|
เก็บตกทริปแบกเป้ไปเที่ยวนราธิวาส ไม่พลาดไปเดินนวยนาดชมหาดทรายสวยๆ รุ่มระรวยด้วยอาหารพื้นบ้านท้องถิ่นให้เลือกทานอย่างสำราญบานใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตน มาม๊ะวันหยุดนี้ จรลีหนีมาเที่ยวนราธิวาสกันสักคราให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงในค่ะ |
จัดทริปเดินทางแบกเป้คนเดียว เที่ยว 3 จังหวัดชายแดนใต้ทริปนี้ เดี๊ยนเดินทางมาเที่ยวสุดปลายทางที่เมืองนราธิวาส เมืองที่ปักหมุดจะมาเที่ยวหลายครั้งหลายครา แต่ก็ไม่ได้มาสักที เพราะตั้งมีข่าวคราวความไม่สงบของชายแดนใต้ ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งครา ก็ทำให้เดี๊ยนเป็นห่วงเรื่อความปลอดภัย แต่พอได้ยินเพื่อนๆที่ทำงานในตัวเดียวกันบอกว่า สามารถไปเที่ยวได้ ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่น่ากลัวอย่างที่คิด จัดทริปมาเที่ยวใต้ทริปนี้ เลยขอปักหมุดไปเที่ยวเมืองนราธิวาสสักครั้ง ว่ากันว่าเป็นเมืองสวยงามน่าอยู่อีกแห่ง รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม เหมาะกับการไปทัศนาจรยิ่งนัก
ปักหมุดเดินทางเที่ยวนราธิวาสคนเดียวทริปนี้ เดี๊ยนเช่ารถมอเตอร์ไซต์จากเมืองปัตตานี ขับมานอนพักค้างที่เมืองนราธิวาส 1 คืน เนื่องจากในเมืองนราธิวาส ไม่มีร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ เลยต้องเช่าจากปัตตานีขับมาเที่ยวเมืองนราธิวาส สำหรับเมืองนราธิวาส จัดเป็นอีกหนึ่งเมืองเก่าแก่ มีประวัติศาสตร์คู่กับชาติไทยมาอย่างยาวนาน จังหวัดนราธิวาส แต่เดิมมีฐานะเป็นเพียงเมืองหนึ่งในอาณาจักรลังกาสุกะซึ่งพบหลักฐานโบราณคดีค่อนข้างน้อยเช่น ซากเจดีย์ 3 องค์บริเวณวัดเขากง อายุ 1,300 ปี (ต่อมาถูกรื้อถอนแล้วสร้างพระพุทธทักษิณมิ่งมงคลแทน) พระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์นิกายมนตยานบริเวณวัดเขากงเช่นกัน ต่อมาก็กลายเป็นอำเภอหนึ่ง เรียกว่า อำเภอบางนรา ขึ้นกับเมืองสายบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดหัวเมืองภาคใต้ ต่อมาได้โอนไปขึ้นกับเมืองระแงะ ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดหัวเมืองเช่นกัน โดยประวัติความเป็นมาของนราธิวาสนั้น มีความเชื่อมโยงกับเรื่องราวของเมืองปัตตานี เมืองสายบุรี และเมืองระแงะ
คำขวัญประจำจังหวัดนราธิวาส : คำขวัญ: ทักษิณพระตำหนัก ถิ่นรักสันติธรรม บาติกล้ำเลอค่า นราทัศน์งามตา อ่าวมะนาวเพลินใจ พระใหญ่วัดเขากง ทรงคุณค่ามัสยิดกลาง
|
บันทึกเที่ยวไปตามภาพกันต่อในทริปนี้ เขียนต่อจากรีวิวตอนที่แล้ว ตามเว็ปไซต์ลิงค์ด้านล่างค่ะ |
บันทึกเดินทางไปจังหวัดนราธิวาส : หลังจากมาติดต่อเช่ารถมอเตอร์ไซต์ที่ร้านเช่าในปัตตานี ตรงบริเวณวงเวียนหอนาฬิกา ฝนก็ตกลงมาอย่างหนักเลยค่ะ ต้องรอให้ฝนหยุดตกก่อนถึงจะขับรถออกไปได้ค่ะ
|
มาเติมพลังด้วยการทานอาหารเที่ยงก่อนค่ะ |
เติมพลังงานก่อนค่ะ ด้วยการทานขนมจีนน้ำยาปักใต้ รสเผ็ดเด็ดดีอร่อยเริ่ด ทานแนมกับผักพื้นบ้านชนิดต่างๆ
จากนั้นก็ตามต่อด้วยของหวาน เป็นวุ้นในน้ำมะพร้าวที่ซื้อมาจากร้านขายของฝากริมทาง ดูหน้าตาแล้วเละเทะมากๆค่ะ
ออกเดินทางขับรถลงใต้จากเมืองปัตตานี มุ่งหน้ามาที่นราธิวาส จะผ่านอำเภอสายบุรี ซึงในตัวอำเภอสายบุรี มีคฤหาสน์เก่าแก่ให้ชมด้วยค่ะ เดี๊ยนเลขขอชะแว๊ปแวะไปดูสักหน่อย ใหนก็ผ่านแล้ว
โดยระยะทางจากเมืองปัตตานี มาที่อำเภอสายบุรี ประมาณ 46 กิโลเมตรค่ะ ถือเป็นการแวะพักระหว่างทางด้วย เพราะฝนลงเม็ดโปรยปรายตลอดทาง ขับรถต้องระวังเพราะถนนลื่น
แวะเข้ามาในตัวอำเภอสายบุรี เข้่าชมไปชมคฤหาสน์พิพิธภักดี อีกหนึ่งคฤหาสน์เก่าแก่ มีประวัติความเป็นมาอย่าวนาน
|
เดี๊ยนมาเที่ยวชม ก็มีแต่น้องแมวเหมียวเปรี้ยวใจเนี่ยแหละค่ะ ที่ออกมาต้อนรับ |
หากจะเที่ยวชมด้านใน ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ตามเบอร์ที่ให้ไว้ตามป้าย วันนี้เดี๊ยนมาเที่ยวชม ก็มีแต่น้องแมวเหมียวเปรี้ยวใจเนี่ยแหละค่ะ ที่ออกมาต้อนรับ
|
น้องแมวเหมียว ร.ป.ภ. ดูแลคฤหาสน์ |
ดูน้องเหมียวแล้ว นางน่าจะเป็นยามรักษาความปลอดภัยให้กับคฤหาสน์เสียกระมัง ดูน่ารัก น่าชังจังค่ะ
|
คฤหาสน์พิพิธภักดีแห่งเมืองสายบุรี |
สำหรับคฤหาสน์พิพิธภักดีแห่งเมืองสายบุรี เป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของอำเภอสายบุรี คฤหาสน์พิพิธภักดีเป็นอาคารไม้สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะตะวันตกผสมผสานกับสถาปัตยกรรมท้องถิ่น สมัยอดีตเป็นสถานที่อยู่ของพระพิพิภักดี (ตนกูมุกดา อับดุลบุตร) บุตรชายคนโตของเจ้าเมืองยะหริ่ง กับ ตนกูกูซง หลานสาวของเจ้าเมืองสายบุรี (พระยาสุริยะสุนทรบวรภักดี)
|
คฤหาสน์พิพิธภักดีแห่งเมืองสายบุรี |
ปัจจุบันกลุ่มมุสลีมะห์ในอำเภอสายบุรีได้ทำการซื้อคฤหาสน์ พิพิธภักดีกลับคืนมาให้เป็นสมบัติสถานของชาวสายบุรี โดยใช้พื้นที่ทำการเรียนรู้อัลกรุอาน และรอบๆคฤหาสน์ มีร้านค้าขายของกินทั้งคาวหวานจะมีผู้คนมากมายมาจับจ่ายซื้อของกินกัน
ภายในคฤหาสน์สามารถแวะเดินทางเข้ามาชมได้ โดยหากจะเข้าไปชมด้านใน สามารถติดต่อโทรได้ล่วงหน้า ตามเบอร์โทรที่ติดไว้หน้าป้ายประกาศของคฤหาสน์นค่ะ โทร 087-2894304
|
มัสยิดรายอ ซึ่งจัดเป็นหนี่งในมัสยิดเก่าแก่แห่งแรกของเมืองสายบุรี |
และใกล้กับคฤหาสน์ ก็เป็นที่ตั้งของมัสยิดรายอ ซึ่งจัดเป็นหนี่งในมัสยิดเก่าแก่ ตั้งอยู่ติดเขาสลินดงบายู เป็นมัสยิดหลังแรกของสายบุรี สถาปนิกชาวชวาและชาวท้องถิ่นใช้เวลาสร้าง1 ปี
|
มัสยิดรายอ ซึ่งจัดเป็นหนี่งในมัสยิดเก่าแก่แห่งแรกของเมืองสายบุรี |
ตัวอาคารเป็นสี่เหลี่ยม หลังคามี 3 ช่วง ช่วงที่ 1 และ 2 เป็นหลังคาทรงปั้นหยา ปูด้วยกระเบื้องขนาดเล็ก (กระเบื้องดินเผาสงขลา) ช่วงที่ 3 เป็นช่วงต่อเติมจากช่วงที่ 1 มีโดมเล็กๆ ยอดบนสุดเป็นแก้วกลมสีเขียว ด้านขวาเป็นระเบียงหลังคาระเบื้องดินเผา ผนังฉาบปูนเปลือกหอย
|
มัสยิดรายอ ซึ่งจัดเป็นหนี่งในมัสยิดเก่าแก่แห่งแรกของเมืองสายบุรี |
สำหรับเพื่อนๆคนใหนที่เดินทางแวะผ่านมายังเมืองสายบุรี ก็อย่าลืมแวะมาชมสถาปัตยกรรมความงามของคฤหาสน์พิพิธภักดี และมัสยิดรายอได้นะคะ
เดินทางขับรถเข้ามาในเขตของจังหวัดนราธิวาสแล้วค่ะ ระหว่างทางจะผ่านป้อมตรวจ ซึ่งมีอยู่เป็นระยะ เพื่อความปลอดภัย
|
1.ขับรถเข้าไปชมสถาปัตยกรรมความงามของมัสยิด 300 ปี มัสยิดวาดีอัลฮูเซ็น หรือมัสยิดตะโละมาเนาะ |
|
1.แวะไปชมมัสยิด 300 ปี มัสยิดวาดีอัลฮูเซ็น หรือมัสยิดตะโละ |
|
1.ขับรถเข้าไปชมสถาปัตยกรรมความงามของมัสยิด 300 ปี มัสยิดวาดีอัลฮูเซ็น หรือมัสยิดตะโละมาเนาะ |
|
1.แวะไปชมมัสยิด 300 ปี มัสยิดวาดีอัลฮูเซ็น หรือมัสยิดตะโละ |
|
1.แวะไปชมมัสยิด 300 ปี มัสยิดวาดีอัลฮูเซ็น หรือมัสยิดตะโละ |
|
1.ขับรถเข้าไปชมสถาปัตยกรรมความงามของมัสยิด 300 ปี มัสยิดวาดีอัลฮูเซ็น หรือมัสยิดตะโละมาเนาะ |
1.ขับรถเข้าไปชมสถาปัตยกรรมความงามของมัสยิด 300 ปี มัสยิดวาดีอัลฮูเซ็น หรือมัสยิดตะโละมาเนาะ จัดเป็นหนึ่งในมัสยิดเก่าแก่ มีประวัติความเป็นมายาวนาน พร้อมกับสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซียให้มาชมอย่างไม่ขาดสาย โดยมัสยิดวาดีอัลฮูเซ็น ตั้งอยู่บ้านตะโละมาเนาะ ตำบลลุโบะสาวอ ห่างจากจังหวัดนราธิวาส เป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร
ครั้งหนึ่งเคยเป็นแหล่งผลิตคัมภีร์อัลกุรอานที่เขียนด้วยมือ ทั้งนี้ ตามประวัติกล่าวว่านายวันฮูเซ็น อัส-ซานาวี ผู้อพยพมาจากบ้านสะนอยานยา จังหวัดปัตตานี เป็นผู้สร้างมัสยิดแห่งนี้ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2167 โดยแรกสร้างนั้นเป็นหลังคามุงใบลาน ต่อมาเปลี่ยนเป็นกระเบื้องดินเผา ซึ่งปัจจุบันชาวบ้านตะโละมาเนาะยังคงใช้มัสยิดนี้เป็นสถานที่ประกอบพิธีศาสนกิจอยู่เป็นประจำ น่าชม สิ่งที่น่าชมที่สุดของมัสยิด 300 ปีคือลักษณะสถาปัตยกรรมที่แตกต่างจากมัสยิดทั่วไป กล่าวคือ เป็นอาคาร 2 หลังติดต่อกัน สร้างด้วยไม้ตะเคียนทั้งหลัง ใช้ไม้สลักแทนตะปู รูปทรงของอาคารเป็นแบบไทยพื้นเมืองประยุกต์เข้ากับศิลปะจีนและมลายู ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างลงตัว ส่วนเด่นที่สุดของอาคาร คือ เหนือหลังคาจะมีฐานมารองรับจั่วบนหลังคาอยู่ชั้นหนึ่ง ส่วนหออาซานซึ่งมีลักษณะเป็นเก๋งจีน ก็ตั้งอยู่บนหลังคาส่วนหลัง ฝาเรือนใช้ไม้ทั้งแผ่นแล้วเจาะหน้าต่าง ส่วนช่องลมแกะเป็นลวดลาย ใบไม้ ดอกไม้สลับลายจีน
บริเวณด้านหลังของมัสยิดก็เป็นเรือนไม้เก่าแก่ ตัวเสายกสูงจากพื้น หลังคากระเบื่้อง ดูอายุน่าจะนานพอสมควรค่ะ
และไม่ไกลจากมัสยิด 300 ปี ขับรถมาอีกหน่อย ก็เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติบูโด สไหงปาดี
|
อุทยานแห่งชาติบูโด สไหงปาดี
|
โดยรายล้อมไปด้วยผืนป่าอันเขียวชอุ่ม อุดมสมบูรณ์ยิ่งนัก บรรยากาศดี เงียบสงบ ดูไม่วุ่นวาย
|
มีใบไม้สีทอง หรือชื่อที่คนแถวนี้เรียกว่า ย่านดาโอ๊ะ รูปร่างคล้ายกับใบกาหลงหรือชงโค |
และที่สำคัญบริเวณดังกล่าว ยังมีใบไม้สีทอง หรือชื่อที่คนแถวนี้เรียกว่า ย่านดาโอ๊ะ รูปร่างคล้ายกับใบกาหลงหรือชงโค แต่ขนาดใหญ่กว่า ใบอ่อนมีสีน้ำตาลแดงหรือทองแดงเป็นมันคล้ายเส้นไหม
|
โดยใบไม้สีทอง มีลักษณะที่โดดเด่น นิยมเก็บใบไม้สดมาทำให้แห้งตามธรรมชาติ ด้วยการใส่ถุงจนแห้ง ใช้เวลา 4-5 เดือนและอัดรีดให้เรียบใช้เวลา 3 เดือน |
นิยมเก็บใบไม้สดมาทำให้แห้งตามธรรมชาติ ด้วยการใส่ถุงจนแห้ง ใช้เวลา 4-5 เดือนและอัดรีดให้เรียบใช้เวลา 3 เดือน ก่อนนำมาใส่ซองบรรจุหรือใส่กรอบรูป เป็นของแต่งบ้าน และมีความเชื่อว่าเป็นใบไม้มงคล
|
2. น้ำตกปาโจ นราธิวาส (Pajo Waterfall ) ในเขตอุทยานแห่งชาติบูโด สุไหงปาดี
|
|
2. น้ำตกปาโจ นราธิวาส (Pajo Waterfall ) ในเขตอุทยานแห่งชาติบูโด สุไหงปาดี
|
|
2. น้ำตกปาโจ นราธิวาส (Pajo Waterfall ) ในเขตอุทยานแห่งชาติบูโด สุไหงปาดี
|
|
2. น้ำตกปาโจ นราธิวาส (Pajo Waterfall ) ในเขตอุทยานแห่งชาติบูโด สุไหงปาดี
|
|
2. น้ำตกปาโจ นราธิวาส (Pajo Waterfall ) ในเขตอุทยานแห่งชาติบูโด สุไหงปาดี
|
2. น้ำตกปาโจ นราธิวาส (Pajo Waterfall )
สำหรับน้ำตกปาโจ จัดเป็นหนึ่งในน้ำตกขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติบูโด สุไหงปาดี เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ของผืนป่าบูโด มีน้ำไหลตลอดปี มีน้ำตก 4 ชั้น ชั้นแรกมีขนาดใหญ่และสวยที่สุด สายน้ำไหลตกจากลานผาหินกว้าง สูง60 เมตร ลงสู่แอ่งน้ำใหญ่ ในช่วงฤดูฝนน้ำตกปาโจจะยิ่งสวยงามมาก สภาพป่า เป็นป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์ และยังเป็นที่ตั้งของใบไม้สีทอง และในบริเวณดังกล่าว ยังมีศาลาธารทัศน์ ซึ่งเคยเป็นพลับพลาที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ในคราวเสด็จประพาสจังหวัดนราธิวาส และยังมีก้อนหินสลักพระปรมาภิไธยตั้งอยู่ในบริเวณน้ำตกปาโจด้วย
|
เข้ามาในตัวเมืองนราธิวาสในช่วงยามเย็นๆ แวะไปเดินชิลๆ ชมวิวสวยๆกันสักคราให้ชื่นฉ่ำอุราจับใจ |
หลังจากที่ได้ชมน้ำตกปาโจแล้ว ก็เดินทางเข้ามาในเมืองนราธิวาส บรรยากาศช่วงเย็นก็คึกคักไปด้วยรถรามากมายค่ะ
|
3.แวะชมความงามลานนกเงือก เขื่อนท่าพระยาสาย จุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมในเมืองนราธิวาส |
|
3.แวะชมความงามลานนกเงือก เขื่อนท่าพระยาสาย จุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมในเมืองนราธิวาส |
|
3.แวะชมความงามลานนกเงือก เขื่อนท่าพระยาสาย จุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมในเมืองนราธิวาส |
|
3.แวะชมความงามลานนกเงือก เขื่อนท่าพระยาสาย จุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมในเมืองนราธิวาส |
|
3.แวะชมความงามลานนกเงือก เขื่อนท่าพระยาสาย จุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมในเมืองนราธิวาส |
|
3.แวะชมความงามลานนกเงือก เขื่อนท่าพระยาสาย จุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมในเมืองนราธิวาส |
3.แวะชมความงามลานนกเงือก เขื่อนท่าพระยาสาย จุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมในเมืองนราธิวาส เทศบาลเมืองนราธิวาสดำเนินการซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ โดยปั้นรูปนกเงือกหลากหลายชนิดกว่า 100 ตัว ไว้ตามจุดต่างๆ ทั่วลานกว้าง เพื่อสร้างให้เป็นแลนด์มาร์ค และจุดเช็กอินถ่ายรูปภาพสวยๆให้กับนักเดินทางที่มาเที่ยวเมืองนราธิวาส
ส่วนท่าพระยาสายนั้น แต่เดิมคือ บริเวณแนวป่าชายเลนริมฝั่งแม่น้ำบางนราจนกระทั่งถึงปากน้ำบางนรา โดยได้มีการขุดดินขึ้นมาถมป่าชายเลนไปจนถึงบาเละฮีเล ฝั่งตรงกันข้ามจะเห็นเขาตันหยงเด่นสง่ารับกับท้องน้ำของแม่น้ำบางนรา ในอดีตท่าเทียบเรือพระยาสายแห่งนี้ยังเคยเป็นสถานที่รับและส่งเสด็จของพระยาสายบุรี ชาวบางนราจะเรียกท่าเรือนี้ว่า กาแลรายอสาย (ท่าพระยาสาย)
|
4.เดินทางไปเที่ยวกันต่อ ชมความงามของชายหาดนราทัศน์ |
|
4.เดินทางไปเที่ยวกันต่อ ชมความงามของชายหาดนราทัศน์ |
|
4.เดินทางไปเที่ยวกันต่อ ชมความงามของชายหาดนราทัศน์ |
|
4.เดินทางไปเที่ยวกันต่อ ชมความงามของชายหาดนราทัศน์ |
|
4.เดินทางไปเที่ยวกันต่อ ชมความงามของชายหาดนราทัศน์ |
|
4.เดินทางไปเที่ยวกันต่อ ชมความงามของชายหาดนราทัศน์ |
4.เดินทางไปเที่ยวกันต่อ ชมความงามของชายหาดนราทัศน์ หนึ่งในสถานพักผ่อนตากอากาศที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองนราธิวาส อยู่ใกล้กับตัวเมือง เดินทางมาได้ไม่ไกล ชายหาดนราทัศน์ เป็นหาดทรายขาวสะอาดยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ไปสิ้นสุดที่ปลายแหลมด้านปากแม่น้ำบางนรา โดยในบริเวณร่มรื่นด้วยต้นสนเรียงรายตลอดแนวให้ร่มเงา และมีร้านค้า ร้านอาหารตลอดถนนเลียบชายหาด เหมาะสำหรับเป็นสถานที่พักผ่อนแล้ว ยังเป็นสถานที่จัดการแข่งขันเรือกอและที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งด้วย
|
ชายหาดนราธิวาส ยามสนธยา ชื่นอุราจับใจ งามวิไลพระอาทิตย์อัสดงลงแลลับสิ้นสุดขอบฟ้าช่ะช่ะช่าหัวใจ |
ภายในบริเวณชายหาด มีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกทานมากมายเลยค่ะ
|
ชายหาดนราธิวาส ยามสนธยา ชื่นอุราจับใจ งามวิไลพระอาทิตย์อัสดงลงแลลับสิ้นสุดขอบฟ้าช่ะช่ะช่าหัวใจ |
อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน ที่สวยฟินที่สุดอีกแห่งด้วย ใครที่แวะมาเที่ยวเมืองนราธิวาส ต้องบไม่พลาดมาเดินนวยนาดกันนะคะ
และใกล้กับชายหาด ก็เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมงที่อยู่ติดริมปากอ่าวแม่น้ำบางนราอีกด้วย
ส่วนที่พักค้างคืนในทริปนี้ เดี๊ยนนอนพักที่โรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาสค่ะ ที่พักตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้วงเวียนหอนาฬิกา
เข้ามาเช็คอินที่บริเวณล็อบบี้ของโรงแรม
บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมดูโอ่โถ่ง กว้างขวาง
|
รีวิวภาพห้องพักที่โรงแรม The Imperial Narathiwat Hotel (โรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส) |
โดยราคาห้องพักที่เดี๊ยนเข้าพักคืนนี้เป็นราคาห้องพักโปรโมชั่นคืนละ 999 บาท รวมอาหารเช้าค่ะ ขนาดห้องพักถือว่ากว้างขวางทีเดียว แม้สภาพห้องจะดูเก่าไปหน่อยก็ตาม แต่ก็สะอาดสะอ้านดีมาก
ภายในห้องก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายให้ครบ มีโต๊ะนั่งทำงาน มีทีวี ตู้เย็น กาต้มน้ำร้อน ชา กาแฟ น้ำดื่มให้ฟรี
|
ห้องน้ำดูสะอาดสะอ้าน กว้างขวาง มีอ่างอาบน้ำให้ด้วย |
ส่วนห้องน้ำก็มีอ่างอาบน้ำให้ด้วย มีสบู่ก้อน สบู่เหลว แชมพู หมวกคลุมผมอาบน้ำให้ สภาพห้องสะอาดสะอ้าน สรุปสภาพโดยรวมของห้องพักที่โรงแรมอิมพีเรียล เดี๊ยนให้ผ่านค่ะ เต็ม 1 ล้าน ให้ 9 แสน คะแนนค่ะ
ลงมาเดินเช็คอินถ่ายรูปที่วงเวี่ยนหอนาฬิกาเมืองนราธิวาาส
ส่วนบรรยากาศยามเย็นก็มีรถสัญจรไปมาตลอด แต่ก็ไม่ได้วุ่นวายมากนักค่ะ ในย่านนี้มีร้านอาหารริมทางอร่อยๆให้เลือกทานหลายร้านเลยค่ะ
พลบค่ำยามสนธยา ได้เวลาไปหาอะไรทาน ตรงข้ามโรงแรมอิมพีเรียล มีร้านอาหารให้เลือกทานหลายร้านเลยค่ะ แต่เดี๊ยนเลือกมาทานร้านข้าวหมกไก่ และร้านขายก๋วยเตี๋ยวไก่
เดี๊ยนก็เลือกทานอะไรง่ายๆ ออเดอร์แรกจัดมื้อเบาๆ ด้วยข้าวหมกไก่ก่อนค่ะ
จากนั้นก็ตามต่อด้วยก๋วยเตี๋ยวไก่แบบเบาๆสงท้ายๆ อิ่มมากๆ
ราคาอาหารก็ไม่แพงด้วย ชามละ 40 บาท อิ่มมากด้วยค่ะ ถ้าสั่งลูกชิ้นมาทานด้วย คงจะอิ่มมากๆ ลืมบอกไปว่า ลูกชิ้นที่นี่ เป็นลูกชิ้นเนื่้อนะคะ ใครไม่ทานเนื้อ สั่งไก่มาทานได้จ้า
เช้าวันใหม่ในเมืองนราธิวาส มองวิวทิวทัศน์ตัวเมืองเช้านี้ ท้องฟ้าแจ่มใส ก้าวเดินทางต่อไปอีก 1 วันค่ะ
ได้เวลาทานอาหารเช้าแล้วค่ะ
|
ไลน์ภาพอาหารเช้าบางส่วนที่โรงแรมอิมพีเรี่ยล |
ไลน์อาหารเช้าที่โรงแรมเป็นอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ค่ะ
|
ทานอาหารเติมพลังให้อิ่มก่อนค่ะ |
เติมพลังทานอาหารเช้าก่อนออกไปเดินทางท่องเที่ยวลุยต่อค่ะ
|
สระว่ายน้ำของโรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส |
นอกจากนี้ทางโรงแรมยังมีสระว่ายน้ำให้กับลูกค้าที่เข้าพักไปเล่นได้ด้วย ดูเด็กๆเล่นน้ำได้คึกคักสนุกสนานสราญรื่นกันมากๆ
|
ตลาดเช้าเมืองนราธิวาส |
ตลาดเช้าเมืองนราธิวาส ก็ตั้งอยู่ตรงข้ามหน้าทางเข้าของโรงแรงเลยค่ะ บรรยากาศยังดูคึกคักไปดูผู้คนที่มาจับจ่ายใช้สอยซื้อของ รถรามากมาย เหมือนตลาดตามหัวเมืองทั่วๆไปค่ะ ไม่ได้เงียบเหงาแต่อย่างใด แต่ถ้าสายๆ ตลาดก็อาจจะวายผู้คนก็เป็นได้
|
ทานอาหารมื้อเช้าอิ่มแล้ว ก็ออกไปลุยเที่ยวเมืองนราธิวาสต่อกันได้เลยยค่ะ |
ทานอาหารมื้อเช้าเสร็จ เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมเดินทางไปเที่ยวต่อค่ะ
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวหากมาเยือนเมืองนราธิวาส คือมาเช็คอินที่พุทธอุทยานเขากง จัดเป็นพุทธมณฑลแห่งภาคใต้ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล
|
5.พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล พุทธอุทยานเขากง |
|
5.พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล พุทธอุทยานเขากง |
|
5.พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล พุทธอุทยานเขากง |
|
5.พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล พุทธอุทยานเขากง |
5.พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล พุทธอุทยานเขากง
โดยพุทธอุทยานแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ตำบลลำภู จากตัวเมืองใช้เส้นทางนราธิวาส-ระแงะ ห่างจากตัวเมืองนราธิวาส ประมาณ 9 กิโลเมตร สำหรับพระพุทธทักษิณมิ่งมงคลสีทององค์นี้ ประดิษฐานในปางปฐมเทศนาขัดสมาธิเพชรอยู่บนยอดเขา มีพุทธลักษณะตามแบบศิลปะสกุลช่างอินเดียตอนใต้ เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2509 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2512 องค์พระเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ประดับด้วยโมเสกสีทอง หน้าตักกว้าง 17 เมตร ความสูงวัดจากพระเกศบัวตูมถึงบัวใต้พระเพลา 24 เมตร
|
ขับรถเลี้ยวไปตามป้ายบอกทาง ไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว-เขาตันหยัง หาดสวยงามอีกแห่งในเมืองนราธิวาส |
จากนั้นก็เดินทางมาเที่ยวต่อที่อ่าวมะนาว อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว-เขาตันหยง แหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหน่อนใจ นอนพักชมหาดทรายสวยๆ เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย
โดยชายหาดอ่าวมะนาวที่นี่ ถือว่าเป็นหนึ่งในชายหาดที่มีความสวยงามอีกแห่งของนราธิวาส ที่ต้องมาเช็คอินถ่ายรูป และเดินเล่นริมหาดทราย เป็นชายหาดที่มีความเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนอย่างยิ่ง
|
6.ไปทัศนาจร เดินเว้าวอนให้ออนซอนหัวใจที่ชายหาดอ่าวมะนาว-นราธิวาส |
|
6.ไปทัศนาจร เดินเว้าวอนให้ออนซอนหัวใจที่ชายหาดอ่าวมะนาว-นราธิวาส |
|
6.ไปทัศนาจร เดินเว้าวอนให้ออนซอนหัวใจที่ชายหาดอ่าวมะนาว-นราธิวาส |
|
6.ไปทัศนาจร เดินเว้าวอนให้ออนซอนหัวใจที่ชายหาดอ่าวมะนาว-นราธิวาส |
|
6.ไปทัศนาจร เดินเว้าวอนให้ออนซอนหัวใจที่ชายหาดอ่าวมะนาว-นราธิวาส |
|
6.ไปทัศนาจร เดินเว้าวอนให้ออนซอนหัวใจที่ชายหาดอ่าวมะนาว-นราธิวาส |
6.ชายหาดอ่าวมะนาว-นราธิวาส ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว-เขาตันหยง อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง โดยตัวของชายหาดนั้นโค้งอ่าวยาวประมาณ 4 กิโลเมตร ชายหาดขาวสะอาด บรรยากาศเงียบสงบ บริเวณชายหาดมีโขดหินคั่นสลับเป็นระยะ ๆ ฝั่งตะวันตกของอ่าวเป็นแนวป่าสน ส่วนทางฝั่งตะวันออกมีพื้นที่ติดกับพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ รวมถึงที่ตั้งของจุดชมวิวบนเนินหินริมทะเล สามารถมองเห็นทัศนียภาพของอ่าวมะนาวจากมุมสูงได้ บริเวณริมหาดมีสวนรุกขชาติ และทิวสนร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายหาด ระยะทาง 1 กิโลเมตร
อากาศร้อนๆ เติมต่อด้วยน้ำมะพร้าว 1 ลูกคงจะดีไม่น้อยค่ะ
แวะมาอุดหนุนพ่อค้าแม่ค้าแถวชายหาดนราทัศน์ได้ค่ะ ขายกันไม่แพง 25 บาท รสชาติหวานอร่อยๆแบบไม่ต้องเติมน้ำเชื่อมหรือน้ำตาลลงไปเลย
มาหาอะไรทานกันต่อค่ะ มาถึงทางใต้ทั้งที อาหารโปรดปรานที่เดี๊ยนชอบทานคงต้องยกให้ ข้าวยำปักษ์ใต้ค่ะ
ในเมืองนราธิวาส มีข้าวยำให้เลือกทานหลายร้านค่ะ แต่พิกัดร้านที่อยู่ไม่ไกลจากย่านใจกลางเมืองนัก และมีนักศึกษาหรือนักเรียนไปซื้อกิน คงต้องเป็นข้าวยำยาโง๊ะค่ะ
จัดไปเป็นมิ้อกลางแล้วกับค่ะ ข้าวยำยาโง๊ะ ราคา 15 บาท อร่อยและอิ่มมากๆ
มีข้าวเกรียบปลาขายด้วย ถุงละ 5 บาทเท่านั้น สรุปมื้อเที่ยงนี้หมดงบไป 45 บาทเท่านั้นรวมน้ำมะพร้าว ถูกจริงอะไรจริง อยากให้ที่กรุงเทพ ราคาถูกแบบนี้จังเลยค่ะ
บรรยากาศหน้าร้านข้าวยำยาโง๊ะ และร้านข้าวหมกไก่ อยู่ใกล้กับวิทยาลัยเทคนิคนราธิวาส
ช่วงกลางวันจะมีนักเรียนและนักศึกษาออกมาให้อะไรทาน ทำให้ย่านนี้ดูคึกคักมากๆค่ะ มีร้านอาหาร และร้านคาเฟ่อร่อยๆให้เลือกไปเช็คอินหลายร้าน เพื่อนๆคนใหนมาเที่ยวนราธิวาส ไม่รู้ทานอะไรดี แวะมาทานอาหารในย่านนี้ได้นะคะ ร้านเยอะจริงๆ
ขับรถมอเตอร์ไซต์เดินทางไปสักพัก ฝนก็ตกลงมาอย่างหนักเลยค่ะ เลยต้องหยุดแวะพักร้านเพิงหมาแหงนริมทางค่ะ
รอประมาณ 15-20 นาทีได้ค่ะ ฝนถึงจะค่อยๆซาลงไปบ้าง
พอฝนหยุดตก ท้องฟ้าก็กลับมาสดใสอีกครั้ง ได้เวลาออกเดินทางต่อค่ะ
|
7.เช็คอินที่ชายหาดบ้านทอน ชมเรือกอและ |
|
7.เช็คอินที่ชายหาดบ้านทอน ชมเรือกอและ |
|
7.เช็คอินที่ชายหาดบ้านทอน ชมเรือกอและ |
|
7.เช็คอินที่ชายหาดบ้านทอน ชมเรือกอและ |
|
7.เช็คอินที่ชายหาดบ้านทอน ชมเรือกอและ |
|
7.เช็คอินที่ชายหาดบ้านทอน ชมเรือกอและ |
7.เช็คอินที่ชายหาดบ้านทอน ชมเรือกอและ จัดเป็นอีกหนึ่งชายหาดสวยงามของจังหวัดนราธิวาส ห่างจากตัวเมืองประมาณ 16 กิโลเมตร และห่างจากสนามบินเพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น ทำให้ชายหาดแห่งนี้เป็นจุดชมเครื่องบินที่สวยงามอีกแห่งด้วย นอกจากนี้แล้วความสำคัญอีกแห่งคือ บ้านทอนเป็นหมู่บ้านชาวประมงไทยมุสลิม ประกอบอาชีพการทำประมงพื้นบ้าน และเป็นแหล่งผลิตเรือกอและที่ยังหลงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในนราธิวาสด้วย
โดยบริเวณหาดบ้านทอน มีจุดเช็คอินถ่ายรูปเรือกอและที่มีชื่อเสียงของนักท่องเที่ยว ที่ต่างแวะเวียนมาถ่ายรูปกันอย่างไม่ขาดสายด้วย ทัศนียภาพโดยรอบเรียงรายไปด้วยต้นมะพร้าวสูงสกาวเรืยงราย ตัดกับผืนหาดทรายสีขาว และท้องฟ้าสีคราม ในช่วงยามแดดจัด งดงามยิ่งนัก นักเดินทางท่องเที่ยวคนใหนที่มาเยือนเมืองนราธิวาส ต้องไม่พลาดกันเลยทีเดียว
|
นั่งชมวิวทะเลสวยๆที่หาดบ้านทอนอยู่สักพัก ก็ได้เวลาขับรถกลับไปเมืองปัตตานีอีก 95 กิโลเมตร เพื่อไปคืนที่ร้านเช่ารถแล้วค่ะ |
พอบ่าย 3 โมงกว่าๆก็ได้เวลาขับรถมอเตอร์ไซต์กลับไปคืนที่ร้านเช่ารถในมืองปัตตานีแล้วค่ะ
|
คืนรถมอเตอร์ไซต์ รับเงินมัดจำคืน ก็ใช้บริการเหมาแท๊กซี่จากเมืองปัตตานี ไปที่สนามบินหาดใหญ่ ราคา 900 บาท |
เมื่อทำการคืนรถมอเตอร์ไซต์ รับเงินมัดจำคืน ก็ใช้บริการเหมาแท๊กซี่จากเมืองปัตตานี ไปที่สนามบินหาดใหญ่ ราคา 900 บาทค่ะ
|
รีบเดินทางมาเช็คอินให้ทันขึ้นเครื่องบิน เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ จบทริปเที่ยวเบตง-ปัตตานี-นราธิวาส คงได้กลับมาเดินนวยนนาดอีกครั้งแน่นอน |
เพื่อไปให้ทันเวลาเช็คอินขึ้นเครื่องบิน และเดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ เป็นอันจบทริปเที่ยวเมืองเบตง ยะลา-ปัตตานี- และเมืองนราธิวาสอย่างสมบูรณ์ หนึ่งใน 3 จังหวัดน่าเที่ยว ที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่รู้สึกจะติดใจ ต้องกลับมาเที่ยวที่นี่อีกให้ได้อย่า่งแน่นอนค่ะ
เพราะนอกจากแวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพที่สมบูรณ์สวยงามแล้ว ยังมีอาหารพื้นบ้านท้องถิ่นอร่อยๆให้ทานในราคาไม่แพงด้วย เพื่อนๆคนใหนที่ยังไม่เคยมาเที่ยวปัตตานี ยะลา นราธิวาส ลองจัดทริปมาเที่ยวดูสักครั้งนะคะ รับรองว่าได้รูปภาพสวยๆไว้ลงโซเชียลอย่างแน่นอนค่ะ
ขอบพระคุณเพื่อนๆผู้อ่านที่เข้ามาสไลด์เปิดดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้งในบทความถัดไป....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
0 ความคิดเห็น