สวัสดีเพื่อนๆผู้รักการทัศนาจร ออนซอนหัวใจทุกๆคนค่ะ วันหยุดเดือนนี้ หากเพื่อนๆเหล่าผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภาคนใหน ที่กำลังวางแผนจะจัดโปรแกรมพาคู่รักและครอบครัว ไปเที่ยวทัวร์จังหวัดลำปาง อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวมีมนต์เสน่ห์น่าหลงใหล ไปใช้ชีวิตแบบช้าๆ แบบเรียบง่าย สบายๆ เมืองที่ไม่ได้หมุนไปตามกาลเวลา เพราะยังมีรถม้า สัญลักษณ์อันโดดเด่นแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ยังมีรถม้าให้ได้ไปนั่งย้อนกาลเวลาอยู่ด้วย อีกทั้งยังเป็นเมืองเก่าแก่ มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน และยังมีโบราณสถาน วัดวาอารามต่าง ให้ไปกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย นอกจากนี้แล้วยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรรมชาติที่สวยงาม อร่ามจับใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนอีกหลายแห่งด้วย
สำหรับนักทัศนาจรคนใหน ที่กำลังปักหมุดจะหยุดงาน มาเริงสำราญเที่ยวจังหวัดลำปาง แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ใหนดี ในเมืองลำปาง มีที่เที่ยวอะไรบ้าง เพื่อไม่ให้เว็ปไซต์ร้างไป วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า เลยขอมาแนะนำข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองรถม้าลำปาง หรือว่าแหล่งท่องเที่ยวสวยๆในจังหวัดลำปาง ที่ต้องไปเช็กอินถ่ายรูปภาพ มาให้ได้เป็นแนวทางให้กับเพื่อนๆที่ยังไม่เคยมาเที่ยวลำปาง ได้แวะไปเที่ยวกัน ส่วนจะมีที่ใหนบ้างนั้น ตามไปเที่ยวกันเลยจ้า
1.วัดพระธาตุลำปางหลวง (Wat Phra That Lampang Luang) วัดคู่บ้านคู่เมืองสุดเก่าแก่ ที่ใครก็ต้องมาแลชมกันสักครา ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงลำปางเลยทีเดียว
จัดเป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง และเป็นสถานที่สำคัญที่ใครแวะมาเที่ยวลำปาง ยังไงก็ต้องแวะมายลตระการและไหว้พระธาตุนี้สักครั้ง โดยถูกยกให้เป็นพระธาตุประจำคนที่เกิดวันพุธ อยู่ห่างจากตัวเมืองลำปางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร วัดตั้งอยู่บนเนินสูง มีการจัดวางผังและส่วนประกอบของวัดสมบูรณ์แบบที่สุด มีสิ่งก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ บริเวณพุทธาวาสประกอบด้วย องค์พระธาตุลำปางหลวง เป็นประธาน มีบันไดนาคนำขึ้นไปสู่ซุ้มประตูโขง ถัดซุ้มประตูโขงขึ้นไปเป็น วิหารหลวง บริเวณทิศเหนือขององค์พระธาตุมีวิหารบริวารตั้งอยู่คือ วิหารน้ำแต้ม และ วิหารต้นแก้ว ด้านตะวันตกขององค์พระธาตุประกอบด้วย วิหารละโว้ และ หอพระพุทธบาท ด้านใต้มี วิหารพระพุทธ และอุโบสถ ทั้งหมดนี้จะแวดล้อมด้วยแนวกำแพงแก้วทั้งสี่ด้าน สิ่งพิเศษคือสามารถเห็นภาพแสงหักเหที่ปรากฏเป็นเงาพระธาตุและพระวิหารในด้านมุมกลับภายในหอพระพุทธ
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
|
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน |
2.ไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ วัดดอยพระฌาน (Daibutsu Buddha Image at Wat Doi Phra Chan ) ที่เที่ยวเปิดใหม่ยอดนิยม ที่ใครก็ต้องมาชมกันสักครา ให้ชื่นฉ่ำอุราถึงทรวงใน
จัดเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ยอดนิยมมาแรงที่สุดอีกแห่ง เนื่องจากภายในวัดประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ สไตล์ญี่ปุ่น พระใหญ่ไดบุตสึ เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอันเงียบสงบภูเขาที่เรียกว่าดอยพระฌาน ตำบลป่าตัน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง และถูกจัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวถัดจากการไหว้พระธาตุลำปางหลวงอีกด้วย โดยมี่ระยะทางห่างจากตัวเมืองลำปาง ประมาณ 23 กิโลเมตร โดยทัศนียภาพบนวัด สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์และทัศนียภาพที่สวยงามของอำเภอแม่ทะ และเห็นทิวเขาต้นไม้ที่เขียวขจีได้รอบทิศ ในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวในช่วงเวลาเช้าสามารถเห็นทะเลหมอกอันงดงามได้อีกด้วย ประมาณเดือนพฤษภาคม ของทุกปี เมื่อถึงวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 7 พุทธศาสนิกชนชาวตำบลป่าตันและตำบลใกล้เคียงจะพากันเดินขึ้นดอยไปสักการะพระธาตุบนดอยพระฌาน
|
3. วัดปงสนุก ( Wat Pong Sanuk ) ธรรมสถานหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่ได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO
|
|
3. วัดปงสนุก ( Wat Pong Sanuk ) ธรรมสถานหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่ได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO
|
|
3. วัดปงสนุก ( Wat Pong Sanuk ) ธรรมสถานหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่ได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO
|
|
3. วัดปงสนุก ( Wat Pong Sanuk ) ธรรมสถานหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่ได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO
|
|
3. วัดปงสนุก ( Wat Pong Sanuk ) ธรรมสถานหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่ได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO
|
|
3. วัดปงสนุก ( Wat Pong Sanuk ) ธรรมสถานหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่ได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO
|
|
3. วัดปงสนุก ( Wat Pong Sanuk ) ธรรมสถานหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่ได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO
|
3. วัดปงสนุก ( Wat Pong Sanuk ) ธรรมสถานหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่ได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO
ถือเป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในเขตตัวเมืองลำปาง ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง อีกทั้งยังเป็น ธรรมสถานหนึ่งเดียวของเมืองไทย ที่ได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO ในปี 2008 เผยเส้นทางการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม-สถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในประเทศ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยที่เจ้าอนันตยศ ราชบุตรของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญไชย (ลำพูน) เสด็จมาสร้างเขลางค์นคร (ลำปาง) เมื่อ พ.ศ.1223 หรือ 1,328 ปีก่อน โดยมีชื่อเปลี่ยนไปตามยุคสมัย เช่น วัดศรีจอมไคล วัดศรีเชียงภูมิ
และเชื่อกันว่าได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดปงสนุก ตามคำเรียกของชาวเชียงแสน ที่ถูกกวาดต้อนมาและอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ซึ่งชื่อปงสนุกก็มาจากชื่อถิ่นเดิมในเมืองเชียงแสนนั้นเอง ปัจจุบันวัดปงสนุกได้แบ่งเป็นสองอาณาเขตคือ วัดปงสนุกเหนือ และวัดปงสนุกใต้ ทั้งนี้วัดปงสนุกยังเป็นที่ฝังเสาอินทขิล หรือเสาหลักเมืองลำปาง หลังแรกในปี พ.ศ. 2400 ก่อนจะถูกอัญเชิงไปไว้ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอีกด้วย
|
4.วัดพระแก้วดอนเต้า (Wat Phra Kaew Don Tao) |
|
4.วัดพระแก้วดอนเต้า (Wat Phra Kaew Don Tao) |
|
4.วัดพระแก้วดอนเต้า (Wat Phra Kaew Don Tao) |
|
4.วัดพระแก้วดอนเต้า (Wat Phra Kaew Don Tao) |
|
4.วัดพระแก้วดอนเต้า (Wat Phra Kaew Don Tao) |
|
4.วัดพระแก้วดอนเต้า (Wat Phra Kaew Don Tao) |
4.วัดพระแก้วดอนเต้า (Wat Phra Kaew Don Tao)
จัดเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอยู่คู่เมืองลำปางมาอย่างยาวนาน มีความสวยงามอีกทั้งมีอายุนานนับพันปี ตั้งอยู่ที่ ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง อยู่ไม่ไกลจากวัดปงสนุก เป็นที่ตั้งของพระบรมธาตุดอนเต้าซึ่งเป็นพระเจดีย์องค์ใหญ่ บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้ามณฑปศิลปะพม่า ลักษณะงดงาม ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่และวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ซึ่งมีอายุเก่าแก่พอๆกับการสร้างวัดนี้ นอกจากนี้ยังมีวิหารหลวงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติล้านนาและวิหารพระเจ้าทองทิพย์
|
5.กำแพงประตูม้าเมืองลำปาง (Pratu Ma City Gate of old town Lamphang) |
|
5.กำแพงประตูม้าเมืองลำปาง (Pratu Ma City Gate of old town Lamphang) |
|
5.กำแพงประตูม้าเมืองลำปาง (Pratu Ma City Gate of old town Lamphang) |
|
5.กำแพงประตูม้าเมืองลำปาง (Pratu Ma City Gate of old town Lamphang) |
|
5.กำแพงประตูม้าเมืองลำปาง (Pratu Ma City Gate of old town Lamphang) |
5.กำแพงประตูม้าเมืองลำปาง (Pratu Ma City Gate of old town Lamphang)
เป็นหนึ่งในประตูเมืองที่เก่าแก่ บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองเก่าลำปาง หรือเมืองเขลางนครได้อดีตได้เป็นอย่างดี โดยมีชื่อว่า กำแพงประตูม้าเมืองเขลางค์นคร จากข้อมูลตามตำนานกล่าวว่า สร้างขึ้นใน ปี พ.ศ. 1223 โดยมีประตูที่สำคัญ 7 ประตู และเมื่อมีการขยายเมืองขึ้นใหม่ ถัดจากเมืองเขลางค์เดิมลงไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ได้สร้างประตูเมืองเพิ่มอีก 3 แห่ง คือประตูเชียงใหม่ ประตูนาสร้อย และประตูปลายนา โดยเมืองเขลางค์นครสมัยที่สองนี้ มีพื้นที่ประมาณ 80 ไร่
|
6.วัดพระเจดีย์ซาวหลัง (Wat Chedi Sao) |
|
6.วัดพระเจดีย์ซาวหลัง (Wat Chedi Sao) |
|
6.วัดพระเจดีย์ซาวหลัง (Wat Chedi Sao) |
|
6.วัดพระเจดีย์ซาวหลัง (Wat Chedi Sao) |
|
6.วัดพระเจดีย์ซาวหลัง (Wat Chedi Sao) |
|
6.วัดพระเจดีย์ซาวหลัง (Wat Chedi Sao) |
|
6.วัดพระเจดีย์ซาวหลัง (Wat Chedi Sao) |
|
6.วัดพระเจดีย์ซาวหลัง (Wat Chedi Sao) |
6.วัดพระเจดีย์ซาวหลัง (Wat Chedi Sao)
วัดนี้เป็นปูชนียสถานที่สำคัญของจังหวัดลำปางสร้างแต่โบราณ ทรงคุณค่าทั้งทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุ โดยตัววัดตั้งอยู่ที่ตำบลต้นธงชัย ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือ 5 กิโลเมตรตามถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม เป็นวัดใหญ่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ซึ่งชื่อ "ซาว" แปลว่า 'ยี่สิบ' และ "หลัง" แปลว่า 'องค์' วัดพระเจดีย์ซาวหลัง แปลว่า วัดที่มีเจดีย์ 20 องค์นั้นเอง
จากหลักฐานการขุดพบพระเครื่องสมัยหริภุญชัยที่องค์พระเจดีย์ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าวัดนี้สร้างมานานกว่าพันปีสิ่งที่น่าชมภายในวัดคือ องค์พระธาตุเจดีย์ซาว ที่มีศิลปะล้านนาผสมศิลปะพม่า ข้างหมู่พระเจดีย์มีวิหารหลังเล็ก ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดปางสมาธิ ศิลปะเชียงแสน ชาวบ้านเรียกว่า "พระเจ้าทันใจ" มีพระอุโบสถหลังใหญ่ซึ่งประดิษฐานพระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีพุทธลักษณะงดงาม บานประตูทั้งสามเป็นของโบราณ เขียนลวดลายรดน้ำละเอียดสวยงาม
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
|
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang) |
7.วัดเฉลิมพระเกียติ หรือวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง (Wat Phra Phutthabat Phu Phadeang Lamphang)
ถูกจัดให้เป็นหนึ่งวัดที่เที่ยว ที่มีความเป็น Unseen น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง เนื่องจากภายในวัดที่มีเจดีย์เล็กสีขาว สร้างอยู่บนยอดของภูเขาสูงเสียดฟ้า รายล้อมไปด้วยเทือกเขาสูงใหญ่ ตัวศาลาของวัดและเจดีย์มีความสูงถึง 815 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำเลที่ตั้งของวัดตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 7 บ้านทุ่งทอง อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง โดยสถานที่ภายในวัด ยังพระพุทธบาทของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้จารึกไว้บนแผ่นหิน ขนาดใหญ่ และความโดดเด่นของเจดีย์สีขาวบนยอดเขานั้น มีมากกว่า 10 องค์ด้วยกัน ใช้เวลาในการก่อสร้างขึ้นด้วยความศรัทธานานนับ 10 ปี จนกลายเป็น Unseen เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นของจังหวัดลำปาง อีกทั้งด้านบนยังเป็นจุดชมวิวทัศนียภาพที่สามารถมองเห็นวิวของอำเภอแจ้ห่ม และวิวอำเภอเมืองปานได้อย่างสวยงามอีกแห่งด้วย
|
8.บ่อน้ำพุร้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน (Chae Son Hot Springs, Chaeson National Park ) |
|
8.บ่อน้ำพุร้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน (Chae Son Hot Springs, Chaeson National Park ) |
|
8.บ่อน้ำพุร้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน (Chae Son Hot Springs, ChaeSon National Park ) |
|
8.บ่อน้ำพุร้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน (Chae Son Hot Springs, ChaeSon National Park ) |
|
8.บ่อน้ำพุร้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน (Chae Son Hot Springs, ChaeSon National Park ) |
|
8.บ่อน้ำพุร้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน (Chae Son Hot Springs, ChaeSon National Park ) |
8.บ่อน้ำพุร้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน (Chaeson Hot Springs, Chaeson National Park )
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมตลอดกาล โดยทำเลของอุทยานแห่งชาติ ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ตำบลวังเงินถนนลำปาง-เดินชัย บ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อน เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีสภาพการเกิดทางธรณีวิทยา มีกลิ่นกำมะถันอ่อน ๆ จำนวน 9 บ่อ ตั้งอยู่รวมกันในบริเวณ พื้นที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 3 ไร่ ภายในพื้นที่มีโขดหินน้อยใหญ่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป และมีไอน้ำลอยกรุ่นขึ้นมาจากบ่อปกคลุมรอบบริเวณน้ำพุร้อน มีอุณหภูมิเฉลี่ย 73 องศาเซลเซียส เป็นที่นิยมนำไข่ไก่และ ไข่นกกระทามา แช่สำหรับไข่ไก่แช่นานประมาณ 17 นาที ไข่แดงจะแข็งมี รสชาติมันอร่อย ส่วนไข่ขาวจะเหลวคล้ายไข่เต่า นอกจากนี้ยังมีบริการแช่อาบน้ำพุร้อนและกิจกรรมนวดคลายเส้นให้บริการแก่นักท่องเที่ยวด้วย
|
9. น้ำตกแจ้ซ้อน (Chae Son waterfall ) |
|
9. น้ำตกแจ้ซ้อน (Chae Son waterfall ) |
|
9. น้ำตกแจ้ซ้อน (Chae Son waterfall ) |
|
9. น้ำตกแจ้ซ้อน (Chae Son waterfall ) |
|
9. น้ำตกแจ้ซ้อน (Chae Son waterfall ) |
|
9. น้ำตกแจ้ซ้อน (Chae Son waterfall ) |
|
9. น้ำตกแจ้ซ้อน (Chae Son waterfall ) |
9. น้ำตกแจ้ซ้อน (Chae Son waterfall )
เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่ง โดยตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน และอยู่ไม่ไกลจากบ่อน้ำพุร้อนอีกด้วย โดยมีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ถือว่าเป็นน้ำตกที่มีความอุดมสมบูรณ์ และมีน้ำไหลตลอดทั้งปี และน้ำจะมากสุดในช่วงหน้าผน โดยต้นกำเนิดของสายน้ำ เกิดจากลำน้ำแม่มอนที่ไหลผ่านภูมิประเทศที่มี ความสูงต่างระดับกัน ตกลงมาเป็นชั้นๆ ในแต่ละชั้นจะมีแอ่งน้ำรองรับและมีความสวย งามแตกต่างกันออกไป มีเส้นทางรถยนต์ และทางเดินเท้าเข้าถึง ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรจากที่ทำการอุทยานฯ มีทั้งหมด 6 ชั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมความงามของน้ำตกแต่ละชั้น พร้อมสัมผัสความงามของป่าไม้อันเขียวชะอุ่ม และอากาศที่เย็นสบายอีกด้วย
|
10.พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง หรือ มิวเซียมลำปาง (Lam Pang Museum) |
|
10.พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง หรือ มิวเซียมลำปาง (Lam Pang Museum) |
|
10.พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง หรือ มิวเซียมลำปาง (Lam Pang Museum) |
|
10.พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง หรือ มิวเซียมลำปาง (Lam Pang Museum) |
|
10.พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง หรือ มิวเซียมลำปาง (Lam Pang Museum) |
|
10.พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง หรือ มิวเซียมลำปาง (Lam Pang Museum) |
|
10.พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง หรือ มิวเซียมลำปาง (Lam Pang Museum) |
10.พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เมืองลำปาง หรือ มิวเซียมลำปาง (Lam Pang Museum)
จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ ศาลากลางจังหวัดลำปาง(หลังเก่า) ถนนวชิราวุธดำเนิน ตำบลพระบาท อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง โดยเป็นประเภทพิพิธภัณฑ์เมืองจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองและมีห้องจัดแสดงนิทรรศการชุด “คน- เมือง- ลำปาง” โดยนำเสนอผ่านหัวข้อว่าด้วยเรื่อง “คน” ที่มีบทบาทสำคัญในทุกเรื่องราว “เมือง” ที่จะพาไปรู้จักกับนครลำปาง และ “ลำปาง” ที่จะสำรวจและรวบรวมความเหมือนและแตกต่างในทุกด้าน โดยแบ่งห้องนิทรรศการเป็น 16 ห้อง ซึ่งนักท่องเที่ยวห้ามพลาด เปิดให้เข้า อังคาร-อาทิตย์ 9.00-17.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
|
11.ถนนคนเดินกาดกองต้า (Kad kong ta walking street market) |
|
11.ถนนคนเดินกาดกองต้า (Kad kong ta walking street market) |
|
11.ถนนคนเดินกาดกองต้า (Kad kong ta walking street market) |
|
11.ถนนคนเดินกาดกองต้า (Kad kong ta walking street market) |
|
11.ถนนคนเดินกาดกองต้า (Kad kong ta walking street market) |
|
11.ถนนคนเดินกาดกองต้า (Kad kong ta walking street market) |
|
11.ถนนคนเดินกาดกองต้า (Kad kong ta walking street market) |
11.ถนนคนเดินกาดกองต้า (Kad kong ta walking street market)
เป็นตลาดถนนคนเดินในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากยังคงมนต์กลิ่นอายของอาคารสถาปัตยกรรมบ้านเรือนเก่าแก่ให้ได้ชม และมีสินค้าของที่ระลึก รวมทั้งอาหารการกินให้ได้ลิ้มลองทานกันมากมาย นักท่องเที่ยวที่จัดโปรแกรมทัวร์ลำปางวันหยุดสุดสัปดาห์ก็คงไม่พลาดที่จะต้อง แวะมาชมมนต์เสน่ห์สถาปัตยกรรมเก่าแก่ทีผสมผสานระหว่างยุโรป จีน พม่า ล้านนา ไทยภาคกลาง และของกินพื้นเมืองจังหวัดลำปางกันอย่างเอร็ดอร่อยอีกด้วย
|
12.วัดศรีรองเมือง (Wat Sri Rong Muang Lampang) |
|
12.วัดศรีรองเมือง (Wat Sri Rong Muang Lampang) |
|
12.วัดศรีรองเมือง (Wat Sri Rong Muang Lampang) |
|
12.วัดศรีรองเมือง (Wat Sri Rong Muang Lampang) |
|
12.วัดศรีรองเมือง (Wat Sri Rong Muang Lampang) |
|
12.วัดศรีรองเมือง (Wat Sri Rong Muang Lampang) |
12.วัดศรีรองเมือง (Wat Sri Rong Muang Lampang)
เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ในตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นคือ มีวิหารมีลักษณะแบบวิหารไทใหญ่ในภาคเหนือ ซึ่งมีลวดลายสลักปิดทองและเครื่องไม้ประดับที่สวยงาม วิหารเป็นอาคาร 2 ชั้นมีหลังคาซ้อนกันแบบพม่า ชั้นล่างก่ออิฐถือปูน ส่วนชั้นบนทำด้วยไม้ ภายในวิหารประดิษฐานพระประธานที่ทำจากไม้ขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางของเรือนยอด บนวิหารที่เป็นเรือนไม้นั้นมีเสากลมใหญ่เรียงรายกันหลายต้น แต่ละต้นประดับประดาด้วยลวดลายจำหลักไม้และกระจกสีแวววับสวยสดงดงาม
โดยประวัติความมาของวัดศรีรองเมือง สร้างโดยพ่อเฒ่าจองตะก่าอินต๊ะ คหบดีชาวไทใหญ่ ที่เข้ามาทำไม้ในเมืองลำปาง ของบริษัท บอมเมย์เบอร์ม่า สร้างวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2447 ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เหตุที่มีอาชีพตัดไม้ โค่นต้นไม้ในป่า จึงได้สร้างวัดศรีรองเมืองนี้ได้เพื่อเป็นที่พึ่งทางจิตใจ ขอขมาต่อธรรมชาตินั้นเอง
|
13.วัดจองคา หรือ วัดไชยมงคล ลำปาง (Wat Chai Mongkon) |
|
13.วัดจองคา หรือ วัดไชยมงคล ลำปาง (Wat Chai Mongkon) |
|
13.วัดจองคา หรือ วัดไชยมงคล ลำปาง (Wat Chai Mongkon) |
|
13.วัดจองคา หรือ วัดไชยมงคล ลำปาง (Wat Chai Mongkon) |
|
13.วัดจองคา หรือ วัดไชยมงคล ลำปาง (Wat Chai Mongkon) |
|
13.วัดจองคา หรือ วัดไชยมงคล ลำปาง (Wat Chai Mongkon) |
|
13.วัดจองคา หรือ วัดไชยมงคล ลำปาง (Wat Chai Mongkon) |
13.วัดจองคา วัดไชยมงคล ลำปาง (Wat Chai Mongkon)
่สำหรับวัดไชยมงคล หรือวัดจองคา เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่อยู่คู่เมืองลำปาง มาอย่างยาวนาน มีความโดดเด่นอยู่ที่วิหารสีขาวที่มีหลังคาเครื่องไม้แบบพม่า หน้าบันประดับกระจกเป็นรูปเทวดา เสาประดับด้วยลวดโลหะสีทองขดเป็นลายเครือเถาประดับกระจกสีงดงามมาก ส่วนม่านและระเบียงโดยรอบนั้นทำด้วยแผ่นไม้ฉลุอย่างประณีต ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดที่มีพุทธลักษณะงดงามซึ่งสร้างขึ้นที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
|
14.พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนดี (Dhanabadee Ceramic Museum) |
|
14.พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนดี (Dhanabadee Ceramic Museum) |
|
14.พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนดี (Dhanabadee Ceramic Museum) |
|
14.พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนดี (Dhanabadee Ceramic Museum) |
|
14.พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนดี (Dhanabadee Ceramic Museum) |
|
14.พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนดี (Dhanabadee Ceramic Museum) |
|
14.พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนดี (Dhanabadee Ceramic Museum) |
14.พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนดี (Dhanabadee Ceramic Museum)
หากใครที่ต้องการเรียนรู้เรียนพิพิธภัณฑ์ความเป็นมาของชามตราไก่ ต้องไม่พลาดมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบุรี ตั้งอยู่ ถนนวัดจองคำ พระบาท ซอย 1 ต.พระบาท อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ภายในพิพิธภัณฑ์แสดงถึงประวัติของบริษัทในเครือธนบดี ต้นกำเนิดชามไก่ ต้นกำเนิดเซรามิคของเมืองลำปาง และสาธิตการผลิตชามไก่แบบโบราณรวมถึงสามารถชมกระบวนการผลิตเซรามิคสมัยใหม่ โดยมีเจ้าหน้าที่หรือวิทยากร ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของชาวตราไก่ได้อย่างน่าสนใจ
|
15.ถนนคนเดินสายวัฒนธรรม ย่านเมืองเก่า (เปิดทุกวันศุกร์) (Lampang Cultural Street Market) |
|
15.ถนนคนเดินสายวัฒนธรรม ย่านเมืองเก่า (เปิดทุกวันศุกร์) (Lampang Cultural Street Market) |
|
15.ถนนคนเดินสายวัฒนธรรม ย่านเมืองเก่า (เปิดทุกวันศุกร์) (Lampang Cultural Street Market) |
|
15.ถนนคนเดินสายวัฒนธรรม ย่านเมืองเก่า (เปิดทุกวันศุกร์) (Lampang Cultural Street Market) |
|
15.ถนนคนเดินสายวัฒนธรรม ย่านเมืองเก่า (เปิดทุกวันศุกร์) (Lampang Cultural Street Market) |
-----------------------------------------------------------------------------------
0 ความคิดเห็น