวกดีค่ะ 


หลังจากพาหลานๆไปเที่ยวสวนสนุก Universal Studio อย่างสนุกสนาน ก็เดินทางกลับมาหาอะไรทานที่ย่านเกลังอีกเหมือนเดิมค่ะ หากินใกล้ๆที่พัก สะดวกดีค่ะ 

 อย่างเมนูนี้เดี๊ยนสั่งเป็นข้าวผัดอินโน เรียกว่า นาซีโกเรง Nasi Goreng 

โดยหลานๆอยากลองทานอาหารอินเดียดูบ้าง ซึ่งในย่านเกลัง มีร้านอาหารอินเดียให้เลือกทานเยอะมากๆ ซึ่งบางร้านก็มีเมนูอาหารไทย และอาหารอินโดนีเซียให้เลือกทานด้วย อย่างเมนูนี้เดี๊ยนสั่งเป็นข้าวผัดอินโน เรียกว่า นาซีโกเรง Nasi Goreng 
 

แวะลิ้มลองเมนูอาหารอินเดียในสิงคโปร์ ก่อนเดินทางกลับเมือไทย

ส่วนเมนูนี้เป็นอาหารอินเดีย มีแป้งโรตีบางๆเอาไปย่างหรืออบให้เกรียมสักเล็กน้อย  ทานกับน้ำแกงและไก่ย่างขมิ้น มีซอสทานคู่กัน หลานๆบอกว่าพึ่งเคยทาน อร่อยดีค่ะ ออกไปทานหวานๆ เหมือนทานแกงกะหรี่เลย 

เมนูอาหารอินเดียในสิงคโปร์ 

โดยเมนูไก่ย่างที่นี่ ก็ย่างจนไหม้เกรียมไปเลยล่ะค่ะ ทานคู่กับน้ำจิมสีเขียว เดี๊ยนจำไม่ได้แล้วเรียกว่าอะไร เวลาจะทานก็ตองเอาที่ไหม้ๆเกรียมๆออกให้หมดเสียก่อน ทานคู่กับหอมแดงซอย อร่อยดีค่ะ 



ทางหลานสาวก็มาบอกเดี๊ยนว่า ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ๆในการรับประทานอาหารในต่างแดน อย่างสิงคโปร์ที่มีอาหารหลากหลาย ส่วนใหญ่อาหารสิงคโปร์นั้นจะออกไปทางจีน และอินเดีย ซึ่งวัฒนธรรมอาหารแตกต่างกันมาก แต่ก็อยู่ด้วยกันอย่างลงตัว 


แวะซื้อของฝากขึ้นชื่อของประเทศสิงคโปร์สักหน่อยค่ะ หนังปลากรอบได้กลายเป็นของฝากที่ต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้าน 
 

ก่อนกลับเข้าห้องพักโรงแรมก็แวะซื้อของฝากขึ้นชื่อของประเทศสิงคโปร์สักหน่อยค่ะ 
โดยหนังปลากรอบได้กลายเป็นของฝากที่ต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้าน 


ส่วนหลานๆของเดี๊ยนก็พากันซื้อขนม นมเนย ที่ไม่ค่อยเห็นมีขายในเมืองไทย ไปฝากเด็กๆหลานๆตัวเล็กที่บ้านอีกที 

นั่งรถที่อาคารผู้โดยสารขาออกสนามบินชางงี terminal 1

หลังจากที่ได้เดินทางมาเที่ยวสิงคโปร์ หมดค่าใช้จ่ายไปบานเบิกแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกลับไทยแล้วค่ะ 


โดยตอนขากลับนั้น ก็มาขึ้นเครื่องบินขาออกที่อาคารหมายเลข 1 เหมือนเดิมค่ะ 


เวลาประมาณ 15.00 น.ก็นั่งเครื่องบินออกจากประเทศสิงคโปร์ ถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพค่ะ


เวลาบ่าย 3 โมงตามเวลาในสิงคโปร์ นั่งเครื่องบินออกจากสนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์โดยสวัสดิภาพ เป็นอันจบทริปโปรแกรมเปิดประเทศไปเที่ยวสิงคโปร์ในปี 2565 ไปเที่ยวกับหลานๆ สนุกสนาน บานใจ แบบเม้ามอยไปอย่างเฮฮาจ้า 


สรุปค่าใช้จ่ายในการเที่ยวสิงคโปร์ล่าสุด พยายามเที่ยวให้ถูกที่สุด แต่สรุปออกก็แพงอยู่ดีค่ะ 

ค่าห้องพักที่โรงแรม Ibis Budget Singapore Ruby คืนละ 2,410 บาท 3 คืน = 7,230 บาท 
ค่าเครื่องบินไปกลับ 3,575 บาท 
ค่าบัตร Ez link  12 เหรียญ = 300 บาท 
ค่าซิมอินเตอร์เน็ต 8 เหรียญ = 200 บาท 
ค่าเติมเงินในบัตร Ez link ไว้เดินทางรถไฟฟ้าทั้ง 4 วัน รวม 500 บาท 
ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ 15 เหรียญ = 375 บาท 
ค่าเข้าชมสวนการ์เด้นบายเดอะเบย์ 8 เหรียญ = 200 บาท 
ค่าตั๋วบัตรเข้าสวนสนุก Universal Studio 81 เหรียญ = 2,025 บาท (ซื้อที่เคาว์เตอร์ขายตั๋วเลย)
ค่าอาหารการกิน 4 วันแบบไม่อดอยาก ประมาณ 1,873 บาท  ไม่รวมของฝากนะคะ

สรุปค่าเสียหายทั้งหมดจากทริปเที่ยวสิงคโปร์ปี 2565 กับหลานสาวรวม = 16,278 บาทค่ะ ตั้งงบไว้ไม่เกินหมื่นสอง เกินงบที่ตั้งไว้ 4,000 บาท 




สำหรับบทความบล็อกรีวิวเที่ยวสิงคโปร์ที่เขียนไว้ในบทความนี้ น่าจะมีประโยชน์ต่อคุณผู้อ่านทุกๆคนอยู่ไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆคน ที่แวะเวียนเข้ามาเปิดสไลด์อ่านดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้งในบทความถัดไป......จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน 

----------------------------------------------------------------------------

บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ


แบ่งปันรีวิวย้อนวันวานพาไปเที่ยวชมบ้านสมอเรียงในอดีต แสนหอมหวาน>>>

รีวิวพาไปย้อนวันวานเที่ยวบ้านสมอเรียง ชุมชนเก่าริมทะเล ทานหอยเสียบมะละกอเก๋ๆ อาหารพื้นบ้านที่ทานได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น ตามไปเที่ยวชมกันดู คลิ๊กดูบทความรีวิวและการเดินทางค่ะ>>>


มาม๊ะ..มาย้อนวันวานเที่ยวชะอำอีกครั้งหลังโควิด-19 คลี่คลาย ไปเที่ยวใหนบ้าง>>

เก็บตก..มาม๊ะมารีวิวย้อนวันวานเที่ยวชะอำอีกครั้งหลังโควิด-19 มีที่เที่ยวแพรวพราวที่ใหน ให้แวะไปเช็คอินถ่ายภาพบ้าง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>>


แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองตราดอีกครั้งในปี 2565 ถ่ายรูปลั๊ลลาตามที่เที่ยวต่างๆ>>

เก็บตกรีวิวเที่ยวเมืองตราดอีกครั้งในปี 2565 มีที่เที่ยวเปิดใหม่ที่ใหนบ้างหนา ตามไปลั๊ลลาเช็คอินถ่ายรูปกันได้เลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>


รีวิวเที่ยวเกาะช้าง 3 วัน 2 คืน ไม่มีรถส่วนตัว นั่งรถทัวร์ไปกับหลานสาว>>>

แบ่งปันทริปเที่ยวเกาะช้างล่าสุดปี 2022 ไม่มีรถส่วนตัว นั่งรถทัวร์ ต่อสองแถวไปเที่ยวกับหลานสาว แวะไปเที่ยวที่ใหนบ้าง พร้อมสรุปค่าใช้จ่าย ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>


แบ่งปันรีวิวทริปเที่ยวลำพูน เมืองเล็กๆเก่าแก่โบราณ ต้องไปเช็กอินกัน>>>

เก็บตกทริปเที่ยวเมืองรอง เดินทอดน่องท่องเมืองลำพูน เมืองเล็กๆน่ารักเก่าแก่โบราณ มีสถานที่ให้แวะไปยลตระการหลายแห่ง มีที่ใหนบ้างนั้น ตามไปกันเลยค่ะ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>


ทริปรีวิวเที่ยวลำปางในมุมมองใหม่ๆ ไหว้พระใหญ่สไตล์ญีุ่่น คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

แบ่งปันรีวิวเที่ยวลำปางล่าสุดในมุมใหม่ๆ ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ งามระทึกเจดีย์บนดอยสูงเสียดฟ้า มีสถานที่ท่องเที่ยวถ่ายรูปเช็กอินที่ใหนบ้าง ตามไปชมกัน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>


ฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลงสากลวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ มีเพลงอะไรบ้าง>>

แบ่งปันคำอวยพรวันคริสต์มาส และบทเพลงฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลงสากลในวันขึ้นปีใหม่ พร้อมความหมาย ที่ร้องกันได้อย่างเพลิดเพลินใจ มีเพลงอะไรบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>


ล่าสุดรีวิวเที่ยวเกาะสิมิลันในราคา 1,350 บาท ไปเที่ยวเกาะใหนบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

เก็บตก รีวิวเที่ยวเกาะสิมิลันล่าสุด ในราคา 1,350 บาท ไปเที่ยวดำน้ำเกาะใหนบ้าง และทางทัวร์มีบริการอะไรอีกบ้าง ตามไปดูกันจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>


แบ่งปันรีวิวเช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวภูเก็ต มีที่เที่ยวเด็ดอะไรบ้าง ตามไปดูกันค่ะ>>

มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเกาะภูเก็ต นั่งกินอาหารพื้นเมืองรสเด็ด ระเหินระเห็ด เช็กอินชมทะเลสวยๆ รุ่มระรวยด้วยที่เที่ยวมากมาย มิวายต้องไปถ่ายภาพกันสักครา คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>


ไปรีวิวเที่ยวพังงา-ตะกั่วป่า ที่ใครมาก็ต้องไปเช็กอินกัน มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

มาม๊ะ..มารีวิวเช่ารถขับเที่ยวพังงา-เขาหลัก-ตะกั่วป่า ชื่นอุราชมเมืองเก่า คลอเคล้าทะเลสวย รุ่มระรวยด้วยสถานที่ท่องเที่ยวงดงาม ต้องตามไปเช็กอินกัน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>> 


เที่ยวเมืองกาจญน์ตอนจบ แวะไปซบกลิ่นอายสังขละบุรี คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>>

เก็บตกเที่ยวกาญจน์ตอนจบ แวะไปซบกลิ่นอายสังขละบุรี นั่งเรือฉิมพลีชมเมืองบาดาล ยลตระการธรรมชาติงดงาม ต้องไปเที่ยวตามชมกัน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>


แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองกาญจน์ตอนที่ 2 ท่องแดนดินถิ่นน้ำตกสวย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

แบ่งปันทริปรีวิวเช่ารถขับเที่ยวเมืองกาญจน์ตอนที่ 2 ท่องแดนดินถิ่นน้ำตกสวย รุ่มระรวยด้วยธรรมชาติงดงาม มีที่เที่ยวใหนต้องแวะไปเช็กอินบ้าง ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงนะ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>


รีวิวเที่ยวเมืองกาญจน์ ย้อนวันวานชมเมืองประวัติศาสตร์สงครามโลก คลิ๊กดูรีวิว>>

มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองกาญจนบุรี นั่งรถไฟฉิมพลี ย้อนวันวานอีกสักครั้งครา ในตัวเมือง มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรบ้างหนา ตามไปลั๊ลลาเช็กอินกัน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>


รีวิวพาไปเที่ยวเมืองบรูซ เมืองเมรดกโลกสวยโรแมนติก มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกัน>>>

เก็บตกท่องโลกกว้าง รีวิวเดินทางไปเที่ยวเมืองบรูซ เมืองแห่งสายน้ำสวยงามโรแมนติก ที่เหล่าคู่รักสายชิคต้องมาเช็กอินกัน มีที่เที่ยวที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวค่ะ>>>


เก็บตก รีวิวแบกเมืองเมืองนามูร์ มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกัน>>

แปลกถิ่นรีวิวเที่ยวทิพย์ แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวเมืองนามูร์ เมืองเก่าแก่ติดริมแม่น้ำในแดนช็อกโกแลต มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกัน คลิ๊กรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

จัดทริปเก็บตกแบกเป้เที่ยวเมืองพัทยา มีที่ใหนเปิดให้ชมบ้าง ตามไปดูกันค่ะ>>

เก็บตกรีวิวเที่ยวเมืองพัทยาอีกสักครั้งครา มีที่ใหนเปิดให้ชมบ้าหนา ตามไปลั๊ลลาแวะถ่ายรูปภาพกันได้เลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

จัดทริปแบกเป้ไปเที่ยวเปิดเกาะล้าน หลังจากปิดไปนาน ไปดูสิว่าเป็นอย่างไรบ้าง>>

แบ่งปันรีวิวไปเที่ยวช่วงเปิดเกาะล้าน หลังจากปิดไปนาน ย้อนวันวาน ชมทะเลสวยหวาน น้ำสดใส เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง ตามไปดูกัน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

เก็บตกเที่ยวทิพย์ ทริป 1 วันสั้นๆ นั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองเฮลซิงเงอร์ คลิ๊กดูที่เที่ยว>>

เที่ยวทิยพ์..ทริปสั้นๆเก็บตก 1 วัน นั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองเฮลซิงเงอร์ เมืองเล็กๆน่ารักติดริมชายทะเล มีมุมถ่ายรูปสวยๆเก๋ๆด้วยนะ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

แบ่งปันรีวิวเที่ยวบึงกาฬ แวะเริงสำราญที่เที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปดูกันค่ะ>>>

เก็บตกแบกเป้รีวิวเที่ยวบึงกาฬ เช่ารถมอเตอร์ไซต์ไปสำราญชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

จัดทริปลุยเดี่ยวไปรีวิวเที่ยวถ้ำนาคา ไม่มีรถส่วนตัวก็ไปได้ คลิ๊กดูบทความที่เที่ยวค่ะ>>

แบ่งปันรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวถ้ำนาคา ไม่มีรถส่วนตัว แวะไปรื่นระรัวทัวร์ได้อย่างสบายอุรา มีที่ใหนบ้างหนา ตามไปลั๊ลลากันเลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

แบ่งปันเด้อกับทริปเช่ารถขับเที่ยวสกลนคร มีที่ใหนน่าไปออนซอนบ้าง คลิ๊กดูรีวิว>>

มาเด้อ..แบกเป้มารีวิวเที่ยวสกลนคร แวะไปออนซอนเช็กอินตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งดูกันจ้า คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

ตอนจบทริปรีวิวแบกเป้เที่ยวกรุงโคเปนเฮเกน ในเดนมาร์ก มีที่เที่ยวอะไรบ้าง>>>

ตอนจบกับรีวิวแบกเป้เที่ยวกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงแห่งเดนมาร์ก มีที่เที่ยวอะไรให้แวะเช็กอินถ่ายภาพอะไรบ้าง ตามไปดูกันค่ะ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

เก็บตกรีวิวแบกเป้ลุยเดี่ยวแวะเที่ยวเมืองคอเลง เมืองเล็กๆน่ารัก ตามไปดูกันจ้า>>

รีวิวแบกเป้เดินทางไกล แวะไปเที่ยวเมืองคอเลง เมืองเล็กๆน่ารัก ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน มีที่เที่ยวอะไรบ้างนั้น ตามไปชมกันค่ คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>

แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองสตูล เมืองน่าอยู่ เดินดูภาพ street Art ตามไปเที่ยวกันค่ะ>>

มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเมืองสตูล เมืองเล็กๆน่าอยู่ เดินเช็กอินดูภาพ street art มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรอีกบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ คลิ๊กดูภาพรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น