ต่อจากตอนที่ 1 บทความรีวิวเที่ยวประจำเดือนเมษายนนี้ จรลีหนีไปเที่ยวเมืองลพบุรี เดินยวลยีชมวังเก่า คลอเคล้าความหลังครั้งวันวาน |
หลังจากที่บล็อกก่อนหน้านี้ เดี๊ยนได้มาร่ายพรรณาเขียนบล็อกรีวิวเที่ยวเมืองสิงห์บุรีไปแล้วตามเว็ปไซต์ : https://goo.gl/eL6fHw มาบทความนี้ ก็ขอไม่รีรอพาเพื่อนๆมาเที่ยวกันต่อในเมืองลพบุรีค่ะ เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน ร้าวรานจับใจ งามวิไลไปด้วยโบราณสถานมากมาย ให้ได้ไปเดินพร่างพรายชื่นชมสุขสมอุรา ศึกษาเรียนรู้กัน โดยเฉพาะช่วงนี้กลิ่นควันหลงของละครดังยังปังอยู่ ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวไทย พากันหลั่งไหลมาเที่ยวถ่ายรูป ตามรอยแม่การะเกดกันอย่างต่อเนื่อง
ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวของดิฉันเอง ก็เป็นบ้าตามเค้าไปด้วย แต่มาเที่ยวลพบุรีรอบนี้ ถือว่ามาเที่ยวครั้งที่ 2 แล้วค่ะ หลังจากหลายปีก่อน แวะมาก็ไม่ได้ลั๊ลลาอะไรมากนัก เนื่องจากแวะมาทำธุระ ดังนั้นการมาเที่ยวรอบนี้ เลยขอสวมรอยเป็นนักท่องเที่ยวแบกเป้ เช่ามอเตอร์ไซต์เทห์ขับตะลอนไปไหว้พระทำบุญสุนทาน แวะทานอาหารง่ายๆ สบายเริ่ดเว่อร์เลยค่ะ
ส่วนเรื่องราวจะเป็นยังไงบ้างนั้น มาสไลด์ดูภาพกันเลยค๊า ภาพอาจะไม่สวยนะค่ะ เพราะเน้นภาพดิบไม่ตกแต่งอะไร ถ่ายไปงั้นๆแหละค่ะ เก็บภาพมาเพื่อจะเอามาลงในรีวิวโดยเฉพาะ เพื่อจะได้ไม่ให้เว็ปบล็อกนี้ร้างไปค่ะ
นอนพักค้างแรมเมื่อคืนนี้ที่ Noom guesthouse |
เช้าตรู่ของวันใหม่ในเมืองลพบุรี กับอากาศดีๆที่ฝนไม่ตกแน่นอนค่ะ
เมื่อคืนนี้พักค้างที่ Noom guesthouse ห้องพักราคาถูกสุดหลักร้อย ห้องพัดลมและห้องน้ำรวม ถือว่าโอเคนะค่ะ ง่ายๆดีๆ
น้องหมาที่โรงแรมดูมีอาการตาเมาๆ หรือเมื่อคืนดื่มเล้าหนักไปจ๊ะลูก |
และฝากกระเป๋าไว้กับที่พักค่ะและให้น้องหมาที่ guesthouse ช่วยเฝ้าให้ด้วยนะ ดูน่ารักมาก ไม่เห่าด้วยแฮ่ะ ให้จับหับ ให้ลูบหมด แต่ดูทรงๆน้องหมาแล้ว สลึมสะลือ เป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า หรือไปกินเล้าเมาเมื่อคืนนี้ แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะสร่างค่ะ
ส่วนสภาพอากาศวันนี้ก็ดีนะค่ะ ยังไม่ร้อนนัก แต่ช่วงสายๆไป น่าจะร้อนอบอ้าว จนร้าวระบมไม่น้อยเลย แต่ก็ยังครีมกันแดด และร่มมาด้วย เผื่อว่าฝนจะตกช่วงบ่ายๆ
แวะมาตะเลิดเปิดเปิง บันเทิงเริงใจ หาของกินสุดไฉไลที่ตลาดเทศบาลในตัวเมือง เผื่อจะได้ชำเลืองพบของถูกใจ |
เช้านี้ แวะเดินจรีลีมาลิ้มลองอาหารรสชาติดีๆที่ตลาดเทศบาลเมืองลพบุรี |
ขนมข้าวเกรียบปากหม้อ สีสันสวยอ้อล้อจับใจ |
เห็นแม่ค้ากำลังขมักเขม้นทำแบบสดร้อนๆค่ะ
ป้าขายพวงมาลัยดอกไม้สด งามหยดย้อยทุกพวงเลย หรือจะซื้ออบเชย เอาไปนั่งรำเพยด้วยก็ไม่ว่ากัน |
ส่วนการจราจรตอนเช้าก็คึกคัก รถราสัญจรไปมา แต่ไม่แน่นหนาเท่ากรุงเทพ จะไปเดินเสพความสุข สนุนครืนเครงได้สบายใจเฉิบเลย
ข้าวเหนียวร้อนๆ ทานกับหมูย่างๆหรือหมูทอด อร่อยสุดยอดไปเลยจ้า |
หรือว่าจะทานขนมเข่งจากแป้งข้าวเหนียว ก็อร่อยเสียวใส้ไม่น้อย เพราะใส่กระทงเล็กๆกระจ๊อยล๊อย น่าทานไม่น้อยเชียว
สามล้อถีบในเมืองลพบุรี เสน่ห์กิ๊บเก๋ดูดี ยังมีให้เห็นในเมืองนี้นะค่ะ |
เช่ามอเตอร์ไซต์ขับมาร่วมบริจาคเงินที่สถานสงเคราะห์คนชราบ้านลพบุรีค่ะ |
เดี๊ยนก็กลับมายังที่พัก เพื่อขับมอเตอร์ไซต์ที่เช่ามาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ขับไปยังสถานสงเคราะห์คนชราในจังหวัดลพบุรี ซึ่งอยู่แถวเมืองใหม่ลพบุรี ระยะทางน่าจะประมาณสัก 6-7 กิโลเมตรจากย่านสถานีรถไฟค่ะ
ปัจจุบันที่สถานสงเคราะห์คนชราบ้านลพบุรี มีจำนวนทั้งหมด 110 คน |
ชาย 39 คน และหญิง 71 คน
หากใครที่แวะเวียนมาเที่ยวลพบุรี นอกจากจะแวะทำบุญที่วัดแล้ว ก็อย่าลืมมาเติมกุศลด้วยการมาบริจาคสิ่งของที่จำเป็นที่สถานสงเคราะห์คนชราได้นะค่ะ
เริ่มต้นเที่ยววันนี้แวะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ่ายค่าธรรมเนียมเข้าชม 10 บาทเท่านั้น แล้วไปสุขสันต์กันเลย |
ก็ได้กฤกษ์งามยามดี จรลีเดินเที่ยวชมเมืองลพบุรีแล้วค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวแรกของทริปเที่ยวลพบุรีนี้ เริ่มต้นที่ วัดมหาธาตุ
โบราณสถานสำคัญอีกแห่งในเมืองลพบุรี อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟพอดีเลย
ค่าธรรมเนียมเข้าชม 10 บาท
เปิดทุกๆวันให้เข้าไปเดินชมโบราณสถานค่ะ
ศาลาเปลื้องเครื่อง |
ทำให้ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก
โดยส่วนแรกนับจากทางเข้า ศาลาเปลื้องเครื่องนี้ใช้เป็นที่สำหรับพระเจ้าแผ่นดินเปลื้อง เครื่องทรงก่อนที่จะเข้าพิธีทางศาสนาในพระวิหารหรือพระอุโบสถ ปัจจุบันศาลาเปลื้องเครื่องคงเหลือเพียงเสาเอนอยู่เท่านั้น ส่วนอื่นปรักหักพังไปหมดแล้ว
วิหารขนาดใหญ่ |
สาระน่ารู้เกี่ยวกับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ มาอ่านกันดูเป็นความรู้ค่ะ
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เป็นวัดร้างขนาดใหญ่ มีพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ ลักษณะแผนผังของวัด มีปรางค์องค์ใหญ่เป็นประธาน ตั้งอยู่กึงกลางของวัด มีอาคารและเจดีย์ล้อมรอบ จากรูปแบบสถาปัตยกรรมและประติมากรรมที่ปรากฎในวัดสันนิษฐานไว้ว่า วัดนี้มีการสร้างและบูรณะปฎิสังขรณ์กันเรื่อยมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 18-19 ในสมัยก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยา ประมาณ 100 ปี และปรากฎหลักฐานว่า สมเด็จพระมหาจักรพรรดิได้ทรงปฎิสังขรณ์วัดนี้ครั้งหนึ่ง ต่อมา สมเด็จพระนาราย์มหาราชมหาราช โปรดฯให้สร้างเจดีย์ระเบียงคตและวิหารพร้อมกับปฎิสังขรณ์อีกครั้งหนึ่ง และสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้ทรงปฎิสังขรณ์อีกครั้งด้วย
ปรางค์ประธานที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ |
โดยอยู่ทางทิศตะวันตกของวิหารหลวงเป็นพระปรางค์องค์ใหญ่ที่สูงที่สุดในลพบุรี สร้างเป็นพุทธเจดีย์ องค์ปรางค์ก่อด้วยศิลาแลงโบกปูน มีเครื่องประดับลวดลายเป็นพระพุทธรูปและพุทธประวัติ ที่ลายปูนปั้นหน้าบันพระปรางค์แสดงถึงอิทธิพลของพุทธศาสนา นิกายมหายาน และซุ้มโคปุระของปรางค์องค์ใหญ่เป็นศิลปะละโว้ มีลายปูนปั้นที่ถือว่างามมาก เดิมคงจะสร้างในสมัยขอมเรืองอำนาจ แต่ได้รับการซ่อมแซมในสมัยสมเด็จพระราเมศวร สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ และ สมเด็จพระนารายณ์ ลวดลายจึงปะปนกันหลายสมัย ปรางค์องค์นี้เดิมบรรจุพระพุทธรูปไว้เป็นจำนวนมาก ที่ขึ้นชื่อคือ พระเครื่องสมัยลพบุรี เช่น พระหูยาน พระร่วง ซึ่งมีการขุดพบเป็นจำนวนมาก อีกสิ่งหนึ่งที่สมควรจะกล่าวถึงคือปรางค์รายทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือที่มุมกลีบมะเฟืองทุกมุมปั้นเป็นรูป เทพพนมหันออกรอบทิศ พระพักตร์เป็นสี่เหลี่ยม พระขนงต่อกัน ลักษณะเป็นศิลปะแบบอู่ทอง ชฎาเป็นทรงสามเหลี่ยมมีรัศมีออกไปโดยรอบ เป็นศิลปะที่มีความงามแปลกตาหาดูได้ยากในเมืองไทย
วัดมหาธาตุ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนพุทธาวาส และสังฆาวาส ซึ่งส่วนหลังนี้ถูกบุกรุกไปหมดแล้วคงเหลือพื้นที่ส่วนพุทธาวาส มีพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ มีถนนตัดรอบวัด ไม่ได้เข้าไปชมวิ่งรถวนชมรอบ ๆ วัดก็ได้เมื่อผ่านประตูเข้าไปจะเห็น ดังนี้ พระอุโบสถ มีขนาดใหญ่โตมากและเหลือแต่ผนังทั้ง 4 ด้าน แต่ก็ไม่สมบูรร์นักกับกองพระพุทธรูปที่หัก ๆ ทางซ้ายของพระอุโบสถมี "ศาลาเปลื้องเครื่อง" ซึ่งสันนิษฐานว่า คงสร้างขึ้นภายหลัง เชื่อว่าเมื่อสมเด็จพระนารายณ์ ฯ จะมาประกอบพิธีทางศาสนาคงจะต้องมาเปลื้องเครื่องทรงที่ศาลาหลังนี้ศาลาเปลื้องเครื่อง อยู่ติดกับวิหารเล็ก ๆ แต่ปิดประตูใส่กุญแจไว้ มีพระพุทธไสยาสน์ประทับอยู่มองเห็น
และด้านหลังพระอุโบสถคือ พระปรางค์ซึ่งพระปรางค์เป็นพระปรางค์องค์เดียวโดด ๆ ไม่ใช่เรียงกันสามองค์เช่น พระปรางค์สามยอดแต่เชื่อว่าสร้างในรุ่นเดียวกัน คือ ระหว่าง พ.ศ. 1500 - 1800 บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและได้ชื่อว่ามีลวดลายปูนปั้นงามเป็นเลิศ แต่น่าเสียดายในการบูรณะ ทำให้เสียหายไปไม่ใช่น้อยแต่ยังพอหลงเหลือให้ชมความงามคือทางซ้ายหรือทางใต้ของพระปรางค์ เงยหน้ามองสูงสักหน่อย ที่หน้าบันจะเห็นภาพพระอมิตาประทับบนดอกบัวมีก้านในสวรรค์สุขาวดี ตามคติพุทธมหายาน
เครดิตข้อมูลดีๆจาก เว็ปไซต์ https://th.wikipedia.org/wiki/วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ_ลพบุรี
และที่ด้านหน้าวัด ยังมีดอกลั่นทม กำลังตรอมตรมอยู่บนพื้นดิน ให้ได้ฟินถ่ายรูปกันอีกด้วยค่ะ ส่วนดอกที่อยู่บนต้นก็สุขสมเป็นพวงชะอมชมชื่นให้รื่นรมย์ฤทัย ขาวสะอาดผ่องใสและไฉไลผ่องศรีไปด้วยกลิ่นหอมหวนชวนฤดียิ่งนักแล
และหลังจากที่ไดัเดินชมวัดมหาธาตุแล้ว ไม่ไกลนัก เดินคึกคักเต้นมาเรื่อยๆ ก็มาเมื่อยต่อที่สถานสำคัญอันโดดเด่นที่สุดในจังหวัดลพบุรี นั้นก็คือ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ หรือคนในพื้นที่แห่งนี้เรียกว่า วังนารายณ์
เดินเข้ามาเขตโบราณ ก็ต้องหง่อยเหงาเล็กน้อย
พอดีว่าวันที่ดิฉันมาเที่ยวนี้ เป็นวันจันทร์ค่ะ
เนื่องจากวันจันทร์ อังคารพิพิธภัณฑ์ปิดนะค่ะ
แต่ว่าโบราณสถานทางเจ้าหน้าที่บอกว่า เข้าชมได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสมเด็จพระนารยณ์ ลพบุรี
พระนารายณ์ราชนิเวศน์ เป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2209 บนพื้นที่ 41 ไร่ ณ เมืองลพบุรี เพื่อใช้เป็นที่ประทับ ล่าสัตว์ ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมือง พระองค์ทรงประทับ ณ พระราชวัง8-9 เดือนในช่วงปลายรัชกาลและเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งสุทธาสวรรค์ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2231ภายหลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระนารายณ์ราชนิเวศน์ถูกทิ้งร้าง จนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดให้บูรณะพระราชวังของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
และสร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2399 และพระราชทานนามว่า '"พระนารายณ์ราชนิเวศน์ และรัฐบาลใช้เป็นศาลากลางจังหวัด และต่อมา สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ และสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้นที่พระที่นั่งจันทรพิศาลในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2467 เรียกว่า ลพบุรีพิพิธภัณฑสถาน และในปี พ.ศ. 2504 จึงได้ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ ปัจจุบันได้จัดแสดงศิลปโบราณวัตถุตามอาคารและพระที่นั่งต่างๆ ภายในพิพิธภัณฑ์เป็นจำนวนกว่า 1,864 รายการ
เครดิตข้อมูลดีๆ จาก https://th.wikipedia.org/wiki/พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ_สมเด็จพระนารายณ์
ประตูทางเข้าวัง |
หมู่ตึกสิบสองท้องพระคลัง |
ตึกเจ้าเวหา |
ด้านในตึกเจ้าเวหา |
เดินผ่านประตูเข้ามาก็จะเป็นพระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท
ภายในท้องพระโรงพระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท
สาระน่ารู้เกี่ยวกับพระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท มาอ่านกันดูเป็นความรู้ค่ะ
พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาทสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อปี พ.ศ. 2209 เป็นพระที่นั่งท้องพระโรงสำหรับเสด็จออกรับคณะราชทูตในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มียอดแหลมทรงมณฑป ศิลปกรรมแบบไทยผสมผสานกับฝรั่งเศส ประตูและหน้าต่างท้องพระโรงด้านหน้าทำเป็นรูปโค้งแหลมแบบฝรั่งเศส ส่วนตัวมณฑปด้านหลังทำประตูหน้าและหน้าต่างเป็นซุ้มเรือนแก้วฐานสิงห์แบบไทย ตรงกลางท้องพระโรงมีสีหบัญชร เป็นที่เสด็จออกเพื่อมีปฏิสันถารกับผู้เข้าเฝ้าในท้องพระโรงตอนหน้า
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช |
เครดิตข้อมูลดีๆจากเว็ปไซต์ https://th.wikipedia.org/wiki/พระนารายณ์ราชนิเวศน์
หมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฏ |
หมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎ ประกอบไปด้วยอาคารทั้งหมด4หลังโดยด้านหน้าสูง2ชั้นด้านหลังมีความสูง3ชั้นส่วนหน้าตรงกลางเป็นบันไดขนาดใหญ่ขนาบด้วยมุขซึ่งยื่นออกมาทั้งด้านซ้ายและด้านขวาหลังคาเป็นโครงสร้างไม้ทรงปั้นหยายกจั่วสูงชายคาสั้นกุดมุงด้วยกระเบื้องกาบกล้วยทับแนวด้วยปูนปั้นแบบจีนผนังเจาะช่องหน้าต่างระหว่างเสาและมีทุกชั้น
อาคารหมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฏ |
พระที่นั่งพิมานมงกุฎ ตั้งอยู่ด้านหลังสุดเป็นพระที่นั่ง3ชั้นมีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสสามารถเข้าออกทางบันไดด้านนอกอาคารที่อยู่ด้านหน้าและด้านหลังโดยไม่ต้องผ่านบันไดใหญ่ด้านหน้าและท้องพระโรงห้องบนสุดเป็นห้องพระบรรทมชั้น2เป็นห้องเสวยหน้าบันเป็นรูปพระราชลัญจกรณ์ประจำรัชกาลที่4รูปพระมหาพิชัยมงกุฎวางบนพาน
มีชุดไทยให้เช่าเพื่อใส่มาเดินถ่ายรูปอีกด้วยค่ะ หากใครที่ชอบถ่ายรูป แต่ไม่สะดวกแต่งมาจากบ้าน ก็มาเช่าที่นี่ได้ค่ะนอกจากนี้ในวันที่ดิฉันไปเที่ยว ก็มีการจัดงาน รฎกนารายณ์มหาราช ย้อนอรุณรุ่งแห่งดาราศาสตร์ 330 ปีอีกด้วยค่ะ
หากมาเที่ยวลพบุรี คงหนีไม่พ้นที่จะต้องเจอลิงมากมาย ไต่ราวอยู่บนสายไฟ เดินตะไลไปบนตึกรางบ้านช่องและร้านค้าตึกแถวแห่งนี้ ยังไงแล้ว ใครที่หิ้วถือของอยู่ ระวังให้ดีๆนะค่ะ เดียวน้องลิงจะไปวิงราวสาวจากมือท่านไปค่ะ
ลิงตัวเล็กกะจิ๊ดลิ๊ดแสนซนสุดๆในเมืองลพบุรี |
และหลังจากที่ดิฉันได้เดินชมวังนาราย์แล้ว ก็เดินมาเที่ยวต่อที่บ้านวิชาเยนทร์ อีกหนึ่งบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ในยุคสมเด็จพระนารายณ์
บ้านวิชาเยนทร์ หรือ บ้านหลวงรับราชทูต |
บ้านหลวงรับราชทูตแบ่งได้ 3 ส่วน ด้านตะวันออกเป็นบ้านพักของคณะทูตชาวฝรั่งเศส ส่วนด้านตะวันตกเป็นบ้านพักของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ขุนนางชาวกรีก และท้าวทองกีบม้า ภรรยา ส่วนกลางเป็นที่ตั้งของโบสถ์ของคริสต์ศาสนาที่สถาปัตยกรรมเป็นแบบ Renaissence ผสมสถาปัตยกรรมไทย แห่งแรกของไทย และของโลกเครดิตข้อมูลดีๆจากเว็ปไซต์ : https://th.wikipedia.org/wiki/บ้านวิชาเยนทร์
ห้องอาหาร มีชั้นใต้ดินเก็บไว้ |
เป็นอาคารทรงจั่ว ลักษณะใช้พื้นที่ชั้นบนเพื่อต้อนรับแขกและพื้นที่ชั้นล่างเพื่อเก็บของที่มีน้ำหนักมาก เราอาจตั้งข้อสังเกตว่าอาคารเหล่านี้ถูกสร้างต่อเติมขึ้นมา ภายหลังจากที่ฟอลคอนได้เข้ามาอาศัยในบ้านหลังใหญ่นี้แล้ว โดยอาจสร้างขึ้นเป็นที่เลี้ยงต้อนรับและรับประทานอาหาร เครื่องดื่มไวน์แก่แขกผู้มาเยือน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ชาวต่างชาติมีโอกาสมาเยือนบ้านฟอลคอน ต่างบันทึีกไว้เสมอ
ฟอลคอน หรือชื่อเต็ม คอนสแตนติน ฟอลคอน |
ฟอลคอน หรือชื่อเต็ม คอนสแตนติน ฟอลคอน
จากนักเดินทางทะเลแห่งบริษัทอิสต์อินเดีย มาสู่การเป็นเสนาบดีที่ปรึกษาคนสนิทที่สุดของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
จากประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า
เพียง 1 ปีหลังจากคณะราชทูตกลับจากฝรั่งเศส ก็เกิดเหตุการณ์ปฎิวัติที่นำโดยพระเพทราชา ฟอลคอนถูกจับกุม บ้านของเขาถูกรื้อค้น จนถึงขั้นทำลายด้านหน้าอาคารพีระมิดด้านหน้าของหอพระ และสุดท้ายก็ถูกประหารชีวิต
(บล็องก์ 2552,168) ดังที่แกมเฟอร์ ( Engelbert Kaempfer) บันทึกว่า ฟอลคอนนั้นต้องทนทรมาน และอดอาหารมา 14 วัน จนเกือบจะเหลือแต่โครงอยู่แล้ว ในที่สุดก็ถูกปลดโซ่ตรวนคุมตัวไปยามพลบค่ำ ที่แรกไปถึงคือบ้านของตนเอง ซึ่งปรากฎว่าถูกรื้อค้นไว้อย่างยุ่งเหยิ่ง ภรรยาถูกจับขังไว้ในโรงม้า และเมื่อพบหน้าสามีเข้า แทนที่จะร่ำลาไว้อาลัย กลับถ่มน้ำลายรดหน้า ซึ่งไม่ทรมานใจเขาเท่ากับการก้มลงจุมพิตบุตรชายอายุ 4 ขวบ ซึ่งเหลืออยู่เพียงคนเดียว ลูกชายอีกคนหนึ่งเล่า ก็เพิ่งตายยังไม่ได้ทำศพ และจากที่นั้นเขาถูกนำตัวไปนอกเมืองและเข้าสู่แดนประหาร (แกมเฟอร์ 2508)
และเมื่อสมเด็จพระนารายณ์สวรรคต สมเด็จพระเพทราชาก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ โดยพระองค์มีรับสั่งให้ยกทัพกลับกรุงศรีอยุธยาในทันที หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นบ้านวิชาเยนทร์และบ้านหลวงรับราชทูตก็ถูกทิ้งร้าง สิ้นสุดบทบาทหน้าที่ไปพร้อมกับชีวิตอันมีสีสันของฟอลคอนในที่สุด
ขอบพระคุณข้อมูลจากป้ายบอร์ด กรมศิลปากร
หลังจากที่ดิฉันได้เดินชมโบราณสถานที่บ้านวิชาเยนทร์แล้ว ก็เดินเท้าต่อไปยังพระปรางค์สามยอด ระหว่างทางก็พอเทวสถานเจดีย์วัดแขกด้วยค่ะ
ศาลพระกาฬ |
สาระน่ารู้เกี่ยวกับศาลพระกาฬ
ศาลพระกาฬ หรือเดิมเรียกว่า ศาลสูง เป็นโบราณสถานและศาสนสถานที่ตั้งอยู่กลางวงเวียนชื่อ วงเวียนศรีสุนทร บนถนนนารายณ์มหาราช ในเขตตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของพระปรางค์สามยอด และเส้นทางรถไฟสายเหนือ ภายในเป็นที่ประดิษฐาน เจ้าพ่อพระกาฬ เทวรูปโบราณยุคขอมเรืองอำนาจ
ภายในศาลพระกาฬ มีผู้คนแวะเวียนมาสักการะกันอย่างไม่ขาดสาย |
พระปรางค์สามยอด ถือเป็นแลนด์มาคสำคัญของเมืองลพบุรี ที่ใครแวะมาที่นี้ก็ต้องฉิมพลีถ่ายรูปกันแทบทุกคน |
ใหนๆแวะมาทั้งทีเลยเข้ามาชมด้านในหน่อนค่ะ โดยเสียค่าธรรมเนียเข้าชมพระปรางค์ 10 บาทค่ะ
เข้ามาด้านในพระปรางค์สามยอด สิ่งที่อยู่คู่พระปรางค์แห่งนี้ก็คงเป็นลิงศาลพระกาฬ ที่อาศัยหลับพักผ่อนอยู่ในพระปรางค์แห่งนี้มาช้านาน มีมากมายหลายตัว เดินระรัว ไต่ราวไปหมด ทั้งตัวใหญ่ตัวเล็ก ดูน่ารักดี แต่บางครั้งก็ต้องระวังตัวเหมือนกัน เพราะมันซนมากๆเลย
พระปรางค์สามยอด ถือเป็นแลนด์มาคสำคัญของเมืองลพบุรี ที่ใครแวะมาที่นี้ก็ต้องฉิมพลีถ่ายรูปกันแทบทุกคน |
ลิงศาลพระกาฬ |
โดยลิงศาล หรือ ลิงเจ้าพ่อ เป็นลิงฝูงใหญ่อาศัยบริเวณโดยรอบศาลพระกาฬช่วงเที่ยง และอาศัยที่พระปรางค์สามยอดและบางส่วนของโรงเรียนพิบูลวิทยาลัยช่วงเช้าและเย็น เมื่อพลบค่ำพวกมันจะกลับมานอนที่ศาลพระกาฬ กลุ่มนี้มีความเป็นอยู่ค่อนข้างดี มักได้รับของเซ่นไหว้จากผู้ศรัทธาเสมอ ซึ่ง ลิงศาล อาจแบ่งย่อยได้อีกสามกลุ่มคือ กลุ่มศาลพระกาฬ, กลุ่มพระปรางค์สามยอด และกลุ่มโรงเรียนพิบูลวิทยาลัย
เครดิตข้อมูลดีๆจากเว็ปไซต์ : https://th.wikipedia.org/wiki/ศาลพระกาฬ_(จังหวัดลพบุรี)
และหลังจากที่ได้ไปเดินชมพระปรางค์สามยอดเรียบร้อยแล้วนะค่ะ
ดิฉันก็ขับมอเตอร์ไซต์ออกจากเมืองลพบุรี มาที่วัดพระพุทธบาท ระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุพอสมควรค่ะ
เพื่อมากราบสักการะพระพุทธบาทที่วัดแห่งนี้สักครั้ง เพราะยังไม่เคยมาเลยค่ะ เคยได้ยินแต่ชื่อเสียงนาม ใหนๆแวะมาเที่ยวลพบุรีแล้ว ก็แวะมาที่วัดนี้ด้วยเลย เนื่องจากระยะทางจากลพบุรีมาที่วัดพระพุทธบาท ไม่ไกลมากนัก แต่ถ้าขับรถจากเมืองสระบุรีมาที่วัดนี้ ค่อนข้างไกลพอสมควรค่ะ
ขับรถมอเตอร์ไซต์มาไม่นานนักก็ถึงวัดพระพุทธบาทแล้วค่ะ
วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร |
สาระน่ารู้เกี่ยวกับวัดพระพุทธบาท
พระมณฑปเ |
พระมณฑปเป็นอาคารที่สร้างครอบรอยพระพุทธบาท
มีลักษณะเป็นอาคารสี่เหลี่ยมจตุรัส
ประกอบด้วยหลังคาเครื่องยอดทรงปราสาทยอดเดี่ยว ผนังก่ออิฐปูนทั้งสี่ด้าน
รูปร่างคล้ายบุษบก
รอยพระพุทธบาท |
บรรยากาศโดยรอบวัด ก็ประดับประดาไปด้วยม่านฟ้าและดอกไม้สีสันงามตา ช่ะช่ะช่าหัวใจยิ่งนัก
โดยด้านในพระมณฑป สามารถให้พุทธศาสนิกชน เข้าไปกราบสักการะและทำการปิดทององค์พระพุทธบาทได้อีกด้วยค่ะ
นำรถมอเตอร์ไซต์ที่เช่าไปคืน จากนั้นก็เดินไปตีตั๋วที่ท่ารถตู้ เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพค่ะ |
สำหรับค่าโดยสารรถตู้ไปยังกรุงเทพอยู่ที่ 120 บาทค่ะ แพงว่าตอนขามาค่ะ แต่ตอนขามานั้นจ่ายแค่ 100 บาท น่าจะคนละบริษัทกันราคาเลยต่างกันค่ะ จริงยังไม่อยากกลับเลยนะคะ่ ว่าจะไปเช่ารถมอเตอร์ไซต์ต่อเพื่อขับไปยังอ่างเก็บน้ำซับเหล็กค่ะ เนื่องจากตอนเย็นต้องรีบไปส่งสินค้าให้ลูกค้าต่อค่ะ ยังไงไว้โอกาสหน้าล่ะกัน
สรุปค่าใช้จ่ายทริปเที่ยวลพบุรีในวันนี้
ค่าอาหารมื้อเช้า 60 บาท
ค่าธรรมเนียมเข้าชมโบราณสถาน 20 บาท
ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซต์ 100 บาท (เนื่องจากขับเกินเวลาไป 1 ชั่วโมง ก็เลยจ่ายเพิ่มอีก 100 บาทค่ะ)
ค่าอาหารมื้อเที่ยง 45 บาท
ค่ารถตู้กลับกรุงเทพ 120 บาท
รวม 345 บาท และรวมกับทริปรีวิวเที่ยวสิงห์บุรีเมื่อวานนี้อีก 1030 บาท
ทั้งหมดรวมเป็น 1,375 บาทค่ะ
(ไม่รวมค่าทำบุญสุนทานตามสถานสงเคราะห์และวัดวาอารามนะค่ะ)
สำหรับทริปรีวิวเที่ยวลพบุรีในบทความนี้ ดิฉันก็ขอจบเพียงเท่านี้นะค่ะ ขอบพระคุณเพื่อนๆและคุณผู้อ่านทุกๆคนที่มาสุขล้น สไลด์ดูภาพดิบๆกันๆ หวังว่าข้อมูลในรีวิวน่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันเองต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ หวังว่าะจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะค่ะ
--------------------------------------------------------------------
รวมบทความบล็อกเที่ยวเดือนละ 1 ครั้ง มีดังนี้ค่ะ(จะทยอยอัพเดทเรื่อยๆ เว็ปบล็อกจะได้ไม่ร้างไปค่ะ)
อย่าลืมมา 5 สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสิงห์บุรี คลิ๊กดูที่พักเที่ยวค่ะ>> |
รีวิวตอนที่ 18 แบกเป้ลุยเดี่ยวเมืองเวนิชครั้งแรก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : http://bit.ly/2KQvnsh
รีิวิวเที่ยวประจำเดือน เม.ย.นี้ แวะไปเที่ยวสิงห์บุรีมาค่ะ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/eL6fHw
รีวิวท่องเที่ยวประจำเดือน เม.ย.2018 ล่องเรือไหว้แม่น้ำเจ้าพระยา คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/HrLddq
รีิวิวเที่ยวฝรั่งเศสตอนที่ 2 เดินย่องท่องวังแวร์ซาย คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/N6BGg2
รีิวิวเที่ยวประจำเดือน พ.ค.2018 แบกเป้เที่ยวฝรั่งเศส คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/eoJBtM
วิธีวางแผนเดินทางตามรถไฟสายยุโรปด้วยตัวเองแบบง่ายๆ คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
หรือเข้าไปดูเนื้อหาบทความได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/4nwkke
จัดมารีวิวเที่ยวสัตหีบ 2 วัน 1 คืน เดือน มี.ค.61 ไปที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ> |
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/YV4FbW
รวมเด็ด 7 โบราณสถานเด็ดเมืองอยุธยา มีที่ใหนบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
จัดมารวมประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการโรงแรม คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
หรือดูเนื้อหาบทความได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/uBCnFK
วิธีการกรอกข้อมูลใบสมัครเพื่อทำนัดขอวีซ่าฝรั่งเศส คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
หรือดูรายละเอียดขั้นตอนได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/bmozLd
วิธีการจองตั๋วเครื่องบินเพื่อทำวีซ่าแบบไม่เสียสตัง คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/nog7ED
อยากรู้จังว่า งานคร่ำคืออะไร คลิ๊กอ่านเป็นความรู้ค่ะ>> |
หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/rc2LbD
การเขียนจดหมายแนะนำตัวภาษาอังกฤษเพื่อทำวีซ่า คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/YHUCtA
หากเป็น Freelance ขอวีซ่าเชงเก้นต้องเตรียมเอกสารไปบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
หรือดูรายละเอียดที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/sYCgPF
รวมมาประโยคภาษาอังกฤษง่ายๆใช้เดินทางทั่วโลก คลิ๊กดูรายละเอียดค่ะ>> |
หรือดูบทความได้ที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/cN2kwu
รีวิวเที่ยวงานอุ่นไอรักคลายความหนาว สวยสกาวน่ารัก คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/sB8ccW
รีวิวเที่ยวกาฬสินธุ์ ฟินคั๊กหลายๆ ก.พ.2018 ตอนที่ 2 คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/CSYvaB
รีวิวเที่ยวร้อยเอ็ด งามเด็ดอีหลีเด้อ ก.พ.2018 ตอนที่ 1 คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
หรือดูบทความรีวิวที่เว็ปไซต์ : https://goo.gl/igFAoe
แบกเป้คนเดียวเที่ยวฮ่องกงแบบงงๆ ม.ค.2018 ตอนที่ 2 คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวมาเก๊า นั่งเรือเมาไปถึงเกาะฮ่องกง คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวประจำเดือน ธ.ค.2017 เที่ยวเกาะกูด สวยชะลูดบาดใจ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวประจำเดือนธันวาคม 2017 เที่ยวเมืองตราด-เกาะกูด ตอนที่ 1 คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวประจำเดือนพฤศจิกายน แบกเป้ไปย่อง ท่องเมืองปาย ตอนที่ 3 คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
รีวิวเที่ยวปางอุ๋ง-บ้านรักไทย งามวิไลไร่ชา เดินลั๊นลากินสตอเบอรี่ คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
บล็อกรีวิวเที่ยวประจำเดือนพฤศจิกายน แบกเป้ไปเยือนแม่ฮ่องสอน คลิ๊กดูรีวิวค่ะ>> |
2 ความคิดเห็น
เช่ามอไซต์แถวไหนเหรอคะราคาประมาณเท่าไหร่
ตอบลบดิฉันเช่ารถที่ NooM Guesthouse & Restaurant อยู่ใกล้ๆกับวังนารายณ์และสถานีรถไฟ ค่าเช่าวันละ 300 บาทค่ะ
ลบ