|
และเพื่อไม่ให้เว็ปไซต์ร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอแบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองตราดอีกครั้ง ไปนั่งเช็คอินชมวิวสวยๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองตราดที่ใหนบ้างนั้น ตามไปเที่ยวกันเลยจ้า |
สวัสดีเพื่อนๆคุณผู้อ่าน รวมทั้งผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจ งามไฉไลทุกๆคนค่ะ กลับมาอีกเช่นเคยค่ะ กับบทความบล็อกรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือน ที่จะพาเพื่อนๆเลี้ยวแวะไปเที่ยวเปิดมุมมองใหม่กับสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทย ที่ต้องไปเยือนชมกันค่ะ และหนึ่งในทริปเที่ยวหลังโควิดล่าสุดนี้ เดี๊ยนเองก็ได้มีโอกาสไปเยือนเที่ยวจังหวัดตราดอีกครั้งค่ะ
ย้อนวันวานไปเมื่อปี 2017 หรือปี พ.ศ. 2560 ช่วงปลายปีได้จัดทริปกับเพื่อนสาว สวยสกาวรุ่งโรจน์ พากันนั่งเครื่องบินช่วงโชติชัชวาลย์ ไปยลตระการเที่ยวเกาะกูด ซึ่งไปการไปทัศนาจรเที่ยวครั้งนั้น ก็ได้แวะมาเที่ยวเมืองตราดด้วย แต่ด้วยเวลาจัดกัด เพราะต้องรีบขึ้นรถสองแถว ไปขึ้นเรือที่แหลมศอก เลยได้แค่เดินลัดเลาะย่านชุมชนเก่าเมืองตราดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เลยเก็บข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวได้ไม่เยอะมากนัก
|
ใหนๆก็มาเยือนจังหวัดตราดทั้งที ไม่อยากมาให้เสียเที่ยว เดี๊ยนเลยขอจัดทริปมานอนพักค้างแรมรอนให้ออนซอนหัวใจ มารีวิวเที่ยวเมืองตราดอีกครั้ง |
และจากทริปเดินทางเที่ยวเกาะช้างล่าสุดนี้ ใหนๆก็มาเยือนจังหวัดตราดทั้งที ไม่อยากมาให้เสียเที่ยว เดี๊ยนเลยขอจัดทริปมานอนพักค้างแรมรอนให้ออนซอนหัวใจ ด้วยการนอนพักในย่านชุมชนคลองบางพระใกล้ริมน้ำในเมืองตราดสักคืน และขอเช่ารถมอเตอร์ไซต์ไปเช็คอินถ่ายรูปสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆในเมืองตราดอีกด้วย
ซึ่งเมืองตราดนั้น บางคนอาจจะคิดว่าเป็นแค่เมืองทางผ่าน เอาไว้เป็นขึ้นท่าเรืออย่างเดียว อาจจะไม่ได้มีที่เที่ยวน่าสนใจมากนัก เพราะส่วนใหญ่นึกถึงจังหวัดตราด ก็มักจะไปเที่ยวเกาะช้าง เกาะกูดกันเป็นส่วนใหญ่ แต่แท้จริงแล้ว ในตัวเมืองตราดนั้นก็มีจุดพิกัดปักหมุดสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ให้ไปเช็คอินถ่ายรูปภาพสวยอยู่หลายแห่งเลยล่ะค่ะ แต่ก่อนที่จะไปดูข้อมูลที่เที่ยวสวยๆในเมืองตราด เราก็มารู้จัดประวัติความเป็นมาของเมืองตราดสักเล็กน้อย พอสังเขปค่ะ
|
น่ารู้เกี่ยวกับเมืองตราด มีที่มาอย่างไร นำมาให้อ่านกันพอสังเขป |
สาระน่ารู้เกี่ยวกับเมืองตราด มีที่มาอย่างไร นำมาให้อ่านกันค่ะ
สำหรับเมืองตราดถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่อีกแห่งของเมืองไทย ชื่อเมืองตราด หรือเมืองทุ่งใหญ่ปรากฏในทำเนียบหัวเมืองสมัยพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ. 2178) ว่าเป็นหัวเมืองชายทะเล สังกัดฝ่ายการต่างประเทศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับด้านการคลัง นอกจากเป็นแหล่งสินค้าแล้ว ตราดยังเป็นหนึ่งในเมืองท่าชายทะเลที่มีชัยภูมิเหมาะกับการแวะจอดเรือ เพื่อขนถ่ายซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า เติมเสบียงอาหารน้ำจืด บริเวณอ่าวเมืองตราดจึงเป็นที่ตั้งชุมชน พ่อค้าชาวจีนที่เดินทางมาค้าขาย ครั้งเมื่อสงครามกู้เอกราชสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงเลือกเมืองตราดเป็นเมืองหน้าด่านกันชน ทำหน้าที่ส่งเสบียงอาหารก่อนเคลื่อนทัพเรือออกจากจันทบุรียกไปขับไล่พม่าเพื่อกอบกู้เอกราชคืนสู่ชาติไทย
|
เป็นเมืองศูนย์กลางการค้าแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกในช่วงปลายอยุธยา สินค้าที่ส่งออกขายยังแดนไกล |
อีกทั้งยังนับเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกในช่วงปลายอยุธยา สินค้าที่ส่งออกขายยังแดนไกล โดยเฉพาะของป่า เช่น เขากวาง หนังสัตว์ ไม้หอม และเครื่องเทศต่าง ๆ ล้วนมาจากเขตป่าเขาชายฝั่งทะเลตะวันออก แถบระยอง จันทบุรี ตราด โดยลำเลียงสินค้าผ่านมาตามแม่น้ำเขาสมิง ออกสู่ปากอ่าวตราด ติดต่อกับจังหวัดจันทบุรีและประเทศกัมพูชา
|
ตราดยังเป็นเมืองสำคัญซึ่งขึ้นอยู่กับฝ่ายการคลังของประเทศมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าปราสาททองแล้ว |
จากข้อมูลทางประวัติศาตร์ ตราดยังเป็นเมืองสำคัญซึ่งขึ้นอยู่กับฝ่ายการคลังของประเทศมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าปราสาททองแล้ว จนกระทั่งก่อนจะเสียกรุงศรีอยุธยาในปี พ.ศ. 2310 พระเจ้าตากสินได้รวบรวมกำลังทหารจำนวนหนึ่ง ตีฝ่าวงล้อมของพม่าหนีออกจากกรุงศรีอยุธยา เดินทางไปรวมตัวกันทางทิศตะวันออก โดยยกทัพไปถึงเมืองตราดซึ่งปรากฏในพงศาวดารว่า" ...หลังจากพระเจ้าตากสินตีเมืองจันทบุรีได้แล้ว เมื่อวันอาทิตย์เดือน 7 ปีกุน พ.ศ. 2310 ก็ได้เกลี้ยกล่อมผู้คนให้กลับคืนมายังภูมิลำเนาเดิม... "ครั้นเห็นว่าเมืองจันทบุรีเรียบร้อยอย่างเดิมแล้ว จึงยกกองทัพเรือไปยังเมืองตราด พวกกรมการและราษฎรก็พากันเกรงกลัวยอมอ่อนน้อมโดยดีทั่วทั้งเมือง
|
พระเจ้าตากก็ตีได้เรือสำเภาจีนทั้งหมด ได้ทรัพย์สิ่งของเป็นกำลังการทัพเป็นอันมาก พระเจ้าตากจัดการเมืองตราดเรียบร้อยแล้ว ก็กลับขึ้นมาตั้งอยู่ ณ เมืองจันทบุรี" |
และขณะนั้นมีสำเภาจีนมาทอดอยู่ที่ปากน้ำเมืองตราดหลายลำ พระเจ้าตากให้ไปเรียกนายเรือมาเฝ้าพวกจีนขัดขืน แล้วกลับยิงเอาข้าหลวง พระเจ้าตากทรงทราบก็ลงเรือที่นั่งคุม เรือรบลงไปล้อมสำเภาไว้แล้ว บอกให้พวกจีนอ่อนน้อมโดยดีพวกจีนก็หาฟังไม่กลับเอาปืนใหญ่น้อยระดมยิงรบกันอยู่ครึ่งวัน พระเจ้าตากก็ตีได้เรือสำเภาจีนทั้งหมด ได้ทรัพย์สิ่งของเป็นกำลังการทัพเป็นอันมาก พระเจ้าตากจัดการเมืองตราดเรียบร้อยแล้ว ก็กลับขึ้นมาตั้งอยู่ ณ เมืองจันทบุรี"
|
อีกเหตุการณ์หนึ่งเกี่ยวกับเมืองตราด ก็คือ เมื่อปี พ.ศ. 2446 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประเทศไทยได้เสียดินแดนให้แก่ประเทศฝรั่งเศส เนื่องมาจากการตกลงทำสนธิสัญญากับฝรั่งเศส |
เหตุการณ์สำคัญอีกเหตุการณ์หนึ่งเกี่ยวกับเมืองตราด ก็คือ เมื่อปี พ.ศ. 2446 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประเทศไทยได้เสียดินแดนให้แก่ประเทศฝรั่งเศส เนื่องมาจากการตกลงทำสนธิสัญญากับฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 (ร.ศ. 122) ซึ่งทำให้ไทยจำต้องยกดินแดนจังหวัดตราด และเกาะต่าง ๆ ตั้งแต่อำเภอแหลมสิงห์ จ.จันทบุรีไปจนถึงเกาะกูด และจังหวัดปัจจันตคิรีเขตร หรือเกาะกงให้แก่ฝรั่งเศสเพื่อแลกเปลี่ยนให้ฝรั่งเศสถอนกองทหารไปจากจันทบุรี โดยสัญญาฉบับนี้ได้ให้สัตยาบันต่อกันและมีผลทำให้กองทหารฝรั่งเศสถอนออกไปจากเมืองจันทบุรีตามสัญญา เมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2447 โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์สำคัญของไทยก็ว่าได้ ทำให้ไทยไม่ต้องเสียดินแดนของจังหวัดตราดให้กับฝรั่งเศส
|
คำว่า "ตราด" หรือ "ตราษ" นี้อาจจะมีชื่อเรียกเพี้ยนมาจากภาษาเขมรเรียก ตฺราจ หมายถึง ยางกราด เป็นไม้พื้นเมืองในแถบนี้ ผู้คนเลยเรียกว่า ตราด มาจนถึงปัจจุบัน |
ส่วนที่มาของชื่อตราด ในสมัยรัชกาลที่ 4 พบคำว่า "ตราษ" และ "ตราด" ดังปรากฏในราชกิจจานุเบกษาตีพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2401–2401 ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 5 พบว่าเมืองตราดสะกดว่า "ตราด" ส่วนคำว่า "กราด" พบในหนังสือ ทำเนียบหัวเมือง ตอนที่ 1–3 ร.ศ. 119 คำว่า "ตราด" หรือ "ตราษ" นี้อาจจะมีชื่อเรียกเพี้ยนมาจากภาษาเขมรเรียก ตฺราจ หมายถึง ยางกราด เป็นไม้พื้นเมืองในแถบนี้ ผู้คนเลยเรียกว่า ตราด มาจนถึงปัจจุบัน
คำขวัญประจำจังหวัด : เมืองเกาะครึ่งร้อย พลอยแดงค่าล้ำ ระกำแสนหวาน หลังอานหมาดี ยุทธนาวีเกาะช้าง สุดทางบูรพ
นอกจากนี้แล้วที่จังหวัดตราด ยังมีของเด่น ของดีประจำจังหวัดที่ใครมาเมืองนี้ ต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับไปก็คือ ระกำหวาน มีรสอร่อยเป็นที่ถูกปากของนักลิ้มลองจากนักเดินทางทั่วสารทิศ โดยพื้นที่ที่มีการปลูกระกำมาก คือ อำเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่ ระกำเป็นพืชตระกูลหวายชอบขึ้นในที่ลุ่มมีไม้ปกคลุม ระกำหวานของตราดนั้นเป็นระำกำที่ปลูกอยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งจะมีรสชาติหวานหอมเมื่อแก่จัด เป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบระกำมาก และชาวตราดยังได้จัดงานวันระกำหวานและของดีเมืองตราดขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศได้เที่ยวชม ซึ่งจะจัดประมาณปลายเืดือน เมษายน หรือต้นเดือน พฤษภาคมของทุกปี
ข้อมูลดีจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/จังหวัดตราด
หลังจากได้อ่านข้อมูลดีๆเกี่ยวกับเมืองตราดกันไปแล้ว ต่อไปก็ไปดูภาพรีวิวการเดินทางไปเที่ยวเมืองตราดกันเลยค่ะ
|
เขียนรีวิวต่อจากตอนที่แล้ว หลังจากที่นั่งเรือออกจากเกาะช้าง จากนั้นก็ต้องแยกทางกับหลานสาว |
เขียนรีวิวต่อจากตอนที่แล้ว จากเว็ปไซต์ :
https://khunnaiver.blogspot.com/2022/03/Koh-Chang-travel-rent-motorbike.html
หลังจากที่นั่งเรือออกจากเกาะช้าง จากนั้นก็ต้องแยกทางกับหลานสาว โดยหลานสาว 2 คน ต้องกลับกรุงเทพก่อน เพราะติดธุระค่ะ ส่วนเดี๊ยนขอมานอนพักค้างในเมืองตราดต่อก่อนสัก 1 คืน เลยเหมางรถ 2 แถวจาก นั่งจากท่าเรืออ่าวธรรมชาติ มาที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเมืองตราดค่ะ
|
ค่าโดยสารรถสองแถวจากท่าเรืออ่าวธรรมชาติ มาที่เมืองตราดอยู่ที่ 300 บาทค่ะ |
ซึ่งค่าโดยสารรถสองแถวจากท่าเรืออ่าวธรรมชาติ มาที่เมืองตราดอยู่ที่ 300 บาทค่ะ
ส่วนระยะทางจากจากท่าเรือ มาที่เมืองตราดก็ประมาณ 30 กว่ากิโลเมตรได้ ถือว่าไกลพอสมควร
|
ถึงสถานีขนส่ง ก็โทรติดต่อให้ร้านเช่ามอเตอร์ไซต์มาส่งที่ บขส.ตราด เพื่อจะได้มีรถไว้เป็นพาหนะขับไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆค่ะ |
เมื่อมาถึงสถานีขนส่ง ก็โทรติดต่อให้ร้านเช่ามอเตอร์ไซต์มาส่งที่ บขส.ตราด เพื่อจะได้มีรถไว้เป็นพาหนะขับไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆค่ะ บรรยากาศที่สถานีขนส่ง บขส.เมืองตราด ก็ดูเงียบเหงามากๆ
|
เดี๊ยนมายืนรออยู่ประมาณเกือบ 20 นาทีได้ค่ะ จนทางร้านโทรมาว่านำรถมาส่งแล้ว |
ทางร้านเช่ามอเตอร์ไซต์บอกให้เดี๊ยมายืนรอที่บริเวณหน้าอาคารของ บขส. เดี๊ยนมายืนรออยู่ประมาณเกือบ 20 นาทีได้ค่ะ จนทางร้านโทรมาว่านำรถมาส่งแล้ว
|
ส่วนค่าเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับในเมืองตราดทีเดี๊ยนเลือกเช่านี้ |
ส่วนค่าเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับในเมืองตราดทีเดี๊ยนเลือกเช่านี้
ราคาเช่าตกวันละ 350 บาท
ค่ามัดจำรถ 2,000 บาท
มีหมวกกันน๊อกให้พร้อมค่ะ
สำหรับใครที่กำลังมองร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับในเมืองตราด ก็สามารถติดต่อได้ Facebook : พิชิตรถเช่าบริการ รถเช่ารถเช่ามอเตอร์ไซค์ ตราด รายวัน รายเดือน ได้เลยนะคะ หรือค้นหาใน google อยู่หน้าแรกเลยค่ะ
|
เดินทางเช็คอินที่โรงแรมต่อเลยค่ะ โดยเดี๊ยนเลือกนอนพักที่โรงแรม อาร์ตทิสท์ เพลส ตราด (Artist Place Trat) เป็นโรงแรมเล็กๆน่ารัก สไตล์ติสๆ ดูรุงรังแต่เก๋ไก๋ ออกแนวเด็กศิลป์ค่ะ |
หลังจากที่ได้มอเตอร์ไซต์แล้ว ก็เดินทางเช็คอินที่โรงแรมต่อเลยค่ะ โดยเดี๊ยนเลือกนอนพักที่โรงแรม อาร์ตทิสท์ เพลส ตราด (Artist Place Trat) เป็นโรงแรมเล็กๆน่ารัก สไตล์ติสๆ ดูรุงรังแต่เก๋ไก๋ ออกแนวเด็กศิลป์ค่ะ ตั้งอยู่ในย่านชุมชนเก่าคลองบางพระ เป็นย่านท่องเที่ยวชื่อดังอยู่ในเมืองตราดเลยค่ะ ใครที่ขับรถยนต์ส่วนตัวมา ก็อาจจะไม่สะดวกเรื่องที่จอดรถ เพราะที่จอดรถน้อย เหมาะกับแนวแบกเป้มากกว่า
โดยห้องพักอยู่อีกส่วนของจุดเช็คอินค่ะ เข้ามาด้านใน บรรยากาศดีร่มรื่นค่ะ ออกแนวบังกะโล
|
มีน้องแมวเหมียวนั่งรอต้อนรับอยู่ตรงแนวระเบียงกั้นห้องค่ะ โดยทางที่พักอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ด้วยนะคะ |
ห้องพักแบบส่วนตัว จะเห็นด้านหน้า มีน้องแมวเหมียวนั่งรอต้อนรับอยู่ตรงแนวระเบียงกั้นห้องค่ะ โดยทางที่พักอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ด้วยนะคะ
|
ราคาห้องพักตกคืนละ 700 บาทค่ะ เป็นห้องแอร์ สภาพห้องดูดี สะอาดสะอ้าน |
ส่วนราคาห้องพักตกคืนละ 700 บาทค่ะ เป็นห้องแอร์ สภาพห้องดูดี สะอาดสะอ้าน มีมุ้งให้ มีโต๊ะทีวี ตู้เย็นให้ค่ะ
|
เข้าห้องพักมาแป๊บเดียว น้องแมวเหมียวตัวสีขาวที่นั่งต้อนรับเดี๊ยนอยู่หน้าห้อง นางขอเข้ามาเล่นเป็นเพื่อนด้วย รู้สึกว่านางจะชอบห้องแอร์นะคะ เพราะอยู่ข้างหน้าอากาศร้อนไปหน่อย |
เปิดประตู เข้าห้องพักมาแป๊บเดียว น้องแมวเหมียวตัวสีขาวที่นั่งต้อนรับเดี๊ยนอยู่หน้าห้อง นางขอเข้ามาเล่นเป็นเพื่อนด้วย รู้สึกว่านางจะชอบห้องแอร์นะคะ เพราะอยู่ข้างหน้าอากาศร้อนไปหน่อย
|
นางก็จะชอบนัวเนีย ออกแนวขี้อ้อน ใครเป็นทาสแมว ต้องระวัง เพราะนางจะไม่ออกจากห้องไปเลยล่ะค่ะ นางจะกระโดนไปมุมโน้น มุมนี้ สนุกค่ะ เหมือนเล่นได้เล่นไล่จับ |
น้องแมวเหมียว นางเข้ามา นางก็จะชอบนัวเนีย ออกแนวขี้อ้อน ใครเป็นทาสแมว ต้องระวัง เพราะนางจะไม่ออกจากห้องไปเลยล่ะค่ะ นางจะกระโดนไปมุมโน้น มุมนี้ สนุกค่ะ เหมือนเล่นได้เล่นไล่จับ
|
ในส่วนของห้องน้ำ มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ และยังมีแปรงสีฟันให้อีกด้วย |
และในส่วนของห้องน้ำ มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ และยังมีแปรงสีฟันให้อีกด้วย ห้องพักถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ห้องสะอาดสะอ้าน ตกแต่งได้เก๋ไก๋มากค่ะ ห้องราคาไม่แพงเกินไป อีกทั้งอยู่ใกล้ตลาดและร้านอาหารของกินด้วย น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับนักแบกเป้ที่มองหาโรงแรมราคาถูกในเมืองตราด นอนพักค้างชั่วคราว
|
หลังจากนำกระเป๋าไปไว้ที่ห้องพักแล้ว ก็ออกมาหาอะไรทานต่อค่ะ |
และหลังจากนำกระเป๋าไปไว้ที่ห้องพักแล้ว ก็ออกมาหาอะไรทานต่อค่ะ ไม่ไกลจากที่พักย่านชุมชนเก่าบางพระ ก็จะเป็นตลาดซอยไร่รั้ง
|
ตลาดซอยไร่รั้งอยู่ย่านกลางเมืองตราด ก็มีอาหารสด อาหารแห้ง ของฝาก และของกินอร่อยๆให้เลือกหลากหลาย |
ในตลาดซอยไร่รั้งก็มีอาหารสด อาหารแห้ง ของฝาก และของกินอร่อยๆให้เลือกหลากหลาย แม้จะไม่ได้ใหญ่โตเหมือนตลาดโต้รุ้งอื่นๆมากมายนัก แต่ก็เป็นตลาดเย็นขึ้นชื่อของเมืองตราดแห่งนี้ เพราะอยู่ในย่านใจกลางเมือง
โดยวันที่ไป มีฝนตกลุงมาด้วย แต่ตกแค่แป๊บเดียวค่ะ บรรยากาศตลาดเลยดูเหงาๆไปสักหน่อย
เดี๊ยนก็พยายามเดินหาอาหารพื้นบ้านประจำท้องถิ่นของคนที่นี่ทานค่ะ แต่ยังหาไม่เจอเลย
เห็นมีผลหมาก รากไม้ขายแต่ละอย่างก็น่ากิน เห็นลูกกลมเป็นลินจี่ นึกว่าเป็นระกำ ว่ากันว่า ระกำเป็นผลไม้ขึ้นชื่อเมืองตราด ต้องซื้อไปฝากคนทางบ้านได้ทานกันสักครั้ง
|
ทอดขนมใบบัวในกะทะ |
มีขนมใบบัวสีเขียวใบเตย เจ้านี้ทอดแล้วก็น่าทาน ต้องลิ้มลองซื้อมาทานสักหน่อย
|
เดินไป เดินมา นึกไม่ออก ก็ต้องมาจบที่อาหารตามสั่งสิ้นคิด อย่าง ผัดกะเพราตามเคยค่ะ |
เดินไป เดินมา นึกไม่ออก ไม่รู้ทานอะไรดี ก็ต้องมาจบที่อาหารตามสั่งสิ้นคิด อย่าง ผัดกะเพราตามเคยค่ะ อาหารทานง่ายๆ ราคาไม่แพงด้วย
|
เช้าวันใหม่ ออกไปหาอะไรทานอีกรอบค่ะที่ตลาดเทศบาลเมืองตราด |
เช้าวันใหม่ ออกไปหาอะไรทานอีกรอบค่ะที่ตลาดเทศบาลเมืองตราด
ไม่พลาด มาเจอร้านขายขนมปังฝรั่งเศส ขายด้วย ดูแล้วคล้ายขนมปังบาแก็ตของประเทศลาวเลยค่ะ
ใหนๆมาถึงทั้งที่ ขอลิ้มลองทานขนมปังฝรั่งเศสของเมืองตราดสักหน่อย ว่าจะอร่อยแซ่บเหมือนของฝั่งลาวใหม๊
|
อาหารเช้าทานต่อ โดยจัดเป็นกระเพรากั้ง รสชาติออกหวานไปหน่อยนึง |
จากนั้นก็ไปหาอาหารเช้าทานต่อ โดยจัดเป็นกระเพรากั้ง รสชาติออกหวานไปหน่อยนึง
|
ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองตราดนั้น ก็มีจุดเช็คอินให้แวะไปถ่ายรูปกันอยู่หลายแห่งเลยค่ะ |
และในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองตราดนั้น ก็มีจุดเช็คอินให้แวะไปถ่ายรูปกันอยู่หลายแห่งเลยค่ะ
|
วันนี้เดี๊ยนเลยขอมาสรุปสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในตัวเมืองตราดมาให้ดังนี้ค่ะ ยังไงลองแวะไปเที่ยวกันดูนะคะ
|
ทางโรงแรมก็มีแผนที่แนะนำสถานที่ท่องที่ยวในย่านตัวเมืองตราดมาให้ด้วย ส่วนเพื่อนๆนักทัศนาจร คนใหน ที่วางแผนเดินมายังเมืองตราด ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ใหนบ้าง วันนี้เดี๊ยนเลยขอมาสรุปสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในตัวเมืองตราดมาให้ดังนี้ค่ะ ยังไงลองแวะไปเที่ยวกันดูนะคะ
|
1.ชุมชนเก่าคลองบางพระ |
|
1.ชุมชนเก่าคลองบางพระ |
|
1.ชุมชนเก่าคลองบางพระ |
|
1.ชุมชนเก่าคลองบางพระ |
1.ชุมชนเก่าคลองบางพระ
เนื่องจากชุมชนแห่งนี้มนต์เสน่ห์ที่เต็มไปด้วยบ้านเก่าเรือนไม้หลายร้อยหลังคา เรียงรายอยู่ ทำให้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมือง ที่นักเดินทางสามารถแวะมาเดินเที่ยวชมได้ไม่ไกล โดยชุมชนคลองบางพระร่วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวมากมาย เช่นการจัดงานแสงสีเสียงตำนานคลองบางพระ ส่งเสริมให้มีการผลิตสินค้าที่หาได้ในท้องถิ่น เช่นการจำหน่ายผลิตผลจากต้นจาก การเย็บหมวกและงอบใบจาก นอกจากนี้ในย่านชุมชนเก่าคลองบางพระ ยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มาพักอาศัยในย่านชุมชนถนนหลักเมือง และถนนธนเจริญ ในย่านค่ำคืน ถนนธนเจริญเปรียบเสมือนปายแห่งที่สอง หรือที่เรียกว่า ปายตะวันออก อีกด้วย
|
2.พิพิธภัณฑ์สถานเมืองตราด (Trat Museum ) |
|
2.พิพิธภัณฑ์สถานเมืองตราด (Trat Museum ) |
|
2.พิพิธภัณฑ์สถานเมืองตราด (Trat Museum ) |
2.พิพิธภัณฑ์สถานเมืองตราด (Trat Museum )
สำหรับ พิพิธภัณฑสถานเมืองตราด เดิมสถานที่แห่งนี้เป็นศาลากลางจังหวัดหลังเก่า สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่6 ตั้งอยู่ที่ถนนสันติสุข อำเภอเมืองฯ จังหวัดตราด สถาปัตยกรรมเด่นของอาคารแห่งนี้ คือลักษณะเป็นอาคารไม้ เสาปูน ยกพื้นใต้ถุนสูง หลังคาทรงปั้นหยา ต่อมาอาคารทรุดโทรมลง ทางจังหวัดจึงได้ก่อสร้างอาคารหลังใหม่ อาคารหลังเก่านี้จึงถูกปิดตัวลงเป็นเวลานาน
จนในปี พ.ศ.2539 กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนศาลากลางหลังเก่าให้เป็นโบราณสถานของชาติ แต่ต่อมาปี พ.ศ.2547 อาคารหลัง นี้ถูกไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งหมด ทางเทศบาลเมืองตราดได้จัดสรรงบประมาณให้กับกรมศิลปากรเพื่อบูรณะอาคารตามรูปแบบเดิม แล้วเสร็จในอีก 2 ปีต่อมา และกรมศิลปากรได้ใช้งบประมาณของตัวเองเพื่อปรับปรุงภายในอาคารให้เป็น “พิพิธภัณฑสถานเมืองตราด” แล้วเสร็จจึงส่งมอบให้เทศบาลเมืองตราด เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2556 และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลที่นี่จึงเป็นแห่งแรกที่ใช้เป็นชื่อพิพิธภัณฑสถานเมืองตราด จังหวัดตราด โดยไม่มีคำว่า “แห่งชาติ” โดยให้เทศบาลเมืองตราดเป็นผู้บริหารจัดการดูแล จัดแสดงประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเมืองตราด เหตุการณ์สำคัญ และชีวิตวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดตราด เพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจได้เข้าชม
|
3.วัดไผ่ล้อม (Wat Phi Lom) |
|
3.วัดไผ่ล้อม (Wat Phi Lom) |
|
3.วัดไผ่ล้อม (Wat Phi Lom) |
3.วัดไผ่ล้อม (Wat Phi Lom)
จัดเป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่สำคัญของเมืองตราด ตั้งอยู่ที่ถนนหลักเมือง ตำบลบางพระ อำเภอเมืองตราด เป็นวัดที่เก่าแก่มีอายุมากกว่า 150 ปี และมีบทบาทสำคัญต่อการศึกษาของจังหวัด รวมทั้งมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนเป็นอย่างดี ตั้งอยู่เลขที่ 238 เคยเป็นที่พำนักของบิดาแห่งการศึกษาจังหวัดตราด คือ ท่านเจ้าคุณพระวิมลเมธาจารย์ วรญาณนุรักษ์ สังฆปราโมก ภายในวัดมีสวนพุทธธรรมให้ประชาชนใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และมีเจดีย์พิพิธภัณฑ์สามท่านเจ้าคุณที่เคารพของคนในจังหวัดตราด วัดนี้เป็นสถานที่ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินเป็นการส่วนพระองค์ พร้อมเสด็จฯ เยี่ยมเยียนประชาชนชาวตราด ที่เดินทางมาเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จอย่างเนืองแน่น เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2511 แม้ในปัจจุบันวัดก็ยังเป็นที่พึ่งพาของชาวบ้าน มีการพัฒนาสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมตลอดเวลา
|
4.ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว |
|
4.ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว |
|
4.ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว |
|
4.ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว |
|
4.ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว |
4.ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว
สำหรับชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว ชุมชนท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่นำเสนอวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้านชายฝั่ง ตั้งอยู่ใน ต.น้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ จ.ตราด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวถ่ายรูปเช็คอินที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของจังหวัดตราด โดยจุดเด่นของชุมชนแห่งนี้คือ สะพานโค้งข้ามลำคลอง เป็นหมู่บ้านในเส้นทางผ่านไปท่าเรือเกาะช้าง บ้านน้ำเชี่ยวมี พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ติดทะเล มีป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่เป็นจำนวนมาก มีคลองขนาดใหญ่ไหลผ่าน เดิมทีประชากรของตำบลน้ำเชี่ยว เป็นคนไทยนับถือศาสนาพุทธ ต่อมามีพ่อค้าชาวจีนล่องเรือสำเภามาค้าขายสินค้าที่ท่าเรือบ้านน้ำเชี่ยว และได้ตั้งรกรากอยู่ที่นี่ ทำให้ชาวน้ำเชี่ยวส่วนหนึ่งเป็นคนไทย เชื้อสายจีน และในสมัยรัชกาลที่ 3
ได้มีชาวมุสลิมซึ่งเรียกตัวเองว่า “แขกจาม หรือ จำปา” อพยพหนีสงครามมาจากประเทศเขมร มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ริมคลองน้ำเชี่ยว และมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยชาวพุทธและมุสลิมสามารถแต่งงานข้ามศาสนาได้ ซึ่งพี่น้องทั้งสอง ศาสนาอาศัยอยู่ร่วมกันในตำบลน้ำเชี่ยวอย่างสันติสุขด้วยความสัมพันธ์อันดีตลอดมา
ที่มาของชื่อชุมชน “น้ำเชี่ยว” มาจากพื้นที่ส่วนใหญ่ อยู่ติดทะเล มีป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่เป็นจำนวนมาก มีคลองขนาดใหญ่ไหลผ่าน ซึ่งคลองนี้มีต้นกำเนินอยู่ที่เขาวังปลา อยู่ระหว่างอำเภอแหลมงอบและอำเภอเมืองตราด เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก น้ำในคลองจะไหลเชี่ยวมาก ชาวบ้านจึงเรียกว่า “คลองน้ำเชี่ยว” ไหลผ่านกลางหมู่บ้านน้ำเชี่ยวลงสู่ทะเลอ่าวไทยทางใต้ที่บ้านปากคลอง ตำบลหนองโสน อำเภอเมืองตราด ซึ่งชาวบ้านใช้เป็นแหล่งประมง พื้นบ้านและใช้เป็นเส้นทางออกทะเลเพื่อทำการประมงจนถึงปัจจุบันชาวตำบลน้ำเชี่ยวส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ประมง ทำสวนยางพารา สวนผลไม้ และค้าขาย อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในการทำงอบ เรียกว่า "งอบน้ำเชี่ยว" เป็นหัตถกรรมพื้นบ้านของจังหวัดตราดที่สืบทอดมาแต่โบราณอีกด้วย
|
5.ป่าชายเลนบ้านท่าระแนะ |
|
5.ป่าชายเลนบ้านท่าระแนะ |
|
5.ป่าชายเลนบ้านท่าระแนะ |
|
5.ป่าชายเลนบ้านท่าระแนะ |
|
5.ป่าชายเลนบ้านท่าระแนะ |
5.ป่าชายเลนบ้านท่าระแนะ
เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่มีป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ในบ้านท่าระแนะ ห่างจากตัวเมืองตราดประมาณ 11 กิโลเมตร ภายในเป็นป่าชายเลน มีเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่ ซึ่งต้นไม้แต่ละต้นมีขนาดใหญ่มาก มีอายุมากกว่า 100 ปี ถือว่าเป็นแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ของชาวบ้านเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการ จับปู ปลา กุ้ง หอย ต่างๆ จนกระทั่งได้กลายมาเป็น หนึ่ง ใน สถานที่ท่องเที่ยว Unseen ของ จังหวัดตราด ที่มีความมหัศจรรย์ ก่อนจะได้ไปชมกันนั้น เราต้องนั่งเรือเข้าไป ประมาณ 2 กิโลเมตร จะผ่านป่าในคลองถึง 3 ป่าด้วยกัน นั่นก็คือ ป่าโกงกาง ป่าจาก และป่าตะบูน ซึ่งเป็นรากไม้มหัศจรรย์ และกลายเป็นหนึ่งใน Unseen ที่มีชื่อเสียงของป่าชายเลนแห่งนี้
|
6.แหลมเกาะปู |
|
6.แหลมเกาะปู |
|
6.แหลมเกาะปู |
|
6.แหลมเกาะปู |
6.แหลมเกาะปู
สำหรับแหลมเกาะปู จัดเป็นหนึ่งในสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจติดริมชายทะเล บริเวณแหลมเกาะปูตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวแม่น้ำตราด ที่บ้านแหลมหิน ต.หนองคันทรง อ.เมือง จ.ตราด ซึ่งมีมีระยะทางอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร ชาวบ้านเรียกแหลมเกาะปู เนื่องจากว่าภูมิประเทศเป็นแหลมยื่น ออกไปทางทะเล มีประภาคารตั้งอยู่และเป็นพื้นที่ๆมีน้ำล้อมรอบมีคลองกั้นระหว่างบ้านท่าหลวงล่าง อีกทั้งบริเวณแหลมเกาะปูเป็นป่าชายเลนที่สมบูรณ์ และเป็นที่อยู่อาศัยของปูทะเลจำนวนมากจึงเป็น ที่มาของชื่อ “แหลมเกาะปู” นั้นเอง โดยปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับมาเดินรับลม ถ่ายรูปเช็คอินสวยๆ และยังอยู่ไม่ไกลจากป่าเลนบ้านท่าระแนะ หรือป่ามหัศจรรย์ลานตะบูนอีกด้วย
|
7.ชายหาดบานชื่น (หาดมะโร) |
|
7.ชายหาดบานชื่น (หาดมะโร) |
|
7.ชายหาดบานชื่น (หาดมะโร) |
|
7.ชายหาดบานชื่น (หาดมะโร) |
|
7.ชายหาดบานชื่น (หาดมะโร) |
|
7.ชายหาดบานชื่น (หาดมะโร) |
|
7.ชายหาดบานชื่น (หาดมะโร) |
7.ชายหาดบานชื่น (หาดมะโร)
จัดเป็นหนึ่งในชายหาดสวยงามประจำจังหวัดตราดที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ก่อนถึงอำเภอคลองใหญ่ เส้นทางหลวงหมายเลข 318 ระหว่างกิโลเมตรที่ 59-60 โดยมีทางแยกขวามือเข้าไปอีก 3 กิโลเมตร เป็นหาดที่มีทัศนียภาพสวยงาม มีทรายเม็ดละเอียด น้ำใสสะอาด บริเวณหาดมีร้านอาหาร ร้านค้าให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้นั่งทานอาหาร มีบังกะโลให้เช่าบริเวณชายหาดให้นักท่องเที่ยวได้นอนพักค้างแรมอีกด้วย
หาดบานชื่น หรือหาดมะโรแห่งนี้ ตัวหาดมีลักษณะเป็นแนวกว้างทอดตัวลงไปในท้องทะเล สามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย จึงเป็นหนึ่งในชายหาดและเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่มีชื่อเสียงของนักท่องเที่ยวในเมืองตราดนิยมไปเที่ยวกัน
|
ใหนก็ขับรถมาไกลถึงคลองใหญ่ ก็แวะมาเช็คอินถ่ายรูปที่สะพานไม้รูดสักหน่อยค่ะ |
นอกจากนี้ยังมี ชุมชนไม้รูด ก็เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวอยู่ก่อนจะถึงหาดบานชื่นค่ะ ใหนก็ขับรถมาไกลถึงคลองใหญ่ ก็แวะมาเช็คอินถ่ายรูปที่สะพานไม้รูดสักหน่อยค่ะ
โดยเฉพาะใครที่อยากได้อาหารทะเลสดๆ แวะมาหาซื้อที่บ้านไม้รูด รับรองว่าได้ของสด และราคาไม่แพงกลับไปอย่างแน่นอน
จากนั้นก็เดินทางกลับไปเมืองตราด เช็คเอาท์ออกจากที่พัก และขับรถมอเตอร์ไซต์มาคืนให้กับร้านเช่ารถที่สถานีขนส่ง บขส.
แล้วซื้อตั๋วรถกลับกรุงเทพ ได้รถเที่ยวสุดท้ายพอดีค่ะ รอบ 17.00 น. ถ้ามาช้ากว่านี้ ตกรถได้นอนที่เมืองตราดอีกคืนอย่างแน่นอน ราคาโดยสาร 270 บาท
สำหรับเพื่อนๆคนใหนที่ วางแผนมาปักหมุดหยุดงาน มาเที่ยวตราดแบบนั่งรถตู้โดยสารมาเที่ยวเอง ก็ตรวจสอบเวลาให้ดีนะคะ
หลังจากซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้นรถเดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ...จบทริปเที่ยวเมืองตราด
สำหรับเพื่อ่นๆคนใหนที่วันหยุดนี้ ยังไม่รู้ไปเที่ยวใหนดี ก็ลองปักหมุดมาเช็กอิน เดินฟินเที่ยวในตัวเมืองตราดดูนะคะ ในจังหวัดตราดยังมีแหล่งท่องเที่ยว และจุดเช็คอินให้ไปถ่ายรูปวิวสวยๆอีกมากมายหลายแห่งเลยค่ะ อีกทั้งยังมีอาหารทะเลสดๆ และมีของฝากให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับไปอีกด้วย
ขอบพระคุณเพื่อนๆคุณผู้อ่านและนักทัศนาจรทุกๆคน ที่แวะเวียนเข้ามาเปิดสไลด์เลื่อนอ่านดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้งในบทความถัดไปนะคะ.....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
-------------------------------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ
0 ความคิดเห็น