|
วางแผนไปเที่ยวจังหวัดเลยปีนี้ ไปเที่ยวที่ใหนดี มีที่เที่ยวเปิดใหม่น่าสนใจที่ใหนบ้าง วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมาอัพเดทแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดเลยปี2566 (2023) จุดชมวิวสวยๆ ต้องห้ามพลาดไปเช็คอินถ่ายรูปกัน ส่วนจะมีที่ใหนบ้างนั้น ตามไปกันจ้า |
ปักหมุดวันหยุดประจำปีนี้ สำหรับเพื่อนๆคนใหนที่วางแผนจะมาเที่ยวจังหวัดเลย อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวต้องห้ามพลาดในภาคอีสาน ทีมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่มากมายหลายแห่ง และยังเป็นแหล่งปลูกไม้ดอกไม่้ประดับที่สำคัญของประเทศอีกด้วย เนื่องจากมีสภาพภูมิประเทศ ที่เต็มไปด้วยภูเขาใหญ่น้อยๆมากมาย จนถูกขนานนามให้ไป เมืองแห่งทะเลภูเขา สุดหนาวในสยาม ดอกไม้งามฤดู อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน มีโบราณสถานเก่าแก่ วัดวามอารามสำคัญ และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามอยู่มากมายหลายแห่ง
และสำหรับเพื่อนๆสายเที่ยว ทัศนาจร ออนซอนหัวใจ คนใหน ที่จัดโปรแกรมพาครอบครัวและคนรักมาเที่ยวจังหวัดเลย แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ใหน เพราะในจังหวัดเลย มีที่เที่ยวเยอะมากๆ เรียกว่า ถ้าให้เที่ยว 1 วัน หรือ 2 วัน คงจะไม่หมด หากเพื่อนที่ยังไม่รู้ถ้ามาเที่ยวเลย ไม่รู้จะไปเที่ยวใหนบ้าง วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมาอัพเดทแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดเลย และที่เที่ยวเปิดใหม่ ที่ใครก็ต้องตามไปเช็คอินถ่ายรูปภาพสวยๆกัน ส่วนจะมีที่ใหนบ้างนั้น ตามไปกันเลยจ้า
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดเลย ที่เที่ยวในตัวเมื้องเลย ต้องห้ามพลาดไปเช็คอิน ถ่ายรูปวิวสวยๆ มีดังนี้
|
1.เที่ยวชมวิวสวยที่วนอุทยานภูบ่อบิด (Phu Bo Bit) |
|
1.เที่ยวชมวิวสวยที่วนอุทยานภูบ่อบิด (Phu Bo Bit) |
|
1.เที่ยวชมวิวสวยที่วนอุทยานภูบ่อบิด (Phu Bo Bit) |
|
1.เที่ยวชมวิวสวยที่วนอุทยานภูบ่อบิด (Phu Bo Bit) |
|
1.เที่ยวชมวิวสวยที่วนอุทยานภูบ่อบิด (Phu Bo Bit) |
|
1.เที่ยวชมวิวสวยที่วนอุทยานภูบ่อบิด (Phu Bo Bit) |
1.เที่ยวชมวิวสวยที่วนอุทยานภูบ่อบิด (Phu Bo Bit)
สำหรับภูบ่อบิด เป็นหนึ่งในที่เที่ยวในตัวเมืองเลย ที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่ง ภูบ่อบิด เป็นภูเขาที่มีความสูงประมาณ 500-600 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ห่างจากตัวเมืองเลยเพียงแค่ 3 กิโลเมตร ที่นี่ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติและจุดชมวิวทัศนยภาพที่สวยงามอีกแห่ง โดยด้านบนมีจุดชมวิวด้านทิศตะวันออกที่จะมองเห็นวิวเมือง และด้านทิศตะวันตก มองเห็นวิวภูเขา บรรยากาศดี ทิวทัศน์งดงาม
การจะเดินทางขึ้นมายอดภูบ่อบิด สามารถขึ้นได้ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางที่ 1 ใช้บริการรถอีแต๊ก จากนั้นเดินขึ้นบันไดเหล็กต่ออีก 180 เมตร และเส้นทางที่ 2 เดินเท้าขึ้นยอด ตั้งแต่ด้านล่างตีนดอย ไต่ระดับขึ้นเขา ตามเส้นทางบันไดเหล็กและเดินตามทางที่ป้ายเส้นทางไปยังด้านบน และที่บ่อบิดยังมีถ้ำพระ ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปให้สักการะ และยังมีถ้ำลอด ที่สามารถเดินลอดไปยังบนยอดเขาภูบ่อบิดได้ด้วย
|
2.เที่ยวไหว้พระที่วัดป่าห้วยลาด (Wat Pa Huay Lad) |
|
2.เที่ยวไหว้พระที่วัดป่าห้วยลาด (Wat Pa Huay Lad) |
|
2.เที่ยวไหว้พระที่วัดป่าห้วยลาด (Wat Pa Huay Lad) |
|
2.เที่ยวไหว้พระที่วัดป่าห้วยลาด (Wat Pa Huay Lad) |
|
2.เที่ยวไหว้พระที่วัดป่าห้วยลาด (Wat Pa Huay Lad) |
|
2.เที่ยวไหว้พระที่วัดป่าห้วยลาด (Wat Pa Huay Lad) |
2.เที่ยวไหว้พระที่วัดป่าห้วยลาด (Wat Pa Huay Lad)
จัดเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่ที่มีชื่อเสียงของอำเภอภูเรือ วัดป่าห้วยลาดก่อตั้งขึ้นโดยหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ชาวบ้านได้เกิดความเลื่อมใสในปฏิปทาของหลวงปู่ชอบ จึงงได้นิมนต์ท่านมาสร้างวัดแห่งนี้เมื่อ พ.ศ. 2483 และก็มีการพัฒนาวัดขึ้นมาตามลำดับ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2542 และยังเป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย โดยวัดป่าห้วยลาด ห่างจากตัวอำเภอภูเรือประมาณ 7 กิโลเมตร
ซึ่งจุดเด่นและไฮไลท์ของวัดแห่งนี้คือ มีประติมากรรมมากมายไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นพระตรีมูรติ พระอินทร์ พระพิฆเนศ พญานาค และองค์เทพต่าง ๆ อีกมากมาย ภายในวัดมีบ่อน้ำใหญ่อยู่ตรงกลาง ศาลาเฉลิมพระเกียรติ ที่ได้รับพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. และพระนามาภิไธยย่อ ส.ก. ขึ้นประดับที่หน้าบัน ภายในศาลาเฉลิมพระเกียรติ มีพระประธานองค์สีขาวขนาดใหญ่ สูง 19 เมตร มีนามว่า พระสัพพัญญูรู้แจ้งสามแดนโลกธาตุ ให้ได้กราบไหว้กันเพื่อความเป็นสิริมงคล
|
ขับรถขึ้นมา เส้นทางค่อนข้างลาดชันเดียวค่ะ แต่วิวทิวทัศน์คือสวยจริง อะไรจริงจ้า |
ระหว่างขับรถขึ้นมา เส้นทางค่อนข้างลาดชันเดียวค่ะ แต่วิวทิวทัศน์คือสวยจริง อะไรจริงจ้า ระหว่างทางก็จะขับผ่านสวนยาง และสวนไร่แก้วมังกรที่ปลูกกันมากในบริเวณนี้
|
ไร่แฟนฉันกาแฟห้อยขา Fanchan Camp Cafe ร้านคาเฟ่ชื่อดังในอำเภอภูเรือ ตั้งอยู่บนภูเขา อากาศเย็นสบาย |
ถึงแล้วจ้า ไร่แฟนฉันกาแฟห้อยขา Fanchan Camp Cafe ร้านคาเฟ่ชื่อดังในอำเภอภูเรือ พิกัด : https://goo.gl/maps/hxymwzGCifvd8GUE9
|
บรรยากาศร้านคาเฟ่ ไร่แฟนฉันกาแฟห้อยขา Fanchan Camp Cafe รับอากาศเย็นๆ ลมพัดดีงาม อร่ามจับใจเหลือเสียเต็มประดาทีเดียวเชียว |
ร้านคาเฟ่ ไร่แฟนฉัน ด้านในบริการเครื่องดื่ม ราคาไม่แพง เริ่มต้น 40 บาท
แวะไปนั่งชิลๆ ใช้ชีวิตแบบช้าๆ ไม่เร่งรีบ ด้วยการไปจิบเครื่องดื่มอุ่นๆ สั่งโก้ๆมาทาน พร้อมกันนี้ทางร้านยังเสริฟชากุหลาบมาให้อีกด้วย คือดีมากๆ
และสำหรับเพื่อนคนใหนๆที่แวะมาเที่ยวภูเรือ อยากได้บรรยากาศดีๆ ต้องไม่พลาด มานั่งจิบชา กาแฟ ชมวิวสวยๆที่ร้านคาเฟ่นี้ได้ค่ะ พิกัด : https://goo.gl/maps/hxymwzGCifvd8GUE9
|
3.แวะไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูเรือ (Phu Ruea National Park) อุทยานที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดของประเทศไทยโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะหนาวเย็นมาก |
สำหรับอุทยานแห่งชาติภูเรือ จัดเป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่่มีชื่อเสียงของจังหวัดเลย เป็นอุทยานที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดของประเทศโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะหนาวเย็นมาก จนกระทั่งน้ำค้างบนยอดหญ้าจะแข็งตัว ภาษาพื้นเมือง เรียกว่า "แม่คะนิ้ง" อุทยานแห่งชาติภูเรือ เป็นอุทยานแห่งชาติตั้งอยู่ที่ ตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ และอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย
อาณาเขตทางทิศเหนือติดกับประเทศลาว เป็นภูเขาสูงบนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างมีต้นสนจำนวนมาก ขึ้นสลับซับซ้อน มีลักษณะแปลกก็คือ มีส่วนหนึ่งเป็นผาชะโงกยื่นออกมาเหมือนหัวเรือสำเภาขนาดใหญ่ ลักษณะภูมิประเทศของอุทยานแห่งชาติภูเรือเมื่อมองโดยรอบ ในที่สูง จะเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนกันสวยงาม ประกอบด้วยเขาหินประเภทต่าง ทรายและหินแกรนิสสสับกัน สัตว์ป่าที่พบเห็นได้แก่ หมี เก้ง หมาใน ไก่ฟ้าพญาลอ เต่าปูลู อุทยานภูเรืออยู่บนยอดเขาสูงทำให้มี อากาศหนาวเย็นตลอดปี
โดยแหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูเรือ อาทิต ผาซำทอง, ผาโหลนน้อย,หินเต่า, มีเส้นทางเดินป่าระยะสั้นๆ มีจุดชมวิวตามเส้นทางเดินต่างๆ และยังมีจุดลานกางเต็นท์ให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะมาสัมผัสความหนาวเหน็บช่วงฤดูหนาวที่ภูเรือแห่งนี้ด้วย
|
4.วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง (Wat Somdet Phu Ruea) |
|
4.วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง (Wat Somdet Phu Ruea) |
|
4.วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง (Wat Somdet Phu Ruea) |
|
4.วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง (Wat Somdet Phu Ruea) | 4.วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง (Wat Somdet Phu Ruea) |
|
4.วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง (Wat Somdet Phu Ruea)
สำหรับวัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาในอำเภอภูเรือ จังหวัดเลย อยู่ไม่ไกลจากย่านตัวอำเภอและยังอยู่ใกล้เส้นทางไปอุทยานแห่งชาติภูเรืออีกด้วย โดยวัดแห่งนี้ มีเสน่ห์ที่โดดเด่นคือ ตัววิหารที่สร้างจากไม้สักทั้งหลัง ประกอบกับงานประติมากรรมแกะสลักไม้ที่มีความวิจิตรงดงามในทุกส่วนของวิหาร อีกทั้งยังมีพระนอน พระวิหาร และส่วนของนาคหัวบันได ที่แกะสลักจากหินหยกแม่น้ำโขงขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามมากเช่นกัน มีเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธบาท ให้พุทธศาสนิกชนได้เข้ามากราบไหว้พระขอพรกัน บรรยากาศในวัดสามารถมองเห็นวิวเมืองภูเรือได้อย่างสวยงาม เนื่องจากตั้งอยู่บนเนินเขา
|
5.วัดพระธาตุศรีสองรัก (Phrathat Sri Song Rak) |
|
5.วัดพระธาตุศรีสองรัก (Phrathat Sri Song Rak) |
|
5.วัดพระธาตุศรีสองรัก (Phrathat Sri Song Rak) |
|
5.วัดพระธาตุศรีสองรัก (Phrathat Sri Song Rak) | 5.วัดพระธาตุศรีสองรัก (Phrathat Sri Song Rak) |
|
5.วัดพระธาตุศรีสองรัก (Phrathat Sri Song Rak)
เป็นหนึ่งในวัดพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองด่านซ้าย มาอย่างยาวนาน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เมื่อปี พ.ศ. 2103 เสร็จในปี พ.ศ. 2106 โดยพระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยา (สมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ) กับกรุงศรีสัตนาคนหุต (ปัจจุบันคือเวียงจันทน์ ประเทศลาว)
โดยกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ทรงครองราชสมบัติ ตรงกับสมัยที่พม่าเรืองอำนาจ และมีการรุกรานดินแดนต่าง ๆ เพื่อขยายอำนาจ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิและพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจึงตกลงรวมกำลัง เพื่อต่อสู้กับพม่า จึงทรงกระทำสัตยาธิษฐานว่าจะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกัน และเพื่อเป็นที่ระลึกในการทำไมตรีต่อกัน จึงได้ร่วมกันสร้างพระธาตุศรีสองรักเพื่อเป็นสักขีพยาน ณ กึ่งกลางระหว่างแม่น้ำน่านและแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นรอยต่อของทั้งสองราชอาณาจักร
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปปางนาคปรก ศิลปะล้านช้างทรงเครื่องอยุธยา หัวนาคปรกสร้างด้วยศิลา องค์พระพุทธรูปสร้างด้วยทองสำริด มีหน้าตักกว้าง 21 นิ้ว สูง 30 นิ้ว และทุกวันขึ้น 15 เดือน 6 ชาวอำเภอด่านซ้าย หรือ"ลูกผึ้งลูกเทียน" จะร่วมกันจัดงานสมโภชพระธาตุขึ้น โดยจะนำต้นผึ้ง มาถวายพระธาตุถือเป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นประจำทุกปีอีกด้วย
|
6.พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย ด่านซ้าย (Phi Ta Khon Dan Sai Museum) |
|
6.พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย ด่านซ้าย (Phi Ta Khon Dan Sai Museum) |
|
6.พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย ด่านซ้าย (Phi Ta Khon Dan Sai Museum) |
|
6.พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย ด่านซ้าย (Phi Ta Khon Dan Sai Museum) |
|
6.พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย ด่านซ้าย (Phi Ta Khon Dan Sai Museum) |
|
6.พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย ด่านซ้าย (Phi Ta Khon Dan Sai Museum) |
|
6.พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย ด่านซ้าย (Phi Ta Khon Dan Sai Museum) |
6.พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย (Phi Ta Khon Dan Sai Museum)
จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจอีกแห่งในอำเภอด่านซ้าย นอกจากมาไห้วพระธาตุศรีสองรักแล้ว ต้องไม่พลาดมาเดินชมพิพิธภัณฑ์ผีตาโขนแห่งนี้ โดยพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในวัดโพนชัย ถนนแก้วอาสา ห่างจากอำเภอด่านซ้ายประมาณ 2 กิโลเมตร ตัวพิพิธภัณฑ์เป็นบ้านเรือนไม้
เป็นสถานที่เก็บ และจัดนิทรรศการเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ ที่สืบต่อกันมา รวมถึงผีตาโขนที่มีความเชื่อกันว่าเป็นการละเล่นพื้นบ้านที่สืบทอดมาแต่โบราณ ว่างานบุญผีตาโขนนี้เป็นส่วนหนึ่งของ "งานบุญหลวง" ที่ถือว่าเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของท้องถิ่นที่รวมเอางานบุญพระเวส (ฮีตเดือนสี่) และงานบุญบั้งไฟ (ฮีตเดือนหก) ให้เป็นงานบุญเดียวกัน และการละเล่นผีตาโขน วัสดุอุปกรณ์ทำหน้ากากผีตาโขน นอกจากนี้ยังจัดแสดงวัฒนธรรมประเพณีต่างๆในอำเภอด่านซ้ายให้ได้เรียนรู้อย่างน่าสนใจด้วย
|
8.แก่งคุดคู้ (kaeng khut khu, Chaiang Khan) |
|
8.แก่งคุดคู้ (kaeng khut khu, Chaiang Khan) |
|
8.แก่งคุดคู้ (kaeng khut khu, Chaiang Khan) |
|
8.แก่งคุดคู้ (kaeng khut khu, Chaiang Khan) |
|
8.แก่งคุดคู้ (kaeng khut khu, Chaiang Khan) |
8.แก่งคุดคู้ (kaeng khut khu, Chaiang Khan)
นอกจากมนต์เสน่ห์บ้านไม้ริมฝั่งแม่น้ำโขงแล้ว แก่งคุดคู้ ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยนและเป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอีกแห่งของอำเภอเชียงคานอีกด้วย โดยแก่งคุดคู้ เป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง ในช่วงโค้งของลำน้ำโขงพอดี ทำให้เกิดกระแสน้ำเชี่ยวไหลผ่านแก่ง ในหน้าน้ำ น้ำจะท่วมจนมองไม่เห็นแก่ง เวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้คือเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะเป็นหาดทรายกว้างและหิน ก้อนกลมเงาเรียงรายกันนับร้อยนับพันก้อน มีศาลาชมวิว บรรยากาศดี ลมเย็นสบาย มองออกมาจากศาลาไปทางลำน้ำ จะเห็นโขดหินคล้าย ๆ กับสันเขื่อน ที่วางขวางลำน้ำ ซึ่งหินดังกล่าวเป็นที่มาเรียกว่า แก่งคุดคู้ และบริเวณแก่งก็มีทางเดินชมวิว และมีร้านอาหาร ร้านขายของฝากให้เลือกซื้อเลือกหากันอย่างเพลิดเพลินใจ
|
9.วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน (wat phra phutthabat phu kwai ngoen) |
|
9.วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน (wat phra phutthabat phu kwai ngoen) |
|
กระต่ายที่วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน |
|
9.วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน (wat phra phutthabat phu kwai ngoen) |
|
9.วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน (wat phra phutthabat phu kwai ngoen) |
9.วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน (wat phra phutthabat phu kwai ngoen)
จัดเป็นหนึ่งโบราณสถานเก่าแก่อีกแห่งในอำเภอเชียงคาน มีประวัติความเป็นมายาวนาน จากหลักฐานที่บันทึกประวัติความเป็นมาของวัด ได้ระบุไว้ว่าวัดพระพุทธบาทภูควายเงินสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2300 เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขาสูงจากระดับทะเลปานกลาง 400 เมตรนอกจากนี้แล้วยังมีเรื่องเล่าต่อกันมาด้วยว่า ในอดีตวัดแห่งนี้เป็นวัดร้าง แต่มักจะมีพระธุดงค์เดินทางมาปักกลดบำเพ็ญเพียรอยู่เสมอ และในบริเวณวัดยังมีรอยพระพุทธบาทปรากฏอยู่ภายใต้ซุ้มอิฐใหญ่ ขนาดพอที่คนจะเข้าไปนั่งได้ 2 คนซึ่งในภาษาถิ่นจะเรียกสิ่งปลูกสร้างในลักษณะนี้ว่า"อุบมุง" ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นชื่อหมู่บ้านทางทิศตะวันออกของวัดคือบ้านอุมุง ที่หมู่บ้านอุมุงแห่งนี้ มีชาวนาผู้หนึ่งที่มักพาควายขึ้นมาหาหญ้ากินบนภูเขาบริเวณวัด และเมื่อมีพระธุดงค์ผ่านมาชาวนาผู้นี้ก็จะนำเอาอาหารมาถวายแก่พระธุดงค์เป็น ประจำ ซึ่งอานิสงส์แห่งการถวายทานนี้เอง ทำให้ชาวนาทำนาขายข้าวได้เงินมากทุกปี จนร่ำรวยถึงขั้นเศรษฐีและด้วยสำนึกในบุญคุณของควาย ที่ช่วยไถนาปลูกข้าวอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ชาวนาจึงเรียกควายตัวนี้ว่า"ควายเงิน" วัดแห่งนี้จึงตั้งชื่อว่า"วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน"
ในปัจจุบันการเดินทางมาวัดแห่งนี้ สามารถทำได้อย่างสะดวกโดยใช้เส้นทางสายเชียงคาน-ปากชมที่มีระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตรเมื่อถึงหมู่บ้านผาแบ่นแล้วให้ไปตามทางแยกเข้าบ้านอุมุงอีกประมาณ 3 กิโลเมตรจะถึงทางขึ้นเขาซึ่งเป็นทางลูกรังประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดพระพุทธบาทภูควายเงินแห่งนี้ โดยนักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้ขอพร และอีกหนึ่งไฮไลท์คือ ภายในวัดมีการเลี้ยงกระต่ายแบบปล่อยอิสระอยู่มากมาย กลายเป็นหนึ่งจุดเช็คอินของอำเภอเชียงคาน
|
10. แลนด์มาร์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว (สกายวอล์คเชียงคาน) |
|
10. แลนด์มาร์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว (สกายวอล์คเชียงคาน) |
|
10. แลนด์มาร์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว (สกายวอล์คเชียงคาน) |
|
10. แลนด์มาร์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว (สกายวอล์คเชียงคาน) |
|
10. แลนด์มาร์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว (สกายวอล์คเชียงคาน) |
|
10. แลนด์มาร์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว (สกายวอล์คเชียงคาน) |
|
10. แลนด์มาร์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว (สกายวอล์คเชียงคาน) |
10. แลนด์มาร์คพระใหญ่ภูคกงิ้ว (สกายวอล์คเชียงคาน)
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ในอำเภอเชียงคาน ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านท่าดีหมี ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย บริเวณดังกล่าวประดิษฐานพระใหญ่คกงิ้ว เป็นพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร หล่อด้วยไฟเบอร์ผสมเรซิ่นทอง สูงกว่า 19 เมตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของแลนด์มาร์คนี้ และที่ขาดไม่ได้คือ ทางเดินกระจก หรือสกายวอล์ค ทางเดินที่ทำด้วยกระจกใสชนิดพิเศษ พื้นกว้าง 2 เมตร ยาวกว่า 100 เมตร มีตะแกรงเหล็กรองรับ ซึ่งจากทางเดินสกายวอล์ค นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงและภูเขาจากฝั่งไทยและฝั่งประเทศลาวได้อย่างสวยงาม บรรยากาศดี ช่วงยามเย็น ลมพัดเย็นสบาย จึงจัดได้ว่าเป็น ที่เที่ยวต้องห้ามพลาดสำหรับทริปมาเที่ยวจังหวัดเลย
|
เดินเที่ยวตลาดถนนคนเดินเชียงคานต่อค่ะ ซึ่งถือเป็นไฮไลท์เด็ดของเมืองนี้เลย |
เที่ยวเสร็จค่ำพอดี ไปเดินเที่ยวตลาดถนนคนเดินเชียงคานต่อค่ะ ซึ่งถือเป็นไฮไลท์เด็ดของเมืองท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขงแห่งนี้เลยว่าได้ มีร้านค้าขายของกิน และของฝากให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือหลายนอย่างค่ะ
|
กุ้งเสียบ หอยเสียบ ปูเสียบ ไม้ละ 20 บาท |
มีอาหารแปลกถิ่นให้ลิ้มลองทานหลายอย่าง ราคาไม่แพงมาก ไม้ละ 20 บาทเท่านั้น
ส่วนมื้อนี้เรามากินมื้อเบาๆ ข้าวต้มปลาทานกับปาท่องโก๋ยัดใส้ อร่อยมากๆ พึ่งทานครั้งแรกก็ติดใจอยากทานอีก
|
11.ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย (Phu Pa Po (Fuji @ Loei) |
|
11.ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย (Phu Pa Po (Fuji @ Loei) |
|
11.ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย (Phu Pa Po (Fuji @ Loei) |
|
11.ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย (Phu Pa Po (Fuji @ Loei) |
|
11.ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย (Phu Pa Po (Fuji @ Loei) |
|
11.ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย (Phu Pa Po (Fuji @ Loei) |
|
11.ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย (Phu Pa Po (Fuji @ Loei) |
|
11.ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย (Phu Pa Po (Fuji @ Loei) |
11.ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลย (Phu Pa Po (Fuji @ Loei)
โดยภูป่าเปาะ ตั้งอยู่บ้านผาหวาย ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน ยอดภูป่าเปาะมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 910 เมตร โดยเป็นป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็น ภูหอ ซึ่งมีลักษณะเหมือนภูเขาไฟฟูจิของประเทศญี่ปุ่นได้อย่างชัดเจน และเป็นทั้งจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึงของเมืองไทยก็ว่าได้ และได้กลายเป็นจุดหมายปักหมุดของนักท่องเที่ยว ต้องมาถ่ายรูปกัน
การขึ้นไปยังจุดชมทิวทัศน์ภูป่าเปาะ ต้องจอดรถส่วนตัวไว้ ณ ลานจอดรถที่ทางหน่วยงานในพื้นที่จัดไว้ให้ จากนั้นใช้บริการรถอีแต๊กรับส่งของชุมชนท่องเที่ยวในพื้นที่ขึ้นไปยังภูป่าเปาะ รถอีแต๊กให้บริการทุกวัน 05.00-18.00 น. นั่งได้คันละ 6-9 คน ค่าบริการไปกลับคนละ 60 บาท ใช้เวลานั่งรถอีแต๊กขึ้นเขาประมาณ 20 นาที ถึงจุดชมทิวทัศน์จุดแรกบนภูป่าเปาะ
บนภูป่าเปาะมีจุดชมทิวทัศน์ 3 จุดด้วยกัน จุดที่ 1 และ 2 จะอยู่ระดับความสูงใกล้เคียงกันและรถอีแต๊กบริการส่งถึงจุดชมทิวทัศน์ไม่ต้องเดินต่อ ส่วนจุดที่ 3 เป็นจุดที่อยู่สูงสุดบนยอดภูป่าเปาะ เมื่อลงรถอีแต๊กจะต้องเดินเท้าขึ้นภูเขาตามเส้นทางเดินที่กำหนดไว้ ระยะทางเดินประมาณ 600 เมตร ถึงยอดภูป่าเปาะ เป็นจุดที่สามารถชมทัศนียภาพได้รอบทิศ 360 องศา สามารถมองเห็นภูกระดึง ภูหลวง ภูยอง ภูผาขวาง ภูค้อ-ภูกระแต สวนหินผางาม ภูผาม่าน และอ่างเก็บน้ำได้อย่างงดงาม
|
12.สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองไทย) Suan Hin Pha Ngam (Kunming of Thailand) |
|
12.สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองไทย) Suan Hin Pha Ngam (Kunming of Thailand)
|
|
12.สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองไทย) Suan Hin Pha Ngam (Kunming of Thailand)
|
|
12.สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองไทย) Suan Hin Pha Ngam (Kunming of Thailand)
|
|
12.สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองไทย) Suan Hin Pha Ngam (Kunming of Thailand)
|
|
12.สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองไทย) Suan Hin Pha Ngam (Kunming of Thailand)
|
|
12.สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองไทย) Suan Hin Pha Ngam (Kunming of Thailand)
|
12.สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองไทย) Suan Hin Pha Ngam (Kunming of Thailand)
ไม่ไกลจากภูป่าเปาะ ก็เป็นที่ตั้งของสวนหินผางาม อยู่ที่บ้านผางาม หมู่ 10 ตำบลปวนพุ จากกิ่งอำเภอหนองหินเข้าไปประมาณ 18 กิโลเมตร แนวผาหินปูนสูงใหญ่แลดูเป็นสง่า ทอดตัวเป็นแนวยาว โดดเด่นท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวขจี พื้นที่บริเวณนี้คือที่ตั้งของ สวนหินผางาม เมืองเลย ภายในมีเส้นทางเดินสลับซับซ้อน บางช่วงดูลึกลับตื่นเต้นคล้ายกับผจญภัยอยู่ในเขาวงกต บางช่วงต้องปีนป่ายเพิงหิน หรืออาจต้องมุดลอดโพรงถ้ำ นอกจากนี้ตลอดเส้นทางยังมีโอกาสพบเห็นต้นไม้หายาก และต้นไม้ยักษ์ อย่างปรงเขาที่มีอายุหลายร้อยปี สวนหินแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า "คุนหมิงเมืองเลย"
สันนิษฐานกันว่าในอดีตเคยเป็นพื้นของท้องทะเลมาก่อน และมีอายุมากว่า 225 ล้านปี ภายในมีทางเดินสลับซับซ้อน บางช่วงดูลึกลับน่าตื่นเต้นคล้ายกับผจญภัยอยู่ในเขาวงกต บางช่วงต้องปีนป่ายเพิงหิน หรืออาจต้องมุดลอดโพรงถ้ำ สวนหินผางาม ในบริเวณ มีสถานีบริการนักท่องเที่ยว ที่จอดรถ ห้องน้ำ ร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหารให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
|
อุทยานแห่งชาติภูกระดึงในช่วงเดือนตุลาคม ปลายฝน ต้นหนาว อากาศเย็นมากๆ
|
|
13.อุทยานแห่งชาติภูกระดึง (phu kradueng national park) |
|
13.อุทยานแห่งชาติภูกระดึง (phu kradueng national park) |
|
13.อุทยานแห่งชาติภูกระดึง (phu kradueng national park) |
|
13.อุทยานแห่งชาติภูกระดึง (phu kradueng national park) |
13.อุทยานแห่งชาติภูกระดึง (phu kradueng national park)
หากนึกถึงจังหวัดเลย ที่เที่ยวแรกๆทีนักท่องเที่ยวมักนึกถึง แน่นอนต้องยกให้ ภูกระดึง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทีหมายมั่นของคนที่ชอบเดินป่า มาพิชิตยอดเขาแห่งนี้สักครั้ง โดยอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอีกแห่งของเมืองไทย มีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ประกอบด้วยระบบนิเวศและภูมิประเทศหลากหลายทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ ป่าต้นเมเปิ้ล พันธุ์ไม้ดอกที่สวยงาม กุหลาบป่า เอื้องคำหิน น้ำตก และหน้าผาชมทิวทัศน์ ลักษณะเด่นของอุทยานฯ แห่งนี้คือ เป็นภูเขาหินทรายยอดตัด และที่ราบขนาดใหญ่คล้ายใบบอนหรือรูปหัวใจ มีความสูง 400-1,200 เมตร จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตร
และมนต์เสน่ห์อีกแห่งของการมาเที่ยวภูกระดึงคือ ต้องเดินขึ้นไปบนยอดเขา ซึ่งมีมีระยะทางร่วม 9 กิโลเมตร (ขึ้นเขา 5 กิโลเมตร ทางราบอีกประมาณ 3-4 กิโลเมตร) อุทยานฯ เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นภูกระดึง ตั้งแต่เวลา 07.00 – 14.00 น. และอุทยานฯ จะปิดเพื่อฟื้นฟูสภาพป่า ระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน ของทุกปี โดยตลอดระยะทาง
ทางขึ้นค่อนข้างชันแต่จะมีจุดแวะพักที่ “ซำ” หมายถึง บริเวณที่มีแหล่งน้ำใต้ดินผุดขึ้นมา แต่ละจุดมีเครื่องดื่มและอาหารบริการ นอกจากนี้ภายในอุทยานแห่งชาติภูกระดึงยังมีสถานที่น่าสนใจในเขตอุทยานฯ ได้แก่ ผาหล่มสัก ซึ่งเป็นผาที่มีชื่อเสียที่สุด นอกจากนี้ ผาหมากดูก ผาแดง ผาเหยียบเมฆ น้ำตกวังกวาง และที่เที่ยวอื่นๆน่าสนใจมากมาย โดยนักท่องเที่ยวที่ปักหมุดมาเที่ยวภูกระดึง นิยมวางแผนเที่ยว 3 วัน 2 คืน
สำหรับข้อมูลแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดเลย ที่ได้นำเสนอไว้ในบทความนี้ น่าจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆคุณผู้อ่านและคนที่กำลังวางแผนมาเที่ยวจังหวัดเลยในวันหยุดนี้ อยู่ไม่มากก็น้อยนะคะ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอบพระคุณที่เข้ามาคลิ๊กเปิดสไลด์อ่านกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้งในบทความถัดๆไปค่ะ...จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
----------------------------------------------
บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้จ้า
0 ความคิดเห็น