|
และเพื่อไม่ให้เว็ปไซต์บล็อกนี้ร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมาอัพเดทแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในตัวเมืองกาญจนบุรี และที่เที่ยวใกล้เคีย ต้องไปเช็กอินถ่ายรูปตามจุดชมวิวต่างๆ และวัดวาอาราม พิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจในตัวเมือง มีที่ใหนบ้าง จัดมาให้ดังนี้ค่ะ |
ก็ขอทักทาย ซำบายดี สวีดัด สวัสดีคุณผู้อ่าน และเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจกันทุกๆคนค่ะ จัดทริปเที่ยวทั่วไทยไปด้วยกันในวันหยุดนี้ หากเพื่อนๆคนใหน ที่กำลังวางแผนจะพากันไปเที่ยวเมืองกาญจนบุรี เมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพ ที่สามารถแวะไปเสพสุขสม รื่นรมย์อุรา ช่ะช่ะช่าหัวใจได้อย่างไม่มีวันเบื่อ เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามน่าสนใจหลายแห่ง ทั้งประวัติศาสตร์สงคราม วัดวาอาราม โบราณสถาน ภูผา ถ้ำ ลำน้ำตก งามสะทกไปถึงเขื่อนใหญ๋ เรียกว่าหากจะเที่ยวให้ครบจบหมดทุกสถานที่ ต้องมาเที่ยวกันหลายๆคน หรือพักค้างเป็นแรมอาทิตย์กันเลยทีเดียวเชียว
แต่สำหรับใครที่มีเวลาน้อย อยากจะนั่งรถไฟมาเที่ยวเมืองกาญจน์ แค่ 2 วัน 1 คืน อยากจะเที่ยวเฉพาะในตัวเมือง และแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง ที่เดินทางไปได้ไม่ไกลมากนัก แต่ยังไม่รู้ว่า ในตัวเมืองกาญจนบุรี มีแหล่งท่องเที่ยวอะไร น่าสนใจบ้าง เพื่อไม่ให้เว็ปไซต์ร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า เลยขอมาแนะนำที่เที่ยวยอดนิยมอยู่ในตัวเมืองกาญจนบุรี และไม่เกินรัศมี 20 กิโลเมตร ที่สามารถเช่ารถมอเตอร์ไซต์ หรือขับรถไปเที่ยว 1 วัน แบบเช้าไป-เย็นกลับได้ ส่วนจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในเมืองกาญจนบุรีที่ใหนบ้างนั้น ตามไปถ่ายรูปภาพเช็กอินกันเลยค่ะ
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองกาญจนบุรี ต้องไปถ่ายรูปเช็คอินกัน มีดังนี้
|
ขอมาสรุปรีวิวที่เที่ยวในตัวเมือง และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงตัวเมืองกาญจนบุรีก่อนค่ะ |
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรีนั้นมี แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งมาก แต่ในรีวิวทริปนี้ คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมาสรุปรีวิวที่เที่ยวในตัวเมือง และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงตัวเมืองกาญจนบุรีก่อนค่ะ เผื่อว่าเพื่อนๆคนใหน ที่มีเวลาน้อย จัดทริปเที่ยวเมืองกาญจนบุรีแค่ 2 วัน 1 คืน แต่ไม่อยากเดินทางไกลออกจากตัวเมือง
|
แผนที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในเมืองกาญจนบุรี ไม่ไกลรัศมีออกจากตัวเมืองมากนัก |
|
ในตัวเมืองกาญจนบุรีเอง ก็มีที่เที่ยวให้แวะไปถ่ายรูปเช็กอินอยู่หลายแห่งเลยนะค่ะ ดิฉันเลยขอมาสรุปแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้ไปรีวิวเที่ยวมาให้ชมกันดังนี้ค่ะ |
ซึ่งในตัวเมืองกาญจนบุรีเอง ก็มีที่เที่ยวให้แวะไปถ่ายรูปเช็กอินอยู่หลายแห่งเลยนะค่ะ เดี๊ยนเลยขอมาสรุปแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้ไปรีวิวเที่ยวมาให้ชมกันดังนี้ค่ะ ไปดูสิว่ามีที่ใหนบ้าง หากใครที่มีเวลาว่าง อยากออกมาเที่ยว ก็จัดทริปมากันได้เลยค่ะ
|
1.สะพานข้ามแม่น้ำแคว (The Bridge on the River Kwai) หนึ่งในจุดเช็กอินที่เที่ยวมีชื่อเสียงที่สุดของเมืองกาญจนบุรี ว่ากันว่าหากใครมาเที่ยวเมืองกาญจนบุรีเป็นครั้งแรกแล้ว ไม่ได้มาถ่ายรูปหรือเดินชมสะพานแห่งนี้ ถือว่ามาไม่ถึงเมืองกาญจนบุรีกันเลย |
|
1.สะพานข้ามแม่น้ำแคว (The Bridge on the River Kwai) |
|
1.สะพานข้ามแม่น้ำแคว (The Bridge on the River Kwai) หนึ่งในจุดเช็กอินที่เที่ยวมีชื่อเสียงที่สุดของเมืองกาญจนบุรี ว่ากันว่าหากใครมาเที่ยวเมืองกาญจนบุรีเป็นครั้งแรกแล้ว ไม่ได้มาถ่ายรูปหรือเดินชมสะพานแห่งนี้ ถือว่ามาไม่ถึงเมืองกาญจนบุรีกันเลย |
|
1.สะพานข้ามแม่น้ำแคว (The Bridge on the River Kwai) |
|
1.สะพานข้ามแม่น้ำแคว (The Bridge on the River Kwai) |
1.สะพานข้ามแม่น้ำแคว (The Bridge on the River Kwai)
จัดเป็นหนึ่งในจุดเช็กอินที่เที่ยวมีชื่อเสียงที่สุดของเมืองกาญจนบุรี ว่ากันว่าหากใครมาเที่ยวเมืองกาญจนบุรีเป็นครั้งแรกแล้ว ไม่ได้มาถ่ายรูปหรือเดินชมสะพานแห่งนี้ ถือว่ามาไม่ถึงเมืองกาญจนบุรีกันเลยทีเดียว เนื่องจากว่าเป็นสะพานแห่งประวัติศาสตร์ของยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เดิมสร้างขึ้นโดยแรงงานของเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ภายใต้การควบคุมของกองทัพญี่ปุ่น เป็นสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่โครงสร้างเหล็กครึ่งวงกลม สลับโครงสร้างถัก ตอม่อคอนกรีตเสริมเหล็ก
การก่อสร้างใช้เวลาแล้วเสร็จเพียงหนึ่งปี ก่อนจะถูกระเบิดทิ้งทำลายจากกองบินสัมพันธมิตรจนสะพานช่วงกลางพังถล่มลงมา ต่อมาภายหลังสงครามโลกยุติลง รัฐบาลไทยได้ซื้อทางรถไฟนี้ต่อจากอังกฤษมาเป็นเงินจำนวน 50 ล้านบาท[5] แล้วบูรณะซ่อมแซมขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2489 การซ่อมในครั้งนั้นได้ยุบตอม่อกลาง (ตัวที่ 5-6) แล้วสร้างเป็นสะพานเหล็ก 2 ช่วง แทนของเดิม กับเปลี่ยนช่วงสะพานไม้ด้านปลายทางเป็นสะพานเหล็กแทนสะพานไม้ รวมความยาวของสะพานทั้งสิ้น 322.90 เมตร
|
2.หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 (Arts Gallery and War Museum Kanchanaburi ) |
|
2.หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 (Arts Gallery and War Museum Kanchanaburi ) |
|
2.หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 (Arts Gallery and War Museum Kanchanaburi ) |
|
2.หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 (Arts Gallery and War Museum Kanchanaburi ) |
|
2.หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 (Arts Gallery and War Museum Kanchanaburi ) |
2.หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 (Arts Gallery and War Museum Kanchanaburi )
ซึ่งภายในเป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนก่อตั้งโดยนายอรัญ จันทร์ศิริ เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2529 สร้างขึ้นในพื้นที่เกิดเหตุการณ์จริงที่กองทัพญี่ปุ่นใช้สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์อำนวยการในการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแคว ลักษณะพิพิธภัณฑ์เป็นกลุ่มอาคารจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 การสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแควและประวัติศาสตร์เรื่องราวต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้ชมอย่างน่าสนใจ ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงการสร้างสะพานข้าม ผ่านภาพถ่ายอันเก่าแก่ที่หาดูได้ยาก และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ในสมัยสงคราม อาทิ ดาบ ลูกระเบิด เงินโบราณ ยานพาหนะของชาวญี่ปุ่น เช่น รถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ เรือ และหุ่นจำลองสามมิติ ด้านนอกอาคารแสดงซากรถจักรไอน้ำ เครื่องบิน
เปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนเข้าชมทุกวันระหว่างเวลา 08.00 - 18.30 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 50 บาท
|
3.พิพิธภัณฑ์รถไฟไทย-พม่า (Death Railway Museum and Research centre) |
|
3.พิพิธภัณฑ์รถไฟไทย-พม่า (Death Railway Museum and Research centre) |
|
3.พิพิธภัณฑ์รถไฟไทย-พม่า (Death Railway Museum and Research centre) |
|
3.พิพิธภัณฑ์รถไฟไทย-พม่า (Death Railway Museum and Research centre) |
|
3.พิพิธภัณฑ์รถไฟไทย-พม่า (Death Railway Museum and Research centre) |
|
3.พิพิธภัณฑ์รถไฟไทย-พม่า (Death Railway Museum and Research centre) |
3.พิพิธภัณฑ์รถไฟไทย-พม่า (Death Railway Museum and Research centre)
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอีกแห่ง จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทางรถไฟสายไทย-พม่า ตั้งอยู่ด้านข้างสุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเมืองกาญจนบุรี โดยเป็นพิพิธภัณฑ์เอกชน อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท ทีบีอาร์ซี จำกัด จัดตั้งขึ้นเพื่อจัดแสดงข้อมูลการสร้างทางรถไฟจากสถานี ชุมทางหนองปลาดุก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ไปยังสถานีธันบูซายัต ประเทศพม่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ภายในพิพิธภัณฑ์แสดงข้อมูลในการสร้างทางรถไฟ การวางแผนการก่อสร้าง เส้นทางลำเลียงคนงาน (เชลยศึก) สภาพความเป็นอยู่และการดำเนินชีวิตของเชลยศึก เริ่มตั้งแต่การเข้ามาของญี่ปุ่น การออกแบบและการสร้างทางรถไฟ สภาพภูมิศาสตร์ของทางรถไฟ สภาพชีวิตในค่ายเชลยศึก ด้านการแพทย์ สงคราม ปฏิบัติการทางรถไฟ การทิ้งระเบิดและการทำลายทางรถไฟ ไปจนถึงเหตุการณ์ภายหลังจากที่สงครามยุติลง
และการสิ้นสุดทางรถไฟ กล่องไฟแสดงการกระจายเชลยศึกไปยังจุดต่างๆ ในเอเชียของญี่ปุ่น แบบจำลองเส้นทางรถไฟจากสถานี ชุมทางหนองปลาดุกถึงธันบูซายัต แบบจำลองการตัดภูเขาเพื่อสร้างทางรถไฟ แบบจำลองค่ายพักเชลยศึก หุ่นเชลยศึกขนาดเท่าตัวจริง ห้องสำหรับชมวีดีโอและภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา เปิดทำการทุกวันเวลา 09.00-17.00 น.ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 100 บาท
|
3.พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเฉลยศึก (The Jeath war museum) |
|
3.พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเฉลยศึก (The Jeath war museum) |
3.พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเฉลยศึก (The Jeath war museum)
สำหรับพิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเฉลยศึก ตั้งอยู่ในวัดไชยชุมพลชนะสงครามหรือว่าวัดใต้ อำเภอเมือง กาญจนบุรี โดยพิพิธภัณฑ์แห่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2520 (1977) ตัวอาคารสร้างเป็นกระท่อมไม้ไผ่ เลียบแบบค่ายเฉลยศึกสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมภาพถ่าย ภาพเขียน และบทความที่แสดงถึงความเป็นอยู่ของเชลยศึก ตลอดจนเครื่องมือ เครื่องใช้ อาวุธ ระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อสะท้อนให้เห็นบทเรียนอันน่าสะพรึงกลัวของสงคราม เปิดให้เข้าชม 8.30-16.30 น. ค่าเข้าชมชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 30 บาท
|
4.สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก (Kanchanaburi War Cemetery) |
|
4.สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก (Kanchanaburi War Cemetery) |
|
4.สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก (Kanchanaburi War Cemetery) |
|
4.สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก (Kanchanaburi War Cemetery) |
|
4.สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก (Kanchanaburi War Cemetery) |
4.สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก (Kanchanaburi War Cemetery)
"สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก" หรือ "สุสานทหารสหประชาชาติ" หรือที่ชาวจังหวัดกาญจนบุรีทั่วไปเรียกว่า "ป่าช้าอังกฤษ" เป็นสุสานขนาดใหญ่บนพื้นที่ 17 ไร่ บรรจุศพเชลยศึกที่เสียชีวิตระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะถึง 6,982 หลุม โดยเชลยศึก 300 คนเสียชีวิตด้วยอหิวาตกโรคและฝังไว้ที่ค่ายนิเกะ (ประมาณ 15 กิโลเมตร ก่อนถึงด่านเจดีย์สามองค์) ส่วนที่เหลือได้จากหลุมฝังศพเชลยศึกตามค่ายต่าง ๆ และยังมีสุสานช่องไก่ ซึ่งรัฐบาลไทยและฝ่ายสัมพันธมิตรได้ตกลงกันเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2497 เพื่อสร้างสุสานสองแห่งนี้ขึ้น บรรยากาศในสุสานเงียบสงบและร่มรื่น พื้นที่ภายในได้รับการตกแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบสวยงาม เหนือหลุมฝังศพทุกหลุมมีแผ่นทองเหลืองจารึก ชื่อ อายุ และประเทศของผู้เสียชีวิต บรรทัดสุดท้ายเป็นคำไว้อาลัยที่โศกเศร้า ทุกปีจะมีวันที่รำลึกถึงผู้เสียชีวิตเฉพาะของคนชาติต่าง ๆ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมทุกวัน ตั้งอยู่ที่ติดถนนแสงชูโต ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเมืองกาญจนบุรี เครดิตข้อมูลดีๆจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก
|
5.ประตูเมืองกาญจนบุรี และกำแพงเก่า (Old Gate and Wall of Kanchanaburi city) |
|
5.ประตูเมืองกาญจนบุรี และกำแพงเก่า (Old Gate and Wall of Kanchanaburi city) |
|
5.ประตูเมืองกาญจนบุรี และกำแพงเก่า (Old Gate and Wall of Kanchanaburi city) |
|
5.ประตูเมืองกาญจนบุรี และกำแพงเก่า (Old Gate and Wall of Kanchanaburi city) |
5.ประตูเมืองกาญจนบุรี และกำแพงเก่า (Old Gate and Wall of Kanchanaburi city)
สำหรับประตูเมืองกาญและกำแพงเก่า ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจุดถ่ายรูปเช็กอินที่น่าสนใจอีกแห่ง เนื่องจากว่า ประตูดังกล่าวเป็นประตูเมืองเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเป็นประตูก่ออิฐถือปูนสร้างในรัชสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เมื่อปี พ.ศ. 2374 เมื่อครั้งย้ายเมืองกาญจนบุรีเก่าจากตำบลลาดหญ้ามาตั้งที่ตำบลปากแพรก เดิมมี 8 ประตู ประกอบด้วย ประตูเมือง 6 ประตูและประตูช่องกุด 2 ประตู ปัจจุบันคงเหลือเฉพาะประตูเมืองด้านหน้าและกำแพงเมืองบางส่วนที่อยู่ติดกันโดยได้มีการบูรณะ เมื่อปี พ.ศ. 2549
|
6.สุสานทหารสัมพันธมิตรเขาช่องไก่/เขาปูน (Chong-Kai War Cemetery) |
|
6.สุสานทหารสัมพันธมิตรเขาช่องไก่/เขาปูน (Chong-Kai War Cemetery) |
|
6.สุสานทหารสัมพันธมิตรเขาช่องไก่/เขาปูน (Chong-Kai War Cemetery) |
|
6.สุสานทหารสัมพันธมิตรเขาช่องไก่/เขาปูน (Chong-Kai War Cemetery) |
|
6.สุสานทหารสัมพันธมิตรเขาช่องไก่/เขาปูน (Chong-Kai War Cemetery) |
6.สุสานทหารสัมพันธมิตรเขาช่องไก่/เขาปูน (Chong-Kai War Cemetery)
สำหรับสุสานทหารสัมพันธมิตรเขาปูน หรือเรียกอีกชื่อว่า สุสานช่องไก่ เคยเป็นที่ตั้งค่ายเชลยศึกขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ฝั่งตะวันออก ในตำบลหนองหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 2 กิโลเมตร ขนาดเล็กกว่าสุสานกาญจนบุรี (ดอนรัก) มีพื้นที่ประมาณ 7 ไร่ บรรจุศพเชลยศึกรวม 1,750 หลุม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหารอังกฤษ ภายในมีการตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับอย่างร่มรื่น การเดินทางไปสุสานเขาปูน ทางรถยนต์ไปตามถนนลาดยางประมาณ 2 กิโลเมตร และอาจเดินทางโดยเรือที่หน้าเมืองกาญจนบุรี ตามลำน้ำแควน้อยอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะเห็นป้ายทางเข้าชัดเจน เนื่องจากอยู่ติดถนนใหญ่
|
7.วัดถ้ำเสือ (Tiger Cave Temple) |
|
7.วัดถ้ำเสือ (Tiger Cave Temple) |
|
7.วัดถ้ำเสือ (Tiger Cave Temple) |
|
7.วัดถ้ำเสือ (Tiger Cave Temple) |
|
7.วัดถ้ำเสือ (Tiger Cave Temple) |
7.วัดถ้ำเสือ (Tiger Cave Temple)
ซึ่งวัดถ้ำเสือเป็นวัดและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาในอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ติดกับวัดถ้ำเขาน้อยซึ่งเป็นวัดจีนตั้งอยู่ด้านหลัง เป็นที่รู้จักสำหรับทิวทัศน์ที่ล้อมรอบด้วยทุ่งนาและประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ หลวงพ่อชินประทานพร ภายในวัดประกอบด้วยอาคารและเจดีย์ สถาปัตยกรรมไทย, จีน, ญี่ปุ่น และผสมผสาน เดิมเป็นสำนักสงฆ์ขนาดเล็กในบริเวณถ้ำเสือด้านล่างริมเนินเขา ต่อมาชาวบ้าน ร่วมกันสร้างและบูรณะ จนกลายเป็นวัดที่ใหญ่โตและมีทัศนียภาพที่สวยงาม มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย
|
8.เขื่อนแม่กลอง (Mae Klong Dam) |
|
8.เขื่อนแม่กลอง (Mae Klong Dam) |
|
8.เขื่อนแม่กลอง (Mae Klong Dam) |
|
8.เขื่อนแม่กลอง (Mae Klong Dam) |
|
8.เขื่อนแม่กลอง (Mae Klong Dam) |
8.เขื่อนแม่กลอง (Mae Klong Dam)
เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวแวะพักชมวิวที่สวยงามอีกแห่งของจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าม่วง เป็นเขื่อนทดน้ำ สร้างปิดกั้นแม่น้ำแม่กลอง โดยตัวเขื่อนเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กยาว 117.50 เมตร ประกอบด้วยช่องระบายน้ำ 12.50 เมตร จำนวน 8 ช่อง มีประตูแพสัญจร ขนาดกว้าง 12.5 เมตร ด้านขวาจำนวน 1 ช่อง เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2507 โดยพระราชทานนามเขื่อนแห่งนี้ว่า เขื่อนวชิราลงกรณ์ เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2508 สามารถทดน้ำและส่งน้ำให้พื้นที่เกษตรกรรม การอุปโภค บริโภคในเขตจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียง 2,709,685 ไร่ และส่งให้กับการประปานครหลวงด้วย มีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงคือ พระตำหนักที่ประทับสมเด็จย่า วัดถ้ำเสือ วัดเขาน้อย วัดบ้านถ้ำ และวัดถ้ำแก้ว
|
9.วัดบ้านถ้ำ (Wat Baan Tham) |
|
9.วัดบ้านถ้ำ (Wat Baan Tham) |
|
9.วัดบ้านถ้ำ (Wat Baan Tham) |
|
9.วัดบ้านถ้ำ (Wat Baan Tham) |
|
9.วัดบ้านถ้ำ (Wat Baan Tham) |
|
9.วัดบ้านถ้ำ (Wat Baan Tham) |
|
9.วัดบ้านถ้ำ (Wat Baan Tham) |
9.วัดบ้านถ้ำ (Wat Baan Tham)
เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ตัววัดอยู่ห่างจากวัดถ้ำเสือไปทางตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 5 กิโลเมตร จุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยือนวัดแห่งนี้คือ ทางขึ้นถ้ำเป็นบันไดลึกเข้าไปในปากมังกรตัวใหญ่ ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยลักษณะคล้ายผู้หญิง เชื่อว่าคือ นางบัวคลี่ จากเรื่องขุนช้างขุนแผน ภายในบริเวณวัดมีไฮไลต์น่าชมหลายอย่าง อาทิเช่น พระอุโบสถหลังเก่าที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิพร้อมด้วยพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตรที่ทำด้วยหินทรายลงรักปิดทองอันเป็นของเก่าที่มีมาแต่เดิม ส่วนภายในพระอุโบสถหลังใหม่เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง ที่ทำพิธีหล่อขึ้น ณ วัดชีปะขาวหาย จังหวัดพิษณุโลก นอกจากนี้ยังสามารถชมถ้ำที่สวยงามต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น ถ้ำคูหามังกรสวรรค์ ถ้ำนางบัวคลี่ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อใหญ่ชินราช" พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือ รวมทั้งถ้ำอื่น ๆ เช่น ถ้ำม่านวิจิตร และด้านบนสุดของภูเขาประดิษฐานพระเจดีย์ที่ต้องใช้ความศรัทธาที่ต้องเดินขึ้นไปเพื่อไปเคารพสักการะ อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดอีกแห่ง
|
10.วัดถ้ำมังกรทอง (Wat Tham mungkorn thong) |
|
10.วัดถ้ำมังกรทอง (Wat Tham mungkorn thong) |
|
10.วัดถ้ำมังกรทอง (Wat Tham mungkorn thong) |
|
10.วัดถ้ำมังกรทอง (Wat Tham mungkorn thong) |
|
10.วัดถ้ำมังกรทอง (Wat Tham mungkorn thong) |
|
10.วัดถ้ำมังกรทอง (Wat Tham mungkorn thong) |
10.วัดถ้ำมังกรทอง (Wat Tham mungkorn thong)
สำหรับวัดถ้ำมังกรทอง จัดเป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งของเมืองกาญจนบุรี ความน่าสนใจของวัดแห่งนี้คือ ภายในถ้ำประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่อายุนานนับ 100 ปีไว้ให้เข้าไปสักการะ ซึ่งประวัติของวัดถ้ำมังกรทอง สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. 2477 ภายในวัดมีถ้ำเรียกกันว่าถ้ำมังกรทองเป็นถ้ำขนาดเล็ก ตั้งสูงจากพื้นดินประมาณ 100 เมตร ภายในถ้ำมีซอกหินสลับซับซ้อนสวยงาม และมีหลวงพ่อใหญ่พระพุทธรูปโบราณอายุกว่า 100 ปีให้ประชาชนสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล และทางวัดได้ทำบันไดก่ออิฐถือปูน 95 ขั้นขึ้นไปยังถ้ำ สองข้างบันไดเป็นรูปมังกรชูศีรษะ มีรูปสิงโตติดอยู่กับหินแท่งใหญ่ตรงปากถ้ำ โดยรอบมีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย
|
11.วัดถ้ำเขาปูน (Wat Tham Khao Pun) |
|
11.วัดถ้ำเขาปูน (Wat Tham Khao Pun) |
|
11.วัดถ้ำเขาปูน (Wat Tham Khao Pun) |
|
11.วัดถ้ำเขาปูน (Wat Tham Khao Pun) |
|
11.วัดถ้ำเขาปูน (Wat Tham Khao Pun) |
11.วัดถ้ำเขาปูน (Wat Tham Khao Pun)
เป็นวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแคว ที่ทหารญี่ปุ่นใช้เป็นศูนย์พยาบาล เรียกกว่าโรงพยาบาลเขาปูน และเนื่องจากด้านหลังวัดติดริมน้ำ เนื่องงจากว่าบริเวณนี้เป็นที่ตั้งดังกล่าวของวัด เคยเป็นค่ายเชลยศึกขนาดใหญ่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ประวัติความเป็นมาของวัดถ้ำเขาปูน เดิมเป็นที่พักของพระสงฆ์ที่ออกธุดงค์ มาแต่โบราณ เนื่องด้วยสถานที่แห่งนี้ มีถ้ำที่เหมาะกับการเจริญวิปัสนากรรมฐาน ลักษณะของถ้ำ เป็นถ้ำหินปูนขนาดปานกลาง มีทางเดินทะลุอีกด้านของภูเขา ตลอดทางเดินจะพบหินงอก หินย้อยที่งดงาม และภายในถ้ำ ยังประดิษฐาน พระพุทธรูปโบราณ และซากพระพุทธรูปหินทราย ที่มีอายุหลายร้อยปี และถ้ำแห่งนี้ยังเป็นถ้ำที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จมานมัสการพระพุทธไสยาสน์ ที่มีอายุหลายร้อยปี มีครั้งเสด็จมาประพาสต้น ที่น้ำตกไทรโยค โดยวัดถ้ำเขาปูนได้ก่อตั้งเป็นวัดเมื่อปี พ.ศ.2480
|
12.ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Rain Tree at Kanchanaburi) |
|
12.ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Rain Tree at Kanchanaburi) |
|
12.ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Rain Tree at Kanchanaburi) |
|
12.ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Rain Tree at Kanchanaburi) |
|
12.ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Rain Tree at Kanchanaburi) |
12.ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Rain Tree at Kanchanaburi)
สำหรับต้นจามจุรียักษ์ จัดเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวต้องห้ามพลาดที่เหล่าคนรักการถ่ายรูปภาพ ต้องแวะไปเช็กอินสักครั้ง เนื่องจากต้นจามจุรีดังกล่าว เป็นต้นจามจุรีที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ที่ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 บ้านเขาตก หมู่บ้านกสิกรรม ตำบลเกาะสำโรง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยลักษณะขนาดของลำต้นโดยรอบประมาณ 10 คนโอบ มีเส้นรอบวงประมาณ 15 เมตร ความสูงประมาณ 20 เมตร ถือเป็นอีกหนึ่งต้นจามจุรีที่มีขนาดใหญ่และหาชมได้ยากในปัจจุบัน และด้วยลักษณะพิเศษของต้นไม้ใหญ่ยักษ์นี้เอง ทำให้กลายเป็นจุดดึงดูดนักเดินทางมาเที่ยวชมถ่ายรูปภาพกันอย่างไม่ขาดสาย
|
13.จุดชมวิวทัศนียภาพวิวแม่น้ำที่วัดถ้ำเขาปูน (Tham Khao Pun View Point) |
|
13.จุดชมวิวทัศนียภาพวิวแม่น้ำที่วัดถ้ำเขาปูน (Tham Khao Pun View Point) |
|
13.จุดชมวิวทัศนียภาพวิวแม่น้ำที่วัดถ้ำเขาปูน (Tham Khao Pun View Point) |
|
13.จุดชมวิวทัศนียภาพวิวแม่น้ำที่วัดถ้ำเขาปูน (Tham Khao Pun View Point) |
|
13.จุดชมวิวทัศนียภาพวิวแม่น้ำที่วัดถ้ำเขาปูน (Tham Khao Pun View Point) |
|
13.จุดชมวิวทัศนียภาพวิวแม่น้ำที่วัดถ้ำเขาปูน (Tham Khao Pun View Point) |
13.จุดชมวิวทัศนียภาพวิวแม่น้ำที่วัดถ้ำเขาปูน (Tham Khao Pun View Point)
อีกหนึ่งจุดเช็กอินถ่ายรูปทัศนียภาพแม่น้ำที่สวยงามอีกแห่งของเมืองกาญจนบุรี ตั้งอยู่บริเวณวัดถ้ำเขาปูน และจุดชมวิวดังกล่าว สามารถมองเห็นเส้นทางรถไฟสายมรณะที่ตัดผ่านเขาช่องไก่อีกด้วย โดยบรรยากาศโดยรอบ มีร้านคาเฟ่สไตล์น่ารักเก๋ๆให้นั่งพักจิบชา กาแฟ ชมวิวรับลมเย็นยามสนธยาได้อย่างสวยงาม
และสำหรับข้อมูลแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในตัวเมืองกาญจน์ ซึ่งได้แนะนำมาไว้ในบทความนี้ น่าจะมีประโยชน์ต่อคุณผู้อ่านและนักเดินทางทุกๆท่าน ที่กำลังปักหมุดวางแผนไปเที่ยวกาญจนบุรีในวันหยุดยาวปีนี้อยู่ไม่มากก็น้อย หากข้อมูลดังกล่าวที่ได้นำเสนอไป มีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขอภัยด้วยนะคะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆคน ที่เสียสละเวลาอันมีค่า เข้ามาลั๊ลลาคลิ๊กเลื่อนสไลด์เปิดอ่านดูกัน หวังเป็นอย่างยิ่งอีกครั้งว่า จะได้พบกันอีกครั้ง ในบทความถัดไป................... จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
---------------------------------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ฝ่าพระบาทที่เท้าของพระนอนวัดโพธิ์ รูปสัญลักษณ์ที่หลายคนสงสัย มีความหมายว่าอะไร นำมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>
0 ความคิดเห็น