|
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองตราด เมืองเล็กๆน่าเที่ยวอีกแห่งที่ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน แต่ก็มีที่เที่ยว มีจุดเช็คอินชมวิวถ่ายรูปวิวสวยๆ ให้ต้องปักหมุดพิกัดไปเที่ยวกันสักครั้ง |
เมื่อเอ่ยนามถึงแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดตราด แน่นอนเลยว่าเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร ออนซอนหัวใจ หลายคน มักจะต้องนึกถึงแหล่งท่องเที่ยวทางชายทะเลอย่างเกาะช้าง เกาะกูด แต่แท้จริงแล้ว นอกจากที่เที่ยวดังๆอย่างหมู่เกาะสวยๆในน่านน้ำทะเลอ่าวไทยแล้ว ในตัวเมืองตราด เมืองเล็กๆที่หลายคนเห็นเป็นแค่ทางผ่านนั้น กลับมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้แวะไปเที่ยวชม และเดินถ่ายรูปภาพกันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะใครที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงนวัตวิถีชุมชน หรือการท่องเที่ยวแบบ Sightseeing แบบเดินชมเมือง พร้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของพื้นที่นั้นๆไปด้วย
ในเมืองตราด ก็จัดเป็นเมืองที่มีประวัติศาตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน โดยมีร่องรอยอาคารโบราณสถาน มีวัดวาอาราม และมีแหล่งท่องเที่ยวให้ไปชมและศึกษาเรียนรู้เช่นกัน นอกจากนี้ในตัวเมืองแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้ไปชมอย่างน่าภิรมย์ใจด้วย ส่วนเพื่อนๆคนใหน ที่วันหยุดปีนี้ วางแผนจะจรลีหยุดงานมาเที่ยวเมืองตราด อยากรู้ว่าในตัวเมืองตราด มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอะไรบ้าง ในวันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า เลยขอมาแนะนำพิกัดสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองตราดยอดนิยม มาให้ไปเที่ยวชมกันดังนี้ ตามไปกันเลยค่ะ
|
ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองตราดนั้น ก็มีจุดเช็คอินให้แวะไปถ่ายรูปกันอยู่หลายแห่งเลยค่ะ |
และในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองตราดนั้น ก็มีจุดเช็คอินให้แวะไปถ่ายรูปกันอยู่หลายแห่งเลยค่ะ
|
วันนี้เดี๊ยนเลยขอมาสรุปสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในตัวเมืองตราดมาให้ดังนี้ค่ะ ยังไงลองแวะไปเที่ยวกันดูนะคะ
|
ทางโรงแรมก็มีแผนที่แนะนำสถานที่ท่องที่ยวในย่านตัวเมืองตราดมาให้ด้วย ส่วนเพื่อนๆนักทัศนาจร คนใหน ที่วางแผนเดินมายังเมืองตราด ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ใหนบ้าง
วันนี้เดี๊ยนเลยขอมาสรุปสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในตัวเมืองตราดมาให้ดังนี้ค่ะ ยังไงลองแวะไปเที่ยวกันดูนะคะ
|
1.ชุมชนเก่าคลองบางพระ |
|
1.ชุมชนเก่าคลองบางพระ |
|
1.ชุมชนเก่าคลองบางพระ |
|
1.ชุมชนเก่าคลองบางพระ |
1.ชุมชนเก่าคลองบางพระ
เนื่องจากชุมชนแห่งนี้มนต์เสน่ห์ที่เต็มไปด้วยบ้านเก่าเรือนไม้หลายร้อยหลังคา เรียงรายอยู่ ทำให้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมือง ที่นักเดินทางสามารถแวะมาเดินเที่ยวชมได้ไม่ไกล โดยชุมชนคลองบางพระร่วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวมากมาย เช่นการจัดงานแสงสีเสียงตำนานคลองบางพระ ส่งเสริมให้มีการผลิตสินค้าที่หาได้ในท้องถิ่น เช่นการจำหน่ายผลิตผลจากต้นจาก การเย็บหมวกและงอบใบจาก นอกจากนี้ในย่านชุมชนเก่าคลองบางพระ ยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มาพักอาศัยในย่านชุมชนถนนหลักเมือง และถนนธนเจริญ ในย่านค่ำคืน ถนนธนเจริญเปรียบเสมือนปายแห่งที่สอง หรือที่เรียกว่า ปายตะวันออก อีกด้วย
|
2.พิพิธภัณฑ์สถานเมืองตราด (Trat Museum ) |
|
2.พิพิธภัณฑ์สถานเมืองตราด (Trat Museum ) |
|
2.พิพิธภัณฑ์สถานเมืองตราด (Trat Museum ) |
2.พิพิธภัณฑ์สถานเมืองตราด (Trat Museum )
สำหรับ พิพิธภัณฑสถานเมืองตราด เดิมสถานที่แห่งนี้เป็นศาลากลางจังหวัดหลังเก่า สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่6 ตั้งอยู่ที่ถนนสันติสุข อำเภอเมืองฯ จังหวัดตราด สถาปัตยกรรมเด่นของอาคารแห่งนี้ คือลักษณะเป็นอาคารไม้ เสาปูน ยกพื้นใต้ถุนสูง หลังคาทรงปั้นหยา ต่อมาอาคารทรุดโทรมลง ทางจังหวัดจึงได้ก่อสร้างอาคารหลังใหม่ อาคารหลังเก่านี้จึงถูกปิดตัวลงเป็นเวลานาน
จนในปี พ.ศ.2539 กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนศาลากลางหลังเก่าให้เป็นโบราณสถานของชาติ แต่ต่อมาปี พ.ศ.2547 อาคารหลัง นี้ถูกไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งหมด ทางเทศบาลเมืองตราดได้จัดสรรงบประมาณให้กับกรมศิลปากรเพื่อบูรณะอาคารตามรูปแบบเดิม แล้วเสร็จในอีก 2 ปีต่อมา และกรมศิลปากรได้ใช้งบประมาณของตัวเองเพื่อปรับปรุงภายในอาคารให้เป็น “พิพิธภัณฑสถานเมืองตราด” แล้วเสร็จจึงส่งมอบให้เทศบาลเมืองตราด เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2556 และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลที่นี่จึงเป็นแห่งแรกที่ใช้เป็นชื่อพิพิธภัณฑสถานเมืองตราด จังหวัดตราด โดยไม่มีคำว่า “แห่งชาติ” โดยให้เทศบาลเมืองตราดเป็นผู้บริหารจัดการดูแล จัดแสดงประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเมืองตราด เหตุการณ์สำคัญ และชีวิตวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดตราด เพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจได้เข้าชม
|
3.วัดไผ่ล้อม (Wat Phi Lom) |
|
3.วัดไผ่ล้อม (Wat Phi Lom) |
|
3.วัดไผ่ล้อม (Wat Phi Lom) |
3.วัดไผ่ล้อม (Wat Phi Lom)
จัดเป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่สำคัญของเมืองตราด ตั้งอยู่ที่ถนนหลักเมือง ตำบลบางพระ อำเภอเมืองตราด เป็นวัดที่เก่าแก่มีอายุมากกว่า 150 ปี และมีบทบาทสำคัญต่อการศึกษาของจังหวัด รวมทั้งมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนเป็นอย่างดี เคยเป็นที่พำนักของบิดาแห่งการศึกษาจังหวัดตราด คือ ท่านเจ้าคุณพระวิมลเมธาจารย์ วรญาณนุรักษ์ สังฆปราโมก ภายในวัดมีสวนพุทธธรรมให้ประชาชนใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และมีเจดีย์พิพิธภัณฑ์สามท่านเจ้าคุณที่เคารพของคนในจังหวัดตราด
วัดนี้เป็นสถานที่ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินเป็นการส่วนพระองค์ พร้อมเสด็จฯ เยี่ยมเยียนประชาชนชาวตราด ที่เดินทางมาเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จอย่างเนืองแน่น เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2511 แม้ในปัจจุบันวัดก็ยังเป็นที่พึ่งพาของชาวบ้าน มีการพัฒนาสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมตลอดเวลา
|
4.ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว |
|
4.ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว |
|
4.ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว |
|
4.ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว |
|
4.ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว |
4.ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว
สำหรับชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว ชุมชนท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่นำเสนอวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้านชายฝั่ง ตั้งอยู่ใน ต.น้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ จ.ตราด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวถ่ายรูปเช็คอินที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของจังหวัดตราด โดยจุดเด่นของชุมชนแห่งนี้คือ สะพานโค้งข้ามลำคลอง เป็นหมู่บ้านในเส้นทางผ่านไปท่าเรือเกาะช้าง บ้านน้ำเชี่ยวมี พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ติดทะเล มีป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่เป็นจำนวนมาก มีคลองขนาดใหญ่ไหลผ่าน เดิมทีประชากรของตำบลน้ำเชี่ยว เป็นคนไทยนับถือศาสนาพุทธ ต่อมามีพ่อค้าชาวจีนล่องเรือสำเภามาค้าขายสินค้าที่ท่าเรือบ้านน้ำเชี่ยว และได้ตั้งรกรากอยู่ที่นี่ ทำให้ชาวน้ำเชี่ยวส่วนหนึ่งเป็นคนไทย เชื้อสายจีน และในสมัยรัชกาลที่ 3
ได้มีชาวมุสลิมซึ่งเรียกตัวเองว่า “แขกจาม หรือ จำปา” อพยพหนีสงครามมาจากประเทศเขมร มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ริมคลองน้ำเชี่ยว และมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยชาวพุทธและมุสลิมสามารถแต่งงานข้ามศาสนาได้ ซึ่งพี่น้องทั้งสอง ศาสนาอาศัยอยู่ร่วมกันในตำบลน้ำเชี่ยวอย่างสันติสุขด้วยความสัมพันธ์อันดีตลอดมา
ที่มาของชื่อชุมชน “น้ำเชี่ยว” มาจากพื้นที่ส่วนใหญ่ อยู่ติดทะเล มีป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่เป็นจำนวนมาก มีคลองขนาดใหญ่ไหลผ่าน ซึ่งคลองนี้มีต้นกำเนินอยู่ที่เขาวังปลา อยู่ระหว่างอำเภอแหลมงอบและอำเภอเมืองตราด เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก น้ำในคลองจะไหลเชี่ยวมาก ชาวบ้านจึงเรียกว่า “คลองน้ำเชี่ยว” ไหลผ่านกลางหมู่บ้านน้ำเชี่ยวลงสู่ทะเลอ่าวไทยทางใต้ที่บ้านปากคลอง ตำบลหนองโสน อำเภอเมืองตราด ซึ่งชาวบ้านใช้เป็นแหล่งประมง พื้นบ้านและใช้เป็นเส้นทางออกทะเลเพื่อทำการประมงจนถึงปัจจุบันชาวตำบลน้ำเชี่ยวส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ประมง ทำสวนยางพารา สวนผลไม้ และค้าขาย อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในการทำงอบ เรียกว่า "งอบน้ำเชี่ยว" เป็นหัตถกรรมพื้นบ้านของจังหวัดตราดที่สืบทอดมาแต่โบราณอีกด้วย
|
5.ป่าชายเลนบ้านท่าระแนะ |
|
5.ป่าชายเลนบ้านท่าระแนะ |
|
5.ป่าชายเลนบ้านท่าระแนะ |
|
5.ป่าชายเลนบ้านท่าระแนะ |
|
5.ป่าชายเลนบ้านท่าระแนะ |
5.ป่าชายเลนบ้านท่าระแนะ
เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่มีป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ในบ้านท่าระแนะ ห่างจากตัวเมืองตราดประมาณ 11 กิโลเมตร ภายในเป็นป่าชายเลน มีเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่ ซึ่งต้นไม้แต่ละต้นมีขนาดใหญ่มาก มีอายุมากกว่า 100 ปี ถือว่าเป็นแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ของชาวบ้านเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการ จับปู ปลา กุ้ง หอย ต่างๆ จนกระทั่งได้กลายมาเป็น หนึ่ง ใน สถานที่ท่องเที่ยว Unseen ของ จังหวัดตราด ที่มีความมหัศจรรย์ ก่อนจะได้ไปชมกันนั้น เราต้องนั่งเรือเข้าไป ประมาณ 2 กิโลเมตร จะผ่านป่าในคลองถึง 3 ป่าด้วยกัน นั่นก็คือ ป่าโกงกาง ป่าจาก และป่าตะบูน ซึ่งเป็นรากไม้มหัศจรรย์ และกลายเป็นหนึ่งใน Unseen ที่มีชื่อเสียงของป่าชายเลนแห่งนี้
|
6.แหลมเกาะปู |
|
6.แหลมเกาะปู |
|
6.แหลมเกาะปู |
|
6.แหลมเกาะปู |
6.แหลมเกาะปู
สำหรับแหลมเกาะปู จัดเป็นหนึ่งในสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจติดริมชายทะเล บริเวณแหลมเกาะปูตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวแม่น้ำตราด ที่บ้านแหลมหิน ต.หนองคันทรง อ.เมือง จ.ตราด ซึ่งมีมีระยะทางอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร ชาวบ้านเรียกแหลมเกาะปู เนื่องจากว่าภูมิประเทศเป็นแหลมยื่น ออกไปทางทะเล มีประภาคารตั้งอยู่และเป็นพื้นที่ๆมีน้ำล้อมรอบมีคลองกั้นระหว่างบ้านท่าหลวงล่าง อีกทั้งบริเวณแหลมเกาะปูเป็นป่าชายเลนที่สมบูรณ์ และเป็นที่อยู่อาศัยของปูทะเลจำนวนมากจึงเป็น ที่มาของชื่อ “แหลมเกาะปู” นั้นเอง โดยปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับมาเดินรับลม ถ่ายรูปเช็คอินสวยๆ และยังอยู่ไม่ไกลจากป่าเลนบ้านท่าระแนะ หรือป่ามหัศจรรย์ลานตะบูนอีกด้วย
|
7.ชายหาดบานชื่น (หาดมะโร) |
|
7.ชายหาดบานชื่น (หาดมะโร) |
|
7.ชายหาดบานชื่น (หาดมะโร) |
|
7.ชายหาดบานชื่น (หาดมะโร) |
|
7.ชายหาดบานชื่น (หาดมะโร) |
|
7.ชายหาดบานชื่น (หาดมะโร) |
|
7.ชายหาดบานชื่น (หาดมะโร) |
7.ชายหาดบานชื่น (หาดมะโร)
จัดเป็นหนึ่งในชายหาดสวยงามประจำจังหวัดตราดที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ก่อนถึงอำเภอคลองใหญ่ เส้นทางหลวงหมายเลข 318 ระหว่างกิโลเมตรที่ 59-60 โดยมีทางแยกขวามือเข้าไปอีก 3 กิโลเมตร เป็นหาดที่มีทัศนียภาพสวยงาม มีทรายเม็ดละเอียด น้ำใสสะอาด บริเวณหาดมีร้านอาหาร ร้านค้าให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้นั่งทานอาหาร มีบังกะโลให้เช่าบริเวณชายหาดให้นักท่องเที่ยวได้นอนพักค้างแรมอีกด้วย
หาดบานชื่น หรือหาดมะโรแห่งนี้ ตัวหาดมีลักษณะเป็นแนวกว้างทอดตัวลงไปในท้องทะเล สามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย จึงเป็นหนึ่งในชายหาดและเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่มีชื่อเสียงของนักท่องเที่ยวในเมืองตราดนิยมไปเที่ยวกัน
นอกจากแหล่งท่องเที่ยวที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ในจังหวัดตราด ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและจุดพิกัดเช็คอินถ่ายรูปวิวสวยๆ ให้แวะไปเยือนชมกันอีกหลายแห่งเลยล่ะค่ะ เพื่อนๆนักทัศนาจร คนใหน ที่วันหยุดนี้ ไม่รู้ไปใหนดี ก็ลองจัดทริปมาเที่ยวเมืองตราดดูสักครั้งนะคะ รับรองว่าได้รูปภาพวิวสวยปังกลับไปอย่างแน่นอนค่ะ....................ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆคนที่เข้ามาสไลด์เลื่อนดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้งในบทความถัดไปนะคะ
------------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ
0 ความคิดเห็น