Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

แปลกถิ่น..รีวิวเที่ยวฟองญา ชมเมืองป่าเขามรดกโลก เดินทางไปอย่างไร มีที่เที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปกันเลยจ้า

สะพายกระเป๋าเที่ยวอาเซียนเดือนนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมาแบ่งปันรีวิวเที่ยวฟองญา ชมอุทยานแห่งชาติป่าเขามรดกโลกทางธรรมชาติ เดินทางไปอย่างไร มีแหล่งท่องเที่ยวอะไรให้ไปถ่ายรูปเช็คอินบ้าง ตามไปกันเลยจ้า



กลับมาทักทาย สวัสดีคุณผู้อ่าน รวมทั้งเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจทุกคนค่ะ กลับมาพบปะกันอีกครั้ง กับบทความบล็อกรีวิวท่องเที่ยวประจำเดือน ที่จะพาเพื่อนๆคนชอบเที่ยว เลี้ยวแวะไปรีวิวเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ และในทริปแบกเป้เที่ยวเดือนนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งทริปพิเศษ เนื่องจากว่าได้สะพายกระเป๋า เดินทางไปเที่ยวประเทศเวียดนาม หนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนเรา อยู่ไม่ไกลจากเมืองไทย เดินทางนั่งเครื่องบินไปได้แค่ 1 ชั่วโมงนิดๆก็ถึงที่หมาย อีกทั้งมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่งเลยทีเดียว 


และในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา ก็ได้ปักหมุดวางแผนไปเที่ยวเมืองฟองญา อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวพักผ่อนตากอากาศทางธรรมชาติที่สวยงามอีกแห่งในเวียดนาม หากจะเปรียบฟ็องญาให้เหมือนกับในเมืองไทย ก็น่าจะเป็น เขาสก เขาใหญ่ หรือว่าเป็น กุ้ยหลินแห่งเวียดนาม หรือว่าวังเวียงแห่งเวียดนามก็น่าจะใช่เลยทีเดียว


 เนื่องจากมีภูมิประเทศเป็นเขตภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ มีแม่น้ำใหลผ่าน พร้อมด้วยทัศนียภาพทะเลหมอกอันสวยงาม อากาศยามเช้าเย็นสบาย และยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สนใจให้ไปเช็คอินอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งต้องใช้เวลาเป็นวันๆกันเลยทีเดียว และสำหรับเพื่อนๆคนใหนที่กำลังวางแผนจะมาเที่ยวเวียดนามกลาง และจะวางแผนมาเที่ยวพักอากาศชมวิวสวยๆที่เมืองฟองญา (Phong Nha) แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเดินทางไปอย่างไรดี และในเขตอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง วันนี้เดี๊ยนขอรีวิวและสรุปค่าใช้จ่ายในการเที่ยวฟองญาให้ได้อ่านฆ่าเวลากันค่ะ 


ก่อนจะเข้าสู่ภาพรีวิวการเดินทางไปเที่ยวฟองญา เราก็มารู้จักอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง มาดูสิว่าอุทยาแห่งชาติแห่งนี้  ตั้งอยู่ที่ใหน และทำไมถึงได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติที่สำคัญของเวียดนาม นำมาให้อ่านกันเล็กน้อยพอสังเขป 


เรื่องน่ารู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง (Phong Nha-Ke Bang National Park)


สาระน่ารู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง (Phong Nha-Ke Bang National Park)


สำหรับอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง จัดเป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่สำคัญของเวียดนาม โดยถูกจัดให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี พ.ศ.2546 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งมีสถานพักผ่อนตากอากาศและทัศนียภาพที่งดงาม มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาตลอดทั้งปี สถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นมีถ้ำฟองญา สามารถเดินทางได้ด้วยเรือ และถ้ำแห่งสรวงสวรรค์ หรือ Paradise Cave ที่สามารถขับรถลัดเลาะตามไหล่เขา และเดินเข้าไปชมความงามในถ้ำได้อย่างปลอดภัยมีเจ้าหน้าที่่ดูแล


โดยอุทยานแห่งชาติฟองญา ตั้งอยู่ในอำเภอโบ๊จัก และอำเภอมิญฮว้า ในจังหวัดกว๋างบิญ  ในภูมิภาคชายฝั่งตอนกลางของเวียดนาม อุทยานแห่งนี้อยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติหินน้ำโนในแขวงคำม่วน ประเทศลาว ไปทางทิศตะวันตก โดยมีระยะห่างจากกรุงฮานอยมาทางตอนใต้ประมาณ 500 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเมืองดานัง ขึ้นมาทางตอนเหนือประมาณ 300 กิโลเมตร 


อุทยานแห่งชาติฟองญาแห่งนี้ มีความโดดเด่นทางธรรมชาติและทางธรรีวิทยาที่มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง หรือประมาณ 400 ล้านปี)


ซึ่งอุทยานแห่งชาติฟองญาแห่งนี้ มีความโดดเด่นทางธรรมชาติและทางธรรีวิทยาที่มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง หรือประมาณ 400 ล้านปี) นั่นจึงส่งผลให้อุทยานแห่งนี้มีภูมิประเทศแบบหินปูนที่เก่าแก่ที่สุดในเอเซีย โดยในเขตอุทยานแห่งชาติฟงญา-กั๋งเป่าอยู่ในเขตหินปูนขนาด 2,000 ตร.กม. เป็นกลุ่มหินปูนมีขนาดพื้นที่ 857.54 ตารางกิโลเมตร หรือ 535,962.5 ไร่ อุทยานนี้มีชื่อเสียงในความสวยงามของถ้ำที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และยังเป็นสถานที่ 1 ใน 2 ของโลกที่เป็นหินปูนที่มีลำธารใต้ดินขนาดใหญ่


ซึ่งที่มาของชื่อฟองญา ได้มาจากถ้ำฟองญา ซึ่งภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยรูปร่างต่างๆมาก  อีกทั้งยังเป็นเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำซอน (Son River)


โดยชื่อฟองญา ได้มาจากถ้ำฟองญา ซึ่งภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยรูปร่างต่างๆมาก  อีกทั้งยังเป็นเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำซอน (Son River) ที่สะสมน้ำจากใต้ดินไหลรวมกันมาจากภายในถ้ำ และนอกจากถ้ำฟองญาแล้ว ยังมีถ้ำแห่งสรวงสวรรค์ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Paraside Cave ซึ่งเป็นถ้ำหินงอกหินย้อยขนาดใหญ่มีความงดงามเป็นอย่างมาก และป่าก๋าบ่าง เขตพื้นที่ป่าบริเวณที่ราบสูงแห่งนี้ ก็ปกคลุมไปด้วยระบบนิเวศป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งโดดเด่นที่สุดของธรณีวิทยาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเชียงใต้ 


นักธรณีวิทยาพบกว่าในเขตอุทยานแห่งชาติฟองญามีถ้ำจำนวนมากกว่า 300 แห่ง การสำรวจในปี 2552 ทำให้ความยาวของระบบถ้ำที่ค้นพบทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 126 กม.

จากการสำรวจของนักธรณีวิทยาพบกว่าในเขตอุทยานแห่งชาติฟองญามีถ้ำจำนวนมากกว่า 300 แห่ง การสำรวจในปี 2552 ทำให้ความยาวของระบบถ้ำที่ค้นพบทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 126 กม.ซึ่งมีหลายพื้นที่ที่ยังสำรวจได้ไม่ดีนัก และหนึ่งในถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีการสำรวจพบก็คือ ถ้ำเซิ่นดอง 


โดยถ้ำเซิ่นดอง (Son Doong - World's largest cave) ซึ่งถูกค้นพบในปี 2552 โดยนักสำรวจชาวอังกฤษและเวียดนาม ถือเป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก  ถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกถูกค้นพบอีกครั้ง โดยทีมนักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษของ British Caving Association ซึ่งนำโดยเกษตรกรในท้องถิ่นชื่อ Ho Khanh และการจะเดินทางไปเที่ยวถ้ำแห่งนี้ จะจัดให้เที่ยวแค่ปีละ 1 ครั้งเท่านั้นด้วย โดยจุดเด่นของถ้ำคือ 



แม้กระทั่งก่อนการค้นพบครั้งนี้ ฟองญายังสร้างสถิติโลกเกี่ยวกับถ้ำหลายแห่ง และได้รับการยอมรับจากนักสำรวจถ้ำทั่วโลกว่า เป็นถ้ำอันดับหนึ่งของโลก เนื่องจากเป็นเจ้าของสถิติถึง 4 รายการได้แก่ น้ำลอดยาวที่สุดในโลก, โถงถ้ำสูงที่สุด ยาวที่สุด และกว้างที่สุดของโลกอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เองทำให้อุทยานแห่งชาติฟองญา เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักเดินป่าจากทั่วโลก ต้องปักหมุดมาผจญภัยและชมความงามของถ้ำหินงอกหินย้อยในเขตอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่างแหงนี้กันสักครั้ง 

เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://en.wikipedia.org/wiki/Phong_Nha_–_Kẻ_Bàng_National_Park



วิธีเดินทางไปเที่ยวฟองญา เดินทางไปอย่างไร


1.เดินทางโดยสารรถบัส  มีรถโดยสารนั่งจากจากเมืองดานังไปถึงเมืองฟองญาเลย ระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร ค่ารถโดยสารที่เราจ่าย โดยให้เจ้าหน้าที่ของโรงแรมในเมืองฟองญาจองรถบัสจากเมืองดานังไปเมืองฟองญา ค่าโดยสารตกคนละ 350,000 ดอง

 

2.เดินทางโดยรถไฟ ต้องนั่งรถไฟจากไปลงเมืองดงฮอย (Dong Hong) แล้วก็นั่งแท๊กซี่มาลงที่สถานีขนส่งรถบัสเมืองดงฮอย จากนั้นก็ต่อรถบัสขนาดเล็กไปที่เมืองฟองญาอีกครั้ง  โดยต้องนั่ง 2 ต่อ และเที่ยวรถไฟมีจำกัด และรถไฟอาจใช้เวลานาน 


วิธีเดินทางไปเที่ยวฟองญา เดินทางไปอย่างไร เดินทางด้วยวิธีใหนสะดวกที่สุด ระยะทางจากสถานีรถบัสดานังไปที่ฟองญา ประมาณ 300 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางด้วยรถบัสประมาณ 6 ชั่วโมง


เดินทางไปฟองญาด้วยวิธีใหนสะดวกที่สุด 


1.โดยการเดินทางในทริปนี้ เราเลือกเดินทางด้วยรถบัสโดยสารค่ะ เนื่องจากได้ทำการจองห้องพักกับโรงแรมโดยตรง โดยเลือกจองพักที่โรงแรม A little Leaf Homestay Phong Nha (อะลิตเติ้ลลีฟ โฮมสเตย์ ฟองญา) ซึ่งได้จองห้องพักตัดบัตรเครดิตผ่านเว็ป www.agod.com ไปเรียบร้อยแล้ว และได้ติดต่อโรงแรมผ่าน Facebook อีกครั้ง เพื่อสอบถามการเดินทางไปฟองญา ว่ามีรถบัสที่ไปฟองญา โดยตรงหรือไม่  


2.ได้รับคำตอบจากทางโรงแรม A little leaf Homestay Phong Nha ฟองญา ว่ามีรถบัสจากเมืองดานังไปส่งถึงเมืองฟองญาเลยค่ะ โดยรถบัสมีรอบเวลา 12.10 น. ไปลงที่สถานีขนส่งดงฮอย และจะมีรถมินิบัสมาส่งที่เมืองฟองญา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง และทริปนี้นั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินดานังตอน 9 โมงเช้ากว่าด้วย กว่าจะออกจากสนามบินไปที่สถานีรถบัสโดยสารอีก 

 เพื่อตัดปัญหาระหว่างการที่ต้องจ่ายเงินหลายครั้ง เราเลยให้โรงแรมทำการจองรถบัสโดยสารให้เลย โดยเลือกไปชำระค่ารถโดยสารที่โรงแรมตอนเข้าพักแทนค่ะ  ราคารวมทั้งหมดอยู่ที่คนละ 350,000 ดอง ตกเป็นเงินไทยคนละ 525 บาท (วิธีคำนวณเป็นเงินไทยง่ายๆ ตัดศูนย์ท้ายออก 3 ตัว แล้วคูณ 1.5  จะเป็น 350 x 1.5 = 525 บาท)


3.ชื่อบริษัทรถบัสโดยสารที่เดินทางจากสถานีขนส่งดานัง มาที่เมืองฟองญา เป็นของบริษัท Hanh Luyen  เดี๊ยนเคยติดต่อสอบถามเป็นภาษาอังกฤษไปทางข้อความ Facebook ของบริษัทรถบัส Hanh Luyen แล้ว ปรากฎว่าไม่มีการโต้ตอบแต่อย่างใด เลยเลือกให้โรงแรมโทรจองให้แทนค่ะ น่าจะเป็นวิธีที่สะดวกสุดๆแล้ว อีกอย่างทริปนี้วางแผนไปกระชันชิดมากๆ มีตัวเลือกรถบัสน้อย แต่รถบัสที่ทางเจ้าหน้าที่โรงแรมแนะนำมาก็มีรอบรถเวลาเดินทางดังนี้ค่ะ 

โดยรอบรถบัสโดยสารนั่งจากดานัง - ไปฟองญา มีเวลา 10.00 น. 12.10 น ,14.00 น. (3 รอบเท่านั้น)

ส่วนรอบรถบัสโดยสารนั่งจากฟองญา - ไปดานัง มีเวลา  9.00  และเวลา 19.00 น. เท่านั้น ถ้าใครที่ต้องการนั่งรถนอกเวลานี้ สามารถนั่งรถมินิบัสจากเมืองฟองญา ไปทีสถานีขนส่งเมืองดงฮอย จะมีรถบัสให้เลือกหลายบริษัท แต่ต้องหาข้อมูลไว้ให้พร้อมค่ะ สามารถเช็คข้อมูลรถบัสได้ที่เว็ปไซต์ : https://12go.asia/en

เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกเดินทางและการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเที่ยวฟองญาค่ะ แต่ถ้าใครมีเวลามากพอ จะเดินทางด้วยรถบัสสายอื่นไปลงที่เมืองดงฮอย และต่อรถมินิบัสมาเอง ราคาน่าจะถูกกว่าค่ะ  


4.และสำหรับรอบเวลากลับ เราเลือกเดินทางจากฟองญา ไปเที่ยวต่อที่เมืองเว้ เลยเลือกนั่งรถไฟ โดยต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟดงฮอย (Dong Hoi Train station) แต่รอบรถไฟช่วงบ่าย มีแค่เวลา 16.00 น.เท่านั้น เดี๊ยนเลยเลือกใช้บริการแท๊กซี่ของโรงแรมให้ไปส่งที่สถานีรถไฟดงฮอยแทน ซึ่งจะทำให้มีเวลาเที่ยวในเมืองฟองญาเกือบ 1 วันเต็มๆ (จริงๆแล้วใครที่มาเที่ยวฟองญาควรพักอย่างน้อย 2 คืนกำลังดีค่ะ ทริปนี้เดี๊ยน จัดแบบชะโงกทัวร์ไปหน่อย)


เอาเป็นว่าใครที่จะวางแผนมาเที่ยวฟองญา แนะนำว่ามาเที่ยวสัก 3 วัน 2 คืน ถือว่ากำลังเหมาะสมพอดีพอดี ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ได้เก็บบรรยากาศและได้เก็บภาพสถานที่ท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติโดยรอบได้หมดค่ะ ทั้งถ้ำฟองญา และถ้ำparadise cave ไม่ต้องรีบร้อนใดๆ ถือว่ามาพักผ่อนตากอากาศ ชมบรรยากาศวิวทิวทัศน์สวยๆของเมืองฟองญาแห่งนี้ 


ควรเลือกพักโรงแรมที่ใหนในฟองญาดีที่สุด มีโรงแรมแนะนำบ้าง



เลือกพักโรงแรมที่ใหนในฟองญาดีที่สุด


สำหรับตัวเลือกโรงแรมในเมืองฟองญานั้น มีโรงแรมและที่พักให้เลือกหลากหลายมาก อันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลยค่ะ สามารถจองห้องพักได้ทางออนไลน์ผ่าน Agoda.com, Booking.com, Traveloka.com , Trip.com เว็ปออนไลน์อื่นๆ หรือจองผ่านทางโรงแรมได้โดยตรง ราคาต่างกันเล็กน้อย ซึ่งห้องพักที่ฟองญา ราคาก็ถูกมากๆ ตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักพันต้นๆ 

 

1.โดยส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวที่มาพัก นิยมนอนพักโรงแรมที่อยู่ติดริมแม่น้ำ Son River เนืองจากช่วงเช้าจะได้มองเห็นวิวไอหมอก ลอยเป็นม่านตัดผ่านภูเขาหินปูนที่อยู่ตรง ถือเป็นไฮไลท์ของคนที่ชอบถ่ายรูป ต้องตื่นมาชมและหยิบกล้องกดชัดเตอร์ถ่ายรูปบันทึกเป็นไดอารีไว้ทุกครั้ง หรือจะนั่งจิบชา กาแฟของโรงแรมก็ถือว่าได้บรรยากาศดีไม่น้อย สำหรับใครที่มองหาโรงแรมติดริมแม่น้ำ เข้าไปดูข้อมูลที่พักติดริมแม่น้ำในฟองญาได้ที่เว็ปไซต์ : Phong Nha River Hotel Recommend


2.เลือกพักโรงแรมไม่ติดแม่น้ำ แต่มีสระว่ายน้ำ และมีวิลลา บ้านพักเป็นหลัง หรือบังกะโลให้เลือกพัก น่าจะเหมาะกับครอบครัว หรือนอนพักหลายๆคน อีกอย่างห้องพักราคาถูกและไม่แพงอีกด้วย สามารถดูตัวเลือกโรงแรมต่างๆได้ที่เว็ปไซต์ : www.Agoda.com หรือ www.Booking.com 


ส่วนในเมืองฟองญาเป็นเมืองเล็ก ก็มีร้านอาหาร และร้านค้าของชำในหมู่บ้าน แต่ไม่มีร้านสะดวกซื้อเซเว่นเหมือนในเมืองไทยนะคะ มีรถมอเตอร์ไซต์ให้เช่าในราคาไม่แพง ค่าเช่าตกคันละ 225 บาท  น้ำมันเติมแบบขวดเป็นแก๊สโซฮอลค่ะ ไม่มีปั้มน้ำมันขนาดใหญ่นะคะ 


แนะนำว่าใครที่เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับเที่ยว เติมน้ำมันเผื่อไว้เต็มถังเลยก็ดีค่ะ  และอีกอย่างการสื่อสารในเวียดนาม แนะนำว่า Google Translate ในมือถือช่วยได้มาก เพราะคนที่นี่ไม่พูดอังกฤษกันเลย ดังนั้น Google Translate ในมือถือช่วยด้วย 


และเพื่อให้เห็นภาพรีวิวการเดินทางไปฟองญา หลังจากเลิกงานประจำมาวันนี้ เดี๊ยนเลยขอมาแบ่งปันรีวิวการเดินทางไปเที่ยวฟองญามาให้ชมกันดังนี้ค่ะ 


------------- วันที่ 1 ( First Day) ------------



เริ่มต้นทริปเที่ยวเวียดนามกลาง นั่งจากกรุงเทพ-ลงสนามบินดานั่ง ใช้บริการ Vietjet Air ราคาถูกสุดล่ะ ซื้อตั๋วเครื่องไปกลับ 5151.86 บาท

เริ่มต้นการเดินทางทริปเที่ยวเวียดนามกลางทริปนี้นี้ นั่งเครื่องบินจากสนามบินสุวรรณภูมิ ลงที่สนามบินดานั่ง เที่ยวบินตอนเช้าตรู่เลยค่ะ ใช้บริการเครื่องบิน Vietjet Airline ค่าโดยสาร 5,151.86 บาท รวมค่าประกันเดินทางเที่ยวในเวียดนาม และค่าอาหาร 150 บาทแล้ว 



บรรยากาศภายในเครื่องบิน ผู้โดยสารทยอยมานั่งเกือบเต็มลำ เพราะว่าเป็นวันหยุดยาว 



เที่ยวบินตอนเช้า ต้องทานอาหารให้ตรงเวลา เดี๊ยนเลยสั่งจองอาหารล่วงหน้าไว้แล้ว เป็นข้าวหน้าไก่เทอริยากิ อาหารพร้อมน้ำดื่ม ราคา 150 บาท แต่ถ้าซื้อบนเครื่อง 180 บาท


ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 นาที ก็ถึงสนามบินเมืองดานังแล้วค่ะ 


เดินผ่านด่าน ตม.มาแล้ว ก็มาถ่ายรูปภายในอาคารผู้โดยสารขาเข้าสักหน่อยค่ะ 

ในสนามบินดานัง มี Sim Internet ขายด้วยอีกทั้งราคาถูกกว่าของไทยด้วย

สำหรับใครที่ไม่ได้ซื้อแพ็คเก็จเน็ตออนไลน์จากเมืองไทยมา ที่สนามบินดานังก็มีซิมอินเตอร์เน็ตเวียดนนาม ( Sim Internet ) ให้เลือกหลายเจ้าและราคาก็ไม่แพงด้วย ราคาประมาณ 378 บาท ที่จำได้นะคะ เดี๊ยนก็ลืมถ่ายรูปมา แต่วันที่ไปเดี๊ยนไม่ได้ใช้ Sim Net เวียดนาม แต่เลือกโปรแพ็คเกจโรมมิ่งจากไทยไปแทนค่ะ ราคา 399 บาท ไทยแพงกว่านิดหน่อย  Sim Net เวียดนามราคาถูกกว่าค่ะ 


มาตั้งหลักที่ด้านหน้าอาคารผู้โดยสารขาเข้า เปิดโรมมิ่งซิมเน็ตที่ซื้อมาจากไทย และเปิดแอป Grap Car เพื่อติดต่อรถแท็กซี่เพื่อไปส่งที่สถานีขนส่งรถบัสโดยสารดานัง

หลังจากนั้นก็มาตั้งหลักที่ด้านหน้าอาคารผู้โดยสารขาเข้า เปิดโรมมิ่งซิมเน็ตที่ซื้อมาจากไทย และเปิดแอป Grap Car เพื่อติดต่อรถแท็กซี่เพื่อไปส่งที่สถานีขนส่งรถบัสโดยสารดานัง ซึ่งจากข้อมูลที่อ่านใน Pantip มาบอกว่าให้ติดต่อผ่าน Grap เพราะมีราคาค่าโดยสารบอกชัดเจน และราคาถูกกว่าเรียกแท๊กซี่ในสนามบิน 


ค่ารถแท็กซี่แกร็ปจากสนามบินดานังมาที่ สถานีรถบัสโดยสาร อยู่ที่ 98,000 ดองค่ะ รถมาจอดที่ด้านหน้าสถานีรถบัสโดยสารเมืองดานัง

สำหรับค่ารถแท็กซี่แกร็ปจากสนามบินดานังมาจอดด้านหน้าสถานีรถบัสโดยสารเมืองดานัง อยู่ที่ 98,000 ดองค่ะ หรือประมาณ 147 บาท มาถึงก็งงๆเล็กน้อย เพราะด้านหน้าป้ายสถานีขนส่ง บขส.ดานัง ก็เป็นภาษาเวียดนามอยู่เลยค่ะ 


ใกล้กับสถานีขนส่งรถบัสดานัง เดี๊ยนเลยเลือกมาหาอาหารทานก่อนเดินทางค่ะ โดยตรงข้ามสถานีรถบัสดานังมีร้านอาหารและร้านน้ำชาให้ไปนั่งทานด้วย  ทานเก็บแรงไว้ จะได้ไม่หิวตอนอยู่บนรถบัส 

สั่งอาหารได้เป็นข้าวผัดหมู ซึ่งข้าวผัดหมูที่นี่ก็เป็นข้าวผัดจริงๆนะคะ ข้าวผัดแล้วราดด้วยหมูทอดอีกครั้ง 


มาถึงร้านอาหารเพื่อสั่งอาหาร เป็นร้านคุณป้ากำลังทำกับข้าวอยู่ ซึ่งคุณป้าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้  เดี๊ยนเลยต้องใช้ Google Translate ช่วยในการแปลภาษา เลยสั่งอาหารได้เป็นข้าวผัดหมู ซึ่งข้าวผัดหมูที่นี่ก็เป็นข้าวผัดจริงๆนะคะ ข้าวผัดแล้วราดด้วยหมูทอดอีกครั้ง ไม่ได้เอาหมูไปคลุกผัดในข้าวเหมือนไทยเรา และข้าวผักทุกจานจะทานแนมกับผักเสมอ รสชาติออกผงนัวเยอะๆ อร่อยดี ป้าขายอยู่ที่ 40,000 ดอง หรือประมาณ 60 บาทไทย 


ทานอาหารเสร็จข้ามถนนไปสถานีรถบัสดานัง ระหว่างข้ามถนนต้องระวังรถมอเตอร์ไซต์ค่ะ เพราะรถเยอะทีเดียว 


เดินเข้ามาในชานชลาขนส่งเมืองดานัง ก็เดินหาป้ายชื่อรถบัสบริษัทว่าอยู่ชานชลาใหน เพราะวันที่มาถึง ก็ถามคนในสถานีอยู่นาน แต่บางคนก็ส่ายหัว เพราะว่าช่วง 11 โมง ยังไม่มีรถบัส Hanh Luyen ดังกล่าวเข้า 

เห็นรถบัสของ Hanh Luyen จอดอยู่ เลยเข้าไปถามคนขับว่าเป็นรถบัสที่ไปเมืองฟองญาหรือไม่ ทางคนขับบอกว่าใช่ 

เดี๊ยนเลยเดินมาด้านหลัง เห็นรถบัสของ Hanh Luyen จอดอยู่ เลยเข้าไปถามคนขับว่าเป็นรถบัสที่ไปฟองญาหรือไม่ ทางคนขับบอกว่าใช่ เดี๊ยนเลยให้ทางคนขับติดต่อโทรกับทางเจ้าหน้าที่โรงแรมว่าได้ทำการจองและจ่ายค่าโดยสารรถบัสไว้แล้ว


มีป้ายบอกว่าเป็นขบวนรถที่จะไปฟองญา -ดงฮอย - แลไปดานังจริงๆค่ะ 

ขึ้นมาบนรถบัสโดยสาร ก็มีป้ายบอกว่าเป็นขบวนรถที่จะไปฟองญา -ดงฮอย - และไปดานังจริงๆค่ะ 

มีป้ายติดอยู่พร้อมเบอร์โทรด้วย เผื่อเพื่อนๆคนใหนที่พูดภาษาเวียดนามได้ ลองโทรไปสอบถามได้นะคะ 

รถนอน ไม่มีห้องน้ำในตัว ต้องถอดรองเท้าใส่ถุงพลาสติกที่ทางรถบัสเตรียมให้ถือขึ้นมา ใครที่เท้าเหม็นๆ ต้องอดทนดมกลิ่นกันหน่อยล่ะค่ะ 

ด้านในเป็นรถนอนค่ะ ต้องถอดรองเท้าใส่ถุงพลาสติกที่ทางรถบัสเตรียมให้นำขึ้นมาด้วย ใครที่เท้าเหม็นๆ ต้องอดทนดมกลิ่นกันหน่อยล่ะค่ะ 
มีทั้งที่นอนชั้นบนและชั้นล่าง แต่เดี๊ยนขอเลือกชั้นล่างค่ะ  หากใครที่ขึ้นรถบัสนอนแบบนี้ ไม่มีห้องน้ำในตัวนะคะ แนะนำว่าดื่มน้ำน้อยๆ จิบๆเอาพอ ถ้าเกิดปวดกลางทางจะลำบากเอาค่ะ



รถบัสล้อหมุนออกจากสถานีขนส่งเวลา 12.10 น. นอนชมวิวทิวทัศน์ถ่ายรูประหว่างทางไปพลางค่ะๆ เปิดเน็ตเล่นบ้าง แต่ไม่บ่อย เพราะเกรงว่าความเร็วจะหมดไปเสียก่อน


ผ่านเทือกเขา และทุ่งไร่นา บรรยากาศระหว่างทางก็สวยงาม ท้องฟ้าแจ่มใส วันที่เดินทางไปไม่มีฝนตกเลยค่ะ 


ขับรถผ่านได้สัก 3 ชั่ว รถก็จอดหยุดจอดให้ผู้โดยสารลงแวะที่ปั้มเพื่อเข้าห้องน้ำห้องท่า ใครที่อั้นฉี่ไว้ ก็ได้เวลาไปปลดทุกข์สักทีค่ะ 

จอดหยุดจอดให้ผู้โดยสารลงแวะที่ปั้มเพื่อเข้าห้องน้ำห้องท่า ใครที่อั้นฉี่ไว้ ก็ได้เวลาไปปลดทุกข์สักทีค่ะ 


แต่ห้องน้ำในปั้มไม่ค่อยสะอาดเลยค่ะ เหมือนไม่ค่อยมีคนมาทำความสะอาด กลิ่นแรงทีเดียว น่าจะเป็นเพราะปั้มอยู่นอกตัวเมือง และอยู่บนภูเขาด้วยกระมัง


เข้าเขตเมืองดงฮอย รถบัสมาจอดที่สถานีขนส่งในเมืองดงฮอย (Dong Hoi Bus Terminal Station)

ประมาณ 5 โมงเย็นกว่าๆ รถบัสก็มาจอดที่สถานีขนส่งเมืองดงฮอย 


นั่งรถบัสมาถึงขนส่งเมืองดงฮอย ทางคนขับก็บอกให้เราเก็บของเพื่อไปนั่งรถมินิบัสต่อไปยังเมืองฟองญาอีกครั้งค่ะ

เมื่อนั่งรถบัสมาถึงขนส่งเมืองดงฮอย ทางคนขับก็บอกให้เราเก็บของเพื่อไปนั่งรถมินิบัสต่อไปยังเมืองฟองญาอีกครั้งค่ะ น่าจะเป็นรถมินิบัสทีเอาไว้ย้ายผู้โดยสารของบริษัท Hanh Luyen เช่นกัน


นั่งรถมินิบัสออกจากเมืองดงฮอยไปยังฟองญา ระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ 


นังรถมาเกือบชั่วโมงถึงเมืองฟองญาแล้วค่ะ ใช้เวลาเดินทางกว่าจะถึงก็เกือบ 1 ทุ่ม เดี๊ยนนั่งรถออกจากสถานีรถบัสดานัง 12.10 น. ถึงฟองญา 18.40 น. เกือบ 7 ชั่วโมงค่ะ แต่ก็ถึงโดยปลอดภัย เป็นการเดินทางที่ยาวนานและไกลมากๆ 300 กว่ากิโลเมตร ทางเป็นภูเขาสลับทุ่งนา

ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น เดี๊ยนเลือกพักที่ A little Leaf Homestay Phong Nha เป็นที่พักเล็กๆ ตกแต่งแนวๆชิคๆเก๋ดูน่ารักดีค่ะ

ส่วนโรงแรมที่พักคืนนี้ ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น เดี๊ยนเลือกพักที่ A little Leaf Homestay Phong Nha เป็นที่พักเล็กๆ ตกแต่งแนวๆชิคๆเก๋ดูน่ารักดีค่ะ อยู่ไม่ไกลจากจุดจอดรถบัสของเมืองฟองญา เดินมาไม่ไกลประมาณ 200 เมตร 


มาถึงทางเจ้าหน้าที่ของโรงแรมก็รอต้อนรับและพูดภาษาอังกฤษได้ดีทีเดียว โดยเจ้าหน้าที่ซึ่งทำการจองรถบัสให้เราก็เป็นเจ้าของโรงแรมนี้เลยค่ะ เดี๊ยนเลยทำการจ่ายค่าโดยสารทั้งหมดให้ทางที่พักด้วยเลยที่เป็นธุระจองให้ 


ส่วนห้องพักที่จองมาก็เป็นห้องพักติดริมแม่น้ำ ห้องพักนอนได้ 2 คน ราคาคืนละ 647 บาท รวมอาหารเช้า 
ห้องพักขนาดเล็ก กว้างประมาณ 18 ตร.ม. เหมาะกับการพักค้างคืนชั่วคราว เตียงนอนนิ่มดี ไม่แข็ง แต่ห้องมีกลิ่นอับหน่อยนึง  


มีห้องน้ำให้ในตัว ตรงบริเวณก็อกสามารถปรับเป็นน้ำร้อนและน้ำเย็นได้ด้วย  แต่ในห้องไม่มีพรมเช็ดเท้าและสบู่ให้ เดี๊ยนเลยลงไปขอกับเจ้าหน้าที่โรงแรมอีกครั้ง 


ห้องมีกลิ่นอับหน่อยๆ เหมือนไม่ค่อยได้ถูกใช้งานนานค่ะ เป็นห้องแอร์ มีทีวี ผ้าขนหนูเช็ดตัวสองผืน มีไดร์เป่าผมให้ด้วย อินเตอร์เน็ต WiFi เร็วแรงดีมากๆ สภาพโดยรวมห้องพอใช้ แต่มีระเบียงติดริมแม่น้ำด้านนอกให้ไปนั่งชมวิวด้วย


หลังจากได้เช็คอินนำกระเป๋าไว้ห้องพักแล้ว ก็เดินไปหาอะไรทาน ซึ่งมีร้านอาหารอยู่บริเวณจุดจอดรถบัส หรือบริเวณท่าเรือฟองญาค่ะ เดินจากโรงแรมไปไม่ไกลประมาณ 200 เมตร 



มื้อเย็นนี้สั่งอาหารง่ายๆทานเป็น ขนมปังบาเก็ตเวียดนามทานอิ่มไปเลย หลังจากนั้นก็กลับเข้าไปนอนพักผ่อนในโรงแรม หลังจากที่เดินทางมาทั้งวัน 


------------- วันที่ 2 ( Day 2) -------------


อรุณเบิกฟ้าเช้าวันใหม่ รับอากาศดีๆที่ฟองญากันค่ะ 


เปิดหน้าต่างห้องออกมานั่งพักริมระเบียงโดยที่พักจะมองเห็นวิวภูเขาเบื้องหน้าและวิวแม่น้ำ Son River ซึงเป็นแม่น้ำที่มีเรือบริการไปถ้ำฟองญาค่ะ



โดยช่วงเช้าตรู่ อากาศเย็นสบายๆมากๆค่ะ อารมณ์เหมือนมานั่งชมวิวแม่น้ำที่วังเวียง หรือกุ้ยหลิน


ซูมกล้องมือถือไปไกลๆ เห็นเรือของชาวบ้านกำลังหาปลาอยู่ในแม่น้ำ Son River และฉากหลังเป็นทิวเขาเต็มไปด้วยไอทะเลหมอกในเขตอุทยานแห่งชาติฟองญา 


หากซูมกล้องมือถือไปไกลๆ เห็นเรือของชาวบ้านกำลังหาปลาอยู่ในแม่น้ำ Son River และฉากหลังเป็นทิวเขาเต็มไปด้วยไอทะเลหมอกในเขตอุทยานแห่งชาติฟองญา 

 

มองไปไกลๆยังเห็นวิวหมอกที่แทรกผ่านทิวเขาบริเวณถ้ำฟองญาซึ่งไกลออกจากโรงแรมไปพอสมควรค่ะ มีเรือของชาวบ้าน แล่นออกมาหาปลาในแม่น้ำ 


ส่วนบริเวณโรงแรมห้องพักที่เป็นบังกะโลส่วนตัวก็จะประมาณนี้ค่ะ สร้างยื่นติดแม่น้ำเลย มีระเบียงให้ออกมานั่งชมวิวได้ด้วย 

บรรยากาศวิวทิวทัศน์ยามเช้าริมแม่น้ำซอนที่ฟองญา (Son River at Phong Nha)

ภูมิประเทศโดยรอบก็เป็นเทือกเขาหินปูนขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติฟองญา-ก๋าบ่าง มีทัศนีภาพที่สวยงามมากๆ 

ลองปักหมุดมาเที่ยวพักตากอากาศชมวิวสวยๆริมแม่น้ำในฟองญาได้นะคะ ตอนเช้าวิวสวยๆมากๆค่ะ ใครที่ถ่ายรูปเก่งๆ รับรองว่าได้รูปสวยๆกลับไปเพียบ

สำหรับใครที่วางแผนมาเที่ยวเวียดนาม และไม่อยากเที่ยวแค่ ดานัง เว้ ฮอยอัน ก็ลองปักหมุดมาเที่ยวพักตากอากาศชมวิวสวยๆริมแม่น้ำในฟองญาได้นะคะ ตอนเช้าวิวสวยๆมากๆค่ะ ใครที่ถ่ายรูปเก่งๆ รับรองว่าได้รูปสวยๆกลับไปเพียบ


ตอนประมาณ 7 โมงก็เดินไปที่ด้านบนเป็นมุมนั่งพักผ่อนและทานอาหารของโฮมสเตย์ค่ะ 

อาหารเช้าแบบง่ายๆ  เรียกว่า บั๊ญหมี่ (bánh mì) เป็นขนมปังบาเก็ตทานกับไข่ รสชาติอร่อยดี ทานรองท้องไปก่อน


โดยอาหารเช้าที่นี่ก็เป็นอาหารเช้าแบบง่ายๆ เรียกว่า บั๊ญหมี่ (bánh mì) เป็นขนปังฝรั่งเศสหรือบาเก็ตทานกับไข่ รสชาติอร่อยดี ทานรองท้องไปก่อน

อาหารเช้าเป็นขนมปัง บั๊ญหมี่ (bánh mì) อาหารเวียดนามยังหมายถึงบาแก็ตหรือขนมปังฝรั่งเศสทรงสั้นชนิดหนึ่งที่มีผิวบางกรอบและเนื้อนุ่มโปร่ง ผ่าตามยาวแล้วนำส่วนผสมต่าง ๆ มาใส่ระหว่างกลางอย่างแซนด์วิชและเสิร์ฟเป็นอาหาร


ตอนช่วงสายๆ ก็เริ่มมีเรือท่องเที่ยวให้บริการไปยังถ้ำฟองญา 


นั่งทานอาหารเช้าก็ชมวิวบรรยากาศสวยๆไปค่ะ ตอนช่วงสายๆ ก็เริ่มมีเรือท่องเที่ยวให้บริการไปยังถ้ำฟองญา 


ทานอาหารเสร็จก็ได้เวลาเที่ยวแล้วค่ะ เช่ารถมอเตอร์ไซต์ของโรงแรม ตกวันละ 225 บาท 



ส่วนน้ำมันต้องเติมเป็นน้ำมันขวดค่ะ เป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล เติมเต็มถัง หมดไป 120 บาทค่ะ 





เช่ารถมอเตอร์ไซต์มาแล้ว ได้เวลาเที่ยวแล้วค่ะ แต่ต้องปรับตัวในการขับหน่อยนะคะ เพราะต้องขับรถด้านชิดขวาตลอด


ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ทางเจ้าของที่พักแนะนำบอกว่า นอกจากถ้ำฟองญาแล้วยังมีถ้ำ Paradise Cave ซึ่งเป็นถ้ำหินงอกหินย้อยที่สวยที่สุด ต้องไปให้ได้ เดี๊ยนเลยตัดสินใจเช่ารถขับเที่ยว 



โดยระยะทางจากฟองญาไปถ้ำ Paradise ประมาณ 35 กิโลเมตร 

โดยเส้นทางจากโรงแรมไปยังถ้ำ Paradise Cave ประมาณ 30 กิโลเมตร  ผ่านขุนเขาและทางลัดเลาะคดเคี้ยวพอสมควร ขับรถที่นี่ ต้องบีบแตรตลอดด้วย แต่ระหว่างทางก็มีวิวทิวทัศน์ให้ชมอย่างสวยงาม 

โดยเส้นทางจากโรงแรมไปยังถ้ำ Paradise Cave ประมาณ 30 กิโลเมตร ก็จะเป็นทางลาดชัน ผ่านขุนเขาและทางลัดเลาะคดเคี้ยวพอสมควร ขับรถที่นี่ ต้องบีบแตรตลอดด้วย แต่ระหว่างทางก็มีวิวทิวทัศน์ให้ชมอย่างสวยงาม 

ผ่านที่เที่ยวแวะถ่ายรูปจุดแรก เดี๊ยนแวะมาถ่ายรูปสวยๆที่บริเวณท่าเรือ Dark Cave ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดนั่งเรือชมวิวสวยๆ 

ท่าเรือ Dark Cave ใกล้กับอุทยานแห่งชาติฟองญา 


เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวของคนรักการผจญภัยต้องมาเที่ยวเช็คอินกันค่ะ 



โดยถนนที่จะเดินทางไปชมถ้ำ Paradise Cave เป็นถนน 2 เลน วันที่ไปเที่ยวรถไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นรถทัวร์ท่องเที่ยวเยอะมากกว่า 

ข้อดีของการเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับก็คือ สามารถหยุดจอดแวะชมวิวทิวทัศน์ระหว่างทางได้ 

ข้อดีของการเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับก็คือ สามารถหยุดจอดแวะชมวิวทิวทัศน์ระหว่างทางได้ 

มุมนี้ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งมุมมหาชน ที่มีนักท่องเที่ยวแวะจอดถ่ายรูปกันค่ะ หากขับผ่านสะพานนี้ไป ก็จะเป็นทางขึ้นเขาลาดชันไปอีก 

หากใครที่ขับรถมา ก็จะผ่านแก่งน้ำลำธาร มีจุดชมวิสสวยๆให้ได้ถ่ายรูปด้วย มุมนี้ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งมุมมหาชน ที่มีนักท่องเที่ยวแวะจอดถ่ายรูปกันค่ะ หากขับผ่านสะพานนี้ไป ก็จะเป็นทางขึ้นเขาลาดชันไปอีก
 
ในที่สุดก็ขับรถถึงปากทางเข้าไปยังถ้ำ Paradise Cave ถ้ำแห่งสรวงสวรรค์ หรือภาษาเวียดนามเรียกว่า ถ้ำเทียนเดื่่อง

ในที่สุดก็ถึงปากทางเข้าไปยังถ้ำ Paradise สักทีค่ะ หลังจากที่ขับรถมาเกือบ 1 ชั่วโมง ในระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร พอถึงปากทางก็ต้องขับขึ้นภูเขา และลงภูเขาไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตรก็ถึงค่ะ

มาถึงก็เสียค่าจอถรถมอเตอร์ไซต์ 5000 ดอง ราคาถูกมากๆ แค่ 7 บาทเอง 

มาถึงก็เสียค่าจอดรถมอเตอร์ไซต์ประมาณ 5000 ดอง เป็นค่าจอถรถในเขตอุทยานที่ถูกมากๆ แค่ 7 บาท 


โดยมีจุดให้จอดรถมอเตอร์ไซต์ทำไว้ให้ด้วย 


และใกล้ก็มีร้านขายขนมของฝากประจำท้องถิ่นของที่นี้ เป็นจำพวกข้าวพอง ขนมขาเป็ด ข้าวเกรียบ สามารถลองซื้อไปทานได้ค่ะ รสชาติหวานหอมอร่อยดี 


เดินมาที่บริเวณจุดขายตั๋วเพื่อเสียค่าธรรมเนียมเข้าไปยังถ้ำ Paradise Cave ถ้ำแห่งสรวงสวรรค์ หรือภาษาเวียดนามเรียกว่า ถ้ำเทียนเดื่อง  วันที่มาเที่ยวก็มีนักท่องเที่่ยวส่วนใหญ่ มากันเป็นกรุ๊ปทัวร์


หากมากันเป็นหมู่คณะ หรือกรุ๊ปทัวร์ก็น่าจะมีราคาที่ถูกลงไปอีกค่ะ 

ราคาแสดงค่าธรรมเนียมบัตรเข้าไปชมถ้ำ Paradise Cave Eco Tourisum Ticket Price

สำหรับราคาเข้าไปชมถ้ำ Paradise Cave  ราคาผู้ใหญ่ตกคนละ 250,000 ดอง หรือ 375 บาทไทยค่ะ 
และยังมีบริการรถกอล์ฟไปรับ-ส่งไปยังเส้นทางขึ้นถ้ำด้วย หากนั่ง 4 คน ไปกลับก็ 100,000 ดองจ้า น่าจะกับการมาหลายคนมากกว่าค่ะ 


จ่ายเงินค่าบัตรเข้าชมธรรมไป 250,000 ดอง เจ้าหน้าที่ถามด้วยว่าต้องการ Buggu Service หรือเปล่า แต่เราเลือกเดินไปค่ะ  เพราะว่าไม่อยากเสียตังเพิ่ม


ได้บัตรมาแล้ว ก็เอามาแสดงที่ประตูทางเข้าอีกครั้งค่ะ 


สอดบัตรผ่านประตูมา ก็ต้องเดินเท้าไปยังเส้นทางขึ้นปากถ้ำอีก เจ้าหน้าที่บอกว่า เดินไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตรกว่า 

ระหว่างเดินไป จะเห็นว่ามีเส้นทางแยกระหว่างทางเดิน และเส้นทางสำหรับรถ Buggy Service แยกกันชัดเจน


โดยระหว่างเดินไป จะเห็นว่ามีเส้นทางแยกระหว่างทางเดิน และเส้นทางสำหรับรถ Buggy ให้สัญจรเพื่อบรรทุกคนที่ไม่ต้องเดินให้ชัดเจน  สำหรับเพื่อๆคนใหนที่มาเที่ยว อยากกำลังกาย ก็เดินไปเลยค่ะ 


พอเดินมาได้ 1 กิโลเมตรแล้ว ก็จะเห็นป้ายลูกศรชี้ให้เดินขึ้นเขาไปยังปากถ้ำอีกค่ะ น่าจะประมาณ 300 เมตรได้ค่ะ 

โดยเส้นทางเดินขึ้นไปยังปากถ้ำนั้น เป็นทางลาดชันขึ้น ไม่ได้เป็นบันไดนะคะ แต่ทำเป็นบันไดคงเหนื่อยแน่นอน เพราะเห็นคนที่เดินขึ้นไป ก็เหงื่อแตกกันทุกคนเลย 



มาถึงสักทีค่ะ บริเวณหน้าปากถ้ำ เพื่อเดินลงไปยัง Paradise Cave ถ้ำเทียนเดื่องหรือ ถ้ำสวรรค์ (เวียดนาม: Hang Thiên Đường)

หลังจากที่เดินมากิโล  ได้เหงื่อเยอะมากๆ ใครที่ชอบเดินป่าและออกกำลังกาย แนะนำว่ากล้ามขาขึ้นแน่นอนจ้า

ในทีสุดก็ถึงปากถ้ำสัก  หลังจากที่เดินมากิโล  ได้เหงื่อเยอะมากๆ ใครที่ชอบเดินป่าและออกกำลังกาย แนะนำว่ากล้ามขาขึ้นแน่นอนจ้า มาถึงสักทีค่ะบริเวณหน้าปากถ้ำ เพื่อเดินลงไปยัง Paradise Cave หรือถ้ำแห่งสรวงสวรรค์แห่งนี้แล้ว 


บริเวณหน้าปากถ้ำ ก็มีจุดทีป้ายแสดงจุดท่องเที่ยวภายในถ้ำ Paradise Cave ให้ด้วย  ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมาเป็นกร๊ปทัวร์ มีไกด์แนะนำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ 



บริเวณป้ายแสดงทางเดินภายในถ้ำให้ได้ชมก่อน ว่าภายในถ้ำมีจุดถ่ายรูปตรงใหนบ้าง ซึ่งจากที่ได้ฟังจากไกด์ท้องถิ่น เล่าให้ฝรั่งที่มาเที่ยว บอกว่าถ้ำแห่งนี้มีความยาวถึง 31 กิโลเมตรเลยทีเดียว แต่ทีในถ้ำมีเส้นทางเดินเฉพาะจำกัดเท่านั้น 

ทางเดินลงไปในถ้ำ เป็นบันไดมีความชันเล็ก็อย แต่ก็ไม่ได้น่ากลัว มีนักท่องเที่ยวชมตลอด และภายในถ้ำ ไม่มีกลิ่นของขี้ค้างคาวด้วย มีไฟติดไว้ตามทางเดินเป็นระยะๆ 



หลังจากนั่งพักดื่มน้ำแล้ว ก็ได้เวลาเดินลงไปชมความงามในถ้ำสวรรค์แล้วค่ะ ทางเดินลงไปในถ้ำ เป็นบันไดมีความชันเล็ก็อย แต่ก็ไม่ได้น่ากลัว มีนักท่องเที่ยวชมตลอด และภายในถ้ำ ไม่มีกลิ่นของขี้ค้างคาวด้วย มีไฟติดไว้ตามทางเดินเป็นระยะๆ 



ซึ่งถ้ำ Paradisce Cave หรือว่าถ้ำแห่งสรวงสวรรค์ ถือเป็นอีกหนึ่งถ้ำที่มีความสวยงามมากๆ มีนักท่องเที่ยวมากันตลอด วันที่เดี๊ยนมาเที่ยวเป็นวันธรรมดา ก็ยังมีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมอย่างไม่ขาดสายค่ะ ภายในถ้ำโอ่โถ่ง ใหญ่โตโอฬาร สมกับเป็นถ้ำที่ขนาดใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลกจริงๆ 


เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับถ้ำแห่งสรวงสวรรค์ (Paradise Cave) หรือว่าถ้ำเทียนเดื่่อง ( Thiên Đường Cave)


เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับถ้ำแห่งสรวงสวรรค์ (Paradise Cave) หรือว่าถ้ำเทียนเดื่่อง ( Thiên Đường Cave)



ถ้ำแห่งสรวงสวรรค์ หรือว่า Thiên Đường Cave (Paradise Cave) เป็นถ้ำในเขตอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง ซึ่งจัดเป็นเขตอุทยานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จากองค์การยูเนสโก้



สำหรับถ้ำแห่งสรวงสวรรค์ หรือว่า Thiên Đường Cave (Paradise Cave) เป็นถ้ำในเขตอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง ซึ่งจัดเป็นเขตอุทยานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จากองค์การยูเนสโก้ โดยมีระยะทางห่างจากเมืองดองฮอยไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 60 กิโลเมตร โดยถ้ำเทียนเดื่อง หรือถ้ำแห่งสรวงสวรรค์ ตั้งอยู่บนความสูง 200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล 

โดยถ้ำแห่งนี้ถูกค้นพบโดยคนในท้องถิ่นในปี 2548 ได้รับการสำรวจากนักวิจัยธรณีวิทยาชาวอังกฤษ British Cave Research Association 

โดยสำรวจพบว่าถ้ำมีความยาวถึง 31 กิโลเมตร ซึ่งว่าถือเป็นถ้ำที่ยาวที่สุดในโลกอีกด้วย



โดยถ้ำแห่งนี้ถูกค้นพบโดยคนในท้องถิ่นในปี 2548 ได้รับการสำรวจากนักวิจัยธรณีวิทยาชาวอังกฤษ British Cave Research Association โดยสำรวจพบว่าถ้ำมีความยาวถึง 31 กิโลเมตร ซึ่งว่าถือเป็นถ้ำที่ยาวที่สุดในโลกอีกด้วย อีกทั้งยาวกว่าถ้ำฟองญาซึ่่งเคยเป็นถ้ำที่ยาวที่สุดในอุทยานแห่งชาติก่อนหน้านี้ 

โดยความสูงของถ้ำสูงถึง 72 เมตร และมีความกว้างถึง 150 เมตร โดยเกิดจากการก่อตัวของหินปูนที่ยังคงความงดงาม

โดยนักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษประทับใจกับหินงอกหินย้อยอันแสนสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจในถ้ำแห่งนี้อย่างมาก และตั้งชื่อถ้ำนี้ว่า Paradise Cave



โดยความสูงของถ้ำสูงถึง 72 เมตร และมีความกว้างถึง 150 เมตร โดยเกิดจากการก่อตัวของหินปูนที่ยังคงความงดงาม โดยนักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษประทับใจกับหินงอกหินย้อยอันแสนสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจในถ้ำแห่งนี้อย่างมาก และตั้งชื่อถ้ำนี้ว่า Paradise Cave หรือว่า Thiên Đường Cave (ถ้ำแห่งสรวงสวรรค์)

หินงอกหินย้อยภายในถ้ำสรวงสวรรค์ หรือว่าถ้ำเทียนเดื่อง ประติมากรรมจากการสรรค์สร้างของธรรมชาติ ที่ใช้เวลานานนับล้านปี

อย่างไรก็ตาม บริเวณที่่เป็นสะพานทางเดินให้ชมภายในถ้ำหินงอกหินย้อยแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น ไม่สามารถเดินให้ครบจบใน 31 กิโลเมตรได้


แต่อย่างไรก็ตาม บริเวณที่่เป็นสะพานทางเดินให้ชมภายในถ้ำหินงอกหินย้อยแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น ไม่สามารถเดินให้ครบจบใน 31 กิโลเมตรได้ โดยบริเวณทางเดินที่เป็นทางเดินไม้ นักท่องเที่ยวก็สามารถชมความงามภายในถ้ำได้อย่างตื่นตาและจินตนาการรูปหินงอกหินย้อยเป็นรูปต่างๆ





สำหรับถ้ำแห่งสวรรค์ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวต้องห้ามพลาดในทริปที่มาเที่ยวฟองญาเลยทีเดียว แต่เสียดายที่เดี๊ยนเองไม่ได้ไปเที่ยวถ้ำฟองญา เพราะเวลาจำกัด จัดทริปแบบชะโงกทัวร์เกินไป แนะนำว่าหากใครที่มาเที่ยวควรวางแผนเที่ยวสัก 2-3 วัน น่าจะได้เที่ยวทั้ง 2 ถ้ำนี้ครบค่ะ 

หลังจากที่ได้เดินชมความงามภายในถ้ำสวรรค์แล้ว เราก็ขับรถมอเตอร์ไซต์กลับมายังฟองญาค่ะ  ตอนกลับ กลับอีกเส้นทางทางนึง ซึงจะไปบรรจบที่บ้านฟองญาอีกที แต่เส้นทางไม่ค่อยดีเลยค่ะ ถนนขรุขระ และเปลียวมากๆ แนะนำว่ากลับไปเส้นทางเดิมดีกว่าเยอะเลย 

เลยแวะบริเวณท่าเรือฟองญา มีอาหารริมน้ำอยู่ใกล้ๆ ทานอาหารมื้อเที่ยงตอนยบ่ายโมงค่ะ

ขับรถมาถึงก็แวะหาอะไรทานก่อนเลยค่ะ ก็เลยแวะบริเวณท่าเรือฟองญา มีอาหารริมน้ำอยู่ใกล้ๆ ทานอาหารมื้อเที่ยงตอนยบ่ายโมงค่ะ


ใกล้ๆเป็นท่าเรือสำหรับนั่งไปเที่ยวชมถ้ำฟองญาซึ่งต้องเดินทางด้วยเรือเท่านั้น โดยราคาเหมาเรือเดี๊ยนจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ จำได้ว่าสัก 400-500 แสนดองเนี่ยแหละค่ะ

ถ้ำฟองญาได้รับความนิยมมากๆในหมู่นักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและชาวต่างชาติ เพราะเป็นเส้นทางคมนาคมทางเที่ยวที่จะไปถึงตัวถ้ำได้


โดยการนั่งเรือไปเที่ยวถ้ำฟองญาได้รับความนิยมมากๆในหมู่นักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและชาวต่างชาติ เพราะเป็นเส้นทางคมนาคมทางเที่ยวที่จะไปถึงตัวถ้ำได้

ข้าวที่นี่ไม่ได้เอาไปผัด เหมือนร้านคุณป้าที่ดานังนะคะ เป็นข้าวสวยและหมูสามชั้นทอดน้ำปลาและปรุงรสอีกที


สั่งข้าวผัดหมูทอดอีกแล้วค่ะ แต่ข้าวที่นี่ไม่ได้เอาไปผัด เหมือนร้านคุณป้าที่ดานังนะคะ เป็นข้าวสวยและหมูสามชั้นทอดน้ำปลาและปรุงรสอีกที ราคาจากนี้ ค่าเสียหายตกจานละ 60,000 ดอง หรือ 90 บาท

รสชาติหวานอร่อย พร้อมน้ำซุป ทานแนมกับผักสด เดี๊ยนเข้าใจเลยว่าคนเวียดนามทานผักเก่งมากๆ เกือบทุกเมนู มีผักแนมให้ตลอด 

ซาลาเปาเวียดนามอีกคนละ 1 ลูก  ค่าเสียหายตก 60,000 ดอง หรือตกลูกละ 45 บาท

ยังไม่อิ่มจัดต่อค่ะ ซาลาเปาอีกคนละ 1 ลูก  ค่าเสียหายตก 60,000 ดอง หรือตกลูกละ 45 บาท รวม 90 บาท 

ซาลาเปาก็ชิ้นใหญ่มากๆ ใส้ด้าในเป็นเห็ดหอม อร่อยดีค่ะ ทานจนอิ่มแน่นท้องไปเลย

แต่ซาลาเปาก็ชิ้นใหญ่มากๆ ใส้ด้าในเป็นเห็ดหอม อร่อยดีค่ะ ทานจนอิ่มแน่นท้องไปเลย


ทำการเช็คเอ้าท์ออกจากที่พักประมาณบ่าย 2 โมงครึ่ง ทางโรงแรมก็ติดต่อรถแท๊กซี่แบบเหมาเพื่อไปส่งที่สถานีรถไฟดงฮอย (Take a Taxi from Phong Nha to Dong Hoi Railway station)

จากนั้นเราก็นำรถมอเตอร์ไซต์ไปคืนกับทางโรงแรม ทำการเช็คเอ้าท์ออกจากที่พักประมาณบ่าย 2 โมงครึ่ง ทางโรงแรมก็ติดต่อรถแท๊กซี่แบบเหมาเพื่อไปส่งที่สถานีรถไฟดงฮอย โดยราคาเหมาอยู่ที่ 600,000 ดอง หรือ 900 บาท เป็นรถเหมาส่วนตัวไปส่ง เพื่อให้ทันรถไฟรอบสุดท้ายตอนเวลา 16.00 น.

เหมารถแท๊กซี่มาจากฟองญาประมาณ 45 นาทีก็ถึงสถานีรถไฟเมืองดงฮอย ถึงก่อนเวลาค่ะ (Dong Hoi Railway Station)


ใช้เวลาเดินทางเหมารถแท๊กซี่มาจากฟองญาประมาณ 45 นาทีก็ถึงสถานีรถไฟเมืองดงฮอย ถึงก่อนเวลาค่ะ 


นำตั๋วที่ทางเจ้าหน้าที่โรงแรมทำการจองและปริ้นให้ นำไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ในสถานีรถไฟก่อนเลยค่ะ 



จากนั้นก็นำตั๋วที่ทางเจ้าหน้าที่โรงแรมทำการจองและปริ้นให้ นำไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ในสถานีรถไฟก่อนเลยค่ะ 


ไม่นานนักประมาณ 16.00 น. รถไฟก็มาถึง เดี๊ยนต้องนั่งรถไฟขบวนนี้เพื่อเดินทางไปเมืองเว้ ซึ่งเป็นเมืองท่องเทียวถัดไปจากทริปนี้ค่ะ 

ใช้เวลาในการนั่งรถไฟจากดงฮอยไปที่เมืองเว้ อีกประมาณ 3 ชั่วโมงเลยค่ะ.....ถือเป็นอันจบทริปเที่ยวฟองญาแบบชะโงกทัวร์

ซึ่งจะใช้เวลาในการนั่งรถไฟจากดงฮอยไปที่เมืองเว้ อีกประมาณ 3 ชั่วโมงเลยค่ะ บนขบวนรถไฟก็มีผู้โดยสารนั่งเต็มเกือบทุกที่นั่ง ซึ่งเป็นขบวนรถไฟที่เดินทางมาจากฮานอย......ถือเป็นอันจบทริปเที่ยวฟองญาแบบชะโงกทัวร์ และได้เปิดประสบการณ์ได้มาดูสถานทีท่องเที่ยวใหม่ๆในเวียดนาม ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมาเที่ยวกัน 

อย่างที่บอกไปค่ะว่า หากใครที่จะมาเที่ยวฟองญา แนะนำว่าควรมาเที่ยวสัก 2-3 วัน แบบไม่ต้องรีบเที่ยวจะดีที่สุด เพื่อประหยัดงบในการเดินทาง เพราะถ้ามาเที่ยวชะโงกทัวร์แบบดิฉัน ก็จะเร่งรีบและต้องทำเวลาเพื่อจะต้องไปอีกเมืองหนึ่งมากๆ ทำให้เก็บบรรยากาศและที่เที่ยวได้ไม่เต็มที่ แต่ในทริปนี้ก็ถือว่าสนุกและได้ออกกำลังกายดีมากค่ะ

ขอบพระคุณผู้อ่านทุกคนที่เข้ามาสไลด์อ่านกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้งในบทความถัดๆไปค่ะ....พร้อมสรุปค่าใช้จ่ายจากทริปเที่ยวฟองญา ดังนี้ 

ค่ารถบัสจากดานัง-ฟองญา คนละ 350,000 ดอง หรือ 525 บาท/คน 
ค่าที่พักโรงแรม A little Leaf Homestay Phong Nha คืนละ 647 บาท 
ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซต์ 225 บาท 
ค่าน้ำมันรถเติมแบบขวด รวม 120 บาท 
ค่าเข้าชมถ้ำเทียนเดื่อง หรือ Paradise Cave อีก 375 บาท 
ค่าจอดรถในอุทยาน  7 บาท
ค่าเหมาแท๊กซี่มาที่สถานีรถไฟดงฮอย 900 บาท
ค่ากับข้าวอาหารการกินรวม 270 บาท 
ค่ารถไฟนั่งจากดงฮอย - เมืองเว้คนละ 365 บาท 

รวมค่าเสียหายจากทริปชะโงกทัวร์เที่ยวฟองญาทั้งหมด  3,434 บาท 
ยังไม่รวมค่าเครื่องบินไปกลับอีก 5151.86 บาท


----------------------------------------------------

บทความบล็อกเที่ยวเมืองอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ


บันทึกไปตามภาพ ไม่พลาดไปเที่ยวอุตรดิตถ์ มีที่เที่ยวเปิดใหม่ที่ใหนบ้าง>>>

บันทึกเที่ยวไปตามภาพ ไม่พลาดรีวิวเที่ยวอุตรดิตถ์ เมืองรองต้องห้ามพลาด ทานลางสาดหวานเจี๊ยบ มีที่เที่ยวเปิดใหม่น่าสนใจที่ใหนบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูรีวิวบันทึกภาพการเดินทางค่ะ>>


บันทึกเที่ยวช่วงหน้าฝน ล่องแพไม้ไผ่ที่เขาสก แวะชมน้ำตกสวย มีที่เที่ยวอะไรบ้าง>>

แบ่งปันทริปรีวิวเที่ยวล่องไม้ไผ่ที่เขาสก แวะชมน้ำตกสวยๆ รุ่มระรวยด้วยทะเลหมอกงดงาม ต้องตามไปชมกันสักครั้ง พร้อมสรุปค่าใช้จ่าย มาให้อ่านกันจ้ คลิ๊กดูรีวิวบันทึกภาพการเดินทางค่ะ>>>>


บันทีกเดินทาง นั่งรถไฟ-ปั่นจักรยานเที่ยวนครปฐม-นครชัยศรี-บางเลน ดูที่เที่ยว>>>

บันทีกเที่ยวไปตามภาพ : นั่งรถไฟ และปั่นจักรยานเที่ยวนครปฐม ชื่นชมนครชัยศรี-บางเลน นอนเอนกายสไตล์ไทยๆ มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันค่ะ คลิ๊กดูรีวิวภาพบันทึกการเดินทางค่ะ>>>


แบ่งปันรีวิวไปเที่ยวเมืองมุกดาหาร ยลตระการเมืองพญานาคริมแม่น้ำโขง>>>

แบ่งปันรีวิวไปเที่ยวเมืองมุกดาหาร ยลตระการเมืองพญานาคริมแม่น้ำโขง เชื่อมโยงฝั่งไทยลาว มีที่เที่ยวเปิดใหม่ที่ใหนบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลยจ้า คลิ๊กดูบทความรีวิวภาพสถานที่ท่องเที่ยวค่ะ>>>


เก็บตกงานแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลล่าสุด แวะหยุดไปดูทางเดินกระจก Skywalk จุดชมวิวสวยๆ>>>

เก็บตกภาพบรรยากาศเที่ยวงานแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลในปี 2565 แวะไปเดินลั๊ลลาชมสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ทางเดินกระจก Skywalk ตามไปเที่ยวกันเลยจ้า คลิ๊กดูบทความรีวิวภาพที่เที่ยวค่ะ>>>


เปิดเมืองบินลัดฟ้า พารีวิวเที่ยวสิงคโปร์อีกครั้งในปี 2022 ดูที่เที่ยวเปิดใหม่>>>

แบ่งปันรีวิวทริปเที่ยวสิงคโปร์อีกครั้งในปี 2022 เปิดเมืองบินลัดฟ้าไปเช็คอิน ถ่ายรูปฟินๆกับที่เที่ยวเปิดใหม่ มีที่ใหนบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลยจ้า คลิ๊กดูบทความรีวิวและการเดินทางค่ะ>>>


แบ่งปันรีวิวย้อนวันวานพาไปเที่ยวชมบ้านสมอเรียงในอดีต แสนหอมหวาน>>>

รีวิวพาไปย้อนวันวานเที่ยวบ้านสมอเรียง ชุมชนเก่าริมทะเล ทานหอยเสียบมะละกอเก๋ๆ อาหารพื้นบ้านที่ทานได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น ตามไปเที่ยวชมกันดู คลิ๊กดูบทความรีวิวและการเดินทางค่ะ>>>


มาม๊ะ..มาย้อนวันวานเที่ยวชะอำอีกครั้งหลังโควิด-19 คลี่คลาย ไปเที่ยวใหนบ้าง>>

เก็บตก..มาม๊ะมารีวิวย้อนวันวานเที่ยวชะอำอีกครั้งหลังโควิด-19 มีที่เที่ยวแพรวพราวที่ใหน ให้แวะไปเช็คอินถ่ายภาพบ้าง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>>


แบ่งปันรีวิวเที่ยวเมืองตราดอีกครั้งในปี 2565 ถ่ายรูปลั๊ลลาตามที่เที่ยวต่างๆ>>

เก็บตกรีวิวเที่ยวเมืองตราดอีกครั้งในปี 2565 มีที่เที่ยวเปิดใหม่ที่ใหนบ้างหนา ตามไปลั๊ลลาเช็คอินถ่ายรูปกันได้เลย คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>


รีวิวเที่ยวเกาะช้าง 3 วัน 2 คืน ไม่มีรถส่วนตัว นั่งรถทัวร์ไปกับหลานสาว>>>

แบ่งปันทริปเที่ยวเกาะช้างล่าสุดปี 2022 ไม่มีรถส่วนตัว นั่งรถทัวร์ ต่อสองแถวไปเที่ยวกับหลานสาว แวะไปเที่ยวที่ใหนบ้าง พร้อมสรุปค่าใช้จ่าย ตามไปกันเลยจ้า คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>


แบ่งปันรีวิวทริปเที่ยวลำพูน เมืองเล็กๆเก่าแก่โบราณ ต้องไปเช็กอินกัน>>>

เก็บตกทริปเที่ยวเมืองรอง เดินทอดน่องท่องเมืองลำพูน เมืองเล็กๆน่ารักเก่าแก่โบราณ มีสถานที่ให้แวะไปยลตระการหลายแห่ง มีที่ใหนบ้างนั้น ตามไปกันเลยค่ะ คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>


ทริปรีวิวเที่ยวลำปางในมุมมองใหม่ๆ ไหว้พระใหญ่สไตล์ญีุ่่น คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

แบ่งปันรีวิวเที่ยวลำปางล่าสุดในมุมใหม่ๆ ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ งามระทึกเจดีย์บนดอยสูงเสียดฟ้า มีสถานที่ท่องเที่ยวถ่ายรูปเช็กอินที่ใหนบ้าง ตามไปชมกัน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>


ล่าสุดรีวิวเที่ยวเกาะสิมิลันในราคา 1,350 บาท ไปเที่ยวเกาะใหนบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

เก็บตก รีวิวเที่ยวเกาะสิมิลันล่าสุด ในราคา 1,350 บาท ไปเที่ยวดำน้ำเกาะใหนบ้าง และทางทัวร์มีบริการอะไรอีกบ้าง ตามไปดูกันจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>


แบ่งปันรีวิวเช่ารถมอเตอร์ไซต์เที่ยวภูเก็ต มีที่เที่ยวเด็ดอะไรบ้าง ตามไปดูกันค่ะ>>

มาม๊ะ..มารีวิวเที่ยวเกาะภูเก็ต นั่งกินอาหารพื้นเมืองรสเด็ด ระเหินระเห็ด เช็กอินชมทะเลสวยๆ รุ่มระรวยด้วยที่เที่ยวมากมาย มิวายต้องไปถ่ายภาพกันสักครา คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>


ไปรีวิวเที่ยวพังงา-ตะกั่วป่า ที่ใครมาก็ต้องไปเช็กอินกัน มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>

มาม๊ะ..มารีวิวเช่ารถขับเที่ยวพังงา-เขาหลัก-ตะกั่วป่า ชื่นอุราชมเมืองเก่า คลอเคล้าทะเลสวย รุ่มระรวยด้วยสถานที่ท่องเที่ยวงดงาม ต้องตามไปเช็กอินกัน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>> 


เที่ยวเมืองกาจญน์ตอนจบ แวะไปซบกลิ่นอายสังขละบุรี คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>>>

เก็บตกเที่ยวกาญจน์ตอนจบ แวะไปซบกลิ่นอายสังขละบุรี นั่งเรือฉิมพลีชมเมืองบาดาล ยลตระการธรรมชาติงดงาม ต้องไปเที่ยวตามชมกัน คลิ๊กดูรีวิวที่เที่ยวและการเดินทางค่ะ>>>





แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น