 |
| จัดทริปเที่ยวไทยวันนี้ เพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอพาไปรีวิวเที่ยวชะอำย้อนวันวานอีกครั้ง ไปดูสิว่าในเมืองพักตากอากาศแห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ใหนบ้าง ตามไปเช็คอินกันเลยจ้า |
สวัสดีทักทายคุณผู้อ่านทุกคนๆ และเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจทุกๆคนค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ กับบทความบล็อกรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือน ที่จะพาเพื่อนไปเที่ยวกัน และเดือนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงหน้าร้อน เดี๊ยนคุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ก็เลยขอจัดทริปไปย้อนวันวานเที่ยวทะเลชะอำ-หัวหินอีกครั้ง หลังจากไม่ได้ไปเที่ยวนานมากๆเลยนะคะ
หากจะเท้าความไปในช่วงที่เดี๊ยนเริ่มเขียนทความรีวิวท่องเที่ยวแรกๆในบล็อกนี้ ก็คงต้องยกให้รีวิวเที่ยวชะอำ-หัวหินนี้แหละค่ะ เพราะช่วงนี้จำได้ว่าจัดโปรแกรมทัวร์กับบริษัทมาเที่ยวชะอำ-หัวหิน-ปราณบุรี เมื่อปี 2558 จนมาบัดนี้ก็ล่วงเลยมานานหลายปีเลยล่ะค่ะ เดือนนี้เดี๊ยนเลยขอมาเก็บตกรีวิวเที่ยวย้อนวันวานที่หาดชะอำอีกครั้ง แต่ก่อนที่จะไปดูรีวิวแหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่ในอำเภอชะอำ เรามารู้จักความเป็นมาของอำเภอชะอำก่อนเล็กน้อย มาดูสิว่าชะอำแห่งนี้ แต่เดิมทีนั้น มีที่มาอย่างไร
 |
| สาระน่ารู้เกี่ยวกับอำเภอชะอำ ที่ใครหลายๆคนอาจไม่รู้มาก่อน (About Cha-Am) |
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอำเภอชะอำ ที่ใครหลายๆคนอาจไม่รู้มาก่อน (About Cha-Am)
สำหรับ ชะอำ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันในจังหวัดเพชรบุรี เป็นชายหาดติดทะเลฝั่งอ่าวไทย แต่เดิม ชะอำ เป็นเพียงตำบลหนึ่ง ขึ้นอยู่กับอำเภอหนองจอก แต่ภายหลังที่หัวหินมีชื่อเสียง ที่ดินแถบชายทะเลถูกจับจองหมด พวกเจ้านายชั้นผู้ใหญ่สมัยนั้น จึงพยายามหาสถานที่พักผ่อนแห่งใหม่ โดยการนำของ สมเด็จกรมพระยานราธิปประพันธ์พงศ์ และได้พบว่า หาดชะอำ เป็นชายหาดที่สวยงามไม่แพ้หัวหิน ชะอำ จึงเริ่มเป็นที่รู้จักตั้งแต่นั้นมา ชะอำ ได้รับการพัฒนาเจริญเติบโตขึ้น และได้ย้ายที่ว่าการอำเภอหนองจอก มาตั้งที่ตำบลชะอำ และเปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอชะอำ
 |
| แต่เดิมชะอำมีชื่อว่า "ชะอาน" เล่ากันว่าเมื่อครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรยกทัพมาทางใต้ ทรงนำทัพมาเมืองนี้เพื่อพักกำลังไพร่พลช้างม้า และล้างอานม้า ซึ่งได้ชื่อว่า "ชะอาน" ต่อมาเพี้ยนเป็น "ชะอำ" |
แต่เดิมชะอำมีชื่อว่า "ชะอาน" เล่ากันว่าเมื่อครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรยกทัพมาทางใต้ ทรงนำทัพมาเมืองนี้เพื่อพักกำลังไพร่พลช้างม้า และล้างอานม้า ซึ่งได้ชื่อว่า "ชะอาน" ต่อมาเพี้ยนเป็น "ชะอำ"และเรียกชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน
 |
| พระองค์จึงได้รับสั่งให้ย้ายการก่อสร้างมาทางทิศใต้ของชายฝั่งเพชรบุรี ณ หาดชะอำ เพื่อก่อสร้างพระราชวังฤดูร้อน ที่ก่อสร้างด้วยไม้สัก ทั้งองค์พระตำหนัก พระราชทานนามพระราชวังแห่งนี้ ว่า พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน |
โดยในช่วงรัฐสมัยของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงโปรดปรานเมืองเพชรบุรีมาก จนได้ให้มีการสร้างค่ายหลวงบางทะลุ ณ ที่ หาดเจ้าสำราญ อำเภอเมืองเพชรบุรี แต่ที่ตำบลบางทะลุแมลงวันชุกชุม พระองค์จึงได้รับสั่งให้ย้ายการก่อสร้างมาทางทิศใต้ของชายฝั่งเพชรบุรี ณ หาดชะอำ เพื่อก่อสร้างพระราชวังฤดูร้อน ที่ก่อสร้างด้วยไม้สัก ทั้งองค์พระตำหนัก และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานนามพระราชวังแห่งนี้ ว่า พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน โดยพระราชวังแห่งนี้จะยื่นออกไปยังทะเล ตั้งแต่นั้นมาชายหาดชะอำก็ได้เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงลำดับต้นๆของสถานที่ท่องเที่ยงของประเทศไทย ตลอดมา
 |
| ในสมัยสงครามเอเชียบูรพา ครั้งนั้นกระทรวงมหาดไทยย้ายอำเภอหนองจอกมาตั้งที่ ตำบลชะอำ และเปลี่ยนชื่อ อำเภอหนองจอก เป็น อำเภอชะอำในปัจจุบัน |
ซึ่งอดีตมีความเจริญด้านการท่องเที่ยว ตั้งแต่เริ่มมีเส้นทางคมนาคมทางรถไฟ พ.ศ.2459 แต่เดิมนั้น ชะอำ เป็นตำบลในเขตการปกครองของ อำเภอนายาง เมื่อ อำเภอนายางได้เปลี่ยนชื่อเป็น อำเภอหนองจอก ในสมัยสงครามเอเชียบูรพา ครั้งนั้นกระทรวงมหาดไทยย้ายอำเภอหนองจอกมาตั้งที่ ตำบลชะอำ และเปลี่ยนชื่อ อำเภอหนองจอก เป็น อำเภอชะอำในปัจจุบัน ตำบลชะอำจึงอยู่ในเขตอำเภอชะอำตั้งแต่ พ.ศ.2487 เป็นต้นมา ปัจจุบันนี้ ตำบลชะอำอยู่ในเขตการปกครองของเทศบาล ตำบลชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
 |
| ชะอำ ได้รับการพัฒนาเจริญเติบโตขึ้น และยกฐานะเป็น อำเภอชะอำ จนในปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทยได้จัดขบวนการรถไฟพิเศษนำ เที่ยว กรุงเทพฯ - ชะอำ ทุกวันหยุด |
จากนั้น ชะอำ ได้รับการพัฒนาเจริญเติบโตขึ้น และยกฐานะเป็น อำเภอชะอำ จนในปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทยได้จัดขบวนการรถไฟพิเศษนำ เที่ยว กรุงเทพฯ - ชะอำ ทุกวันหยุด และยังมีสถานที่พักบน หาดชะอำ มีทั้งโรงแรมมาตรฐาน, เกสต์เฮ้าส์, รีสอร์ท, โรงแรมขนาดเล็ก, บูติกรีสอร์ท, บังกะโล, บ้านพักตากอากาศส่วนตัวเป็นหลัง โรงแรมสไตล์บูติกโฮเต็ล ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจะอยู่ริมทะเล และอาจจะมีบางส่วนที่อยู่ห่างออกมาแต่มองเห็นทะเล โดยมากแล้วก็จะไม่ไกลจากชายหาดซักเท่าไรและใช้เวลาเดินเพียง 4-5 นาที หรืออาจน้อยกว่านั้น ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไปตามมาตรฐานของโรงแรมแต่ละแห่ง
 |
| จากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของนักท่องเที่ยว ทำให้บริการด้านการท่องเที่ยวรวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ของจังหวัดเพชรบุรีพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว |
และจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของนักท่องเที่ยว ทำให้บริการด้านการท่องเที่ยวรวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ของจังหวัดเพชรบุรีพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น ถนน ไฟฟ้า ร้านขายอาหาร ที่พักแรม ฯลฯ อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างที่พักตากอากาศ การขายอาหาร ตลอดจนการบริการด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องธุรกิจท่องเที่ยว มีส่วนชักนำให้เกิดการบุกรุก จนทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม สังคม วัฒนธรรม รวมทั้งความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของประชากรด้วย (เครดิตข้อมูล: https://th.wikipedia.org/wiki/อำเภอชะอำ)
และหลังจากได้อ่านข้อมูลน่ารู้เล็กๆน้อยเกี่ยวกับเมืองชะอำกันไปแล้ว ต่อไปก็มาดูรีวิวท่องเที่ยวชะอำในวันหยุดสั้นๆกันต่อเลยค่ะ
 |
| เริ่มการเดินทางไปเที่ยวชะอำทริปนี้ เดี๊ยนเลือกนั่งรถตู้โดยสารจากสถานีขนส่งหมอชิต |
เริ่มการเดินทางไปเที่ยวชะอำทริปนี้ เดี๊ยนเลือกนั่งรถตู้โดยสารจากสถานีขนส่งหมอชิตค่ะ
เดินเข้ามาด้านในบริเวณจุดขายตั๋ว หูเหยือกแก้วแทบแตกเลยค่ะ เพราะคนขายตะเบ่งเสียงพร้อมกันแรงมากๆ ว่าจะไปใหน
 |
| ค่าเสียหายของค่าโดยสารไปหาดชะอำอยู่ที่ 160 บาทค่ะ |
ส่วนค่าเสียหายของค่าโดยสารไปหาดชะอำอยู่ที่ 160 บาทค่ะ
 |
| เป็นแบบมินิบัส จำได้ว่าเคยนั่งเป็นรถตู้เล็กๆ แต่เดี่ยวนี้ปรับเปลี่ยนมาเป็นรถ Minibus กันหมดแล้ว |
ซึ่งรถตู้ที่จะเดินทางไปหาดชะอำ ก็ไม่ใช่รถตู้คันเล็กๆนะคะ แต่เป็นแบบมินิบัส จำได้ว่าเคยนั่งเป็นรถตู้เล็กๆ แต่เดี่ยวนี้ปรับเปลี่ยนมาเป็นรถ Minibus กันหมดแล้ว
 |
| โดยรถตู้จะจอดให้ลงบริเวณสี่แยกไปหาดชะอำ |
ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 3 ชั่วก็มาถึงชะอำแล้วค่ะ โดยรถตู้จะจอดให้ลงบริเวณสี่แยกไปหาดชะอำ
 |
| นั่งรถวินมอเตอร์ไซต์จากสี่แยกชะอำ เข้าที่โรงแรมค่ะ โดยจากสี่แยกถนนเพชรเกษม มาชายหาดชะอำประมาณ 2 กิโลเมตร |
จากนั้นก็นั่งรถวินมอเตอร์ไซต์จากสี่แยกชะอำ เข้าที่โรงแรมค่ะ โดยจากสี่แยกถนนเพชรเกษม มาชายหาดชะอำประมาณ 2 กิโลเมตร
 |
| ยโรงแรมอยู่ติดถนนเลียบชายหาดเลยค่ะ บรรยากาศในวันหยุด คนไม่ค่อยเยอะมากนัก ดูไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ไหร่นัก |
โดยโรงแรมอยู่ติดถนนเลียบชายหาดเลยค่ะ บรรยากาศในวันหยุด คนไม่ค่อยเยอะมากนัก ดูไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ไหร่นัก เนืองจากว่าเริ่มเข้าฤดูฝนแล้ว
บริเวณชายหาดมีเตียงผ้าใบและร่มกางไว้รองนักท่องเที่ยวมาใช้อยู่
 |
| และอีกอย่างมีการปรับปรุงก่อสร้างกำแพงกันคลื่นชายหาดชะอำด้วย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ เลยไม่ค่อยเยอะมากนัก |
แต่ดูแล้วน่าจะหงอยเหงาพอสมควร พอลมทะเลมรสุมพึ่งจะพัดผ่านไป และอีกอย่างมีการปรับปรุงก่อสร้างกำแพงกันคลื่นชายหาดชะอำด้วย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ เลยไม่ค่อยเยอะมากนัก
 |
| มาเที่ยวชะอำครั้งนี้ เดี๊ยนเลือกพักโรงแรมไอรินทร์ บีช ชะอำ โรงแรมเล็กๆหาไม่ยาก อยู่ติดถนนเลียบชายหาดชะอำ |
และโรงแรมที่เดี๊ยนเลือกพักทริปนี้ ก็พักแบบง่ายๆ สบายๆ ไม่ต้องหรูหรามาก เลยเลือกพักโรงแรมไอรินทร์ บีช ชะอำ โรงแรมเล็กๆหาไม่ยาก อยู่ติดถนนเลียบชายหาดชะอำ ใกล้กับโรงแรมมีเซ่เว่น และมีร้านอาหาร ขายเครื่องดื่มอยู่หลายร้านเลยค่ะ
 |
| รงแรมไม่ใหญ่มาก แต่มีสระว่ายน้ำเล็กๆให้ด้วย น่าจะเหมาะกับครอบครัวพาเด็กมาเล่นน้ำได้ |
ซึ่งเป็นโรงแรมไม่ใหญ่มาก แต่มีสระว่ายน้ำเล็กๆให้ด้วย น่าจะเหมาะกับครอบครัวพาเด็กมาเล่นน้ำได้ โดยสระว่ายน้ำอยู่ด้านหลังโรงแรมค่ะ
 |
| ห้องพักเป็นห้อง Standard Double Room มีระเบียงให้ด้วย ราคาห้องพักคืนละ 800 บาท |
ในส่วนของห้องพักเป็นห้อง Standard Double Room มีระเบียงให้ด้วย ราคาห้องพักคืนละ 800 บาท เดี๊ยนเลือกเอาแบบไม่รวมอาหารเช้าค่ะ โดยขนาดห้องพักเล็กกะทัดรัดดีค่ะ
ระเบียงห้องพักกว้างขวางดีค่ะ ไม่อึดอัดหรือคับแคบจนเกินไป ออกไปรับลมได้ แต่เสียดายไม่เห็นวิวทะเลนะคะ เพราะถ้าห้องวิวทะเล จะเป็นอีกราคานึงแพงกว่าห้องพักธรรมดาค่ะ
 |
| ห้องพักน้ำก็สะอาดสะอ้านดีค่ะ |
ส่วนห้องพักน้ำก็สะอาดสะอ้านดีค่ะ ภายในห้องน้ำมีสบู่ แชมพู และหมวกคลุมผมอาบน้ำให้
ขนาดห้องน้ำไม่เล็กเกินไป แต่ไม่มีพัดลมระบายอากาศค่ะ แต่มี อุปกรณ์ตรวจจับควัน (Smoke Detector) ภายในห้องน้ำด้วย เผื่อใครแอบสูบบุหรี่ในห้องน้ำ รับรองว่าเสียงดังแน่นอน
 |
แต่เครื่องปรับอากาศไม่สามารถปรับให้สวิงได้ น่าจะเสียค่ะ อันนี้ได้แจ้งทางโรงแรมไปแล้ว
|
สิ่งอำนวยความสะดวกของห้องพักก็มี ทีวี ตู้เย็น กาต้มน้ำร้อน น้ำดื่มฟรี ตู้เย็น แต่เครื่องปรับอากาศไม่สามารถปรับให้สวิงได้ น่าจะเสียค่ะ อันนี้ได้แจ้งทางโรงแรมไปแล้ว
สภาพโดยรวมของห้องพักถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ตู้เสื้อผ้าน่าจะใช้งานหนักมาก มีรอยขีดข่วนไปบ้าง สำหรับเพื่อนๆคนใหนที่วางแผนมาเที่ยวและมองหาโรงแรมติดเลียบหาดชะอำ ก็ลองนำโรงแรมไอรินทร์บีชชะอำไปตัดสินใจเลือกพักกันดูนะคะ
 |
| ในเมื่อไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ก็ต้องไปเช่ารถมอเตอร์ไซต์ค่ะ โดยแถวชายหาดชะอำ มีร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์อยู่หลายร้าน |
หลังจากที่ทำการเช็คอิน นำกระเป๋าไปไว้ที่ห้องพักของโรงแรมแล้ว แน่นอนว่าจะเดินทางไปถ่ายรูปภาพสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ในชะอำ ในเมื่อไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ก็ต้องไปเช่ารถมอเตอร์ไซต์ค่ะ โดยแถวชายหาดชะอำ มีร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์อยู่หลายร้าน ซึ่งใกล้ๆกับโรงแรมไอรินทร์บีช ชะอำ มีร้านเช่ามอเตอร์ไซต์อยู่ในซอย Bus Station เป็นร้านเช่าที่อยู่ตรงข้ามท่ารถตู้พอดี
 |
| ร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ชื่อว่า Cha Am Rental เบอร์โทรร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ชะอำ 087-0572035 (เผื่อเพื่อนๆคนใหนไม่มีรถส่วนตัวมาเที่ยวชะอำ ก็โทรสอบถามราคาก่อนเช่าได้ค่ะ) |
โดยร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ชื่อว่า Cha Am Rental เบอร์โทรร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ชะอำ 087-0572035 (เผื่อเพื่อนๆคนใหนไม่มีรถส่วนตัวมาเที่ยวชะอำ ก็โทรสอบถามราคาก่อนเช่าได้ค่ะ)
มีมอเตอร์ไซต์ให้เช่าอยู่หลากหลายรุ่น
ราคาค่าเช่ารถตกวันละ 200 บาทค่ะ
โชคดีวันที่เดี๊ยนไป ทางร้านบอกว่าไม่ต้องจ่ายค่ามัดจำค่ะ ปกติทางร้านจะคิดค่ามัดจำ 2000 บาท
ด้วยเดี๊ยนเช่าไม่นาน แค่ 2 วัน ก็ 400 บาท
ทางร้านจะยึดบัตร ปปช เราไว้ แต่เราต้องมีใบขับขี่มอเตอร์ไซต์ไว้แทนนะคะ เผื่อตำรวจเรียกตรวจ
 |
| น้องแมวเหมียวกำลังเข้าฌาณทำสมาธิอยู่ด้วย นางหลับปุ๋ยไปเลย |
มีน้องแมวเหมียวกำลังเข้าฌาณทำสมาธิอยู่ด้วย นางหลับปุ๋ยไปเลย
 |
| ได้รถมอเตอร์ไซต์ไว้เช่าแล้ว ก็ออกไปตะลุยเช็คอินถ่ายรูปสถานที่ท่องเที่ยวชะอำได้เลย |
ได้รถมอเตอร์ไซต์ไว้เช่าแล้ว ก็ออกไปตะลุยเที่ยวชะอำได้เลย ไม่ได้มาเที่ยวนานมากๆ ไปย้อนวันวานกันค่ะ และไปดูด้วยว่าใกล้ๆกับชายหาดชะอำ มีสถานที่ท่องเที่ยวและจุดเช็คอินให้ไปถ่ายรูปที่ใหนบ้าง
วันนี้เดี๊ยนเลยขอมาสรุปแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในอำเภอชะอำ มาให้ดูกันดังนี้ค่ะ
 |
| 1.ตลาดวิถีประมงพื้นบ้านปูชัก-สะพานยก หรือ สะพานปลา อาหารทะเลสดๆของชะอำ ( Cha-am Fishing pier |
 |
| 1.ตลาดวิถีประมงพื้นบ้านปูชัก-สะพานยก หรือ สะพานปลา อาหารทะเลสดๆของชะอำ ( Cha-am Fishing pier) |
 |
| 1.ตลาดวิถีประมงพื้นบ้านปูชัก-สะพานยก หรือ สะพานปลา อาหารทะเลสดๆของชะอำ (Cha-am Fishing pier ) |
 |
| 1.ตลาดวิถีประมงพื้นบ้านปูชัก-สะพานยก หรือ สะพานปลา อาหารทะเลสดๆของชะอำ (Cha-am Fishing pier ) |
 |
| 1.ตลาดวิถีประมงพื้นบ้านปูชัก-สะพานยก หรือ สะพานปลา อาหารทะเลสดๆของชะอำ (Cha-am Fishing pier ) |
 |
| 1.ตลาดวิถีประมงพื้นบ้านปูชัก-สะพานยก หรือ สะพานปลา อาหารทะเลสดๆของชะอำ (Cha-am Fishing pier ) |
 |
| 1.ตลาดวิถีประมงพื้นบ้านปูชัก-สะพานยก หรือ สะพานปลา อาหารทะเลสดๆของชะอำ (Cha-am Fishing pier ) |
1.ตลาดวิถีประมงพื้นบ้านปูชัก-สะพานยก หรือ สะพานปลา อาหารทะเลสดๆของชะอำ (Cha-am Fishing pier )
จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งสำหรับใครมาเที่ยวทะเลชะอำ มองหาอาหารทะเลสด ที่ยกมาจากเรือให้ซื้อ ต้องมาที่ตลาดสะพานปลา หรือตลาดปูชัก สะพานยก ปูชักสะพานยกนั้นถูกจัดให้หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรไปสัมผัสของเมืองไทย (Unseen in Thailand 3) เนื่องด้วยวิถีชีวิตชาวประมงเรือปู ที่ใช้วิธีรักษาความสดของปูม้าที่จับได้แบบธรรมชาติด้วยการใส่ถุงตาข่ายผูก เชือกห้อยกับราวสะพานเหล็กเล็ก ๆ ที่สามารถยกเปิด - ปิดได้
และในแต่ละเช้าบรรดาชาวประมงเรือปูจะนำปูออกจำหน่ายที่คอสะพาน และจะใช้วิธีชักปูจากถุงตาข่ายราวสะพานขึ้นมาเสนอขาย พร้อมบริการนึ่งและทำน้ำจิ้มให้เสร็จสรรพ ท่านจึงสามารถรับประทานปูม้าชะอำที่สด เนื้อแน่น รสชาติหวานแบบธรรมชาติ ในราคาชาวประมงที่สะพานยกทุกวัน กลายเป็นเสน่ห์และดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย
 |
| 2.วัดเนรัญชราราม (Wat Naranchararam) พระพุทธรูปปิดทวารทั้ง 9 ที่ไม่เหมือนที่ใดในประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นสีขาว นั่งปิดทวารทั้ง 9 คือ นับเป็นปริศนาธรรมที่หมายถึงการตัดกิเลสทั้งปวง |
 |
| 2.วัดเนรัญชราราม (Wat Naranchararam) พระพุทธรูปปิดทวารทั้ง 9 ที่ไม่เหมือนที่ใดในประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นสีขาว นั่งปิดทวารทั้ง 9 คือ นับเป็นปริศนาธรรมที่หมายถึงการตัดกิเลสทั้งปวง |
 |
| 2.วัดเนรัญชราราม (Wat Naranchararam) พระพุทธรูปปิดทวารทั้ง 9 ที่ไม่เหมือนที่ใดในประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นสีขาว นั่งปิดทวารทั้ง 9 คือ นับเป็นปริศนาธรรมที่หมายถึงการตัดกิเลสทั้งปวง |
 |
| 2.วัดเนรัญชราราม (Wat Naranchararam) พระพุทธรูปปิดทวารทั้ง 9 ที่ไม่เหมือนที่ใดในประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นสีขาว นั่งปิดทวารทั้ง 9 คือ นับเป็นปริศนาธรรมที่หมายถึงการตัดกิเลสทั้งปวง |
 |
| 2.วัดเนรัญชราราม (Wat Naranchararam) พระพุทธรูปปิดทวารทั้ง 9 ที่ไม่เหมือนที่ใดในประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นสีขาว นั่งปิดทวารทั้ง 9 คือ นับเป็นปริศนาธรรมที่หมายถึงการตัดกิเลสทั้งปวง |
2.วัดเนรัญชราราม (Wat Naranchararam) พระพุทธรูปปิดทวารทั้ง 9 ที่ไม่เหมือนที่ใดในประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นสีขาว นั่งปิดทวารทั้ง 9 คือ นับเป็นปริศนาธรรมที่หมายถึงการตัดกิเลสทั้งปวง
วัดเนรัญชรารามเป็นวันเก่าแก่อีกแห่งของชะอำ ตั้งอยู่ริมทะเลบริเวณด้านทิศเหนือของหาด โดยชื่อวัด เนรัญชรารามได้รับการตั้งให้สอดคล้องกับชื่อวังมฤคทายวันซึ่งสร้างโดยรัชกาลที่ 6 ตามเรื่องราวในพุทธประวัติเกี่ยวกับแม่น้ำเนรัญชราและป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ภายในวัดแห่งนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ได้แก่ หลวพ่อทอง พระพุทธรูปประดิษฐานในพระอุโบสถทรงอินเดียเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2377 ซึ่งไม่ค่อยพบเห็นที่ไหนในประเทศไทยส่วนหลวงพ่อทองนั้นสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2478 เป็นพระพุทธรูปที่ชาวบ้านศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์มาก พระพุทธรูปปิดทวารทั้ง 9 ที่ไม่เหมือนที่ใดในประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นสีขาว นั่งปิดทวารทั้ง 9 คือ ตาสอง จมูกสอง หูสอง ปากหนึ่ง ทวารหนัก และทวารเบา นับเป็นปริศนาธรรมที่หมายถึงการตัดกิเลสทั้งปวง
ศาลาจตุรมุขปอันเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาททองเหลืองที่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2491 รูปหล่อพระครูสุนทรวิโรจน์ (สงวน ชาคโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดนี้ที่ครองเวลายาวนานถึง 52 ปี และเป็นผู้ที่สร้างความเจริญให้กับวัดและชุมชนใกล้เคียงมากมาย
 |
| 3.วัดชะอำคีรี เดินลอดถ้ำรูปใบโพธิ์ และชมถ้ำพระธาตุอันเก่าแก่ (Wat Cha Am Khiri) |
 |
| 3.วัดชะอำคีรี เดินลอดถ้ำรูปใบโพธิ์ และชมถ้ำพระธาตุอันเก่าแก่ (Wat Cha Am Khiri) |
 |
| 3.วัดชะอำคีรี เดินลอดถ้ำรูปใบโพธิ์ และชมถ้ำพระธาตุอันเก่าแก่ (Wat Cha Am Khiri) |
 |
| 3.วัดชะอำคีรี เดินลอดถ้ำรูปใบโพธิ์ และชมถ้ำพระธาตุอันเก่าแก่ (Wat Cha Am Khiri) |
 |
| ภายในศาลาการเปรียญไปเจอน้องแมวเหมียวสีขาว สุดแพรวพราว นั่งทำสมาธิต้อนรับอยู่ด้านใน |
 |
| 3.วัดชะอำคีรี เดินลอดถ้ำรูปใบโพธิ์ และชมถ้ำพระธาตุอันเก่าแก่ (Wat Cha Am Khiri) |
 |
| 3.วัดชะอำคีรี เดินลอดถ้ำรูปใบโพธิ์ และชมถ้ำพระธาตุอันเก่าแก่ (Wat Cha Am Khiri) |
3.วัดชะอำคีรี เดินลอดถ้ำรูปใบโพธิ์ และชมถ้ำพระธาตุอันเก่าแก่ (Wat Cha Am Khiri)
สำหรับวัดชะอำจัดเป็นหนึ่งในวัดคู่บ้านคู่เมืองชะอำ และเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดอีกแห่งของชะอำ แม้ไม่ปรากฎชัดว่าวัดสร้างเสร็จเมื่อใด แต่เชื่อว่าเป็นวัดเก่าแก่ สร้างก่อน พ.ศ.2230 โดยมีบันทึกของชาวต่างชาติ ซึ่งเข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในขณะที่มีหลักฐานโบราณวัตถุคือพระพุทธรูปที่พบอยู่ในถ้ำบนเขาวัดชะอำ ทั้งพระพุทธรูปหินทรายปางมารวิชัย พระพุทธรูปปางไสยาสน์ และพระพุทธรูปอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นศิลปะอยุธยาตอนกลาง อีกทั้งยังมีศาลาการเปรียญ เป็นศาลาการเปรียญศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนกลางมีอายุกว่า 100 ปี โดยการนำฝาอาคารศาลาการเปรียญมาปรับปรุงเป็นฝาหอสกัดด้านทิศตะวันตกของอาคารหอสวดมนต์ หอฉัน และหอกุฎิ แต่เดิมเป็นศาลาการเปรียญหลังเก่า ประดิษฐานบุษบกธรรมาสน์เก่า
บริเวณวัดมีความร่มรื่น เงียบสงบ เหมาะสำหรับปฏิบัติธรรม ถ้ำเขาวัดชะอำคีรีเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งอยู่บนเขาวัดชะอำคีรี และไฮไลท์ของวัดคือ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่แวะต้องไม่พลาดไปเดินลอดถ้ำใบโพธิ์ เป็นจุดเช็คอินสุด Unseen ของวัดชะอำคีรี
 |
| 4.โบราณสถานโคกเศรษฐี (Khok Setthi Historical Site) |
 |
| 4.โบราณสถานโคกเศรษฐี (Khok Setthi Historical Site) |
 |
| 4.โบราณสถานโคกเศรษฐี (Khok Setthi Historical Site) |
 |
| 4.โบราณสถานโคกเศรษฐี (Khok Setthi Historical Site) |
4.โบราณสถานโคกเศรษฐี (Khok Setthi Historical Site)
เป็นแหล่งโบราณสถานที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของเทือกเขาจอมปราสาท ซึ่งเป็นเทือกเขาขนาดใหญ่ใกล้กับวนอุทยานเขานางพันธุรัต ในเขตหมู่ที่ 6 บ้านโคกเศรษฐี ตำบลนายาง อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ห่างจากชายหาดประมาณ 4 กิโลเมตร จากการสำรวจของนักโบราณคดี สันนิษฐานว่ามีหลักฐานร่องรอยของชุมชนโบราณทวารวดีหลายแห่งที่เจริญเติบโตขึ้นรอบๆ ศาสนาสถานแห่งนี้ จากการขุดแต่งในปี พ.ศ.2541 พบว่าลักษณะรูปแบบทางสถาปัตยกรรมเป็นซากสถูปเจดีย์ขนาดใหญ่สมัยทวารวดี อายุราวพุทธศตวรรษที่ 11-16 ลักษณะเจดีย์ก่ออิฐสอดินฉาบปูน วางตัวแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก เหลือหลักฐานอยู่เพียงส่วนฐาน ที่มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้าง 25 X 25 เมตร ความสูง 5 เมตร
 |
| 5.วนอุทยานเขานางพันธุรัต (Khao Nang Phanthurat.) |
 |
| 5.วนอุทยานเขานางพันธุรัต (Khao Nang Phanthurat.) |
 |
| 5.วนอุทยานเขานางพันธุรัต (Khao Nang Phanthurat.) |
 |
| 5.วนอุทยานเขานางพันธุรัต (Khao Nang Phanthurat.) |
5.วนอุทยานเขานางพันธุรัต (Khao Nang Phanthurat.)
เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงและภูเขาหินปูนขนาดใหญ่โดดเด่นมาแต่ไกล ซึ่งนักเดินทางและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ขับรถผ่านลงภาคใต้ก็ต้องพบเห็นกัน เป็นเทือกเขาหินปูนที่มีความสวยงามเอกลักษณ์ โดดเด่นมองเห็นได้จากริมถนนใหญ่ ทอดยาวตามแนวเหนือใต้ มองดูคล้ายนางยักษ์พันธุรัต นอนอยู่ มีโกศอยู่ทางทิศใต้ และมีปฎิมากรรมธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับตำนานเรื่องสังข์ทอง เขานางพันธุรัตมีความสำคัญยิ่งกว่าการเป็นเพียงแค่สถานที่ในตำนาน ตรงที่การเป็นพื้นที่โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพพื้นที่เขานางพันธุรัต อันเนื่องมาจากพระราชดำริและผลลัพธ์ที่ตามมานั้นได้ทำให้ทิวเขาสีน้ำตาลแห้งแล้งถูกแทนที่ด้วยความเขียวขจีของต้นไม้ที่เติมความสดชื่นเย็นสบายในบริเวณนั้นได้เป็นอย่างดี โดยภายในนั้นมีหลายจุดให้นักท่องเที่ยวที่สนใจได้แวะชม เริ่มต้นจากศึกษาข้อมูลเขานางพันธุรัตจากศาลาข้อมูลที่จัดแสดงภาพต่าง ๆ เกี่ยวกับเขาลูกนี้ รวมทั้งการตั้งชื่อส่วนต่าง ๆ
 |
| 6.วนอุทยานชะอำ (Cha Am Forest Park) |
 |
| 6.วนอุทยานชะอำ (Cha Am Forest Park) |
 |
| 6.วนอุทยานชะอำ (Cha Am Forest Park) |
 |
| 6.วนอุทยานชะอำ (Cha Am Forest Park) |
 |
| 6.วนอุทยานชะอำ (Cha Am Forest Park) |
6.วนอุทยานชะอำ (Cha Am Forest Park)
จัดเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอชะอำ ที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน โดยวนอุทยานตั้งอยู่ติดถนนเพชรเกษม ห่างจากชายหาดชะอำและตัวอำเภอไม่ไกลประมาณ 500 เมตรเท่านั้น จัดเป็นป่าในเมืองที่มีระบบนิเวศสมบูรณ์สวยงาม บรรยากาศร่มรื่น ภายในมีลานกางเต็นท์ให้บริการด้วย อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ บ้านพัก ห้องน้ำ ห้องประชุมสัมมนา เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ลานออกกำลังกาย ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และลานกางเต็นท์ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้จำนวนมากมาเที่ยวชมทัศนียภาพภายในวนอุทยานอีกด้วย
 |
| 7.ชายหาดบางเกตุ (Bang Ket Beach) |
 |
| 7.ชายหาดบางเกตุ (Bang Ket Beach) |
 |
| 7.ชายหาดบางเกตุ (Bang Ket Beach) |
 |
| 7.ชายหาดบางเกตุ (Bang Ket Beach) |
7.ชายหาดบางเกตุ (Bang Ket Beach)
เป็นอีกหนึ่งชายหาดและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักตากอากาศขนาดเล็กๆที่มีชื่อเสียงไม่แพ้ชายหาดชะอำ แต่ความพิเศษของหาดบางเกตุคือความเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย ชายหาดทอดยาวประมาณ 4 กิโลเมตร หาดบางเกตุตั้งอยู่ริมชายหาดอ่าวไทย ซึ่งมีทัศนียภาพสวยงามมีสวนสาธารณะไว้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนในชุมชนและนักท่องเที่ยว โดยมีแนวทางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติในแง่การพักผ่อนอยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง ที่หาดบางเกตุมีทั้งโรงแรมหรือจะกลางเต็นท์ก็ได้ เป็นชายหาดที่มีความร่มรื่น เงียบสงบ และสะอาด เหมาะกับการพักผ่อนของคนรักทะเลอย่างแท้จริง
 |
| 8.พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน (Mrigadayavan Palace) |
 |
| 8.พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน (Mrigadayavan Palace) |
 |
| 8.พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน (Mrigadayavan Palace) |
 |
| 8.พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน (Mrigadayavan Palace) |
 |
| 8.พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน (Mrigadayavan Palace) |
8.พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน (Mrigadayavan Palace)
ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งก็ว่าได้ หากใครที่มาเที่ยวชะอำ-หัวหินครั้งแรก ก็มักจะไม่พลาดต้องแวะไปเช็คอิน เดินชมพระราชวังริมชายหาดอันกับสถาปัตยกรรมแสนสุดคลาสสิคและสวยงามของพระราชวังแห่งนี้สักครั้ง โดยพระราชนิเวศเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานในฤดูร้อนของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว สร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 2466 - 2467 โดยมีนายแอร์โกเล มันเฟรดี (Ercole Manfredi) สถาปนิกชาวอิตาเลียนเป็นผู้ออกแบบ หมู่พระตำหนักมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมในรูปแบบไทยผสมตะวันตก มีการใช้ไม้สักทองประกอบขึ้นทั้งหลัง โดยยกใต้เสาตอม่อคอนกรีตเสริมเหล็กเหนือชายหาด
ปัจจุบัน พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ยังคงซึ่งไว้เขตพระราชฐาน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้เป็นค่ายพระรามหก กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด) เพื่อใช้ในการฝึกรบสนับสนุนทางอากาศ และในปี 2536 ตชด ได้จัดตั้ง มูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
 |
| 9.จุดชมวิว "หมึกกล้วยคู่" สะพานปลาชะอำ (Squid status check in point) |
 |
| 9.จุดชมวิว "หมึกกล้วยคู่" สะพานปลาชะอำ (Squid status check in point) |
 |
| 9.จุดชมวิว "หมึกกล้วยคู่" สะพานปลาชะอำ (Squid status check in point) |
 |
| 9.จุดชมวิว "หมึกกล้วยคู่" สะพานปลาชะอำ (Squid status check in point) |
 |
9.จุดชมวิว "หมึกกล้วยคู่" สะพานปลาชะอำ (Squid status check in point)
|
9.จุดชมวิว "หมึกกล้วยคู่" สะพานปลาชะอำ (Squid status check in point)
เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินถ่ายรูปชมวิวที่มีชื่อเสียงของหาดชะอำ โดยจุดชมวิวรูปปั้นหมึกกล้วยคู่นั้น ตั้งอยู่ที่บริเวณสะพานหินที่ทอดยาวออกไปในทะเลที่สะพานปลา อ.ชะอำ ที่นี่เป็นจุดที่สวยงามอีกแห่งในชะอำที่มีที่พักและร้านอาหาร จำหน่ายอาหารทะเลสด หรือว่าอยู่ใกล้สะพานยกปูชักอีกด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาชมวิวที่รูปปั้นหมึกกล้วยคู่ได้ไม่ไกลจากชายหาดชะอำอีกด้วย บรรยากาศโดยรอบสามารถมองเห็นทัศนียภาพของชายหาดชะอำได้อย่างงดงาม และใกล้ๆเคียงมีร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ให้แวะไปเช็คอินอีกด้วย
 |
| 10.ชายหาดชะอำ (Cha Am Beach) |
 |
| 10.ชายหาดชะอำ (Cha Am Beach) |
 |
| 10.ชายหาดชะอำ (Cha Am Beach) |
 |
| 10.ชายหาดชะอำ (Cha Am Beach) |
 |
| 10.ชายหาดชะอำ (Cha Am Beach) |
 |
| 10.ชายหาดชะอำ (Cha Am Beach) |
10.ชายหาดชะอำ (Cha Am Beach)
หาดมาชะอำแล้วไม่ได้มานั่งเตียงผ้าใบหรือว่าเดินเหยียบผืนทรายชะอำถือว่ามาไม่ถึงชะอำกันเลยทีเดียว หาดชะอำ เป็นหาดที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย ตัวชายหาดทอดยาวกว่า 24 กิโลเมตร มีถนนเลียบชายหาดที่ยาวกว่า 4 ก.ม. จึงเป็นชายหาดที่เหมาะสำหรับกีฬาทางน้ำ กิจกรรมกลางแจ้งในวันพักผ่อนแบบสบาย ๆ ของครอบครัวและผองเพื่อน และเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว มีร้านค้าและบริการมากมายอยู่บริเวณชายหาด เช่น ร้านอาหาร บริการเช่าเตียงผ้าใบ บริการขี่ม้า บริการเรือสกี อีกทั้งร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ และโรงแรมสถานที่พักเปิดให้บริการเลือกพักหลากหลายรูปแบบให้นักท่องเที่ยวได้นอนพักผ่อน
 |
| ระหว่างทางขับรถมอเตอร์ไซต์ ก็แวะผ่านจุดเช็คอินถ่ายรูปยอดฮิตอีกแห่งที่อยู่ติดถนนเพชรเกษม คือ คาเฟ่เปิดใหม่ชะอำ-หัวหิน มีชื่อว่า คาริบูคาเฟ่ "Caribou Cafe" |
และระหว่างทางขับรถมอเตอร์ไซต์ ก็แวะผ่านจุดเช็คอินถ่ายรูปยอดฮิตอีกแห่งที่อยู่ติดถนนเพชรเกษม คือ คาเฟ่เปิดใหม่ชะอำ-หัวหิน มีชื่อว่า คาริบูคาเฟ่ "Caribou Cafe" จุดเด่นของคาเฟ่นี้คือ เครื่องบินปลดระวางคือเครื่องบินที่ชื่อว่า DHC-4 Caribou หมายเลข 12271 อดีตเครื่องบินสนับสนุนทางอากาศของกรมตำรวจ จอดโดดเด่นเห็นมาแต่ไกล ใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องแวะมาถ่ายรูปกันค่ะ
 |
| จำได้ว่าแต่ก่อนบริเวณนี้ยังเป็นพื้นที่ของราชการ ที่ยังไม่ได้ปรับปรุงอะไรมากนัก เป็นดงป่าอยู่เลย |
เดี๊ยนจำได้ว่าแต่ก่อนบริเวณนี้ยังเป็นพื้นที่ของราชการ ที่ยังไม่ได้ปรับปรุงอะไรมากนัก เป็นดงป่าอยู่เลย แต่ปัจจุบันบริเวณดังกล่าวได้มีการปรับเปลี่ยนให้เป็นร้านคาเฟ่
ภายในมีร้านขายเครื่องดื่มคาเฟ่เปิดโล่ง ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปลิ้มลองทานกาแฟหอมกรุนจากภาคเหนือของไทย
อีกทั้งบริเวณโดยรอบยังมีการตกแต่งสถานที่ด้วยต้นไม้รายล้อม ให้นักท่องเที่ยวที่แวะมาได้เดินชมอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจกันเลยทีเดียว
 |
| อาหารมื้อเย็น หากใครมาเที่ยวชะอำ อยากหากินอาหารถูกๆ แนะนำว่ามาเดินซื้อของกินที่ตลาดเทศบาลชะอำเลยค่ะ |
ส่วนอาหารมื้อเย็น หากใครมาเที่ยวชะอำ อยากหากินอาหารถูกๆ แนะนำว่ามาเดินซื้อของกินที่ตลาดเทศบาลชะอำเลยค่ะ ตลาดเล็กๆ แต่มีของกินให้เลือกหลายอย่าง ราคาไม่แพงด้วย เดี๊ยนเองชอบมาเดินตลาดเย็นแบบนี้ ดูอาจจะไม่ได้พิเศษ แต่ว่ามีของกินให้เลือกหลากหลาย
 |
| มีสิ่งละอัน พันละน้อยให้เลือกแบบว่า ไม่ต้องทานอาหารริมทะเล ในตลาดก็มีอาหารอร่อยให้เลือกทานทั้งของคาวของหวาน |
เพราะว่าได้เลือกซื้อของกินอย่างนิด อย่างหน่อย มีสิ่งละอัน พันละน้อยให้เลือกแบบว่า ไม่ต้องทานอาหารริมทะเล ในตลาดก็มีอาหารอร่อยให้เลือกทานทั้งของคาวของหวาน
โดยมื้อนี้อยากกินน้ำพริกกับผักลวกสดๆกับปลาย่างสักหน่อย น่าจะอร่อยไม่น้อยเลยล่ะค่ะ
 |
| ยำมะเขือยาวเผา ต้องสอยเอาไปทานสักหน่อยค่ะ ไม่ได้ทานนานมากแล้ว เมนูเด็ดของเพชรบุรีเลยทีเดียวละค่ะ ต้องเอาไปกินคู่กับปลาย่าง |
เจอแล้วค่ะอาหารที่อยากทาน ยำมะเขือยาวเผา ต้องสอยเอาไปทานสักหน่อยค่ะ ไม่ได้ทานนานมากแล้ว เมนูเด็ดของเพชรบุรีเลยทีเดียวละค่ะ ต้องเอาไปกินคู่กับปลา
 |
| เดินย่ำหาอาหารอร่อยที่ตลาดเย็นอำเภอชะอำ |
เอามะเขือและปลาทูย่างสักตัวไปทานคู่กันกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยและอิ่มมากๆค่ะ
สำหรับเพื่อนๆคนใหนที่แวะมาเที่ยวชะอำ ยังไม่รู้ว่าจะไปทานอาหารที่ใหนดี ขับรถมาซื้อของกินที่ตลาดชะอำ รับรองว่าได้ของกินไปหลายอย่างเลยล่ะค่ะ อีกอย่างราคาไม่แพงอีกด้วย
 |
| สำหรับเพื่อนๆนักทัศนาจร ออนซอนหัวใจคนใหน ที่วันหยุดลาพักร้อนปีนี้ ไม่รู้จะไปใหนดี ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาย้อนวันวาน เที่ยวทะเลชะอำอีกครั้ง รับรองว่าได้รูปวิวทะเลสวยปังกลับไปอย่างแน่นอนค่ะ |
นอกจากที่กล่าวมานี้แล้ว ในอำเภอชะอำยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและจุดเช็คอินให้ไปถ่ายรูปสวยงามอีกหลายแห่งเลยล่ะค่ะ สำหรับเพื่อนๆนักทัศนาจร ออนซอนหัวใจคนใหน ที่วันหยุดลาพักร้อนปีนี้ ไม่รู้จะไปใหนดี ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาย้อนวันวาน เที่ยวทะเลชะอำอีกครั้ง รับรองว่าได้รูปวิวทะเลสวยปังกลับไปอย่างแน่นอนค่ะ....ยังไงมาเที่ยวกันเยอะๆนะคะ เศรษฐกิจในชะอำจะได้กลับมาคึกคักกันอีกครั้ง หลังจากที่ซบเซาจากโรคโควิด-19 ระบาดมานาน 2 ปี เรียกว่า สาหัสสากันมากๆ มาเที่ยวชะอำ กินอาหารทะเลสดๆ เดิน
---------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ
0 ความคิดเห็น