Header Ads Widget

ads

Ticker

6/recent/ticker-posts

รีวิวไปเที่ยว North Cape ตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 5 ครั้งหนึ่งในชีวิตไปชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน เหนือสุดใกล้ขั้วโลก เดินทางไปอย่างไร

แบ่งปันรีวิวแบกเป้คนเดียวไปเที่ยวนอร์แคป เยือนแดนดินถิ่นพระอาทิตย์เที่ยงคืน ตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 5 ไปเที่ยว North Cape Norway เดินทางไปอย่างไร มีรถบัสโดยสารไปถึงใหม มาแบ่งปันการเดินทางให้ได้อ่านกันจ้า



มาทักทายสวัสดีเพื่อนๆสายเที่ยวทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจทุกๆคนอีกครั้งค่ะ จัดทริปเดินทางไกลไปรอบโลกทริปนี้ เดี๊ยนได้มีโอกาสไปเที่ยวประเทศนอร์เวย์ หนึ่งในประเทศที่เดี๊ยนตั้งใจอยากมาเที่ยวนานแล้ว เหตุเนื่องจากได้ดูสารคดีของในหลวงรัชกาลที่ 5 ที่ท่านเสด็จมาเยือนประเทศนอร์เวย์เมื่อ 100  กว่าปีที่แล้ว โดยมาเยือนถึงเหนือสุดของประเทศนอร์เวย์ นั้นก็คือ North Cape หรือแดนดินถิ่นพระอาทิตย์เที่ยงคืน หรือเมืองที่ไม่มีกลางคืน  และอีกอย่างเมื่อ 20  กว่าปีที่แล้ว สมเด็จพระเทพได้มาเสด็จเปิดพิพิธภัณฑ์ไทยใน North Cape เมื่อปี 2532 


จนทำให้เดี๊ยนต้องปักหมุดมาเที่ยวตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 5 ให้ได้้สักครั้ง ก็เลยเก็บสตุ้ง สตางค์ ออมเงินวางแผนมาเที่ยวจนได้ค่ะ ทั้งทำวีซ่าแบบท่องเที่ยวมาด้วยตัวเอง และจัดทริปมาเที่ยว North cape แบบเดินทางคนเดียว ที่เรียกว่า น่าจะเป็นทริปที่ใช้เงินเยอะที่สุด  อย่างทีรู้กันว่าประเทศนอร์เวย์ เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพติด 1 ใน 10 ประเทศที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกอีกด้วย 


และเพื่อไม่ให้บทความบล็อกนี้ร้างไป หลังจากเลิกงานประจำเสร็จ ก่อนจะเข้านอนคืนนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ่ทริปนี้เลยขอมาแบ่งปันรีวิวการเดินทางไปนอร์ทเคป (North Cape) แบบลุยเดี่ยว เที่ยวคนเดียวด้วยตัวเอง สำหรับคนที่มีเวลาจำกัด อยากไปเที่ยวนอร์เวย์และชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนด้วยตัวเอง แบบไม่ได้ซื้อทัวร์ไป จะเดินทางไปอย่างไร การเดินทางไป North Cape นั้นลำบากใหม มีเที่ยวรถบัสโดยสารเดินทางไปถึง North cape หรือไม่ ขอมาแบ่งปันให้อ่านกัน 


เพราะหลังจากเกิดสถานการณ์โควิด 19 ก็ทำข้อมูลการเดินทางไปเที่ยว North Cape ในบางส่วนนั้นไม่ได้อัพเดทเท่าใดนัก รวมทั้งข้อมูลที่เดี๊ยนพิมพ์ในวันนี้ อาจจะล่าสมัยได้ในอนาคต คุณผู้อ่านก็สามารถดูข้อมูลการเดินทางได้จากเว็ปท่องเที่ยวของทั้งไทยและต่างชาติได้นะคะ เอาล่ะค่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลาขอพาเพื่อนๆไปเที่่ยว North cape ด้วยตัวเอง เพื่อไปตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 5 และชมพิพิธภัณฑ์ของไทยที่่อยู่เหนือสุดของประเทศนอร์เวย์มาให้ได้อ่านกันด้วยค่ะ

ตื่นแต่เช้าตรู่เลยค่ะ  เดี๊ยนเช็คเอาท์ออกจาก Hostel โรงแรมแบบห้องนอนรวมในกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์

เริ่มต้นเดินทางไปเที่ยว North Cape ทริปนี้่ตื่นแต่เช้าตรู่เลยค่ะ  เดี๊ยนเช็คเอาท์ออกจาก Hostel โรงแรมแบบห้องนอนรวมในกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ เดินแบกเป้ใบใหญ่มาที่สถานีรถไฟ เพื่่อเดินทางไปสนาบินออสโล การ์เดอร์มอน 



สำหรับใครที่มีกระเป๋าเป้ใบใหญ่ สามารถฝากกระเป๋่าไว้ที่สถานีรถไฟ หรือที่สนามบินก่อนได้นะคะ จะได้ตัวเบาๆเวลาเดิน เหินจะได้คล่องตัว 



โดยในสถานีรถไฟกรุงออสโล มีที่ให้ฝากกระเป๋าอยู่ตรงชั้นล่าง ใกล้กับร้านคาเฟ่และห้องน้ำ ซึ่งมีป้ายบอกอยู่ค่ะ  

ซึ่งราคาตู้ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋าในสถานีรถไฟนั้น ราคาถูกว่าแพงมากๆทีเดียวค่ะ 

ค่าบริการตู้ล็อกเกอร์ที่สถานีรถไฟออสโล ประเทศนอร์เวย์ 

เดี๊ยนขอขยายภาพ ราคาตู้ล็อกเกอร์ที่สถานีรถไฟให้ดูนะคะ 

สำหรับตู้เล็ก 29  NOK (โครนนอร์เวย์) ท่าเทียบเป็นเงินไทย 29 x 3.30 = 95.28 บาท/ชั่วโมง แต่ถ้า 24 ชั่วโมงคิดค่าบริการเต็มที่สูงสุดที่ 129 NOK หรือ 424 บาท 

ส่วนตู้ขนาดกลาง 39 NOK  เทียบเป็นเงินไทย =  128 บาท/ชั่วโมง

ตู้ขนาดใหญ่  69 NOK เที่ยบเป๋็นเงินยไทย = 226.71 บาท/ชั่วโมง คิดค่าบริการสูงสุด 24 ชั่วโมง 299  NOK หรือ 982.40 บาท 

เมื่อทำการชำระเงินมาแล้ว ในระบบของตู่้จะคิดค่าบริการแค่ 1 ชัุ่วโมงแรกก่อน และจะมีสัญญาณและเสียงว่าเราได้ตู้ใหน และเอากระเป๋าเป้สัมภาระไปไว้ที่ตู้หมายเลขนั้น และก็จะมีใบแจ้งรหัสตู้ล็อกเกอร์มาให้ด้วย เราต้องเก็บไว้ดีๆนะคะ เพื่อนำมาเปิดทีตู้ล็อกเกอร์อีกครั้งตอนมารับกระเป๋า  และชำระเงินส่วนที่เหลือว่าเราใช้ไปกี่ชั่วโมง หรือกี่วัน โดยในระบบของตู้Locker ก็จะคิดราคามาให้ทั้งหมด 


แต่ถ้าหากเพื่อนๆคนใหนที่มีเวลามากพอ และไฟล์ทบินไม่เช้ามาก แนะนำให้ไปใช้บริการฝากกระเป๋าตู้ล็อกเกอร์ที่สนามบินออสโล ราคาจะถูกกว่าเยอะเลย เพราะจากที่เดี๊ยนดูข้อมูลใน tripadvisor และใน Youtube มา ราคาตู้ Locker ที่สนามบินออสโลราคาไม่แพงจนเกินไป 



เมื่อทำการฝากกระเป๋าแล้ว ก็รีบขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางไปที่สนามบินออสโล การ์เดอร์มอนค่ะ 



ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองออสโล มาที่สนามบินการ์เดอมอนไม่นาน ประมาณ 40 นาทีก็ถึงค่ะ



จากนั้นก็รีบวิ่งเลยค่ะ เพื่อมาทำการเช็คอินกับเจ้าหน้าที่ และดูเที่ยวบินที่จะไป North cape ทริปนี้ ต้องเปลี่ยนเครื่อง 2 ครั้งเลยค่ะ 


การเดินทางไปเที่ยว North Cape โดยเครื่องบินทริปนี้ Oslo-เปลี่ยนเครื่อง Kirkeness และ Alta ถึงปลายทางที่ Honningsvag



สำหรับวิธีเดินทางไปเที่ยวนอร์ทเคป  (North Cape) เดินทางไปอย่างไร สะดวกที่สุด (อันนี้แล้วแต่เวลาของแต่ละคนเลยนะคะ ว่าชอบเดินทางแบบใหน ถ้ามีเวลาจำกัดก็นั่งเครื่องบิน แต่ถ้ามีเวลามากหน่อย ก็นั่งเรือสำราญไปเลยค่ะ)

1. เดินทางโดยเครื่องบิน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 วันเต็มๆ และต้อง
นั่งเครื่องบินลำใหญ่ เปลี่ยนไปขึ้นเครืองบินลำเล็กๆ โดยเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2 ครัง เพื่อไปลงที่สนามบิน Honningsvag airport โดยสามารถเช็คเที่ยวบินได้ที่เว็ปไซต์ Skyscanner หรือ AgodaFlight  ตามเว็ปลิงค์ : https://www.agoda.com/partners/partnersearch.aspx?pcs=1&cid=1732276&hl=en-us&hid=35386874


2. เดินทางโดยทางเรือ ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน แต่ใช้เวลานานมาก โดยนักท่องเที่ยวแถบยุโรป ที่จะไปเที่ยว North Cape ส่วนมากมากันเป็นกรุ๊ปทัวร์ โดยนั่งเรือ Cruise เรือสำราญจาก Oslo หรือ นั่งเรือจากเมือง Tromso มาที่ท่าเรือ Honningsvag  ราคาค่อนข้างสุงเช่นกัน และใช้เวลานานเป็นแรมคืนค่ะ ต้องนอนค้างที่เรือ สามารถเข้าไปเช็ครายละเอียดได้ที่เว็ปไซต์ :  https://www.visitnorway.com/listings/experience-north-cape-by-land-and-sea/131270/




่สำหรับการเดินทางครั้งนี้ เดี๊ยนเลือกเดินทางโดยเครื่องบินค่ะ  

โดยวางแผนไปเที่ยว Northcape 3 วัน 2 คืน เป็นทริปเดินทางไปเที่ยวคนเดียว ที่ไม่ได้ใช้เวลาน้อยเกินไปหรือว่านานจนเกินไปค่ะ ถ้าใครที่เป็นสายเ่ที่ยว Trekking แบกเป้แบกเต็นท์มากางนอนบนภูเขา  ควรวางแผนมาเที่ยวอย่างต่ำ 4-5 วันนะคะ เพราะในช่วงฤดูร้อน จะมีบริการจุดลานกางเต็นท์หลายแห่งเปิดให้บริการไปกางเต็นท์นอนใกล้ Northcape และเดิน Trekking ขึ้นไป Northcape หาข้อมูลเพิ่มได้ที่ TripAdvisor 


ทริปนี้เดี๊ยนนั่งเครื่องบินจาก OSlo ไป Honningsvag airport ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้ Northcape ที่สุดแล้ว 


ใ่ช้เวลาเดินทางทั้งวันเลยค่ะกว่าจะไปถึง แม้จะนั่งเครื่องบินก็ตาม เพราะต้องเปลี่ยนจากลำใหญ่ ไปขึ้นเครื่องบินลำเล็กอีก 2 ครั้ง 







ส่วนขากลับ ก็ได้เที่ยวบินกลับรอบค่ำ ต้องไปนอนค้างคืนที่เมือง Tromso อีก 1 คืน ถึงจะนั่งเครื่องบินไฟล์กลับมาที่สนามบินออสโล การเดอมอนได้ค่ะ






เอาล่ะค่ะ อธิบายเกริ่นสรุปการเดินทางโดยเครื่องบินไปแล้ว ก็มาสไลด์เลื่อนดูรูปภาพรีวิวกันต่อค่ะ  เมื่อทำการเช็คอินมาแล้ว ก็มารีบซื้ออะไรทานรองท้องก่อนเลยจ้า 

กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง ไม่งั้นเดี่ยวโรคกระเพาะถามหาได้ อาจจะพกแซนวิชหรือขนม นม เนยเล็กๆน้อยๆใส่กระเป๋า่มาด้วยก็ดีค่ะ 

จะว่าการเดินทางไปใหน กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง ไม่งั้นเดี่ยวโรคกระเพาะถามหาได้ อาจจะพกแซนวิชหรือขนม นม เนยเล็กๆน้อยๆใส่กระเป๋า่มาด้วยก็ดีค่ะ ถ้าไม่อยากซื้อของกินที่สนามบิน เพราะราคาก็แพงเช่นกัน แซนวิชมื้อนี้ก็จัดไปเบาๆ 89 NOK  หรือ 295 บาทไทย 



เวลา 7.45 น. ก็ได้เวลาขึ้นเครื่องบิน Norwegian airline 


เนื่องจากเป็นไฟล์ทเช้ามากๆ ผู้โดยสารเลยยังไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่นักค่ะ


ใชเ้วลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงจาก Oslo มาลงที่เมือง Kirkeness ซึ่งเป็นหัวเมืองทางเหนือที่สำคัญอีกแห่งอยู่ติดกับประเทศสวีเดนและรัสเซีย ทำให้มีสนามบินรองรับเครื่องบินลำใหญ่ได้ 




พอมาถึงเดินลงจากเครื่องบิน หน้าเดี๊ยนชาไปเลยค่ะ เพราะลมแรงมากๆ แม้จะเป็นช่วงฤดูร้อนก็ตาม แต่พื้นที่บริเวณดังกล่าวอยู่ทางเหนือ ทำให้มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี 


เนื่องจากต้องรอเปลี่ยนขึ้นเครื่องบินลำเล็กๆอีกกว่า 4 ชั่วโมงกว่าจะถึงบ่าย 2 โมง ยังดีที่สนามบินมีอินเตอร์ Free WiFi ให้ใช้เล่น ทำให้ช่วยฆ่าเวลาไปได้เยอะพอสมควรค่ะ ส่วนบรรยากาศอาคารผู้โดยสาร ก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก คงจะมีแต่เดี๊ยีนคนเดียวกระมัง ที่นั่งรอขึ้นเครื่องบินลำเล็ก 

 



และด้านในอาคารก็มีร้านสะดวกอยู่ด้วย เลยไม่ต้องกังวลว่าจะทานอะไรดี  หิวเมื่อไหร่ ก็เข้าไปเลือกซื้อ เลือกหาอะไรทานได้เลย 


มื่้อเที่ยงจัดไปเบาๆ  แต่ราคาไม่เบานะคะ แซนวิชฮอทดอกแบบง่ายๆ จำได้ว่าราคาอยู่ประมาณ 60 NOK


  
เดี๊ยนใช้เวลานั่งเล่นอินเตอร์เน็ตรอขึ้นเครื่องบินลำเล็กๆอยู่ประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าๆ ในที่สุดก็ถึงเวลาได้ขึ้นเครื่องบินของสายการบิน Widerøe Airline ซึ่งเป็นสายการบินที่มีชื่อเสียงให้บริการโดยสารทางภาคเหนือของนอร์เวย์ สามารถขึ้นลงจอดในสนามบินขนาดเล็กได้ 


สำหรับ Widerøe Airline เป็นสายการบินที่มีชื่อเสียงให้บริการโดยสารทางภาคเหนือของนอร์เวย์ สามารถขึ้นลงและจอดในสนามบินขนาดเล็กได้ 


หน้าท้าลมแรงๆ รู้สึกว่าหนาวเย็นมากๆ ว่าจะเดินถอยหลังก็ดูกระไร เดี่ยวจะหาเดี๊ยนเป็นคนบ้า แต่ก็บ้าจริงๆแหละ

เดินออกจากอาคารสนามบินมา เอาหน้าท้าลมแรงๆ รู้สึกว่าหนาวเย็นมากๆ ว่าจะเดินถอยหลังก็ดูกระไร เดี่ยวจะหาเดี๊ยนเป็นคนบ้า แต่ก็บ้าจริงๆแหละ..... เดี๊ยนคิดในใจ ว่าตัวเองมาเที่ยวฤดูร้อนแล้วใช่ไหม แต่ใหนๆก็เดินทางมาแล้ว ก็เดินทางต่อไป เป้าหมายระหว่างทางคือการเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่ๆเสมอ 


เข้าในตัวเครื่องบิน ก็ได้ที่นั่งบริเวณท้ายลำเลยค่ะ เป็นเครื่องบินลำเล็กๆ ดูมุ้งมิ้งน่ารักดีค่ะ ที่นั่งบนเครื่องมี ประมาณ 40 ที่นั่งน่าจะได้ มีลูกเรือให้บริการบนเครื่อง 1 คน 


พอเครื่องบิน Take off ขึ้น ล้อที่หมุนอยู่ทั้ง 2 ด้านของเครื่องบิน ก็หุบเก็บเข้าไปด้านในแบบอัติโนมัตทันได สภาพเครื่องบินลำนี้ น่าจะใช้งานสมบุก สมบันมานานทีเดียวค่ะ 


ใช้เวลานั่งเครื่องบินประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าก็เดินทางมาถึงสนามบิน Alta ก็ต้องมารอเปลี่ยนมาขึ้นเครื่องบินลำเล็กอีกครั้งค่ะ 




บรรยากาศภายในสนามบิน Alta ก็ดูกว้า่งขวาง กว่าสนามบิน Kirkerness นะคะ แต่ค่อนข้างจะเงียบเหงาไปเล็กน้อย 




ส่วนด้านนอกสนามบินเมือง Alta ก็เป็นชายฝั่งติดริมทะเล เห็นภูเขาทัศนียภาพสวยงาม แต่ลมไม่ค่อยแรงเท่ากับเมือง Kirkerness 


มีร้านค้าภายในสนามบินให้เลือกซื้อของกิน และของฝากติดกระเป๋าไปอีกล่ะ 

หาซื้อขนม นม เนย อบเชย หอมกรุ่นไปสักชิ้น 2 ชิ้นค่ะ เลยจัดไปขนมช็อกเกอร์โกแลตยี่ห้อดังของนอร์เวย์ไป 

ที่ขาดไม่ได้คงเป็น มันฝรั่งทอดยี่่ห้อ Sorland ซื้อไปลิ้มลองทานดู รสชาติเค็มไปหน่อย ใครที่เป็นโรคไต ไม่อยากแนะนำให้ทานนะคะ 



ทานแอปเปิ้ลสักลูกก่อนขึ้นเครื่อง อยากบอกว่าเรื่องกิน คือเรื่องใหญ่จริงๆค่ะั เพราะต้องเติมพลังงานตลอด เดี่ยวจะหิว ไม่มีเรี่ยวไม่มีแรงเอานะคะ 


 
ฃรอที่อาคารผู้โดยสารสนามบิน Alta ประมาณเกือบชั่วโมง ไม่นานเท่าสนามบินก่อนหน้านี้ค่ะ ก็ได้เวลาขึ้นเครื่องบินลำเล็กของสายการบิน Widerøe Airline   เพื่อเดินทางไปสนามบิน Honningsvag

ออกจากสนามบิน Alta เวลา 16.30 น. ถึง Hongningsvag เวลาประมาณ 19.10 น. 


 เที่ยวบินออกจากสนามบิน Alta เวลา 16.30 น. ถึง Honningsvag เวลาประมาณ 19.10 น. 


ตอนแรกนึกในใจว่า ว่าทำไมถึงใช้เวลานานจัุง เพราะดูในแผนที่ จากเมือง Alta มา Honningsvag นั้นก็ไม่ได้ไกลกันมา พอได้นั่งบนเครื่องบิน ถึงเข้าใจ เพราะระหว่างทางที่เรานั่งอยู่บนเครื่องบิน สายการนบิน Widerøe Airline  จะต้องขึ้นลงไปรับส่งผู้โดยสารระหว่างเมืองอีก 2 เมืองเลยค่ะ ถึงร้องอ๋อ...แบบนี้นี่เอง 



ใช้เวลาเดินทางขึ้น ลง และรับส่งผู้โดยสารร่วม 2 ชั่วโมงในที่สุดก็ถึงจุดหมายปลางที่สนามบิน Honningsvag โดยสวัสดิภาพและปลอดภัยดี ไม่มีบกพร่อง แต่หูขจองเดี๊ยนรู้สึกว่าน้ำจะไม่เท่านั้น เพราะอื่้ออึ้งไปหมดเลย 


ส่วนบรรยากาศด้านนอกสนามบิน Honningsvag ก็เป็นสนามบินเล็กๆอยู่ติดริมทะเลเลยค่ะ ดูยังสว่างอยู่เลย และลมค่อนข้างแรงมากๆ อากาศช่วงเย็นหนาวสุดๆเลย แนะนำหากใครที่มาเที่ยว North Cape ฤดูร้อน ควรเอาเสื้อหนาๆกันลมดีๆมาใส่สักตัวก่อนดีค่ะ เพื่อความอบอุ่น 



มาถึงอาคารขาเข้าผู้โดยสารภายในก็ปิด  ไม่มีเจ้าหน้าที่ให้บริการค่ะ เพราะไปบริการเที่ยวบินขาออก ระหว่างนั้น มีผู้โดยสารคนหนึ่ง เป็นผู้ชายชาวเยอรมัน จะเดินทางเข้าไปในตัวเมือง Honningsvag เหมือนกัน แต่ไม่รู้จะเดินทางไปอย่างไร  เพราะเดี๊ยนมาถึง คิดว่าน่าจะมีรถโดยสารบริการจากสนามบินไปในตัวเมือง แต่เมื่อถามไปทางเจ้าหน้าที่โรงแรม บอกว่าให้โทรเรียกแท๊กซี่อย่างเดียว หรือไม่ก็เดินไปค่ะ


สอบถามเจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่เดี๊ยนเลือกจองไว้ในทริปนี้ บอกว่าระยะทางจากสนามบินไปโรงแรมไม่ไกลมาก ประมาณ 1 กิโลเมตรกว่าๆ  สามารถเดินเท้าไปได้ไม่ไกลมากค่ะ



และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่เดี๊ยนเลือกจองไว้ในทริปนี้ บอกว่าระยะทางจากสนามบินไปโรงแรมไม่ไกลมาก ประมาณ 1 กิโลเมตรกว่าๆ  สามารถเดินเท้าไปได้ไม่ไกลมากค่ะ สายแบกเป้แบบลุยๆ ต้องสู้ไหวแน่นอน เดี๊ยนเลยเลือกเดินไปพร้อมกับนักเดินทางแบกเป่้ชาวเยอรมันอีกคน ที่เดินจะเข้าไปในตัวเมืองเหมือนกัน 


พอเดินเลยทางโค้งออกจากสนามบินมา ก็จะเจอป้ายบอกทางไปเมือง Honningsvag 


ระหว่างนั้นก็เจอปั้มน้ำมันแบบเติมเองด้วย 

และมีเส้นทางเดินเท้าเฉพาะ แยกออกจากถนนใหญ่อีกทีค่ะ  แต่ที่สำคัญลมแรงและอากาศเย็นมากๆจ้า 


ถ้าใครที่สัมภาระไม่เยอะมาก และโรงแรมไม่ไกลจากสนามบินมากนัก แนะนำเดินไปเลยค่ะ ประหยัดและได้ออกกำลังกายท้าลมแรงๆทางเหนือของนอร์เวย์ด้วย เริ่ดๆไป 


เดินผ่านอ่างเก็บน่้ำมาก็จะเป็นบ้้านเรือนผู้คนและร้านค้าแล้วค่ะ ตอนแรกคิดในใจว่า ถ้ามาถึงสนามบิน ไม่อยากใช้บริการแท๊กซี่ จะเดินทางไปโรงแรมหรือตัวเมืองอย่างไร  ถ้าใครที่สัมภาระไม่เยอะมาก และโรงแรมไม่ไกลจากสนามบินมากนัก แนะนำเดินไปเลยค่ะ ประหยัดและได้ออกกำลังกายท้าลมแรงๆทางเหนือของนอร์เวย์ด้วย เริ่ดๆไป 

ร้านค้า Supermarket ที่อยู่ใกล้กับโรงแรมที่พัก สามารถเดินเท้ามาซื้อของไปทำอาหารทานที่โรงแรมได้ไม่ไกล


ผ่านร้านซุปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ในเมือง Honningsvag มีลูกค้ามาจอดซื้อของอยู่เรื่อยๆ ไม่ขาดเลย เพราะเปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึง 23 นาฬิกา 


ส่วนเดี๊ยนเองก็แบกเป้ใบเล็กๆมากับนักเดินทางชาวเยอรมัน ก็แยกกันที่บริเวณนี้ เพราะเขาพักอีกโรงแรมหนึ่ง ส่วนเดี๊ยนก็เปิด GPS เดินไปพักอีกโรงแรมซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินค่ะ


เที่ยว North Cape Norway คือโรงแรม Nordkapp Vandrerhjem ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งโรงแรมราคาถูก ประหยัดที่สุดแล้วในทริปเที่ยวนอร์ทเคป 

โดยโรงแรมที่เดี๊ยนเลือกมาใช้บริการในทริปแบกเป้คนเดียวเที่ยว North Cape Norway คือโรงแรม Nordkapp Vandrerhjem ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งโรงแรมราคาถูก ประหยัด ไม่แพงมากในเมือง Honningsvag และไมไกลจากสนามบินค่ะ แต่สำหรับเดี๊ยน ราคาถือว่าแพงทีเดียวค่ะ ตกคืนละ 2000 บาท 




มาถึงก็กดกริ่งเข้าไปเช็คอินด้านใน


บริเวณล็อบบี้ของโรงแรม ด้านในมีเจ้าหน้าต้อนรับ่ของโรงแรมเป็นผู้หญิงผู้สูงอายุ ยิ้มแย้มและพูดภาษาอังกฤษได้ดีมากๆ แถมให้ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองได้ดีทีเดียวค่ะ  นางบอกว่าอยากให้คนไทยมาเที่ยวเยอะๆนะ เพราะหลังจากสถานการณ์โควิดก็ทำให้การท่องเที่ยวเงียบเหงาไปมากๆ 


รีวิวห้องพักที่โรงแรม โรงแรม Nordkapp Vandrerhjem ห้องพักส่วนตัว แต่ห้องน้ำรวมจ้า

ส่วนห้องพักคืนนี้ ก็เป็นห้องพัก Twin Bed Private Room but Shared Bath Room เป็นห้องนอน 2 เตียงค่ะ แต่นอนคนเดียว ราคาคืนละ 2,000 บาท ไม่มีห้องน้ำในตัวนะคะ 

ภายในห้องพักมีซิงค์ล้างหน้าให้ 

มีหมอนขนเป็ด ผ้านวม และผ้าขนหนูห่อไว้อย่างดี 

มีใส่ตู้เสื้อผ้า และมีไม้แขวนเสื้อ และมีเก้าอี้และโต๊ะนั่งทำงานให้ด้วย 


สรุปภาพโดยรวมของห้องพักถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียวค่ะ และน่าจะเป็นโรงแรมที่ราคาถูกที่สุดที่อยู่ในเมือง Honningsvag แล้ว เพราะส่วนใหญ่ที่เดี๊ยนเช็คราคาดู เห็นจะมีแต่โรงแรมราคาคืนละ 4000 บาท ขึ้นไปทั้งนั้น 


ส่วนห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมนะคะ อยู่ใกล้กับบันไดขึ้นลงของโรงแรม 


มีห้องส้วมและห้องอาบน้ำแยกให้ค่ะ 



และที่โรงแรมก็มีห้องครัวส่วนกลาง สามารถทำอาหารทานได้ด้วย เดี๊ยนชอบตรงนี้แหล่ะค่ะ เพราะโรงแรมอยู่ไม่ไกลจากร้านค้าซุปเปอร์มาเก็ต และทำอาหารทานได้ง่ายๆ 


วิวจากห้องพัก เปิดแง้มหน้าต่างรับลมได้นิดหน่อย ในห้องไม่มีแอร์นะคะ เพราะอากาศที่นี่ ค่อนข้างเย็นทีเดียวค่ะ และแม้ว่าเวลาจะมื้อค่ำ 4 ทุ่ม ท้องฟ้าที่นี่ก็ยังสว่าง ไม่ได้มืดเป็นสีดำค่ะ ดูเป็นเมืองที่สว่างตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน แต่กลางคืนก็จะดูโพล้เพล้ เหมือนกับท้องฟ้าช่วง 5 โมงเย็นในเมืองไทยเราค่ะ 




ส่วนวิธีการเดินทางไปเที่ยว North Cape เพื่อตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 5 และชมพิพิธภัณฑ์ไทยบนนอร์ทแคปนั้น ไปอย่างไร เดี๊ยนขอมาสรุปมาให้ได้อ่านกันดังนี้ค่ะ


1. สำหรับจุดขึ้นรถไปยัง North Cape ตั้งอยู่ที่ Honningsvag tourist information ซึ่งห่างจากโรงแรม nordkapp vandrerhjem ซึ่งเป็นโรงแรมที่เดีียนพักอยู่ประมาณ 2 กิโลเมตรค่ะ ทางเจ้า่หน้าที่โรงแรมแนะนำให้เดี๊ยนเดินเท้าไปตามฟุตบาทไป เรื่อยๆ ไม่ต้องกลัว เพราะเมืองมีความปลอดภัย และมีคนเดินอยู่เรื่อยๆ 


หากได้เดินออกมาจะเห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามของท่าเรือและวิวภูเขาที่ตั้งอยู่ตรงหน้า พร้อมกับสภาพอากาศหนาวเย็น 



ระหว่างทางมองเห็นดอกไม้ในกลุ่มอัลไพน์ หรือพืชเมืองหนาวที่เจริญเติบโตในช่วงหน้าร้อน กำลังผลิดอกเบ่งบานอยู่ริมทางเดิน สวยงามมาก 




เดินมาเรื่อยๆก็จะเห็นป้ายบอกทางไป Tourist Information อีก 500 เมตรได้ค่ะ




2.พอมาถึงก็จะเป็นทางเดินบันไดลงไปยังตัวตึก Tourist Information ของเมือง Honningsvag ซึ่งบริเวณดังกล่าวถือว่าเป็นจุดรับส่งนักท่องเที่ยว 

ท่าเทียบเรือเมือง Honningsvag  เป็นที่จอดเรือสำราญ และเรือท่องเที่ยวที่จะมาขึ้นรถบัสโดยสารไป North Cape

น้ำทะเลใสมากๆ จนอยากโดนลงไปเล่นเลย แต่ดูสภาพอากาศเย็๋นขนาด ถ้่าโดนลงไปคงตัวแข็งขึ้นมาแน่นอนค่ะ




3.ด้านหน้าของตัวตึกเป็นจุดจอดรถบัสรับส่งนักท่องเที่ยวจาก เรือสำราญที่จะขึ้นไปเที่ยวชม North Cape ค่ะ ใครที่นั่งเรือสำราญมาเที่ยวจากเมือง Tromso ก็มาขึ้นที่ท่าเรือบริเวณนี้ค่ะ


เข้า่ไปติดต่อสอบถามการเดินทางกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งอยู่ด้านในจะให้คำแนะนำเรื่องการเดินทางไปเที่ยว North Cape ค่ะ 



4.มาถึงก็เข้า่ไปติดต่อสอบถามการเดินทางกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งอยู่ด้านในจะให้คำแนะนำเรื่องการเดินทางไปเที่ยว North Cape ค่ะ 


สำหรับวิธีการเดินทางไปเที่ยว North Cape นั้น ทางเจ้่าหน้าที่แนะนำมา 3 วิธีหลักๆดังนี้

1. เดินทางด้วยรถบัสสาย  62  ซึ่่งให้บริการทุกวัน เฉพาะเป็นรอบเท่านรั้น 

2.เดินทางด้วยการซื้อบริการ Tour Northcape กับเจ้าหน้าที่ จะเป็นการซื้อทัวร์ เพื่อ Join trip ร่วมกับนักท่องเที่ยวคนอื่น -

3.เดินทางด้วยการเช่ารถส่วนตัว เหมาะกับครอบครัวไปกันหลายๆคน ซึ่งมีร้านเช่ารถให้บริการอยู่ใกล้กับที่ทำการ Tourist Information และมีป้ายเบอร์โทรติดต่อ หากต้องการเช่าก็โทรติดต่อไปคะ่ 


วิธีที่ 1 เดินทางด้วยรถบัส สาย 62 

สำหรับใครทีอยากจะนั่งรถบัสจากเมือง Honningsvag ไป แนะนำให้นั่งรถบัสสาย 62 ตามรูปค่ะ

ตารางรอบเวลารถบัสสาย 62 ไป North Cape (Public Bus Line 62 Timetable Go to North Cape Norway)

สำหรับรอบเวลารถบัสโดยสารสาย 62 ไปยัง North Cape ให้บริการเป็นรอบเวลาเท่านั้น


จันทร์-ศุกร์ ให้บริการรอบเวลา ไป 10.45 น. - กลับเวลา 14.20 น. 

เสาร์-อาทิตย์ ให้บริการรอบเวลา ไป 13.45 - กลับ 14.20 น.  และมาถึงเมือง Honningsvag เวลา 15.00

ราคารถบัสโดยสารไป North Cape จากเมือง Honningsvag  60 NOK each Way 
แต่ถ้าขึ้นที่จุด Tourist center ในเมือง รวมราคา 320 NOK 

สามารถจ่ายโดยตรงกับคนขับได้เลย หรือจ่ายผ่านแอป Called Snelandia Mobillet ของนอร์เวย์ได้ค่ะ


 (หากใครที่ไปเที่ยวช่วง จันทร์-ศุกร์ จะมีเวลาเที่ยว ประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ พอบ่าย 2 ก็ต้องมารอขึ้นรถกลับ แต่ถ้าใครที่จะไปกางเต็นท์นอนสัมผัสอากาศหนาวๆด้านบน และชมพระอาทิตย์เที่ยวคืนแบบไม่รีบมาก ก็วางแผนเวลาไว้ล่วงหน้าเลยค่ะ)

ส่วนใครที่ไปเที่ยวตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีเวลาเที่ยวแค่ 45 นาทีเท่านั้น ซึ่งมีเวลาน้อยมากๆในการไปเที่ยว North Cape และเดินชมพิพิธภัณฑ์ด้านบน ต้องวางแผนดีๆ นะคะ ถ้าต้องการเที่ยวเวลานี้ อาจจะเป็นแนว ชะโงกทัวงร์และเหนื่อยพอสมควร

วิธีที่ 2 เป็นการซื้อทัวร์ท่องเที่ยวของ North Cape Touri มีรอบกลางวัน และรอบกลางคืน 


วิธีที่ 2 เป็นการซื้อทัวร์ท่องเที่ยวของ North Cape Touri มีรอบกลางวัน และรอบกลางคืน 

ถ้าเป็นรอบกลางวัน ราคา 990 NOK  ใช้เวลาท่องเที่ยว 3 ชั่วโมง มีแค่วันละ 1 รอบ  เริ่ม 11.15- 14.15 น. ราคานี้รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์และค่าธรรมเนียมต่างๆแล้ว

ถ้าเป็นรอลกลางคืนเป็นรอบไฮไลท์ ชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน ราคา 1,290 NOK ใช้เวลาเที่ยว 3 ชั่วโมง มีแค่วันละ 1 รอบเช่นกันค่ะ เริ่ม 22.00 -01.00 น. (รอบนี้ที่ราคาแพง เพราะจะได้ไปลุ้นว่าจะได้เห็นพระอาทิตย์เที่ยงคืนหรือไม่ ซึ่งช่วงฤดูร้อนได้รับความนิยมอย่างมาก) ราคานี้รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์และค่าธรรมเนียมต่างๆแล้ว

สามารถติดต่อซื้อทัวร์ได้กับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของศูนย์การท่องเที่ยวเมือง Honningsvag ได้เลยค่ะ


ซึ่งการซื้อทัวร์ดังกล่าว เป็นการซื้อทัวร์แบบไป Join Trip ร่วมกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เมื่่อซื้อทัวร์แล้ว ต้องมาขึ้นรถบริการนำเที่ยวที่จุดรวมพล หน้าตึกอาคาร Tourist Information Honningsvag ให้ตรงเวลานะคะ ทางบริษัททัวร์ไม่มีบริการไปรับตามโรงแรมจ้า 


วิธีที่ 3 การเช่ารถส่วนตัวเดินทางไปเที่ยว North Cape ด้วยตัวเอง เหมาะกับครอบครัวและไปกันหลายๆคน เพราะคุ้มกว่าซื้อทัวร์ 

โดยสามารถโทรติดต่อเช่ารถได้ตามเบอร์ที่ให้ไว้ตามรูปได้ค่ะ อันนี้เดี๊ยนถ่ายมาจากป้ายร้านเช่ารถอยู่ใกล้อาคารประชาสัมพันธ์ทอ่งเที่ยว



3.เช่ารถส่วนตัวไปเอง เหมาะกับครอบครัว ไปหลายๆคน โดยสามารถโทรติดต่อเช่ารถได้ตามเบอร์ที่ให้ไว้ตามรูปได้ค่ะ อันนี้เดี๊ยนถ่ายมาจากป้ายร้านเช่ารถอยู่ใกล้อาคารประชาสัมพันธ์ทอ่งเที่ยว ซึ่งที่ตึกร้านเช่ารถจะไม่มีคนอยู่นะคะ หากต้องการสอบถามหรือเช่า สามารถโทรไปตามเบอร์ที่ติดไว้ค่ะ 


หากเพื่อนๆคนใหนที่กำลังวางแผนมาเที่ยวนอร์ทเคป ก็เลือกได้เลยนะคะ ว่าจะเดินทางจากเมือง Honningsvag ไป Nort Cape ด้วยวิธีใหน เอาที่สะดวกได้เลยจ้า วางแผนไว้เนิ่นๆ จะได้ไม่ต้องมาลุ้นเอาแบบเดี๊ยนจ้า  

ส่วนตัวเดี๊ยนซึ่งมาเที่ยวคนเดียว ก็เลือกซื้อทัวร์ไปชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนของ North Cape Tour ไปในราคา 1,290 NOK 


ส่วนสำหรับตัวเดี๊ยน ซึ่งเดินทางมาคนเดียว ก็เลือกที่จะซื้อทัวร์ไปค่ะ ของ North Cape Tour ราคาอยู่ที่ 1,290 NOK ราคาสูงมากๆ ถือว่าเป็นการ join trip ที่ราคาแแพงที่สุดที่เคยซื้อมาเลยทีเดียว โดยจะได้ใบเสร็จรวม Vat 12% 

และต้องมาขึ้นรถรอบเวลา 22.00 น.ค่ะ ใหนๆมาถึงทั้ง และวันที่มาเที่ยวก็ตรงกับวันเสาร์ด้วยค่ะ ซึ่งหากนั่งรถบัสไป มีเวลาเที่ยวแค่นิดเดียว ก็เลยตัดสินใจซื้อทัวร์ไปเลยแล้วกัน 


พอถึงเวลา 4 ทุ่มก็มาที่จุดรวมพลหน้าตึกอาคาร Tourist information Honningsvag ค่ะ จะมีรถตู้คันตามรูปจอดอยู่ค่ะ โดยมีคุณลุงคนขับรถ จะเป็น Guide อธิบายแหล่งท่องเที่ยวต่างๆเป็นภาษาอังกฤษให้ได้ฟัง เรียกว่าเป็นทั้งคนขับ และ Guide ไปด้วย เรียกว่าใช้ทรัพยาบุคคลคุ้มค่ามากๆ 




โดยวันที่เดี๊ยนไปเที่ยว ซึ่งตรงกับวันเสาร์ มีนักท่องเที่ยวซื้อทัวร์ไป รวมทั้งหมด 5 คน ไม่รวมคนขับนะคะ ถ้าซื้อทัวร์เต็มคันรถ น่าจะ 10 กว่าคนได้ค่ะ 


ซึ่งช่วงเวลา 4 ทุ่มที่นั่งรถผ่านมา ท้องฟ้าที่นี่ยังสวางแบบโพล้เพล้ เหมือน 5 โมงเย็น จะไม่ได้มืดไปซ่ะทีเดียว นั่งรถไป คุณลุงคนขับที่เป็นไกด์ก็ร้องเพลงให้ฟังด้วย และอธิบายถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่ขับรถผ่าน 


และระยะทางจาก Honningsvag ไปยัง North Cape ประมาณ 35 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เส้นทางขึั้นไปยัง Northcape ค่อนข้างมีความลาดชันทีเดียวค่ะ มีโค้งหักซอกอยู่เนือ่งๆ ใครที่จะเช่าขับรถขึ้นไป ต้องชำนาญในการขับพอสมควร 




ส่วนทัศนียภาพโดยรอบก็สวยงาม ดูแปลกตา  มาเที่ยวช่วงหน้าร้อน ก็จะเห็นเป็นพืชในกลุ่มอัลไพน์ หรือหญ้าเมืองหนาวเติบโตปกคลุมบริเวณโดยรอบ 


ทางคนขับก็พาแวะไปดูแคมป์คนเลี้ยงกวางเรนเดียร์ ซึ่งสร้างกระโจมไว้ติดริมทาง ให้ลงไปดูด้วย 


เห็นน้องกวางเรนเดียร์ ออกมาเดินกินหญ้า ระหว่างทางที่ขับรถผ่านให้เห็นด้วย 


สำหรับใครที่มาเที่ยวนอร์ทเคป ก็อย่าลืมแวะไปชมกวางเรนเดียร์ สัตว์ประจำถิ่นเมืองหนาวของเมืองนี้นะคะ 


จากนั้นก็คนขับ ก็จอดรถพาไปลงจุดชมวิวพระอาทิตย์ที่สวยงามอีกแห่ง 

จุดชมวิวดังกล่าว มีชื่อว่า Tufjordhoyda ซึ่งอยู่ติดริมทางเลยค่ะ


จุดชมวิวดังกล่าว มีชื่อว่า Tufjordhoyda ซึ่งอยู่ติดริมทางเลยค่ะ เป็นจุดถ่ายรูปเช็คอินที่นักท่องเที่ยวหลายรายที่ซื้อทัวร์ หรือขับรถมาก็ต้องแวะมาถ่ายรูปกัน 


เดินลงจากรถตู้มา เพื่อมายืนถ่ายรูป ณ จุดชมวิว Tufjordhoyda ก็ต้องสู้กับลมหนาวของทางขั่้วโลกเหนือ ที่พัดแรงเหลือเกิน อากาศเย็นมากๆค่ะ 

จุดชมวิว Tufjordhoyda ดังกล่าวก็เป็นอีกหนึ่งจุดชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่สวยงามอีกแห่ง ณ แดนดินถิ่น North Cape 

โดยจุดชมวิว Tufjordhoyda ดังกล่าวก็เป็นอีกหนึ่งจุดชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่สวยงามอีกแห่ง ณ แดนดินถิ่น North Cape 




จากนั้นก็นั่งรถมุ่งหน้าต่อไปยัง North Capeเหนือสุดของ Norway ซึงระยะทางอยู่อีกไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ

น่ารู้เกี่ยวกับ North Cape หรือ แหลมเหนือ มีที่มาอย่างไร 

และแล้วในที่สุด ก็ถึง North Cape ตามเป้าหมายสักทีค่ะ ครั้งหนึ่งในชีวิตมาชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน ที่ North Cape เพื่อตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 5


สาระน่ารู้เกี่ยวกับ North Cape หรือ แหลมเหนือ


แหลมเหนือ (อังกฤษ: North Cape; นอร์เวย์: Nordkapp) เป็นแหลมที่อยู่ปลายเกาะมาเกโรยา ในภาคเหนือของประเทศนอร์เวย์ ตัวแหลมมีความสูง 307 เมตรจากระดับน้ำทะเลเป็นหน้าผาที่สูงชัน



โดยนอร์ทแคป หรือ North Cape ได้รับการตั้งชื่อโดยนักสำรวจชาวอังกฤษชื่อ ริชาร์ด ชานเซลเลอร์ เมื่อ พ.ศ. 2076 ในขณะที่ผ่านจุดนี้ไปเพื่อค้นหาเส้นทางเดินเรือด้านตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากนั้น แหลมนี้ก็ได้มีผู้แวะมาเยือนเป็นครั้งคราวโดยนักสำรวจอื่นๆ ผู้ชอบการผจญภัยปีนป่ายหน้าผาที่ชันเกือบตั้งฉากเพื่อขึ้นไปยังบนที่ราบส่วนบน ผู้มาเยือนที่มีชื่อเสียงได้แก่ พระเจ้าออสกา ที่ 2 แห่งนอร์เวย์ ทรงเยือนเมื่อ พ.ศ. 2416[ต้องการอ้างอิง] และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเยือนเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2450 และในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีการบสำคัญที่เรียกชื่อว่า การสู้รบแห่งแหลมเหนือ ในมหาสมุทรอาร์กติก ณ บริเวณใกล้กับแหลมเหนือ

North Cape) ถูกจัดเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวของนอร์เวย์ที่ผู้คนไปชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนในฤดูร้อนกันมาก




ปัจจุบันแหลมเหนือ (North Cape) ถูกจัดเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวของนอร์เวย์ที่ผู้คนไปชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนในฤดูร้อนกันมาก และที่แหลมแห่งนี้มีพิพิธภัณฑ์แสดงนิทรรศการประวัติของแหลมเหนือซึ่งรวมถึงพระราชประวัติในการเยือนเสด็จของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในครั้งนั้นด้วย (เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/แหลมเหนือ)



มาถึงก็เดินท้าลมอันแสนเย็นยะเยือก มาถ่ายรูปคู่กับอนุสรณ์ Memorial to the visit by King Oscar II to North Cape on 2 July 1873 ให้มาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วย 

ป้่ายข้อความทีระบุ Memorial to the visit by King Oscar II to North Cape on 2 July 1873 เก่ามากๆ 




ถ่ายรูปเช็คอินคู่กับ  sculpture of global สัญลักษณ์ North Capte เป็นรูปลูกโลกที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมหน้าผา 


แน่นอนว่ามาถึงนอร์ทเคปทั้งที ก็ไม่พลาดถ่ายรูปเช็คอินคู่กับ  sculpture of global สัญลักษณ์ North Capte เป็นรูปลูกโลกที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมหน้าผา 


บรรยากาศวันที่ไปเที่ยว ลมแรงมากๆค่ะ แนะนำเลยว่าถ้าใครมาเที่ยว เอาเสื้อกันหนาวกันลมดีๆ มาด้วยนะคะ แม้จะเป็นช่วงฤดูร้อนก็ตาม เพราะอากาศเย็นสุดๆ อุณหภูมิเลขตัวเดียว 

ทัศนีภาพโดยรอบ หากใครที่ไม่อยากเอาหน้า ท้าลม แนะนำเดินถอยหลังค่ะ แต่ต้องระวังก้อนหินด้วยนะคะ ต้องค่อยๆเดิน เพราะลมแรงจริงๆ เดี๊ยนสู้ไม่ไหวเลยค่ะ


หากใครสู้ลบแรงและอากาศหนาวๆด้านนอกไม่ไหว เข้า่ไปด้านไปชมพิพิธภัณฑ์ด้านในอาคารกันค่ะ ถ้าอยู่ด้านนอก มีถูกแรงลมพัดลมทะเลได้นะคะ 


เข้ามาด้านในแล้ว รู้สึกอบอุ่นขึ้นเยอะเลยค่ะ

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็เข้ามาอยู่ด้านในอาคารกัน 


ด้านในมีอนุสรณ์หินสลักพระปรมาภิไธยย่อ จปร ของในหลวงรัชกาลที่ 5 ด้วยค่ะ

ถ่ายลงมาให้เห็นกันค่ะ หินสลักสลักพระปรมาภิไธยย่อ จปร เมื่อปี 1907

ถ่ายมาลงชัดๆให้เห็น แต่แสงก็สว่างจ้าไปหน่อยค่ะ

ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 5 มาสลักพระปรมาภิไธยย่อ จปร เมื่อปี 1907


ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 5 มาสลักพระปรมาภิไธยย่อ จปร เมื่อปี 1907

และที่เดี๊ยนมาเที่ยวถึง North Cape มาเพื่อชมพิพิธภัณฑ์สถานไทย ที่ตั้งอยู ณ เหนือสุดของประเทศนอร์เวย์แห่งนี้ค่ะ 


โดยในหลวงรักาลที่ 5 เสด็จมาเยือน นอร์ดแคปป์ แผ่นดินเหนือที่สุดของทวีปยุโรปและเป็นที่รู้จักกันดีในนามของ “ดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จระหว่างการเสด็จประพาสยุโรป ครั้งที่ 2 เมื่อปี ค.ศ.1907 หรือในปี พ.ศ. 2450


เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีสีสันสดใสเป็นสีชมพู ด้านในมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แวะเข้ามาเยี่ยมชม อย่างไม่ขาดสายเลย แม้จะเป็นโซนที่อยู่ช่วงท้า่ยๆก็ตาม 

ด้านในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการภาพและพระนิพนธ์ ครั้งเสด็จพระประพาสยุโรปให้ได้อ่านกันด้วย 





เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่คนไทยอย่างเราๆ มาถึงก็ภูมิใจไม่น้อง ที่มีพิพิธภัณฑ์ไทยตั้งอยู่ ณ นอร์ทแคป์แห่งนี้ 

การเสด็จพระพาสยุโรปของพระบาทสมเด็จพระเจ้า่เกล้าเจ้าอยู่หัว

Reisebrev Fra Norg 1907 of  AV Kong Chulalongkonrn ov Siam

พระราชนิพนธ์ไกลบ้านของในหลวงรัชกาลที่ 5 เมื่อวันพฤหัสบดี 18 ก.ค. รศ.126


จากรูประบุพระนิพนธ์ไว้ว่า.....สโนแลฝนตกเรื่อยไม่หยุดหย่อน จนมาถึงโฮเตลนี้ เรียกว่ากรอตลิต เป็นที่ลานแจ้ง โฮเตลใหญ่กว่าเพื่อน ว่าจุคนได้ถึง 50 ทำล้วนแล้วแต่ด้วยไม้สน ไม่ได้ท่าสีทั้งสิ้น.... ภูมินิเทศรอบโฮเตลนี้ ด้านน่าเป็นเขาสูง ดาดไปด้วยสโนเต็มไปทั้งนั้น 

...ด้านหลังก็มีเขาเป็นเทือกยาวอย่างเดียวกันกับด้านน่า แต่ยังมียอดสูงๆ ชเง้ออยู่ข้างหน้า และเห็นหนทางไปจนสูดสายตา ถึงทางที่ขึ้นมาก็แลเห็นหนทางมาตลอด แลดูไกลๆ เหมือนเอาไม้าเท้าขีดทรายเล่น......


ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ครั้นเสด็จ North Cape เมื่อปี ค.ศ.1907

ภาพเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2

บรรยากาศภายในโซนนิทรรศการส่วนอื่นๆในพิพิธภัณฑ์ North Cape

ด้านในโซนนิทรรศการ 

หนึ่งเดียวจุดเหนือสุดยุโรป พิพิธภัณฑ์ไทย-ศิลาประวัติศาสตร์ จารึกพระปรมาภิไธยย่อ’จปร.

ออกมานั่งพักชมวิวสักหน่อย 

เวลา ตี 1 ก็เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ เป็นอันจบทริป ครั้งหนึงในชีวิต มาได้ชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน ที่ North Cape



จากนั้นเวลา ตี 1 ก็เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ เป็นอันจบทริป ครั้งหนึงในชีวิต มาได้ชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน ที่ North Cape แม้ว่าจะไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ก็ตาม เนื่องจากวันที่ไปเที่ยว ฟ้าปิดมีเมฆมาก ทำให้ไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ตอนเที่ยงคืนก็ตาม แต่ก็ได้มาเห็นพิพิธัณฑ์ไทยและศิลาประวัติศาสตร์ จารึกพระปรมาภิไธยย่อ’จปร ที่จัดแสดงได้อย่างน่าสนใจ 


ขอบพระคุณผู้อ่านทุ่กๆคนที่แวะเวียนเข้ามาคลิ๊กเปิดอ่านกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้งในบทความถัดไป....จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน 
--------------------------------------------------------------------------

แนะนำบทความบล็อกอื่นๆ  มีดังนี้ค่ะ




รู้จักประวัติเป็นมาของตุ๊กตากระดาษและวิธีการทำตุ๊กตากระดาษแบบไทยๆ>>

แบ่งปันวิธีทำตุ๊กตากระดาษแบบไทยๆในยุค60-90 และมารู้จักประวัติตุ๊กตากระดาษในโลกนั้น มีที่มาอย่างไร นำมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>



แบ่งปันทริปรีวิวเที่ยวนราธิวาส ไม่พลาดไปเช็คอินตามจุดที่เที่ยวใหม่ๆ>>


มาม๊ะมาเก็บตกเที่ยวนราธิวาส ไม่พลาดไปเช็คอินที่เที่ยวต่างๆ กินอาหารพื้นบ้านแสนอร่อยๆ มีจุดเช็คอินถ่ายรูปสวยๆใหม่ๆหลายแห่ง ตามไปกันเลย คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>


ทริปพาไปเที่ยวชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่สวน Mayfied Lavender Farm>>

แบ่งปันทริปรีวิวพาไปเที่ยวชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่สวน Mayfied Lavender Farm เดินทางไปด้วยตัวเองอย่างไร ราคาบัตรเท่าไหร่ ตามไปเที่ยวชมกัน  คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>


เก็บตกภาพบรรยากาศงาน London Pride2023 มีขบวนจากไทยเข้าร่วมด้วย>>>

บันทึกการเดินทางเก็บภาพบรรยากาศงาน London Pride 2023 งานใหญ่แห่งปี ที่มีประเทศไทยเข้าร่วมด้วย ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรีวิวบันทึกภาพการเดินทางค่ะ>>>



แบ่งปันรีวิวเที่ยวปัตตานี เมืองนี้มีแต่ของดีๆอร่อยให้ทาน ตามไปเที่ยวกันเลย>>

แบกเป้ลุยเดี่ยว เช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับเที่ยวปัตตานี เมืองนี้มีแต่ของดีอร่อยๆให้ทาน มีจุดเช็คอินสถานที่ท่องเที่ยวให้ยลตระการมากมาย ไม่พลาดไปกันให้ได้นะ คลิ๊กดูรีวิวบันทึกภาพและการเดินทางค่ะ>>>


เก็บตกภาพขบวนพาเหรดงาน Bangkok Pride Month2023 ไปชมกันเลย>>

แบ่งปันเก็บตกภาพขบวนพาเหรดงาน Bangkok Pride Month 2023 สีสันแห่งความหลากหลายทางเพศที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูภาพงาน>>>



มาม๊ะ..มาเที่ยวเบตง เยือนใต้สุดแดนสยาม ชมดอกไม้งาม3ฤดู ตามไปดูกันเลย>>

แบ่งปันทริปรีวิวเที่ยวเบตง 2 วันในปี2023 เช่ามอเตอร์ไซต์ไปชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดในเมืองไทย มีที่เที่ยวเปิดใหม่ที่ใหนบ้าง ตามไปดูกันเลย คลิ๊กดูรีวิวบันทึกภาพและการเดินทางค่ะ>>



โปรแกรมทริปครอบครัว 2 วัน 1 คืน พาคุณแม่เที่ยวจันทบุรี-ระยอง คลิ๊กดูรีวิวจ้า>>

แบ่งปันโปรแกรมเที่ยวกับครอบครัว 2 วัน 1 คืน พาคุณแม่เดินขึ้นเขาคิชฌกูฏ จันทบุรี ระยอง ทำบุญ ไหว้พระ ทานอาหารอร่อยๆ ไม่เหงาหงอยอีกต่อไป คลิ๊กดูรีวิวบันทึกภาพและการเดินทางค่ะ>>>



รีวิวย้อนวันวาน ยลตระการเมืองเลยอีกครั้ง มีที่เที่ยวเปิดใหม่สวยปัง ที่ใหนบ้าง>>

แบ่งปันทริปเที่ยวภูเรือ-ด่านซ้าย-ฟูจิเมืองเลย ภูป่าเปาะ ขับรถเลาะหาแนวกิน ฟินกับร้านคาเฟ่ มีที่เที่ยวเปิดใหม่ที่ใหนบ้าง ตามไปเบิ่งดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูรีวิวบันทึกภาพและการเดินทางค่ะ>>>


ไปเที่ยวฉะเชิงเทราสั้นๆ ปั่นจักรยานลัดเลาะเมืองนี้ มีแหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่อะไรบ้าง>>>


ทริปสั้นๆรีวิวเที่ยวฉะเชิงเทรา 2 วัน 1 คืน นั่งรถไฟ-ปั่นจักรยาน-ไปเริงสำราญถ่ายรูปเช็คอินสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ มีที่ใหนน่าสนใจบ้าง ตามไปทัศนาชื่นชมกันเลยจ้า คลิ๊กดูรีวิวบันทึกภาพและการเดินทางค่ะ>>>


รีวิวเที่ยวรับต้นปีเยือนถิ่นป่าสนใหญ่ที่สุดในเมืองไทย มีที่เที่ยวอะไรบ้าง>>>

ล่าสุดรับปี2023 บันทึกเดินทางเที่ยวแดนดิน ถิ่นป่าสนใหญ่ที่สุดในเมืองไทย มีที่เที่ยวอะไรให้ไปเช็คอินถ่ายรูปบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลย คลิ๊กดูรีวิวบันทึกภาพและการเดินทางค่ะ>>>


บันทึกเดินทาง สะพายเป้เที่ยวเมืองดานัง-เว้-ฮอยอัน มีที่เที่ยวเปิดใหม่อะไรบ้าง>>>


บันทึกเดินทางปลายปี2022 ลองสะพายเป้ไปเที่ยวดานัง-เว้-ฮอยอัน มีที่เที่ยวเปิดใหม่น่าสนใจ และอาหารแปลกถิ่นอะไรให้กินบ้าง ตามไปเที่ยวกันจ้า คลิ๊กดูรีวิวบันทึกภาพการเดินทางค่ะ>>>


แบกเป้เที่ยวเมืองฟองญา ชมเมืองป่าเขามรดกโลก เดินทางไปอย่างไร>>>

แบ่งปันทริปรีวิวเที่ยวฟองญาปี2565 ชมเมืองป่าเขามรดกโลก เดินทางไปอย่างไร มีที่เที่ยวอะไรน่าสนใจ ให้ไปเช็คอินถ่ายรูปสวยๆบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูรีวิวบันทึกภาพการเดินทางค่ะ>>>


บันทึกไปตามภาพ ไม่พลาดไปเที่ยวอุตรดิตถ์ มีที่เที่ยวเปิดใหม่ที่ใหนบ้าง>>>

บันทึกเที่ยวไปตามภาพ ไม่พลาดรีวิวเที่ยวอุตรดิตถ์ เมืองรองต้องห้ามพลาด ทานลางสาดหวานเจี๊ยบ มีที่เที่ยวเปิดใหม่น่าสนใจที่ใหนบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า คลิ๊กดูรีวิวบันทึกภาพการเดินทางค่ะ>>


บันทึกเที่ยวช่วงหน้าฝน ล่องแพไม้ไผ่ที่เขาสก แวะชมน้ำตกสวย มีที่เที่ยวอะไรบ้าง>>

แบ่งปันทริปรีวิวเที่ยวล่องไม้ไผ่ที่เขาสก แวะชมน้ำตกสวยๆ รุ่มระรวยด้วยทะเลหมอกงดงาม ต้องตามไปชมกันสักครั้ง พร้อมสรุปค่าใช้จ่าย มาให้อ่านกันจ้ คลิ๊กดูรีวิวบันทึกภาพการเดินทางค่ะ>>>>


บันทีกเดินทาง นั่งรถไฟ-ปั่นจักรยานเที่ยวนครปฐม-นครชัยศรี-บางเลน ดูที่เที่ยว>>>

บันทีกเที่ยวไปตามภาพ : นั่งรถไฟ และปั่นจักรยานเที่ยวนครปฐม ชื่นชมนครชัยศรี-บางเลน นอนเอนกายสไตล์ไทยๆ มีที่เที่ยวอะไรบ้าง ตามไปดูกันค่ะ คลิ๊กดูรีวิวภาพบันทึกการเดินทางค่ะ>>>


แบ่งปันรีวิวไปเที่ยวเมืองมุกดาหาร ยลตระการเมืองพญานาคริมแม่น้ำโขง>>>


แบ่งปันรีวิวไปเที่ยวเมืองมุกดาหาร ยลตระการเมืองพญานาคริมแม่น้ำโขง เชื่อมโยงฝั่งไทยลาว มีที่เที่ยวเปิดใหม่ที่ใหนบ้าง ตามไปเที่ยวกันเลยจ้า คลิ๊กดูบทความรีวิวภาพสถานที่ท่องเที่ยวค่ะ>>>

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น